ฟิลเลอร์สลายเร็ว

ฟิลเลอร์สลายเร็ว ฉีดแล้วอยู่ได้ไม่นาน สาเหตุเกิดจากอะไร ? บทความนี้หมอจะมาคลายข้อสงสัย พร้อมบอกวิธีสังเกต filler สลายเร็ว และวิธีป้องกัน เพื่อคงผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นานครับ

สารบัญ ฟิลเลอร์สลายเร็ว

1. ฟิลเลอร์สลายเร็ว คืออะไร ?
2. ฟิลเลอร์สลายเร็ว มีวิธีสังเกตอย่างไร ?
3. ฟิลเลอร์สลายเร็ว เกิดจากสาเหตุอะไร ?
   • แพทย์ขาดเทคนิคและประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์
   • เลือกยี่ห้อฟิลเลอร์/รุ่นฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับสภาพปัญหา
   • ใช้ปริมาณฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับผิวบริเวณที่ฉีด
   • ฟิลเลอร์ถูกความร้อนโดยตรงเป็นเวลานาน
   • ละเลยการดูแลตัวเองตามข้อห้าม-ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์
4. ฟิลเลอร์สลายเร็ว มีวิธีป้องกันไหม ?

---

ฟิลเลอร์สลายเร็ว คืออะไร ?

ฟิลเลอร์สลายเร็ว คือ  การที่ฟิลเลอร์สลายเร็วกว่าอายุจริง โดยฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น จะมีระยะเวลาอยู่ได้นานต่างกัน และยังขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดด้วยครับ เช่น ตำแหน่งที่มีการขยับบ่อย ๆ หรือตำแหน่งที่โดนความร้อนบ่อย ๆ ก็อาจทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วไวกว่าที่กำหนดไว้ แต่จะไม่สามารถบอกได้ตายตัวครับว่ากี่เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ รุ่นฟิลเลอร์นั้น ๆ รวมถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ก็มีส่วนสำคัญ

ยกตัวอย่าง ฉีดฟิลเลอร์ปาก โดยปกติจะอยู่ได้นานตั้งแต่ 6-18 เดือน แต่ถ้าคนไข้ชอบรับประทานอาหารร้อน ๆ เช่น โจ๊ก ก๋วยเตี๋ยว หรือปิ้งย่าง ชาบูเป็นประจำ ก็อาจทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วได้

หมอจึงแนะนำให้เลี่ยงอาหารร้อน ๆ ก่อนครับในช่วง 14 วัน (2 อาทิตย์) หลังฉีดฟิลเลอร์ เพราะจะส่งผลต่อการเข้าที่ของฟิลเลอร์ filler สลายเร็ว หรืออาจเกิดผลข้างเคียง เช่น อาการบวม หรืออักเสบ แต่ถ้าทำไม่ได้ ควรงดอย่างน้อย 3 วัน เพื่อให้เวลาฟิลเลอร์ได้เซ็ตตัว

---

ฟิลเลอร์สลายเร็ว มีวิธีสังเกตอย่างไร ?

จะรู้ได้อย่างไรว่าฟิลเลอร์สลายเร็ว ก่อนอื่นคนไข้ต้องเข้าใจก่อนครับว่าฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มที่สลายได้เองตามธรรมชาติ ผลลัพธ์จะไม่อยู่ถาวร แต่มีความคงตัวอยู่ได้นานตามระยะเวลาของฟิลเลอร์ยี่ห้อนั้น ๆ รุ่นนั้น ๆ แต่ในกรณีที่ฟิลเลอร์สลายเร็วกว่ากำหนด วิธีสังเกตที่ง่ายที่สุด คือ  

• ผิวบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์จะคืนสภาพเดิม   

สำหรับใครที่กำลังกังวลว่าหลังจาก filler สลายไปแล้ว จะทำให้ผิวเหี่ยวมากกว่าเดิม อันนี้ไม่เป็นความจริงครับ ถ้าฉีดฟิลเลอร์แท้กับแพทย์ที่มีประสบการณ์ แม้ว่าฟิลเลอร์จะสลายไปแล้ว แต่ผิวที่คืนสภาพเดิมจะดีกว่าเดิมครับ เพราะฟิลเลอร์ทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดและรอบ ๆ มีความชุ่มชื้น มีน้ำมาหล่อเลี้ยงมากขึ้น คอลลาเจนและอิลาสตินบริเวณนั้นที่ถูกสร้างใหม่จะยังคงอยู่ สภาพผิวจึงดีกว่าตอนที่ยังไม่ได้ฉีดฟิลเลอร์

---

ฟิลเลอร์สลายเร็ว เกิดจากสาเหตุอะไร ?

สาเหตุที่ทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็ว เกิดได้ทั้งจากการฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ขาดเทคนิคและประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ เลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ รุ่นฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับสภาพปัญหา ใช้ปริมาณฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับผิวบริเวณที่ฉีด ฟิลเลอร์ถูกความร้อนโดยตรงเป็นเวลานาน รวมทั้งละเลยการดูแลตัวเองตามข้อห้าม-ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ ก็ทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วได้เช่นกัน     

แพทย์ขาดเทคนิคและประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์  

การฉีดฟิลเลอร์ไม่ใช่จะฉีดกับแพทย์คนไหนก็ได้ ผู้ฉีดต้องเป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า รู้เทคนิคการฉีดที่ช่วยให้ filler คงผลลัพธ์ได้ดี สามารถยกพยุงหรือป้องกันการเกิดความหย่อนคล้อยของผิวหน้าในอนาคต

โดยปกติแล้วการฟิลเลอร์ยิ่งฉีดลงใต้ผิวลึก ๆ จะยิ่งอยู่ไม่นาน เพราะจะโดนกระบวนการย่อยสลายได้มากกว่าการฉีดชั้นตื้น ๆ ดังนั้นที่ผ่านมาการฉีดฟิลเลอร์ที่ชั้นไขมัน ใต้กล้ามเนื้อ หรือฉีดวางฟิลเลอร์บนกระดูกจึงอยู่ไม่นาน แต่หากใช้เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ฝังใต้เยื่อหุ้มกระดูก จะสามารถซ่อนการทำลาย ลดการสลายของฟิลเลอร์ให้ช้าลงได้

เลือกยี่ห้อฟิลเลอร์/รุ่นฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับสภาพปัญหา

ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น มีคุณสมบัติแตกต่างกัน การฉีดฟิลเลอร์แต่ละตำแหน่งจำเป็นต้องใช้ฟิลเลอร์เนื้อที่แตกต่างกันในแต่ละปัญหา ถ้าเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ไม่เหมาะสม อาจส่งผลต่อความคงตัวและระยะเวลาอยู่ได้นานของฟิลเลอร์ได้ครับ ซึ่งถ้าหากแบ่งตามคุณสมบัติของฟิลเลอร์จะแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท  

• ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ลักษณะเนื้อเจล มีความบางเบาเหมือนน้ำ เหมาะสำหรับฉีดในผิวชั้นตื้น ในการเก็บรายละเอียดเล็ก ๆ ช่วยให้ผิวที่แห้งมีความชุ่มชื้นขึ้น 
• ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ลักษณะเนื้อเจลจะคล้าย ๆ เยลลี่ ไม่เป็นน้ำเหมือนฟิลเลอร์เนื้อละเอียด จะใช้ฉีดในชั้นไขมัน เนื้อนุ่ม ไม่เป็นก้อน
• ฟิลเลอร์เนื้อแน่น ลักษณะจะมีความเป็นกลุ่มก้อนมากกว่าชนิดอื่น จึงทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความแข็งแรงและคงตัวได้ดี สามารถยกผิวในชั้นกระดูกได้ใกล้เคียงกับกระดูก

ไม่มีฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหน รุ่นไหนที่ดีที่สุด แก้ได้ทุกปัญหา ฉีดได้ทุกจุดสำหรับทุกสภาพผิว ฟิลเลอร์แต่ละรุ่นเหมาะกับการใช้ฉีดในตำแหน่งต่าง ๆ ของใบหน้าไม่เหมือนกัน ซึ่งโดยปกติเมื่อเข้าไปที่คลินิก แพทย์จะเป็นผู้แนะนำว่าสภาพผิวของคนไข้เหมาะกับฟิลเลอร์ยี่ห้อไหน รุ่นไหน ซึ่งก็ขึ้นกับความถนัดและเทคนิคการฉีดของหมอแต่ละคนด้วยครับ

ใช้ปริมาณฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับผิวบริเวณที่ฉีด

ในแต่ละตำแหน่ง แต่ละปัญหา ใช้ปริมาณ CC ฟิลเลอร์ไม่เท่ากัน แพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า มีความรู้ด้านกายวิภาคใบหน้าเป็นอย่างดี จะสามารถวิเคราะห์ปัญหาได้ตรงจุด คำนวณปริมาณฟิลเลอร์ที่จะฉีดได้อย่างเหมาะสม ไม่น้อยเกินไปหรือมากเกินความจำเป็น 

การฉีดฟิลเลอร์แต่ละครั้ง ไม่จำเป็นต้องเติมทีเดียวปริมาณมาก ๆ สามารถทยอยเติมได้เรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม แต่ยังมีหลายคนเข้าใจผิดครับว่า การเติมฟิลเลอร์เยอะ ๆ หลาย CC ในครั้งเดียว จะช่วยให้ filler อยู่ได้นาน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ถูกต้องครับ การฉีดฟิลเลอร์ที่เยอะเกินความจำเป็น นอกจากจะสิ้นเปลืองงบประมาณแล้ว ผลลัพธ์ที่ออกมายังไม่สวยงาม ดูไม่เป็นธรรมชาติ 

ฟิลเลอร์ถูกความร้อนโดยตรงเป็นเวลานาน

ความร้อนส่งผลทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้นได้จริงครับ และทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้า ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง หรือได้ผลลัพธ์ไม่ตรงตามต้องการ ในช่วง 2 สัปดาห์แรก แพทย์จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงความร้อน เช่น 

• หลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน
• หลีกเลี่ยงการอบไอน้ำ ซาวน่า ทำเลเซอร์ RF ไอออนโต (Ionto) 
• หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน ๆ

ละเลยการดูแลตัวเองตามข้อห้าม-ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์

ระยะเวลาอยู่ได้นานของฟิลเลอร์ ยังขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ด้วยครับ เพื่อให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์มีประสิทธิภาพ เห็นผลได้อย่างเต็มที่ หลังฉีดฟิลเลอร์ แพทย์จะมีการแนะนำข้อห้าม-ข้อปฏิบัติต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน คนไข้ควรปฏิบัติตาม เพราะจะช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว ช่วยยืดอายุฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นานครับ 

---

ฟิลเลอร์สลายเร็ว มีวิธีป้องกันไหม ?

ฟิลเลอร์สลายเร็ว สามารถป้องกันได้ครับ หากอยากให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นาน นอกจากเลือกฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ควรดูแลตัวเองตามข้อห้าม-ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ 

• ดื่มน้ำให้เพียงพอ วันละ 1.5-2 ลิตร/วัน ฟิลเลอร์เป็นสารอุ้มน้ำ การดื่มน้ำมาก ๆ ฟิลเลอร์จะฟูได้รูปและอยู่ได้นานมากขึ้น 
• หลีกเลี่ยงบีบ นวด แกะ เกา บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ 7-14 วัน เพื่อลดการอักเสบ และการเคลื่อนย้ายของฟิลเลอร์ไปยังตำแหน่งที่ไม่ต้องการ 
• งดออกกำลังกายหนัก ๆ หรือกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง 48 ชั่วโมงหลังทำ การออกกำลังกายหนัก ๆ จะทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น และการขยับร่างกายที่รุนแรงจะทำให้ฟิลเลอร์เสียรูปได้ 
• งดเลเซอร์ร้อนลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เช่น เลเซอร์, RF, Thermage 1 เดือนหลังทำ เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วขึ้น 
• งดดื่มแอลกอฮอล์ เหล้า เบียร์ บุหรี่ อย่างน้อย 48 ชั่วโมงหลังทำ เพราะจะทำให้เส้นเลือดขยายตัว ทำให้รอยเข็มหายช้าลง
• หลีกเลี่ยงใช้เครื่องสำอางหลังฉีด 24 ชั่วโมง อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่หรือเกิดการแพ้ 

---

สรุป

ฟิลเลอร์สลายเร็ว-ช้า ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยเฉพาะประสบการณ์และเทคนิคของแพทย์ ดังนั้นควรเลือก ฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า สามารถประเมินปัญหาและเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ รุ่นฟิลเลอร์ ปริมาณ CC ที่เหมาะสม และยังขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ของคนไข้เอง ซึ่งจะช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็วและคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน  

ที่ V Square Clinic ฉีดฟิลเลอร์โดยแพทย์ประสบการณ์สูงด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ใส่ใจในทุกรายละเอียด มีเทคนิคเฉพาะและศิลปะในการฉีดฟิลเลอร์ “Fine Art of Filler” ที่คำนึงถึงความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังมีการแนะนำวิธีปฏิบัติตัวป้องกันฟิลเลอร์สลายเร็ว และนัดติดตามผลหลังทำทุกเคส

---

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หลังฉีดฟิลเลอร์ 

หลังฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพ ไม่เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ก็มีส่วนสำคัญครับ 

ในบทความนี้หมอรวบรวมวิธีดูแลตัวเองหลังฉีด Filler ในแต่ละตำแหน่งมาแนะนำ พร้อมวิธีปฏิบัติ และข้อห้ามที่ไม่ควรละเลย เพื่อให้คนไข้สามารถดูแลตัวเองได้อย่างถูกต้อง ช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว อยู่ได้นาน มาให้ศึกษาข้อมูลเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนฉีดครับ

สารบัญ หลังฉีดฟิลเลอร์ 

1. อาการหลังฉีดฟิลเลอร์เป็นอย่างไร ? 
2. ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์
3. ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์
4. ฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไร ?
5. หลังฉีดฟิลเลอร์นอนตะแคงได้ไหม ?
6. หลังฉีดฟิลเลอร์ออกกำลังกายได้ไหม ? 
7. หลังฉีดฟิลเลอร์กี่วันกินเหล้าได้ ?
8. วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ 1 เดือน
9. รีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์
10. ปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์
11. หลังฉีดฟิลเลอร์ มีอาการบวมต้องทำอย่าไร ?
12. หลังฉีดฟิลเลอร์ เป็นก้อน ควรทำอย่างไร ?
13. หลังฉีดฟิลเลอร์แล้วเขียวช้ำ ต้องทำอย่างไร ? 

---

อาการหลังฉีดฟิลเลอร์เป็นอย่างไร ?  

อาการหลังฉีด filler ที่พบได้บ่อย ๆ คือ บวม ช้ำ ตึง หรือ เจ็บ ๆ คัน ๆ บริเวณรอยเข็มที่ฉีด อาการเหล่านี้ถือเป็นเรื่องปกติครับ โดยเฉพาะในเคสที่ผิวช้ำง่าย ผิวบาง หรือผิวขาว อาจจะเห็นรอยช้ำได้ชัดเจน แต่ไม่ต้องกังวลใจไปครับ เพราะอาการเหล่านี้สามารถหายได้เองตามธรรมชาติ ซึ่งในแต่ละตำแหน่งที่ฉีดอาจจะเกิดอาการต่างกันดังนี้  

• หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา : อาการที่พบได้บ่อย ๆ หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ อาการบวมหลังฉีด เกิดจากการที่เข็มเข้าไปในผิว และเนื้อฟิลเลอร์ที่ยังไม่เข้าที่ดี ประมาณ 4-5 วันจะค่อย ๆ เข้าที่และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนใน 2 สัปดาห์ครับ

• หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก : อาการหลังฉีดฟิลเลอร์ปากเสร็จใหม่ ๆ คนไข้จะรู้สึกตึง และริมฝีปากบวม เกิดจากการใช้เข็ม หรือบวมจากเนื้อฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไป รวมถึงบวมจากยาชาครับ ซึ่งเป็นอาการปกติ ในระหว่างนี้อาจจะบังคับริมฝีปากได้ไม่เหมือนปกติ เพราะวอลลุ่มปากที่มีมากขึ้น ปรับตัวสักระยะก็จะเริ่มชินครับ และประมาณ 4-5 วัน ก็จะค่อย ๆ เข้าที่ครับ  

• หลังฉีดฟิลเลอร์คาง : อาการหลังฉีดฟิลเลอร์คางที่พบได้บ่อย ๆ คือบวม และ มีรอยช้ำครับ เพราะหลังฉีดหมอจะต้องจับปั้นทรง จึงอาจเกิดรอยช้ำได้ อาการบวมจะเกิดจากบวมเข็ม และอิ่มฟูขึ้นจากฟิลเลอร์ โดยหลังฉีดคาง 24 ชม.แรกจะมีอาการบวมมากขึ้น แต่เมื่อเมื่อผ่านไป 7-14 วันก็จะเข้าที่ รวมถึงรอยช้ำ ก็จะหายไปครับ  

• หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก : อาการหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะมีอาการบวมเล็กน้อยเป็นปกติอีกเช่นกันครับ โดยทั่วไปจะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน และหายบวมเข้าที่ใน 14 วันครับ 

• หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม : อาการหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มอาจจะมีอาการบวม รอยแดง รอยเขียวช้ำ หรือคันได้ในจุดที่ทำ ให้หลีกเลี่ยงการแตะ การเกา การกดนวดในจุดนั้น ๆ อาการต่าง ๆ จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน

• หลังฉีดฟิลเลอร์จมูก : อาการหลังฉีดฟิลเลอร์จมูกในช่วงแรกจะรู้สึกตึง ๆ บวมเล็กน้อย และอาจเห็นรอยเข็มเพราะผิวบริเวณจมูกค่อนข้างบาง โดยทั้ง 2 อาการสามารถหายได้เอง และรูปทรงจมูกจะเข้าที่ประมาณ 14 วันครับ

---

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์

ในแต่ละตำแหน่งหลังฉีดฟิลเลอร์จะมีข้อควรปฏิบัติที่เหมือนและแตกต่างกันอยู่บ้าง หมอจะอธิบายเป็นข้อ ๆ ในแต่ละตำแหน่งฉีดดังนี้  

1.ฟิลเลอร์ใต้ตา 

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเสร็จทันที คือ ไม่กด หรือจับบริเวณที่ฉีด โดยหมอจะติดพลาสเตอร์ตามรอยเข็มไว้ให้ หลัง 1 ชม.ไปแล้วถึงจะสามารถแกะออกได้ ซึ่งคนไข้สามารถใช้หน้าได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นครับ 

ส่วนในบางเคสที่อาจมีอาการปวดระบมตามรอยเข็มในคืนแรกหลังทำ สามารถรับประทานยาแก้ปวดที่ทางคลินิกให้ไปทุก ๆ 4 ชม.นอกจากนี้ควรนอนหัวสูงกว่าหน้าอก โดยการหนุนหมอนที่ศีรษะอย่างน้อย 2 ใบ ไม่ควรนอนตะแคง ให้หาหมอนข้างมากันไว้ทั้งซ้ายและขวาใน 2-3 คืนแรกหลังทำ เพื่อป้องกันการกดทับใบหน้า

นอกจากนี้แนะนำให้อยู่ในที่อากาศเย็น ๆ หลีกเลี่ยงอากาศร้อน ๆ เพราะเหงื่อ รวมถึงฝุ่นควันอาจทำให้รู้สึกระคายเคืองผิว และคันตามรอยเข็มได้ รวมถึงควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้ฟิลเลอร์อุ้มน้ำได้เต็มที่ ช่วยให้ผลลัพธ์เข้าที่เร็วและอยู่ได้นานขึ้นครับ  

2.หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อให้ปากอวบอิ่มเข้าที่เร็ว สิ่งที่ควรปฏิบัติ หลัก ๆ คือ เลี่ยงการรับประทานอาหารที่ร้อนจัด เพราะจะทำให้ปากบวมนาน หรือเกิดการอักเสบได้ ควรรับประทานอาหารและเครื่องดื่มอุณหภูมิปกติ และในช่วง 12 ชั่วโมงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่ควรดื่มน้ำโดยใช้หลอดดูดน้ำ  

ในส่วนของการทาลิปสติก ใน 24 ชม.แรกหลังฉีด ควรเลี่ยงครับ โดยเฉพาะลิปสี นอกจากนี้ควรงดการสูบบุหรี่ร่วมด้วย อย่างน้อย 24 ชม.หลังฉีดครับ 

3.หลังฉีดฟิลเลอร์คาง

สิ่งที่ควรทำหลังฉีดฟิลเลอร์คาง ไม่ต่างไปจากการฉีดในตำแหน่งอื่น ๆ ครับ เช่น 

1. หลังฉีดฟิลเลอร์คาง ควรอยู่ในที่อากาศเย็น ๆ เพื่อช่วยลดอาการบวม อย่างน้อย 48 ชม.
2. หลังฉีดฟิลเลอร์คางเสร็จทันที หมอจะติดพลาสเตอร์ให้ตามรอยเข็ม สามารถแกะออกได้ เมื่อครบ 1 ชม. 
3. ควรนอนหัวสูงกว่าหน้าอก โดยการหนุนหมอนที่ศีรษะอย่างน้อย 2 ใบ ไม่ควรนอนตะแคง และหาหมอนข้างมากันไว้ทั้งซ้ายและขวาใน 2-3 คืนแรกหลังทำเพื่อป้องกันการกดทับหน้า 
4. สามารถล้างหน้าด้วยสบู่อ่อน ๆ และโดนน้ำได้ไม่เกิน 15 นาที อย่าแช่น้ำจนผิวเปื่อยเพราะยังมีรอยเข็มอยู่ในวันแรก
5. ควรดื่มน้ำมาก ๆ ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยเฉพาะในช่วง 4-5 วันแรก เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นสารอุ้มน้ำ จึงถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น
6. ควรทานยาที่แพทย์จ่ายให้หลังทำต่อเนื่องจนครบ เพื่อช่วยลดอาการบวม และป้องกันการติดเชื้อ
7. ในบางเคสอาจปวดระบมตามรอยเข็มในคืนแรกหลังทำ สามารถกินยาแก้ปวดได้ตามอาการ

4.หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากตามที่กล่าวไว้ในหัวข้อข้างต้นว่า อาจมีอาการบวมเล็กน้อย จากรอยเข็ม และตัวฟิลเลอร์ ซึ่งเป็นเรื่องปกติครับ 

โดยหลังฉีดในช่วง 2-3 วัน อาการจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ต้องกังวลครับ ควรดูแลตัวเอง โดยมีข้อปฏิบัติดังนี้   

1. ควรอยู่ในที่อากาศเย็น และหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
2. ทางคลินิกจะมีการจ่ายยาแก้ปวด ลดบวมให้
3. ควรงดการทำเลเซอร์ร้อนลงชั้นผิว ประมาณ 1 เดือน
4. ควรดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูสวย และอยู่ได้นานขึ้น

5.หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ควรปฏิบัติเพื่อช่วยให้ใบหน้ากลับมาดูอ่อนกว่าวัย มีดังนี้ 

1. อย่าบีบ นวด แกะเกาบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ หากมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคันในจุดที่ทำ อาการต่าง ๆ จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วันครับ 
2. หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม.หลังทำ แนะนำให้อยู่ในที่อากาศเย็น ๆ ครับ 
3. ให้งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด (ควรเว้นอย่างน้อย 1 เดือนหลังทำ)
4. อย่าขยับใบหน้าเยอะโดยเฉพาะในช่วง 3 วันหลังทำ อาจจะทำให้ฟิลเลอร์ที่ทำไว้เคลื่อนที่ผิดตำแหน่งได้ครับ
5. การดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอตามปกติคือวันละ 1.5-2 ลิตร เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้

6.หลังฉีดฟิลเลอร์จมูก

หลังฉีดฟิลเลอร์จมูก คนไข้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติครับ ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์จมูกเพื่อให้ฟิลเลอร์จมูกได้ผลลัพธ์ที่ดี เข้าที่เร็ว และอยู่ได้นานมีดังนี้ 

• ในช่วง 2-3  ชั่วโมงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์จมูก ไม่ควรนอนราบ
• ไม่ควรจับ บีบ กด ปั้นทรงจมูกเอง หรือถูหน้าแรง ๆ 
• งดการออกกำลังกายในช่วง 48 ชั่วโมงแรก 
• งดการสัมผัสความร้อนด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น เลเซอร์ผิว อย่างน้อย 2 อาทิตย์

---

ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์

นอกจากวิธีการปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์แล้ว ยังมีข้อห้ามที่ไม่ควรละเลยในแต่ละตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์ร่วมด้วย เช่น 

• หลังฟิลเลอร์ใต้ตา ห้ามขยี้ตา ห้ามกดนวด เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ อักเสบจากมือที่สกปรก รวมถึงมีผลต่อการเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์ครับ
• หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามกินของร้อน ของเผ็ด รวมถึงอาหารรสจัด ในช่วง 3 วันแรก เนื่องจากความร้อนจะส่งผลต่อการยืด-หด ของผิว และกระทบต่อการเซ็ตตัวของฟิลเลอร์ นอกจากนี้ยังห้ามดึง แกะ ลอกหนังริมฝีปากเด็ดขาด เพราะจะเป็นการทำร้ายผิวริมฝีปาก ทำให้ผิวเก็บกักน้ำและความชุ่มชื้นไว้ได้น้อยลง ส่งผลให้ปากเสียรูปทรง ปากแห้งแตกครับ 
• หลังฉีดฟิลเลอร์คาง ห้ามเท้าคางเด็ดขาดครับ เพราะจะทำให้เจ็บ เสี่ยงเกิดรอยช้ำ รวมถึงอาจทำให้เสียทรงได้ นอกจากนี้ยังห้ามใส่หมวกกันน็อคที่รัดแน่น ๆ หรือปั้นทรงเองโดยเด็ดขาดครับ 
• หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม  อย่าขยับใบหน้าเยอะโดยเฉพาะในช่วง 3 วันหลังทำ อาจจะทำให้ฟิลเลอร์ร่องแก้มเคลื่อนที่ได้ครับ
• หลังฉีดฟิลเลอร์จมูก ห้ามดึงหรือปรับทรงจมูกเอง ห้ามบีบจมูก กดจมูก จนกว่าฟิลเลอร์จะเข้าที่ หรือประมาณ 14 วันครับ 
• หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ห้ามนอนคว่ำ หรือมีการรัด กดบริเวณหน้าผาก ห้ามกดสิว หรือถูหน้าผากแรง ๆ 

ฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไร ? 

 หลังฉีดฟิลเลอร์เพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว และไม่เกิดอาการแทรกซ้อนที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การอักเสบ บวม  การเลือกและเลี่ยงอาหารบางกลุ่มก็มีความสำคัญไม่แพ้กันครับ 

อาหารต้องห้าม 

• ควรงดรับประทานอาหารเหล่านี้ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ น้ำหมัก
• เลี่ยงมื้ออาหารที่อยู่หน้าเตานาน ๆ เช่น หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู ที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ ครับ
• อาหารที่เผ็ดมาก ๆ แสบร้อนจนหน้าแดง
• อาหารหมักดอง เพราะมีสารที่ทำให้เส้นเลือดขยายตัว เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง มะม่วงดอง
• หลีกเลี่ยงการกินอาหารดิบจากร้านอาหารที่ไม่สะอาด เนื่องจากพยาธิบางชนิดจะทำปฏิกิริยากับฟิลเลอร์แล้วเกิดการอักเสบได้
• เลี่ยงอาหารที่หวานจัด ๆ นมวัว เพราะสามารถกระตุ้นกระบวนการอักเสบได้
• ควรงดสูบบุหรี่ ในบุหรี่มีสารหลายชนิดที่ขยายหลอดเลือด จะทำให้ยุบบวมช้า และผลการรักษาอยู่ได้สั้นลง

อ่านบทความเพิ่มเติม : หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง

อาหารแนะนำ 

• ควรรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ผิว เช่นไก่ ปลา ไข่ขาว ธัญพืช 
• ควรเสริมด้วยผลไม้ ผักใบเขียว แครอท ฟักทอง 
• ควรดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อย 1.5-2 ลิตรต่อวัน 

อาหารเหล่านี้จะไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน และช่วยฟื้นฟูให้แผลจากเข็มหายเร็วขึ้น 

หลังฉีดฟิลเลอร์นอนตะแคงได้ไหม ? 

หลังฉีดฟิลเลอร์ ในบางตำแหน่งหมอจะแนะนำว่าไม่ควรนอนตะแคง ใน 2-3 วันแรกหลังฉีดครับ เช่น ฟิลเลอร์ใต้ตา, ฟิลเลอร์คาง,ฟิลเลอร์ขมับ และ ฟิลเลอร์ร่องแก้ม เพราะการนอนตะแคง หรือนอนในท่าที่จะกดทับตำแหน่งที่ฉีดอาจจะทำให้เจ็บมากยิ่งขึ้น การเซ็ตตัวของฟิลเลอร์อาจผิดรูปทรงจากที่หมอฉีด แนะนำให้นอนหนุนหมอนสองใบให้หัวสูงกว่าอก เพราะจะช่วยลดอาการบวมได้ครับ 

หลังฉีดฟิลเลอร์ออกกำลังกายได้ไหม ?

ในช่วง 3 วันแรก หมอไม่แนะนำครับ เพราะการออกกำลังกายหนัก ๆ  จะทำให้หน้าแดง และเลือดสูบฉีด รวมถึงมีเหงื่อออกมาก อาจส่งผลต่อการระคายเคือง อักเสบ บวมแดงมากกว่าปกติครับ 

หลังฉีดฟิลเลอร์กี่วันกินเหล้าได้ ?

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดการกระตุ้นการอักเสบ อาการบวมแดงหายช้า โดยทั่วไปหมอจะแนะนำให้เลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ 14 วัน แต่หากหลีกเลี่ยงได้ยาก ควรเว้นอย่างน้อย 3 วันหลังฉีดครับ 

---

วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ 1 เดือน

• งดการทำทรีตเมนท์ เลเซอร์ร้อน ที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เช่น RF thermage ควรเว้นอย่างน้อย 1 เดือนหลังทำ
• แนะนำดื่มน้ำมาก ๆ  เพราะน้ำเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นาน เพราะฟิลเลอร์เป็นสารที่อุ้มน้ำ การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูได้รูป โดยควรดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอตามปกติคือวันละ 1.5-2 ลิตร 

---

รีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์

ตัวอย่างรีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา-ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 

ตัวอย่างรีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์คาง 

ตัวอย่างรีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์จมูก

ตัวอย่างรีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ

ตัวอย่างรีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

---

ปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์

ปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์ในกรณีที่ใช้ฟิลเลอร์แท้ และฉีดโดยแพทย์ มักไม่มีปัญหาอะไรที่ต้องกังวลใจครับ ปัญหาที่เกิดส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้หลังฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติครับ ตัวอย่างเช่น  

1. หลังฉีดฟิลเลอร์ มีอาการบวม ต้องทำอย่างไร  ?

โดยปกติหลังฉีดฟิลเลอร์จะมีอาการบวมเกิดขึ้น แต่ค่อย ๆ หายบวมประมาณ 4-5 วัน และเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนเข้าที่ ประมาณ 2-3 สัปดาห์ครับ หากต้องการลดบวม สามารถประคบเย็นได้ โดยขอคำแนะนำจากแพทย์ เพื่อแนะนำวิธีประคบเย็นอย่างถูกวิธี เพราะหากประคบผิดอาจทำให้เกิดการเสียทรงของฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปได้ครับ รวมถึงถ้ามีอาการปวด ก็สามารถทานยาแก้ปวดได้ตามอาการครับ

2.หลังฉีดฟิลเลอร์ เป็นก้อน ควรทำอย่างไร ? 

การฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน บวม ผิวไม่เรียบเนียน สามารถเกิดขึ้นได้ หากแพทย์ใช้เทคนิคที่ไม่เหมาะสม เพื่อลดปัญหานี้ ควรฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้เทคนิคและเลือกชนิดของฟิลเลอร์ รวมถึง ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ ต้องเหมาะสมกับบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ครับ 

กรณีที่ฟิลเลอร์เป็นก้อนแล้วต้องการแก้ไข ฟิลเลอร์แท้สามารถฉีดสลายออกได้ครับ สามารถฉีดสลายออกแล้วกลับมาฉีดใหม่กับแพทย์ที่มีประสบการณ์ เข้าใจโครงสร้างสรีรวิทยาของร่างกายมนุษย์ ศิลปะด้านการปรับรูปหน้าเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นที่พึงพอใจและคุ้มค่าที่สุด

3.หลังฉีดฟิลเลอร์แล้ว เขียวช้ำ ต้องทำอย่างไร  ? 

หลังการทำหัตถการไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์ โบท็อก หรือการฉีดเมโสหน้าใส ก็สามารถเกิดรอยเขียวช้ำได้ครับ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากเวลาฉีดฟิลเลอร์หรือสารต่าง ๆ เข้าผิว ตัวเข็มจะต้องมีการเสียดสีกับบริเวณใต้ผิวหนัง จึงเกิดอาการบวม รวมถึงรอยเขียวช้ำได้ วิธีดูแลตัวเองในกรณีนี้คือ ควรหลีกเลี่ยงความร้อน ทั้งจากแสงแดด รวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ไดร์เป่าผม เลี่ยงการกดทับ เพื่อให้รอยหายได้เร็ว โดยทั่วไปรอยเขียวช้ำจะหายได้เองประมาณ 1 สัปดาห์ครับ 

---

สรุป

ใครที่สนใจการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามคุ้มค่า ไม่เพียงแต่ต้องใส่ใจตั้งแต่การเลือกคลินิก เลือกหมอ เลือกฟิลเลอร์รุ่นที่เหมาะสมเท่านั้น แต่การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน  

เพราะการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ รู้ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ และวิธีปฏิบัติตัวอย่างถูกต้อง ก็จะช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้นด้วยครับ 

---

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน

ฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ? อยู่ได้นานกี่เดือน กี่ปี ? ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดหรือไม่ ? 

ถ้าฉีดฟิลเลอร์แท้ Hyaluronic Acid หรือฟิลเลอร์ HA ที่ได้มาตรฐาน จะสลายได้เองตามธรรมชาติ อยู่ไม่ถาวรครับ ฟิลเลอร์แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ อยู่ได้นานแค่ไหน ? ทำไมฟิลเลอร์ถึงมีอายุต่างกัน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย การฉีด filler ให้ปลอดภัย ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามดูเป็นธรรมชาติ และคงผลลัพธ์ให้อยู่ได้นาน ขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง ? ศึกษาข้อมูลได้ในบทความนี้ครับ 

สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน

1. ฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น อยู่ได้นานกี่เดือน ?
2. ทำไมฟิลเลอร์ถึงมีอายุต่างกัน
3. ฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง ?
4. ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดหรือไม่ ? 
5. ฟิลเลอร์สลายได้เองไหม ?
6. หลังจากฟิลเลอร์สลายไป หน้าจะเป็นอย่างไร ?

---

ฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น อยู่ได้นานกี่เดือน ?

ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น มีอายุอยู่ได้นานไม่เท่ากันครับ หมอยกตัวอย่างฟิลเลอร์ 4 ยี่ห้อที่ได้มาตรฐาน ผ่าน อย. มีหลายรุ่นให้แพทย์เลือกใช้ เติมเต็มร่องลึก ลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าให้มีมิติ ดังนี้

ฟิลเลอร์ Restylane (สวีเดน) 

• Restylane Perlane Lyft อยู่ได้นาน 12 เดือน
• Restylane Vital Light อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
• Restylane Vital อยู่ได้นาน 12 เดือน
• Restylane Volyme อยู่ได้นาน 18 เดือน
• Restylane Defyne อยู่ได้นาน 18 เดือน
• Restylane Refyne อยู่ได้นาน 12 เดือน
• Restylane Classic อยู่ได้นาน 12 เดือน
• Restylane Kysse อยู่ได้นาน 12 เดือน

ฟิลเลอร์ Juvederm (อเมริกา) 

• Juvederm Ultra Plus อยู่ได้นาน 12 เดือน 
• Juvederm Voluma อยู่ได้นาน 18 เดือน 
• Juvederm Volbella อยู่ได้นาน 12 เดือน
• Juvederm Volift  อยู่ได้นาน 12 เดือน 
• Juvederm Volite   อยู่ได้นาน 8-12 เดือน 
• Juvederm Volux  อยู่ได้นาน 18-24 เดือน 

ฟิลเลอร์ Belotero (สวิตเซอร์แลนด์)

• Belotero Intense อยู่ได้นาน 18 เดือน
• Belotero Volume อยู่ได้นาน 18 เดือน
• Belotero Revive อยู่ได้นาน 6-9 เดือน

ฟิลเลอร์ Definisse (อิตาลี)

• Definisse Restore อยู่ได้นาน 12 เดือน
• Definisse Core อยู่ได้นาน 18 เดือน
• Definisse Touch อยู่ได้นาน 8-12 เดือน

---

ทำไมฟิลเลอร์ถึงมีอายุต่างกัน

แม้ว่าจะเป็นสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid เหมือนกัน แต่อายุฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นอยู่ได้นานไม่เท่ากันครับ เพราะใช้เทคโนโลยีและขั้นตอนการผลิตต่างกัน คุณสมบัติของฟิลเลอร์ออกมาต่างกัน เช่น 

• ความแข็ง (Elasticity) ฟิลเลอร์ที่มีค่าความแข็งสูง จะเหมาะกับการฉีดเพื่อปรับยกโครงหน้าในชั้นกระดูก เช่น คาง จมูก ฉีดเพื่อดึงหน้า ฉีดยกผิวชั้นลึกในชั้นกระดูก
• ความยืดหยุ่น (Plasticity, Cohesiveness) ฟิลเลอร์ที่มีค่าความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับ จะเหมาะกับการฉีดเพื่อเติมเนื้อในบริเวณที่ผิวมีการขยับบ่อย ๆ เช่น ร่องแก้ม มุมปาก แก้มตอบ
• การกระจายตัว (Tissue Integration) หรือความสามารถในการสมานกับผิวที่อยู่รอบ ๆ เหมาะกับคนที่ผิวบาง ผิวแห้ง เมื่อฉีดฟิลเลอร์แล้วจะไม่เห็นเป็นก้อน และเรียบเนียนไปกับผิว
• ความอุ้มน้ำ (Water Holding) ฟิลเลอร์ที่มีค่าความอุ้มน้ำสูง ฉีด 1 CC ฟิลเลอร์จะสามารถฟูได้ถึง 1.5 CC แต่จะเหมาะกับบางจุด เช่น ร่องแก้ม ขมับ ไม่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพราะถ้าฟูมากจะดูตาบวม 
• จำนวนการเชื่อมพันธะ (Crosslink) ฟิลเลอร์ที่มีจำนวนพันธะเยอะขึ้น จะอยู่ได้นานขึ้น สลายช้าลง และอุ้มน้ำได้น้อยลง ฟูน้อยลง ทนต่อแรงบิดได้ดี มีค่าการกระจายตัวปานกลาง เหมาะกับบริเวณที่ผิวขยับบ่อย ๆ  
• ขนาดของเม็ดฟิลเลอร์ (Particle Size) ฟิลเลอร์ที่มีเม็ดใหญ่จะอยู่ได้นานขึ้น และมีค่าความแข็งสูง ค่าการกระจายตัวต่ำ เหมาะกับยกหน้าในผิวชั้นลึกได้ดีที่สุด  

คุณสมบัติเหล่านี้ ทำให้ฟิลเลอร์มีอายุต่างกัน สลายเร็ว-ช้าต่างกันครับ      

---

ฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง ?

ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ฟิลเลอร์อยู่ได้กี่เดือน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนี้ 

• ประสบการณ์และเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ แพทย์ที่มีประสบการณ์จะสามารถประเมินปัญหาได้แม่นยำ ฉีดถูกตำแหน่ง ถูกชั้นผิว แก้ไขได้ตรงจุด คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 
• เลือกยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ได้เหมาะสม ฟิลเลอร์มีความหนืด ความยืดหยุ่น ความคงตัวที่แตกต่างกัน ถ้าเลือกได้ไม่เหมาะสมกับปัญหา จะส่งผลต่อความคงตัวและระยะเวลาอยู่ได้นานของฟิลเลอร์

• ปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีด หากฉีดน้อยเกินไป เช่น ฟิลเลอร์ 1 ซี ซี ไม่เพียงพอที่จะแก้ปัญหาในตำแหน่งนั้น ๆ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วได้
• การดูแลตัวเองตามข้อห้าม-ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ หลังฉีดฟิลเลอร์ จะมีการแนะนำข้อห้าม-ข้อปฏิบัติต่าง ๆ เพื่อช่วยยืดอายุฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นาน ควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

---

ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดหรือไม่ ? 

ตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์ มีผลต่อระยะเวลาอยู่ได้นานของฟิลเลอร์ เช่น การฉีดฟิลเลอร์ปาก เพราะปากเป็นบริเวณที่ได้สัมผัสความร้อนบ่อย มีการขยับเยอะก็อาจทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วกว่าอายุจริงได้

ในช่วง 2 สัปดาห์หลังฉีดฟิลเลอร์ หมอจึงเน้นย้ำให้คนไข้ดูแลตัวเอง โดยในแต่ละตำแหน่งจะมีวิธีการปฏิบัติตัวที่คล้าย ๆ กัน เพื่อช่วยยืดอายุฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นาน ดังนี้ 

• ดื่มน้ำให้เพียงพอ วันละ 1.5-2 ลิตร
• หลีกเลี่ยงแสงแดดหรืออากาศร้อนจัด
• ห้ามบีบ นวด แกะ เกา บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
• งดออกกำลังกายหนัก ๆ หรือกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง 48 ชม.หลังทำ
• งดเลเซอร์ร้อนลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เช่น RF Thermage 1 เดือนหลังทำ
• งดดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด

นอกจากนี้ในแต่ละตำแหน่งยังมีวิธีปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์เพิ่มเติม ดังนี้

• ฟิลเลอร์ใต้ตา ห้ามขยี้ตา สามารถล้างหน้าได้ด้วยสบู่อ่อน ๆ โดนน้ำได้ไม่เกิน 15 นาที งดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน และควรอยู่ในที่อากาศเย็น จะช่วยลดอาการบวมได้เร็วขึ้น
• ฟิลเลอร์คาง ห้ามนวด กด ปั้นทรงเองโดยเด็ดขาด หลีกเลี่ยงการเท้าคาง เลี่ยงการใส่หมวกกันน็อกที่รัดแน่น และไม่ควรนอนคว่ำ เพราะอาจกดทับ ทำให้คางเสียทรง 
• ฟิลเลอร์ร่องแก้ม อย่าขยับใบหน้าเยอะโดยเฉพาะในช่วง 3 วันหลังทำ อาจจะทำให้ฟิลเลอร์ร่องแก้มเคลื่อนที่ได้
• ฟิลเลอร์หน้าผาก 3-4 ชั่วโมง หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากห้ามนอนราบ นอนคว่ำ หรือมีการรัด กดบริเวณหน้าผาก และห้ามถูหน้าแรง ๆ กด หรือบีบสิวบริเวณหน้าผาก
• ฟิลเลอร์ขมับ เลี่ยงการนอนที่กดทับบริเวณขมับ เพราะจะทำให้รู้สึกเจ็บ หรือปวดศีรษะ บริเวณขมับ เป็นจุดรวมเส้นประสาท จึงไวต่อความรู้สึกได้ง่าย
• ฟิลเลอร์ปาก ห้ามดึงหรือลอกหนังริมฝีปาก เพราะเป็นการทำลายผิวริมฝีปาก ทำให้ผิวกักเก็บน้ำและความชุ่มชื้นได้น้อยลง และใน 12 ชั่วโมงแรก ควรงดใช้หลอดดูดน้ำ งดทาลิปสติก งดสูบบุหรี่
• ฟิลเลอร์จมูก 2-3 ชั่วโมงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์จมูกห้ามนอนราบ จับ บีบ ปั้นทรงจมูกเอง หรือถูหน้าแรง ๆ 

---

ฟิลเลอร์สลายได้เองไหม ?

ฟิลเลอร์สลายได้เองตามธรรมชาติครับ ระยะเวลาขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น และการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ 

แต่ถ้าต้องการสลายฟิลเลอร์ทันที เช่น ในกรณีที่ฉีดแล้วได้ผลลัพธ์ไม่เป็นตามต้องการ ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์แท้ สามารถฉีดสลายได้ด้วยตัวยาไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidases) สลายฟิลเลอร์ได้หมด 100% จากนั้นผิวจะกลับคืนสภาพเดิมครับ 

---

หลังจากฟิลเลอร์สลายไป หน้าจะเป็นอย่างไร ?

หลังฟิลเลอร์สลายหมด ผิวหนังบริเวณที่เคยมีฟิลเลอร์จะคืนสภาพเดิม แต่ดีกว่าเดิมครับ เนื่องจากฟิลเลอร์กระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน และมีน้ำมาหล่อเลี้ยงตลอดเวลา ทำให้ผิวชุ่มชื้น ดูสุขภาพดียิ่งขึ้น ช่วยชะลออายุผิวให้แก่ช้าลง เพราะฉะนั้นที่หลายคนเข้าใจผิดว่าหลังฟิลเลอร์สลายหมด หน้าจะเหี่ยว หน้าจะแก่ขึ้น จึงไม่เป็นความจริงครับ 

---

สรุป

ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น มีอายุอยู่ได้นานต่างกันครับ โดยปัจจัยที่ทำให้ฟิลเลอร์มีอายุต่างกัน ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีและขั้นตอนการผลิตที่ส่งผลต่อคุณสมบัติของฟิลเลอร์ในแต่ละรุ่น สลายเร็ว-ช้าต่างกัน 

ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ? ยังขึ้นอยู่กับประสบการณ์และเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ การเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ รุ่นฟิลเลอร์ ปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสม และการดูแลตัวเองหลังฉีด ฟิลเลอร์แท้จะสลายเองตามธรรมชาติ อยู่ไม่ถาวร แต่สามารถฉีดเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ เพื่อคงผลลัพธ์ครับ 

---

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

นอกจากการเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ปากที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ และใช้ฟิลเลอร์แท้ วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว เป็นทรงสวย อยู่ได้นานขึ้น

ในบทความนี้หมอจะแนะนำข้อปฏิบัติหลังฉีด filler ปาก ว่ามีข้อห้ามอะไรบ้าง อาการข้างเคียงเป็นอย่างไร ควรระวังเรื่องอะไร และมีอาหารประเภทไหนที่ห้ามกินครับ  

สารบัญ หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

1. อาการหลังฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นอย่างไร ?
2. ปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก แก้ไขอย่างไร ?
3. ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
4. ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
5. วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
   • หลังฉีดฟิลเลอร์ปากทาลิปได้ไหม ?
6. รีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

---

อาการหลังฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นอย่างไร ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากทันที จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนเลยครับ หลังจากนั้นจะมีอาการข้างเคียงคือบวมเล็กน้อย คนไข้จะรู้สึกว่าปากตุ่ย ๆ เป็นผลข้างเคียงปกติที่เกิดขึ้นได้หลังฉีดฟิลเลอร์ครับ แต่จะค่อย ๆ หายไปเองใน 5-7 วัน ฟิลเลอร์จะยุบบวมและเข้าที่ 100% ใน 2 สัปดาห์ ระหว่างนี้ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

---

ปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก แก้ไขอย่างไร ?

• ฟิลเลอร์ปากบวม เป็นผลข้างเคียงปกติครับ จะค่อย ๆ ยุบบวมหายไปเอง
• ฟิลเลอร์ปากเป็นก้อน กรณีนี้จะไม่ใช่อาการบวมทั่วไป แต่จะเห็นเนื้อฟิลเลอร์เป็นก้อนแข็ง ๆ อาจเกิดจากเทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้องของแพทย์ หรือฟิลเลอร์ปลอม ต้องฉีดสลาย (กรณีเป็นฟิลเลอร์แท้) หรือขูดออก (กรณีเป็นฟิลเลอร์ปลอม)
• ฟิลเลอร์ปากผิดรูป เสียทรง ส่วนใหญ่เกิดจากการใช้ฟิลเลอร์ปลอมครับ เมื่อฉีดไปแล้วมีการเคลื่อนที่ออกจากตำแหน่งที่ต้องการ เพราะคนฉีดไม่ใช่หมอ ไม่มีความรู้ ต้องแก้ไขด้วยการผ่าตัดขูดออก
• ฟิลเลอร์ปาก เนื้อตาย ปวดแสบ ปวดร้อน เกิดได้จากการใช้ฟิลเลอร์ปลอม หรือสารเติมเต็มที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ฉีดเข้าร่างกาย ทำให้เกิดการแพ้ หรือถ้าเป็นฟิลเลอร์แท้ เกิดจากการที่หมอมีประสบการณ์ไม่มากพอ ฉีดฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือดสำคัญ ทำให้เลือดไม่ไหลเวียน ทำให้เนื้อตายครับ ต้องรีบแก้ไขทันทีด้วยการฉีดยาสลายฟิลเลอร์

---

ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

จริง ๆ แล้ว การฉีดฟิลเลอร์ไม่ได้เป็นหัตถการที่ต้องดูแลตัวเองอะไรมากเป็นพิเศษครับ เพราะไม่มีแผลและไม่ค่อยมีผลข้างเคียงอะไร แต่การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์อย่างถูกวิธี จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจนเร็วขึ้น และรักษาให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้นครับ อย่างฟิลเลอร์ปากก็จะทำให้ปากที่ฉีดมาพุ่งเป็นทรงสวย และสลายช้า

---

ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

• ห้ามกด บีบ นวด คลึง และหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณริมฝีปากที่เพิ่งฉีดฟิลเลอร์มา เพราะฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ดี อาจทำให้เนื้อฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่งได้
• งดการใช้หลอดดูดน้ำ และสูบบุหรี่
• ห้ามดึงหรือลอกหนังริมฝีปาก 
• หลีกเลี่ยงแสงแดด ความร้อน และการเครื่องดื่มร้อน ๆ 
• งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประมาณ 14 วัน เพราะทำให้เลือดสูบฉีดมากขึ้น หลอดเลือดขยายตัว ทำให้เกิดอาการแดงบวมหรือรู้สึกปวด 
• หลีกเลี่ยงการแว็ก กำจัดขนรอบ ๆ ริมฝีปาก หรือสครับปาก
• มีอาหารที่แนะนำให้หลีกเลี่ยงในช่วงแรก ๆ หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เพราะจะส่งผลให้เกิดการอักเสบได้
  • อาหารหมักดอง
  • อาหารรสจัด
  • อาหารร้อน ปิ้งย่าง ชาบู
  • อาหารดิบ/สุก ๆ ดิบ ๆ

---

วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก แนะนำให้ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน รักษาความชุ่มชื้นของริมฝีปาก ไม่ให้แห้งแตกครับ เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นสารอุ้มน้ำ การดื่มน้ำ 8-10 แก้ว (1.5-2 ลิตร) จะช่วยให้ผลลัพธ์การฉีดฟิลเลอร์ปากมีประสิทธิภาพ ฟูสวย และอยู่ได้นานขึ้น

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากทาลิปได้ไหม ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถทาลิปสติกได้ครับ แต่ให้เว้นบริเวณรอยเข็มไว้สัก 1 คืน และไม่ควรทาลิปแรง ๆ ครับ

---

รีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

รีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์ปากทันที ที่ V Square Clinic 

รีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก 1CC

รีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก 2CC

รีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก 3CC

---

สรุป

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว ยุบบวมเร็ว และช่วยรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้นครับ แต่สำหรับบางข้อ ถามว่าห้ามเด็ดขาดเลยไหม ? เช่น การใช้หลอดดูดน้ำ การดื่มแอลกอฮอล์ หรือรับประทานอาหารบางประเภท ถ้าเผลอทำจะเป็นอะไรไหม ? จริง ๆ ไม่ได้อันตรายครับ เพียงแต่จะมีความเสี่ยงที่ทำให้เกิดการอักเสบ หรือเจ็บได้ แต่หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก 2 สัปดาห์ ฟิลเลอร์จะเข้าที่เต็มที่ อยู่ทรง ก็สามารถลดความระมัดระวังลง และใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติครับ

---

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ปัญหาหลังการฉีด filler ร่องแก้มแล้วมีอาการบวม สามารถเกิดขึ้นได้ปกติ แต่ก็มีอาการบวมแบบอื่น ๆ ที่คนไข้ควรรู้และระวังครับ สำหรับใครที่กังวล ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม บวมกี่วัน ? ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วแก้มบวมเกิดจากอะไร ? มีวิธีลดอาการบวมอย่างไร ? ทุกข้อสงสัยหมอจะมาตอบให้ในบทความนี้

สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม บวมกี่วัน

1. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มบวมกี่วันถึงจะกลับมาปกติ
2. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วบวม เกิดจากอะไร ?
3. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วบวม อาการเป็นอย่างไร ปกติไหม ?
4. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม มีวิธีป้องกันไม่ให้บวมไหม ?
5. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วบวมกับเป็นก้อน ต่างกันอย่างไร ?
6. วิธีปฏิบัติตัวเพื่อลดอาการบวมของร่องแก้มหลังฉีดฟิลเลอร์
7. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วบวมมีข้อห้ามอะไรบ้าง ?
8. รีวิวการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

---

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มบวมกี่วันถึงจะกลับมาปกติ

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม บวมกี่วัน ? หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม อาจมีอาการบวมเล็กน้อยจากรอยเข็ม ประมาณ 2-3 วัน เป็นเรื่องปกติ สามารถหายได้เองใน 7-14 วัน โดยอาการบวมจะค่อย ๆ ยุบลง และเนื้อฟิลเลอร์จะเริ่มเข้าที่ ผสานรวมกันเป็นเนื้อเดียวกับเนื้อเยื่อของผิว เห็นผลลัพธ์ชัดเจนเต็มที่ใน 2-3 สัปดาห์ครับ 

---

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วบวม เกิดจากอะไร ?

อาการแก้มบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การใช้ฟิลเลอร์ปลอม การแพ้ฟิลเลอร์ การติดเชื้อทางรูเข็ม แพทย์ขาดความรู้และประสบการณ์ ฉีดฟิลเลอร์ผิดตำแหน่ง ผิดชั้นผิว ใช้ปริมาณฟิลเลอร์เยอะเกินไป หรือเลือกชนิดของฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับบริเวณที่ฉีด 

---

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วบวม อาการเป็นอย่างไร ปกติไหม ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วบวม ถ้าเป็นอาการบวมที่เกิดจากรอยเข็ม หรือคลำบริเวณร่องแก้มแล้วรู้สึกเป็นก้อนลึก ๆ อยู่ใต้ผิว เวลายิ้มหรือแสดงสีหน้า ก้อนฟิลเลอร์ไม่ปรากฏขึ้นมาและมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ถือว่าเป็นอาการปกติหลังฉีดฟิลเลอร์ ไม่ต้องพบแพทย์ครับ

ส่วนอาการบวมที่ไม่ปกติหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม หมอจะแบ่งเป็น 2 กรณี ได้แก่

1. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วบวมเป็นก้อน จากการอักเสบ ติดเชื้อ

อาการบวมที่เกิดจากการอักเสบ ติดเชื้อหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม จะมีลักษณะเป็นก้อนบวมมากกว่าปกติ มีสีแดงคล้ำ บวมขึ้นเรื่อย ๆ หากกดจะรู้สึกเจ็บ และรู้สึกร้อนบริเวณผิวหนังที่ฉีดฟิลเลอร์มากกว่าบริเวณอื่น

2. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วบวมเป็นก้อน ที่ไม่ใช่การอักเสบ

อาการบวมเป็นก้อนหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ไม่อักเสบ จะสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าจากการแสดงสีหน้า หรือคลำแล้วรู้สึกเป็นก้อนนูนใต้ผิวชั้นตื้น ไม่เรียบเนียน หน้าดูไม่เป็นธรรมชาติ

หากคนไข้ฉีด filler ร่องแก้มแล้วมีอาการบวมในลักษณะดังกล่าว ถือเป็นอาการที่ไม่ปกติ จำเป็นต้องรีบไปพบแพทย์ เพื่อประเมินหาสาเหตุ และทำการแก้ไขครับ

---

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม มีวิธีป้องกันไม่ให้บวมไหม ?

วิธีการป้องกันปัญหาฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วบวม ก่อนฉีดคนไข้ต้องศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด ฉีดด้วยฟิลเลอร์แท้กับหมอที่มีประสบการณ์ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน โดยสามารถสังเกตได้ดังนี้ครับ

• คลินิกน่าเชื่อถือ เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลักแสดงไว้ให้เห็นชัดเจน บรรยากาศภายในคลินิกสว่าง สะอาด ปลอดภัย ไม่เสี่ยงติดเชื้อ
• แพทย์มีประสบการณ์ฉีดฟิลเลอร์ รู้เกี่ยวกับกายวิภาคบนใบหน้าและชนิดของฟิลเลอร์ที่นำมาฉีดเป็นอย่างดี สามารถคำนวณปริมาณฟิลเลอร์ให้เหมาะสมกับตำแหน่งที่ฉีด   
• ฟิลเลอร์ได้มาตรฐาน ผ่าน อย. ต้องเป็นสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid 100% สามารถตรวจสอบกับบริษัทนำเข้าได้ว่าเป็นของแท้  

ข้อควรรู้ : ก่อนฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้ง คนไข้ควรขอให้หมอแกะกล่อง แกะหลอดให้ดูต่อหน้า และสังเกตดูที่กล่องฟิลเลอร์ว่ามีฉลากภาษาไทยติดอยู่บนกล่องหรือไม่ หากเป็นฟิลเลอร์แท้ที่นำเข้าถูกต้องตามกฎหมาย จะมีราคาและวันหมดอายุระบุไว้ที่ข้างกล่องอย่างชัดเจนครับ  

---

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วบวมกับเป็นก้อน ต่างกันอย่างไร ?

• ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วบวม : อาการบวมเข็มหลังฉีดฟิลเลอร์ เป็นอาการปกติ สามารถหายได้เอง โดยจะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน หลังอาการบวมลดลง ต้องรอดูอาการประมาณ 3-4 สัปดาห์ เพื่อให้แน่ใจว่าฟิลเลอร์ที่ฉีดมานั้นเป็นอาการบวม หรือฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน
• ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อน : ลักษณะก้อนบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ เป็นอาการที่ไม่ปกติ ไม่สามารถหายได้เอง เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มผิดตำแหน่ง ฉีดในชั้นผิวที่ตื้นเกินไป ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มากองรวมกันเป็นก้อน ต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อฉีดสลายฟิลเลอร์ออกครับ   

---

วิธีปฏิบัติตัวเพื่อลดอาการบวมของร่องแก้มหลังฉีดฟิลเลอร์

วิธีลดอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

• ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในแต่ละเคสครับ เช่น การประคบเย็น ทำในบางกรณีเท่านั้น หากต้องประคบเย็นไม่ควรกดแรง
• หากมีอาการปวดจุดที่ฉีด คนไข้สามารถทานยาแก้ปวดได้ตามอาการครับ แต่หากหลังจาก 3 วัน ยังมีอาการปวดและบวมมากอยู่ สามารถติดต่อคลินิกเพื่อรับยาทานเพิ่มได้

---

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วบวมมีข้อห้ามอะไรบ้าง ?

ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

• ห้ามบีบ นวด กดบริเวณร่องแก้มที่ฉีดฟิลเลอร์ 
• อย่าขยับใบหน้าเยอะโดยเฉพาะในช่วง 3 วันหลังทำ อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง
• อยู่แต่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม.หลังทำ 
• งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เช่น RF Thermage ควรเว้นอย่างน้อย 1 เดือนหลังทำ
• งดอาหารหมักดอง อาหารดิบหรือกึ่งสุกกึ่งดิบ ในช่วง 2 สัปดาห์แรก เพราะอาจทำให้อักเสบได้

---

รีวิวการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ V Square Clinic ทีมแพทย์มีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้า ใช้ฟิลเลอร์แท้ แบรนด์ดังระดับโลก ฉีดด้วยเทคนิคเฉพาะของวี สแควร์ หมอมือเบา ช้ำน้อย บวมน้อย ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด มีการนัดติดตามผลหลังทำทุกเคสครับ  

ตัวอย่างเคสรีวิวฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

---

สรุป

สำหรับคนที่กังวลว่าฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม บวมกี่วัน หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม อาจมีอาการบวมบ้างจากรอยเข็มเป็นปกติ ให้หลีกเลี่ยงการแตะ กด หรือนวดในจุดนั้น ๆ อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน ส่วนในกรณีที่มีอาการบวมอักเสบ หรือเป็นก้อนนูน หมอแนะนำให้รีบเข้าพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและทำการแก้ไขครับ 

---

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ฟิลเลอร์ restylane ดีไหม

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane ถือเป็นฟิลเลอร์ตัวท็อปที่ไม่ใช่แค่คลินิกในไทย แต่หลายประเทศทั่วโลกเลือกใช้ครับ  เพราะฟิลเลอร์เรสเทอเรน เป็นฟิลเลอร์ยี่ห้อแรกของโลกที่ได้มีการนำ Hyaluronic Acid (ไฮยารูลอนิกแอซิด) มาใช้ในการเสริมความงาม แก้ไขปัญหารูปหน้า ลดริ้วรอย เติมเต็มร่องลึก ฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น

สำหรับใครที่ต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ฟิลเลอร์ restylane ดีไหม ? มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นเหมาะกับฉีดตำแหน่งไหน ? ต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร ? ฟิลเลอร์ restylane ของแท้ มีวิธีดูอย่างไร ? ฟิลเลอร์เรสเทอเรน ราคาเท่าไหร่ ? ทุกข้อสงสัยที่อยากรู้ หมอได้รวบรวมข้อมูลเพื่อเป็นข้อพิจารณาก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ครับ

สารบัญ ฟิลเลอร์ restylane ดีไหม

1. ฟิลเลอร์ restylane ดีไหม คืออะไร ?
2. ฟิลเลอร์ restylane ต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร ?
3. ฟิลเลอร์ restylane มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นอยู่ได้นานไหม ?
4. ฟิลเลอร์ restylane แต่ละรุ่นราคาเท่าไหร่ ?
5. ฟิลเลอร์ restylane มีข้อดีอย่างไร ?
6. ฟิลเลอร์ restylane ของแท้แต่ละรุ่น ดูอย่างไร ?
   • วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Vital Light
   • วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Perlane Lyft
   • วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Classic
   • วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Defyne
   • วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Refyne
   • วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Vital
   • วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Volyme
   • วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Kysse
7. ฟิลเลอร์ restylane แต่ละรุ่น เหมาะกับการฉีดตำแหน่งไหน ?
8. ข้อห้าม และข้อปฏิบัติในการฉีดฟิลเลอร์ restylane
   • ข้อปฏิบัติตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์
   • ข้อปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์
   • หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ?
9. ฟิลเลอร์ restylane ไม่เหมาะกับใคร ?
10. ฉีดฟิลเลอร์ restylane ที่ไหนดี ?

---

ฟิลเลอร์ restylane ดีไหม คืออะไร ?

ฟิลเลอร์ Restylane สวีเดน เป็นฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid (ไฮยารูลอนิกแอซิด) ยี่ห้อแรกของโลกที่ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับเสริมความงาม ผลิตโดยบริษัท Galderma บริษัทยาเจ้าใหญ่ ที่มีชื่อเสียงมานานกว่า 24 ปี ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากแพทย์ทั่วโลก ผ่านการรับรองว่าปลอดภัยจาก US FDA และ Thai FDA

ปัจจุบันฟิลเลอร์เรสเทอเรนมีด้วยทั้งหมด 8 รุ่นครับ แต่ละรุ่นจะมีเนื้อฟิลเลอร์ที่ต่างกันตามลักษณะของโมเลกุล มีทั้งฟิลเลอร์เนื้อแน่น ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม และฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ทำให้เหมาะสำหรับการแก้ปัญหาผิวหน้าได้ตรงจุด เหมาะกับทุกสภาพผิว

ทำไมฟิลเลอร์แต่ละรุ่นถึงมีเนื้อที่ต่างกัน ? แต่ละรุ่นอยู่ได้นานไหม ? ฉีดตำแหน่งไหน ? หมอจะอธิบายรายละเอียดในหัวข้อถัดไปครับ

---

ฟิลเลอร์ restylane ต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร ?

ฟิลเลอร์  Restylane ผลิตโดยใช้เทคโนโลยี NASHA Technology และ OBT Technology ที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ ทำให้ฟิลเลอร์แต่ละรุ่นมีเนื้อและคุณสมบัติที่หลากหลาย สามารถนำมาฉีดได้หลายตำแหน่งบนใบหน้า โดยเฉพาะฟิลเลอร์ restylane ใต้ตา ที่เป็นตำแหน่งยอดนิยม แก้ได้ทั้งปัญหาร่องลึกใต้ตาที่เกิดจากกระดูกทรุดตัวตามวัย ไปจนถึงริ้วรอยตื้น ๆ จากสภาพผิวแห้งกร้าน ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ผลลัพธ์เรียบเนียน ไม่เป็นก้อน

• NASHA Techology เป็นไฮยาลูรอนที่มีความคงตัว ปลอดภัย ป้องกันการแพ้ หลังฉีดจึงไม่ก่อให้เกิดการไหลไปตามบริเวณต่าง ๆ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว คงผลลัพธ์ได้นานประมาณ 6-18 เดือน รุ่นฟิลเลอร์ในกลุ่มนี้ เช่น Restylane perlane lyft, Restylane classic, Restylane vital light
• OBT Technology เป็นเทคโนโลยีที่ผลิตมาภายหลัง NASHA โดยจะเน้นในเรื่องของความยืดหยุ่น เนื้อเจลมีความคงตัว สามารถปรับรูปทรงได้หลากหลาย เหมาะสำหรับแก้ไขปัญหา และเติมเต็มในแต่ละจุดที่ต้องการอย่างเป็นธรรมชาติ รุ่นฟิลเลอร์ในกลุ่มนี้ เช่น Restylane volyme, Restylane defyne, Restylane refyne, Restylane kysse

---

ฟิลเลอร์ restylane มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นอยู่ได้นานไหม ?

ฟิลเลอร์ Restylane ที่ได้รับอนุญาตจาก อย. ไทย ปัจจุบันมีทั้งหมด 8 รุ่น และที่ V Square Clinic เลือกใช้ทั้งหมด 8 รุ่นครับ 

• Restylane Classic เนื้อแข็ง ออกแบบมาสำหรับแก้ปัญหาริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก เหมาะสำหรับคนผิวบาง ใช้เก็บรายละเอียดใต้ตาในผิวชั้นลึก อยู่ได้ 12 เดือน
• Restylane Perlane Lyft เนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง ไม่ฟู และสามารถคงรูปได้ดีที่สุด เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา จมูก คาง อยู่ได้นาน 12 เดือน
• Restylane Vital เนื้อละเอียด เจลอนุภาคเล็ก ให้ผลเรียบเนียน เป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา หน้าผาก อยู่ได้ 12 เดือน
• Restylane Vital Light เนื้อละเอียด เจลอนุภาคเล็ก เหมาะสำหรับฉีดเก็บรายละเอียดใต้ตาในผิวชั้นตื้น ปาก บำรุงผิวชุ่มชื้น (Skin booster) อยู่ได้ 6-12 เดือน  
• Restylane Refyne เนื้อนิ่ม มีลักษณะยืดหยุ่น ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยลึกที่เกิดจากการยิ้ม เน้นการเติมเต็มริ้วรอยเล็ก ๆ เหมาะสำหรับฉีดปาก ร่องแก้ม มุมปาก อยู่ได้ 12 เดือน
• Restylane Defyne เนื้อแข็ง เนื้อเจลมีความนิ่มปานกลางและยืดหยุ่นสูง ใช้ฉีดกระดูกที่ยุบตัวในผิวชั้นลึก เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา ปาก อยู่ได้ 18 เดือน
• Restylane Volyme เนื้อนิ่ม ใช้เติมชั้นผิวให้อิ่มฟูขึ้น เหมาะสำหรับฉีดปาก แก้มตอบ มุมปาก ร่องแก้ม อยู่ได้ 18 เดือน 
• Restylane Kysse เนื้อละเอียด แต่มีความคงตัว สร้างขอบริมฝีปากที่ชัดเจนให้ความชุ่มชื้นและความอวบอิ่ม ออกแบบมาสำหรับใช้เติมเต็มริมฝีปากโดยเฉพาะ อยู่ได้ 12 เดือน

---

ฟิลเลอร์ restylane แต่ละรุ่นราคาเท่าไหร่ ?

ฟิลเลอร์ Restylane ราคา ที่ V Square  Clinic จะต่างกันตามรุ่นที่เลือกใช้ โดยจะมีราคาดังนี้ครับ

• Restylane Perlane lyft 1 CC 12,500.- ปกติ 14,500.-
• Restylane Vital light 1 CC 12,000.- ปกติ 14,000.-
• Restylane Volyme 1 CC 14,000.- ปกติ 16,000.-
• Restylane Defyne 1 CC 1 CC 14,000.- ปกติ 16,000.-
• Restylane Refyne 1 CC 12,000.-
• Restylane Vital 1 CC 16,900.- 
• Restylane Classic 1 CC 9,900.- ปกติ 14,000.-
• Restylane Kysse 1 CC 14,900.- ปกติ 18,000.-

---

ฟิลเลอร์ restylane มีข้อดีอย่างไร ?

• เป็นฟิลเลอร์ที่นิยมใช้มากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก ได้รับมาตรฐานความปลอดภัย FDA จากสหรัฐอเมริกา CE marks จากยุโรป และ อย. ไทย
• มีหลายรุ่นให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมในแต่ละปัญหาผิว 
• ในเนื้อฟิลเลอร์ Restylane ทุกรุ่นจะมีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) เพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บขณะฉีด  
• เนื้อฟิลเลอร์มีหลายขนาดโมเลกุล ทั้งเล็ก ปานกลาง ใหญ่ ทำให้สามารถนำมาฉีดได้หลายตำแหน่งบนใบหน้า ฉีดปรับสภาพผิว เติมเต็มหลุมสิว รวมถึงฉีดแก้ปัญหามือเหี่ยว ลดรอยย่นบริเวณลำคอ
• เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่น และคงตัวสูง สามารถปรับรูปทรงได้หลากหลาย ฟิลเลอร์ไม่ไหลไปในบริเวณที่ไม่ต้องการ
• ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว คงสภาพอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน

---

ฟิลเลอร์ restylane ของแท้แต่ละรุ่น ดูอย่างไร ?

วิธีดูฟิลเลอร์ restylane ของแท้แต่ละรุ่น มีจุดสังเกตดังนี้ครับ

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Vital Light

• มีรอยปรุสำหรับเปิดกล่อง
• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• มีสติกเกอร์ โมโนแกรม คำว่า “VOID”
• เลข lot. ตรงกัน 2 จุดคือ
  • เลข lot. ที่ข้างกล่อง
  • เลข lot. ที่หลอด
• สแกน QR CODE ด้วยแอปพลิเคชัน Eztracker เพื่อตรวจสอบยาแท้
• สามารถสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 023 1800 ต่อ 402

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Perlane Lyft

• มีรอยปรุสำหรับเปิดกล่อง
• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• มีสติกเกอร์ โมโนแกรม คำว่า “VOID”
• เลข lot. ตรงกัน 2 จุดคือ
  • เลข lot. ที่ข้างกล่อง
  • เลข lot. ที่หลอด
• สแกน QR CODE ด้วยแอปพลิเคชัน Eztracker เพื่อตรวจสอบยาแท้
• สามารถสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 023 1800 ต่อ 402

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Classic

• มีรอยปรุสำหรับเปิดกล่อง
• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• มีสติกเกอร์ โมโนแกรม คำว่า “VOID”
• เลข lot. ตรงกัน 2 จุดคือ
  • เลข lot. ที่ข้างกล่อง
  • เลข lot. ที่หลอด
• สแกน QR CODE ด้วยแอปพลิเคชัน Eztracker เพื่อตรวจสอบยาแท้
• สามารถสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 023 1800 ต่อ 402

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Defyne

• มีรอยปรุสำหรับเปิดกล่อง
• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• มีสติกเกอร์ โมโนแกรม คำว่า “VOID”
• เลข lot. ตรงกัน 2 จุดคือ
  • เลข lot. ที่ข้างกล่อง
  • เลข lot. ที่หลอด
• สแกน QR CODE ด้วยแอปพลิเคชัน Eztracker เพื่อตรวจสอบยาแท้
• สามารถสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 023 1800 ต่อ 402

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Refyne

• มีรอยปรุสำหรับเปิดกล่อง
• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• มีสติกเกอร์ โมโนแกรม คำว่า “VOID”
• เลข lot. ตรงกัน 2 จุดคือ
  • เลข lot. ที่ข้างกล่อง
  • เลข lot. ที่หลอด
• สแกน QR CODE ด้วยแอปพลิเคชัน Eztracker เพื่อตรวจสอบยาแท้
• สามารถสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 023 1800 ต่อ 402

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Vital

• มีรอยปรุสำหรับเปิดกล่อง
• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• มีสติกเกอร์ โมโนแกรม คำว่า “VOID”
• เลข lot. ตรงกัน 2 จุดคือ
  • เลข lot. ที่ข้างกล่อง
  • เลข lot. ที่หลอด
• สแกน QR CODE ด้วยแอปพลิเคชัน Eztracker เพื่อตรวจสอบยาแท้
• สามารถสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 023 1800 ต่อ 402

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Volyme

• มีรอยปรุสำหรับเปิดกล่อง
• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• มีสติกเกอร์ โมโนแกรม คำว่า “VOID”
• เลข lot. ตรงกัน 2 จุดคือ
  • เลข lot. ที่ข้างกล่อง
  • เลข lot. ที่หลอด
• สแกน QR CODE ด้วยแอปพลิเคชัน Eztracker เพื่อตรวจสอบยาแท้
• สามารถสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 023 1800 ต่อ 402

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Kysse

• มีรอยปรุสำหรับเปิดกล่อง
• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• มีสติกเกอร์ โมโนแกรม คำว่า “VOID”
• เลข lot. ตรงกัน 2 จุดคือ
  • เลข lot. ที่ข้างกล่อง
  • เลข lot. ที่หลอด
• สแกน QR CODE ด้วยแอปพลิเคชัน Eztracker เพื่อตรวจสอบยาแท้
• สามารถสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 023 1800 ต่อ 402

---

ฟิลเลอร์ restylane แต่ละรุ่น เหมาะกับการฉีดตำแหน่งไหน ?

ฟิลเลอร์ Restylane Volyme

ฟิลเลอร์ Restylane Vital Light

ฟิลเลอร์ Restylane Vital

ฟิลเลอร์ Restylane Refyne

ฟิลเลอร์ Restylane Perlane lyft

ฟิลเลอร์ Restylane Kysse

ฟิลเลอร์ Restylane Defyne

ฟิลเลอร์ Restylane Classic

---

ข้อห้าม และข้อปฏิบัติในการฉีดฟิลเลอร์ restylane

ข้อปฏิบัติตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ 1 อาทิตย์

• ก่อนฉีดฟิลเลอร์ restylane ควรงดยาและวิตามินที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, NSAIDs, ibuprofen, diclofenac, ponstan งดวิตามิน St. John’s Wort, ginkgo biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E 
• งดการใช้ยาที่มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิว เช่น tretinoin, (เรตินเอ), retinols(เรตินอล), retinoids (เรตินอยด์) BHA, AHA ก่อนฉีดฟิลเลอร์ 3 วัน
• งดดึงขน โกนขน หรือแวกซ์ขนในบริเวณดังกล่าวก่อนฉีด filler อย่างน้อย 3 วัน  
• งดเลเซอร์หน้า นวดหน้า อย่างน้อย 3 วัน
• หากมีโรคประจำตัว หรือมียาที่รับประทานเป็นประจำ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนฉีดฟิลเลอร์

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ 24 ชั่วโมง

• งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ 
• งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น ออกกำลังกายหนัก ๆ อบซาวน่า
• ในกรณีที่คนไข้มียาที่ต้องกินประจำ แพทย์จะพิจารณาให้ทานยาห้ามเลือดหรือยาลดบวมตามความเหมาะสมในแต่ละเคส เพื่อลดการบวมช้ำจากรอยเข็ม 
• สามารถแต่งหน้า ทาครีมบำรุงได้ตามปกติ 
• ก่อนฉีดฟิลเลอร์จะมีการคลีนหน้า เพื่อแปะยาชา และรอยาชาออกฤทธิ์ประมาณ 30-45 นาที

ข้อปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์

• หลังฉีดฟิลเลอร์ restylane ทันที ควรงดสัมผัสบริเวณที่ฉีด เช่น กด นวด บีบ หรือขยับผิวในจุดนั้นมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้ตัวฟิลเลอร์เกิดการเคลื่อนไปยังจุดอื่นได้
• ในช่วง 1 เดือนแรก ควรงดการทำเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด และหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งอย่างน้อย 48 ชั่วโมง เช่น การทำซาวน่า ตากแดด ออกกำลังกายหนัก
• งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ เพราะอาจทำให้เกิดการยุบบวมช้าหรืออักเสบได้
• 2-3 คืนแรก ควรนอนหมอนสูงกว่าระดับหน้าอก งดนอนตะแคง
• งดการทานอาหารที่ส่งผลต่อการยุบบวมของฟิลเลอร์ เป็นเวลา 14 วัน

หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ?

• หลังฉีดฟิลเลอร์ในช่วง 2 สัปดาห์แรก ควรงดอาหารหมักดอง อาหารแปรรูป เช่น ผลไม้ดอง ผักดอง ปลาร้า กุ้งดอง
• อาหารที่มีรสเค็ม หรืออาหารที่มีโซเดียมสูงจะดูดน้ำจากร่างกาย อาจทำให้ฟิลเลอร์ยุบบวมช้าลง ตัวบวมน้ำได้ง่ายขึ้น รวมถึงอาหารที่มีรสหวาน รสเผ็ดมาก ๆ ที่ทำให้หน้าแดง
• อาหารร้อน ที่ต้องนั่งหน้าเตาเป็นเวลานาน เช่น หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู  รวมไปถึงเครื่องดื่มร้อน ๆ
• อาหารดิบที่ไม่ผ่านการปรุงสุก หรืออาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เช่น อาหารทะเล แซลมอน ซาซิมิ หอยสด ไข่ลวก เนื้อที่ปรุงไม่สุก
• เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้หลอดเลือดขยายตัว มีเลือดมาสูบฉีดมากขึ้น อาจส่งผลให้เกิดอาการบวมจากรอยเข็มหายช้าลง และทำให้ฟิลเลอร์สลายไวขึ้นครับ  หมอแนะนำให้งดไปก่อน 14 วัน หรือถ้าหากใครที่เลี่ยงไม่ได้ก็ควรเว้นระยะ 2-3 วันครับ

---

ฟิลเลอร์ restylane ไม่เหมาะกับใคร ?

• คนที่มีผิวติดเชื้อ ผิวอักเสบในบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์
• ผู้ที่มีประวัติแพ้ฟิลเลอร์ หรือแพ้สารไฮยาลูรอนิกแอซิด รวมถึงผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชา ควรแจ้งแพทย์ก่อนทุกครั้ง
• สตรีมีครรภ์ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ สำหรับผู้ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนฉีด
• ผู้ที่มีปัญหาเลือดออกแล้วหยุดยาก มีแผลฟกช้ำง่าย โดยเฉพาะผู้ที่กำลังรับประทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน (ASA), ยาแก้อักเสบปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ (NSAIDS), ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด (Warfarin), วิตามินอี (Vitamin E), สารสกัดจากใบแปะก๊วย (Ginkgo biloba) เป็นต้น แต่สามารถฉีดได้ในบางกรณี จึงจำเป็นต้องหยุดยาก่อนฉีด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการหยุดยา
• กรณีที่เป็นเริม หรืองูสวัดอยู่ ควรหลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์ เพราะอาจทำให้อาการกำเริบมากขึ้นได้ครับ

---

ฉีดฟิลเลอร์ restylane ที่ไหนดี ?

• เลือกคลินิกได้มาตรฐาน ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง มีใบอนุญาตประกอบการจากกระทรวงสาธารณสุข ติดแบบแสดงรูปถ่ายและรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพในคลินิก สะอาด ปลอดภัย
• แพทย์ที่ทำหัตถการจะต้องมีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์และปรับรูปหน้า และต้องเป็นแพทย์จริง โดยสามารถตรวจสอบจากชื่อ-นามสกุลของแพทย์ท่านนั้น คนไข้สามารถตรวจสอบข้อมูลบนเว็บไซต์ของแพทยสภาได้ ที่นี่
• ใช้ฟิลเลอร์ Restylane แท้ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจาก อย. ปลอดภัย นำเข้าและเก็บรักษาอย่างถูกต้อง สามารถตรวจสอบเลข Lot. ได้ โดยก่อนฉีดควรให้แพทย์แกะกล่อง และหลอดฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า และหลังฉีดฟิลเลอร์ ควรเก็บกล่องและหลอดฟิลเลอร์กลับบ้าน เพื่อตรวจสอบว่าเป็นฟิลเลอร์แท้จริง ๆ ครับ 
• มีรีวิวจากแหล่งที่เป็นกลาง เชื่อถือได้ และไม่สามารถลบออกได้ เช่น รีวิวติดดาวบน Facebook Fanpage, Pantip Review, Google Maps และต้องเป็นรีวิวที่อัปเดตเป็นปัจจุบัน ซึ่งจะแสดงถึงความนิยม มีผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

---

สรุป

ฟิลเลอร์ Restylane ดีไหม ? ฟิลเลอร์เรสเทอเรน เป็นฟิลเลอร์อีกหนึ่งยี่ห้อที่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างครอบคลุม ตรงจุด ช่วยลดริ้วรอย และเติมเต็มร่องลึกที่แก้ได้ยาก ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ

หากคนไข้ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ดี ก่อนฉีดควรให้แพทย์ที่มีประสบการณ์ประเมินปัญหาใบหน้า สภาพผิว เพื่อเลือกรุ่นที่เหมาะกับคนไข้แต่ละเคสมากที่สุดครับ

---

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ฟิลเลอร์ใต้ตา 

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร แก้ปัญหาอะไรได้บ้าง มีปัญหาใต้ตาดำ ตาโหล ตาคล้ำ การฉีดฟิลเลอร์ช่วยได้หรือไม่ ฟิลเลอร์ฉีดถุงใต้ตาได้ไหม หลังฉีดอยู่ได้นานไหม ต้องใช้ยี่ห้อไหนดีถึงคุ้มค่า ราคาเท่าไร ฉีดที่ไหนดี  รวมถึง Filler แท้จริงแล้ว ปลอดภัยแค่ไหน ในบทความนี้ หมอได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้พร้อมตัวอย่างรีวิวจากเคสจริงที่เคยเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามาแนะนำครับ

สารบัญ ฟิลเลอร์ใต้ตา 

• ฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร ? 
• ฟิลเลอร์ใต้ตา ข้อดี ข้อเสีย
• ฟิลเลอร์ใต้ตากี่ cc 
• ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานไหม กี่เดือน ?
• ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเห็นผล ?
• รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา
• ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ?
  • ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Restylane
  • ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Juvederm 
  • ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Belotero 
  • วิธีการแยกฟิลเลอร์ใต้ตาของแท้กับของปลอม
• ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม ?
• ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บวมกี่วัน ?
• ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน
• ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เจ็บไหม ?
• ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ?
• ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาโปรโมชั่น
• ขูด ฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตา
• ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

---

ฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร ? 

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การเติมสารไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid)  เข้าไปในบริเวณใต้ตาเพื่อแก้ปัญหาใต้ตาดำคล้ำ ถุงใต้ตา ใต้ตาลึก ตาโหล ขอบตาลึก ฉีดเติมเต็มร่องลึกใต้ตา และรอยย่นรอบดวงตาจะดูดีขึ้นอย่างชัดเจน ช่วยให้ใบหน้ากลับมาสดใส อ่อนเยาว์อีกครั้งครับ  

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะต้องใช้เทคนิค และประสบการณ์ในการฉีดของแพทย์ รวมถึงความละเอียดประณีต เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ใต้ตาดูเต็ม ไม่แข็ง

ปัจจุบันการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หรือ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคล้ำ ได้รับความนิยมมากครับ เพราะเป็นหัตถการที่สามารถแก้ปัญหาใต้ตาได้จากหลายสาเหตุ และหลังฉีดยังสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที คนไข้ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น เพราะไม่มีบาดแผล หรือรอยแผล 

อีกทั้งปัญหาใต้ตาเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย ๆ ทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดยเฉพาะผู้ที่อายุ 25 ปี ขึ้นไป เนื่องจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นกระดูกจะยุบตัวลง เนื้อน้อยลง ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย หน้าดูโทรม อ่อนล้า เกิดเป็นร่องรอยใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูโทรม แก่กว่าวัย ดูมีอายุ ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างตรงจุด

ในเคสที่มีปัญหาตาโหล ตาลึกมาก ๆ วิธีแก้ปัญหาตาโหล หมอจะฉีดฟิลเลอร์เปลือกตา โดยจะฉีด Filler เปลือกตาบน เพื่อทดแทนไขมันที่หายไป เหมาะกับคนไข้ที่หนังตาบนไม่หย่อน หลังทำดูเป็นธรรมชาติครับ

---

ฟิลเลอร์ใต้ตา ข้อดี – ข้อเสีย 

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีทั้งข้อดีและข้อเสียดังนี้ 

• ข้อดี ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
  • ช่วยแก้ปัญหาบริเวณใต้ตาได้หลากหลาย เช่น ปัญหาใต้ตาคล้ำ ร่องตาลึก ถุงใต้ตา แก้ตาโหลได้อย่างเห็นผล สามารถเติมเต็มใต้ตา แก้ไขริ้วรอย ความหย่อนคล้อยใต้ตา
  • ฉีดเติมเต็มใต้ตาคล้ำ สามารถทำทั้งผู้ชาย ผู้หญิง ทั้งสาเหตุจากโรคภูมิแพ้และการพักผ่อนไม่เพียงพอ
  • หลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็น เพราะไม่ใช่การผ่าตัด จึงเหมาะกับคนที่ไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากพักฟื้นนาน 
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันที ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
  • การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ เพื่อให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น  Hifu  ร้อยไหม โบท็อก เป็นต้น 

• ข้อเสีย ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา ไม่สามารถอยู่ได้ถาวร เนื้อฟิลเลอร์จะสลายไปตามระยะเวลาของแต่ละยี่ห้อ ไม่มีสารตกค้าง
  • หากไม่ระวังเจอคลินิกเถื่อนที่ใช้ฟิลเลอร์ปลอมมาฉีด อาจเกิดอันตรายได้ เช่น เนื้อตาย ตาบอด (เพื่อฉีดโดนเส้นเลือดสำคัญ)
  • หากแพทย์ที่ฉีดไม่มีประสบการณ์ เลือกเนื้อฟิลเลอร์และฉีดด้วยเทคนิคที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้ผลออกมาไม่เป็นธรรมชาติหรือเป็นก้อนได้

---

ฟิลเลอร์ใต้ตากี่ cc ?

โดยทั่วไปการฉีดฟิลเลอร์ใต้จะใช้ปริมาณฟิลเลอร์ อยู่ที่ 2-4 cc  ก็สามารถเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนได้แล้ว ในแต่ละเคสอาจใช้ปริมาณฟิลเลอร์ต่างกัน โดยหมอจะเป็นคนประเมินว่าแต่ละเคสต้อง เติมฟิลเลอร์ใต้ตา กี่ CC ครับ ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล  ตัวอย่างเช่น ในคนที่มีปัญหากระดูกใต้ตามีการยุบตัวมาก ๆ ใต้ตาลึก หรือคนไข้ที่อายุเยอะมาก ๆ หมออาจพิจารณาใช้ฟิลเลอร์มากขึ้นโดยดูเป็นเคส ๆ ไป 

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากี่ CC เห็นผล

---

ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานไหม กี่เดือน ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ  6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ รวมถึงการดูแลตัวเองของคนไข้ร่วมด้วย โดยหลังฉีดฟิลเลอร์ หากคนไข้สามารถหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ฟิลเลอร์สลายได้เร็ว ก็จะช่วยรักษาฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นานขึ้นครับ 

---

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากี่วันเห็นผล ?

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์คือ สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ โดยหลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ก็สามารถเห็นผลได้ทันทีเช่นกัน ใต้ตาดูตื้นขึ้น ดูสดใสมากขึ้น และประมาณ 4-5 วันก็จะเริ่มเข้าที่มากขึ้นเรื่อย และจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนช่วง 2-3 สัปดาห์ครับ

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากี่วันเห็นผล

---

รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา

ตัวอย่างรีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 2 cc

ตัวอย่างรีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 3 cc

ตัวอย่างรีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาร่วมกับหัตถการอื่น ๆ

---

ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี ?

การ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นบริเวณที่ต้องพิถีพิถันในการฉีด ผิวหนังใต้ตาค่อนข้างบางจึงควรเลือกใช้ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ไม่ทำให้ผิวฟูมากจนเกินไป เพราะฉีดแล้วทำให้ตาดูบวม ไม่เป็นธรรมชาติครับ

โดยแบรนด์ฟิลเลอร์ที่หมอแนะนำสำหรับฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ได้แก่ Restylane, Juvederm และ Belotero เพราะฉีดแล้วคงรูป ไม่ฟูเยอะ มีให้เลือกหลายรุ่นตามความเหมาะสมของแต่ละลักษณะผิวของแต่ละบุคคล ดังนี้ 

ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Restylane

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดน ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากแพทย์ทั่วโลก และผ่านการรับรองจาก FDA  มีจุดเด่นอยู่ที่ 2 เทคโนโลยี  คือ NASHA techology และ OBT technology ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ Restylane โดยจะทำฟิลเลอร์ให้เป็นเม็ดละเอียด (particle) เพื่อให้ได้เนื้อ Filler ที่มีค่า Elasticity สูงที่สุด สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เน้นในเรื่องของความยืดหยุ่น และสามารถปรับรูปทรงได้หลากหลาย 

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane ที่เหมาะกับการฉีดบริเวณใต้ตา ได้แก่ 

1. Restylane รุ่น  Defyne อยู่ได้ 18 เดือน
2. Restylane รุ่น Perlane Lyft  อยู่ได้ 12 เดือน 
3. Restylane รุ่น Vital Light อยู่ได้ 6 – 12 เดือน
4. Restylane รุ่น Vital อยู่ได้ 12 เดือน
5. Restylane  รุ่น Classic  อยู่ได้ 12 เดือน

ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Juvederm 

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm เป็นฟิลเลอร์จากประเทศอเมริกา ได้รับความนิยมจากแพทย์ทั่วโลกในการนำมาใช้ปรับรูปหน้าและเติมเต็มผิว โดยในแต่ละรุ่นจะมีเนื้อฟิลเลอร์และคุณสมบัติเด่นแตกต่างกัน 

จุดเด่นของยี่ห้อ Juvederm คือมีเทคโนโลยี Vycross และ Hylacross โดย เทคโนโลยี Vycross เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะที่มีความพิเศษ คือมีความคงตัว มีโมเลกุลยึดเกาะเหนียวแน่นขึ้น ช่วยยกกระชับได้ดีและมีความเป็นธรรมชาติมาก นอกจากนี้ ในเนื้อฟิลเลอร์จะมี Crosslink (จำนวนการเชื่อมพันธะ) ยิ่งมีเยอะก็จะอยู่ได้นานขึ้น สลายช้าลง อุ้มน้ำน้อยลง ทำให้ฉีดแล้วไม่ฟูมากเหมาะกับผิวบริเวณที่ขยับบ่อย ๆ 

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm ที่เหมาะกับการฉีดบริเวณใต้ตา ได้แก่ 

1. Juvederm รุ่น Volite อยู่ได้ 8-12 เดือน
2. Juvederm รุ่น Voluma อยู่ได้ 18 เดือน
3. Juvederm รุ่น Volux  อยู่ได้ 18-24 เดือน

ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Belotero 

Belotero เป็นยี่ห้อฟิลเลอร์แท้ จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผ่านการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องโดย อย. สหรัฐอเมริกา ยุโรปและไทย มีให้เลือกหลายรุ่น เพื่อให้เหมาะกับการฉีดแต่ละจุด สำหรับบริเวณใต้ตา หมอแนะนำฟิลเลอร์ที่มีความ มีความยืดหยุ่นและคงตัว สามารถใช้แก้ปัญหาใต้ตาจากสาเหตุการทรุดตัวของกระดูก และสามารถฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก เพื่อให้โครงสร้างใบหน้าได้สัดส่วน ดูอ่อนเยาว์มากขึ้นได้ 

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero ที่เหมาะกับการฉีดบริเวณใต้ตา ได้แก่ 

1. Belotero รุ่น  Volume อยู่ได้ 18 เดือน
2. Belotero รุ่น  Soft  อยู่ได้ 6-12 เดือน 
3. Belotero รุ่น  Revive  อยู่ได้ 6-9 เดือน

ในกรณีที่สงสัยว่าฟิลเลอร์ใต้ตาที่ดีที่สุดควรเลือกฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี เบื้องต้นหมอต้องประเมินปัญหา สภาพผิว ถึงจะแนะนำยี่ห้อและรุ่นที่เหมาะสมกับปัญหาและความต้องการของคนไข้ได้ครับ

---

วิธีการแยกฟิลเลอร์ใต้ตาของแท้ กับของปลอม

เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์เป็นที่นิยม จึงมีการลักลอบนำฟิลเลอร์มาใช้ เพราะต้นทุนราคาต่ำ สามารถนำมาฉีดในราคาถูก ๆ ได้ครับ  โดยเฉพาะในคลินิกเสริมความงามที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงหมอกระเป๋าที่ยังให้บริการตามบ้าน มักใช้ฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ผ่านการรับรองจาก อย. ทำให้หลายคนตัดสินใจผิดพลาดและหลงฉีดฟิลเลอร์ปลอมโดยไม่รู้ตัว ซึ่งแน่นอนว่ามีความเสี่ยง และอาจเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายตามมาหลังฉีด 

เพื่อความปลอดภัย ควรใช้ฟิลเลอร์แท้ (HA) ที่สามารถย่อยสลายได้เอง 100% ภายในระยะเวลา 1-2 ปี และต้องเลือกยี่ห้อที่ได้มาตรฐานผ่าน อย. ใครที่สนใจและวางแผนฉีดฟิลเลอร์ควรศึกษาวิธีการดูฟิลเลอร์แท้ ยี่ห้อต่าง ๆ โดยสังเกตดูที่กล่องฟิลเลอร์ จะมีฉลากภาษาไทยติดอยู่บนกล่อง พร้อมกับมีราคาระบุ และมีวันหมดอายุระบุอยู่ข้างกล่อง สามารถสังเกตได้อย่างชัดเจน

ตัวอย่างวิธีดูฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane ของแท้

• กล่องต้องปิดผนึกเรียบร้อย ที่กล่องมีรอยปรุที่ต้องทำการฉีกออกก่อน จึงจะสามารถเปิดกล่องได้
• มีราคาระบุ มีวันหมดอายุชัดเจน
• มีป้ายภาษาไทยที่ข้างกล่อง และภายในกล่องจะมีเอกสารกำกับเป็นภาษาไทยบรรจุอยู่
• มีสติกเกอร์ โมโนแกรม Restylane GALDERMA แปะอยู่บนตัวกล่อง
• มีเลขล็อตสินค้า (lot number) ติดอยู่  โดยที่ระบุตรงกันทั้ง 2 จุด คือ
• เลข lot. ที่ข้างกล่อง
• เลข lot. ที่หลอด

ตัวอย่างวิธีดูฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm ของแท้

• กล่องต้องปิดผนึกแน่นหนา ไม่ผ่านการโดนแกะมาก่อน
• มีชื่อยี่ห้อและรุ่นระบุที่กล่องชัดเจน และสะกดถูกต้องทุกตัวอักษร
• ต้องมีฉลากพิเศษ ระบุว่า ยาควบคุมพิเศษ ใช้เฉพาะสถานพยาบาลเท่านั้น
• ชื่อบริษัทที่นำเข้า (Imported by) อย่างชัดเจน
• มีเลขล็อตสินค้า (lot number) ติดอยู่ โดยที่ระบุตรงกันทั้ง 4 จุด คือ
  1. เลข lot ที่กล่อง
  2. เลข lot ที่ซอง
  3. เลข lot ที่สติกเกอร์
  4. เลข lot ที่หลอด

ตัวอย่างวิธีดูฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero ของแท้

• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• กล่องมี 1 cc และเลข lot ต้องตรงกัน 3 จุด คือ
  1. เลข lot ที่กล่อง
  2. เลข lot ที่สติกเกอร์
  3. เลข lot ที่หลอด
• สามารถโทรเช็คเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์ โทร.02 026 1111

หมอไม่แนะนำสั่งซื้อฟิลเลอร์จากอินเทอร์เน็ตมาใช้ หรือนำมาให้หมอกระเป๋าหรือบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ทำการฉีดให้เด็ดขาดครับ เพราะฟิลเลอร์ที่สามารถหาซื้อหาได้ง่ายจากอินเทอร์เน็ต ไม่มีการันตีความปลอดภัย เบื้องต้นให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจเป็นของปลอม  

นอกจากนี้ฟิลเลอร์ยังเป็นสารควบคุม ต้องเก็บรักษาอย่างเหมาะสมเพื่อรักษาคุณภาพ และโดยปกติแพทย์จะไม่ยอมฉีดสารที่คนไข้นำมาเองเด็ดขาดครับ เพื่อความปลอดภัยของคนไข้ และป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น

ควรใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น โดยฟิลเลอร์แท้ Hyaluronic Acid สามารถฉีดให้สลายด้วยเอ็นไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) ได้ 100% เมื่อคนไข้ได้รับการฉีดสลายแล้ว ฟิลเลอร์จะเกิดการยุบตัวลง และละลายเป็นน้ำซึมไปตามผิวหนังได้เองทันที โดยไม่ตกค้างและไม่มีอันตราย

---

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม ? 

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้ฟิลเลอร์แท้ มีความปลอดภัยสูงครับ สำหรับคนที่กลัว หรือมีความกังวลต่อการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพราะเคยเห็นข่าว หรือเคยอ่านข่าวมา ว่าฉีดแล้วตาบอด 

หากดูข้อมูลมูลอย่างละเอียดละเอียดจะพบว่า ปัญหามาจากการใช้ฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงฉีดกับหมอที่ไม่มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ หมอเถื่อนที่ไม่มีความรู้ ทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการฉีดฟิลเลอร์เข้าหลอดเลือด ทำให้เกิดการอุดตัน เป็นผลทำให้ตาบอดครับ

ขอเน้นย้ำว่าถ้าฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาด้วยฟิลเลอร์ของแท้ ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน และแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง โอกาสเกิดอันตรายหรือผลที่ไม่พึงประสงค์ก็มีน้อยมากครับ  

---

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบวมกี่วัน ?

หลังฉีดฟิตฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถเกิดอาการบวมได้ครับ ถือเป็นเรื่องปกติครับ สาเหตุจากการที่เข็มเข้าไปในผิว เรียกว่าอาการบวมเข็มครับ สามารถหายได้เอง เฉลี่ยอยู่ที่ 3-7 วัน มักมีอาการบวมแดง เขียวช้ำเล็กน้อย หรือคันได้ โดยเฉพาะคนผิวขาว ผิวบาง แนะนำให้หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกา หรือกดนวดในจุดนั้น ๆ และระวังการขยับใบหน้าเยอะ ๆ 

---

ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน  กรณีนี้สามารถพบได้ครับ โดยต้องแยกเป็น 2 กรณี คือ 1.ต้องดูว่าเป็นอาการบวมในช่วงแรกหรือ 2.ฟิลเลอร์เป็นก้อนจริง ๆ โดยหลังฉีดฟิลเลอร์ อาการบวมสามารถเกิดขึ้นได้เป็นปกติ คลำแล้วอาจพบว่าเป็นไตหรือเป็นก้อนได้ อาการบวมเข็มจะค่อย ๆ ดีขึ้นและฟิลเลอร์เข้าที่เต็มที่ ใช้เวลา 7 – 14 วันครับ

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน เกิดจากอะไร

ถ้าหลัง 14 วันยังพบว่าฟิลเลอร์เป็นก้อนอยู่ ต้องดูอีกครั้งว่าใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้ออะไร รุ่นไหน เป็นฟิลเลอร์ของแท้ที่มีมาตรฐานหรือไม่ ฝีมือ เทคนิคการฉีดของแพทย์ หมอฉีดตื้นเกินไปหรือไม่  รวมถึงการปฏิบัติตัวของคนไข้หลังฉีด แต่ถ้าหากใช้ฟิลเลอร์แท้ก็สามารถแก้ไขได้ครับ แต่ถ้าเป็นฟิลเลอร์ปลอมต้องแก้ไขด้วยการขูดหรือผ่าตัดออกเท่านั้น

ตัวอย่าง คลิปการฉีดสลายฟิลเลอร์

---

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเจ็บไหม ? 

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นหัตถการที่คนไข้หลาย ๆ คนกลัว เพราะบริเวณที่ฉีดอยู่ใกล้ดวงตา จึงกลัวเจ็บ ซึ่งในขั้นตอนก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แพทย์จะทายาชาที่ใต้ตาในบริเวณจะฉีด ทำให้ความเจ็บขณะฉีดลดน้อยลงครับ ในระหว่างฉีดคนไข้จะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และใช้เวลาฉีดเพียงไม่นาน จึงไม่ต้องกังวลกับความเจ็บครับ 

---

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ?  

เพื่อให้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม แก้ปัญหาตรงจุด และมีความปลอดภัย ก่อนตัดสินใจที่จะเลือกว่า ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ควรศึกษาข้อมูลของแต่ละคลินิกอย่างละเอียด โดยสิ่งที่ควรตรวจสอบ มีดังนี้

• เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ : มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง และมีการแสดงภาพถ่าย ชื่อ และเลขที่ใบอนุญาตของผู้ประกอบการ ไว้ในที่เห็นได้ชัดเจน มีป้ายรายชื่อผู้ประกอบวิชาชีพในคลินิกติดไว้ในที่เปิดเผยและผู้ทำการรักษาต้องเป็นคนเดียวกับป้ายที่ติดไว้ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเจอหมอเถื่อน ฟิลเลอร์ปลอม ที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงความเสี่ยงต่อการอักเสบติดเชื้อ
• แพทย์มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ : หมอที่ชำนาญจะมีเทคนิคที่เหมาะสม ประเมินการใช้ฟิลเลอร์ เลือกยี่ห้อและรุ่นที่เหมาะสม สามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด ผลลัพธ์ที่ได้จึงดูสวยงามเป็นธรรมชาติ และมีความปลอดภัยครับ 
• คลินิกสะอาด ปลอดภัย: สถานที่ตั้งของคลินิกควรอยู่ในแหล่งที่ปลอดภัย เดินทางสะดวก มองเห็นได้ง่าย ไม่แออัดหลบมุม ควรอยู่ในย่านธุรกิจและอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า หรือบริเวณที่มีคนผ่านเยอะในแต่ละวัน 
• ให้ข้อมูลครบถ้วน ไม่ปกปิด : คลินิกควรมีการให้ข้อมูลก่อนตัดสินใจอย่างละเอียดตรงไปตรงมา ผลการรักษาที่คาดหวัง ราคาค่าใช้จ่าย ทั้งจากตัวหมอและเจ้าหน้าที่ประจำคลินิก
• มีรีวิวจากคนไข้จริง : ที่เคยเข้ามาใช้บริการ แนะนำดูรีวิวที่เป็นกลาง เช่น Facebook, Pantip อย่าดูเฉพาะรีวิวที่มาจากคลินิกนั้น ๆ โดยตรงเพียงอย่างเดียว

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี

---

ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาโปรโมชั่น

ที่ V Square Clinic มีฟิลเลอร์ใต้ตาถึง 14 รุ่นให้เลือกใช้ครับ เพื่อตอบโจทย์ทุกปัญหาใต้ตาของแต่ละคน ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัย สวยงามและเป็นธรรมชาติ

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาโปรโมชั่น

---

ขูด -ฉีด สลายฟิลเลอร์ใต้ตา

อย่างหมออธิบายไว้ข้างต้นว่า การฉีดฟิลเลอร์อย่างปลอดภัย จำเป็นต้องฉีดฟิลเลอร์แท้เท่านั้น เพราะสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ  หรือหากไม่พอใจก็สามารถรถฉีดสลายออกได้ แต่ในกรณีที่พลาดใช้ฟิลเลอร์ปลอม จำเป็นต้องขูดฟิลเลอร์ออก หรือผ่าตัดออกเท่านั้น 

ทั้งนี้ในขั้นตอนของการขูดฟิลเลอร์ใต้ตา ค่อนข้างลำบากครับ เพราะฟิลเลอร์ปลอม ส่วนใหญ่จะเป็นประเภทซิลิโคนเหลว พาราฟิน ที่มักจะเกาะกับเนื้อเยื่อของเรา เกิดเป็นพังผืด ทำให้เวลาขูดออกค่อนข้างลำบาก

ในกรณีที่ฟิลเลอร์มีก้อนแข็ง ขนาดใหญ่ ต้องทำการกรีดเปิดแผลและทำการตัดออก ซึ่งต้องทำโดยศัลยแพทย์ตกแต่งในโรงพยาบาล ไม่อย่างนั้นอาจเกิดอันตราย ถูกเส้นประสาท เส้นเลือดสำคัญได้

นอกจากนี้การขูดฟิลเลอร์ใต้ตา หลังทำจะเกิดเป็นแผล และรอยเขียวช้ำ ทำให้ต้องพักฟื้นครับ ซึ่งจะแผลเล็กหรือแผลใหญ่ ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละเคส บางเคสอาจจะเป็นอาทิตย์ บางเคสอาจจะเป็นเดือนครับ

ดังนั้นหมอจึงขอเน้นย้ำอีกครั้งว่าไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ปลอม หรือใช้ฟิลเลอร์หิ้ว ฉีดกับผู้ที่ไม่ใช่หมอ เพราะโอกาสเสี่ยงสูงที่จะเกิดปัญหาฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน บวม ผิวไม่เรียบเนียน และอาจเกิดปัญหาในระยะยาวได้ครับ

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตา

---

ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

เพื่อให้หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อยู่ได้นาน ลดโอกาสเกิดอาการที่ไม่พึงประสงค์ หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาควรปฏิบัติดังนี้ 

1. หลีกเลี่ยงการแตะ การเกา การกดนวดในจุดที่ฉีด และห้ามปรับรูปทรงฟิลเลอร์ด้วยตนเอง
2. ไม่ควรประคบเย็น หากมีอาการปวดมาก ควรปรึกษาแพทย์หรือประคบเย็นตามแพทย์สั่งเท่านั้น
3. งดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน แต่สามารถล้างหน้า แต่งหน้าได้ตามปกติ
4. งดการดื่มแอลกอฮอล์ เข้าซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ หรือกิจกรรมที่ต้องอยู่หน้าเตาเป็นเวลานาน ๆ เป็นเวลา 3 วันหลังทำ
5. งดการนวดหน้า เลเซอร์ หรือหัตถการอื่น ๆ บริเวณใบหน้า เป็นเวลา 14 วัน
6. หากเป็นเลเซอร์ร้อนลงผิวชั้นลึก RF หรือ Thermage ควรเว้นอย่างน้อย 1 เดือน

นอกจากข้อควรปฏิบัติแล้ว ยังมีอาหารบางชนิดที่ควรหลีกเลี่ยงครับ 

• เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เหล้า เบียร์ ไวน์ น้ำหมัก
• หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู ที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ
• อาหารที่เผ็ดมาก ๆ แสบร้อนจนหน้าแดง
• อาหารหมักดอง เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง มะม่วงดอง
• งดอาหารที่หวานจัด ๆ นมวัว เพราะสามารถกระตุ้นกระบวนการอักเสบได้
• หลีกเลี่ยงการกินอาหารดิบจากร้านอาหารที่ไม่สะอาด เนื่องจากอาจมีเชื้อโรคปนเปื้อนในจุดที่ฉีดแล้วเกิดการอักเสบได้

นอกจากนี้ ควรงดสูบบุหรี่ ในบุหรี่มีสารหลายชนิดที่ขยายหลอดเลือด จะทำให้ยุบบวมช้า และผลการรักษาอยู่ได้สั้นลง ซึ่งควรงดอาหารดังที่กล่าวข้างต้นเป็นเวลา 14 วัน หากทำไม่ได้จริง ๆ หมอแนะนำให้ควรงดอย่างน้อย 3 วันครับ

---

สรุป

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นวิธีคืนความอ่อนเยาว์ สามารถแก้ปัญหา ลดริ้วรอยใต้ตา ฉีดใต้ตาดำ ลดความหมองคล้ำ หากมีความกังวลใต้ตาคล้ำ ใช้อะไรดี การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นวิธีที่หมอแนะนำครับ เพราะสามารถแก้ปัญหา ตาคล้ำ ตาลึก ตาโหล มีร่องใต้ตารวมถึงความหย่อนคล้อย ถุงใต้ตาให้ดีขึ้นได้อย่างเห็นผล และยังช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคต เป็นจุดที่เมื่อแก้ไขแล้วจะทำให้ใบหน้าเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน หน้าดูเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ

ใครที่สนใจการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หมอขอเน้นย้ำว่าควรให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง โดยพิจารณาเลือกทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีความน่าเชื่อถือ และประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์  เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม และปลอดภัยมากที่สุดครับ

---

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบวมกี่วัน ?

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบวมกี่วัน ? หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ในช่วง 2-3 วันแรก คนไข้จะรู้สึกว่าใต้ตาบวมขึ้นได้เป็นเรื่องปกติครับ เพราะฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ดี หรืออาจเป็นอาการบวมเข็ม แต่จะไม่ได้รู้สึกบวมมากจนสังเกตได้ครับ เพียงแค่ดูแลตัวเอง และปฏิบัติตามข้อแนะนำหลังฉีด Filler ใต้ตา ก็จะช่วยให้อาการบวมหายไป ฟิลเลอร์เข้าที่ได้เร็วขึ้น  

ในบทความนี้หมอจะมาสรุปอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เกิดจากอะไร ? วิธีลดอาการบวม และข้อควรหลีกเลี่ยงหลังฉีดใต้ตา อะไรบ้างไม่ควรทำ ?

สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบวมกี่วัน

1. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบวมกี่วัน มีสาเหตุมาจากอะไร ?
2. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วบวม อาการเป็นอย่างไร เป็นอาการปกติไหม ?
3. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบวมกี่วันถึงจะกลับมาปกติ
4. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วบวมกับเป็นก้อน ต่างกันอย่างไร ?
5. วิธีปฏิบัติตัวเพื่อลดอาการใต้ตาบวม
6. ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วบวม ช่วยให้ยุบบวมเร็วขึ้น
7. รีวิวการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

---

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบวมกี่วัน มีสาเหตุมาจากอะไร ?

ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์แท้ แพทย์มีประสบการณ์ คลินิกได้มาตรฐาน หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาทันที จะยังไม่มีอาการบวมครับ สามารถเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนได้เลย หลังจากนั้นในช่วง 3 วัน จะมีอาการบวมมากขึ้น และค่อย ๆ ยุบบวมใน 5-7 วัน ก่อนจะยุบบวมและเห็นผลเต็มที่ใน 2 สัปดาห์

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วบวม โดยทั่วไปเกิดจาก

1. อาการบวมเข็ม เกิดขึ้นได้กับหลายคนครับ จะรู้สึกคัน ๆ หรือมีรอยแดง รอยเขียว แต่จะค่อย ๆ ดีขึ้นเอง ไม่อันตราย หากหมอมีประสบการณ์ มือเบา ก็จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการนี้ได้
2. ฟิลเลอร์เป็นก้อน การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหัตถการที่ต้องใช้ความพิถีพิถัน ตั้งแต่การประเมินปัญหา เลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสม และใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง หากฉีดผิดตำแหน่ง ใช้ฟิลเลอร์ไม่เข้ากับผิว ก็ทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อนบวมได้ ต้องแก้โดยการฉีดสลายฟิลเลอร์

ทั้งสองสาเหตุที่หมอยกตัวอย่างมาถือเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ แก้ไขได้ และไม่เป็นอันตรายครับ แต่ก็จะมีคนไข้ที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วบวมจากสาเหตุอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ หมออธิบายในข้อถัดไปครับ

---

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วบวม อาการเป็นอย่างไร เป็นอาการปกติไหม ?

นอกจากอาการบวมปกติที่เกิดขึ้น ยังมีอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไม่ปกติ สังเกตได้จาก

• ปวดใต้ตาบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามากกว่าปกติ 
• มีอาการบวมมากขึ้นเรื่อย ๆ กดแล้วเจ็บบริเวณผิวหนัง
• ผิวมีสีแดงหรือคล้ำที่ผิดปกติ บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
• รู้สึกร้อนบริเวณผิวหนังที่ฉีดฟิลเลอร์ (ลองใช้หลังมือแตะคล้ายวัดไข้)

สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการบวมผิดปกติใต้ตา เป็นเพราะมีการอับเสบ ติดเชื้อ คนไข้ต้องตรวจสอบว่า

• ฟิลเลอร์ที่ฉีดมา เป็นของแท้ไหม (Hyaluronic Acid) หรือเป็นสารอื่น ๆ ที่ไม่ผ่านอย.
• แพทย์ที่ทำการฉีดเป็นแพทย์จริง มีประสบการณ์มากพอ สามารถนำชื่อ-นามสกุล ไปตรวจสอบได้ในเว็บไซต์ของแพทยสภา 
• คลินิกความงามที่ไปฉีด ได้มาตรฐาน สะอาด ตั้งอยู่ในทำเลที่ปลอดภัยหรือไม่ 

หากหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วบวมผิดปกติตามอาการที่หมอกล่าวไปข้างต้น ควรรีบกลับไปพบแพทย์ เพื่อให้วินิจฉัย แก้ไข และแนะนำวิธีลดตาบวมให้ครับ

---

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบวมกี่วันถึงจะกลับมาปกติ

พอพูดว่าอาการบวม คนไข้หลายคนอาจจะคิดว่าต้องบวมมาก ต้องพักฟื้นอยู่บ้าน แต่จริง ๆ ไม่ได้บวมขนาดนั้นครับ ส่วนใหญ่คนไข้จะรู้สึกตึง ๆ ตุ่ย ๆ ใต้ตา แต่สามารถใช้ชีวิตประจำวัน แต่งหน้า ออกไปทำงาน ไปเที่ยว ได้ตามปกติ อาการบวมจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนมากพอผ่าน 1 สัปดาห์แรกไป ก็แทบไม่รู้สึกถึงอาการบวมแล้ว ดังนั้นไม่ต้องกังวลครับ

ตัวอย่างเคสรีวิว ฟิลเลอร์ใต้ตา ก่อน – หลังทำ

---

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วบวมกับเป็นก้อน ต่างกันอย่างไร ?

• ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วบวม จะรู้สึกตึง ๆ ใต้ตาตุ่ย ๆ แต่ไม่มีอาการเจ็บ ร้อน หรือบวมแดง จะค่อย ๆ หายไปเอง
• ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน เห็นฟิลเลอร์เป็นก้อน จับแล้วแข็ง หรือเป็นลำเขียว ๆ ผิวคล้ำกว่าปกติ ยิ่งผ่านไปนานยิ่งเห็นก้อนชัด มีการไหลของฟิลเลอร์ ทำให้ฟิลเลอร์อยู่ผิดตำแหน่ง

หากหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน ผิวไม่เรียบเนียน ไม่เป็นธรรมชาติ ถ้าคนไข้ฉีดฟิลเลอร์แท้ ก็สามารถแก้ตาบวมด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์โดยใช้เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) ได้ครับ

---

วิธีปฏิบัติตัวเพื่อลดอาการใต้ตาบวม

• หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกาและกดนวดในจุดที่ฉีด อาการบวมจะค่อย ๆ ดีขึ้นเอง (หากหลังจาก 3 วันไปแล้ว มีอาการบวมมากขึ้นให้ติดต่อกลับมาที่คลินิกเพื่อรับยากินเพิ่มครับ)
• อยู่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม. เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ตากแดด
• ทางคลินิกจะมีการจ่ายยาแก้ปวด ลดบวม สามารถรับประทานได้ตามอาการ
• งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิดอย่างน้อย 1 เดือน
• ดื่มน้ำมาก ๆ ให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูสวย และอยู่ได้นานขึ้น

---

ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วบวม ช่วยให้ยุบบวมเร็วขึ้น

• อย่าขยับผิวในจุดที่ทำมากโดยเฉพาะช่วง 3 วันแรก (อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนได้)
• หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น้ำหมัก ทุกชนิด
• หลีกเลี่ยงอาหารดิบ อาหารหมักดอง
• งดอาหารประเภทรสจัด เผ็ดจัด เค็มจัด หวานจัด
• เลี่ยงอาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ
• งดสูบบุหรี่ เพราะมีสารที่ทำให้ฟิลเลอร์ยุบบวมช้า 

---

รีวิวการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หลังฉีดคนไข้สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันทีครับ ไม่ต้องพักฟื้น หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 1 ชม. สามารถแกะพลาสเตอร์ออกได้ หากต้องการแต่งหน้าให้เว้นบริเวณรูเข็มที่ฉีดไปก่อน 1 คืนครับ

---

สรุป

ในการฉีด Filler ไม่ว่าตำแหน่งไหน คนไข้ต้องศึกษาข้อมูลก่อนฉีด เลือกคลินิก เลือกแพทย์ และตรวจสอบว่าใช้ฟิลเลอร์แท้ ผ่าน อย. เมื่อมั่นใจแล้วก็ไม่ต้องกังวลครับว่าฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บวมกี่วัน ต้องรีบใช้หน้า ฉีดดีไหม เพราะแม้จะมีอาการบวมที่เป็นผลข้างเคียงปกติ แต่ก็ไม่ได้บวมมากจนสังเกตได้ครับ เพียงปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ก็จะช่วยลดอาการบวม ทำให้ฟิลเลอร์ใต้ตาเข้าที่เร็วขึ้น

---

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ฟิลเลอร์ perfectha เป็นฟิลเลอร์จากฝรั่งยุโรปอีกหนึ่งยี่ห้อที่ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัยสูง ได้รับความนิยมในวงการแพทย์ความงามจากหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทยครับ นิยมนำมาฉีดเพื่อปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วน และเติมเต็มใบหน้าในตำแหน่งที่มีความตอบ ลึกโหล หลังฉีดผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ

ฟิลเลอร์ perfectha ดีไหม ? มีกี่รุ่น เหมาะกับฉีดตำแหน่งไหน ? filler perfectha ของแท้ดูอย่างไร ราคาเท่าไหร่ ? หมอจะมาให้คำตอบพร้อมสรุปข้อเปรียบเทียบฟิลเลอร์ Perfectha กับยี่ห้ออื่น ๆ ต่างกันอย่างไร เพื่อเป็นข้อตัดสินใจก่อนฉีดฟิลเลอร์ครับ

สารบัญ ฟิลเลอร์ Perfectha

1. ที่มาของฟิลเลอร์ Perfectha 
2. ฟิลเลอร์ Perfectha มีข้อดีอย่างไร ?
3. เปรียบเทียบฟิลเลอร์ Perfectha กับยี่ห้ออื่น ๆ
4. ฟิลเลอร์ Perfectha มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นอยู่ได้นานกี่เดือน ?
5. ตำแหน่งที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ Perfectha
6. ฟิลเลอร์ Perfectha กี่วันเห็นผล ?
7. ฟิลเลอร์ Perfectha ของแท้ดูอย่างไร ?
8. ฟิลเลอร์ Perfectha ราคาเท่าไหร่ ?

---

ที่มาของฟิลเลอร์ Perfectha 

ฟิลเลอร์ Perfectha เป็นฟิลเลอร์สัญชาติฝรั่งเศส ได้รับการนำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างถูกต้องโดย บริษัท Interpharma ประเทศไทย ถือว่าเป็นฟิลเลอร์อีกหนึ่งยี่ห้อที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทย ว่ามีความปลอดภัยสูง ถูกนำมาใช้ในคลินิกเสริมความงามกว่า 70 ประเทศทั่วโลก 

---

ฟิลเลอร์ Perfectha มีข้อดีอย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Perfectha ใช้นวัตกรรม E-Brid Technology ในการผลิตที่ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีปริมาณ HA (Hyaluronic Acid) เข้มข้นสูง มีให้เลือกใช้หลายรุ่น แต่ละรุ่นเหมาะสมกับการใช้งานที่ต่างกัน เด่นในเรื่องความยืดหยุ่นและความหนืด เนื้อฟิลเลอร์คงตัวได้ดี ปั้นทรงง่าย และมีให้เลือกใช้หลายรุ่น แต่ละรุ่นเหมาะสมกับการใช้งานที่ต่างกัน หลังฉีดแล้วฟิลเลอร์ไม่ไหล ไม่เป็นก้อน ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติครับ

อีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้ filler perfectha ได้รับความนิยม คือ เรื่องความปลอดภัย เนื่องจากฟิลเลอร์ Perfectha ที่ผลิตออกมาทุกล็อตจะมีการกำจัดสารกระตุ้นการก่อมะเร็งออก ซึ่งโดยทั่วไปแล้วฟิลเลอร์บางยี่ห้อจะมีสารบางชนิดที่สามารถกระตุ้นการก่อมะเร็ง (เป็นสารที่จำเป็นต้องกำจัดออก) ซึ่งถ้ายังมีสารนี้ตกค้างอยู่ในผลิตภัณฑ์ จะทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้งานได้ครับ 

---

เปรียบเทียบฟิลเลอร์ Perfectha กับยี่ห้ออื่น ๆ

นอกจากฟิลเลอร์ Perfectha แล้วยังมียี่ห้อฟิลเลอร์ฝั่งยุโรปอีกหลายยี่ห้อที่ได้รับความนิยม ผ่าน อย. ไทย และ V Square Clinic เลือกใช้ เช่น ฟิลเลอร์ Juvederm อเมริกา, ฟิลเลอร์ Restylane สวีเดน, ฟิลเลอร์ Belotero สวิตเซอร์แลนด์ และฟิลเลอร์ Definisse อิตาลี

ในหัวข้อนี้หมอจะมาเปรียบเทียบฟิลเลอร์ Perfectha กับยี่ห้ออื่น ๆ ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร โดยจะมีข้อมูลสรุปสั้น ๆ ดังนี้

ฟิลเลอร์ Juvederm อเมริกา

ฟิลเลอร์ Juvederm อเมริกา มีทั้งหมด 6 รุ่น ผลิตโดยใช้ 2 เทคโนโลยีที่เป็นเทคโนโลยีเฉพาะ คือ Vycross ที่ช่วยให้เนื้อฟิลเลอร์มีโมเลกุลยึดเกาะที่หนาแน่น จึงเด่นในเรื่องยกกระชับ ฉีดแล้วไม่เป็นก้อน ดูเรียบเนียน ให้ความเป็นธรรมชาติ และ Hylacross Techology ที่ช่วยให้ฟิลเลอร์มีค่าความอุ้มน้ำสูง จึงทำให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน สลายช้าลง ฉีดแล้วไม่ฟูมาก มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับได้ดี 

ฟิลเลอร์ Restylane สวีเดน

ฟิลเลอร์  Restylane สวีเดน มีทั้งหมด 8 รุ่น ผลิตโดยเทคโนโลยี NASHA Techology และ OBT Technology ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีคุณสมบัติที่หลากหลาย มีความคงตัวสูง สามารถปรับรูปทรงได้หลากหลายเหมาะสำหรับฉีดเติมเต็มใบหน้าได้หลายตำแหน่งเพื่อให้เหมาะกับความต้องการ และปัญหาผิวหน้าของแต่ละบุคคล ช่วยให้ผิวกักเก็บน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้น ฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น

ฟิลเลอร์ Belotero สวิตเซอร์แลนด์

ฟิลเลอร์ Belotero สวิตเซอร์แลนด์ มีทั้งหมด 5 รุ่น ผลิตด้วยเทคโนโลยี CPM Technology ที่เป็นเทคโนโลยีเฉพาะ เด่นในเรื่องความยืดหยุ่นของเนื้อเจล การเกาะกันเป็นเนื้อเดียว ไม่ไหลไม่เป็นก้อน หลังฉีดจะเรียบเนียนไปกับผิว ปั้นทรงสวย ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ

ฟิลเลอร์ Definisse อิตาลี

ฟิลเลอร์ Definisse อิตาลี มีทั้งหมด 3 รุ่น  ผลิตด้วยเทคโนโลยี XTR™ Technology (eXcellent Three-Dimensional Reticulation) ที่ทำให้ Hyaluronic Acid สานกันเป็นร่างแห ช่วยในการยกพยุง เด่นในเรื่องการยกกระชับ และปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ

หากใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี filler perfectha ดีไหม ? ในเบื้องต้นหมอแนะนำให้ปรึกษากับแพทย์ก่อนฉีด เพื่อทำการประเมินปัญหาใบหน้าว่าเหมาะกับฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนรุ่นไหน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดตามที่แต่ละคนต้องการครับ

---

ฟิลเลอร์ Perfectha มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นอยู่ได้นานกี่เดือน ?

ฟิลเลอร์ Perfectha ที่ผ่าน อย.ไทย มีด้วยกันทั้งหมด 5 รุ่นครับ  แต่ละรุ่นมีคุณสมบัติและเนื้อฟิลเลอร์ที่ต่างกัน เพื่อให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมกับสภาพผิว และปัญหาที่ต้องการแก้ไข

1.  Perfectha Subskin

ฟิลเลอร์ Perfectha Subskin (ฟิลเลอร์เพอร์เฟคต้ากล่องเหลือง) เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง ไม่ฟู ปั้นทรงสวย เหมาะสำหรับฉีดคาง และฉีดขมับ ปรับรูปหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 12-18 เดือน

2. Perfectha Deep

ฟิลเลอร์ Perfectha Deep  (ฟิลเลอร์เพอร์เฟคต้ากล่องชมพู) เหมาะสำหรับฉีดเติมเต็มลงในผิวชั้นลึกเติม ลดริ้วรอยลึก เติมเต็มร่องแก้ม เติมคาง ยกมุมปาก ปรับรูปทรงปาก อยู่ได้นาน 8-12 เดือน 

3. Perfectha Derm

ฟิลเลอร์ Perfectha Derm  (ฟิลเลอร์เพอร์เฟคต้ากล่องฟ้า) เหมาะสำหรับฉีดเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก เช่น ริ้วรอยหว่างคิ้ว ยกมุมปาก และเติมเต็มริมฝีปาก ปรับทรงปาก  อยู่ได้นาน 6-12 เดือน

4. Perfectha Complement

ฟิลเลอร์ Perfectha Derm  (ฟิลเลอร์เพอร์เฟคต้ากล่องม่วง) เหมาะสำหรับฉีดเติมเต็มริ้วรอยในผิวชั้นตื้น เช่น ริ้วรอยใต้ตา อยู่ได้นาน 4-6 เดือน

5. Perfectha Fine Lines

ฟิลเลอร์ Perfectha Derm  (ฟิลเลอร์เพอร์เฟคต้ากล่องเขียว) เหมาะสำหรับฉีดลดริ้วรอยในผิวชั้นตื้น เช่น ใต้ตา ร่องมุมปาก ร่องน้ำหมาก  อยู่ได้นาน 4-6 เดือน

---

ตำแหน่งที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ Perfectha 

ฟิลเลอร์เพอร์เฟคต้า เป็นยี่ห้อที่ผลิตออกมาหลายรุ่น เพื่อให้สามารถฉีดได้ทุกตำแหน่งบนใบหน้า เลือกฉีดได้ตามสภาพปัญหาของแต่ละบุคคลครับ ตำแหน่งที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ Perfectha ได้แก่

• ฟิลเลอร์ Perfectha Subskin : เหมาะสำหรับฉีด คาง/ขมับ/แก้มตอบ
• ฟิลเลอร์ Perfectha Deep : เหมาะสำหรับฉีดร่องแก้ม/เติมคาง/ยกมุมปาก/ร่องน้ำหมาก/ปรับรูปทรงปาก
• ฟิลเลอร์ Perfectha Derm : เหมาะสำหรับฉีดริ้วรอยหว่างคิ้ว/ยกมุมปาก/เติมเต็มริมฝีปาก
• ฟิลเลอร์ Perfectha Complement : เหมาะสำหรับฉีดลดริ้วรอยในผิวชั้นตื้น ริ้วรอยหน้าผาก/ริ้วรอยใต้ตา
• ฟิลเลอร์ Perfectha Fine Lines : เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา/ร่องมุมปาก/ร่องน้ำหมาก

---

ฟิลเลอร์ Perfectha กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ Perfectha จะเห็นผลลัพธ์ทันทีประมาณ 70-80% เห็นผลลัพธ์ชัดเจน ฟิลเลอร์เข้าที่ เรียบเนียนไปกับผิวประมาณ 2-3 สัปดาห์ครับ ในบางรายหลังฉีดฟิลเลอร์อาจมีอาการบวมเล็กน้อย ต้องรอให้ฟิลเลอร์ผสานเข้ากับผิวก่อน ซึ่งจะค่อย ๆ หายบวมไปเองใน 4-5 วัน หลังฉีดไม่มีแผล ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น คนไข้สามารถใช้หน้าได้ตามปกติครับ

---

ฟิลเลอร์ Perfectha  ของแท้ดูอย่างไร ?

ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้ง ควรให้แพทย์แกะกล่อง แกะหลอดฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้าครับ เพื่อมั่นใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้จริง ๆ สำหรับวิธีดู filler perfectha ของแท้จะมีวิธีสังเกตดังนี้

• มีเลข และเครื่องหมาย อย. กำกับ ในทุกรุ่น 
• สามารถตรวจสอบเลขทะเบียนได้ 
• มีการระบุ Lot. number วันที่ผลิต วันหมดอายุ ที่ข้างกล่อง
• มีป้ายภาษาไทยด้านนอกและเอกสารกำกับภาษาไทยด้านในกล่อง

---

ฟิลเลอร์ Perfectha ราคาเท่าไหร่ ?

Perfectha filler ราคาเริ่มต้นที่ 9,000.-/1CC  บาทเป็นต้นไปครับ ขึ้นอยู่กับรุ่นที่เลือกใช้ รวมถึงโปรโมชั่น ของแต่ละคลินิก รวมถึงค่าฝีมือแพทย์ หากแพทย์มีชื่อเสียง มีประสบการณ์สูง ราคาก็จะสูงตามไปด้วย ซึ่งถ้าหากเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ถือว่าคุ้มค่าครับ เพราะการฉีดฟิลเลอร์นับได้ว่าเป็นศิลปะขั้นสูง ต้องใช้ความประณีต พิถีพิถันในการฉีด หากแพทย์ขาดประสบการณ์ ไม่มีความละเอียด อาจทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาไม่สวย ฟิลเลอร์เป็นก้อน และเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ ตามมา 

---

สรุป

สรุป filler perfectha ดีไหม ? ฟิลเลอร์ Perfectha เป็นฟิลเลอร์อีกหนึ่งยี่ห้อที่ได้รับความไว้วางใจจากแพทย์ในหลายประเทศ มีความปลอดภัยสูง มีหลายรุ่นให้เลือกใช้ เหมาะสำหรับการเติมเต็มและแก้ไขใบหน้าได้หลายตำแหน่ง 

สำหรับผู้ที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ perfectha เบื้องต้นให้เข้ามาปรึกษาแพทย์ เพื่อให้แพทย์แนะนำแนวทางการแก้ไขปัญหาผิวหน้าที่เหมาะสมให้ครับ

---

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ฉีดฟิลเลอร์คางที่ไหนดี ?

สำหรับใครที่กำลังมองหาคลินิกฉีดฟิลเลอร์คางที่ไหนดีให้ได้คางสวย ยิ้มแล้วไม่เป็นก้อน ในบทความนี้หมอมี 6 check list ในการเลือกคลินิกเสริมคางที่ไหนสวยมาแนะนำครับ ก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง มีอะไรที่ต้องรู้ คลินิกที่ได้มาตรฐานควรพิจารณาจากอะไรบ้าง ฉีดฟิลเลอร์คางที่ไหนดีในกรุงเทพ คลินิกที่แนะนำ V Square Clinic ดีอย่างไร ?

สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์คาง ที่ไหนดี

1. ฉีดฟิลเลอร์คางที่ไหนดีในกรุงเทพ คลินิกที่แนะนำ
2. เลือกฉีดฟิลเลอร์คางที่ไหนดี จึงได้มาตรฐานและความปลอดภัย
3. ราคาฟิลเลอร์คางที่เหมาะสมเป็นอย่างไร ?

---

ฉีดฟิลเลอร์คางที่ไหนดีในกรุงเทพ คลินิกที่แนะนำ

ฉีดฟิลเลอร์คางที่ไหนดี ในกรุงเทพ ?  V Square Clinic  เป็นคลินิกปรับรูปหน้าที่ได้รับความนิยมทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มุ่งเน้นและให้ความสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยและคุณภาพเป็นอันดับหนึ่ง แพทย์ทุกท่านมีเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์คางด้วยเทคนิคเฉพาะ บวมช้ำน้อย ใช้เทคนิคฉีด filler คางแบบเดียวกับการผ่าตัดเสริมคาง เมื่อฉีดไปแล้วเรียบเนียน ไม่มีปัญหาไหลย้อยหรือเป็นก้อน

ด้านการบริการ คนไข้จะได้เข้ารับคำปรึกษา แนะนำการปรับรูปหน้าจากแพทย์โดยตรง ไม่ผ่านเซลล์ เพื่อช่วยประเมินปริมาณฟิลเลอร์และยี่ห้อที่เหมาะสมของแต่ละคน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด มีการติดตามหลังการรักษาทุกเคสครับ 

ที่ V Square Clinic มีรีวิวเคสก่อน -หลังฉีดฟิลเลอร์จากผู้ใช้บริการจริง ไม่มีการตกแต่งภาพใด ๆ ใครที่มีปัญหาคางสั้น คางไม่ได้รูป หน้ากลม ต้องการฉีดคางสวย ปรับรูปหน้าเรียวสามารถปรึกษาหมอได้โดยตรง หมอจะแนะนำยี่ห้อฟิลเลอร์คางที่เหมาะสม ตรงกับงบประมาณ สามารถส่งรูปหน้ามาให้หมอประเมินทางออนไลน์ก่อนได้ครับ 

• ฉีดฟิลเลอร์โดยทีมแพทย์มากประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้า มีใบประกอบวิชาชีพจากแพทยสภา อัปเดตความรู้ทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง  
• ปรึกษาปัญหากับแพทย์โดยตรง ไม่ผ่านเซลล์
• แก้ไขปัญหาตรงจุด พิถีพิถันในการเลือกรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะกับปัญหาผิวของแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ
• ใช้ฟิลเลอร์แท้ แบรนด์ระดับโลก หมอแกะกล่องให้ดูต่อหน้า ให้กล่องกลับบ้าน ตรวจสอบกับผู้นำเข้าได้ทุกกล่อง 
• ฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิคเฉพาะของ V Square Clinic มือเบา ช้ำน้อย บวมน้อย 
• หลังฉีดมีการนัดติดตามผลหลังทำทุกเคส

ปัจจุบัน  V Square Clinic มีสาขาทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล คนไข้สามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสาขาทั้งหมดได้จากข้อมูลด้านล่างนี้ครับ

---

เลือกฉีดฟิลเลอร์คางที่ไหนดี จึงได้มาตรฐานและความปลอดภัย

หากต้องการให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์คางเป็นที่น่าพึงพอใจ ดูเป็นธรรมชาติ และมีความปลอดภัย อันดับแรกควรเลือกฉีดฟิลเลอร์กับคลินิกนิกที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือครับ ซึ่งคนไข้สามารถพิจารณาได้จาก

มาตรฐานและความน่าเชื่อถือของคลีนิค

คลินิกที่ได้มาตรฐาน ด้านหน้าสถานพยาบาลจะมีแผ่นป้ายขนาดใหญ่แสดงข้อมูลครบถ้วน เช่น ชื่อสถานพยาบาล , ประเภทและลักษณะการให้บริการของสถานพยาบาล และเลขที่ใบอนุญาต 11 หลักที่ให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล รวมถึงมีคุณภาพในด้านอื่น เช่น

• คลินิกสะอาด บรรยากาศดี มีพื้นที่รับรอง
• เครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งาน 
• มีห้องหัตถการ กว้างขวาง ไม่อับทึบ
• มีมาตรการการเฝ้าระวัง ป้องกันเชื้อโรค

มีการบริการที่ดี

• มีพนักงานที่ให้คำแนะนำในด้านต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด ให้ข้อมูลที่ละเอียดครบถ้วน ตรงไปตรงมา เช่น การปฏิบัติตัว ก่อน-หลังฉีดฟิลเลอร์คาง ข้อควรระวัง
• มีการนัดติดตามผลหลังฉีดฟิลเลอร์คาง และมีช่องทางติดต่อให้คนไข้สามารถสอบถามข้อสงสัยกับแพทย์ที่ทำเคสตัวเองได้โดยตรงตลอดเวลา
• คนไข้สามรถส่งรูปหน้ามาให้แพทย์ดูก่อนทาง Line@ หรือ Facebook Messenger เพื่อประเมินปัญหาและวิธีการรักษาในเบื้องต้น 

หมอมีความเชี่ยวชาญ

• มีประสบการณ์การด้านการฉีดฟิลเลอร์คาง และต้องเป็นแพทย์จริง สามารถตรวจสอบจากชื่อ-นามสกุลของแพทย์บนเว็บไซต์ของแพทยสภาที่นี่ 
• มีการฝึกอบรม อัปเดตความรู้และเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์คางอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ 
• มีเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่ถูกต้อง เพื่อลดโอกาสบวมช้ำและการเกิดผลข้างเคียง

ใช้ฟิลเลอร์แท้ ผ่าน อย.

• ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจาก อย. ฟิลเลอร์แท้ HA (Hyaluronic Acid) ปลอดภัย ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้าง 
• คลินิกมีการนำเข้าและเก็บรักษาอย่างถูกต้อง สามารถตรวจสอบเลข Lot. ได้ 
• ก่อนฉีดฟิลเลอร์ แพทย์จะต้องแกะกล่องและหลอดฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า 
• หลังฉีดฟิลเลอร์คาง สามารถให้คนไข้เก็บกล่องและหลอดฟิลเลอร์กลับบ้าน เพื่อตรวจสอบว่าเป็นฟิลเลอร์แท้

มียี่ห้อที่เหมาะสมกับการฉีดฟิลเลอร์คาง

การฉีดฟิลเลอร์คางด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง จะต้องฉีดเสริมที่กระดูก ไม่ใช่เสริมที่เนื้อคาง ดังนั้นควรเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่มีเนื้อแน่น มีความคงตัวสูง เพื่อให้ปั้นเป็นทรงสวย ขึ้นรูปได้ง่าย ที่ V Square Clinic เลือกใช้ฟิลเลอร์ 5 รุ่น ดังนี้ครับ

• Juvederm Voluma เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็งและฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเห็นความโค้งมนของคาง สามารถเติมคางได้อย่างเป็นธรรมชาติ 
• Juvederm Volux เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง ขึ้นรูปได้ง่ายปั้นทรงสวย ช่วยปรับโครงสร้างใบหน้าได้ดีที่สุด
• Restylane Perlane Lyft เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง ไม่ฟู ใช้สำหรับเสริมทดแทนกระดูกและยังคงความเป็นธรรมชาติ สามารถคงรูปได้ดี
• Belotero Intense เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นสูง มีจุดเด่นในการใช้แก้ปัญหาร่องลึกมากๆ จากการยุบตัวของเนื้อเยื่อผิวหนัง
• Definisse Core เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง เหมาะกับการเสริมกระดูก ปรับรูปหน้า เติม mid-face คาง กรอบหน้า
• Flore Max  เป็นฟิลเลอร์เนื้อแน่น ขึ้นรูปได้ดี มีความละมุน ดูเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับฉีดแก้ปัญหาในไขมันชั้นลึก คาง/ขมับ อยู่ได้ 9-12 เดือน

มีการรีวิวฟิลเลอร์คางที่ชัดเจน

• มีรีวิวฟิลเลอร์คาง จากแหล่งที่เป็นกลาง เชื่อถือได้ และไม่สามารถลบออกได้ เช่น รีวิวติดดาวบน Facebook Fanpage, Pantip Review, Google Maps 
• เป็นรีวิวที่อัปเดตเป็นปัจจุบัน แสดงถึงความนิยม มีผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง 
• มีรีวิวทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ ก่อน-หลังฉีดฟิลเลอร์คาง เพื่อเห็นผลลัพธ์และฝีมือของแพทย์

---

ราคาฟิลเลอร์คางที่เหมาะสมเป็นอย่างไร ?

ข้อควรรู้ในเบื้องต้นเกี่ยวกับราคาฟิลเลอร์คาง คือควรเลือกคลินิกที่มีราคาฟิลเลอร์คางไม่ถูกหรือแพงเกินไปครับ หากเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน มักจะมีราคาที่ไม่ต่างกันมาก เพราะมีราคาต้นทุนที่ใกล้เคียงกัน อาจจะมีความต่างกันที่โปรโมชั่น ณ เวลานั้น ๆ รวมไปถึงค่าฝีมือแพทย์ 

กรณีคนไข้เจอฟิลเลอร์คางราคาถูกมาก ๆ  เบื้องต้นให้สอบถามกับทางคลินิกนั้น ๆ ว่าใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้ออะไร ผลิตจากประเทศใด เพราะฟิลเลอร์แต่ยี่ห้อ แต่ละรุ่นมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน และเหมาะสำหรับฉีดเป็นบางจุดครับ หากทางคลินิกบ่ายเบี่ยงเป็นไปได้ว่าอาจเป็นฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้วที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือหมอที่ฉีดเป็นหมอกระเป๋า ไม่มีประสบการณ์ 

ราคาฉีดฟิลเลอร์คาง ที่ V Square Clinic เริ่มต้นที่ 9,900 บาท ใช้ฟิลเลอร์แท้ แบรนด์ระดับโลก มั่นใจได้ในความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่สวยงาม ก่อนฉีดจะแกะกล่องใหม่ต่อหน้าทุกครั้ง สามารถตรวจสอบกับบริษัทที่นำเข้าได้ทุกกล่องครับ

---

สรุป

การเลือกฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ควรเลือกคลินิกที่ใช้ฟิลเลอร์แท้ แพทย์มีประสบการณ์ ภายใต้คลินิกที่ได้มาตรฐาน ผลลัพธ์จึงจะออกมาดี สวยดูเป็นธรรมชาติ และปลอดภัยมากที่สุดครับ

ฉีดฟิลเลอร์คาง ที่ V Square Clinic ฉีดโดยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้าโดยเฉพาะ

ใช้เทคนิคฉีดฟิลเลอร์คางแบบเดียวกับการผ่าตัดเสริมคาง หลังฉีดบวมช้ำน้อย ใช้ฟิลเลอร์แท้มาตรฐานระดับโลก  คนไข้สามารถเข้ามาปรึกษาหมอโดยตรง ไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อให้หมอประเมินรูปหน้า ให้คำแนะนำที่ถูกต้องและดีที่สุดครับ

---

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ