บทความทั้งหมด

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ไหนดี 370x277

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ไหนดี ? แนะนำเทคนิคตรวจสอบคลินิกเสริมความงาม ที่ได้มาตรฐาน

Categories
filler
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ไหนดี 1000x860

ปัญหาร่องแก้มลึก ริ้วรอยร่องแก้ม จะทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย ดูเหนื่อย ไม่สดใส ร่องแก้มลึกส่วนใหญ่เกิดจากอายุที่มากขึ้น ทำให้กระดูกมีการทรุดตัวและเป็นร่องลึกลงไป การแก้ร่องแก้มลึกจึงต้องใช้สารเติมเต็มฉีดเสริมเข้าไปในส่วนที่ทรุดตัว ช่วยถมร่องแก้มให้ตื้นขึ้น หรือที่เรียกว่าฉีด Filler เติมร่องแก้มนั่นเองครับ

แต่การฉีดร่องแก้ม ใช่ว่าจะฉีดที่ไหนก็ได้ เพราะต้องอาศัยเทคนิคและประสบการณ์ของแพทย์ จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดี เนียนสวย ดูเป็นธรรมชาติ ปลอดภัย หากเลือกคลินิกไม่ดี หรือเจอหมอกระเป๋า ใช้ฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้ว จะทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมา เช่น ฟิลเลอร์เป็นก้อน ฟิลเลอร์ไหล หรือเกิดการอักเสบ ติดเชื้อ

ในบทความนี้หมอจะมาแนะนำวิธีเลือกคลินิก ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ไหนดี ที่ไหนสวย ได้มาตรฐาน เดินทางสะดวก ต้องพิจารณาจากปัจจัยอะไรบ้าง ?

สารบัญ 

  1. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ไหนดี คลินิกที่แนะนำ
  2. เลือกฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ไหนดี จึงได้มาตรฐานและความปลอดภัย
  3. ราคาฟิลเลอร์ร่องแก้มที่เหมาะสมเป็นอย่างไร ?

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ไหนดี คลินิกที่แนะนำ

ตามกฎกระทรวง ได้กำหนดให้บริการเสริมความงามอยู่ในกลุ่มของคลินิกเวชกรรมและคลินิกเวชกรรมเฉพาะทาง จะต้องมีมาตรฐานครบ 4 ด้านครับ 

  1. สถานที่ต้องสะอาด มีห้องตรวจหรือห้องให้การรักษาเป็นสัดส่วน มิดชิด ปลอดภัยต่อผู้รับบริการ เครื่องมือในห้องได้มาตรฐาน
  2. ผู้ที่ยื่นคำขออนุญาตดำเนินการสถานพยาบาล ต้องเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม (หมอ) สามารถดูแลสถานพยาบาลได้อย่างใกล้ชิด และไม่เป็นผู้ดำเนินการหรือผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลเอกชน หรือหน่วยงานรัฐที่มีเวลาปฏิบัติงานซ้ำซ้อนกัน 
  3. ชนิดและจำนวนเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นประจำสถานพยาบาลตามกฎหมายต้องได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) 
  4. ชื่อสถานพยาบาลต้องไม่ขัดแย้งกับกฎกระทรวงว่าด้วยชื่อ และไม่ฝ่าฝืนการโฆษณา ต้องไม่ใช้คำที่มีลักษณะชักชวน เป็นเท็จ หรือโอ้อวดเกินความจริงทางสื่อทำให้ประชาชนเข้าใจผิด
คุณสมบัติคลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ดี

ปัจจุบัน V Square Clinic เปิดให้บริการ 27 สาขา ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพและปริมณฑล ดังนี้

1. V Square Clinic สาขาสยามสแควร์วัน  

คลินิกเสริมความงาม V Square สาขาสยามสแควร์วัน ตั้งอยู่ในศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน ชั้น 6 ติด BTS สยาม เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

093 110 9000

คลิกดูแผนที่

@VsqSQR

วีสแควร์สาขาสยาม

2. V Square Clinic สาขาเกตเวย์ เอกมัย

คลินิกเสริมความงาม V Square สาขาเกตเวย์ เอกมัย เดินเข้าจากทางเชื่อม BTS เอกมัย ขึ้นบันไดเลื่อน 1 ชั้น คลินิกอยู่ติดกับร้านทำฟัน เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

099 005 9000 

คลิกดูแผนที่

@VSqGTW

วีสแควร์สาขาเกตเวย์เอกมัย

3. V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว

V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว ตั้งอยู่ใกล้ประตู 3 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว  ใกล้ The One Park ฝั่งที่เดินไป MRT พหลโยธิน เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

091 905 7000 

คลิกดูแผนที่

@VsqCLP

วีสแควร์สาขาเซ็นทรัล-ลาดพร้าว

4. V Square Clinic สาขาเมเจอร์ รัชโยธิน

V Square Clinic สาขาเมเจอร์ รัชโยธิน  ตั้งอยู่ชั้น3 ภายในห้างสรรพสินค้าเมเจอร์ รัชโยธิน เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

093 001 9000

คลิกดูแผนที่

@VsqRCT

วีสแควร์สาขาเมเจอร์รัชโยธิน

5. V Square Clinic สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต 

V Square Clinic สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต คลินิกอยู่ชั้น 1โซนโรบินสัน ติดกับร้านแว่น  และร้าน Samsonite เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น. 

093 030 9000 

คลิกดูแผนที่

@VsqRST

วีสแควร์สาขาฟิวเจอร์พาร์ค-รังสิต

6. V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล บางนา 

V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล บางนา ตั้งอยู่ ชั้น 14 โซนออฟฟิศ อาคารเซ็นทรัลซิตี้ทาวเวอร์  เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

099 105 9000 

คลิกดูแผนที่

@VsqBNA

วีสแควร์สาขาเซ็นทรัล บางนา

7. V Square Clinic สาขาซีคอน ศรีนครินทร์  

V Square Clinic สาขาซีคอน ศรีนครินทร์  ตั้งอยู่ชั้น 3 ภายในศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์  เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

091 916 9000 

คลิกดูแผนที่

@VsqSCN

วีสแควร์สาขาซีคอน ศรีนครินทร์

8. V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า 

V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

099 006 7000

คลิกดูแผนที่

@VsqPNK

วีสแควร์สาขาเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า

9. V Square Clinic สาขาเดอะวอล์ค ราชพฤกษ์

V Square Clinic สาขาเดอะวอล์ค ราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ชั้น 2 ภายในศูนย์การค้าเดอะวอล์ค ราชพฤกษ์ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

099 005 7000 

คลิกดูแผนที่

@VsqRCP

วีสแควร์สาขาเดอะวอล์ค ราชพฤกษ์

10. V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล พระราม 2  

V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล พระราม 2 ตั้งอยู่ชั้น 2 ภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พระราม 2 เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

091 914 9000 

คลิกดูแผนที่

@VsqCTR

วีสแควร์สาขาเซ็นทรัล พระราม 2

11. V Square Clinic สาขาเดอะ พรอมานาด   

V Square Clinic สาขาเดอะ พรอมานาด ตั้งอยู่ชั้น 4 โซนความงาม คิดบันไดเลื่อน ภายในศูนย์การค้าเดอะ พรอมานาด เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

091 905 8000 

คลิกดูแผนที่

@VsqPRM

วีสแควร์สาขาเดอะ พรอมานาด

12. V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล อีสวิลล์ 

V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล อีสวิลล์ ตั้งอยู่ชั้น 3 ภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล อีสวิลล์ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

093 012 9000 

คลิกดูแผนที่

@VsqESV

วีสแควร์สาขาเซ็นทรัล อีสวิลล์

13. V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ  

V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ  ตั้งอยู่ชั้น 3 ภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ  เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

093 007 9000 

คลิกดูแผนที่

@VsqCWT

วีสแควร์สาขาเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ

14. V Square Clinic สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ 

V Square Clinic สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ ตั้งอยู่ชั้น 2 ในห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

091 903 9000 

คลิกดูแผนที่

@VsqBKP

วีสแควร์สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ

15. V Square Clinic สาขาพาซิโอ กาญจนาภิเษก  

V Square Clinic สาขาพาซิโอ กาญจนาภิเษก ตั้งอยู่ชั้น 1 โซนร้านอาหาร เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

084 242 4000

คลิกดูแผนที่

@VsqPSO

วีสแควร์สาขาพาซิโอ

16. V square clinic สาขาเซ็นทรัล พระราม 3 

V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล พระราม 3  ตั้งอยู่ชั้น 4 บริเวณโถงลิฟท์แก้ว เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

092 236 2000 

คลิกดูแผนที่

@VsqCRM

วีสแควร์สาขาเซ็นทรัล พระราม 3

17. V square clinic สาขาเซ็นทรัล เวสต์เกต 

V Square Clinic สาขาเดอะมอลล์ บางแค คลินิกตั้งอยู่ที่ชั้น 2 เยื้องกับ Trust คลินิกทันตกรรม ตรงข้ามจะเป็น Makalin คลินิก เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

092 245 2000

คลิกดูแผนที่

@VsqMba

วีสแควร์สาขาเวสต์เกต

18. V square clinic สาขาเดอะมอลล์ บางแค

V Square Clinic สาขา เซ็นทรัล เวสต์เกต    คลินิกตั้งอยู่ชั้น 2 อยู่ติดกับ Makalin คลินิก เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

084 404 0400

คลิกดูแผนที่

@VsqCwg

วีสแควร์สาขาเดอะมอลล์ บางแค

19. V square clinic เอ็มควอเทียร์

V Square Clinic สาขา เอ็มควอเทียร์ เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 35 ตรงเข้ามาประมาณ 20 เมตร คลินิกอยู่ซ้ายมือเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

081 712 5000

คลิกดูแผนที่

@VsqEmq

วีสแควร์สาขาเอ็มควอเทียร์

20. V square clinic เดอะมอลล์ ท่าพระ

V Square Clinic สาขา เดอะมอลล์ ท่าพระ คลินิกตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ตรงข้าม BANANA IT เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

080 453 4000

คลิกดูแผนที่

@VsqMTA

วีสแควร์สาขาเดอะมอลล์ ท่าพระ

21. V square clinic เทอร์มินอล พระราม 3

V Square Clinic สาขา เดอะมอลล์ ท่าพระ คลินิกตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ตรงข้าม BANANA IT เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

092 998 9000

คลิกดูแผนที่

@VsqMTA

วีสแควร์สาขาเทอร์มินอล พระราม 3

22. V square clinic เซ็นทรัล รามอินทรา

V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล รามอินทรา ตั้งอยู่ชั้น 3
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. – 19.30 น.

092 628 9000

คลิกดูแผนที่

@VsqCRA

วีสแควร์สาขารามอินทรา

23. V square clinic เทอร์มินอล อโศก

V Square Clinic สาขา เทอร์มินอล อโศก ตั้งอยู่ชั้น 6 เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

092 879 9000

คลิกดูแผนที่

@VsqTMA

วีสแควร์สาขาเทอร์มินอล-อโศก

24. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic เซ็นทรัล ศาลายา

V Square Clinic สาขา เซ็นทรัล ศาลายา ตั้งอยู่ชั้น 2 โซนพลาซ่า ใกล้กับ คาเฟ่อเมซอน ตรงข้ามเยื้อง Supersports
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

064 939 9000

คลิกดูแผนที่

@VsqCSA

V Square Clinic เซ็นทรัล ศาลายา

25. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic เซ็นทรัล นครปฐม

V Square Clinic สาขา เซ็นทรัล นครปฐม
ตั้งอยู่ชั้น 2 โซนลานกิจกรรม ติดกับร้านKT OPTIC และ LUX OPTIC
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

092 826 9000

คลิกดูแผนที่

@VsqCnk

25_วีสแควร์สาขาเซ็นทรัลนครปฐม.jpg

26. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic เมกาบางนา

V Square Clinic สาขา เมกาบางนา คลินิกตั้งอยู่ ชั้น 1 ตรงข้ามธนาคารกรุงศรี
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00-20.30 น

065 156 1000

คลิกดูแผนที่

@VsqMga

26_วีสแควร์สาขาเมกา-บางนา

27. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic เซ็นทรัล พระราม 9

V Square Clinic สาขา พระราม 9 คลินิกตั้งอยู่ ชั้น 1 อาคารภคินท์ ตรงข้ามกับ เซ็นทรัล พระราม9
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-20.30 น.

098 964 9000

คลิกดูแผนที่

@VsqCpn

27_วีสแควร์สาขาพระราม9

เลือกฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ไหนดี จึงได้มาตรฐานและความปลอดภัย

มาตรฐานและความน่าเชื่อถือของคลินิก

อันดับแรกต้องเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานครับ เปิดอย่างถูกกฎหมาย ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะมีการตรวจมาตรฐาน 3 ด้าน ดังนี้

  • ด้านอาคารสถานที่ ต้องอยู่ในทำเลที่ปลอดภัย อาคารมั่นคง แข็งแรง สะอาด มีภาชนะในการกำจัดขยะติดเชื้ออย่างเหมาะสม
  • ด้านบุคลากรและการบริการ แพทย์ประจำคลินิก มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ มีการแสดงภาพถ่าย ชื่อ เลขที่ใบอนุญาต และอัตราค่าบริการไว้ในที่เปิดเผย 
  • ด้านเครื่องมือและเวชภัณฑ์ มีเครื่องมือ อุปกรณ์ ยา ที่จำเป็น และมีปริมาณเพียงพอ ไม่เสื่อมสภาพหรือหมดอายุ
เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ได้มาตรฐาน

มีการบริการที่ดี

คลินิกควรมีบริการที่ดี สามารถแนะนำและตอบคำถามของผู้ใช้บริการได้อย่างตรงไปตรงมา มีราคาบอกชัดเจน ก่อนทำหัตถการมีการซักประวัติโรคประจำตัว แจ้งข้อจำกัดต่าง ๆ และหลังทำหัตถการก็ควรมีการติดตามผล รวมถึงแนะนำขั้นตอนการดูแลตัวเอง เพื่อเพิ่มความมั่นใจและความสบายใจให้คนไข้

นอกจากนี้คลินิกควรมีช่องทางการติดต่อที่สะดวก หากมีคำถาม ปัญหา หรือข้อสงสัย สามารถติดต่อได้อย่างรวดเร็ว เช่น เบอร์โทร ,Line@

เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่มีบริการที่ดี

หมอมีความเชี่ยวชาญ

ร่องแก้มเป็นจุดที่ต้องใช้เทคนิคและความชำนาญของแพทย์ ทั้งในการประเมินสาเหตุของปัญหา และการเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่เหมาะสมครับ ปัญหาที่พบจากการฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ 

เช่น ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อน เพราะหมอฉีดฟิลเลอร์เข้าไปตรงร่องแก้มโดยตรง ไม่ได้ฉีดในชั้นที่ลึกมากพอ หรือการเลือกเนื้อฟิลเลอร์ไม่เหมาะสม ไม่มีความคงตัวมากพอ ทำให้ถูกกล้ามเนื้อบริเวณร่องแก้มดึงมากองเป็นก้อน และต้องแก้ไขในภายหลัง เสียเงิน เสียเวลา และทำให้คนไข้เสียความมั่นใจด้วยครับ

นอกจากนี้ยังพบปัญหาที่เกิดจากการฉีดกับหมอกระเป๋า ใช้ฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้ว ที่ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่อันตราย เช่น การอักเสบ ติดเชื้อ ใช้ฟิลเลอร์ปลอมแล้วไหลย้อย เป็นก้อนแข็ง ต้องผ่าตัดหรือขูดออก  

ทีมแพทย์ V Square Clinic ประสบการณ์ 15 ปี หมอเอก
ทีมแพทย์ V Square Clinic ประสบการณ์ 15 ปี
สามารถแนะนำฟิลเลอร์ที่เหมาะสม ช่วยแก้ปัญหาอย่างตรงจุด

เพื่อความมั่นใจ คนไข้สามารถนำชื่อ-นามสกุล ไปตรวจสอบได้ในเว็บไซต์ของแพทยสภาครับ https://checkmd.tmc.or.th/ และที่คลินิกจะต้องมีการแสดงภาพถ่ายและเลขที่ใบอนุญาตผู้ประกอบวิชาชีพติดไว้หน้าห้องตรวจ

ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคน สั่งสมประสบการณ์และเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์กว่า 15 ปี โดยมุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ สามารถปรับรูปหน้าให้เคสที่หลากหลาย ใส่ใจทุกรายละเอียด ประเมินปัญหาและให้คำแนะนำเป็นรายบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับแต่ละเคสครับ 

รางวัลของ V Square Clinic
การันตีคุณภาพด้วยรางวัลระดับประเทศตลอดระยะเวลาที่เปิดคลินิก

เลือกใช้เฉพาะฟิลเลอร์แท้คุณภาพสูง

ฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ต้องเป็นฟิลเลอร์แท้ (Hyaluronic Acid) เท่านั้น เพราะเป็นฟิลเลอร์ชนิดเดียวที่ผ่านการรับรองจาก อย. ฉีดแล้วสลายหมดไม่มีสารตกค้าง มีความปลอดภัยครับ

เลือกใช้เฉพาะฟิลเลอร์แท้คุณภาพสูง

ที่ V Square Clinic ใช้ฟิลเลอร์แท้ มาตรฐานระดับโลก สามารถตรวจสอบกับบริษัทนำเข้าได้ทุกกล่อง มั่นใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ 100% จากประเทศอเมริกา สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลีและเกาหลี การขนส่งและเก็บรักษามีการควบคุมอุณหภูมิอย่างเหมาะสม ฟิลเลอร์ไม่เสื่อมคุณภาพ ก่อนฉีดหมอจะแกะกล่องใหม่ให้ดูต่อหน้าทุกครั้ง

ยี่ห้อฟิลเลอร์เหมาะสมกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

การเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ร่องแก้ม ควรเลือกใช้ฟิลเลอร์เนื้ออ่อน ทนต่อการขยับได้ดี เพราะร่องแก้มเป็นจุดที่ขยับบ่อย และต้องเลือกให้เหมาะกับปัญหาร่องแก้มของคนไข้แต่ละคนด้วยครับ สำหรับยี่ห้อฟิลเลอร์ร่องแก้มที่แนะนำ ได้แก่

  • Juvederm Ultra Plus อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Juvederm Voluma อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Juvederm Volift อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Juvederm Volux อยู่ได้นาน 18-24 เดือน
  • Restylane Volyme อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Belotero Intense อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Definisse Restore อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Definisse Touch อยู่ได้นาน 8-12 เดือน

มีการรีวิวฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ชัดเจน

คลินิกควรมีรีวิวฟิลเลอร์ร่องแก้มจากผู้ใช้บริการจริง ทั้งรูปภาพและวิดีโอ (ตกแต่งได้ยากกว่า) เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ก่อน-หลังทำ อย่างชัดเจน

รีวิวฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2 CC(1)
รีวิวฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2 CC
รีวิวฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2 CC
รีวิวฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2 CC
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2cc
รีวิวฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2 CC
รีวิวฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2 CC
รีวิวฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2 CC
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ไขปัญหาใต้ตาลึก ร่องแก้มลึก

ราคาฟิลเลอร์ร่องแก้มที่เหมาะสมเป็นอย่างไร ?

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ราคาจะแตกต่างกันอยู่ที่ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ และจำนวน CC ที่ใช้ครับ โดยปกติราคาในคลินิกที่ได้มาตรฐานจะไม่ได้แตกต่างกันมาก ถ้าเจอราคาถูกมาก ๆ จากท้องตลาด อาจเป็นฟิลเลอร์ปลอมหรือฟิลเลอร์หิ้วได้ครับ

โปรโมชั่น ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ V Square Clinic

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ราคาโปรโมชัน
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ราคาโปรโมชัน

สรุป

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ปลอดภัย ช่วยแก้ปัญหาร่องแก้มลึกได้อย่างเห็นผล ก่อนฉีดคนไข้ต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ให้ถี่ถ้วน เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้คลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์แท้ และหมอที่มีประสบการณ์ พร้อมจะดูแลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด อย่าเห็นแก่ราคาถูกเป็นอันดับแรก ถ้าพลาดไปเจอคลินิกเถื่อน หมอปลอม ฟิลเลอร์ปลอม นอกจากจะไม่ช่วยแก้ปัญหาได้อย่างเห็นผล ยังทำให้เกิดผลข้างเคียงที่อันตรายด้วยครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
ก่อนฉีดฟิลเลอร์

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ? มีข้อห้ามไหม ? แต่ละตำแหน่งเหมือนกันไหม ?

Categories
filler
ก่อนฉีดฟิลเลอร์

ก่อนฉีดฟิลเลอร์

การหาข้อมูลก่อนฉีดฟิลเลอร์ หมอมองว่าเป็นเรื่องสำคัญและไม่ควรมองข้าม เพราะส่งผลต่อความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่จะออกมาได้เลยครับ

บทความนี้หมอจึงได้รวมข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรเตรียมตัวอย่างไร ? มีข้อห้ามอะไรไหม ? แต่ละตำแหน่งเหมือนกันไหม ? สำหรับใครที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ แนะนำว่าไม่ควรพลาดครับ

ประเมินปัญหา ก่อนฉีดฟิลเลอร์ โดย หมอย้งยี้
ประเมินปัญหา วางแผนการรักษาโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ก่อนฉีดฟิลเลอร์

สารบัญ ก่อนฉีดฟิลเลอร์ เตรียมตัวอย่างไร


ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรหาความรู้อะไรบ้าง ?

การศึกษาข้อมูลก่อนทำหัตถการเป็นสิ่งสำคัญ ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรรู้อะไรบ้าง หมอได้รวบรวมมาให้คนไข้ตามหัวข้อเหล่านี้

ฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร ?

ฟิลเลอร์ คืออะไร

ฟิลเลอร์ที่นิยมใช้ในการปรับรูปหน้าในปัจจุบัน คือ สารเติมเต็ม Hyaluronic Acid (HA) ผลิตขึ้นมาเลียนแบบสารธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกายของเรา มีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่น สามารถสลายได้ตามธรรมชาติ

ส่วนใครที่กังวลว่าฟิลเลอร์อันตรายไหม ? สารเติมเต็ม HA ได้รับรองจาก อย. อเมริกา (U.S. FDA) ในการใช้ฉีดเข้าสู่ผิว สามารถเติมริ้วรอยร่องลึก ปรับโครงสร้างใบหน้าได้อย่างปลอดภัย ไม่มีอันตรายครับ

ฉีดฟิลเลอร์ ตำแหน่งไหนได้บ้าง ? ใช้กี่ CC ?

ฉีดฟิลเลอร์ ตำแหน่งไหนได้บ้าง โดย คุณต่าย
ตำแหน่งช่วยแก้ปัญหาเรื่องจำนวน CC ที่ใช้
ฟิลเลอร์หน้าผากเติมเต็มหน้าผากให้เรียบเนียน ปรับโหงวเฮ้ง3-5 CC
ฟิลเลอร์ใต้ตาลดเลือนร่องลึกและรอยคล้ำใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูสดใสและไม่เหนื่อยล้า2-4 CC
ฟิลเลอร์ขมับเติมเต็มขมับตอบ ขมับลึก ทำให้ใบหน้าดูเต็มและสมดุลมากขึ้น ลดโหนกแก้มเด่น2-4 CC
ฟิลเลอร์ร่องแก้มช่วยลดเลือนริ้วรอยร่องแก้มลึกให้ดูเรียบเนียน ใบหน้าดูอ่อนเยาว์2-4 CC
ฟิลเลอร์ปากช่วยเพิ่มความอวบอิ่มและปรับรูปทรงริมฝีปากให้ดูสวยงามเป็นธรรมชาติ1-2 CC
ฟิลเลอร์แก้มส้มช่วยให้ใบหน้าดูสดใส อิ่มเอิบ มีชีวิตชีวา1-2 CC
ฟิลเลอร์คางปรับรูปทรงคางให้เรียวยาวขึ้น แก้ปัญหาคางสั้น คางตัด ทำให้ใบหน้าดูสมดุลและมีมิติ1-2 CC

ทั้งนี้ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ในแต่ละตำแหน่ง หมอจะประเมินตามระดับปัญหา และความต้องการเป็นรายเคสไปครับ

ฉีดฟิลเลอร์ เหมาะ-ไม่เหมาะกับใคร ?

ฟิลเลอร์เหมาะกับความต้องการของเราหรือไม่ และใครบ้างที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ หมอสรุปให้ดังนี้

ใครที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์เหมาะกับใคร โดย หมอแพร
  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้า ต้องการเติมเต็มให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้น
  • ผู้ที่มีใบหน้าไม่ได้สัดส่วน ต้องการปรับรูปหน้า ให้ดูสมดุลและดูมีมิติมากขึ้น
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง ผิวขาดน้ำต้องการเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการการเห็นการเปลี่ยนแปลงของผลลัพธ์หลังทำทันที
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า แต่ไม่ต้องการผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น

ใครที่ไม่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์

ใครที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรเช็กก่อนครับว่าอยู่ในกลุ่มที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์หรือควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเสี่ยงก่อน

  • ผู้ที่มีประวัติแพ้สาร Hyaluronic acid (HA)
  • ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชา
  • ผู้ที่มีภาวะเลือดไหลไม่หยุด
  • ผู้ที่ตั้งครรภ์และการให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์ก่อน เนื่องจากไม่มีการวิจัยที่เพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยในกลุ่มนี้
  • ผู้ที่โรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือโรคทางระบบภูมิคุ้มกัน

ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? หมอมีแนะนำ

คลิปนี้หมอพามาทำความรู้จักกับประเภทของฟิลเลอร์และวิธีการเลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี

ปัจจุบันมีฟิลเลอร์ออกมาหลายยี่ห้อจากหลายประเทศ โดยแต่ละรุ่นมีจุดเด่นที่ต่างกัน สามารถนำมาแก้ปัญหาบนใบหน้าได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น แต่ก็ต้องระวังฟิลเลอร์ของปลอมที่นำเข้าอย่างผิดกฎหมาย มีการเก็บรักษาที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ฟิลเลอร์เสื่อมคุณภาพ

ในบทความนี้ หมอแนะนำเป็นยี่ห้อฟิลเลอร์สาร Hyaluronic acid ผ่าน อย. ได้มาตรฐาน ทั้งยี่ห้อที่ได้รับความนิยม และยี่ห้อใหม่ ๆ ที่เพิ่งเข้ามาในไทย

  • ฟิลเลอร์ Restylane : ฟิลเลอร์จากสวีเดน โดดเด่นด้วย 2 เทคโนโลยีการผลิต NASHA และ OBT ทำให้มีความปลอดภัยสูงและมีความหนาแน่นที่หลากหลาย เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องลึกและเสริมโครงหน้า ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและยาวนาน มีหลายรุ่นให้เลือกใช้ครอบคลุมเกือบทุกจุดบนใบหน้า
  • ฟิลเลอร์ Juvederm : ฟิลเลอร์จากอเมริกา ใช้ 2 เทคโนโลยีในการผลิตคือ Hylacross และ Vycross ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความเนียนของเนื้อฟิลเลอร์ เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องลึกและเพิ่มปริมาตร
  • ฟิลเลอร์ Belotero : ฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ ใช้เทคโนโลยีการผลิต Cohesive Polydensified Matrix (CPM) ทำให้มีเนื้อเนียนละเอียด เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องตื้น ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและเรียบเนียน
  • ฟิลเลอร์ Definisse : ฟิลเลอร์จากอิตาลี ใช้เทคโนโลยี XTR™ Technology ทำให้มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการเสริมโครงหน้าและยกกระชับผิว หลังทำบวมน้อยหรือแทบไม่บวมเลย เห็นผลเร็ว และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
  • ฟิลเลอร์ Teoxane : ฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ ใช้เทคโนโลยีการผลิต Resilient Hyaluronic Acid (RHA) ทำให้เนื้อเจลมีความยืดหยุ่นและทนทานสูง เหมาะสำหรับการเติมเต็มและยกกระชับ ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและยาวนาน
  • ฟิลเลอร์ Flore : ฟิลเลอร์จากเกาหลี ใช้ 2 เทคโนโลยีในการผลิต คือ HCCL และ PP-Process ทำให้เนื้อเนียนละเอียดและมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องลึกและร่องตื้น ปรับโครงสร้างใบหน้า เช่น ขมับ คาง กรอบหน้า

วิธีเช็กฟิลเลอร์ของแท้ ไม่เสี่ยงเจอของปลอม

แนะนำ วิธีดูฟิลเลอร์แท้ ฟิลเลอร์ปลอมดูอย่างไร ?

เพื่อความปลอดภัย การเช็กฟิลเลอร์ของแท้ เป็นสิ่งที่ควรศึกษาไว้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ครับ โดยควรให้แพทย์แกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า และขอเช็กฟิลเลอร์ที่ฉีดว่าใช้ของแท้ได้ 3 จุดสังเกตดังนี้

  1. มีเลขทะเบียนที่กล่อง อย.
  2. มีเอกสารกำกับภาษาไทย
  3. เลข Lot. ที่กล่อง สติ๊กเกอร์ หลอด ต้องตรงกัน

อีกทั้งปัจจุบันฟิลเลอร์ยี่ห้อมีวิธีตรวจสอบที่ง่ายขึ้นแล้วครับ โดยสามารถสแกน QR Code ตรวจสอบผ่านทางแอปพลิเคชัน หรือโทรสอบถามเลข Lot. หรือชื่อคลินิกที่ใช้ฟิลเลอร์แท้กับบริษัทนำเข้าได้โดยตรง

ตัวอย่างวิธีเช็กฟิลเลอร์ของแท้แต่ละยี่ห้อ

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Defyne
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Defyne
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Juvederm Voluma
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Juvederm Voluma
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Definisse Restore
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Definisse Restore
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Definisse Restore
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Belotero Intense

ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเห็นผล ? ผลลัพธ์อยู่ได้นานกี่เดือน ?

ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเห็นผล

หลังฉีดฟิลเลอร์เห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำครับ และจะเห็นผลได้ชัดเจนเมื่ออาการบวมช้ำหายและฟิลเลอร์เข้าที่เรียบร้อยแล้ว

ส่วนผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานประมาณ 6-24 เดือนขึ้นอยู่กับรุ่น/ยี่ห้อฟิลเลอร์ ตำแหน่งที่ฉีด และการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ของแต่ละบุคคลครับ

5 วิธียืดอายุฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นาน

วิธียืดอายุฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นาน

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังฉีดฟิลเลอร์

หลังฉีดฟิลเลอร์อาจพบผลข้างเคียงเหล่านี้ได้เป็นปกติครับ สามารถหายได้เอง ไม่ได้เป็นอันตรายครับ

  • อาการบวม รอยเขียวช้ำจากเข็ม สามารถหายได้เอง 1 สัปดาห์
  • อาการบวมจากตัวฟิลเลอร์ ค่อย ๆ เข้าที่ใน 2 สัปดาห์

แต่ถ้าเกิดเป็นก้อนบวมมากขึ้นเรื่อย ๆ ผิวบริเวณที่ฉีดมีสีแดงหรือคล้ำผิดปกติ รู้สึกร้อน ๆ ผิว เป็นอาการบวมที่เกิดจากฟิลเลอร์อักเสบ หรือติดเชื้อ มีสาเหตุจากการคลินิกไม่ได้มาตรฐาน ความสะอาด ทำให้เกิดการติดเชื้อระหว่างทำ โดยถ้าพบอาการนี้ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาครับ


ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรเตรียมตัวอย่างไร ?

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรรู้อะไรบ้าง ? เตรียมตัวอย่างไรให้ปลอดภัย ?

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ หมอของแบ่งเป็น 2 ขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้ครับ

  1. ขั้นตอนแรกคือ การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์มีกี่ประเภท วิธีเช็กฟิลเลอร์แท้ วิธีปฏิบัติก่อนหลังฉีดฟิลเลอร์ และข้อควรพิจารณาเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญ เพราะสามารถส่งผลต่อผลลัพธ์ที่จะได้ และความปลอดภัยครับ

สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี หมอมีวิธีเช็กคลินิกที่ได้มาตรฐานดังนี้ครับ

  • คลินิกที่มีใบอนุญาต 11 หลัก ได้รับรองจากกระทรวงสาธารณสุข เดินทางสะดวก
  • มีแพทย์ Full Time ประจำคลินิก ต้องเป็นแพทย์จริงมีประกอบวิชาชีพ สามารถเช็กชื่อ-นามสกุลของแพทย์ได้ที่ https://checkmd.tmc.or.th/
  • แพทย์มีประสบการณ์ฉีดฟิลเลอร์ รู้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง
  • มีรีวิวที่น่าเชื่อถือจากผู้ใช้บริการจริง รูปถ่าย วิดีโอ และควรดูรีวิวจากแหล่งที่เป็นกลาง คลินิกไม่สามารถหลบได้
  • มีนัดติดตามผลหลังฉีดทุกเคส
คลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน โดย หมอกันต์
  1. ขั้นตอนที่สองคือ การเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อม หลังเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานเรียบร้อยแล้ว
    • หากมีคอร์สนวดหน้าหรือนัดทำเลเซอร์ ควรทำมาก่อนอย่างน้อย 3 วัน
    • หากมีโรคประจำตัว หรือยาที่รับประทานอยู่เป็นประจำ ควรเตรียมข้อมูลไว้เพื่อแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทำหัตถการ
    • ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการฉีดฟิลเลอร์

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ มีข้อห้ามอะไรไหม ?

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรงดกิจวัตรประจำวันเหล่านี้ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง ครับ

  • งดการใช้ยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว เช่น Retin A, Retinols, Retinoids, หรือครีมในกลุ่ม Anti aging เป็นเวลา 3 วัน
  • งดการแว็กซ์ผิว ผลัดเซลล์ผิว การดึงหรือการโกนขนบริเวณนั้น ๆ เป็นเวลา 3 วัน ก่อน
  • งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น เข้าซาวน่า ออกกำลังกายชนิด Cardio เป็นเวลา 24 ชั่วโมง

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรไหม ?

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ไม่ได้ห้ามกินอาหารอะไรเป็นพิเศษครับ มีเพียงให้งดรับประทานอาหาร ยา หรือวิตามินบางชนิดที่อาจส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด หรือส่งผลอาการบวมหลังฉีดให้หายช้าลง

  • งดการรับประทานยากลุ่ม (NSAIDs) เช่น ยาแอสไพริน ไอบูโพรเฟน พอนสแตน
  • งดอาหารเสริมและวิตามินบางชนิด เช่น วิตามิน St. John’s Wort, ginkgo biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E
  • เลี่ยงอาหารที่มีโซเดียมสูง อาหารรสจัดและเผ็ด อาจทำให้ร่างกายบวมน้ำและเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดอาการบวมหลังฉีด
  • งดการดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูง ทำให้เส้นเลือดขยายตัวและเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดฟกช้ำ
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไร

ก่อนฉีดฟิลเลอร์แต่ละตำแหน่ง มีข้อห้ามหรือการเตรียมตัวต่างกันไหม ?

วิธีเตรียมตัวหรือข้อห้ามก่อนฉีดฟิลเลอร์แต่ละตำแหน่งไม่ได้ต่างกันครับ ไม่ว่าจะเป็นก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ใต้ตา หรือในตำแหน่งอื่น ๆ ไม่เหมือนกับหลังฉีดที่จะมีข้อควรระวังในแต่ละจุดต่างกันไป

ใครที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ไม่ว่าจะตำแหน่งไหน ก่อนฉีดสามารถปฏิบัติตามข้อแนะนำ และข้อห้ามที่หมอกล่าวมาได้เลยครับ


สรุป

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ มีอยู่ 2 ขั้นตอนหลัก ๆ ที่ควรทำครับ คือ ศึกษาข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับหัตถการ และการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนมาฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้ฟิลเลอร์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และป้องกันการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์

โดยก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ ประเมินปัญหา วางแผนการรักษา เลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละบุคคล จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีความปลอดภัยครับ

สำหรับใครที่สนใจ สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาหมอก่อนฉีดฟิลเลอร์ได้ที่ V Square Clinic ทุกสาขา หรือส่งรูปใบหน้ามาให้หมอประเมินเบื้องต้นผ่านช่องทางออนไลน์ก่อนได้ครับ หมอตอบเอง ไม่มีค่าใช้จ่าย


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
ขูดฟิลเลอร์

ขูดฟิลเลอร์ เจ็บไหม ? อันตรายหรือไม่ ? กี่วันเห็นผล ?

Categories
filler
ขูดฟิลเลอร์

ขูดฟิลเลอร์

การขูดฟิลเลอร์ คือ กระบวนการที่หมอไม่อยากให้เกิดขึ้นครับ ถามว่าเพราะอะไร ?

คำตอบคือ หากต้องขูดฟิลเลอร์ออก นั่นหมายความว่า ฟิลเลอร์ที่คนไข้ฉีดมานั้นเป็นฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่สลาย เมื่อฉีดไปแล้วทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อน เกิดพังผืด ฟิลเลอร์ไหล ซึ่งหมอไม่อยากเกิดขึ้นกับคนไข้ทุกคนครับ

แต่ถ้าเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องแก้ไขด้วยการขูดฟิลเลอร์ออก คนไข้หลายคนจึงกังวลว่าขูดฟิลเลอร์ เจ็บไหม ? มีขั้นตอนอย่างไร ? ขูดฟิลเลอร์อันตรายไหม ? ขูดฟิลเลอร์กี่วันเห็นผล ? ขูดฟิลเลอร์ราคาเท่าไหร่ ? ขูดฟิลเลอร์ ต่างจาก ฉีดสลายฟิลเลอร์อย่างไร ? ในบทความนี้หมอจะมาให้คำตอบทุกข้อสงสัยครับ

สารบัญ ขูดฟิลเลอร์


ขูดฟิลเลอร์ คืออะไร ?

การขูดฟิลเลอร์ คือ การนำฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าสู่ผิวหนังออกโดยใช้เทคนิคพิเศษ และเครื่องมือทางการแพทย์ มักจะทำเมื่อเกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ฟิลเลอร์ไหล ฟิลเลอร์เน่า ซึ่งส่วนใหญ่จะพบได้บ่อยในคนที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอมไม่ผ่าน อย. มาครับ

แล้วทำไมต้องขูดฟิลเลอร์ออก ?

เหตุผลที่ต้องขูดฟิลเลอร์ออก เพราะฟิลเลอร์ปลอมจำพวกซิลิโคนเหลวจะไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ หลังฉีดแรก ๆ จะเห็นผลดี เป็นทรงสวยครับ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเนื้อเยื่อร่างกายจะมาเกาะรวมกับฟิลเลอร์ ทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อน หากไม่ขูดออก ฟิลเลอร์จะเกาะเป็นพังผืด ต้องทำการผ่าตัดออกแทน

Vsquare tips

ข้อควรรู้ : การขูดฟิลเลอร์ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ และต้องทำในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานเท่านั้น เพื่อให้มั่นใจว่าการขูดฟิลเลอร์จะไม่ทำให้เกิดอันตรายเพิ่มเติมหรือทำลายเนื้อเยื่อรอบ ๆ บริเวณที่ทำการขูดฟิลเลอร์ออก


ขูดฟิลเลอร์ ใช้ในการแก้ปัญหาใด ?

ขูดฟิลเลอร์ ใช้ในการแก้ปัญหาใด
  • แก้ปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อน ผิวไม่เรียบเนียน
  • แก้ปัญหาฉีดฟิลเลอร์แล้วเกิดการอักเสบ ติดเชื้อ
  • แก้ปัญหาฟิลเลอร์ไหลไปยังบริเวณอื่น
  • แก้ปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์ไปหลายปี แล้วฟิลเลอร์ไม่สลาย ทำให้แข็งเป็นก้อน เป็นไต

ขูดฟิลเลอร์ เหมาะกับใคร ?

  • คนที่ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนหรือแข็งตัว
  • คนที่ฟิลเลอร์ไหลไปยังบริเวณอื่น ทำให้เกิดการผิดรูปของใบหน้า
  • คนที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ผ่าน อย.

ขูดฟิลเลอร์ ต่างจาก ฉีดสลายฟิลเลอร์อย่างไร ?

การขูดฟิลเลอร์ และการฉีดสลายฟิลเลอร์ เป็นสองวิธีที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ แต่มีวิธีการ และความเหมาะสมในการใช้ที่แตกต่างกัน ดังนี้

การขูดฟิลเลอร์

  • วิธีการ : ใช้เครื่องมือทางการแพทย์เฉพาะทางเพื่อทำการขูด และนำฟิลเลอร์ออก
  • เหมาะสำหรับ : ฟิลเลอร์ที่เป็นก้อนหรือแข็งตัว ซึ่งเป็นฟิลเลอร์ปลอมซิลิโคนเหลวที่ไม่สามารถสลายได้เอง
  • การทำงาน : หมอจะใช้เครื่องมือทางการแพทย์ในการขูดฟิลเลอร์ออก โดยจะทำอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อรอบ ๆ ฟิลเลอร์
  • ผลลัพธ์ : สามารถขูดฟิลเลอร์ออกได้แค่ 60-70% เท่านั้น ไม่สามารถเอาออกได้ทั้งหมดครับ ในเคสที่ปล่อยไว้นานจนเป็นพังผืด กระทบกับเนื้อเยื่ออื่น ๆ จำเป็นต้องผ่าตัดออก

การฉีดสลายฟิลเลอร์

ทำความรู้จัก ฉีดสลายฟิลเลอร์ คืออะไร ? ฉบับเข้าใจง่ายใน 5 นาที
  • วิธีการ : ฉีดสารเอนไซม์ hyaluronidase ซึ่งเป็นสารที่สามารถสลายกรดไฮยาลูโรนิกในฟิลเลอร์ได้ตามธรรมชาติ
  • เหมาะสำหรับ : กรณีที่ฟิลเลอร์กระจายตัวไม่สม่ำเสมอ ฟิลเลอร์เป็นก้อน หรือฉีดฟิลเลอร์แล้วไม่พอใจในผลลัพธ์
  • การทำงาน : หมอจะฉีดสาร hyaluronidase เข้าไปในบริเวณที่ต้องการสลายฟิลเลอร์ สารนี้จะทำให้ฟิลเลอร์สลายไปเองภายในระยะเวลาที่กำหนด
  • ผลลัพธ์ : หลังฉีดสลายจะเห็นผลทันทีในบางส่วน และจะเห็นผลต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ใช้เวลา 1-3 วัน

การเลือกวิธีการที่เหมาะสม ควรปรึกษาหมอเพื่อประเมินปัญหา และเลือกวิธีการที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคนไข้แต่ละคนครับ


ขูดฟิลเลอร์ มีขั้นตอนการทำอย่างไร ?

ขั้นตอนขูดฟิลเลอร์

การขูดฟิลเลอร์เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญ และความระมัดระวัง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และปลอดภัย หมอจะอธิบายขั้นตอนการทำดังนี้ครับ

ขั้นตอนการปรึกษาแพทย์

ก่อนที่จะทำการขูดฟิลเลอร์ คนไข้ต้องเข้ามาปรึกษากับแพทย์เพื่อประเมินปัญหา และวางแผนการรักษา โดยมีขั้นตอนดังนี้

  • แพทย์จะทำการวิเคราะห์สภาพผิว เช่น ประวัติการฉีดฟิลเลอร์ที่ผ่านมาของคนไข้ ตำแหน่งและปริมาณของฟิลเลอร์ที่ฉีด สภาพผิวและโครงสร้างใบหน้าในปัจจุบัน
  • แพทย์จะแนะนำวิธีการขูดฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล อธิบายถึงขั้นตอน ความเสี่ยง และการเตรียมตัวก่อน และหลังการขูดฟิลเลอร์

ขั้นตอนการขูดฟิลเลอร์

  • ทำความสะอาดบริเวณที่จะทำการขูดฟิลเลอร์อย่างละเอียด
  • แปะยาชาเฉพาะที่เพื่อลดความเจ็บปวดในระหว่างการขูดฟิลเลอร์
  • แพทย์จะใช้เครื่องมือเฉพาะทาง เช่น เข็มปลายทู่หรือคานูลา เพื่อขูด และนำฟิลเลอร์ออกจากบริเวณที่ต้องการ
  • ในบางกรณี แพทย์อาจใช้เทคนิคการขูดฟิลเลอร์ร่วมกับการนวด เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์หลุดออกมาได้ง่ายขึ้น

สำหรับเวลาในการขูดฟิลเลอร์จะใช้เวลาแตกต่างกันไปตามแต่ละกรณี ขึ้นอยู่กับปริมาณฟิลเลอร์ที่เคยฉีดมา ตำแหน่งที่ขูดฟิลเลอร์ และความซับซ้อนของปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น ฟิลเลอร์ที่เป็นก้อนหรือแข็งตัวมากอาจใช้เวลานานกว่าการขูดฟิลเลอร์ที่ยังนิ่ม แต่ส่วนใหญ่ใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที แต่กรณีที่ซับซ้อนอาจใช้เวลานานขึ้นถึง 1-2 ชั่วโมงครับ


ก่อนขูดฟิลเลอร์ ต้องเตรียมตัวอย่างไร ?

  • นัดหมายปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหา และวางแผนการรักษา แพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการขูดฟิลเลอร์และเตรียมความพร้อม
  • หากคนไข้กำลังใช้ยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน ยาละลายลิ่มเลือด หรือยาต้านการอักเสบ ควรหยุดใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำการขูดฟิลเลอร์
  • ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงก่อนทำการขูดฟิลเลอร์ เพื่อป้องกันการแข็งตัวของเลือด และลดความเสี่ยงในการเกิดอาการบวม ช้ำ
  • ในวันที่จะทำการขูดฟิลเลอร์ ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าหรือใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่มีฤทธิ์ผลัดผิว
  • ควรแจ้งประวัติการแพ้ยาหรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ให้แพทย์ทราบ เพื่อป้องกันการเกิดอาการแพ้

การเตรียมตัวอย่างถูกต้องก่อนขูดฟิลเลอร์ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง และทำให้ขั้นการขูดฟิลเลอร์เป็นไปอย่างราบรื่น และปลอดภัยมากที่สุด คนไข้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ


วิธีการดูแลตัวเองหลังขูดฟิลเลอร์

  • ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก สามารถประคบเย็นบริเวณที่ขูดฟิลเลอร์เพื่อลดอาการบวมได้
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดบริเวณที่ขูดฟิลเลอร์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และลดอาการบวม
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  • งดสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์
  • ทานยาปฏิชีวนะตามคำสั่งแพทย์ ป้องกันการติดเชื้อ
  • การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น และช่วยลดอาการบวม
  • หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าบริเวณที่ขูดฟิลเลอร์ในช่วงแรก เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และการระคายเคือง
  • หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรง เพื่อป้องกันการเกิดรอยดำหรือการระคายเคืองผิว
  • ควรปฏิบัติตามคำแนะนำและมาตรวจตามนัดที่แพทย์กำหนด เพื่อให้แน่ใจว่าแผลหายดี ไม่มีปัญหาอื่น ๆ ตามมา

การดูแลตัวเองอย่างถูกต้องหลังการขูดฟิลเลอร์ จะช่วยให้ผลลัพธ์ที่ได้เป็นไปตามที่คาดหวัง และลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง คนไข้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ


ขูดฟิลเลอร์ มีผลข้างเคียงไหม ?

  • อาการบวมแดง : บริเวณที่ทำการขูดฟิลเลอร์อาจมีอาการบวมแดงในช่วงแรก ซึ่งเป็นอาการปกติ และจะหายไปเองในไม่กี่วัน
  • อาการช้ำ : อาจมีอาการช้ำบริเวณที่ขูดฟิลเลอร์ ซึ่งจะค่อย ๆ หายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์
  • การติดเชื้อ : แม้จะมีความเสี่ยงน้อย แต่ก็มีโอกาสเกิดการติดเชื้อหากไม่ดูแลแผลอย่างถูกวิธี ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
  • อาการปวด : อาจมีอาการปวดในบริเวณที่ขูดฟิลเลอร์ในช่วงแรก แต่สามารถบรรเทาได้ด้วยการใช้ยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่ง
  • ผิวหนังเป็นตุ่มหรือเป็นรอย : ในบางกรณีผิวหนังอาจเกิดตุ่มหรือรอยจากการขูดฟิลเลอร์ ซึ่งจะหายไปเองเมื่อผิวฟื้นตัวเต็มที่

ผลข้างเคียงเหล่านี้ เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป และมักจะหายไปเองภายในระยะเวลาสั้น ๆ หากมีอาการที่ไม่ปกติหรือรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อรับการดูแล และคำแนะนำเพิ่มเติมครับ


หลังขูดฟิลเลอร์ นานเท่าไรถึงจะฉีดได้อีกครั้ง ?

หลังขูดฟิลเลอร์ หากคนไข้ต้องการฉีดฟิลเลอร์ใหม่อีกครั้ง หมอแนะนำให้เว้นระยะ 1- 2 เดือนขึ้นไปครับ เพราะในช่วง 1-2 อาทิตย์แรก แผลอาจจะยังไม่สมานดีพอ และต้องมั่นใจว่าได้ขูดฟิลเลอร์ออกไปหมดแล้ว จึงสามารถฉีดฟิลเลอร์ใหม่ได้ครับ

การให้เวลาผิวหนังได้พักฟื้นเต็มที่หลังการขูดฟิลเลอร์ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหา และทำให้การฉีดฟิลเลอร์ใหม่มีประสิทธิภาพ และปลอดภัยมากขึ้น คนไข้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดครับ


ขูดฟิลเลอร์ เจ็บไหม ?

การขูดฟิลเลอร์เป็นกระบวนการที่อาจทำให้หลายคนกังวลเรื่องความเจ็บปวด ในความเป็นจริง ระดับความเจ็บขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย หมอจะอธิบายรายละเอียดดังนี้ครับ

  • การใช้ยาชา : ก่อนทำการขูดฟิลเลอร์ ทางคลินิกจะมีการแปะยาชา เพื่อลดความเจ็บปวดในระหว่างการขูดฟิลเลอร์ ทำให้คนไข้รู้สึกสบายขึ้น และลดความกังวล
  • ความเชี่ยวชาญของแพทย์ : การทำหัตถการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยลดความเจ็บปวด และความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง การใช้เทคนิคที่ถูกต้อง และอุปกรณ์ที่เหมาะสมจะทำให้ขั้นตอนการขูดฟิลเลอร์เป็นไปอย่างราบรื่น
  • อาการหลังทำ : หลังการขูดฟิลเลอร์ อาจมีอาการบวมแดงหรือช้ำ ซึ่งเป็นอาการปกติ และสามารถบรรเทาได้ด้วยการประคบเย็น และการใช้ยาตามที่แพทย์สั่ง

โดยสรุป การขูดฟิลเลอร์เจ็บครับ แต่จะมีการใช้ยาชา และความเชี่ยวชาญของแพทย์จะช่วยลดความเจ็บ และทำให้ขั้นตอนการขูดฟิลเลอร์เป็นไปอย่างปลอดภัย และสบายที่สุด


ขูดฟิลเลอร์ กี่วันเห็นผล ?

หลังขูดฟิลเลอร์ คนไข้สามารถเห็นผลลัพธ์เบื้องต้นได้ทันที เนื่องจากฟิลเลอร์ที่เป็นก้อนถูกนำออกไป แต่ยังอาจมีอาการบวม และแดงอยู่ ซึ่งจะลดลง และหายไปภายใน 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับปริมาณฟิลเลอร์ที่ขูดออก และความซับซ้อนของเคส

จากนั้นคนไข้จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนภายใน 2-4 สัปดาห์หลังการขูดฟิลเลอร์ แนะนำให้ติดตามผล และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด จะช่วยให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างราบรื่น และได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ


ขูดฟิลเลอร์ มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?

ขูดฟิลเลอร์ ข้อดี

  • ช่วยแก้ไขปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อนหรือฟิลเลอร์ไหลที่ทำให้ใบหน้าไม่เป็นธรรมชาติ
  • สามารถเห็นผลลัพธ์ทันที ฟิลเลอร์ที่มีปัญหาจะถูกนำออกไป ทำให้ใบหน้ากลับมาเป็นธรรมชาติ

ขูดฟิลเลอร์ ข้อเสีย

  • หลังการขูดฟิลเลอร์ คนไข้อาจมีอาการบวมและช้ำในบริเวณที่ทำการขูด ซึ่งจะหายไปภายใน 1-2 สัปดาห์
  • ความเสี่ยงในการติดเชื้อ แม้ว่าความเสี่ยงจะน้อย แต่ก็ยังมีโอกาสเกิดการติดเชื้อหากไม่ดูแลแผลอย่างถูกวิธี
  • อาจมีอาการปวดในบริเวณที่ขูดฟิลเลอร์ในช่วงแรก แต่สามารถบรรเทาได้ด้วยการใช้ยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่ง
  • หากทำโดยแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อรอบๆ บริเวณที่ขูดฟิลเลอร์
  • การขูดฟิลเลอร์มีค่าใช้จ่ายสูง ขึ้นอยู่กับปริมาณ และตำแหน่งของฟิลเลอร์ที่ต้องการขูดออก

ขูดฟิลเลอร์ สามารถทำบริเวณไหนได้บ้าง ?

ขูดฟิลเลอร์สามารถทำได้ในหลายบริเวณของใบหน้า และร่างกาย ซึ่งมักเป็นบริเวณที่เคยฉีดฟิลเลอร์มาก่อน ได้แก่

  • ขูดฟิลเลอร์คาง ทั้งปลายคาง และเส้นกรามด้านข้าง
  • ขูดฟิลเลอร์ปาก ทั้งริมฝีปากบน ล่าง และมุมปาก
  • ขูดฟิลเลอร์จมูก บริเวณสันจมูก และปลายจมูก
  • ขูดฟิลเลอร์ใต้ตา บริเวณร่องตาลึก
  • ขูดฟิลเลอร์ร่องแก้ม บริเวณโหนกแก้มหรือร่องแก้ม
  • ขูดฟิลเลอร์หน้าผาก ทั่วบริเวณหน้าผาก รวมเหนือคิ้ว
  • ขูดฟิลเลอร์ขมับ ร่องลึกบริเวณขมับ

ในการขูดฟิลเลอร์บริเวณปาก และจมูก อาจจำเป็นต้องใช้การผ่าตัดร่วมด้วย เพราะเป็นบริเวณที่มีความเสี่ยงสูง การผ่าตัดในบริเวณเหล่านี้จะช่วยให้สามารถนำฟิลเลอร์ออกได้อย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในกรณีที่ฟิลเลอร์ไหลย้อย ผิดรูปร่าง หรือเป็นก้อนแข็งจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม

นอกจากนี้ ในกรณีที่คนไข้ต้องการเปลี่ยนไปเสริมซิลิโคนแทน เช่น บริเวณจมูกหรือคาง การขูดฟิลเลอร์หรือผ่าตัดออกก่อนอาจต้องทำในบางเคสเพื่อให้สามารถทำการเสริมซิลิโคนได้อย่างถูกต้อง และปลอดภัยครับ


ขูดฟิลเลอร์ ที่ไหนดี ?

การขูดฟิลเลอร์เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญ และความระมัดระวังในการทำ การเลือกคลินิกที่เหมาะสม และมีมาตรฐานจึงเป็นสิ่งสำคัญ หมอแนะนำวิธีการเลือกสถานที่ดังนี้ครับ

  • เลือกขูดฟิลเลอร์กับโรงพยาบาล และคลินิกที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานสุขภาพ เช่น โรงพยาบาลชื่อดังหรือคลินิกที่มีชื่อเสียงด้านการเสริมความงาม และการศัลยกรรม
  • เลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการขูดฟิลเลอร์ ตรวจสอบประวัติการศึกษา และการฝึกอบรมของแพทย์ เพื่อให้มั่นใจว่าได้รับการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญ
  • ตรวจสอบรีวิว และผลงานของคลินิกหรือแพทย์ที่เลือก ผ่านทางเว็บไซต์หรือแหล่งข้อมูลอื่น ๆ เพื่อดูความคิดเห็น และประสบการณ์ของผู้ที่เคยรับบริการมาก่อน
  • คลินิกควรมีมาตรฐานความสะอาด และความปลอดภัยสูง รวมถึงการใช้อุปกรณ์ และเครื่องมือที่ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างถูกวิธี
  • คลินิกที่ดีควรให้คำปรึกษาอย่างละเอียด และตรงไปตรงมา รวมถึงการประเมินความเสี่ยง และการดูแลหลังการรักษา
  • มีบริการติดตามผล และการดูแลหลังการรักษา เพื่อให้มั่นใจว่าคนไข้ได้รับการดูแลที่ดี และผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ฉีดสลายฟิลเลอร์ ที่ไหนดี โดย หมอโต้ง

แต่ถ้าหากคนไข้ฉีดฟิลเลอร์แท้ประเภท Hyaluronic Acid (HA) มา สามารถเข้ามาฉีดสลายฟิลเลอร์ กับแพทย์ที่ V Square Clinic ได้ครับ ทีมแพทย์ทุกท่านมีประสบการณ์ ประเมิน และวิเคราะห์ปัญหาตรงจุด หมอมือเบา ช้ำน้อย

นอกจากนี้ คนไข้ยังสามารถรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการรักษาอื่น ๆ ที่เหมาะสมกับสภาพผิว และปัญหาของคนไข้ ทีมแพทย์ของ V Square Clinic จะช่วยดูแล และให้คำแนะนำในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวิเคราะห์ปัญหา การเลือกใช้เทคนิคและผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม จนถึงการติดตามผลหลังการรักษา เพื่อให้คนไข้ได้รับการดูแลอย่างครบวงจร และเห็นผลลัพธ์ที่พึงพอใจครับ


ขูดฟิลเลอร์ ราคาเท่าไหร่ ?

ขูดฟิลเลอร์ราคาเริ่มต้นที่หลักหมื่นขึ้นไปครับ ขึ้นอยู่กับความยากง่ายในแต่ละเคส และปัจจัยอื่น ๆ เช่น

  • ตำแหน่งที่ขูดฟิลเลอร์ : บริเวณที่ต้องการขูดฟิลเลอร์มีผลต่อราคา เช่น การขูดฟิลเลอร์บริเวณคาง และปากเป็นบริเวณที่ซับซ้อน และต้องระมัดระวังสูง ราคาจึงอาจสูงกว่าบริเวณอื่น
  • ปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องการนำออก : หากมีปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องการขูดออกมาก ราคาก็อาจสูงขึ้น เนื่องจากใช้ระยะเวลาในการทำนาน
  • ความซับซ้อนของเคส: เคสที่มีความซับซ้อนสูง เช่น ฟิลเลอร์ที่แข็งตัวหรือเคลื่อนที่ไปยังบริเวณที่ยากต่อการขูด อาจมีราคาสูงกว่าปกติ
  • ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของแพทย์: แพทย์ที่มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญสูงอาจมีค่าบริการที่สูงกว่า เพื่อให้มั่นใจในผลลัพธ์ และความปลอดภัย

ราคาการขูดฟิลเลอร์จะแตกต่างกันไปในแต่ละจุด และแต่ละเคส ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น คนไข้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม และการประเมินราคาที่ถูกต้องครับ


สรุป

การขูดฟิลเลอร์ เป็นผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม หมอแนะนำให้เลี่ยงจะดีที่สุดครับ คนไข้บางคนตัดสินใจเลือกฉีดฟิลเลอร์ราคาถูก ทำให้ฟิลเลอร์เน่า ฟิลเลอร์ไหล บางรายมีเนื้อตาย ผลที่ได้ไม่คุ้มเสีย

หากไม่อยากเผชิญกับปัญหาที่ต้องแก้ไขด้วยการขูดฟิลเลอร์ หมอแนะนำให้คนไข้เลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ที่มีคุณภาพ และฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์จะดีที่สุดครับ เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหา ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน มีสาเหตุมาจากอะไร ? อันตรายไหม ? มีวิธีแก้อย่างไร ?

Categories
filler
ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยครับ ไม่ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ? ตำแหน่งการฉีด ยี่ห้อ รุ่นฟิลเลอร์ มีผลไหม ? หมอแนะนำให้พิจารณาแต่ละปัจจัยตั้งแต่ก่อนฉีดฟิลเลอร์ครับ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาที่ต้องมาแก้ไขภายหลัง

ส่วนใครที่กำลังมีปัญหาฉีดfillerแล้วเป็นก้อน หรือไม่แน่ใจว่าอาการที่เป็นอยู่เรียกว่าเป็นก้อนหรือไม่ ? อันตรายไหม ? มีวิธีแก้อย่างไร ? เช็กอาการเสี่ยง ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนบวม และวิธีแก้ไขให้ผิวบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์กลับมาเรียบเนียนเหมือนเดิมได้ในบทความนี้ครับ

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนบวม

สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน


ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน มีสาเหตุมาจากอะไร ?

สาเหตุฉีดฟิลเลอร์เป็นก้อน
สาเหตุฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน เกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้

  • ฟิลเลอร์ที่ใช้ไม่ใช่สารไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid)

เป็นฟิลเลอร์ปลอม เช่น ซิลิโคนเหลว พาราฟิน จัดเป็นสารแปลกปลอม ไม่สามารถสลายเองตามธรรมชาติ เมื่อสลายเองไม่ได้ ก็จะจับตัวเป็นก้อนแข็ง ไหลย้อยมากองรวมกัน หรือถ้าร้ายแรงก็เกิดการอักเสบ ฟิลเลอร์เน่า ต้องขูดฟิลเลอร์ออกหรือผ่าตัดออก และฉีดสลายไม่ได้ด้วยครับ

  • แพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์ให้ขาดความรู้และประสบการณ์

การฉีดฟิลเลอร์ให้ออกมาสวย เรียบเนียน ดูเป็นธรรมชาติ แพทย์ผู้ฉีดจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับฟิลเลอร์ และโครงสร้างใบหน้า ถึงจะประเมินปัญหาและแก้ไขได้อย่างตรงจุด ในทางกลับกันถ้าแพทย์ขาดความรู้และประสบการณ์ ความเสี่ยงจากการฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนบวมก็อาจเกิดได้ ต้องมาฉีดสลายฟิลเลอร์ภายหลัง

  • รุ่นฟิลเลอร์ ไม่เหมาะกับตำแหน่งฉีด

ฟิลเลอร์เนื้อทน เนื้อแน่น ที่มีความแข็งและเหนียวค่อนข้างมาก ถ้านำมาฉีดในผิวชั้นตื้นจะทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อนบวมได้ เนื่องจากเนื้อฟิลเลอร์ประเภทนี้จะเหมาะกับการฉีดในผิวชั้นลึก เพื่อเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก มากกว่าเติมใต้ตาชั้นตื้น เพื่อเก็บรายละเอียดครับ

  • เทคนิคไม่ถูกต้อง ใช้ปริมาณฟิลเลอร์มากเกินไป

แต่ละตำแหน่งจะมีปริมาณ CC ฟิลเลอร์ที่เหมาะสมอยู่ครับ หากฉีดเกินพอดี อัดฟิลเลอร์เข้าไปเยอะ ๆ อาจเกิดภาวะหน้าล้นจากฟิลเลอร์ (Facial Overfilled Syndrom) หน้าแปลกดูไม่เป็นธรรมชาติ แนะนำให้เริ่มจาก CC น้อย ๆ ก่อน และเติมใหม่เรื่อย ๆ ดีกว่าครับ


ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน อันตรายไหม ?

อาการฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน มีทั้งที่เป็นอันตราย และไม่อันตราย ในเบื้องต้นต้องประเมินอาการก่อนครับถึงจะบอกได้ โดยหลัก ๆ จะแบ่งออกเป็น 2 กรณี

  • ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ที่เกิดจากการอักเสบ ติดเชื้อ
  • ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ

ถ้าหลังฉีดfillerแล้วเป็นก้อนไม่ได้ใหญ่มาก ให้รอดูผลหลังฉีดประมาณ 3 วัน เพราะบางทีอาจเป็นอาการบวมเฉย ๆ ยุบบวมได้เองใน 3-4 สัปดาห์ โดยฟิลเลอร์จะค่อย ๆ ผสานรวมตัวกันกับเนื้อเยื่อของเรา ห้ามกดหรือนวดคลึง ฟิลเลอร์ที่ดูเป็นก้อนจะค่อย ๆ หายไปเองครับ

ส่วนกรณีฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ที่เกิดจากการอักเสบ ติดเชื้อ จะมีอาการแสดงที่แตกต่างออกไปครับ หมออธิบายอาการและสาเหตุในหัวข้อถัดไป


ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน อาการเป็นอย่างไร ?

เช็ก 4 อาการเสี่ยงฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนบวม “ปวด บวม แดง ร้อน” ที่บ่งชี้ว่าอันตราย ดังนี้

  • ปวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์มากขึ้น มากกว่าปกติ
  • บวมขึ้นเรื่อย ๆ บริเวณผิวหนังที่ฉีดฟิลเลอร์
  • แดงหรือคล้ำที่ผิดปกติ บริเวณผิวหนังที่ฉีดฟิลเลอร์
  • ร้อนบริเวณผิวหนังที่ฉีดฟิลเลอร์ (ใช้หลังมือแตะ คล้ายวิธีวัดไข้ เพื่อเช็กอาการ)

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน มีวิธีแก้ไขอย่างไร ?

สลายฟิลเลอร์เป็นก้อน
วิธีแก้ไขฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน

การแก้ไขฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ทำได้ 3 วิธี คือ

  • ฉีดสลายฟิลเลอร์ (Dissolving Filler) ด้วยตัวยาเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidases : HYAL) เมื่อฉีดเข้าใต้ผิวหนัง เอนไซม์จะทำปฏิกิริยากับฟิลเลอร์ ลดการจับตัวกันของโมเลกุลฟิลเลอร์ให้ค่อย ๆ สลายตัวลง ผิวกลับมาคืนสภาพเดิมใกล้เคียงกับก่อนฉีดฟิลเลอร์ ใช้ในกรณีแก้ปัญหาจากการฉีดฟิลเลอร์แท้ เช่น
    • ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ไม่ชอบ ไม่สวย
    • ฉีดฟิลเลอร์แล้วหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติ
    • ฉีดฟิลเลอร์ ผิวเป็นก้อน ไม่เรียบเนียน
ดูคลิป ฉีดสลายฟิลเลอร์ ต้องฉีดกี่ครั้ง ฉีดซ้ำได้ไหม ?
  • ขูดฟิลเลอร์ เป็นวิธีการแก้ไขในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอมแล้วเกิดฟิลเลอร์เน่า ฟิลเลอร์ไหล บวม ย้อย เป็นก้อนแข็ง ผิวหนังบริเวณที่ฉีดผิดรูป เพราะฟิลเลอร์ปลอมไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ทำให้ต้องใช้เครื่องมือทางการแพทย์ขูดฟิลเลอร์หรือเลาะฟิลเลอร์ออก
  • ผ่าตัดฟิลเลอร์ออก ใช้แก้ไขในกรณีฉีดฟิลเลอร์ปลอม เช่น ซิลิโคนเหลวที่เป็นก้อนขนาดใหญ่และแข็งมาก หรืออยู่นานจนมีพังผืดมากเกาะเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องผ่าตัดออก

ตำแหน่งมีผลต่อการฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนไหม ?

ตำแหน่งฉีดฟิลเลอร์ มีผลต่อการเกิดก้อน และเกิดได้แทบทุกตำแหน่ง เช่น

  • ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ใต้ตาเป็นตำแหน่งที่พบฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนได้มากที่สุด เพราะผิวบริเวณใต้ตาค่อนข้างบาง หากแพทย์ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาตื้นเกินไป หรือเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไม่เหมาะสม จะทำให้ฟิลเลอร์นูนขึ้นเหนือชั้นกล้ามเนื้อ มองเห็นเป็นก้อนใต้ตา บวม ย้อย หรือเห็นเป็นถุงใต้ตาได้

  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

มักเกิดจากหมอฉีดฟิลเลอร์ผิดตำแหน่ง ฟิลเลอร์ร่องแก้มต้องฉีดลงในชั้นกระดูกใต้กล้ามเนื้อ และฉีดในจุดที่ต่ำกว่าร่องแก้มเล็กน้อย ไม่ได้ฉีดที่ร่องแก้มโดยตรง เพื่อป้องกันการดึงของกล้ามเนื้อที่ใช้ยิ้ม ถ้าฉีดในชั้นผิวที่ไม่ลึกพอ เนื้อฟิลเลอร์จะโดนดึงขึ้นไปกองเป็นเนื้อเหนือร่องแก้มทำให้เป็นก้อน ร่องแก้มลึกกว่าเดิม

ดูคลิป ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเป็นก้อนบวม แก้ไขอย่างไร ?
  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก

ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อนที่พบ โดยมากเกิดจากการใช้ปริมาณฟิลเลอร์ปากที่มากเกินไป หรือเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ปากที่ไม่เหมาะสม ทำให้ปากออกมาอวบอิ่มเกินพอดี ปากใหญ่ ปากเจ่อ คล้ายปากเป็ด ไม่สวย ดูไม่เป็นธรรมชาติครับ

  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

ตำแหน่งนี้ส่วนมากเกิดจากฉีดฟิลเลอร์หน้าผากในชั้นผิวที่ตื้นเกินไป ทำให้หน้าผากเป็นคลื่น ผิวไม่เรียบเนียน หรือนูนเกินไป คล้ายหัวปลาทอง ใบหน้าผิดรูปได้ครับ เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่ถูกวิธี คือ ต้องฉีดในชั้นเยื่อหุ้มกระดูกเท่านั้น ถึงจะดูเป็นธรรมชาติ

  • ฉีดฟิลเลอร์คาง

บริเวณคางมีกล้ามเนื้อ Mentalis ซึ่งเป็นจุดที่ต้องระวังครับ ถ้าฉีดผิดตำแหน่งหรือฉีดตื้นเกินไป เนื้อฟิลเลอร์จะถูกกล้ามเนื้อมัดนี้ดึงมารวมกัน ทำให้เป็นก้อนได้ รวมถึงยี่ห้อ รุ่นฟิลเลอร์ที่ใช้ ถ้าเลือกไม่เหมาะสม หรือใช้ปริมาณมากไป ก็อาจจะทำให้ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนได้เช่นกัน

ดูคลิป ฉีดฟิลเลอร์คางแล้วเป็นก้อน แก้ไขอย่างไร ?

ยี่ห้อหรือรุ่นของฟิลเลอร์ มีผลต่อการฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนไหม ?

ตามที่หมออธิบายไปข้างต้น ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน เกิดได้จากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม และฟิลเลอร์แท้ที่ต่อให้เป็นไฮยาลูโรนิก แอซิด แต่ถ้าเลือกยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์มาใช้ผิด ก็เสี่ยงเป็นก้อนได้

ปัจจุบันฟิลเลอร์มีหลายยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อก็แยกย่อยออกมาเป็นรุ่นต่าง ๆ ซึ่งมีคุณสมบัติและเหมาะกับการฉีดในตำแหน่งที่ต่างกัน ถ้าฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์ก็จะช่วยให้คำแนะนำได้ครับ

แนะนำฟิลเลอร์ที่ผ่านอย.
หมอแนะนำยี่ห้อ รุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสม

แต่ตัวคนไข้เองก็สามารถทำการบ้านด้วยการหาข้อมูลไปก่อนได้ว่า มีฟิลเลอร์ยี่ห้อไหน รุ่นไหนบ้างที่ผ่านอย. เช็กเลข Lot. วันเดือนปีที่ผลิต วันหมดอายุก่อนฉีด ซึ่งจะมีระบุไว้ที่กล่องฟิลเลอร์

ถ้าคลินิกเอาฟิลเลอร์หมดอายุ เป็นฟิลเลอร์เก่าเก็บค้างสต๊อกมาฉีดให้ ไม่ควรฉีดเด็ดขาดครับ เพราะฟิลเลอร์อาจจะเสื่อมสภาพ ฉีดแล้วไม่เห็นผลหรือเกิดผลข้างเคียงได้


ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนมีสิทธิ์เกิดได้ทุกคนไหม ?

ไม่ใช่ทุกคนที่จะฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนครับ แต่ทุกคนมีโอกาสเกิดขึ้นได้ หากไม่ได้มีการเตรียมตัวที่ดีมาก่อนฉีดฟิลเลอร์ ศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ทั้งการเลือกคลินิก เลือกหมอ ยี่ห้อ/รุ่นฟิลเลอร์ที่ผ่านอย. วิธีดูฟิลเลอร์ของแท้ ของปลอม ต้องแยกให้ออกครับ

การเตรียมความพร้อมเป็นสิ่งสำคัญ ควรให้เวลาในส่วนนี้เยอะ ๆ ครับ เพราะส่งผลต่อผลลัพธ์หลังฉีดที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน

ฉีดฟิลเลอร์ที่วีสแควร์
ฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ประสบการณ์สูง

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน มีวิธีป้องกันอย่างไร ?

  • เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง
  • ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า
  • มั่นใจว่าใช้ฟิลเลอร์แท้ ผ่านอย. สามารถตรวจสอบได้
  • ดูรีวิวจากผู้ใช้บริการที่เคยมาฉีดฟิลเลอร์ในคลินิกนั้น ๆ

วิธีป้องกันฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน จริง ๆ แล้วไม่ต่างจากวิธีเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ? เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและความปลอดภัยที่ต้องมาควบคู่กันครับ

ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี โดย หมอกันต์
ฉีดฟิลเลอร์ที่ V Square Clinic ปลอดภัย ไร้กังวล

สรุป

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ไม่ว่าจะจากฉีดฟิลเลอร์ปลอม หรือฉีดฟิลเลอร์แท้ จะไม่เกิดขึ้นครับ ถ้ามีการเตรียมตัวที่ดีก่อนฉีดฟิลเลอร์ เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ฉีดฟิลเลอร์แท้กับหมอที่มีประสบการณ์สูง รู้เทคนิคการฉีด เลือกยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ได้เหมาะสมกับตำแหน่งฉีด ประเมินปริมาณ CC ที่ใช้ได้อย่างถูกต้อง

ที่ V Square Clinic ทีมแพทย์มีประสบการณ์สูง ใช้ศิลปะการฉีดฟิลเลอร์ (Fine Art of Filler) ในการปรับรูปหน้า ผลลัพธ์หลังฉีดดูเป็นธรรมชาติ เรียบเนียน ไม่เป็นก้อน หรือเกิดภาวะหน้าล้น หน้าดูแปลก ไม่เป็นธรรมชาติ และยังมั่นใจได้ในความปลอดภัย ใช้ฟิลเลอร์แท้ แกะกล่องใหม่ให้ดูต่อหน้าก่อนฉีดทุกเคสครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี370x277

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ไหนดี ? หมอไหนดี ? น่าเชื่อถือ เติมใต้ตาเต็มสวย

Categories
filler

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี 

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ไหนดี ? เติมใต้ตาที่ไหนดี ? หมอไหนดี ? คนไข้ที่กำลังมีปัญหาใต้ตา เช่น ร่องใต้ตาลึก ขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตา ริ้วรอยใต้ตา มองหาคลินิกฟิลเลอร์ใต้ตา เดินทางสะดวก ในกรุงเทพฯ มีที่ไหนบ้าง ? 

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัย สวยงามและดูเป็นธรรมชาติ ฉีดใต้ตาดำที่ไหนดี ? ฉีดใต้ตาคล้ำที่ไหนดี ? ต้องมั่นใจครับว่าเป็นคลินิกฉีด filler ใต้ตาที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ ในบทความนี้หมอมีข้อมูลที่ควรรู้ เลือกคลินิกเติมฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ? ที่ไหนสวย ? ก่อนตัดสินใจครับ 

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาหมอไหนดี

สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี 

  1. เลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ? ได้มาตรฐานและน่าเชื่อถือ 
  2. ราคาฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นอย่างไร ?

เลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ? ได้มาตรฐานและน่าเชื่อถือ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี? วิธีเลือกคลินิกให้ปลอดภัย พิจารณาอะไรบ้าง? l หมอ V Square แชร์หมดเปลือก

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ? ต้องมั่นใจว่าเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐานและมีความน่าเชื่อถือ เปิดให้บริการถูกต้องตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข ไม่ใช่คลินิกเถื่อน ลักลอบเปิดผิดกฎหมาย ก่อนตัดสินใจเติมฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ? ในเบื้องต้น สามารถสังเกตได้ ดังนี้ 

  • ด้านหน้าคลินิก มีป้ายชื่อสถานพยาบาล และเลขที่ใบอนุญาต จำนวน 11 หลัก
  • ด้านในคลินิก มีใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล และใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล ติดไว้ในที่เปิดเผยและเห็นได้ง่าย คลินิกสะอาด สว่าง ห้องทำหัตถการกว้างขวาง ไม่อับทึบ เครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งาน 

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ควรนำมาพิจารณาในลำดับถัดไป หมอจะอธิบายหัวข้อต่อไปครับ

มาตรฐานและความน่าเชื่อถือของคลินิก

คลินิกมีรางวัลการันตี เป็นหนึ่งในปัจจัยที่บอกได้ครับว่าคลินิกนั้นได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ ได้รับการยอมรับจากคนไข้ที่มาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง เพราะการจะได้รับรางวัลใดรางวัลหนึ่งมีเกณฑ์ในการพิจารณา มีการคัดเลือก การแข่งขัน มีผู้ให้รางวัลเป็นหน่วยงานหรือองค์กรที่น่าเชื่อถือ 

V Square Clinic ได้รับรางวัลการันตีระดับประเทศ โดยในปี 2018 ได้รับการคัดเลือกจากบริษัท Allergan ว่าเป็น 1 ใน 6 คลินิกจากประเทศไทยที่ได้รับรางวัลคลินิกปรับรูปหน้า ที่ยอดเยี่ยมที่สุด 20 คลินิกในเอเชีย  

รางวัลคลินิกมาตรฐาน

มีการบริการที่ดี

การบริการที่ดี เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการปรึกษา เพื่อให้คนไข้ได้เข้าถึงการบริการที่ง่าย สะดวกและรวดเร็วขึ้น คลินิกควรมีบริการปรึกษาออนไลน์ สามารถส่งรูปหน้าให้แพทย์ประเมินปัญหาก่อนได้ในเบื้องต้น โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ก่อนนัดหมายคิวหรือ Walk-in เข้าไปที่สาขา 

เมื่อมาถึงที่คลินิก ควรได้รับการบริการที่ดีจากทั้งเจ้าหน้าที่และแพทย์ มีความพิถีพิถันและใส่ใจทุกรายละเอียด เพราะปัญหาของคนไข้แต่ละคนต่างกัน ดังนั้นต้องประเมินปัญหาได้อย่างแม่นยำ วางแผนร่วมกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หมอกวาง

หมอมีความเชี่ยวชาญ

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นตำแหน่งที่ต้องใช้เทคนิคขั้นสูงในการฉีด เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย ไม่ใช่ฉีดที่ไหนก็ได้ ฉีดกับใครก็ได้ 

หมอจะต้องมีความเชี่ยวชาญ มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม จากแพทยสภา ชื่อ-นามสกุลแพทย์ รูปถ่าย และเลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมของแพทย์ที่แสดงไว้ในคลินิกต้องตรงกัน สามารถนำชื่อ-นามสกุลแพทย์ และเลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ของคลินิกไปตรวจสอบได้ครับบนเว็บไซต์แพทยสภา คลิกที่นี่

ทีมแพทย์ V Square Clinic สั่งสมประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ มีความรู้เรื่องโครงสร้างกายวิภาคบนใบหน้า ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้อย่างแม่นยำ แก้ปัญหาตรงจุด ใช้เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่เป็นเทคนิคพิเศษเฉพาะ มุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ 

นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาศักยภาพและเทคนิคอย่างต่อเนื่อง มีการเทรนนิ่ง อัปเดตความรู้เพิ่มเติมทั้งในและต่างประเทศเป็นประจำทุกปี และได้รับรางวัลมากมาย 

V Square Clinic รับรางวัล The Iconic Award 2022 TOP 5 CHAIN CLINIC  ในงาน FIRST IMPRESSIONS AWARD NIGHT 2022

ฟิลเลอร์ของแท้ที่เลือกใช้

ฟิลเลอร์ใต้ตาที่เลือกใช้ต้องเป็นฟิลเลอร์แท้ มีข้อสังเกตฟิลเลอร์แท้ ฟิลเลอร์ปลอม ดังนี้ 

ฟิลเลอร์แท้ 

  • เป็นฟิลเลอร์แบรนด์ระดับโลก ที่ผ่าน อย.
  • มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย 
  • เลข Lot ทุกจุดตรงกัน ที่กล่อง หลอด สติกเกอร์ ซอง  
  • ตรวจสอบกับบริษัทนำเข้าได้ทุกกล่อง 

ฟิลเลอร์ปลอม

  • เป็นซิลิโคนเหลว พาราฟิน ไม่ใช่ฟิลเลอร์แท้ 
  • นำเข้าผิดกฎหมาย ไม่ผ่าน อย.
  • ไม่มีการเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม 
  • ราคาถูก พบได้ตามคลินิกเถื่อน หมอกระเป๋า 
  • ฉลากไม่ชัดเจน มีร่องรอยการแกะกล่อง 
ฟิลเลอร์แท้ ฟิลเลอร์ปลอมดูอย่างไร ? อันตรายจากฟิลเลอร์ปลอม

มียี่ห้อที่เหมาะสมกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตา หมอจะเลือกใช้อยู่ 3 ยี่ห้อ คือ ฟิลเลอร์ Juvederm (อเมริกา) ฟิลเลอร์ Restylane (สวีเดน) ฟิลเลอร์ Belotero (สวิตเซอร์แลนด์) 

เพราะทั้ง 3 ยี่ห้อนี้มีคุณสมบัติเด่น คือ ฉีดแล้วคงรูป ไม่ฟูเยอะ ไม่เป็นก้อน มีลักษณะโมเลกุลที่เหมาะสมกับบริเวณใต้ตา เนื่องจากผิวหนังใต้ตาจะค่อนข้างบาง หากฟิลเลอร์มีความฟูมากเกินไป จะทำให้ใต้ตาดูบวม ยิ้มแล้วเป็นก้อน ดูไม่เป็นธรรมชาติ แบ่งออกเป็นรุ่นย่อย ๆ ดังนี้ 

  • Juvederm Voluma เนื้อแข็ง ฟูปานกลาง ยืดหยุ่นสูง อุ้มน้ำและให้ความเป็นธรรมชาติ
  • Juvederm Volite เนื้อละเอียด ใช้เติมใต้ตาชั้นตื้น เหมาะกับคนผิวบางแต่ไม่มากเกินไป
  • Juvederm Volux เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นและคงตัว สำหรับฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก
  • Restylane Defyne เนื้อเจลแข็งปานกลาง มีความยืดหยุ่นและอุ้มน้ำได้ดี
  • Restylane Vital Light เนื้อละเอียดมากที่สุด ใช้สำหรับเคสที่ผิวบาง ๆ
  • Restylane Vital เนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย เหมาะสำหรับเก็บรายละเอียด ให้ผลเรียบเนียน เป็นธรรมชาติ
  • Restylane Perlane lyft เนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง ไม่ฟู และสามารถคงรูปได้ดีที่สุด
  • Restylane Classic เนื้อแข็ง เก็บรายละเอียดใต้ตาในผิวชั้นลึก สำหรับคนผิวบาง
  • Belotero Volume เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นและคงตัว เหมาะฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก
  • Belotero Revive เนื้อละเอียด เหมาะฉีดใต้ตา/ปรับสภาพผิวหน้า/ปาก/ลำคอ/หลังมือ
ยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตา

มีการรีวิวฟิลเลอร์ใต้ตาที่ชัดเจน

เติมฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ? ควรดูรีวิวที่น่าเชื่อถือจากผู้ใช้บริการจริง ต้องเป็นรีวิวที่เป็นปัจจุบัน ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะเห็นการเปลี่ยนแปลงทันที การที่ได้ดูคลิปรีวิวจะทำให้เข้าใจขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา และเห็นความชำนาญของแพทย์ขณะทำหัตถการครับ

รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา(2)
รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา 4 CC
รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา(1)
รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา 3 CC
รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา
รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา 2 CC
รีวิวฉีดใต้ตาดําที่ไหนดี แก้ไขใต้ตาดำ เพิ่มความมั่นใจมากขึ้น
รีวิวฉีดใต้ตาที่ไหนดี ฟื้นฟูใต้ตาคล้ำ ให้ใบหน้าสดใส 

นัดหมายติดตามผลทุกครั้งหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แพทย์จะต้องมีการให้คำแนะนำในการดูแลตัวเอง วิธีปฏิบัติตัวก่อน-หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ซึ่งจะช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่เ่ร็วและคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน นอกจากนี้ควรมีการนัดติดตามผลหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แสดงถึงความใส่ใจ และมี Line@ ที่สามารถสอบถามข้อสงสัยกับแพทย์ได้โดยตรง 


ราคาฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นอย่างไร ? 

ราคาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ต้องสมเหตุสมผล ไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป ราคาแต่ละยี่ห้อจะมีความแตกต่างกันครับ ขึ้นอยู่กับชนิด คุณสมบัติและอายุการใช้งาน ที่คลินิกควรมีฟิลเลอร์หลายราคาให้คนไข้เลือกได้ตามงบประมาณ และให้แพทย์เลือกใช้แก้ปัญหาให้เหมาะสมกับปัญหาของคนไข้แต่ละคนครับ 

Landingpage-ฟิลเลอร์ใต้ตา_ใส่ราคา_Desktop_2024
Landingpage-ฟิลเลอร์ใต้ตา_ใส่ราคา_Mobile_2024

สรุป

เลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ? สามารถพิจารณาได้จากมาตรฐานและความน่าเชื่อถือของคลินิก การบริการที่ดี แพทย์มีความเชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่าน อย. มีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับการนำมาฉีดใต้ตาเพื่อแก้ปัญหาได้อย่างแม่นยำตรงจุด รวมถึงมีราคาที่สมเหตุสมผล คนไข้สามารถเลือกได้ตามงบประมาณครับ 

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ V Square Clinic

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
ฟิลเลอร์ร่องแก้มแก้ร่องลึกอยุ่ได้นานไหม

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ร่องแก้มลึกได้อย่างไร ? ใช้กี่ CC อยู่ได้นานไหม ควรรู้อะไรก่อนฉีด ?

Categories
filler
ฟิลเลอร์ร่องแก้มแก้ร่องลึกอยุ่ได้นานไหม

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม

ปัญหาร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก แก้ด้วยฟิลเลอร์ร่องแก้มดีไหม ?

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เป็นหัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาร่องแก้มลึก เนื่องจากการยุบตัวของกระดูกบริเวณร่องแก้มหรือกระดูกบริเวณใต้ตาได้อย่างตรงจุดครับ รวมถึงปัญหาคอลลจาเจน อีลาสติน ไขมันและเนื้อเยื่อต่าง ๆ ที่เริ่มเสื่อมสลาย ส่งผลให้ผิวหย่อนคล้อยและร่องแก้มลึกขึ้น ก็สามารถใช้การฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ช่วยได้ 

ในบทความนี้หมอจะมาเจาะลึกข้อมูลที่ควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เจ็บไหม อยู่ได้นานไหม ใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ราคาเท่าไหร่ ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ไหนดี ถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย

ร่องแก้มเกิดจากอะไร ฟิลเลอร์ร่องแก้มเหมาะกับใคร ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มช่วยอะไรบ้าง ?

สารบัญ ฟิลเลอร์ร่องแก้ม

  1. ฟิลเลอร์ร่องแก้ม คืออะไร ?
  2. สาเหตุที่ทำให้เกิดร่องแก้มลึก มาจากอะไรบ้าง ?
  3. ปัญหาร่องแก้มลึก สามารถแก้ได้ถาวรหรือไม่ ?
  4. การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเหมาะกับใคร ?
  5. การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เมื่อเทียบกับหัตถการอื่นที่เกี่ยวกับร่องแก้ม ให้ผลลัพธ์ที่เหมือนหรือต่างกันอย่างไร ?
  6. ถ้ามีปัญหาจากหัตถการอื่นที่เกี่ยวกับร่องแก้ม สามารถฉีดหรือแก้ไขด้วยฟิลเลอร์ร่องแก้มได้หรือไม่ ?
  7. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม vs ฉีดฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก ต่างกันอย่างไร ?
  8. การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เกี่ยวข้องกับโหงวเฮ้งหรือไม่ ?
  9. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มอันตรายไหม ?
  10. ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม มีความเสี่ยงอะไรบ้าง ?
  11. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเจ็บไหม ?
  12. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มยี่ห้อไหนดี ใช้กี่ CC ?
  13. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ไหนดี ?
  14. ฟิลเลอร์ร่องแก้มราคา โปรโมชั่น
  15. ก่อนฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ?
  16. ฟิลเลอร์ร่องแก้ม อยู่ได้นานไหม ?
  17. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มมีอาการบวมไหม กี่วันถึงจะเข้ารูป ?
  18. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร ?
  19. หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ควรดูแลตัวเองอย่างไร ?
  20. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม แล้วมีผลต่อการยิ้มหรือพฤติกรรมอื่นหรือไม่ ?
  21. รีวิวฟิลเลอร์ร่องแก้ม

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม คืออะไร ?

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม คือ การใช้สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid ซึ่งมีลักษณะเป็นเนื้อเจลที่มีความคงตัว ฉีดเข้าไปเติมเต็มบริเวณร่องแก้ม ทำให้ร่องแก้มเต็มขึ้น โดยใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1-2 CC ก็สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน ผิวกลับมาเรียบเนียน ไม่เป็นรอยลึก 

Vsquare tips

การมีร่องแก้มลึก เป็นจุดที่ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูมีอายุมากขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงที่จะสังเกตปัญหาร่องแก้มลึกได้ชัดกว่าผู้ชาย หากไม่แก้ไข ร่องแก้มจะลึกขึ้นเรื่อย ๆ เมื่ออายุประมาณ 25 ปี ขึ้นไป


สาเหตุที่ทำให้เกิดร่องแก้มลึก มาจากอะไรบ้าง ?

สาเหตุที่ทำให้เกิดร่องแก้มลึก

ปัญหาร่องแก้มลึกสามารถแบ่งออกเป็น 4 สาเหตุหลัก ได้แก่

  • ร่องแก้มลึก จากการยุบตัวของกระดูกบริเวณร่องแก้มโดยตรง

เมื่ออายุมากขึ้น โครงสร้างภายในร่างกายก็จะเริ่มเสื่อมสภาพเป็นเรื่องปกติครับ ในช่วงอายุประมาณ 20-30 ปี มักพบปัญหากระดูกร่องแก้มยุบตัว ทำให้เกิดร่องแก้มเป็นขีด ๆ แต่ยังไม่ลึกมาก สามารถแก้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ลงในชั้นกระดูกใต้กล้ามเนื้อ โดยฉีดในจุดที่ต่ำกว่าร่องแก้มเล็กน้อย (เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการดึงของกล้ามเนื้อที่ใช้ยิ้ม และทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อน)

  • ร่องแก้มลึก จากการยุบตัวของกระดูกบริเวณใต้ตา

อีกปัญหาที่พบได้บ่อย ๆ ในคนที่มีอายุประมาณ 30 ปีขึ้นไป คือการยุบตัวของกระดูกบริเวณใต้ตา ร่วมกับกระดูกบริเวณร่องแก้ม เนื้อแก้มด้านบนหย่อนจะลงมากองตรงเหนือร่องแก้ม และทำให้ร่องแก้มลึกขึ้น ต้องแก้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อยกโครงสร้างผิวโดยรวมทั้งหมดขึ้นไปด้านบน 

หากคิดว่าร่องแก้มลึก ต้องแก้ด้วยฟิลเลอร์ร่องแก้มเพียงอย่างเดียว เป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ถูกต้องครับ เพราะจะทำให้ยิ่งมีเนื้อกองอยู่เหนือร่องแก้ม ทำให้แก้มเป็นก้อน หน้าดูอูม ไม่เป็นธรรมชาติ ดังนั้นการฉีดร่องแก้มจึงควรทำกับหมอที่มีประสบการณ์ วิเคราะห์ปัญหาและแก้ไขได้อย่างตรงจุด

  • ร่องแก้มลึก จากการยิ้มบ่อย ทำให้กล้ามเนื้อที่ดึงร่องแก้มแข็งแรงเกินไป

นอกจากร่องแก้มลึกที่เกิดจากอายุ พฤติกรรมที่ทำบ่อย ๆ เช่น การยิ้ม การหัวเราะ ก็ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณร่องแก้มแข็งแรงขึ้น จนเกิดเป็นรอยร่องแก้มลึกได้ การแก้ไขก็จะใช้การฉีดฟิลเลอร์เพียงอย่างเดียวไม่ได้ เพราะเป็นปัญหาจากกล้ามเนื้อ จึงต้องแก้ไขด้วยโบท็อกเทคนิค Dermotoxin ช่วยคลายกล้ามเนื้อ และเติมฟิลเลอร์เทคนิค Myomodulation เสริมเข้าไป เพื่อให้ร่องแก้มตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

  • ร่องแก้มลึก จากผิวแห้ง หรือตากแดดบ่อย ทำให้ชั้นผิวบางลง

เนื่องจากผิวหน้าเป็นบริเวณที่มีความบางมากกว่าจุดอื่น ๆ เวลาที่ผิวแห้งมาก ๆ ตากแดดบ่อย จะทำให้ผิวยิ่งบางลง และเกิดริ้วรอยต่าง ๆ ได้ง่าย เช่นเดียวกับบริเวณร่องแก้มที่จะเป็นริ้ว ๆ ตื้น ๆ สามารถแก้ไขได้โดยใช้ฟิลเลอร์รุ่นที่มีโมเลกุลเล็ก ฉีดเข้าไปในจุดที่มีริ้วรอย จะช่วยให้ผิวกลับมาเรียบเนียน ดูชุ่มชื้นขึ้น


ปัญหาร่องแก้มลึก สามารถแก้ได้ถาวรหรือไม่ ?

ปัญหาร่องแก้มลึก แก้ไขได้ถาวรไหม

ปัญหาร่องแก้มลึก สามารถแก้ไขด้วยวิธีหลัก ๆ 2 วิธี คือ การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม และ การเสริมซิลิโคนร่องแก้ม

สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ จะใช้ไฮยาลูรอนิกที่มีความปลอดภัย ผ่าน อย. ฉีดแล้วจะสลายไปเองตามระยะเวลา อยู่ได้นานประมาณ 12-24 เดือน หลังจากนั้นหากต้องการรักษาผลลัพธ์ไว้สามารถกลับเข้ามาฉีดเพิ่มได้ โดยไม่มีผลข้างเคียง

เนื้อฟิลเลอร์ร่องแก้ม

อีกวิธีที่มีการพูดถึงกันมากขึ้นสำหรับคนที่ต้องการให้ผลลัพธ์อยู่ได้ถาวร คือการเสริมร่องแก้มด้วยซิลิโคน เป็นเทคนิคการผ่าตัดใส่ซิลิโคนเข้าไปบริเวณร่องแก้ม ทำให้ร่องแก้มเรียบเนียน แผลผ่าตัดจะอยู่ด้านในช่องปาก แต่ก็ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน และไม่ใช่หัตถการที่เหมาะกับทุกคนครับ 

ผ่าตัดซิลิโคนร่องแก้ม

การเสริมซิลิโคนร่องแก้ม ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์ เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาซิลิโคนพลิกไปมา ตำแหน่งซิลิโคนสองข้างไม่เท่ากัน วางซิลิโคนผิดตำแหน่งทำให้เนื้อแก้มถูกดันขึ้นมาชัดขึ้น หรือผลข้างเคียงจากการผ่าตัดที่ทำให้เส้นประสาทบริเวณใกล้เคียงได้รับความเสียหาย เช่น ปากชา 

หากต้องการแก้ปัญหาร่องแก้ม ควรปรึกษาหมอที่มีประสบการณ์ เพื่อให้ช่วยดูว่าปัญหาของเราเหมาะกับการแก้แบบไหน เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ จะได้เลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุด


การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเหมาะกับใคร ?

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาร่องแก้ม โดยไม่ต้องผ่าตัด ต้องการความปลอดภัย และความสะดวกในการทำหัตถการ โดยต้องฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มในคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ และตรวจสอบได้ว่าฟิลเลอร์ที่ฉีดเป็นฟิลเลอร์แท้ (HA) 

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เหมาะกับใคร by หมอแพร

หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม คนไข้จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันทีว่าร่องแก้มเต็มขึ้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยไม่ต้องพักฟื้น รวมถึงการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ก็ไม่ยุ่งยาก จึงถือว่าเป็นหัตถการที่สะดวก เห็นผลเร็ว ทำให้ได้รับความนิยมมากในปัจจุบันครับ


การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เมื่อเทียบกับหัตถการอื่นที่เกี่ยวกับร่องแก้ม ให้ผลลัพธ์ที่เหมือนหรือต่างกันอย่างไร ?

การแก้ปัญหาร่องแก้มที่เหมาะสมที่สุด คือการเลือกใช้หัตถการให้ตรงกับสาเหตุของปัญหาครับ 

ปัญหาร่องแก้มลึกส่วนใหญ่ สามารถแก้ไขได้อย่างตรงจุดโดยใช้ฟิลเลอร์ร่องแก้ม แต่ก็ยังมีหัตถการอื่น ๆ ที่ช่วยลดร่องแก้มได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของคนไข้แต่ละคน 

  • ร้อยไหม แก้ร่องแก้มลึก สำหรับคนที่เริ่มมีอายุ และมีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อยร่วมด้วย สามารถใช้การร้อยไหมดึงเนื้อแก้มที่กองขึ้นไปให้หน้ายกขึ้น หากทำร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม จะช่วยให้ใช้ปริมาณฟิลเลอร์ลดลง แต่บางกรณีอาจทำให้ดูโหนกแก้มใหญ่ขึ้น หน้าดูบวมจากแก้มที่กองรวมกันได้
  • Hifu แก้ร่องแก้มลึก เหมาะกับคนที่อายุไม่มาก เริ่มมีปัญหาร่องแก้มตื้น ๆ หากไม่อยากฉีดฟิลเลอร์ สามารถทำ Hifu เพื่อลดริ้วรอยร่องแก้ม กระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวยกกระชับและชุ่มชื้นมากขึ้น 
  • โบท็อกร่องแก้ม เหมาะกับปัญหาร่องแก้มลึก ที่เกิดจากการใช้งานกล้ามเนื้อร่องแก้มมากจนแข็งแรงเกินไป แต่การฉีดโบท็อกเพียงอย่างเดียวจะทำให้หน้าดูแข็ง ไม่เป็นธรรมชาติ ควรทำร่วมกับฟิลเลอร์ร่องแก้ม
  • ฉีดไขมันร่องแก้ม เป็นเทคนิคการเติมเต็มใบหน้าโดยใช้ไขมันของคนไข้ มาผ่านกระบวนการปั่นแยกและฉีดเข้าร่องแก้ม มีความเสี่ยงที่ฉีดไขมันแล้วจะไม่ติด 100% รวมถึงคาดเดาผลลัพธ์ได้ยาก อาจมีปัญหาร่องแก้มสองข้างไม่เท่ากัน ต้องฉีดหลายครั้งกว่าจะเห็นผล และไม่สามารถแก้ปัญหาร่องแก้มที่เกิดจากการทรุดตัวของกระดูกใบหน้าได้
  • ศัลยกรรมดึงหน้า ใช้วิธีการผ่าตัดเลาะผิวหนังและดึงเนื้อเยื่อชั้น SMAS มาขึงให้ตึงแล้วเย็บตรึงกับส่วนอื่นที่มีความแข็งแรง จากนั้นจะตัดผิวหนังชั้นบนและผิวหนังส่วนเกินออก ทำให้ใบหน้าเรียบเนียนขึ้น คนไข้ต้องรับความเสี่ยงจากการผ่าตัด รวมถึงต้องอาศัยเทคนิค ความเชี่ยวชาญของแพทย์เฉพาะทาง เหมาะกับคนที่มีอายุมาก ๆ ผิวเหี่ยว หนังหย่อนคล้อย

ถ้ามีปัญหาจากหัตถการอื่นที่เกี่ยวกับร่องแก้ม สามารถฉีดหรือแก้ไขด้วยฟิลเลอร์ร่องแก้มได้หรือไม่ ?

คนไข้ที่เคยแก้ปัญหาร่องแก้มด้วยหัตถการอื่น ๆ แล้วมีปัญหา ต้องการแก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม สามารถทำได้ แต่ต้องเข้ามาให้หมอประเมินก่อน เพื่อที่จะหาแนวทางการแก้ไขให้เหมาะกับแต่ละเคสครับ 

ข้อมูลที่คนไข้ควรแจ้ง คือข้อมูลของหัตถการที่ทำก่อนหน้า ทำมานานแค่ไหน ทำอะไรบ้าง เพราะหัตถการบางอย่างต้องใช้เวลานานในการพักฟื้นนาน เช่น 

  • การฉีดไขมันร่องแก้ม หากฉีดแล้วรู้สึกว่าไขมันไม่ติด ไม่เห็นผล อยากแก้ด้วยฟิลเลอร์ อาจต้องรอประมาณ 1 เดือน เพื่อให้ไขมันยุบตัวลงก่อน หมอจึงสามารถประเมินและฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มได้ครับ 
  • โบท็อกร่องแก้ม หากคนไข้เคยแก้ปัญหาร่องแก้มด้วยการฉีดโบท็อกอย่างเดียว แล้วทำให้หน้าดูแข็งเกินไป ก่อนฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มต้องรอให้ฤทธิ์ของโบท็อกคลายตัวลงก่อน ใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือน
  • ศัลยกรรมดึงหน้า ปกติจะใช้เวลาพักฟื้นนาน ระหว่างนั้นหากต้องการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม แนะนำให้รอเวลาเพื่อให้หน้าเข้าที่ก่อนครับ โดยจะเห็นผลใน 1-3 เดือน และต้องติดตามผลประมาณ 6 เดือน หากยังมีปัญหาร่องแก้มลึกอยู่ ก็สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อฉีดฟิลเลอร์เพิ่มได้
วิธีแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ร่องแก้มลึก ด้วย Hifu ร้อยไหม เมโสแฟต

นอกจากนี้ยังมีการลดร่องแก้มด้วยหัตถการอื่น ๆ ที่สามารถทำพร้อมกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มได้

  • ร้อยไหมร่องแก้ม จะเป็นการแก้ปัญหาแก้มย้อน แก้มหย่อน แต่จะไม่ใช่การแก้ปัญหาร่องแก้มลึกโดยตรง หากทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ อาจพิจารณาให้ทำสองหัตถการร่วมกันตั้งแต่แรก เพราะช่วยแก้ปัญหาร่องแก้มลึกได้อย่างเป็นธรรมชาติมากกว่า
  • Hifu ร่องแก้ม สามารถทำร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มได้ โดยเริ่มทำ Hifu ก่อน เมื่อทำร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ดีขึ้นทั้งเรื่องการเติมเต็มและยกกระชับ

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม vs ฉีดฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก ต่างกันอย่างไร ?

ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ต่างกันอย่างไร
 ร่องแก้มจะอยู่บริเวณข้างแก้ม เหนือปากขึ้นไป 
ส่วนร่องน้ำหมาก จะหมายถึงรอยที่อยู่ข้างปากลงมา

ร่องน้ำหมาก (Marionette lines) เกิดจากการเสื่อมของชั้นผิว กระดูกขากรรไกรยุบตัวลง ทำให้กล้ามเนื้อหย่อนคล้อยและมากองอยู่ที่มุมปาก หรือเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต การยิ้ม การหัวเราะ การเคี้ยวอาหาร สามารถเกิดก่อน หลัง หรือพร้อมกับปัญหาร่องแก้มลึก 

การมีร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก จะทำให้ใบหน้าดูมีอายุ ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก, ฟิลเลอร์มุมปาก จึงมักทำควบคู่ไปกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม แต่คนไข้ส่วนใหญ่จะโฟกัสที่ปัญหาร่องแก้มลึกมากกว่าเพราะรู้สึกว่าสังเกตได้ชัด แต่หากสามารถแก้ร่องแก้ม ร่องน้ำหมากไปด้วยกัน จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ดีขึ้น ใบหน้าดูเด็กลงกว่าเดิมได้ครับ 


การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เกี่ยวข้องกับโหงวเฮ้งหรือไม่ ?

การมีร่องแก้มลึก นอกจากทำให้ดูมีอายุ ยังทำให้ใบหน้าดูโทรม เหนื่อย ไม่สดใส การมีลักษณะใบหน้าแบบนี้จึงไม่ใช่ลักษณะโหงวเฮ้งที่ดีครับ

โหงวเฮ้งร่องแก้ม

ตามตำราโหงวเฮ้ง จะมีจุดที่เรียกว่า “โหนวป๊กเก็ง” เป็นโหงวเฮ้งที่เกี่ยวกับบริเวณแก้มทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นร่องแก้ม ร่องมุมปาก แก้มตอบ บ่งบอกถึงเรื่องบริวาร

ลักษณะเด่น : แก้มต้องอิ่มเอิบ ไม่ยุบ ไม่ตอบ เต็มสวยรับกับแนวกราม ไม่หย่อนคล้อย ไม่มีร่องแก้ม-ร่องมุมปากที่ลึกเกินไป บอกถึงการมีบริวารซื่อสัตย์รับใช้ บริวารดี พึ่งได้ ใช้ชีวิตยามชราอย่างสุขสบาย

ลักษณะด้อย : แก้มตอบ ยุบลง แก้มหย่อนคล้อย มีร่องแก้ม-ร่องมุมปากลึก บ่งบอกว่าจะพบกับปัญหาบริวารที่ไม่ซื่อตรง ไม่เชื่อฟังให้บุญเขาแต่โดนตอบแทนด้วยแค้น ด้วยโทษ ใช้ชีวิตยามชราเงียบเหงาเก็บตัว

นอกจากคนไข้ที่เข้ามาปรึกษาปัญหาร่องแก้มเพื่อความสวยงาม มีหลายคนที่เข้ามาฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเพื่อให้ช่วยเสริมโหงวเฮ้งครับ ด้วยคุณสมบัติการเติมเต็มของฟิลเลอร์ จึงสามารถแก้ปัญหาได้หลากหลาย เพื่อให้ใบหน้ามีลักษณะดีตรงตามโหงวเฮ้งมากขึ้น ทั้งการฉีดแก้มส้ม แก้แก้มตอบ, ฉีดแก้ร่องแก้มลึก และฉีดแก้ร่องมุมปาก 


ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มอันตรายไหม ?

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม อันตรายไหม ปัจจัยหลัก ๆ มี 2 อย่าง 

  • ประเภทฟิลเลอร์ที่ใช้ ต้องมั่นใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ Hyaluronic Acid ที่ผ่าน อย. มีการนำเข้าอย่างถูกต้องจากบริษัทยา ถูกเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม การฉีดร่องแก้มจะอันตราย หากฉีดด้วยสารเติมเต็มอื่น ๆ ที่ไม่ผ่านการรับรอง เช่น ซิลิโคนเหลว ที่จะทำปฏิกิริยาต่อเซลล์ผิวในร่างกาย ทำให้ผิวแข็งเป็นก้อน ห้อยย้อยผิดรูป และสามารถไหลไปจุดอื่น ๆ ได้ เกิดอาการอักเสบ บวมแดงและติดเชื้อ
  • แพทย์ฉีดฟิลเลอร์ ต้องฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์ และต้องมั่นใจว่าเป็นแพทย์ที่ผ่านการรับรองจากแพทยสภา โดยสามารถนำชื่อ–นามสกุล ตรวจสอบในเว็บไซต์ https://checkmd.tmc.or.th/ หากฉีดกับหมอกระเป๋า พยาบาล ผู้ช่วย อาจทำให้เกิดอันตรายร้ายแรง เช่น ฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด เนื้อตาย อักเสบ แพ้ บวมแดง จากการไม่มีความรู้เรื่องกายวิภาคและเส้นเลือดต่าง ๆ บนใบหน้าได้ดีพอ
ฉีดร่องแก้มกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ หมอแพร

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ไม่ใช่ว่าจะฉีดกับใครก็ได้ ควรเลือกฉีดในคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์ที่มีประสบการณ์ และใช้ฟิลเลอร์แท้ โดยปกติแล้วการสั่งซื้อตัวยาต่าง ๆ จากบริษัทต้องเป็นแพทย์เท่านั้นจึงสามารถซื้อได้ ดังนั้นหากเป็นหมอกระเป๋า หรือคนที่ไม่ใช่หมอ ก็จะไม่สามารถสั่งซื้อยาแท้จากบริษัทได้แน่นอน ห้ามฉีดด้วยเด็ดขาดครับ


ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม มีความเสี่ยงอะไรบ้าง ?

เส้นเลือดที่อยู่บริเวณร่องแก้ม

การฉีดฟิลเลอร์ทุกจุด สิ่งที่หมอจะต้องระวังเป็นอย่างมาก คือการฉีดฟิลเลอร์โดนเส้นเลือดแล้วเกิดการอุดตัน ทำให้เนื้อตาย ซึ่งหากหมอมีประสบการณ์มากพอก็จะช่วยลดความเสี่ยงในจุดนี้ได้มาก และในปัจจุบันหากเกิดกรณีที่ผิดพลาด ก็สามารถฉีดยาสลายฟิลเลอร์แก้ปัญหาได้ทันที 

อันตรายจากการฉีดร่องแก้มผิดวิธี

นอกจากเรื่องของความปลอดภัย การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ต้องอาศัยทักษะในการประเมินปัญหาและประเมินจุดฉีดที่ถูกต้อง อย่างที่หมอบอกไปว่าปัญหาร่องแก้มเกิดได้จากหลายสาเหตุ ถ้าแก้ไม่ตรงจุด นอกจากจะไม่ช่วยให้ร่องแก้มตื้นขึ้น อาจทำให้เห็นร่องแก้มชัดกว่าเดิม หน้าดูแข็ง และไม่เป็นธรรมชาติครับ


ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเจ็บไหม ?

ปกติแล้วการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มไม่เจ็บครับ ก่อนฉีดจะมีการแปะยาชาให้ก่อน ระหว่างฉีดก็ประคบน้ำแข็งไปด้วย หมอจะเดินยาช้า ๆ เพื่อให้เกิดแรงดันน้อยที่สุด และค่อย ๆ เพิ่มปริมาณฟิลเลอร์ไม่เกินจุดละ 0.1 cc คอยสังเกตการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ได้ปริมาณที่พอดี ไม่มากหรือน้อยเกินไป เพื่อให้ฉีดแล้วฟิลเลอร์เนียนเรียบไปกับผิวที่สุด


ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มยี่ห้อไหนดี ใช้กี่ CC ?

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อไหนดี

ฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการฉีดร่องแก้มชั้นตื้น คือฟิลเลอร์เนื้ออ่อน ฉีดแล้วทนต่อการขยับได้ดี ส่วนร่องแก้มชั้นลึก จะเหมาะกับฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัญหาและสภาพผิวของคนไข้ หมอจะประเมินและเลือกให้เหมาะกับแต่ละคนมากที่สุด

  • Juvederm Ultra Plus เนื้อนิ่มและฟูมาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องลึก
  • Juvederm Voluma เนื้อแข็งและฟูปานกลาง  มีความยืดหยุ่นสูง เติมเต็มร่องลึกได้อย่างเป็นธรรมชาติ
  • Juvederm Volift เนื้อนิ่ม ที่มีความละเอียดมาก เหมาะสำหรับคนผิวบาง
  • Juvederm Volux เนื้อแข็ง มีโมเลกุลขนาดใหญ่ มีความยืดหยุ่นสูง ปั้นทรงสวย และคงรูปได้ดีที่สุด เหมาะสำหรับฉีดร่องแก้มชั้นลึก
  • Restylane Volyme เนื้อนิ่มปานกลาง และความยืดหยุ่นสูงมาก เหมาะกับการฉีดร่องแก้ม
  • Belotero Intense เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นดี ช่วยฟื้นฟูและเพิ่ม volume ของชั้นผิว
  • Definisse Restore เนื้อนิ่ม มีความแข็งปานกลาง เหมาะกับการเติมริ้วรอยร่องลึก ริ้วรอยหย่อนคล้อยตามวัย เติมร่องแก้ม ร่องมุมปาก

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ใช้กี่ CC ? ขึ้นอยู่กับความลึกของปัญหาร่องแก้มแต่ละคนครับ หากอายุน้อย ๆ ร่องแก้มไม่ลึกมาก จะใช้ประมาณ 1-2 CC หากในเคสที่อายุเยอะ ๆ (ประมาณ 50 ปี ขึ้นไป) จะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 3-4 CC ครับ


ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ไหนดี ?

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ไหนดี
  • คลินิกเปิดอย่างถูกต้อง ได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข แสดงเลขที่ใบอนุญาต 11 หลักแสดงชัดเจน สามารถตรวจสอบได้
  • แพทย์ที่อยู่ประจำคลินิก สามารถนำรายชื่อไปตรวจสอบได้ว่าเป็นแพทย์จริง ๆ และมีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ สามารถให้คำปรึกษาอย่างละเอียด ตรงกับความต้องการแต่ละคน
  • ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นของแท้กับบริษัทนำเข้า ก่อนฉีดมีการแกะกล่องใหม่ให้ดูต่อหน้า
  • มีรีวิว จากผู้ใช้บริการจริง ในแหล่งที่เป็นกลาง น่าเชื่อถือ ทั้งรูปภาพและวิดีโอ หากมีเคสหลุดคลินิกไม่สามารถลบหรือแก้ไขได้ และควรดูความรับผิดชอบของคลินิกนั้น ๆ ด้วย
  • มีการนัดติดตามผลหลังทำทุกเคส มีช่องทางติดต่อที่สะดวก สามารถสอบถามหรือปรึกษากับแพทย์เจ้าของเคสได้โดยตรง

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ไหนดี


ฟิลเลอร์ร่องแก้มราคา โปรโมชั่น 

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ราคาขึ้นอยู่กับรุ่นฟิลเลอร์ที่ใช้ และปริมาณ CC ซึ่งจะไม่เท่ากันในแต่ละคน หรือในบางเคสอาจต้องใช้ฟิลเลอร์ 2 รุ่น ในการฉีดเพื่อแก้ปัญหาร่องแก้มชั้นลึกและชั้นตื้นร่วมกัน แพทย์จะประเมินให้เหมาะสมกับปัญหาและความต้องการครับ

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ราคา

โปรโมชั่นฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ V Square Clinic

Landingpage_ฟิลเลอร์ร่องแก้ม_ใส่ราคา_Desktop_2024
Landingpage_ฟิลเลอร์ร่องแก้ม_ใส่ราคา_Mobile_2024

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ?

  • หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำควรแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง
  • งดยาและวิตามินบางชนิดก่อนฉีดฟิลเลอร์ เช่น แอสไพริน, NSAIDs, วิตามิน St. Johns Wort, ginko biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E
  • งดยาผลัดเซลล์ผิว การดึงหรือโกนขนบริเวณร่องแก้ม
  • งดคอร์สเลเซอร์และนวดหน้าอย่างน้อย 3 วัน ก่อนฉีดร่องแก้ม
  • งดแอลกอฮอล์ และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด 24 ชั่วโมง
  • แพทย์จะพิจารณาให้กินยาห้ามเลือดหรือฉีดยาลดบวมในบางเคส เพื่อลดความเสี่ยงในการบวมช้ำ อักเสบติดเชื้อ

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม อยู่ได้นานไหม ?

ฟิลเลอร์ร่องแก้มจะอยู่ได้นานตามอายุของรุ่นฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ รวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ของแต่ละคนครับ ฟิลเลอร์แต่ละรุ่น อยู่ได้นานต่างกัน ดังนี้

  • Juvederm Ultra Plus อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Juvederm Voluma อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Juvederm Volift อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Juvederm Volux อยู่ได้นาน 18-24 เดือน
  • Restylane Volyme อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Teoxane RHA 2 อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Teoxane RHA 3 อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Belotero Intense อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Definisse Restore อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Definisse Touch อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
  • Flore Aqua-s อยู่ได้นาน 18 เดือน

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มมีอาการบวมไหม กี่วันถึงจะเข้ารูป ?

ฉีดร่องแก้มบวมไหม กี่วันเข้ารูป

หลังฉีดร่องแก้ม เห็นการเปลี่ยนแปลงทันที ร่องแก้มเต็มขึ้น หลังจากนั้นอาจมีอาการบวมเข็ม บวกกับเนื้อฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ดี แต่ก็ไม่ได้บวมมากจนสังเกตได้ครับ สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ฟิลเลอร์จะเข้าที่ใน 2 สัปดาห์

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ร่องแก้ม บวมกี่วัน


ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร ?

เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
หากฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง 
จะได้ผลลัพธ์สวยงาม เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน

สาเหตุที่ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อน แบ่งเป็น 2 กรณีครับ 

  • ฉีดด้วยฟิลเลอร์แท้กับแพทย์ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน แต่เป็นก้อน

กรณีนี้อาจเกิดจากการใช้เทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้องของแพทย์ ประเมินปัญหาและแก้ไขไม่ถูกจุด เช่น หากปัญหาร่องแก้มเกิดจากกระดูกบริเวณใต้ตายุบตัว ก็ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเพียงอย่างเดียว เพราะจะยิ่งทำให้เนื้อแก้มถูกดัน ทำให้แก้มอูม ๆ บวม หรือฉีดร่องแก้มตื้นเกินไปจนโดนกล้ามเนื้อร่องแก้ม เมื่อเวลาผ่านไปทำให้ฟิลเลอร์ถูกดึงมากองรวมกันเป็นก้อนครับ

  • ฉีดฟิลเลอร์ปลอมกับหมอกระเป๋า

กรณีนี้คือไม่ปลอดภัยอยู่แล้วครับ สารเติมเต็มที่ไม่สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้ ยาปลอม ยาหิ้ว ที่ไม่ได้ถูกเก็บรักษาในอุณหภูมิที่ถูกต้อง เมื่อฉีดไปแล้วเกิดปฏิกิริยากับผิว ทำให้แพ้ บวม แดง หากเป็นซิลิโคนเหลวก็จะเป็นก้อน ไหลย้อย ไม่สามารถฉีดสลายได้ วิธีแก้ไขต้องผ่าตัดขูดออกเท่านั้น

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อน


หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ควรดูแลตัวเองอย่างไร ?

  • หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกาและกดนวดในจุดที่ฉีด อาจมีอาการบวมแดงหรือเขียวช้ำเป็นปกติ จะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน (หากหลังจาก 3 วันไปแล้ว มีอาการบวมมากขึ้นให้ติดต่อกลับมาที่คลินิกเพื่อรับยากินเพิ่ม)
  • อย่าขยับผิวในจุดที่ทำมากโดยเฉพาะช่วง 3 วันแรก เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ได้
  • ควรอยู่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม. เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ตากแดดจัด ๆ
  • ให้งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิดอย่างน้อย 1 เดือน
  • ควรงดทานอาหารบางอย่างที่ส่งผลต่อการอักเสบ บวมและทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้า เช่น อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ หมูกระทะ ชาบู อาหารหมักดอง อาหารที่เผ็ดมาก ๆ จนหน้าแดง อาหารหวานจัดและอาหารดิบจากร้านที่ไม่สะอาด
  • งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 48 ชั่วโมง

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม แล้วมีผลต่อการยิ้มหรือพฤติกรรมอื่นหรือไม่ ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยิ้มได้ปกติไหม? หน้าจะแข็งไหม ?

หากฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง หรือเลือกหัตถการที่แก้ปัญหาร่องแก้มได้ตรงจุด ก็จะได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ พูด ยิ้ม หัวเราะ หรือใช้ชีวิตอื่น ๆ ได้ตามปกติครับ


รีวิวฟิลเลอร์ร่องแก้ม

รีวิว ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ก่อน-หลังทำ ที่ V Square Clinic จะเห็นว่าหลังฉีดทันที ร่องแก้มตื้นขึ้นทันที

รีวิว ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2 CC
รีวิว ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2 CC และ ฟิลเลอร์ใต้ตา 3 CC
รีวิว ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 1 CC
รีวิว ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 1 CC และ ฟิลเลอร์ใต้ตา 3 CC
รีวิว ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2 CC
รีวิว ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2 CC และ ฟิลเลอร์ใต้ตา 2 CC
รีวิว ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2 CC
รีวิว ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2 CC และ ฟิลเลอร์ใต้ตา 2 CC
รีวิว ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2 CC
รีวิว ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2 CC และ ฟิลเลอร์ใต้ตา 2 CC

*ผลลัพธ์แตกต่างกันในแต่ละบุคคล


สรุป

ร่องแก้ม เป็นอีกจุดสำหรับที่ทำให้ใบหน้าดูมีอายุ ดูเหนื่อย ไม่สดใส เมื่อแก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม นอกจากช่วยให้ร่องแก้มตื้นขึ้น ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้ สำหรับใครที่ยังมีข้อสงสัย หรืออยากปรึกษาเรื่องปัญหาร่องแก้ม สามารถปรึกษาหมอได้ทางออนไลน์ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
Radiesse filler

Radiesse filler กระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวและช่วยให้หน้าเด็กลงจริงไหม ? รู้ก่อนฉีด!

Categories
filler
Radiesse filler(1)

Radiesse filler

Radiesse เป็นสารเติมเต็มงานผิว Biostimulator นวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่โดดเด่นและมีความพิเศษไม่เหมือนใคร ในบทความนี้จะมาเจาะลึกว่า Radiesse filler คืออะไร ? เหมาะกับใคร ? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? ต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร ? ราคาเท่าไหร่ ? ทุกเรื่องที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีด Radiesse filler หมอรวมมาให้แล้วครับ

เจาะลึก Radiesse คืออะไร ช่วยอะไรบ้าง เหมาะกับปัญหาแบบไหน ? 

สารบัญ Radiesse filler


Radiesse filler คืออะไร ?

Radiesse filler คืออะไร

Radiesse filler คือ สารฉีดกระตุ้นการสร้างเส้นใยผิวใหม่ หรือ Regenerative Biostimulator ตัวใหม่ล่าสุด จัดอยู่ในกลุ่มสารเติมเต็มเหมือนกับการฉีดฟิลเลอร์ (Filler) แต่จะแตกต่างกันที่ส่วนประกอบหลัก โดยฟิลเลอร์จะมีส่วนประกอบหลักเป็นไฮยาลูรอนิคแอซิด (Hyaluronic Acid) ที่มีคุณสมบัติอุ้มน้ำ ช่วยเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว 

ส่วน Radiesse จะมีส่วนประกอบหลักเป็น CaHA (Calcium Hydroxyapatite) เข้าไปฟื้นฟู Fibroblast ทำให้เกิดการกระตุ้นสารสำคัญในร่างกาย 5 ชนิด ได้แก่ Collagen Type 1 และ Type 3, Elastin, Angiogenesis และ Proteoglycans ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวแน่นขึ้น เฟิร์มกระชับ ลดริ้วรอยเล็ก ๆ และฟื้นฟูผิวให้ผิวดูเด็กลง


CaHA คืออะไร ?

CaHA

CaHA (แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทด์) คือ สารที่สามารถพบได้ในเนื้อเยื่อกระดูกและฟัน แต่ CaHA ที่เป็นส่วนประกอบประกอบหลักของ Radiesse จะผลิตด้วยวิธีการสังเคราะห์ ทำให้ได้ CaHA microsphere (คา-ฮ่า ไมโครสเฟียร์) ที่เหมือนกับสารที่มีอยู่ในร่างกาย มีลักษณะเป็นทรงกลมขนาดอนุภาคสม่ำเสมอ 25-45 ไมครอน มีความปลอดภัยสูง และสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติครับ    

ในทางการแพทย์นิยมใช้ CaHA มาอย่างยาวนานกว่า 25 ปี รวมไปถึงยังมีการวิจัยในเรื่องของประสิทธิภาพและความปลอดภัยมาอย่างต่อเนื่องมากกว่า 250 ฉบับ 


Radiesse filler ผลิตจากประเทศอะไร ? 

Radiesse filler ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นจาก บริษัท Merz Pharmaceuticals ประเทศเยอรมนี และหลังจากนั้นในปี 2004 ก็ได้ถูกอนุมัติให้สามารถนำมาใช้ได้ในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศแรก ปัจจุบันมียอดการใช้กว่า 15 ล้านไซริงค์ จาก 85 แห่งทั่วโลก

Vsquare tips

ในประเทศไทย Radiesse filler ถูกนำเข้าและจัดจำหน่ายโดย Merz Aesthetics. Thailand บริษัทนวัตกรรมความงามระดับโลกที่นำเข้าโบท็อก Xeomin, ฟิลเลอร์ Belotero และเทคโนโลยีเครื่องยกกระชับ Ultherapy ที่ใช้อย่างแพร่หลายในคลินิกเสริมความงามชั้นนำครับ


Radiesse filler มีกระบวนการทำงานอย่างไร ? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? 

Radiesse จะไปกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ที่เป็นเซลล์ผลิตคอลลาเจนหลักในผิวหนังให้มีการผลิตคอลลาเจนมากขึ้น โดยอนุภาค CaHA จะสร้างโครงสร้าง และกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังผลิตคอลลาเจนรอบ ๆ เป็นเส้นใยตาข่าย 3 มิติ (3D Matrix) ทำให้ผิวหนังอิ่มฟู เต่งตึงทันทีหลังฉีด 

กระบวนการทำงานของ Radiesse filler
ภาพแสดงการสะสมของคอลลาเจนที่ถูกกระตุ้นขึ้นมาใหม่ในช่วง 4-78 อาทิตย์หลังฉีด

นอกจากนี้ CaHA ยังช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพจากการเพิ่มของอายุ กระตุ้นการสร้างอีลาสตินในชั้นผิวหนังได้ถึง 250% ช่วยลดความหย่อนคล้อย เติมเต็มร่องริ้วรอยใบหน้าและส่วนต่าง ๆ ให้กระชับ เรียบเนียน เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวมีความยืดหยุ่นและคืนตัวได้ดีขึ้น ซึ่งช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้ครับ

Radiesse filler ช่วยเรื่องอะไร

Radiesse filler มีกี่รุ่น ผ่านอย.ไหม ?

ปัจจุบันมี Radiesse filler มีอยู่ 2 รุ่น ได้แก่ Radiesse Filler ® และ Radiesse ® (+) โดยต่างกันที่ Radiesse Filler ® เป็นรุ่นที่ไม่มียาชา ส่วน Radiesse ® plus จะมีส่วนผสมของยาชา เพื่อลดความเจ็บขณะฉีด

Radiesse filler

ในปัจจุบัน Radiesse ได้รับรองและอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) ยุโรป (CE) และ THFDA รวมถึงผ่าน อย.ในด้านการฉีดมือโดยเฉพาะ จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัยครับ


Radiesse filler มีจุดเด่นอะไรบ้าง ?

จุดเด่นของ Radiesse filler

จุดเด่นของ Radiesse filler คือ การฟื้นฟูผิวแบบองค์รวม หรือที่เรียกว่า Regenerative Biostimulator ครับ เน้นฟื้นฟูถึงโครงสร้างผิวชั้นลึก ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเส้นใยตาข่ายผิวใหม่ได้ถึง 5 ประการ มอบ 3 ผลลัพธ์ที่เห็นผลทันทีและยาวนานกว่าที่เคย ดังนี้

  • Healthier ผิวเฟิร์ม แน่นกระชับ อิ่มฟูเด้ง ผิวมีคุณภาพดียิ่งขึ้น
  • Younger ริ้วรอยลดลง ยกกระชับขึ้น ผิวดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง
  • Longer ยืดอายุผิวคุณภาพดีได้ยาวนานขึ้น

Radiesse filler เหมาะกับใคร ?

Radiesse filler เหมาะกับใคร

Radiesse filler เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาต่าง ๆ ดังนี้

  • ผู้ที่มีริ้วรอยร่องลึก ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ใบหน้าขาดวอลลุ่ม
  • ผู้ที่ใบหน้าหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด ดูแก่กว่าวัย 
  • คนที่มีผิวแห้ง ผิวหมองคล้ำ ขาดความชุ่มชื้น มีรูขุมขนกว้าง 
  • ผู้ที่มีปัญหาความเหี่ยวย่น ผิวหน้าขาดคอลลาเจน ดูไม่เต่งตึง
  • ผู้ที่มีรอยสิว หรือมีหลุมสิวที่ไม่ลึกมาก หน้าโทรม ต้องการบำรุงผิวเร่งด่วน
  • เหมาะกับผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป หรือต้องการเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิวมากยิ่งขึ้น

Radiesse filler มีผลข้างเคียงไหม ?

หลังฉีด Radiesse อาจมีอาการบวมหรือแดง รวมถึงมีรอยช้ำจากเข็มที่ใช้ในการฉีด บางรายอาจมีอาการคันเล็กน้อย อาการเหล่านี้เป็นผลข้างเคียงที่ไม่อันตรายครับ มักจะหายไปเองภายในไม่กี่ชั่วโมง หรือ 2-3 วัน


Radiesse filler ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ?

Radiesse filler vs ฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น

หากเปรียบเทียบ Radiesse กับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มที่ช่วยเรื่องงานผิวอย่าง Sculptra, Gouri, Rejuran และ Exosome จะมีส่วนประกอบหลัก จุดเด่น และผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน เหมาะกับการแก้ไขปัญหาที่ต่างกัน ดังนี้

Radiesse filler

ส่วนประกอบหลัก : CaHA

จุดเด่น : เป็นนวัตกรรมกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวที่เน้นการเพิ่มวอลลุ่มของใบหน้า  ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเส้นใยตาข่ายผิวใหม่ได้ถึง 5 ประการ คือ Collagen Type I, Collagen Type III, Elastin,  Angiogenesis และ Proteoglycan

เหมาะกับ : คนที่ปัญหาชั้นกระดูก มีร่องแก้ม ร่องมุมปาก ต้องการยกกระชับผิวบริเวณกรอบหน้า แนวกราม คาง ลำคอ 

ระยะเวลาเห็นผล : หลังฉีดเห็นผลลัพธ์ทันที ใน 1 เดือนแรกจะเริ่มเห็นผลว่าผิวกระชับขึ้น มีความยืดหยุ่น ผิวแน่นฟู ร่องลึกต่าง ๆ ตื้นขึ้น ริ้วรอยจางลง และจะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ใน 3-6 เดือน

ระยะเวลาของการคงผลลัพธ์ : อยู่ได้นาน 2 ปี

Sculptra 

ส่วนประกอบหลัก :  PLLA (Poly-L-Lactic Acid) 

จุดเด่น : เป็นนวัตกรรมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวที่เน้นการฟื้นฟูโครงสร้างผิวเดิม กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Type I ทำให้ผิวมีความเต่งตึงดูกระชับ เต่งตึง ยืดหยุ่น ดูสุขภาพดี

เหมาะกับ : คนที่มีปัญหาชั้นไขมันและเนื้อเยื่อ ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ มีริ้วรอย 

ระยะเวลาเห็นผล :  หลังฉีดประมาณ 5 วัน PLLA จะเริ่มเข้าไปออกฤทธิ์ มีกระบวนการผลิตคอลลาเจน โดยต้องรอประมาณ 2-3 สัปดาห์ จึงจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง และจะเห็นผลชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือนครับ

ระยะเวลาของการคงผลลัพธ์ : อยู่ได้นาน 2 ปี

Gouri

ส่วนประกอบหลัก : PCL (Polycaprolactone)

จุดเด่น : ช่วยกระตุ้นให้เซลล์ Fibroblast ผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินมากขึ้น ทำให้ผิวที่เสื่อมโทรม แห้งกร้านกลับมาดูสุขภาพดีขึ้น อิ่มน้ำ รูขุมขนเล็กลง ริ้วรอยเล็ก ๆ ดูจางลง มีความแน่นฟู กระชับ และเรียบเนียน

เหมาะกับ : คนที่มีริ้วรอยแห่งวัย ใบหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ต้องการเพิ่มคอลลาเจนให้ผิว และป้องกันการเกิดริ้วรอยในอนาคต รวมถึงคนที่ต้องการเติมเต็มใบหน้า แต่ไม่อยากฉีดฟิลเลอร์

ระยะเวลาเห็นผล : หลังฉีด Gouri เริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ และจะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ใน 1 เดือน 

ระยะเวลาของการคงผลลัพธ์ : แนะนำทำ 3 ครั้ง ทุก 1 เดือน อยู่ได้นาน 6-12 เดือน

Rejuran

ส่วนประกอบหลัก : PN (Polyneucleotide)

จุดเด่น : กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอีลาสตินให้ผิวแข็งแรงลดรอยสิวและรอยแผลต่าง ๆ ได้ดี

เหมาะกับ : คนที่มีผิวแห้งกร้าน ผิวเสื่อมโทรม ขาดการบำรุง ต้องการปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้น ลดจุดด่างดำ ฝ้า กระ รอยสิว ฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง สุขภาพดีขึ้นแบบเร่งด่วน

ระยะเวลาเห็นผล : หลังฉีดจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ในช่วง 3-5 วัน และเริ่มเห็นผลชัดเจนประมาณ 4 สัปดาห์ 

ระยะเวลาของการคงผลลัพธ์ : แนะนำทำ 4 ครั้ง ติดต่อกัน 2-3 สัปดาห์ อยู่ได้นาน 3-6 เดือน ขึ้นกับการดูแลผิวของแต่ละคน

exosome

ส่วนประกอบหลัก : สารชีวโมเลกุลถึง 1,000 ชนิด

จุดเด่น : Skin Rejuvenation ฟื้นฟูและชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว แก้ไขภาวะ Anti-aging ทำให้ผิวเด็กลงและชราได้ช้าลง รวมถึงลดริ้วรอย รูขุมขนกว้าง รอยสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ

เหมาะกับ : คนที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน ผิวขาดน้ำ แห้งกร้าน ผิวแพ้ง่าย ปัญหาริ้วรอยแห่งวัย ไม่กระชับ มีฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยสิว ผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส

ระยะเวลาเห็นผล : หลังทำ exosome สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ใน 3-7 วัน

ระยะเวลาของการคงผลลัพธ์ : ทำ 3 ครั้งอยู่ได้นาน 3-6 เดือน ทำต่อเนื่อง 5 ครั้ง อยู่ได้นาน 1 ปี


Radiesse filler ราคาเท่าไร ?

Radiesse ราคาขึ้นอยู่กับปริมาณ CC ที่ใช้ และโปรโมชันของแต่ละคลินิกในช่วงนั้น ๆ ครับ  สำหรับที่ V Square Clinic จัดโปร Radiesse 2 กล่อง เริ่มต้นที่ 6x,xxx.- ก่อนฉีดคนไข้สามารถเข้ามาให้หมอประเมินปัญหาผิวหน้าก่อนได้ ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ 

Radiesse ราคา

Radiesse filler นิยมฉีดจุดไหน ใช้กี่ CC

Radiesse filler นิยมใช้ฉีดแก้ไขรอยพับและร่องลึกบริเวณใบหน้า เช่น

  • บริเวณใบหน้า หน้าแก้ม
  • ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก
  • รอยเหี่ยวบริเวณคอ หลังมือ

แต่ตำแหน่งที่หมอไม่แนะนำให้ฉีด คือ บริเวณระหว่างคิ้ว จมูก รอบดวงตา และบริเวณปากครับ โดยจำนวน CC ที่ใช้นั้นจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดและสภาพผิวของคนไข้ ก่อนฉีดแพทย์จะช่วยประเมินและแนะนำปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ตรงตามความต้องการ สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดครับ


Radiesse filler มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?

ข้อดี 

  • ช่วยกระตุ้น Collagen Type 1 และ Type 3 เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว เติมความชุ่มชื้น ผิวอิ่มน้ำ ดูสุขภาพดี 
  • มีความปลอดภัยสูง สามารถเข้ากันได้ดีกับร่างกาย ไม่เกิดการกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ต่อต้าน
  • เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังฉีด ไม่ต้องพักฟื้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการบูสต์ผิวเร่งด่วน 

ข้อเสีย

  • ไม่ใช่หัตถการที่คงอยู่ถาวร หากต้องการคงสภาพผลลัพธ์ ควรฉีดต่อเนื่องประมาณ 1-3 ครั้งโดยขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละบุคคลและคำแนะนำของแพทย์ครับ

ข้อควรปฏิบัติก่อน-หลังฉีด Radiesse filler มีอะไรบ้าง ?

ข้อควรปฏิบัติก่อน Radiesse  filler 

  • ปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการแก้ไขปัญหาผิว และประเมินความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
  • ควรหลีกเลี่ยงยาต้านการอักเสบไม่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน และอาหารเสริมที่อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดรอยช้ำ เช่น วิตามิน E, กระเทียม, โอเมก้า 3 อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนฉีด
  • งดการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดรอยช้ำและบวม
  • งดทำหัตถการผิว เช่น เลเซอร์หน้า นวดหน้าอย่างน้อย 7-14 วันก่อนฉีด
  • แจ้งประวัติการแพ้ยาหรือสารเติมเต็มที่เคยใช้กับแพทย์ เพื่อป้องกันปฏิกิริยาแพ้
ข้อควรปฏิบัติก่อน-หลังฉีด Radiesse filler

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีด Radiesse filler 

  • หลีกเลี่ยงการจับ ลูบ แตะ บริเวณที่ฉีด
  • ลดกิจกรรมที่ต้องใช้กำลังหรือออกแรงมาก ๆ 
  • งดการแต่งหน้า 12 ชั่วโมง หรือจนกว่ารอยเข็มจะหายดี
  • หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อน 24 ชั่วโมง 
  • หลีกเลี่ยงหัตถการที่ใช้ความร้อนสูง เช่น ซาวน่า เลเซอร์ร้อน อย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ 

Radiesse filler ของแท้ ดูอย่างไร ?

วิธีดู Radiesse filler ของแท้
  • มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาอังกฤษ 
  • มี QR Code ติดไว้หน้ากล่อง เพื่อให้สแกนตรวจสอบว่าเป็น Radiesse ของแท้หรือไม่
  • เลข Lot. ที่กล่องและซองตรงกัน 
  • มีใบรับประกัน Skin Rejuvenation Card หรือ Radiesse Club Card 
  • โทรเช็กเลข Lot. กับบริษัทนำเข้า บริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์ จำกัด โทร.02 026 1111

Radiesse filler รีวิว

รีวิวผลลัพธ์ก่อน-หลังฉีด Radiesse filler 

Radiesse filler รีวิว
Radiesse filler รีวิว(1)

Q&A เกี่ยวกับ Radiesse filler

Radiesse filler อยู่ได้นานกี่เดือน ?

ระยะเวลาการคงผลลัพธ์หลังฉีด Radiesse สามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปีครับ ขึ้นอยู่กับความถี่ในการฉีด และการดูแลตัวเองหลังฉีดของแต่ละบุคคล

ฉีดRadiesse filler กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ Radiesse จะเห็นผลลัพธ์ทันทีครับ โดยจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ชัดขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากฉีดไปแล้วประมาณ 1 เดือน และจะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ประมาณ 3-6 เดือนขึ้นไป

Radiesse filler ควรฉีดกี่ครั้ง ?

หากต้องการเห็นผลเต็มที่และคงผลลัพธ์ให้อยู่ได้นาน หมอแนะนำให้ฉีด Radiesse ติดต่อกัน 1-3 ครั้ง โดยเว้นห่างกันอย่างน้อย 1 เดือน หรือตามคำแนะนำของแพทย์ครับ

ฉีดRadiesse filler ที่ไหนดี ?

เลือกฉีด Radiesse Filler ที่ไหนดี ? สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงคือความปลอดภัยครับ หมอแนะนำเช็กลิสต์ที่ควรพิจารณา ดังนี้

  • คลินิกได้มาตรฐาน มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก สะอาด ปลอดเชื้อ มีรีวิวที่น่าเชื่อถือจากผู้ใช้บริการ
  • แพทย์ผู้ฉีดมีประสบการณ์ สามารถประเมินปัญหาและแก้ไขอย่างตรงจุด ใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง
  • ฉีดด้วยตัวยาของแท้ ผ่านการรับรองจาก อย. สามารถตรวจสอบกับบริษัทนำเข้าได้ 
  • มีช่องทางการติดต่อที่สะดวก หากมีปัญหาหรือข้อสงสัยสามารถคุยกับแพทย์ได้ทันที
  • ราคาสมเหตุสมผล ไม่ถูกหรือแพงเกินไป

สรุป

Radiesse Filler เป็นนวัตกรรมงานผิว Regenerative Biostimulator กระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังตามธรรมชาติในร่างกาย ให้ผลิตคอลลาเจนได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดดเด่นในเรื่องของการฟื้นฟูผิวถึงระดับโครงสร้างผิวชั้นลึก ทำให้ผิวยืดหยุ่นและคืนตัวได้ดี ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคต ลดอายุให้หน้าดูเด็กลงได้อย่างเห็นผล หลังฉีดไม่ต้องพักฟื้น เหมาะกับคนที่ต้องการฟื้นบำรุงผิวเร่งด่วนครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
ฟิลเลอร์ปาก-เลือกทรงอย่างไร370x277

ฟิลเลอร์ปาก สายเกา สายฝอ เลือกทรงอย่างไรให้เข้ากับใบหน้า อยู่ได้นานแค่ไหน ก่อนฉีดควรรู้อะไรบ้าง ?

Categories
filler
ฟิลเลอร์ปาก-เลือกทรงอย่างไร1000x860

ฟิลเลอร์ปาก 

นอกจากการปรับรูปหน้า การเสริมความงามอีกจุดที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันคึอการฉีด Filler ปาก เพื่อให้ปากอวบอิ่ม เป็นกระจับ หรือยกมุมปาก ซึ่งการปรับทรงปากจะช่วยเสริมให้ใบหน้ามีมิติมากขึ้น แต่การจะฉีดปากสวย ๆ ต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพราะเป็นจุดที่ต้องการความพิถีพิถันสูง จึงจะได้ทรงปากที่เข้ากับใบหน้า

ฉีดฟิลเลอร์ปาก ดีไหม เลือกทรงแบบไหนดี เพื่อให้คนไข้มีข้อมูลในการตัดสินใจ หมอได้สรุปสิ่งที่ควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปากไว้ในบทความนี้ครับ ฉีดฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี อยู่ได้นานไหม ราคาเท่าไหร่ เลือกฉีดฟิลเลอร์ปากที่ไหนดี ปลอดภัย เห็นผลชัดเจน

สารบัญ ฟิลเลอร์ปาก

  1. ฟิลเลอร์ปาก คืออะไร ?
  2. สิ่งที่ควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก ข้อดี ข้อเสีย
  3. ฟิลเลอร์ปาก กับ ผ่าตัดปาก ต่างกันอย่างไร ?
  4. ปัญหาปากแบบไหน ที่ควรแก้ด้วยฟิลเลอร์ปาก
  5. ฟิลเลอร์ปากมีกี่แบบ ทำทรงไหนได้บ้าง ?
  6. ฟิลเลอร์ปากสำหรับผู้ชาย 
  7. ผ่าตัดทำปากบางมาแล้วบางเกินไป เติมฟิลเลอร์ปากแก้ได้ไหม ?
  8. ฉีดฟิลเลอร์ปาก อันตรายไหม ?
  9. ฉีดฟิลเลอร์ปากเจ็บไหม ?
  10. ฉีดฟิลเลอร์ ปากบวมช้ำกี่วัน ?
  11. ฉีดฟิลเลอร์ปากอย่างไรไม่ให้เป็นก้อน ?
  12. การฉีดสลายฟิลเลอร์ปาก
  13. ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปากควรเตรียมตัวอย่างไร ?
  14. วิธีดูฟิลเลอร์ปากของแท้กับของปลอม
  15. ฉีดฟิลเลอร์ปากควรใช้กี่ CC ?
  16. ฉีดฟิลเลอร์ปาก กี่วันเห็นผล ?
  17. ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี ?
  18. ฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้นานไหม ?
  19. วิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
  20. ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
  21. หลังฉีดฟิลเลอร์ปากสามารถทำอะไรได้บ้าง ?
  22. รีวิวฟิลเลอร์ปาก
  23. ฉีดฟิลเลอร์ปากที่ไหนดี ?
  24. ฟิลเลอร์ปากราคา โปรโมชั่น 

ฟิลเลอร์ปาก คืออะไร ?

ฟิลเลอร์ปาก คืออะไร

ฟิลเลอร์ปาก คือ การฉีดฟิลเลอร์เพิ่มเนื้อปากให้อวบอิ่มขึ้น โดยฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) มีลักษณะเป็นเนื้อเจล อยู่ทรง สามารถปั้นรูปได้ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติอุ้มน้ำ นอกจากช่วยเรื่องการปรับแต่งทรงปาก ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น แก้ปัญหาปากแห้งลอก และปรับสีปากให้สดใสขึ้น


สิ่งที่ควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก ข้อดี ข้อเสีย

ข้อดี ฟิลเลอร์ปาก

  • ฉีดโดยสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid ซึ่งเป็นสารเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ มีความปลอดภัย 
  • หลังฉีดฟิลเลอร์เห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันที ทรงปากสวยขึ้น อวบอิ่มขึ้น
  • ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ (เห็นผลเต็มที่ใน 2 สัปดาห์)
  • การดูแลหลังฉีดไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องกังวลเรื่องรอยแผล
  • ฟิลเลอร์สลายเองตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้าง สามารถเติมเพิ่มได้เรื่อย ๆ
  • หากต้องการแก้ไข ปรับทรง สามารถฉีดสลายได้ ไม่มีผลข้างเคียง

ข้อเสีย ฟิลเลอร์ปาก

  • ไม่สามารถปรับทรงปากได้ถาวร โดยจะอยู่ได้นาน 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ และการดูแลตัวเองหลังฉีด
  • หากฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ไม่มากพอ เลือกฟิลเลอร์ไม่เหมาะสม อาจทำให้ทรงปากออกมาไม่สวย หรือดูเป็นก้อนได้
  • หากต้องการรักษาผลลัพธ์ให้ปากอวบอิ่มอยู่ได้นาน เมื่อฟิลเลอร์สลายต้องกลับมาฉีดเพิ่ม

ฟิลเลอร์ปาก กับ ผ่าตัดปาก ต่างกันอย่างไร ?

ฟิลเลอร์ปาก กับ ผ่าตัดปาก สามารถปรับทรงปากได้ทั้ง 2 วิธีครับ แต่จุดมุ่งหมายจะต่างกันไปเล็กน้อย การผ่าตัดส่วนใหญ่จะใช้ในเคสที่ต้องการให้ปากบางลง ปรับทรงให้เป็นกระจับ หรือปากปีกนก เหมาะกับคนที่มีเนื้อปากเยอะ ๆ ปากหนา ปากห้อย 

ส่วนการฉีดฟิลเลอร์ปาก จะเป็นการเพิ่มเนื้อปากให้หนาขึ้น ปรับทรงปากให้สวยมีมิติขึ้น (ปรับทรงปากได้ไม่เท่าการผ่าตัด) การฉีดฟิลเลอร์สามารถทำกระจับปาก ปรับทรง และยกมุมปาก ได้โดยใช้เทคนิคการฉีด แต่อยู่ไม่ได้ถาวร ส่วนการผ่าตัดปาก จะสามารถรักษารูปปากไว้ได้ถาวร แต่เพิ่มเนื้อปากให้หนาขึ้นไม่ได้ และหากมีข้อผิดพลาดก็แก้ไขได้ยากครับ

ทั้งสองหัตถการมีข้อดี-ข้อเสียต่างกันไป ใครจะเหมาะกับวิธีไหน จะดูจากลักษณะปากเดิม และทรงปากที่คนไข้ต้องการเป็นหลัก


ปัญหาปากแบบไหน ที่ควรแก้ด้วยฟิลเลอร์ปาก

แก้ปัญหาปากด้วยฟิลเลอร์

การฉีดฟิลเลอร์ปาก ช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับริมฝีปากได้หลากหลาย ด้วยการปรับทรงและฉีดเพิ่มเนื้อปากให้อวบอิ่มขึ้น โดยสามารถแก้ปัญหาได้ ดังนี้

  • แก้ปัญหาปากบาง ให้อวบอิ่มขึ้น ทำทรงให้เป็นกระจับ
  • แก้ปัญหาขอบปากเบลอ ให้คมชัด มีมิติ
  • แก้ปัญหาปากแห้ง ปากตกร่อง ให้มีความชุ่มชื้น เต่งตึง
  • แก้ปัญหามุมปาก ปากคว่ำ ตกให้ยกขึ้น ดูเป็นมิตรมากขึ้น
  • แก้ปัญหาปากไม่เท่ากัน ให้มีความสมมาตร

ฟิลเลอร์ปากมีกี่แบบ ทำทรงไหนได้บ้าง ?

เลือกทรงฟิลเลอร์ปาก

การฉีดฟิลเลอร์ปากทรงที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันจะมีอยู่ 2 เทรนด์ คือการฉีดปากทรงเกาหลี และการฉีดปากทรงสายฝอ ซึ่งทั้งสองมีลักษณะเด่นที่แตกต่างกันครับ โดยทั่วไปแล้วตามโครงสร้างใบหน้าของคนไทยจะเหมาะกับการฉีดปากทรงเอเชียอย่างปากเกาหลีมากกว่า ฉีดแล้วจะดูเป็นธรรมชาติ ไม่โดดออกมาเกินไป  

แต่หลายคนที่มีการปรับรูปหน้าเพิ่มเติม หรือมีโครงสร้างใบหน้าชัดเจน จมูกโด่ง คางยาว ก็สามารถฉีดฟิลเลอร์ปากทรงสายฝอออกมาเป็นธรรมชาติได้เช่นกันครับ หมอจะประเมินและแนะนำให้เหมาะสมกับแต่ละคน รวมถึงรูปทรงปากเดิมว่าสามารถปรับแต่งได้มากแค่ไหน

ฟิลเลอร์ปาก ทรงปากเกาหลี 

ฟิลเลอร์ปาก ทรงปากเกาหลี จะฉีดโดยเน้นให้ปากเป็นทรงปากกระจับ ยกมุมปากขึ้น เพิ่มความอวบอิ่มเล็กน้อย ผลลัพธ์จะออกมาเป็นธรรมชาติ หน้าดูหวานละมุน เป็นทรงที่คนไทยนิยมฉีด ริมฝีปากกลมกลืนไปกับส่วนอื่น ๆ ของใบหน้า ไม่โดดเด่นมากเกินไป เช่น ทรง Cherry Kysse, Classy Kysse, ทรงปากปีกนก, ยกมุมปาก

ฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ ยี่ห้อไหนดี? บวมกี่วัน? ฟิลเลอร์ปากอยู่ได้นานไหม ? l หมอ V Square แชร์หมดเปลือก

ฟิลเลอร์ปาก ทรงปากสายฝอ

ฟิลเลอร์ปาก ทรงปากสายฝอ จะฉีดโดยเน้นให้ปากเป็นทรงหนา อวบอิ่มมาก ๆ ดูเจ่อนิด ๆ ทรงปากชัด ขอบปากชัด เป็นที่นิยมในฝั่งตะวันตก ในสัดส่วนใบหน้าโดยรวมปากจะเด่นชัด เหมาะกับคนที่มีโครงหน้าคม จมูกโด่ง ตาโต คางยาว ทำให้ใบหน้าโดยรวมมีความเซ็กซี่มากขึ้น เช่น ทรง Sexy Kysse, Heavy Lower Lips, Full Lips, Cupid’ Bow


ฟิลเลอร์ปากสำหรับผู้ชาย 

การฉีดฟิลเลอร์ปากผู้ชายก็สามารถฉีดได้ครับ ทั้งการปรับแต่งทรงปาก และแก้ปัญหาปากแห้ง ปากลอกเป็นขุย สำหรับผู้ชายส่วนใหญ่จะเน้นที่การฉีดให้ปากเป็นทรง มีขอบปาก และเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น คมขึ้น สำหรับคนที่หน้าดุเพราะมุมปากตก ก็ใช้เทคนิคฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปากแก้ไขได้ครับ


ผ่าตัดทำปากบางมาแล้วบางเกินไป เติมฟิลเลอร์ปากแก้ได้ไหม ?

หลายเคสที่ผ่าตัดปากมาแล้วมีปัญหาบางปากเกินไป สามารถฉีดฟิลเลอร์ปากช่วยแก้ไข เพิ่มเนื้อปากให้หนาขึ้น หรือปรับทรงได้ครับ แต่ปริมาณจะได้มากน้อย ขึ้นอยู่กับพังผืดที่เกิดขึ้นหลังผ่าตัด หากมีพังผืดมากก็จะเติมฟิลเลอร์ได้น้อย หรือหากคนไข้ผ่าตัดเอาเนื้อปากออกไปมาก ๆ ก็อาจไม่สามารถเติมฟิลเลอร์แก้ไขได้ครับ

การผ่าตัดปากเป็นการปรับรูปทรงปากถาวร แก้ไขได้ยากดังนั้นก่อนตัดสินใจผ่าตัดศัลยกรรม ควรปรึกษาและทำหัตถการกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อไม่ให้มีปัญหาตามมาทีหลัง


ฉีดฟิลเลอร์ปาก อันตรายไหม ?

การฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่อันตรายครับ บริเวณริมฝีปากประกอบด้วยเส้นเลือดฝอยขนาดเล็กจำนวนมาก และมีเส้นเลือดหลักที่อยู่ลึกลงไป ซึ่งหากฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ด้วยเทคนิคที่ถูกต้องก็จะเลี่ยงเส้นเลือดสำคัญได้ และไม่ทำให้ฉีดฟิลเลอร์แล้วมีการอุดตันในเส้นเลือด (หากใช้ฟิลเลอร์แท้หากมีปัญหาสามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ทันที) 

ฉีดฟิลเลอร์ปาก อันตรายไหม

อีกกรณีที่ต้องระวังคือคนไข้ที่เคยผ่าตัดปาก ต้องแจ้งแพทย์ก่อนทุกครั้งที่ฉีดฟิลเลอร์ปาก เส้นเลือดบางส่วนของคนไข้จะโดนรอยแผลที่เป็นพังผืดปิดกั้น แพทย์จะต้องเพิ่มความระมัดระวังในการฉีดมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดการอุดตันของฟิลเลอร์


ฉีดฟิลเลอร์ปากเจ็บไหม ?

เนื่องจากปากเป็นบริเวณที่เนื้ออ่อน มีความบอบบาง ไวต่อความรู้สึก บางคนจะรู้สึกตอนฉีดฟิลเลอร์ปากมากกว่าบริเวณอื่น แต่เป็นความเจ็บอยู่ในระดับที่สามารถทนได้ ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก จะมีการทำความสะอาดบริเวณที่ฉีด และฉีดยาชาให้ทุกเคสครับ (สำหรับคนที่กลัวเจ็บมาก ๆ สามารถแจ้งให้เจ้าหน้าที่แปะยาชาเพิ่มได้)


ฉีดฟิลเลอร์ ปากบวมช้ำกี่วัน ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากจะมีอาการบวมเล็กน้อย เนื่องจากฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ดี และจะค่อย ๆ หายบวมประมาณ 4-5 วัน สำหรับรอยช้ำจะเป็นรอยช้ำจากเข็ม จะไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคนครับ 

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ปากบวมกี่วัน


ฉีดฟิลเลอร์ปากอย่างไรไม่ให้เป็นก้อน ?

 เทคนิคฉีดฟิลเลอร์ปากไม่ให้เป็นก้อน หมอซี

การฉีดฟิลเลอร์ปากไม่ให้เป็นก้อน มีปัจจัยที่สำคัญ ดังนี้

  1. แพทย์ต้องมีประสบการณ์สูงเพราะปากเป็นจุดที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อนและความพิถีพิถันในการฉีด หากแพทย์มีประสบการณ์ไม่มากพอ ฉีดฟิลเลอร์ตื้นเกินไป จะเห็นฟิลเลอร์เป็นก้อนได้
  2. เนื้อฟิลเลอร์เหมาะกับจุดที่ฉีด หากใช้ฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับเนื้อปาก ใช้ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง หลังฉีดจะทำให้ทำทรงไม่สวย และเป็นก้อน

การฉีดสลายฟิลเลอร์ปาก

สำหรับใครที่ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อน สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ปากได้ด้วยยาสลายฟิลเลอร์ Hyaluronidase ซึ่งจะเข้าไปลดการกักเก็บน้ำ ไขมัน และทำลายการยึดเกาะของเนื้อฟิลเลอร์ ทำให้ผิวกลับมาเรียบเนียนเหมือนเดิม แต่จะฉีดสลายได้แต่ฟิลเลอร์แท้เท่านั้นครับ

ในกรณีฟิลเลอร์ปลอม ร่างกายจะต่อต้านสิ่งแปลกปลอม ทำให้เกิดเป็นก้อน กดแล้วเจ็บ แพ้สารที่นำมาฉีด ทำให้มีอักเสบ ติดเชื้อ ทั้งผิวหนังชั้นตื้นและชั้นลึก การแก้ไขจะไม่สามารถฉีดสลายได้ ต้องใช้การผ่าตัดออก ดังนั้นก่อนฉีดคนไข้จึงควรระมัดระวัง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นฟิลเลอร์แท้


ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปากควรเตรียมตัวอย่างไร ?

ปรึกษาหมอก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก หมอซี
  • หาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ปาก และเลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน
  • ศึกษาวิธีดูฟิลเลอร์แท้ยี่ห้อต่าง ๆ เพื่อให้สามารถตรวจสอบเองได้ในเบื้องต้น
  • ดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงในคลินิกนั้น ๆ ทั้งแบบรูปภาพและวิดีโอ
  • ควรงด ยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว และการแว็ก ยาแอสไพริน ยา NSAIDs เช่น ibruprofen, diclofenac, ponstan เป็นเวลา 1 สัปดาห์ก่อนทำ
  • งดวิตามิน St.Johns Wort, ginko biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E เป็นเวลา 1 สัปดาห์ก่อนทำ
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด 24 ชั่วโมง
  • หากมีโรคประจำตัว มียาที่กินเป็นประจำ หรือเคยผ่าตัดปากมาก่อน ควรเตรียมข้อมูลไว้เพื่อแจ้งกับแพทย์ก่อนที่จะทำหัตถการ

วิธีดูฟิลเลอร์ปากของแท้กับของปลอม

วิธีดูฟิลเลอร์ปากของแท้ Juvederm Ultra Plus
  • มีเลขทะเบียนอย. และเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
  • กล่องมี 2 cc และเลข lot ต้องตรงกัน 4 จุด คือ
  • เลข lot ที่กล่อง
  • เลข lot ที่ซอง
  • เลข lot ที่สติกเกอร์
  • เลข lot ที่หลอด
  • สามารถโทรเช็คเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท แอลเลอร์แกน (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 640 4999 ต่อ 1
วิธีดูฟิลเลอร์ปากของแท้ Restylane Volyme
  • มีรอยปรุสำหรับเปิดกล่อง
  • มีเลขทะเบียนอย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
  • มีสติกเกอร์ โมโนแกรม คำว่า “VOID”
  • เลข lot. ตรงกัน 2 จุดคือ
  • เลข lot. ที่ข้างกล่อง
  • เลข lot. ที่หลอด
  • เลข lot. ที่สติกเกอร์
  • สแกน QR CODE ด้วยแอปพลิเคชัน Eztracker เพื่อตรวจสอบยาแท้
  • สามารถสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 023 1800 ต่อ 402
วิธีดูฟิลเลอร์ปากของแท้ Belotero Volume
  • มีเลขทะเบียนอย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
  • กล่องมี 1 cc และเลข lot ต้องตรงกัน 3 จุด คือ
  • เลข lot ที่กล่อง
  • เลข lot ที่สติกเกอร์
  • เลข lot ที่หลอด
  • สามารถโทรเช็คเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์ โทร.02 229 9696

ฉีดฟิลเลอร์ปากควรใช้กี่ CC ? 

ฟิลเลอร์ปากใช้กี่ CC ขึ้นอยู่กับเนื้อปากเดิม และทรงปากที่คนไข้ต้องการครับ โดยปกติทรงปากเกาหลี ปากกระจับ จะใช้ฟิลเลอร์ 1-2 CC ถ้าทรงปากสายฝอ อยากให้อวบอิ่มเยอะ ๆ ก็ใช้ได้ถึง 3 CC แต่จริง ๆ แล้วคนไข้ไม่จำเป็นต้องฉีดฟิลเลอร์ทีเดียวหลาย ๆ ซีซี สามารถเติมทีละ 1 CC เพื่อดูผลลัพธ์ก่อน หากต้องการความอวบอิ่มมากขึ้น ก็ค่อยทยอยมาเติมปากเพิ่มได้ครับ


ฉีดฟิลเลอร์ปาก กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก คนไข้จะเห็นผลลัพธ์ทันที จากนั้นจะมีอาการบวม ค่อย ๆ หายบวมประมาณ 4-5 วันครับ เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนเข้าที่ ประมาณ 1-2 สัปดาห์


ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี ?

ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี

บริเวณริมฝีปากเป็นบริเวณที่เหมาะกับฟิลเลอร์ที่ฉีดแล้วเรียบเนียน ไม่เห็นเป็นก้อน และมีความยืดหยุ่น เนื่องจากปากเป็นจุดที่มีการขยับบ่อย ๆ สำหรับที่ V Square Clinic หมอแนะนำฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการฉีดปาก ดังนี้

ฟิลเลอร์ปาก Juvederm Ultra Plus

Juvederm Ultra Plus เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ฉีดแล้วฟูมาก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการปากอวบอิ่มแบบฝรั่ง สายฝอ

ฟิลเลอร์ปาก Juvederm Voluma

Juvederm Voluma เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง แน่น ฉีดแล้วฟูปานกลาง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปากอวบอิ่มและอยู่ได้นาน

ฟิลเลอร์ปาก Juvederm Volift

Juvederm Volift เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความละเอียด และยืดหยุ่นสูง หลังฉีดให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน

ฟิลเลอร์ปาก Juvederm Volite

Juvederm Volite เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ฉีดเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาปากแห้ง ทาลิปแล้วตกร่อง โดยต้องการอวบอิ่มเล็กน้อย

ฟิลเลอร์ปาก Restylane Vital Light

Restylane Vital Light เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะกับผูู้ที่ต้องการแก้ไขริมฝีปากแห้ง โดยไม่ต้องเพิ่มความหนามาก

ฟิลเลอร์ปาก Restylane Volyme

Restylane Volyme เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่มปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง อุ้มน้ำได้ดี ฉีดแล้วดูเป็นธรรมชาติไม่เป็นก้อน เหมาะฉีดยกมุมปาก

ฟิลเลอร์ปาก Restylane Refyne

Restylane Refyne เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความยืดหยุ่น เหมาะฉีดปากเพื่อเติมเต็มให้ปากอวบอิ่ม เป็นธรรมชาติ

ฟิลเลอร์ปาก Restylane Kysse

Restylane Kysse เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด แต่มีความคงตัว ช่วยสร้างขอบริมฝีปากที่ชัดเจน ให้ความชุ่มชื้นอวบอิ่ม ปรับสีปากให้สดใสขึ้น เป็นฟิลเลอร์ที่ออกแบบมาสำหรับใช้เติมเต็มริมฝีปากโดยเฉพาะ 

ฟิลเลอร์ปาก Belotero Volume

Belotero Volume เป็นฟิลเลอร์เนื้อแน่น ฉีดแล้วอยู่ทรง ช่วยเพิ่ม Volume ให้ปากได้ดี เหมาะสำหรับทรงปากสายฝอ


ฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้นานไหม ?

ฟิลเลอร์ปากอยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ที่ใช้ เนื่องจากฟิลเลอร์แต่ละตัวมีเทคโนโลยีการผลิตแตกต่างกัน ทำให้คุณสมบัติและอายุการใช้งานต่างกันไปด้วยครับ

  • Juvederm Ultra Plus อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Juvederm Voluma อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Juvederm Volift อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Juvederm Volite อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
  • Restylane Vital Light อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
  • Restylane Volyme อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Restylane Refyne อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Restylane Kysse อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Belotero Volume อยู่ได้นาน 12-18 เดือน

นอกจากนี้การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้ฟิลเลอร์ยุบบวม เข้าที่เร็ว และอยู่ได้นานขึ้น ข้อห้าม-ข้อปฏิบัติ หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก จึงเป็นสิ่งที่คนไข้ควรให้ความสำคัญ


วิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

  • พยายามอย่าขยับปากเยอะ และไม่ควรสัมผัส กด นวด หรือปั้นทรงปากด้วยตัวเอง เพราะอาจทำให้รูปปากที่ทำมาเสียรูปได้
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรอยู่แต่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม.
  • การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูได้รูป และเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้ เพราะฟิลเลอร์เป็นสารที่อุ้มน้ำ 

อ่านบทความเพิ่มเติม : วิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก


ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

  • เลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด รวมถึงเครื่องดื่มร้อน ๆ และการสูบบุหรี่ อาจทำให้ปากเกิดอาการบวม หรืออักเสบได้ง่าย
  • ในช่วง 1-3 วันแรก งดการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังหนัก ๆ กัดปาก เม้มปากแรง ๆ การจูบ เพราะอาจทำให้ปากเสียรูปทรง
  • ไม่ควรดึงหรือลอกหนังริมฝีปาก เพราะจะเป็นการทำลายผิวริมฝีปาก ทำให้ผิวเก็บกักน้ำและความชุ่มชื้นไว้ได้น้อยลง
  • ภายใน 12 ชั่วโมงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรงดใช้หลอดดูดน้ำ งดทาลิปสติก
Vsquare tips

“ช่วง 3-7 วัน ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เพราะจะส่งผลให้บริเวณใบหน้ารวมถึงลำตัวอาจดูบวม หรือเกิดภาวะบวมน้ำ ส่วนที่ฉีดฟิลเลอร์มาอาจยิ่งบวมมากขึ้น รวมถึงอาหารหวานจัด เพราะน้ำตาลจะกระตุ้นการอักเสบของผิว ทำให้แผลหายช้า”


หลังฉีดฟิลเลอร์ปากสามารถทำอะไรได้บ้าง ?

การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก-scaled
  • 12 ชั่วโมงแรก หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรงดทาลิปสติก ทาแต่เว้นบริเวณรอยเข็มไว้ หลังจากนั้นสามารถทาลิปสติกได้ตามปกติ
  • 12 ชั่วโมงแรก หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก งดใช้หลอดดูดน้ำ แนะนำให้ดื่มน้ำจากแก้ว
  • 2-3 วัน งดจูบหนัก ๆ เพราะฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ดี อาจทำให้ปากเสียรูปทรงได้

รีวิวฟิลเลอร์ปาก

รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ปาก ก่อน-หลังฉีดทันที ที่ V Square Clinic ปริมาณฟิลเลอร์และผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หมอจะประเมินและแนะนำให้เหมาะสมกับแต่ละเคสมากที่สุดครับ

อ่านบทความเพิ่มเติม : รีวิวฟิลเลอร์ปาก

เคสหมอกอล์ฟ_พิม_1
เคสหมอกอล์ฟ_พิม_2
เคสหมอกอล์ฟ_พิน_1
เคสหมอกอล์ฟ_พิน_2.jpg
เคสหมอโต้ง_คุณแพท
เคสหมอโต้ง คุณแพท เฉพาะปากสีชมพู
เคสหมอเบิร์ด_คุณเฟิร์น_1
เคสหมอเบิร์ด_คุณเฟิร์น_2
เคสหมอเบิร์ด_คุณลูกเกด_1
เคสหมอเบิร์ด_คุณลูกเกด_2

ฉีดฟิลเลอร์ปากที่ไหนดี ?

  • เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ตั้งอยู่ในทำเลที่มีคนพลุกพล่าน ไม่อับทึบ
  • แพทย์ที่มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ สามารถนำชื่อ-นามสกุลของแพทย์ ตรวจสอบในเว็บไซต์แพทยสภาได้ ว่าเป็นแพทย์จริง
  • ใช้ฟิลเลอร์แท้ สามารถตรวจสอบกับบริษัทนำเข้าได้ ก่อนฉีดหมอแกะกล่องใหม่ให้ดูต่อหน้า
  • มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ในแหล่งที่เป็นกลาง น่าเชื่อถือ โดยควรดูรีวิวทั้งที่เป็นรูปภาพและวิดีโอ
  • ราคาสมเหตุสมผล ไม่ถูกจนเกินไป หากเลือกจากราคาถูกจนเกินไปอาจเจอหมอปลอม หรือฟิลเลอร์ปลอมได้
  • มีการติดตามผลหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก และมีช่องทางติดต่อคลินิกที่สะดวก สามารถปรึกษาแพทย์เจ้าของเคสโดยตรงได้

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ปากที่ไหนดี


ฟิลเลอร์ปากราคา โปรโมชั่น 

ฟิลเลอร์ปาก ราคาจะอยู่ในช่วง 14,000 เป็นต้นไปครับ สำหรับที่ V Square Clinic คัดสรรฟิลเลอร์ที่เหมาะสำหรับการฉีดปากทุกทรง เพื่อให้คนไข้ได้ฟิลเลอร์รุ่นที่เหมาะสมกับแต่ละคนมากที่สุด ทั้ง Juvederm, Restylane และ Belotelo ซึ่งเป็นฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานโลก ผ่านการรับรองจาก อย. และใช้อย่างแพร่หลาย

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ปาก ราคา

ฟิลเลอร์ปาก ราคาโปรโมชั่น

สรุป

การฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นทางเลือกในการปรับทรงปากที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ทั้งดารา อินฟลูเอนเซอร์และบุคคลทั่วไป สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย การเตรียมตัวและการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปากไม่ยุ่งยาก 

สำหรับใครที่สนใจการฉีดฟิลเลอร์ปาก แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะทำทรงไหน ใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้ออะไร หรือสงสัยว่าตัวเองเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ปากไหม สามารถปรึกษาทีมแพทย์ V Square Clinic ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งทางออนไลน์และหน้าสาขาครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
Belotero Lips

Belotero Lips ฟิลเลอร์สำหรับริมฝีปากโดยเฉพาะ ราคาเท่าไร ?

Categories
filler
Belotero Lips(1)

Belotero Lips 

“Belotero Lips” ฟิลเลอร์จากยี่ห้อ Belotero สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกออกแบบเพื่อฉีดปากโดยเฉพาะ มีความแตกต่างจากฉีดปากยี่ห้ออื่นอย่างไร ? เหมาะกับใครบ้าง ? คงผลลัพธ์ได้นานแค่ไหน ? หลังฉีดกี่วันเห็นผล ? 

ใครที่กำลังมองหาฟิลเลอร์ฉีดปาก สามารถศึกษาข้อมูลต่อจากนี้ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจได้ครับ

สารบัญ Belotero Lips

  1. Belotero Lips ทำไมถึงเหมาะกับริมฝีปาก
  2. Belotero Lips ผลิตจากประเทศอะไร มีกระบวนการทำงานอย่างไร ?
  3. Belotero Lips มีกี่รุ่น ผ่านอย.ไหม ?
  4. Belotero Lips ช่วยแก้ปัญหาปากอย่างไรได้บ้าง ?
  5. ปัญหาปากมีอะไรบ้าง ?
  6. ทรงปากที่ดีเป็นอย่างไร ?
  7. ทรงปากที่นิยมทำมีอะไรบ้าง แต่ละทรงใช้กี่ CC
  8. Belotero Lips เหมาะกับใคร ?
  9. Belotero Lips ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ?
  10. Belotero Lips ราคาเท่าไร ?
  11. Belotero Lips ฉีดจุดอื่นได้ไหม ใช้กี่ CC ?
  12. Belotero Lips มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?
  13. ข้อควรปฏิบัติก่อน-หลังฉีด Belotero Lips มีอะไรบ้าง ?
  14. Belotero Lips ของแท้ ดูอย่างไร ?
  15.  Q&A เกี่ยวกับ Belotero Lips
  16. Belotero Lips มีผลข้างเคียงไหม ?

Belotero Lips ทำไมถึงเหมาะกับริมฝีปาก

Belotero Lips คือ ฟิลเลอร์ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับการฉีดบริเวณริมฝีปาก สามารถฉีดเพิ่มปริมาตรและปรับรูปทรงริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม เป็นธรรมชาติ และคงผลลัพธ์ได้นานขึ้น 

ฟิลเลอร์ Belotero Lips มีคุณสมบัติที่โดดเด่น ต่างจากยี่ห้ออื่น ๆ ดังนี้

  • เป็นรุ่นที่มีความหนืดพอเหมาะ ช่วยให้ปากดูอวบอิ่มอย่างเป็นธรรมชาติ
  • เนื้อฟิลเลอร์ Belotero Lips มีความยืดหยุ่นสูง เมื่อฉีดสามารถเข้ากันได้ดีกับเนื้อเยื่อบริเวณริมฝีปาก ทำให้รู้สึกนุ่มนวล ไม่แข็ง 
  • ลักษณะเนื้อฟิลเลอร์เป็นเม็ดเจลขนาดเล็ก ละเอียดมาก ช่วยให้เจลแทรกซึมและกระจายได้อย่างสม่ำเสมอ เกลี่ยง่าย ไม่เกิดเป็นก้อน 
ฟิลเลอร์ Belotero ดีไหม มีกี่รุ่น ? แต่ละรุ่นเหมาะฉีดจุดไหนบ้าง ?

Belotero Lips ผลิตจากประเทศอะไร มีกระบวนการทำงานอย่างไร ?

Belotero Lips ผลิตจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยบริษัท Merz Aesthetics ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง อย่าง Cohesive Polydensified Matrix (CPM) ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความเสถียรและคงทน หลังฉีดยึดเกาะดี สลายช้า เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในฟิลเลอร์คุณภาพสูง ที่ให้ผลลัพธ์ได้ยาวนาน

ที่สำคัญ Belotero Lips ยังมีส่วนผสมสำคัญคือ Hyaluronic acid ที่มีความยืดหยุ่นและช่วยเก็บน้ำในเซลล์ผิวได้ดี เมื่อนำมาฉีดริมฝีปาก ฟิลเลอร์จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เพิ่มวอลลุ่ม เติมเต็มร่องลึก และเพิ่มความอิ่มฟู พร้อมทั้งช่วยสร้างขอบปากให้มีความคมชัด มีมิติมากขึ้นครับ 


Belotero Lips มีกี่รุ่น ผ่านอย.ไหม ?

ในซีรีส์ของ ฟิลเลอร์ Belotero Lips จะมี 2 รุ่นย่อย คือ

  • Belotero Lips Contour : มีขนาด 22.5 มิลลิกรัม (mg.) มีคุณสมบัติ High Cohesivity ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ขอบปากมีความคมชัด เหมาะกับการใช้เพิ่มปริมาตรและความอวบอิ่มให้กับริมฝีปาก ช่วยให้ริมฝีปากอิ่มเอิบขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
รุ่น Belotero Lips
(ผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 รุ่น ถูกออกแบบมาเพื่อใช้คู่กัน เหมือนกับลิปไลเนอร์และลิปสติก) 
  • Belotero Lips Shape : มีขนาด 25.5 มิลลิกรัม (mg.) ถูกออกแบบให้มีความยืดหยุ่นสูง (High-Elasticity) ช่วยเพิ่มวอลุ่มให้ริมฝีปากดูอิ่มฟู เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความอวบอิ่มแบบปากสายฝอ ใช้สำหรับปรับรูปทรงริมฝีปาก เน้นความคมชัดของขอบปาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความชัดเจนของรูปทรงมากกว่าความอวบอิ่ม

Belotero Lips Contour และ Belotero Lips Shape ผ่านการรับรองโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยครับ 


Belotero Lips ช่วยแก้ปัญหาปากอย่างไรได้บ้าง ?

Belotero Lips สามารถช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับริมฝีปากได้หลายอย่าง ดังนี้

  1. ช่วยเพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปาก : Belotero Lips ช่วยเติมเต็มริมฝีปากที่บางหรือเหี่ยวย่นให้ดูอวบอิ่ม เต่งตึง และอ่อนเยาว์ขึ้น
  2. Belotero Lips ช่วยปรับรูปทรงปาก : ช่วยปรับแก้ไขรูปทรงของริมฝีปากให้สมมาตร เสมอกัน หรือเพิ่มมิติตามต้องการ
  3. ช่วยลดริ้วรอยรอบปาก : ช่วยลดเลือนร่องและริ้วรอยรอบริมฝีปากให้ตื้นขึ้น ทำให้ผิวปากเรียบเนียน ไม่หย่อนคล้อย
  4. ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น : ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวบริเวณริมฝีปากที่มักแห้งกร้าน ทำให้ปากนุ่มชุ่มชื้นขึ้น
  5. ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ : ด้วยคุณสมบัติพิเศษของเทคโนโลยี CPM ทำให้ Belotero Lips ให้ผลลัพธ์ที่กลมกลืนเป็นธรรมชาติ ปากดูอวบอิ่มแต่ไม่ดูเป็นปากเทียม

ฟิลเลอร์ Belotero Lips ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการฉีดปรับรูปทรงปากครับ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความงามให้ริมฝีปาก แก้ไขข้อบกพร่องของปากด้วยวิธีที่ปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่ดูดีเป็นธรรมชาติ


ปัญหาปากมีอะไรบ้าง ?

ปากหรือริมฝีปากเป็นอวัยวะที่มีลักษณะผิวที่บอบบาง หากไม่ได้รับการดูแลที่ดี ก็อาจทำให้มีปัญหาได้ เช่น 

  • ริมฝีปากแห้ง แตก ลอกเป็นขุย มีสาเหตุจากขาดน้ำ ขาดความชุ่มชื้น จากสภาพอากาศ ภูมิแพ้ หรือพฤติกรรมบางอย่างเช่นการเลียปาก 
ปัญหาริมฝีปาก
  • ริมฝีปากบาง ไม่มีปริมาตร เกิดจากโครงสร้างเดิมของแต่ละบุคคล รวมถึงเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของอายุ เกิดความหย่อนคล้อย เมื่ออายุที่มากขึ้น
  • ริ้วรอยรอบปาก ร่องปาก เกิดจากคอลลาเจนถูกทำลาย จึงหย่อนคล้อยและเกิดร่องปากได้ง่าย
  • ริมฝีปากคล้ำ ไม่สดใส เกิดแสงแดดและรังสี UV ,การสูบบุหรี่ การใช้ลิปสติกเนื้อแมตต์ แต่ทำความสะอาดไม่ดี ทำให้ผิวหนังรอบปากเสื่อมสภาพเร็วขึ้น หมองคล้ำ 

นอกจากนี้ยังมีปัญหาริมฝีปากชนิดอื่น ๆ เช่น ปากตก มุมปากตก ปากคว่ำ ทำให้รูปปากไม่สวย ทั้งหมดนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ปาก ทั้ง Belotero Lips และฟิลเลอร์รุ่นอื่น ๆ ที่เหมาะสม 

ตัวอย่างยี่ห้อฟิลเลอร์ปาก 

ยี่ห้อฟิลเลอร์ปาก

ทรงปากที่ดีเป็นอย่างไร ?

ทรงปากที่ถือว่าเป็นรูปทรงที่สวยงามและเป็นที่นิยมส่วนใหญ่ จะมีลักษณะดังนี้

  • ปากบนและปากล่างได้สัดส่วนที่ดี โดยปกติปากบนจะอวบอิ่มกว่าปากล่าง โดยเนื้อริมฝีปากล่างไม่ควรใหญ่เกินขอบเขตของยอดตัว M ของริมฝีปากบน
  • มีร่องกลางตรงกลางปากบน (Cupid’s bow) ที่ชัดเจน ไม่ตื้นหรือลึกจนเกินไป
  • ขอบปากบนและล่างมีความโค้งเว้าตามธรรมชาติ เฉียงขึ้นเล็กน้อยที่มุมปากทั้งสองข้าง
ทรงปากสวย
  • มุมปากควรยกขึ้น ไม่ทิ่มลง เนื้อปากควรอิ่มเรียบเนียน ไม่มีริ้วรอย
  • สีปากสดใส มีสุขภาพดี ไม่คล้ำ ไม่แห้งแตกจนเกินไป
  • รูปทรงปากโดยรวมดูได้สัดส่วน สมมาตร และเข้ากันกับสัดส่วนของใบหน้า

อย่างไรก็ตาม สูตรความสวยงาม กับความชอบของแต่ละบุคคลแตกต่างกันครับ บางคนอาจดูดีกับปากอวบอิ่ม บางคนอาจเหมาะกับปากบางเรียว จึงไม่มีสูตรสำเร็จปากสวยที่ตายตัว สิ่งสำคัญต้องเลือกทรงปากที่เข้ากับตัวเอง ทำแล้วมีแล้วคนไข้เองรู้สึกมั่นใจมากขึ้นครับ 


ทรงปากที่นิยมทำมีอะไรบ้าง แต่ละทรงใช้กี่ CC ?

ฉีดฟิลเลอร์ปากทรงไหนดี ? สายฝอVsสายเกา ใช้กี่ CC 

ทรงปากที่เป็นที่นิยมในการฉีดฟิลเลอร์ ได้แก่

  • ทรงอวบอิ่มแบบสายฝอ : ลักษณะทรงจะมีความอวบ หนา ริมฝีปากบนและล่างจะมีความสมดุลกัน มีขอบปากชัด เนื้อปากเต็มสวยดูเซ็กซี่ ปัจจุบันได้รับความนิยมมากครับ เพราะช่วยให้ปากดูมีมิติมากขึ้น ดูมีชีวิตชีวา 
ปริมาณฟิลเลอร์ทรงปาก
  • ทรงปากเกาหลี : เป็นทรงปากที่ค่อนข้างเหมาะกับคนเอเชีย เป็นการเพิ่มความอวบอิ่มให้เนื้อปาก โดยแพทย์จะฉีดทั้งปากบนและล่างให้มีขนาดและรูปทรงที่สมดุลกัน เป็นทรงปากที่เหมาะกับผู้ที่มีริมฝีปากบาง เนื้อปากน้อยและต้องการเพิ่มเนื้อปากให้หนาขึ้นครับ 
  • ทรงปากกระจับ : ทรงนี้จะเหมาะกับผู้ที่ต้องการทำปากกระจับแต่ไม่อยากผ่าตัด การฉีดฟิลเลอร์จะช่วยให้ริมฝีปากล่างดูอวบอิ่มคล้ายผลเชอร์รี่ และเติมเนื้อติ่งตรงกลางปากบน ทำให้ได้รูปทรงปากกระจับที่สวยงาม และยังคงความเป็นธรรมชาติ
  • ทรงปากปีกนก : ปากบนจะมีลักษณะที่บางและเป็นกระจับ มุมปากจะยกขึ้นเล็กน้อย ทำให้เวลายิ้มปากดูเหมือนปีกนกที่กางออก ช่วยให้ปากดูมีเสน่ห์ สดใส หน้าดูเด็กลง 
  • รูปทรงปาก Cupid’ Bow : เป็นหนึ่งในทรงปากที่คล้ายกับธนูของคิวปิด คือมีติ่งริมฝีปากบนที่ชัดเจน เหมาะกับผู้ที่ต้องการรูปทรงปากที่เป็นเอกลักษณ์ มีเสน่ห์ และน่าดึงดูด ทำให้ใบหน้ามีความโดดเด่นมากขึ้น

โดยปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้แต่ละครั้งจะขึ้นอยู่กับทรงปากเดิมของแต่ละคนครับ ถ้าต้องการเพิ่มความอิ่ม ความหนา ก็จะใช้ฟิลเลอร์เยอะเฉลี่ย 2-3 CC 

แพทย์ประเมินทรงปาก

ถ้าคนไข้มีเนื้อปากเดิมอยู่ ต้องการปรับทรงให้เป็นกระจับ หรือเพิ่มอวบอิ่ม ก็จะใช้ฟิลเลอร์ เฉลี่ยอยู่ 1-2 CC ครับ ในเบื้องต้นสามารถแจ้งทรงปากที่ต้องการเพื่อให้แพทย์ประเมินความเหมาะสมและปริมาณฟิลเลอร์ให้ก่อนได้ครับ 


Belotero Lips เหมาะกับใคร ?

Belotero Lips เหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการปรับปรุงรูปทรงและเพิ่มความอวบอิ่มให้กับริมฝีปาก ไม่ว่าจะเป็น

  • ผู้ที่มีลักษณะปากบางมาก ๆ ต้องการให้ปากอวบอิ่มเซ็กซี่กว่าเดิม
  • ผู้ที่มีริมฝีปากไม่สมมาตร ไม่ได้รูปทรง ต้องการปรับแก้ให้สวยได้สัดส่วน
  • ผู้ที่ไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงริมฝีปากมากนัก แต่ต้องการเพิ่มความมีเสน่ห์ให้กับใบหน้า
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูธรรมชาติ แต่มีความอิ่มดูสุขภาพดี
  • ผู้ที่ต้องการปรับทรงปากแบบเห็นผลลัพธ์ทันที ไม่อยากผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น 

Belotero Lips ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ?

Belotero Lips มีคุณสมบัติเด่นที่แตกต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ดังนี้

  1. เนื้อฟิลเลอร์มีโมเลกุลเล็ก เนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย : เพราะผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยี CPM ทำให้ได้อณูของกรดไฮยาลูโรนิกที่มีความละเอียดสูง ไม่จับตัวเป็นก้อน เข้ากันได้ดีกับเนื้อเยื่อ
  2. สามารถนำมาปรับรูปทรงปากได้ตามต้องการ : ด้วยคุณสมบัติของเนื้อฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่น จึงสามารถใช้ปรับเปลี่ยนรูปทรงปากในรายละเอียดต่าง ๆ ได้ตามต้องการ ทั้งเพิ่มปริมาตร เสริมขอบปาก กรีดร่องกลางปาก เป็นต้น
  3. ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ : Belotero Lips ไม่ทำให้ปากดูแข็งทื่อ หรือผิดธรรมชาติจนเกินไป เนื่องจากมีความหนืด (viscosity) ที่พอเหมาะ ให้การฟูและเคลื่อนไหวที่เป็นธรรมชาติ
  4. อยู่ได้นาน : เนื่องจากโมเลกุลของกรดไฮยาลูโรนิกใน Belotero มีความคงตัวสูง จึงอยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป โดยเฉลี่ยอยู่ได้ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ฉีดและการเผาผลาญของแต่ละคน

นอกจากนี้ Belotero Lips ยังเป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองทางการแพทย์จากองค์การอาหารและยา (FDA) ให้ใช้ฉีดบริเวณริมฝีปากได้อย่างปลอดภัย จึงมั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพและมาตรฐาน


Belotero Lips ราคาเท่าไร ?

ฟิลเลอร์ Belotero ราคาจะแตกต่างกันไปตามรุ่นที่ใช้ครับ Belotero Lips ราคาจะโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 9,xxx-14,xxx.- / 1 CC

สำหรับที่ V Square Clinic จะเลือกใช้ ฟิลเลอร์ Belotero ทั้งหมด 3 รุ่นเท่านั้น คือ Belotero Intense , Belotero Volume และ Belotero Revive 

Belotero Lips ราคา

นอกจาก ฟิลเลอร์ Belotero ที่ V Square Clinic ยังมีฟิลเลอร์ฉีดปาก ยี่ห้ออื่น ๆ ที่เหมาะสม เช่น ฟิลเลอร์ Juvederm และ ฟิลเลอร์ Restylane ใครที่ยังไม่มั่นใจว่าต้องใช้ยี่ห้อไหน รุ่นไหน สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินรูปทรงปาก และแนะนำรุ่นฟิลเลอร์ให้เหมาะสมกับแต่ละคนทั้งปัญหาและงบประมาณ เพื่อให้คนไข้ได้ Filler ราคาคุ้มค่าที่สุด

ราคาฟิลเลอร์ปาก

Belotero Lips ฉีดจุดอื่นได้ไหม ใช้กี่ CC ? 

อย่างที่ กล่าวไปตั้งแต่ต้นว่า Belotero lip ถูกออกแบบมาเพื่อฉีดปากโดยเฉพาะครับ หากจะนำไปใช้ฉีดจุดอื่น ก็สามารถทำได้ แก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึก หรือปรับรูปหน้าบางจุด ขึ้นอยู่กับความถนัดของแพทย์แต่ละท่าน ส่วนปริมาณ CC ที่ใช้ก็ขึ้นอยู่แต่ละปัญหาอีกเช่นกัน 


Belotero Lips มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?

Belotero Lips เป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมในการฉีดเพื่อเพิ่มความอวบอิ่มและปรับรูปทรงริมฝีปาก เนื่องจากมีคุณสมบัติโดดเด่นหลายประการ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีข้อควรระวังบางประการที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจฉีดครับ

ข้อดี

  • Belotero Lips ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งทื่อเกินไป
  • มีความปลอดภัยสูง Belotero Lips ได้รับการรับรองจาก FDA
  • ใช้งานง่าย สามารถปรับแต่งรูปทรงได้อย่างละเอียด
  • เข้ากันได้ดีกับเนื้อเยื่อ ไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้
  • Belotero Lips อยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป โดยเฉลี่ยประมาณ 6-12 เดือน
  • ปรับใช้ได้หลากหลายทั้งเพิ่มปริมาตร แก้รูปทรง เติมร่องลึก ทั้งที่ปากและบริเวณอื่นของใบหน้า

ข้อเสีย

  • ต้องทำซ้ำทุก 6-12 เดือนเพื่อคงผลลัพธ์ที่ดี
  • อาจเกิดผลข้างเคียงบางอย่างได้ เช่น บวม ช้ำ เจ็บ แดง คัน อาการมักจะหายไปเองใน 1-2 สัปดาห์
  • หากฉีดมากเกินไปอาจทำให้ปากดูไม่เป็นธรรมชาติ และแก้ไขได้ยาก
  • มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ การฉีดเข้าหลอดเลือด หากฉีดโดยผู้ที่ไม่เชี่ยวชาญ

ดังนั้น ก่อนตัดสินใจฉีด Belotero Lips ควรศึกษาข้อมูลอย่างถี่ถ้วน ชั่งน้ำหนักข้อดี-ข้อเสียให้ดี และต้องปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสม ฉีดด้วยความระมัดระวัง ไม่มากเกินไป ใช้เทคนิคที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและสวยงามที่สุดครับ


ข้อควรปฏิบัติก่อน-หลังฉีด Belotero Lips มีอะไรบ้าง ?

เพื่อให้การฉีด Belotero Lips เป็นไปอย่างปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ทั้งก่อนและหลังการฉีด ดังนี้

ก่อนฉีด

  • หยุดยาที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด (anticoagulants) เช่น แอสไพริน อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • หยุดอาหารเสริมหรือสมุนไพรบางชนิด เช่น วิตามินอี โสม ใบแปะก๊วย เป็นต้น เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการมีเลือดออก
  • หยุดดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง
  • ทานอาหารและนอนพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง
  • แจ้งประวัติการแพ้ยาหรือการเจ็บป่วยให้แพทย์ทราบ

หลังฉีด

  • ไม่ควรจับ บีบ นวด บริเวณริมฝีปาก เพราะอาจทำให้รูปปากที่ทำมาเสียรูปได้
  • ไม่ควรดึงหรือลอกหนังริมฝีปาก เพราะจะเป็นการทำลายผิวริมฝีปาก ทำให้ผิวเก็บกักน้ำและความชุ่มชื้นไว้ได้น้อยลง
  • งดดื่มเครื่องดื่มร้อน ๆ เพราะอาจเกิดทำให้ปากเกิดอาการบวมหรืออักเสบได้ง่าย
  • งดแอลกอฮอล์และบุหรี่
  • งดการใช้หลอดดูดน้ำ 1 สัปดาห์
หลังฉีดฟิลเลอร์

Belotero Lips ของแท้ ดูอย่างไร ? 

เพื่อให้คนไข้สามารถป้องกันตัวเองจากฟิลเลอร์ปลอม หรือของเลียนแบบ หมอแนะนำให้ศึกษาวิธีดูฟิลเลอร์ Belotero ของแท้ไว้ครับ

  • มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
  • กล่องมี 2 cc และเลข lot ต้องตรงกัน 3 จุด คือ
    1. เลข lot ที่กล่อง
    2. เลข lot ที่สติกเกอร์
    3. เลข lot ที่หลอด
  • สามารถโทรเช็กเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัทผู้จัดส่ง Merz Aesthetics โทร.02-229-9696

Belotero Lips รีวิว

ตัวอย่างรีวิว การฉีดฟิลเลอร์ Belotero Lips 

Belotero Lips รีวิว

Q&A เกี่ยวกับ Belotero Lips

Belotero Lips อยู่ได้นานไหม ?

โดยทั่วไป ผลของการฉีด Belotero Lips สามารถอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น โครงสร้างผิวของแต่ละคน ปริมาณที่ฉีด เทคนิคการฉีด รวมถึงการเผาผลาญของร่างกาย แต่โดยเฉลี่ยแล้ว Belotero Lips จะคงอยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์ทั่วไปประมาณ 2-3 เดือน

Belotero Lips กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีด Belotero Lips จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของริมฝีปากได้ในทันที แต่อาจต้องรอประมาณ 1-2 สัปดาห์เพื่อให้ริมฝีปากดูเป็นธรรมชาติที่สุดครับ เนื่องจากในช่วงแรกอาจมีอาการบวม เจ็บ หรือช้ำ ทำให้รูปทรงปากดูไม่เป็นธรรมชาติ แต่เมื่ออาการเหล่านี้ทุเลาลง ก็จะเห็นผลลัพธ์สุดท้ายที่ชัดเจน โดยริมฝีปากจะดูอวบอิ่ม สดใส และรูปทรงสวยงามกว่าเดิม

Belotero Lips ควรฉีดกี่ครั้ง ? 

จำนวนครั้งที่ควรฉีด Belotero Lips ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ที่ต้องการและสภาพริมฝีปากเดิมของคนไข้แต่ละคน โดยทั่วไปมักแนะนำให้ฉีด 1-2 ครั้งต่อปีเพื่อคงผลลัพธ์ที่ดี หากต้องการเพิ่มปริมาตรหรือปรับรูปทรงเพิ่มเติม อาจต้องฉีดมากกว่านี้ แต่ไม่ควรฉีดเกินปีละ 3 ครั้ง เพื่อป้องกันปัญหาการสะสมของฟิลเลอร์หรือการเกิดพังผืดใต้ผิว ซึ่งจะทำให้ปากดูไม่เป็นธรรมชาติได้ในระยะยาว

ฉีด Belotero Lips ที่ไหนดี ?

ควรฉีด Belotero Lips ที่คลินิกความงามที่ได้มาตรฐาน และฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์เท่านั้น ไม่ควรฉีดปากตามสถานเสริมความงามทั่วไปหรือฉีดเองที่บ้าน เพราะมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อ เลือดออก หรือการฉีดเข้าหลอดเลือด รวมถึงไม่สามารถการันตีได้ว่าจะได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย ดังนั้นควรเลือกสถานที่ฉีดที่มีความน่าเชื่อถือและมาตรฐานสูงเท่านั้น

ฉีด Belotero Lips อันตรายไหม ?

โดยทั่วไป การฉีด Belotero Lips ถือว่ามีความปลอดภัยสูง เนื่องจาก Belotero เป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองโดย FDA ให้ใช้ฉีดบริเวณริมฝีปากได้ มีส่วนประกอบของกรดไฮยาลูโรนิกที่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ จึงไม่ค่อยก่อให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้หรือผลข้างเคียงรุนแรง

เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ควรปรึกษาและให้แพทย์ผู้มีประสบการณ์เป็นผู้ฉีดเท่านั้น ร่วมกับการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องทั้งก่อนและหลังการฉีด เพื่อลดความเสี่ยงต่าง ๆ ลง


Belotero Lips มีผลข้างเคียงไหม ?

แม้ Belotero Lips จะมีความปลอดภัยสูง แต่ก็ยังอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงบางอย่างได้ ซึ่งผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยที่สุด ได้แก่

  • อาการบวมแดง : มักเกิดขึ้นหลังฉีดเสร็จใหม่ ๆ จะค่อย ๆ ลดลงภายใน 7-14 วัน
  • อาการเจ็บ ปวด : อาจเกิดขึ้นในขณะฉีดหรือหลังฉีด สามารถกินยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการ
  • รอยช้ำ : หากมีเลือดออกใต้ผิวหนัง อาจทำให้เกิดรอยช้ำขึ้น สามารถรักษาด้วยการประคบเย็น

นอกจากนี้อาจมีผลข้างเคียงที่รุนแรงมากขึ้น เช่น การติดเชื้อ ,การฉีดเข้าหลอดเลือด หรือ การอุดตันของหลอดเลือด ซึ่งผลข้างเคียงเหล่านี้มักจะเกิดได้น้อยมากหากได้รับการฉีดอย่างถูกวิธีจากแพทย์ที่มีประสบการณ์ครับ 


สรุป

Belotero Lips ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก สำหรับผู้ที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ปากครับ ส่วนใครที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ปากยังมั่นใจว่าควรฉีด Belotero Lip ดีไหม หรือฉีดฟิลเลอร์รุ่นไหนดี เลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับปัญหาและงบประมาณ สามารถปรึกษาหมอทางออนไลน์ได้ก่อนฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
ฟิลเลอร์ Teoxane

Teoxane filler จากสวิตเซอร์แลนด์ เหมาะกับการฉีดตำแหน่งไหน ? มีกี่รุ่น?

Categories
filler
ฟิลเลอร์ Teoxane

ฟิลเลอร์ Teoxane

อัปเดต ! ฟิลเลอร์ Teoxane ตัวใหม่ล่าสุดจากสวิส มีกี่รุ่น ? ฉีดตำแหน่งไหนบ้าง ?

ฟิลเลอร์ Teoxane เป็นฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์อีกหนึ่งแบรนด์ที่เพิ่งเข้ามาในไทยครับ จุดเด่นที่น่าจับตามองของฟิลเลอร์ตัวนี้ คือ ออกแบบและพัฒนาให้เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่น ปรับเข้ากับผิวหน้าได้ดี ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเป็นก้อนหลังฉีดได้

ในบทความนี้หมอได้รวมคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับฟิลเลอร์ Teoxane มาให้แล้วครับว่า มีกี่รุ่น ? นิยมฉีดจุดไหน ? เหมาะกับใคร ? แตกต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร ? หลังฉีดกี่วันเห็นผล ? Teoxane Filler ราคาเท่าไหร่ ? แพงไหม ? เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจสำหรับใครที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้

Teoxane filler จากสวิตเซอร์แลนด์

สารบัญ ฟิลเลอร์ Teoxane


ทำความรู้จักกับ ฟิลเลอร์ Teoxane คืออะไร ?

ฟิลเลอร์ Teoxane เป็นยี่ห้อฟิลเลอร์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีสารประกอบหลักคือ สารเติมเต็ม Hyaluronic acid (HA) ที่สามารถสลายได้ตามธรรมชาติ มีความปลอดภัยในการนำมาฉีดเข้าสู่ผิว เพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึก และปรับรูปหน้าให้มีมิติ ได้สัดส่วน

โดยฟิลเลอร์ Teoxane พัฒนาและผลิตโดยบริษัท Teoxane Laboratories ส่วนในไทยนำเข้าอย่างถูกต้องโดยบริษัทคอสม่า เมดิคอล จำกัด ในเครือ JBC ครับ

ฟิลเลอร์ TEOXANE คืออะไร ? 
ดีไหม ? มีกี่รุ่น ? แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Teoxane ดีอย่างไร ?

  • ฟิลเลอร์ Teoxane ผลิตด้วยเทคโนโลยี PNT (Preserved Network Technology) ทำให้ได้ HA ที่ใกล้เคียงกับ HA ตามธรรมชาติในร่างกาย กลืนกับผิวได้ดี ให้ความเรียบเนียน และใช้ BDDE น้อย ลดโอกาสแพ้หลังการฉีดฟิลเลอร์ มีความปลอดภัยมากขึ้น
Preserved Network Technology
Preserved Network Technology
ทำให้ได้ HA สายยาวที่มีความ Dynamic สูง เหมือน HA ตามธรรมชาติ
  • ด้วยนวัตกรรม RHA (Resilient Hyaluronic Acid) ทำให้ได้เนื้อฟิลเลอร์ที่มีการผสมผสานระหว่างความยืดหยุ่นและคงตัว (Strech & Strength) สามารถปรับเข้ากับการเคลื่อนไหวของใบหน้าได้อย่างรวดเร็ว ทนต่อแรงขยับได้ดี คงรูป ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
คุณสมบัติของฟิลเลอร์ Teoxane
คุณสมบัติเด่นของ ฟิลเลอร์ Teoxane
  • เป็นฟิลเลอร์ที่มีการวิจัยและพัฒนามาอย่างยาวนาน ผ่านการทดสอบทางคลินิกแล้วว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ใช้กันอย่างแพร่หลายกว่า 94 ประเทศทั่วโลก
  • Teoxane filler มีหลายรุ่นให้เลือกใช้ ครอบคลุมเกือบทุกปัญหาบนใบหน้า

ฟิลเลอร์ Teoxane เหมาะกับใคร ?

  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้า
  • ผู้ที่ต้องการปรับโครงสร้างใบหน้าให้ดูมีมิติมากขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการเพิ่มวอลลุ่มให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มแบบเป็นธรรมชาติ
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องการผ่าตัด
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์หลังฉีดที่ดูเป็นธรรมชาติ
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว เห็นการเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำ
  • ผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้น ต้องการใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันที

ฟิลเลอร์ Teoxane มีผลข้างเคียงไหม ?

หากฉีด Teoxane filler ของแท้ ปลอดภัยครับ ไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายอย่างที่กังวลกัน แต่โดยทั่วไปอาจพบผลข้างเคียงเหล่านี้

  • รอยเขียวช้ำจากเข็มฟิลเลอร์
  • อาการบวมจากเข็ม หรือจากตัวยา

ทั้งสองล้วนเป็นผลข้างเคียงที่พบได้ตามปกติหลังฉีดฟิลเลอร์ครับ สามารถหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์


ฟิลเลอร์ Teoxane มีกี่รุ่น ? ผ่าน อย.ไหม ?

ฟิลเลอร์ teoxane มีกี่รุ่น

Teoxane Filler ปัจจุบันผลิตออกมาทั้งหมด 9 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ 

  1. ฟิลเลอร์ Teoxane รุ่น Redensity 1
  2. ฟิลเลอร์ Teoxane รุ่น Redensity 2 
  3. ฟิลเลอร์ Teoxane รุ่น Kiss 
  4. ฟิลเลอร์ Teoxane รุ่น Ultra Deep
  5. ฟิลเลอร์ Teoxane รุ่น RHA 1
  6. ฟิลเลอร์ Teoxane รุ่น RHA 2 
  7. ฟิลเลอร์ Teoxane รุ่น RHA 3
  8. ฟิลเลอร์ Teoxane รุ่น RHA 4 
  9. ฟิลเลอร์ Teoxane รุ่น RHA Kiss 

โดย Filler Teoxane ผ่านอย.ไทย ทั้งหมด 8 รุ่น ยกเว้นรุ่น Teoxane RHA Kiss ครับ (อัปเดต พฤษภาคม 24)

Vsquare tips

ข้อควรรู้ : ทางองค์การอาหารและยาจะมีการตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐานอยู่ตลอดครับ ฟิลเลอร์ยี่ห้อเดียวกัน อาจจะยังไม่ได้ผ่านรุ่น หรือบางรุ่นเคยผ่านแล้ว ปัจจุบันอาจถูกยกเลิก แนะนำให้คอยเช็กฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย. ก่อนฉีดอยู่เสมอเพื่อความปลอดภัยครับ


ฟิลเลอร์ Teoxane ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Teoxane มีจุดเด่นที่ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นดังนี้

  • ใช้เทคโนโลยี PNT (Preserved Network Technology) ได้ HA สายยาวที่มีความ Dynamic สูง มี Mobile bonds ที่เหมือนใน HA ตามธรรมชาติ 
  • เนื้อเจลมีความยืดหยุ่น สามารถเคลื่อนไหวไปตามการขยับของใบหน้า
  • มีทั้งหมด 8 รุ่น ที่ผ่าน อย.ไทย
  • ให้ผลลัพธ์นาน 12-18 เดือน
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 13,500.-/CC

เทียบกับฟิลเลอร์ยอดนิยมที่ผ่าน อย.ไทย อื่น ๆ

ฟิลเลอร์ Teoxane ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร

เทียบกับฟิลเลอร์ Juvederm

  • ฟิลเลอร์จากประเทศอเมริกา
  • ผลิตด้วยเทคโนโลยี Hylacross และ Vycross 
  • เนื้อฟิลเลอร์มีความหลากหลาย มีจุดเด่นในด้านความเรียบเนียน และอยู่ได้นาน
  • มีทั้งหมด 7 รุ่น ที่ผ่าน อย.ไทย
  • ให้ผลลัพธ์นาน 8-24 เดือน
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 12,000.-/CC
ฟิลเลอร์ Juvederm ดีไหม ? มีกี่รุ่น ? แต่ละรุ่นเหมาะฉีดจุดไหนบ้าง ?

เทียบกับฟิลเลอร์ Restylane 

  • ฟิลเลอร์แบรนด์แรกของโลกจากสวีเดน
  • ผลิตด้วยเทคโนโลยี NASHA Technology และ OBT Technology
  • เด่นเรื่องการยกพยุงผิว มีความยืดหยุ่นได้ดี และมีหลายรุ่นให้เลือกใช้ ครอบคลุมเกือบทุกจุดบนใบหน้า
  • มีทั้งหมด 8 รุ่น ที่ผ่าน อย.ไทย
  • ให้ผลลัพธ์นาน 6-18 เดือน
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 12,000.-/CC
ฟิลเลอร์ Restylane ดีไหม ? มีกี่รุ่น ? แต่ละรุ่นแตกต่างกันอย่างไร ?

เทียบกับฟิลเลอร์ Belotero

  • ฟิลเลอร์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์
  • ผลิตด้วย CPM Technology (Cohesive Polydensified Matrix)
  • เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง คงตัว เติมเต็มริ้วรอยร่องลึกจากการยุบตัวของกระดูกได้ดี
  • มีทั้งหมด 7 รุ่น ที่ผ่าน อย.ไทย
  • ให้ผลลัพธ์นาน 6-18 เดือน
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 9,900.-/CC
ฟิลเลอร์ Belotero ดีไหม ? มีกี่รุ่น ? แต่ละรุ่นเหมาะฉีดจุดไหนบ้าง ?

เทียบกับฟิลเลอร์ Definisse

  • ฟิลเลอร์จากประเทศอิตาลี
  • ผลิตด้วย XTR Technology (EXcellent Three-Dimensional Reticulation)
  • HA สานกันเป็นร่างแห ช่วยในการยกพยุง เด่นในเรื่องการยกกระชับ และปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ
  • มีทั้งหมด 3 รุ่น ที่ผ่าน อย.ไทย
  • ให้ผลลัพธ์นาน 8-18 เดือน
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 12,000.-/CC
ฟิลเลอร์ Definisse ดีไหม ? แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร ?

เทียบกับฟิลเลอร์ Flore

  • ฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลี 
  • ผลิตด้วย PP process (Particle Plastic Process) และ HHCL Technology
  • เนื้อฟิลเลอร์ปั้นทรงง่าย กลืนเข้ากันได้ดีกับผิวหนัง สลายตัวช้าลง
  • มีทั้งหมด 5 รุ่น ที่ผ่าน อย.ไทย
  • ให้ผลลัพธ์นาน 6-12 เดือน
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 7,900.-/CC

เทียบกับฟิลเลอร์ Neuramis

  • ฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลี 
  • ผลิตด้วย The SHAPE Technology (Stabilized Hyaluronic Acid & Purification Enhancement)
  • เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่น คงตัวสูง อยู่ได้นานขึ้น เหมาะสำหรับปรับโครงสร้างใบหน้า
  • มีทั้งหมด 3 รุ่น ที่ผ่าน อย.ไทย
  • ให้ผลลัพธ์นาน 6-9 เดือน
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 7,500.-/CC

สรุปแล้ว ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อเป็นสารเติมเต็มประเภท HA เหมือนกันครับ แต่มีกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ไม่เหมือนกัน ทำให้มีจุดเด่นต่างกันไปทั้งในเรื่องคุณสมบัติ ระยะเวลาของผลลัพธ์ ราคาครับ 

โดยถ้าเทียบฟิลเลอร์ Teoxane กับฟิลเลอร์ฝั่งยุโรป จะไม่ได้ต่างกันมากในเรื่องราคาและเวลาการคงอยู่ของผลลัพธ์ แต่ Teoxane Filler อาจยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักเมื่อเทียบกับฟิลเลอร์ตัวอื่น ๆ เพราะเพิ่งนำเข้าไทยมาได้ไม่นานครับ 

และ Teoxane มีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าฟิลเลอร์ฝั่งเอเชียครับ แต่ก็ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า ใครที่ไม่อยากกลับมาเติมฟิลเลอร์บ่อย ๆ ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ Teoxane filler ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจครับ

ทั้งนี้การฉีดฟิลเลอร์ไม่จำเป็นต้องใช้ยี่ห้อเดียวกันเสมอไป สามารถฉีดร่วมกันได้หลายยี่ห้อ ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้ ไม่ได้ทำเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายหากใช้ฟิลเลอร์ของแท้ และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ มีเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง และใช้ในปริมาณที่เหมาะสม


ฟิลเลอร์ Teoxane นิยมฉีดจุดไหน ? ใช้กี่ CC ?

ฟิลเลอร์ teoxane นิยมฉีดจุดไหน คุณต่าย

ฟิลเลอร์ Teoxane สามารถฉีดได้หลายตำแหน่งทั่วใบหน้า ส่วนจำนวน CC ที่ใช้จะขึ้นอยู่กับระดับปัญหาของแต่ละคน โดยหมอจะประเมินเป็นรายเคสไปครับ

  • ฟิลเลอร์หน้าผาก ปรับโหงวเฮ้ง เรียบเนียน ดูมีมิติ ใช้ 3-5 CC
  • ฟิลเลอร์แก้มส้ม ปรับรูปหน้าให้ดูมีมิติ ใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น ใช้ 1-2 CC
  • ฟิลเลอร์ขมับ เติมขมับตอบ ขมับยุบ ลดโหนกแก้มเด่น ให้ใบหน้าหวาน ได้สัดส่วน ใช้ 2-4 CC
  • ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ลดริ้วรอยร่องลึก ให้ร่องแก้มดูตื้นขึ้น ใช้ 2-4 CC
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ปัญหาใต้ตาดำคล้ำ ริ้วรอยใต้ตา ถุงใต้ตา ใช้ 2-4 CC
  • ฟิลเลอร์ปาก เพิ่มความชุ่มชื้นอวบอิ่ม ปรับทรงปากสวย ใช้ 1-2 CC
  • ฟิลเลอร์คาง เสริมคาง ปรับหน้าเรียว ใช้ 1-2 CC

ส่วนฟิลเลอร์ Teoxane แต่ละรุ่น นิยมฉีดจุดไหนบ้าง หมอขอยกตัวอย่างฟิลเลอร์ Teoxane ที่ V Square Clinic ใช้ด้วยกัน 3 รุ่น ดังนี้

  • Teoxane รุ่น RHA 2 เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ยืดหยุ่น ทนต่อแรงขยับได้ดี มีความเรียบเนียน เหมาะฉีดตำแหน่ง หน้าผาก ขมับ ใต้ตา ร่องแก้ม ปาก อยู่ได้นาน 18 เดือน
Teoxane RHA 2
  • Teoxane รุ่น RHA 3 ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม แต่ค่อนข้างแน่น ทนต่อแรงขยับได้ดี เรียบเนียน ไม่เป็นก้อน เหมาะกับการฉีดบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวบ่อย ๆ เช่น ขมับ ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ปาก อยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน
Teoxane RHA 3
  • Teoxane รุ่น Ultra Deep ฟิลเลอร์เนื้อทน ปั้นทรงง่าย มีความคงตัวสูง เคลื่อนที่ยาก ใช้ปรับโครงสร้างใบหน้าได้ดี เหมาะกับการฉีดขมับ แก้มส้ม กรอบหน้า และคาง อยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน
Teoxane Ultra Deep

ฟิลเลอร์ Teoxane มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?

หมอได้เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของฟิลเลอร์ Teoxane ให้ทุกคนได้ลองพิจารณา ดังนี้ครับ

ข้อดีของฟิลเลอร์ Teoxane

ข้อเสียของฟิลเลอร์ Teoxane

ด้วยเทคโนโลยีที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ ทำให้ได้เนื้อฟิลเลอร์ที่เข้ากับใบหน้าได้ดี เรียบเนียน ลดโอกาสบวมหรือแพ้ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่ถาวร ฟิลเลอร์จะสลายไปตามอายุการใช้งาน
มีหลายรุ่นให้เลือกใช้ ครอบคลุมเกือบทุกปัญหาผิวหน้าหากไม่ได้ใช้ฟิลเลอร์ของแท้ เป็นฟิลเลอร์หิ้ว ฟิลเลอร์ปลอม หรือฉีดโดยแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ อาจทำให้เกิดอันตรายได้ครับ
เห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น
มีความปลอดภัยสูง ได้รับรองจาก US FDA, TH FDA และ CE Marked
ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ลดความเสี่ยงที่จะฉีดฟิลเลอร์เป็นก้อน

ฟิลเลอร์ Teoxane ของแท้ ดูอย่างไร ?

ไม่ว่าจะฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนก็ตาม การตรวจสอบฟิลเลอร์แท้เป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรละเลย เพื่อความปลอดภัยของตัวคนไข้เองครับ ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อก็จะมีวิธีตรวจสอบต่างกันไป โดยฟิลเลอร์ Teoxane ของแท้ มีวิธีตรวจสอบดังนี้ 

  • เช็กเลขทะเบียนอย. และเอกสารกำกับภาษาไทย
  • มีสติกเกอร์ของกล่องปิดสนิท
  • ขูดและสแกน QR CODE บริเวณด้านหน้ากล่อง
  • เลขที่ Lot ตรงกัน 3 จุด
    1. Label ด้านล่างกล่อง
    2. ด้านหลัง Syringe 
    3. ที่ Syringe

หรือสามารถโทรสอบถามกับบริษัทนำเข้าโดยตรงได้ที่บริษัทคอสม่า เมดิคอล จำกัด โทร. 02-146-5445

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Teoxane Ultra Deep 

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Teoxane Ultra Deep

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Teoxane RHA 2

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Teoxane RHA 2

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Teoxane RHA 3

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Teoxane RHA 3

ฟิลเลอร์ Teoxane ราคาเท่าไร ?

ฟิลเลอร์ Teoxane ราคาขึ้นอยู่กับรุ่นที่ใช้ ตำแหน่งที่ฉีด และระดับปัญหาของแต่ละคน หากมีปัญหาริ้วรอยร่องลึกมาก ก็ต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่ มากขึ้น ราคาก็จะสูงขึ้นตามจำนวน CC ที่ใช้ครับ

ฟิลเลอร์ Teoxane ราคาโปรโมชั่น ที่ V Square Clinic

ฟิลเลอร์ teoxane ราคาเท่าไร
  • TEOXANE Ultra Deep 1.2 CC ราคา 14,500.-
  • TEOXANE RHA 2 1 CC ราคา 13,500.-
  • TEOXANE RHA 3 1 CC ราคา 14,500.-

*ราคาฟิลเลอร์ปาก จมูก ดอลลี่อาย skin booster และหน้าผาก เป็นฟิลเลอร์เทคนิคขั้นสูง ราคาขึ้นกับเทคนิคพิเศษที่ใช้ครับ


ฟิลเลอร์ Teoxane รีวิว ผลลัพธ์หลังทำ

ตัวอย่าง รีวิวฉีดฟิลเลอร์ Teoxane ขมับ ใต้ตา และปาก

ฟิลเลอร์ teoxane รีวิว

ตัวอย่าง รีวิวฉีดฟิลเลอร์ Teoxane ปรับรูปหน้าในเคสผู้ชาย

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ teoxane

Q&A เพิ่มเติมเกี่ยวกับฟิลเลอร์ Teoxane

รวมคำถามที่ควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ Teoxane

Q. ฟิลเลอร์ Teoxane อยู่ได้นานกี่เดือน ?

ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ Teoxane สามารถอยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือนครับ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวเดิม รุ่นฟิลเลอร์ที่ใช้ ตำแหน่งที่ฉีด รวมไปถึงและการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของแต่ละคนครับ

Q. ฉีดฟิลเลอร์ Teoxane กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีดฟิลเลอร์สามารถเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ และจะเห็นผลได้อย่างเต็มที่เมื่ออาการบวมยุบลง และฟิลเลอร์เข้าที่ดีแล้ว โดยใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ครับ

Q. ฉีดฟิลเลอร์ Teoxane ที่ไหนดี ?

ฉีดฟิลเลอร์ Teoxane ที่ไหนดี ควรเป็นคลินิกความงามที่เปิดให้บริการถูกกฎหมาย ดูแลการรักษาโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์การฉีดฟิลเลอร์ และที่สำคัญต้องใช้ฟิลเลอร์ Teoxane ของแท้ที่นำเข้าอย่างถูกต้อง

สำหรับใครที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ Teoxane ที่ V Square Clinic ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ ประเมินปัญหาโดยทีมแพทย์มีประสบการณ์ปรับรูปหน้ามาอย่างยาวนาน สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด หมอมือเบา บวมน้อย และมีศิลปะในการฉีดฟิลเลอร์ (Fine Art of Filler) ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ

ที่ V Square Clinic ใช้ฟิลเลอร์ Teoxane ของแท้ นำเข้าอย่างถูกต้อง มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่น ครอบคลุมเกือบทุกปัญหาผิวครับ โดยหมอจะแกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า คนไข้สามารถตรวจสอบและนำกล่องกลับได้ เชื่อมั่นได้ในความปลอดภัย

ฉีดฟิลเลอร์ Teoxane ที่ V Square Clinic คุณเจสซี่ โดยหมอโต้ง หมอแพน หมอเบิร์ด

สรุป

ฟิลเลอร์ Teoxane เป็นฟิลเลอร์พรีเมียมมาตรฐานยุโรปที่เข้าสู่ตลาดความงามในไทยไม่นานมานี้ มีหลายรุ่นให้เลือกใช้ แก้ปัญหาผิวได้อย่างหลากหลาย เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นตามการเคลื่อนไหวของผิว เรียบเนียนไปกับผิวได้ดี ตอบโจทย์คนที่ชอบผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติครับ

แต่นอกจากเรื่องยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาและความต้องการแล้ว ยังควรเลือกฉีดฟิลเลอร์โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ภายใต้คลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ที่ออกมาถูกใจและปลอดภัยครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
revolax

Revolax filler มีกี่รุ่น ? ดีอย่างไร ? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?

Categories
filler
revolax

Revolax ฟิลเลอร์

Revolax filler เป็นยี่ห้อที่หลายคนเคยได้ยินชื่อและเริ่มมีใช้ในประเทศไทยกันบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ใช้กันอย่างแพร่หลายเหมือนฟิลเลอร์ยี่ห้อดังจากทางยุโรปหรืออเมริกา เนื่องจากฟิลเลอร์ Revolax เพิ่งจะมีการนำเข้ามาใช้ในไทยและผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาไทยเมื่อไม่นานมานี้

ในบทความนี้ หมอจะมาตอบคำถามที่ว่า Revolax filler แตกต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร มีกี่รุ่น ? นิยมฉีดจุดไหน เหมาะกับใคร กี่วันเห็นผล ปลอดภัยไหม ? และอีกหลากหลายข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ Revolax ที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีดครับ

revolax

สารบัญ ฟิลเลอร์ Revolax


ฟิลเลอร์ revolax คืออะไร ผลิตจากประเทศไหน ?

ฟิลเลอร์ Revolax เป็นฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic acid (HA) ที่ผลิตโดยบริษัท ACROSS CO.,LTD. ประเทศเกาหลีใต้ และมีการส่งออกไปใช้ในอีกหลายประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศทางยุโรปถึง 19 ประเทศ ได้รับการยอมรับในผลลัพธ์ที่ได้หลังฉีด ตลอดจนถึงความปลอดภัย และได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ครับ

ส่วนในประเทศไทย ได้มีการนำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างถูกต้องโดยบริษัท Aestec Pharma จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่นำเข้าผลิตภัณฑ์ Botulinum toxin ยี่ห้อยอดนิยมอย่าง โบท็อกซ์ Aestox ฟิลเลอร์ Revolax ได้ผ่านการรับรองคุณภาพและความปลอดภัยจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ

ฟิลเลอร์ Revolax ผลิตด้วยเทคโนโลยี HEXALink เทคโนโลยีเฉพาะของทางแบรนด์ โดยพัฒนาให้โครงสร้างโมเลกุล HA เชื่อมต่อกันเป็นร่างแห และแต่ละโมเลกุล HA มีขนาดสม่ำเสมอกันและหนาแน่น แบบ Dense Monophasic ทำให้ได้ฟิลเลอร์เนื้อเนียน เกลี่ยง่าย ฉีดแล้วเรียบเนียนไปกับผิว ไม่เป็นก้อน และมีความยืดหยุ่นสูงครับ

เทคโนโลยี revolax
Revolax filler มีโครงสร้างฟิลเลอร์แบบ Monophasic
โมเลกุล HA จัดเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบและมีความหนาแน่น

ฟิลเลอร์ revolax ดีอย่างไร มีจุดเด่นอะไรบ้าง ?

ฟิลเลอร์ Revolax ข้อดีและจุดเด่นที่ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ดังนี้

  • Revolax filler ผลิตโดยใช้ Hyaluronic acid ที่มีความบริสุทธิ์สูง
  • โครงสร้างฟิลเลอร์แบบตาข่าย ทำให้เนื้อเจลมีความเรียบเนียน ฉีดแล้วกลืนไปกับผิว ไม่เป็นก้อน
  • มีขั้นตอน Dialysis process เพื่อกำจัด BDDE ที่ก่อให้เกิดการแพ้ ทำให้ฉีดฟิลเลอร์ Revolax แล้วมีโอกาสบวมน้อย 
  • มีให้เลือกใช้หลายรุ่น เนื้อฟิลเลอร์ Revolax แต่ละรุ่นมีความแตกต่างกัน สามารถเลือกใช้แก้ปัญหาในแต่ละจุดได้ตามความเหมาะสม

ฟิลเลอร์ revolax เหมาะกับใคร ?

  • เหมาะกับคนที่มีปัญหาริ้วรอย มีริ้วรอยร่องลึก ทั้งที่เกิดจากการยุบตัวของกระดูกหรือผิวยุบตัวจากการขาดคอลลาเจน เช่น คนที่มีร่องใต้ตา ร่องแก้ม ร่องมุมปากลึก
  • เหมาะกับคนที่มีโครงหน้าตอบ ขมับลึก ขมับตอบ แก้มตอบ
  • เหมาะกับคนที่ต้องการปรับรูปคาง คางตัด คางสั้น คางไม่เท่ากัน
  • เหมาะกับคนต้องการปรับรูปหน้าให้สมส่วน ดูมีมิติ ดูยกกระชับ
  • เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น ต้องการใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันที เห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ

ฟิลเลอร์ revolax มีผลข้างเคียงไหม ?

ฟิลเลอร์ Revolax ถ้าใช้ฟิลเลอร์ของแท้ ฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ก็ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่อันตรายครับ แต่ถ้าไม่มั่นใจว่าใช้ของแท้ หรือฉีดกับหมอเถื่อน หมอกระเป๋า ก็อาจทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ได้ตั้งแต่เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ เป็นก้อนไหลย้อย หรือที่ร้ายแรงที่สุดคือฟิลเลอร์อาจไปอุดตันเส้นเลือด ทำให้เนื้อตาย ตาบอดได้ครับ

ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ไม่อันตราย

  • เกิดอาการบวม รอยแดง หรือรอยช้ำบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์
  • เป็นก้อน นูน แดงอักเสบ ซึ่งอาการแพ้ชนิดนี้บางครั้งอาจพบได้ ภายหลังการฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วเป็นเวลาหลาย ๆ เดือนหรือเป็นปี ขึ้นกับอายุใช้งานของฟิลเลอร์ชนิดนั้น ๆ และภูมิคุ้มกันของผู้ที่รับการฉีด
  • การเกิดรอยนูน หรือผิวไม่เรียบ (beading) เนื่องจากใช้เทคนิคการฉีดที่ตื้นเกินไป หรือใช้ฟิลเลอร์รุ่นไม่เหมาะสม

ฟิลเลอร์ revolax ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ?

หากจะเทียบฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic acid แต่ละยี่ห้อว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร โดยทั่วไปควรเทียบจากคุณสมบัติดังต่อไปนี้

  • ความแข็ง (Elasticity)
  • ความยืดหยุ่น (Plasticity, Cohesiveness)
  • การกระจายตัว (Tissue Integration)
  • ความอุ้มน้ำ (Water Holding)
  • จำนวนการเชื่อมพันธะ (Crosslink)
  • ขนาดของเม็ดฟิลเลอร์ (Particle Size)

กระบวนการผลิต เทคโนโลยีการผลิตฟิลเลอร์ รวมถึงความเข้มข้นของ HA ของฟิลเลอร์แต่ละรุ่นที่มีความแตกต่างกัน ส่งผลคุณสมบัติตามที่กล่าวข้างต้นแตกต่างกันไปด้วยครับ ทำให้เนื้อเจลและความคงทนแตกต่างกัน เหมาะกับสภาพผิวและโครงสร้างใบหน้าที่ต่างกันไปครับ 

ฟิลเลอร์ Restylane ต่างจากฟิลเลอร์ Revolax อย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Restylane เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดน เป็นฟิลเลอร์ยี่ห้อแรก ๆ ที่มีการผลิตขึ้นและได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 1996 เทคโนโลยีการผลิตหลัก ๆ มี 2 เทคโนโลยี ได้แก่ เทคโนโลยี NASHA ที่โดดเด่นในด้านความคงทนถาวร ไม่ไหลย้อย และมีโอกาสก่อให้เกิดอาการแพ้น้อย และเทคโนโลยี OBT ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นภายหลัง มีจุดเด่นคือความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับเปลี่ยนรูปทรงได้หลากหลาย

ปัจจุบันมีฟิลเลอร์ Restylane หลายรุ่นให้เลือกใช้งาน สามารถแก้ไขปัญหาได้ครอบคลุมหลายจุดครับ

  • Restylane Perlane lyft   มีส่วนผสมของยาชา เนื้อแน่น มีความคงตัวสูง ไม่ฟู กลืนกับผิวได้ดี เหมาะสำหรับฉีด ใต้ตา จมูก  คาง อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Restylane Volyme มีส่วนผสมของยาชา เนื้อนิ่ม ใช้เติมเพื่อเพิ่ม volume ให้ชั้นผิว เหมาะสำหรับฉีด ปาก แก้มตอบ มุมปาก  ร่องแก้ม  อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Restylane Defyne มีส่วนผสมของยาชา เนื้อทน เนื้อเจลมีความนิ่มปานกลางและยืดหยุ่นสูง ใช้ฉีดกระดูกที่ยุบตัวในผิวชั้นลึก เหมาะสำหรับฉีด ใต้ตา ปาก อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Restylane Refyne มีส่วนผสมของยาชา เนื้อละเอียด ยืดหยุ่นสูง ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยลึกที่เกิดจากการยิ้ม เน้นการเติมเต็มริ้วรอยเล็ก ๆ เหมาะสำหรับฉีดปาก ร่องแก้ม มุมปาก อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Restylane vital light มีส่วนผสมของยาชา เนื้อฉ่ำ เจลอนุภาคเล็ก แก้ไขจุดที่มีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ เหมาะสำหรับฉีดเก็บรายละเอียดใต้ตาในผิวชั้นตื้น ปาก บำรุงผิวชุ่มชื้น (Skin booster) อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
  • Restylane classic มีส่วนผสมของยาชา เนื่อแน่น ออกแบบมาสำหรับแก้ปัญหาริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก ใช้เก็บรายละเอียดใต้ตาในผิวชั้นลึกสำหรับคนผิวบาง  อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Restylane  kysse มีส่วนผสมของยาชา ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด แต่มีความคงตัว สร้างขอบริมฝีปากที่ชัดเจนให้ความชุ่มชื้นและความอวบอิ่ม ออกแบบมาสำหรับใช้เติมเต็มริมฝีปากโดยเฉพาะ อยู่ได้นาน 12 เดือน

ฟิลเลอร์ Juvederm ต่างจากฟิลเลอร์ Revolax อย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Juvederm จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีเทคโนโลยีการผลิตคือ Hylacross Technology และ Vycross Technology จุดเด่นของฟิลเลอร์ Juvederm คือความสามารถในการอุ้มน้ำได้ดี เนื้อเจลมีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับ เรียบเนียน ไม่เป็นก้อน ฟิลเลอร์ Juvederm มีหลายรุ่นให้เลือกใช้งาน สามารถตอบโจทย์การแก้ปัญหาได้อย่างครอบคลุม ทั้งการปรับรูปหน้า ลดริ้วรอย และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

  • Juvederm Ultra Plus มีส่วนผสมของยาชา เนื้อนิ่ม อุ้มน้ำได้ดี ฉีดแล้วฟูเต็ม เพิ่มปริมาตรได้ดี เหมาะสำหรับฉีดขมับ ปาก ร่องแก้ม อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Juvederm Voluma มีส่วนผสมของยาชา เนื้อทน ฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับ เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา คาง ขมับ ปาก ร่องแก้ม อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Juvederm Volbella มีส่วนผสมของยาชา เนื้อละเอียด เรียบเนียนกลืนไปกับผิว เหมาะสำหรับฉีดหน้าผาก อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Juvederm Volift มีส่วนผสมของยาชา เนื้อนิ่ม ที่มีความละเอียดมากกว่ารุ่น Ultra plus เหมาะกับคนผิวบางเหมาะสำหรับฉีดปาก แก้มตอบ มุมปาก ร่องแก้ม หว่างคิ้ว อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Juvederm Volite  มีส่วนผสมของยาชา เนื้อฉ่ำ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น มีความเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา บำรุงผิวชุ่มชื้น (Skin booster) อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
  • Juvederm Volux มีส่วนผสมของยาชา ฟิลเลอร์เนื้อทน คงรูปได้ดี อยู่ได้นานที่สุด เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา คาง ขมับ ร่องแก้มชั้นลึก อยู่ได้นาน 18-24 เดือน

ฟิลเลอร์ Belotero ต่างจากฟิลเลอร์ Revolax อย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Belotero จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นฟิลเลอร์ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี CPM (Cohesive Polydensified Matrix) ซึ่งทำให้โมเลกุลของฟิลเลอร์สามารถเกาะยึดกันได้อย่างดี ส่งผลให้เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่น คืนตัวได้ดี เมื่อฉีดแล้วจะได้ลักษณะที่เรียบเนียน และสามารถปรับแต่งรูปทรงหรือรูปร่างได้อย่างง่ายดาย

  • Belotero volume มีส่วนผสมของยาชา เนื้อนิ่ม มีความยืดหยุ่นและคงตัว เหมาะสำหรับการฉีดใต้ตาชั้นลึก ปรับรูปหน้า คาง โหนกแก้ม อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Belotero Soft มีส่วนผสมของยาชา เนื้อฉ่ำ โมเลกุลเล็ก สามารถเก็บรายละเอียดได้ดี เหมาะสำหรับแก้ไขริ้วรอยบนผิวชั้นนอก แก้ปัญหาใต้ตา อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
  • Belotero intense มีส่วนผสมของยาชา เนื้อทน แต่มีความยืดหยุ่นสูง ช่วยในการแก้ปัญหาร่องลึกมาก ๆ จากการยุบตัวของเนื้อเยื่อผิวหนังและจากการเสื่อมสภาพตามวัย เหมาะสำหรับฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เติมแก้มตอบ อยู่ได้นาน 18 เดือน

ฟิลเลอร์ Definisse ต่างจากฟิลเลอร์ Revolax อย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Definisse จากประเทศอิตาลี ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ชื่อว่า XTR™ Technology ซึ่งทำให้ HA สานกันเป็นร่างแห สามารถยกพยุงและปรับรูปหน้าได้อย่างธรรมชาติ โดย XTR™ Technology มี 3 ขั้นตอนหลัก คือ Pretreatment ควบคุมให้ HA อยู่ในโครงสร้างที่เหมาะสม, Cross-linking ทำให้ HA คงสภาพ ปั้นง่าย และ Purification กำจัดสาร BDDE ลดอาการแพ้ครับ

  • Definisse Restore  มีส่วนผสมของยาชา เนื้อนิ่ม มีความแข็งปานกลาง เหมาะกับการเติมริ้วรอยร่องลึก ริ้วรอยหย่อนคล้อยตามวัย สามารถใช้ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เติมร่องแก้ม ร่องมุมปากได้ อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Definisse Core  มีส่วนผสมของยาชา เนื้อแน่น เหมาะกับการเสริมกระดูก ปรับรูปหน้า เติม mid-face  สามารถใช้ฉีดฟิลเลอร์คาง หรือกรอบหน้าได้ อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Definisse Touch  มีส่วนผสมของยาชา เนื้อละเอียด ขึ้นรูปได้ดี เหมาะฉีดตำแหน่ง ใต้ตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ปาก อยู่ได้นาน 8-12 เดือน

ฟิลเลอร์ Neuramis ต่างจากฟิลเลอร์ Revolax อย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Neuramis ฟิลเลอร์จากเกาหลี ใช้เทคโนโลยี The SHAPE ในการผลิต ซึ่งเป็นกระบวนการ Cross-linked แบบ 2 ระดับ ช่วยให้ได้เนื้อฟิลเลอร์ที่ปั้นง่าย คงรูปดี และอยู่ได้นาน นอกจากนี้มีการกำจัดสาร BDDE ออกจนเหลือน้อยมาก ลดโอกาสการแพ้และปลอดภัยต่อผู้ฉีด

  • Neuramis Deep Lidocaine มีส่วนผสมของยาชา เนื้อหนืดปานกลาง ขึ้นรูปง่าย สามารถใช้เติมร่องลึกบนใบหน้าได้หลายจุด อยู่ได้นาน 6-9 เดือน
  • Neuramis Volume Lidocaine มีส่วนผสมของยาชา เป็นรุ่นที่มีเนื้อเจลหนืดที่สุด มีความยืดหยุ่นและคงตัวดี สามารถใช้เติมริ้วรอยระดับปานกลาง-มาก และมีส่วนผสมยาชา อยู่ได้นาน 6-8 เดือน

ฟิลเลอร์ Flore ต่างจากฟิลเลอร์ Revolax อย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Flore เป็นฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลี เป็นฟิลเลอร์ชนิด Biphasic ที่ประกอบด้วย Cross-linked HA และ Non Cross-linked HA ทำให้ได้เนื้อฟิลเลอร์ที่มีความอ่อนและแข็งผสมกัน ผลิตโดย

ใช้เทคโนโลยี HCCL (Highly Completed Cross-Linking) เชื่อม HA แต่ละโมเลกุลในรูปแบบ 3 มิติ จึงทำให้ฟิลเลอร์มีความคงรูป ไม่ไหล และสลายตัวช้า

นอกจากนี้ ยังใช้เทคโนโลยี PP-Process ทำให้ขนาดอนุภาคของฟิลเลอร์เท่ากัน จึงฉีดและปั้นรูปทรงได้ง่าย คงรูปร่าง และสลายตัวอย่างสม่ำเสมอ

  • Flore max มีส่วนผสมของยาชา เนื้อแน่น ขึ้นรูปได้ดี ปั้นทรงง่าย มีความละมุน ไม่เป็นก้อน เหมาะสำหรับฉีดคางและขมับ อยู่ได้นาน 9-12 เดือน

ฟิลเลอร์ revolax มีกี่รุ่น ผ่านอย.ไหม ?

ฟิลเลอร์ Revolax มีทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ ฟิลเลอร์ Revolax รุ่น Fine, ฟิลเลอร์ Revolax รุ่น Deep และ ฟิลเลอร์ Revolax รุ่น Sub-Q โดยขณะนี้ ฟิลเลอร์ Revolax รุ่น Sub-Q เป็นฟิลเลอร์รุ่นเดียวที่ผ่านอย. ไทยครับ

รุ่น revolax

ฟิลเลอร์ revolax นิยมฉีดตำแหน่งไหนบ้าง ใช้กี่ CC ?

  1. ฟิลเลอร์ Revolax Fine เนื้อละเอียด โมเลกุลเล็ก บางเบา เน้นฉีดเพื่อช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยเล็ก ๆ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

เหมาะสำหรับการฉีด

  • หน้าผาก โดยทั่วไปใช้ 3-5 cc
  • หางตา โดยทั่วไปใช้ 1 cc
  • คอ โดยทั่วไปใช้ 1-2 cc
  • ใต้ตาชั้นตื้น โดยทั่วไปใช้ 1-2 cc
  1. ฟิลเลอร์ Revolax Deep เนื้อนิ่ม ยืดหยุ่นสูง เน้นฉีดเพื่อแก้ไขปัญหาริ้วรอยร่องลึกระดับปานกลางและเพื่อเพิ่ม Volume ให้ใบหน้า

เหมาะสำหรับการฉีด

  • ร่องแก้ม โดยทั่วไปใช้ 2-4 cc
  • ร่องมุมปาก โดยทั่วไปใช้ 1-2 cc
  • คาง โดยทั่วไปใช้ 1-2 cc
  • ริมฝีปาก โดยทั่วไปใช้ 1-2 cc
  1. ฟิลเลอร์ Revolax Sub-Q เนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง เน้นฉีดเพื่อปรับโครงสร้างใบหน้า และลดริ้วรอยร่องลึกที่มีความรุนแรง

เหมาะสำหรับการฉีด

  • แก้มตอบ โดยทั่วไปใช้ 2-4 cc
  • คาง โดยทั่วไปใช้ 1-2 cc
  • จมูก โดยทั่วไปใช้ 1 cc
  • กรอบหน้า โดยทั่วไปใช้ 1-2 cc

ฟิลเลอร์ revolax มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?

ข้อดี

  • เป็นสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic acid สลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้าง
  • โอกาสบวมช้ำหลังฉีดน้อย ไม่ทำให้เกิดการแพ้
  • เป็นฟิลเลอร์เนื้อเนียน เกลี่ยง่าย ฉีดแล้วเรียบเนียนไปกับผิว
  • ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น ทำเสร็จใช้หน้าได้ทันที
  • ผ่านการรับรองจากอย. ปลอดภัย

ข้อเสีย

  • ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่ถาวร
  • อาจมีอาการบวมในช่วงแรกเล็กน้อย หรือทำให้เกิดรอยช้ำจากเข็ม โดยจะค่อย ๆ หายเป็นปกติและเห็นผลของการฉีดฟิลเลอร์เต็มที่คือ 2-3 สัปดาห์ครับ

ฟิลเลอร์ revolax ของแท้ ดูอย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Revolax ของแท้ มีวิธีตรวจสอบดังนี้

  • กล่องผลิตภัณฑ์ต้องไม่มีการเปิดมาก่อน มีการปิดรอบผนึกรอบด้าน
  • มีเลขทะเบียน อย.และ มีฉลากภาษาไทยกำกับบนกล่องชัดเจน สามารถตรวจสอบได้
  • มีระบุวัน/เดือน/ปีที่ผลิต วันหมดอายุ เลข Lot. ผลิต ที่กล่องผลิตภัณฑ์ และตัวหลอดบรรจุผลิตภัณฑ์ และมีเอกสารกำกับเครื่องมือแพทย์ฉบับภาษาไทย

Revolax filler ของแท้ ต้องนำเข้าโดย บริษัทเอสเทค ฟาร์มา จำกัด เท่านั้น สามารถโทรสอบถามเลข Lot. และคลินิกได้กับทางบริษัทโดยตรงครับ


Q&A เพิ่มเติมเกี่ยวกับฟิลเลอร์ revolax

ฟิลเลอร์ revolax อันตรายไหม ?

ฟิลเลอร์ Revolax เป็นฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองคุณภาพและความปลอดภัยจากอย.ไทย และหลายประเทศ จึงเชื่อมั่นได้ว่าไม่ก่อให้เกิดอันตรายหากใช้ฟิลเลอร์ของแท้ นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยอย่างถูกต้อง ทำให้คลินิกที่ได้มาตรฐาน และต้องฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ครับ

ฟิลเลอร์ revolax อยู่ได้นานกี่เดือน ?

ฟิลเลอร์ Revolax จะค่อย ๆ สลายได้เองตามธรรมชาติ 9-18 เดือนหลังฉีดเข้าร่างกาย ขึ้นอยู่กับรุ่นฟิลเลอร์ที่ใช้ หากปฏิบัติตามข้อแนะนำหลังฉีดฟิลเลอร์อย่างเคร่งครัดก็จะช่วยยืดระยะเวลาการคงผลลัพธ์ให้ยาวนานขึ้นได้ครับ

ฟิลเลอร์ revolax กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ Revolax จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงประมาณ 70-80% และอาจมีอาการบวมได้เล็กน้อยประมาณ 1-2 สัปดาห์ หลังจากนั้นจะอาการบวมจะยุบลงและฟิลเลอร์เข้าที่เต็มที่ประมาณ 2-3 สัปดาห์ครับ

ฟิลเลอร์ revolax ที่ไหนดี ?

ปัจจุบันฟิลเลอร์ Revolax เริ่มมีใช้ในคลินิกเสริมความงามในประเทศบ้างแล้วครับ หากใครที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ Revolax หมอมีข้อแนะนำในการเลือกคลินิกดังนี้

  • ใช้ฟิลเลอร์แท้ นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยอย่างถูกต้อง สามารถตรวจสอบกลับได้ แพทย์มีขั้นตอนการแกะกล่อง กล่องหลอดฟิลเลอร์ต่อหน้าคนไข้ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเป็นฟิลเลอร์กล่องใหม่ ของแท้ครับ
  • เป็นคลินิกที่เปิดให้บริการถูกต้องตามกฎหมาย ได้รับรองมาตรฐาน  คลินิกสะอาด กว้างขวาง และมีหลายสาขาพร้อมให้บริการ เดินทางสะดวก
  • แพทย์มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าโดยเฉพาะ สามารถวิเคราะห์ใบหน้าและแนะนำยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะกับคนไข้ได้ มีรีวิวจากคนไข้จริง
  • ราคาสมเหตุสมผล ไม่ถูกหรือแพงเกินไป ปรึกษาแพทย์เพื่อควบคุมงบประมาณก่อนตัดสินใจทำได้
  • มีการนัดติดตามผลหลังฉีด 
  • มีช่องทางการติดต่อที่สะดวกรวดเร็ว 
  • มีตัวอย่างรีวิวฉีดฟิลเลอร์จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ

สรุป

ฟิลเลอร์ Revolax เป็นฟิลเลอร์จากเกาหลีที่เพิ่งผ่านการรับรองจากอย. ประเทศไทย โดยรุ่นที่ผ่านอย. คือฟิลเลอร์ Revolax รุ่น Sub-Q เหมาะกับการใช้เติมโครงสร้างใบหน้า คาง แก้มตอบ กรอบหน้า เป็นต้น หากสนใจที่จะใช้ฟิลเลอร์ Revolax ในการเติมเต็มใบหน้า แนะนำว่าควรตรวจสอบของแท้ก่อนทุกครั้ง ทำในคลินิกที่ได้มาตรฐาน และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อลดโอกาสการเกิดผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
Juvederm voluma

Juvederm voluma มีจุดเด่นอย่างไร ? เหมาะกับการฉีดตำแหน่งไหน ?

Categories
filler
Juvederm voluma

Juvederm voluma

Juvederm voluma ฟิลเลอร์สัญชาติอเมริกา เป็นหนึ่งในรุ่นฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งในไทยและต่างประเทศ ด้วยเทคโนโลยีการผลิตพิเศษเฉพาะของแบรนด์ ทำให้ Juvederm voluma มีความโดดเด่นและเป็นที่ยอมรับจากแพทย์ความงามทั่วโลก 

ในบทความนี้หมอจะมาเจาะลึกฟิลเลอร์ Juvederm voluma ว่าดีอย่างไร ? เหมาะกับใคร ? juvederm voluma ราคาเท่าไหร่ ? ฉีดจุดไหน ? ใช้กี่ CC พร้อมแนะนำวิธีดูฟิลเลอร์แท้ และเปรียบเทียบ Filler voluma กับแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ ให้เห็นความแตกต่าง เพื่อเป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจของคนไข้ครับ

สารบัญ Juvederm voluma 

  1. Juvederm voluma คืออะไร ?
  2. Juvederm voluma มีจุดเด่นอย่างไร ?
  3. Juvederm voluma เหมาะกับใคร ?
  4. Juvederm voluma เหมาะกับการฉีดตำแหน่งไหน ? ใช้กี่ CC 
  5. Juvederm voluma ไม่เหมาะกับการฉีดตำแหน่งใด ?
  6. Juvederm voluma ต่างจากรุ่นอื่นอย่างไร ?
  7. Juvederm voluma ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ?
  8. Juvederm voluma อยู่ได้นานกี่เดือน ?
  9. ฉีด Juvederm voluma กี่วันเห็นผล ?
  10. Juvederm voluma มีข้อเสียไหม ?
  11. Juvederm voluma ของแท้ มีวิธีดูอย่างไร ?
  12. Juvederm voluma ราคา
  13. Juvederm voluma รีวิว

Juvederm voluma คืออะไร ?

ฟิลเลอร์ Juvederm voluma

ฟิลเลอร์ Juvederm voluma คือ สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ HA ที่ถูกผลิตโดยบริษัท Allergan ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจาก US.FDA และอย.ไทย นำเข้าโดยบริษัท Allergan Thailand 


Juvederm voluma มีจุดเด่นอย่างไร ?

จุดเด่น Juvederm voluma คือ เป็นฟิลเลอร์คุณภาพสูง โดดเด่นในเรื่องของการฉีดแล้วผิวยกกระชับขึ้น ด้วยการใช้เทคโนโลยี Vycross Technology ที่ถูกพัฒนาขึ้นให้มีคุณสมบัติในการยกกระชับได้ดี มีโมเลกุลยึดเกาะที่หนาแน่น มีความยืดหยุ่นสูง และมีอัตราการบวมน้ำหรืออุ้มน้ำน้อยกว่า เมื่อเทียบกับ Hyaluronic Acid ตัวอื่น จึงช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีด มีความเรียบเนียน ไม่เป็นก้อน และดูเป็นธรรมชาติครับ


Juvederm voluma เหมาะกับใคร ?

  • ผู้ที่มีปัญหาร่องใต้ตาจากการยุบตัวของกระดูกในผิวชั้นลึก
  • ผู้ที่มีปัญหาแก้มหย่อนคล้อย มีริ้วรอย ร่องแก้มลึก แก้มตอบ
  • ผู้ที่ขมับตอบจากเนื้อขมับและเนื้อแก้มตอบที่ยุบตัวลง
  • ผู้ที่ต้องการเพิ่มความอวบอิ่มให้ปาก ปรับรูปทรงปาก
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า เติมคาง เพิ่มวอลลุ่มให้ใบหน้า

Juvederm voluma เหมาะกับการฉีดตำแหน่งไหน ? ใช้กี่ CC 

จุดฉีด Filler Voluma

Filler Voluma เหมาะกับการฉีดขมับ ใต้ตา ร่องแก้ม ปาก และคาง โดยแต่ละตำแหน่งจะใช้ปริมาณฟิลเลอร์ไม่เท่ากันครับ ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้แต่ละคน หากมีร่องลึกหรือกระดูกยุบตัวลงมาก ๆ เช่น ขมับ ใต้ตา แพทย์ก็จะประเมินให้ใช้ปริมาณ CC ฟิลเลอร์เยอะกว่าจุดอื่น ๆ 

สำหรับปริมาณฟิลเลอร์ Juvederm Voluma ที่ใช้ในแต่ละจุด หมอประเมินปริมาณคร่าว ๆ ดังนี้ 

  • ฟิลเลอร์ขมับ 2-4 CC
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา 2-4 CC 
  • ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 1-3 CC 
  • ฟิลเลอร์ปาก 1-2 CC 
  • ฟิลเลอร์คาง 1-2 CC

Juvederm voluma ไม่เหมาะกับการฉีดตำแหน่งใด ?

สำหรับบางเคส การใช้ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma อย่างเดียวอาจแก้ปัญหาได้ไม่ครอบคลุม ไม่เพียงพอต่อการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนครับ หมอจะแนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์ 1-2 รุ่นในการแก้ปัญหา เช่น เคสที่ร่องใต้ตาลึก สาเหตุจากการยุบตัวของกระดูกใต้ตา หมอจะใช้ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma เพื่อยกผิวในชั้นกระดูก และใช้ฟิลเลอร์รุ่นที่มีเนื้อละเอียด เพื่อเก็บรายละเอียดใต้ตา ก็จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามขึ้นครับ 


Juvederm voluma ต่างจากรุ่นอื่นอย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Juvederm ดีไหม? มีกี่รุ่น? แต่ละรุ่นเหมาะฉีดจุดไหนบ้าง?

Juvederm Voluma เมื่อเทียบกับฟิลเลอร์ Juvederm แต่ละรุ่น จะพบความแตกต่างทางด้านคุณสมบัติ ตำแหน่งที่ฉีด และระยะเวลาการคงผลลัพธ์ ดังนี้ครับ

Juvederm Ultra Plus
  • Juvederm Ultra Plus เป็นรุ่นที่มีลักษณะเนื้อนิ่ม ฉีดแล้วฟูมาก เต็มสวย เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องลึกจากการเปลี่ยนแปลงตามวัย เช่น ขมับ ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก หรือปาก คงผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 12 เดือน
Juvederm Volift
  • Juvederm Volift เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่มีลักษณะเนื้อนิ่ม เหมาะกับคนผิวบาง นิยมใช้ฉีดบริเวณใต้ตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ร่องริ้วรอยที่ไม่ลึกมาก หลังฉีดคงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
Juvederm Volbella
  • Juvederm Volbella เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด มีโมเลกุลขนาดเล็กที่มีความละเอียดมากที่สุด เหมาะสำหรับฉีดเติมบริเวณหน้าผาก ซึ่งเป็นจุดที่ต้องการความเรียบเนียน เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน หลังฉีดคงผลลัพธ์อยู่นานประมาณ 12 เดือน
Juvederm Volite
  • Juvederm Volite เป็นฟิลเลอร์รุ่นเนื้อฉ่ำ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น มีความเป็นธรรมชาติ นิยมใช้ฉีดบริเวณใต้ตา หรือเก็บรายละเอียดในผิวชั้นตื้น เหมาะกับคนผิวบาง หลังฉีดคงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 8-12 เดือน
Juvederm Volux
  • Juvederm Volux เป็นฟิลเลอร์เนื้อทน มีโมเลกุลขนาดใหญ่ จึงมีความยืดหยุ่นสูง ปั้นทรงสวย และคงรูปได้ดีที่สุดครับ เหมาะสำหรับฉีดคาง ใต้ตา ขมับ และร่องแก้มชั้นลึก หลังฉีดคงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 18-24 เดือน

Juvederm voluma ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ?

หากเปรียบเทียบ Juvederm voluma กับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ที่จัดอยู่ในกลุ่มฟิลเลอร์ “เนื้อทน” เช่นเดียวกัน จะพบความแตกต่างดังนี้

Juvederm Voluma vs. ฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น

Juvederm voluma อยู่ได้นานกี่เดือน ?

ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma อยู่ได้นาน 18 เดือน สลายได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย ทั้งนี้ระยะเวลาการคงผลลัพธ์ยังขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดของแต่ละคนด้วยครับ เพราะหากไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ก็อาจส่งผลให้ฟิลเลอร์สลายหายไปก่อนเวลาที่เหมาะสมได้


ฉีด Juvederm voluma กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ Juvederm Voluma สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันที อาจมีอาการบวมเข็มประมาณ 2-3 วันแรก สามารถหายได้เอง คนไข้ไม่ต้องกังวลครับ โดยจะเห็นผลได้ชัดเจนเมื่อฟิลเลอร์เข้าที่และอาการบวมยุบลงแล้วประมาณ 7-14 วันหลังทำ


Juvederm voluma มีข้อเสียไหม ?

  • Juvederm Voluma ราคาจะสูงกว่าเมื่อเทียบกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ฝั่งเอเชีย เช่น ฟิลเลอร์เกาหลี ฟิลเลอร์จีน แต่ถ้าเทียบประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ที่ได้ และระยะเวลาอยู่ได้นาน ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคา 
  • ให้ผลลัพธ์แบบชั่วคราว ไม่ถาวร หากคนไข้ต้องการคงสภาพผลลัพธ์ก็สามารถกลับมาฉีดซ้ำตามคำแนะนำของแพทย์ได้ครับ 

Juvederm voluma ของแท้ มีวิธีดูอย่างไร ?

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Juvederm
  • มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
  • กล่องมี 2 cc และเลข lot ต้องตรงกัน 4 จุด คือ
    1. เลข lot ที่กล่อง
    2. เลข lot ที่ซอง
    3. เลข lot ที่สติกเกอร์
    4. เลข lot ที่หลอด
  • สามารถโทรเช็กเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัทจัดส่ง Allergan Thailand โทร. 062 460 7717

Juvederm voluma ราคา

Filler juvederm voluma ราคาแต่ละคลินิกจะไม่แตกต่างกันมาก เริ่มต้นที่ 1x,xxx.-/CC ขึ้นไป สำหรับที่ V Square Clinic โปรโมชันฉีด Filler voluma ราคาอยู่ที่ 14,000.-/ CC นอกจากนี้เรายังมีฟิลเลอร์ juvederm หลากหลายรุ่น ให้แพทย์เลือกใช้แก้ปัญหาของคนไข้แต่ละบุคคลได้อย่างเหมาะสมและตรงจุดครับ 

Voluma filler ราคา

Juvederm voluma รีวิว

ฉีดฟิลเลอร์คาง แก้ปัญหาคางสั้น คางถอย ช่วยให้หน้าเรียวเป๊ะ
แก้ปัญหาใต้ตา ร่องแก้มลึก เพิ่มความสดใส ให้กลับไปหน้าเด็กอีกครั้ง
แก้ไขใต้ตาคล้ำ จากภูมิแพ้ ลดเหนียง สร้างกรอบหน้าด้วยฟิลเลอร์

สรุป

Juvederm voluma เป็นฟิลเลอร์แบรนด์อเมริกาที่คุณภาพดี มีลักษณะเนื้อแข็งและฟูปานกลาง ยืดหยุ่นสูง โมเลกุลขนาดใหญ่ เหมาะกับการฉีดในหลายบริเวณ เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม คาง ขมับ ให้ผลลัพธ์หลังฉีดที่ดูเป็นธรรมชาติ ปลอดภัย ถือเป็นฟิลเลอร์อีกรุ่นหนึ่งที่หมอมองว่าคุ้มค่าคุ้มราคาเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้

ใครที่กำลังมองหาคลินิกฉีดฟิลเลอร์ Juvederm Voluma ที่ไหนดี ที่ V Square Clinic ทีมแพทย์มากประสบการณ์กว่า 15 ปี ใช้ฟิลเลอร์แท้ แกะกล่อง เปิดหลอดต่อหน้าทุกเคส ฉีดด้วยเทคนิคพิเศษ มั่นใจได้ในผลลัพธ์และความปลอดภัยครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน