เมโสแฟต คืออะไร ? ช่วยลดไขมันได้อย่างไร อันตรายไหม ?

Categories
mesofat
เมโสแฟตสลายไขมันคืออะไร

ฉีดเมโสแฟต

เมโสแฟต เป็นหนึ่งในหัตถการยอดนิยมในคนที่มีเหนียง หน้าบาน มีไขมันสะสมเยอะตัดสินใจเลือกทำเพื่อปรับหน้าเรียวและดูกระชับขึ้นครับ เพราะตัวยาที่นำมาฉีดมีส่วนช่วยในการสลายไขมัน ลดสัดส่วนได้อย่างเห็นผลโดยไม่ต้องดูดไขมัน ไม่ต้องเจ็บตัว ที่สำคัญคือเห็นผลเร็ว ช่วยลดไขมันส่วนเกินในบริเวณที่ลดได้ยากถึง 10-15% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก จึงมีความสะดวกและคุ้มค่ากว่าวิธีอื่น ๆ ครับ

ใครที่สนใจหัตถการฉีด mesofat หมอมีข้อมูลมาแนะนำครับ เมโสแฟต คืออะไร ? เหมาะกับใคร ? ฉีดแฟตมีกี่แบบ ? ข้อดี-ข้อเสียของเมโสแฟตมีอะไรบ้าง ? ฉีดแฟตราคาเท่าไหร่ ? ฉีดเมโสแฟตหน้าบวมมาก เกิดจากอะไร ปกติไหม ? ฉีดเมโสแฟตไม่เห็นผล เกิดจากอะไร ? สามารถศึกษาข้อมูลในบทความนี้เพื่อใช้ประกอบการตัดสินได้ครับ 

ฉีดเมโสแฟต
ฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) คืออะไร ? ช่วยอะไร ? ฉีดจุดไหนได้บ้าง ? l หมอ V Square แชร์หมดเปลือก

สารบัญ ฉีดเมโสแฟต

  1. เมโสแฟต คืออะไร ?
  2. ไขมันส่วนเกิน เกิดมาจากอะไร ?
  3. ฉีดเมโสแฟตดีไหม ?
  4. เมโสแฟตช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
  5. เมโสแฟตมีกี่แบบ อะไรบ้าง ?
  6. เมโสแฟต สามารถทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ?
  7. ข้อดี-ข้อเสียของเมโสแฟตมีอะไรบ้าง ?
  8. ฉีดเมโสแฟต VS การสลายไขมันแบบอื่น
  9. ฉีดเมโสแฟต ทำร่วมกับการสลายไขมันแบบอื่นได้ไหม ให้ผลลัพธ์เหมือนกันไหม ?
  10. ฉีดเมโสแฟตอันตรายไหม ?
  11. ฉีดเมโสแฟตมีความเสี่ยง หรือผลข้างเคียงไหม ?
  12. เมโสแฟตมีขั้นตอนการฉีดอย่างไร ?
  13. เมโสแฟต สลายไขมันได้อย่างไร ?
  14. ฉีดเมโสแฟตเจ็บไหม ?
  15. ฉีดเมโสแฟตหน้าบวมกี่วัน ?
  16. เมโสแฟตเหมาะกับใคร ?
  17. ฉีดเมโสแฟตไม่เหมาะกับใคร ?
  18. ข้อปฏิบัติก่อนมาฉีดเมโสแฟต
  19. ข้อปฏิบัติหลังฉีดเมโสแฟต
  20. แนวทางดูแลตัวเองหลังฉีดเมโสแฟต เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น 
  21. ฉีดเมโสแฟต ใช้ยี่ห้อไหนดี ?
  22. เมโสแฟต ของแท้ ดูอย่างไร ?
  23. เมโสแฟต1ขวดมีกี่ CC ?
  24. ฉีดเมโสแฟตใช้กี่ CC ?
  25. ฉีดเมโสแฟตกี่วันถึงจะเห็นผล ?
  26. เมโสแฟต ฉีดได้บ่อยแค่ไหน ?
  27. ฉีดเมโสแฟต อยู่ได้กี่เดือน ?
  28. เมโสแฟต ฉีดด้วยตัวเองได้ไหม ?
  29. เมโสแฟต ฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผล ?
  30. ฉีดเมโสแฟต ราคาเท่าไร ?
  31. ฉีดเมโสแฟตที่ไหนดี ?
  32. ฉีดเมโสแฟตแล้วไม่เห็นผล เกิดจากอะไร แก้อย่างไร ?
  33. รีวิว ฉีดเมโสแฟต

เมโสแฟต คืออะไร ?

เมโสแฟต คืออะไร

เมโสแฟต คือ วิธีสลายไขมันส่วนเกิน กระชับสัดส่วนด้วยการฉีดตัวยาที่มีฤทธิ์สลายไขมันเข้าไปในผิวชั้นไขมัน เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้น รวมถึงกระตุ้นให้เซลล์ไขมันให้เกิดการแตกตัว และถูกขับออกจากร่างกายผ่านการหายใจและระบบขับถ่าย หลังฉีดเมโสแฟตไประยะหนึ่งจึงจะสังเกตเห็นว่าบริเวณที่ฉีดเมโสแฟตจึงจะดูกระชับขึ้น สัดส่วนเล็กลงจากชั้นไขมันที่หายไปครับ

การฉีดเมโสแฟต เป็นวิธีลดสัดส่วนเฉพาะจุด ช่วยสลายไขมันในชั้นไขมันเท่านั้น 
ไม่มีผลต่อไขมันในช่องท้อง และไม่ใช่วิธีลดน้ำหนักแต่อย่างใด


ไขมันส่วนเกินเกิดมาจากอะไร ?

ไขมันส่วนเกินเกิดมาจากอะไร

ไขมันส่วนเกิน เกิดจากร่างกายได้รับพลังงานเกินกว่าที่ร่างกายควรได้รับต่อวันครับ หลัก ๆ ก็มาจากการรับประทานอาหารนั่นเอง โดยเฉพาะอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล และไขมัน เมื่อเราได้รับพลังงานเกินในแต่ละวันจะส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถดึงพลังงานไปใช้ได้หมด พลังงานและสารอาหารเหล่านั้นจะเปลี่ยนไปเป็นไขมันสะสมตามส่วนต่าง ๆ เพื่อเป็นพลังงานสำรอง นานวันเข้าไขมันมีปริมาณเพิ่มขึ้นจนกลายเป็นไขมันส่วนเกินนั่นเองครับ 

นอกจากนี้ไขมันส่วนเกินยังเกิดจากปัจจัยอื่น ๆ ได้อีกด้วย เช่น

  • พฤติกรรมการใช้ชีวิต คนที่ไม่ออกกำลังกาย เคลื่อนไหวร่างกายน้อยเกินไป มีโอกาสที่จะเกิดไขมันส่วนเกินได้ง่าย เพราะใช้พลังงานน้อย ร่างกายเผาผลาญไขมันไม่หมด แม้ว่าจะรับประทานอาหารที่ไม่ได้มีไขมันสูง หรือเป็นคนที่มีรูปร่างร่างผอมอยู่แล้ว แต่หากมีพฤติกรรมเหล่านี้ก็ทำให้เกิดไขมันส่วนเกินได้ครับ
  • พันธุกรรม  หากคนในครอบครัวเคยมีประวัติเป็นโรคอ้วนก็จะทำให้มีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้มีไขมันส่วนเกินได้ง่ายกว่าคนปกติ
  • การรับประทานยาบางชนิด  ยาบางชนิดอาจมีผลต่อการเกิดไขมันส่วนเกิน เช่น ยาลดความดันโลหิต ยาควบคุมระดับฮอร์โมนบางชนิด

ปัญหาไขมันส่วนเกิน หากต้องการลดให้ได้ผลดีและยั่งยืน ควรเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย ลดการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงความเครียด นอนหลับให้เพียงพอ รวมถึงตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เพื่อประเมินความเสี่ยงว่ามีไขมันส่วนเกินหรือไม่ หากสงสัยว่าตัวเองเข้าข่าย แพทย์จะช่วยวางแผนการรักษาและหาวิธีป้องกันร่วมกันครับ


ฉีดเมโสแฟตดีไหม ?

ไขมันส่วนเกินเกิดมาจากอะไร

สำหรับคนที่มีไขมันส่วนเกินในจุดที่ลดได้ยาก เช่น เหนียง หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา แม้จะออกกำลังกายและคุมอาหารก็ยากที่จะลดหรือลดน้อยมาก การฉีดเมโสแฟตถือเป็นตัวช่วยที่ดีครับ ช่วยสลายไขมันส่วนเกินและลดเซลลูไลท์ได้อย่างตรงจุด สัดส่วนดูเล็กลงโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องดูดไขมัน ตัวยาไม่มีผลกระทบต่อร่างกาย หลังฉีดไขมันจะเริ่มสลาย 10-15% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ไม่ต้องพักฟื้น มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก จึงมีความสะดวกและคุ้มค่ากว่าวิธีอื่น ๆ 


เมโสแฟตช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?

  • ฉีดเมโสแฟตช่วยลดแก้ม ลดเหนียง ลดไขมันส่วนเกินในบริเวณที่ลดได้ยาก ปรับรูปหน้าเรียว กรอบหน้าชัดขึ้น
  • ช่วยลดไขมันสะสมตามร่างกาย ลดเซลลูไลท์ เช่น ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง สะโพก รักแร้ ปีกหลัง
  • ช่วยกระตุ้นการสร้างเอนไซม์ ทำให้ร่างกายนำไขมันไปใช้มากขึ้น ลดการสร้างและลดสะสมไขมันใหม่
  • ช่วยยกกระชับจุดที่ลดไขมันให้ดูยกกระชับขึ้น

เมโสแฟตมีกี่แบบ อะไรบ้าง ?

เมโสแฟตสามารถพบได้ 3 แบบครับ แต่ที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย และคลินิกชั้นนำส่วนใหญ่เลือกใช้จะเป็นตัวยาที่สกัดมาจากธรรมชาติ ส่วนอีก 2 ประเภทจะเป็นยาสลายฟิลเลอร์ (hyaluronidase) และ ยาสเตียรอยด์ที่มีขายตามอินเทอร์เน็ต คลินิกบางแห่งแอบลักลอบนำมาใช้เพื่อลดต้นทุน ซึ่งไม่ปลอดภัย ฉีดแล้วมีผลข้างเคียง หมอจะอธิบายเมโสแฟตแต่ละประเภทเพื่อให้คนไข้เข้าใจง่าย ๆ ดังนี้ครับ 

1. เมโสแฟตที่สกัดมาจากธรรมชาติ 

ฉีดเมโสแฟตยี่ห้อไหนดี
ตัวอย่างยี่ห้อเมโสแฟตที่ปลอดภัย และได้รับความนิยม

เมโสแฟตที่สกัดมาจากธรรมชาติ เป็นตัวยาที่ปลอดภัย ไม่มีผลกระทบต่อร่างกาย จึงได้รับความนิยมมากที่สุด ซึ่งปัจจุบันมีหลายยี่ห้อครับ แต่ละยี่ห้อก็จะมีส่วนประกอบที่แตกต่างกัน แต่สารออกฤทธิ์หลักในตัวยาเมโสแฟตจะต้องเป็นสารที่ช่วยกระตุ้นการสลายไขมันในเซลล์หรือทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวได้ เช่น

  • Artichoke extract (Cynara scolymus) ทำหน้าที่กระตุ้นการสังเคราะห์ coenzyme ในกระบวนการ anabolism ลดเนื้อเยื่อไขมัน ลดการสังเคราะห์กรดไขมัน เหมาะกับคนที่น้ำหนักตัวเกิน ต้องการลดไขมันเฉพาะจุด ฉีดลดแก้ม หรือต้องการลดเซลลูไลท์
  • Mesostabyl (Polyunsaturated phosphatidylcholine) ทำหน้าที่กระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ lipase, ลดการสร้าง triglyceride ยับยั้งการสร้าง cholesterol ในเนื้อเยื่อ
  • L-carnitine ทำให้ร่างกายดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้น เปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน (fat burn)
  • Amino acid หรือ Minerals และวิตามินอีกหลายชนิด ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมัน สัดส่วนกระชับ ดูเล็กลงโดยไม่ทำให้ผิวย้วย หรือผิวเป็นคลื่น

2. ยาสลายฟิลเลอร์ (hyaluronidase)

ยาสลายฟิลเลอร์ (hyaluronidase)

ยาสลายฟิลเลอร์ (hyaluronidase) เป็นสารที่ใช้สำหรับฉีดสลายฟิลเลอร์ได้อย่างปลอดภัย แต่บางคลินิกนำมาใช้ผิดวิธี โดยการแอบนำมาฉีดให้คนไข้เพื่อลดต้นทุน ซึ่งถ้าฉีดในปริมาณมาก ๆ จะทำให้คอลลาเจนในผิวถูกย่อยสลายออกไป ทำให้เนื้อยุบลงอย่างรวดเร็ว และหากฉีดหลาย ๆ ครั้งนาติดต่อกันจะทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย ผิวหย่อนลง เนื่องจากคอลลาเจนเสื่อมลงครับ

3. ยาสเตียรอยด์

ยาสเตียรอยด์

ยาสเตียรอยด์ ฉีดแล้วจะทำให้ผิวยุบลงได้เหมือนกันครับ แต่ปกติแพทย์ผิวหนังจะใช้เพื่อฉีดสิว ฉีดคีลอยด์ ซึ่งถ้าใช้ในปริมาณที่น้อยภายใต้การควบคุมจะปลอดภัย แต่บางคลินิกแอบนำมาใช้ผิดวิธีโดยฉีดแทนตัวยาเมโสแฟต เพราะต้นทุนต่ำ ฉีดแล้วเห็นผลไว แต่เมื่อฉีดหลาย ๆ ครั้งจะทำให้หน้าบวมกว่าเดิม และเสี่ยงต่อการอักเสบติดเชื้อง่ายขึ้น เนื่องจากกดภูมิคุ้มกันของร่างกายครับ

หากคนไข้ท่านใดที่อยากฉีดสลายไขมันอย่างปลอดภัย หมอแนะนำให้เลือกฉีดกับคลินิกที่ใช้ตัวยาเมโสแฟตของแท้ ได้มาตรฐาน ก็คือเมโสแฟตที่สกัดมาจากธรรมชาติ ส่วน 2 ตัวหลังอย่างยาสลายฟิลเลอร์ และยาสเตียรอยด์ หมอไม่แนะนำให้ฉีดเด็ดขาดครับ รวมถึงกรณีซื้อเมโสแฟตที่ขายตามอินเทอร์เน็ตมาฉีดเองและฉีดกับหมอกระเป๋าด้วย ในช่วงแรกหลังฉีดอาจเห็นผลดี แต่พอนาน ๆ ไปจะส่งผลข้างเคียงตามมา ได้ไม่คุ้มเสียครับ 

สำหรับใครที่กลัวว่าจะหลงไปฉีดเมโสแฟตปลอมโดยไม่รู้ตัว ในบทความนี้หมอได้เขียนถึงวิธีดูเมโสแฟตแท้ไว้ด้วย คนไข้สามารถติดตามอ่านได้ครับ 

Vsquare tips

ข้อควรรู้ : หมอกระเป๋าจะไม่สามารถซื้อยาเมโสแฟตของแท้เองได้ เพราะมีกฎหมายยาควบคุม ดังนั้นยาที่หมอกระเป๋าใช้จึงสามารถการันตีได้เลยว่าเป็นเมโสแฟตปลอมหรือเป็นยาหิ้วที่มีส่วนผสมที่อันตราย และไม่สะอาด จึงทำให้มีการอักเสบติดเชื้อหลายเคสจากตัวยาที่ไม่ปลอดภัยและวิธีการฉีดที่ไม่สะอาด ดังที่ อย. ออกมาเตือนครับ


เมโสแฟต สามารถทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ?

เมโสแฟต สามารถทำตำแหน่งไหนได้บ้าง

เมโสแฟต สามารถฉีดสลายไขมันได้หลายจุดครับ สำหรับจุดที่นิยมฉีดได้แก่

  • ฉีดเมโสแฟตแก้ม เป็นตำแหน่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดครับ เหมาะกับคนที่มีไขมันสะสมบริเวณแก้มเยอะ ทำให้หน้าดูกลม สังเกตจากเมื่อเรากัดฟันแล้วคลำบริเวณแก้มดู จะจับได้เป็นเนื้อนิ่ม ๆ 
  • ฉีดเมโสแฟตเหนียง เหมาะกับคนที่มีคางสองชั้น มีเหนียงใต้คาง มีกรอบหน้าไม่ชัด
  • ฉีดเมโสแฟตหน้าท้อง เหมาะกับคนที่มีไขมันสะสมบริเวณพุง มีพุงหมาน้อย แม้ออกกำลังกาย หรือควบคุมอาหารแล้วแต่หน้าท้องไม่ลด
  • ฉีดเมโสแฟตต้นแขน เหมาะกับคนที่มีแขนย้วย มีไขมันส่วนเกินบริเวณต้นแขนเยอะ มีเซลลูไลท์ผิวเป็นคลื่น หรือมีผิวเปลือกส้ม
  • ฉีดเมโสแฟตต้นขา เหมาะกับคนที่มีไขมันสะสมบริเวณต้นขาเยอะ ขาใหญ่ ไม่กระชับ มีเซลลูไลท์ ผิวเป็นคลื่น หรือมีผิวเปลือกส้ม

ข้อดี-ข้อเสียของเมโสแฟตมีอะไรบ้าง ?

ฉีดเมโสแฟต ข้อดี 

  • เห็นผลเร็ว ช่วยลดไขมันส่วนเกินในบริเวณที่ลดได้ยาก เหมาะกับคนที่ออกกำลังกาย ควบคุมอาหารแล้วแต่ไขมันยังไม่ลดหรือลดน้อย
  • สามารถลดไขมันได้ครั้งละ 10-15% หากต้องการเห็นผลที่ชัดเจนขึ้น สามารถทำซ้ำได้
  • เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย ใช้เวลาในการทำน้อย ทำเสร็จกลับบ้านได้เลย ไม่ต้องพักฟื้น
  • การเตรียมตัวก่อนทำไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ
  • ทำได้หลายตำแหน่งตามจุดที่มีไขมันสะสม ไม่ส่งผลกระทบต่อเส้นเลือด เส้นประสาท และเนื้อเยื่อสำคัญ
  • ไม่มีรอยแผล ไม่มีรอยผ่าตัด ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
  • ราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับการผ่าตัดหรือดูดไขมัน

ฉีดเมโสแฟต ข้อเสีย

  • ไม่สามารถเห็นผลได้ทันทีเหมือนการดูดไขมัน ต้องอาศัยระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลลัพธ์ของตัวยาที่ฉีดเข้าไป
  • หลังฉีดเมโสแฟตอาจมีอาการบวมจากปริมาณตัวยาที่ฉีดเข้าไป แต่สามารถยุบบวมเองใน 3-4 ชั่วโมง 
  • ไม่เหมาะกับคนที่มีปริมาณไขมันมาก ๆ อาจต้องฉีดประมาณ 4-5 ครั้ง จึงจะเห็นผลที่ชัดเจน ทั้งนี้ควรให้แพทย์ประเมินว่าปริมาณไขมันในจุดนั้นเหมาะกับการฉีดเมโสแฟตหรือไม่
  • ตัวยา Meso fat หลายตัวยังไม่ได้ผ่าน อย.ไทย และยังไม่มีงานวิจัยใด ๆ รับรองว่าสารเหล่านั้นสามารถสลายไขมันในร่างกายได้จริง เพื่อความปลอดภัยควรเลือกคลินิกฉีดเมโสแฟตที่ได้มาตรฐาน ฉีดเมโสแฟตของแท้เท่านั้น

ฉีดเมโสแฟต VS การสลายไขมันแบบอื่น

ในหัวข้อนี้หมอจะเขียนเปรียบเทียบในด้านผลลัพธ์ ราคา ระยะเวลาเห็นผล และความคุ้มค่า ระหว่างฉีดเมโสแฟต VS การสลายไขมันด้วยเครื่องยกกระชับ VS การสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting ซึ่งจะมีรายละเอียดดังนี้ครับ

ฉีดเมโสแฟตสลายไขมัน

ฉีดเมโสแฟตสลายไขมัน เป็นการฉีดตัวยาที่ช่วยสลายไขมันลงในชั้นไขมัน เพื่อกระตุ้นการสังเคราะห์ coenzyme ในกระบวนการ anabolism และทำให้ร่างกายเปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน ไขมันเกิดการแตกตัว หรือสลายตัว หลังจากนั้นไขมันจะถูกขับออกทางระบบขับถ่าย ทำให้ไขมันบริเวณที่ฉีดลดลง เป็นวิธีลดไขมันและลดเซลลูไลท์เฉพาะจุดโดยไม่ต้องผ่าตัด ช่วยลดและกระชับสัดส่วนให้ได้รูปตามต้องการ

 เหมาะกับคนที่ต้องการสลายไขมันเฉพาะจุด ลดแก้ม ลดเหนียง ปรับหน้าเรียววีเชฟ แต่ไม่อยากเจ็บตัว ไม่มีเวลาพักฟื้น ไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากดูดไขมัน และไม่ได้มีไขมันสะสมเยอะมากจนเกินไป โดยหลังฉีดไขมันจะสลายตัว 10-15% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และจะเห็นผลชัดเจนใน 2-3 สัปดาห์ครับ

เครื่องยกกระชับ Ultraformer III และ Ulthera สลายไขมัน

เครื่องยกกระชับ Ultraformer III และ Ulthera สลายไขมัน

Ultraformer III และ Ulthera เป็นเครื่องยกกระชับ สลายไขมันด้วยการใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ยิงพลังงานลงไปใต้ชั้นผิวแต่ละชั้น (ลงลึกได้ถึงผิวชั้น smas ชั้นเดียวกับที่ใช้ผ่าตัดดึงหน้า) เพื่อให้ผิวเกิดการหดตัว คล้าย ๆ กับการเย็บเนื้อผ่าตัดดึงหน้า 

Ultraformer III และ Ulthera จะเด่นเรื่องยกกระชับ ปรับหน้าเรียว ลดแก้ม ลดเหนียง และกระชับสัดส่วนตามร่างกาย เช่น หน้าท้อง สะโพก เอว ต้นแขน ต้นขา รวมถึงช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ลดริ้วรอยทั่วใบหน้า เหมาะกับคนที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อย มีริ้วรอยและไขมันเล็กน้อย-ปานกลาง หลังทำเห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันทีประมาณ 20% เห็นผลเต็มที่ใน 2-3 เดือน อยู่ได้นาน 5-6 เดือน 

เครื่องยกกระชับ Thermage สลายไขมัน

เครื่องยกกระชับ Thermage สลายไขมัน

Thermage เป็นเครื่องยกกระชับ สลายไขมันด้วยการใช้พลังงานความร้อนจากคลื่นวิทยุ (Monopolar RF)  ยิงลงไปในชั้นผิวหนัง เพื่อให้ผิวแต่ละชั้นเกิดการหดตัว คุณสมบัติพลังความร้อนที่ยิงลงไป สามารถลงลึกครอบคลุมได้ถึง 3 ระดับชั้นผิว ได้แก่ ชั้นหนังกำพร้า ชั้นหนังแท้ และชั้นไขมัน จึงทำให้เทอร์มาจเด่นทั้งด้านกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และสลายไขมัน ลดเหนียง ลดแก้มห้อยได้ควบคู่กัน

Thermage จะเหมาะกับคนที่มีไขมันบริเวณใบหน้าค่อนข้างเยอะ มีเหนียงใต้คาง มีคางสองชั้น ต้องการยกกระชับหน้า ปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก กรอบหน้าชัดขึ้น หลังทำไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีแผล สามารถล้างหน้า ทาครีม แต่งหน้า ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เห็นผลทันทีประมาณ 20% เห็นผลเต็มที่ใน 2-3 เดือน ทำ 1 ครั้ง เห็นผลนาน 1-2 ปี  

coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น 

coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น

coolsculpting  คือ เทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็น โดยเครื่อง coolsculpting จะทำงานโดยส่งความเย็นในระดับจุดเยือกแข็ง -11 องศาลงไปใต้ชั้นผิวหนัง เข้าสู่ชั้นไขมัน ทำให้ไขมันตายและถูกขับออกมาจากร่างกายตามธรรมชาติ ทำให้รูปร่างกระชับ ได้สัดส่วนมากขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องฉีด ไม่ทำให้เกิดรอยแผล และไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติครับ

การทำ CoolSculpting มีงานวิจัยทางการแพทย์ประมาณ 50 งานวิจัย ที่ยืนยันผลการรักษาของเครื่องว่าสามารถลดจำนวนเซลล์ไขมันในชั้นผิวหนังบริเวณที่ทำให้ตายลงแบบถาวร โดยสามารถลดเซลล์ไขมันลงได้ 25% ต่อการทำ 1 ครั้ง ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก จะมีอาการบวมในจุดที่ทำไขมันตายและค้างอยู่ และใน 3-4 สัปดาห์ จะเริ่มเห็นว่าสัดส่วนเล็กลง กระชับขึ้น โดยจะใช้เวลา 3 เดือน ถึงจะเห็นผลลัพธ์เต็มที่ครับ

สรุปฉีดเมโสแฟต VS การสลายไขมันแบบอื่น เลือกวิธีไหนดี ? แนะนำให้คนไข้เข้ารับการประเมินปัญหา และขอคำปรึกษาจากแพทย์ ในการเลือกวิธีสลายไขมันที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ซึ่งหมอจะประเมินเป็นรายเคสครับ


ฉีดเมโสแฟต ทำร่วมกับการสลายไขมันแบบอื่นได้ไหม ให้ผลลัพธ์เหมือนกันไหม ?

การฉีดเมโสแฟต สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ครับ เช่น ฉีดโบท็อกด้วยเทคนิคโบท็อกลิฟกรอบหน้า      (ช่วยเรื่องยกกระชับกรอบหน้า ไม่ใช่การสลายไขมัน) ตัวยาจะออกฤทธิ์ต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ โดยจะฉีดบริเวณกรอบหน้า และใต้คาง เพื่อให้แรงของกล้ามเนื้อที่ดึงแก้มน้อยลง ใบหน้าจะได้ยกกระชับขึ้นมา สามารถทำร่วมกับการฉีดเมโสแฟตได้เช่นกันครับ

หากต้องการสลายไขมันและกระชับผิวไปด้วย สามารถฉีดเมโสแฟตร่วมกับการใช้เครื่องมือยกกระชับ อย่าง HifuI/Ulthera/Thermage ได้ครับ โดยหมอจะแนะนำให้ทำเครื่องยกกระชับก่อน แล้วเว้นสัก 1 เดือนค่อยฉีดเมโสแฟต ก็จะทำให้เห็นผลเร็วขึ้น เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนครับ

ส่วนบริเวณต้นขา ต้นแขน สะโพก หากมีไขมันสะสมเยอะมาก ๆ ถ้าฉีดเมโสแฟตจะไม่คุ้มครับ แนะนำให้ทำ CoolSculpting (สำหรับคนที่ไม่อยากผ่าตัด) จะเห็นผลดีกว่า ช่วยสลายไขมันบริเวณต้นแขน ต้นขา ทำให้สัดส่วนเล็กลงได้ เห็นผลแน่นอนและคงผลลัพธ์ได้นาน เป็นการสลายไขมันด้วยความเย็น เซลล์ไขมันจะตายและลดจำนวนลงแบบถาวรครับ แต่จะมีราคาสูงกว่าเมโสแฟต


ฉีดเมโสแฟตอันตรายไหม ?

 เมโสแฟตอันตรายไหม ? ฉีดแล้วหน้าบวมแก้อย่างไร ? l หมอ V Square แชร์หมดเปลือก

การฉีดเมโสแฟต เป็นหัตถการที่ไม่อันตรายครับ ที่อันตรายส่วนมากจะมาจากตัวยาที่ฉีดไม่ใช่ตัวยาเมโสแฟตแท้ และไม่ได้ฉีดโดยแพทย์ ซึ่งตัวยาที่ไม่ใช่เมโสแฟตที่แอบลักลอบนำมาฉีด พบได้ 2 ตัวหลัก ๆ คือ สเตียรอยด์และยาสลายฟิลเลอร์ที่หมอเคยอธิบายไปแล้วในหัวข้อข้างต้นครับ


ฉีดเมโสแฟตมีความเสี่ยง หรือผลข้างเคียงไหม ?

การฉีดเมโสแฟต หากอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้ตัวยาของแท้ จะมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงน้อยมากครับ ในบางเคสหลังฉีดอาจมีอาการบวม และรอยแดงหรือรอยช้ำจากเข็มเพียงเล็กน้อย  ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่สามารถเกิดขึ้นได้ปกติ อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้น ยุบบวมลงใน 3-4 ชั่วโมง


เมโสแฟตมีขั้นตอนการฉีดอย่างไร ?

เมโสแฟตมีขั้นตอนการฉีดอย่างไร หมอแอม
  • คนไข้เข้าปรึกษาแพทย์ แจ้งปัญหา ความต้องการ รวมถึงแจ้งประวัติการแพ้ยา และโรคประจำตัว 
  • หมอจะแนะนำยี่ห้อเมโสแฟตที่เหมาะสมกับคนไข้ ทั้งในด้านผลลัพธ์การรักษาและราคาที่เหมาะสม
  • ก่อนฉีดจะมีการทำความสะอาดผิวในจุดที่ต้องการฉีด
  • มีการประคบน้ำแข็งในจุดที่ฉีด เพื่อลดความเจ็บจากเข็ม
  • หมอจะค่อย ๆ ดันตัวยาเข้าไปบริเวณที่ต้องการลดไขมัน 

เมโสแฟต สลายไขมันได้อย่างไร ?

เมโสแฟต สลายไขมันได้อย่างไร

ตัวยาเมโสแฟต (Meso Fat) เมื่อนำมาฉีดเข้าสู่ชั้นผิวที่มีไขมันสะสม ตัวยาจะไปกระตุ้นระบบการทำงานของ metabolism ที่เป็นกลไกเร่งการสลายไขมันตามธรรมชาติของร่างกาย และ L-carnitine ทำให้ร่างกายดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้น ไขมันจะแตกตัวและกระตุ้นให้ไขมันที่สะสมอยู่ถูกปล่อยออกมาในรูปของไขมันเหลว ซึ่งจะถูกขับออกมาตามกลไกการขับของเสียตามธรรมชาติ โดยจะปนมากับเหงื่อ ปัสสาวะและอุจจาระครับ

นอกจากนี้ตัวยาเมโสแฟตยังมีสารออกฤทธิ์ อย่าง Artichoke extract (Cynara scolymus) ที่ทำหน้าที่กระตุ้นการสังเคราะห์ coenzyme ในกระบวนการ anabolism สามารถช่วยลดเนื้อเยื่อไขมัน ลดการสังเคราะห์กรดไขมัน และ Mesostabyl (Polyunsaturated phosphatidylcholine) ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ lipase, ลดการสร้าง triglyceride ยับยั้งการสร้าง cholesterol ในเนื้อเยื่อได้อีกด้วย


ฉีดเมโสแฟตเจ็บไหม ?

ฉีดเมโสแฟต ไม่เจ็บครับ คนไข้จะรู้สึกแสบจากตัวยาเล็กน้อยตอนที่หมอใช้เข็มดันตัวยาเข้าสู่ชั้นผิว ใครที่กลัวเจ็บมาก ๆ ก่อนฉีดทางคลินิกจะมีการแปะยาชา และประคบน้ำแข็งเพื่อช่วยลดความเจ็บครับ 


ฉีดเมโสแฟตหน้าบวมกี่วัน ?

หลังฉีดเมโสแฟต ไม่ว่ายี่ห้อไหนก็จะมีอาการบวมเป็นปกติครับ เกิดจากการทำงานของตัวยา Meso Fat จะทำปฏิกิริยาให้ไขมันแตกตัว ส่งผลทำให้เกิดอาการบวมแต่จะบวมในช่วงแรกเท่านั้น หลังฉีดตัวยาจะซึมยุบไปเองใน 3-4 ชั่วโมง ดังนั้นคนไข้ไม่ต้องกังวล ในบางเคสอาจจะมีอาการบวมเข็มได้เล็กน้อยเป็นปกติครับ แนะนำให้เลี่ยงการกดหรือนวดในบริเวณที่ฉีด เพื่อลดอาการบวมและป้องกันการอักเสบ 


เมโสแฟตเหมาะกับใคร ?

  • คนที่มีไขมันสะสมบริเวณเหนียงเยอะ มีคางสองชั้น ต้องการลดเหนียง เพิ่มกรอบหน้าชัดอย่างชัดเจนและรวดเร็ว
  • คนที่ต้องการปรับรูปหน้า ลดสัดส่วนโดยไม่ต้องผ่าตัด ดูดไขมัน 
  • คนที่ต้องการฉีดลดไขมันด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ 100% ปลอดภัย ซึ่งช่วยให้ไขมันแตกตัว ผ่านกระบวนการเผาผลาญ และขับออกพร้อมกับของเสียจากร่างกาย เช่น ปัสสาวะ อุจจาระ
  • คนที่ออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารแล้วแต่สัดส่วนยังไม่ลด 
  • คนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป 

ฉีดเมโสแฟตไม่เหมาะกับใคร ?

  • คนที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี
  • สตรีมีครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
  • คนที่ใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด
  • คนที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคระบบหลอดเลือดผิดปกติในสมอง เส้นเลือดสมองตีบ หรืออุดตัน
  • คนไข้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
  • คนที่อยู่ในระหว่างการรักษาโรคมะเร็ง โรคหัวใจ มีการเต้นของหัวใจผิดจังหวะ
  • คนที่เป็นโรคเบาหวาน ต้องฉีดอินซูลินเป็นประจำ มีการรักษาด้วยยาหลายชนิด

ข้อปฏิบัติก่อนมาฉีดเมโสแฟต

  • ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดเมโสแฟตอย่างละเอียด ทั้งกระบวนการ ขั้นตอนการปฏิบัติตัวก่อนและหลังฉีด เลือกคลินิก เลือกหมอ เพื่อความปลอดภัยและให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  • ก่อนฉีดเมโสแฟต 48 ชั่วโมง ควรงดยาในกลุ่มของ แอสไพริน, NSAIDs และ Dipyridamol 
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ก่อนฉีดอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
  • คนไข้ต้องเข้าปรึกษาแพทย์ เพื่อให้แพทย์ตรวจประเมินใบหน้าและจุดที่ต้องการฉีด แจ้งประวัติการแพ้ยา และโรคประจำตัว

ข้อปฏิบัติหลังฉีดเมโสแฟต

  • งดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน หากเกิดรอยแดง รอยช้ำจากเข็มในบริเวณที่ฉีดให้ประคบเย็นก่อนใน 48 ชั่วโมงแรก 
  • สามารถล้างหน้าและแต่งหน้าได้ตามปกติ
  • หลีกเลี่ยงการนวด อบซาวน่า งดการสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์หรือการทำทรีตเมนท์ต่าง ๆ หลังทำเมโสแฟตเพื่อลดอาการบวมฟกช้ำให้น้อยลง
  • เลี่ยงทำกิจกรรมที่รบกวนผิวหน้า เช่น การนวด กด สครับหน้า ถูหน้าแรง ๆ รวมไปถึงการว่ายน้ำ เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อในบริเวณที่ฉีด
  • หลีกเลี่ยงการอบซาวน่า นวดหน้า นวดตัว หรือทำเลเซอร์อย่างน้อย 1 สัปดาห์

แนวทางดูแลตัวเองหลังฉีดเมโสแฟต เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น 

แนวทางดูแลตัวเองหลังฉีดเมโสแฟต
  • ควรดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย อย่าน้อย 1.5-2 ลิตร เพราะน้ำจะช่วยให้ไขมันถูกขับออกจากร่างกายได้มากขึ้น
  • หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกำจัดไขมันออกจากร่างกายให้เร็วขึ้น และลดการสะสมของไขมันใหม่ เช่น การเดินเร็ว หรือแอโรบิค อย่างน้อยวันละ 30-45 นาที อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง
  • พักผ่อนให้เพียงพอ 
  • ลด ละ เลิกการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ของหวาน น้ำอัดลม ของทอด รวมถึงอาหารที่มีโซเดียมสูง 

ฉีดเมโสแฟต ใช้ยี่ห้อไหนดี ?

อัปเดต 2023 เมโสแฟต (Fat) ยี่ห้อไหนดี แต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร ? l หมอ V Square แชร์หมดเปลือก

ปัจจุบันเมโสแฟตมีหลายยี่ห้อ หลัก ๆ จะผลิตในประเทศเกาหลี และเนื่องจากแต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนั้นก่อนฉีดเมโสแฟตควรปรึกษาแพทย์ เพื่อให้ประเมินจุดที่ต้องการฉีดและแนะนำยี่ห้อที่เหมาะสม ฉีดแล้วได้ผลดี เหมาะกับคนไข้แต่ละเคสมากที่สุด โดยสูตรที่ได้รับความนิยมในไทย และเห็นผลไว เช่น

1. เมโสแฟตยี่ห้อ Phytobella

เมโสแฟตยี่ห้อ Phytobella

เมโสแฟตยี่ห้อ Phytobella ตัวยามีสารสกัดจากธรรมชาติ จึงมีความปลอดภัย สามารถใช้ฉีดเพื่อสลายไขมันได้หลายตำแหน่ง เช่น ฉีดลดเหนียงใต้คาง แก้ม ต้นแขน ต้นขา สะโพก และช่วยในการยกกระชับผิว ลดอาการบวมน้ำหลังฉีด

ข้อดี : ฉีดแล้วยุบดี ไม่บวมแดง ไม่ทำให้ผิวหย่อนคล้อยครับ

ข้อควรระวัง : ขณะฉีดจะรู้สึกแสบเล็กน้อย

2. เมโสแฟตยี่ห้อ BABI Neo One

เมโสแฟตยี่ห้อ BABI Neo One

เมโสแฟตยี่ห้อ BABI Neo One  เหมาะกับคนไข้ที่มีปัญหาแก้มหย่อน สามารถสลายไขมันพร้อมยกกระชับ เริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ใน 3 วัน นิยมฉีดลดเหนียงใต้คาง

ข้อดี : ช่วยสลายไขมันพร้อมยกกระชับ ฉีดแล้วยุบดี หลังฉีดไม่มีอาการบวมแดง

ข้อควรระวัง : ขณะฉีดมีอาการแสบ (แต่จะแสบน้อยที่สุดในบรรดายี่ห้อเมโสแฟตทั้งหมด)

3. เมโสแฟตยี่ห้อ FNC

เมโสแฟตยี่ห้อ FNC

เมโสแฟตยี่ห้อ FNC 30 เหมาะกับคนที่มีไขมันแก้มเยอะ ช่วยยกกระชับหน้า ปรับสมดุลต่อมน้ำเหลือง หมอจะทำการฉีดตัวยาเข้าไปในชั้นใต้ผิวหนัง เพื่อสลายเซลล์ไขมันให้แตกตัวและขจัดการสะสมของชั้นไขมัน ทำให้ผิวหนังบริเวณที่ฉีดเกิดการยุบตัว ช่วยลดไขมันได้ดี และเห็นผลไวโดยที่ไม่ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อยหลังไขมันลดครับ

ข้อดี : ยุบดี เหมาะสำหรับคนที่มีแก้มเยอะ

ข้อควรระวัง : ขณะฉีดจะรู้สึกแสบกลางๆ

4.เมโสแฟตยี่ห้อ Neobella

เมโสแฟตยี่ห้อ Neobella

เมโสแฟตยี่ห้อ Neobella นำเข้าจากประเทศเกาหลี ส่วนผสมหลักของตัวยาเป็น Deoxycholic acid (DCA) ซึ่งเป็นยาในกลุ่มยาสลายไขมันตัวเดียวที่ได้รับการรับรองจาก US-FDA ใช้หลักการทำลายเซลล์ไขมันแบบ Adipocyte-Cytolysis คือสลายเซลล์ไขมันได้โดยตรง ในขณะที่ตัวยาอื่น ๆ ใช้หลักการดึงไขมันออกจากเซลล์ เหมาะกับการฉีดในจุดที่มีไขมันสะสมจำนวนมาก เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา ครับ

ข้อดี : สลายเซลล์ไขมันได้โดยตรง เหมาะกับการลดไขมันบริเวณลำตัว หน้าท้อง แขน ขา

ข้อควรระวัง : ขณะฉีดจะรู้สึกแสบกลาง ๆ

การเลือกฉีดเมโสแฟต ยี่ห้อไหนดี  นอกจากจะคำนึงถึงการเลือกยี่ห้อแล้ว เรื่องความปลอดภัยก็ถือว่ามีความสำคัญเช่นกันครับ ควรเลือกหมอที่มีประสบการณ์ และใช้ผลิตภัณฑ์แท้ ก่อนฉีดควรให้แพทย์แกะกล่อง เปิดขวดยาให้ดูต่อหน้า และนำขวดกลับบ้านเพื่อเอาไปสืบค้นได้ว่าผลิตภัณฑ์เป็นของแท้จริงหรือไม่ครับ 


เมโสแฟต ของแท้ ดูอย่างไร ?

ก่อนฉีดเมโสแฟต คนไข้สามารถเช็กวิธีดูเมโสแฟตของแท้แต่ละยี่ห้อ โดยสังเกตได้จาก

วิธีดูเมโสแฟต ของแท้ ยี่ห้อ Phytobella

วิธีดูเมโสแท้-Phytobella-4-ช่อง
  • มีเลข Lot และเลข EXP ตรงกันที่ก้นขวดและกล่อง
  • มี QR Code ของบริษัทที่สามารถสแกนเพื่อดูรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ได้ข้างกล่อง
  • มี Barcode ให้สแกน เพื่อตรวจสอบข้อมูลผลิตภัณฑ์ได้ที่ข้างกล่อง
  • ฝาของขวด Phytobella ต้องเป็นสีทองแดงเท่านั้น

วิธีดูเมโสแฟต ของแท้ ยี่ห้อ FNC

วิธีดูเมโสแท้-FNC-4-ช่อง
  • มีสติกเกอร์ FNC30 ติดอยู่บริเวณฝากล่อง 1 ด้าน
  • มี QR Code ของบริษัทที่สามารถสแกนเพื่อดูรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ได้ หลังกล่อง
  • มีเลข Lot และเลข EXP ตรงกันที่ก้นขวดและหลังกล่อง
  • ฝาของขวด FNC30 ต้องเป็นสีเทาเท่านั้น

วิธีดูเมโสแฟต ของแท้ ยี่ห้อ BABI Neo One

วิธีดูเมโสแท้-Babi-4-ช่อง
  • มีสติกเกอร์โฮโลแกรม Edencolors ติดอยู่บริเวณฝากล่องทั้ง 2 ข้าง และหลังกล่อง
  • มี QR Code ของบริษัทอยู่บนกล่องและขวด เพื่อให้สแกนบน App Hidden Tag
  • มีสกรีนคำว่า BABI อยู่บริเวณข้างฝาขวด 
  • ฝาขวดต้องเป็นสีเทาเท่านั้น

เมโสแฟต1ขวดมีกี่ CC ?

เมโสแฟต1ขวดมีกี่ CC _หมอเมย์

เมโสแฟตยี่ห้อมาตรฐานส่วนใหญ่ 1 ขวดจะบรรจุตัวยา 10 CC ครับ ก่อนนำมาใช้ไม่จำเป็นต้องผสมน้ำเกลือ ส่วนปริมาณที่แนะนำให้ฉีดในแต่ละครั้ง หมอจะเป็นผู้ประเมินตามปริมาณไขมันของแต่ละคนครับ


ฉีดเมโสแฟตใช้กี่ CC ?

ปริมาณการใช้เมโสแฟตแต่ละคนจะใช้จำนวน CC ไม่เท่ากันครับ ขึ้นอยู่ตำแหน่งที่ฉีดและปริมาณไขมันของแต่ละบุคคล หมอจะเป็นผู้ประเมินและแนะนำยี่ห้อที่เหมาะสมให้ครับ โดยปริมาณยาเมโสแฟตที่ใช้ในแต่ละตำแหน่ง จะใช้จำนวน CC ดังต่อไปนี้

  • ฉีดเมโสแฟตแก้ม โดยทั่วไปจะใช้ครั้งละ 6 CC ขึ้นไป (ข้างละ 3 cc ขึ้นไป) เหมาะกับผู้ที่มีไขมันบริเวณแก้มไม่มาก  แต่ถ้ามีไขมันสะสมเยอะ แก้มเยอะ หรือมีเวลามาทำไม่บ่อย สามารถฉีดครั้งนึงหลาย CC ได้เลยครับ ในบางเคสอาจใช้ถึง 24 CC ต่อการฉีด 1 ครั้ง
  • ฉีดเมโสแฟตเหนียง โดยทั่วไปจะใช้ครั้งละ 10 CC+ 
  • ฉีดเมโสแฟตต้นแขน โดยทั่วไปใช้ข้างละ 20-40 CC
  • ฉีดเมโสแฟตต้นขา โดยทั่วไปใช้ข้างละ 40 CC+
  • ฉีดเมโสแฟตหน้าท้อง/สะโพก โดยทั่วไปใช้ 40-80 CC

จำนวน CC ในเบื้องต้นเป็นการประมาณคร่าว ๆ จากเคสคนไข้ส่วนใหญ่ที่เข้ามาใช้บริการครับ ในการฉีดแต่ละครั้ง หมอจะประเมินจากสัดส่วนจริงของคนไข้ก่อนเสมอ ว่าควรใช้กี่ CC ถึงจะเห็นผลครับ 


ฉีดเมโสแฟตกี่วันถึงจะเห็นผล ?

หลังฉีดเมโสแฟต จะเห็นผลว่าบริเวณที่ฉีดเริ่มยุบลงภายในระยะเวลา 5-7 วัน หลังจากนั้น 2-3 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลลัพธ์เต็มที่ ไขมันลดลงประมาณ 10-15% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันของแต่ละบุคคล รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตร่วมด้วยครับ


เมโสแฟต ฉีดได้บ่อยแค่ไหน ?

ในกรณีที่อยากเห็นผลลัพธ์ชัดเจนมากขึ้น คนไข้สามารถกลับมาฉีดซ้ำตามคำแนะนำของแพทย์ที่ประเมินครับ โดยเฉพาะเคสที่มีไขมันมาก อาจฉีด 4-5 ครั้ง เพื่อให้เห็นผลชัดและอยู่ได้นานขึ้นครับ


ฉีดเมโสแฟต อยู่ได้กี่เดือน ?

ฉีดเมโสแฟตปกติแล้วผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 2-3 เดือน แต่ถ้าดูแลตัวเอง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หลีกเลี่ยงของทอด ของมัน ก็จะช่วยรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้น


เมโสแฟต ฉีดด้วยตัวเองได้ไหม ?

เนื่องจากการฉีดเมโสแฟตเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมสูงขึ้น คนไข้บางกลุ่มจึงซื้อเมโสแฟตจากอินเทอร์ เน็ตมาฉีดเอง เพราะหาซื้อง่ายและมีราคาถูก วิธีนี้หมอไม่แนะนำเด็ดขาดครับ เพราะมีความเสี่ยงหลายด้านมาก ทั้งเสี่ยงโดนหลอกขายเมโสแฟตปลอม เสี่ยงเจอหมอกระเป๋า ที่สำคัญเลยคือเสี่ยงติดเชื้อระหว่างฉีดเนื่องจากห้องหัตถการไม่สะอาด เมื่อฉีดเข้าไปทำให้มีการอักเสบติดเชื้อหรือเกิดผลข้างเคียงได้

ทางที่ดีควรฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน และขอดูยี่ห้อเมโสแฟตก่อนฉีดทุกครั้ง เพื่อจะได้มั่นใจว่าเป็นยาแท้ สามารถตรวจสอบแหล่งผลิต และบริษัทผู้นำเข้าได้อย่างชัดเจนครับ


เมโสแฟต ฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผล ?

การฉีดเมโสแฟต คนไข้สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกครับ ไขมันจะเริ่มสลายตัวประมาณ 10-15% และเริ่มเห็นผลว่า แก้ม เหนียง ยุบลงใน 5-7 วัน เห็นผลเต็มที่ 2-3 สัปดาห์ แต่ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันของแต่ละบุคคลด้วย รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน หากฉีดแล้วยังไม่ควบคุมพฤติกรรมการกิน อาจทำให้ไม่เห็นผลได้อย่างเต็มที่


ฉีดเมโสแฟต ราคาเท่าไร ?

ฉีดเมโสแฟต ราคาเท่าไร

การฉีดเมโสแฟตราคาไม่แพงครับ เริ่มต้นที่หลักพันต้น ๆ ขึ้นอยู่กับปริมาณและยี่ห้อที่เลือกใช้ สำหรับโปรโมชั่นเมโสแฟต เมโสแฟต พรีเมียม ราคาพิเศษ ที่ V Square Clinic จะมีราคาดังนี้ครับ

ฉีดเมโสแฟต ราคา(1)
ฉีดเมโสแฟต ราคา
ฉีดเมโสแฟต ราคา

ส่วนคนไข้จะเหมาะกับสูตรไหน ใช้กี่ CC นั้น หมอจะประเมินสภาพใบหน้าก่อนฉีดทุกครั้ง รวมทั้งสอบถามปัญหาที่คนไข้กังวล และให้คำแนะนำเกี่ยวกับสูตรเมโสตัวที่เหมาะกับคนไข้มากที่สุด เพื่อความคุ้มค่าและสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด


ฉีดเมโสแฟตที่ไหนดี ?

ฉีดเมโสแฟตที่ไหนดี

สำหรับคนที่กำลังมองหาว่าควรเลือกฉีดเมโสแฟตที่ไหนดี หมอมีคำแนะนำวิธีเลือกคลินิกดังนี้ครับ

  • คลินิกเปิดให้บริการอย่างถูกต้อง มีชื่อคลินิกชัดเจนและเลขที่ใบอนุญาตของผู้ประกอบการ มาตรฐานตามกระทรวงสาธารณสุขติดไว้ในที่เห็นได้ รวมถึงคลินิกนั้นต้องมีป้ายรายชื่อผู้ประกอบวิชาชีพในคลินิกติดไว้ในที่เปิดเผย
  • ปลอดภัย ใช้ผลิตภัณฑ์ตัวยาเมโสแฟตที่ได้มาตรฐาน สามารถขอดูยี่ห้อเมโสแฟตก่อนฉีดได้ครับ เพื่อจะได้มั่นใจว่าส่วนผสมไม่มีอันตราย และสามารถตรวจสอบแหล่งผลิต บริษัทผู้นำเข้าได้ชัดเจน ไม่เสี่ยงต่อยาหิ้วยาปลอมที่อันตรายครับ
  • ควรทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น แนะนำว่าควรเป็นแพทย์ FullTime ประจำคลินิก เพราะหมอประจำคลินิกย่อมต้องพยายามรักษาชื่อเสียงคลินิก และมักมีรีวิวเก่า ๆ ของคลินิกนั้น ๆ

ฉีดเมโสแฟตแล้วไม่เห็นผล เกิดจากอะไร แก้อย่างไร ?

มีคนไข้หลายคนที่ฉีดเมโสแฟตไม่เห็นผลการเปลี่ยนแปลง ในกรณีนี้สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยครับ เช่น

  • หมอเลือกยี่ห้อและคำนวณปริมาณตัวยาฉีดที่ไม่เหมาะสมกับปัญหาและปริมาณไขมัน
  • ใช้ตัวยาเมโสแฟตที่ไม่ได้มาตรฐาน ฉีดเมโสแฟตปลอม ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดผลข้างเคียงตามมา เพราะตัวยาอาจมีสารประกอบอันตรายต่อผิวหนัง
  • การปฏิบัติหลังฉีดของคนไข้ หากไม่ลดเลี่ยงอาหารไขมันสูง ดื่มน้ำน้อย ก็ยังทำให้มีปริมาณไขมันสะสมอยู่อย่างต่อเนื่อง โอกาสที่ไขมันจะลดลงก็มีน้อยครับ

ดังนั้นหากต้องการฉีดเมโสแฟตแล้วเห็นผล ก่อนฉีดควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อจะได้เลือกยี่ห้อและคำนวณตัวยาได้ถูกต้อง ทำกับคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ รวมถึงดูแลตัวเองหลังฉีดเมโสแฟตร่วมด้วย ก็จะช่วยให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ


รีวิว ฉีดเมโสแฟต

รีวิว ฉีดเมโสแฟต ที่ V Square Clinic เจสซี่
รีวิว ฉีดเมโสแฟต ที่ V Square Clinic
รีวิว ฉีดเมโสแฟต ที่ V Square Clinic(1)
รีวิว ฉีดเมโสแฟต ที่ V Square Clinic
รีวิว ฉีดเมโสแฟต ที่ V Square Clinic(2)
รีวิว ฉีดเมโสแฟต ที่ V Square Clinic
รีวิว ฉีดเมโสแฟต ที่ V Square Clinic(1)
รีวิว ฉีดเมโสแฟต ที่ V Square Clinic
รีวิว ฉีดเมโสแฟต ที่ V Square Clinic
รีวิว ฉีดเมโสแฟต ที่ V Square Clinic

รีวิว ฉีดเมโสแฟต ที่ V Square Clinic


สรุป

สำหรับใครพยายามควบคุมอาหารและออกกำลังกาย แต่ยังมีไขมันส่วนเกินบางจุดที่ลดไม่ลง ลดไขมันได้ยาก การฉีดเมโสแฟตเป็นตัวช่วยที่ดีครับ มีขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยาก เหมาะกับคนที่อยากสลายไขมันเฉพาะจุด ลดแก้ม ลดเหนียง ปรับหน้าเรียว แต่ไม่มีเวลาพักฟื้น ไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากดูดไขมัน และไม่ได้มีไขมันสะสมเยอะมากจนเกินไป 

แต่ก่อนที่จะตัดสินใจฉีดเมโสแฟต ควรศึกษาตัวยาเมโสแฟตแต่ละยี่ห้อ วิธีตรวจสอบเมโสแฟตของแท้ และควรเข้าปรึกษาแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง เพื่อตรวจประเมินเลือกยี่ห้อและปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละเคสครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา_หมอ29คน