Belotero Lips 

“Belotero Lips” ฟิลเลอร์จากยี่ห้อ Belotero สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกออกแบบเพื่อฉีดปากโดยเฉพาะ มีความแตกต่างจากฉีดปากยี่ห้ออื่นอย่างไร ? เหมาะกับใครบ้าง ? คงผลลัพธ์ได้นานแค่ไหน ? หลังฉีดกี่วันเห็นผล ? 

ใครที่กำลังมองหาฟิลเลอร์ฉีดปาก สามารถศึกษาข้อมูลต่อจากนี้ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจได้ครับ

สารบัญ Belotero Lips

1. Belotero Lips ทำไมถึงเหมาะกับริมฝีปาก
2. Belotero Lips ผลิตจากประเทศอะไร มีกระบวนการทำงานอย่างไร ?
3. Belotero Lips มีกี่รุ่น ผ่านอย.ไหม ?
4. Belotero Lips ช่วยแก้ปัญหาปากอย่างไรได้บ้าง ?
5. ปัญหาปากมีอะไรบ้าง ?
6. ทรงปากที่ดีเป็นอย่างไร ?
7. ทรงปากที่นิยมทำมีอะไรบ้าง แต่ละทรงใช้กี่ CC
8. Belotero Lips เหมาะกับใคร ?
9. Belotero Lips ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ?
10. Belotero Lips ราคาเท่าไร ?
11. Belotero Lips ฉีดจุดอื่นได้ไหม ใช้กี่ CC ?
12. Belotero Lips มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?
    • ข้อดี
    • ข้อเสีย
13. ข้อควรปฏิบัติก่อน-หลังฉีด Belotero Lips มีอะไรบ้าง ?
    • ก่อนฉีด
    • หลังฉีด
14. Belotero Lips ของแท้ ดูอย่างไร ?
15.  Q&A เกี่ยวกับ Belotero Lips
    • Belotero Lips อยู่ได้นานไหม ?
    • Belotero Lips กี่วันเห็นผล ?
    • Belotero Lips ควรฉีดกี่ครั้ง ?
    • ฉีด Belotero Lips ที่ไหนดี ?
    • ฉีด Belotero Lips อันตรายไหม ?
16. Belotero Lips มีผลข้างเคียงไหม ?

---

Belotero Lips ทำไมถึงเหมาะกับริมฝีปาก

Belotero Lips คือ ฟิลเลอร์ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับการฉีดบริเวณริมฝีปาก สามารถฉีดเพิ่มปริมาตรและปรับรูปทรงริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม เป็นธรรมชาติ และคงผลลัพธ์ได้นานขึ้น 

ฟิลเลอร์ Belotero Lips มีคุณสมบัติที่โดดเด่น ต่างจากยี่ห้ออื่น ๆ ดังนี้

• เป็นรุ่นที่มีความหนืดพอเหมาะ ช่วยให้ปากดูอวบอิ่มอย่างเป็นธรรมชาติ
• เนื้อฟิลเลอร์ Belotero Lips มีความยืดหยุ่นสูง เมื่อฉีดสามารถเข้ากันได้ดีกับเนื้อเยื่อบริเวณริมฝีปาก ทำให้รู้สึกนุ่มนวล ไม่แข็ง 
• ลักษณะเนื้อฟิลเลอร์เป็นเม็ดเจลขนาดเล็ก ละเอียดมาก ช่วยให้เจลแทรกซึมและกระจายได้อย่างสม่ำเสมอ เกลี่ยง่าย ไม่เกิดเป็นก้อน 

---

Belotero Lips ผลิตจากประเทศอะไร มีกระบวนการทำงานอย่างไร ?

Belotero Lips ผลิตจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยบริษัท Merz Aesthetics ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง อย่าง Cohesive Polydensified Matrix (CPM) ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความเสถียรและคงทน หลังฉีดยึดเกาะดี สลายช้า เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในฟิลเลอร์คุณภาพสูง ที่ให้ผลลัพธ์ได้ยาวนาน

ที่สำคัญ Belotero Lips ยังมีส่วนผสมสำคัญคือ Hyaluronic acid ที่มีความยืดหยุ่นและช่วยเก็บน้ำในเซลล์ผิวได้ดี เมื่อนำมาฉีดริมฝีปาก ฟิลเลอร์จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เพิ่มวอลลุ่ม เติมเต็มร่องลึก และเพิ่มความอิ่มฟู พร้อมทั้งช่วยสร้างขอบปากให้มีความคมชัด มีมิติมากขึ้นครับ 

---

Belotero Lips มีกี่รุ่น ผ่านอย.ไหม ?

ในซีรีส์ของ ฟิลเลอร์ Belotero Lips จะมี 2 รุ่นย่อย คือ

• Belotero Lips Contour : มีขนาด 22.5 มิลลิกรัม (mg.) มีคุณสมบัติ High Cohesivity ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ขอบปากมีความคมชัด เหมาะกับการใช้เพิ่มปริมาตรและความอวบอิ่มให้กับริมฝีปาก ช่วยให้ริมฝีปากอิ่มเอิบขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

• Belotero Lips Shape : มีขนาด 25.5 มิลลิกรัม (mg.) ถูกออกแบบให้มีความยืดหยุ่นสูง (High-Elasticity) ช่วยเพิ่มวอลุ่มให้ริมฝีปากดูอิ่มฟู เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความอวบอิ่มแบบปากสายฝอ ใช้สำหรับปรับรูปทรงริมฝีปาก เน้นความคมชัดของขอบปาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความชัดเจนของรูปทรงมากกว่าความอวบอิ่ม

Belotero Lips Contour และ Belotero Lips Shape ผ่านการรับรองโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยครับ 

---

Belotero Lips ช่วยแก้ปัญหาปากอย่างไรได้บ้าง ?

Belotero Lips สามารถช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับริมฝีปากได้หลายอย่าง ดังนี้

1. ช่วยเพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปาก : Belotero Lips ช่วยเติมเต็มริมฝีปากที่บางหรือเหี่ยวย่นให้ดูอวบอิ่ม เต่งตึง และอ่อนเยาว์ขึ้น
2. Belotero Lips ช่วยปรับรูปทรงปาก : ช่วยปรับแก้ไขรูปทรงของริมฝีปากให้สมมาตร เสมอกัน หรือเพิ่มมิติตามต้องการ
3. ช่วยลดริ้วรอยรอบปาก : ช่วยลดเลือนร่องและริ้วรอยรอบริมฝีปากให้ตื้นขึ้น ทำให้ผิวปากเรียบเนียน ไม่หย่อนคล้อย
4. ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น : ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวบริเวณริมฝีปากที่มักแห้งกร้าน ทำให้ปากนุ่มชุ่มชื้นขึ้น
5. ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ : ด้วยคุณสมบัติพิเศษของเทคโนโลยี CPM ทำให้ Belotero Lips ให้ผลลัพธ์ที่กลมกลืนเป็นธรรมชาติ ปากดูอวบอิ่มแต่ไม่ดูเป็นปากเทียม

ฟิลเลอร์ Belotero Lips ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการฉีดปรับรูปทรงปากครับ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความงามให้ริมฝีปาก แก้ไขข้อบกพร่องของปากด้วยวิธีที่ปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่ดูดีเป็นธรรมชาติ

---

ปัญหาปากมีอะไรบ้าง ?

ปากหรือริมฝีปากเป็นอวัยวะที่มีลักษณะผิวที่บอบบาง หากไม่ได้รับการดูแลที่ดี ก็อาจทำให้มีปัญหาได้ เช่น 

• ริมฝีปากแห้ง แตก ลอกเป็นขุย มีสาเหตุจากขาดน้ำ ขาดความชุ่มชื้น จากสภาพอากาศ ภูมิแพ้ หรือพฤติกรรมบางอย่างเช่นการเลียปาก 

• ริมฝีปากบาง ไม่มีปริมาตร เกิดจากโครงสร้างเดิมของแต่ละบุคคล รวมถึงเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของอายุ เกิดความหย่อนคล้อย เมื่ออายุที่มากขึ้น
• ริ้วรอยรอบปาก ร่องปาก เกิดจากคอลลาเจนถูกทำลาย จึงหย่อนคล้อยและเกิดร่องปากได้ง่าย
• ริมฝีปากคล้ำ ไม่สดใส เกิดแสงแดดและรังสี UV ,การสูบบุหรี่ การใช้ลิปสติกเนื้อแมตต์ แต่ทำความสะอาดไม่ดี ทำให้ผิวหนังรอบปากเสื่อมสภาพเร็วขึ้น หมองคล้ำ 

นอกจากนี้ยังมีปัญหาริมฝีปากชนิดอื่น ๆ เช่น ปากตก มุมปากตก ปากคว่ำ ทำให้รูปปากไม่สวย ทั้งหมดนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ปาก ทั้ง Belotero Lips และฟิลเลอร์รุ่นอื่น ๆ ที่เหมาะสม 

ตัวอย่างยี่ห้อฟิลเลอร์ปาก 

ทรงปากที่ดีเป็นอย่างไร ?

ทรงปากที่ถือว่าเป็นรูปทรงที่สวยงามและเป็นที่นิยมส่วนใหญ่ จะมีลักษณะดังนี้

• ปากบนและปากล่างได้สัดส่วนที่ดี โดยปกติปากบนจะอวบอิ่มกว่าปากล่าง โดยเนื้อริมฝีปากล่างไม่ควรใหญ่เกินขอบเขตของยอดตัว M ของริมฝีปากบน
• มีร่องกลางตรงกลางปากบน (Cupid’s bow) ที่ชัดเจน ไม่ตื้นหรือลึกจนเกินไป
• ขอบปากบนและล่างมีความโค้งเว้าตามธรรมชาติ เฉียงขึ้นเล็กน้อยที่มุมปากทั้งสองข้าง

• มุมปากควรยกขึ้น ไม่ทิ่มลง เนื้อปากควรอิ่มเรียบเนียน ไม่มีริ้วรอย
• สีปากสดใส มีสุขภาพดี ไม่คล้ำ ไม่แห้งแตกจนเกินไป
• รูปทรงปากโดยรวมดูได้สัดส่วน สมมาตร และเข้ากันกับสัดส่วนของใบหน้า

อย่างไรก็ตาม สูตรความสวยงาม กับความชอบของแต่ละบุคคลแตกต่างกันครับ บางคนอาจดูดีกับปากอวบอิ่ม บางคนอาจเหมาะกับปากบางเรียว จึงไม่มีสูตรสำเร็จปากสวยที่ตายตัว สิ่งสำคัญต้องเลือกทรงปากที่เข้ากับตัวเอง ทำแล้วมีแล้วคนไข้เองรู้สึกมั่นใจมากขึ้นครับ 

---

ทรงปากที่นิยมทำมีอะไรบ้าง แต่ละทรงใช้กี่ CC ?

ทรงปากที่เป็นที่นิยมในการฉีดฟิลเลอร์ ได้แก่

• ทรงอวบอิ่มแบบสายฝอ : ลักษณะทรงจะมีความอวบ หนา ริมฝีปากบนและล่างจะมีความสมดุลกัน มีขอบปากชัด เนื้อปากเต็มสวยดูเซ็กซี่ ปัจจุบันได้รับความนิยมมากครับ เพราะช่วยให้ปากดูมีมิติมากขึ้น ดูมีชีวิตชีวา 

• ทรงปากเกาหลี : เป็นทรงปากที่ค่อนข้างเหมาะกับคนเอเชีย เป็นการเพิ่มความอวบอิ่มให้เนื้อปาก โดยแพทย์จะฉีดทั้งปากบนและล่างให้มีขนาดและรูปทรงที่สมดุลกัน เป็นทรงปากที่เหมาะกับผู้ที่มีริมฝีปากบาง เนื้อปากน้อยและต้องการเพิ่มเนื้อปากให้หนาขึ้นครับ 
• ทรงปากกระจับ : ทรงนี้จะเหมาะกับผู้ที่ต้องการทำปากกระจับแต่ไม่อยากผ่าตัด การฉีดฟิลเลอร์จะช่วยให้ริมฝีปากล่างดูอวบอิ่มคล้ายผลเชอร์รี่ และเติมเนื้อติ่งตรงกลางปากบน ทำให้ได้รูปทรงปากกระจับที่สวยงาม และยังคงความเป็นธรรมชาติ
• ทรงปากปีกนก : ปากบนจะมีลักษณะที่บางและเป็นกระจับ มุมปากจะยกขึ้นเล็กน้อย ทำให้เวลายิ้มปากดูเหมือนปีกนกที่กางออก ช่วยให้ปากดูมีเสน่ห์ สดใส หน้าดูเด็กลง 
• รูปทรงปาก Cupid’ Bow : เป็นหนึ่งในทรงปากที่คล้ายกับธนูของคิวปิด คือมีติ่งริมฝีปากบนที่ชัดเจน เหมาะกับผู้ที่ต้องการรูปทรงปากที่เป็นเอกลักษณ์ มีเสน่ห์ และน่าดึงดูด ทำให้ใบหน้ามีความโดดเด่นมากขึ้น

โดยปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้แต่ละครั้งจะขึ้นอยู่กับทรงปากเดิมของแต่ละคนครับ ถ้าต้องการเพิ่มความอิ่ม ความหนา ก็จะใช้ฟิลเลอร์เยอะเฉลี่ย 2-3 CC 

ถ้าคนไข้มีเนื้อปากเดิมอยู่ ต้องการปรับทรงให้เป็นกระจับ หรือเพิ่มอวบอิ่ม ก็จะใช้ฟิลเลอร์ เฉลี่ยอยู่ 1-2 CC ครับ ในเบื้องต้นสามารถแจ้งทรงปากที่ต้องการเพื่อให้แพทย์ประเมินความเหมาะสมและปริมาณฟิลเลอร์ให้ก่อนได้ครับ 

---

Belotero Lips เหมาะกับใคร ?

Belotero Lips เหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการปรับปรุงรูปทรงและเพิ่มความอวบอิ่มให้กับริมฝีปาก ไม่ว่าจะเป็น

• ผู้ที่มีลักษณะปากบางมาก ๆ ต้องการให้ปากอวบอิ่มเซ็กซี่กว่าเดิม
• ผู้ที่มีริมฝีปากไม่สมมาตร ไม่ได้รูปทรง ต้องการปรับแก้ให้สวยได้สัดส่วน
• ผู้ที่ไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงริมฝีปากมากนัก แต่ต้องการเพิ่มความมีเสน่ห์ให้กับใบหน้า
• ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูธรรมชาติ แต่มีความอิ่มดูสุขภาพดี
• ผู้ที่ต้องการปรับทรงปากแบบเห็นผลลัพธ์ทันที ไม่อยากผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น 

---

Belotero Lips ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ?

Belotero Lips มีคุณสมบัติเด่นที่แตกต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ดังนี้

1. เนื้อฟิลเลอร์มีโมเลกุลเล็ก เนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย : เพราะผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยี CPM ทำให้ได้อณูของกรดไฮยาลูโรนิกที่มีความละเอียดสูง ไม่จับตัวเป็นก้อน เข้ากันได้ดีกับเนื้อเยื่อ
2. สามารถนำมาปรับรูปทรงปากได้ตามต้องการ : ด้วยคุณสมบัติของเนื้อฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่น จึงสามารถใช้ปรับเปลี่ยนรูปทรงปากในรายละเอียดต่าง ๆ ได้ตามต้องการ ทั้งเพิ่มปริมาตร เสริมขอบปาก กรีดร่องกลางปาก เป็นต้น
3. ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ : Belotero Lips ไม่ทำให้ปากดูแข็งทื่อ หรือผิดธรรมชาติจนเกินไป เนื่องจากมีความหนืด (viscosity) ที่พอเหมาะ ให้การฟูและเคลื่อนไหวที่เป็นธรรมชาติ
4. อยู่ได้นาน : เนื่องจากโมเลกุลของกรดไฮยาลูโรนิกใน Belotero มีความคงตัวสูง จึงอยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป โดยเฉลี่ยอยู่ได้ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ฉีดและการเผาผลาญของแต่ละคน

นอกจากนี้ Belotero Lips ยังเป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองทางการแพทย์จากองค์การอาหารและยา (FDA) ให้ใช้ฉีดบริเวณริมฝีปากได้อย่างปลอดภัย จึงมั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพและมาตรฐาน

---

Belotero Lips ราคาเท่าไร ?

ฟิลเลอร์ Belotero ราคาจะแตกต่างกันไปตามรุ่นที่ใช้ครับ Belotero Lips ราคาจะโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 9,xxx-14,xxx.- / 1 CC

สำหรับที่ V Square Clinic จะเลือกใช้ ฟิลเลอร์ Belotero ทั้งหมด 3 รุ่นเท่านั้น คือ Belotero Intense , Belotero Volume และ Belotero Revive 

นอกจาก ฟิลเลอร์ Belotero ที่ V Square Clinic ยังมีฟิลเลอร์ฉีดปาก ยี่ห้ออื่น ๆ ที่เหมาะสม เช่น ฟิลเลอร์ Juvederm และ ฟิลเลอร์ Restylane ใครที่ยังไม่มั่นใจว่าต้องใช้ยี่ห้อไหน รุ่นไหน สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินรูปทรงปาก และแนะนำรุ่นฟิลเลอร์ให้เหมาะสมกับแต่ละคนทั้งปัญหาและงบประมาณ เพื่อให้คนไข้ได้ Filler ราคาคุ้มค่าที่สุด

---

Belotero Lips ฉีดจุดอื่นได้ไหม ใช้กี่ CC ? 

อย่างที่ กล่าวไปตั้งแต่ต้นว่า Belotero lip ถูกออกแบบมาเพื่อฉีดปากโดยเฉพาะครับ หากจะนำไปใช้ฉีดจุดอื่น ก็สามารถทำได้ แก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึก หรือปรับรูปหน้าบางจุด ขึ้นอยู่กับความถนัดของแพทย์แต่ละท่าน ส่วนปริมาณ CC ที่ใช้ก็ขึ้นอยู่แต่ละปัญหาอีกเช่นกัน 

---

Belotero Lips มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?

Belotero Lips เป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมในการฉีดเพื่อเพิ่มความอวบอิ่มและปรับรูปทรงริมฝีปาก เนื่องจากมีคุณสมบัติโดดเด่นหลายประการ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีข้อควรระวังบางประการที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจฉีดครับ

ข้อดี

• Belotero Lips ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งทื่อเกินไป
• มีความปลอดภัยสูง Belotero Lips ได้รับการรับรองจาก FDA
• ใช้งานง่าย สามารถปรับแต่งรูปทรงได้อย่างละเอียด
• เข้ากันได้ดีกับเนื้อเยื่อ ไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้
• Belotero Lips อยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป โดยเฉลี่ยประมาณ 6-12 เดือน
• ปรับใช้ได้หลากหลายทั้งเพิ่มปริมาตร แก้รูปทรง เติมร่องลึก ทั้งที่ปากและบริเวณอื่นของใบหน้า

ข้อเสีย

• ต้องทำซ้ำทุก 6-12 เดือนเพื่อคงผลลัพธ์ที่ดี
• อาจเกิดผลข้างเคียงบางอย่างได้ เช่น บวม ช้ำ เจ็บ แดง คัน อาการมักจะหายไปเองใน 1-2 สัปดาห์
• หากฉีดมากเกินไปอาจทำให้ปากดูไม่เป็นธรรมชาติ และแก้ไขได้ยาก
• มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ การฉีดเข้าหลอดเลือด หากฉีดโดยผู้ที่ไม่เชี่ยวชาญ

ดังนั้น ก่อนตัดสินใจฉีด Belotero Lips ควรศึกษาข้อมูลอย่างถี่ถ้วน ชั่งน้ำหนักข้อดี-ข้อเสียให้ดี และต้องปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสม ฉีดด้วยความระมัดระวัง ไม่มากเกินไป ใช้เทคนิคที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและสวยงามที่สุดครับ

---

ข้อควรปฏิบัติก่อน-หลังฉีด Belotero Lips มีอะไรบ้าง ?

เพื่อให้การฉีด Belotero Lips เป็นไปอย่างปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ทั้งก่อนและหลังการฉีด ดังนี้

ก่อนฉีด

• หยุดยาที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด (anticoagulants) เช่น แอสไพริน อย่างน้อย 1 สัปดาห์
• หยุดอาหารเสริมหรือสมุนไพรบางชนิด เช่น วิตามินอี โสม ใบแปะก๊วย เป็นต้น เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการมีเลือดออก
• หยุดดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง
• ทานอาหารและนอนพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง
• แจ้งประวัติการแพ้ยาหรือการเจ็บป่วยให้แพทย์ทราบ

หลังฉีด

• ไม่ควรจับ บีบ นวด บริเวณริมฝีปาก เพราะอาจทำให้รูปปากที่ทำมาเสียรูปได้
• ไม่ควรดึงหรือลอกหนังริมฝีปาก เพราะจะเป็นการทำลายผิวริมฝีปาก ทำให้ผิวเก็บกักน้ำและความชุ่มชื้นไว้ได้น้อยลง
• งดดื่มเครื่องดื่มร้อน ๆ เพราะอาจเกิดทำให้ปากเกิดอาการบวมหรืออักเสบได้ง่าย
• งดแอลกอฮอล์และบุหรี่
• งดการใช้หลอดดูดน้ำ 1 สัปดาห์

---

Belotero Lips ของแท้ ดูอย่างไร ? 

เพื่อให้คนไข้สามารถป้องกันตัวเองจากฟิลเลอร์ปลอม หรือของเลียนแบบ หมอแนะนำให้ศึกษาวิธีดูฟิลเลอร์ Belotero ของแท้ไว้ครับ

• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• กล่องมี 2 cc และเลข lot ต้องตรงกัน 3 จุด คือ
  1. เลข lot ที่กล่อง
  2. เลข lot ที่สติกเกอร์
  3. เลข lot ที่หลอด
• สามารถโทรเช็กเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัทผู้จัดส่ง Merz Aesthetics โทร.02-229-9696

---

Belotero Lips รีวิว

ตัวอย่างรีวิว การฉีดฟิลเลอร์ Belotero Lips 

---

Q&A เกี่ยวกับ Belotero Lips

Belotero Lips อยู่ได้นานไหม ?

โดยทั่วไป ผลของการฉีด Belotero Lips สามารถอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น โครงสร้างผิวของแต่ละคน ปริมาณที่ฉีด เทคนิคการฉีด รวมถึงการเผาผลาญของร่างกาย แต่โดยเฉลี่ยแล้ว Belotero Lips จะคงอยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์ทั่วไปประมาณ 2-3 เดือน

Belotero Lips กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีด Belotero Lips จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของริมฝีปากได้ในทันที แต่อาจต้องรอประมาณ 1-2 สัปดาห์เพื่อให้ริมฝีปากดูเป็นธรรมชาติที่สุดครับ เนื่องจากในช่วงแรกอาจมีอาการบวม เจ็บ หรือช้ำ ทำให้รูปทรงปากดูไม่เป็นธรรมชาติ แต่เมื่ออาการเหล่านี้ทุเลาลง ก็จะเห็นผลลัพธ์สุดท้ายที่ชัดเจน โดยริมฝีปากจะดูอวบอิ่ม สดใส และรูปทรงสวยงามกว่าเดิม

Belotero Lips ควรฉีดกี่ครั้ง ? 

จำนวนครั้งที่ควรฉีด Belotero Lips ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ที่ต้องการและสภาพริมฝีปากเดิมของคนไข้แต่ละคน โดยทั่วไปมักแนะนำให้ฉีด 1-2 ครั้งต่อปีเพื่อคงผลลัพธ์ที่ดี หากต้องการเพิ่มปริมาตรหรือปรับรูปทรงเพิ่มเติม อาจต้องฉีดมากกว่านี้ แต่ไม่ควรฉีดเกินปีละ 3 ครั้ง เพื่อป้องกันปัญหาการสะสมของฟิลเลอร์หรือการเกิดพังผืดใต้ผิว ซึ่งจะทำให้ปากดูไม่เป็นธรรมชาติได้ในระยะยาว

ฉีด Belotero Lips ที่ไหนดี ?

ควรฉีด Belotero Lips ที่คลินิกความงามที่ได้มาตรฐาน และฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์เท่านั้น ไม่ควรฉีดปากตามสถานเสริมความงามทั่วไปหรือฉีดเองที่บ้าน เพราะมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อ เลือดออก หรือการฉีดเข้าหลอดเลือด รวมถึงไม่สามารถการันตีได้ว่าจะได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย ดังนั้นควรเลือกสถานที่ฉีดที่มีความน่าเชื่อถือและมาตรฐานสูงเท่านั้น

ฉีด Belotero Lips อันตรายไหม ?

โดยทั่วไป การฉีด Belotero Lips ถือว่ามีความปลอดภัยสูง เนื่องจาก Belotero เป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองโดย FDA ให้ใช้ฉีดบริเวณริมฝีปากได้ มีส่วนประกอบของกรดไฮยาลูโรนิกที่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ จึงไม่ค่อยก่อให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้หรือผลข้างเคียงรุนแรง

เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ควรปรึกษาและให้แพทย์ผู้มีประสบการณ์เป็นผู้ฉีดเท่านั้น ร่วมกับการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องทั้งก่อนและหลังการฉีด เพื่อลดความเสี่ยงต่าง ๆ ลง

---

Belotero Lips มีผลข้างเคียงไหม ?

แม้ Belotero Lips จะมีความปลอดภัยสูง แต่ก็ยังอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงบางอย่างได้ ซึ่งผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยที่สุด ได้แก่

• อาการบวมแดง : มักเกิดขึ้นหลังฉีดเสร็จใหม่ ๆ จะค่อย ๆ ลดลงภายใน 7-14 วัน
• อาการเจ็บ ปวด : อาจเกิดขึ้นในขณะฉีดหรือหลังฉีด สามารถกินยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการ
• รอยช้ำ : หากมีเลือดออกใต้ผิวหนัง อาจทำให้เกิดรอยช้ำขึ้น สามารถรักษาด้วยการประคบเย็น

นอกจากนี้อาจมีผลข้างเคียงที่รุนแรงมากขึ้น เช่น การติดเชื้อ ,การฉีดเข้าหลอดเลือด หรือ การอุดตันของหลอดเลือด ซึ่งผลข้างเคียงเหล่านี้มักจะเกิดได้น้อยมากหากได้รับการฉีดอย่างถูกวิธีจากแพทย์ที่มีประสบการณ์ครับ 

---

สรุป

Belotero Lips ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก สำหรับผู้ที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ปากครับ ส่วนใครที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ปากยังมั่นใจว่าควรฉีด Belotero Lip ดีไหม หรือฉีดฟิลเลอร์รุ่นไหนดี เลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับปัญหาและงบประมาณ สามารถปรึกษาหมอทางออนไลน์ได้ก่อนฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ

---

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Revolax ฟิลเลอร์

Revolax filler เป็นยี่ห้อที่หลายคนเคยได้ยินชื่อและเริ่มมีใช้ในประเทศไทยกันบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ใช้กันอย่างแพร่หลายเหมือนฟิลเลอร์ยี่ห้อดังจากทางยุโรปหรืออเมริกา เนื่องจากฟิลเลอร์ Revolax เพิ่งจะมีการนำเข้ามาใช้ในไทยและผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาไทยเมื่อไม่นานมานี้

ในบทความนี้ หมอจะมาตอบคำถามที่ว่า Revolax filler แตกต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร มีกี่รุ่น ? นิยมฉีดจุดไหน เหมาะกับใคร กี่วันเห็นผล ปลอดภัยไหม ? และอีกหลากหลายข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ Revolax ที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีดครับ

สารบัญ ฟิลเลอร์ Revolax

• ฟิลเลอร์ revolax คืออะไร ผลิตจากประเทศไหน ?
• ฟิลเลอร์ revolax ดีอย่างไร มีจุดเด่นอะไรบ้าง ?
• ฟิลเลอร์ revolax เหมาะกับใคร ?
• ฟิลเลอร์ revolax มีผลข้างเคียงไหม ?
• ฟิลเลอร์ revolax ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ?
• ฟิลเลอร์ revolax มีกี่รุ่น ผ่านอย.ไหม ?
• ฟิลเลอร์ revolax นิยมฉีดตำแหน่งไหนบ้าง ใช้กี่ CC ?
• ฟิลเลอร์ revolax มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?
• ฟิลเลอร์ revolax ของแท้ ดูอย่างไร ?
• Q&A เพิ่มเติมเกี่ยวกับฟิลเลอร์ revolax
  • ฟิลเลอร์ revolax อันตรายไหม ?
  • ฟิลเลอร์ revolax อยู่ได้นานกี่เดือน ?
  • ฟิลเลอร์ revolax กี่วันเห็นผล ?
  • ฟิลเลอร์ revolax ที่ไหนดี ?
• สรุป

---

ฟิลเลอร์ revolax คืออะไร ผลิตจากประเทศไหน ?

ฟิลเลอร์ Revolax เป็นฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic acid (HA) ที่ผลิตโดยบริษัท ACROSS CO.,LTD. ประเทศเกาหลีใต้ และมีการส่งออกไปใช้ในอีกหลายประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศทางยุโรปถึง 19 ประเทศ ได้รับการยอมรับในผลลัพธ์ที่ได้หลังฉีด ตลอดจนถึงความปลอดภัย และได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ครับ

ส่วนในประเทศไทย ได้มีการนำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างถูกต้องโดยบริษัท Aestec Pharma จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่นำเข้าผลิตภัณฑ์ Botulinum toxin ยี่ห้อยอดนิยมอย่าง โบท็อกซ์ Aestox ฟิลเลอร์ Revolax ได้ผ่านการรับรองคุณภาพและความปลอดภัยจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ

ฟิลเลอร์ Revolax ผลิตด้วยเทคโนโลยี HEXALink เทคโนโลยีเฉพาะของทางแบรนด์ โดยพัฒนาให้โครงสร้างโมเลกุล HA เชื่อมต่อกันเป็นร่างแห และแต่ละโมเลกุล HA มีขนาดสม่ำเสมอกันและหนาแน่น แบบ Dense Monophasic ทำให้ได้ฟิลเลอร์เนื้อเนียน เกลี่ยง่าย ฉีดแล้วเรียบเนียนไปกับผิว ไม่เป็นก้อน และมีความยืดหยุ่นสูงครับ

---

ฟิลเลอร์ revolax ดีอย่างไร มีจุดเด่นอะไรบ้าง ?

ฟิลเลอร์ Revolax ข้อดีและจุดเด่นที่ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ดังนี้

• Revolax filler ผลิตโดยใช้ Hyaluronic acid ที่มีความบริสุทธิ์สูง
• โครงสร้างฟิลเลอร์แบบตาข่าย ทำให้เนื้อเจลมีความเรียบเนียน ฉีดแล้วกลืนไปกับผิว ไม่เป็นก้อน
• มีขั้นตอน Dialysis process เพื่อกำจัด BDDE ที่ก่อให้เกิดการแพ้ ทำให้ฉีดฟิลเลอร์ Revolax แล้วมีโอกาสบวมน้อย 
• มีให้เลือกใช้หลายรุ่น เนื้อฟิลเลอร์ Revolax แต่ละรุ่นมีความแตกต่างกัน สามารถเลือกใช้แก้ปัญหาในแต่ละจุดได้ตามความเหมาะสม

---

ฟิลเลอร์ revolax เหมาะกับใคร ?

• เหมาะกับคนที่มีปัญหาริ้วรอย มีริ้วรอยร่องลึก ทั้งที่เกิดจากการยุบตัวของกระดูกหรือผิวยุบตัวจากการขาดคอลลาเจน เช่น คนที่มีร่องใต้ตา ร่องแก้ม ร่องมุมปากลึก
• เหมาะกับคนที่มีโครงหน้าตอบ ขมับลึก ขมับตอบ แก้มตอบ
• เหมาะกับคนที่ต้องการปรับรูปคาง คางตัด คางสั้น คางไม่เท่ากัน
• เหมาะกับคนต้องการปรับรูปหน้าให้สมส่วน ดูมีมิติ ดูยกกระชับ
• เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น ต้องการใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันที เห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ

---

ฟิลเลอร์ revolax มีผลข้างเคียงไหม ?

ฟิลเลอร์ Revolax ถ้าใช้ฟิลเลอร์ของแท้ ฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ก็ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่อันตรายครับ แต่ถ้าไม่มั่นใจว่าใช้ของแท้ หรือฉีดกับหมอเถื่อน หมอกระเป๋า ก็อาจทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ได้ตั้งแต่เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ เป็นก้อนไหลย้อย หรือที่ร้ายแรงที่สุดคือฟิลเลอร์อาจไปอุดตันเส้นเลือด ทำให้เนื้อตาย ตาบอดได้ครับ

ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ไม่อันตราย

• เกิดอาการบวม รอยแดง หรือรอยช้ำบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์
• เป็นก้อน นูน แดงอักเสบ ซึ่งอาการแพ้ชนิดนี้บางครั้งอาจพบได้ ภายหลังการฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วเป็นเวลาหลาย ๆ เดือนหรือเป็นปี ขึ้นกับอายุใช้งานของฟิลเลอร์ชนิดนั้น ๆ และภูมิคุ้มกันของผู้ที่รับการฉีด
• การเกิดรอยนูน หรือผิวไม่เรียบ (beading) เนื่องจากใช้เทคนิคการฉีดที่ตื้นเกินไป หรือใช้ฟิลเลอร์รุ่นไม่เหมาะสม

---

ฟิลเลอร์ revolax ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ?

หากจะเทียบฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic acid แต่ละยี่ห้อว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร โดยทั่วไปควรเทียบจากคุณสมบัติดังต่อไปนี้

• ความแข็ง (Elasticity)
• ความยืดหยุ่น (Plasticity, Cohesiveness)
• การกระจายตัว (Tissue Integration)
• ความอุ้มน้ำ (Water Holding)
• จำนวนการเชื่อมพันธะ (Crosslink)
• ขนาดของเม็ดฟิลเลอร์ (Particle Size)

กระบวนการผลิต เทคโนโลยีการผลิตฟิลเลอร์ รวมถึงความเข้มข้นของ HA ของฟิลเลอร์แต่ละรุ่นที่มีความแตกต่างกัน ส่งผลคุณสมบัติตามที่กล่าวข้างต้นแตกต่างกันไปด้วยครับ ทำให้เนื้อเจลและความคงทนแตกต่างกัน เหมาะกับสภาพผิวและโครงสร้างใบหน้าที่ต่างกันไปครับ 

ฟิลเลอร์ Restylane ต่างจากฟิลเลอร์ Revolax อย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Restylane เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดน เป็นฟิลเลอร์ยี่ห้อแรก ๆ ที่มีการผลิตขึ้นและได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 1996 เทคโนโลยีการผลิตหลัก ๆ มี 2 เทคโนโลยี ได้แก่ เทคโนโลยี NASHA ที่โดดเด่นในด้านความคงทนถาวร ไม่ไหลย้อย และมีโอกาสก่อให้เกิดอาการแพ้น้อย และเทคโนโลยี OBT ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นภายหลัง มีจุดเด่นคือความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับเปลี่ยนรูปทรงได้หลากหลาย

ปัจจุบันมีฟิลเลอร์ Restylane หลายรุ่นให้เลือกใช้งาน สามารถแก้ไขปัญหาได้ครอบคลุมหลายจุดครับ

• Restylane Perlane lyft   มีส่วนผสมของยาชา เนื้อแน่น มีความคงตัวสูง ไม่ฟู กลืนกับผิวได้ดี เหมาะสำหรับฉีด ใต้ตา จมูก  คาง อยู่ได้นาน 12 เดือน
• Restylane Volyme มีส่วนผสมของยาชา เนื้อนิ่ม ใช้เติมเพื่อเพิ่ม volume ให้ชั้นผิว เหมาะสำหรับฉีด ปาก แก้มตอบ มุมปาก  ร่องแก้ม  อยู่ได้นาน 18 เดือน
• Restylane Defyne มีส่วนผสมของยาชา เนื้อทน เนื้อเจลมีความนิ่มปานกลางและยืดหยุ่นสูง ใช้ฉีดกระดูกที่ยุบตัวในผิวชั้นลึก เหมาะสำหรับฉีด ใต้ตา ปาก อยู่ได้นาน 18 เดือน
• Restylane Refyne มีส่วนผสมของยาชา เนื้อละเอียด ยืดหยุ่นสูง ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยลึกที่เกิดจากการยิ้ม เน้นการเติมเต็มริ้วรอยเล็ก ๆ เหมาะสำหรับฉีดปาก ร่องแก้ม มุมปาก อยู่ได้นาน 12 เดือน
• Restylane vital light มีส่วนผสมของยาชา เนื้อฉ่ำ เจลอนุภาคเล็ก แก้ไขจุดที่มีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ เหมาะสำหรับฉีดเก็บรายละเอียดใต้ตาในผิวชั้นตื้น ปาก บำรุงผิวชุ่มชื้น (Skin booster) อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
• Restylane classic มีส่วนผสมของยาชา เนื่อแน่น ออกแบบมาสำหรับแก้ปัญหาริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก ใช้เก็บรายละเอียดใต้ตาในผิวชั้นลึกสำหรับคนผิวบาง  อยู่ได้นาน 12 เดือน
• Restylane  kysse มีส่วนผสมของยาชา ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด แต่มีความคงตัว สร้างขอบริมฝีปากที่ชัดเจนให้ความชุ่มชื้นและความอวบอิ่ม ออกแบบมาสำหรับใช้เติมเต็มริมฝีปากโดยเฉพาะ อยู่ได้นาน 12 เดือน

ฟิลเลอร์ Juvederm ต่างจากฟิลเลอร์ Revolax อย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Juvederm จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีเทคโนโลยีการผลิตคือ Hylacross Technology และ Vycross Technology จุดเด่นของฟิลเลอร์ Juvederm คือความสามารถในการอุ้มน้ำได้ดี เนื้อเจลมีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับ เรียบเนียน ไม่เป็นก้อน ฟิลเลอร์ Juvederm มีหลายรุ่นให้เลือกใช้งาน สามารถตอบโจทย์การแก้ปัญหาได้อย่างครอบคลุม ทั้งการปรับรูปหน้า ลดริ้วรอย และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

• Juvederm Ultra Plus มีส่วนผสมของยาชา เนื้อนิ่ม อุ้มน้ำได้ดี ฉีดแล้วฟูเต็ม เพิ่มปริมาตรได้ดี เหมาะสำหรับฉีดขมับ ปาก ร่องแก้ม อยู่ได้นาน 12 เดือน
• Juvederm Voluma มีส่วนผสมของยาชา เนื้อทน ฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับ เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา คาง ขมับ ปาก ร่องแก้ม อยู่ได้นาน 18 เดือน
• Juvederm Volbella มีส่วนผสมของยาชา เนื้อละเอียด เรียบเนียนกลืนไปกับผิว เหมาะสำหรับฉีดหน้าผาก อยู่ได้นาน 12 เดือน
• Juvederm Volift มีส่วนผสมของยาชา เนื้อนิ่ม ที่มีความละเอียดมากกว่ารุ่น Ultra plus เหมาะกับคนผิวบางเหมาะสำหรับฉีดปาก แก้มตอบ มุมปาก ร่องแก้ม หว่างคิ้ว อยู่ได้นาน 12 เดือน
• Juvederm Volite  มีส่วนผสมของยาชา เนื้อฉ่ำ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น มีความเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา บำรุงผิวชุ่มชื้น (Skin booster) อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
• Juvederm Volux มีส่วนผสมของยาชา ฟิลเลอร์เนื้อทน คงรูปได้ดี อยู่ได้นานที่สุด เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา คาง ขมับ ร่องแก้มชั้นลึก อยู่ได้นาน 18-24 เดือน

ฟิลเลอร์ Belotero ต่างจากฟิลเลอร์ Revolax อย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Belotero จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นฟิลเลอร์ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี CPM (Cohesive Polydensified Matrix) ซึ่งทำให้โมเลกุลของฟิลเลอร์สามารถเกาะยึดกันได้อย่างดี ส่งผลให้เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่น คืนตัวได้ดี เมื่อฉีดแล้วจะได้ลักษณะที่เรียบเนียน และสามารถปรับแต่งรูปทรงหรือรูปร่างได้อย่างง่ายดาย

• Belotero volume มีส่วนผสมของยาชา เนื้อนิ่ม มีความยืดหยุ่นและคงตัว เหมาะสำหรับการฉีดใต้ตาชั้นลึก ปรับรูปหน้า คาง โหนกแก้ม อยู่ได้นาน 18 เดือน
• Belotero Soft มีส่วนผสมของยาชา เนื้อฉ่ำ โมเลกุลเล็ก สามารถเก็บรายละเอียดได้ดี เหมาะสำหรับแก้ไขริ้วรอยบนผิวชั้นนอก แก้ปัญหาใต้ตา อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
• Belotero intense มีส่วนผสมของยาชา เนื้อทน แต่มีความยืดหยุ่นสูง ช่วยในการแก้ปัญหาร่องลึกมาก ๆ จากการยุบตัวของเนื้อเยื่อผิวหนังและจากการเสื่อมสภาพตามวัย เหมาะสำหรับฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เติมแก้มตอบ อยู่ได้นาน 18 เดือน

ฟิลเลอร์ Definisse ต่างจากฟิลเลอร์ Revolax อย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Definisse จากประเทศอิตาลี ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ชื่อว่า XTR™ Technology ซึ่งทำให้ HA สานกันเป็นร่างแห สามารถยกพยุงและปรับรูปหน้าได้อย่างธรรมชาติ โดย XTR™ Technology มี 3 ขั้นตอนหลัก คือ Pretreatment ควบคุมให้ HA อยู่ในโครงสร้างที่เหมาะสม, Cross-linking ทำให้ HA คงสภาพ ปั้นง่าย และ Purification กำจัดสาร BDDE ลดอาการแพ้ครับ

• Definisse Restore  มีส่วนผสมของยาชา เนื้อนิ่ม มีความแข็งปานกลาง เหมาะกับการเติมริ้วรอยร่องลึก ริ้วรอยหย่อนคล้อยตามวัย สามารถใช้ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เติมร่องแก้ม ร่องมุมปากได้ อยู่ได้นาน 12 เดือน
• Definisse Core  มีส่วนผสมของยาชา เนื้อแน่น เหมาะกับการเสริมกระดูก ปรับรูปหน้า เติม mid-face  สามารถใช้ฉีดฟิลเลอร์คาง หรือกรอบหน้าได้ อยู่ได้นาน 18 เดือน
• Definisse Touch  มีส่วนผสมของยาชา เนื้อละเอียด ขึ้นรูปได้ดี เหมาะฉีดตำแหน่ง ใต้ตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ปาก อยู่ได้นาน 8-12 เดือน

ฟิลเลอร์ Neuramis ต่างจากฟิลเลอร์ Revolax อย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Neuramis ฟิลเลอร์จากเกาหลี ใช้เทคโนโลยี The SHAPE ในการผลิต ซึ่งเป็นกระบวนการ Cross-linked แบบ 2 ระดับ ช่วยให้ได้เนื้อฟิลเลอร์ที่ปั้นง่าย คงรูปดี และอยู่ได้นาน นอกจากนี้มีการกำจัดสาร BDDE ออกจนเหลือน้อยมาก ลดโอกาสการแพ้และปลอดภัยต่อผู้ฉีด

• Neuramis Deep Lidocaine มีส่วนผสมของยาชา เนื้อหนืดปานกลาง ขึ้นรูปง่าย สามารถใช้เติมร่องลึกบนใบหน้าได้หลายจุด อยู่ได้นาน 6-9 เดือน
• Neuramis Volume Lidocaine มีส่วนผสมของยาชา เป็นรุ่นที่มีเนื้อเจลหนืดที่สุด มีความยืดหยุ่นและคงตัวดี สามารถใช้เติมริ้วรอยระดับปานกลาง-มาก และมีส่วนผสมยาชา อยู่ได้นาน 6-8 เดือน

ฟิลเลอร์ Flore ต่างจากฟิลเลอร์ Revolax อย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Flore เป็นฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลี เป็นฟิลเลอร์ชนิด Biphasic ที่ประกอบด้วย Cross-linked HA และ Non Cross-linked HA ทำให้ได้เนื้อฟิลเลอร์ที่มีความอ่อนและแข็งผสมกัน ผลิตโดย

ใช้เทคโนโลยี HCCL (Highly Completed Cross-Linking) เชื่อม HA แต่ละโมเลกุลในรูปแบบ 3 มิติ จึงทำให้ฟิลเลอร์มีความคงรูป ไม่ไหล และสลายตัวช้า

นอกจากนี้ ยังใช้เทคโนโลยี PP-Process ทำให้ขนาดอนุภาคของฟิลเลอร์เท่ากัน จึงฉีดและปั้นรูปทรงได้ง่าย คงรูปร่าง และสลายตัวอย่างสม่ำเสมอ

• Flore max มีส่วนผสมของยาชา เนื้อแน่น ขึ้นรูปได้ดี ปั้นทรงง่าย มีความละมุน ไม่เป็นก้อน เหมาะสำหรับฉีดคางและขมับ อยู่ได้นาน 9-12 เดือน

---

ฟิลเลอร์ revolax มีกี่รุ่น ผ่านอย.ไหม ?

ฟิลเลอร์ Revolax มีทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ ฟิลเลอร์ Revolax รุ่น Fine, ฟิลเลอร์ Revolax รุ่น Deep และ ฟิลเลอร์ Revolax รุ่น Sub-Q โดยขณะนี้ ฟิลเลอร์ Revolax รุ่น Sub-Q เป็นฟิลเลอร์รุ่นเดียวที่ผ่านอย. ไทยครับ

---

ฟิลเลอร์ revolax นิยมฉีดตำแหน่งไหนบ้าง ใช้กี่ CC ?

1. ฟิลเลอร์ Revolax Fine เนื้อละเอียด โมเลกุลเล็ก บางเบา เน้นฉีดเพื่อช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยเล็ก ๆ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

เหมาะสำหรับการฉีด

• หน้าผาก โดยทั่วไปใช้ 3-5 cc
• หางตา โดยทั่วไปใช้ 1 cc
• คอ โดยทั่วไปใช้ 1-2 cc
• ใต้ตาชั้นตื้น โดยทั่วไปใช้ 1-2 cc

2. ฟิลเลอร์ Revolax Deep เนื้อนิ่ม ยืดหยุ่นสูง เน้นฉีดเพื่อแก้ไขปัญหาริ้วรอยร่องลึกระดับปานกลางและเพื่อเพิ่ม Volume ให้ใบหน้า

เหมาะสำหรับการฉีด

• ร่องแก้ม โดยทั่วไปใช้ 2-4 cc
• ร่องมุมปาก โดยทั่วไปใช้ 1-2 cc
• คาง โดยทั่วไปใช้ 1-2 cc
• ริมฝีปาก โดยทั่วไปใช้ 1-2 cc

3. ฟิลเลอร์ Revolax Sub-Q เนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง เน้นฉีดเพื่อปรับโครงสร้างใบหน้า และลดริ้วรอยร่องลึกที่มีความรุนแรง

เหมาะสำหรับการฉีด

• แก้มตอบ โดยทั่วไปใช้ 2-4 cc
• คาง โดยทั่วไปใช้ 1-2 cc
• จมูก โดยทั่วไปใช้ 1 cc
• กรอบหน้า โดยทั่วไปใช้ 1-2 cc

---

ฟิลเลอร์ revolax มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?

ข้อดี

• เป็นสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic acid สลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้าง
• โอกาสบวมช้ำหลังฉีดน้อย ไม่ทำให้เกิดการแพ้
• เป็นฟิลเลอร์เนื้อเนียน เกลี่ยง่าย ฉีดแล้วเรียบเนียนไปกับผิว
• ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น ทำเสร็จใช้หน้าได้ทันที
• ผ่านการรับรองจากอย. ปลอดภัย

ข้อเสีย

• ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่ถาวร
• อาจมีอาการบวมในช่วงแรกเล็กน้อย หรือทำให้เกิดรอยช้ำจากเข็ม โดยจะค่อย ๆ หายเป็นปกติและเห็นผลของการฉีดฟิลเลอร์เต็มที่คือ 2-3 สัปดาห์ครับ

---

ฟิลเลอร์ revolax ของแท้ ดูอย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Revolax ของแท้ มีวิธีตรวจสอบดังนี้

• กล่องผลิตภัณฑ์ต้องไม่มีการเปิดมาก่อน มีการปิดรอบผนึกรอบด้าน
• มีเลขทะเบียน อย.และ มีฉลากภาษาไทยกำกับบนกล่องชัดเจน สามารถตรวจสอบได้
• มีระบุวัน/เดือน/ปีที่ผลิต วันหมดอายุ เลข Lot. ผลิต ที่กล่องผลิตภัณฑ์ และตัวหลอดบรรจุผลิตภัณฑ์ และมีเอกสารกำกับเครื่องมือแพทย์ฉบับภาษาไทย

Revolax filler ของแท้ ต้องนำเข้าโดย บริษัทเอสเทค ฟาร์มา จำกัด เท่านั้น สามารถโทรสอบถามเลข Lot. และคลินิกได้กับทางบริษัทโดยตรงครับ

---

Q&A เพิ่มเติมเกี่ยวกับฟิลเลอร์ revolax

ฟิลเลอร์ revolax อันตรายไหม ?

ฟิลเลอร์ Revolax เป็นฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองคุณภาพและความปลอดภัยจากอย.ไทย และหลายประเทศ จึงเชื่อมั่นได้ว่าไม่ก่อให้เกิดอันตรายหากใช้ฟิลเลอร์ของแท้ นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยอย่างถูกต้อง ทำให้คลินิกที่ได้มาตรฐาน และต้องฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ครับ

ฟิลเลอร์ revolax อยู่ได้นานกี่เดือน ?

ฟิลเลอร์ Revolax จะค่อย ๆ สลายได้เองตามธรรมชาติ 9-18 เดือนหลังฉีดเข้าร่างกาย ขึ้นอยู่กับรุ่นฟิลเลอร์ที่ใช้ หากปฏิบัติตามข้อแนะนำหลังฉีดฟิลเลอร์อย่างเคร่งครัดก็จะช่วยยืดระยะเวลาการคงผลลัพธ์ให้ยาวนานขึ้นได้ครับ

ฟิลเลอร์ revolax กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ Revolax จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงประมาณ 70-80% และอาจมีอาการบวมได้เล็กน้อยประมาณ 1-2 สัปดาห์ หลังจากนั้นจะอาการบวมจะยุบลงและฟิลเลอร์เข้าที่เต็มที่ประมาณ 2-3 สัปดาห์ครับ

ฟิลเลอร์ revolax ที่ไหนดี ?

ปัจจุบันฟิลเลอร์ Revolax เริ่มมีใช้ในคลินิกเสริมความงามในประเทศบ้างแล้วครับ หากใครที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ Revolax หมอมีข้อแนะนำในการเลือกคลินิกดังนี้

• ใช้ฟิลเลอร์แท้ นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยอย่างถูกต้อง สามารถตรวจสอบกลับได้ แพทย์มีขั้นตอนการแกะกล่อง กล่องหลอดฟิลเลอร์ต่อหน้าคนไข้ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเป็นฟิลเลอร์กล่องใหม่ ของแท้ครับ
• เป็นคลินิกที่เปิดให้บริการถูกต้องตามกฎหมาย ได้รับรองมาตรฐาน  คลินิกสะอาด กว้างขวาง และมีหลายสาขาพร้อมให้บริการ เดินทางสะดวก
• แพทย์มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าโดยเฉพาะ สามารถวิเคราะห์ใบหน้าและแนะนำยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะกับคนไข้ได้ มีรีวิวจากคนไข้จริง
• ราคาสมเหตุสมผล ไม่ถูกหรือแพงเกินไป ปรึกษาแพทย์เพื่อควบคุมงบประมาณก่อนตัดสินใจทำได้
• มีการนัดติดตามผลหลังฉีด 
• มีช่องทางการติดต่อที่สะดวกรวดเร็ว 
• มีตัวอย่างรีวิวฉีดฟิลเลอร์จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ

---

สรุป

ฟิลเลอร์ Revolax เป็นฟิลเลอร์จากเกาหลีที่เพิ่งผ่านการรับรองจากอย. ประเทศไทย โดยรุ่นที่ผ่านอย. คือฟิลเลอร์ Revolax รุ่น Sub-Q เหมาะกับการใช้เติมโครงสร้างใบหน้า คาง แก้มตอบ กรอบหน้า เป็นต้น หากสนใจที่จะใช้ฟิลเลอร์ Revolax ในการเติมเต็มใบหน้า แนะนำว่าควรตรวจสอบของแท้ก่อนทุกครั้ง ทำในคลินิกที่ได้มาตรฐาน และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อลดโอกาสการเกิดผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ครับ

---

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Juvederm voluma

Juvederm voluma ฟิลเลอร์สัญชาติอเมริกา เป็นหนึ่งในรุ่นฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งในไทยและต่างประเทศ ด้วยเทคโนโลยีการผลิตพิเศษเฉพาะของแบรนด์ ทำให้ Juvederm voluma มีความโดดเด่นและเป็นที่ยอมรับจากแพทย์ความงามทั่วโลก 

ในบทความนี้หมอจะมาเจาะลึกฟิลเลอร์ Juvederm voluma ว่าดีอย่างไร ? เหมาะกับใคร ? juvederm voluma ราคาเท่าไหร่ ? ฉีดจุดไหน ? ใช้กี่ CC พร้อมแนะนำวิธีดูฟิลเลอร์แท้ และเปรียบเทียบ Filler voluma กับแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ ให้เห็นความแตกต่าง เพื่อเป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจของคนไข้ครับ

สารบัญ Juvederm voluma 

1. Juvederm voluma คืออะไร ?
2. Juvederm voluma มีจุดเด่นอย่างไร ?
3. Juvederm voluma เหมาะกับใคร ?
4. Juvederm voluma เหมาะกับการฉีดตำแหน่งไหน ? ใช้กี่ CC 
5. Juvederm voluma ไม่เหมาะกับการฉีดตำแหน่งใด ?
6. Juvederm voluma ต่างจากรุ่นอื่นอย่างไร ?
7. Juvederm voluma ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ?
8. Juvederm voluma อยู่ได้นานกี่เดือน ?
9. ฉีด Juvederm voluma กี่วันเห็นผล ?
10. Juvederm voluma มีข้อเสียไหม ?
11. Juvederm voluma ของแท้ มีวิธีดูอย่างไร ?
12. Juvederm voluma ราคา
13. Juvederm voluma รีวิว

---

Juvederm voluma คืออะไร ?

ฟิลเลอร์ Juvederm voluma คือ สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ HA ที่ถูกผลิตโดยบริษัท Allergan ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจาก US.FDA และอย.ไทย นำเข้าโดยบริษัท Allergan Thailand 

---

Juvederm voluma มีจุดเด่นอย่างไร ?

จุดเด่น Juvederm voluma คือ เป็นฟิลเลอร์คุณภาพสูง โดดเด่นในเรื่องของการฉีดแล้วผิวยกกระชับขึ้น ด้วยการใช้เทคโนโลยี Vycross Technology ที่ถูกพัฒนาขึ้นให้มีคุณสมบัติในการยกกระชับได้ดี มีโมเลกุลยึดเกาะที่หนาแน่น มีความยืดหยุ่นสูง และมีอัตราการบวมน้ำหรืออุ้มน้ำน้อยกว่า เมื่อเทียบกับ Hyaluronic Acid ตัวอื่น จึงช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีด มีความเรียบเนียน ไม่เป็นก้อน และดูเป็นธรรมชาติครับ

---

Juvederm voluma เหมาะกับใคร ?

• ผู้ที่มีปัญหาร่องใต้ตาจากการยุบตัวของกระดูกในผิวชั้นลึก
• ผู้ที่มีปัญหาแก้มหย่อนคล้อย มีริ้วรอย ร่องแก้มลึก แก้มตอบ
• ผู้ที่ขมับตอบจากเนื้อขมับและเนื้อแก้มตอบที่ยุบตัวลง
• ผู้ที่ต้องการเพิ่มความอวบอิ่มให้ปาก ปรับรูปทรงปาก
• ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า เติมคาง เพิ่มวอลลุ่มให้ใบหน้า

---

Juvederm voluma เหมาะกับการฉีดตำแหน่งไหน ? ใช้กี่ CC 

Filler Voluma เหมาะกับการฉีดขมับ ใต้ตา ร่องแก้ม ปาก และคาง โดยแต่ละตำแหน่งจะใช้ปริมาณฟิลเลอร์ไม่เท่ากันครับ ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้แต่ละคน หากมีร่องลึกหรือกระดูกยุบตัวลงมาก ๆ เช่น ขมับ ใต้ตา แพทย์ก็จะประเมินให้ใช้ปริมาณ CC ฟิลเลอร์เยอะกว่าจุดอื่น ๆ 

สำหรับปริมาณฟิลเลอร์ Juvederm Voluma ที่ใช้ในแต่ละจุด หมอประเมินปริมาณคร่าว ๆ ดังนี้ 

• ฟิลเลอร์ขมับ 2-4 CC
• ฟิลเลอร์ใต้ตา 2-4 CC 
• ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 1-3 CC 
• ฟิลเลอร์ปาก 1-2 CC 
• ฟิลเลอร์คาง 1-2 CC

---

Juvederm voluma ไม่เหมาะกับการฉีดตำแหน่งใด ?

สำหรับบางเคส การใช้ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma อย่างเดียวอาจแก้ปัญหาได้ไม่ครอบคลุม ไม่เพียงพอต่อการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนครับ หมอจะแนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์ 1-2 รุ่นในการแก้ปัญหา เช่น เคสที่ร่องใต้ตาลึก สาเหตุจากการยุบตัวของกระดูกใต้ตา หมอจะใช้ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma เพื่อยกผิวในชั้นกระดูก และใช้ฟิลเลอร์รุ่นที่มีเนื้อละเอียด เพื่อเก็บรายละเอียดใต้ตา ก็จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามขึ้นครับ 

---

Juvederm voluma ต่างจากรุ่นอื่นอย่างไร ?

Juvederm Voluma เมื่อเทียบกับฟิลเลอร์ Juvederm แต่ละรุ่น จะพบความแตกต่างทางด้านคุณสมบัติ ตำแหน่งที่ฉีด และระยะเวลาการคงผลลัพธ์ ดังนี้ครับ

• Juvederm Ultra Plus เป็นรุ่นที่มีลักษณะเนื้อนิ่ม ฉีดแล้วฟูมาก เต็มสวย เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องลึกจากการเปลี่ยนแปลงตามวัย เช่น ขมับ ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก หรือปาก คงผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 12 เดือน

• Juvederm Volift เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่มีลักษณะเนื้อนิ่ม เหมาะกับคนผิวบาง นิยมใช้ฉีดบริเวณใต้ตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ร่องริ้วรอยที่ไม่ลึกมาก หลังฉีดคงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน

• Juvederm Volbella เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด มีโมเลกุลขนาดเล็กที่มีความละเอียดมากที่สุด เหมาะสำหรับฉีดเติมบริเวณหน้าผาก ซึ่งเป็นจุดที่ต้องการความเรียบเนียน เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน หลังฉีดคงผลลัพธ์อยู่นานประมาณ 12 เดือน

• Juvederm Volite เป็นฟิลเลอร์รุ่นเนื้อฉ่ำ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น มีความเป็นธรรมชาติ นิยมใช้ฉีดบริเวณใต้ตา หรือเก็บรายละเอียดในผิวชั้นตื้น เหมาะกับคนผิวบาง หลังฉีดคงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 8-12 เดือน

• Juvederm Volux เป็นฟิลเลอร์เนื้อทน มีโมเลกุลขนาดใหญ่ จึงมีความยืดหยุ่นสูง ปั้นทรงสวย และคงรูปได้ดีที่สุดครับ เหมาะสำหรับฉีดคาง ใต้ตา ขมับ และร่องแก้มชั้นลึก หลังฉีดคงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 18-24 เดือน

---

Juvederm voluma ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ?

หากเปรียบเทียบ Juvederm voluma กับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ที่จัดอยู่ในกลุ่มฟิลเลอร์ “เนื้อทน” เช่นเดียวกัน จะพบความแตกต่างดังนี้

---

Juvederm voluma อยู่ได้นานกี่เดือน ?

ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma อยู่ได้นาน 18 เดือน สลายได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย ทั้งนี้ระยะเวลาการคงผลลัพธ์ยังขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดของแต่ละคนด้วยครับ เพราะหากไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ก็อาจส่งผลให้ฟิลเลอร์สลายหายไปก่อนเวลาที่เหมาะสมได้

---

ฉีด Juvederm voluma กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ Juvederm Voluma สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันที อาจมีอาการบวมเข็มประมาณ 2-3 วันแรก สามารถหายได้เอง คนไข้ไม่ต้องกังวลครับ โดยจะเห็นผลได้ชัดเจนเมื่อฟิลเลอร์เข้าที่และอาการบวมยุบลงแล้วประมาณ 7-14 วันหลังทำ

---

Juvederm voluma มีข้อเสียไหม ?

• Juvederm Voluma ราคาจะสูงกว่าเมื่อเทียบกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ฝั่งเอเชีย เช่น ฟิลเลอร์เกาหลี ฟิลเลอร์จีน แต่ถ้าเทียบประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ที่ได้ และระยะเวลาอยู่ได้นาน ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคา 
• ให้ผลลัพธ์แบบชั่วคราว ไม่ถาวร หากคนไข้ต้องการคงสภาพผลลัพธ์ก็สามารถกลับมาฉีดซ้ำตามคำแนะนำของแพทย์ได้ครับ 

---

Juvederm voluma ของแท้ มีวิธีดูอย่างไร ?

• มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• กล่องมี 2 cc และเลข lot ต้องตรงกัน 4 จุด คือ
  1. เลข lot ที่กล่อง
  2. เลข lot ที่ซอง
  3. เลข lot ที่สติกเกอร์
  4. เลข lot ที่หลอด
• สามารถโทรเช็กเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัทจัดส่ง Allergan Thailand โทร. 062 460 7717

---

Juvederm voluma ราคา

Filler juvederm voluma ราคาแต่ละคลินิกจะไม่แตกต่างกันมาก เริ่มต้นที่ 1x,xxx.-/CC ขึ้นไป สำหรับที่ V Square Clinic โปรโมชันฉีด Filler voluma ราคาอยู่ที่ 12,500.-/ CC นอกจากนี้เรายังมีฟิลเลอร์ juvederm หลากหลายรุ่น ให้แพทย์เลือกใช้แก้ปัญหาของคนไข้แต่ละบุคคลได้อย่างเหมาะสมและตรงจุดครับ 

---

Juvederm voluma รีวิว

---

สรุป

Juvederm voluma เป็นฟิลเลอร์แบรนด์อเมริกาที่คุณภาพดี มีลักษณะเนื้อแข็งและฟูปานกลาง ยืดหยุ่นสูง โมเลกุลขนาดใหญ่ เหมาะกับการฉีดในหลายบริเวณ เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม คาง ขมับ ให้ผลลัพธ์หลังฉีดที่ดูเป็นธรรมชาติ ปลอดภัย ถือเป็นฟิลเลอร์อีกรุ่นหนึ่งที่หมอมองว่าคุ้มค่าคุ้มราคาเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้

ใครที่กำลังมองหาคลินิกฉีดฟิลเลอร์ Juvederm Voluma ที่ไหนดี ที่ V Square Clinic ทีมแพทย์มากประสบการณ์กว่า 15 ปี ใช้ฟิลเลอร์แท้ แกะกล่อง เปิดหลอดต่อหน้าทุกเคส ฉีดด้วยเทคนิคพิเศษ มั่นใจได้ในผลลัพธ์และความปลอดภัยครับ

---

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ฟิลเลอร์ใต้ตา restylane 

“ฟิลเลอร์ใต้ตา restylane” เป็นหนึ่งในยี่ห้อที่หมอส่วนใหญ่เลือกนำมาใช้ฉีดเติมใต้ตาครับ ส่วนจะใช้ restylaneใต้ตา รุ่นไหน กี่ CC จะขึ้นอยู่กับลักษณะปัญหาใต้ตาของแต่ละบุคคล

สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ด้วยฟิลเลอร์ยี่ห้อ restylane แต่ยังมีข้อสงสัย เช่น เลือกรุ่นไหนดี ? คุ้มค่าหรือไม่ อยู่ได้นานแค่ไหน ? รวมถึงงบประมาณการฉีดฟิลเลอร์ restylaneใต้ตา ราคาเท่าไร ? หลังฉีดกี่วันเห็นผล ? หมอได้อธิบายทั้งหมดไว้ในบทความนี้ สามารถศึกษาข้อมูล เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจได้ครับ

สารบัญ ฟิลเลอร์ใต้ตา restylane 

1. ฟิลเลอร์ใต้ตา restylane ดีอย่างไร ?
2. ฟิลเลอร์ใต้ตา restylane ควรเลือกรุ่นไหน ?
3.  ฟิลเลอร์ใต้ตา restylane ต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร ?
4. ฟิลเลอร์ใต้ตา restylane ใช้กี่ CC ?
5. ฟิลเลอร์ใต้ตา restylane มีผลข้างเคียงไหม ?
6. ฟิลเลอร์ใต้ตา restylane อยู่ได้นานกี่เดือน ?
7. ฟิลเลอร์ใต้ตา restylane กี่วันเห็นผล ?
8. ฟิลเลอร์ใต้ตา restylane มีข้อเสียไหม ?
9. ฟิลเลอร์ใต้ตา restylane ราคาเท่าไร ?
10. ฟิลเลอร์ใต้ตา restylane รีวิว

---

ฟิลเลอร์ใต้ตา Restylane ดีอย่างไร ?

หากพูดถึงฟิลเลอร์ใต้ตา restylane อย่างที่หมอเกริ่นไปข้างต้นว่า Restylane filler เป็นยี่ห้อที่หมอทั่วโลกส่วนใหญ่เลือกใช้ เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์คุณภาพสูง และมีให้เลือกหลายรุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นมีข้อดีต่างกัน เพราะเนื้อฟิลเลอร์มีหลายลักษณะโมเลกุล ทำให้หมอสามารถเลือกนำมาใช้แก้ปัญหาใต้ตาได้จากหลายสาเหตุ 

อีกข้อดีที่ทำให้ฟิลเลอร์ restylane เป็นที่ยอมรับของแพทย์ทั่วโลก คือเรื่องของความปลอดภัยครับ เพราะตัวยาผ่านการรับรองความปลอดภัยจาก US FDA และ Thai FDA สามารถนำมาใช้ฉีดเข้าสู่ร่างกายโดยไม่มีผลข้างเคียง และ Restylane Filler ยังมีการพัฒนาคุณภาพตัวยาอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทยาเจ้าใหญ่ที่มีชื่อเสียงอย่าง บริษัท Galderma จึงมั่นใจได้ว่า การเลือกใช้ฟิลเลอร์ restylane ฉีดใต้ตา รวมถึงตำแหน่งอื่น ๆ จะมีความปลอดภัยสูงครับ 

---

ฟิลเลอร์ใต้ตา restylane ควรเลือกรุ่นไหน ? 

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา restylane ควรใช้รุ่นไหน ? หมอขออธิบายก่อนว่า ปัญหาใต้ตา ที่สามารถแก้ไขได้ด้วยฟิลเลอร์ restylane มีหลายปัญหา หลายสาเหตุครับ ซึ่งแต่ละปัญหาจะใช้ลักษณะเนื้อฟิลเลอร์ที่แตกต่างกัน เพื่อให้เหมาะกับสภาพผิวและเป้าหมายในการฉีด ยกตัวอย่าง 

ปัญหาใต้ตาคล้ำ เพราะพักผ่อนน้อย เป็นภูมิแพ้ ขอบตาดำเป็นหมีแพนด้า ทำให้ดูโทรม ไม่สดใส ปัญหาลักษณะนี้ควรเลือกฟิลเลอร์ใต้ตา restylane ที่มีลักษณะเนื้อละเอียด เจลอนุภาคเล็ก สามารถฉีดใต้ตาเพื่อแก้ไขจุดที่มีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ช่วยทำให้ใต้ตาฟูและเนียนขึ้น ใต้ตาดูสดชื่นและสว่างขึ้นได้ โดยฟิลเลอร์ใต้ตา restylane รุ่น ที่เหมาะสมมีดังนี้ 

•  Restylane รุ่น Vital มีลักษณะเนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย เหมาะสำหรับเก็บรายละเอียด ช่วยให้ผลลัพธ์เรียบเนียน อย่างเป็นธรรมชาติ สามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12 เดือน

• Restylane รุ่น Vital Light มีลักษณะเป็นเนื้อละเอียด ที่มีความละเอียดมากที่สุด เหมาะสำหรับเคสที่ผิวบางมาก ๆ สามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-12 เดือน

ปัญหาใต้ตาลึก ตาโหล เบ้าตาลึก มีร่องใต้ตาเห็นเด่นชัด ที่มีสาเหตุจากภาวะกระดูกใต้ตายุบตัวลง หรือภาวะกระดูกเบ้าตากร่อน ไขมันเปลือกตาบนหายไป 

วิธีแก้ไขทำได้โดยการฉีดฟิลเลอร์ restylane เข้าไปแทนที่กระดูก ไขมัน และเนื้อเยื่อที่ยุบหายไป กรณีนี้จำเป็นต้องใช้ฟิลเลอร์ใต้ตา restylane ที่มีลักษณะเนื้อแข็ง หรือเนื้อแน่น และฉีดด้วยเทคนิคเฉพาะจากแพทย์ที่มีประสบการณ์ ฉีดลงไปใต้เยื่อหุ้มกระดูก เพื่อช่วยเสริมให้กระดูกแข็งแรงขึ้น ถึงจะชดเชยกระดูกที่หายไปได้ ทำให้ใต้ตาที่ลึก-โหล-เป็นร่อง ดูตื้นขึ้นได้ทันที และยังช่วยให้รอยคล้ำใต้ตาดูจางลง โดยฟิลเลอร์ใต้ตา restylane รุ่น ที่เหมาะสมมีดังนี้ 

• Restylane รุ่น Perlane lyft มีลักษณะเนื้อแข็ง แน่น มีความคงตัวสูง หลังฉีดไม่ฟูมาก คงรูปได้ดีที่สุด สามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12 เดือน

• Restylane รุ่น Defyne มีลักษณะเป็นเนื้อเจลแข็ง-แน่นปานกลาง มีความยืดหยุ่นดี และอุ้มน้ำได้มาก สามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 18 เดือน

• Restylane รุ่น Classic มีลักษณะเป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง นิยมนำมาใช้ฉีดเก็บรายละเอียดใต้ตาในผิวชั้นลึก เหมาะสำหรับคนผิวบาง สามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12 เดือน

จากฟิลเลอร์restylaneใต้ตา ทั้ง 5 รุ่นที่หมอแนะนำไป จะเห็นว่าทุกรุ่นมีข้อดีที่แตกต่างกัน ส่วนใครจะเหมาะกับฟิลเลอร์restylaneใต้ตารุ่นไหน ต้องให้แพทย์ประเมินสภาพปัญหาเสียก่อนครับ 

ในบางกรณี อาจจะใช้ฟิลเลอร์ หลายรุ่นพร้อมกันในเคสเดียว โดยเฉพาะในเคสที่มีปัญหามาก ๆ เช่น ใช้ Filler restylaneใต้ตา ที่มีลักษณะเนื้อแข็ง ฉีดหนุน ทดแทนกระดูก เพื่อให้ใต้ตาตื้นขึ้น แล้วใช้ฟิลเลอร์ใต้ตา restylane รุ่นที่มีลักษณะเนื้อละเอียด ฉีดเก็บรายละเอียดในผิวชั้นตื้น ก็จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ดูสวยงาม เรียบเนียน เป็นธรรมชาติมากขึ้นครับ 

---

ฟิลเลอร์ใต้ตา restylane ต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร ? 

ฟิลเลอร์ใต้ตา Restylane มีความแตกต่างไปจากฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้ออื่น ๆ ด้วยหลายปัจจัยครับ หมออธิบายเป็นส่วน ๆ ดังนี้ 

• ต่างกันที่ส่วนประกอบและเทคโนโลยีการผลิต : Restylane ฟิลเลอร์ มีส่วนประกอบหลักเป็น hyaluronic acid ชนิด non-animal stabilized HA (NASHA) ที่ได้จากการสังเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ ทำให้มีความปลอดภัยและลดโอกาสการแพ้ได้

• ต่างกันที่คุณสมบัติเนื้อฟิลเลอร์ : Restylane ฟิลเลอร์มีเนื้อที่มีความนุ่มและเนียนละเอียดกว่าฟิลเลอร์หลายยี่ห้อ จึงให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ เติมเต็มร่องใต้ตาได้อย่างกลมกลืน และลดเลือนริ้วรอยได้ดี

• ระยะการคงผลลัพธ์ -ความคงทน : หลังฉีดใต้ตาด้วย Restylane filler สามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน ซึ่งถือว่าค่อนข้างคงทนกว่าฟิลเลอร์ใต้ตาทั่วไปครับ

• ความหลากหลาย : Restylane มีสูตรผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น Restylane vital lightใต้ตา ที่เหมาะกับผิวบอบบาง Restylane Lyft ที่ใช้เติมเต็มร่องลึก ช่วยให้หมอสามารถเลือกใช้ได้ตรงกับสภาพผิวและความต้องการของผู้รับการรักษา

เปรียบเทียบฟิลเลอร์ใต้ตา Restylane และฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้ออื่น ๆ

---

ฟิลเลอร์ใต้ตา restylane ใช้กี่ CC ?

โดยทั่วไป การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา Restylane จะใช้ปริมาณไม่มากนัก ประมาณ 1 CC ต่อข้าง ขึ้นอยู่กับปัญหาในแต่ละเคส

 ในรายที่กระดูกใต้ตายุบตัวมาก ๆ และหย่อนคล้อย โดยเฉพาะในผู้ที่อายุเยอะ จะใช้ฟิลเลอร์มากขึ้น เฉลี่ย 2 – 4 CC โดยหมอจะเริ่มฉีดทีละน้อยก่อนครับ แล้วค่อย ๆ ปรับเพิ่มตามความเหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติที่สุด 

---

ฟิลเลอร์ใต้ตา restylane มีผลข้างเคียงไหม ?

ฟิลเลอร์ใต้ตา Restylane ถือเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง แต่ก็มีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงปกติที่สามารถหายได้เอง และไม่เป็นอันตราย เช่น 

• อาการบวมบริเวณที่ฉีด ซึ่งจะดีขึ้นได้เองใน 1-2 สัปดาห์ บางเคสอาจมีอาการปวดร่วมด้วย สามารถรับประทานยาแก้ปวดลดบวมที่ทางคลินิกจ่ายให้ไปทุก ๆ 4 ชั่วโมง เพื่อบรรเทาอาการครับ

• ผิวบริเวณที่ฉีดมีรอยแดง หรือช้ำเล็กน้อย สามารถหายได้เอง หลีกเลี่ยงการแตะ การเกา การกดนวดในจุดนั้น ๆ อาการต่าง ๆ จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน 

• ในบางรายอาจมีก้อนเล็ก ๆ ที่คลำได้ใต้ผิว แต่มักค่อย ๆ ยุบและกลืนไปกับผิวเมื่อฟิลเลอร์เข้าที่

---

ฟิลเลอร์ใต้ตา restylane อยู่ได้นานกี่เดือน ?

โดยทั่วไปแล้ว ฟิลเลอร์ใต้ตา Restylane สามารถอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นที่เลือกใช้ เช่น Restylane Defyne มักให้ผลอยู่ได้นานกว่า Restylane Vital Light

นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับ ปริมาณที่ฉีด กรณีที่ฉีดมากก็มักจะคงผลลัพธ์ได้นานขึ้น (ปริมาณฉีดมากน้อยต้องดูความเหมาะสมของปัญหาร่วมด้วย) รวมถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดอย่างเหมาะสม เช่น การดูแลผิว การเลี่ยงพฤติกรรมทำร้ายผิว อย่างแสงแดด การสูบบุหรี่ ก็จะช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานขึ้นครับ

---

ฟิลเลอร์ใต้ตา restylane กี่วันเห็นผล ?

หลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา Restylane สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที และผลลัพธ์จะค่อย ๆ ชัดเจน ขึ้นเรื่อง เป็นลำดับ ดังนี้

1. หลังฉีดทันที : จะเห็นผลเบื้องต้นทันทีหลังฉีด โดยบริเวณใต้ตาจะดูเต่งตึงและเต็มขึ้น แต่อาจมีอาการบวมเล็กน้อย
2. 3-5 วันหลังฉีด : อาการบวมจะเริ่มลดลง ผิวใต้ตาเริ่มดูเรียบเนียน ผลของการฉีดฟิลเลอร์จะชัดเจนมากขึ้น
3. 1-2 สัปดาห์ : อาการบวมจะยุบลง ร่องใต้ตาดูตื้นขึ้น ใบหน้าดูละมุนขึ้น ริ้วรอยจางลง ผิวใต้ตาดูกระชับและสดใสขึ้น เป็นระยะที่เริ่มเห็นผลชัดเจนครับ
4. 1 เดือนหลังฉีด : ผลลัพธ์จะคงที่และเป็นธรรมชาติมากขึ้นครับ จะไม่มีอาการบวมหลงเหลืออยู่ บริเวณใต้ตาดูเต็มและสดชื่น ผิวพรรณมีสุขภาพดี 

---

ฟิลเลอร์ใต้ตา restylane มีข้อเสียไหม ?

การฟิลเลอร์ใต้ตา Restylane เป็นทางเลือกแก้ปัญหาใต้ตาได้อย่างตรงจุด และเป็นหัตถการต้น ๆ ที่หมอแนะนำครับ แม้จะได้รับความนิยมในเติมเต็มใต้ตา แต่ก็มีข้อเสียหรือข้อจำกัดที่ควรรู้เช่นกัน 

• ผลลัพธ์ไม่ถาวร : เนื่องจากฟิลเลอร์มีสารประกอบหลังคือ hyaluronic acid ที่ร่างกายสามารถย่อยสลายได้ ทำให้ผลที่ได้จะค่อย ๆ ลดลง หลังจาก 6-18 เดือน หรือตามคุณสมบัติของรุ่นที่ฉีด แต่สามารถกลับมาฉีดซ้ำ เพื่อคงความอ่อนเยาว์และผลลัพธ์ไว้ครับ 

• ต้องอาศัยฝีมือ และประสบการณ์ของแพทย์ : การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา Restylane ให้ได้ผลดี สวยงาม ต้องอาศัยทักษะและประสบการณ์ของแพทย์ผู้ฉีดครับ เพราะหากฉีดไม่ถูกต้อง อาจได้ผลที่ไม่สวยงามหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น เป็นก้อน นูน บริเวณใต้ตา 

• ไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน : ผู้ที่เป็นโรคบางอย่าง เช่น โรคเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด หรือกำลังตั้งครรภ์ ให้นมบุตร ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

---

ฟิลเลอร์ใต้ตา restylane ราคา

ที่ V Square Clinic มี Filler restylaneใต้ตา ราคาโปรโมชัน ดังนี้

ฟิลเลอร์ใต้ตาrestylaneราคา แต่ละรุ่น มีรายละเอียดราคาโปรโมชัน ดังนี้ 

• Restylane vital light ใต้ตา ราคา 12,000.-/1 CC
• Restylane Defyne ใต้ตา ราคา 14,000.-/1 CC
• Restylane Vital ใต้ตา ราคา 16,900.-/1 CC
• Restylane Perlane ใต้ตา  Lyft ราคา 12,500.-/1 CC
• Restylane Classic ใต้ตา ราคา 9,900.-/1 CC
  

โปรโมชัน ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้ออื่น ๆ 

• ฟิลเลอร์ใต้ตา Juvederm Volite ราคา 12,900.-/1 CC
• ฟิลเลอร์ใต้ตา Juvederm Voluma ราคา 12,500.-/1 CC
• ฟิลเลอร์ใต้ตา Juvederm Volux ราคา 18,000.-/1 CC
• ฟิลเลอร์ใต้ตา Belotero Volume ราคา 9,900.-/1 CC
• ฟิลเลอร์ใต้ตา Belotero Soft ราคา 9,900.-/1 CC
• ฟิลเลอร์ใต้ตา Belotero Revive ราคา 14,000.-/1 CC
• ฟิลเลอร์ใต้ตา Flore Aqua-s ราคา 9,900.-/1 CC
• ฟิลเลอร์ใต้ตา Definisse Touch ราคา 12,000.-/1 CC
• ฟิลเลอร์ใต้ตา Teoxane RHA 2 ราคา 12,900.-/1 CC

---

ฟิลเลอร์ใต้ตา restylane รีวิว

---

สรุป

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา restylane เป็นยี่ห้อที่สามารถแก้ไขปัญหาใต้ตาได้เกือบทั้งหมด มีความปลอดภัยสูง หลังฉีดช่วยทำให้ผิวใต้ตาเรียบเนียนขึ้นดูเป็นธรรมชาติ 

สำหรับใครที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา restylane ก่อนตัดสินใจฉีดรุ่นไหน หรือคลินิกไหนดี หมอแนะนำให้ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้ฟิลเลอร์ใต้ตา restylane ของแท้เท่านั้นครับ

---

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

e.p.t.q. filler

e.p.t.q. Filler เป็นฟิลเลอร์แบรนด์เกาหลีที่หลายคลินิกนำมาใช้และได้รับการกล่าวถึงอย่างมากครับ สำหรับคนที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ e.p.t.q. และกำลังหาข้อมูล ว่า e.p.t.q. Filler คืออะไร ? เหมาะกับใคร ? ต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร ? ราคาเท่าไหร่ ? ก่อนฉีดควรรู้อะไรบ้าง ? หมอรวบรวมคำตอบไว้ให้ในบทความนี้ครับ

สารบัญ eptq filler

1. e.p.t.q. filler คืออะไร ?
2. e.p.t.q. filler ดีไหม จุดเด่นคืออะไร ?
3. e.p.t.q. filler มีกระบวนการทำงานอย่างไร ?
4. e.p.t.q. filler เหมาะกับใคร ?
5. e.p.t.q. filler มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร ?
6. e.p.t.q. filler เปรียบเทียบกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นเป็นอย่างไร ?
7. ฉีด e.p.t.q. filler ร่วมกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นได้ไหม ?
8. ใช้ e.p.t.q. filler ร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม ?
9. e.p.t.q. filler ผ่าน อย.ไหม ?
10. e.p.t.q. filler นิยมฉีดบริเวณไหนบ้าง ?
11. e.p.t.q. filler อันตรายไหม ?
12. e.p.t.q. filler อยู่ได้นานแค่ไหน ?
13. ฉีด e.p.t.q. filler กี่วันเห็นผล ?
14. e.p.t.q. filler มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?
15. e.p.t.q. filler ของแท้ ดูอย่างไร ?
16. e.p.t.q. filler ราคาเท่าไหร่ ?
17. e.p.t.q. filler รีวิว

e.p.t.q. filler คืออะไร ?

e.p.t.q. (อีพีทีคิว) หรือ epitique Hyaluronic Acid Filler คือ ยี่ห้อฟิลเลอร์สัญชาติเกาหลี เป็นสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด มีคุณสมบัติช่วยในการเติมเต็มร่องลึก ลดริ้วรอย และปรับรูปหน้า ผลิตโดย JETEMA Co.,Ltd. ประเทศเกาหลี เมื่อปี 2020 ปัจจุบัน นำเข้าจำหน่ายในไทยอย่างถูกต้องโดยบริษัท aestema co. ltd ประเทศไทย   

e.p.t.q. filler ดีไหม จุดเด่นคืออะไร ?

จุดเด่น e.p.t.q. filler อยู่ที่เทคโนโลยีที่ใช้ในกระบวนการผลิต ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ ทำให้ฟิลเลอร์มีคุณภาพและได้มาตรฐาน โดยสามารถอธิบายได้ด้วยชื่อยี่ห้อ e.p.t.q. ดังนี้  

• e : efficiency ใช้ Hyaluronic Acid (HA) ในปริมาณความเข้มข้น 24 mg./ml. ในแบบโครงสร้างรวงผึ้ง หรือ HIVE Structure
• p : potential ใช้กระบวนการผลิตแบบ ZEEP Technology (Zero Endotoxin & BDDE Entire Process) ลดโอกาสการแพ้และผลข้างเคียง
• t : technology ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ 2CM Technology (2 Crosslinking Method) เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะของโมเลกุล HA ให้แน่นยิ่งขึ้น ยืดหยุ่นมากขึ้น และ Downing Process ทำให้ฟิลเลอร์อนุภาคเล็ก เนื้อละเอียด กลืนไปกับผิว 
• q : quality ใช้เกณฑ์ The 9 Essential ควบคุมคุณภาพการผลิตด้วยมาตรฐานระดับสากล

e.p.t.q. filler มีกระบวนการทำงานอย่างไร ?

กระบวนการทำงานของ e.p.t.q. Filler เมื่อฉีดลงในชั้นผิวหรือใต้ผิวหนัง HA จะมีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำและอุ้มน้ำไว้ ทดแทนคอลลาเจนและอีลาสตินที่เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวหนังที่เป็นริ้วรอยร่องลึกตื้นขึ้น ผิวมีความยืดหยุ่น กระชับ เรียบเนียน สภาพผิวดูสม่ำเสมอ 

e.p.t.q. filler เหมาะกับใคร ?

• คนที่ต้องการยกกระชับ ปรับรูปหน้า ปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ 
• คนที่ต้องการลดริ้วรอยร่องลึก เช่น ริ้วรอยใต้ตา ริ้วรอยร่องแก้ม หรือเติมเต็มขมับ ฉีดคางเสริมคางยาว และปรับทรงปาก 
• คนไข้ที่มีงบประมาณจำกัด อยากได้ความคุ้มค่า เนื่องจาก e.p.t.q. filler ราคาถูกกว่าฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ตามท้องตลาด
• คนที่ไม่อยากผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น ต้องการเห็นผลลัพธ์เร่งด่วน 
• คนที่กลัวเจ็บ เพราะ e.p.t.q. Filler ผสมยาชาทุกรุ่น ช่วยลดความเจ็บขณะฉีดได้

e.p.t.q. filler มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร ?

ฟิลเลอร์ e.p.t.q. จะมีด้วยกันทั้งหมด 5  รุ่น แต่ผ่าน อย.ไทย เพียง 3 รุ่นครับ ซึ่งแต่ละรุ่นมีความแตกต่างกันทั้งในด้านลักษณะ คุณสมบัติ และความเหมาะสมในการเติมเต็มใบหน้าในแต่ละบริเวณ ดังนี้ 

e.p.t.q. S100 (สีเขียว)

ฟิลเลอร์ e.p.t.q. S100 เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เจลอนุภาคเล็ก นิยมใช้ฉีดเพื่อแก้ไขจุดที่มีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ในผิวชั้นตื้น เหมาะสำหรับฉีดปรับสภาพผิว บำรุงผิวชุ่มชื้น และฉีดเก็บรายละเอียดริ้วรอยใต้ตา/ปาก 

e.p.t.q. S300 (สีส้ม)

ฟิลเลอร์ e.p.t.q. S300 เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีลักษณะยืดหยุ่น นิยมฉีดในผิวหนังชั้นกลางและชั้นลึกเพื่อเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก ลดริ้วรอยหย่อนคล้อยตามวัย เช่น ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแก้ปัญหาเบ้าตาลึก/ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก/ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม/ฉีดฟิลเลอร์ปากปรับทรงปาก

e.p.t.q. S500 (สีน้ำเงิน)

ฟิลเลอร์ e.p.t.q. S500 เป็นฟิลเลอร์เนื้อแน่น มีความคงตัวสูง ไม่ฟู และสามารถคงรูปได้ดี ใช้แก้ปัญหาร่องลึกมาก ๆ จากการยุบตัวของผิวชั้นลึก ฉีดเสริมกระดูก ทดแทนคอลลาเจนที่หายไปจากอายุที่มากขึ้น เช่น ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา/ฟิลเลอร์ร่องแก้ม/ฟิลเลอร์กรอบหน้า/ฟิลเลอร์คาง/ฟิลเลอร์จมูก 

e.p.t.q. filler เปรียบเทียบกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นเป็นอย่างไร ?

เปรียบเทียบ e.p.t.q. filler กับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ที่ผ่าน อย. ไทย เช่น ฟิลเลอร์ Juvederm อเมริกา, ฟิลเลอร์ Restylane สวีเดน, ฟิลเลอร์ Belotero สวิตเซอร์แลนด์, ฟิลเลอร์ Teoxane สวิตเซอร์แลนด์, ฟิลเลอร์ Definisse อิตาลี และ ฟิลเลอร์ Neuramis เกาหลี นอกจากแหล่งผลิตจะต่างกันแล้ว ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อยังใช้เทคโนโลยีในการผลิตที่ต่างกันด้วยครับ จึงเป็นเหตุผลให้มีคุณสมบัติที่ไม่เหมือนกัน และเหมาะกับการนำมาใช้แก้ปัญหาที่ต่างกันด้วย ดังนี้

ฉีด e.p.t.q. filler ร่วมกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นได้ไหม ?

การฉีด e.p.t.q. Filler ร่วมกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น สามารถทำได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและการประเมินของแพทย์ครับ ทั้งนี้ต้องเป็นการฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ใช่ในบริเวณเดียวกัน เพราะฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อมีส่วนประกอบและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน การฉีดฟิลเลอร์ต่างยี่ห้อในจุดเดียวกันอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงหรือมีอาการแพ้ได้ครับ 

ใช้ e.p.t.q. filler ร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม ?

การฉีดฟิลเลอร์ e.p.t.q. สามารถทำร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์ในจุดอื่น ๆ หรือทำร่วมกับหัตถการอื่น เช่น ฉีดโบท็อก, ร้อยไหม, ฉีดเมโส, หรือทำร่วมกับเครื่องยกกระชับ เช่น Hifu Ultraformer lll, Ulthera SPT, Thermage FLX ได้ครับ หมอจะแนะนำว่าควรทำหัตถการไหนก่อน-หลัง โดยพิจารณาเป็นรายเคสไปครับ

e.p.t.q. filler ผ่าน อย.ไหม ?

ฟิลเลอร์​ยี่ห้อ e.p.t.q. ปัจจุบันมี 3 รุ่นที่ผ่าน อย.ไทยแล้ว คือ e.p.t.q. S100, e.p.t.q. S300 และ e.p.t.q. S500 

e.p.t.q. filler นิยมฉีดบริเวณไหนบ้าง ? 

e.p.t.q. filler สามารถฉีดได้หลายตำแหน่งบนใบหน้าครับ ตำแหน่งฉีดฟิลเลอร์ที่นิยม ได้แก่

• ฟิลเลอร์ใต้ตา
• ฟิลเลอร์ปาก
• ฟิลเลอร์ยกหน้า
• ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
• ฟิลเลอร์คาง
• ฟิลเลอร์ขมับ
• ฟิลเลอร์หน้าผาก

e.p.t.q. filler อันตรายไหม ?

การฉีดฟิลเลอร์​ยี่ห้อ e.p.t.q. มีความปลอดภัยครับ เนื่องจากเป็นสาร Hyaluronic acid สามารถสลายได้เอง ตัวฟิลเลอร์ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก U.S.FDA, EDQM และ อย.ไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งในกระบวนการผลิตฟิลเลอร์ยังใช้เทคนิคแบบ ZEEP Technology ที่ช่วยลดสารตัวก่อให้เกิดการแพ้ระคายเคือง และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้ด้วย

e.p.t.q. filler อยู่ได้นานแค่ไหน ?

• e.p.t.q. S100 อยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน
• e.p.t.q. S300 อยู่ได้นานประมาณ 8 เดือน
• e.p.t.q. S500 อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน

ฉีด e.p.t.q. filler กี่วันเห็นผล ?

ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ e.p.t.q. จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีประมาณ 70-80% ครับ และฟิลเลอร์จะเข้าที่ เรียบเนียนไปกับผิว เห็นผลลัพธ์ชัดเจนเต็มที่ใน 2 สัปดาห์หลังฉีด 

e.p.t.q. filler มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?

ข้อดี e.p.t.q. Filler คือ ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัย อยู่ในราคาที่จับต้องได้ เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีงบประมาณจำกัด แต่เนื้อฟิลเลอร์ยังมีให้เลือกใช้ไม่หลากหลายและระยะเวลาการคงผลลัพธ์จะอยู่ได้สั้นกว่า ทำให้ได้รับความนิยมน้อยกว่าฟิลเลอร์ทางฝั่งยุโรป อเมริกาครับ  

e.p.t.q. filler ของแท้ ดูอย่างไร ?

วิธีการดูฟิลเลอร์ e.p.t.q. ของแท้ สามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเองในเบื้องต้น โดยมีจุดสังเกต ดังนี้ 

• มี QR CODE ที่ติดอยู่ด้านหน้ากล่อง 
• สีโลโก้ e.p.t.q. แต่ละรุ่นมีสีต่างกัน (S500 สีน้ำเงิน, S300 สีส้ม, S100 สีเขียว) 
• มีโลโก้บริษัท เอสทีมา จำกัด ด้านข้างกล่อง 
• มีเลขทะเบียนอย. ด้านหลังกล่อง 
• มีเอกสารกำกับภาษาไทย 

e.p.t.q. filler ราคาเท่าไหร่ ?

e.p.t.q. filler ราคาส่วนใหญ่จะเริ่มต้นที่ 6,000.-/1 CC ซึ่งถือว่าถูกกว่าฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ แต่ระยะเวลาก็จะอยู่ได้สั้นกว่า เหมาะกับคนไข้ที่มีงบประมาณจำกัด อยากได้ความคุ้มค่าครับ

e.p.t.q. filler รีวิว

สรุป

e.p.t.q. Filler เป็นฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลี มีความปลอดภัย ผ่านการรับรองจาก อย.ไทย U.S.FDA และ EDQM สามารถฉีดได้หลายตำแหน่งบนใบหน้า ใช้ฉีดปรับรูปหน้า ลดริ้วรอย ปรับสภาพผิวเรียบเนียน ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ด้วยราคาที่ย่อมเยา เข้าถึงได้ e.p.t.q. Filler จึงถือเป็นฟิลเลอร์อีกหนึ่งตัวที่คุ้มค่า และตอบโจทย์สำหรับคนไข้ที่อยากฉีดฟิลเลอร์แต่มีงบประมาณจำกัดครับ

---

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ฟิลเลอร์ Definisse

ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้ในคลินิกเสริมความงาม ปัจจุบันมีหลายยี่ห้อ นำเข้าจากหลายประเทศ ฟิลเลอร์ Definisse เป็นหนึ่งในยี่ห้อฟิลเลอร์พรีเมียม ฉีดเติมเต็มปรับรูปหน้าได้หลายตำแหน่ง บทความนี้หมอจะพามาอัปเดตข้อมูล Definisse filler ฟิลเลอร์อิตาลีว่ามีความน่าสนใจอย่างไร ? เหมาะกับการฉีดตำแหน่งไหน ? ทำไมถึงต้องเลือกฉีด filler definisse ครับ

สารบัญ ฟิลเลอร์ Definisse  

1. ฟิลเลอร์ Definisse มีที่มาอย่างไร ?  
2. ฟิลเลอร์ Definisse ดีอย่างไร ? 
3. ฟิลเลอร์ Definisse มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร ?  
   • Definisse Restore  
   • Definisse Core  
   • Definisse Touch  
4. ฟิลเลอร์ Definisse ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ?  
5. ฟิลเลอร์ Definisse สามารถฉีดร่วมกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นได้ไหม ?  
6. ฟิลเลอร์ Definisse สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม ?  
7. ฟิลเลอร์ Definisse ผ่านอย.ไหม ?  
8. ฟิลเลอร์ Definisse นิยมฉีดตำแหน่งไหน ใช้กี่ CC ?  
9. ฟิลเลอร์ Definisse อยู่ได้นานไหม ?  
10. ฟิลเลอร์ Definisse กี่วันเห็นผล ?  
11. วิธีปฏิบัติตัวก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์ Definisse เพื่อผลลัพธ์ที่ดี  
    • ก่อนฉีดฟิลเลอร์ Definisse 
    • หลังฉีดฟิลเลอร์ Definisse 
12. ฟิลเลอร์ Definisse มีข้อเสียไหม ?
13. ฟิลเลอร์ Definisse ของแท้ ดูอย่างไร ?
14. ฟิลเลอร์ Definisse ราคา  
15. ฟิลเลอร์ Definisse รีวิว

---

ฟิลเลอร์ Definisse มีที่มาอย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Definisse เป็นฟิลเลอร์ที่มาจากประเทศอิตาลี ผลิตโดย Relife Company ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ A.Menarini บริษัทด้านเวชศาสตร์ความงามระดับโลก นำเข้าและจัดจำหน่ายในประเทศไทย โดย บริษัท เอ.เมนารินี (ประเทศไทย) จำกัด

ส่วนประกอบหลักของฟิลเลอร์ Definisse เป็นไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ HA ซึ่งเป็นสารเติมเต็มที่ผลิตขึ้นมาเพื่อเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ ช่วยให้ผิวยืดหยุ่น กระชับ เต่งตึง แต่เมื่ออายุมากขึ้น HA จะลดลงเรื่อย ๆ สัญญาณผิวแก่ เช่น ริ้วรอย ร่องลึกตามตำแหน่งต่าง ๆ บนใบหน้าจึงตามมาครับ

ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถผลิตฟิลเลอร์ที่สามารถฉีดเพื่อทดแทนหรือเติมเต็มในชั้นผิว เพื่อแก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึกเหล่านี้ ให้ผลลัพธ์ดีและมีความปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดการแพ้ 

Filler Definisse ผลิตด้วยเทคโนโลยี XTR™ Technology (eXcellent Three-dimensional Reticulation) ทำให้ฟิลเลอร์สานกันเป็นเหมือนร่างแหหรือตาข่าย ช่วยในการยกพยุง ปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ผ่านกระบวนการผลิต 3 ขั้นตอน คือ 

1. Pretreatment ควบคุม HA ให้อยู่ในโครงสร้างที่เหมาะสม ทั้ง Low molecular weight และ High molecular weight
2. Cross-linking มีการเชื่อมพันธะเกาะเกี่ยวกันอย่างแน่นหนา ทำให้เนื้อฟิลเลอร์คงรูปได้ดี ปั้นทรงง่าย และอยู่ได้นานขึ้น
3. Purification กำจัดสาร BDDE ซึ่งเป็นสารที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ ทำให้ฟิลเลอร์บริสุทธิ์สูงโอกาสแพ้น้อยมาก ไม่มีอาการบวม หรือบวมเล็กน้อยหลังฉีด

---

ฟิลเลอร์ Definisse ดีอย่างไร ? 

• คุณภาพสูงและปลอดภัย ฟิลเลอร์ Definisse ผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง XTR™ Technology ทำให้ฟิลเลอร์มีคุณภาพสูง ความบริสุทธิ์สูง ลดความเสี่ยงเกิดอาการแพ้
• ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ หลังฉีด ฟิลเลอร์ Definisse แทบไม่มีอาการบวมหรือบวมเพียงเล็กน้อย ทำให้แพทย์สามารถประเมินผลลัพธ์หลังฉีดได้ทันที ฉีดในปริมาณ CC ที่พอเหมาะก็เห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจน ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ 
• ฉีดสะดวก เจ็บน้อย ด้วย Innovative Glass Syringe หลอดฉีดผลิตจากแก้วคุณภาพพรีเมียม ออกแบบมาให้มีแรงอัดขณะฉีดต่ำ ลดแรงกดบนใบหน้า และสะดวกต่อการใช้งานของแพทย์
• มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน แพทย์สามารถเลือกใช้เพื่อเติมเต็มและปรับรูปหน้าได้หลายส่วน ตั้งแต่ช่วง Upper Face (ขมับ) Middle Face (ใต้ตา Mid-Face) ไปจนถึง Lower Face (ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ปาก คาง กรอบหน้า) 

---

ฟิลเลอร์ Definisse มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร ?

Definisse filler พัฒนาออกมาทั้งหมด 4 รุ่น คือ 

• Definisse รุ่น Touch 
• Definisse รุ่น Restore 
• Definisse รุ่น Core 
• Definisse รุ่น Hydrobooster 

ที่ V Square Clinic เลือกใช้ 3 รุ่นที่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สำหรับคุณสมบัติของแต่ละรุ่นเป็นอย่างไร ? เหมาะฉีดตำแหน่งไหน ? ไปดูรายละเอียดแต่ละรุ่นกันครับ

Definisse Touch

ฟิลเลอร์ Definisse รุ่น Touch ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เนียนละเอียด แต่ขึ้นรูปได้ดี เหมาะฉีดผิวหนังชั้นหนังแท้ระดับกลาง-ลึก (Mid to Deep Dermis) เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ปาก

Definisse Restore

ฟิลเลอร์ Definisse รุ่น Restore เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความแข็งปานกลาง ฉีดผิวหนังชั้นหนังแท้ (Dermis) ถึงชั้นไขมัน เพื่อเติมริ้วรอยร่องลึก ริ้วรอยหย่อนคล้อยตามวัย เช่น ร่องแก้ม ร่องมุมปาก

Definisse Core

ฟิลเลอร์ Definisse รุ่น Core ฟิลเลอร์เนื้อแน่น ฉีดผิวหนังชั้นหนังแท้ระดับลึก (Deep Dermis) ชั้นไขมัน หรือชั้นเหนือเยื่อหุ้มกระดูก (Supraperiosteal) เหมาะกับการเสริมกระดูก ปรับรูปหน้า เช่น ขมับ Mid-Face คาง กรอบหน้า  

---

ฟิลเลอร์ Definisse ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ?

ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แม้ว่าจะเป็น HA เหมือนกัน แต่ถ้าเจาะลึกไปถึงเทคโนโลยีการผลิต คุณสมบัติของฟิลเลอร์ จุดเด่น รวมถึงราคา มีความแตกต่างกัน หมอสรุปความแตกต่างของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อไว้ ดังนี้ 

• ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Definisse (อิตาลี) ผลิตด้วย XTR™ Technology ทำให้ HA สานกันเป็นร่างแห ช่วยในเรื่องการยกพยุง ปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ
• ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm (อเมริกา) ผลิตด้วย 2 เทคโนโลยี คือ Hylacross Technology เด่นในเรื่องอุ้มน้ำ ฉีดแล้วฟู ยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับได้ดี ส่วน Vycross Technologgy เด่นในเรื่องยกกระชับ ฉีดแล้วเรียบเนียน ไม่เป็นก้อน และอยู่ได้นาน
• ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane (สวีเดน) ผลิตด้วย NASHA Technology และ OBT Technology เด่นเรื่องขนาดโมเลกุลฟิลเลอร์มีเม็ดใหญ่ ช่วยให้อยู่ได้นานขึ้น และมีค่าความแข็งสูง คงรูปได้ดี เด่นเรื่องยกพยุงผิว
• ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero (สวิตเซอร์แลนด์) ผลิตด้วยเทคโนโลยี CPM (Cohesive Polydensified Matrix) เด่นเรื่องความยืดหยุ่น เพิ่มการยึดเกาะให้ฟิลเลอร์แน่นเป็นเนื้อเดียวกัน หลังฉีดเรียบเนียน ไม่เป็นก้อน
• ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Teoxane (สวิตเซอร์แแลนด์) ใช้เทคโนโลยี Ground breaking Preserved Network หรือ PNT ในการผลิต ทำให้ฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูงกลืนกับผิวได้ดี ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
• ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Flore (เกาหลี) ใช้เทคโนโลยี HCCL™ (Highly Completed Cross-Linking) Technology ในการผลิต ทำให้ฟิลเลอร์มีการ Cross-linked แบบพิเศษ โครงสร้างเป็น 3D matrix ลักษณะคล้ายโครงตาข่าย จึงคงรูปได้ดี ปั้นทรงง่าย
• ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Neuramis (เกาหลี) ผลิตด้วย SHAPE Technology เนื้อมีความยืดหยุ่น คงตัว ขึ้นทรงสวย ช่วยเติมเต็ม ยกกระชับ ปรับรูปหน้าได้หลายตำแหน่ง 

ปัจจุบันยี่ห้อฟิลเลอร์แทบทุกรุ่น จะมียาชาผสมอยู่ด้วย ช่วยลดความเจ็บขณะฉีด คนไข้สามารถสังเกตที่หน้ากล่องฟิลเลอร์ได้ครับ รุ่นไหนที่มียาชาจะมีคำว่า Lidocaine ระบุไว้ และแต่ละยี่ห้อ ยังแยกย่อยออกเป็นรุ่นต่าง ๆ อีกหลายรุ่น เนื้อฟิลเลอร์ต่างกัน เช่น เนื้อละเอียด เนื้อนิ่ม เนื้อแน่น เพื่อให้แพทย์เลือกใช้แก้ปัญหาอย่างตรงจุด

ส่วนเรื่องของราคา จะเห็นได้ว่าแหล่งผลิตฟิลเลอร์หลัก ๆ มาจากประเทศฝั่งยุโรป (อเมริกา, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์, อิตาลี) และประเทศฝั่งเอเชีย (เกาหลี) มั่นใจได้ในเรื่องประสิทธิภาพ ส่วนเรื่องความปลอดภัย ทุกยี่ห้อผ่านการรับรองจากอย. จะแตกต่างกันอยู่บ้างในเรื่องของระยะเวลาคงผลลัพธ์ และราคา ถ้าคนไข้เชื่อมั่นในแบรนด์ยุโรป ไม่ติดเรื่องงบประมาณ อยากคงผลลัพธ์ได้นาน ๆ หมอแนะนำแบรนด์ฝั่งยุโรปครับ

---

ฟิลเลอร์ Definisse สามารถฉีดร่วมกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นได้ไหม ? 

ฟิลเลอร์ต่างยี่ห้อ ต่างรุ่นกัน สามารถฉีดร่วมกันได้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น หมอจะประเมินเป็นรายเคส ยกตัวอย่างเคสนี้ คนไข้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หน้าแก้ม และ Indian line โดยใช้ฟิลเลอร์ Definisse รุ่น Core เติมในผิวชั้นลึกร่วมกับการใช้ฟิลเลอร์รุ่น Restylane ผลลัพธ์หลังทำคือใต้ตาดูเต็มกระชับขึ้น ถุงใต้ตาลดลงครับ

---

ฟิลเลอร์ Definisse สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม ? 

ฉีดฟิลเลอร์ Definisse สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ เช่น ถ้าคนไข้อยากย้อนอายุ ล็อกหน้าเด็กอย่างเป็นธรรมชาติ หมอแนะนำ 3 หัตถการที่สามารถทำร่วมกันได้เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น คือ ฉีดฟิลเลอร์ ฉีดโบท็อกซ์ และกลุ่มเครื่องยกกระชับ Hifu, Ulthera และ Thermage 

• ฟิลเลอร์ เติมเต็มริ้วรอยร่องลึก ผิวดูอิ่มฟู สดใส แนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับฟิลเลอร์ร่องแก้มคู่กัน จะช่วยให้หน้ายิ่งดูเต็มสวย เด็กลง ดูเป็นธรรมชาติ
• โบท็อกซ์ ลดริ้วรอยบริเวณหน้าผาก รอบดวงตา หางตา ตีนกา ให้ผิวกลับมาเต่งตึง ไม่มีรอยย่น ใบหน้าดูอ่อนเยาว์
• Hifu, Ulthera และ Thermage ยกกระชับผิวหย่อนคล้อย ลดริ้วรอย กระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสตินให้ผิวเต่งตึง เรียนเนียน ดูอ่อนเยาว์ หน้าเด็กขึ้น

---

ฟิลเลอร์ Definisse ผ่านอย. ไหม ?

ฟิลเลอร์ Definisse ผ่านการรับรองจากอย. สามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ของอย. ไม่เฉพาะฟิลเลอร์ Definisse เท่านั้น แต่ยังรวมถึงฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ก็สามารถเช็กด้วยวิธีนี้ได้เหมือนกันครับ เพื่อความปลอดภัย    

---

ฟิลเลอร์ Definisse นิยมฉีดตำแหน่งไหน ใช้กี่ CC ?

ฟิลเลอร์อิตาลี Definisse มีหลายรุ่นให้แพทย์เลือกใช้ ฉีดได้หลายตำแหน่ง แต่ละตำแหน่ง แต่ละคนใช้ปริมาณ CC ไม่เท่ากันได้ ขึ้นอยู่กับปัญหา ทุกเคสก่อนฉีดหมอจะประเมินก่อนครับ ปริมาณคร่าว ๆ ในการฉีดแต่ละตำแหน่ง และรุ่นฟิลเลอร์ที่ใช้ หมอแนะนำดังนี้

• ฟิลเลอร์ใต้ตา 2-4 CC แนะนำ Definisse รุ่น Touch 
• ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ร่องมุมปาก 1-3 CC แนะนำ Definisse รุ่น Touch และรุ่น Restore 
• ฟิลเลอร์ปาก 1-2 CC แนะนำ Definisse รุ่น Touch 
• ฟิลเลอร์ขมับ 2-4 CC แนะนำ Definisse รุ่น Core
• ฟิลเลอร์แก้มส้ม 1-2 CC แนะนำ Definisse รุ่น Core 
• ฟิลเลอร์กรอบหน้า 2-4 CC แนะนำ Definisse รุ่น Core 
• ฟิลเลอร์คาง 1-2 CC แนะนำ Definisse รุ่น Core 

---

ฟิลเลอร์ Definisse อยู่ได้นานไหม ?

ฟิลเลอร์ Definisse อยู่ได้นาน 8-18 เดือน แต่ละรุ่นแตกต่างกัน ดังนี้

• ฟิลเลอร์ Definisse รุ่น Restore อยู่ได้นาน 12 เดือน 
• ฟิลเลอร์ Definisse รุ่น Core อยู่ได้นาน 18 เดือน 
• ฟิลเลอร์ Definisse รุ่น Touch อยู่ได้นาน 8-12 เดือน 

---

ฟิลเลอร์ Definisse กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ Definisse เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที เพราะแทบไม่มีอาการบวมหรือบวมเล็กน้อยผลลัพธ์ค่อนข้างชัดเจน แต่ยังไม่ 100% ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ถึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนเต็มที่ครับ 

---

วิธีปฏิบัติตัวก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์ Definisse เพื่อผลลัพธ์ที่ดี

วิธีปฏิบัติตัวก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์เป็นอีกสิ่งที่หมอแนะนำนะครับ เพื่อลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง และคงผลลัพธ์ให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานยิ่งขึ้น 

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ Definisse

• งดกลุ่มยาที่ทำให้เลือดแข็งตัวช้า เช่น แอสไพริน วิตามิน E 
• งดยาผลัดเซลล์ผิว การดึงหรือโกนขนบริเวณที่ฉีด
• งดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง
• งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด

หลังฉีดฟิลเลอร์ Definisse

• ดื่มน้ำให้เพียงพอ 1.5-2 ลิตร/วัน 
• งดบีบ นวด แกะ เกา บริเวณที่ฉีด 
• งดดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ อาหารหมักดอง (48 ชั่วโมง) 
• งดเลเซอร์ร้อนลงผิวชั้นลึก 1 เดือน

---

ฟิลเลอร์ Definisse มีข้อเสียไหม ?

ฟิลเลอร์ Definisse มีข้อดีมากกว่าข้อเสียครับ หลังฉีดฟิลเลอร์เห็นการเปลี่ยนแปลงทันที ผลลัพธ์ชัดเจน เป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เหมาะฉีดปรับรูปหน้า เติมเต็มแก้ไขจุดบกพร่อง ให้ผลลัพธ์สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ สามารถปรับแต่งได้เรื่อย ๆ หากไม่พอใจผลลัพธ์ สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้

ส่วนข้อเสียที่พบ เช่น ฟิลเลอร์เป็นก้อนบวม ฉีดออกมาไม่สวย ผลลัพธ์ไม่ได้ตามต้องการ เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ หรืออีกกรณีคือพลาดฉีดฟิลเลอร์ปลอม จำพวกพาราฟิน ซิลิโคนเหลว ซึ่งถือเป็นสารแปลกปลอม เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ก่อให้เกิดผลเสียหรือ ผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย เช่น

• บวม แดง อักเสบติดเชื้อ
• บวม ห้อยย้อย เป็นก้อนแข็ง
• ไหลกองลงมาเป็นก้อน
• ผิวหนังบริเวณที่ฉีดผิดรูป
• เนื้อตาย เกิดพังผืด

---

ฟิลเลอร์ Definisse ของแท้ ดูอย่างไร ?

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ Definisse ควรเช็กก่อนว่าฟิลเลอร์ที่ฉีดนั้นเป็นฟิลเลอร์แท้หรือไม่ โดยสามารถตรวจสอบได้เบื้องต้น ดังนี้ 

• ฟิลเลอร์ Definisse ของแท้มีเลขทะเบียน อย. เอกสารกำกับภาษาไทย  และภาษาอังกฤษ  
• เลข Lot ตรงกัน 3 จุด ที่ด้านหลังกล่อง ข้างกล่อง และหลอด 
• รอยประด้านข้างกล่องปิดสนิท 
• สติกเกอร์ลอกออกได้ เพื่อนำไปติด OPD Card 
• โทรสอบถามเลข Lot ได้ที่บริษัท เอ.เมนารินี (ประเทศไทย) จำกัด 02 696 8500 ต่อ 3

ฉีดฟิลเลอร์ Definisse ที่ V Square Clinic หมอแกะกล่องใหม่ทุกเคส ให้กล่องและหลอดกลับบ้านสามารถตรวจสอบกับบริษัทนำเข้าได้ว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ 100%

---

ฟิลเลอร์ Definisse ราคา

ฟิลเลอร์ Definisse ราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ โดยแต่ละคลินิกราคาแตกต่างกันได้ครับ ขึ้นอยู่กับโปรโมชันในช่วงนั้น ๆ และปริมาณ CC ที่ใช้

ฉีดฟิลเลอร์ Definisse ที่ V Square Clinic ราคา

• Definisse Restore ราคา 12,500.-/CC ปกติ 14,500.-
• Definisse Core ราคา 18,000.-/CC
• Definisse Touch ราคา 12,000.-/CC

---

ฟิลเลอร์ Definisse รีวิว

• รีวิว Definisse รุ่น Core  

เคสนี้มาฉีดฟิลเลอร์ขมับ เติมขมับยุบเป็นแอ่ง เพราะไม่มั่นใจเวลาขมับยุบ โหนกแก้มดูชัดเกินไป หมอปรับแก้หน้าดุ ให้ดูหวานละมุน ด้วยฟิลเลอร์ขมับ Definisse รุ่น Core  

---

สรุป

ฟิลเลอร์ Definisse จากอิตาลี เป็นฟิลเลอร์คุณภาพสูงและปลอดภัย  ด้วยเทคโนโลยีการผลิตเฉพาะ ทำให้ฟิลเลอร์สานกันเป็นเหมือนร่างแห สามารถยกพยุง ปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ มีหลายรุ่นให้แพทย์เลือกใช้ เพื่อแก้ปัญหาของคนไข้ได้ในหลายตำแหน่ง เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ปาก ขมับ แก้มส้ม กรอบหน้า คาง 

ทีมแพทย์ V Square Clinic มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ Definisse ผ่านการอบรมเทรนนิ่ง ได้รับ Certificate of Attendance : Definisse Thread to facial reshaping มั่นใจในผลลัพธ์หลังฉีดครับ

---

อ้างอิง : 

• https://www.relife.ie/aesthetic-medicine/definisse-fillers/ 

---

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Flore filler หรือฟิลเลอร์ฟลอเร่ เป็นยี่ห้อฟิลเลอร์เกาหลีที่ให้ผลลัพธ์ดีในราคาย่อมเยาครับ ถ้าคนไข้อยากฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ในงบเริ่มต้นไม่ถึงหมื่น Flore ฟิลเลอร์ เป็นหนึ่งในตัวเลือกครับ มาทำความรู้จักฟิลเลอร์ Flore คืออะไร ? เหมาะกับใคร ? นิยมฉีดจุดไหน ? กี่วันเห็นผล ? ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ? หมอเปรียบเทียบจุดเด่นฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ เพื่อประกอบการตัดสินใจ ฉีดฟิลเลอร์เกาหลี Flore ดีไหม ? หรือจะขยับไปฉีดฟิลเลอร์แบรนด์ยุโรปดี ?

สารบัญ Flore filler

1. Flore filler คืออะไร ?
2. Flore filler ดีอย่างไร ?
3. Flore filler เหมาะกับใคร ?
4. Flore filler มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร ?
   • Flore Max
   • Flore Aqua-S
   • Flore N
   • Flore Max 1400
   • Flore S
5. Flore filler ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ?
6. ฉีด Flore filler ร่วมกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นได้ไหม ?
7. ใช้ Flore filler ร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม ?
8. Flore filler ผ่านอย.ไหม ?
9. Flore filler นิยมฉีดตำแหน่งไหน ? ใช้กี่ CC ?
10. Flore filler มีผลข้างเคียงไหม ?
11. Flore filler อยู่ได้นานไหม ?
12. ฉีด Flore filler กี่วันเห็นผล ?
13. Flore filler มีข้อเสียไหม ?
14. Flore filler ของแท้ ดูอย่างไร ?
15. Flore filler ราคา
16. ฉีด Flore filler ที่ไหนดี ?

---

Flore filler คืออะไร ?

ฟิลเลอร์ Flore คือ ยี่ห้อฟิลเลอร์สัญชาติเกาหลี ที่ผ่านการรับรองจากอย.อเมริกา (U.S.FDA) เกาหลี (KFDA) และไทย (FDA Thai) เป็นฟิลเลอร์เกาหลีมาตรฐานยุโรปที่มีความปลอดภัย สามารถฉีดเติมเต็ม ปรับรูปหน้าให้สวยละมุน ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ วิจัยและผลิตโดย BNC KOREA Co, Ltd นำเข้าและจัดจำหน่ายในประเทศไทยโดยบริษัท บอน-ชอง จำกัด (Bon-Song Company Limited)

Flore filler ใช้ 2 เทคโนโลยีในการผลิต คือ HCCL™ (Highly Completed Cross-Linking) Technology ทำให้ฟิลเลอร์มีความปลอดภัยสูง ผ่านกระบวนการทำให้บริสุทธิ์ (Purication) ไม่ก่อให้เกิดการแพ้ และมีการ Cross-linked แบบพิเศษ โครงสร้างเป็น 3D matrix ลักษณะคล้ายโครงตาข่าย จึงคงรูปได้ดี ปั้นทรงง่าย

อีกเทคโนโลยี คือ Particle Plastic Process (PP process) ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีขนาดอนุภาค (Particle Size) เท่า ๆ กัน ฉีดง่าย ปั้นทรงง่าย ไม่เป็นก้อน เรียบเนียนไปกับผิว ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ และยังส่งผลในเรื่องของ Long Lasting หรือการสลายของฟิลเลอร์ที่ช้าลง คงผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้นครับ  

---

Flore filler ดีอย่างไร ?

• ฉีดเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก ปรับรูปหน้าได้ละมุนเป็นธรรมชาติ
• ปรับสภาพผิวหน้า ฟื้นฟูผิวแห้งกร้าน ขาดน้ำ ลดริ้วรอยเล็ก ๆ
• เติมเต็มหลุมสิวให้ตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียนขึ้น
• มีความปลอดภัย ผ่านการรับรองจากอย.
• เห็นผลเร็ว หลังฉีดเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที
• สามารถใช้หน้าได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ
• เป็นฟิลเลอร์เกาหลีมาตรฐานยุโรปที่มีราคาย่อมเยา

---

Flore filler เหมาะกับใคร ? 

• ผู้ที่มีปัญหาคางสั้น คางตัด คางถอย คางบุ๋ม ต้องการเสริมคาง ปรับรูปหน้าเรียว V-Shape
• ผู้ที่มีปัญหาขมับตอบ ขมับเป็นแอ่งลึก ต้องการเติมขมับ ปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วน มีมิติ
• ผู้ที่ต้องการลดโหนกแก้มเด่น ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ช่วยลดความเด่นของโหนกแก้ม ปรับรูปหน้าหวานละมุน 
• ผู้ที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้ง เช่น เติมคางให้สมส่วนรับกับใบหน้า คางที่สวยจะช่วยให้ชีวิตบั้นปลายมั่นคง มีความสุขสมบูรณ์ หรือเติมขมับให้อิ่มเต็ม เสริมโหงวเฮ้งเรื่องการค้าขาย ธุรกิจ ความรัก 
• ผู้ที่ต้องการเห็นผลการเปลี่ยนแปลงหลังทำทันที   
• ผู้ที่ไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากมีแผล ไม่มีเวลาพักฟื้น

---

Flore filler มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Flore มีทั้งหมด 5 รุ่น แต่ละรุ่นมีความแตกต่างกัน ทั้งคุณสมบัติ ตำแหน่งฉีด ระยะเวลาอยู่ได้นาน รวมถึงกล่องฟิลเลอร์ที่มีสีสันแตกต่างกัน ช่วยให้จดจำได้ง่ายครับ 

Flore Max

Flore Max (กล่องสีส้ม) เป็นฟิลเลอร์เนื้อแน่น ขึ้นรูปได้ดี ปั้นทรงง่าย มีความละมุน ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน สามารถฉีดแก้ปัญหาในในไขมันชั้นลึก และเติมเต็มร่องลึกในตำแหน่งที่มีการขยับบ่อย ๆ เช่น คาง ขมับ อยู่ได้นาน 9-12 เดือน

Flore Aqua-S

Flore Aqua-S (กล่องสีฟ้า) เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ผิวดูอิ่มน้ำ ฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลี แก้ปัญหาผิวขาดน้ำ แห้งกร้าน ช่วยปรับสภาพผิวทั่วหน้า (Skin booster) เติมเต็มและกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ลดริ้วรอยเล็ก ๆ ในผิวชั้นตื้นให้กระชับขึ้น เช่น ริ้วรอยร่องมุมปาก ร่องแก้ม หน้าผาก คอ หลังมือ อยู่ได้นาน 6 เดือน

Flore N 

Flore N (กล่องสีเหลือง) เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม คงตัวและยืดหยุ่นปานกลาง ฉีดเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกปานกลางในผิวชั้นตื้นรวมถึงชั้นไขมัน เช่น ใต้ตา ร่องมุมปาก ร่องแก้ม ปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน เช่น เติมแก้มส้ม หน้าผาก ปาก ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 6-12 เดือน

Flore Max 1400 

Flore Max 1400 (กล่องสีแดง) เป็นฟิลเลอร์เนื้อแน่นมากกว่ารุ่นอื่น ๆ เนื้อมีความคงตัวและยืดหยุ่นมากที่สุด ขึ้นรูปได้ดีที่สุด นิยมฉีดเติมเต็มร่องลึกที่เกิดจากการทรุดตัวของกระดูก หรือฉีดในตำแหน่งที่ต้องการสร้าง volume เช่น แก้มส้ม คาง หน้าผาก จมูก กรอบหน้า อยู่ได้นาน 12 เดือน

Flore S  

Flore S (กล่องสีชมพู) เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม บางเบา กระจายตัวได้ดี ช่วยฟื้นฟูผิวชุ่มชื้น ปรับผิวให้เรียบเนียน นิยมฉีดลดริ้วรอยในผิวชั้นตื้น เช่น ริ้วรอยร่องมุมปาก ร่องน้ำหมาก ร่องแก้ม ริ้วรอยใต้ตา หางตา ลำคอ อยู่ได้นาน 6-12 เดือน 

---

Flore filler ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ?

นอกจากฟิลเลอร์ Flore ยังมีฟิลเลอร์อีกหลายยี่ห้อ หลายรุ่น จากหลายประเทศ หมอเปรียบเทียบให้ดูครับว่า แต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นและแตกต่างจากฟิลเลอร์ฟลอเร่อย่างไรบ้าง ?

• Flore ฟิลเลอร์เกาหลีที่ได้มาตรฐานสูง ในราคาย่อมเยา เริ่มต้นประมาณ 7,xxx.-/CC มีหลายรุ่น หลายเนื้อให้เลือกใช้ แต่ที่นิยมจะมีอยู่ 2 รุ่น คือ รุ่น Max เป็นตัวแรก ๆ ที่ทำให้หลายคนรู้จักฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้ เหมาะฉีดเติมคางและขมับ อีกรุ่น คือ รุ่น Aqua-S ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นตามเทรนด์งานผิว
• Neuramis ฟิลเลอร์เกาหลีที่มีราคาต่อ CC ใกล้เคียงกับฟิลเลอร์ Flore ที่นิยมใช้มี 2 รุ่น คือ รุ่น Deep และ รุ่น Volume เป็นฟิลเลอร์เนื้อแน่นทั้งคู่ เหมาะกับการฉีดผิวชั้นลึก เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม แก้มตอบ แก้มส้ม และเติมคาง ขมับได้ด้วยครับ
• Juvederm ฟิลเลอร์อเมริกา พัฒนาออกมาหลายรุ่น แก้ปัญหาได้ครอบคลุมแทบทุกตำแหน่ง แต่ละรุ่นมีจุดเด่นต่างกัน เช่น รุ่น Ultra Plus เด่นเรื่องความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับได้ดี รุ่น Volite, Voluma, Volift, Volbella และ Volux  เด่นในด้านเพิ่ม Volume ฉีดการยกกระชับได้ดี ด้วยความที่เป็นฟิลเลอร์ฝั่งยุโรป ราคาจึงสูงกว่า Flore เริ่มต้นอยู่ที่ 11,xxx-18,xxx.-/CC
• Restylane ฟิลเลอร์สวีเดน ฉีดได้หลายตำแหน่ง เด่นเรื่องความยืดหยุ่น คงตัว ปรับทรงได้หลากหลาย มีรุ่นเลือกใช้เยอะที่สุดในบรรดายี่ห้อฟิลเลอร์ที่หมอนำมาเปรียบเทียบ และมีหลายเนื้อให้เลือกใช้ แม้ว่าจะฉีดตำแหน่งเดียวกัน ก็อาจเลือกใช้เนื้อฟิลเลอร์ที่ต่างกันได้ในแต่ละเคส 

ยกตัวอย่างฉีดขมับ Restylane จะใช้รุ่น Volyme เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม แต่ของ Flore จะใช้รุ่น Max ซึ่งเป็นฟิลเลอร์เนื้อแน่น แม้ว่าจะฉีดตำแหน่งเดียวกัน ก็อาจเลือกใช้เนื้อฟิลเลอร์ที่ต่างกันได้ ขึ้นอยู่กับความลึกของขมับและสภาพผิวของคนไข้ 

• Belotero ฟิลเลอร์สวิตเซอร์แลนด์ ขึ้นชื่อในเรื่องความยืดหยุ่น คงตัว ปั้นทรงสวย ช่วยเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกที่เกิดจากการยุบตัวของกระดูก เช่น ใต้ตา หรือปรับรูปทรงปาก รวมถึงปรับสภาพผิว เช่น รุ่น Revive ซึ่งเป็น Skin Booster เหมือนกับ Flore รุ่น Aqua-S เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียดเหมือนกัน แต่ของ Belotero ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานกว่า ราคาจึงสูงกว่า
• Teoxane ฟิลเลอร์สวิตสวิตเซอร์แลนด์ เด่นในเรื่องของความยืดหยุ่น หลังฉีดเรียบเนียน กลืนกับผิวได้ดี ไม่เป็นก้อน ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ซึ่ง Flore ก็เด่นในด้านนี้เหมือนกัน แม้ว่าจะใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ต่างกัน ประสบการณ์ของแพทย์จึงสำคัญครับ ในการเลือกรุ่นฟิลเลอร์ เนื้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสม แก้ได้ตรงจุดครับ
• Definisse ฟิลเลอร์อิตาลี เด่นในการเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก ยกพยุงผิวที่หย่อนคล้อยตามวัย เสริมกระดูก ปรับรูปหน้า เช่น รุ่น Core เหมาะกับเติม mid-face คาง และกรอบหน้า อยู่ได้นาน 18 เดือน เมื่อเทียบกับ รุ่น Max ของ Flore มีราคาถูกกว่าเกือบครึ่งครับ แต่อยู่ได้สั้นกว่า ถ้าคนไข้ไม่ติดเรื่องงบประมาณ และมั่นใจในฟิลเลอร์ฝั่งยุโรปมากกว่า เลือกฉีด Definisse ได้ แต่ถ้าอยากได้ราคาย่อมเยา เติมได้เรื่อย ๆ ฉีด Flore ได้ครับ

ปัจจุบันฟิลเลอร์แทบทุกรุ่น ในเนื้อฟิลเลอร์จะมียาชาผสมอยู่ครับ สังเกตง่าย ๆ หน้ากล่องจะมีระบุว่า Lidocaine และก่อนฉีดจะมีการแปะยาชาและประคบน้ำแข็งขณะฉีด ช่วยลดความเจ็บขณะฉีดได้ครับ

---

ฉีด Flore filler ร่วมกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นได้ไหม ?

ฟิลเลอร์ Flore สามารถฉีดร่วมกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นได้ หมออาจประเมินให้ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อเดียวกัน แต่ต่างรุ่นกัน หรือฉีดฟิลเลอร์ 1-2 รุ่น แต่ต่างยี่ห้อกัน เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งหมอจะประเมินเป็นรายเคสครับ 

การที่คลินิกมีฟิลเลอร์หลายยี่ห้อ หลายรุ่นให้แพทย์เลือกใช้ ถือเป็นข้อดี เพราะแพทย์จะได้มีตัวเลือกมากขึ้น เลือกเนื้อฟิลเลอร์ได้ที่เหมาะสมกับคนไข้ ตามความถนัดหรือเทคนิคเฉพาะบุคคล เพื่อผลลัพธ์ออกมาสวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการฉีดฟิลเลอร์ 

ที่ V Square Clinic มีฟิลเลอร์ให้แพทย์เลือกใช้หลายยี่ห้อ หลายรุ่น ทั้งฟิลเลอร์ฝั่งยุโรป เช่น Juvederm, Restylane, Belotero, Definisse, Teoxane และฟิลเลอร์ฝั่งเอเชีย เช่น Flore, Neuramis

---

ใช้ Flore filler ร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม ?

กรณีที่คนไข้ต้องการปรับรูปหน้า สามารถ ฉีด Flore filler ร่วมกับทำหัตถการอื่นได้ ยกตัวอย่างเช่น  

• ฉีดฟิลเลอร์คาง + โบท็อกกราม 

Filler กับ Botox สามารถทำพร้อมกันได้ครับ เพราะเป็นการแก้ปัญหาคนละส่วนแต่ช่วยเสริมผลลัพธ์ให้ดีขึ้น หลายเคสที่ต้องการปรับรูปหน้าเรียว ซึ่งถ้าหมอประเมินให้คนไข้ลองกัดกรามแล้วกล้ามเนื้อกรามเด้งเยอะ หมอจะแนะนำให้ฉีดโบท็อกลดกราม และหากทำคู่กับฉีดฟิลเลอร์ Flore เสริมคาง ก็จะทำให้ใบหน้าดูมีมิติขึ้น  

• ฉีดฟิลเลอร์คาง + เมโสแฟต 

ถ้าปัญหาของคนไข้ไม่ได้เกิดจากกล้ามเนื้อ แต่เกิดจากไขมันส่วนเกินสะสม บริเวณแก้มและเหนียง สามารถฉีดเมโสแฟตสลายไขมัน และเพิ่มมิติให้ใบหน้าด้วยการฉีดฟิลเลอร์คาง 1 CC ก็สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนว่าใบหน้าได้รูปสวย วีเชฟขึ้นครับ

• ฉีดฟิลเลอร์ขมับ/คาง + โบท็อกกราม + เมโสแฟต

บางเคสมีปัญหาโหนกแก้มใหญ่ โหนกแก้มเด่น ที่มีสาเหตุมาจากขมับยุบ ขมับตอบ การฉีดฟิลเลอร์ขมับจะช่วยเติมขมับให้อิ่มเต็ม ลดความเด่นของโหนกแก้ม ใบหน้าเรียวเข้ารูปมากขึ้น หรือถ้าคนไข้มีปัญหาคางสั้น คางตัด คางบุ๋ม ก็สามารถฉีดฟิลเลอร์คาง เสริมคางให้ดูยาวขึ้นได้ Filler Flore Max เป็นรุ่นที่เหมาะฉีดทั้งขมับและคาง

ในการปรับรูปหน้าโดยรวม บางเคสอาจต้องทำในหลายตำแหน่ง ทำหลายหัตถการร่วมกัน ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ขมับ/คาง สามารถควบคู่กับโบท็อกกรามและเมโสแฟต ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวเป๊ะยิ่งขึ้นครับ 

---

Flore filler ผ่านอย.ไหม ?

ฟิลเลอร์ Flore ผ่านอย.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สามารถตรวจสอบได้โดยการนำยี่ห้อฟิลเลอร์ไปเช็กที่เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะมีระบบตรวจสอบการอนุญาต เช่น อาหาร ยา ผลิตภัณฑ์สมุนไพร วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง ยาเสพติด เครื่องมือแพทย์ โดยฟิลเลอร์จะจัดอยู่ในหมวดเครื่องมือแพทย์ครับ

คนไข้สามารถเช็กได้ในเบื้องต้น โดยพิมพ์คำว่า Flore ตามด้วยชื่อรุ่น เช่น Flore Max ในช่องสืบค้นข้อมูลผลิตภัณฑ์ ระบบจะตรวจสอบและแสดงผลออกมา ฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ รุ่นอื่น ๆ ก็สามารถเช็กได้ด้วยวิธีเดียวกันครับ

ปัจจุบันฟิลเลอร์ที่ผ่านอย.มีหลายยี่ห้อ ก่อนฉีดฟิลเลอร์ควรเช็กให้มั่นใจก่อนว่าเป็นฟิลเลอร์ที่ผ่านอย.หรือไม่ เพื่อความปลอดภัย

---

Flore filler นิยมฉีดตำแหน่งไหน ? ใช้กี่ CC ?

Flore Max

• ฉีดฟิลเลอร์คาง 1 CC 
• ฉีดฟิลเลอร์ขมับ 2-4 CC 

Flore Aqua-S 

• ฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิวหน้า เช่น ร่องมุมปาก ร่องแก้ม หน้าผาก คอ หลังมือ 1-2 CC

---

Flore filler มีผลข้างเคียงไหม ?

ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ที่พบได้ คือ อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ เกิดขึ้นได้เป็นปกติครับ เป็นผลข้างเคียงที่ไม่อันตราย ยุบบวมได้เองใน 4-5 วัน ทางคลินิกจะจ่ายยาแก้ปวด ลดบวม ให้คนไข้กลับไปรับประทานที่บ้าน

---

Flore filler อยู่ได้นานไหม ?

• Flore Max อยู่ได้นาน 9-12 เดือน
• Flore Aqua-S อยู่ได้นาน 6 เดือน

---

ฉีด Flore filler กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ Flore สามารถเห็นผลลัพธ์ทันทีประมาณ 70-80% เห็นผลชัดเจนเต็มที่ ฟิลเลอร์เรียบเนียนไปกับผิว ใบหน้าเข้ารูปใน 14 วันครับ

---

Flore filler มีข้อเสียไหม ?

ข้อเสียของฟิลเลอร์ Flore เช่น ได้ผลลัพธ์จะดูไม่เป็นธรรมชาติ ไม่เรียบเนียน ไม่สวย เกิดจากฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ ไม่รู้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง รวมถึงในกรณีที่พลาดฉีดฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน แล้วเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายตามมา เช่น 

• อักเสบ ติดเชื้อ  
• ผิวหนังแพ้ เป็นผื่นแดง คัน 
• อุดตันในเส้นเลือด เสี่ยงตาบอด
• บวมเป็นก้อน ไหลย้อย ใบหน้าผิดรูป
• เนื้อตาย เป็นพังผืด  

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ต้องมั่นใจครับว่า ฟิลเลอร์ที่ฉีดเป็นฟิลเลอร์แท้ ได้มาตรฐาน ผ่านอย.

---

Flore filler ของแท้ ดูอย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Flore กล่องไหนเป็นของแท้ หรือของปลอม สามารถเช็กได้ด้วยตัวเองในเบื้องต้น ดังนี้

1. มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 
2. มีสติกเกอร์ข้างกล่องปิดสนิท 
3. สามารถสแกน QR Code เพื่อดูรายละเอียด Lot ทั้งหมด 
4. มีเลข Lot ตรงกัน 3 จุด คือ 

• เลข Lot ที่กล่อง 
• เลข Lot ที่สติกเกอร์ 
• เลข Lot ที่หลอด 

5. โทรเช็กเลข Lot และคลินิกได้ที่บริษัทผู้จัดส่ง บริษัท บอน-ชอง จำกัด  โทร. 081-291-5555 

---

Flore filler ราคา

Filler Flore ราคา ที่ V Square Clinic 

ฟิลเลอร์ Flore Max

• Flore Max ราคา 7,900.-/1 CC (จากปกติ 8,900.-)
• Flore Max ราคา 14,000.-/2 CC 
• Flore Max ราคา 20,000.-/3 CC 

ฟิลเลอร์ Flore Aqua-S

• Flore Aqua-S ราคา 9,900.-/CC (จากปกติ 10,900.-) 
• Flore Aqua-S ราคา 18,000.-/2 CC 
• Flore Aqua-S ราคา 26,000.-/3 CC 

---

ฉีด Flore filler ที่ไหนดี ?

• ฉีดฟิลเลอร์ Flore ที่ V Square Clinic มีสาขาครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 

1. V Square Clinic สาขาสยามสแควร์วัน
2. V Square Clinic สาขา Gateway เอกมัย
3. V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว
4. V Square Clinic สาขาเมเจอร์ รัชโยธิน
5. V Square Clinic สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต
6. V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล บางนา
7. V Square Clinic สาขาSeacon Square ศรีนครินทร์
8. V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า
9. V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล พระราม 2
10. V Square Clinic สาขาเดอะพรอมานาด
11. V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล อีสวิลล์
12. V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ
13. V Square Clinic สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ
14. V Square Clinic สาขาเดอะพาซิโอ พาร์ค กาญจนาภิเษก
15. V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล พระราม 3
16. V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล เวสต์เกต
17. V Square Clinic สาขาเดอะมอลล์ บางแค
18. V Square Clinic สาขาเอ็มควอเทียร์
19. V Square Clinic สาขาเดอะมอลล์ ท่าพระ
20. V Square Clinic สาขาเทอร์มินอล 21 พระราม 3
21. V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล รามอินทรา
22. V Square Clinic สาขาเทอร์มินอล 21 อโศก
23. V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล ศาลายา 
24. V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล เวสต์วิลล์

• แพทย์มีประสบการณ์สูงด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า
• ใช้ฟิลเลอร์แท้ Flore ของแท้ ผ่าน อย. ตรวจสอบได้
• มีโปรฟิลเลอร์ Flore รุ่น Max และรุ่น Aqua-S ราคาย่อมเยา
• มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง มีความน่าเชื่อถือ

---

สรุป

ฟิลเลอร์ Flore ของเกาหลี เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อครับที่มีการรีวิวบอกต่อผลลัพธ์ที่คุ้มค่าคุ้มราคา เหมาะฉีดเติมเต็มปรับรูปหน้า และปรับสภาพผิว โดย 2 รุ่นที่คลินิกเสริมความงามนิยมเลือกใช้ คือ Flore Max เติมขมับและคาง และ Flore Aqua-S ที่เป็นสกินบูสเตอร์ เติมความชุ่มชื้นให้ผิวอิ่มน้ำ อิ่มฟู ดูสุขภาพดี สามารถฉีดทั้ง 2 รุ่นควบคู่กัน เพื่อปรับรูปหน้าและปรับสภาพผิวไปพร้อม ๆ ได้ ที่ V Square Clinic มี Flore Filler ให้บริการทั้ง 2 รุ่นครับ

หรือถ้าหากคนไข้สนใจฟิลเลอร์พรีเมียมแบรนด์ยุโรป เพราะอยากคงผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้น ไม่ติดเรื่องงบประมาณ ที่คลินิกก็มีให้เลือกหลายยี่ห้อ หลายรุ่น พร้อมโปรโมชันฉีดฟิลเลอร์ที่คุ้มค่าคุ้มราคา ฉีดโดยแพทย์ประสบการณ์สูงทุกเคส

---

อ้างอิง

• http://www.bnckorea.co.kr/eng/0201products.asp?urlkeyword=FLORE+Lidocaine&ct1=G01&ct2=&seq=44
• https://porta.fda.moph.go.th/fda_search_all/main/search_center_main.aspx

---

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ฟิลเลอร์ Flore max 

ฟิลเลอร์ Flore max เป็นฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลีครับ ช่วงนี้คนพูดถึงเยอะขึ้นเพราะเป็นฟิลเลอร์ที่ราคาไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับฟิลเลอร์จากฝั่งยุโรปหรืออเมริกา อีกทั้งจุดเด่นของ Flore max คือเป็น Biphasic Filler ที่ลักษณะเนื้อจะแน่นและอ่อนผสมกัน ทำให้ฉีดแล้วขึ้นรูปทรงได้ดี แต่ยังมีความเรียบเนียน เป็นธรรมชาติ 

บทความนี้หมอจะสรุปข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับ filler flore max ว่านิยมฉีดจุดไหน ? เหมาะกับใคร ? กี่วันเห็นผล พร้อมแนะนำวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว ลดผลข้างเคียง และอยู่ได้นานขึ้นครับ

สารบัญ ฟิลเลอร์ Flore Max

1. Flore max คืออะไร ?
2. Flore max ดีอย่างไร ?
3. Flore max เหมาะกับใคร ?
4. Flore max ต่างจาก flore filler รุ่นอื่นอย่างไร ?
   • FloreMax
   • Flore Aqua-S
   • Flore S
   • Flore N
   • Flore Full Max 1400
5. Flore max ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ?
   • ฟิลเลอร์ทุกรุ่นมียาชาไหม ?
6. ใช้ Flore max ร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม ?
7. Flore max ผ่านอย.ไหม ?
8. Flore max นิยมฉีดจุดไหน ใช้กี่ CC ?
9. Flore max มีผลข้างเคียงไหม ?
10. Flore max อยู่ได้นานกี่เดือน ?
11. ฉีด Flore max กี่วันเห็นผล ?
12. Flore max มีข้อเสียไหม ?
13. Flore max ของแท้ มีวิธีดูอย่างไร ?
14. Flore max ราคา
15. Flore max รีวิว

---

Flore max คืออะไร ?

ฟิลเลอร์ Flore Max คือฟิลเลอร์รุ่นหนึ่งจากประเทศเกาหลี เป็นสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid ที่ผ่านการนำเข้ามาในประเทศไทยโดยบริษัท บอน-ซอง จำกัด (Bon-Song Thailand) ผ่านอย. และได้รับการรับรองว่ามีความปลอดภัยในการฉีดเข้าสู่ผิว

โดยปกติฟิลเลอร์จะใช้ฉีดเพื่อลดริ้วรอย เติมเต็มร่องลึก และปรับรูปหน้า แต่ฟิลเลอร์ก็มีหลายยี่ห้อ จะใช้ยี่ห้ออะไร รุ่นอะไร ขึ้นอยู่กับว่าปัญหาของแต่ละคนจะเหมาะกับฟิลเลอร์ที่มีลักษณะเนื้อแบบไหน ซึ่งหมอจะประเมินให้เป็นรายบุคคลครับ 

---

Flore max ดีอย่างไร ?

• เป็น Biphasic filler ฉีด 1 ได้ถึง 2 ผลลัพธ์ คือขึ้นรูปได้ดี คงทน และเรียบเนียน
• ใช้เทคโนโลยี Cross-Linking เป็นกระบวนการที่ทำให้โมเลกุล HA มีความเสถียรและคงทน อยู่ได้นานขึ้นเมื่ออยู่ในผิวหนัง
• ใช้ Dynamic Cross-Linking Technology (DCLT) ช่วยให้ฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นและความสามารถในการเข้ากับเนื้อเยื่อผิวหนังได้อย่างดีเยี่ยม
• Hyaluronic Acid ผ่านกระบวนการทำให้มีความบริสุทธิ์สูง ลดโอกาสในการเกิดปฏิกิริยาแพ้หรืออักเสบ

---

Flore max เหมาะกับใคร ?

• ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า ให้มีความสมดุลยิ่งขึ้น เช่น คาง ขมับ เพื่อให้ได้รูปหน้าที่เรียวสวย ละมุน และมีมิติมากขึ้น
• ผู้ที่ต้องการลดริ้วรอย หรือมีผิวหนังเริ่มหย่อนคล้อย เริ่มสูญเสียความยืดหยุ่น การฉีดฟิลเลอร์สามารถช่วยเสริมความยืดหยุ่นให้กับผิวหนังได้
• เนื้อฟิลเลอร์ Flore Max มีคุณสมบัติขึ้นรูปได้ดีและมีความยืดหยุ่น สามารถกลืนไปกับผิว จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูธรรมชาติ 
• ผู้ที่ต้องการทำหัตถการที่มีความปลอดภัยและความเสี่ยงต่ำ Hyaluronic Acid ที่ใช้เป็นสารที่พบในร่างกายของมนุษย์อยู่แล้ว จึงมีความเสี่ยงต่ำในการเกิดปฏิกิริยาแพ้หรือผลข้างเคียง

---

Flore max ต่างจาก flore filler รุ่นอื่นอย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Flore มีหลายรุ่นครับ Flore Max เป็นหนึ่งในนั้น โดยจะมีคุณสมบัติแตกต่างกันไปดังนี้

FloreMax

Flore Max เป็นฟิลเลอร์ที่มีความเข้มข้นของ HA สูง เนื้อแน่น ขึ้นรูปได้ดี เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องลึก และปรับรูปหน้าให้มีมิติ ในบริเวณที่ต้องการความแน่น หรือความคงทนสูง (อยู่ได้นาน 9-12 เดือน)

Flore Aqua-S 

Flore Aqua-S เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับเพิ่มความชุ่มชื้นและปรับปรุงคุณภาพผิว ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ ฉ่ำวาว สุขภาพดี แก้ปัญหาผิวขาดน้ำ แห้งกร้าน หรือที่เรียกว่า Skin booster Filler (อยู่ได้นาน 6 เดือน)

Flore S

Flore S เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เหมาะกับการใช้เพื่อเติมเต็มและลดเลือนริ้วรอยที่ไม่ลึกมาก เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง กระจายตัวได้ดี ให้ผลลัพธ์ที่ดูธรรมชาติ และใช้ได้ดีในบริเวณที่ต้องการความละเอียด เช่น ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ใต้ตา หางตา ลำคอ (อยู่ได้นาน 6-12 เดือน)

Flore N

Flore N เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้ในบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวบ่อย ต้องการความยืดหยุ่นและเข้ากันได้ดีกับเนื้อเยื่อ เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม ปาก ร่องมุมปาก รวมถึงสามารถใช้ฉีดเติมเต็มบริเวณหน้าผากได้ด้วย (อยู่ได้นาน 6-12 เดือน)

Flore Full Max 1400

Flore Full Max 1400 เป็นฟิลเลอร์เนื้อแน่น มีความเข้มข้นสูง สามารถใช้ฉีดในจุดที่ต้องการปริมาณมาก ฉีดแล้วอยู่ทรง ขึ้นรูปได้ง่าย โดยที่ยังมีความละมุน เนียนไปกับผิว เช่น แก้มส้ม คาง หน้าผาก จมูก กรอบหน้า จะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ (อยู่ได้นาน 12 เดือน)

---

Flore max ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ?

• ฟิลเลอร์ Restylane (สวีเดน) เป็นฟิลเลอร์ที่มีการใช้มาอย่างยาวนานที่สุดในโลก ผลิตโดยใช้เทคโนโลยี NASHA™ และ OBT™ มีความยืดหยุ่นสูง ปรับทรงได้ง่าย เน้นการเติมเต็มและการชุ่มชื้นให้กับผิว โดยมีถึง 8 รุ่น จึงสามารถแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างครอบคลุม 
• ฟิลเลอร์ Juvederm (อเมริกา) เป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมและได้การยอมรับในระดับโลก ผลิตโดยใช้เทคโนโลยี Hylacross และ Vycross มีทั้งหมด 6 รุ่น จุดเด่นจะเป็นเรื่องฟิลเลอร์เนื้อแน่น ละเอียด มีความคงตัว และอยู่ได้ค่อนข้างนานกว่ายี่ห้ออื่น ๆ ครับ 
• ฟิลเลอร์ Belotero (สวิตเซอร์แลนด์) เป็นฟิลเลอร์ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี CPM (Cohesive Polydensified Matrix) ที่ทำให้เนื้อฟิลเลอร์กระจายตัวได้อย่างสม่ำเสมอ มีความยืดหยุ่นสูง ไม่เป็นก้อน ช่วยเติมเต็มร่องลึกและปรับปรุงคุณภาพผิวได้ดี มีทั้งหมด 5 รุ่น และมีรุ่นที่ถูกพูดถึงบ่อย ๆ คือ Belotero Revive ซึ่งเป็น Skin Booster
• ฟิลเลอร์ Definisse (อิตาลี) เป็นฟิลเลอร์ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี XTR™ Technology (eXcellent Three-Dimensional Reticulation) เนื้อฟิลเลอร์กระจายตัวได้ดี ช่วยยกพยุงและปรับรูปหน้า โดยเน้นการให้ผลลัพธ์ที่ดูธรรมชาติ หลังฉีดไม่บวม หรือบวมเล็กน้อย ปัจจุบันผ่านอย.ไทย 3 รุ่น
• ฟิลเลอร์ Neuramis (เกาหลี) ผลิตโดยใช้เทคโนโลยี SHAPE (Stabilized Hyaluronic Acid & Purification Enhacement) เนื้อฟิลเลอร์คงตัวได้ดี  มีความหนืดปานกลาง เด่นเรื่องการฉีดปรับรูปหน้าและเติมร่องลึก ราคาถูกกว่าฟิลเลอร์ที่มาจากฝั่งยุโรปหรืออเมริกา
• ฟิลเลอร์ Teoxane (เกาหลี) ผลิตโดยใช้เทคโนโลยี RHA (Resilient Hyaluronic Acid) โดดเด่นเรื่องลักษณะเนื้อฟิลเลอร์ที่ยืดหยุ่น สามารถเคลื่อนไหวไปกับใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยลดริ้วรอย ร่องลึก และเติมเต็มส่วนต่าง ๆ ของใบหน้าได้เป็นอย่างดี

ฟิลเลอร์ทุกรุ่นมียาชาไหม ?

สำหรับตัว Flore Max รุ่นนี้จะมีส่วนผสมของยาชาครับ 

หลายคนอาจจะเคยได้ยินมาว่าในเนื้อฟิลเลอร์จะมีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) เพื่อช่วยลดความเจ็บขณะฉีด แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ทุกรุ่นที่จะมียาชาครับ ถ้ากังวลหรือกลัวมาก ๆ สามารถสอบถามหมอก่อนฉีดได้ แต่ปกติก็จะมีการแปะยาชาบนผิวภายนอกให้ก่อนฉีดฟิลเลอร์อยู่แล้วครับ

การฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละจุดไม่จำเป็นต้องใช้ฟิลเลอร์รุ่นเดียว ยี่ห้อเดียว เสมอไปครับ ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ ส่วนเรื่องราคาฟิลเลอร์ ถ้าเป็นแบรนด์จากยุโรป อเมริกา จะมีราคาสูงครับ ส่วนฟิลเลอร์เกาหลีอย่าง Flore Max, Neuramis, Teoxane ก็จะมีราคาถูกลงมา และอยู่ในระดับไล่เลี่ยกัน

---

ใช้ Flore max ร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม ? 

หากต้องการฉีด Flore max ร่วมกับการทำหัตถการอื่น ๆ สามารถทำได้ครับ เพียงแต่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเรียงลำดับการทำหัตถการให้เหมาะสม 

• ร้อยไหม สามารถทำพร้อมกับการฉีดฟิลเลอร์ Flore max ในครั้งเดียวได้ครับ แต่จะเป็นการทำเพื่อแก้ปัญหาคนละจุดกับการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อไม่ให้กระทบกัน 
• โบท็อก สามารถฉีดพร้อมฟิลเลอร์ได้ครับ ใช้แก้ปัญหาคนละส่วนกัน หรือในบางกรณีในจุดที่ต้องการแก้ไขเป็นจุดที่กล้ามเนื้อแข็งแรง หมออาจพิจารณาให้ฉีดโบท็อกคลายกล้ามเนื้อก่อน แล้วจึงค่อยฉีดฟิลเลอร์ เพื่อไม่ให้ฟิลเลอร์ถูกกล้ามเนื้อดึงมากองเป็นก้อนครับ
• Hifu/Ulthera/Thermage สามารถทำพร้อมกับการฉีดฟิลเลอร์ได้ แต่ต้องฉีดฟิลเลอร์ก่อน เพราะความร้อนจากเครื่อง Hifu/Ulthera/Thermage จะส่งผลต่อประสิทธิภาพของฟิลเลอร์ หรืออาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่งได้ (*ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์มาก่อนแล้ว ควรเว้นอย่างน้อย 2 – 4 สัปดาห์ก่อนทำ)
• เมโสแฟต/เมโสหน้าใส สามารถทำพร้อมกันได้เลยครับ เพราะเป็นการฉีดคนละจุด แก้คนละปัญหา
• เลเซอร์ แนะนำให้ทำเลเซอร์มาก่อนที่จะฉีดฟิลเลอร์ครับ เพราะหากฉีดฟิลเลอร์ Flore max ไปแล้ว ต้องเว้นระยะเวลาประมาณ 1 เดือน ถึงจะทำเลเซอร์ได้

---

Flore max ผ่านอย.ไหม ?

ฟิลเลอร์ Flore Max ผ่านการรับรองจากอย. เรียบร้อยครับ สำหรับการฉีดสารเติมเต็มในประเทศไทย อย. จะอนุญาตให้ฉีดได้เฉพาะสารที่สลายได้หมดเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ฉีดสารถาวร เช่น ซิลิโคนเหลว 

ฟิลเลอร์เกาหลี flore max เป็นฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid ที่ถูกผลิตเลียนแบบ Hyaluronic Acid ที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติอยู่แล้ว เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายจะผลิตได้น้อยและช้าลง ส่งผลให้มีปัญหาผิวหรือริ้วรอยตามมา การฉีดฟิลเลอร์จึงเป็นการฉีดสารเติมเต็มเพื่อทดแทนส่วนที่ขาดหายไป มีความปลอดภัย และมีความเสี่ยงเรื่องการแพ้หรือผลข้างเคียงน้อยครับ

---

Flore max นิยมฉีดจุดไหน ใช้กี่ CC ?

Filler flore max เป็นฟิลเลอร์เนื้อแน่น ขึ้นรูปได้ดี มีความละมุน ฉีดแล้วดูเป็นธรรมชาติ จุดที่นิยมใช้ Flore Max ฉีด ได้แค่ คาง, ขมับ โดยแต่ละคนจะใช้ฟิลเลอร์กี่ CC ขึ้นอยู่กับปัญหาและความต้องการของคนไข้ครับ โดยทั่วไปจะฉีดฟิลเลอร์คาง 1-2 CC และฉีดฟิลเลอร์ขมับ 2-4 CC

---

Flore max มีผลข้างเคียงไหม ?

ผลข้างเคียงทั่วไปที่เกิดขึ้นได้หลังฉีด Flore Max ได้แก่ 

• อาการบวมเล็กน้อย
• รอยแดงหรือรอยเข็ม
• รอยช้ำ
• คนไข้รู้สึกตึง ๆ บริเวณที่ฉีด

---

Flore max อยู่ได้นานกี่เดือน ?

ฟิลเลอร์ Flore Max อยู่ได้นาน 9-12 เดือนครับ เนื่องจากฟิลเลอร์เนื้อแน่น และเหมาะฉีดในจุดที่ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวบ่อย ๆ ทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้ค่อนข้างนานครับ

---

ฉีด Flore max กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ Flore Max สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังฉีดครับ หลังจากนั้นในช่วง 1-3 วันแรกจะมีอาการบวม รอจนฟิลเลอร์ยุบบวมเข้าที่ จะเห็นผลชัดเจนเต็มใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ครับ

---

Flore max มีข้อเสียไหม ?

• อยู่ไม่ได้ถาวร ฟิลเลอร์จะค่อย ๆ สลายไปตามเวลา ถ้าอยากรักษาผลลัพธ์ไว้ต้องกลับมาฉีดเพิ่ม
• หากฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์/ หมอกระเป๋า อาจมีอันตรายได้
• มีโอกาสที่จะไม่พอใจในผลลัพธ์ เช่น หมอฉีดให้ไม่สวย (แก้ไขได้ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์แล้วฉีดใหม่)

---

Flore max ของแท้ มีวิธีดูอย่างไร ?

• มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 
• มีสติกเกอร์ข้างกล่องปิดสนิท 
• สามารถสแกน QR Code เพื่อดูรายละเอียด Lot ทั้งหมด 
• มีเลข Lot ตรงกัน 3 จุด คือ 
  • เลข Lot ที่กล่อง 
  • เลข Lot ที่สติกเกอร์ 
  • เลข Lot ที่หลอด 
• โทรเช็กเลข Lot และคลินิกได้ที่บริษัทผู้จัดส่ง บริษัท บอน-ชอง จำกัด  โทร. 081-291-5555

---

Flore max ราคา

ฟิลเลอร์ Flore max ราคาจะขึ้นอยู่กับปริมาณ CC ที่ใช้ครับ ที่ V Square Clinic ราคา Flore max 1 CC 7,900.-

---

Flore max รีวิว

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ Flore max รีวิวเป็นอีกเรื่องสำคัญที่คนไข้ควรให้ความสำคัญครับ โดยควรดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง อยู่ในสื่อที่เป็นกลาง น่าเชื่อถือ คลินิกไม่สามารถตัดแต่ง ลบ หรือแก้ไขได้ 

นอกจากนี้ถ้ามีรีวิวที่เป็นคลิปวิดีโอด้วยก็จะดีครับ เพราะตัดต่อได้ยาก ทำให้เห็นเทคนิคการฉีดของแพทย์ และผลลัพธ์ที่แท้จริงได้อย่างชัดเจน

---

สรุป

ฟิลเลอร์ Flore Max เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า คาง ขมับ แต่ต้องการคุมงบประมาณไม่ให้สูงมากเกินไป ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ Flore max สามารถฉีดให้ได้ผลลัพธ์สวยงาม เป็นธรรมชาติ หากฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้องครับ 

ดังนั้นก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ คนไข้ควรพิถีพิถันและระมัดระวังในการเลือกคลินิก ต้องเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน น่าเชื่อถือ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยครับ

---

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ฟิลเลอร์ Yvoire

ฟิลเลอร์เกาหลี Yvoire เป็นยี่ห้อที่มีฉีดในคลินิกเสริมความงามหลายแห่ง หลายคนให้ความสนใจครับ โดยเฉพาะสายฉีดหน้า ด้วยราคาฟิลเลอร์ที่ย่อมเยากว่าเมื่อเทียบกับฟิลเลอร์ยุโรป (อเมริกา สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี) แต่การฉีดฟิลเลอร์จะดูเพียงแค่ราคาอย่างเดียวไม่ได้ครับ ต้องดูให้ละเอียดกว่านั้น  

ฟิลเลอร์ Yvoire filler คืออะไร ? ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ? มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร ? Yvoire filler รีวิว ฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง ? Yvoire filler ใต้ตา ได้ไหม ? Yvoire filler ราคาเท่าไหร่ ? เป็นข้อมูลที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจครับ

สารบัญ ฟิลเลอร์ Yvoire 

1. ฟิลเลอร์ Yvoire คืออะไร ?
2. ฟิลเลอร์ Yvoire ดีอย่างไร ?
3. ฟิลเลอร์ Yvoire มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร ?
4. ฟิลเลอร์ Yvoire ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ?
5. ฟิลเลอร์ Yvoire ผ่านอย.ไหม ?
6. ฟิลเลอร์ Yvoire นิยมฉีดตำแหน่งไหน ใช้กี่ CC ?
7. ฟิลเลอร์ Yvoire อยู่ได้นานไหม ?
8. ฉีดฟิลเลอร์ Yvoire กี่วันเห็นผล ?
9. ฟิลเลอร์ Yvoire มีข้อเสียไหม ?
10. ฟิลเลอร์ Yvoire ของแท้ ดูอย่างไร ?
11. ฟิลเลอร์ Yvoire ราคา
12. ฟิลเลอร์ Yvoire รีวิว

---

ฟิลเลอร์ Yvoire คืออะไร ?

ฟิลเลอร์Yvoire อ่านว่า อีโวร์ คือยี่ห้อฟิลเลอร์ของเกาหลีที่หลายคลินิกในไทยเลือกใช้ครับ ผลิตโดยบริษัท LG Chem (แอลจี เคม) ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นบริษัทเคมีภัณฑ์ชั้นนำที่มีชื่อเสียงด้านการผลิตและพัฒนาไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) มากว่า 25 ปี นำเข้าและจัดจำหน่ายในไทยโดยบริษัท LG Aesthetics Thailand

---

ฟิลเลอร์ Yvoire ดีอย่างไร ?

ถ้าจะพูดถึงข้อดีของฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้ออะไรก็ตาม ต้องดูให้ลึกถึงเทคโนโลยีการผลิตที่ทำให้ฟิลเลอร์มีคุณสมบัติโดดเด่นหรือพิเศษแตกต่างจากยี่ห้ออื่น 

ฟิลเลอร์ Yvoire ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่เรียกว่า HICE Cross-linking Technology หรือ HIgh Concentration Equalized Cross-link ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของบริษัท ทำให้ฟิลเลอร์ที่ได้มี 3 คุณสมบัติเด่น ดังนี้ 

• มีความยืดหยุ่นสูง
• หลังฉีดไม่เป็นก้อน เรียบเนียนดูเป็นธรรมชาติ 
• คงรูปอยู่ได้นาน สลายตัวช้า 

นอกจากนี้ในกระบวนการผลิต ฟิลเลอร์Yvoire ยังมีการควบคุมปริมาณ BDDE ซึ่งเป็นสารที่ใช้ในกระบวนการ Crosslink เพื่อให้เนื้อฟิลเลอร์อยู่ได้นานและคงทน ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ช่วยลดโอกาสแพ้หรือเกิดผลข้างเคียง

---

ฟิลเลอร์ Yvoire มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร ?

ฟิลเลอร์Yvoire พัฒนาออกมาทั้งหมด 6 รุ่น ได้แก่ 

1. yvoire รุ่น Classic plus  
2. yvoire รุ่น Classic S
3. yvoire รุ่น Contour  
4. yvoire รุ่น Contour 1.0
5. yvoire รุ่น Volume S 
6. yvoire รุ่น Volume Plus 

รุ่นที่คลินิกความงามนิยมใช้จะมีอยู่ 3 รุ่น คือ Classic Plus, Contour และ Volume Plus แต่ละรุ่นมีคุณสมบัติต่างกัน ให้ผลลัพธ์ดีและเหมาะกับการฉีดตำแหน่งที่ต่างกัน

Yvoire Classic Plus

ฟิลเลอร์ รุ่น Classic Plus เหมาะฉีดเติมผิวชั้นบน (Upper Dermal Layers) เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น แก้ปัญหาริ้วรอยเล็ก ๆ ตื้น ๆ บนใบหน้า บริเวณหัวคิ้ว ใต้ตา หรือเติมหลุมสิว

Yvoire Contour

ฟิลเลอร์ Yvoire รุ่น Contour เนื้อฟิลเลอร์ประกอบไปด้วยโมเลกุล 2 ขนาด (Duo Particle) ได้แก่ โมเลกุลขนาดใหญ่ยกกระชับใต้ผิว และโมเลกุลขนาดเล็กเติมเต็มช่องว่างผิว คงรูปได้ดี เหมาะฉีดเติมเต็มผิวชั้นลึก (Deep Dermal Layers) โหนกแก้ม คาง และกรอบหน้า

Yvoire Volume Plus

ฟิลเลอร์ Yvoire รุ่น Volume Plus เหมาะฉีดเติมผิวชั้นกลาง (Middle Dermal Layers) ริมฝีปาก หน้าผาก ขมับ ร่องแก้ม และแก้มตอบ

---

ฟิลเลอร์ Yvoire ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ?

ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แม้จะเป็นไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) เหมือนกัน แต่ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ต่างกัน ทำให้ฟิลเลอร์มีคุณสมบัติทางกายภาพ เช่น ความยืดหยุ่น อุ้มน้ำ การคงรูป ลักษณะเนื้อฟิลเลอร์ (เนื้อแน่น เนื้อนิ่ม เนื้อละเอียด) ที่ไม่เหมือนกันครับในแต่ละรุ่น หมอสรุปจุดเด่นของแต่ละยี่ห้อมาเพื่อเปรียบเทียบประกอบการตัดสินใจ 

• Juvederm ฟิลเลอร์อเมริกา ใช้ 2 เทคโนโลยีในการผลิต คือ Hylacross และ Vycross Techmology ออกแบบมาหลายรุ่น สามารถแก้ปัญหาบนใบหน้าทุกบริเวณ เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับ ช่วยเติมเต็ม ยกกระชับ มีความเป็นธรรมชาติ
• Restylane ฟิลเลอร์สวีเดน ผลิตด้วยเทคโนโลยี NASHA และ OBT Technology เป็น filler แบรนด์แรกของโลก มีหลายรุ่น หลายเนื้อให้แพทย์เลือกใช้ มีจุดเด่นที่ความยืดหยุ่น คงตัว หลังฉีดสามารถปรับรูปทรงได้หลากหลาย และยังมีรุ่นที่เด่นในเรื่องช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
• Belotero ฟิลเลอร์สวิตเซอร์แลนด์ ผลิตด้วยเทคโนโลยี CPM Technology มีจุดเด่นเรื่องความคงตัว ฉีดได้เกือบทุกบริเวณ สามารถใช้ฉีดเสริมกระดูกและเนื้อเยื่อผิวหนังที่ยุบตัวลงตามวัย ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ และยังมีรุ่นที่เป็น Skin Booster สร้าง Skin Quality โดยเฉพาะ

• Definisse ฟิลเลอร์อิตาลี ใช้เทคโนโลยี XTR Technology ในการผลิต ทำให้ HA สานกันเป็นร่างแห ช่วยในการยกพยุง ปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ หลังฉีดไม่บวมน้ำ ทำให้แพทย์ประเมินปริมาณ CC ที่เหมาะสมกับปัญหาได้อย่างแม่นยำ เห็นผลลัพธ์ได้ทันที
• Teoxane ฟิลเลอร์สวิตเซอร์แลนด์ ผลิตด้วยเทคโนโลยี PNT เนื้อฟิลเลอร์ยืดหยุ่นสูง สามารถปรับตัวไปกับการเคลื่อนไหวของผิวหน้าได้ดี โดยไม่ทำให้หน้าดูแข็ง ลดความเสี่ยงของการเกิดก้อนหรือความไม่เรียบเนียนของผิว ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติหลังฉีด 
• Biohyalux ฟิลเลอร์จีน ใช้เทคโนโลยี BioBalanceTechnology ในการผลิต ฉีดได้หลายตำแหน่ง เน้นการเติมเต็มเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกและรักษาความชุ่มชื้น ได้ผลลัพธ์เรียบเนียน แทบไม่มีอาการบวมหรือบวมน้ำเล็กน้อยหลังฉีด เห็นผลลัพธ์ได้ทันที ไม่ต้องรอยุบบวม 
• Flore ฟิลเลอร์เกาหลี ผลิตด้วยเทคโนโลยี HCCL เนื้อฟิลเลอร์ขึ้นรูป ปั้นทรงง่าย คงรูปได้ดี มีความละมุน เติมเต็มปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ มีรุ่นเนื้อละเอียด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ให้ผิวดูอิ่มน้ำ ฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลี ในราคาย่อมเยา
• Neuramis ฟิลเลอร์เกาหลี ใช้เทคโนโลยี Shape Technology ทำให้ได้ฟิลเลอร์ที่มีความคงตัว ฉีดเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้าได้หลายจุด ฉีดแล้วไม่เคลื่อน ไม่จับตัวเป็นก้อน ราคาไม่แพงมาก เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัด
• Yvoire ฟิลเลอร์เกาหลี ผลิตด้วย HICE Cross-linking Technology เป็นฟิลเลอร์ที่ช่วยเติมเต็ม ปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ เห็นผลลัพธ์หลังฉีดได้ทันที มีราคาย่อมเยากว่าฟิลเลอร์ฝั่งยุโรป แต่ถ้าเทียบระยะเวลาจะอยู่ได้สั้นกว่าในบางรุ่น

ปัจจุบันฟิลเลอร์แทบทุกยี่ห้อ ทุกรุ่น มักมียาชา (Lidocaine) ผสมอยู่ ช่วยลดความเจ็บขณะฉีดได้ครับ

ถ้าไม่แน่ใจว่าฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? การฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงจะช่วยแนะนำยี่ห้อฟิลเลอร์ รุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสม แก้ปัญหาได้ตรงจุดและตรงกับงบประมาณ

คลินิกส่วนใหญ่จะไม่ได้มีฟิลเลอร์ยี่ห้อเดียวอยู่แล้วครับ เพราะฟิลเลอร์ยี่ห้อเดียว รุ่นเดียว ไม่สามารถแก้ทุกปัญหา ฉีดได้ทุกตำแหน่ง ในบางเคสอาจต้องใช้ฟิลเลอร์ต่างยี่ห้อ ต่างรุ่นกัน เพื่อเสริมให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นครับ หมอจะประเมินเป็นรายเคส

---

ฟิลเลอร์ Yvoire ผ่านอย.ไหม ? 

ฟิลเลอร์Yvoire ผ่านการรับรองจากอย. ทั้งหมด 6 รุ่น ได้แก่ รุ่น classic S, classic plus, volume S, volume plus, Contour และ contour 1.0 

---

ฟิลเลอร์ Yvoire นิยมฉีดตำแหน่งไหน ใช้กี่ CC ?

ฟิลเลอร์Yvoire ฉีดปรับรูปหน้าได้หลายตำแหน่ง ตำแหน่งไหน ใช้กี่ CC ? หมอประเมินปริมาณคร่าว ๆ ในแต่ละตำแหน่งมาให้ครับ ใช้ CC มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่บุคคลด้วยครับ

• ฟิลเลอร์หน้าผาก 3-5 CC
• ฟิลเลอร์ขมับ 2-4 CC 
• ฟิลเลอร์ใต้ตา 2-4 CC
• ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 1-3 CC
• ฟิลเลอร์คาง 1-2 CC
• ฟิลเลอร์ปาก 1-2 CC   

---

ฟิลเลอร์ Yvoire อยู่ได้นานไหม ? 

• ฟิลเลอร์ Yvoire Classic Plus อยู่ได้นาน 6-9 เดือน 
• ฟิลเลอร์ Yvoire Contour อยู่ได้นาน 12-18 เดือน
• ฟิลเลอร์ Yvoire Volume Plus อยู่ได้นาน 9-12 เดือน 

Yvoire filler อยู่ได้นานตั้งแต่ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นที่ฉีด และการดูแลตัวเองหลังฉีด

---

ฉีดฟิลเลอร์ Yvoire กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีดฟิลเลอร์Yvoire เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที ใน 4-5 วันแรก อาจมีอาการบวมเล็กน้อยเป็นเรื่องปกติครับ หายได้เองใน 7-14 วัน เห็นผลลัพธ์ชัดเจนเต็มที่ใน 2-3 สัปดาห์   

---

ฟิลเลอร์ Yvoire มีข้อเสียไหม ?

ฟิลเลอร์Yvoire มีข้อดีหรือจุดเด่นตามที่หมอได้อธิบายไปข้างต้น แต่ก็อาจมีข้อเสียได้ครับ หากเลือกใช้รุ่นฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะกับตำแหน่ง ฉีดผิดชั้นผิว หรือฉีดในปริมาณที่มากเกินไป จะทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาดูไม่เป็นธรรมชาติ ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน 

หรืออีกกรณี ถ้า Yvoire filler ที่ฉีดไม่ใช่ฟิลเลอร์แท้ ก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงหรือปัญหาแทรกซ้อนตามมา เช่น 

• อักเสบ ติดเชื้อ เป็นหนอง
• อุดตันในเส้นเลือด 
• บวม เป็นก้อน
• ไหลย้อย ใบหน้าผิดรูป 

---

ฟิลเลอร์ Yvoire ของแท้ ดูอย่างไร ?

• กล่องฟิลเลอร์Yvoire มี Surplus sealing label ติดอยู่บริเวณฝากล่องทั้งสองด้าน (หัว-ท้าย) ไม่เคยผ่านการแกะมาก่อน 
• มีเลขทะเบียน อย.และ มีฉลากภาษาไทยกำกับบนกล่อง 
• มีเลข Lot ผลิต วันเดือนปีที่ผลิต และวันเดือนปีที่หมดอายุที่ชัดเจน ทั้งบนกล่องและในบรรจุภัณฑ์
• มีเอกสารกำกับเครื่องมือแพทย์ฉบับภาษาไทย
• นำเข้าและจัดจำหน่ายโดยบริษัท LG Aesthetics Thailand โดยคลินิกที่ใช้ฟิลเลอร์ Yvoire จะมีใบรับรอง (certificated) มี QR code เพื่อสแกนตรวจสอบกับบริษัทผู้ผลิตและนำเข้า 

---

ฟิลเลอร์ Yvoire ราคา

ฟิลเลอร์ Yvoire ราคาเริ่มต้นประมาณ 7,000.-/CC ขึ้นอยู่กับปัญหา ตำแหน่งฉีด ปริมาณ CC และเทคนิคการฉีด ในบางตำแหน่งที่ใช้เทคนิคขั้นสูงในการฉีด ราคาก็อาจจะสูงขึ้นครับ

---

ฟิลเลอร์ Yvoire รีวิว

รีวิวฟิลเลอร์ yvoire หน้าผาก

รีวิวฟิลเลอร์ yvoire ใต้ตา

รีวิวฟิลเลอร์ yvoire ร่องแก้ม

---

สรุป

ฟิลเลอร์Yvoire เป็นฟิลเลอร์เกาหลีที่มีใช้ในหลายคลินิก สามารถฉีดได้หลายตำแหน่ง เป็นทางเลือกให้สำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด แต่นอกจาก Yvoire filler แล้ว ยังมีฟิลเลอร์ที่ราคาใกล้เคียงกันอีกหลายยี่ห้อ เพื่อผลลัพธ์ที่คนไข้พึงพอใจ คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่ประสบการณ์สูง ซึ่งจะช่วยให้คำแนะนำได้อย่างเหมาะสมกับแต่ละบุคคล ได้ผลลัพธ์ปลอดภัย สวยงาม และดูเป็นธรรมชาติ

---

อ้างอิง

• https://www.lgchem.com/main/index   
• http://global.lgyvoire.com/brand.jsp 
• http://global.lgyvoire.com/review.jsp 
• https://www.yvoirethailand.com/story/4942 

---

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Restylane Kysse 

Restylane Kysse (เรสติเลน คิส) หรือ ฟิลเลอร์ Kysse เป็นฟิลเลอร์ตัวแรกของโลกจากสวีเดนที่ออกแบบมาเพื่อเติมเต็มริมฝีปากโดยเฉพาะ มีความพิเศษคือ สามารถช่วยปรับรูปทรงปากได้หลากหลายทรง และเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากดูสุขภาพดี แบบ 2in1

สำหรับใครที่สนใจหรือกำลังหาข้อมูลอยู่ว่า ฉีดฟิลเลอร์ปาก Restylane Kysse ราคาเท่าไหร่ ? ดีอย่างไร ? ทำไมจึงเหมาะกับการใช้ฉีดฟิลเลอร์ปาก ? Restylane Kysse รีวิวก่อน-หลังทำ เห็นผลแค่ไหน ? ติดตามอ่านได้ในบทความนี้ครับ

สารบัญ Restylane Kysse

1. Restylane Kysse คืออะไร ?
2. ทำไม Restylane Kysse จึงเหมาะกับการใช้ฉีดฟิลเลอร์ปาก ?
3. ฉีดฟิลเลอร์ปากด้วย Restylane Kysse แต่ละทรงใช้กี่ CC ?
4. Restylane Kysse มีกระบวนการทำงานอย่างไร ?
5. Restylane Kysse เหมาะกับใคร ?
6. Restylane Kysse แตกต่างกับ Restylane รุ่นอื่นอย่างไร ?
7. เปรียบเทียบกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นที่ใช้ฉีดปากเป็นอย่างไร ?
8. ฉีด Restylane Kysse ร่วมกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นได้ไหม ?
9. Restylane Kysse ผ่าน อย.ไหม ?
10. Restylane Kysse ใช้ฉีดบริเวณอื่นได้ไหม นอกจากปาก ?
11. Restylane Kysse อันตรายไหม ?
12. Restylane Kysse อยู่ได้นานไหม ?
13. ฉีด Restylane Kysse กี่วันเห็นผล ?
14. วิธีการดูแลตัวเอง หลังฉีด Restylane Kysse ?
15. Restylane Kysse มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?
16. ฉีด Restylane Kysse ที่ไหนดี ?
17. Restylane Kysse ของแท้ ดูอย่างไร ?
18.  Restylane Kysse ราคาเท่าไหร่ ?
19. Restylane Kysse รีวิว ?

---

Restylane Kysse คืออะไร ?

Restylane Kysse คือ สารเติมเต็มประเภท Hyaluroniac acid (HA) เป็นหนึ่งในรุ่นของฟิลเลอร์ Restylane มีการพัฒนาโดยบริษัท Galderma ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตยาและผลิตภัณฑ์ผิวหนังชั้นนำระดับโลกจากประเทศสวีเดน 

Filler Restylane Kysse เป็นนวัตกรรมฟิลเลอร์ปากล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อฉีดและเติมเต็มริมฝีปากโดยเฉพาะ มาในคอนเซ็ปต์ Your KYSSE, Your Confidence และมีที่มาของชื่อรุ่น KYSSE ดังนี้ครับ

• K : KYSSE – 100% ของผู้ใช้พอใจกับผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
• Y : Yearly – ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานถึง 1 ปี
• S : Specific for Lips – ฟิลเลอร์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อริมฝีปากโดยเฉพาะ
• S : Safety – เป็นสารเติมเต็มที่มีความปลอดภัย ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายทั่วโลก
• E : Effectively 2 in 1 – ช่วยปรับรูปทรงปาก และยังช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้น

---

ทำไม Restylane Kysse จึงเหมาะกับการใช้ฉีดฟิลเลอร์ปาก ?

• เป็นฟิลเลอร์ที่ออกแบบมาเพื่อริมฝีปากโดยเฉพาะ
• เนื้อเนียนละเอียด ให้สัมผัสที่เป็นธรรมชาติ ไม่แข็งเป็นก้อน
• สามารถปรับรูปทรงปากได้หลากหลายทรง 
• ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก ปรับสีปากให้อมชมพู ดูสุขภาพดี

---

ฉีดฟิลเลอร์ปากด้วย Restylane Kysse แต่ละทรงใช้กี่ CC ?

ในกรณีที่ไม่ได้มีปัญหาปากบางมาก ใช้ฟิลเลอร์ปาก 1 cc ก็สามารถปรับทรงปากให้เป็นทรงกระจับสวยงามได้แล้วครับ ถ้ามีปากบางมากอาจต้องใช้ 2 cc เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

สำหรับใครที่ต้องการเพิ่มวอลลุ่มปากให้ดูอิ่มเอิบมาก ๆ เช่น ปากสายฝอ ก็สามารถฉีดเพิ่มได้ตั้งแต่ 2-4 cc จะช่วยให้ขอบปากชัดยิ่งขึ้นและริมฝีปากดูอวบอิ่มมากยิ่งขึ้น โดยหมอจะช่วยประเมินปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมให้เป็นรายเคสไปครับ

ข้อควรรู้ : ใครที่เคยข้อมูลมาบ้างแล้วอาจเจอ ‘ฉีดฟิลเลอร์ Restylane kysse 0.5 ml’ หรือ ‘ฉีด Restylane kysse 1ml’ ที่จริงแล้วฟิลเลอร์ใช้หน่วยนับเป็น cc หรือ ml ได้ทั้งหมดครับ แต่ในไทยจะนิยมใช้ cc มากกว่า โดย 1 ml Restylane kysse = 1 cc Restylane kysse

---

Restylane Kysse มีกระบวนการทำงานอย่างไร ?

Restylane Kysse ผลิตด้วย OBT Technology หรือ Optimal Balance Technology ทำให้ได้เนื้อฟิลเลอร์ที่มีความละเอียด แต่มีความคงตัว ยืดหยุ่น และกลืนกับผิวได้อย่างเรียบเนียน เหมาะสำหรับสภาพผิวปากที่แตกต่างจากผิวบริเวณอื่น จะไม่ทำให้เป็นก้อน และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติครับ 

เมื่อฉีดฟิลเลอร์ Restylane Kysse เข้าไปบริเวณริมฝีปาก จะสามารถช่วยสร้างขอบริมฝีปากให้ชัดเจนขึ้น ปรับปากบางให้ดูอวบอิ่มเป็นทรงสวยงามรับกับใบหน้า และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ปรับสีปากให้ดูสุขภาพดีได้ทันทีหลังทำ โดยไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น

---

Restylane Kysse เหมาะกับใคร ?

• ผู้ที่มีปัญหาปากบาง ต้องการเพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปาก
• ผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากตก ทำให้ใบหน้าบึ้งตึง ดูไม่เป็นมิตร
• ผู้ที่มีปัญหาปากไม่เท่ากัน ต้องการปรับให้ดูสมมาตรมากยิ่งขึ้น
• ผู้ที่ต้องการปรับทรงปากให้เข้ากับใบหน้าโดยรวมหรือปรับทรงตามความชอบ 
• ผู้ที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก มีปัญหาปากแห้ง มีริ้วรอยเล็ก ๆ ปากเป็นร่อง

---

Restylane Kysse แตกต่างกับ Restylane รุ่นอื่นอย่างไร ?

นอกจากรุ่น Kysse Restylane มีอีกหลายรุ่นครับ ถือว่าเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งของฟิลเลอร์ Restylane โดยแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เหมาะกับการแก้ไขปัญหาบนใบหน้าในแต่ละจุดได้อย่างครอบคลุม ทั้งบางรุ่นก็ยังสามารถนำมาใช้ฉีดฟิลเลอร์ปากได้เช่นเดียวกัน

Restylane Perlane lyft

Restylane Perlane lyft ผลิตด้วย NASHA Technology เป็นฟิลเลอร์เนื้อแน่น ไม่ฟู มีความคงตัวสูง คงรูปได้ดี เหมาะสำหรับฉีดใต้ตาชั้นลึก จมูก คาง

Restylane Classic

Restylane Classic ผลิตด้วย NASHA Technology เป็นฟิลเลอร์เนื้อแน่น เจลอนุภาคใหญ่ ใช้แก้ปัญหาริ้วรอยระดับปานกลาง-มาก

Restylane Vital Light

Restylane Vital Light ผลิตด้วย OBT Technology ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เนื้อเจลอนุภาคเล็ก มีความละเอียดที่สุด เหมาะฉีดแก้ไขริมฝีปากแห้งให้ชุ่มชื้นขึ้น แต่ไม่ได้ต้องการเติมปากให้อวบอิ่มมาก

Restylane Vital

Restylane Vital ผลิตด้วย OBT Technology ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย ให้ผลลัพธ์เรียบเนียน เป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา หน้าผาก

Restylane Volyme

Restylane Volyme ผลิตด้วย OBT Technology ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง ใช้เติมเต็มผิวส่วนที่โหลลึกหรือตอบให้อิ่มฟูขึ้น เหมาะสำหรับฉีดปาก ร่องแก้ม แก้มตอบ มุมปาก 

Restylane Defyne

Restylane Defyne ผลิตด้วย OBT Technology ฟิลเลอร์เนื้อแน่น มีความนิ่มปานกลางและยืดหยุ่นสูง ใช้ฉีดแทนกระดูกที่ยุบตัวในผิวชั้นลึก เติมเต็มร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ฉีดเสริมโหนกแก้ม ฉีดใต้ตา

Restylane Refyne

Restylane Refyne ผลิตด้วย OBT Technology ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความยืดหยุ่น ใช้เติมริ้วรอยร่องลึกที่เกิดจากการยิ้ม เหมาะกับฉีด ปาก ร่องแก้ม มุมปาก

โดยรุ่นฟิลเลอร์ Restylane ที่มีความใกล้เคียงกับ Kysse ใช้เทคโนโลยีการผลิตเดียวกัน และสามารถนำมาฉีดปากได้มีทั้ง Vital light, Volume และ Refyne ซึ่งอาจทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า Restylane refyne vs kysse vs vital light vs volyme รุ่นไหนฉีดปากดีกว่ากัน ? 

หมอยังไม่สามารถตอบได้ครับว่ารุ่นไหน ดีกว่ากัน เนื่องจากหมอต้องประเมินถึงสภาพผิวริมฝีปาก ร่วมกับปัญหาและความต้องการของคนไข้ เพื่อออกแบบทรงปากที่เหมาะสมและต้องเข้ากับใบหน้าโดยรวม และถึงจะแนะนำรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะกับคนไข้ได้ครับ

---

Restylane Kysse เปรียบเทียบกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นที่ใช้ฉีดปากเป็นอย่างไร ?

นอกจาก Restylane kysse แล้วยังมีฟิลเลอร์ชื่อดังอีกหลายยี่ห้อที่สามารถนำมาฉีดเติมเต็มริมฝีปาได้เช่นกัน โดยแต่ละยี่ห้อมีเทคโนโลยีการผลิตที่ต่างกัน ทำให้ได้ฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันดังนี้ครับ

ฟิลเลอร์ Juvederm จากอเมริกา

• Juvederm Ultra Plus ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม และฟูมาก มียาชาผสมในตัว เหมาะกับคนที่ต้องการปากอวบอิ่มแบบฝรั่งอยู่ได้นาน 12 เดือน
• Juvederm Voluma ฟิลเลอร์เนื้อแน่น ฟูปานกลาง และมีส่วนผสมของยาชา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปากอวบอิ่มและอยู่ได้นาน 18 เดือน
• Juvederm Volift ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความละเอียด และยืดหยุ่นสูง มีส่วนผสมของยาชา ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อนและเหมาะฉีดร่องมุมปากที่ไม่ลึกมาก อยู่ได้นาน 12 เดือน
• Juvederm Volite ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น มีส่วนผสมของยาชา เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้ผิวปากชุ่มชื้น อวบอิ่มขึ้นเล็กน้อย อยู่ได้นาน 8-12 เดือน

ฟิลเลอร์ Belotero จากสวิตเซอร์แลนด์

• Belotero Volume ฟิลเลอร์เนื้อแน่น อยู่ทรง มีส่วนผสมของยาชา ช่วยเพิ่ม volume ให้ปากได้ดี เหมาะสำหรับทรงปากสายฝอ อยู่ได้นาน 12-18 เดือน
• Belotero Revive ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด มีส่วนผสมของยาชา ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก อยู่ได้นาน 6 เดือน

ฟิลเลอร์ Definisse Touch จากอิตาลี

• Definisse Touch ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เนียนละเอียด แต่ขึ้นรูปได้ดี บวมน้อย มีส่วนผสมของยาชา อยู่ได้นาน 8-12 เดือน

ฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถใช้ได้หลายรุ่น หลายยี่ห้อ ซึ่งควรใช้รุ่น/ยี่ห้อไหนดี จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวปาก ความต้องการของคนไข้ รวมถึงงบประมาณครับ ในขั้นตอนนี้ควรให้แพทย์ที่มีประสบการณ์เป็นผู้ประเมินและแนะนำรุ่น/ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ และตรงกับความต้องการของคนไข้

---

ฉีด Restylane Kysse ร่วมกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นได้ไหม ?

ฉีด Restylane Kysse ร่วมกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นได้ไหม ? เป็นอีกหนึ่งในคำถามที่คนไข้หลายคนถามหมอเข้ามาครับ โดยเราสามารถฉีด Restylane Kysse ร่วมกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นได้ ไม่เป็นอันตราย

ทั้งนี้ต้องเป็นเนื้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับบริเวณที่ฉีด และเป็นฟิลเลอร์ประเภทสาร HA เท่านั้น เช่น Juvederm (ฟิลเลอร์เยอรมัน), Belotero (ฟิลเลอร์สวิตเซอร์แลนด์), Definisse (ฟิลเลอร์อิตาลี), Flore Max (ฟิลเลอร์เกาหลี) หรือ Biohyalux (ฟิลเลอร์จีน) ที่สำคัญควรให้แพทย์เป็นผู้ประเมินและแนะนำยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสมก่อนทำหัตถการครับ

---

Restylane Kysse ผ่าน อย.ไหม ?

ฟิลเลอร์ Restylane Kysse พร้อมกับรุ่นอื่น ๆ อีก 7 รุ่น ได้แก่

• Restylane รุ่น Perlane lyft
• Restylane รุ่น Vital Light
• Restylane รุ่น Vital
• Restylane รุ่น Volyme
• Restylane รุ่น Defyne
• Restylane รุ่น Refyne
• Restylane รุ่น Classic

ทั้งหมดได้รับรองจาก อย.ไทยเรียบร้อยแล้วครับ และยังได้รับรองมาตรฐานความปลอดภัยจาก U.S. FDA อย.อเมริกา และ CE Mark จากยุโรป

---

Restylane Kysse ใช้ฉีดบริเวณอื่นได้ไหม นอกจากปาก ?

ด้วยคุณสมบัติของเนื้อฟิลเลอร์ของ Restylane Kysseที่มีความยืดหยุ่น กลืนไปกับผิวได้เรียบเนียน จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการฉีดบริเวณริมฝีปาก

ถ้าหากต้องการใช้ Restylane Kysse ฉีดบริเวณอื่นนอกเหนือจากริมฝีปาก แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินถึงสภาพผิวและปัญหาบนใบหน้า เพราะอาจมีรุ่นอื่น หรือยี่ห้ออื่นที่เหมาะสมมากกว่าและแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดกว่า

โดยการเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาและบริเวณที่ต้องการแก้ไข จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดี และลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงครับ

---

Restylane Kysse อันตรายไหม ?

ฉีดฟิลเลอร์ Restylane kysse ไม่อันตรายครับ หากใช้ฟิลเลอร์ของแท้ที่นำเข้าอย่างถูกต้องโดยบริษัท Galderma Thailand และโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์

โดย Restylane kysse เป็นรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อเติมเต็มริมฝีปากโดยเฉพาะ จึงมีราคาสูงกว่ารุ่นอื่น ๆ ซึ่งบางคนอาจจะเคยเห็น Restylane kysse ราคาส่ง ตามอินเทอร์เน็ต มีราคาที่ถูกมาก ส่วนใหญ่ล้วนเป็นฟิลเลอร์ที่ลักลอบเข้ามาแบบผิดกฎหมาย หรือที่เรียกกันว่าฟิลเลอร์หิ้ว 

ฟิลเลอร์เหล่านี้มักไม่ได้มีการควมคุมมาตฐานคุณภาพยา ทำให้ตัวยาเสื่อมคุณภาพ มีอายุการใช้งานสั้น ย่อยสลายไว อีกทั้งผู้ที่ฉีดอาจไม่ใช่แพทย์จริงหรือเป็นหมอกระเป๋า ทำให้ราคาฉีดฟิลเลอร์ปากถูกลงยิ่งขึ้นไปอีก ฉีดไปแล้วอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายตามที่เคยเห็นในข่าวกันได้ครับ เช่น ฟิลเลอร์อุดตัดเส้นเลือด ฟิลเลอร์เน่า 

ดังนั้นหมออยากแนะนำให้เช็กคลินิกฉีดฟิลเลอร์ให้มั่นใจก่อนครับว่าฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นของแท้ มีราคาที่สมเหตุสมผล และผู้ฉีดเป็นแพทย์จริงหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยของตัวคนไข้เองครับ

---

Restylane Kysse อยู่ได้นานไหม ?

Restylane Kysse สามารถคงผลลัพธ์ได้นานประมาณ 12 เดือน ทั้งนี้ระยะเวลาการคงอยู่ขึ้นอยู่กับสภาพผิวเดิม การดูแลตัวเองหลังทำ และพฤติกรรมการใช้ชีวิตประวันของแต่ละคน เมื่อรู้สึกว่าปากเริ่มเล็กลงสามารถกลับมาเติมฟิลเลอร์เพิ่มได้ครับ

---

ฉีด Restylane Kysse กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีดฟิลเลอร์สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ แต่อาจมีรอยบวมแดงบริเวณที่ฉีดจากตัวยาหรือเข็ม ซึ่งจะสามารถหายไปได้เองประมาณภายใน 2-3 วัน และอาการบวมจะค่อย ๆ ลงลงภายใน 4-5 วัน โดยริมฝีปากจะเข้าที่เป็นทรงสวยหลังฉีดประมาณ 2 อาทิตย์

---

วิธีการดูแลตัวเอง หลังฉีด Restylane Kysse

• งดการสัมผัส กด นวด คลึง ถูบริเวณริมฝีปาก
• ไม่แกะ ดึง หรือลอกริมฝีปาก
• 12 ชั่วโมงแรก งดการใช้หลอดดูดน้ำ สูบบุหรี่ ทาลิปสติก อาจทำให้ปากเสียรูปทรงได้
• งดกิจกรรมหรือการออกกำลังกายหนัก ๆ อย่างน้อย 48 ชั่วโมง
• เลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มร้อน การรับประทานอาหารที่ต้องสัมผัสความร้อน อย่างน้อย 48 ชั่วโมง
• ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้ฟิลเลอร์ที่เป็นสารอุ้มน้ำฟูสวยและอยู่ได้นาน

---

Restylane Kysse มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?

Restylane Kysse มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจฉีดดังนี้ครับ

ข้อดีของ Filler restylane kysse

• ริมฝีปากมีความอวบอิ่ม ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน
• ปรับทรงปากได้หลายทรงหลายตามสไตล์ความชอบ
• มีส่วนผสมของยาชา ช่วยลดความเจ็บขณะฉีด
• ขั้นตอนการฉีดสะดวก รวดเร็ว ใช้เวลาทำไม่นาน
• เห็นผลได้ทันทีหลังทำ ไม่ต้องพักฟื้น
• มีความปลอดภัย แพทย์ให้การยอมรับกว้างขวาง

ข้อเสียของ Filler restylane kysse

• ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่ถาวร ฟิลเลอร์จะค่อย ๆ สลายไปเองตามธรรมชาติ
• ต้องอาศัยประสบการณ์และเทคนิคเฉพาะของแพทย์ ถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดี

---

ฉีด Restylane Kysse ที่ไหนดี ?

สำหรับคนไข้ที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะฉีด Restylane Kysse ที่ไหนดี ? เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ลดความเสี่ยงการเกิดผลข้างเคียง หมอแนะนำให้พิจารณาคลินิกดังนี้ครับ

1. คลินิกที่ได้มาตรฐาน น่าเชื่อถือ

คลินิกความงามที่ได้มาตรฐาน ได้รับใบอนุญาต 11 หลักจากกระทรวงสาธารณสุข มีช่องทางการติดต่อที่สะดวก รวมถึงมีบริการดูแลหลังทำหัตถการ เช่น การให้คำแนะนำในการดูแลตนเองหลังการฉีด การนัดตรวจติดตามผล

2. แพทย์มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์

แพทย์มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมจากแพทยสภา และที่สำคัญควรมีประสบการณ์การฉีดฟิลเลอร์ สามารถเลือกรุ่น/ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสมในแต่ละเคส แนะนำให้ดูเคสรีวิวก่อน-หลังทำของแพทย์ในแหล่งที่เป็นกลาง น่าเชื่อถือ เช่น Pantip, รีวิวในเพจ Facebook

3. ฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นของแท้

คลินิกใช้ Filler Restylane Kysse ของแท้ที่นำเข้าโดยบริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) เท่านั้น ก่อนฉีดฟิลเลอร์หมอควรแกะกล่องให้ดูต่อหน้า และสามารถขอกล่องกลับบ้านได้

4. ราคาฉีดฟิลเลอร์สมเหตุสมผล 

Restylane Kysse filler ราคาไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป ส่วนราคาการฉีดฟิลเลอร์ปากอาจแตกต่างกันตามประสบการณ์และเทคนิคของแพทย์

ฟิลเลอร์ปาก Restylane Kysse ที่ V Square Clinic ฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์กว่า 15 ปี มีศิลปะการฉีดฟิลเลอร์ “Fine Art of Filler” ออกแบบทรงปากที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญใช้ฟิลเลอร์ Restylane ของแท้ที่เข้าอย่างถูกต้องทุกกล่อง สามารถตรวจสอบได้ หมอแกะกล่องฟิลเลอร์ต่อหน้า นำกล่องกลับบ้านได้ 

สำหรับใครที่สนใจ แต่ยังไม่แน่ใจจะใช้ฟิลเลอร์ปากยีห้อไหนดี ? ใช้ Restylane Kysse ดีไหม ? สามารถส่งรูปใบหน้ามาให้หมอประเมินเบื้องต้นผ่านช่องทางออนไลน์ หรือนัดคิวเข้ามาปรึกษาหมอโดยตรงได้ที่ V Sqaure Clinic 28 สาขา ทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ

---

Restylane Kysse ของแท้ ดูอย่างไร ?

วิธีตรวจสอบ ฟิลเลอร์แท้ Restylane รุ่น Kysse

• นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย Galderma Thailand เท่านั้น
• มีสติกเกอร์ โมโนแกรม Restylane เมื่อลอกจะเห็นคำว่า “VOID”
• สแกน QR Code ด้วยแอปพลิเคชัน eZtracker เพื่อตรวจสอบของแท้
• เลข Lot. ที่ข้างกล่อง หลอด และสติกเกอร์ ตรงกันทั้ง 3 จุด
• มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย
• สามารถสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 023 1800 ต่อ 402

---

Restylane Kysse ราคาเท่าไหร่ ?

ฟิลเลอร์ปากราคาเแตกต่างกันไปตาม รุ่น/ยี่ห้อฟิลเลอร์ ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ รวมถึงเทคนิคและประสบการณ์ของแพทย์ โดยที่ V Square Clinic ฟิลเลอร์ Restylane Kysse ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 14,900.-/1 CC 

โดยการฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นอีกจุดที่ต้องใช้เทคนิคพิเศษในการฉีด ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์และเทคนิคของแพทย์ เพื่อให้ได้ทรงปากสวยที่เข้ากับใบหน้าและดูเป็นธรรมชาติครับ

---

Restylane Kysse รีวิว

Restylane Kysse รีวิว 1 CC

Restylane Kysse รีวิว 2 CC

---

สรุป

Restylane Kysse เป็นฟิลเลอร์ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในบริเวณริมฝีปากโดยเฉพาะ สามารถเพิ่มเติมความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากดูมีสุขภาพดี และปรับทรงปากได้หลากหลายทรง เช่น ทรงปากเกาหลี ทรงปากกระจับ ทรงปากสายฝอ ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน อยู่ได้นานถึง 1 ปี นับเป็นฟิลเลอร์อีกรุ่นสำหรับใช้ฉีดฟิลเลอร์ปากที่หมอแนะนำครับ

---

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Filorga ใต้ตา

Filorga ใต้ตา เป็นอีกตำแหน่งบนใบหน้าที่สามารถฉีดได้ครับ แต่หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับการนำ Filorga มาฉีดหน้าใสมากกว่า ฉีดFilorgaใต้ตา คืออะไร ? แก้ปัญหาใต้ตาได้อย่างไร ? filorgaใต้ตาอยู่ได้นานไหม ? ต่างจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา cytocare ใต้ตาอย่างไร ? บทความนี้หมอรวบรวมข้อมูลที่ควรรู้ พร้อมคำแนะนำก่อนตัดสินใจ เลือกหัตถการที่แก้ปัญหาใต้ตาที่ตรงจุดและได้ผลลัพธ์คุ้มค่าครับ    

สารบัญ Filorga ใต้ตา

1. Filorga ใต้ตา คืออะไร ?
2. ปัญหาเกี่ยวกับใต้ตามีอะไรบ้าง แก้ไขได้อย่างไร ?
3. วิธีการดูแลใต้ตา ทำอย่างไร ?
4. Filorga ใต้ตา มีตัวยากี่ชนิด
5. Filorga ใต้ตา แก้ปัญหาใต้ดวงตาได้อย่างไร ?
6. Filorga ใต้ตา VS การแก้ปัญหาใต้ตาวิธีอื่น
7. ฉีดFilorga ใต้ตา ดีไหม ?
8. ฉีดFilorga ใต้ตา ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
9. Filorga ใต้ตา ของแท้ ดูอย่างไร ?
10. Filorga ใต้ตา ราคาเท่าไร ?
11. รีวิวการฉีดFilorga ใต้ตา
12. ฉีดFilorga ใต้ตา อันตรายไหม ?
13. Filorga ใต้ตา มีวิธีการฉีดอย่างไร ?
14. ฉีดFilorga ใต้ตา เจ็บไหม ?
15. ใครที่ควรเลือกใช้ Filorga ใต้ตา ?
16. ฉีดFilorga ใต้ตา ไม่เหมาะกับใคร ?
17. ฉีดFilorga ใต้ตา มีผลข้างเคียงไหม ?
18. ก่อนและหลังฉีดFilorga ใต้ตา มีคำแนะนำหรือไม่ ?
19. ฉีดFilorga ใต้ตา อยู่ได้นานไหม ?
20. ฉีดFilorga ใต้ตา กี่วันเห็นผล ?
21. ฉีดFilorga ใต้ตา ฉีดกี่ครั้งถึงจะได้ผลดี 

---

Filorga ใต้ตา คืออะไร ?

Filorga (ฟิลอก้า) คือ ยี่ห้อตัวยาจากประเทศฝรั่งเศส จัดอยู่ในกลุ่มเมโสหน้าใส (Mesotherapy) ที่มีไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ HA เป็นส่วนประกอบหลัก เมื่อนำมาฉีดบริเวณใต้ตา จะเรียกว่าฉีด Filorga ใต้ตา (ฉีดฟิลอก้าใต้ตา) หรือเมโสใต้ตา ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาดำ ขอบตาคล้ำ ผิวใต้ตาแห้งให้ผิวกลับมาชุ่มชื้น อิ่มฟู ดูสดใสขึ้น 

HA ใน Filorgaใต้ตา เป็น Non Cross-Linked HA โมเลกุลไม่เชื่อมเกาะกัน เมื่อฉีดเข้าไปจึงกระจายตัวใต้ผิวได้ดี ต่างจาก HA ในฟิลเลอร์ ซึ่งเป็น Cross-linked HA โมเลกุลเชื่อมเกาะกัน จึงมีความคงตัว คงรูปมากกว่า เน้นเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก ปรับรูปหน้าครับ 

---

ปัญหาเกี่ยวกับใต้ตามีอะไรบ้าง แก้ไขได้อย่างไร ?

ปัญหาใต้ตามีหลากหลาย เนื่องจากผิวบริเวณใต้ตามีความบอบบาง และเมื่ออายุมากขึ้น ผิวเริ่มเสื่อมสภาพ คอลลาเจนลดน้อยลง ก็เกิดการยุบตัวของกระดูกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้ใต้ตาเป็นตำแหน่งแรก ๆ ที่มักเกิดปัญหา ไม่ว่าจะเป็น  

• ขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำ 
• ริ้วรอยใต้ตา   
• ใต้ตาหย่อนคล้อย ถุงใต้ตา 
• เบ้าตาลึก ตาโหล
• ร่องใต้ตา ร่องน้ำตา  

หากต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว แก้ปัญหาใต้ตาเร่งด่วน สามารถใช้วิธีทางการแพทย์ในการแก้ปัญหาได้ครับ หมอจะประเมินปัญหาและแนะนำวิธีที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

---

วิธีการดูแลใต้ตา ทำอย่างไร ?

เมื่อมีปัญหาใต้ตา ส่วนมากคนไข้จะเริ่มจากการดูแลด้วยตัวเองก่อน ทำได้หลายวิธี เช่น 

• หลีกเลี่ยงการขยี้ตาหรือถูใต้ตาแรง ๆ 
• ไม่นอนดึก นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
• ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 6-8 แก้ว/วัน 
• ล้างหน้า เช็ดเครื่องสำอางอย่างเบามือ 
• ทาครีมกันแดดรอบดวงตา 
• หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด รังสี UV ทำร้ายผิวรอบดวงตา 
• ใช้ครีมบำรุงใต้ตา มอยส์เจอร์ไรเซอร์บำรุงรอบดวงตา  
• งดสูบบุหรี่และงดดื่มแอลกอฮอล์ 
• รับประทานยาบรรเทาอาการภูมิแพ้ 

หากทำตามวิธีข้างต้นแล้ว แต่ปัญหาใต้ตายังไม่ดีขึ้น หรือเห็นผลลัพธ์ช้า มีวิธีทางการแพทย์ที่สามารถช่วยฟื้นบำรุงผิวบริเวณใต้ตาให้กลับมาสดใส เช่น Filorgaฉีดใต้ตา สามารถแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ ที่เกิดจากพฤติกรรม ไม่ว่าจะเป็นการอดนอน ละเลยการบำรุงผิวรอบดวงตา สูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์  

แต่ถ้าปัญหาใต้ตาของคนไข้ที่มีสาเหตุจากบริเวณร่องใต้ตา (Tear Through Deformity) หรือเบ้าตา (Hollow Under Eye) เกิดการยุบตัวลงของกระดูกเมื่ออายุมากขึ้น ทำให้มองเห็นเป็นเบ้าตาลึก มีร่องใต้ตา เมื่อกระทบกับแสงยิ่งทำให้เห็นใต้ตาคล้ำ หมอจะแนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเพื่อเติมเต็มมากกว่าครับ    

---

Filorga ใต้ตา มีตัวยากี่ชนิด

Filorga ใต้ตา ประกอบด้วยตัวยาหลายชนิด เช่น 

• Hyaluronic Acid ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เสริมสร้างคอลลาเจน 
• Amino acids ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ลดริ้วรอย 
• Coenzymes, Nucleic acids, สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปรับสภาพสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอให้กระจ่างใส
• วิตามิน 12 ชนิด แร่ธาตุ 6 ชนิด ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ 

---

Filorga ใต้ตา แก้ปัญหาใต้ดวงตาได้อย่างไร ?

• ลดความหมองคล้ำจากเม็ดสีใต้ตา
• ฟื้นฟูใต้ตาให้ดูสว่าง กระจ่างใส  
• ลดริ้วรอยเล็ก ๆ ใต้ตาเรียบเนียนขึ้น
• กักเก็บความชุ่มชื้น ผิวใต้ตาดูอิ่มฟู 

---

Filorga ใต้ตา VS การแก้ปัญหาใต้ตาวิธีอื่น

การแก้ปัญหาใต้ตามีหลายวิธีครับ แต่ถ้าเทียบกับหัตถการการฉีด ระหว่างฉีด Fliorga ใต้ตา ฉีด cytocare ใต้ตา ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ทั้ง 3 หัตถการ มีข้อดี ข้อเสียต่างกัน

• Filorga ใต้ตา เป็นการฉีด Non Cross-Linked HA ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ ลดริ้วรอยเล็ก ๆ ได้ แต่ถ้าเป็นริ้วรอยร่องลึกจากกระดูกยุบตัว จะไม่สามารถแก้ไขได้ครับ เพราะ HA ใน Filorga จะไม่เหมือนกับ HA ในฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวและยืดหยุ่นกว่า เติมเต็มริ้วรอยร่องลึกได้ดี 

• ฉีด cytocare ใต้ตา เป็นการฉีดสารบำรุงผิวแบบเข้มข้น ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวอุ้มน้ำและมีความชุ่มชื้นมากขึ้น ฟื้นฟูผิวใต้ตาให้กระจ่างใส แต่ก็จะอยู่ได้สั้น ๆ และต้องฉีดซ้ำบ่อย ๆ

• ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นการแก้ปัญหาใต้ตาที่ตรงจุดที่สุด ทั้งใต้ตาคล้ำ เบ้าตาลึก ตาโหล ถุงใต้ตา ริ้วรอยใต้ตา หลังฉีดเห็นผลทันที และมีความเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่าฉีด Fliorga ใต้ตา หรือฉีด cytocare เห็นผลชัดเจนตั้งแต่การฉีดครั้งแรก ฟิลเลอร์สลายได้เองตามธรรมชาติ แม้จะไม่อยู่ถาวร แต่สามารถเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ เพื่อคงผลลัพธ์

---

ฉีดFilorga ใต้ตา ดีไหม ? 

ปัญหาใต้ตาเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความผิดปกติของเม็ดสีบริเวณใต้ตา พักผ่อนไม่เพียงพอ โรคภูมิแพ้ หรืออายุมากขึ้น (Aging Process) หมอจะต้องประเมินก่อนครับว่าแก้ปัญหาด้วยวิธีไหนถึงจะเหมาะสม การฉีด Filorga ใต้ตา ให้ผลลัพธ์ดีในกรณีที่คนไข้มีปัญหาใต้ตาจากความผิดปกติของเม็ดสีใต้ตา จากพฤติกรรม เช่น อดนอน พักผ่อนน้อย ทำให้ใต้ตาคล้ำ ใบหน้าดูโทรม ไม่สดใส ต้องการแก้ไขเร่งด่วน   

---

ฉีดFilorga ใต้ตา ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?

ประโยชน์ของการฉีดFilorga ใต้ตา คือ ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ ผิวแห้ง ให้กลับมาชุ่มชื้น อิ่มฟูขึ้น เนื่องจากตัวยามีส่วนผสมของ HA และวิตามินต่าง ๆ ผสมอยู่ มีจุดเด่นในการบำรุงผิว เสริมสร้างคอลลาเจน และช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากอนุมูลอิสระครับ 

---

Filorga ใต้ตา ของแท้ ดูอย่างไร ? 

ก่อนฉีดฟิลอก้าใต้ตา ควรตรวจสอบตัวยาก่อนครับว่าเป็นของแท้หรือไม่ สามารถเช็กได้ในเบื้องต้น ดังนี้ 

• กล่องผลิตภัณฑ์มีบาร์โค้ดระบุชื่อคลินิกหรือบริษัท FILLMED Laboratoires 
• มีสติกเกอร์ซีลที่ฝากล่องด้านข้าง (ต้องเปิดตามรอยปรุที่กลางกล่อง)
• มี QR code เพื่อนำไปสแกนเช็กในระบบว่าเป็นของแท้
• ลายน้ำบนกล่องและบนเว็บไซต์ต้องตรงกัน 
• เลข Lot. ต้องตรงกัน ทั้งบนขวด กล่อง และเว็บไซต์
• ฝาขวดปิดสนิทและเป็นสีเทาเท่านั้น 

---

Filorga ใต้ตา ราคาเท่าไร ? 

Filorgaใต้ตาราคาขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิกครับ มีการนำ Filorga มาใช้หลายจุดครับ เช่น ใบหน้า ใต้ตา ลำคอ หลังมือ แขน ขา สำหรับที่ V Square Clinic จะใช้ Filorga ในการฉีดหน้าใส หรือฉีดเมโสหน้าใส เหมาะกับคนที่ต้องการมีผิวหน้าขาวใส ฉ่ำวาว ลดฝ้า กระชับรูขุมขน และลดริ้วรอยเล็ก ๆ ราคามีแบบรายครั้ง และรายคอร์ส 

• ฉีด Filorga ราคาครั้งละ 9,000.-
• คอร์ส 5 ครั้ง ราคา 39,000.- (รับเพิ่ม 1 ครั้ง ฟรี) 

---

รีวิวการฉีดFilorga ใต้ตา 

รีวิวฉีดเมโสFilorga ใต้ตา

---

ฉีดFilorga ใต้ตา อันตรายไหม ?

Filorga ใต้ตา มีความปลอดภัย ได้รับการพิสูจน์โดยศูนย์การวิจัยของประเทศฝรั่งเศส (French Research Center) สามารถช่วยลดปัญหาใต้ตาคล้ำ ตาดำให้ดูจางลงได้ หากฉีด Filorga ใต้ตา กับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ตัวยาแท้ นำเข้าอย่างถูกต้อง ฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ก็มั่นใจได้ครับ

---

Filorga ใต้ตา มีวิธีการฉีดอย่างไร ?

การฉีด Filorga ใต้ตา ใช้เวลาไม่นาน ขั้นตอนการฉีดไม่ยุ่งยาก โดยมีขั้นตอนดังนี้

• ก่อนฉีดจะมีการทำความสะอาดผิวหน้า หากคนที่กลัวเจ็บมาก ๆ สามารถขอแปะยาชาได้ รอยาชาออกฤทธิ์ประมาณ 30-45 นาที แต่โดยทั่วไปจะประคบเย็นระหว่างฉีด 
• จากนั้นหมอจะใช้เข็มขนาดเล็ก (30G หรือ 32G) ฉีดตัวยาเข้าไปบริเวณผิวหนังชั้นใน Filorga 1 ขวดมี 10 CC เหมาขวดฉีดบริเวณใต้ตา ทั่วหน้าได้ครับ 
• หลังฉีดเสร็จอาจมีรอยแดงจากรอยเข็ม หายได้เองภายใน 2-3 ชั่วโมง สามารถใช้หน้า ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

---

ฉีดFilorga ใต้ตา เจ็บไหม ?

การฉีด Filorga ใต้ตา จะบอกว่าไม่รู้สึกเลยก็คงไม่ใช่ครับ อีกทั้งความเจ็บของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน คนที่เคยทำหัตถการงานฉีดบนใบหน้ามาก่อน คงไม่กลัวการฉีด Filorga ใต้ตา แต่ถ้ายังไม่เคยอาจจะกลัวเจ็บ

หมออธิบายอย่างนี้ครับว่า ปกติการฉีด Filorga ใต้ตา เข็มที่ฉีดจะลงไปในชั้นผิวที่ไม่ลึก ประมาณ 5-10 มิลลิเมตรเท่านั้น ปริมาณตัวยาไม่เยอะ ใช้เวลาในการฉีดไม่นาน จึงไม่เจ็บมาก ไม่จำเป็นต้องใช้ยาชา ประคบน้ำแข็งก่อนฉีดก็เพียงพอครับ

---

ใครที่ควรเลือกใช้ Filorga ใต้ตา ?

• ผู้ที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ ตาหมีแพนด้า ใบหน้าดูโทรม ไม่สดใส 
• ผู้ที่อยากปรับผิวบริเวณใต้ตาให้สดใส ใต้ตากระจ่างใสขึ้น
• ผู้ที่มีริ้วรอยใต้ตาเล็ก ๆ อยากเพิ่มความชุ่มชื้นให้ใต้ตาดูอิ่มฟู สดใสขึ้น 
• ผู้ที่มีผิวบริเวณใต้ตาแห้ง ขาดความชุ่มชื้นและหมองคล้ำ 
• ผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง หรือดูแลแล้วแต่ยังไม่เห็นผล 
• ผู้ที่ต้องการวิธีดูแลและบำรุงใต้ตาที่เห็นผลเร็วและชัดเจน 

---

ฉีดFilorga ใต้ตา ไม่เหมาะกับใคร ? 

• คนที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำ ใต้ตาลึกที่เกิดจากการทรุดตัวของกระดูก 
• คนที่ต้องการผลลัพธ์หลังทำที่อยู่ได้นาน ๆ หรืออยู่ได้ถาวร 
• คนที่ใต้ตาคล้ำมาก ๆ แต่ต้องการเห็นผลชัดเจนในการฉีดครั้งแรก 

---

ฉีดFilorga ใต้ตา มีผลข้างเคียงไหม ?

ผลข้างเคียงที่พบ อาจมีอาการบวมหลังฉีด เช่น บวมจากรอยเข็ม บวมจากตัวยา เป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นเป็นปกติครับ ไม่อันตราย หายได้เองใน 3-4 ชั่วโมง แต่ถ้ามีอาการหลังฉีด เช่น 

• มีผื่นแดง 
• บวมแดง เป็นก้อน 
• อักเสบ ติดเชื้อ 

เป็นผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและแก้ไขอย่างทันท่วงที ส่วนมากเกิดจากฉีด filorga ใต้ตากับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน แพทย์ไม่มีประสบการณ์ หรือผู้ฉีดไม่ใช่แพทย์ ไม่รู้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง ใช้ตัวยาของปลอม หรือคนไข้หาซื้อตัวยาจากอินเทอร์เน็ตมาฉีดเอง    

---

ก่อนและหลังฉีดFilorga ใต้ตา มีคำแนะนำหรือไม่ ?

ก่อนฉีดFilorga ใต้ตา

• ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ Filorga ควรเลือกคลินิกมาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ 
• ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหา ใช้ Filorga ใต้ตา ช่วยได้อย่างไร ? ฉีด Filorga ใต้ตา ดีไหม ?
• แจ้งประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว ให้แพทย์ทราบ สตรีมีครรภ์ สตรีที่กำลังให้นมบุตร ไม่ควรฉีด 

หลังฉีดFilorga ใต้ตา 

• หลีกเลี่ยงการกดนวดหรือสัมผัสผิวบริเวณที่ทำ
• อาจมีรอยเข็ม รอยแดง รอยช้ำในจุดที่ฉีด (สามารถประคบเย็นภายใน 48 ชม. หลังจากนั้นสามารถประคบอุ่นได้ตามคำแนะนำของแพทย์)
• งดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน 
• ล้างหน้าได้ในช่วง 2-3 ชั่วโมงหลังฉีด แต่งหน้าได้ตามปกติ
• ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว

---

ฉีดFilorga ใต้ตา อยู่ได้นานไหม ?

Filorga ใต้ตา อยู่ได้นาน 3-4 สัปดาห์ ช่วยลดใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำได้ในระยะเวลาสั้น ๆ ถ้าอยากคงผลลัพธ์ต้องฉีดต่อเนื่องครับ หากเทียบกับหัตถการแก้ไขปัญหาใต้ตาตัวอื่น ๆ หมอยกตัวอย่างฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถแก้ปัญหาเดียวกันได้ และให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า อยู่ได้นาน 6-24 เดือน (ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ รุ่นฟิลเลอร์ที่เลือกใช้)  

---

ฉีดFilorga ใต้ตา กี่วันเห็นผล ?

ฉีดFilorga ใต้ตาเห็นผลลัพธ์เร็ว หลังฉีดสามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ จะเริ่มเห็นผลประมาณ 3 วันหลังฉีด และจะเห็นผลเต็มที่ประมาณ 7-14 วัน แต่ถ้าคนไข้ใต้ตาคล้ำมาก ๆ หรือมีร่องใต้ตาลึกจากกระดูกยุบตัว แล้วอยากฉีด Filorga ใต้ตา หมอจะไม่แนะนำครับ เพราะไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ตรงจุด ปัญหาใต้ตาลักษณะนี้จะเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามากกว่าครับ หลังฉีดเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด ช่วยเติมเต็มร่องใต้ตาลึก และทำให้ผิวบริเวณใต้ตาชุ่มชื้น อิ่มฟู ดูสดใส   

---

ฉีดFilorga ใต้ตา ฉีดกี่ครั้งถึงจะได้ผลดี

หมอแนะนำให้ฉีด Filorga ใต้ตา ต่อเนื่อง 5 ครั้งขึ้นไป โดยในช่วงแรกสามารถฉีด Filorga ใต้ตา ได้ทุกสัปดาห์ จนครบ 1 เดือน หลังจากนั้นแนะนำให้ฉีดเดือนละ 1-2 ครั้ง เพื่อคงผลลัพธ์ แต่ถ้าไม่อยากฉีดบ่อย ๆ ฉีดแล้วผลลัพธ์อยู่ได้เป็นปี หรือมีปัญหาอื่นที่ฉีด Filorga ใต้ตาแล้วไม่สามารถแก้ได้ เช่น ร่องใต้ตาลึก ถุงใต้ตาร่วมด้วย หมอจะแนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามากกว่าครับ สามารถแก้ปัญหาใต้ตาได้ครอบคลุม ตรงจุด และอยู่ได้นานกว่า  

---

สรุป  

Filorga ใต้ตา หรือเมโสใต้ตา ช่วยลดใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำให้จางลง เน้นช่วยบำรุงผิวใต้ตามากกว่าแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึกใต้ตา ผลลัพธ์หลังฉีดอยู่ได้ไม่นานประมาณ 3-4 สัปดาห์เท่านั้น หากต้องการผลลัพธ์ที่ดีต่อเนื่อง ควรฉีดอย่างต่อเนื่องครับ 

ก่อนตัดสินใจฉีดfilorgaใต้ตาที่ไหนดี ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ เพื่อประเมินปัญหาก่อนครับ เนื่องจากปัญหาใต้ตาเกิดจากหลายสาเหตุ ทีมแพทย์ V Square Clinic มีประสบการณ์ด้านมีความรู้เรื่องโครงสร้างทางกายวิภาคบนใบหน้าเป็นอย่างดี ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี สามารถแก้ปัญหาใต้ตาได้แม่นยำ ตรงจุดครับ 

อ้างอิง : 

• https://fillmed.com/ 
• https://fillmed.com/revitalize-nctf/

---

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Filler Biohyalux 

ฟิลเลอร์ Biohyalux เป็นฟิลเลอร์น้องใหม่สัญชาติจีน ที่ถูกนำมาใช้ในการปรับรูปหน้า ลดริ้วรอยร่องลึก ในประเทศไทยได้ไม่นาน (2023) ครับ

Biohyalux filler ดีอย่างไร มีกี่รุ่น ใช้ฉีดในบริเวณไหนได้บ้าง อยู่ได้นานแค่ไหน ? ในบทความนี้หมอได้รวมทุกข้อมูลของฟิลเลอร์ Biohyalux ที่ทุกคนอยากรู้มาให้ พร้อมตัวอย่าง biohyalux รีวิว เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ครับ 

สารบัญ Filler Biohyalux

1. ฟิลเลอร์ biohyalux คืออะไร ? 
2. ฟิลเลอร์ biohyalux ดีไหม
3. ฟิลเลอร์ biohyalux ต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร ?
4. ฟิลเลอร์ biohyalux มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นมีคุณสมบัติอย่างไร
5. ฟิลเลอร์ biohyalux นิยมฉีดจุดใด ? 
6. ฟิลเลอร์ biohyalux อยู่ได้นานไหม ?
7. ฟิลเลอร์ biohyalux ราคาเท่าไร ?
8. ฟิลเลอร์ biohyalux เห็นผลภายในกี่วัน ?
9. ฟิลเลอร์ biohyalux มีผลข้างเคียงไหม ? 
10. ฟิลเลอร์ biohyalux ของแท้ มีวิธีดูอย่างไร ? 
11. ฟิลเลอร์ biohyalux รีวิว

---

ฟิลเลอร์ biohyalux คืออะไร ? 

Biohyalux คือ ชื่อยี่ห้อฟิลเลอร์ ที่ผลิตจากประเทศจีน โดย Bloomage Biotech ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำผู้ผลิต สาร HA และกรดไฮยาลูรอนิค ที่เป็นส่วนประกอบหลักที่ใช้ในการผลิตฟิลเลอร์รายใหญ่ของโลก ถูกนำเข้าพร้อมจัดจำหน่ายในประเทศไทย โดยบริษัท โซว เมดิคอล จำกัด (SOE Medical) 

แม้จะเป็นฟิลเลอร์น้องใหม่ แต่ Biohyalux filler ก็เป็นฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพ เป็นสารเติมเต็มไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) ที่ผลิตขึ้นมาเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ จึงมีความปลอดภัย และไม่มีสารตกค้าง เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ได้รับความไว้วางใจในระดับ Global จากแพทย์ความงามในหลาย ๆ ประเทศ เช่น โปแลนด์ เยอรมัน สเปน ตุรกี ฮังการี จีน เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย อิตาลี กรีซ รัสเซีย รวมถึงประเทศไทยครับ 

สำหรับผู้ที่กังวลเรื่องความปลอดภัย ปัจจุบัน (2023) Biohyalux Filler ได้ผ่านการรับรองว่ามีความปลอดภัย ผ่าน อย. ไทย, CFDA , CE, EDQM, FDA และมีการฉีดไปแล้วกว่า 8,000,000 Syringe ทั่วโลก 

---

ฟิลเลอร์ biohyalux ดีไหม ?

ฟิลเลอร์ Biohyalux ถือเป็นอีกตัวเลือกที่ดี สำหรับผู้ที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ลดริ้วรอยร่องลึก คืนความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้า โดยจุดเด่นของฟิลเลอร์ Biohyalux คือถูกออกแบบมาเพื่อทำให้สามารถปรับรูปหน้าได้ง่ายขึ้น ช่วยทำให้หน้าอิ่มฟู เนื่องจากเป็น Biphasic HA ที่ประกอบไปด้วย Crosslinked HA และ Non Crosslinked HA เข้าด้วยกัน (Heterogeneous Mixture) 

โดยจะได้โมเลกุลของฟิลเลอร์ทั้งแบบอนุภาค (Particle) และเนื้อเจลรวมกัน ซึ่งฟิลเลอร์แบบนี้จะเหมาะกับการฉีดเพิ่ม Volume ครับ 

นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ Biohyalux ยังเป็นฟิลเลอร์ที่ใช้เทคนิคการผลิตด้วยเทคโนโลยี Technoloy-Issoosmosis Gel for Better Precision (BiBT™) ซึ่งหมายถึงการเป็นฟิลเลอร์ที่แทบไม่บวมน้ำ และโมเลกุลฟิลเลอร์มีขนาดเท่า ๆ กัน และมีความบริสุทธิ์สูง ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง คงตัวได้ดี อาการบวมหลังฉีดน้อย ไม่ต้องพักฟื้นหน้าหลังฉีด คนไข้สามารถใช้ใบหน้าได้ทันที และผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ

---

ฟิลเลอร์ Biohyalux ต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร ?

ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย. และถูกนำมาใช้ในการปรับรูปหน้า หรือลดริ้วรอยร่องลึก ปัจจุบันมีหลายยี่ห้อครับ โดยแต่ละยี่ห้อจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน

สำหรับฟิลเลอร์ Biohyalux ที่นอกจากจะมีกระบวนการผลิตและเทคโนโลยี BioBT ต่างไปจากฟิลเลอร์แบรนด์อื่น ๆ แล้ว ยังมีข้อแตกต่างที่ไม่เหมือนใครดังนี้ 

• ฟิลเลอร์ Biohyalux ผลิตโดย Bloomage Biotech ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตไฮยาที่ใหญ่ที่สุดในโลก 
• ฟิลเลอร์ Biohyalux ผลิตด้วยสาร HA บริสุทธิ์ที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัย และประสิทธิภาพสูง ได้รับการรับรองจาก THAI FDA, US FDA และอีก 12 ประเทศทั่วโลก
• ปัจจุบันมีทั้งหมด 4 รุ่น แพทย์สามารถเลือกใช้ ฉีดได้หลายตำแหน่งบนใบหน้า 
• บรรจุฟิลเลอร์ 1.1 CC ต่อกล่อง

นอกจากนี้เทคโนโลยี BioBT ในฟิลเลอร์ Biohyalux ยังทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวได้ช้าลง คงรูปได้นานขึ้นโดยเฉลี่ย อยู่ได้นาน 9-12 เดือนครับ

แล้วฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ เป็นอย่างไร ?  ในส่วนของฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย.ยี่ห้ออื่น ๆ ที่ได้รับความนิยม ยังมีอีกหลายยี่ห้อ โดยหมอขอยกตัวอย่างเฉพาะฟิลเลอร์ที่ทาง V Square Clinic เลือกใช้ มาแนะนำดังนี้ 

• ฟิลเลอร์ Juvederm (อเมริกา) ผลิตด้วย Hylacross และ Vycross Technology เป็นฟิลเลอร์เบอร์ต้น ๆ ที่ได้รับความนิยมจากแพทย์ทั่วโลกในการนำมาใช้ปรับรูปหน้า 

ผลิตโดยบริษัท Allergan มีจุดเด่นที่ความเรียบเนียน และมีหลายรุ่นให้เลือกใช้ โดยในแต่ละรุ่นจะมีเนื้อฟิลเลอร์และคุณสมบัติเด่นแตกต่างกัน จึงสามารถเลือกนำมาใช้ในการแก้ไขปรับรูปหน้าได้หลายจุด เช่น ขมับ ใต้ตา ปาก ร่องแก้ม คาง ครบทุกตำแหน่งของใบหน้าครับ 

• ฟิลเลอร์ Restylane (สวีเดน) ผลิตด้วย NASHA และ OBT Technology  เป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากแพทย์ทั่วโลกเช่นกัน และผ่านการรับรองจาก FDA มีจุดเด่นที่ขนาดโมเลกุลฟิลเลอร์มีเม็ดใหญ่ ช่วยให้อยู่ได้นานขึ้น และมีค่าความแข็งสูง ยืดหยุ่นดี นิยมฉีดยกพยุงผิว  มีหลายรุ่นให้แพทย์เลือกใช้ครับ

• ฟิลเลอร์ Belotero (สวิตเซอร์แลนด์) ผลิตด้วย CPM Technology  นำเข้าโดย Merz Aesthetics Thailand  ผ่านการขึ้นทะเบียนองค์การอาหารและยาในยุโรปสหรัฐอเมริกาและประเทศไทยจึงเชื่อมั่นได้ในความปลอดภัย 

มีจุดเด่นที่ความยืดหยุ่น เนื้อฟิลเลอร์มีความคงตัว และแบ่งเป็นรุ่นย่อย ๆ เพื่อให้เหมาะกับการฉีดแต่ละจุด นิยมฉีดเสริมกระดูกและเนื้อเยื่อผิวหนังที่ยุบตัวลงตามวัย 

• ฟิลเลอร์ Definisse (อิตาลี) ผลิตด้วย XTR™ Technology (eXcellent Three-Dimensional Reticulation) ทำให้ Hyaluronic Acid สานกันเป็นร่างแห ช่วยในการยกพยุง และปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ สามารถฉีดได้หลายจุดบนใบหน้า เพื่อแก้ไขปัญหาริ้วรอย ร่องลึก หรือปรับรูปหน้าให้สวยงาม ดูอ่อนเยาว์ขึ้น เช่นการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ,ฟิลเลอร์ขมับ ,ฟิลเลอร์ปาก ,ฟิลเลอร์หน้าผาก ไปจนถึงฟิลเลอร์จมูก และฟิลเลอร์แก้มตอบ ซึ่งในแต่ละจุดจะใช้เนื้อฟิลเลอร์ที่ต่างกัน

ปัจจุบันฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้ได้รับความนิยมมากขึ้น มีใช้ในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก ผลิตโดยบริษัท Relife Company เป็นบริษัทในเครือ A.Menarini อิตาลี มีการนำเข้าและจัดจำหน่ายในประเทศไทยโดยบริษัท A.Menarini Thailand 

• ฟิลเลอร์ Flore (เกาหลี) ผลิตด้วย HCCL™ (Highly Completed Cross-Linking) Technology ทำให้ได้ฟิลเลอร์เนื้อเจลที่มีทั้งความแข็งและความยืดหยุ่น แน่นกระชับ คงรูปได้ดี นำเข้าโดยบริษัท บอน-ซอง จำกัด (Bon-Song Thailand) 

ฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้ถูกนำมาใช้ได้ไม่นานครับ แต่ก็ได้รับความสนใจมาก เพราะในแง่ของราคาและคุณสมบัติถือว่าคุ้มค่า และยังสามารถใช้ฉีดได้หลายตำแหน่ง ตามคุณสมบัติของแต่ละรุ่นครับ

แต่ละยี่ห้อที่หมอแนะนำไป ล้วนมีคุณสมบัติที่ดีแตกต่างกัน การจะเลือกใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี แก้ปัญหาได้ตรงจุด สิ่งสำคัญคือการเลือกฉีดกับแพทย์ที่ประสบการณ์ครับ เพื่อให้สามารถประเมิน วิเคราะห์ปัญหา แนะนำยี่ห้อ/รุ่น ฟิลเลอร์ที่เหมาะกับสภาพผิว และใช้ปริมาณ CC ได้เหมาะสมกับแต่ละตำแหน่งที่ฉีดครับ

---

ฟิลเลอร์ biohyalux มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นมีคุณสมบัติอย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Biohyalux ผลิตออกมาทั้งหมด 4 รุ่น โดยทุกรุ่น ผ่าน อย.ไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับใครที่สนใจอยากรู้ข้อแตกต่างของแต่รุ่น ดีอย่างไร เหมาะกับฉีดจุดไหน หมอจะอธิบายเป็นแต่รุ่น ดังนี้  

• BIOHYALUX Fine Line (กล่องสีฟ้า) เหมาะกับการฉีดแก้ไขปัญหาผิวชั้นตื้น ช่วยเติมเต็มริ้วรอยต่าง ๆ บริเวณใบหน้าได้ดี เช่น ใต้ตา แก้มส้ม หน้าผาก และยังช่วยปรับสภาพผิวหมองคล้ำให้สดใส เรียบเนียนขึ้นด้วย

• BIOHYALUX LIPS (กล่องสีชมพู) เหมาะฉีดเติมเต็มบริเวณริมฝีปาก ช่วยให้ปากอวบอิ่มมากขึ้น หรือฉีดเน้นขอบปากให้ชัดขึ้นได้ มีความอวบอิ่มฟูเป็นธรรมชาติ ฟื้นฟูให้ปากชุ่มชื้น 

• BIOHYALUX DERM LINES (กล่องสีม่วง) เหมาะกับการฉีดเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกระดับปานกลาง เช่น ริ้วรอยร่องแก้ม หน้าผาก ระหว่างคิ้ว หางคิ้ว หางตา (ตีนกา) ให้กลับมาเรียบเนียน

• BIOHYALUX DEEP DERMIS (กล่องสีทอง) เหมาะกับการฉีดเพื่อยกกระชับ (Lifting) ช่วยเติมเต็มในผิวชั้นลึก นิยมฉีดเสริมจมูก เติมขมับ คาง ปรับรูปหน้า ช่วยทำให้กรอบหน้าชัดเจนขึ้นได้ 

สำหรับที่ V Square Clinic จะเลือกใช้ 2 รุ่น คือ BIOHYALUX DEEP DERMIS (กล่องสีทอง) และ BIOHYALUX DERM LINES (กล่องสีม่วง) ในการนำมาใช้ดูแลคนไข้ครับ 

---

ฟิลเลอร์ biohyalux นิยมฉีดจุดใด ? 

เนื่องจากฟิลเลอร์ biohyalux มี 4 รุ่นให้เลือก และแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติต่างกัน จึงสามารถเลือกนำมาฉีดได้หลายตำแหน่ง เช่น 

• ฟิลเลอร์ใต้ตา 
• ฟิลเลอร์หน้าผาก
• ฟิลเลอร์ขมับ
• ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 
• ฟิลเลอร์ปาก 
• ฟิลเลอร์คาง 

---

ฟิลเลอร์ biohyalux อยู่ได้นานไหม ?

Biohyalux Filler แต่ละรุ่นอยู่ได้นานโดยเฉลี่ย 9 เดือนเป็นอย่างน้อย ขึ้นอยู่กับรุ่นฟิลเลอร์ และการดูแลตัวเองหลังฉีด

• BIOHYALUX FINE LINES อยู่ได้นาน 6-9 เดือน
• BIOHYALUX LIPS อยู่ได้นาน 6-9 เดือน
• BIOHYALUX DERM LINES อยู่ได้นาน 9-12 เดือน
• BIOHYALUX DEEP DERMIS อยู่ได้นาน 9-12 เดือน

---

ฟิลเลอร์ Biohyalux ราคาเท่าไร ?

ฟิลเลอร์ไบโอไฮยาลักซ์ ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 7,xxx ขึ้นไป โดยแต่ละคลินิกราคาแตกต่างกันได้ครับ ขึ้นอยู่กับปริมาณ CC ที่ใช้ และโปรโมชันฉีดฟิลเลอร์ในช่วงเวลานั้น ๆ ครับ 

---

ฟิลเลอร์ biohyalux เห็นผลภายในกี่วัน ? 

โดยทั่วไปหลังฉีดฟิลเลอร์สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีครับ อาจมีอาการบวมเล็กน้อยจากรอยเข็มและเนื้อฟิลเลอร์ที่แทรกซึมเข้าไปในชั้นผิว ประมาณ 4-5 วัน ถือเป็นเรื่องปกติครับ สามารถหายได้เองใน 7-14 วัน และจะเห็นผลเต็มที่ใน 2-3 สัปดาห์ครับ 

---

ฟิลเลอร์ biohyalux มีผลข้างเคียงไหม ?

ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลรายงานเกี่ยวกับผลข้างเคียงหลังจากฉีดฟิลเลอร์ biohyalux ที่เป็นอันตราย โดยอาการข้างเคียงที่พบได้ เช่น อาการบวมแดงจากรอยเข็ม ซึ่งเป็นปกติหลังฉีดฟิลเลอร์ หายได้เองครับ 

---

ฟิลเลอร์ biohyalux ของแท้ มีวิธีดูอย่างไร ?

1. มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย
2. มีเลข Lot และวันที่ผลิต ตรงกับข้อมูลใน QR CODE 
3. ที่ฝากล่องทั้ง 2 ด้าน มีสติกเกอร์ป้องกันการเปิด
4. สติกเกอร์ Hologram ด้านหน้ากล่อง สามารถสแกน QR CODE เพื่อตรวจสอบได้ โดยจะปรากฏข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้
   • โลโก้ SOE MEDICAL และสัญลักษณ์ (แม่กุญแจ) พร้อมแจ้งว่า “สินค้านี้ยังไม่ถูกเปิดใช้งาน”
   • คลินิกที่สั่งซื้อ และเลข QR-Code ตรงกับหน้ากล่อง
   • รูปและชื่อผลิตภัณฑ์ชัดเจน พร้อมแจ้งขนาดสินค้า Lot ที่ผลิต
   • วันผลิต วันหมดอายุ และวันนำเข้า 20xx-xx-xx
   • ผู้ผลิต Bloomage Biotechnology Corp., Ltd. และผู้นำเข้า SOE Medical Co.,Ltd เท่านั้น
   • ที่อยู่ และช่องทางการติดต่อผู้นำเข้า
5. โทรสอบถามเลข Lot ได้ที่บริษัท โซว เมดิคอล จำกัด โทร. 065 692 8987

---

ฟิลเลอร์ biohyalux รีวิว

ตัวอย่างผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ Biohyalux จากบริษัทนำเข้า soemedical

---

สรุป

ฟิลเลอร์ Biohyalux เป็นฟิลเลอร์น้องใหม่ ที่เข้ามาอยู่ในวงการความงาม แพทย์ความงามให้การยอมรับ 

เป็นฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพ ผลิตจากแหล่งผลิตที่มีความน่าเชื่อถือ ผ่านมาตรฐานระดับโลก และมีให้เลือกใช้หลายรุ่น ถือเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าลดริ้วรอยครับ 

เอกสารอ้างอิง : 

• https://www.biohyalux.com/biohyalux 
• https://www.soemedical.com/ 
• https://www.facebook.com/biohyaluxfiller/

---

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ