บทความทั้งหมด

Dysport โดยหมอต้น

ทำความรู้จักกับ Dysport โบท็อกซ์อังกฤษ มีข้อดีอะไรบ้าง ?

Categories
botox
Dysport โดยหมอต้น

Dysport 

Dysport Botox (โบท็อกซ์ดิสพอร์ต) เป็นยี่ห้อโบท็อกซ์สัญชาติอังกฤษที่แพทย์ความงามไว้วางใจ ด้วยคุณสมบัติ การออกฤทธิ์และประสิทธิภาพของตัวยาที่ปลอดภัย ออกฤทธิ์ไว และให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ  

ทำความรู้จัก Dysport Botox มีข้อดีอะไรบ้าง ? ต่างกับโบท็อกยี่ห้ออื่นอย่างไร ? เปรียบเทียบโบท็อกอังกฤษ อเมริกา เกาหลี เยอรมัน Dysport Botox ราคาเท่าไหร่ ? รีวิว Botox Dysport ฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง ? ลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า ลิฟต์กรอบหน้า ลดต้นแขน ลดน่อง ลดเหงื่อ เห็นผลภายในกี่วัน ?     

Dysport Botox
โบท็อกซ์ Dysport

สารบัญ โบท็อกซ์อังกฤษ Dysport 

  1. Dysport คืออะไร ?
  2. Dysport botox มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?
  3. Dysport botox มีคุณสมบัติอย่างไร ?
  4. Dysport ต่างกับยี่ห้ออื่นอย่างไร ?
  5. Dysport botox นิยมฉีดตำแหน่งใด ?
  6. โบท็อกซ์ dysport ราคาเท่าไหร่ ?
  7. Dysport botox ของแท้ เช็กอย่างไร ?
  8. วิธีเตรียมตัวก่อนฉีด Dysport botox มีอะไรบ้าง ?
  9. ข้อแนะนำหลังฉีด Dysport botox
  10. Dysport botox อยู่ได้นานไหม ?
  11. Dysport botox มีผลข้างเคียงไหม ?
  12. โบท็อกซ์ dysport เห็นผลภายในกี่วัน ?
  13. ฉีด Dysport botox ที่ไหนดี ?
  14. รีวิว การฉีด Dysport botox

Dysport คืออะไร ?

โบท็อกซ์ Dysport (ดิสพอร์ต) คือ ยี่ห้อโบท็อกซ์สัญชาติอังกฤษ เป็น ABO Botulinum Toxin Type A บางคนเรียกว่าโบท็อกซ์ ABO ผลิตที่ประเทศอังกฤษ โดย IPSEN BIOPHARM LIMITED ได้รับการรับรองจาก US FDA และ อย.ไทย ว่ามีความปลอดภัย นำเข้าโดย บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) ซึ่งนำเข้าฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane

ด้วยความที่มี Molecule Complex Size ขนาดโมเลกุลเล็ก ค่าการกระจายตัวกว้างมาก จึงกระจายตัวในผิวหนังและกล้ามเนื้อได้ดี สามารถฉีดลดริ้วรอย ยกกระชับกรอบหน้าได้เป็นธรรมชาติ และยังเหมาะฉีดกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น ลดกราม ลดน่อง ลดเหงื่อรักแร้ ได้ด้วยครับ


Dysport botox มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?

Dysport ข้อดี 

  • ตัวยากระจายตัวกว้าง ออกฤทธิ์ไว 
  • ลดริ้วรอยอย่างเป็นธรรมชาติ หน้าไม่แข็ง  
  • เหมาะฉีดลดริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า 
  • เหมาะกับเทคนิค Dermolift เพื่อยกกระชับ ลิฟต์กรอบหน้า
  • เหมาะฉีดลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว ลดต้นแขน ลดน่อง

Dysport ข้อเสีย 

  • ผลลัพธ์อยู่ไม่ถาวร สามารถฉีดซ้ำได้ในระยะเวลาที่เหมาะสม 

Dysport botox มีคุณสมบัติอย่างไร ?

Dysport botox
Dysport botox 
  • Dysport Botox เป็นโปรตีน สกัดจากแบคทีเรียคลอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Clostridium Botulinum) 
  • พัฒนาโดยลดขนาดโมเลกุลให้เล็กลง ด้วยวิธี Accessory Protein คือ การกำจัดโปรตีนที่ไม่จำเป็นออกจากโมเลกุลของท็อกซิน ทำให้โมเลกุลของโบท็อกมีขนาดเล็กลง ตัวยากระจายตัวได้ดี และยังคงประสิทธิภาพในการยับยั้งการทำงานของระบบประสาทได้ดี
  • หลังฉีดโบท็อกซ์จะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท มีผลทำให้มัดกล้ามเนื้อคลายตัวชั่วคราว
  • ตัวยากระจายตัวได้กว้าง เมื่อฉีดเข้ากล้ามเนื้อจะไม่กระจุกตัวอยู่ในพื้นที่แคบ ๆ 
  • มีคุณสมบัติเหมาะฉีดลดขนาดกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น ต้นแขน น่อง ลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว 
  • ฉีดลดริ้วรอย ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ริ้วรอยลดลงประมาณ 50% และไม่ตึงมาก 
  • ฉีดด้วยเทคนิค Dermolift ในชั้นผิวหนังชั้นตื้น ๆ ตามกรอบหน้า (ฉีดโบท็อกลิฟต์กรอบหน้า) ในกรณีที่ต้องการเห็นผลเร่งด่วน

Dysport ต่างกับยี่ห้ออื่นอย่างไร ?

  • การกระจายตัวยา โบท็อกซ์ดิสพอร์ต ถูกออกแบบมาให้ตัวยากระจายตัวกว้างที่สุดเมื่อเทียบกับโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่น ๆ จึงนิยมใช้ฉีดกล้ามเนื้อมัดใหญ่  
  • ระยะเวลาออกฤทธิ์ ออกฤทธิ์ไว จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับหน้าเร่งด่วน (ลิฟต์กรอบหน้า)  
  • หน่วยในการนับปริมาณ จะนับเป็น Speywood Units (S.U.) ต่างจากโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่นที่จะนับหน่วยเป็น International Unit (I.U.) 
  • ปริมาณโบท็อกซ์ต่อขวด Dysport Botox มี 300 ยูนิต ซึ่งจะเทียบเท่า 100 ยูนิตของโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่น ๆ  

โบท็อกแต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติและจุดเด่นต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นโบอังกฤษ อเมริกา เกาหลี เยอรมัน ขึ้นอยู่กับกรรมวิธีการผลิต ชนิดโปรตีน ขนาดโมเลกุลที่ส่งผลต่อการกระจายตัวยากว้าง/แคบ ส่งผลต่อการออกฤทธิ์ และระยะเวลาอยู่ได้นาน 

การจะเลือกยี่ห้อโบท็อกซ์ที่เหมาะสมมาฉีดให้คนไข้ ต้องอาศัยประสบการณ์ของแพทย์ และยังขึ้นอยู่กับเทคนิคการฉีดที่แพทย์ใช้ด้วยครับ คนไข้แต่ละคนใช้ยี่ห้อโบท็อกซ์ที่แตกต่างกันได้ ขึ้นอยู่กับปัญหา สภาพผิว รวมทั้งงบประมาณของคนไข้ที่ต้องนำมาพิจารณาประกอบกัน 

แพทย์ประเมินปัญหา เลือกยี่ห้อโบท็อกซ์ โดยหมอเบนซ์
แพทย์ประเมินปัญหา ก่อนเลือกยี่ห้อโบท็อกซ์

ที่ V Square Clinic มีโบท็อกซ์ที่ผ่าน อย.ให้แพทย์เลือกใช้แก้ปัญหาให้คนไข้ หลายยี่ห้อจากหลายประเทศ 

  • Dysport botox โบท็อกอังกฤษ ออกฤทธิ์เร็ว กระจายตัวเป็นวงกว้าง เหมาะฉีดกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ลดแขน ลดน่อง ลดเหงื่อ ลิฟต์กรอบหน้า ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
  • Allergan botox โบท็อกอเมริกา มีความบริสุทธิ์ 99.5% กระจายตัวยาแคบ ออกฤทธิ์แม่นยำตรงจุด เหมาะฉีดกล้ามเนื้อมัดเล็ก โอกาสดื้อโบท็อกซ์น้อย อยู่ได้นาน 5-6 เดือน 
  • Nabota botox โบท็อกเกาหลี มีความบริสุทธิ์ (Hi-Pure) กระจายตัวเป็นวงกว้าง ออกฤทธิ์ไว เห็นผลเร็ว ราคาย่อมเยา อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
  • Aestox botox โบท็อกเกาหลี พัฒนาโครงสร้างโมเลกุลให้เหมือนโบท็อกซ์อเมริกา ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ หน้าไม่แข็ง ออกฤทธิ์ไว เห็นผลเร็ว ราคาย่อมเยา อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
  • Xeomin botox โบท็อกเยอรมัน มีความบริสุทธิ์สูง (Pure Toxin) ให้ผลดีในผู้ที่มีประวัติดื้อโบท็อกซ์ ตัวยาไม่กระจุกตัว ช่วยลดการทำงานของต่อมไขมัน และลดรูขุมขนได้ อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
โบท็อกยี่ห้อไหนดีที่สุด เจาะลึกคุณสมบัติ Botox แต่ละยี่ห้อ

Dysport botox นิยมฉีดตำแหน่งใด ?

Dysport botox สามารถฉีดทั่วหน้าในตำแหน่งที่เกิดริ้วรอยได้ง่าย เช่น ริ้วรอยจากการแสดงสีหน้าหรืออารมณ์ ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ยกกระชับด้วยเทคนิค Dermolift ซึ่งเห็นผลเร็ว แต่เนื่องจากโบท็อกซ์ Dysport มีคุณสมบัติในการกระจายตัวยาที่กว้างที่สุด จึงให้ผลลัพธ์ดีเมื่อนำมาฉีดกล้ามเนื้อมัดใหญ่  ลดต้นแขน ลดน่อง ลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว 

ตำแหน่งฉีด Dysport Botox คุณนิโคล
รวมตำแหน่งฉีด Dysport Botox
  • ฉีดโบท็อกลดริ้วรอย หน้าเรียว (ทั่วหน้า) 100-165 ยูนิต
  • ฉีดโบท็อกลดริ้วรอยทั่วหน้า 50-100 ยูนิต 
  • ฉีดโบท็อกหน้าผาก 30 ยูนิต
  • ฉีดโบท็อกหางตา 25 ยูนิต
  • ฉีดโบท็อกระหว่างคิ้ว 25 ยูนิต
  • ฉีดโบท็อกลดกราม หน้าเรียว 50-100 ยูนิต 
  • ฉีดโบท็อกลิฟต์กรอบหน้า 30-50 ยูนิต
  • ฉีดโบท็อกลดกล้ามแขน 200 ยูนิต
  • ฉีดโบท็อกน่อง 200 ยูนิต
  • ฉีดโบท็อกรักแร้ 50-100 ยูนิต

โบท็อกซ์ dysport ราคาเท่าไหร่ ?

Botox Dysport ราคาคุ้มค่าครับเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ โดยปริมาณที่ใช้จะขึ้นอยู่กับปัญหา ปริมาณริ้วรอย และปริมาณกล้ามเนื้อของแต่ละเคส  

โบท็อกซ์ dysport ราคา
โบท็อกซ์ dysport ราคา
โบท็อกซ์ dysport ราคา
โบท็อกซ์ dysport ราคา
โบท็อกซ์ dysport ราคา

ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว 

  • Dysport Botox 300 U ราคา 15,999 บาท

ฉีดลดกรามและลดริ้วรอยทั่วหน้า ลิฟต์กรอบหน้าเทคนิค Dermolift 

  • Dysport Botox 300 U ราคา 18,000 บาท

ฉีดลดเหงื่อ/รักแร้ 

  • Dysport Botox 300 U ราคา 18,000 บาท 
  • Dysport Botox 600 U 28,000 บาท   

ฉีดลดต้นแขน/น่อง  

  • Dysport Botox 600 U ราคา 28,000 บาท

Dysport botox ของแท้ เช็กอย่างไร ?

ฉีดโบท็อกไม่ควรเลือกจากราคาถูก-แพง แต่ควรเลือกฉีดโบท็อกแท้ ที่ได้มาตรฐาน ผ่าน อย. ไม่ควรฉีดโบท็อกหิ้ว โบท็อกปลอม เพราะอาจเกิดผลข้างเคียง เช่น  ฉีดโบแล้วตาตก ปากเบี้ยว ติดเชื้อ หรือดื้อโบท็อก ฉีดแล้วไม่เห็นผล เพื่อความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ดี ก่อนฉีดโบท็อกทุกครั้งควรตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจว่า Dysport Botox ที่ฉีดเป็นโบท็อกแท้  

Dysport botox ของแท้
วิธีดู Dysport botox ของแท้
  • โบท็อกแท้ Dysport 1 ขวด มี 300 units
  • เปิดกล่องด้านหน้า 
  • มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย
  • เลข Lot. ตรงกัน 2 จุด คือ
    1. เลข Lot. ที่กล่อง
    2. เลข Lot. ที่ขวด
  • เป็นยาเคลือบที่ก้นขวด ไม่มีน้ำ ต้องใส่น้ำเกลือแล้วดูดยาออกมา
  • สามารถสอบถามเลข Lot. และคลินิก ได้ที่บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 023 1800 ต่อ 402
วิธีดูโบท็อก Dysport (อังกฤษ) ของแท้

ที่ V Square Clinic หมอแกะกล่องผสมยาโบท็อกให้ดูต่อหน้า คนไข้จะได้เห็นครับว่าเป็นโบท็อกขวดใหม่ ที่ไม่ผ่านการทำละลายผสมด้วยน้ำเกลือมาก่อน ฉีดเสร็จให้กล่องและขวดกลับบ้าน หรือคนไข้จะถ่ายรูปเก็บไว้ก็ได้ครับ เพื่อความสบายใจ  

Vsquare_tips_ICON

ข้อควรรู้ : โบท็อก Dysport 1 ขวดมี 300 ยูนิต จะต่างจากโบท็อกยี่ห้ออื่น ๆ ที่มี 100 ยูนิต ถ้าเจอคลินิกที่โฆษณาโบท็อกอังกฤษ 100 ยูนิต ราคาถูก ๆ จะมีปริมาณแค่ 40 ยูนิตเท่านั้น อันนี้ต้องระวังครับ 


วิธีเตรียมตัวก่อนฉีด Dysport botox มีอะไรบ้าง ?

ก่อนฉีดโบท็อกซ์
วิธีเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์
  • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบท็อก วิธีการสังเกตโบท็อกแท้แต่ละยี่ห้อ เพื่อความปลอดภัย
  • เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ด้านการฉีดโบท็อก
  • เลือกยี่ห้อโบท็อกแท้ผ่าน อย. ก่อนฉีดโบท็อกซ์ทุกครั้ง ควรตรวจสอบก่อนว่าเป็นโบท็อกแท้
  • ให้แพทย์เปิดขวดใหม่ ผสมตัวยาต่อหน้า หรือขอกล่องและขวดกลับบ้านไว้ตรวจสอบเพื่อความมั่นใจ
  • งดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, NSAIDs, Ponstan
  • งดสครับใบหน้า คอร์สเลเซอร์ แว็กผิวหรือนวดหน้าบริเวณที่ฉีด 2-3 วัน เพื่อลดอาการเขียวช้ำ 
  • หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำ ควรปรึกษาหรือแจ้งแพทย์ก่อน 

ข้อแนะนำหลังฉีด Dysport botox

หลังฉีดโบท็อกซ์
วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์
  • รีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง เพื่อให้โบท็อกถูกเซลล์ประสาทดูดเข้าไปให้มากที่สุด  
  • รับประทานทานอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี เพื่อช่วยให้โบท็อกออกฤทธิ์ไวขึ้น และทำงานดีขึ้น
  • งดนอนราบ นอนคว่ำ หรือก้มหัวต่ำกว่าอก 3 ชั่วโมง เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนมาที่บริเวณใบหน้ามากขึ้น ส่งผลให้โบท็อกที่ฉีดปลิวไปบริเวณที่ไม่ต้องการ
  • หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง 48 ชั่วโมง เช่น อบซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ ตากแดด ทำเลเซอร์
  • งดอาหารรสจัด และอาหารหมักดอง เพราะมีสารที่ทำให้หลอดเลือดขยายตัว  
  • งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพราะส่งผลต่อการอักเสบ ยุบบวมช้า และอยู่ได้สั้นลง

Dysport botox อยู่ได้นานไหม ?

โบท็อก Dysport อยู่ได้นาน 4-6 เดือน โบท็อกแท้ ผลลัพธ์จะไม่อยู่ถาวรครับ สลายได้เองตามธรรมชาติ ถ้าอยากให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์สำคัญ ส่งผลต่อการเข้าที่ของโบท็อกซ์ และช่วยให้โบท็อกซ์อยู่ได้นานขึ้น

หากต้องการคงผลลัพธ์ของโบท็อกไว้สามารถมาฉีดเพิ่มได้ หมอแนะนำให้เว้นระยะการฉีดอย่างน้อย 3 เดือน แต่ไม่ควรเว้นนานเกิน 5-6 เดือน เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อกลับมาทำงานได้ปกติ และทำให้ต้องใช้ยูนิตของโบท็อกเยอะขึ้น


Dysport botox มีผลข้างเคียงไหม ?

ถ้าฉีดโบท็อกแท้ ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ รู้เทคนิคการฉีด โอกาสเกิดผลข้างเคียงแทบไม่มีครับ บางเคสหลังฉีดโบท็อกแล้วรู้สึกเมื่อย หรือตึงบริเวณที่ฉีด อันนี้เป็นอาการปกติที่ไม่อันตราย สามารถหายได้เอง ไม่ต้องกังวล แต่ถ้ามีการอักเสบติดเชื้อหลังฉีด อันนี้เป็นอันตราย  

ฉีดโบท็อกแล้วเกิดผลข้างเคียง จะเกิดจากฉีดโบท็อกซ์กับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ฉีดกับหมอกระเป๋า ใช้อุปกรณ์ที่ไม่สะอาด ไม่มีระบบการดูแลความสะอาดปลอดเชื้อ หรือฉีดโบท็อกซ์แล้วหนังตาตก มุมปากเบี้ยว ยิ้มไม่สุด หน้าแข็ง ซึ่งเกิดจากไม่รู้เทคนิคการฉีด ฉีดผิดตำแหน่ง ประเมินปริมาณโบท็อกไม่เหมาะสม  


โบท็อกซ์ dysport เห็นผลภายในกี่วัน ?

Dysport โดยหมอแนน
ฉีดโบท็อก Dysport ลดริ้วรอยหน้าผาก

ระยะเวลาเห็นผลหลังฉีดโบท็อกซ์ จะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีด เช่น 

  • โบท็อกลดริ้วรอย หน้าผาก ตีนกา ระหว่างคิ้ว เห็นผลใน 3-4 วัน เห็นผลเต็มที่ใน 2 สัปดาห์
  • โบท็อกลดกราม ปรับรูปหน้า เห็นผลประมาณ 14 วัน เห็นผลเต็มที่ใน 2-3 เดือน
  • โบท็อกลิฟต์กรอบหน้า เหนียง คอ เห็นผลใน 3-4 วัน เห็นผลเต็มที่ใน 1-2 สัปดาห์
  • โบท็อกลดเหงื่อ/รักแร้ เห็นผลใน 3-7 วัน เห็นผลเต็มที่ใน 2 สัปดาห์
  • โบท็อกต้นแขน/น่อง เห็นผลใน 3 เดือน (ในการฉีด 1 ครั้งจะลดลงได้ประมาณ 10-20% เนื่องจากกล้ามเนื้อบริเวณน่องเป็นมัดกล้ามเนื้อขนาดใหญ่) 

ฉีด Dysport botox ที่ไหนดี ?

ก่อนฉีดโบท็อกอังกฤษ Dysport หรือโบท็อกยี่ห้ออื่น ๆ นอกจากศึกษาข้อมูเกี่ยวกับโบท็อกในเบื้องต้น การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน รู้วิธีดูโบท็อก Dysport ของแท้ และฉีดโบท็อกกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ก็เป็นเรื่องสำคัญครับ 

ฉีด Dysport botox ที่ V Square Clinic คลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐาน เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง ใช้โบท็อก Dysport ของแท้ ผ่าน อย. หมอแกะกล่องใหม่ ผสมยาให้ดูต่อหน้า ให้กล่องและขวดกลับบ้าน เพื่อตรวจสอบให้มั่นใจว่าเป็นโบท็อกแท้ นอกจากนี้ทีมแพทย์ยังมีประสบการณ์ด้านการฉีดโบท็อกโดยเฉพาะ รู้เทคนิคและตำแหน่งการฉีด ประเมินปริมาณตัวยา (U) ได้เหมาะสม จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ


รีวิว การฉีด Dysport botox

 ฉีด Botox Dysport รีวิว แก้ปัญหาริ้วรอย
ฉีด Botox Dysport รีวิว กับคุณแอนดี้ เขมพิมุก

สรุป

โบท็อกซ์อังกฤษ Dysport ผ่านการรับรองจาก US FDA และ อย.ไทย ขึ้นชื่อในเรื่องของตัวยากระจายตัวกว้าง นอกจากฉีดลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า ลิฟต์กรอบหน้า ได้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ หน้าไม่แข็ง ยิ้มได้สุดแล้ว ถ้าคนไข้ต้องการฉีดลดแขน ลดน่อง ลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว Dysport Botox เป็นยี่ห้อที่หมอแนะนำ เพราะเหมาะกับกล้ามเนื้อมัดใหญ่ และยังออกฤทธิ์ไวอีกด้วยครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา_หมอ29คน
ฉีดโบท็อกยกมุมปาก

ฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปาก อันตรายไหม เห็นผลแค่ไหน ยกมุมปากด้วยวิธีไหนดี ?

Categories
botox
ฉีดโบท็อกยกมุมปาก

ฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปาก

ปัญหามุมปากตก ปากคว่ำ สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งจากกรรมพันธุ์ และการหย่อนคล้อยของมุมปาก ทำให้ใบหน้าดูดุ บึ้งตึง

หลาย ๆ คนอาจเคยได้ยินว่าสามารถใช้การฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปาก ช่วยแก้มุมปากคว่ำให้ยกขึ้นได้ แต่จริง ๆ ก็มีทั้งข้อดี ข้อเสีย และความเสี่ยงที่ควรรู้ก่อนฉีด หมอจะอธิบายในบทความนี้ครับ พร้อมแนะนำการยกมุมปากด้วยวิธีอื่น ๆ นอกจากโบท็อกซ์ยกมุมปาก มีวิธีไหนอีกบ้างที่ช่วยได้ ?

สารบัญ ฉีดโบท็อกยกมุมปาก

  1. ปัญหารูปปากที่ไม่สวย เกิดจากอะไร ?
  2. ฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปาก คืออะไร ?
  3. โบท็อกซ์ยกมุมปาก ช่วยแก้ปัญหาได้อย่างไร ?
  4. ฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปาก เหมาะกับใคร ?
  5. โบท็อกซ์ยกมุมปากอันตรายไหม ?
  6. โบท็อกซ์ยกมุมปากมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร เมื่อเทียบกับวิธียกมุมปากแบบอื่น
  7. โบท็อกซ์ยกมุมปาก ทำร่วมกับวิธียกมุมปากแบบอื่นได้หรือไม่ ?
  8. รูปปากที่สวย เป็นอย่างไร ?
  9. ฉีดโบยกมุมปากยี่ห้อไหนดี ใช้กี่ยูนิต ?
  10. โบท็อกซ์ยกมุมปาก ราคาเท่าไร ?
  11. ฉีดโบยกมุมปาก กี่วันเห็นผล ?
  12. ผลข้างเคียงที่อาจเกิดหลังฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปาก
  13. ฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปาก อยู่ได้นานไหม ?
  14. ฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปาก เลือกที่ไหนดี ?
  15. วิธีเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปาก
  16. หลังฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปากควรดูแลตัวเองอย่างไร ?

ปัญหารูปปากที่ไม่สวย เกิดจากอะไร ?

ปัญหารูปปากที่ไม่สวย เกิดจากอะไร
  • กล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ยกมุมปากอ่อนแรง กล้ามเนื้อที่ดึงมุมปากลงมีแรงมากกว่า
  • ใบหน้าหย่อนคล้อย แก้มย้อยลงมาดันทำให้บริเวณมุมปากตกลง
  • มีไขมันบริเวณกระเปาะแก้มเยอะ
  • โครงสร้างผิวเสื่อมสภาพจากอายุที่มากขึ้น
  • พันธุกรรมปากคว่ำแต่กำเนิด

ฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปาก คืออะไร ?

ฉีดโบท็อกยกมุมปาก คือ การฉีดตัวยา Botox (Botulinum Toxin Type A) เพื่อยกมุมปากขึ้น โดยโบท็อกเป็นตัวยาที่จะออกฤทธิ์กับกล้ามเนื้อเท่านั้น ก็จะได้ผลในคนที่มีปัญหามุมปากตกเพราะการทำงานของกล้ามเนื้อครับ 

โบท็อกยกมุมปาก

เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น หมอจะอธิบายการทำงานของโบท็อกให้ดังนี้

  • โบท็อกเป็นสารสกัดจากแบคทีเรียที่ชื่อ คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum)
  • โบท็อกเป็นโปรตีนน้ำใส ๆ เมื่อฉีดเข้าสู่บริเวณกล้ามเนื้อจะแยกเป็น 2 ส่วน
    • 1.) ส่วนที่ถูกดูดซึมเข้าไปเก็บไว้ในเซลล์ประสาท จะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) ส่งผลให้มัดกล้ามเนื้อทำงานลดลงชั่วคราว/ลดการขยับของกล้ามเนื้อ
    • 2.) ส่วนที่ไม่ถูกดูดซึม จะปลิวไปตามกระแสเลือดในระยะเวลาไม่เกิน 1 ชม. และถูกขับออกไปโดยไม่ส่งผลต่อเซลล์อื่น ๆ

หลังฉีดโบท็อกยกมุมปาก มุมปากของคนไข้จะยกขึ้น ช่วยให้ใบหน้าดูสดใส เป็นมิตรมากขึ้น หากทำโดยใช้เทคนิค Nefertiti Lift ยกกระชับหน้า ก็จะให้ผลเรื่องการกระชับกรอบหน้าและลำคอไปด้วยครับ 

เทคนิคโบท็อกลิฟหน้า
เทคนิคการฉีดโบท็อกลิฟหน้า

โบท็อกซ์ยกมุมปาก ช่วยแก้ปัญหาได้อย่างไร ?

หมอจะฉีดโบท็อกเข้าไปบริเวณกล้ามเนื้อ Depressor Anguli Oris ซึ่งทำหน้าที่ดึงมุมปากลง เมื่อโบท็อกออกฤทธิ์ กล้ามเนื้อจะคลายตัว ทำให้ไม่มีแรงดึงอีก มุมปากที่เคยตกก็จะยกขึ้นได้ครับ 

กล้ามเนื้อ Depressor Anguli Oris
กล้ามเนื้อ Depressor Anguli Oris ที่ดึงมุมปากลง

ฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปาก เหมาะกับใคร ?

  • ผู้ที่มีปัญหามุมปากตกจากกล้ามเนื้อ
  • ต้องการยกมุมปากขึ้นให้ดูเหมือนอมยิ้ม
  • ไม่สะดวกผ่าตัดยกมุมปาก ไม่อยากมีแผล
  • ต้องการปรับโหงวเฮ้งปาก

โบท็อกซ์ยกมุมปากอันตรายไหม ?

แม้ว่าการฉีดโบท็อกยกมุมปากจะช่วยยกมุมปากได้ แต่ก็เป็นจุดที่ต้องพิถีพิถันและอาศัยประสบการณ์ของแพทย์เป็นอย่างมาก ในการวางจุดฉีดแล้วใช้ปริมาณตัวยาให้เหมาะสม ถ้าฉีดไม่ถูกจุด ใช้ปริมาณโบท็อกมากเกินไป ตัวยาอาจกระจายไปยังกล้ามเนื้อมัดที่ไม่ต้องการ ทำให้ปากเบี้ยว หรือมุมปากไม่เท่ากันได้ครับ

โบท็อกแท้
ฉีดโบท็อกยกมุมปากต้องใช้โบท็อกแท้เท่านั้น

เช่นเดียวกับปัญหาโบท็อกปลอม โบท็อกหิ้ว ที่เจอกันบ่อย ๆ ในปัจจุบัน ก่อนฉีดคนไข้ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าโบท็อกที่ใช้เป็นโบท็อกแท้ ตรวจสอบกับบริษัทนำเข้าได้ ผ่าน อย. ก่อนฉีดหมอแกะกล่อง เปิดขวดใหม่ ผสมยาให้ดูต่อหน้า เพื่อความปลอดภัย


โบท็อกซ์ยกมุมปากมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร เมื่อเทียบกับวิธียกมุมปากแบบอื่น

โบท็อกซ์ยกมุมปาก

  • ข้อดี ช่วยยกมุมปากที่ตกจากการออกแรงดึงของกล้ามเนื้อได้ดี ราคาไม่แพง ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลค่อนข้างเร็ว
  • ข้อเสีย อยู่ไม่ได้ถาวร ต้องกลับมาฉีดซ้ำ มีความเสี่ยงที่จะเกิดข้อผิดพลาดในการฉีด ทำให้ปากเบี้ยว มุมปากไม่เท่ากันได้ ต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง จึงได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย

ร้อยไหมยกมุมปาก

  • ข้อดี จะใช้ในเคสที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย แก้มหย่อนลงไปดันบริเวณมุมปาก ทำให้มุมปากตก เมื่อร้อยไหมยกกระชับหน้าก็จะช่วยดึงมุมปากไปด้วย
  • ข้อเสีย ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหามุมปากตกโดยตรง จะไม่มีการดึงเฉพาะบริเวณมุมปาก เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาผิวเป็นคลื่น เกิดรอยบุ๋ม ไหมตึงหรือขาดได้

ผ่าตัดยกมุมปาก

  • ข้อดี ผลลัพธ์อยู่ได้ถาวร กำหนดความสูงของมุมปากที่ต้องการได้
  • ข้อเสีย แก้ไขทรงได้ยาก ก่อนทำต้องตัดสินใจให้ดีครับ มีแผลที่ต้องดูแลความสะอาด และต้องการระยะเวลาพักฟื้นเพื่อให้ปากเข้าที่ ไม่เหมาะกับคนที่เป็นแผลเป็นหรือคีลอยด์ (Keloid) ง่าย

ฟิลเลอร์ยกมุมปาก

  • ข้อดี เป็นวิธีที่หมอแนะนำที่สุด สำหรับคนไข้ที่มีปัญหามุมปากตกครับ หลังฉีดเห็นผลทันที ช่วยยกมุมปากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีความเสี่ยงเหมือนการฉีดโบท็อก และยังช่วยเติมเต็มผิวรอบ ๆ ปาก หรือริมฝีปากให้อวบอิ่ม เต่งตึงได้ด้วย
  • ข้อเสีย อยู่ไม่ได้ถาวร ต้องกลับมาฉีดซ้ำ แต่ก็อยู่ได้นานกว่าโบท็อกยกมุมปากครับ

ตัวอย่างเคสที่แก้ปัญหามุมปากตก ปากคว่ำ ด้วยฟิลเลอร์

รีวิว ฟิลเลอร์ยกมุมปาก 1 CC
รีวิว ฟิลเลอร์ยกมุมปาก 2 CC

โบท็อกซ์ยกมุมปาก ทำร่วมกับวิธียกมุมปากแบบอื่นได้หรือไม่ ?

เนื่องจากมุมปากเป็นจุดเล็ก ๆ ส่วนใหญ่เลือกทำหัตถการอย่างใดอย่างหนึ่งก็เห็นผลแล้วครับ แต่ถ้าใครฉีดโบท็อกยกมุมปากมาแล้วเกิดปัญหา ปากเบี้ยว ไม่เท่ากัน ไม่เห็นผล ก็สามารถใช้วิธีอื่น ๆ ช่วยได้ครับ เช่น ฉีดฟิลเลอร์ปาก 

อีกกรณีคือมุมปากตกจากการหย่อนคล้อยของแก้ม ก็สามารถร้อยไหมกับฉีดโบท็อกยกมุมปากร่วมกัน จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์การยกมุมปากที่ชัดเจนขึ้น 

ปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดยกมุมปาก
ก่อนทำหัตถการแพทย์จะประเมินและให้คำแนะนำที่เหมาะกับแต่ละเคส

หลัก ๆ คือต้องให้หมอประเมินก่อนว่าปัญหามุมปากตกของแต่ละเคสเกิดจากอะไร ก่อนจะเลือกหัตถการที่เหมาะสมสำหรับแต่ละเคสโดยเฉพาะ ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดี มุมปากยกขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติครับ


รูปปากที่สวย เป็นอย่างไร ?

ลักษณะปากที่สวย

ลักษณะปากที่สวยงาม สามารถแบ่งสัดส่วนออกมาได้ ดังนี้

  • ขนาดของริมฝีปาก บน:ล่าง ที่เหมาะสมคือ 1:1.618
  • เมื่อมองด้านข้างแล้วลากเส้นจากปลายจมูกลงมาที่คาง ริมฝีปากล่างควรจะแตะเส้นนี้พอดี ส่วนริมฝีปากบนควรจะห่างจากเส้นนี้ 2 mm
  • เนื้อริมฝีปากล่างไม่ควรใหญ่เกินขอบเขตของยอดตัว M ของริมฝีปากบน
  • มุมปากควรยกขึ้น ไม่ทิ่มลง
  • เนื้อปากควรอิ่มเรียบเนียน ไม่มีริ้วรอย
  • ขอบรอยต่อระหว่างริมฝีปากกับผิวปกติ ไม่มีริ้วรอย
โหงวเฮ้งปาก

นอกจากนี้ในเรื่องโหงวเฮ้งปาก (จุ้ยแซ) ปากที่สวยงามจะมีลักษณะเด่น คือ ต้องมีขอบ มีหยัก มุมปากทั้ง 2 ข้าง ตรงหรือช้อนขึ้นเล็กน้อย ไม่ตกคว่ำ และได้รูปเหมาะสมกับขนาดของใบหน้า ริมฝีปากกว้าง บ่งบอกเรื่องของความสัมพันธ์กับผู้อื่น การพูด การเจรจา และเป็นคนที่สามารถทำงานใหญ่ได้ดี


ฉีดโบยกมุมปากยี่ห้อไหนดี ใช้กี่ยูนิต ?

สำหรับการฉีดโบท็อกยกมุมปาก ส่วนมากจะใช้เป็นโบท็อกเกาหลี Nabota และ Aestox ครับ สามารถแบ่งฉีดเป็นจุดเล็ก ๆ 25-30 ยูนิตได้ 

  • Nabota ออกฤทธิ์ไว เห็นผลเร็ว เหมาะกับคนที่ต้องการผลเร่งด่วน เป็นโบท็อกเกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านงานวิจัยรับรองจาก อย. อเมริกา U.S.FDA
  • Aestox ตัวยาจะออกฤทธิ์คล้าย ๆ กับโบท็อก Nabota เห็นผลเร็ว ราคาประหยัด

ส่วนโบท็อกยี่ห้ออื่น ๆ เช่น โบท็อก Allergan (อเมริกา), โบท็อก Dysport (อังกฤษ), โบท็อก Xeomin (เยอรมัน) ก็สามารถใช้ฉีดได้ครับ แตกต่างกันที่ราคากับคุณสมบัติเด่น หมอจะประเมินความต้องการของคนไข้ แล้วแนะนำยี่ห้อที่เหมาะสมกับทั้งปัญหาและงบประมาณ

โบท็อกยี่ห้อไหนดีที่สุด อเมริกา/เกาหลี/อังกฤษ/เยอรมัน ต่างกันอย่างไร ?

โบท็อกซ์ยกมุมปาก ราคาเท่าไร ?

ทั่วไปถ้าเป็นโบท็อกเฉพาะจุดจะใช้โบท็อกอยู่ที่ 25-30 ยูนิต ซึ่งการฉีดโบท็อกยกมุมปาก จะใช้โบท็อกไม่ถึง 100 ยูนิต อยู่แล้วครับ โดยส่วนมากคนไข้ที่เข้ามาฉีดก็จะเน้นการฉีดลดริ้วรอยทั่วหน้า ลิฟกรอบหน้า แจ้งปัญหาที่กังวล แล้วหมอก็จะเฉลี่ยการฉีดแก้ไขให้ในจุดต่าง ๆ เป็นรายเคสครับ

ราคาฉีดโบท็อก

ราคาโบท็อกลดริ้วรอยทั่วหน้า

โบท็อก Nabota / Aestox

  • 100 U ราคา 9,000.-
  • 150 U ราคา 12,000.-

โบท็อก Allergan

  • 50 U ราคา 10,000.-
  • 100 U ราคา 18,000.-

โบท็อก  Xeomin 

  • 100 U ราคา 18,000.-

โบท็อก Dysport

  • 300 U ราคา 18,000.-

*โบท็อกซ์ Dysport 300 ยูนิตจะเทียบเท่ากับ 100 ยูนิตของโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่น ๆ เป็นจุดที่ควรระวัง เพราะบางคลินิกจัดโปรโมชั่นโบท็อกอังกฤษ 100 ยูนิต และไม่ชี้แจง ทำให้ดูเหมือนราคาถูก แต่จริง ๆ แล้วเทียบประสิทธิภาพเท่ากับโบท็อกอเมริกาแค่ 40 ยูนิต


ฉีดโบยกมุมปาก กี่วันเห็นผล ?

การออกฤทธิ์ของตัวยาหลังฉีดโบท็อก จะเริ่มเห็นผลประมาณ 3-7 วัน เห็นผลเต็มที่ 14 วัน


ผลข้างเคียงที่อาจเกิดหลังฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปาก

หลังฉีดโบท็อกยกมุมปากคนไข้อาจจะรู้สึกเมื่อย ๆ บริเวณกล้ามเนื้อที่ฉีดได้เป็นปกติครับ ส่วนผลข้างเคียงที่อันตราย เกิดจากการผิดพลาดระหว่างฉีด หมอไม่มีประสบการณ์ หมอเถื่อน หมอกระเป๋า ใช้โบท็อกปลอม โบท็อกหิ้ว อย่างเบาคือฉีดแล้วไม่เห็นผล แต่ถ้าร้ายแรงคือฉีดแล้วทำให้มุมปากยิ่งตก ปากเบี้ยว มุมปากไม่เท่ากัน ต้องรอให้โบท็อกหมดฤทธิ์ถึงจะกลับคืนสภาพเดิม ซึ่งต้องใช้เวลาเป็นเดือนครับ


ฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปาก อยู่ได้นานไหม ?

หลังฉีดโบท็อกยกมุมปาก โบท็อกจะออกฤทธิ์อยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อก เทคนิคการฉีดของแพทย์ และการดูแลตัวเองของคนไข้ร่วมกันครับ


ฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปาก เลือกที่ไหนดี ?

ฉีดโบท็อกยกมุมปากกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ โดยหมอซี
  1. ฉีดโบท็อกยกมุมปากในคลินิกที่ได้มาตรฐาน  ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข  มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก แสดงอยู่ในบริเวณที่สังเกตได้ง่าย
  2. คลินิกตั้งอยู่ในทำเลที่ปลอดภัย สะอาด กว้างขวาง สว่างเพียงพอ ไม่อับทึบ เช่น ห้างสรรพสินค้า อาคารพาณิชย์
  3. ฉีดกับแพทย์จริง มีใบรับรอง สามารถนำชื่อนามสกุลเข้าไปตรวจในเว็บไซต์ของแพทยสภา (http://www.tmc.or.th/check_md/) และควรฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ฉีดโบท็อกมาก่อน
  4. ใช้โบท็อกแท้เท่านั้น คนไข้ควรศึกษาวิธีดูโบท็อกแท้เบื้องต้น ก่อนฉีดหมอต้องแกะกล่อง เปิดขวด ผสมยาให้ดูต่อหน้า นำกล่องกลับบ้านได้
  5. ดูรีวิวฉีดโบท็อกยกมุมปากจากผู้ที่เคยใช้บริการจริง ในแหล่งที่เป็นกลาง น่าเชื่อถือ คลินิกไม่สามารถลบหรือแก้ไขได้

วิธีเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปาก

  • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกยกมุมปาก เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เลือกหมอ ดูรีวิวจริงทั้งแบบรูปภาพและวิดีโอ
  • มียาและวิตามินบางชนิดที่ควรงดก่อนฉีด เช่น แอสไพริน, NSAIDs, วิตามิน St. John’s Wort, ginkgo biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E
  • งดยาผลัดเซลล์ผิว การดึงหรือโกนขนบริเวณที่จะฉีดโบท็อก
  • หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำควรแจ้งแพทย์ก่อนฉีดโบท็อกทุกครั้ง
การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกยกมุมปาก

หลังฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปากควรดูแลตัวเองอย่างไร ?

  • หลังฉีดโบท็อกควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง
  • งดนอนราบหรือเอนศีรษะประมาณ 3 ชม. ป้องกันการไหลเวียนของยาที่อาจไปสู่กล้ามเนื้อบริเวณอื่นที่ไม่ต้องการ  
  • หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง อย่างน้อย 48 ชั่วโมง
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ อาหารรสจัด อาหารหมักดอง
  • หากมีคอร์สทำหน้า นวดหน้า ควรงด 2 สัปดาห์หลังทำ
  • ควรรับประทานอาหารที่มี zinc (แร่ธาตุสังกะสีจะช่วยเพิ่มฤทธิ์ของโบท็อก)
วิธีปฏิบัติหลังฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปาก

สรุป

สำหรับใครที่มีปัญหามุมปากตก ส่วนมากหมอจะแนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปาก จะได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและปลอดภัยมากกว่าครับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้แต่ละคนด้วยว่าปากคว่ำ มุมปากตก เกิดจากอะไร อาจจะพิจารณาทำหัตถการอื่น ๆ เพื่อให้เสริมผลลัพธ์กัน ดังนั้นการเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากขึ้นครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา_หมอ29คน

ทำความรู้จักกับ Nabota botox ของแท้ดูอย่างไร มีจุดเด่นตรงไหน ?

Categories
botox
Botox Nabota 

Nabota Botox (โบท็อกนาโบตะ) คือโบท็อกซ์สัญชาติเกาหลี ที่ผลิตและพัฒนาโดยบริษัท DAEWOONG เป็นโบท็อกเกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านงานวิจัยรองรับจาก U.S. FDA ปัจจุบันมีใช้มาอย่างยาวนาน นำเข้าอย่างถูกต้องตามกฎหมายโดยบริษัท Montana ประเทศไทย ตัวยามีความปลอดภัย ออกฤทธิ์ไว เห็นผลเร็ว

ใครที่สนใจฉีดโบท็อกซ์ nabota และกำลังหาข้อมูลว่า nabota botox ดีไหม ? มีกี่แบบ ? ฉีดจุดไหนได้บ้าง ? ต่างจากโบท็อกยี่ห้ออื่นอื่นอย่างไร ? ราคาเท่าไหร่ ? ของแท้ดูอย่างไร ? อยู่ได้นานไหม ? กี่วันเห็นผล ? หมอมีคำตอบมาให้ในบทความนี้ครับ   

สารบัญ Nabota Botox

  1. Nabota botox ดีอย่างไร ?
  2. Nabota botox ฉีดจุดไหนดี ?
  3. ข้อแตกต่างของโบท็อกซ์ nabota กับยี่ห้ออื่น
  4. Botox nabota มีกี่แบบ ?
  5. Botox nabota ราคาเท่าไหร่ ?
  6. โบท็อกซ์ nabota ของแท้ ดูอย่างไร ?
  7. โบท็อกซ์ nabota อยู่ได้นานไหม ?
  8. โบท็อกซ์ nabota เห็นผลภายในกี่วัน ?
  9. รีวิว ฉีดโบท็อกซ์ nabota

Nabota botox ดีอย่างไร ?

จุดเด่น Botox nabota

Nabota Botox มีจุดเด่นในเรื่องของเทคโนโลยีการผลิตลิขสิทธิ์เฉพาะ HI-PURE Technology ที่ทำให้ตัวยามีความบริสุทธิ์สูงถึง 98.7% ช่วยลดโอกาสดื้อโบท็อกหลังฉีด สามารถกลับมาฉีดใหม่ได้ และออกฤทธิ์ค่อนข้างไว เห็นผลเร็ว เหมาะสำหรับเคสที่ต้องการผลลัพธ์เร่งด่วน

ปัจจุบัน โบท็อกยี่ห้อ Nabota ถือเป็นโบท็อกเกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านการวิจัย ได้รับการรับรองมาตรฐานและความปลอดภัยจาก อย. สหรัฐอเมริกา (U.S. FDA) และผ่าน อย.ไทย นิยมใช้ทั้งในและต่างประเทศครับ


Nabota botox ฉีดจุดไหนดี ?

Botox nabota สามารถฉีดได้หลายตำแหน่ง ดังนี้


ข้อแตกต่างของโบท็อกซ์ nabota กับยี่ห้ออื่น

หากเปรียบเทียบโบท็อก nabota กับโบท็อกยี่ห้ออื่น ๆ ทั้งโบท็อก Allergan (อเมริกา), Dysport (อังกฤษ), Xeomin (เยอรมัน), Neuronox และ Aestox (เกาหลี) จะเห็นว่า ผลในการลดเลือนริ้วรอย ปรับรูปหน้าที่ได้มีความใกล้เคียงกัน จะต่างกันก็ตรงที่ระยะเวลาการเห็นผล

หลังฉีดนาโบตะจะเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้างเร็วกว่า แต่ระยะเวลาการคงสภาพผลลัพธ์ก็จะอยู่ได้สั้นลงเล็กน้อย คนไข้สามารถกลับมาฉีดใหม่ได้ตามคำแนะนำของแพทย์ โดยไม่ทำให้ดื้อโบท็อกครับ

โบท็อกยี่ห้อไหนดีที่สุด อเมริกา/เกาหลี/อังกฤษ/เยอรมัน ต่างกันอย่างไร

Botox nabota มีกี่แบบ ?

Nabota Botox ที่นำเข้าอย่างถูกต้อง และผ่าน อย. ประเทศไทย มีทั้งหมด 2 แบบ ได้แก่ โบท็อก Nabota กล่องสีดำ และโบท็อก Nabota กล่องสีแดง โดยทั้งสองแบบจะแตกต่างกันตรงที่ปริมาณครับ

  • Nabota Botox กล่องดำ จำนวน 100 ยูนิต
  • Nabota Botox กล่องแดง จำนวน 200 ยูนิต  

Botox nabota ราคาเท่าไหร่ ?

Nabota Botox ราคาจะขึ้นอยู่กับปริมาณยูนิตที่ใช้และตำแหน่งที่ฉีด ก่อนฉีดแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและคำนวณปริมาณยาที่เหมาะสมให้กับแต่ละคน สำหรับที่ V Square Clinic จะเลือกใช้เฉพาะตัวกล่องสีดำ nabota100uราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับคุณภาพของผลลัพธ์ที่ได้ครับ

โบท็อกลดกราม + หน้าเรียว

  • 100 unit โบท็อก ราคา 6,999.-

โบท็อกลดริ้วรอย + หน้าเรียว ( ฉีดทั่วหน้า )

  • 100 unit โบท็อก ราคา 9,000.-
  • 150 unit โบท็อก ราคา 12,000.-

โบท็อกเฉพาะจุด ลดเหงื่อ / รักแร้

  • 100 unit โบท็อก ราคา 9,000.-
  • 150 unit โบท็อก ราคา 12,000.-
  • 200 unit โบท็อก ราคา 16,000.-

โบท็อกต้นแขน / น่อง

  • 150 unit โบท็อก ราคา 12,000.-
  • 200 unit โบท็อก ราคา 16,000.-

นอกจากโบท็อกซ์เกาหลียี่ห้อ Nabota แล้ว ที่ V Square Clinic ยังมีโบท็อกซ์อเมริกา/อังกฤษ/เยอรมัน ให้แพทย์เลือกใช้แก้ไขปัญหาของคนไข้ได้อย่างตรงจุด ตรงตามความต้องการและงบประมาณของคนไข้ครับ

image5

โบท็อกซ์ nabota ของแท้ ดูอย่างไร ?  

วิธีดูโบท็อกซ์นาโบตะของแท้
  1. โบท็อกซ์แท้ Nabota 100 Units
  2. มีเอกสารกำกับภาษาไทยอย่างชัดเจน
  3. เลข Lot.ตรงกัน 2 จุด คือ 
    • เลข Lot. ที่กล่อง
    • เลข Lot. ที่ขวด
  4. มีสติกเกอร์โฮโลแกรม 2 จุด คือ
    • ติดบนกล่องพิมพ์ว่า “Montana”
    • ติดข้างขวดพิมพ์ว่า “DW”
  5. เป็นผลึกยาเคลือบก้นขวด ไม่มีน้ำ ต้องใส่น้ำเกลือแล้วดูดออกมา
  6. สามารถเช็กเลข Lot.และคลินิกได้ที่ บริษัท มัณฑนา มาร์เก็ตติ้ง โทร.065-504-2983 และ 02-367-1374
วิธีดูโบท็อก Nabota (เกาหลี) ของแท้

โบท็อกซ์ nabota อยู่ได้นานไหม ?

ระยะเวลาการคงผลลัพธ์ของ Botox Nabota หากเป็นการฉีดโบท็อกลดริ้วรอย เฉพาะจุด จะอยู่ได้นาน 3-4 เดือน ส่วนการฉีดโบท็อกลดกรามจะอยู่ได้นาน 5-6 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดของแต่ละบุคคลด้วยครับ


โบท็อกซ์ nabota เห็นผลภายในกี่วัน ?

หลังฉีด Nabota Botox จะเห็นผลลัพธ์ค่อนข้างไว สำหรับการฉีดโบท็อกลดริ้วรอย จะเริ่มเห็นผลใน 3-7 วัน เห็นผลเต็มที่ใน 14 วัน ส่วนการฉีดโบท็อกลดกราม ลดต้นแขน ลดน่อง จะเริ่มเห็นผลใน 1 เดือน และเห็นผลชัดเจนเต็มที่ใน 2-3 เดือน

Vsquare_tips_ICON

ข้อควรรู้ : งานวิจัยพบว่า การกินแร่ธาตุ Zinc (แร่ธาตุสังกะสี) 50 mg ก่อนและหลังฉีดโบท็อก จะช่วยเสริมประสิทธิภาพให้โบท็อกออกฤทธิ์ไวขึ้น ออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น  


รีวิว ฉีดโบท็อกซ์ nabota

รีวิวฉีดโบท็อก Nabota ที่ V Square Clinic 

รีวิวโบท็อกNabota
รีวิวผลลัพธ์หลังฉีด Botox Nabota ลดริ้วรอยหางตา 25 U
รีวิวฉีดโบท็อกNabota
รีวิวผลลัพธ์หลังฉีด Botox Nabota ลดริ้วรอยคอ ยกกระชับหน้า 100 U
รีวิว ฉีดโบท็อก Nefertiti lift แก้ปัญหาผิวไม่กระชับ
ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย แก้ไขริ้วรอยหน้าผาก ริ้วรอยระหว่างคิ้ว ริ้วรอยตีนกา

สรุป

Nabota Botox เป็นโบท็อกพรีเมียมจากเกาหลีที่นิยมใช้ในวงการเสริมความงามมาอย่างยาวนาน ผ่าน อย.ไทยและอเมริกา ราคาย่อมเยาและมีคุณภาพดี คุ้มค่า สามารถแก้ไขปัญหาริ้วรอย ปรับรูปหน้าได้อย่างเห็นผล เหมาะกับคนไข้ที่มีงบประมาณจำกัดครับ

ใครที่สนใจและกำลังมองหาคลินิกฉีด Botox Nabota สามารถเข้ามาให้หมอประเมินก่อนได้ครับ ที่ V Square Clinic ทีมแพทย์มีประสบการณ์ด้านการฉีดโบท็อกซ์ ก่อนฉีดหมอจะแกะกล่อง เปิดขวด ผสมยาต่อหน้าทุกเคส ฉีดด้วยเทคนิคพิเศษเฉพาะ มั่นใจได้ว่าผลลัพธ์ออกมาสวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ ปลอดภัยครับ

ฉีด Nabota ที่ V Square

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา_หมอ29คน
Botox Allergan

Botox Allergan มาจากไหน ได้ผลดีไหม ราคาเท่าไร ?

Categories
botox
Botox Allergan

Botox Allergan หรือที่หลายคนเรียกกันว่า โบท็อกซ์อเมริกา เป็นหนึ่งในยี่ห้อโบท็อกที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในวงการเสริมความงาม ใครที่สนใจและกำลังหาข้อมูลว่า โบท็อกซ์ Allergan ดีไหม ? ต่างกับยี่ห้ออื่นอย่างไร ? ฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง ? ราคาเท่าไหร่ ? อยู่ได้นานไหม ? กี่วันเห็นผล ? หมอจะมาคลายทุกข้อสงสัยให้ในบทความนี้ พร้อมแนะนำวิธีดูโบท็อกซ์ Allergan แท้ สามารถติดตามอ่านได้ครับ       

สารบัญ Botox Allergan

  1. Botox Allergan มีความเป็นมาอย่างไร ?
  2. Botox Allergan ดีอย่างไร ?
  3. Botox Allergan ต่างกับยี่ห้ออื่นอย่างไร ?
  4. Botox Allergan นิยมฉีดตำแหน่งใด ?
  5. โบท็อกซ์ Allergan ราคาเท่าไหร่ ?
  6. โบท็อกซ์ Allergan ของแท้ ดูอย่างไร ?
  7. โบท็อกซ์ Allergan อยู่ได้นานไหม ?
  8. โบท็อกซ์ Allergan เห็นผลภายในกี่วัน ?
  9. รีวิว ฉีดโบท็อกซ์ Allergan

Botox Allergan มีความเป็นมาอย่างไร ?

Botox Allergan คือ โบท็อก Original ตัวแรกที่นำมาใช้ในด้านความงาม และเป็นต้นแบบของโบท็อกทุกชนิด ถูกผลิตโดยบริษัท Allergan ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นแบรนด์แรกที่คิดค้นและริเริ่มนำสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin A) มาใช้เพื่อลดเลือนริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้าให้ดูดีขึ้นได้อย่างเห็นผล

โบท็อกซ์ Allergan

โบท็อกซ์ Allergan ผ่านกระบวนการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องยาวนาน มีงานวิจัยรองรับกว่า 3,500 ชิ้น (Since 1989) และยังเป็นโบท็อกซ์แบรนด์แรกที่ได้รับรองมาตรฐานจาก US-FDA ว่ามีความปลอดภัยสูง ได้รับการยอมรับจากวงการแพทย์ และถูกนำมาใช้ในคลินิกเสริมความงามหลายประเทศทั่วโลก    

Vsquare_tips_ICON

ข้อควรรู้ : โบท็อก (ฺBotox) ความจริงแล้วคือชื่อทางการค้าของสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin A) ซึ่งเป็นสารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) เมื่อฉีดแล้วจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ทำให้กล้ามเนื้อทำงานน้อยลง ช่วยลดริ้วรอย ลดกราม ปรับรูปหน้าเรียว


Botox Allergan ดีอย่างไร ?

  • ตัวยามีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% โอกาสดื้อโบท็อกน้อยเมื่อมีการฉีดซ้ำหลายครั้ง  
  • ยากระจายตัวแคบ ให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ ทำให้แพทย์ออกแบบการรักษาได้ตรงจุด 
  • เห็นผลลัพธ์รวดเร็ว และคงผลลัพธ์หลังฉีดได้นานกว่าโบท็อกยี่ห้ออื่น ๆ เล็กน้อย   
จุดเด่นโบท็อกซ์ Allergan

Botox Allergan ต่างกับยี่ห้ออื่นอย่างไร ?

หากเปรียบเทียบ Botox Allergan กับโบท็อกแต่ละยี่ห้อ พบว่าสามารถลดริ้วรอยหรือลดกรามได้อย่างเห็นผลใกล้เคียงกันครับ จะแตกต่างกันก็เพียงแต่คุณสมบัติ การออกฤทธิ์ และจุดเด่น ดังนี้

  • Allergan (อเมริกา) โมเลกุลใหญ่ มีความบริสุทธิ์สูง ยากระจายตัวแคบ ให้ผลการรักษาที่แม่นยำ มีอายุการใช้งานนานกว่าโบท็อกเกาหลีธรรมดาประมาณ 20%
  • Dysport (อังกฤษ) ตัวยาออกฤทธิ์ไว กระจายตัวกว้าง ไม่กระจุกเป็นจุดแคบ ๆ เหมาะกับฉีดลดน่อง ลดกราม และลิฟท์หน้าด้วยเทคนิค Dermolift 
  • Xeomin (เยอรมัน) เหมาะกับเคสที่ดื้อโบท็อกซ์ มีความบริสุทธิ์สูงและตัวยาไม่กระจุกตัวแคบเกินไป 
  • Nabota (เกาหลี) ตัวยามีความบริสุทธิ์สูง โอกาสดื้อโบท็อกน้อย ออกฤทธิ์ไว เห็นผลหลังฉีดค่อนข้างเร็ว เหมาะกับเคสที่ต้องการผลลัพธ์เร่งด่วน 
  • Aestox (เกาหลี) เป็นโบท็อกที่พัฒนาให้เหมือนโบท็อก Allergan แต่ระยะเวลาอยู่ได้สั้นกว่า มีจุดเด่นในเรื่องความอ่อนโยนและความบริสุทธิ์   

Botox Allergan นิยมฉีดตำแหน่งใด ?

ตำแหน่งฉีด Botox Allergan

โบท็อกซ์ Allergan ราคาเท่าไหร่ ?

Botox allergan ราคาจะขึ้นอยู่กับปริมาณโบท็อกที่ใช้ และตำแหน่งที่ฉีดครับ ก่อนฉีดแพทย์จะประเมินปัญหาและคำนวณปริมาณยูนิตที่ใช้ให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล  

สำหรับโปรแกรมฉีด Botox allergan โปรโมชั่นราคาพิเศษที่ V Square Clinic คุ้มค่าเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้

Allergan botox ราคา ลดริ้วรอย+หน้าเรียว (ฉีดทั่วหน้า)

  • Botox allergan 50units ราคา 10,000.-
  • Botox allergan 100units ราคา 18,000.-

Allergan botox ราคา ลดกราม+หน้าเรียว

  • Botox allergan 100units ราคา 15,999.-

Allergan botox ราคา ต้นแขน/น่อง

  • Botox allergan 200units ราคา 32,000.-

นอกจากโบท็อกซ์ Allergan แล้ว ที่ V Square Clinic ยังมีโบท็อกซ์อีกหลายยี่ห้อจากหลายประเทศให้แพทย์เลือกใช้แก้ไขปัญหาของคนไข้ได้อย่างตรงจุด ตรงตามความต้องการและงบประมาณของคนไข้ครับ

Banner Botox

โบท็อกซ์ Allergan ของแท้ ดูอย่างไร ? 

Botox Allergan ถูกผลิตออกมา 2 แบบ ได้แก่ Allergan 100 Units และ Allergan 50 Units ก่อนฉีดคนไข้ควรศึกษาวิธีดูโบท็อก Allergan ของแท้ เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดี คุ้มค่า ปลอดภัย หมอรวบรวมวิธีการเช็กในเบื้องต้นด้วยตัวเอง ดังนี้ครับ

วิธีดู Botox Allergan 100 Units ของแท้

วิธีดูโบท็อก Allergan ของแท้
  1. โบท็อกซ์แท้ Allergan 100 Units
  2. กล่องและขวดอยู่ในสภาพสมบูรณ์ มีซีลใส ป้องกันการเปิด 
  3. มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทยอย่างชัดเจน
  4. ข้างขวดมีโฮโลแกรมสีรุ้ง พิมพ์ว่า “ALLERGAN” 
  5. เลข Lot. ตรงกัน 2 จุด คือ เลข Lot. ที่กล่อง และ เลข Lot. ที่ขวด
  6. เป็นผลึกยาอยู่ที่ก้นขวด ต้องใส่น้ำเกลือแล้วดูดยาออกมา
  7. สามารถโทรเช็กเลข Lot. และคลินิกได้ที่บริษัทจัดส่ง Allergan Thailand (DKSH) โทร. 02-640-4999 ต่อ 1
วิธีดูโบท็อก Allergan (อเมริกา) ของแท้

วิธีดู Botox Allergan 50 Units ของแท้

วิธีดูโบท็อก Allergan ของแท้
  1. โบท็อกซ์แท้ Allergan 50 Units
  2. กล่องและขวดอยู่ในสภาพสมบูรณ์ มีซีลใส ป้องกันการเปิด 
  3. มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทยอย่างชัดเจน
  4. ข้างขวดมีโฮโลแกรมสีรุ้ง พิมพ์ว่า “ALLERGAN” 
  5. เลข Lot. ตรงกัน 2 จุด คือ เลข Lot. ที่กล่อง และ เลข Lot. ที่ขวด
  6. เป็นผลึกยาอยู่ที่ก้นขวด ต้องใส่น้ำเกลือแล้วดูดยาออกมา
  7. สามารถโทรเช็กเลข Lot. และคลินิกได้ที่บริษัทจัดส่ง Allergan Thailand (DKSH) โทร. 02-640-4999 ต่อ 1      

โบท็อกซ์ Allergan อยู่ได้นานไหม ?

เนื่องจากตัวโบท็อก Allergan มีความบริสุทธิ์สูงทำให้ระยะเวลาการออกฤทธิ์อยู่ได้ค่อนข้างนานกว่าโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่น ๆ เล็กน้อย สามารถอยู่ได้นาน 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับปริมาณยาที่ใช้ ตำแหน่งที่ฉีด และการดูแลหลังฉีดของแต่ละคนครับ   


โบท็อกซ์ Allergan เห็นผลภายในกี่วัน ?

หลังฉีด Botox Allergan กี่วันเห็นผล ? ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดครับ โดยทั่วไปโบท็อกริ้วรอยและโบท็อกซ์ลิฟท์หน้าจะเริ่มเห็นผลใน 2-3 วัน เห็นผลชัดเจนเต็มที่ใน 1-2 สัปดาห์ ส่วนการฉีดโบท็อกลดกราม ลดน่อง จะเริ่มเห็นผลใน 14 วัน เห็นผลลัพธ์เต็มที่ใน 2-3 เดือน     


รีวิว ฉีดโบท็อกซ์ Allergan

ฉีดโบท็อกซ์ allergan รีวิว ที่ V Square Clinic

คุณต่าย เพ็ญพักตร์ แชร์เคล็ดลับเลือกโบท็อกซ์ จัดการริ้วรอย 

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ Allergan ที่ V Square Clinic ทีมแพทย์มีประสบการณ์สูง รู้ตำแหน่งและเทคนิคการฉีด ก่อนฉีดหมอจะแกะกล่อง เปิดขวดใหม่ และผสมยาต่อหน้าทุกเคส รวมทั้งยังให้กล่องและขวดกลับบ้าน สามารถนำไปตรวจสอบกับบริษัทนำเข้าได้ทุกกล่อง มั่นใจได้ในผลลัพธ์และความปลอดภัยครับ 

ฉีดโบท็อกซ์ที่ V Square Clinic

สรุป

Botox Allergan เป็นโบท็อกที่มีประสิทธิภาพสูง ได้ผลดีในการลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า มีความปลอดภัย ฉีดแล้วเห็นผลไว ผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน ก่อนตัดสินใจฉีดคนไข้ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เลือกฉีดด้วยโบท็อกแท้กับแพทย์ที่มีประสบการณ์ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา_หมอ29คน
ฉีดโบท็อกซ์ตีนกาช่วยอะไรบ้างมีอันตรายต่อตาไหม370x277

ฉีดโบท็อกซ์ตีนกา แก้ปัญหาอะไรได้บ้าง มีความเสี่ยงต่อตาไหม ?

Categories
botox

ฉีดโบท็อกซ์ตีนกา

ฉีดโบท็อกซ์ตีนกาช่วยอะไรบ้างมีอันตรายต่อตาไหม1000x860

ถ้าพูดถึงริ้วรอย ไม่ว่าเกิดขึ้นตำแหน่งไหน ก็สร้างความกังวลใจทั้งนั้นครับ เพราะการมีริ้วรอยบ่งบอกถึงผิวที่เสื่อมสภาพ และอายุที่มากขึ้น โดยเฉพาะริ้วรอยตีนกาที่อยู่บริเวณหางตา ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากการใช้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นซ้ำ ๆ เวลาแสดงสีหน้า เช่น ยิ้ม หัวเราะ  

การแก้ปัญหาริ้วรอยตีนกาที่ตรงจุดที่สุด คือ การฉีดโบท็อกซ์ตีนกา เพราะหลังฉีดโบท็อกซ์จะออกฤทธิ์ต่อกล้ามเนื้อโดยตรงครับ ฉีดโบท็อกซ์ตีนกา ดีอย่างไร ? กี่วันเห็นผล ? อยู่ได้นานไหม ? โบท็อกตีนกา ยี่ห้อไหนดี ? ใช้กี่ยูนิต ? ติดตามได้ในบทความนี้   

รวมวิธีจัดการปัญหาริ้วรอยตีนกากวนใจ

สารบัญ ฉีดโบท็อกซ์ตีนกา 

  1. ฉีดโบท็อกซ์ตีนกา ดีอย่างไร ? 
  2. รอยตีนกา มีสาเหตุมาจากอะไร ?
  3. ฉีดโบท็อกซ์ตีนกา อันตรายไหม ?
  4. โบท็อกซ์ตีนกา ควรใช้ยี่ห้อไหนดี ใช้กี่ยูนิต ?
  5. โบท็อกซ์ตีนกา ราคาเท่าไร ?
  6. ข้อดี-ข้อเสียของการฉีดโบท็อกซ์ตีนกา เมื่อเทียบกับวิธีอื่น ? 
  7. ฉีดโบท็อกซ์ตีนกา อยู่ได้นานไหม กี่วันเห็นผล ?
  8. ฉีดโบท็อกซ์ตีนกา ที่ไหนดี ? 
  9. วิธีปฏิบัติตัวก่อนและหลังฉีดโบท็อกซ์ตีนกา
  10. รีวิว ฉีดโบท็อกซ์ตีนกา

ฉีดโบท็อกซ์ตีนกา ดีอย่างไร ? 

การฉีดโบท็อกซ์ตีนกา ช่วยลดริ้วรอยตีนกาได้อย่างเห็นผล ตรงจุด เพราะโบท็อกออกฤทธิ์โดยตรงต่อระบบประสาท ทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานลดลงชั่วคราว หลังฉีดลดริ้วรอยตีนกา จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นไม่หดตัวเกิดเป็นรอยพับเวลาที่แสดงสีหน้า และยังสามารถป้องกันริ้วรอยในอนาคตได้ด้วยครับ 

การฉีดโบท็อกซ์ตีนกา หมอเป้

ในคนที่อายุน้อย ๆ ผิวยังมีคอลลาเจนและอีลาสตินอยู่เยอะ เวลาผิวเกิดรอยพับจะคงอยู่ไม่ถาวร เพราะผิวมีความยืดหยุ่น แต่ถ้าอายุมากขึ้น ผิวเสื่อมสภาพ ก็จะทำให้เห็นริ้วรอยตีนกาชัดขึ้น แม้ไม่แสดงสีหน้า หรือที่เรียกว่า Static line  

นอกจากโบท็อกจะสามารถแก้ปัญหาริ้วรอย ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้นได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะริ้วรอยเล็ก ๆ อย่างริ้วรอยตีนกา รอยย่นหางตาแล้ว ในเคสที่มีปัญหาคิ้วตก หางตาตก (ไม่มาก) ร่วมด้วย ก็สามารถฉีดโบท็อกแก้ไขไปพร้อมกันได้ครับ   


รอยตีนกา มีสาเหตุมาจากอะไร ? 

  • การแสดงสีหน้า เช่น ยิ้ม หยีตา หัวเราะ ร้องไห้ ทำให้ผิวเกิดการพับ เมื่อเกิดการพับในจุดเดิมซ้ำ ๆ ก็จะกลายเป็นริ้วรอย 
รอยตีนกา
รอยตีนกาเวลาแสดงสีหน้า
  • อายุที่มากขึ้น ทำให้คอลลาเจน อีลาสติน ความยืดหยุ่น และความแข็งแรงของผิวลดลง ทำให้ผิวเสื่อมสภาพ ผิวอ่อนแอ ผิวขาดความชุ่มชื้น เกิดเป็นรอยพับ ริ้วรอยตีนกาได้ง่าย
  • แสงแดด มลภาวะ ในแสงแดดมีรังสี UV ทำลายเซลล์ผิวและทำให้ผิวแห้ง คล้ำเสีย ส่วนมลภาวะต่าง ๆ เป็นตัวเร่งให้ผิวอ่อนแอ เสื่อมสภาพลงเร็วขึ้น และเกิดริ้วรอย
  • ปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความเครียด การพักผ่อน การเช็ดเครื่องสำอางรอบดวงตา หรือแม้แต่การสูบบุหรี่ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดริ้วรอยตีนกาได้เช่นกัน 

ฉีดโบท็อกซ์ตีนกา อันตรายไหม ? 

ใครที่อยากแก้ไขปัญหารอยตีนกา แต่กังวลว่าจะเป็นอันตราย มีความเสี่ยงกับตา เพราะฉีดใกล้บริเวณดวงตาซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญ 

จริง ๆ แล้วการฉีดลดตีนกาไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดครับ หากฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ สามารถประเมินกล้ามเนื้อที่มีปัญหา รู้ตำแหน่งการฉีด เพราะบริเวณหางตาเป็นจุดที่มีเส้นเลือดขนาดใหญ่หลายเส้น ต้องใช้ความระมัดระวัง ใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง และใช้ปริมาณโบท็อกที่เหมาะสม ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะออกมาสวยงามและปลอดภัย  

ตำแหน่งกล้ามเนื้อรอบดวงตา
ตำแหน่งกล้ามเนื้อรอบดวงตา

โบท็อกซ์ตีนกา ควรใช้ยี่ห้อไหนดี ใช้กี่ยูนิต ? 

ใช้โบท็อกซ์ตีนกายี่ห้อไหนดี แต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติต่างกันครับ หมอจะประเมินจากปัญหา สภาพผิว และงบประมาณของคนไข้เป็นหลักครับ 

ประเมินปัญหาก่อนฉีดโบท็อกตีนกา
แพทย์ประเมินปัญหาก่อนฉีดโบท็อกตีนกา

ที่ V Square Clinic มีโบท็อกให้แพทย์เลือกใช้หลายยี่ห้อ เพื่อแก้ปัญหาของคนไข้ได้เหมาะสม ตรงจุด ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ 

  • โบท็อก Allergan (อเมริกา)
  • โบท็อก Nabota (เกาหลี) 
  • โบท็อก Xeomin (เกาหลี) 
  • โบท็อก Dysport (อังกฤษ)
  • โบท็อก Xeomin (เยอรมัน)
โบท็อกยี่ห้อไหนดีที่สุด แต่ละยี่ห้อ ต่างกันอย่างไร ?

โบท็อกสำหรับใช้ฉีดเพื่อลดริ้วรอยหางตา ตีนกา ใต้ตา โดยทั่วไปจะใช้ 25 U สำหรับหางตาทั้ง 2 ข้าง เพราะหากฉีดมากเกินไปอาจทำให้ตาแข็งและดูไม่เป็นธรรมชาติได้ บริเวณหางตาเป็นตำแหน่งที่ใช้โบท็อกปริมาณไม่เยอะครับ แนะนำโบท็อก Nabota/Aestox ของประเทศเกาหลี ให้ผลลัพธ์คุ้มค่าครับเมื่อเทียบกับราคา

ฉีดตีนกาใช้โบท็อกกี่ยู
จำนวน U ฉีดโบท็อกซ์ตีนกา
Vsquare_tips_ICON

ข้อควรรู้ : โบท็อก 1 ขวด ส่วนมากจะเป็นขวด 100 ยูนิต คนไข้สามารถชวนเพื่อนมาหารกันได้ครับ หมอจะได้แกะกล่อง เปิดขวดใหม่ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าฉีดโบท็อกแท้


โบท็อกซ์ตีนกา ราคาเท่าไร ? 

  • โบท็อกซ์ตีนกา ราคาเริ่มต้น 3,000 บาท 
โบท็อกซ์หางตาราคา
ราคาโบท็อกซ์หางตา ลดริ้วรอยตีนกา

การแก้ปัญหาริ้วรอยตีนกา ด้วยการฉีด botox มีความคุ้มค่า ราคาไม่แพงครับเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ ถ้าเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน ราคาจะไม่ต่างกันมาก เพราะมีราคาต้นทุนใกล้เคียงกัน จึงไม่ควรเลือกฉีดโบท็อกโปรโมชันราคาถูกมาก ๆ เพราะอาจเสี่ยงเจอโบท็อกปลอม  


ข้อดี-ข้อเสียของการฉีดโบท็อกซ์ตีนกา เมื่อเทียบกับวิธีอื่น ? 

ข้อดี ฉีดโบท็อกซ์ตีนกา 

  • มีความปลอดภัย ผ่านการรับรองจาก อย.ไทย  
  • ลดริ้วรอยตีนกา รอยย่นหางตา 
  • เห็นผลเร็ว หลังฉีดไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้หน้า ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ 
  • ราคาไม่แพง มีโบท็อกหลายยี่ห้อให้เลือกได้ตามงบประมาณ  

ข้อเสีย ฉีดโบท็อกซ์ตีนกา 

  • ผลลัพธ์อยู่ไม่ถาวร สามารถฉีดเพิ่มได้ตามระยะเวลาที่กำหนด 
  • หากฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ อาจเกิดผลข้างเคียง เลือกยี่ห้อโบท็อกไม่เหมาะสม ใช้ปริมาณโบท็อกมากเกินไป ทำให้ผลลัพธ์ออกมาดูไม่เป็นธรรมชาติ  

นอกจากการฉีด botox หางตา ช่วยลดริ้วรอยตีนกาแล้ว การแก้ไขริ้วรอยรอบดวงตา โดยไม่ต้องผ่าตัด เห็นผลลัพธ์เร็ว ยังสามารถใช้หัตถการอื่น ๆ ร่วมกันได้ หมอจะประเมินเป็นรายเคส   

  • การฉีดโบท็อก เหมาะกับริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น หางตา หน้าผาก ระหว่างคิ้ว  
  • การฉีดฟิลเลอร์ ช่วยลดริ้วรอยใต้ตา ลดถุงใต้ตา เติมเต็มใต้ตาลึก ใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ 
  • Hifu Ultraformer lll และ Ulthera ช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตา และถุงใต้ตา สำหรับใครที่กลัวเข็มสามารถยกกระชับผิวรอบดวงตาด้วยเครื่องมือในกลุ่มเครื่องยกกระชับได้ครับ  
วิธีลดริ้วรอยรอบดวงตา
รวมวิธีลดริ้วรอยรอบดวงตา

ฉีดโบท็อกซ์ตีนกา อยู่ได้นานไหม กี่วันเห็นผล ?

ฉีดโบตีนกา คงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 3-4 เดือนครับ botox จะเริ่มออกฤทธิ์หลังฉีดประมาณ 3-4 วัน จะรู้สึกตึง ๆ ผิวบริเวณที่ฉีด ตึงเต็มที่ เห็นผลชัดเจนใน 2 สัปดาห์   

ฉีดโบลดตีนกากี่วันเห็นผล

ฉีดโบท็อกซ์ตีนกา ที่ไหนดี ? 

ฉีดโบลดตีนกา ไม่ใช่ฉีดที่ไหนหรือใครฉีดก็ได้ครับ เพราะในการฉีดต้องอาศัยทักษะ ความชำนาญ ประสบการณ์ของแพทย์ และใช้ตัวยาที่ผ่าน อย.เท่านั้น 

ที่ V Square Clinic แพทย์มีประสบการณ์ด้านการฉีดโบท็อกซ์ รู้เทคนิคและตำแหน่งการฉีดโบท็อกที่ถูกต้อง ใช้โบท็อกแท้ ผ่าน อย. มีให้เลือกหลายยี่ห้อที่เหมาะกับงบประมาณ หลังฉีดมีความเป็นธรรมชาติ คนไข้สามารถแสดงสีหน้าได้ปกติ ไม่แข็ง ไม่ตึงเกินไป มีการติดตามผลหลังฉีดทุกเคสครับ   


วิธีปฏิบัติตัวก่อนและหลังฉีดโบท็อกซ์ตีนกา

ก่อนฉีดโบท็อกซ์ตีนกา คนไข้ควรรู้วิธีปฏิบัติตัวทั้งก่อนและหลังฉีด หมอจะมีการแนะนำวิธีการเตรียมตัวและวิธีการดูแลตัวเอง ซึ่งควรปฏิบัติตามครับ เพราะจะส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของโบท็อก ช่วยให้โบท็อกอยู่ได้นาน  

ก่อนฉีด botox ตีนกา
การเตรียมตัวก่อนฉีดโบตีนกา
  • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบท็อก วิธีการสังเกตโบท็อกแท้แต่ละยี่ห้อ เพื่อความปลอดภัย
  • เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ที่มีประสบการณ์ สามารถประเมินถึงปัญหาได้ตรงจุด และวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม
  • ฉีดโบท็อกแท้ ผ่านการรับรองจาก อย.เท่านั้น เพื่อลดโอกาสการดื้อยาและผลข้างเคียง
  • ควรให้แพทย์เปิดขวดใหม่ ผสมโบท็อกให้ดูต่อหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้เจือจางน้ำเกลือมากเกินไป ขอกล่องและขวดกลับบ้านไว้ตรวจสอบ เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นโบท็อกแท้
  • งดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, NSAIDs, Ponstan
  • งดสครับใบหน้า คอร์สเลเซอร์ แว็กผิวหรือนวดหน้าบริเวณที่ฉีด 2-3 วัน เพื่อลดอาการเขียวช้ำ 
  • หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำ ควรปรึกษาหรือแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง
วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดตีนกา
วิธีดูแลตัวเองหลังฉีด botox ตีนกา
  • หลังฉีดตีนกา ควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง
  • รับประทานอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี จะช่วยให้โบท็อกอยู่ได้นาน (ควรรับประทานตามคำแนะนำของแพทย์) 
  • งดนอนราบ นอนคว่ำและก้มหัวต่ำกว่าอก 3 ชั่วโมง
  • หลีกเลี่ยงความร้อนและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง 48 ชั่วโมง 
  • งดอาหารรสจัด และอาหารหมักดอง 
  • งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 

รีวิว ฉีดโบท็อกซ์ตีนกา

รีวิวฉีดโบท็อกซ์ตีนกา(1)
รีวิว ฉีดลดรอยตีนกา
รีวิวฉีดโบท็อกซ์ตีนกา
รีวิว ฉีดลดรอยตีนกา

สรุป

ฉีดโบท็อกซ์ตีนกา เป็นวิธีช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยย่นหางตา ลดรอยตีนกาได้อย่างเห็นผล ตรงจุดครับ ในเคสที่ฉีดโบท็อกซ์ครั้งแรก มีความกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะตำแหน่งหางตาอยู่ใกล้ดวงตาซึ่งมีเส้นเลือดสำคัญ ถ้าฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดโบท็อก มั่นใจได้ครับ เพราะแพทย์จะรู้ตำแหน่งเส้นเลือด ตำแหน่งกล้ามเนื้อ มีเทคนิคในการฉีดที่ให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามเป็นธรรมชาติและปลอดภัย    


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา_หมอ29คน
โบท็อกถุงใต้ตา370X277

โบท็อกซ์ถุงใต้ตา ดีหรือไม่ แก้ปัญหาถุงใต้ตาได้ไหม อยากลดถุงใต้ตาทำวิธีไหนดี ?

Categories
botox

โบท็อกซ์ถุงใต้ตา 

โบท็อกถุงใต้ตา1000X860

การมีถุงใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า มีอายุ ในปัจจุบันมีวิธีแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาหลายแบบครับ ทั้งการผ่าตัด ฉีดสารเติมเต็ม และอีกวิธีที่คนไข้สอบถามกันบ่อย ๆ นั่นคือการฉีดโบท็อกซ์ถุงใต้ตา 

ปรึกษาวิธีแก้ปัญหาถุงใต้ตา หมอชิน
ปัญหาถุงใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย ดูเหนื่อยล้า 
คนไข้มักเข้ามาปรึกษาเรื่องวิธีลดถุงใต้ตา

จริง ๆ แล้วการฉีดโบท็อกซ์ถุงใต้ตา แตกต่างจากโบท็อกซ์หางตา หรือโบท็อกลดริ้วรอยนะครับ หลายคนเข้าใจว่าโบท็อกช่วยแก้ปัญหาถุงใต้ตาได้เหมือนกัน ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด ในบทความนี้หมอจะอธิบายให้ฟังครับ ว่าโบท็อกซ์ถุงใต้ตาคืออะไร ทำไมหมอถึงไม่แนะนำให้ฉีด และถ้าอยากลดถุงใต้ตา ใช้วิธีไหนดี ?

สารบัญ โบท็อกถุงใต้ตา

  1. ฉีดโบท็อกซ์ถุงใต้ตา ควรทำไหม ?
  2. ฉีดโบท็อกซ์ถุงใต้ตา อันตรายไหม ?
  3. ถุงใต้ตาเกิดจากอะไร ?
  4. ปัญหาถุงใต้ตา แก้ไขอย่างไร ?
  5. วิธีดูแลตัวเองไม่ให้เกิดปัญหาถุงใต้ตา

ฉีดโบท็อกซ์ถุงใต้ตา ควรทำไหม ?

การฉีดโบท็อกถุงใต้ตา หมอไม่แนะนำครับ

เนื่องจากปัญหาถุงใต้ตา เกิดจากการความหย่อนคล้อยของผิวใต้ตา ถุงไขมัน และการเสื่อมของโครงสร้างผิวหนังเมื่ออายุมากขึ้น ซึ่งการออกฤทธิ์ของโบท็อกจะเป็นการคลายกล้ามเนื้อ เมื่อฉีดโบท็อกถุงใต้ตา จะยิ่งทำให้กล้ามเนื้อหย่อนลง เห็นถุงใต้ตาชัดกว่าเดิม

โบท็อกช่วยลดริ้วรอยรอบดวงตา หางตา ตีนกา
แม้การฉีดโบท็อกถุงใต้ตาจะไม่แนะนำ 
แต่สามารถฉีดลดริ้วรอยรอบ ๆ ดวงตาได้ครับ

การฉีดโบท็อกจะได้ผลดีในเรื่องการลดริ้วรอยรอบดวงตา หางตา ตีนกา หน้าผาก ส่วนการลดถุงใต้ตา หมอจะแนะนำให้ทำวิธีอื่นที่เหมาะสมกับแต่ละเคส


ฉีดโบท็อกซ์ถุงใต้ตา อันตรายไหม ?

สำหรับใครที่มีปัญหาถุงใต้ตา แล้วฝืนจะฉีดโบท็อกถุงใต้ตา นอกจากจะส่งผลต่อการคลายตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้ไม่มีแรงดึง และถุงใต้ตาหย่อนมากกว่าเดิม ยังอาจส่งผลข้างเคียงอื่น ๆ เช่น ตาปรือตลอดเวลา กระพริบตายากขึ้น ตาดูบวม หนังตาผิดรูป 

ฉีดโบท็อกซ์ถุงใต้ตา อาจมีผลข้างเคียงที่อันตราย
หมอที่ประเมินให้ฉีดโบท็อกถุงใต้ตาได้ อาจเป็นหมอที่ไม่มีประสบการณ์หรือเจอหมอเถื่อน หมอกระเป๋า ก่อนฉีดคนไข้ต้องตรวจสอบให้มั่นใจก่อนครับว่าหมอที่ไปปรึกษาเป็นหมอที่มีเลขว. ถูกต้อง และมีประสบการณ์ฉีดโบท็อก

ถุงใต้ตาเกิดจากอะไร ?

การจะแก้ปัญหาถุงใต้ตาได้อย่างเห็นผล ต้องประเมินสาเหตุให้ถูกต้องครับ โดยถุงใต้ตาจะมีลักษณะเป็นถุงนูน ๆ บริเวณใต้ตา เกิดจากความหย่อนคล้อยของผิวหนังรอบดวงตาและถุงไขมัน โดยสาเหตุมาจากปัจจัย ดังนี้

  • อายุมากขึ้น ทำให้เนื้อเยื่อที่รองรับถุงไขมันใต้ตาอ่อนแรงและหย่อนตัวลงมา
  • พันธุกรรมหรือระบบต่อมไร้ท่อที่ทำงานผิดปกติ ทำให้ไขมันมารวมกันบริเวณใต้ตามากเกินไป
  • สูญเสียคอลลาเจน อีลาสติน ผิวแห้ง ขาดความยืดหยุ่น
  • ระบบการไหลเวียนเลือดไม่ดี เกิดการบวมน้ำบริเวณใต้ตา เป็นถุงใต้ตาบวม
  • พฤติกรรมการใช้ชีวิต การขยี้ตา การร้องไห้หนัก ๆ พักผ่อนไม่เพียงพอ ใช้สายตามากเกินไป
  • มีอาการแพ้สารต่าง ๆ ทำให้เกิดการติดเชื้อ อักเสบ หรือบวมบริเวณใต้ตา
ลักษณะถุงใต้ตา
ลักษณะถุงใต้ตา

จากสาเหตุที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นว่าไม่มีส่วนไหนที่การฉีดโบท็อกถุงใต้ตาช่วยได้เลยครับ ต้องแก้ไขโครงสร้างผิวและเสริมในส่วนที่มีการยุบตัวลงของคอลลาเจน อีลาสติน จึงจะเป็นการแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด

Vsquare_tips_ICON

ถุงใต้ตาแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ‘ถุงใต้ตาแท้’ ที่เกิดจากเกิดจากกรรมพันธุ์ อายุที่เพิ่มมากขึ้น เกิดเป็นถุงใต้ตาหย่อนคล้อย และ ‘ถุงใต้ตาเทียม’ เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต ที่กระตุ้นให้ถุงใต้ตาบวมขึ้นมา


ปัญหาถุงใต้ตา แก้ไขอย่างไร ?

สำหรับวิธีช่วยลดปัญหาถุงใต้ตาได้อย่างเห็นผล หมอรวบรวมวิธีที่นิยมมาดังนี้

  • ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

เป็นวิธีแรก ๆ ที่หมอแนะนำครับ เมื่อฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ที่เป็นเนื้อเจลจะเข้าไปเติมเต็มในผิวส่วนที่สูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน โดยสามารถฉีดหนุนขึ้นมาได้จากชั้นกระดูก ช่วยยกผิวขึ้น ทำให้ส่วนที่เคยหย่อนกลับกระชับ ถุงใต้ตาก็จะลดลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลลัพธ์รวดเร็ว ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน

ตัวอย่างเคสรีวิว ลดถุงใต้ตาด้วยการฉีดฟิลเลอร์

ตัวอย่างเคสรีวิว ลดถุงใต้ตาด้วยการฉีดฟิลเลอร์
  • ผ่าตัดถุงใต้ตา

การผ่าตัดถุงใต้ตา ช่วยแก้ปัญหาถุงใต้ตาแท้ และตัดผิวหนังส่วนเกินที่หย่อนคล้อยออก เหมาะกับคนที่มีถุงไขมันใต้ตาเยอะมาก ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มีอายุ โดยสามารถทำได้ทั้งแบบใช้มีดผ่าตัด และใช้เลเซอร์ หลังทำจะมีแผลเล็ก ๆ และต้องพักฟื้น แต่ก็ช่วยแก้ปัญหาถุงใต้ตาได้ถาวร ผิวกลับมาเรียบเนียน หน้าดูเด็กลง

การผ่าตัดเป็นการเอาถุงไขมันใต้ตาออกถาวร

การผ่าตัดเอาถุงไขมันใต้ตาออกถาวร
  • Hifu Ultraformer / Ulthera / Thermage

การใช้คลื่น (Ultrasound,RF) ยิงเข้าไปในชั้นผิวเพื่อลดถุงใต้ตา จะช่วยลดไขมันและทำให้ผิวกระชับขึ้น เป็นวิธีที่หมอจะแนะนำให้ทำตั้งแต่ยังมีถุงใต้ตาไม่เยอะเพื่อช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ชะลอการเสื่อมของโครงสร้างผิว แต่ถ้ามีปัญหาถุงใต้ตามาเยอะ ๆ แล้ว จะเห็นผลไม่ชัดเท่าการฉีดฟิลเลอร์หรือผ่าตัดครับ

การทำ Ulthera ลดถุงใต้ตา

ทำ Ulthera ลดถุงใต้ตา

วิธีดูแลตัวเองไม่ให้เกิดปัญหาถุงใต้ตา

หมอแนะนำให้ลดพฤติกรรมที่กระตุ้นให้เกิดถุงใต้ตา ดังนี้

  • นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
  • หลีกเลี่ยงการขยี้ตาแรง ๆ
  • ไม่ใช้สายตาหนักเกินไป
  • ประคบเย็น ด้วยแตงกวา ถุงชา 5-10 นาที
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ หรือทานอาหารรสเค็มจัดบ่อย ๆ
  • ใช้ครีมบำรุงที่มีมอยส์เจอไรเซอร์
  • นวดรอบดวงตาเพื่อให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น
การดูแลตัวเองไม่ให้เกิดถุงใต้ตา
การดูแลตัวเอง ช่วยลดสาเหตุที่ทำให้เกิดถุงใต้ตาเทียม

ถ้าเป็นถุงใต้ตาเทียม จะมีอาการชั่วคราวสามารถดูแลและรักษาได้ด้วยตนเอง โดยการลดพฤติกรรมที่กระตุ้นให้เกิดถุงใต้ตา แต่ถ้าเป็นปัญหาถุงใต้ตาแท้ ก็ต้องใช้วิธีทางการแพทย์ช่วยแก้ไขครับ และควรแก้ไขตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะหากปล่อยให้มีถุงใต้ตา หรือใต้ตาหย่อนคล้อยมาก ๆ จะแก้ไขได้ยากขึ้นครับ


สรุป

โบท็อกถุงใต้ตา ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาถุงใต้ตาได้จริง ๆ ครับ ถ้าจะฉีดโบท็อกแนะนำเป็นการฉีดลดริ้วรอยหางตา ตีนกา ส่วนถุงใต้ตาถ้าต้องการความรวดเร็ว หมอแนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ลดถุงใต้ตา จะเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดและเห็นผลลัพธ์ชัดเจนกว่าครับ 


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา_หมอ29คน
โบท็อกยกคิ้ว370X277

ข้อควรรู้ก่อนฉีดโบท็อกซ์ยกคิ้ว ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง ?

Categories
botox
โบท็อกยกคิ้ว1000X860

โบท็อกยกคิ้ว 

ปัญหาคิ้วตก หางตาตก เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่พบได้บ่อย ทั้งสาเหตุจากกรรมพันธุ์และอายุที่มากขึ้น ทำให้รู้สึกว่าใบหน้าดูเศร้า ไม่สดใส ดูเหนื่อยตลอดเวลา และคนที่เชื่อในเรื่องโหงวเฮ้ง มีความเชื่อว่าถ้าคิ้วตก หนังตาตกหรือหางตาตก จะส่งผลเสียในด้านธุรกิจและคู่ครอง แต่เนื่องจากเป็นจุดเล็ก ๆ บนใบหน้า หลายคนไม่อยากที่จะเข้ารับการผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น จึงมองหาวิธีปรับแก้ทรงคิ้ว ยกคิ้ว ยกหางตาโดยไม่ต้องผ่าตัด โบท็อกซ์ยกคิ้ว ยกหางตา เป็นตัวเลือกหนึ่งที่คนนิยมทำครับ

ในบทความนี้ หมอจะอธิบายถึง โบท็อกช่วยยกคิ้ว ยกหางตาได้อย่างไร อันตรายไหม กี่วันเห็นผล ? มีข้อควรรู้อะไรบ้าง เหมาะกับใคร ? ต่างจากวิธีอื่นอย่างไร ? ราคาเท่าไหร่ ? รวมถึงวิธีการเตรียมตัวก่อนและหลังการฉีดโบท็อก ก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อก ห้ามพลาดบทความนี้ครับ

สารบัญ โบท็อกยกคิ้ว

  1. ปัญหาคิ้วตก เกิดจากอะไร
  2. โบท็อกซ์ยกคิ้ว คืออะไร
  3. ปัญหาที่ต้องแก้ด้วยโบท็อกซ์ยกคิ้วมีอะไรบ้าง
  4. มีวิธีแก้คิ้วตกนอกจากฉีดโบท็อกซ์ยกคิ้วไหม ต่างกันอย่างไร 
  5. โบท็อกซ์ยกคิ้ว เหมาะกับใคร
  6. โบท็อกซ์ยกคิ้ว ใช้ยี่ห้อไหนดี ใช้กี่ยูนิต
  7. โบท็อกซ์ยกคิ้ว ราคาเท่าไร
  8. โบท็อกซ์ยกคิ้ว อยู่ได้นานไหม กี่ครั้งเห็นผล
  9. ฉีดโบท็อกซ์ยกคิ้ว ที่ไหนดี
  10. ก่อนฉีดโบท็อกซ์ยกคิ้ว ควรเตรียมตัวอย่างไร
  11. วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์ยกคิ้ว
  12. รีวิว ฉีดโบท็อกซ์ยกคิ้ว
  13. สรุป

ปัญหาคิ้วตก เกิดจากอะไร

ก่อนที่จะทราบว่าโบท็อกซ์ยกคิ้วคืออะไร ยกคิ้ววิธีไหนได้บ้าง หมอจะแนะนำให้รู้จักกายวิภาคของคิ้วและสาเหตุที่ทำให้คิ้วตกก่อนครับ ตำแหน่งของคิ้ว จะถูกกำหนดด้วยปัจจัย 4 อย่าง ได้แก่

  1. กล้ามเนื้อหน้าผาก Frontalis muscle

กล้ามเนื้อหน้าผาก Frontalis muscle เป็นกล้ามเนื้อบาง ๆ ที่อยู่ด้านหน้าของศีรษะเหนือคิ้ว ทำหน้าที่ดึงคิ้วขึ้น สังเกตได้จากเวลาเราเลิกคิ้วหรือตกใจ กล้ามเนื้อมัดนี้เองครับที่ดึงคิ้วเราให้ขึ้นไป และเป็นกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดรอยย่น ริ้วรอยตามแนวขวางบนหน้าผาก (Horizontal Forehead Line) 

  1. กล้ามเนื้อรอบดวงตา Periocular Muscles

กล้ามเนื้อรอบดวงตา Periocular Muscles ประกอบด้วยกล้ามเนื้อที่ควบคุมด้านหัวคิ้ว ได้แก่ กล้ามเนื้อ Corrugator Supercilii กล้ามเนื้อ Depressor Supercilii กล้ามเนื้อ Orbicularis Oculi (Medial Part)

และ กล้ามเนื้อ Procerus เมื่อกล้ามเนื้อกลุ่มนี้เกิดการหดตัว จะทำให้หัวคิ้วกดต่ำลง เช่นเวลาที่เราโกรธ เครียด สงสัย จะทำให้หน้าดูดุ ดูโกรธ หรือกำลังเครียดครับ

และกล้ามเนื้อที่ควบคุมหางคิ้ว ได้แก่ กล้ามเนื้อ Orbicularis Oculi (Lateral Part) ทำหน้าที่ดึงหางคิ้วให้ตกลงมา เวลาที่เราเพ่งมอง จ้อง หรือยิ้มหัวเราะครับ

facial muscle
  1. กระดูกขอบตาด้านบน Superior Orbital Rim

กระดูกขอบตาด้านบน Superior Orbital Rim เป็นกระดูกที่อยู่ตำแหน่งใต้คิ้ว ทำหน้าที่เสมือนรองรับคิ้ว เมื่ออายุมากขึ้น กระดูกส่วนนี้จะมีการกร่อนและยุบตัวลง ทำให้ชั้นกระดูกบางลง คิ้วดูตกมากขึ้นครับ

  1. เอ็นยึดผิวหน้า Facial Ligament

เอ็นยึดผิวหน้า Facial Ligament ทำหน้าที่ยึดผิวกับเนื้อเยื่อชั้นลึกและเยื่อหุ้มกระดูก เอ็นยึดที่มีผลต่อตำแหน่งของคิ้วคือ เอ็นที่ยึดคิ้วกับผิวหนังด้านบน เอ็นยึดผิวหนังบริเวณขมับ (Temporal Area) และผิวหนังบริเวณหน้าผาก (Frontal Area) หากเอ็นเหล่านี้เกิดการเสื่อมสลายไปตามอายุที่มากขึ้น จะทำให้คิ้วตกได้ครับ

คิ้วตกจากอายุที่มากขึ้น
เมื่ออายุมากขึ้น เกิดการเสื่อมของกระดูกโหนกคิ้วและเส้นเอ็นยึดผิวบริเวณคิ้ว ทำให้คิ้วตก หางตาตกมากขึ้น

โบท็อกซ์ยกคิ้ว คืออะไร

โบท็อกซ์ยกคิ้ว คือการใช้สาร Botulinum toxin ที่มีฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ในการฉีดโบท็อกเพื่อยกคิ้ว (Eyebrow lifting) จะฉีดตัวยาเข้ากล้ามเนื้อที่มีการหดตัวทำให้คิ้วตก ได้แก่ กล้ามเนื้อ Orbicularis oculi กล้ามเนื้อ Procerus และกล้ามเนื้อ Corrugator supercilii  เมื่อโบท็อกมีการออกฤทธิ์เต็มที่ กล้ามเนื้อเหล่านี้จะเกิดการคลายตัว ส่วนที่ดึงคิ้วลงทำงานได้น้อยลง คิ้วจึงดูยกสูงขึ้นได้ครับ


ปัญหาที่ต้องแก้ด้วยโบท็อกซ์ยกคิ้วมีอะไรบ้าง

  • ปัญหาคิ้วตกจากกล้ามเนื้อบริเวณหัวคิ้วตกลง เกิดจากการแสดงอารมณ์ เครียด สงสัย ขมวดคิ้ว โกรธ กล้ามเนื้อที่อยู่ตำแหน่งหัวคิ้วจะเกิดการหดเกร็งตัวมากขึ้น ทำให้ดูคิ้วตกได้
  • ปัญหาคิ้วตกจากกล้ามเนื้อบริเวณหางคิ้ว เกิดจากการแสดงอารมณ์ เพ่งมอง จ้อง ยิ้ม หรือหัวเราะ กล้ามเนื้อหางหิ้วจะดึงคิ้วให้ตกลงมา หากแสดงสีหน้าบ่อย ๆ จะทำให้ดูเหมือนหางคิ้วตกแม้จะไม่ได้อยู่ในช่วงแสดงอารมณ์ได้
  • ปัญหาริ้วรอยหน้าผาก หางตา หรือขมวดคิ้ว ปัญหาริ้วรอยเมื่อมีอายุมากขึ้น สามารถใช้โบท็อกซ์ฉีดเพื่อควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อบนใบหน้า เช่น การยิ้มตาหยี เลิกคิ้วบ่อย ๆ การขมวดคิ้ว ทำให้แสดงสีหน้าได้น้อยลง กล้ามเนื้อรอบดวงตาจึงทำงานน้อยลงด้วย ป้องกันการเกิดคิ้วตกในอนาคตได้ครับ

มีวิธีแก้คิ้วตกนอกจากฉีดโบท็อกซ์ยกคิ้วไหม ต่างกันอย่างไร 

การแก้ไขปัญหาคิ้วตก หางตาตกทำได้หลายวิธี การประเมินการรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของคิ้วหรือหางตาที่ตกลง รูปทรงคิ้ว และโครงสร้างใบหน้าแต่ละเคส แต่ละวิธีจะเห็นผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน และมีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกันด้วยครับ โดยวิธีแก้คิ้วตก หางตาตก มีดังนี้

  1. โบท็อกซ์ยกคิ้ว โบท็อกซ์ยกหางตา เป็นการฉีดสาร Botulinum toxin เข้าไปคลายกล้ามเนื้อรอบดวงตาที่ดึงคิ้วตกลง โดยวิธีนี้จะช่วยยกคิ้วได้เล็กน้อย ไม่เกิน 2 mm เหมาะกับคนที่มีปัญหาคิ้วตกไม่รุนแรง (Mild Brow Ptosis) คนที่มีปัญหาคิ้วตกจากการแสดงสีหน้า คนที่คิ้วตกจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ โดยการฉีดโบท็อกซ์ยกคิ้วอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือนครับ
การฉีดโบท็อกยกคิ้ว
  1. ร้อยไหมยกคิ้ว ร้อยไหมยกหางตา เป็นการใช้เส้นไหมที่มีเงี่ยงสอดเข้าไปในชั้นผิวบริเวณหางตา ไหมจะทำหน้าที่เกี่ยวหางตาหรือหางคิ้วให้ยกขึ้น นิยมใช้ทำ Foxy eyes ให้หางตาดูยกขึ้นคล้ายตาจิ้งจอก เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงตาตามเทรนด์ มีปัญหาคิ้วตกไม่มาก โดยไหมที่ใช้เป็นไหมละลายคงผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 4-5 เดือนครับ
  2. Hifu Ultraformer III ยกคิ้ว เป็นการใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงส่งพลังงานลงไปในชั้นผิว ช่วยยกกระชับและกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่ได้ถึงผิวชั้นลึก เหมาะกับผู้ที่มีคิ้วตกจากเอ็นยึดผิวเสื่อมสภาพ Hifu Ultraformer III ช่วยยกคิ้วได้เล็กน้อยเท่านั้น ต้องทำซ้ำอย่างต่อเนื่อง ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6 เดือนครับ
  3. การผ่าตัดยกคิ้ว เป็นวิธีการผ่าตัดดึงหน้า ที่จะช่วยให้คิ้วดูยกขึ้นได้อย่างชัดเจนและเห็นผลลัพธ์ได้ถาวร เหมาะกับผู้ที่มีอายุมาก คิ้วตกมาก โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้ถาวร แต่ต้องใช้เวลาการพักฟื้นนาน 1-2 เดือน และมีโอกาสติดเชื้อผ่านแผลผ่าตัดหากดูแลแผลไม่ดีได้ครับ

โบท็อกซ์ยกคิ้ว เหมาะกับใคร

  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาคิ้วตก หางตาตก จากการแสดงสีหน้า
  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาคิ้วตก หางตาตก ในระดับไม่มาก
  • เหมาะกับผู้ที่กลัวการผ่าตัดและไม่มีเวลาพักฟื้น
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับแก้คิ้ว มีปัญหาคิ้วไม่เท่ากัน
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้งคิ้ว ปรับรูปหน้าตามหลักโหราศาสตร์

โบท็อกซ์ยกคิ้ว ใช้ยี่ห้อไหนดี ใช้กี่ยูนิต

โบท็อกซ์ยกคิ้ว เป็นจุดที่ใช้จำนวนยูนิตไม่มาก โดยทั่วไปใช้ 30 ยูนิตครับ และสามารถใช้โบท็อกได้หลากหลายยี่ห้อ แต่หมอแนะนำว่าต้องเป็นโบท็อกซ์ของแท้ ยี่ห้อมาตรฐานเท่านั้นครับ เพราะถ้าใช้โบท็อกปลอม อาจเกิดอาการตาตก หนังตาตก จากประสิทธิภาพการกระจายตัวยาที่ไม่แน่นอนของโบท็อกปลอมได้ครับ

โบท็อกซ์ยกคิ้ว ยี่ห้อแนะนำ มีดังนี้

  1. โบท็อกอเมริกา Allergan

โบท็อก Allergan เป็นโบท็อกที่มีความบริสุทธิ์สูง ช่วยลดโอกาสดื้อโบท็อกได้ ตัวยามีการกระจายตัวแคบ ออกฤทธิ์ตรงจุด จึงให้ผลการรักษาที่แม่นยำครับ

Allergan
  1. โบท็อกเกาหลี Nabota / Aestox

โบท็อกเกาหลี ทั้ง Nabota และ Aestox เป็นโบท็อกที่ราคาไม่แพง จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยตัวยาได้ถูกพัฒนามาให้ใกล้เคียงกับโบท็อกจากอเมริกา มีความบริสุทธิ์สูงและกระจายตัวแคบ แต่อยู่ได้สั้นกว่าโบท็อกอเมริกาเล็กน้อยครับ

Nabota Aestox
  1. โบท็อกเยอรมัน Xeomin

โบท็อก Xeomin เป็นโบท็อกที่มีจุดเด่นในเรื่องของความบริสุทธิ์ โอกาสดื้อยาน้อย เหมาะกับการใช้ในผู้ที่มีอาการดื้อโบท็อก โดยเคสนั้นจะต้องหยุดการฉีดโบท็อกมาแล้วอย่างน้อย 2-3 ปีครับ

xeomin
  1. โบท็อกอังกฤษ Dysport

โบท็อก Dysport เป็นโบท็อกที่มีการกระจายตัวกว้างที่สุด แพทย์ต้องมีเทคนิคการฉีดและคำนวณตัวยาให้เหมาะสม เพื่อป้องกันการฉีดโบท็อกแล้วตัวยากระจายไปโดนจุดอื่นที่ไม่ต้องการครับ

Dysport

โบท็อกซ์ยกคิ้ว ราคาเท่าไร

โบท็อกซ์ยกคิ้ว เป็นจุดที่ใช้จำนวนยูนิตไม่มากครับ ราคาจะขึ้นกับยี่ห้อของโบท็อกที่ใช้ 

โปรโมชั่นที่ V Square Clinic

  • โบท็อกเกาหลี Nabota ฉีดโบท็อกยกคิ้ว 30 ยูนิต ราคา 3,500 บาท
  • โบท็อกเกาหลี Aestox ฉีดโบท็อกยกคิ้ว 30 ยูนิต ราคา 3,500 บาท
  • โบท็อกเกาหลี Allergan ฉีดโบท็อกยกคิ้วและริ้วรอยทั่วใบหน้า 50 ยูนิต ราคา 10,000 บาท

โบท็อกซ์ยกคิ้ว อยู่ได้นานไหม กี่ครั้งเห็นผล

การฉีดโบท็อกยกคิ้ว 1 ครั้ง จะคงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 3-4 เดือนครับ หากปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หลังฉีด จะช่วยให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้นได้ครับ


ฉีดโบท็อกซ์ยกคิ้ว ที่ไหนดี

  • คลินิกที่ได้มาตรฐานต้องเป็นคลินิกที่มีใบอนุญาตรับรองและเปิดให้บริการอย่างถูกกฎหมาย สถานที่กว้างขวาง ไม่อับทึบ อุปกรณ์และเครื่องมือมีความทันสมัยพร้อมให้บริการ สะอาด
  • เป็นคลินิกที่แพทย์มีใบประกอบโรคศิลป์เป็นผู้ตรวจประเมินและทำหัตถการเท่านั้น
หมอฉีดโบท็อกยกคิ้ว หมอซี
  • มีรีวิวที่น่าเชื่อถือ ทั้งจากคนไข้ที่เคยใช้บริการจริงในคลินิกแห่งนั้น โดยเป็นการเปรียบเทียบผลการฉีดโบท็อกทั้ง ก่อน-หลังทำ จากแหล่งข้อมูลที่เป็นกลาง เช่น เว็บไซต์ pantip, wongnai และดีที่สุดควรเป็นรีวิวที่เป็นวิดีโอ เพื่อให้มั่นใจว่าได้ผลลัพธ์ที่ดีจริง ๆ ไม่ได้มีการปรับภาพเพิ่มเติม
  • ราคาฉีดโบท็อกและค่าบริการไม่ถูกไม่แพงเกินไป สมเหตุสมผล
  • ทางคลินิกเลือกใช้ผลิตภัณฑ์โบท็อกของแท้ ที่ผ่าน อย.เท่านั้น เปิดเผยและสามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์ได้ หรือมีการแกะกล่องและเปิดขวดใหม่ให้ดูต่อหน้า และควรอนุญาตให้คนไข้สามารถนำกล่องกลับบ้านไปเช็กกับบริษัทที่นำเข้าได้ภายหลัง เพื่อเป็นการยืนยันว่าเป็นโบท็อกของแท้จริง ๆ 
  • คลินิกมีการให้ข้อมูลรายละเอียดอย่างครบถ้วน ชัดเจน ตรงไปตรงมา คุณหมอช่วยให้คำแนะนำต่าง ๆ แก่คนไข้โดยตรง เช่น การดูแลตัวเองก่อน–หลังฉีดโบท็อก รวมทั้งมีการนัดหมายเพื่อติดตามผลภายหลังจากฉีดเสร็จแล้ว
  • คลินิกควรมีช่องทางติดต่อ เบอร์โทรศัพท์ และช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Line@ หรือ Facebook สำหรับให้คนไข้สามารถสอบถามได้อย่างสะดวก
ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ฉีดโดยแพทย์เท่านั้น และพิจารณาจากรีวิวที่มีความน่าเชื่อถือ

ก่อนฉีดโบท็อกซ์ยกคิ้ว ควรเตรียมตัวอย่างไร

  • ศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการฉีดโบท็อก เช่น วิธีการดูโบท็อกแท้ วิธีการดูแลตนเองก่อนและหลังฉีด
  • ศึกษาข้อมูลคลินิก เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ที่มีประสบการณ์ รู้ตำแหน่งที่ฉีดถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย
  • หากมียาที่กินประจำหรือโรคประจำตัวควรแจ้งแพทย์ก่อนฉีดโบท็อกยกคิ้ว
  • ก่อนฉีดโบยกคิ้ว ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง
  • งดทานอาหารเสริม ที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา ยาแก้อักเสบ ยาแอสไพริน ประมาณ 1 สัปดาห์ และควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนทำการหยุดยา
  • งดสครับหน้าและขัดหน้า ก่อนทำเป็นเวลา 2-3 วัน
  • ควรพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวัน
การเตรียมตัวก่อนทำโบท็อกยกคิ้ว

วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์ยกคิ้ว

  • 30 นาทีแรกหลังฉีดโบท็อก แนะนำให้บริหารกล้ามเนื้อตรงจุดที่ฉีด เช่น ยักคิ้ว เพื่อให้โบท็อกดูดซึมได้ดี และออกฤทธิ์ได้เร็วขึ้น
  • ไม่ควรนวดหน้า เพราะการนวด จะทำให้โบท็อกไหลไปในจุดที่ไม่ต้องการ เกิดผลข้างเคียงตามมาได้ เช่น รู้สึกแข็งไปทั้งใบหน้า และบังคับกล้ามเนื้อบนใบหน้าไม่ได้ หางคิ้วกระดก มีความรู้สึกชา ผิวช้ำ
  • ไม่ควรนอนราบ ภายใน 3-4 ชั่วโมงหลังฉีด รวมทั้งงดการก้มหัวลงต่ำกว่าระดับหัวใจ และไม่ควรประคบเย็น เพราะจะขัดขวางการดูดซึมของโบท็อก
หลังฉีดโบท็อกยกคิ้ว

รีวิว ฉีดโบท็อกซ์ยกคิ้ว

โบท็อกยกคิ้ว มักเป็นหัตถการที่หมอแนะนำให้ทำร่วมกับการฉีดโบท็อกริ้วรอยจุดอื่น ๆ เช่น โบท็อกหน้าผาก โบท็อกขมวดคิ้ว และโบท็อกหางตา เพื่อให้คิ้วได้รูปทรงสวยอย่างเป็นธรรมชาติ

รีวิวโบท็อกยกคิ้ว

สรุป

การฉีดโบท็อกซ์ยกคิ้ว เป็นวิธีช่วยปรับรูปทรงคิ้วที่ทำได้รวดเร็ว ราคาไม่แพง ไม่ต้องพักฟื้น และมีความปลอดภัย เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาคิ้วตก หางตาตกไม่มาก แนะนำทำร่วมกับการฉีดโบท็อกริ้วรอยในจุดอื่น ๆ เช่น โบท็อกหน้าผาก โบท็อกหางตา โบท็อกขมวดคิ้ว เพื่อให้คิ้วดูยกเข้ารูปและชะลอการเกิดปัญหาคิ้วตกในอนาคต การฉีดโบท็อกยกคิ้วทุกครั้งควรใช้ตัวยาโบท็อกของแท้ ตรวจสอบได้ และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์หรือคิ้วดูตกไปกว่าเดิมได้ครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา_หมอ29คน
โบท็อกไมเกรน370X277

โบท็อกซ์ไมเกรน ช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้จริงไหม ? มีวิธีการอย่างไร ?

Categories
botox
โบท็อกไมเกรน1000X860

โบท็อกซ์ไมเกรน

โบท็อกซ์ คนส่วนใหญ่มักจะคุ้นชินกับการฉีดเพื่อเสริมความงาม แต่ในช่วงแรกโบท็อกถูกนำมาฉีดเพื่อรักษาโรคกล้ามเนื้อเกร็งผิดปกติมาก่อนครับ อย่างการฉีดโบท็อกซ์รักษาไมเกรน ที่มีหลายงานวิจัยยืนยันว่าเป็นวิธีแก้ปวดหัว บรรเทาอาการปวดหัวท้ายทอย ปวดหัวข้างเดียวได้จริง และในอีกทางหนึ่งยังช่วยลดโอกาสการสะสมของสารพิษตกค้างในตับจากการรับประทานยาแก้ปวดมากเกินความจำเป็นได้

สำหรับคนไข้ที่มีปัญหาปวดหัวไมเกรนเรื้อรัง ไม่อยากเพิ่มความเสี่ยงจากการใช้ยา สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อกซ์รักษาไมเกรนได้ครับ โบท็อกซ์ ช่วยบรรเทาอาการปวดไมเกรนได้อย่างไร ? โบท็อกซ์ไมเกรน ฉีดจุดไหน ? อันตรายไหม ? อยู่ได้นานไหม กี่ครั้งเห็นผล ? วิธีแก้ปวดหัวไมเกรนโดยไม่ใช้ยา มีวิธีไหนบ้าง ?

โบท็อกซ์ไมเกรน

สารบัญ โบท็อกซ์ไมเกรน

  1. โบท็อกซ์ไมเกรน คืออะไร ?
  2. โบท็อกซ์ไมเกรน อันตรายไหม ?
  3. โบท็อกซ์ ช่วยบรรเทาอาการปวดไมเกรนได้อย่างไร ?
  4. ปวดหัวไมเกรน มีสาเหตุมาจากอะไร อาการเป็นอย่างไร ?
  5. โบท็อกซ์ไมเกรน เหมาะกับใคร ?
  6. โบท็อกซ์ไมเกรน ฉีดจุดไหน ?
  7. โบท็อกซ์ไมเกรน ใช้ยี่ห้อไหนดี ใช้กี่ยูนิต ?
  8. โบท็อกซ์ไมเกรน ราคาเท่าไร ?
  9. โบท็อกซ์ไมเกรน อยู่ได้นานไหม กี่ครั้งเห็นผล ?
  10. วิธีรักษาไมเกรนโดยไม่ใช้ยา
  11. ฉีดโบท็อกซ์ไมเกรน ที่ไหนดี ?
  12. วิธีดูแลตัวเองก่อน- หลังฉีดโบท็อกซ์ไมเกรน

โบท็อกซ์ไมเกรน คืออะไร ?

โบท็อกซ์ไมเกรน คือ การนำสารสกัดจากโปรตีนที่ชื่อว่า โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin Type A) มาฉีดเข้าบริเวณระหว่างคิ้ว หน้าผาก ท้ายทอย ต้นคอ และบ่า โดยจะประเมินตามอาการในแต่ละราย เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน (Migraine)  ปวดหัวท้ายทอย ปวดศีรษะจากความเครียด (Tension headache) หรือใช้ในคนไข้ที่ปวดศีรษะอย่างน้อย 14 วันต่อเดือนขึ้นไปครับ

ในงานวิจัยจะระบุว่าโบท็อกช่วยลดอาการปวดลงได้ แม้จะไม่ใช่วิธีรักษาให้หายขาด แต่ก็สามารถบรรเทาและลดความถี่ของจำนวนวันของอาการไมเกรนลงได้ครับ 


โบท็อกซ์ไมเกรน อันตรายไหม ?

โบท็อกซ์ไมเกรน ไม่อันตรายครับ เป็นหัตถการที่ได้รับการรับรอง US.FDA องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี 2010 ว่าสามารถช่วยลดอาการปวดหัวไมเกรนได้จริง ไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรงจากการใช้ Botox ในผู้ป่วยไมเกรน จึงเป็นวิธีรักษาไมเกรนที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก

ทั้งนี้กระบวนการฉีดโบท็อกไมเกรนจะต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้นครับ ไม่ใช่แพทย์ทุกคนที่สามารถฉีดโบท็อกไมเกรนได้ เพราะแพทย์จำเป็นต้องผ่านการอบรม หรือศึกษาเรื่องการฉีดไมเกรนโดยเฉพาะ เพื่อให้ฉีดได้ถูกตำแหน่ง และต้องใช้โบท็อกแท้เท่านั้น เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและมีความปลอดภัย


โบท็อกซ์ ช่วยบรรเทาอาการปวดไมเกรนได้อย่างไร ?

เมื่อมีอาการไมเกรน ร่างกายจะปล่อยสารสื่อประสาทที่เกี่ยวข้องกับการรับรู้ความเจ็บปวดออกมา เมื่อฉีดโบท็อกซ์เข้าไป โบท็อกจะไปยับยั้งการทำงานของปลายประสาท Acetyl Choline ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการส่งสัญญาณความเจ็บปวดไปยังสมอง หลังฉีดคนไข้จึงรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น อาการปวดหัวไมเกรนลดน้อยลงครับ

จากงานวิจัยของ New York Times กล่าวถึงผลการศึกษาเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกไมเกรนว่า สามารถลดอาการปวดหัวไมเกรนได้ถึง 60-70% โดยจะเป็นการลดจำนวนวันที่จะเป็นไมเกรนต่อเดือนให้น้อยลง แต่ไม่ได้ช่วยลดความถี่ในการเกิดอาการครับ และข้อดีที่เป็นผลพลอยได้อีกหนึ่งข้อคือ ช่วยลดริ้วรอย และชะลอวัยผิว


ปวดหัวไมเกรน มีสาเหตุมาจากอะไร อาการเป็นอย่างไร ?

ปวดหัวไมเกรน มีสาเหตุมาจากอะไร

ปวดหัวไมเกรน (Migraine headache) เป็นอาการปวดศีรษะเรื้อรังชนิดหนึ่ง ส่วนใหญ่มักจะปวดหัวข้างเดียว ในบางรายอาจปวดทั้งสองข้างต่างกันไปตามความรุนแรง โดยจะปวดหัวอย่างน้อย 14 วัน/เดือน ขึ้นไป ตามสถิติจะพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะหญิงในวัยเจริญพันธุ์

สาเหตุของการเกิดไมเกรน

ปัจจุบันยังไม่ได้มีการระบุที่แน่ชัดครับว่าอาการปวดหัวไมเกรนเกิดจากสาเหตุใดเป็นหลัก เนื่องจากมีปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดการปวดหัวไมเกรนจากหลายสาเหตุ เช่น

  • การเปลี่ยนของฮอร์โมน โดยเฉพาะในเพศหญิง ทั้งในวัยมีประจำเดือนและวัยทอง
  • ความผิดปกติชั่วคราวของระดับสารเคมีในสมอง หลอดเลือดในเยื่อหุ้มสมองเกิดการบีบ และคลายตัวมากกว่าปกติ
  • ออฟฟิศซินโดรม ไหล่ตึง จากพังผืดเกาะกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะบริเวณกล้ามเนื้อคอ ที่สามารถกระตุ้นให้ปวดหัวไมเกรนได้
  • ความเครียดสะสมทางจิตใจและร่างกาย มีภาวะวิตกกังวลใจเป็นประจำ
  • การพักผ่อนไม่เพียงพอหรือนอนหลับมากเกินไป  มีอาการเหนื่อยล้า เพลียจากการออกกำลังกายที่ต้องใช้แรงเยอะ
  • การใช้ยาบางชนิดที่ไปกระตุ้นการหลั่งสารเคมีในสมอง
  • การรับประทานอาหารที่มีสาร Tyramine (ไทรามีน) หรือ Sodium Nitrite (โซเดียมไนไตรท์) มากเกินไป เช่น อาหารแปรรูป ไส้กรอก อาหารแช่แข็ง อาหารกระป๋อง เนย ถั่วเปลือกแข็ง อาหารหมักดอง
  • การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากเกินไป
  • สภาพแวดล้อม อากาศอบอ้าว ฝุ่น และมลภาวะ รวมถึงที่ ๆ มีแสงสว่างจ้า 
  • ภาวะหลังการคลอดบุตร หรืออาการซึมเศร้าหลังคลอดบุตร เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายลดลงฉับพลัน

ปวดหัวไมเกรน

อาการปวดหัวไมเกรนที่พบได้ทั่วไปจะมีอาการปวดหัวตุบ ๆ ปวดหัวข้างเดียวหรือทั้งสองข้างสลับกัน ในบางรายอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดกระบอกตา ปวดท้ายทอย หรือรู้สึกตาไวต่อแสงมากขึ้น ตาสู้แสงไม่ได้ 

ตามหลักการแพทย์จะแบ่งอาการปวดหัวไมเกรนออกเป็น 4 ระยะครับ ได้แก่

  • ระยะอาการบอกเหตุ (Prodrome) : เป็นอาการที่จะเกิดในช่วง 1-2 วัน ก่อนปวดหัวไมเกรน ลักษณะอาการที่บ่งบอก เช่น ปวดตึงต้นคอ, ปวดหัวท้ายทอย, กระหายน้ำหรือปัสสาวะบ่อยขึ้น, ท้องผูก, ง่วงนอน หาวบ่อยผิดปกติ, อารมณ์แปรปรวน มีอาการซึมเศร้า
  • ระยะอาการเตือนนำ (Aura) : เป็นระยะอาการก่อนนำไปสู่การปวดหัวไมเกรน ลักษณะอาการที่บ่งบอก เช่น ชาที่มือที่เท้า, สายตาพร่ามัว มองเห็นรูปทรงต่าง ๆ ผิดขนาด, กล้ามเนื้อเริ่มอ่อนแรง ร่างกายเคลื่อนไหวช้าลง 
  • ระยะปวดศีรษะ (Headache) : คนไข้จะรู้สึกปวดหัวตุบ ๆ โดยจะปวดหัวข้างเดียว หรือปวดสองข้างพร้อมกัน บางรายอาจปวดกระบอกตาจนไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ หากมีอาการที่รุนแรงขึ้น อาจพบว่าตาไวต่อแสง ตาสู้แสงไม่ได้  มีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย
  • ระยะอาการเข้าสู่ภาวะปกติ (Postdrome) : อาการปวดหัวเริ่มทุเลาลง เข้าสู่ภาวะร่างกายอ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ ในบางรายอาจยังรู้สึกไวต่อสิ่งเร้าภายนอก เช่น แสง สี เสียง กลิ่น

โบท็อกซ์ไมเกรน เหมาะกับใคร ?

  • คนที่มีอาการปวดหัวไมเกรนเรื้อรัง ปวดหัวข้างเดียว หรือปวดหัวทั้งสองข้างที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
  • คนที่ไม่อยากรับประทานยาแก้ปวดมากเกินความจำเป็น กังวลความผิดปกติของค่าตับและไต
  • คนที่มีภาวะเสี่ยงเป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ แผลในกระเพาะอาหารจากการใช้ยาแก้ปวด 
  • คนที่รับประทานยาแก้ปวดแล้วอาการไม่ทุเลาลง

โบท็อกซ์ไมเกรน ฉีดจุดไหน ?

Source_โบท็อกซ์ไมเกรน-ฉีดจุดไหน

ตำแหน่งฉีดโบท็อกซ์รักษาไมเกรน หมอจะฉีดโบท็อกตามตำแหน่งดังนี้ครับ

ตำแหน่งฉีดโบท็อกซ์รักษาไมเกรน เป็นตำแหน่งที่ฉีดเพื่อบรรเทาอาการปวดหัวจากไมเกรนโดยเฉพาะ ดังนั้นควรฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ รู้กายวิภาคของร่างกายเป็นอย่างดีเท่านั้นครับ 


โบท็อกซ์ไมเกรน ใช้ยี่ห้อไหนดี ใช้กี่ยูนิต ?

โบท็อกซ์ไมเกรน ใช้ยี่ห้อไหนดี

โบท็อกซ์ไมเกรน สามารถใช้ได้หลายยี่ห้อครับ หมอแนะนำให้ฉีดโบท็อกยี่ห้อที่ผ่าน อย.ไทยแล้วเท่านั้น ซึ่งได้แก่ โบท็อก Allergan (อเมริกา), โบท็อก Dysport (อังกฤษ), โบท็อก Xeomin (เยอรมัน), โบท็อก Nabota/Aestox (เกาหลี)

ยี่ห้อที่ได้รับความนิยมในไทย คือ โบท็อกเกาหลีครับ โดยจะใช้โบท็อกประมาณ 100 ยูนิต ทั้งนี้หมอจะแนะนำยี่ห้อที่เหมาะสมกับปัญหาและความต้องการของแต่ละเคส


โบท็อกซ์ไมเกรน ราคาเท่าไร ?

โบท็อกซ์ไมเกรน ราคาเท่าไร

โบท็อกซ์ไมเกรน  ราคาเริ่มต้น 9,000.-/100 U หมอแนะนำโบท็อกเกาหลี ยี่ห้อ Nabota/Aestox โดยฉีดทุก ๆ 3 เดือนครับ


โบท็อกซ์ไมเกรน อยู่ได้นานไหม กี่ครั้งเห็นผล ?

โบท็อกซ์ไมเกรน อยู่ได้นานประมาณ 3-4 เดือน จากนั้นโบท็อกจะค่อย ๆ หมดฤทธิ์ลงครับ หากใครที่ต้องการบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนอย่างต่อเนื่อง สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ตามคำแนะนำของแพทย์ 

การฉีดโบท็อกซ์ไมเกรนสามารถเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกครับ จะเห็นผลเต็มที่ใน 2 สัปดาห์หลังฉีด ความถี่ในการฉีดอย่างต่ำควรเว้นระยะห่าง 3 เดือน ไม่ควรฉีดโบท็อกถี่เกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการดื้อโบท็อกได้ ซึ่งในปัจจุบันอาการดังกล่าวยังไม่มีวิธีรักษาครับ


วิธีรักษาไมเกรนโดยไม่ใช้ยา

นอกจากการฉีดโบท็อกซ์รักษาไมเกรนแล้วยังมีวิธีแก้ปวดหัวไมเกรนโดยไม่ต้องใช้ยาอีกหลายวิธีครับ ได้แก่

Source_6-วิธีบรรเทาอาการไมเกรน-โดยไม่ใช้ยา

1. การฝังเข็ม

การฝังเข็มรักษาไมเกรน เป็นวิธีการรักษาทางการแพทย์แผนจีนโดยจะฝังเข็มตามตำแหน่งบนเส้นลมปราณทั่วร่างกาย เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดหัวจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น และช่วยปรับระบบการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายให้สมดุลครับ แต่จะไม่สามารถระงับหรือบรรเทาอาการปวดได้ทันที จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดขั้นรุนแรง

ข้อควรระวังของการฝังเข็มรักษาไมเกรน คือต้องทำกับแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์เท่านั้น และที่สำคัญควรเลือกทำในสถานพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือ มีห้องปลอดเชื้อ เข็มที่ใช้จะต้องเป็นแบบใช้แล้วทิ้งเท่านั้น เพื่อป้องกันการติดเชื้อครับ

2. การนวดกดจุด

การนวดกดจุด เป็นวิธีการรักษาทางการแพทย์แผนไทย โดยจะนวดบริเวณขมับ ศีรษะ ท้ายทอย คอ บ่า ไหล่ เพื่อช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายและทำการหลั่งสารอะดรีนาลีนออกมาเพื่อระงับอาการปวดหัวไมเกรน และช่วยระบบการหมุนเวียนของเลือด ต่อมน้ำเหลืองในร่างกายให้ทำงานดีขึ้น 

ข้อควรระวังของนวดกดจุด คือหลังทำร่างกายอาจมีอาการปวด แดง บวม หรือเส้นอักเสบได้ และไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคความดันสูง ผู้ป่วยเบาหวาน อัมพาต เพราะอาจทำให้หลอดเลือดดำอักเสบ หรือความดันสูงขึ้น รวมถึงคนที่มีปัญหากระดูกเปราะ กระดูกบาง ข้อต่อหลวม 

3. การทำกายภาพบำบัด

การทำกายภาพบำบัดรักษาไมเกรน  (Biofeedback)  จะเป็นการให้คนไข้เรียนรู้และควบคุมการทำงานของร่างกายตัวเอง เช่น การฝึกหายใจ การกำหนดจิต เพื่อให้คนไข้รู้สึกผ่อนคลาย หายใจถูกจังหวะ นอกจากนี้การทำกายภาพบำบัดรักษาไมเกรน ยังรวมถึงการนวดคอ บ่า ไหล่ เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพของร่างกาย คลายกล้ามเนื้อคอ ลดอาการปวดหัวท้ายทอยได้ครับ 

4. ชา สมุนไพร

มีงานวิจัยระบุว่าการดื่มชา สามารถบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนลงได้ครับ เช่น ชาขิง, ชาเปปเปอร์มินต์, ชาคาโมมายล์, ชากานพลู เป็นต้น การดื่มชาจะทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์ดีขึ้น และชาหรือสมุนไพรบางชนิดจะมีฤทธิ์ช่วยลดอาการปวดต่าง ๆ ได้ 

ทั้งนี้ชาหรือสมุนไพรบางชนิดไม่ควรดื่มต่อกันหลายวันหรือเป็นระยะเวลานานครับ โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากสารประกอบบางอย่างในชาอาจเป็นอันตรายต่อเด็กในครรภ์ได้

5. การใช้วิตามินหรือเกลือแร่

การใช้วิตามินหรือเกลือแร่ เป็นวิธีรักษาไมเกรนด้วยตัวเอง วิธีนี้จะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวและลดความถี่ของการเกิดอาการได้ครับ สำหรับวิตามินที่ช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนที่แนะนำ เช่น แมกนีเซียม (Magnesium), วิตามินบี 2 (Riboflavin),  โคเอนไซม์คิวเทน (Coenzyme Q10)

วิตามินที่หมอส่วนใหญ่แนะนำจะเป็นการเสริมแมกนีเซียมครับ เพราะถ้าขาดแมกนีเซียม ร่างกายจะเข้าสู่ภาวะ Aura (ระยะอาการเตือนนำ) โดยจะมีอาการวูบแสง สายตาพร่ามัวซึ่งจะเป็นสัญญาณเตือนก่อนเริ่มปวดหัวไมเกรน โดยรับประทานประมาณ 400-600 mg/วัน

ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาไมเกรนให้หายขาดครับ มีแต่ช่วยให้อาการทุเลาลง คนไข้สามารถนำวิธีรักษาไมเกรนโดยไม่ใช้ยาที่หมอได้แนะนำไปปรับใช้ตามความสะดวก แต่หากใครที่ต้องการลดอาการปวดหัวไมเกรนแบบเห็นผลเร็ว หมอแนะนำฉีดโบท็อกซ์ไมเกรนครับ เห็นผลใน 3-4 วัน และจะออกฤทธิ์สูงสุดในสัปดาห์ที่ 2 ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน


ฉีดโบท็อกซ์ไมเกรน ที่ไหนดี ?

ฉีดโบท็อกซ์ไมเกรน ที่ไหนดี
  • เลือกคลินิกฉีดโบท็อกซ์ไมเกรนที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตถูกต้อง มีอุปกรณ์ และเครื่องมือในการช่วยเหลือยามฉุกเฉิน มีพื้นที่และห้องการทำหัตถการที่กว้างขวาง มีความสะอาด ไม่ทึบหรือแออัด 
  • ใช้โบท็อกแท้ที่ผ่าน อย.ไทย มีตัวแทนจำหน่ายอย่างถูกต้อง ซึ่งบริษัทยาจะต้องขายให้กับคุณหมอที่มีใบอนุญาตเท่านั้น
  • แพทย์ต้องมีประสบการณ์ สามารถเอาชื่อ-นามสกุลเข้าไปตรวจในเว็บไซต์ของแพทยสภาได้ที่ http://www.tmc.or.th/check_md/ เพื่อดูว่าเป็นหมอจริงหรือไม่
  • มีช่องทางการติดต่อที่สะดวกหรือควรมีการ follow up  ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัว ก่อนทำ-หลังทำอย่างใกล้ชิด และมีช่องทางติดต่อสอบถามเกี่ยวกับปัญหากับหมอโดยตรง
  • มีรีวิวที่น่าเชื่อถือ ตรวจสอบแหล่งที่มาได้ เช่น จาก Feedback ที่คนไข้มารีวิว เพราะถ้าหากคนไข้มารีวิวแล้วทางคลินิกจะไม่สามารถลบออกได้

วิธีดูแลตัวเองก่อน- หลังฉีดโบท็อกซ์ไมเกรน

วิธีดูแลตัวเองก่อนฉีดโบท็อกซ์ไมเกรน

  • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกซ์ไมเกรน รวมถึงวิธีการสังเกตโบท็อกแท้แต่ละยี่ห้อ เพื่อความปลอดภัย
  • ก่อนฉีดควรให้แพทย์เปิดขวดใหม่ ผสมโบท็อกให้ดูต่อหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้เจือจางน้ำเกลือมากเกินไป และควรขอกล่องและขวดกลับบ้านไว้ตรวจสอบ เพื่อมั่นใจว่าเป็นของแท้
  • งดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, NSAIDs, Ponstan
  • งดสครับผิว คอร์สเลเซอร์ แว็กผิวบริเวณที่ฉีด 2-3 วัน เพื่อลดอาการเขียวช้ำ 
  • หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำ ควรปรึกษาหรือแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง

วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์ไมเกรน

  • หลังฉีดโบท็อก 48 ชั่วโมง ควรหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด เช่น อบซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ ตากแดด เลเซอร์ผิว
  • งดอาหารที่ส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของโบท็อก เช่น อาหารรสจัด อาหารหมักดอง อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาเป็นเวลานาน
  • งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด  เนื่องจากจะส่งผลต่อการอักเสบ ยุบบวมช้า และผลการรักษาอยู่ได้สั้นลง
Vsquare_tips_ICON

มีงานวิจัยระบุว่าการกิน Zinc 50 mg/วัน ก่อนและหลังฉีดโบท็อก จะช่วยให้โบท็อกออกฤทธิ์ไวและอยู่ได้นานขึ้น  วัยผู้ใหญ่ควรได้รับแร่ธาตุสังกะสี 12-15 มิลลิกรัม/วัน โดยพบได้มากในอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ตับ อาหารทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่งหอยนางรม และธัญพืช


สรุป

การฉีดโบท็อกไมเกรน แม้ไม่ได้เป็นวิธีการรักษาไมเกรนแบบถาวร แต่ช่วยบรรเทาอาการปวดได้มากครับ หลังฉีดจะช่วยให้คนไข้ปวดศีรษะไมเกรน ปวดหัวท้ายทอยน้อยลง เป็นวิธีที่มีความปลอดภัย ให้ผลลัพธ์ที่ดี และยังมีผลพลอยได้ในการช่วยลดรอยหน้าผากลดน้อยลง 

แต่หากคนไข้ปวดหัวไมเกรนเรื้อรัง จัดอยู่ในระดับรุนแรง  ควรไปพบหมอเฉพาะทางเพื่อหาสาเหตุ และรักษาอย่างถูกวิธีจะเหมาะสมกว่าครับ


อ้างอิง

1.Critical analysis of the use of onabotulinumtoxinA (botulinum toxin type A) in migraine
https://pdfs.semanticscholar.org/68b1/131fec0dfc227ddf5a291384059b7e517502.pdf?_ga=2.221469912.1910126796.1615368643-1089673905.1608626583
2.Botulinum Toxin Injectables for Migraines | Sashank Reddy, M.D., Ph.D.
https://www.hopkinsmedicine.org/health/treatment-tests-and-therapies/botulinum-toxin-injectables-for-migraines
3.Caffeine and Migraine
https://americanmigrainefoundation.org/resource-library/caffeine-and-migraine
4.Foods High in Tyramine | Mahammad Juber, MD on November 29, 2022 
https://www.webmd.com/diet/foods-high-in-tyramine
5.Sodium Nitrite Toxicity | Melinda Ratini, MS, DO
https://www.webmd.com/first-aid/sodium-nitrite-toxicity


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา_หมอ29คน
โบท็อกซ์รักแร้

โบท็อกซ์รักแร้ ลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัวให้น้อยลง กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานไหม ?

Categories
botox
โบท็อกซ์รักแร้

โบท็อกซ์รักแร้

โบท็อกซ์รักแร้ เป็นการฉีดโบท็อกเพื่อช่วยลดเหงื่อใต้วงแขน ลดกลิ่นตัวที่เกิดจากเหงื่อ ถือเป็นวิธีลดเหงื่อได้เห็นผลชัดเจน รวดเร็ว และอยู่ได้นาน โดยสามารถลดเหงื่อได้ถึง 80% หลังทำ ช่วยให้คนไข้มีความมั่นใจมากขึ้น

การฉีดโบท็อกรักแร้ โดยหมอต้น

เพื่อให้เข้าใจเกี่ยวกับการฉีด Botox รักแร้มากขึ้น ว่าช่วยอะไรได้บ้าง กลิ่นตัวแรงช่วยลดกลิ่นได้ไหม ต้องฉีดกี่ครั้ง ฉีดโบท็อกซ์รักแร้ใช้โบท็อกยี่ห้อไหนดี หมอมีข้อแนะนำและสรุปให้ในบทความนี้ครับ

สารบัญ โบท็อกซ์รักแร้

  1. เหงื่อเยอะ รักแร้เปียก กลิ่นตัวแรง เกิดจากอะไร ?
  2. โบท็อกซ์รักแร้ ช่วยลดเหงื่อลดกลิ่นได้อย่างไร ?
  3. ฉีดโบท็อกซ์รักแร้กี่วันเห็นผล ?
  4. โบท็อกซ์รักแร้ มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร เมื่อเทียบกับการลดเหงื่อด้วยวิธีอื่น
  5. โบท็อกซ์รักแร้เหมาะกับใคร ?
  6. ข้อควรระวังในการฉีดโบท็อกซ์รักแร้
  7. ฉีดโบท็อกรักแร้เจ็บไหม ?
  8. ฉีดโบรักแร้ มีผลกับการออกกำลังกายไหม ?
  9. ฉีดโบท็อกซ์รักแร้ ยี่ห้อไหนดี ?
  10. ฉีดโบท็อกซ์รักแร้ ราคาเท่าไร ใช้กี่ยูนิต ?
  11. ฉีดโบท็อกซ์รักแร้ อยู่ได้นานไหม ?
  12. ฉีดโบท็อกซ์รักแร้ ที่ไหนดี ?
  13. วิธีปฏิบัติตัวก่อนและหลังฉีดโบท็อกซ์รักแร้
  14. วิธีปฏิบัติตัวหลังฉีดโบท็อกซ์รักแร้
  15. รีวิว โบท็อกซ์รักแร้

เหงื่อเยอะ รักแร้เปียก กลิ่นตัวแรง เกิดจากอะไร ?

เหงื่อ เป็นกลไกที่ต่อมเหงื่อ (Eccrine Sweat Glands) ขับน้ำออกมาเพื่อรักษาสมดุลของอุณหภูมิในร่างกาย (Thermoregulation) ทำให้ร่างกายเย็นลงเมื่อมีความร้อนเกิดขึ้น ปัจจัยที่ทำให้เกิดเหงื่อ ได้แก่

  • อุณหภูมิ จากสภาพแวดล้อมและอุณหภูมิภายในร่างกาย เช่น อากาศร้อน หรือป่วยมีไข้สูง
  • การรับประทานอาหาร เช่น เครื่องดื่มคาเฟอีน ชา กาแฟ แอลกอฮอล์ อาหารที่เผ็ดมาก ๆ
  • สภาวะทางอารมณ์ ก็สามารถกระตุ้นให้เหงื่อออกได้ เช่น กลัว โกรธ เครียด วิตกกังวล
  • การใช้ยาบางชนิด ส่งผลให้มีเหงื่อออกมาก เช่น  ยาลดไข้ ยาแก้ปวดหรือมอร์ฟีน
  • ฮอร์โมน ทำให้เหงื่อออกง่าย โดยเฉพาะในวัยทองซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนมาก ๆ 
เหงื่อออกที่รักแร้
เหงื่อออกที่รักแร้ทำให้เสียความมั่นใจ

นอกจากนี้ยังมีโรคที่สัมพันธ์กับเหงื่อ เช่น ภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ (Hyperhidrosis), กลุ่มอาการซีอาร์พีเอส (Complex Regional Pain Syndrome) หรือโรคไทรอยด์เป็นพิษ ร่างกายมีการเผาผลาญสูง ทำให้ร่างกายขับเหงื่อออกมามากแม้จะอยู่ในอุณหภูมิปกติ 

หากต้องการลดเหงื่อ ไม่ให้เหงื่อออกเยอะ ลดเหงื่อรักแร้ ต้องลดการทำงานของต่อมเหงื่อ (Eccrine Sweat Glands) ใต้ผิวหนัง จะเป็นวิธีที่ทำแล้วเห็นผลชัดเจนกว่าการใช้ครีมหรือผลิตภัณฑ์ลดเหงื่อทั่วไป


โบท็อกซ์รักแร้ ช่วยลดเหงื่อลดกลิ่นได้อย่างไร ?

ฉีดโบท็อกรักแร้  คือ การฉีดสาร Botulinum Toxin Type A เข้าไปบริเวณรักแร้ที่เป็นต่อมเหงื่อ ตัวยาโบท็อกจะออกฤทธิ์กับระบบประสาท ช่วยยับยั้งการทำงานของต่อมเหงื่อ ทำให้เหงื่อออกน้อยลง สามารถลดเหงื่อได้ประมาณ 80% ต่อการฉีด 1 ครั้ง

ขั้นตอนการฉีดโบท็อกรักแร้
ขั้นตอนการฉีดโบท็อกรักแร้

สำหรับเรื่องกลิ่นตัว จริง ๆ แล้วก็มีความสัมพันธ์กับเหงื่อครับโดยกลิ่นตัวเกิดจากต่อม Apocrine Sweat Glands จะพบบางที่ในร่างกาย เช่น รักแร้ ขาหนีบ ก้น แผ่นหลัง เมื่อร่างกายมีเหงื่อออกบนผิวหนังในจุดที่มีความชื้นและอุณหภูมิสูง จะถูกเชื้อแบคทีเรียย่อยสลายเปลี่ยนให้เป็นแอมโมเนียและกรดไขมัน ทำให้มีกลิ่นฉุนหรือเปรี้ยวออกมาเป็นกลิ่นตัว เมื่อฉีดโบท็อกก็จะเห็นผลว่าทั้งเหงื่อและกลิ่นตัวลดลง ส่วนใหญ่คนไข้ที่เคยฉีดโบท็อกรักแร้ก็มักจะกลับมาฉีดซ้ำ เพราะเห็นผลดีครับ


ฉีดโบท็อกซ์รักแร้กี่วันเห็นผล ?

หลังจากฉีดโบท็อกรักแร้ใช้เวลาประมาณ 1-3 วัน ก็เริ่มเห็นผลแล้วครับ จากนั้น 3-7 วัน เหงื่อจะค่อย ๆ ลดลง จนเห็นผลเต็มที่ รักแร้จะแห้ง ๆ ครับ ใส่เสื้อผ้าก็จะรู้สึกสบายตัวขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องเหงื่อใต้วงแขน


โบท็อกซ์รักแร้ มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร เมื่อเทียบกับการลดเหงื่อด้วยวิธีอื่น

วิธีลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว นอกจากโบท็อกรักแร้ก็มีอีกหลายวิธีที่นิยมกันครับ หมอจะเปรียบเทียบแต่ละแบบให้เห็นดังนี้

  • โรลออนลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว 
โรลออนลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว

ในส่วนประกอบของโรลออนระงับกลิ่นกาย จะมีส่วนผสมที่เป็นสารลดการหลั่งของเหงื่อ (Antiperspirants)  เช่น อะลูมิเนียมคลอโรไฮเดรต อะลูมิเนียมไดคลอโรไฮเดรตสารส้ม อะลูมินัมเซอร์โคเนียมเททระคลอโรไฮเดรต โดยสารเคมีเหล่านี้จะทําปฏิกิริยากับรูขุมขน ช่วยระงับการทํางานของต่อมเหงื่อจากภายนอก ช่วยให้ใต้วงแขนแห้งได้ชั่วคราว เห็นผลน้อยกว่าและสั้นกว่าการฉีดโบท็อกรักแร้ครับ

  • เลเซอร์ลดต่อมเหงื่อ
เลเซอร์ลดต่อมเหงื่อ

เลเซอร์รักแร้ เป็นการเลเซอร์ลดต่อมเหงื่อให้ลดลง โดยใช้คลื่นความร้อนที่เฉพาะเจาะจง ยิงเข้าไปในผิวบริเวณรักแร้ แล้วปล่อยพลังงานออกไปในชั้นหนังแท้ถึงชั้นไขมัน เมื่อจำนวนต่อมเหงื่อลดลง เหงื่อก็ออกน้อยลง การเลเซอร์ลดต่อมเหงื่อมีหลายรูปแบบครับ เช่น miraDry, Ultra Dry

  • ผ่าตัดต่อมเหงื่อ
ผ่าตัดต่อมเหงื่อ

การผ่าตัดต่อมเหงื่อ ทำเพื่อเลาะต่อมเหงื่อออกไปครับ หรือผ่าตัดเส้นประสาทที่มาเลี้ยงต่อมเหงื่อเพื่อทำให้สั่งงานลดลง หลังผ่าตัดแพทย์จะปิดแผลตามแนวรอยพับของรักแร้ ช่วยลดเหงื่อได้ประมาณ 95% แต่ก็จะมีเรื่องแผลเป็นและการดูแลหลังผ่าตัด ถ้าไม่ได้เหงื่อออกมากจนสร้างปัญหาหรือส่งผลกับสุขภาพ การฉีดโบท็อกรักแร้ก็เพียงพอครับ 


โบท็อกซ์รักแร้เหมาะกับใคร ?

  • มีเหงื่อออกมากเกินไป รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
  • มีปัญหากลิ่นตัวจากเหงื่อ ทำให้ขาดความมั่นใจ
  • มีโรคประจำตัวที่ทำให้เหงื่อออกมากกว่าปกติ
  • แพ้ผลิตภัณฑ์สำหรับลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว เช่น โรลออน สเปรย์ ครีม
  • ต้องการความมั่นใจเวลาใส่เสื้อผ้า ไม่อยากให้มีเหงื่อออกใต้วงแขน
  • ต้องการผลลัพธ์การลดเหงื่อรักแร้ที่รวดเร็ว ชัดเจน
  • ไม่ต้องการลดเหงื่อด้วยการผ่าตัด มีแผลเป็น

ข้อควรระวังในการฉีดโบท็อกซ์รักแร้

หลายคนคิดว่าฉีดโบท็อกรักแร้แล้วอยู่ได้ตลอดไป แต่จริง ๆ การฉีดโบท็อกรักแร้ไม่ได้ช่วยลดเหงื่อถาวรครับ จะอยู่ได้ตามอายุการออกฤทธิ์ของโบท็อก คือประมาณ 3-4 เดือน หลังจากนั้นต้องกลับมาฉีดเพิ่ม

ก่อนฉีดโบท็อกรักแร้ โดยหมอแอม
ก่อนฉีดโบท็อกแพทย์ต้องผสมน้ำเกลือและดึงยาออกจากขวดต่อหน้าคนไข้ทุกครั้ง

อีกข้อที่สำคัญคือการเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ก็เป็นสิ่งสำคัญครับ เพราะการฉีดโบท็อกรักแร้ต้องใช้ปริมาณโบท็อกค่อนข้างมาก แพทย์ต้องมีความแม่นยำในการฉีด และฉีดในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้มีผลข้างเคียงกับกล้ามเนื้อบริเวณข้างเคียงครับ

ข้อห้ามการฉีดโบท็อก ที่อันตรายถึงชีวิต

นอกจากนี้ยังมีข้อห้ามฉีดโบท็อกในคนที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ, เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงชนิดต่าง ๆ หรือมีประวัติเคยแพ้ส่วนผสมของโบท็อก

  • คนที่มีปัญหาเรื่อง โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด โรคถุงลมโป่งพอง อาจจะอันตรายถึงชีวิต
  • คนที่มีปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อในการกลืน
  • คนที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงต่าง ๆ เช่น
    • amyotrophic lateral sclerosis (ALS)
    • Lou Gehrig’s disease
    • myasthenia gravis
    • Lambert-Eaton syndrome
  • มีอาการติดเชื้อที่ผิวหนังในจุดที่จะฉีดโบท็อก
  • มีอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ หรือ มีภาวะติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ

ก่อนฉีดจึงต้องแจ้งประวัติโรคกับยาที่ทานประจำให้แพทย์ทราบทุกครั้ง เพื่อประเมินว่าฉีดได้หรือไม่ได้ตามความเหมาะสม


ฉีดโบท็อกรักแร้เจ็บไหม ?

โดยปกติก่อนฉีดทางคลินิกจะมีการแปะยาชาให้ครับ คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บ ระหว่างฉีดคนไข้อาจจะรู้สึกเวลาเข็มจิ้มหรือตอนเดินยาบ้างเล็กน้อย แต่บางคนก็ไม่รู้สึกเลยก็มีครับ 


ฉีดโบรักแร้ มีผลกับการออกกำลังกายไหม ?

ถ้าหลังฉีดโบรักแร้ไป หมอจะยังไม่แนะนำให้ออกกำลังกายทันทีครับ จะส่งผลต่อการกระจายตัวของโบท็อก ดังนั้นควรเว้นการออกกำลังกายหนัก ๆ สัก 1 วัน หลังจากนั้นก็ออกกำลังกายเบา ๆ ได้ 


ฉีดโบท็อกซ์รักแร้ ยี่ห้อไหนดี ?

การฉีดโบท็อกรักแร้ สามารถใช้ได้ทุกยี่ห้อครับ ทั้ง Nabota, Aestox, Xeomin และ Dysport ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีจุดเด่นแตกต่างกัน เช่น การกระจายตัวยา ระยะเวลาที่ออกฤทธิ์ ระยะเวลาเห็นผล ราคาแต่ละยี่ห้อก็จะต่างกันด้วยครับ สำหรับรักแร้ที่นิยมจะเป็นโบท็อก Dysport ของอังกฤษ ยากระจายตัวกว้าง เหมาะกับฉีดกล้ามเนื้อมัดใหญ่อย่างรักแร้ กล้ามแขน น่อง 

ฉีดโบท็อกซ์รักแร้ ยี่ห้อ Dysport

ฉีดโบท็อกซ์รักแร้ ราคาเท่าไร ใช้กี่ยูนิต ?

โบท็อกซ์รักแร้ราคาขึ้นอยู่กับยี่ห้อและปริมาณยูนิตที่ใช้ ในการฉีดโบท็อกรักแร้ หมอจะฉีดเป็นจุด ๆ เรียงกันให้ทั่วใต้วงแขน โดยใช้โบท็อกข้างละประมาณ 50-100 ยูนิต (ประมาณ 20-30 จุด) ครับ

ราคาโบท็อกซ์รักแร้

ราคาโบท็อกซ์รักแร้ 

โบท็อก Nabota / Aestox

  • 100 U ราคา 9,000.-
  • 150 U ราคา 12,000.-
  • 200 U ราคา 16,000.-

โบท็อก Dysport

  • 300 U ราคา 18,000.-
  • 600 U ราคา 28,000.-

โบท็อก Xeomin

  • 200 U ราคา 28,000.-

ฉีดโบท็อกซ์รักแร้ อยู่ได้นานไหม ?

โบท็อกรักแร้ จะอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือนครับ ขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อก เทคนิคการฉีด และการดูแลตัวเองของคนไข้ร่วมด้วย แต่ถ้าโบท็อกหมดฤทธิ์แล้วและต้องการรักษาผลลัพธ์ไว้ต่อเนื่องสามารถกลับมาฉีดรักแร้ซ้ำได้


ฉีดโบท็อกซ์รักแร้ ที่ไหนดี ?

ก่อนเลือกฉีดโบท็อกซ์รักแร้ที่ไหนดี ควรพิจารณาจากข้อแนะนำต่อไปนี้ครับ

  1. เลือกคลินิกฉีดโบท็อกที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตถูกต้อง ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ตั้งอยู่ในทำเลที่ปลอดภัย เช่น ห้างสรรพสินค้า อาคารพาณิชย์
  2. ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ สามารถนำชื่อ-นามสกุลเข้าไปตรวจสอบในเว็บไซต์ของแพทยสภา (http://www.tmc.or.th/check_md/) เพื่อดูว่าเป็นแพทย์จริง มีใบรับรอง
  3. ใช้โบท็อกแท้เท่านั้น คนไข้ควรศึกษาวิธีดูโบท็อกแท้เบื้องต้น ก่อนฉีดหมอต้องแกะกล่อง เปิดขวด ผสมยาให้ดูต่อหน้า
  4. ดูรีวิวฉีดโบท็อกรักแร้จากเคสที่เคยใช้บริการจริง ในแหล่งที่เป็นกลาง น่าเชื่อถือ คลินิกไม่สามารถลบหรือแก้ไขได้
  5. คลินิกมีการติดตามผลหลังทำ มีช่องทางการติดต่อที่สะดวก เช่น เบอร์โทรศัพท์, Line@, Facebook Messenger

วิธีปฏิบัติตัวก่อนและหลังฉีดโบท็อกซ์รักแร้

วิธีปฏิบัติตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์รักแร้

  • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกรักแร้ การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน การเลือกหมอ ดูรีวิว
  • งดยา วิตามิน อาหารเสริมบางชนิดก่อนฉีด เช่น แอสไพริน, NSAIDs, วิตามิน St. John’s Wort, ginkgo biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E 
  • ต้องไม่มีผิวหนังอักเสบ ผิวหนังติดเชื้อ หรือมีแผลบริเวณที่จะฉีดโบท็อกรักแร้
  • งดยาผลัดเซลล์ผิว การดึงหรือโกนขนบริเวณที่จะฉีดโบท็อก
  • หากกลัวเจ็บ สามารถแจ้งขอแปะยาชาก่อนฉีดโบท็อกได้ 
  • หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำควรแจ้งแพทย์ก่อนฉีดโบท็อกทุกครั้ง
การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกรักแร้

วิธีปฏิบัติตัวหลังฉีดโบท็อกซ์รักแร้

  • หลังฉีดโบท็อกรักแร้ 1 วัน ให้งดใช้ผลิตภัณฑ์ลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว 
  • งดทำทรีทเมนต์บริเวณรักแร้ เลเซอร์รักแร้ 2 สัปดาห์
  • งดอบซาวน่า อบไอน้ำ อบตัว 2 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง มะม่วงดอง 2 สัปดาห์
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ น้ำหมัก 2 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เช่น เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด เค็มจัด จะเร่งการขับเหงื่อและทำให้กลิ่นตัวแรง
  • ควรฉีดโบท็อกต่อเนื่องในระยะที่เหมาะสม ไม่ฉีดถี่เกินไป (ควรเว้น 3 เดือน) และไม่เว้นระยะห่างเกินไป (เว้นเกิน 5-6 เดือน)
Vsquare_tips_ICON

มีงานวิจัยระบุว่า การทาน Zinc 50 mg ก่อนและหลังการฉีดโบท็อก จะช่วยให้โบท็อกออกฤทธิ์ไวขึ้น และช่วยให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้น ในคนไทยส่วนใหญ่จะพบปัญหาร่างกายขาด Zinc ให้สังเกตตัวเองว่ามีอาการ ผมร่วงแตกปลาย, ผิวแห้งลอก, เป็นแผลเรื้อรัง, เป็นผื่นง่าย หรือเล็บแห้งเปราะหัก แนะนำให้กินก่อนหรือหลังฉีดโบท็อกครับ


รีวิว โบท็อกซ์รักแร้

โบท็อกซ์รักแร้ รีวิว ขั้นตอนการฉีดที่ V Square Clinic 

รีวิว โบท็อกรักแร้ ลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว ได้กว่า 80%

สรุป

สำหรับผู้ที่มีปัญหาเหงื่อออกมาก รักแร้เปียก ไม่มั่นใจ การฉีดโบท็อกรักแร้ถือว่าช่วยได้มากครับ เห็นผลค่อนข้างเร็ว ชัดเจน อยู่ได้นาน ไม่ต้องกังวลกับการใช้โรลออนหรือผลิตภัณฑ์ลดเหงื่อ และยังเป็นวิธีลดกลิ่นตัวที่ได้ผลดีด้วย หากเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้การฉีด Botox รักแร้ราคาไม่แพง หากสนใจฉีดหรือมีข้อสงสัยอื่น ๆ สามารถปรึกษาหมอได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา_หมอ29คน

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา_หมอ29คน
โบท็อกซ์หน้าผาก คุณพีชโดย หมอปุ๋ย

ฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก ลดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้แค่ไหน ใช้โบท็อกซ์ยี่ห้ออะไร ราคาเท่าไหร่ ?

Categories
botox
โบท็อกซ์หน้าผาก คุณพีชโดย หมอปุ๋ย

ปัญหารอยย่นหน้าผาก จะเกิดขึ้นเมื่อเราเริ่มมีอายุมากขึ้น มีการแสดงสีหน้าบ่อย ๆ เช่น เลิกคิ้ว ขมวดคิ้ว บวกกับผิวบริเวณหน้าผากค่อนข้างบาง จึงทำให้หน้าผากย่นและมีริ้วรอยได้ง่าย ส่งผลให้ใบหน้าโดยรวมดูแก่ โทรม เหนื่อยล้า 

ลักษณะรอยย่นหน้าผาก
ลักษณะรอยย่นหน้าผาก

การฉีด Botox (Botulinum Toxin Type A) จะช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้าต่าง ๆ ได้ดีครับ เมื่อฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก การออกฤทธิ์จะทำให้ริ้วรอยต่าง ๆ จางลง ผิวกลับมาเต่งตึง เรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์มากขึ้น สำหรับใครที่กำลังมีปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า สนใจฉีดโบหน้าผาก หมอสรุปข้อมูลที่ควรรู้มาให้ในบทความนี้ครับ

สารบัญ โบท็อกหน้าผาก

  1. โบท็อกซ์หน้าผาก คืออะไร ?
  2. หน้าผากย่น เกิดจากอะไร ?
  3. โบท็อกซ์หน้าผาก ลดริ้วรอยได้อย่างไร ?
  4. ฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก อันตรายไหม ?
  5. ฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก ที่ไหนดี ?
  6. ฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก ใช้ยี่ห้อไหนดี กี่ยูนิต ?
  7. ฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก ราคาเท่าไหร่ ?
  8. ฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก กี่วันเห็นผล ?
  9. ฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก ให้ผลต่างจากฟิลเลอร์หน้าผากไหม ?
  10. การดูแลตัวเองก่อน-หลัง ฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก
  11. รีวิวโบท็อกซ์หน้าผาก

โบท็อกซ์หน้าผาก คืออะไร ?

การฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก คือ การฉีดตัวยา Botulinum Toxin Type A เข้าไปในกล้ามเนื้อบริเวณที่ต้องการลดริ้วรอย ตัวยาจะออกฤทธิ์กับระบบประสาท ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวชั่วคราว ส่งผลให้รอยย่น รอยพับ ริ้วรอยบนผิวคลี่ออก จึงช่วยให้ผิวกลับมาเต่งตึงและเรียบเนียนได้ครับ 

การฉีดโบท็อกหน้าผาก

ริ้วรอยหน้าผากไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในคนที่มีอายุเท่านั้น ช่วงวัยประมาณ 20-25 ปี ขึ้นไปก็เกิดรอยย่นหน้าผากได้ครับ หากมีการแสดงสีหน้าบ่อย ๆ ทำให้หน้าผากยับย่น เป็นรอย จะเห็นได้ชัดเมื่ออายุมากขึ้น


หน้าผากย่น เกิดจากอะไร ?

หน้าผากย่นเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ผลจากหลายปัจจัยผนวกกัน ได้แก่

  • อายุที่มากขึ้น 
  • พฤติกรรมการใช้ชีวิต
  •  มลภาวะที่ต้องเจอในชีวิตประจำวัน
ระดับความลึกของริ้วรอยหน้าผาก
ระดับความลึกของริ้วรอยหน้าผาก

คนเราเมื่ออายุมากขึ้น คอลลาเจน อีลาสติน รวมถึงชั้นไขมันต่าง ๆ มีการทรุดตัว โครงสร้างผิวก็จะเสื่อมสภาพ ผิวที่เคยเต่งตึง มีน้ำมีนวล เริ่มบางลงและแห้งกร้าน ทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย ซึ่งปัจจัยทางมลภาวะ เช่น แดด ฝุ่น มลพิษ ก็มีส่วนเร่งกระบวนการแก่ของผิวด้วยเช่นกันครับ

อีกปัจจัยสำคัญคือการใช้กล้ามเนื้อบนใบหน้า เวลาที่คนเราจะแสดงสีหน้าต่าง ๆ ระบบประสาทจะสั่งให้กล้ามเนื้อหดและคลายตัว (Muscle of facial expression) ผิวชั้นบนจะเกิดเป็นรอยพับ เมื่อทำบ่อย ๆ ก็ทำให้รอยเหล่านั้นลึกลงในผิว เกิดเป็นริ้วรอยประเภท  Dynamic Line (ริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า) ยิ่งมีอายุมาก ผิวแห้ง ก็ยิ่งเห็นริ้วรอยได้ชัดเจน  

Vsquare_tips_ICON

ผู้ชายมีผิวหนาและมีคอลลาเจนมากกว่าผู้หญิง แต่เมื่ออายุมากขึ้นจะมีอัตราการลดลงของคอลลาเจนที่มากกว่า ทำให้ผู้ชายจะมีปัญหาริ้วรอยช้า แต่ถ้ามีแล้วก็จะลึกขึ้นอย่างรวดเร็วและชัดเจนกว่า โดยเฉพาะรอยย่นหน้าผาก ผู้หญิงอาจจะเริ่มมีก่อน แต่ถ้าผู้ชายมีแล้วจะลึกและเห็นได้ชัด สาเหตุมาจากโครงสร้างผิวที่แตกต่างกันนั่นเองครับ


โบท็อกซ์หน้าผาก ลดริ้วรอยได้อย่างไร ?

ริ้วรอยและรอยย่นบนหน้าผากที่เกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อที่ใช้แสดงสีหน้าบ่อย ๆ วิธีแก้ไขที่เห็นผลคือต้องไม่ให้กล้ามเนื้อมัดนั้นทำงาน โดยใช้การฉีดโบท็อกหน้าผากช่วยครับ

กระบวนการออกฤทธิ์ของโบท็อกหน้าผาก

เมื่อฉีดโบท็อกเข้าไปบริเวณกล้ามเนื้อมัดที่ต้องการ ตัวยาจะแยกเป็น 2 ส่วน

  1. ส่วนที่ถูกดูดซึมเข้าไปเก็บไว้ในเซลล์ประสาท จะออกฤทธิ์รบกวนการทำงานของระบบประสาท มีผลทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานลดลงชั่วคราว เมื่อกล้ามเนื้อไม่หด เกร็ง เวลาแสดงสีหน้าก็จะไม่เห็นริ้วรอย ผิวเรียบเนียน เต่งตึง
  2. ส่วนที่ไม่ถูกดูดซึม จะปลิวไปตามกระแสเลือด ถูกขับออกไปโดยไม่ส่งผลต่อเซลล์อื่นในร่างกาย ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงหลังฉีด
กระบวนการออกฤทธิ์ของโบท็อกที่เข้าไปในเซลล์ประสาท
กระบวนการออกฤทธิ์ของโบท็อกที่เข้าไปในเซลล์ประสาท

ฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก อันตรายไหม ?

การฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก ไม่อันตรายครับ โบท็อกแท้ที่ผ่าน อย. เมื่อฉีดแล้วจะสลายหมด ไม่มีสารตกค้าง และต้องฉีดในคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ มีความแม่นยำและพิถีพิถันในการฉีด จึงจะได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ และปลอดภัย

วิธีดูโบท็อกซ์แท้ ยังไงก็ไม่พลาด บอกลาโบท็อกปลอม

ที่ต้องระวังคือคนไข้ที่ฉีดในคลินิกเถื่อน หมอกระเป๋า โบท็อกผสมมาแล้ว ไม่ได้มาผสมต่อหน้าให้ดู ไม่เห็นขวด ไม่เห็นกล่อง ไม่สามารถตรวจสอบได้ อาจเป็นโบท็อกปลอม โบท็อกหิ้ว หรือผสมน้ำเกลือเยอะ ๆ ทำให้ฉีดแล้วไม่เห็นผล หรือตัวยากระจายไปโดนกล้ามเนื้อมัดอื่น ทำให้ตาตก คิ้วตก หรือเปลือกตาปิดได้ ห้ามฉีดเด็ดขาดครับ

แพทย์ผสมยาให้ดูก่อนฉีดโบท็อกหน้าผาก
ก่อนฉีดโบท็อกหน้าผากแพทย์ต้องผสมยาให้ดูต่อหน้า

ดังนั้นก่อนฉีดโบท็อกหน้าผาก ต้องเลือกคลินิกให้ดี ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นคลินิกที่เปิดอย่างถูกต้อง ใช้โบท็อกแท้ ฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ 


ฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก ที่ไหนดี ?

  1. เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก  ตั้งอยู่ในทำเลที่ปลอดภัย กว้างขวาง ไม่อับทึบ เช่น ห้างสรรพสินค้า อาคารพาณิชย์
  2. ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ สามารถนำ ชื่อ-นามสกุล เข้าไปตรวจในเว็บไซต์ของแพทยสภา (http://www.tmc.or.th/check_md/) เพื่อดูว่าเป็นแพทย์จริง มีใบรับรอง มีเลข ว.
  3. ใช้โบท็อกแท้เท่านั้น คนไข้ควรศึกษาวิธีดูโบท็อกแท้เบื้องต้น ตรวจสอบเลข Lot. หรือชื่อคลินิกกับบริษัทนำเข้า ก่อนฉีดหมอต้องแกะกล่อง เปิดขวด ผสมยาให้ดูต่อหน้าทุกครั้ง
  4. ดูรีวิวฉีดโบท็อกหน้าผากจากเคสที่เคยใช้บริการจริง ในแหล่งที่เป็นกลาง น่าเชื่อถือ คลินิกไม่สามารถลบหรือแก้ไขเองได้ เช่น Facebook, Pantip

ฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก ใช้ยี่ห้อไหนดี กี่ยูนิต ?

ถ้าเป็นการฉีดโบท็อกหน้าผากเพียงจุดเดียว จะไม่ได้ใช้ปริมาณโบท็อกเยอะมากครับ เพราะเป็นการลดริ้วรอยเฉพาะจุด จะใช้ประมาณ 30 ยูนิตได้ แต่คนไข้ส่วนใหญ่ที่เข้ามามักจะฉีดริ้วรอยทั่วหน้า + ปรับรูปหน้าไปด้วยเลย ก็จะใช้ประมาณ 100 ยูนิตครับ 

โบท็อกยี่ห้อไหนดีที่สุด อเมริกา/เกาหลี/อังกฤษ/เยอรมัน ต่างกันอย่างไร ?

สำหรับการฉีดโบหน้าผาก หมอแนะนำเป็นโบท็อกเกาหลี Nabota และ Aestox ครับ  

ยี่ห้อโบท็อกหน้าผาก
  • Nabota ออกฤทธิ์ไว เห็นผลเร็ว เหมาะกับคนที่ต้องการผลเร่งด่วน เป็นโบท็อกเกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านงานวิจัยรับรองจาก อย. อเมริกา U.S.FDA
  • Aestox ตัวยาจะออกฤทธิ์คล้าย ๆ กับโบท็อก Nabota เห็นผลเร็ว ราคาประหยัดกว่าถ้าเทียบกับโบท็อกจากยุโรปหรืออเมริกา

นอกจากนี้ยังมีโบท็อกยี่ห้ออื่น ๆ เช่น โบท็อก Allergan (อเมริกา), โบท็อก Dysport (อังกฤษ), โบท็อก Xeomin (เยอรมัน) ที่ฉีดโบหน้าผากได้ครับ แต่จะมีราคาสูงกว่า มีคุณสมบัติเด่นต่างกัน หมอจะแนะนำให้เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของแต่ละเคส


ฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก ราคาเท่าไหร่ ?

โบท็อกซ์หน้าผากราคาขึ้นอยู่กับปริมาณโบท็อกและยี่ห้อที่เลือกใช้ครับ ปกติจะใช้ประมาณ 30 ยูนิต 

ฉีดโบท็อกซ์หน้าผากราคา

Botox หน้าผากราคา

โบท็อก Nabota / Aestox

  • หน้าผาก 30 U ราคา 3,500.-

ฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก กี่วันเห็นผล ?

ริ้วรอยหน้าผากจะเป็นริ้วรอยที่เกิดจากการขยับของกล้ามเนื้อ หลังฉีดโบหน้าผากจะเริ่มออกฤทธิ์และเห็นผลประมาณ 3-7 วัน เห็นผลเต็มที่ 14 วันครับ


ฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก ให้ผลต่างจากฟิลเลอร์หน้าผากไหม ?

การฉีด Botox หน้าผาก และ Filler หน้าผาก สามารถลดริ้วรอยหน้าผากได้เหมือนกันครับ เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น หมอขออธิบายเรื่องริ้วรอยก่อน โดยริ้วรอยบนใบหน้าจะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 

  1. Dynamic Line ริ้วรอยที่จะมองเห็นเวลาเราแสดงสีหน้า เกิดจากการขยับของกล้ามเนื้อเวลาทำหน้าแบบต่าง ๆ (ในคนที่มีพฤติกรรมทำให้เกิด Dynamic Line บ่อย ๆ ริ้วรอยจะลึกขึ้น จนพัฒนาไปเป็น Static Line ได้) ริ้วรอยประเภทนี้สามารถใช้โบท็อกรักษาได้โดยตรง
  2. Static Line ริ้วรอยที่มองเห็นได้แม้จะไม่ได้กำลังแสดงสีหน้า เกิดจากการเสื่อมของโครงสร้างผิวเมื่ออายุมากขึ้น ไม่สามารถใช้โบท็อกหน้าผากแก้ไขได้ทั้งหมด แต่ต้องแก้ไขที่ชั้นโครงสร้างผิว คุณสมบัติของฟิลเลอร์ที่เป็น Hyaluronic Acid จะช่วยแก้ไขริ้วรอยประเภทนี้ได้ตรงจุดมากกว่าครับ
Vsquare_tips_ICON

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก นอกจากช่วยลดริ้วรอย ยังช่วยเสริมหน้าผากให้โหนกนูน สวยงามขึ้น แก้ปัญหาหน้าผากแบน หน้าผากบุ๋ม รวมถึงช่วยปรับทรงหน้าผากให้ตรงตามหลักโหงวเฮ้งที่ดีได้ครับ


การดูแลตัวเองก่อน-หลัง ฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก

ก่อนฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก

  • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกหน้าผาก เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เลือกหมอ ดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง
  • งดยาและวิตามินบางชนิดก่อนฉีดโบท็อก เช่น แอสไพริน, NSAIDs, วิตามิน St. John’s Wort, ginkgo biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E
  • งดยาผลัดเซลล์ผิว การดึงหรือโกนขนบริเวณที่จะฉีดโบท็อก
  • หากกลัวเจ็บ สามารถแจ้งขอแปะยาชาก่อนฉีดโบท็อกได้ 
  • คนไข้ที่มีโรคประจำตัว หรือยาที่ต้องรับประทานประจำ ควรแจ้งแพทย์ก่อนฉีดโบท็อกทุกครั้ง
การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกหน้าผาก

วิธีปฏิบัติหลังฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก

  • หลังฉีดโบท็อกหน้าผาก ควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง
  • งดนอนราบหรือเอนศีรษะประมาณ 3 ชม. ป้องกันการไหลเวียนของยาที่อาจไปสู่กล้ามเนื้อบริเวณอื่นที่ไม่ต้องการ  
  • หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง อย่างน้อย 48 ชั่วโมง
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ อาหารรสจัด อาหารหมักดอง
  • หากมีคอร์สทำหน้า นวดหน้า ควรงด 2 สัปดาห์หลังทำ
  • ควรรับประทานอาหารที่มี zinc (แร่ธาตุสังกะสีจะช่วยเพิ่มฤทธิ์ของโบท็อก)
วิธีปฏิบัติหลังฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก

รีวิวโบท็อกซ์หน้าผาก

รีวิว ก่อน-หลัง ฉีดโบท็อกหน้าผาก ลดริ้วรอย ที่ V Square Clinic

รีวิวฉีดโบท็อกหน้าผาก และลดริ้วรอยทั่วหน้า 300 ยูนิต
รีวิวฉีดโบท็อกหน้าผาก และลดริ้วรอยทั่วหน้า 300 ยูนิต
รีวิวฉีดโบท็อกหน้าผาก ก่อน-หลัง 12 วัน

สรุป

Botox หน้าผาก เป็นหนึ่งในจุดที่เมื่อมีริ้วรอยแล้วจะทำให้ใบหน้าดูเหนื่อย โทรม และแก่กว่าวัย หากต้องการฉีดโบท็อก หมอจะแนะนำให้ฉีดโบท็อกตีนกา หรือรอยขมวดคิ้วไปควบคู่กันครับ จะให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติกว่าการที่เราฉีดลดริ้วรอยเพียงจุดใดจุดหนึ่ง และทำให้ใบหน้าโดยรวมดูเด็กลงอย่างชัดเจน


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา_หมอ29คน
ฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว

ฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว ลดเลือนริ้วรอยขมวดคิ้ว อยู่ได้นานไหม ใช้โบท็อกยี่ห้อไหนดี ?

Categories
botox
ฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว

ฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว

ริ้วรอยที่อยู่ระหว่างคิ้ว เกิดจากการขมวดคิ้ว หรือทำหน้าเคร่งเครียดบ่อย ๆ ทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็งและทิ้งริ้วรอยไว้ ยิ่งอายุมากขึ้นยิ่งเห็นชัด เป็นปัญหาริ้วรอยที่ทำให้หน้าดูแก่กว่าวัยไม่แพ้ตีนกาหรือรอยย่นบนหน้าผากครับ วิธีลดริ้วรอยที่เห็นผลเร็ว ชัดเจน และได้รับความนิยมคือ “การฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว”

การฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว

แม้การฉีดโบท็อกจะได้รับความนิยมและมีบริการฉีดให้ตามคลินิกความงามส่วนใหญ่ แต่ก็ใช่ว่าจะฉีดกับใครที่ไหนก็ได้ คนไข้ควรให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรกครับ หากไปฉีดกับหมอกระเป๋า คลินิกเถื่อน อาจทำให้มีปัญหาหนักตาตก ตาปิด หรืออันตรายอื่น  ๆ ตามมาได้

ในบทความนี้หมอจะแชร์รายละเอียดเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว ดีอย่างไร ? ใช้โบท็อกยี่ห้อไหน ? ฉีดกี่ Unit และมีวิธีการเลือกคลินิกอย่างไร ?

สารบัญ ฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว

  1. ฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว คืออะไร ?
  2. รอยย่นระหว่างคิ้ว เกิดจากอะไร ?
  3. ฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว ลดรอยย่นได้อย่างไร ?
  4. สิ่งที่ต้องระวังในการฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว
  5. การฉีดโบท็อกซ์บริเวณคิ้ว แก้ปัญหาใดได้อีกบ้าง ?
  6. ฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้วยี่ห้อไหนดี ราคาเท่าไร ใช้กี่ยูนิต ?
  7. ฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว กี่วันเห็นผล ?
  8. ฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว อยู่ได้นานไหม ?
  9. ฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว ที่ไหนดี ?
  10. วิธีปฏิบัติตัวก่อนและหลังฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว
  11. ฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว มีผลข้างเคียงไหม ?
  12. รีวิว ฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว

ฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว คืออะไร ?

ฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว คือ การฉีด Botulinum Toxin Type A บริเวณกล้ามเนื้อขมวดคิ้วเพื่อช่วยลดริ้วรอย หลังฉีดผิวบริเวณระหว่างคิ้วจะเรียบเนียน 

ฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว คืออะไร โดยหมอโต้ง

นอกจากนี้การฉีดโบท็อกอย่างต่อเนื่องยังช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้ด้วยครับ โดยการฉีดโบท็อกระหว่างคิ้ว จะนิยมทำร่วมกับการฉีดลดริ้วรอยอื่น ๆ ส่วนบนของใบหน้า เช่น ริ้วรอยหางตา ตีนกา หน้าผาก 


รอยย่นระหว่างคิ้ว เกิดจากอะไร ?

  • อายุมากขึ้น โครงสร้างผิวหนังมีการเสื่อมสลาย ทั้งไขมัน คอลลาเจน ความชุ่มชื้น จึงเกิดริ้วรอยได้ง่าย
  • การแสดงสีหน้า เช่น ขมวดคิ้ว เครียด โกรธ สงสัย
  • มลภาวะ/สิ่งแวดล้อม แสงแดด รังสี UV การอยู่ในห้องแอร์ หรือการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
  • การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
  • มีความเครียด หรือความวิตกกังวล

ฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว ลดรอยย่นได้อย่างไร ?

กลไกของร่างกายเวลาคนเราจะแสดงสีหน้าต่าง ๆ คือระบบประสาทจะสั่งให้กล้ามเนื้อหดและคลายตัว (Muscle of facial expression) ผิวชั้นบนก็จะย่นและเป็นรอยพับ เมื่อกล้ามเนื้อมีการหดเกร็งบ่อย ๆ ก็ทิ้งรอยไว้บนผิว 

ลักษณะการเกิดริ้วรอยระหว่างคิ้ว
ลักษณะการเกิดริ้วรอยระหว่างคิ้ว

ซึ่งริ้วรอยระหว่างคิ้ว จัดอยู่ในประเภท  Dynamic Line (ริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า) วิธีแก้ไขคือต้องลดการทำงานของกล้ามเนื้อมัดนั้น ๆ ลง เพื่อไม่ให้ผิวเกิดการพับครับ

กระบวนการออกฤทธิ์ของโบท็อก
กระบวนการออกฤทธิ์ของโบท็อกเมื่อถูกดูดซึมเข้าไปในเซลล์ประสาท

การทำงานของ Botox คือเมื่อฉีดตัวยาเข้าไปในกล้ามเนื้อมัดที่ต้องการ ตัวยาจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ทำให้กล้ามเนื้อมัดนั้นคลายตัวหรือเป็นอัมพาตชั่วคราว (3-4 เดือน) ทำให้ผิวชั้นบนคลี่ออก ริ้วรอยจึงหายไปได้ และเมื่อกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่หดเกร็งเวลาเราขมวดคิ้วไม่ทำงาน ก็จะเกิดริ้วรอยใหม่ ๆ ได้อยาก ช่วยถนอมผิวบริเวณระหว่างคิ้วไม่ให้เกิดริ้วรอยถาวร หรือ Static Line (ริ้วรอยที่เห็นได้แม้ไม่ได้แสดงสีหน้า)


สิ่งที่ต้องระวังในการฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว

  • ระวังคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน การทำหัตถการทุกอย่างต้องอยู่ในห้องที่สะอาด ปลอดเชื้อ ใช้อุปกรณ์ที่ถูกทำให้ปลอดเชื้อแล้วเท่านั้น
  • ระวังหมอเถื่อน หมอกระเป๋า ที่ไม่ใช่หมอจริง หลอกฉีดโบท็อกนอกสถานที่หรือตามคอนโด การทำหัตถการต้องทำโดยแพทย์มีความรู้ มีประสบการณ์เท่านั้น
  • ระวังโบท็อกปลอม โบท็อกหิ้ว ตรวจสอบไม่ได้ ฉีดแล้วไม่เห็นผล อาจเกิดอันตราย ทำให้ตาตก ตาปิด ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นโบท็อกแท้ก่อนฉีด
  • ระวังแพทย์ไม่มีประสบการณ์ แม้จะใช้ยาแท้แต่ก็เกิดข้อผิดพลาดได้หากแพทย์ไม่มีประสบการณ์ในการฉีดโบท็อก ประเมินจุดฉีดและการใช้ตัวยาไม่เหมาะสม

การฉีดโบท็อกซ์บริเวณคิ้ว แก้ปัญหาใดได้อีกบ้าง ?

นอกจากการฉีดโบท็อกจะช่วยลดริ้วรอยระหว่างคิ้ว ด้วยการทำงานของโบท็อก ยังสามารถช่วยยกคิ้วขึ้น ปรับทรงคิ้ว หรือแก้ปัญหาหนังตาตกได้ด้วยครับ แต่ต้องทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง เนื่องจากเป็นกล้ามเนื้อมัดเล็ก ต้องใช้ความละเอียดและพิถีพิถันมาก 

กล้ามเนื้อบนใบหน้าที่ทำให้เกิดริ้วรอย
กล้ามเนื้อมัดเล็กที่ใช้แสดงสีหน้า ส่งผลให้เกิดริ้วรอยต่าง ๆ สามารถฉีดโบท็อกแก้ไขได้

ฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้วยี่ห้อไหนดี ราคาเท่าไร ใช้กี่ยูนิต ?

สำหรับการฉีดโบท็อกระหว่างคิ้ว เป็นการลดริ้วรอยเฉพาะจุด สามารถแบ่งฉีดเป็นจุดเล็ก ๆ 25-30 ยูนิตได้ หมอแนะนำเป็นโบท็อกเกาหลี Nabota และ Aestox ครับ  

ยี่ห้อโบท็อกระหว่างคิ้ว
  • Nabota ออกฤทธิ์ไว เห็นผลเร็ว เหมาะกับคนที่ต้องการผลเร่งด่วน เป็นโบท็อกเกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านงานวิจัยรับรองจาก อย. อเมริกา U.S.FDA
  • Aestox ตัวยาจะออกฤทธิ์คล้าย ๆ กับโบท็อก Nabota เห็นผลเร็ว ราคาประหยัด

โบท็อกยี่ห้ออื่น ๆ เช่น โบท็อก Allergan (อเมริกา), โบท็อก Dysport (อังกฤษ), โบท็อก Xeomin (เยอรมัน) สามารถฉีดลดริ้วรอยขมวดคิ้วได้เหมือนกันครับ แต่ก็มีราคาสูงกว่า มีคุณสมบัติเด่นต่างกัน โบท็อก 1 ขวด ส่วนใหญ่จะมี 100 ยูนิต สามารถฉีดลดริ้วรอยได้ทั่วหน้า หมอจะแนะนำให้เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของแต่ละเคส

โบท็อกยี่ห้อไหนดีที่สุด อเมริกา/เกาหลี/อังกฤษ/เยอรมัน ต่างกันอย่างไร ?

โบท็อกระหว่างคิ้ว ราคาขึ้นอยู่กับปริมาณโบท็อกที่ใช้ครับ ถ้าฉีดเฉพาะลดริ้วรอยระหว่างคิ้ว ปกติจะใช้ประมาณ 25 ยูนิต 

ฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้วราคา

ราคาฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว

โบท็อก Nabota / Aestox

  • ระหว่างคิ้ว 25 U ราคา 3,000.-

ฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว กี่วันเห็นผล ?

ริ้วรอยระหว่างคิ้วจะเป็นริ้วรอยในส่วนของกล้ามเนื้อที่ขยับ หลังฉีดโบท็อกเริ่มออกฤทธิ์และเห็นผลประมาณ 3-7 วัน เห็นผลเต็มที่ 14 วันครับ


ฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว อยู่ได้นานไหม ?

หลังฉีดโบท็อกระหว่างคิ้ว โบท็อกจะอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกที่ใช้ เทคนิคการฉีดของแพทย์ และการดูแลตัวเองของคนไข้ร่วมด้วยครับ


ฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว ที่ไหนดี ?

  1. เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ตั้งอยู่ในทำเลที่ปลอดภัย กว้างขวาง เช่น ห้างสรรพสินค้า อาคารพาณิชย์
  2. ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ สามารถนำ ชื่อ-นามสกุล เข้าไปตรวจในเว็บไซต์ของแพทยสภา (http://www.tmc.or.th/check_md/) เพื่อดูว่าเป็นแพทย์จริง มีใบรับรอง มีเลข ว.
  3. เลือกใช้โบท็อกแท้เท่านั้น คนไข้ควรศึกษาวิธีดูโบท็อกแท้เบื้องต้น ตรวจสอบเลข Lot. หรือชื่อคลินิกกับบริษัทนำเข้า ก่อนฉีดหมอต้องแกะกล่อง เปิดขวด ผสมยาให้ดูต่อหน้า
  4. ดูรีวิวฉีดโบท็อกลดริ้วรอยจากเคสที่เคยใช้บริการจริง ในแหล่งที่เป็นกลาง น่าเชื่อถือ คลินิกไม่สามารถลบหรือแก้ไขได้ เช่น Facebook, Pantip

วิธีปฏิบัติตัวก่อนและหลังฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว

ก่อนฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว

  • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกระหว่างคิ้ว การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน การเลือกหมอ ดูรีวิว
  • งดยาและวิตามินบางชนิดก่อนฉีด เช่น แอสไพริน, NSAIDs, วิตามิน St. John’s Wort, ginkgo biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E
  • งดยาผลัดเซลล์ผิว การดึงหรือโกนขนบริเวณที่จะฉีดโบท็อก
  • หากกลัวเจ็บ สามารถแจ้งขอแปะยาชาก่อนฉีดโบท็อกได้ 
  • หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำควรแจ้งแพทย์ก่อนฉีดโบท็อกทุกครั้ง
การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกระหว่างคิ้ว

วิธีปฏิบัติหลังฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว

  • หลังฉีดโบท็อกระหว่างคิ้ว ควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง
  • งดนอนราบหรือเอนศีรษะประมาณ 3 ชม. ป้องกันการไหลเวียนของยาที่อาจไปสู่กล้ามเนื้อบริเวณอื่นที่ไม่ต้องการ  
  • หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง อย่างน้อย 48 ชั่วโมง
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ อาหารรสจัด อาหารหมักดอง
  • หากมีคอร์สทำหน้า นวดหน้า ควรงด 2 สัปดาห์หลังทำ
  • ควรรับประทานอาหารที่มี zinc (แร่ธาตุสังกะสีจะช่วยเพิ่มฤทธิ์ของโบท็อก)
วิธีปฏิบัติหลังฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว

ฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว มีผลข้างเคียงไหม ?

ผลข้างเคียงปกติที่เกิดขึ้นได้ คือรอยเข็มหลังฉีดโบท็อกและอาการเมื่อย ๆ บริเวณกล้ามเนื้อที่ฉีดโบท็อกในช่วงแรก ส่วนผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่เกิดจากการฉีดผิดพลาด คลินิกเถื่อน หมอกระเป๋า ยาปลอม ที่พบบ่อย ๆ คือ ฉีดโบแล้วหนังตาตก ตาปิด ตาไม่เท่ากัน ตาแข็งดูไม่เป็นธรรมชาติ หรือมีการอักเสบ แพ้ ตามมา ต้องรีบพบแพทย์เพื่อรักษาต่อไปครับ


รีวิว ฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว

รีวิว ฉีดโบท็อกระหว่างคิ้ว ลดริ้วรอย ที่ V Square Clinic

รีวิว ฉีดโบท็อกระหว่างคิ้ว
รีวิวฉีดโบท็อกลดริ้วรอยทั่วหน้า 100 U

สรุป

สำหรับคนที่มีปัญหาริ้วรอยระหว่างคิ้ว รอยขมวดคิ้ว การฉีดโบท็อกระหว่างคิ้วเป็นหัตถการแรกที่หมอจะแนะนำให้ทำครับ มีความปลอดภัย เห็นผลการเปลี่ยนแปลงชัดเจน และราคาไม่แพง ทั้งนี้ต้องฉีดในคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ และใช้ยาแท้เท่านั้น


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา_หมอ29คน
ฉีดโบท็อกซ์

รวมข้อควรรู้ก่อนฉีดโบท็อกซ์ ปรับหน้าเรียว ลดริ้วรอย เลือกฉีดอย่างไร ให้เห็นผล ?

Categories
botox
ฉีดโบท็อกซ์

ข้อควรรู้ก่อนฉีดโบท็อกซ์

แม้ว่าการฉีดโบท็อกซ์ “Botulinum Toxin A” จะไม่ได้เป็นหัตถการที่แปลกใหม่ แต่ปัจจุบันยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องครับ เพราะเป็นวิธีที่ช่วยลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าที่เห็นผลลัพธ์ชัดเจนและรวดเร็วกว่าวิธีอื่น ๆ มีราคาที่ไม่แพง ในคนที่มีปัญหาริ้วรอย การฉีด botox จึงเป็นหัตถการแรก ๆ ที่หมอส่วนใหญ่แนะนำ 

รวมยี่ห้อโบท็อก

สารบัญ ฉีดโบท็อกซ์

  1. ฉีดโบท็อกซ์ คืออะไร ?
  2. การฉีดโบท็อกซ์เหมาะกับใคร ?
  3. รวมตำแหน่งฉีดโบท็อกซ์
  4. โบท็อกซ์ ช่วยอะไรบ้าง ?
  5. ข้อดี-ข้อเสีย ของการฉีดโบท็อกซ์
  6. ฉีดโบท็อกซ์อันตรายไหม ?
  7. ฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี ?
  8. ฉีดโบท็อกซ์ ใช้กี่ยูนิต ?
  9. โปรโบท็อกซ์ ราคาเท่าไร ?
  10. ฉีดโบท็อกซ์ อยู่ได้นานไหม ?
  11. วิธีดูโบท็อกซ์แท้
  12. ฉีดโบท็อกซ์ เจ็บไหม ?
  13. ฉีดโบท็อกซ์ กี่วันเห็นผล ?
  14. ก่อนฉีดโบท็อกซ์ เตรียมตัวอย่างไร ?
  15. ขั้นตอนการฉีดโบท็อกซ์เป็นอย่างไร ?
  16. คำแนะนำหลังฉีดโบท็อกซ์
  17. ผลข้างเคียงหลังฉีดโบท็อกซ์
  18. ฉีดโบท็อกซ์ ที่ไหนดี ?
  19. ฉีดโบท็อกซ์ ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?
  20. รีวิว ฉีดโบท็อกซ์

ฉีดโบท็อกซ์ คืออะไร ?

ฉีดโบท็อกซ์ คืออะไร โดย หมอชิน

การฉีดโบท็อกซ์ คือการนำโปรตีนที่ชื่อว่า โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin Type A) มาฉีดบนใบหน้า และส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ซึ่งโปรตีนชนิดนี้มีคุณสมบัติในการช่วยหยุดการทำงานของสารสื่อประสาท ทำให้กล้ามเนื้อหยุดทำงานชั่วคราว เมื่อกล้ามเนื้อคลายตัวลง ผิวหนังบริเวณที่ฉีดจะตึงขึ้น ไม่เกิดเป็นรอยพับ จึงช่วยลดริ้วรอยบริเวณหางตา ลดริ้วรอยตีนกาได้ หากนำมาฉีดลดกราม กล้ามเนื้อกรามจะอ่อนแรงและมีขนาดเล็กลง หน้าจึงเรียวขึ้นครับ

โบท็อกจะเป็นโปรตีนน้ำใส ๆ เมื่อฉีดเข้าสู่บริเวณกล้ามเนื้อจะแยกเป็น 2 ส่วน

กระบวนการออกฤทธิ์ของโบท็อก
กระบวนการออกฤทธิ์ของโบท็อกภายในเซลล์หลังจากฉีดโบท็อกเข้าไปในส่วนที่เป็นกล้ามเนื้อ
  • ส่วนที่ถูกดูดซึมเข้าไปเก็บไว้ในเซลล์ประสาท เป็นส่วนที่โบท็อกจะออกฤทธิ์ ถ้าส่วนนี้มีความเข้มข้นสูงก็จะทำให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้นครับ การทำงานของโบท็อกจะไปรบกวนการทำงานของระบบประสาท มีผลทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานลดลงชั่วคราว ผิวหนังก็จะตึงขึ้น ไม่เกิดรอยพับ
  • ส่วนที่ถูกดูดซึม ส่วนนี้จะปลิวไปตามกระแสเลือดในระยะเวลาไม่เกิน 1 ชม. หลังฉีด และถูกขับออกไปโดยไม่ส่งผลต่อเซลล์อื่นในร่างกายครับ

การฉีดโบท็อกซ์เหมาะกับใคร ?

  • คนที่มีริ้วรอยบนใบหน้าจากอายุที่มากขึ้น หรือริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า เช่น ริ้วรอยตีนกา หางตา รอยย่นหน้าผาก รอยย่นสันจมูก ต้องการลดริ้วรอยก่อนวัย
  • คนที่มีกล้ามเนื้อกรามใหญ่ ต้องการลดกล้ามเนื้อกรามให้เล็กลง ปรับหน้าเรียววีเชฟ 
  • คนที่ต้องการเพิ่มกรอบหน้าชัด ใบหน้าไม่ได้สัดส่วน  
  • คนที่มีกลิ่นตัว เหงื่อออกเยอะ มีปัญหารักแร้เปียก มีกลิ่นเท้า
  • คนที่มีกล้ามเนื้อน่องใหญ่ เห็นน่องชัด ต้องการปรับขาให้เรียวสวย
  • คนที่มีรูขุมขนกว้าง ใบหน้ามัน 

รวมตำแหน่งฉีดโบท็อกซ์

รวมตำแหน่งฉีดโบท็อกซ์ โดย คุณนิโคล

โบท็อกสามารถนำมาฉีดในกล้ามเนื้อได้หลายจุด แต่บริเวณที่คนนิยมฉีด botox คือใบหน้า หมอรวบรวมจุดต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมไว้ดังนี้ครับ


โบท็อกซ์ ช่วยอะไรบ้าง ?

โบท็อกซ์ ช่วยอะไรบ้าง
  • ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อ : ลดกรามปรับหน้าเรียววีเชฟ, ลดน่อง ช่วยให้ขาเรียวสวย, ลดต้นแขน กระชับต้นแขน, ลดปีกจมูก แก้ปัญหาจมูกบาน จมูกใหญ่ เพิ่มสันจมูกให้ดูคมชัด
  • ลิฟกรอบหน้า :  ยกกระชับหน้าเรียว เพิ่มกรอบหน้าชัด แก้ปัญหาหน้าบาน 
  • คลายกล้ามเนื้อ : ลดริ้วรอยบนใบหน้าที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ เช่น ริ้วรอยหน้าผาก หว่างคิ้ว ริ้วรอยตีนกา หางตา ริ้วรอยร่องแก้มเล็ก ๆ ลดรอยย่นบริเวณคอ
  • ลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว : ฉีดโบท็อกรักรักแร้ ลดกลิ่นตัว ลดเหงื่อ แก้ปัญหารักแร้เปียก ลดเหงื่อฝ่ามือ ฝ่าเท้า
  • ฟื้นฟูผิว : เป็นการฉีดโบท็อกลดรูขุมขน โดยหมอจะฉีดโบท็อกไปที่กล้ามเนื้อและต่อมไขมัน เมื่อฉีดโบท็อกเข้าไปรูขุมขนจะหดเล็กลง ต่อมไขมันลดขนาด ส่งผลให้ผิวเรียบเนียนขึ้น ดูกระจ่างใส ลดความมันบนใบหน้า
  • ลดอาการปวดตึงกล้ามเนื้อ : ลดอาการปวดไมเกรน ปวดเมื่อยร่างกาย ตึงคอ บ่า ไหล่ บรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรม

ข้อดี-ข้อเสีย ของการฉีดโบท็อกซ์

ข้อดีของการฉีดโบท็อกซ์

  • เป็นวิธีลดริ้วรอยที่ตรงจุด เห็นผลไวเมื่อเทียบกับการทาครีมลดริ้วรอย
  • โบท็อก สร้างมาจากแบคทีเรียชื่อ Clostridium ที่มีหลายงานวิจัยรองรับว่ามีความปลอดภัยสูง เข้ากันได้ดีกับร่างกาย ฉีดแล้วไม่ทิ้งสารตกค้าง 
  • ฉีดได้หลายตำแหน่ง ทั้งบริเวณใบหน้าและร่างกาย
  • ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคต ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย
  • ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
  • ช่วยลดริ้วรอย ปรับหน้าเรียววีเชฟได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล 
  • มีการเตรียมตัว และการดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกที่ไม่ยุ่งยาก 
  • ใช้เวลาในการฉีดไม่นาน ประมาณ 5-10 นาทีต่อจุด เมื่อฉีดเสร็จแล้ว คนไข้สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยไม่จำเป็นต้องพักฟื้น
  • ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้

ข้อเสียของการฉีดโบท็อกซ์

  • ให้ผลลัพธ์ที่ไม่ถาวร อยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือน เนื่องจากโบท็อกเป็นสารสกัดจากโปรตีนที่จะสลายไปตามธรรมชาติ
  • หากฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญ ใช้จำนวนยูนิตเยอะเกินไป หลังฉีดอาจทำให้หน้าแข็ง แสดงสีหน้าไม่ค่อยได้ บางรายอาจปากเบี้ยว คิ้วตก

ฉีดโบท็อกซ์อันตรายไหม ?

จริง ๆ แล้วการฉีดโบท็อก ไม่อันตรายครับ โบท็อกถูกผลิตขึ้นมาจากแบคทีเรียชื่อ Clostridium ซึ่งได้รับการยืนยัน และมีงานวิจัยรองรับว่าไม่ก่อให้เกิดอันตราย หรือมีการตกค้างในร่างกาย สามารถสลายเองได้ 100% ไม่มีสารตกค้าง มีความปลอดภัยสูง

เดิมทีในทางการแพทย์โบท็อกถูกนำมาใช้รักษาโรคกล้ามเนื้อเกร็งผิดปกติ เช่น ตาเข ตากระตุก รวมไปถึงโบท็อกไมเกรน โบท็อกออฟฟิศซินโดรม เป็นต้น ต่อมาโบท็อกได้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และได้พัฒนามาใช้ในวงการแพทย์ผิวหนัง เพื่อเสริมความงามครับ

ฉีดโบท็อกซ์อันตรายไหม
โบท็อกปลอม ยาหิ้วที่ไม่ได้มาตรฐาน ฉีดแล้วเสี่ยงติดเชื้อ หน้าเบี้ยว

การฉีดโบท็อกที่อันตราย คือ การซื้อโบท็อกจากอินเทอร์เน็ตมาฉีดเอง ซึ่งถือว่าอันตรายมาก ๆ หมอไม่แนะนำครับ เพราะเป็นตัวยาที่ไม่ได้มาตรฐาน มีสิ่งปนเปื้อน เมื่อนำมาใช้ฉีดเองโดยไม่มีความรู้ ย่อมเกิดผลข้างเคียงที่อันตราย รวมถึงฉีดโบท็อกกับหมอกระเป๋า หมอเถื่อนที่ไม่รู้เทคนิค ประเมินปริมาณยาไม่เหมาะสม ฉีดผิดพลาด มีขั้นตอนการฉีดที่ไม่สะอาด เสี่ยงติดเชื้อ อักเสบ ส่งผลเสียระยะยาวตามมาได้ครับ

https://youtu.be/mFYf_UaILSw
โบปลอม โบหิ้ว เสี่ยงอย่างไร ? ดูจบแล้วไม่โดนหลอก ฉีดหน้าครั้งแรกต้องเลือกให้ถูก!

ฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี ?

ฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี ? โบท็อกที่ได้รับความนิยมในไทยมีหลายยี่ห้อครับ  เช่น โบท็อก Allergen อเมริกา, โบท็อก Aestox/Nabota เกาหลี, โบท็อก Dysport อังกฤษ และโบท็อก Xeomin เยอรมัน ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะมีจุดเด่นและคุณสมบัติที่ต่างกัน ดังนี้ครับ

โบท็อกยี่ห้อไหนดีที่สุด อเมริกา/เกาหลี/อังกฤษ/เยอรมัน ต่างกันอย่างไร ?

โบท็อกยี่ห้อ Allergan  (อเมริกา)

โบท็อกยี่ห้อ Allergan  (อเมริกา)

โบท็อกยี่ห้อ Allergan  (อเมริกา) ดีอย่างไร ?

  • ตัวยามีความบริสุทธิ์มากถึง 99.5% จึงช่วยลดโอกาสในการดื้อโบท็อก
  • ให้ผลการรักษาที่แม่นยำที่สุด เนื่องจากยากระจายตัวแคบ ทำให้หมอสามารถคาดคะเนการออกฤทธิ์ของโบท็อกได้
  • เหมาะสำหรับฉีดลดริ้วรอยเฉพาะจุด เช่น ตีนกา ระหว่างคิ้ว ขมวดคิ้ว ฉีดโบท็อกปรับรูปหน้า ลดกราม ลิฟกรอบหน้าด้วยเทคนิค Nefertiti lift 
  • มีอายุการใช้งานนานกว่ายี่ห้อโบท็อกอื่น ๆ ประมาณ 20%

อ่านบทความเพิ่มเติม : โบท็อก Allergan

โบท็อกยี่ห้อ Dysport (อังกฤษ)

โบท็อกยี่ห้อ Dysport (อังกฤษ)

โบท็อกยี่ห้อ Dysport (อังกฤษ) ดีอย่างไร ?

  • ยากระจายตัวกว้าง จึงเหมาะกับการฉีดในกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น  ริ้วรอยหน้าผาก ฉีดลดขนาดกล้ามเนื้อต้นแขน ลดน่อง และเหมาะกับคนที่ต้องการ ลดกลิ่นเหงื่อ รักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า เพราะจะกระจายตัวครอบคลุมต่อมเหงื่อได้ดี เหงื่อแห้งสนิทมากกว่ายี่ห้ออื่น
  • โมเลกุลมีขนาดเล็กลงจึงทำให้โบท็อกเข้าเซลล์ประสาทได้ดีขึ้น โอกาสดื้อโบท็อกน้อยลง และออกฤทธิ์ไวขึ้น
  • เหมาะสำหรับฉีดยกกระชับด้วยเทคนิค dermolift และช่วยลดริ้วรอยทั่วใบหน้า
  • หลังฉีดจะรู้สึกตึงประมาณ 50% ไม่ตึงแข็งเกินไป เบาสบายผิว ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ 

โบท็อกยี่ห้อ Xeomin (เยอรมัน)

โบท็อกยี่ห้อ Xeomin (เยอรมัน)

โบท็อกยี่ห้อ Xeomin (เยอรมัน) ดีอย่างไร ?

  • มีความบริสุทธิ์สูง ไม่กระจุกตัวแคบเกินไป ฉีดแล้วไม่ตึง 
  • มีงานวิจัยแสดงว่า Xeomin ได้ผลดีในเคสที่ดื้อยา (โดยที่เคสนั้นๆต้องหยุดการฉีดโบท็อกมาแล้วอย่างน้อย 2-3 ปี) 
  • เหมาะสำหรับฉีดลดริ้วรอย และการลิฟกรอบหน้า Dermolift 

โบท็อกยี่ห้อ Nabota/ Aestox (เกาหลี)

โบท็อกยี่ห้อ Nabota Aestox (เกาหลี)

โบท็อกยี่ห้อ Nabota (เกาหลี) ดีอย่างไร ? 

  • เน้นการพัฒนาให้ออกฤทธิ์ไว เห็นผลเร็ว จากการใช้งานพบว่ามีการออกฤทธิ์ไวกว่าโบท็อกเกาหลียี่ห้ออื่นเล็กน้อย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเห็นผลเร่งด่วน
  • เป็นโบท็อกเกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านงานวิจัยรับรองจาก อย. อเมริกา U.S.FDA approved (2018)
  • เหมาะสำหรับฉีดลดริ้วรอย หน้าผาก หางตา ระหว่างคิ้ว และสามารถนำมาใช้เพื่อปรับรูปหน้า ลดกราม ยกคิ้ว กระชับหน้า

อ่านบทความเพิ่มเติม : Nabota botox

โบท็อกยี่ห้อ Aestox (เกาหลี) ดีอย่างไร ?

  •  ตัวยามีความบริสุทธิ์ ทำให้โอกาสดื้อโบท็อกลดน้อยลง
  • ออกฤทธิ์เร็ว และเห็นผลไว
  • มีความอ่อนโยน ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ หน้าไม่แข็ง
  • เหมาะสำหรับฉีดลดริ้วรอยหางตา รอยย่นหน้าผาก ระหว่างคิ้ว ฉีดปรับรูปหน้า ลดเหงื่อ

การเลือกฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดีที่ให้ได้ผลลัพธ์ชัดเจน คุ้มค่า เหมาะสำหรับจุดที่ฉีด ควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ ช่วยประเมิน และวางแผนการแก้ไขปัญหาครับ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นธรรมชาติ 


ฉีดโบท็อกซ์ ใช้กี่ยูนิต ?

ฉีดโบท็อกซ์ ใช้กี่ยูนิต
  • ลดกรามปรับหน้าเรียว 50-100 ยูนิต 
  • ลิฟท์กรอบหน้าส่วนล่าง ประมาณ 30-50 ยูนิต
  • ลดริ้วรอยหน้าผาก ประมาณ 30 ยูนิต 
  • ริ้วรอยขมวดคิ้ว ระหว่างคิ้ว ประมาณ 25 ยูนิต 
  • ริ้วรอยหางตา ตีนกา 2 ข้าง ประมาณ 25 ยูนิต
  • ลดกล้ามเนื้อต้นแขน ลดกล้ามเนื้อน่องทั้ง 2 ข้าง ครั้งละประมาณ 100-200 ยูนิต (ไม่ควรฉีดเกิน 300 ยูนิตภายใน 3 เดือน)
  • ลดเหงื่อรักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ทั้ง 2 ข้าง ครั้งละประมาณ 100-200 ยูนิต
  • ฉีดลดขนาดปีกจมูก ประมาณ 25 ยูนิต 
  • ลดโหนกแก้ม ประมาณ 25 ยูนิต 

โปรโบท็อกซ์ ราคาเท่าไร ?

โปรโบท็อกลดกราม + หน้าเรียว

โปรโบท็อกซ์ ลดกราม  หน้าเรียว
  • โบท็อกเกาหลี Aestox 100 unit โบท็อก ราคา 6,999.-
  • โบท็อกเกาหลี Nabota 100 unit โบท็อก ราคา 6,999.-
  • โบท็อกอเมริกา Allergan100 unit โบท็อก ราคา 15,999.-
  • โบท็อกอังกฤษ Dysport 300 unit โบท็อก ราคา 15,999.-
  • โบท็อกเยอรมัน Xeomin 100 unit โบท็อก ราคา 15,999.-

โปรโบท็อกลดริ้วรอย + หน้าเรียว (ทั่วหน้า)

โบท็อกราคาทั่วหน้า

 โบท็อกเกาหลี : ยี่ห้อ Aestox  

  • โบท็อก 100 unit ราคา 9,000.-
  • โบท็อก 150 unit ราคา 12,000.-

 โบท็อกเกาหลี : ยี่ห้อ Nabota 

  • โบท็อก 100 unit ราคา 9,000.-
  • โบท็อก 150 unit ราคา 12,000.-

โบท็อกอเมริกา: ยี่ห้อ Allergan

  • โบท็อก 50 unit  ราคา 10,000.-
  • โบท็อก 100 unit ราคา 18,000.-

โบท็อกเยอรมัน : ยี่ห้อ Xeomin

  • โบท็อก 100 unit ราคา 18,000.-

โบท็อกอังกฤษ: ยี่ห้อ Dysport

  • โบท็อก 300 unit ราคา 18,000.-

โปรโบท็อกเฉพาะจุด 

โปรโมชั่นโบท็อกเฉพาะจุด

โบท็อกเกาหลี Nabota/Aestox

  • ระหว่างคิ้ว 25 unit   3,000.-
  • ลดโหนกแก้ม    25 unit   3,000.-
  • หางตา/ใต้ตา     25 unit   3,000.-
  • ปีกจมูก 25 unit   3,000.-
  • หน้าผาก           30 unit   3,500.-

โปรโบท็อกเฉพาะจุดลดเหงื่อ / รักแร้

ราคาโบท็อกรักแร้

โบท็อกเกาหลี Nabota / Aestox

  • โบท็อก 100 unit ราคา 9,000.- 
  • โบท็อก 150 unit ราคา 12,000.- 
  • โบท็อก 200 unit ราคา 16,000.-
  • โบท็อกอังกฤษ Dysport
  • โบท็อก 300 unit ราคา 18,000.-
  • โบท็อก 600 unit ราคา 28,000.- 
  • โบท็อกเกาหลี Xeomin
  • โบท็อก 200 unit ราคา 28,000.-

โปรโบท็อกเฉพาะจุด ต้นแขน / น่อง

โบท็อกเกาหลี Nabota / Aestox

  • โบท็อก 150 unit ราคา 12,000.-
  • โบท็อก 200 unit ราคา 16,000.-

โบท็อกอังกฤษ Allergan

  • โบท็อก 200 unit ราคา 32,000.-

โบท็อกอเมริกา Dysport

  • โบท็อก 600 unit ราคา 28,000.-

โบท็อกเยอรมัน Xeomin

  • โบท็อก 200 unit ราคา 28,000.-

ฉีดโบท็อกซ์ อยู่ได้นานไหม ?

โบท็อกอยู่ได้นานเท่าไหร่ โดย คุณนิโคล
  • โบท็อกลดริ้วรอย ตีนกา ริ้วรอยหน้าผาก ริ้วรอยระหว่างคิ้ว หางคิ้ว หลังฉีดอยู่ได้นานประมาณ 3-4 เดือน
  • โบท็อกลดกราม ปรับรูปหน้าเรียว หลังฉีดอยู่ได้นาน 5-6 เดือน 

วิธีดูโบท็อกซ์แท้

จุดสังเกต โบท็อกซ์แท้ ยี่ห้อต่าง ๆ | V Square Clinic

วิธีดูโบท็อกซ์แท้ Allergan

วิธีดูโบท็อกซ์แท้ Allergan
  • มีซีลใส ป้องกันการเปิด
  • มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย
  • เลข Lot. ตรงกัน 2 จุด คือ เลข Lot. ที่กล่อง และเลข Lot. ที่ขวด
  • เป็นผลึกยาอยู่ที่ก้นขวด ไม่มีน้ำ ต้องใส่น้ำเกลือแล้วดูดยาออกมา
  • สามารถโทรเช็กเลข Lot. กับบริษัทนำเข้า Allergan Thailand (DKSH) โทร. 02-640-4999 ต่อ 1

วิธีดูโบท็อกซ์แท้ Dysport

วิธีดูโบท็อกซ์แท้ Dysport
  • เปิดกล่องด้านหน้า
  • มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย
  • เลข Lot. ตรงกัน 2 จุด คือ เลข Lot. ที่กล่อง และเลข Lot. ที่ขวด
  • เป็นผลึกยาอยู่ที่ก้นขวด ไม่มีน้ำ ต้องใส่น้ำเกลือแล้วดูดยาออกมา
  • สามารถโทรเช็กเลข Lot. กับบริษัทนำเข้า บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) โทร. 02-023-1800 ต่อ 402

วิธีดูโบท็อกซ์แท้ Xeomin

วิธีดูโบท็อกซ์แท้ Xeomin
  • มีซีลใส ป้องกันการเปิด
  • มีเอกสารกำกับภาษาไทย
  • เลข Lot. ตรงกัน 2 จุด คือ เลข Lot. ที่กล่อง และเลข Lot. ที่ขวด
  • เป็นผลึกยาอยู่ที่ก้นขวด ไม่มีน้ำ ต้องใส่น้ำเกลือแล้วดูดยาออกมา
  • สามารถโทรเช็กเลข Lot. กับบริษัทนำเข้า บริษัท Merz Aesthetics โทร. 092-254-2662

วิธีดูโบท็อกซ์แท้ Nabota

วิธีดูโบท็อกซ์แท้ Nabota
  • มีเอกสารกำกับภาษาไทย
  • มีสติกเกอร์โฮโลแกรม 2 จุด
  • บนกล่องพิมพ์ว่า “VOID IF REMOVE ORIGINAL” และบนขวดพิมพ์ว่า “DW”
  • เลข Lot. ตรงกัน 2 จุด คือ เลข Lot. ที่กล่อง และเลข Lot. ที่ขวด
  • เป็นผลึกยาอยู่ที่ก้นขวด ไม่มีน้ำ ต้องใส่น้ำเกลือแล้วดูดยาออกมา
  • สามารถโทรเช็กเลข Lot. กับบริษัทนำเข้า บริษัท มัณฑนา มาร์เก็ตติ้ง จำกัด  โทร.065-504-2983 และ 02-367-1274

วิธีดูโบท็อกซ์แท้ Aestox

วิธีดูโบท็อกซ์แท้ Aestox
  • มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย
  • มี QR Code เพื่อสแกนตรวจสอบว่าเป็นของแท้
  • เลข Lot. ตรงกัน 2 จุด คือ เลข Lot. ที่กล่อง และเลข Lot. ที่ขวด
  • เป็นผลึกยาอยู่ที่ก้นขวด ไม่มีน้ำ ต้องใส่น้ำเกลือแล้วดูดยาออกมา
  • สามารถโทรเช็กเลข Lot. กับบริษัทนำเข้า บริษัท เอสเทค ฟาร์มา จำกัด โทร. 02-089-1786

โบท็อกแท้ ทุกยี่ห้อ ก่อนฉีดคนไข้ควรให้หมอแกะกล่อง เปิดขวดใหม่ ดูดยา ให้ดูต่อหน้าจนหมด และเอากล่องและขวดกลับบ้านได้ เพื่อความมั่นใจว่าเป็นโบท็อกแท้ครับ

Vsquare_tips_ICON

ข้อควรรู้ : โบท็อกแท้ทุกยี่ห้อจะมาในลักษณะเป็นผลึกสีขาวอยู่ที่ก้นขวด ไม่มีน้ำอยู่ในขวด หมอต้องใส่น้ำเกลือลงไปในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อละลายโบท็อกออกมาฉีด โบท็อก 100 ยูนิต จะใช้น้ำเกลือ 2.6 CC โบท็อก 50 ยูนิต ใช้น้ำเกลือ 1.3 CC ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นที่ต้องการใช้


ฉีดโบท็อกซ์ เจ็บไหม ?

ฉีดโบท็อกซ์เจ็บไหม ? การฉีดโบท็อกซ์ ไม่เจ็บครับ ก่อนฉีดมีการแปะยาชา และระหว่างฉีดจะมีการประคบน้ำแข็ง เพื่อลดความเจ็บจากเข็ม และการฉีด Botox จะใช้เข็มขนาดเล็กฉีดลงในชั้นผิวที่ไม่ลึกมาก ซึ่งจากข้อมูลของคนไข้ที่เข้ามาฉีดโบท็อกบอกว่าเจ็บน้อยกว่าการกดสิว จึงไม่ต้องกังวลครับ 


ฉีดโบท็อกซ์ กี่วันเห็นผล ?

ฉีดโบท็อกซ์ กี่วันเห็นผล โดย คุณนิโคล

ฉีดโบท็อกซ์กี่วันเห็นผล ? หลังฉีดโบท็อก ระยะเวลาเห็นผลขึ้นอยู่กับจุดที่ฉีดครับ เนื่องจากขนาดของกล้ามเนื้อในแต่ละบริเวณจะไม่เท่ากัน จึงทำให้การออกฤทธิ์ของโบท็อกมีระยะเห็นผลที่ต่างกันเล็กน้อย

  • โบท็อกลดริ้วรอย จะเริ่มออกฤทธิ์ เห็นผลตอน 3-4 วัน และเห็นผลเต็มที่ใน 2 สัปดาห์ ริ้วรอยตีนกา ระหว่างคิ้ว ริ้วรอยหน้าผาก บริเวณนี้จะเห็นผลไว เพราะเป็นริ้วรอยที่เกิดจากการพับของผิวหนังชั้นบน การแสดงสีหน้า  
  • โบท็อกลดกราม ปรับรูปหน้า เริ่มเห็นผลตอน 14 วัน กล้ามเนื้อกรามจะนิ่มลง กัดแล้วไม่เด้ง และเห็นผลเต็มที่ใน 2-3 เดือน 
  • บริเวณนี้จะเห็นผลช้ากว่าริ้วรอย เพราะกล้ามเนื้อกรามมีขนาดใหญ่ และใช้งานหนักกว่าบริเวณอื่น ๆ เช่น การรับประทานอาหาร การใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงขนาดกล้ามเนื้อกรามของแต่ละบุคคล บางคนมีขนาดที่เล็กใหญ่ไม่เท่ากัน จึงทำให้ระยะเวลาที่เห็นผลต่างกันไปด้วย
  • ฉีดโบท็อกลิฟท์กรอบหน้า เหนียง คอ  เริ่มเห็นผล 3-4 วัน เห็นผลเต็มที่ใน 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับผิวของแต่ละบุคคล หากมีผิวหย่อนคล้อยมาก หรือบางคนมีเหนียงเยอะก็จะมีระยะเวลาเห็นผลที่นานขึ้น
  • ฉีดโบท็อกลดเหงื่อ  เหงื่อจะเริ่มลดลงใน 1-3 วันแรก หลังจากนั้นเหงื่อจะค่อย ๆ แห้งสนิท เห็นผลเต็มที่ใน 1-2 สัปดาห์ขึ้นอยู่กับการทำงานของต่อมเหงื่อแต่ละบุคคล หากคนที่ต้องเจอกับสภาพอากาศร้อน ทำงานกลางแจ้งก็อาจส่งผลให้ร่างกายผลิตเหงื่อออกมาเร็วกว่าปกติได้

ก่อนฉีดโบท็อกซ์ เตรียมตัวอย่างไร ?

ก่อนฉีดต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
  • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบท็อก รวมถึงวิธีการสังเกตโบท็อกแท้แต่ละยี่ห้อ เพื่อความปลอดภัย
  • เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพราะแพทย์จะสามารถประเมินปัญหาใบหน้า และวางแผนการแก้ไขได้อย่างเหมาะสม
  • ฉีดโบท็อกแท้ ผ่านการรับรองจาก อย. เท่านั้น เพื่อลดโอกาสการดื้อยาและเกิดผลข้างเคียง
  • ควรให้แพทย์เปิดขวดใหม่ ผสมโบท็อกให้ดูต่อหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้เจือจางน้ำเกลือมากเกินไป และควรขอกล่องและขวดกลับบ้านไว้ตรวจสอบ เพื่อมั่นใจว่าเป็นของแท้
  • งดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, NSAIDs, Ponstan
  • งดสครับใบหน้า คอร์สเลเซอร์ แว็กผิวหรือนวดหน้าบริเวณที่ฉีด 2-3 วัน เพื่อลดอาการเขียวช้ำ 
  • หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำ ควรปรึกษาหรือแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง

ขั้นตอนการฉีดโบท็อกซ์เป็นอย่างไร ?

ขั้นตอนการฉีดโบท็อก โดย หมอแพร
  • พบแพทย์เพื่อปรึกษาประเมินรูปหน้า สภาพผิว ปัญหาที่กังวล
  • แพทย์แนะนำยี่ห้อของโบท็อก และคำนวณยูนิตที่เหมาะสมในแต่ละบุคคล
  • ทำความสะอาดผิวหน้า หากคนไข้กลัวเจ็บสามารถแปะยาชา หรือประคบน้ำแข็งเพื่อบรรเทาความเจ็บได้
  • แพทย์ฉีด Botox ในตำแหน่งที่ต้องการแก้ไข 

คำแนะนำหลังฉีดโบท็อกซ์

คำแนะนำหลังฉีดโบท็อกซ์
  • หลังฉีดโบท็อกทันที ควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีด 1-2 ครั้ง เพื่อให้โบท็อกถูกเซลล์ประสาทดูดเข้าไปให้มากที่สุด
  • แนะนำให้ทานอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี เพื่อช่วยให้โบท็อกออกฤทธิ์ไวขึ้น และทำงานดีขึ้น
  • หลังฉีดโบท็อก 3 ชั่วโมง งดนอนราบ นอนคว่ำ หรือก้มหัวต่ำกว่าอก เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนมาที่บริเวณใบหน้ามากขึ้น ส่งผลให้โบท็อกที่ฉีดปลิวไปบริเวณที่ไม่ต้องการได้
  • หลังฉีดโบท็อก 48 ชั่วโมง ควรหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เช่น อบซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ ตากแดด ทำเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เช่น RF thermage 
  • งดอาหารที่ส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของโบท็อก เช่น อาหารรสจัด อาหารหมักดอง อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาเป็นเวลานาน
  • งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด  เนื่องจากจะส่งผลต่อการอักเสบ ยุบบวมช้า และผลการรักษาอยู่ได้สั้นลง

หลังฉีดโบท็อกซ์ นอนตะแคงได้ไหม ?

หลังฉีดโบท็อกซ์ นอนตะแคงได้ครับ แต่ควรนอนหมอนสูง ไม่ควรนอนหัวต่ำกว่าระดับหน้าอก เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนมาที่บริเวณใบหน้ามากขึ้น

หลังฉีดโบท็อกซ์ กินเหล้าได้ไหม ?

หลังฉีดโบท็อกซ์ หมอแนะนำให้งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดครับ เพราะจะทำให้การออกฤทธิ์ของโบท็อกไม่ได้ประสิทธิภาพ และระยะเวลาอยู่ได้สั้นลง 

หลังฉีดโบท็อก กินปลาร้าได้ไหม ?

หลังฉีดโบท็อกประมาณ 2 สัปดาห์ หรืออย่างน้อยที่สุด 3 วัน หมอแนะนำให้งดไปก่อนครับ เพราะอาหารประเภทนี้ มักจะมีกรรมวิธีทำที่ไม่สะอาด เสี่ยงต่อการปนเปื้อน หากเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายแล้วอาจจะไปกระตุ้นให้แผลจากรอยเข็มที่ฉีดโบท็อกเกิดการบวมอักเสบขึ้นมาได้

หลังฉีดโบท็อกซ์ กินวิตามินได้ไหม ?

หลังฉีดโบท็อกซ์ สามารถกินวิตามินได้ครับ โดยเฉพาะวิตามินธาตุเหล็ก ซึ่งจะมีงานวิจัยระบุว่าการกิน Zinc 50 mg/วัน ก่อนและหลังฉีดโบท็อก จะช่วยให้โบท็อกออกฤทธิ์ไวและอยู่ได้นานขึ้น 

ทั้งนี้หมอแนะนำให้กินหลังฉีดโบท็อกประมาณ 2 สัปดาห์ แต่ควรกินตามคำแนะนำของแพทย์ เพราะหากทานมากเกินไป อาจเกิดการเสริมฤทธิ์โบท็อกรุนแรง และเกิดผลเสียตามมาได้

Vsquare_tips_ICON

วัยผู้ใหญ่ควรได้รับแร่ธาตุสังกะสี 12-15 มิลลิกรัม/วัน โดยพบได้มากในอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ตับ อาหารทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่งหอยนางรม และธัญพืช


ผลข้างเคียงหลังฉีดโบท็อกซ์

ผลข้างเคียงหลังฉีดโบท็อกซ์ คนไข้อาจรู้สึกเมื่อย หรือตึงบริเวณที่ฉีด ซึ่งเป็นอาการปกติที่ไม่อันตรายครับ หากมีอาการปวด คนไข้สามารถทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้ ซึ่งผลข้างเคียงนี้จะเป็นแค่ชั่วคราว จะหายได้เองใน 2-3 วัน ระหว่างนี้คนไข้ควรงดจับ กด หรือนวดบริเวณที่ฉีด เพราะอาจทำให้เกิดการช้ำจากรอยลงเข็ม หรือหากมือไม่สะอาดอาจทำให้เชื้อโรคเข้าสู่แผลจากรอยเข็มได้ครับ

ส่วนผลข้างเคียงหลังฉีดโบท็อกซ์ที่อันตราย ได้แก่

อันตรายจากโบท็อกซ์ปลอม
  • หนังตาตก ปากเบี้ยว หน้าแข็ง ยิ้มไม่สุด มุมปากตก เป็นผลข้างเคียงที่เกิดจากฉีดโบท็อกกับแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญ ฉีดผิดเทคนิค รวมถึงการประเมินปริมาณโบท็อกไม่เหมาะสม ฉีดไม่ถูกตำแหน่งครับ เช่น ฉีดโบท็อกลดริ้วรอยรอบดวงตา หมอฉีดใกล้เปลือกตาบนมากเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหนังตาอ่อนแรงและหนังตาตกลงมาได้
  • อักเสบติดเชื้อ บวม แดงบริเวณรอยเข็ม  มักเป็นผลข้างเคียงที่เกิดจากคนไข้ฉีดโบท็อกกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือฉีดกับหมอกระเป๋าที่ใช้อุปกรณ์ที่ไม่สะอาดมากพอ ไม่มีระบบการดูแลความสะอาดปลอดเชื้อ
  • ดื้อโบท็อกซ์ ฉีดแล้วเริ่มไม่ค่อยเห็นผล  ใช้โบท็อกจำนวนยูนิตมากขึ้นเพื่อให้เห็นผล ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษา 

ฉีดโบท็อกซ์ ที่ไหนดี ?

ฉีดโบท็อกซ์ ที่ไหนดี
  • ฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดี อันดับแรกควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ได้มาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข มีใบอนุญาตถูกต้อง และดำเนินงานโดยแพทย์เท่านั้น
  • ใช้โบท็อกแท้และได้มาตรฐาน มีตัวแทนจำหน่ายอย่างถูกต้องครับ บริษัทยาจะต้องขายให้กับคุณหมอที่มีใบอนุญาตเท่านั้น
  • คลินิกต้องมีอุปกรณ์ และเครื่องมือในการช่วยเหลือยามฉุกเฉิน มีพื้นที่และห้องการทำหัตถการที่กว้างขวาง มีความสะอาด ไม่ทึบหรือแออัด 
  • เลือกคลินิกที่เดินทางสะดวก มีบริการขนส่งมวลชนที่หลากหลาย เข้าถึงง่าย มีบริการที่จอดรถและหากมีหลายสาขาก็จะยิ่งดี เพราะสะดวกต่อการไปพบหมอ  
  • มีช่องทางการติดต่อที่สะดวกหรือควรมีการ follow up  ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัว ก่อนทำ-หลังทำอย่างใกล้ชิด และมีช่องทางติดต่อสอบถามเกี่ยวกับปัญหากับหมอโดยตรง
  • มีรีวิวที่น่าเชื่อถือ ตรวจสอบแหล่งที่มาได้ เช่น จาก Feedback ที่คนไข้มารีวิว เพราะถ้าหากคนไข้มารีวิวแล้วทางคลินิกจะไม่สามารถลบออกได้

ฉีดโบท็อกซ์ ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?

ฉีดโบท็อกที่ V Square Clinic ดีอย่างไร
  • ปรึกษากับหมอโดยตรง ไม่ผ่านเซลส์
  • โบท็อกแท้ทุกยี่ห้อ มีเลข อย.
  • เปิดขวดใหม่ ผสมยา ดูดยาต่อหน้าจนหมด
  • ให้กล่องและขวดกลับบ้าน
  • โทรเช็กเลขล็อตสินค้ากับบริษัทนำเข้าได้
  • ฉีดโดยแพทย์มากประสบการณ์

รีวิว ฉีดโบท็อกซ์

รีวิวฉีดโบท็อกซ์ ลดริ้วรอย

รีวิวฉีดโบท็อก ลดริ้วรอย
รีวิวฉีดโบท็อก ลดริ้วรอย
รีวิวฉีดโบท็อก ลดริ้วรอย (3)
รีวิวฉีดโบท็อก ลดริ้วรอย
รีวิวฉีดโบท็อก ลดริ้วรอย
รีวิวลดริ้วรอยหน้าผาก รอยย่นจมูก ระหว่างคิ้ว และมีริ้วรอยตีนกาด้วยโบท็อกยี่ห้อ Dysport 300 U

รีวิว ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม หน้าเรียว

รีวิวฉีดโบท็อก ลดริ้วรอย ลดกราม
รีวิวฉีดโบท็อก ลดริ้วรอย ลดกราม (2)
รีวิวฉีดโบท็อก ลดริ้วรอย ลดกราม (3)

รีวิว ฉีดโบท็อกซ์รักแร้

รีวิว ฉีดโบท็อกรักแร้ ที่ V Square Clinic หมอจะประเมินจุดฉีด และปริมาณโบท็อกที่ใช้ ให้เหมาะสมกับแต่ละคนโดยเฉพาะ

รีวิว ฉีดโบท็อกรักแร้ คืนความมั่นใจใต้วงแขน
ลดปริมาณเหงื่อและลดกลิ่นได้กว่า 80%

สรุป

การฉีดโบท็อกซ์ เป็นวิธีลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าเรียวที่ตรงจุด ให้ผลลัพธ์ชัดเจน เห็นผลไวกว่าเมื่อเทียบกับวิธีอื่น ๆ รวมถึงสามารถป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยใหม่ในอนาคตได้ ที่สำคัญโบท็อกซ์ถูกยอมรับจากวงการแพทย์ว่ามีความปลอดภัย สามารถสลายได้เองโดยไม่มีสารตกค้าง ไม่อันตรายต่อร่างกายครับ

เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่เป็นดูธรรมชาติ ควรฉีดโบท็อกซ์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์ เข้าใจโครงสร้างใบหน้าเป็นอย่างดี คำนวณปริมาณยา รู้ตำแหน่งที่ฉีด และแนะนำยี่ห้อที่เหมาะสมให้ในแต่ละเคสครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา_หมอ29คน