บทความทั้งหมด

ฉีดโบท็อก เจ็บไหม 370x277

ฉีดโบท็อก เจ็บไหม มีสาเหตุมาจากอะไร ? ปฏิบัติตัวอย่างไรเพื่อหลีกเลี่ยงความเจ็บ

Categories
botox
ฉีดโบท็อก เจ็บไหม

ฉีดโบท็อก เจ็บไหม

ฉีดโบท็อก เจ็บไหม ? เป็นความกังวลใจของคนไข้หลายคนที่มาประเมินใบหน้ากับหมอครับ โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่เคยทำหัตถการความงามใด ๆ มาก่อน

ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเจ็บมีอะไรบ้าง ? วิธีลดความเจ็บระหว่างฉีดโบท็อกอย่างไร ? หลังฉีดโบท็อกเจ็บนานไหม ? อาการเจ็บแบบไหนที่ควรรีบมาพบแพทย์ ? หมอจะอธิบายให้ฟัง เพื่อคลายความกังวลของทุกคนครับ

ฉีดโบท็อก เจ็บไหม
ฉีดโบท็อก เจ็บไหม

สารบัญ ฉีดโบท็อก เจ็บไหม

ฉีดโบท็อก ช่วยอะไรบ้าง ?
เข้าใจหลักการทำงานของโบท็อก

ฉีดโบท็อก เจ็บไหม?

ไม่เจ็บเลย หรือรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยครับ

อันดับแรกตัวยาของโบท็อกไม่แสบผิวครับ ในการฉีดหมอจะใช้เข็มที่มีขนาดเล็กและบาง ฉีดในชั้นผิวที่ไม่ลึกมาก ทั้งนี้ ความรู้สึกเจ็บมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับระดับความเจ็บที่แต่ละคนทนได้ร่วมด้วยครับ คนไข้จะรู้สึกเหมือนแมลงกัด หรือมีของขนาดเล็กเจาะเข้าสู่ผิวหนังเท่านั้น ไม่ใช่เจ็บจนทนไม่ไหว จากรีวิวส่วนใหญ่บอกว่ารู้สึกเจ็บน้อยกว่าการกดสิว หรือการฉีดยาชาก่อนถอนฟันครับ

โดยทั่วไปก่อนฉีดโบท็อกจะประคบน้ำแข็ง เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดให้ ใช้เวลาในการฉีดไม่นานเพียง 10-15 นาที หากใครกังวลเรื่องความเจ็บปวดมาก ๆ ก็สามารถแจ้งให้ทางคลินิกทายาชาก่อนฉีดได้ครับ


ขั้นตอนการฉีดโบท็อก

ใครที่ยังไม่เคยฉีดโบท็อกหรือทำหัตถการในคลินิกความงามมาก่อน อาจกังวลว่า ฉีดโบเจ็บไหม น่ากลัวหรือไม่ หากไม่กลัวเข็ม การฉีดโบท็อกไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หลายคนคิดครับ

เบื้องต้นให้ศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น หลักการทำงานของโบท็อก วิธีการเลือกคลินิกความงาม และวิธีเช็กโบท็อกของแท้แต่ละยี่ห้อ ขั้นตอนการฉีดโบท็อกในแต่ละคลินิกความงามอาจแตกต่างกันออกไปบ้างครับ แต่ภาพรวมมีดังนี้

  • ปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินใบหน้า สภาพผิว และเปิดโอกาสให้คนไข้สอบถามข้อสงสัย ควรเตรียมข้อมูลสุขภาพของตัวเองมาด้วยครับ เช่น โรคประจำตัว ยาและวิตามินที่กินเป็นประจำ
  • แนะนำยี่ห้อโบท็อกที่เหมาะสมกับจุดที่จะฉีด และงบประมาณที่คนไข้ต้องการ
  • แพทย์เตรียมโบท็อกให้พร้อม โบท็อกจะมาในรูปของผลึกสีขาว จำเป็นต้องผสมน้ำเกลือก่อนฉีดครับ ควรให้แพทย์แกะและผสมตัวยาต่อหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าได้ยาของแท้ ไม่ผสมน้ำเกลือจนเจือจางมากเกินไป
  • ทำความสะอาดและเตรียมผิวของคนไข้ในจุดที่ฉีด และประคบเย็นบรรเทาความเจ็บปวด
  • แพทย์ฉีดโบท็อกในปริมาณที่เหมาะสมไปยังกล้ามเนื้อของคนไข้
  • หลังฉีดเสร็จแล้ว คนไข้ควรขยับกล้ามเนื้อในตำแหน่งที่ฉีดทันที เป็นเวลา 30 นาที เพื่อให้เซลล์ประสาทดูดซึมโบท็อกเข้าไปมากที่สุดครับ ในกรณีที่ฉีดโบท็อกกรามแนะนำให้คนไข้กัดฟันหรือเคี้ยวหมากฝรั่ง
ประเมินใบหน้า
ประเมินใบหน้าและสอบถามข้อสงสัยกับแพทย์มากประสบการณ์ก่อนฉีดโบท็อก

วิธีลดความเจ็บระหว่างฉีดโบท็อกมีอะไรบ้าง ?

โดยทั่วไปการฉีดโบท็อกไม่จำเป็นต้องฉีดยาชาครับ เพราะไม่เจ็บและใช้เวลาในการทำไม่นาน ประคบน้ำแข็งอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วครับ แต่หากคนไข้กลัวเจ็บหรือกลัวเข็มมาก ๆ ก็สามารถแจ้งกับแพทย์ในระหว่างประเมินใบหน้าได้ หมอจะช่วยแนะนำวิธีบรรเทาความเจ็บที่เหมาะสมให้ครับ ซึ่งมีด้วยกันหลายวิธี ดังนี้

  • ประคบน้ำแข็ง ความเย็นจะทำให้หลอดเลือดหดตัว ไหลเวียนได้ช้าลง ทำให้รู้สึกชาที่ผิว วิธีนี้ได้รับความนิยมมากที่สุดในการฉีดโบท็อก เพราะทำได้ง่าย ใช้เวลาไม่นาน
  • ทายาชา ใครที่กลัวเจ็บมาก ๆ หรือกังวลว่า โบท็อก เจ็บไหม สามารถแจ้งให้คลินิกทายาชาก่อนฉีดโบท็อกได้ครับ จำเป็นต้องรอประมาณ 30-45 นาทีหลังทา เพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์
  • ใช้เข็มขนาดเล็กพิเศษ ยิ่งเข็มมีขนาดเล็ก ก็จะทำให้เกิดบาดแผลเล็กและเจ็บน้อยลงได้ครับ
  • เครื่องสั่นสะเทือนบรรเทาความเจ็บปวด (Vibration Anesthesia Device) จะมีในบางคลินิก ใช้วางในตำแหน่งใกล้กับจุดที่จะฉีดโบท็อก ใช้เพื่อเบนความสนใจ ทำให้คนไข้รับรู้ความเจ็บที่เกิดจากการฉีดโบท็อกได้ลดลง
ฉีดโบท็อก ประคบน้ำแข็ง
บรรเทาความเจ็บปวดระหว่างฉีดโบท็อกด้วยการประคบน้ำแข็ง

ตำแหน่งฉีดมีผลต่อความเจ็บระหว่างฉีดโบท็อกไหม ?

มีผลครับ

ส่วนใหญ่การฉีดโบท็อกลดริ้วรอย เช่น รอยย่นบนหน้าผาก ริ้วรอยหางตา รอยตีนกา ผิวในตำแหน่งที่ทำค่อนข้างบอบบางครับ อาจรู้สึกเจ็บกว่าการฉีดโบท็อกกราม ยิ่งเป็นโบท็อกปีกจมูก ซึ่งเป็นจุดที่มีเส้นประสาทรวมอยู่มากอาจรู้สึกเจ็บมากกว่าจุดอื่น ๆ ได้ แต่จะเป็นความเจ็บในระดับที่ทนไหว คนไข้ไม่ต้องกังวลครับ

นอกจากนี้บางตำแหน่งที่จำเป็นต้องฉีดหลายจุด เพื่อให้ยากระจายตัวได้ดี อย่างโบท็อกลิฟท์กรอบหน้า จะทำให้รู้สึกเจ็บมากกว่าตำแหน่งที่ฉีดเพียงไม่กี่จุด


หมอมีผลต่อการฉีดโบท็อกแล้วเจ็บไหม ?

เทคนิคและประสบการณ์ของแพทย์มีผลมากครับ

หากกังวลว่า ฉีดโบท็อก เจ็บไหม ควรเลือกฉีดกับแพทย์มากประสบการณ์ในการฉีดโบท็อก ผ่านเคสมาเป็นจำนวนมากครับ มีเทคนิคการฉีดที่ดี มือเบา เลือกตำแหน่งฉีดได้อย่างแม่นยำ ลดโอกาสบวมช้ำที่ไม่จำเป็น คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บครับ หลังฉีดจะมีเพียงรอยเข็มเล็ก ๆ หายได้ใน 2-3 ชั่วโมง ไม่กระทบต่อชีวิตประจำวัน

ยิ่งแพทย์หมั่นอัปเดตเทคนิคในการทำหัตถการใหม่ ๆ จะช่วยลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง และให้ผลลัพธ์ที่ดีครับ แนะนำให้คนไข้ลองดูรีวิว และใบรับรองที่เกี่ยวข้อง (Certification) จากเว็บไซต์ของคลินิกความงาม ที่แพทย์ทำงานประจำอยู่


ขนาดของเข็มที่ใช้ฉีดโบท็อก มีผลต่อความเจ็บไหม ?

ขนาดและความแหลมคมของเข็มมีผลครับ

ยิ่งเข็มมีขนาดเล็กและรอยบากแหลม ก็จะสามารถตัดผ่านผิวหนังได้ดี ลดความเจ็บปวดและอาการช้ำได้ครับ โดยทั่วไปการฉีดโบท็อกจะใช้เข็มที่มีขนาดเล็กและบางอยู่แล้วครับ หากแพทย์เลือกเข็มที่มีขนาดเล็กพิเศษ สามารถช่วยลดความเจ็บปวดของคนไข้ได้ แต่ก็จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคในการฉีดของแพทย์แต่ละคนร่วมด้วยครับ


ยี่ห้อโบท็อกส่งผลต่อความรู้สึกเจ็บไหม ?

ไม่มีผลครับ

โบท็อกยี่ห้อมาตรฐาน ทั้งโบท็อกอเมริกา และโบท็อกเกาหลี มีความบริสุทธิ์ใกล้เคียงกันครับ จึงไม่ได้ส่งผลต่อระดับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่ควรให้ความสำคัญ คือ การใช้โบท็อกของแท้ ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการนำเข้ามาอย่างถูกต้อง เพราะโบท็อกปลอม หรือยาหิ้ว ที่เสื่อมสภาพ สามารถก่อให้เกิดอาการแพ้ อักเสบ ติดเชื้อได้

โบท็อกของแท้
ตัวอย่างยี่ห้อโบท็อกของแท้
รวมโบท็อกทุกยี่ห้อที่ผ่านอย.ไทย พร้อมวิธีเช็กของแท้ อัปเดตปี 2024

แนวทางปฏิบัติหลังฉีดโบท็อกแล้วเจ็บมีอะไรบ้าง ?

ความรู้สึกเจ็บปวดจากการฉีดโบท็อกสามารถหายได้ทันทีหลังฉีดครับ หรือบางรายอาจมีอาการปวดระบมในตำแหน่งที่ฉีด เป็นผลข้างเคียงทั่วไป หายได้เองในเวลา 2-3 วัน แนะนำให้ปฏิบัติตัวตามแนวทางต่อไปนี้

  • งดสัมผัส กด จับ หรือนวดบริเวณที่ฉีด เพราะอาจทำให้เกิดรอยช้ำจากเข็ม และถ้ามือไม่สะอาดพอ เชื้อโรคเข้าสู่แผลจากรอยเข็มได้
  • กินยาแก้ปวดกลุ่มพาราเซลตามอล เพื่อบรรเทาอาการได้ครับ เพราะไม่มีผลต่อการออกฤทธิ์ของโบท็อกหรือมีผลข้างเคียงใด ๆ

นอกจากนี้ หมอแนะนำให้ดูแลตัวเองตามแนวทางเหล่านี้ เพื่อลดโอกาสเกิดการอักเสบ และให้ผลลัพธ์การฉีดโบท็อกอยู่ได้นาน

  • กินอาหารที่มีธาตุสังกะสี ช่วยให้โบท็อกออกฤทธิ์ไวและทำงานได้ดีขึ้น
  • งดนอนราบ นอนคว่ำ หรือก้มหัวต่ำกว่าอก ใน 3 ชั่วโมงแรก เพราะทำให้เลือดไหลเวียนมาที่บริเวณใบหน้ามากขึ้น โบท็อกที่ฉีดจะปลิวไปบริเวณที่ไม่ต้องการได้
  • หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชั่วโมง เช่น ออกกำลังกายหนัก ๆ ทำเลเซอร์ร้อนที่ลงลึกชั้นผิว
  • งดอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ หมักดอง รสจัด ใน 14 วันหลังฉีด หรืออย่างน้อย 48 ชั่วโมง เพราะอาหารเหล่านี้ทำให้เส้นเลือดขยายตัว
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ เพราะอาจส่งผลต่อการอักเสบ ยุบบวมช้า และผลลัพธ์อยู่ได้สั้นลง
หลังฉีดโบท็อก
วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อก

อาการเจ็บหลังฉีดโบท็อกแบบไหน ควรไปพบแพทย์ ?

หากมีอาการเจ็บปวดและบวมแดงมากผิดปกติ ที่ไม่หายไปเองใน 2-3 วัน ควรรีบไปพบแพทย์ครับ เพราะเป็นสัญญาณเตือนของอาการอักเสบ ติดเชื้อ หรือแพ้ยาได้ มักเกิดจากการใช้โบท็อกปลอม ตัวยาไม่บริสุทธิ์ ทำให้เกิดอาการแพ้ครับ


สรุป

ฉีดโบท็อก เจ็บไหม ? ไม่เจ็บหรือเจ็บเพียงเล็กน้อยครับ หมอจะใช้เข็มขนาดเล็กและบางในการทำหัตถการ และก่อนฉีดมีประคบเย็นให้ เพื่อบรรเทาอาการ หากใครกลัวเจ็บมาก ๆ สามารถแจ้งให้คลินิกทาชายาได้ครับ สิ่งที่ควรให้ความสำคัญก่อนฉีด คือ การตรวจสอบโบท็อกของแท้ และเลือกแพทย์ประสบการณ์สูง มีเทคนิคการฉีดที่ดี มือเบา ช่วยลดความเจ็บปวดและอาการบวมช้ำที่ไม่จำเป็นได้


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
ฉีดโบท็อกกี่วันเห็นผล

ฉีดโบท็อกกี่วันเห็นผล แต่ละตำแหน่ง แต่ละยี่ห้อ ใช้เวลาเท่ากันไหม?

Categories
botox
ฉีดโบท็อกกี่วันเห็นผล

ฉีดโบท็อกกี่วันเห็นผล

ฉีดโบท็อกกี่วันเห็นผล ? แต่ละยี่ห้อ แต่ละตำแหน่ง ใช้เวลาเท่ากันไหม ? เป็นข้อสงสัยที่มีคนไข้ถามหมอเข้ามาเยอะมาก เพราะอยากเห็นผลลัพธ์หลังทำที่รวดเร็วทันใจ

ในบทความนี้หมอจะมาตอบทุกคำถามเกี่ยวกับการเห็นผลหลังฉีดโบท็อก บางคนฉีดแล้วเห็นผลช้า หรือฉีดโบแล้วไม่เห็นผล เกิดจากอะไร ? พร้อมแนะนำการดูแลหลังฉีดโบท็อกอย่างไร ให้เห็นผลดี

สารบัญ ฉีดโบท็อกกี่วันเห็นผล

หลังฉีดโบท็อกกี่วันเห็นผล
(รีวิวฉีดโบท็อกที่ V Square Clinic)

ฉีดโบท็อกกี่วันเห็นผล ใช้เวลานานไหม ?

โดยทั่วไปการฉีดโบท็อก กี่วันเห็นผล ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีด ยี่ห้อของโบท็อก และปริมาณที่ใช้ รวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกของแต่ละบุคคลครับ


ฉีดโบท็อกกี่วันเห็นผล แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น ใช้เวลาเท่ากันไหม ?

โบท็อกซ์ทุกยี่ห้อและทุกรุ่นมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไปครับ โดยมีบางตัวที่อาจใช้เวลาเพียงไม่กี่วันในการเห็นผล ในขณะที่บางตัวอาจใช้เวลานานกว่านั้น สำหรับผลลัพธ์ที่มีอายุยาวนานและคงที่กว่า

ฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดีสุด ? 
โบท็อกซ์ยี่ห้อที่ผ่าน อย. อัปเดต 2024

สำหรับคำถามที่ถามมา การเห็นผลจะใช้ระยะเวลาเท่ากันหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล บางคนอาจมีการตอบสนองที่ดีและเห็นผลได้เร็ว ในขณะที่บางคนอาจใช้เวลานานกว่า ซึ่งโบท็อกแต่ละยี่ห้อที่ฉีด จะเห็นผลในระยะเวลาที่แตกต่างกันในแต่ละจุดที่ฉีดและเทคนิคการฉีดของแพทย์ครับ


ฉีดโบท็อกกี่วันเห็นผล แต่ละตำแหน่งใช้เวลาต่างกันอย่างไร ?

การเห็นผลจากการฉีดโบท็อกซ์ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดในร่างกาย แตกต่างกันไปในบริเวณที่ฉีด ยิ่งกล้ามเนื้อมีขนาดใหญ่มากเท่าไหร่ก็จะใช้ระยะเวลาเห็นผลนานมากขึ้นเท่านั้นครับ

หลังฉีดโบท็อกกี่วันเห็นผล

ฉีดโบท็อกลดริ้วรอย กี่วันเห็นผล ?

ฉีดโบท็อกลดริ้วรอย โบท็อกจะเริ่มออกฤทธิ์หลังฉีด 3-4 วัน และจะเห็นผลเต็มที่ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ทั้งใต้ตา หางตา ขมวดคิ้ว หน้าผาก ตึงขึ้นชัดเจน

ฉีดโบท็อกลดกราม กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีดโบท็อกกรามจะเริ่มเห็นผลใน 14 วัน ว่ากล้ามเนื้อนิ่มลง กัดฟันแล้วกล้ามเนื้อกรามไม่เด้งและเห็นผลชัดเจนใช้เวลา 2-3 เดือนครับ

ฉีดโบท็อกลิฟท์กรอบหน้า กี่วันเห็นผล ?

โบท็อกลิฟท์กรอบหน้า เหนียง คอ เห็นผลประมาณ 3-4 วันหลังฉีด และจะเห็นผลเต็มที่ใน 1-2 สัปดาห์ ผิวจะตึงกระชับ กรอบหน้าคมชัดมากขึ้น


ฉีดโบท็อกแล้วเห็นผลช้า เป็นเพราะอะไร ?

ฉีดโบท็อกแล้วเห็นผลช้า อาจเกิดได้จาก 3 ปัจจัย ดังนี้

  1. ปริมาณของตัวยา การใช้จำนวนยูนิตที่เยอะเกินไป อาจทำให้โบท็อกกระจายไปยังจุดอื่นที่ไม่ต้องการได้ หรือถ้าหากฉีดน้อยไปก็จะทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ไม่ชัดเจน
  2. ความเข้มข้นของตัวยา โบท็อกที่ผสมน้ำเกลือมากเกินไปจะมีความเจือจางมาก จึงทำให้มีโอกาสที่ตัวยาจะกระจายไปยังจุดอื่นที่ไม่ต้องการ ระยะเวลาเห็นผลจึงช้าลง
  3. ยี่ห้อโบท็อกที่เลือกใช้ โบท็อกแต่ละยี่ห้อจะมีขนาดโมเลกุลที่ต่างกัน ซึ่งโมเลกุลนี้มีผลต่อการ กระจายตัวยา ถ้าออกแบบให้ยากระจายตัวกว้าง ก็จะทำให้เห็นผลไวขึ้นครับ

ฉีดโบท็อกแล้วไม่เห็นผล เกิดจากอะไร ?

สำหรับคนไข้ที่ฉีดโบท็อกมาแล้วไม่เห็นผล ไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ อาจเกิดได้จากหลายปัจจัยครับ หลัก ๆ จะเกิดจากความเหมาะสมของการใช้ตัวยา ทั้งในด้านคุณภาพ ปริมาณ ความเข้มข้น และความถี่ในการฉีด ซึ่งมีผลต่อการออกฤทธิ์ของโบท็อกทั้งสิ้น

ฉีดโบแล้วไม่เห็นผล

หมอรวบรวม 5 สาเหตุที่ทำให้ฉีดโบท็อกแล้วไม่เห็นผลมาให้ดังนี้

  1. โบท็อกซ์ไม่ได้มาตรฐาน : ใช้โบท็อกซ์ผสมน้ำเกลือมากเกินไป ทำให้ตัวยามีความเจือจาง ฉีดแล้วไม่เห็นผล หรือเห็นผลน้อยมาก
  2. ใช้โบท็อกซ์ปลอม โบท็อกซ์หิ้ว : ยาหิ้วและยาปลอมไม่มีคุณภาพทั้งในด้านการเก็บรักษาและประสิทธิภาพของผลลัพธ์ ฉีดครั้งแรก ๆ ก็ได้ผลดี พอครั้งต่อ ๆ มาเริ่มได้ผลน้อยลง เพราะร่างกายเราสร้างภูมิต้านทานมากขึ้น ทำให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้น้อยลง
  3. ฉีดโบท็อกซ์บ่อยเกินไป : การฉีดโบท็อกไม่ควรฉีดถี่เกินไป เพราะอาจทำให้ดื้อโบท็อกได้ ร่างกายจะตอบรับด้วยการสร้างภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนสุดท้ายการฉีดโบท็อกซ์ครั้งต่อ ๆ ไป ก็จะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง
  4. ใช้โบท็อกซ์ในปริมาณที่ไม่เพียงพอ : โดสยาที่ใช้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของกล้ามเนื้อนั้น ๆ หากกล้ามเนื้อมีขนาดใหญ่ แต่ใช้ปริมาณโบท็อกซ์น้อยกว่าที่ต้องการ ฉีดแล้วก็จะไม่เห็นผลครับ
  5. เว้นระยะห่างในการฉีดโบท็อกซ์ไม่เหมาะสม : การเว้นระยะห่างในการฉีดโบท็อกซ์นานเกินไป จะทำให้กล้ามเนื้อกลับมาทำงานได้ปกติ และทำให้ต้องใช้ยูนิตของโบท็อกเยอะขึ้น

นอกจากนี้ฉีดโบท็อกแล้วไม่เห็นผลยังอาจเกิดจากประสบการณ์และความชำนาญของแพทย์ การตอบสนองต่อตัวยา รวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดของคนไข้ด้วยครับ


หากเจออาการดื้อโบท็อก ควรแก้อย่างไร ?

อาการดื้อโบท็อกซ์ยังไม่สามารถแก้ไขหรือรักษาได้ครับ แม้จะเปลี่ยนยี่ห้อโบท็อกก็จะเกิดอาการดื้อโบท็อกเช่นเดิม เพราะส่วนมากถ้าดื้อแล้วจะดื้อทุกยี่ห้อ ต้องรอจนกว่าภูมิต้านทานจะหมดฤทธิ์ไปเอง อาจจะต้องใช้เวลาประมาณ 3-5 ปีแล้วค่อยกลับมาฉีดใหม่ในกรณีที่ร้ายแรงกว่านั้นบางเคสอาจจะดื้อเป็น 10-20 ปี

ดังนั้นการป้องกันไม่ให้เกิดการดื้อโบท็อก ถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุดครับ ควรเลือกฉีดโบท็อกกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน และฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดโบท็อกเท่านั้น

ฉีดโบท็อกที่ไหนดี ให้เห็นผล ปลอดภัย

หากฉีดโบท็อกแล้วไม่เห็นผลตามที่ต้องการ ควรทำอย่างไร ?

หากฉีดโบท็อกซ์แล้วไม่ได้ผลตามที่คาดหวัง คนไข้สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ โดยการตรวจสอบปริมาณของโบท็อกซ์ที่ใช้ พิจารณาการใช้โบท็อกซ์จากบริษัท/แพทย์อื่นที่ดีกว่า และควรปรึกษาแพทย์ที่มีความชำนาญในการใช้โบท็อกซ์ เพื่อประเมินสถานการณ์และแนะนำวิธีการที่เหมาะสมที่สุดครับ


ฉีดโบท็อกซ้ำ ช่วยให้เห็นผลดีกว่าเดิมไหม ?

การฉีดโบท็อกซ้ำเพื่อรักษาผลลัพธ์ อาจช่วยให้เห็นผลดีกว่าเดิมในบางกรณี แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการครับ เช่น ระยะเวลา ปริมาณ บริเวณที่ฉีด คุณภาพของตัวยา และประสบการณ์ของแพทย์ ทั้งนี้การฉีดโบท็อกซ้ำบ่อยเกินไปอาจทำให้ร่างกายดื้อโบท็อกซ์ได้ ดังนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาความถี่และปริมาณที่เหมาะสมในการฉีดโบท็อกซ์ซ้ำครับ


ดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกอย่างไร ถึงเห็นผลดี

เพื่อให้โบท็อกซ์ออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เห็นผลไว และสามารถคงผลลัพธ์ให้อยู่ได้ยาวนาน คนไข้ควรดูแลตัวเองหลังฉีดตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยสามารถปฏิบัติตามได้ดังนี้

วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์
  • ควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง
  • ควรรับประทานทานอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี (Zinc)
  • งดนอนราบ นอนคว่ำ และก้มหัวต่ำกว่าอก 3 ชม.
  • หลีกเลี่ยงความร้อน และกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง 48 ชม.
  • งดอาหารรสจัด และอาหารหมักดอง
  • งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ฉีดโบท็อกกับ V Square Clinic ดีอย่างไร ?

ที่ V Square Clinic ใช้โบท็อกแท้ คุณภาพดี มีการนำเข้ามาอย่างถูกกฎหมาย มีหลายยี่ห้อให้เลือกแพทย์เลือกใช้แก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม ยี่ห้อที่นิยมในไทยเช่น โบท็อกอเมริกา ยี่ห้อ Allergan, โบท็อกอังกฤษ ยี่ห้อ Dysport, โบท็อกเยอรมัน ยี่ห้อ Xeomin, โบท็อกเกาหลี ยี่ห้อ Nabota/ยี่ห้อ Aestox เป็นต้น

โบท็อกแท้มาตรฐานระดับโลก

ทีมแพทย์มีประสบการณ์และความชำนาญด้านการฉีดโบท็อกปรับรูปหน้า สามารถประเมินปัญหา และแนะนำการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ก่อนฉีดหมอแกะกล่อง เปิดขวดใหม่ ผสมยาให้ดูต่อหน้าทุกเคส ฉีดด้วยเทคนิคพิเศษ เห็นผลดี การันตีด้วยรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง หลังทำมีการนัดติดตามผลอย่างใกล้ชิด มั่นใจได้ในผลลัพธ์และความปลอดภัยครับ

คุณต่าย เพ็ญพักตร์ ไว้ใจให้ V Square ดูแลผิวด้วยการฉีดโบลดริ้วรอย

สรุป

ฉีดโบท็อก กี่วันเห็นผล ? ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีด ยี่ห้อของโบท็อก และปริมาณที่ใช้ รวมถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกของแต่ละบุคคล ก่อนตัดสินใจฉีด ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เลือกฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้โบท็อกแท้เท่านั้น เพื่อป้องกันการดื้อโบท็อกครับ

สำหรับใครที่สนใจฉีดโบท็อก ปรับรูปหน้า ลดริ้วรอย อยากปรึกษาหมอเพิ่มเติม สามารถทัก Inbox ส่งรูปหน้า แจ้งปัญหาที่กังวลใจ หมอจะประเมินปัญหา และจำนวน Unit ที่ฉีดให้ เพื่อจะได้วางแผนการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย หมอตอบเองครับ

โบท็อกซ์แท้ ตรวจสอบได้ทุกขวด

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
ฉีดโบท็อกอันตรายไหม 370x277

ฉีดโบท็อกซ์ อันตรายไหม ? มีความเสี่ยงอะไรบ้าง ? ทำไมคนถึงนิยมฉีด ?

Categories
botox
ฉีดโบท็อกอันตรายไหม

ฉีดโบท็อกอันตรายไหม ? มีผลข้างเคียงอย่างไร ? แต่ละตำแหน่งมีความเสี่ยงเท่ากันไหม ? เป็นข้อสงสัยที่คนไข้มักจะกังวลถึงผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกครับ สำหรับบทความนี้หมอจะมาให้ข้อมูลแบบเจาะลึกถึงปัจจัยที่ทำให้เกิดอันตรายจากการฉีดโบท็อก อาการผลข้างเคียง ข้อปฏิบัติ และวิธีการเลือกคลินิกฉีดโบท็อก ที่ไหนดี ให้ผลลัพธ์ปลอดภัย ก่อนตัดสินใจฉีดควรรู้ครับ

แชร์เคล็ดลับเลือกโบท็อกซ์ จัดการริ้วรอย คืนความอ่อนเยาว์ กับ พี่ต่าย เพ็ญพักตร์

สารบัญ ฉีดโบท็อกอันตรายไหม


ฉีดโบท็อก อันตรายไหม ?

การฉีดโบท็อก มีกระบวนการที่ค่อนข้างปลอดภัยเมื่อทำโดยแพทย์ที่มีความชำนาญ ใช้เทคนิคที่ถูกต้อง ประเมินจำนวนยูนิตเหมาะสมกับปัญหา และใช้ตัวยาโบท็อกแท้ที่ได้มาตรฐาน สามารถสลายเองได้ 100% ไม่มีสารตกค้าง มีความปลอดภัยสูง

ส่วนอันตรายที่เกิดจากการฉีดโบท็อก มักเป็นเคสที่คนไข้ไปฉีดกับหมอกระเป๋า ฉีดโบท็อกผิดวิธี หรือใช้โบท็อกปลอม ตัวยาไม่ได้คุณภาพ ฉีดแล้วนอกจากจะไม่ได้ผลลัพธ์สวยงามตามที่ต้องการ ยังอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ รวมทั้งเป็นสาเหตุของการดื้อโบท็อกได้ด้วยครับ

โบปลอม โบหิ้ว เสี่ยงอย่างไร? ฉีดหน้าครั้งแรกต้องเลือกให้ถูก!

ฉีดโบท็อก มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง ?

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดโบท็อก มีดังนี้

  • ปวดหัว ตาพร่า คอแห้ง ซึ่งผลข้างเคียงนี้เป็นแค่ชั่วคราว ไม่อันตราย หายได้เองใน 7-14 วัน หากอาการเป็นมาก สามารถปรึกษาแพทย์ได้ครับ
  • ฉีดโบท็อกแล้วหน้าแข็ง ไม่เป็นธรรมชาติ เกิดจากการฉีดโบท็อกปริมาณมากเกินพอดี
  • ฉีดโบท็อกแล้วปากเบี้ยว ยิ้มไม่สุด พบได้ไม่บ่อยครับ แต่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ มักเกิดกับเคสที่ฉีดโบท็อกกับแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ ฉีดไปโดนกล้ามเนื้อสำคัญบนใบหน้า ทำให้หลังฉีดปากเบี้ยว ยิ้มไม่ได้ หรือยิ้มได้ไม่สุด
  • ฉีดโบท็อกแล้วหนังตาตก เกิดจากฉีดใกล้เปลือกตาด้านบน แก้ปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหนังตาอ่อนแรงและหนังตาตกลงมาได้
  • อักเสบติดเชื้อหลังฉีดโบ กรณีนี้มักเกิดจากคนไข้เลือกฉีด Botox กับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือฉีดกับหมอกระเป๋า ฉีดโบท็อกซ์ปลอม โบท็อกซ์หิ้ว ใช้อุปกรณ์ที่ไม่สะอาด ปลอดเชื้อ

ผลข้างเคียงหลังฉีดโบท็อก ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกเคส และสามารถป้องกันได้ครับ ก่อนฉีดโบท็อกควรเลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ฉีดโบกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ประเมินปริมาณยาได้อย่างเหมาะสม รู้ตำแหน่งที่ฉีดอย่างแม่นยำ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยครับ


สิ่งที่จะทำให้เกิดอันตรายจากการฉีดโบท็อกมีอะไรบ้าง ?

อันตรายจากการฉีดโบท็อกซ์เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังและควรพิจารณาให้ละเอียดก่อนทำการฉีด โดยเฉพาะสิ่งที่จะทำให้เกิดผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์ ดังนี้

1. หมอกระเป๋า หมอปลอม

การฉีดโบท็อก ไม่ใช่จะฉีดกับใครก็ได้ครับ แพทย์ผู้ฉีดต้องมีความรู้ ความชำนาญด้านการฉีดโบท็อกซ์ปรับรูปหน้า หากไปฉีดกับแพทย์ขาดประสบการณ์ หมอเถื่อน หมอกระเป๋า ซึ่งไม่มีความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างของใบหน้า ไม่รู้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง ฉีดไม่ตรงตำแหน่ง อาจทำให้เกิดอันตรายร้ายแรง อีกทั้งในกรณีที่เกิดความผิดพลาด ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้คนไข้ได้อย่างทันท่วงทีครับ

ฉีดโบกับหมอกระเป๋า
การฉีดโบท็อกแพทย์จะต้องรู้ถึงตำแหน่งต่าง ๆ ของกล้ามเนื้อเป็นอย่างดี

2. โบท็อกปลอม โบท็อกหิ้ว

อันตรายจากโบท็อกปลอม

ปัจจุบันโบท็อกปลอม หรือยาปลอม ยาหิ้ว ยังคงมีให้เห็นกันในท้องตลาดอยู่ครับ เพราะว่าราคาถูกและเข้าถึงได้ง่าย สามารถหาซื้อได้ตามอินเทอร์เน็ต แต่คุณภาพและการเก็บรักษาตัวยาโบท็อกนั้นไม่ได้มาตรฐาน ทำให้คุณภาพของโบท็อกเสื่อม ฉีดแล้วไม่เห็นผล หรือฉีดแล้วเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้

วิธีดูโบท็อกซ์แท้แต่ละยี่ห้อ ก่อนพลาดฉีดโบท็อกปลอมต้องเสี่ยงอะไรบ้าง ?

3. คลินิกไม่ได้มาตรฐาน

คลินิกเถื่อนที่ไม่ได้มาตรฐาน มักเปิดให้บริการอย่างผิดกฎหมาย ขาดการควบคุมและการดูแลทางการแพทย์ อุปกรณ์ไม่สะอาดหรือมีสภาพที่ไม่พร้อมใช้งาน การเข้ารับบริการในคลินิกเหล่านี้ แม้จะมีราคาถูกกว่าคลินิกชั้นนำ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่น อักเสบหรือติดเชื้อในบริเวณที่ฉีด

4. การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกไม่ถูกต้อง

การเตรียมตัวไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์เช่น รอยฟกช้ำ อาการระคายเคือง โบท็อกเข้าที่ช้า ฉีดแล้วไม่เห็นผล หรือเห็นผลแต่ไม่ชัดเจนครับ หมอแนะนำข้อปฏิบัติก่อนฉีดโบท็อก เพื่อความปลอดภัย คนไข้ควรเตรียมตัวดังนี้

  1. ศึกษาข้อมูลการฉีดโบท็อก คืออะไร มียี่ห้อไหนบ้าง รวมถึงวิธีการดูโบท็อกของแท้ของปลอม
  2. เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดี
  3. หากมีคอร์สทำหน้า นวดหน้า หรือคอร์สเลเซอร์ที่ต้องทำเป็นประจำ ควรถือโอกาสทำมาก่อนฉีดโบท็อก เพราะหลังฉีดจะต้องงดไป 2 สัปดาห์
  4. ควรงดยาในกลุ่มที่ลดการแข็งตัวของเลือดเช่น NSAIDs, แอสไพริน และงดสครับหน้า 2-3 วันก่อนฉีด จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเขียวช้ำ
  5. หากมีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนฉีดโบท็อกซ์
  6. ทานอาหารที่มีธาตุสังกะสี หรืออาหารเสริม แต่ไม่ควรกินเกิน 20 mg/วัน ซึ่งจะช่วยให้โบท็อกออกฤทธิ์ได้ไวขึ้น อยู่ได้นานขึ้น
ก่อนฉีดโบท็อกซ์ ครั้งแรกควรรู้อะไรบ้าง ? ต้องเตรียมตัวอย่างไร ?

อันตรายจากการฉีดโบท็อกแต่ละตำแหน่ง เท่ากันไหม ?

อันตรายจากการฉีดโบท็อกซ์แต่ละตำแหน่งไม่เท่ากันครับ เนื่องจากความเสี่ยงและผลข้างเคียงอาจเกิดขึ้นแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีด

ตำแหน่งที่เสี่ยงอันตรายน้อย

  • หน้าผาก เป็นตำแหน่งที่มีความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและไม่ใกล้กับเส้นประสาทหรือหลอดเลือดสำคัญ
  • หางตา เป็นตำแหน่งที่มีความเสี่ยงต่ำเช่นกัน แต่ต้องฉีดอย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการไหลของโบท็อกซ์ไปยังกล้ามเนื้อที่ควบคุมการกะพริบตา
  • คิ้ว การฉีดโบท็อกซ์ที่คิ้วอาจมีความเสี่ยงเล็กน้อยในการทำให้คิ้วตก แต่โดยทั่วไปแล้วถือว่าปลอดภัยครับ

ตำแหน่งที่มีความเสี่ยงปานกลาง

  • กราม หากฉีดโบท็อกกรามผิดตำแหน่ง ใช้ปริมาณยาไม่เหมาะสม หรือมีเหตุทำให้ตัวยากระจายไปเกาะบริเวณกล้ามเนื้อที่ไม่ต้องการ ก็จะทำให้มีผลข้างเคียง เช่น ปากเบี้ยว มุมปากตก ยิ้มไม่ขึ้น ยิ้มไม่สุด
  • จมูก การฉีดโบท็อกซ์ที่จมูกอาจมีความเสี่ยงในการทำให้จมูกเบี้ยวหรือหายใจลำบากได้ หากฉีดผิดตำแหน่งหรือฉีดในปริมาณที่มากเกินไป

ตำแหน่งที่มีความเสี่ยงสูง

  • รอบดวงตา การฉีดโบท็อกใต้ตาต้องอาศัยเทคนิคและความพิถีพิถันในการฉีด หากแพทย์มีประสบการณ์ไม่มากพอ เลือกใช้ยี่ห้อโบท็อกไม่เหมาะสม ฉีดแล้วอาจทำให้ตาแข็ง ตาปรือ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตาได้ครับ

ดังนั้น จึงควรเลือกฉีดโบท็อกซ์กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และมีความรู้ความเข้าใจในกายวิภาคของใบหน้าอย่างดี เพื่อลดความเสี่ยงจากอันตรายและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ครับ


ฉีดโบท็อกแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น มีความเสี่ยงต่างกันไหม ?

โบท็อกแต่ละยี่ห้อมีข้อควรระวังอะไรบ้าง ?

ความเสี่ยงจากการฉีดโบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น อาจมีความแตกต่างกันได้บ้าง แต่โดยทั่วไปแล้ว ความเสี่ยงหลัก ๆ จะคล้ายคลึงกันครับ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ส่วนประกอบและความบริสุทธิ์ของโบท็อกซ์ ปริมาณหน่วยของโบท็อกซ์ และเทคนิคการฉีดของแพทย์ครับ

โบท็อกซ์ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ของประเทศต่าง ๆ ถือว่ามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการใช้งาน แต่ก็ยังมีความเสี่ยงของผลข้างเคียงได้เช่นกันครับ

ฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดีสุด ? โบท็อกซ์ยี่ห้อที่ผ่าน อย อัพเดท 2024

วิธีสังเกตผลข้างเคียงจากโบท็อกด้วยตัวเอง

หลังฉีดโบท็อก อาจมีอาการบวมเข็มเล็กน้อยตรงจุดที่ฉีด รวมทั้งอาจมีอาการปวด เมื่อย เกิดขึ้นได้เป็นปกติ ไม่จัดว่าเป็นผลข้างเคียงแต่อย่างใดครับ ซึ่งจะสามารถหายไปได้เองภายในประมาณ 2-3 วัน

ส่วนในกรณีที่พ้นช่วงอาการบวมแล้ว คนไข้ยังมีอาการฉีดโบท็อกแล้วปากเบี้ยว ตาตก ยิ้มไม่สุด มีอาการแพ้ หรืออักเสบติดเชื้อ ถือเป็นผลข้างเคียงที่ผิดปกติ มักเป็นผลข้างเคียงที่เกิดจากความไม่ชำนาญของแพทย์ ปริมาณโบท็อกที่ใช้ไม่เหมาะสม หรือการใช้โบท็อกปลอมในการฉีดครับ


ข้อปฏิบัติหากพบผลข้างเคียงจากโบท็อก

หากพบผลข้างเคียงหลังจากการฉีดโบท็อกซ์ คนไข้ควรปฏิบัติดังนี้

  1. ปรึกษาแพทย์ทันที : หากมีอาการผิดปกติหรือไม่สบายใจ ควรติดต่อแพทย์ทันที เพื่อให้แพทย์ทำการประเมินอาการและวางแผนการดูแลทางการแพทย์ที่เหมาะสม
  2. ดูแลตัวเอง : หลังฉีดโบหากมีอาการเล็กน้อย เช่น บวมหรือแดงบริเวณที่ฉีด ควรระวังและดูแลตนเองให้ดีโดยการพักผ่อนให้เพียงพอ และป้องกันไม่ให้เกิดอาการแสบร้อนหรือความผิดปกติเพิ่มเติม
  3. ติดตามอาการ : หลังการปฏิบัติตามข้อแนะนำข้างต้น ควรติดตามอาการที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด เพื่อตรวจสอบว่าอาการมีการดีขึ้นหรือเปลี่ยนแปลงอย่างไร

การปฏิบัติตามข้อแนะนำนี้จะช่วยลดความเสี่ยงและช่วยให้การฉีดโบท็อกซ์ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นครับ


ฉีดโบท็อก ที่ไหนดี ? เลือกอย่างไรให้ปลอดภัย

ก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อก ที่ไหนดี ควรเลือกคลินิกฉีดโบท็อกอย่างไร ให้ปลอดภัยและไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง หมอแนะนำให้พิจารณาจากเช็กลิสต์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

เลือกฉีดโบท็อกที่ไหนดี ก่อนฉีดต้องรู้อะไบ้าง ?
  1. ต้องเป็นคลินิกที่มีใบอนุญาตรับรองอย่างถูกต้อง เปิดให้บริการอย่างถูกกฎหมาย อุปกรณ์และเครื่องมือมีความทันสมัยพร้อมให้บริการ สะอาด ปลอดเชื้อ
  2. หมอมีประสบการณ์ เป็นแพทย์ประจำคลินิก (full-time) มีความชำนาญด้านการฉีดโบท็อกซ์ปรับรูปหน้า และมีเลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่สามารถตรวจสอบได้
  3. ฉีดโบท็อกซ์แท้ ที่ผ่านการรับรองจาก อย. เท่านั้น ก่อนฉีดควรให้หมอ แกะกล่องใหม่ ผสมยา ให้ดูต่อหน้า และขอกล่องกลับบ้าน สามารถตรวจสอบได้ เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นโบท็อกแท้
  4. ควรมีรีวิวเปรียบเทียบผลการฉีดโบท็อกทั้ง ก่อน-หลังทำ ที่คนไข้เป็นคนโพสต์ หรือ Feedback ในช่องทางที่เป็นกลาง เช่น รีวิวติดดาวใน Facebook รีวิวติดดาวใน Google maps หรือตาม Website ต่าง ๆ
  5. คลินิกมีการให้ข้อมูลรายละเอียดอย่างครบถ้วน ชัดเจน ตรงไปตรงมา คุณหมอช่วยให้คำแนะนำต่าง ๆ แก่คนไข้โดยตรง เช่น การดูแลตัวเองก่อน–หลังฉีดโบท็อก รวมทั้งมีการนัดหมายเพื่อติดตามผลหลังจากฉีดเสร็จแล้ว
  6. คลินิกควรมีช่องทางติดต่อ เบอร์โทรศัพท์ และช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Line@ หรือ Facebook สำหรับให้คนไข้สามารถสอบถามหรือทำการนัดหมายได้อย่างสะดวก

สรุป

ฉีดโบท็อกอันตรายไหม ? คำตอบคือการฉีดโบท็อกเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยครับ แต่ต้องฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ มีเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง ใช้ผลิตภัณฑ์โบท็อกแท้ ที่ผ่าน อย.เท่านั้น และที่สำคัญคนไข้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายและช่วยให้การฉีดโบท็อกซ์ได้ผลลัพธ์ที่ดี คุ้มค่า ปลอดภัยมากที่สุดครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
ก่อนฉีดโบท็อก

ก่อนฉีดโบท็อกซ์ มีวิธีการเตรียมตัวอย่างไร ? มีข้อห้ามอะไรบ้าง ?

Categories
botox
ก่อนฉีดโบท็อก

ก่อนฉีดโบท็อกซ์

ก่อนฉีดโบท็อกซ์ ควรรู้อะไรบ้าง ? ต้องเตรียมตัวอย่างไร ? สำหรับผู้ที่ฉีดโบท็อกซ์ครั้งแรก หรือมีความกังวลใจเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกซ์ ในบทความนี้หมอจะมาคลายทุกข้อสงสัย พร้อมแนะนำข้อห้ามและข้อปฏิบัติก่อนฉีดโบท็อกซ์ เพื่อเป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจและเตรียมตัวก่อนฉีดโบครับ 

สารบัญ ก่อนฉีดโบท็อกซ์

ไม่พลาดดูคลิปนี้! ก่อนฉีดโบท็อกซ์ครั้งแรก

ก่อนฉีดโบท็อกซ์ ควรรู้อะไรบ้าง ?

ก่อนฉีดโบท็อกซ์ครั้งแรก เราต้องทำความรู้จักโบท็อกซ์ก่อนว่า คืออะไร ฉีดโบท็อกซ์ดีไหม  ฉีดจุดไหนได้บ้าง โดยหมอสรุปทุกข้อควรรู้ก่อนฉีดโบท็อกซ์มาให้แล้วดังนี้ครับ 

1. โบท็อกซ์คืออะไร ? 

โบท็อกซ์ (Botox) คือ การฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin A) ซึ่งเป็นสารที่สกัดจากแบคทีเรียสายพันธ์ุคลอสติเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) เข้าไปที่กล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ 

โดยตัวยาจะเข้าไปจับกับปลายประสาทที่มาควบคุมกล้ามเนื้อ แล้วยับยั้งการกระตุ้นกล้ามเนื้อที่เลี้ยงโดยเส้นประสาทนั้น ทำให้กล้ามเนื้อไม่สามารถหดตัวได้ และอยู่ในสภาพคลายตัวในที่สุด จึงช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากการพับของผิวชั้นนอก หรือในคนที่มีกรามใหญ่จากกล้ามเนื้อ สามารถฉีดโบลดกราม เพื่อลดขนาดกรามให้เล็กลง ปรับรูปหน้าเรียวได้

ทำความรู้จัก ฉีดโบท็อกซ์ คืออะไร ดีไหม?

2. ฉีดโบท็อกซ์ดีไหม ? 

การฉีดโบท็อกซ์เป็นหัตถการที่ช่วยแก้ไขปัญหาได้หลายจุดครับ เช่น ลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า ลิฟกรอบหน้า ลดขนาดกราม ลดเหงื่อบริเวณใต้วงแขน ฝ่ามือ และฝ่าเท้า รวมถึงรัดแกนจมูกให้คมขึ้น และลดขนาดของปีกจมูก หลังฉีดไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

3. ฉีดโบท็อกซ์จุดไหนได้บ้าง ? 

การฉีดโบท็อกซ์สามารถฉีดได้ทุกจุดที่ทำให้เกิดปัญหา ไม่ว่าจะเป็น หน้าผาก, กราม, ระหว่างคิ้ว, สันจมูก, หางตา, ปีกจมูก, กรอบหน้า, ลำคอ, เหนียง, รักแร้, แขน, น่อง, ฝ่ามือ และฝ่าเท้า โดยแต่ละบริเวณจะใช้จำนวนยูนิตที่แตกต่างกัน ซึ่งก่อนฉีดแพทย์จะประเมินปริมาณโบท็อกซ์ที่เหมาะสมให้กับแต่ละคนครับ

จุดฉีดโบท็อกซ์

4. โบท็อกซ์มียี่ห้ออะไรบ้าง ? 

ในไทยมีโบท็อกซ์ให้เลือกฉีดหลายยี่ห้อครับ โดยแต่ละยี่ห้อจะมีจุดเด่นและราคาที่แตกต่างกันไป เช่น อัลเลอร์แกน (Allergan), ดิสพอร์ต (Dysport), ซีโอมิน (Xeomin), เอสท็อกซ์ (Aestox), นาโบตะ (Nabota), นิวโรน็อกซ์ (Neuronox), โบทูแลค (Botulax), และ ฮูเจล (Hugel) 

ฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดีสุด ? โบท็อกซ์ยี่ห้อที่ผ่าน อย อัพเดท 2024 

5. ฉีดโบท็อกซ์ ราคาเท่าไหร่ ? 

ฉีดโบท็อกซ์ราคาจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกซ์ที่ใช้ และปริมาณที่ฉีดเป็นหลัก โดยโปรโมชันโบท็อกซ์ที่ V Square Clinic มีราคาเริ่มต้นที่ 6,999 บาท ได้ผลลัพธ์คุ้มค่าคุ้มราคาครับ

โปรโมชั่นฉีด Botox ที่ V Square Clinic

โบท็อกซ์ราคาโปรโมชัน
โบท็อกซ์ราคาโปรโมชัน
โบท็อกซ์ราคาโปรโมชัน

6. ฉีดโบท็อกซ์ กี่วันเห็นผล ? 

ระยะเวลาการเห็นผลของโบท็อกซ์จะแตกต่างกันไปในบริเวณที่ฉีด โบท็อกซ์ลดริ้วรอย จะเริ่มเห็นผลใน 3-4 วัน เห็นผลเต็มที่ใน 2 สัปดาห์ โบท็อกซ์ลดกราม จะเริ่มเห็นผลใน 14 วัน เห็นผลเต็มที่ 2-3 เดือน ส่วนโบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า เหนียง คอ เริ่มเห็นผลใน 3-4 วัน และเห็นผลเต็มที่ใน 1-2 สัปดาห์ครับ

ฉีดโบท็อกซ์กี่วันเห็นผล

7. ฉีดโบท็อกซ์ เจ็บไหม ? 

ก่อนฉีดโบท็อกซ์จะมีการทายาชาและประคบเย็นก่อนทุกครั้ง ทำให้ลดอาการเจ็บขณะฉีดโบท็อกซ์ได้มาก โดยคนไข้จะรู้สึกเจ็บเล็กน้อย หรือบางคนก็ไม่รู้สึกเจ็บเลยครับ


ก่อนฉีดโบท็อกซ์ ต้องเตรียมตัวอย่างไร ?

การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์มีความสำคัญอย่างมากครับ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย หมอข้อปฏิบัติก่อนฉีดโบท็อกซ์มาแนะนำดังนี้

  1. ศึกษาข้อมูลการฉีดโบท็อกซ์ คืออะไร มียี่ห้อไหนบ้าง รวมถึงวิธีการดูโบท็อกซ์ของแท้ของปลอม
  2. เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดี
  3. ฉีดโบท็อกซ์แท้ ที่ผ่านการรับรองจาก อย. เท่านั้น
  4. ก่อนฉีดควรให้หมอ แกะกล่องใหม่ ผสมยา ให้ดูต่อหน้า และขอกล่องกลับบ้าน สามารถตรวจสอบได้ เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นโบท็อกซ์แท้
  5. หากมีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนฉีดโบท็อกซ์

ก่อนฉีดโบท็อกซ์ ห้ามทำอะไรบ้าง ?

ข้อห้ามก่อนฉีดโบท็อกซ์

  • ก่อนฉีดโบห้ามทานกลุ่มยาที่ลดการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน , NSAIDs และ Ponstan
  • งดอาหารเสริม หรือวิตามิน ที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น วิตามิน E, Ginkgo biloba, น้ำมันปลา
  • งดคอร์สเลเซอร์ แว็กผิวหรือนวดหน้าบริเวณที่ฉีด 2-3 วัน เพื่อลดอาการเขียวช้ำที่อาจเกิดขึ้นได้
  • ก่อนฉีดโบงดแอลกอฮอล์ทุกชนิด เป็นเวลา 24 ชั่วโมง

ก่อนฉีดโบท็อกซ์ ควรปฏิบัติตัวอย่างไรเป็นพิเศษไหม ?

สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการเสริมความงามครั้งแรก ก่อนฉีดโบท็อกซ์ คนไข้ควรเตรียมตัวเองให้พร้อม นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ นอกจากนี้หมอแนะนำให้เริ่มทานอาหารที่มีธาตุสังกะสี (Zinc) แต่ไม่ควรเกิน 50 mg/วัน จะช่วยให้โบท็อกซ์ออกฤทธิ์ไวและอยู่ได้นานขึ้นครับ

Vsquare tips

ข้อควรรู้ : มีงานวิจัยระบุว่าการกิน Zinc 50 mg/วัน ก่อนและหลังฉีดโบท็อกซ์ จะช่วยให้โบท็อกซ์อยู่ได้นานขึ้นประมาณ 30% และออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น ทั้งนี้ควรกินตามคำแนะนำของแพทย์ เพราะหากทานมากเกินไปอาจเกิดการเสริมฤทธิ์โบท็อกซ์รุนแรงและเกิดผลเสียตามมาได้อาจเสริมให้โบท็อกซ์ฤทธิ์รุนแรงเกินไป


ฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดี ? เลือกอย่างไรให้ปลอดภัย

ก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อกซ์ ที่ไหนดี คนไข้ควรคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก โดยหมอแนะนำ 3 ข้อในการพิจารณาคลินิกที่ได้มาตรฐานดังนี้ครับ 

เลือกฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดี ก่อนฉีดต้องรู้อะไบ้าง ?
  1. ดูรีวิวของคลินิก ที่คนไข้เป็นคนโพสต์ หรือ Feedback ในช่องทางที่เป็นกลาง เช่น รีวิวติดดาวใน Facebook รีวิวติดดาวใน Google maps หรือตาม Website ต่าง ๆ
  2. หมอมีประสบการณ์ เป็นแพทย์ประจำคลินิก (full-time) มีประสบการณ์สูง และมีเลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่สามารถตรวจสอบได้
  3. ใช้โบท็อกซ์แท้เท่านั้น คนไข้ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีสังเกตโบท็อกซ์ของแท้ยี่ห้อต่าง ๆ และก่อนฉีดหมอจะต้องแกะกล่อง เปิดขวด ผสมยาให้ดูต่อหน้าทุกครั้ง

ฉีดโบท็อกซ์ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ที่ V Square Clinic ใช้โบท็อกซ์แท้ทุกยี่ห้อ ตรวจสอบได้ ตัวยาบริสุทธิ์ ไม่เจือจาง แกะกล่องใหม่ให้ดูต่อหน้าก่อนฉีด ก่อนทำหัตถการจะมีการประเมินปัญหาของคนไข้ กำหนดจุดฉีดและคำนวณปริมาณยูนิตที่ใช้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ฉีดโบท็อกซ์โดยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์กว่า 15 ปี มีการรับประกัน และนัดติดตามผลหลังทำทุกเคส มั่นใจได้ในผลลัพธ์และความปลอดภัยครับ

คุณต่าย เพ็ญพักตร์ ไว้ใจให้ V Square ดูแลผิวด้วยการฉีดโบลดริ้วรอย

สรุป

ก่อนฉีดโบท็อกซ์ นอกจากจะควรเตรียมตัวให้พร้อมแล้ว คนไข้ต้องศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดรอบคอบ และควรคำนึงถึงความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก เลือกฉีดโบท็อกซ์ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้โบท็อกซ์แท้ แพทย์มีประสบการณ์ รวมถึงดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง เพื่อเพิ่มความมั่นใจก่อนฉีด

สำหรับใครที่สนใจฉีดโบท็อกซ์ ปรับรูปหน้า ลดริ้วรอย อยากปรึกษาหมอเพิ่มเติม สามารถทัก Inbox ส่งรูปหน้า แจ้งปัญหาที่กังวลใจ หมอจะประเมินปัญหา และจำนวน Unit ที่ฉีดให้ เพื่อจะได้วางแผนการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย หมอตอบเองครับ

โบท็อกซ์แท้ ตรวจสอบได้ทุกขวด

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
หลังฉีดโบท็อก370x277

หลังฉีดโบท็อกซ์ อาการเป็นอย่างไร ? มีข้อห้าม-ข้อควรปฏิบัติอย่างไรบ้าง ?

Categories
botox
หลังฉีดโบท็อกซ์

หลังฉีดโบท็อกซ์

หลังฉีดโบท็อกซ์ การปฏิบัติตัวและการดูแลหลังฉีดโบ ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างมากครับ เมื่อคนไข้ตัดสินใจที่จะฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดริ้วรอยหรือปรับรูปหน้า ก็ควรรู้ก่อนว่าหลังจากฉีดโบจะต้องดูแลตัวเองอย่างไร มีข้อห้าม และข้อควรระวังอะไรบ้าง เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและสามารถคงผลลัพธ์ได้นานที่สุดครับ

สารบัญ หลังฉีดโบท็อก

ก่อนและหลัง ฉีดโบท็อกซ์ ควรปฏิบัติตัว และต้องเตรียมตัวอย่างไร ?

หลังฉีดโบท็อกซ์ มักมีอาการอย่างไร ?

อาการหลังฉีดโบท็อกซ์โดยทั่วไปจะคล้ายคลึงกัน ไม่ว่าจะเป็นการฉีดที่ตำแหน่งใดหรือใช้ยี่ห้อใด อาจจะมีรอยแดงหรือรอยเข็มบริเวณที่ฉีด ซึ่งสามารถหายได้เองครับ นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับความลึกของริ้วรอย และปริมาณกล้ามเนื้อในแต่ละจุด เช่น

  • อาการหลังฉีดโบกราม ภายใน 14 วัน จะเริ่มเห็นว่ากล้ามเนื้อนิ่มลง กัดฟันแล้วกล้ามเนื้อกรามไม่เด้ง
  • อาการหลังฉีดโบท็อกซ์ลิฟหน้า 3-4 วันหลังฉีดจะเริ่มเห็นผล รู้สึกตึง ๆ ผิวบริเวณที่ฉีด 
  • อาการหลังฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก โบลดริ้วรอย ผิวจะเริ่มตึงขึ้น ริ้วรอยเหี่ยวย่นเริ่มจางลงใน 3-4 วัน 
  • อาการหลังฉีดโบท็อกซ์ลดต้นแขน ลดน่อง กล้ามเนื้อจะเล็กลงประมาณ 10-20% ภายใน 2-3 เดือน ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด ต้นแขน น่อง เรียวเล็กลง
  • อาการหลังฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ จะเริ่มเห็นผลว่าเหงื่อลดลงในช่วงตั้งแต่ 3-7 วันแรก หลังจากนั้นจะค่อย ๆ แห้งสนิท

หลังฉีดโบท็อกซ์ มีข้อห้ามอะไรบ้าง ?

ข้อห้ามหลังฉีดโบท็อกซ์ที่หมอแนะนำ เพื่อทำให้โบท็อกซ์อยู่ได้นานกว่าปกติและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ หลังจากฉีดโบท็อกซ์ คนไข้ควรปฏิบัติตัวดังนี้

  • ห้ามประคบเย็น เพราะจะขัดขวางการทำงานของโบท็อกซ์ที่จะเข้าสู่เซลล์ประสาท การประคบเย็นจะใช้ในขั้นตอนการฉีด เพื่อลดการไหลเวียนของเส้นเลือดรอบ ๆ บริเวณที่ฉีด
  • ห้ามกด ถู บีบ นวด บริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์ ป้องกันตัวยากระจายตัวจากตำแหน่งที่ฉีดไปยังบริเวณใกล้เคียง และเข้าไปหยุดการทำงานของกล้ามเนื้อส่วนอื่น ๆ ได้
  • ห้ามออกกำลังกายหนัก ๆ ที่ทำให้เลือดสูบฉีดมาก เพราะอาจทำให้โบท็อกซ์สลายตัวเร็วขึ้น แนะนำให้เว้นไว้ประมาณ 2 สัปดาห์ หรืออย่างน้อย 48 ชั่วโมงครับ
  • ห้ามทานยาบางชนิด ซึ่งเป็นกลุ่มยาที่สามารถเสริมฤทธิ์โบท็อกซ์แล้วเกิดอันตรายมาก (Major Side Effects) ได้แก่ กลุ่มยาฆ่าเชื้อแบบฉีด เช่น Amikacin, Colistin, Polymyxin E กลุ่มยาคลายกล้ามเนื้อ เช่น  Atracurium, Cisatracurium, Doxacurium เป็นต้น
  • ห้ามฉีดโบท็อกซ์ถี่เกินไป ควรเว้นอย่างต่ำ 3 เดือน และไม่ควรเกิน 5-6 เดือน เพราะถ้ากล้ามเนื้อกลับมาทำงานตามปกติ จะทำให้ต้องใช้จำนวนยูนิตเยอะขึ้น
Vsquare tips

ข้อควรรู้ : หากมีคอร์สทำหน้า นวดหน้า หรือคอร์สเลเซอร์ที่ต้องทำเป็นประจำ ควรถือโอกาสทำมาก่อนฉีดโบท็อกซ์ เพราะหลังฉีดจะต้องงดไป 2 สัปดาห์ จึงจะทำต่อได้


หลังฉีดโบท็อกซ์ กินอะไรไม่ได้บ้าง ?

อาหารดังต่อไปนี้ เป็นอาหารที่หมอไม่แนะนำให้รับประทานในช่วง 14 วันแรกหลังฉีดโบท็อกซ์ เพราะอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของตัวยาหรือทำให้เกิดผลข้างเคียงทีไม่พึงประสงค์ ได้แก่

  • อาหารรสจัด เผ็ดจัด เค็มจัดเช่น เมนูจำพวกยำ แกงเผ็ดต่าง ๆ เนื่องจากหลังฉีดโบท็อกซ์ยังมีรอยเข็มอยู่บ้างเล็กน้อย ในขณะที่เช็ดน้ำมูก น้ำตา ที่เกิดจากการทานอาหารรสจัด อาจส่งผลให้ติดเชื้อที่รอยเข็มได้ง่ายกว่าปกติ
  • อาหารที่มีรสหวานมากเกินไป เนื่องจากเมื่อรับประทานอาหารหวานมากๆ ฮอร์โมนอินซูลินจะถูกผลิตออกมามาก ทำให้เกิดการกระตุ้นการอักเสบในร่างกายมากขึ้น แผลบริเวณที่ทำหัตถการหายช้าลงได้ครับ
  • อาหารหมักดอง เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง มะม่วงดอง เพราะอาหารประเภทนี้ มักจะมีกรรมวิธีทำที่ไม่สะอาด เสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อ อาจไปกระตุ้นให้แผลจากรอยเข็มที่ฉีดโบท็อกซ์เกิดการบวมอักเสบขึ้นมาได้ครับ แนะนำให้งดสักประมาณ 2 สัปดาห์ หรืออย่างน้อยที่สุด 3 วัน
  • อาหารที่ไม่ได้ผ่านการปรุงสุก อาหารที่ไม่สด อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ เนื่องจากมีอาจมีการปนเปื้อนของพยาธิบางชนิดที่สามารถไปเพิ่มการอักเสบหลังจากการฉีดโบท็อกซ์ได้ครับ
  • เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ จะทำให้หลอดเลือดขยายตัว การไหลเวียนของเลือดเพิ่มขึ้น ส่งผลให้โบท็อกซ์ออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่ โดยเฉพาะหลังฉีด 48 ชั่วโมง จึงควรงดก่อนครับ

หลังฉีดโบท็อกซ์ ควรปฏิบัติตัวอย่างไร ?

ข้อปฏิบัติหลังฉีดโบท็อก
  • หลังฉีดโบ 3 ชม. ไม่ควรประคบเย็น เพราะจะขัดขวางการดูดโบท็อกซ์เข้าเซลล์ประสาท และห้ามนอนราบ รวมทั้งงดการก้มหัวลงต่ำกว่าระดับหัวใจ
  • หลังฉีดโบ 24 ชม. สามารถทาครีมทับบริเวณเข็มได้ และแต่งหน้าทับได้ตามปกติ
  • หลังฉีดโบ 48 ชม. หากสามารถหลีกเลี่ยงอาหารที่ห้ามกินและความร้อนได้ตามข้อห้ามหลังฉีดโบ จะได้รับผลโบท็อกซ์ 90% จากปกติ
  • หลังฉีดโบ 2-3 วัน บางคนจะเริ่มเห็นผลจากการฉีดลดริ้วรอยบางส่วน ในขณะที่บางคนอาจมีผลข้างเคียงชนิดไม่อันตราย เช่น ปวดหัว ตาพร่า คอแห้ง ซึ่งผลข้างเคียงนี้เป็นแค่ชั่วคราว หายได้เองใน 7-14 วัน อาการปวดหัวสามารถประคบเย็นได้ หากมีอาการมาก แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ครับ 
  • หลังฉีดโบ 7-10 วัน หน้าบวมได้เล็กน้อย รอยเขียวช้ำอาจจะยังมีอยู่ และจะค่อย ๆ จางลงเองใน 14 วัน ไม่ควรประคบร้อน
  • หลังฉีดโบ 14 วัน หากหลีกเลี่ยงอาหารที่ห้ามกินและความร้อนได้ครบ 14 วัน จะได้รับผลโบท็อกซ์ 100% จากปกติ ในระยะนี้จะเห็นผลจากการฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยเกือบเต็มที่ และเห็นผลจากการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม กัดกรามจะไม่เด้ง แต่กรามจะยังไม่ยุบลง ต้องใช้เวลา 2 เดือนจึงจะยุบเต็มที่
  • หลังฉีดโบ 14 วัน จนถึงการฉีดโบท็อกซ์ครั้งต่อไป สามารถออกกำลังกายได้ตามปกติ และพยายามหลีกเลี่ยงความร้อน กินอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี เปลี่ยนนิสัยในการขยับกล้ามเนื้อจุดที่ฉีดโบท็อกซ์ให้น้อยลง รวมถึงควรฉีดโบท็อกซ์ต่อเนื่องในระยะที่เหมาะสม เพื่อคงผลลัพธ์

หลังฉีดโบท็อกซ์ ดูแลตัวเองอย่างไรได้บ้าง ?

วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์
  • ควรรีบขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง ถ้าหากฉีดโบท็อกซ์กรามให้เคี้ยวหมากฝรั่งหลังฉีด
  • ควรทานอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี (Zinc) จะช่วยให้โบท็อกซ์ออกฤทธิ์ไวและอยู่ได้นานขึ้น
  • หลังฉีดโบท็อกซ์ห้ามนอนราบ นอนคว่ำ ก้มหัวต่ำกว่าหน้าอก เป็นเวลา 3 ชม.
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำหน้าแดง หรือสัมผัสความร้อนทุกชนิด เช่น การออกกำลังกายอย่างหนัก อบซาวน่า เลเซอร์ อย่างน้อย 48 ชม.
  • เลี่ยงอาหารที่มีรสจัด อาหารหมักดอง อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน เช่น ชาบู ปิ้งย่าง 2 สัปดาห์หลังทำ
  • งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ 2 สัปดาห์หลังทำ

ข้อควรระวังหลังฉีดโบท็อกซ์

ข้อควรระวังหลังจากฉีดโบไปแล้ว คือ คนไข้สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้เรื่อย ๆ ครับ หากต้องการรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้น แต่ควรเว้นช่วงระยะเวลาที่เหมาะสม ไม่ฉีดถี่จนเกินไป ควรเว้นระยะห่าง 3 เดือน เป็นอย่างต่ำ เพราะการฉีดโบท็อกซ์ในปริมาณมาก หรือฉีดถี่เกินไป ร่างกายกระตุ้นให้เกิดภูมิต้านทานต่อต้านโบท็อกซ์ หรือที่เรียกว่าภาวะดื้อโบท็อกซ์ ทำให้การฉีดครั้งต่อ ๆ ไปไม่ได้ผล


สรุป

หลังฉีดโบท็อกซ์ โดยเฉพาะในช่วง14 วันแรก คนไข้ควรดูแลตัวเองและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ระมัดระวังเรื่องของข้อห้ามต่าง ๆ ที่หมอได้กล่าวไปข้างต้น จะส่งผลต่อประสิทธิภาพการออกฤทธิ์ของโบท็อกซ์และช่วยให้โบท็อกซ์อยู่ได้ยาวนานขึ้นครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยกี่ยูนิตหน้าแข็งไหม370x277

8 จุดฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย ลดรอยยับบนใบหน้า ต้องฉีดกี่ยูนิต หน้าแข็งไหม มีอะไรที่ควรรู้ก่อนฉีด

Categories
botox

ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย

ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยกี่ยูนิตหน้าแข็งไหม1000x860

ปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า สามารถแก้ไขได้อย่างรวดเร็วด้วยการฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยครับ 

การฉีด Botox ริ้วรอย เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมานาน ราคาไม่แพงมาก ฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยทั่วหน้าได้ เช่น โบท็อกซ์หน้าผาก, โบท็อกซ์ตีนกา, โบท็อกหัวคิ้ว ริ้วรอยต่าง ๆ ที่เกิดจากการขยับหรือแสดงสีหน้า หลังฉีดช่วยลดริ้วรอยได้อย่างเห็นผล และถือว่าอยู่ได้ค่อนข้างนาน คุ้มค่ากับราคาที่จ่าย

แต่การฉีดโบลดริ้วรอยก็ไม่ใช่ว่าจะฉีดกับใคร ที่ไหนก็ได้ครับ ยิ่งในปัจจุบันมีข่าวคลินิกเถื่อน ยาปลอม หมอกระเป๋ามาให้เห็นอยู่เรื่อย ๆ คนไข้ต้องเลือกคลินิกให้มั่นใจทุกครั้งก่อนฉีด ในบทความนี้หมอจะมาสรุปเรื่องที่ควรรู้ก่อนฉีดโบท็อกลดริ้วรอยให้ครับ

สารบัญ ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย

  1. ฉีดโบลดริ้วรอย คืออะไร ?
  2. ริ้วรอยบนใบหน้าเกิดจากอะไร ?
  3. โบท็อกซ์ลดริ้วรอยได้อย่างไร ?
  4. โบท็อกซ์ลดริ้วรอยอันตรายไหม ?
  5. ข้อดีข้อเสียของโบท็อกซ์ลดริ้วรอย
  6. โบท็อกซ์ริ้วรอยบนใบหน้า สามารถทำจุดใดได้บ้าง ?
  7. ฉีดโบลดริ้วรอย แต่ละจุดใช้กี่ยูนิต ?
  8. ฉีดโบลดริ้วรอยยี่ห้อไหนดี ?
  9. ขั้นตอนการฉีดโบลดริ้วรอยที่ V Square Clinic
  10. โบท็อกซ์ลดริ้วรอย ราคาเท่าไร ?
  11. ฉีดโบลดริ้วรอย กี่วันเห็นผล ?
  12. ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย ที่ไหนดี ?
  13. ก่อนฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย ต้องเตรียมตัวอย่างไร ?
  14. ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย มีผลข้างเคียงไหม ?
  15. ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย อยู่ได้นานไหม ?
  16. วิธีปฏิบัติหลังฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย
  17. รีวิว ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย

ฉีดโบลดริ้วรอย คืออะไร ?

ก่อนอื่นหมออยากให้คนไข้มีความรู้เกี่ยวกับตัวยาโบท็อกก่อนครับ ว่าคืออะไร ออกฤทธิ์ยังไง ช่วยอะไรได้บ้าง

การฉีดโบลดริ้วรอย คือ การฉีด Botox หรือ Botulinum Toxin Type A เข้าไปบริเวณกล้ามเนื้อในจุดที่มีริ้วรอยบนผิว โบท็อกจะออกฤทธิ์กับระบบประสาท (Neurotoxin) ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ไม่เป็นรอยพับ ช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากการขยับของกล้ามเนื้อได้

หลาย ๆ คนพอพูดถึงการฉีดโบท็อก ก็จะคิดว่าฉีดลดริ้วรอยได้ทุกอย่าง แต่จริง ๆ ไม่ใช่ครับ ริ้วรอยบนใบหน้าของคนเราเกิดจากหลายสาเหตุ ซึ่งก็ต้องใช้วิธีแก้ไขต่างกันไป โบท็อกจะออกฤทธิ์กับส่วนที่เป็นกล้ามเนื้อเท่านั้น


ริ้วรอยบนใบหน้าเกิดจากอะไร ?

ริ้วรอยแบ่งเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ 2 ประเภท มีสาเหตุการเกิดที่แตกต่างกันครับ 

Dynamic Line

ริ้วรอย Dynamic Line

ริ้วรอยที่จะมองเห็นเวลาเราแสดงสีหน้า เกิดจากการขยับของกล้ามเนื้อเวลาทำหน้าแบบต่าง ๆ เช่น ขมวดคิ้ว หยีตา ยิ้มกว้าง ๆ เลิกหน้าผาก ถ้าทำบ่อย ๆ ริ้วรอยก็จะลึกขึ้น สามารถใช้การฉีดโบลดริ้วรอยได้

Static Line

ริ้วรอย Static Line

ริ้วรอยที่มองเห็นได้แม้จะไม่ได้กำลังแสดงสีหน้า เกิดจากการเสื่อมของโครงสร้างผิวเมื่ออายุมากขึ้น สูญเสียคอลลาเจน อีลาสติน ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น หรือในคนที่มี Dynamic Line ลึก ๆ ก็พัฒนามาเป็น Static Line ได้ครับ ริ้วรอยประเภทนี้ต้องแก้ไขโดยการเสริมโครงสร้างผิวที่เสื่อมไป กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน เช่น การทำ Hifu Ultraformer III

Vsquare tips

ริ้วรอยอีกประเภทเรียกว่า Wrinkle Fold ครับ เกิดจากการหย่อนคล้อยของผิว บวกกับชั้นไขมันที่ลดลง ทำให้เกิดปัญหาร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ร่องใต้ตา ถุงใต้ตา

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยภายนอกอื่น ๆ ที่ส่งผลให้เกิดริ้วรอยเร็วขึ้น 

  • แสงแดด มลภาวะ สภาพอากาศ
  • พักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด
  • การเช็ดหน้าแรง ๆ พฤติกรรมที่ทำร้ายผิว
  • ขาดการบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ
  • การดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่

โบท็อกซ์ลดริ้วรอยได้อย่างไร ?

หมอจะอธิบายการออกฤทธิ์ของโบท็อกเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นนะครับ ต้องเข้าใจก่อนว่าโบท็อกที่อยู่ในขวดแรกเริ่มจะเป็นผลึกขาว ๆ ต้องผสมน้ำเกลือลงไปละลายก่อนจึงจะดูดออกมาจากขวดแล้วฉีดให้คนไข้

ตัวยาโบท็อกที่เป็นน้ำใส ๆ จะถูกหมอฉีดเข้าไปในกล้ามเนื้อมัดที่ต้องการ จากนั้นยาจะแยกเป็น 2 ส่วน 

กระบวนการออกฤทธิ์ของโบท็อกภายในเซลล์
กระบวนการออกฤทธิ์ของโบท็อกภายในเซลล์
  • ส่วนที่ถูกดูดซึมเข้าไปเก็บไว้ในเซลล์ประสาท ยาส่วนนี้จะออกฤทธิ์รบกวนการทำงานของระบบประสาท มีผลทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานลดลงชั่วคราว เมื่อกล้ามเนื้อไม่มีแรงก็จะทำให้หดเกร็งหรือพับไม่ได้ กล้ามเนื้อจะคลายตัวออก ผิวหนังชั้นบนก็จะถูกคลี่ออกตามไปด้วย ริ้วรอยต่าง ๆ จึงจางหายไปครับ (ฉีดโบลดริ้วรอยอยู่ได้กี่เดือน อยู่ได้นานแค่ไหน จะขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของยาในส่วนนี้)
  • ส่วนที่ไม่ถูกดูดซึม จะปลิวไปตามกระแสเลือดในระยะเวลาไม่เกิน 1 ชม. และถูกขับออกไปโดยไม่ส่งผลต่อเซลล์อื่นในร่างกาย

โบท็อกซ์ลดริ้วรอยอันตรายไหม ?

เงื่อนไขในการฉีดโบท็อกให้ปลอดภัย คือต้องฉีดโบท็อกแท้ โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ และฉีดในคลินิกที่ได้มาตรฐานครับ

หลาย ๆ คนที่ยังไม่เคยฉีดโบท็อกมาก่อน อาจมีความกังวลเรื่องฉีดโบท็อกลดริ้วรอยแล้วหน้าแข็งไม่เป็นธรรมชาติ ตาตก ปากเบี้ยว ตามที่เห็นในข่าว ซึ่งสาเหตุจริง ๆ เกิดจากเทคนิคการฉีดของแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์มากพอ ทำให้ตัวยากระจายไปโดนมัดกล้ามเนื้อที่ไม่ต้องการ ไม่ใช่หมอทุกคนที่ฉีดแล้วจะเป็นแบบนี้ครับ จึงเป็นเหตุผลที่ควรฉีดโบท็อกกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ มีความพิถีพิถัน แม่นยำในการฉีด 

การฉีดโบท็อกแล้วอันตราย จะเกิดจากฉีดโบท็อกปลอม โบท็อกหิ้ว ที่นำเข้ามาโดยผิดกฎหมาย ไม่ผ่าน อย. ฉีดโบลดริ้วรอยราคาถูกกับคลินิกเถื่อน หมอกระเป๋า  ถ้าไม่มั่นใจว่าเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน ห้ามฉีดด้วยเด็ดขาดครับ

วิธีดู โบท็อกซ์ปลอม โบท็อกหิ้ว? โบท็อกแต่ละยี่ห้อ มีข้อควรระวังอะไร? l หมอ V Square แชร์หมดเปลือก
วิธีดูโบท็อกซ์แท้ ยังไงก็ไม่พลาด บอกลาโบท็อกปลอม

ข้อดีข้อเสียของโบท็อกซ์ลดริ้วรอย 

  • ข้อดีของโบท็อกซ์ลดริ้วรอย เริ่มเห็นผลใน 3-7 วัน เห็นผลเร็วและชัดเจนกว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอยทั่วไป มีการเตรียมตัวไม่ยุ่งยาก หลังฉีดสามารถใช้หน้าและกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้เลย ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น และช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้
  • ข้อเสียของโบท็อกซ์ลดริ้วรอย ไม่สามารถอยู่ได้ถาวร จะอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน หมายความว่าเมื่อโบท็อกหมดฤทธิ์ก็สามารถกลับมามีริ้วรอยใหม่ได้ แต่ก็สามารถฉีดเติมได้เรื่อย ๆ โดยเว้นระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการดื้อโบท็อกครับ

โบท็อกซ์ริ้วรอยบนใบหน้า สามารถทำจุดใดได้บ้าง ?

โบท็อกซ์ริ้วรอยบนใบหน้า สามารถทำจุดใดได้บ้าง

ฉีดโบลดริ้วรอย แต่ละจุดใช้กี่ยูนิต ?

ฉีดโบลดริ้วรอย แต่ละจุดใช้กี่ยูนิต

การฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยทั่วหน้า ถ้านับเฉพาะริ้วรอยอย่างเดียวโดยจะใช้โบท็อกประมาณ 60-70 ยูนิตครับ แต่ส่วนใหญ่คนไข้ก็จะมาลดริ้วรอยพร้อมฉีดโบท็อกลดกราม หรือลิฟหน้าไปด้วย ก็จะใช้ประมาณ 100-150 ยูนิต

ตัวอย่างจำนวนโบท็อกลดริ้วรอยเฉพาะจุด

สำหรับริ้วรอยที่เกิดจากการขยับของกล้ามเนื้อ สามารถใช้โบท็อกแก้ไขได้ทั่วหน้าครับ แต่ปริมาณยูนิตจะมากน้อยต่างกันไปในแต่ละจุด และแต่ละคน หมอจะประเมินให้เหมาะสมกับปัญหาและความต้องการของคนไข้ อย่างคนไข้บางคนชอบให้หน้าตึงมาก ๆ หมอก็จะเพิ่มปริมาณยูนิตให้ครับ ส่วนใครที่อยากได้ความเป็นธรรมชาติ หมอก็จะฉีดโบท็อกให้หน้าไม่ดูแข็งเกินไป


ฉีดโบลดริ้วรอยยี่ห้อไหนดี ?

โบท็อกยี่ห้อไหนดีที่สุด อเมริกา/เกาหลี/อังกฤษ/เยอรมัน ต่างกันอย่างไร ?

โบท็อกอเมริกา

  • Allergan เป็น Original ของโบท็อก มีงานวิจัยรับรองยาวนานที่สุด ให้ผลการรักษาที่แม่นยำ มีความบริสุทธิ์สูง เห็นผลเร็ว อยู่ได้นาน เมื่อเทียบกับโบท็อกยี่ห้ออื่น ๆ

โบท็อกเกาหลี

  • Nabota ออกฤทธิ์ไว เห็นผลเร็ว เหมาะกับคนที่ต้องการผลเร่งด่วน เป็นโบท็อกเกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านงานวิจัยรับรองจาก อย. อเมริกา U.S.FDA
  • Aestox ตัวยาจะออกฤทธิ์คล้าย ๆ กับโบท็อก Nabota ครับ ราคาถูกกว่าโบท็อกอเมริกาเท่าตัว

โบท็อกอังกฤษ

  • Dysport ตัวยากระจายทั่วถึง ไม่กระจุกเป็นจุดแคบ ๆ เหมาะกับการฉีดโบท็อกด้วย เทคนิค dermolift เพื่อยกกระชับหน้า และฉีดลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว ลดต้นแขน ลดน่อง

โบท็อกเยอรมัน

  • Xeomin พัฒนาโดยเอาข้อดีของ Allergan กับ Dysport มารวมกัน ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ และมีงานวิจัยยืนยันว่า Xeomin ได้ผลดีในเคสที่ดื้อโบท็อก (ต้องหยุดการฉีดโบท็อกมาแล้วอย่างน้อย 2-3 ปี)

ขั้นตอนการฉีดโบลดริ้วรอยที่ V Square Clinic

  • แจ้งประวัติ โรคประจำตัว ยาที่แพ้
  • พบแพทย์เพื่อให้ประเมินปัญหา สภาพผิว แจ้งความต้องการ
  • แพทย์จะแนะนำยี่ห้อโบท็อกลดริ้วรอยที่เหมาะสม รวมถึงแจ้งปริมาณยูนิตที่ต้องใช้
  • สำหรับคนที่กลัวเจ็บ จะมีการแปะยาชาให้ก่อนทำหัตถการ ระหว่างฉีดก็จะมีการประคบน้ำแข็งไปด้วยครับ
  • ก่อนฉีดโบท็อก หมอจะแกะกล่อง เปิดขวด ผสมตัวยาให้คนไข้ดูต่อหน้าทุกเคส สามารถนำกล่องและขวดกลับบ้านได้ครับ

โบท็อกซ์ลดริ้วรอย ราคาเท่าไร ?

โบท็อกซ์ลดริ้วรอย ราคาจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกและจำนวนยูนิตที่ใช้ครับ

ฉีดโบลดริ้วรอยราคาเฉพาะจุด

ราคาโบท็อกลดริ้วรอยเฉพาะจุด 

โบท็อก Nabota / Aestox

  • ระหว่างคิ้ว 25 U ราคา 3,000.-
  • ลดโหนกแก้ม 25 U ราคา 3,000.-
  • หางตา / ใต้ตา 25 U ราคา 3,000.-
  • ปีกจมูก 25 U ราคา 3,000.-
  • หน้าผาก 30 U ราคา 3,500.-
โบท็อกราคาทั่วหน้า

ราคาโบท็อกลดริ้วรอยทั่วหน้า

โบท็อก Nabota / Aestox

  • 100 U ราคา 9,000.-
  • 150 U ราคา 12,000.-

โบท็อก Allergan

  • 50 U ราคา 11,000.-
  • 100 U ราคา 18,999.-

โบท็อก  Xeomin 

  • 100 U ราคา 18,000.-

โบท็อก Dysport

  • 300 U ราคา 18,999.-

โบท็อกเกาหลี Neuronox

  • 100 U ราคา 9,500.-

*โบท็อกซ์ Dysport 300 ยูนิตจะเทียบเท่ากับ 100 ยูนิตของโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่น ๆ เป็นจุดที่ควรระวัง เพราะบางคลินิกจัดโปรโมชั่นโบท็อกอังกฤษ 100 ยูนิต และไม่ชี้แจง ทำให้ดูเหมือนราคาถูก แต่จริง ๆ แล้วเทียบประสิทธิภาพเท่ากับโบท็อกอเมริกาแค่ 40 ยูนิตครับ


ฉีดโบลดริ้วรอย กี่วันเห็นผล ?

ฉีดโบลดริ้วรอยกี่วันเห็นผล จะแยกผลเป็น 2 ส่วนครับ

  • ส่วนของกล้ามเนื้อที่ขยับ เริ่มออกฤทธิ์และเห็นผลประมาณ 3-7 วัน เห็นผลเต็มที่ 14 วันครับ
  • ส่วนของริ้วรอยเล็ก ๆ บนผิว เริ่มออกฤทธิ์และเห็นผลเต็มที่ประมาณ 4-6 สัปดาห์ เพราะต้องรอให้ร่างกายสร้าง collagen ขึ้นมาชดเชยร่องที่เคยโดนพับตอนที่กล้ามเนื้อทำงานเยอะ ๆ ครับ 

ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย ที่ไหนดี ?

ก่อนตัดสินใจเลือกฉีดโบลดริ้วรอยที่ไหนดี ควรพิจารณาตามหัวข้อต่อไปนี้ครับ

  1. เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตถูกต้อง ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ตั้งอยู่ในทำเลที่ปลอดภัย เช่น ห้างสรรพสินค้า อาคารพาณิชย์
  2. ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ สามารถนำชื่อ-นามสกุลเข้าไปตรวจสอบในเว็บไซต์ของแพทยสภา (http://www.tmc.or.th/check_md/) เพื่อดูว่าเป็นแพทย์จริง มีใบรับรอง
  3. ใช้โบท็อกแท้เท่านั้น คนไข้ควรศึกษาวิธีดูโบท็อกแท้เบื้องต้น ก่อนฉีดหมอต้องแกะกล่อง เปิดขวด ผสมยาให้ดูต่อหน้า
  4. ดูรีวิวฉีดโบท็อกลดริ้วรอยจากเคสที่เคยใช้บริการจริง ในแหล่งที่เป็นกลาง น่าเชื่อถือ คลินิกไม่สามารถลบหรือแก้ไขได้
ก่อนฉีดโบท็อกแพทย์ดึงยาออกจากขวดต่อหน้า
ก่อนฉีดโบท็อกแพทย์ต้องผสมน้ำเกลือและดึงยาออกจากขวดต่อหน้าคนไข้ทุกครั้ง

ก่อนฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย ต้องเตรียมตัวอย่างไร ?

  • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบริ้วรอย การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน การเลือกหมอ ดูรีวิว
  • งดยาและวิตามินบางชนิดก่อนฉีด เช่น แอสไพริน, NSAIDs, วิตามิน St. John’s Wort, ginkgo biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E
  • งดยาผลัดเซลล์ผิว การดึงหรือโกนขนบริเวณที่จะฉีดโบท็อก
  • แจ้งขอแปะยาชาก่อนฉีดโบท็อกได้
  • หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำควรแจ้งแพทย์ก่อนฉีดโบท็อกทุกครั้ง
การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกริ้วรอย

ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย มีผลข้างเคียงไหม ?

ผลข้างเคียงปกติที่เกิดขึ้นได้ หากฉีดในคลินิกที่ได้มาตรฐาน คือจะมีรอยเข็มที่ฉีดโบท็อก หรือบางคนอาจจะรู้เมื่อย ๆ กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดในช่วงแรกครับ 

ส่วนผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่เกิดจากการฉีดผิดพลาด คลินิกเถื่อน หมอกระเป๋า ยาปลอม ที่พบบ่อย ๆ คือ ตาตก ปากเบี้ยว หน้าไม่สมมาตร แพ้เห่อแดงที่ผิวหนัง หน้าดูแข็งตึงไม่เป็นธรรมชาติ


ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย อยู่ได้นานไหม ?

ปกติแล้วโบท็อกริ้วรอยจะอยู่ได้นาน 3-4 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกที่ใช้ ปริมาณยูนิตที่ฉีด และการดูแลตัวเองของคนไข้ร่วมด้วยครับ


วิธีปฏิบัติหลังฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย

  • หลังฉีดโบท็อกควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง
  • งดนอนราบหรือเอนศีรษะประมาณ 3 ชม. ป้องกันการไหลเวียนของยาที่อาจไปสู่กล้ามเนื้อบริเวณอื่นที่ไม่ต้องการ  
  • หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง อย่างน้อย 48 ชั่วโมง
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ อาหารรสจัด อาหารหมักดอง
  • หากมีคอร์สทำหน้า นวดหน้า ควรงด 2 สัปดาห์หลังทำ
  • ควรรับประทานอาหารที่มี zinc (แร่ธาตุสังกะสีจะช่วยเพิ่มฤทธิ์ของโบท็อก)
วิธีปฏิบัติหลังฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย

รีวิว ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย

รีวิว Botox ริ้วรอย ที่ V Square Clinic หมอจะประเมินปัญหา ความต้องการ และแนะนำยี่ห้อโบท็อก ปริมาณ ให้เหมาะสมกับจุดที่ฉีดและงบประมาณของคนไข้แต่ละคน

รีวิวโบท็อกริ้วรอยหน้าผาก
รีวิวโบท็อกริ้วรอยหน้าผาก
รีวิวโบท็อกริ้วรอยทั่วหน้า 300 U
รีวิวโบท็อกริ้วรอยทั่วหน้า 300 U
รีวิวโบท็อกริ้วรอย 65 U
รีวิวโบท็อกริ้วรอย 65 U

สรุป

หากมีปัญหาริ้วรอยและต้องการแก้ไขอย่างรวดเร็ว การฉีดโบลดริ้วรอยเป็นหัตถการที่คุ้มค่า เห็นผลเร็ว ชัดเจน หากเทียบกับการใช้ผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอยราคาแพง ๆ หลายกระปุก แต่ทั้งนี้คนไข้ต้องมั่นใจว่าตัดสินใจฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยในคลินิกที่ได้มาตรฐาน ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ และใช้โบท็อกแท้ เพื่อความปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวังครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
ฉีดโบท็อกซ์

รวมข้อควรรู้ก่อนฉีดโบท็อกซ์ ปรับหน้าเรียว ลดริ้วรอย เลือกฉีดอย่างไร ให้เห็นผล ?

Categories
botox
ฉีดโบท็อกซ์

ข้อควรรู้ก่อนฉีดโบท็อกซ์

แม้ว่าการฉีดโบท็อกซ์ “Botulinum Toxin A” จะไม่ได้เป็นหัตถการที่แปลกใหม่ แต่ปัจจุบันยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องครับ เพราะเป็นวิธีที่ช่วยลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าที่เห็นผลลัพธ์ชัดเจนและรวดเร็วกว่าวิธีอื่น ๆ มีราคาที่ไม่แพง ในคนที่มีปัญหาริ้วรอย การฉีด botox จึงเป็นหัตถการแรก ๆ ที่หมอส่วนใหญ่แนะนำ 

รวมยี่ห้อโบท็อก

สารบัญ ฉีดโบท็อกซ์

  1. ฉีดโบท็อกซ์ คืออะไร ?
  2. การฉีดโบท็อกซ์เหมาะกับใคร ?
  3. รวมตำแหน่งฉีดโบท็อกซ์
  4. โบท็อกซ์ ช่วยอะไรบ้าง ?
  5. ข้อดี-ข้อเสีย ของการฉีดโบท็อกซ์
  6. ฉีดโบท็อกซ์อันตรายไหม ?
  7. ฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี ?
  8. ฉีดโบท็อกซ์ ใช้กี่ยูนิต ?
  9. โปรโบท็อกซ์ ราคาเท่าไร ?
  10. ฉีดโบท็อกซ์ อยู่ได้นานไหม ?
  11. วิธีดูโบท็อกซ์แท้
  12. ฉีดโบท็อกซ์ เจ็บไหม ?
  13. ฉีดโบท็อกซ์ กี่วันเห็นผล ?
  14. ก่อนฉีดโบท็อกซ์ เตรียมตัวอย่างไร ?
  15. ขั้นตอนการฉีดโบท็อกซ์เป็นอย่างไร ?
  16. คำแนะนำหลังฉีดโบท็อกซ์
  17. ผลข้างเคียงหลังฉีดโบท็อกซ์
  18. ฉีดโบท็อกซ์ ที่ไหนดี ?
  19. ฉีดโบท็อกซ์ ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?
  20. รีวิว ฉีดโบท็อกซ์

ฉีดโบท็อกซ์ คืออะไร ?

ฉีดโบท็อกซ์ คืออะไร โดย หมอชิน

การฉีดโบท็อกซ์ คือการนำโปรตีนที่ชื่อว่า โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin Type A) มาฉีดบนใบหน้า และส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ซึ่งโปรตีนชนิดนี้มีคุณสมบัติในการช่วยหยุดการทำงานของสารสื่อประสาท ทำให้กล้ามเนื้อหยุดทำงานชั่วคราว เมื่อกล้ามเนื้อคลายตัวลง ผิวหนังบริเวณที่ฉีดจะตึงขึ้น ไม่เกิดเป็นรอยพับ จึงช่วยลดริ้วรอยบริเวณหางตา ลดริ้วรอยตีนกาได้ หากนำมาฉีดลดกราม กล้ามเนื้อกรามจะอ่อนแรงและมีขนาดเล็กลง หน้าจึงเรียวขึ้นครับ

โบท็อกจะเป็นโปรตีนน้ำใส ๆ เมื่อฉีดเข้าสู่บริเวณกล้ามเนื้อจะแยกเป็น 2 ส่วน

กระบวนการออกฤทธิ์ของโบท็อก
กระบวนการออกฤทธิ์ของโบท็อกภายในเซลล์หลังจากฉีดโบท็อกเข้าไปในส่วนที่เป็นกล้ามเนื้อ
  • ส่วนที่ถูกดูดซึมเข้าไปเก็บไว้ในเซลล์ประสาท เป็นส่วนที่โบท็อกจะออกฤทธิ์ ถ้าส่วนนี้มีความเข้มข้นสูงก็จะทำให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้นครับ การทำงานของโบท็อกจะไปรบกวนการทำงานของระบบประสาท มีผลทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานลดลงชั่วคราว ผิวหนังก็จะตึงขึ้น ไม่เกิดรอยพับ
  • ส่วนที่ถูกดูดซึม ส่วนนี้จะปลิวไปตามกระแสเลือดในระยะเวลาไม่เกิน 1 ชม. หลังฉีด และถูกขับออกไปโดยไม่ส่งผลต่อเซลล์อื่นในร่างกายครับ

การฉีดโบท็อกซ์เหมาะกับใคร ?

  • คนที่มีริ้วรอยบนใบหน้าจากอายุที่มากขึ้น หรือริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า เช่น ริ้วรอยตีนกา หางตา รอยย่นหน้าผาก รอยย่นสันจมูก ต้องการลดริ้วรอยก่อนวัย
  • คนที่มีกล้ามเนื้อกรามใหญ่ ต้องการลดกล้ามเนื้อกรามให้เล็กลง ปรับหน้าเรียววีเชฟ 
  • คนที่ต้องการเพิ่มกรอบหน้าชัด ใบหน้าไม่ได้สัดส่วน  
  • คนที่มีกลิ่นตัว เหงื่อออกเยอะ มีปัญหารักแร้เปียก มีกลิ่นเท้า
  • คนที่มีกล้ามเนื้อน่องใหญ่ เห็นน่องชัด ต้องการปรับขาให้เรียวสวย
  • คนที่มีรูขุมขนกว้าง ใบหน้ามัน 

รวมตำแหน่งฉีดโบท็อกซ์

รวมตำแหน่งฉีดโบท็อกซ์

โบท็อกสามารถนำมาฉีดในกล้ามเนื้อได้หลายจุด แต่บริเวณที่คนนิยมฉีด botox คือใบหน้า หมอรวบรวมจุดต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมไว้ดังนี้ครับ


โบท็อกซ์ ช่วยอะไรบ้าง ?

โบท็อกซ์ ช่วยอะไรบ้าง
  • ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อ : ลดกรามปรับหน้าเรียววีเชฟ, ลดน่อง ช่วยให้ขาเรียวสวย, ลดต้นแขน กระชับต้นแขน, ลดปีกจมูก แก้ปัญหาจมูกบาน จมูกใหญ่ เพิ่มสันจมูกให้ดูคมชัด
  • ลิฟกรอบหน้า :  ยกกระชับหน้าเรียว เพิ่มกรอบหน้าชัด แก้ปัญหาหน้าบาน 
  • คลายกล้ามเนื้อ : ลดริ้วรอยบนใบหน้าที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ เช่น ริ้วรอยหน้าผาก หว่างคิ้ว ริ้วรอยตีนกา หางตา ริ้วรอยร่องแก้มเล็ก ๆ ลดรอยย่นบริเวณคอ
  • ลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว : ฉีดโบท็อกรักรักแร้ ลดกลิ่นตัว ลดเหงื่อ แก้ปัญหารักแร้เปียก ลดเหงื่อฝ่ามือ ฝ่าเท้า
  • ฟื้นฟูผิว : เป็นการฉีดโบท็อกลดรูขุมขน โดยหมอจะฉีดโบท็อกไปที่กล้ามเนื้อและต่อมไขมัน เมื่อฉีดโบท็อกเข้าไปรูขุมขนจะหดเล็กลง ต่อมไขมันลดขนาด ส่งผลให้ผิวเรียบเนียนขึ้น ดูกระจ่างใส ลดความมันบนใบหน้า
  • ลดอาการปวดตึงกล้ามเนื้อ : ลดอาการปวดไมเกรน ปวดเมื่อยร่างกาย ตึงคอ บ่า ไหล่ บรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรม

ข้อดี-ข้อเสีย ของการฉีดโบท็อกซ์

ข้อดีของการฉีดโบท็อกซ์

  • เป็นวิธีลดริ้วรอยที่ตรงจุด เห็นผลไวเมื่อเทียบกับการทาครีมลดริ้วรอย
  • โบท็อก สร้างมาจากแบคทีเรียชื่อ Clostridium ที่มีหลายงานวิจัยรองรับว่ามีความปลอดภัยสูง เข้ากันได้ดีกับร่างกาย ฉีดแล้วไม่ทิ้งสารตกค้าง 
  • ฉีดได้หลายตำแหน่ง ทั้งบริเวณใบหน้าและร่างกาย
  • ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคต ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย
  • ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
  • ช่วยลดริ้วรอย ปรับหน้าเรียววีเชฟได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล 
  • มีการเตรียมตัว และการดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกที่ไม่ยุ่งยาก 
  • ใช้เวลาในการฉีดไม่นาน ประมาณ 5-10 นาทีต่อจุด เมื่อฉีดเสร็จแล้ว คนไข้สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยไม่จำเป็นต้องพักฟื้น
  • ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้

ข้อเสียของการฉีดโบท็อกซ์

  • ให้ผลลัพธ์ที่ไม่ถาวร อยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือน เนื่องจากโบท็อกเป็นสารสกัดจากโปรตีนที่จะสลายไปตามธรรมชาติ
  • หากฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญ ใช้จำนวนยูนิตเยอะเกินไป หลังฉีดอาจทำให้หน้าแข็ง แสดงสีหน้าไม่ค่อยได้ บางรายอาจปากเบี้ยว คิ้วตก

ฉีดโบท็อกซ์อันตรายไหม ?

จริง ๆ แล้วการฉีดโบท็อก ไม่อันตรายครับ โบท็อกถูกผลิตขึ้นมาจากแบคทีเรียชื่อ Clostridium ซึ่งได้รับการยืนยัน และมีงานวิจัยรองรับว่าไม่ก่อให้เกิดอันตราย หรือมีการตกค้างในร่างกาย สามารถสลายเองได้ 100% ไม่มีสารตกค้าง มีความปลอดภัยสูง

เดิมทีในทางการแพทย์โบท็อกถูกนำมาใช้รักษาโรคกล้ามเนื้อเกร็งผิดปกติ เช่น ตาเข ตากระตุก รวมไปถึงโบท็อกไมเกรน โบท็อกออฟฟิศซินโดรม เป็นต้น ต่อมาโบท็อกได้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และได้พัฒนามาใช้ในวงการแพทย์ผิวหนัง เพื่อเสริมความงามครับ

ฉีดโบท็อกซ์อันตรายไหม
โบท็อกปลอม ยาหิ้วที่ไม่ได้มาตรฐาน ฉีดแล้วเสี่ยงติดเชื้อ หน้าเบี้ยว

การฉีดโบท็อกที่อันตราย คือ การซื้อโบท็อกจากอินเทอร์เน็ตมาฉีดเอง ซึ่งถือว่าอันตรายมาก ๆ หมอไม่แนะนำครับ เพราะเป็นตัวยาที่ไม่ได้มาตรฐาน มีสิ่งปนเปื้อน เมื่อนำมาใช้ฉีดเองโดยไม่มีความรู้ ย่อมเกิดผลข้างเคียงที่อันตราย รวมถึงฉีดโบท็อกกับหมอกระเป๋า หมอเถื่อนที่ไม่รู้เทคนิค ประเมินปริมาณยาไม่เหมาะสม ฉีดผิดพลาด มีขั้นตอนการฉีดที่ไม่สะอาด เสี่ยงติดเชื้อ อักเสบ ส่งผลเสียระยะยาวตามมาได้ครับ

โบปลอม โบหิ้ว เสี่ยงอย่างไร ? ดูจบแล้วไม่โดนหลอก ฉีดหน้าครั้งแรกต้องเลือกให้ถูก!

ฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี ?

ฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี ? โบท็อกที่ได้รับความนิยมในไทยมีหลายยี่ห้อครับ  เช่น โบท็อก Allergen อเมริกา, โบท็อก Aestox/Nabota เกาหลี, โบท็อก Dysport อังกฤษ และโบท็อก Xeomin เยอรมัน ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะมีจุดเด่นและคุณสมบัติที่ต่างกัน ดังนี้ครับ

โบท็อกยี่ห้อไหนดีที่สุด อเมริกา/เกาหลี/อังกฤษ/เยอรมัน ต่างกันอย่างไร ?

โบท็อกยี่ห้อ Allergan  (อเมริกา)

โบท็อกยี่ห้อ Allergan  (อเมริกา)

โบท็อกยี่ห้อ Allergan  (อเมริกา) ดีอย่างไร ?

  • ตัวยามีความบริสุทธิ์มากถึง 99.5% จึงช่วยลดโอกาสในการดื้อโบท็อก
  • ให้ผลการรักษาที่แม่นยำที่สุด เนื่องจากยากระจายตัวแคบ ทำให้หมอสามารถคาดคะเนการออกฤทธิ์ของโบท็อกได้
  • เหมาะสำหรับฉีดลดริ้วรอยเฉพาะจุด เช่น ตีนกา ระหว่างคิ้ว ขมวดคิ้ว ฉีดโบท็อกปรับรูปหน้า ลดกราม ลิฟกรอบหน้าด้วยเทคนิค Nefertiti lift 
  • มีอายุการใช้งานนานกว่ายี่ห้อโบท็อกอื่น ๆ ประมาณ 20%

อ่านบทความเพิ่มเติม : โบท็อก Allergan

โบท็อกยี่ห้อ Dysport (อังกฤษ)

โบท็อกยี่ห้อ Dysport (อังกฤษ)

โบท็อกยี่ห้อ Dysport (อังกฤษ) ดีอย่างไร ?

  • ยากระจายตัวกว้าง จึงเหมาะกับการฉีดในกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น  ริ้วรอยหน้าผาก ฉีดลดขนาดกล้ามเนื้อต้นแขน ลดน่อง และเหมาะกับคนที่ต้องการ ลดกลิ่นเหงื่อ รักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า เพราะจะกระจายตัวครอบคลุมต่อมเหงื่อได้ดี เหงื่อแห้งสนิทมากกว่ายี่ห้ออื่น
  • โมเลกุลมีขนาดเล็กลงจึงทำให้โบท็อกเข้าเซลล์ประสาทได้ดีขึ้น โอกาสดื้อโบท็อกน้อยลง และออกฤทธิ์ไวขึ้น
  • เหมาะสำหรับฉีดยกกระชับด้วยเทคนิค dermolift และช่วยลดริ้วรอยทั่วใบหน้า
  • หลังฉีดจะรู้สึกตึงประมาณ 50% ไม่ตึงแข็งเกินไป เบาสบายผิว ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ 

โบท็อกยี่ห้อ Xeomin (เยอรมัน)

โบท็อกยี่ห้อ Xeomin (เยอรมัน)

โบท็อกยี่ห้อ Xeomin (เยอรมัน) ดีอย่างไร ?

  • มีความบริสุทธิ์สูง ไม่กระจุกตัวแคบเกินไป ฉีดแล้วไม่ตึง 
  • มีงานวิจัยแสดงว่า Xeomin ได้ผลดีในเคสที่ดื้อยา (โดยที่เคสนั้นๆต้องหยุดการฉีดโบท็อกมาแล้วอย่างน้อย 2-3 ปี) 
  • เหมาะสำหรับฉีดลดริ้วรอย และการลิฟกรอบหน้า Dermolift 

โบท็อกยี่ห้อ Nabota/ Aestox (เกาหลี)

โบท็อกยี่ห้อ Nabota Aestox (เกาหลี)

โบท็อกยี่ห้อ Nabota (เกาหลี) ดีอย่างไร ? 

  • เน้นการพัฒนาให้ออกฤทธิ์ไว เห็นผลเร็ว จากการใช้งานพบว่ามีการออกฤทธิ์ไวกว่าโบท็อกเกาหลียี่ห้ออื่นเล็กน้อย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเห็นผลเร่งด่วน
  • เป็นโบท็อกเกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านงานวิจัยรับรองจาก อย. อเมริกา U.S.FDA approved (2018)
  • เหมาะสำหรับฉีดลดริ้วรอย หน้าผาก หางตา ระหว่างคิ้ว และสามารถนำมาใช้เพื่อปรับรูปหน้า ลดกราม ยกคิ้ว กระชับหน้า

อ่านบทความเพิ่มเติม : Nabota botox

โบท็อกยี่ห้อ Aestox (เกาหลี) ดีอย่างไร ?

  •  ตัวยามีความบริสุทธิ์ ทำให้โอกาสดื้อโบท็อกลดน้อยลง
  • ออกฤทธิ์เร็ว และเห็นผลไว
  • มีความอ่อนโยน ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ หน้าไม่แข็ง
  • เหมาะสำหรับฉีดลดริ้วรอยหางตา รอยย่นหน้าผาก ระหว่างคิ้ว ฉีดปรับรูปหน้า ลดเหงื่อ

การเลือกฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดีที่ให้ได้ผลลัพธ์ชัดเจน คุ้มค่า เหมาะสำหรับจุดที่ฉีด ควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ ช่วยประเมิน และวางแผนการแก้ไขปัญหาครับ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นธรรมชาติ 


ฉีดโบท็อกซ์ ใช้กี่ยูนิต ?

ฉีดโบท็อกซ์ ใช้กี่ยูนิต
  • ลดกรามปรับหน้าเรียว 50-100 ยูนิต 
  • ลิฟท์กรอบหน้าส่วนล่าง ประมาณ 30-50 ยูนิต
  • ลดริ้วรอยหน้าผาก ประมาณ 30 ยูนิต 
  • ริ้วรอยขมวดคิ้ว ระหว่างคิ้ว ประมาณ 25 ยูนิต 
  • ริ้วรอยหางตา ตีนกา 2 ข้าง ประมาณ 25 ยูนิต
  • ลดกล้ามเนื้อต้นแขน ลดกล้ามเนื้อน่องทั้ง 2 ข้าง ครั้งละประมาณ 100-200 ยูนิต (ไม่ควรฉีดเกิน 300 ยูนิตภายใน 3 เดือน)
  • ลดเหงื่อรักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ทั้ง 2 ข้าง ครั้งละประมาณ 100-200 ยูนิต
  • ฉีดลดขนาดปีกจมูก ประมาณ 25 ยูนิต 
  • ลดโหนกแก้ม ประมาณ 25 ยูนิต 

โปรโบท็อกซ์ ราคาเท่าไร ?

โปรโบท็อกลดกราม + หน้าเรียว

1_Botox_ลดกรามหน้าเรียว
  • โบท็อกเกาหลี Aestox 100 unit โบท็อก ราคา 6,999.-
  • โบท็อกเกาหลี Nabota 100 unit โบท็อก ราคา 6,999.-
  • โบท็อกอเมริกา Allergan100 unit โบท็อก ราคา 16,999.-
  • โบท็อกอังกฤษ Dysport 300 unit โบท็อก ราคา 16,999.-
  • โบท็อกเยอรมัน Xeomin 100 unit โบท็อก ราคา 15,999.-
  • โบท็อกเกาหลี Neuronox 100 unit โบท็อก ราคา 7,499.-

โปรโบท็อกลดริ้วรอย + หน้าเรียว (ทั่วหน้า)

2_Botox_ลดริ้วรอยหน้าเรียว-ทั่วหน้า

 โบท็อกเกาหลี : ยี่ห้อ Aestox  

  • โบท็อก 100 unit ราคา 9,000.-
  • โบท็อก 150 unit ราคา 12,000.-

 โบท็อกเกาหลี : ยี่ห้อ Nabota 

  • โบท็อก 100 unit ราคา 9,000.-
  • โบท็อก 150 unit ราคา 12,000.-

โบท็อกอเมริกา: ยี่ห้อ Allergan

  • โบท็อก 50 unit  ราคา 11,000.-
  • โบท็อก 100 unit ราคา 18,999.-

โบท็อกเยอรมัน : ยี่ห้อ Xeomin

  • โบท็อก 100 unit ราคา 18,000.-

โบท็อกอังกฤษ: ยี่ห้อ Dysport

  • โบท็อก 300 unit ราคา 18,999.-

โบท็อก Neuronox

  • 100 U ราคา 9,500.-

โปรโบท็อกเฉพาะจุด 

Landingpage_Botox_เฉพาะจุด_V2_2024

โบท็อกเกาหลี Nabota/Aestox

  • ระหว่างคิ้ว 25 unit   3,000.-
  • ลดโหนกแก้ม    25 unit   3,000.-
  • หางตา/ใต้ตา     25 unit   3,000.-
  • ปีกจมูก 25 unit   3,000.-
  • หน้าผาก           30 unit   3,500.-

โปรโบท็อกเฉพาะจุดลดเหงื่อ / รักแร้

Landingpage-botox_เฉพาะจุด_2024

โบท็อกเกาหลี Nabota / Aestox

  • โบท็อก 100 unit ราคา 9,000.- 
  • โบท็อก 150 unit ราคา 12,000.- 
  • โบท็อก 200 unit ราคา 16,000.-
  • โบท็อกอังกฤษ Dysport
  • โบท็อก 300 unit ราคา 18,999.-
  • โบท็อก 600 unit ราคา 34,000.- 
  • โบท็อกเกาหลี Xeomin
  • โบท็อก 200 unit ราคา 28,000.-

โปรโบท็อกเฉพาะจุด ต้นแขน / น่อง

โบท็อกเกาหลี Nabota / Aestox

  • โบท็อก 150 unit ราคา 12,000.-
  • โบท็อก 200 unit ราคา 16,000.-

โบท็อกอเมริกา Allergan

  • โบท็อก 200 unit ราคา 34,000.-

โบท็อกอังกฤษ Dysport

  • โบท็อก 600 unit ราคา 34,000.-

โบท็อกเยอรมัน Xeomin

  • โบท็อก 200 unit ราคา 28,000.-

ฉีดโบท็อกซ์ อยู่ได้นานไหม ?

โบท็อกอยู่ได้นานเท่าไหร่ โดย คุณต่าย
  • โบท็อกลดริ้วรอย ตีนกา ริ้วรอยหน้าผาก ริ้วรอยระหว่างคิ้ว หางคิ้ว หลังฉีดอยู่ได้นานประมาณ 3-4 เดือน
  • โบท็อกลดกราม ปรับรูปหน้าเรียว หลังฉีดอยู่ได้นาน 5-6 เดือน 

วิธีดูโบท็อกซ์แท้

วิธีดู โบท็อกซ์ปลอม โบท็อกหิ้ว? โบท็อกแต่ละยี่ห้อ มีข้อควรระวังอะไร? l หมอ V Square แชร์หมดเปลือก
จุดสังเกต โบท็อกซ์แท้ ยี่ห้อต่าง ๆ | V Square Clinic

วิธีดูโบท็อกซ์แท้ Allergan

วิธีดูโบท็อกซ์แท้ Allergan
  • มีซีลใส ป้องกันการเปิด
  • มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย
  • เลข Lot. ตรงกัน 2 จุด คือ เลข Lot. ที่กล่อง และเลข Lot. ที่ขวด
  • เป็นผลึกยาอยู่ที่ก้นขวด ไม่มีน้ำ ต้องใส่น้ำเกลือแล้วดูดยาออกมา
  • สามารถโทรเช็กเลข Lot. กับบริษัทนำเข้า Allergan Thailand (DKSH) โทร. 02-640-4999 ต่อ 1

วิธีดูโบท็อกซ์แท้ Dysport

วิธีดูโบท็อกซ์แท้ Dysport
  • เปิดกล่องด้านหน้า
  • มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย
  • เลข Lot. ตรงกัน 2 จุด คือ เลข Lot. ที่กล่อง และเลข Lot. ที่ขวด
  • เป็นผลึกยาอยู่ที่ก้นขวด ไม่มีน้ำ ต้องใส่น้ำเกลือแล้วดูดยาออกมา
  • สามารถโทรเช็กเลข Lot. กับบริษัทนำเข้า บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) โทร. 02-023-1800 ต่อ 402

วิธีดูโบท็อกซ์แท้ Xeomin

วิธีดูโบท็อกซ์แท้ Xeomin
  • มีซีลใส ป้องกันการเปิด
  • มีเอกสารกำกับภาษาไทย
  • เลข Lot. ตรงกัน 2 จุด คือ เลข Lot. ที่กล่อง และเลข Lot. ที่ขวด
  • เป็นผลึกยาอยู่ที่ก้นขวด ไม่มีน้ำ ต้องใส่น้ำเกลือแล้วดูดยาออกมา
  • สามารถโทรเช็กเลข Lot. กับบริษัทนำเข้า บริษัท Merz Aesthetics โทร. 092-254-2662

วิธีดูโบท็อกซ์แท้ Nabota

วิธีดูโบท็อกซ์แท้ Nabota
  • มีเอกสารกำกับภาษาไทย
  • มีสติกเกอร์โฮโลแกรม 2 จุด
  • บนกล่องพิมพ์ว่า “VOID IF REMOVE ORIGINAL” และบนขวดพิมพ์ว่า “DW”
  • เลข Lot. ตรงกัน 2 จุด คือ เลข Lot. ที่กล่อง และเลข Lot. ที่ขวด
  • เป็นผลึกยาอยู่ที่ก้นขวด ไม่มีน้ำ ต้องใส่น้ำเกลือแล้วดูดยาออกมา
  • สามารถโทรเช็กเลข Lot. กับบริษัทนำเข้า บริษัท มัณฑนา มาร์เก็ตติ้ง จำกัด  โทร.065-504-2983 และ 02-367-1274

วิธีดูโบท็อกซ์แท้ Aestox

วิธีดูโบท็อกซ์แท้ Aestox
  • มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย
  • มี QR Code เพื่อสแกนตรวจสอบว่าเป็นของแท้
  • เลข Lot. ตรงกัน 2 จุด คือ เลข Lot. ที่กล่อง และเลข Lot. ที่ขวด
  • เป็นผลึกยาอยู่ที่ก้นขวด ไม่มีน้ำ ต้องใส่น้ำเกลือแล้วดูดยาออกมา
  • สามารถโทรเช็กเลข Lot. กับบริษัทนำเข้า บริษัท เอสเทค ฟาร์มา จำกัด โทร. 02-089-1786

โบท็อกแท้ ทุกยี่ห้อ ก่อนฉีดคนไข้ควรให้หมอแกะกล่อง เปิดขวดใหม่ ดูดยา ให้ดูต่อหน้าจนหมด และเอากล่องและขวดกลับบ้านได้ เพื่อความมั่นใจว่าเป็นโบท็อกแท้ครับ

Vsquare tips

ข้อควรรู้ : โบท็อกแท้ทุกยี่ห้อจะมาในลักษณะเป็นผลึกสีขาวอยู่ที่ก้นขวด ไม่มีน้ำอยู่ในขวด หมอต้องใส่น้ำเกลือลงไปในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อละลายโบท็อกออกมาฉีด โบท็อก 100 ยูนิต จะใช้น้ำเกลือ 2.6 CC โบท็อก 50 ยูนิต ใช้น้ำเกลือ 1.3 CC ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นที่ต้องการใช้


ฉีดโบท็อกซ์ เจ็บไหม ?

ฉีดโบท็อกซ์เจ็บไหม ? การฉีดโบท็อกซ์ ไม่เจ็บครับ ก่อนฉีดมีการแปะยาชา และระหว่างฉีดจะมีการประคบน้ำแข็ง เพื่อลดความเจ็บจากเข็ม และการฉีด Botox จะใช้เข็มขนาดเล็กฉีดลงในชั้นผิวที่ไม่ลึกมาก ซึ่งจากข้อมูลของคนไข้ที่เข้ามาฉีดโบท็อกบอกว่าเจ็บน้อยกว่าการกดสิว จึงไม่ต้องกังวลครับ 


ฉีดโบท็อกซ์ กี่วันเห็นผล ?

ฉีดโบท็อกซ์ กี่วันเห็นผล

ฉีดโบท็อกซ์กี่วันเห็นผล ? หลังฉีดโบท็อก ระยะเวลาเห็นผลขึ้นอยู่กับจุดที่ฉีดครับ เนื่องจากขนาดของกล้ามเนื้อในแต่ละบริเวณจะไม่เท่ากัน จึงทำให้การออกฤทธิ์ของโบท็อกมีระยะเห็นผลที่ต่างกันเล็กน้อย

  • โบท็อกลดริ้วรอย จะเริ่มออกฤทธิ์ เห็นผลตอน 3-4 วัน และเห็นผลเต็มที่ใน 2 สัปดาห์ ริ้วรอยตีนกา ระหว่างคิ้ว ริ้วรอยหน้าผาก บริเวณนี้จะเห็นผลไว เพราะเป็นริ้วรอยที่เกิดจากการพับของผิวหนังชั้นบน การแสดงสีหน้า  
  • โบท็อกลดกราม ปรับรูปหน้า เริ่มเห็นผลตอน 14 วัน กล้ามเนื้อกรามจะนิ่มลง กัดแล้วไม่เด้ง และเห็นผลเต็มที่ใน 2-3 เดือน 
  • บริเวณนี้จะเห็นผลช้ากว่าริ้วรอย เพราะกล้ามเนื้อกรามมีขนาดใหญ่ และใช้งานหนักกว่าบริเวณอื่น ๆ เช่น การรับประทานอาหาร การใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงขนาดกล้ามเนื้อกรามของแต่ละบุคคล บางคนมีขนาดที่เล็กใหญ่ไม่เท่ากัน จึงทำให้ระยะเวลาที่เห็นผลต่างกันไปด้วย
  • ฉีดโบท็อกลิฟท์กรอบหน้า เหนียง คอ  เริ่มเห็นผล 3-4 วัน เห็นผลเต็มที่ใน 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับผิวของแต่ละบุคคล หากมีผิวหย่อนคล้อยมาก หรือบางคนมีเหนียงเยอะก็จะมีระยะเวลาเห็นผลที่นานขึ้น
  • ฉีดโบท็อกลดเหงื่อ  เหงื่อจะเริ่มลดลงใน 1-3 วันแรก หลังจากนั้นเหงื่อจะค่อย ๆ แห้งสนิท เห็นผลเต็มที่ใน 1-2 สัปดาห์ขึ้นอยู่กับการทำงานของต่อมเหงื่อแต่ละบุคคล หากคนที่ต้องเจอกับสภาพอากาศร้อน ทำงานกลางแจ้งก็อาจส่งผลให้ร่างกายผลิตเหงื่อออกมาเร็วกว่าปกติได้

ก่อนฉีดโบท็อกซ์ เตรียมตัวอย่างไร ?

ก่อนฉีดต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
  • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบท็อก รวมถึงวิธีการสังเกตโบท็อกแท้แต่ละยี่ห้อ เพื่อความปลอดภัย
  • เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพราะแพทย์จะสามารถประเมินปัญหาใบหน้า และวางแผนการแก้ไขได้อย่างเหมาะสม
  • ฉีดโบท็อกแท้ ผ่านการรับรองจาก อย. เท่านั้น เพื่อลดโอกาสการดื้อยาและเกิดผลข้างเคียง
  • ควรให้แพทย์เปิดขวดใหม่ ผสมโบท็อกให้ดูต่อหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้เจือจางน้ำเกลือมากเกินไป และควรขอกล่องและขวดกลับบ้านไว้ตรวจสอบ เพื่อมั่นใจว่าเป็นของแท้
  • งดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, NSAIDs, Ponstan
  • งดสครับใบหน้า คอร์สเลเซอร์ แว็กผิวหรือนวดหน้าบริเวณที่ฉีด 2-3 วัน เพื่อลดอาการเขียวช้ำ 
  • หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำ ควรปรึกษาหรือแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง

ขั้นตอนการฉีดโบท็อกซ์เป็นอย่างไร ?

ขั้นตอนการฉีดโบท็อก โดย หมอแพร
  • พบแพทย์เพื่อปรึกษาประเมินรูปหน้า สภาพผิว ปัญหาที่กังวล
  • แพทย์แนะนำยี่ห้อของโบท็อก และคำนวณยูนิตที่เหมาะสมในแต่ละบุคคล
  • ทำความสะอาดผิวหน้า หากคนไข้กลัวเจ็บสามารถแปะยาชา หรือประคบน้ำแข็งเพื่อบรรเทาความเจ็บได้
  • แพทย์ฉีด Botox ในตำแหน่งที่ต้องการแก้ไข 

คำแนะนำหลังฉีดโบท็อกซ์

คำแนะนำหลังฉีดโบท็อกซ์
  • หลังฉีดโบท็อกทันที ควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีด 1-2 ครั้ง เพื่อให้โบท็อกถูกเซลล์ประสาทดูดเข้าไปให้มากที่สุด
  • แนะนำให้ทานอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี เพื่อช่วยให้โบท็อกออกฤทธิ์ไวขึ้น และทำงานดีขึ้น
  • หลังฉีดโบท็อก 3 ชั่วโมง งดนอนราบ นอนคว่ำ หรือก้มหัวต่ำกว่าอก เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนมาที่บริเวณใบหน้ามากขึ้น ส่งผลให้โบท็อกที่ฉีดปลิวไปบริเวณที่ไม่ต้องการได้
  • หลังฉีดโบท็อก 48 ชั่วโมง ควรหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เช่น อบซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ ตากแดด ทำเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เช่น RF thermage 
  • งดอาหารที่ส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของโบท็อก เช่น อาหารรสจัด อาหารหมักดอง อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาเป็นเวลานาน
  • งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด  เนื่องจากจะส่งผลต่อการอักเสบ ยุบบวมช้า และผลการรักษาอยู่ได้สั้นลง

หลังฉีดโบท็อกซ์ นอนตะแคงได้ไหม ?

หลังฉีดโบท็อกซ์ นอนตะแคงได้ครับ แต่ควรนอนหมอนสูง ไม่ควรนอนหัวต่ำกว่าระดับหน้าอก เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนมาที่บริเวณใบหน้ามากขึ้น

หลังฉีดโบท็อกซ์ กินเหล้าได้ไหม ?

หลังฉีดโบท็อกซ์ หมอแนะนำให้งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดครับ เพราะจะทำให้การออกฤทธิ์ของโบท็อกไม่ได้ประสิทธิภาพ และระยะเวลาอยู่ได้สั้นลง 

หลังฉีดโบท็อก กินปลาร้าได้ไหม ?

หลังฉีดโบท็อกประมาณ 2 สัปดาห์ หรืออย่างน้อยที่สุด 3 วัน หมอแนะนำให้งดไปก่อนครับ เพราะอาหารประเภทนี้ มักจะมีกรรมวิธีทำที่ไม่สะอาด เสี่ยงต่อการปนเปื้อน หากเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายแล้วอาจจะไปกระตุ้นให้แผลจากรอยเข็มที่ฉีดโบท็อกเกิดการบวมอักเสบขึ้นมาได้

หลังฉีดโบท็อกซ์ กินวิตามินได้ไหม ?

หลังฉีดโบท็อกซ์ สามารถกินวิตามินได้ครับ โดยเฉพาะวิตามินธาตุเหล็ก ซึ่งจะมีงานวิจัยระบุว่าการกิน Zinc 50 mg/วัน ก่อนและหลังฉีดโบท็อก จะช่วยให้โบท็อกออกฤทธิ์ไวและอยู่ได้นานขึ้น 

ทั้งนี้หมอแนะนำให้กินหลังฉีดโบท็อกประมาณ 2 สัปดาห์ แต่ควรกินตามคำแนะนำของแพทย์ เพราะหากทานมากเกินไป อาจเกิดการเสริมฤทธิ์โบท็อกรุนแรง และเกิดผลเสียตามมาได้

Vsquare tips

วัยผู้ใหญ่ควรได้รับแร่ธาตุสังกะสี 12-15 มิลลิกรัม/วัน โดยพบได้มากในอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ตับ อาหารทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่งหอยนางรม และธัญพืช


ผลข้างเคียงหลังฉีดโบท็อกซ์

ผลข้างเคียงหลังฉีดโบท็อกซ์ คนไข้อาจรู้สึกเมื่อย หรือตึงบริเวณที่ฉีด ซึ่งเป็นอาการปกติที่ไม่อันตรายครับ หากมีอาการปวด คนไข้สามารถทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้ ซึ่งผลข้างเคียงนี้จะเป็นแค่ชั่วคราว จะหายได้เองใน 2-3 วัน ระหว่างนี้คนไข้ควรงดจับ กด หรือนวดบริเวณที่ฉีด เพราะอาจทำให้เกิดการช้ำจากรอยลงเข็ม หรือหากมือไม่สะอาดอาจทำให้เชื้อโรคเข้าสู่แผลจากรอยเข็มได้ครับ

ส่วนผลข้างเคียงหลังฉีดโบท็อกซ์ที่อันตราย ได้แก่

อันตรายจากโบท็อกซ์ปลอม
  • หนังตาตก ปากเบี้ยว หน้าแข็ง ยิ้มไม่สุด มุมปากตก เป็นผลข้างเคียงที่เกิดจากฉีดโบท็อกกับแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญ ฉีดผิดเทคนิค รวมถึงการประเมินปริมาณโบท็อกไม่เหมาะสม ฉีดไม่ถูกตำแหน่งครับ เช่น ฉีดโบท็อกลดริ้วรอยรอบดวงตา หมอฉีดใกล้เปลือกตาบนมากเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหนังตาอ่อนแรงและหนังตาตกลงมาได้
  • อักเสบติดเชื้อ บวม แดงบริเวณรอยเข็ม  มักเป็นผลข้างเคียงที่เกิดจากคนไข้ฉีดโบท็อกกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือฉีดกับหมอกระเป๋าที่ใช้อุปกรณ์ที่ไม่สะอาดมากพอ ไม่มีระบบการดูแลความสะอาดปลอดเชื้อ
  • ดื้อโบท็อกซ์ ฉีดแล้วเริ่มไม่ค่อยเห็นผล  ใช้โบท็อกจำนวนยูนิตมากขึ้นเพื่อให้เห็นผล ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษา 

ฉีดโบท็อกซ์ ที่ไหนดี ?

ฉีดโบท็อกซ์ ที่ไหนดี
  • ฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดี อันดับแรกควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ได้มาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข มีใบอนุญาตถูกต้อง และดำเนินงานโดยแพทย์เท่านั้น
  • ใช้โบท็อกแท้และได้มาตรฐาน มีตัวแทนจำหน่ายอย่างถูกต้องครับ บริษัทยาจะต้องขายให้กับคุณหมอที่มีใบอนุญาตเท่านั้น
  • คลินิกต้องมีอุปกรณ์ และเครื่องมือในการช่วยเหลือยามฉุกเฉิน มีพื้นที่และห้องการทำหัตถการที่กว้างขวาง มีความสะอาด ไม่ทึบหรือแออัด 
  • เลือกคลินิกที่เดินทางสะดวก มีบริการขนส่งมวลชนที่หลากหลาย เข้าถึงง่าย มีบริการที่จอดรถและหากมีหลายสาขาก็จะยิ่งดี เพราะสะดวกต่อการไปพบหมอ  
  • มีช่องทางการติดต่อที่สะดวกหรือควรมีการ follow up  ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัว ก่อนทำ-หลังทำอย่างใกล้ชิด และมีช่องทางติดต่อสอบถามเกี่ยวกับปัญหากับหมอโดยตรง
  • มีรีวิวที่น่าเชื่อถือ ตรวจสอบแหล่งที่มาได้ เช่น จาก Feedback ที่คนไข้มารีวิว เพราะถ้าหากคนไข้มารีวิวแล้วทางคลินิกจะไม่สามารถลบออกได้

ฉีดโบท็อกซ์ ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?

ฉีดโบท็อกที่ V Square Clinic ดีอย่างไร
  • ปรึกษากับหมอโดยตรง ไม่ผ่านเซลส์
  • โบท็อกแท้ทุกยี่ห้อ มีเลข อย.
  • เปิดขวดใหม่ ผสมยา ดูดยาต่อหน้าจนหมด
  • ให้กล่องและขวดกลับบ้าน
  • โทรเช็กเลขล็อตสินค้ากับบริษัทนำเข้าได้
  • ฉีดโดยแพทย์มากประสบการณ์

รีวิว ฉีดโบท็อกซ์

รีวิวฉีดโบท็อกซ์ ลดริ้วรอย

รีวิวฉีดโบท็อก ลดริ้วรอย
รีวิวฉีดโบท็อก ลดริ้วรอย
รีวิวฉีดโบท็อก ลดริ้วรอย (3)
รีวิวฉีดโบท็อก ลดริ้วรอย
รีวิวฉีดโบท็อก ลดริ้วรอย
รีวิวลดริ้วรอยหน้าผาก รอยย่นจมูก ระหว่างคิ้ว และมีริ้วรอยตีนกาด้วยโบท็อกยี่ห้อ Dysport 300 U

รีวิว ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม หน้าเรียว

รีวิวฉีดโบท็อก ลดริ้วรอย ลดกราม
รีวิวฉีดโบท็อก ลดริ้วรอย ลดกราม (2)
รีวิวฉีดโบท็อก ลดริ้วรอย ลดกราม (3)

รีวิว ฉีดโบท็อกซ์รักแร้

รีวิว ฉีดโบท็อกรักแร้ ที่ V Square Clinic หมอจะประเมินจุดฉีด และปริมาณโบท็อกที่ใช้ ให้เหมาะสมกับแต่ละคนโดยเฉพาะ

รีวิว ฉีดโบท็อกรักแร้ คืนความมั่นใจใต้วงแขน
ลดปริมาณเหงื่อและลดกลิ่นได้กว่า 80%

สรุป

การฉีดโบท็อกซ์ เป็นวิธีลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าเรียวที่ตรงจุด ให้ผลลัพธ์ชัดเจน เห็นผลไวกว่าเมื่อเทียบกับวิธีอื่น ๆ รวมถึงสามารถป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยใหม่ในอนาคตได้ ที่สำคัญโบท็อกซ์ถูกยอมรับจากวงการแพทย์ว่ามีความปลอดภัย สามารถสลายได้เองโดยไม่มีสารตกค้าง ไม่อันตรายต่อร่างกายครับ

เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่เป็นดูธรรมชาติ ควรฉีดโบท็อกซ์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์ เข้าใจโครงสร้างใบหน้าเป็นอย่างดี คำนวณปริมาณยา รู้ตำแหน่งที่ฉีด และแนะนำยี่ห้อที่เหมาะสมให้ในแต่ละเคสครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
โบท็อกซ์ลิฟหน้า

โบท็อกซ์ลิฟท์หน้าดีอย่างไร ? อันตรายไหม ? เห็นผลภายในกี่วัน ?

Categories
botox
โบท็อกซ์ลิฟหน้า

โบท็อกซ์ลิฟท์หน้า

โบท็อกซ์ลิฟท์หน้า เป็นหัตถการที่ช่วยยกกระชับใบหน้า เก็บกรอบหน้าให้คมชัด เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย หน้าดูแก่กว่าวัย สามารถทำได้ 2 เทคนิค คือ Dermolift และ Nefertiti lift ครับ

สำหรับใครที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับโบท็อกซ์ลิฟท์หน้า คืออะไร ? ดีอย่างไร ? เจ็บไหม ? กี่วันเห็นผล ? ราคาเท่าไร ? ทำที่ไหนดี ? หมอจะมาตอบทุกข้อสงสัยในบทความนี้

สารบัญ โบท็อกซ์ลิฟท์หน้า

  1. โบท็อกซ์ลิฟท์หน้า คืออะไร ?
  2. การฉีดโบท็อกซ์ลิฟท์หน้า มีวิธีทำอย่างไร ?
  3. การลิฟท์กรอบหน้า ดีอย่างไร ?
  4. ปัญหาหน้าแบบไหนเหมาะกับการลิฟท์กรอบหน้า
  5. โบท็อกซ์ลิฟท์กรอบหน้ากับโบท็อกซ์ลิฟท์ลดกราม ต่างกันอย่างไร ?
  6. การลิฟท์กรอบหน้าในแต่ละเพศ ต่างกันอย่างไร ?
  7. โบท็อกซ์ลิฟท์กรอบหน้า อันตรายไหม ?
  8. อันตรายหากใช้โบท็อกซ์ปลอมลิฟท์กรอบหน้า
  9. ลิฟท์กรอบหน้า เจ็บไหม ?
  10. ลิฟท์กรอบหน้า กี่วันเห็นผล ?
  11. ลิฟท์กรอบหน้า ใช้กี่ยูนิต ?
  12. ลิฟท์กรอบหน้า อยู่ได้นานไหม ?
  13. ลิฟท์กรอบหน้า ยี่ห้อไหนดี ราคาเท่าไร ?
  14. ข้อปฏิบัติก่อนทำลิฟท์กรอบหน้า
  15. ข้อปฏิบัติหลังทำลิฟท์กรอบหน้า
  16. ปัญหาที่อาจเกิดหลังทำลิฟท์กรอบหน้า
  17. ลิฟท์กรอบหน้า ที่ไหนดี ?
  18. รีวิว ฉีดโบท็อกซ์ลิฟท์กรอบหน้า

โบท็อกซ์ลิฟท์หน้า คืออะไร ?

โบท็อกลิฟท์หน้า หรือ Botox lift คือ การยกกระชับกรอบหน้าด้วยการฉีดโบท็อก หรือสารโบทูลินั่มท็อกซิน (Botulinum toxin Type A) บริเวณกรอบหน้าและลำคอ เพื่อให้กล้ามเนื้อที่ดึงหน้ามีแรงน้อยลง ช่วยยกกระชับผิว เก็บกรอบหน้าได้ นิยมทำร่วมกับการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม จะช่วยเสริมผลลัพธ์ให้ดียิ่งขึ้นครับ


การฉีดโบท็อกซ์ลิฟท์หน้า มีวิธีทำอย่างไร ?

วิธีฉีดโบท็อกซ์ลิฟท์หน้า มี 2 วิธี คือ การลิฟกรอบหน้าด้วยเทคนิค Dermolift และ Nefertiti lift แตกต่างกันดังนี้

  • Dermolift หมอจะฉีดโบท็อกเข้าไปบริเวณกรอบหน้าในชั้นผิวหนังตื้น ๆ เริ่มจากกรอบหน้าขึ้นไปหาหนังศีรษะ เพื่อช่วยยกกระชับใบหน้า วิธีนี้ควรทำเฉพาะช่วงเวลาที่ต้องการเห็นผลอย่างเร่งด่วน แต่ไม่แนะนำให้ฉีดบ่อย ๆ ครับ เพราะจะไปเพิ่มโอกาสในการดื้อโบท็อกได้ในอนาคต
โบท็อกลิฟหน้า Dermolift

เทคนิค Dermolift จะฉีดตามจุดสีดำในรูป ทำให้ผิวหนังบริเวณกรอบหน้าหดตัว ช่วยยกกระชับใบหน้าขึ้น

  • Nefertiti lift หมอจะฉีดโบท็อกเข้าไปที่กล้ามเนื้อ Platysma บริเวณลำคอ ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อส่วนที่ดึงผิวลงทำให้ใบหน้าหย่อนคล้อย หลังจากฉีดโบท็อกเข้าไปแล้วกล้ามเนื้อมัดนี้จะอ่อนแรงลง และกล้ามเนื้อส่วนที่ดึงผิวขึ้นจะมีแรงมากกว่า ช่วยให้หน้ายกกระชับขึ้น มุมปากยกขึ้น ใบหน้าเรียวเล็กลง
โบท็อกลิฟหน้า Nefertiti lift

เทคนิค Nefertiti lift จะฉีดไปที่กล้ามเนื้อ Platysma บริเวณลำคอ ช่วยให้หน้ากระชับ กรอบหน้าคมชัด 

สำหรับโปรแกรมลิฟท์หน้าที่ V Square Clinic หมอจะเน้นฉีดโบท็อกเทคนิค Nefertiti lift ให้คนไข้มากกว่า Dermolift เพราะสามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า ใช้ปริมาณโบท็อกน้อยกว่า เห็นผลชัดเจน แต่หากคนไข้ต้องการผลลัพธ์เร่งด่วน ก็สามารถทำ Dermolift ควบคู่กับ Nefertiti lift ในครั้งเดียวกันได้ครับ


การลิฟท์กรอบหน้า ดีอย่างไร ?

  • ช่วยให้ผิวหน้าที่หย่อนคล้อยยกกระชับขึ้น
  • เก็บกรอบหน้าเรียววีเชฟ สันกรามคมชัด
  • ลดริ้วรอยบริเวณลำคอ ทำให้คอดูเรียวยาว
  • หากฉีดด้วยเทคนิค Botox Nefertiti lift สามารถช่วยให้เหนียงดูลดลงได้
  • ปลอดภัย ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ 

ปัญหาหน้าแบบไหนเหมาะกับการลิฟท์กรอบหน้า

การลิฟท์กรอบหน้า เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหน้าหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด เกิดจากกล้ามเนื้อที่ดึงหน้าลงมีแรงดึงมากกว่ากล้ามเนื้อที่ดึงหน้าขึ้น ทำให้เกิดความหย่อนคล้อยบริเวณใบหน้าและลำคอ 


โบท็อกซ์ลิฟท์กรอบหน้ากับโบท็อกซ์ลิฟท์ลดกราม ต่างกันอย่างไร ?

โบท็อกซ์ลิฟท์กรอบหน้า จะเป็นการฉีดโบท็อกไปที่กล้ามเนื้อบริเวณลำคอของคนไข้ เพื่อยกกระชับปรับกรอบหน้าให้ชัดขึ้น ส่วนโบท็อกซ์ลดกราม จะฉีดไปที่บริเวณกล้ามเนื้อกรามโดยเฉพาะ เพื่อให้กล้ามเนื้อคลายตัว อ่อนแรงและค่อย ๆ หดลง ส่งผลให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหน้าบานจากกรามใหญ่

เปรียบเทียบการฉีดโบท็อกซ์ลิฟท์หน้า กับ โบท็อกซ์ลดกราม
เปรียบเทียบการฉีดโบท็อกซ์ลิฟท์หน้า กับ โบท็อกซ์ลดกราม

การลิฟท์กรอบหน้าในแต่ละเพศ ต่างกันอย่างไร ?

การฉีดโบท็อกลิฟท์กรอบหน้า เทคนิคที่ใช้ในแต่ละเพศ ไม่ว่าจะหญิง ชาย หรือ LGBTQI ไม่ได้แตกต่างกันครับ จะต่างกันก็เพียงความต้องการของผลลัพธ์ อย่างผู้หญิงก็จะเน้นลดกราม ให้หน้าเรียวสวยเข้ารูป หน้าดูหวานละมุน ส่วนลิฟกรอบหน้าผู้ชายก็จะเน้นปรับโครงหน้าให้เห็น Jaw line ชัด ใบหน้าดูคมและมีมิติ

โบท็อกลิฟหน้าผู้ชาย VS โบท็อกลิฟหน้าผู้หญิง

โบท็อกลิฟท์หน้า ช่วยยกกระชับกรอบหน้า ปรับหน้าเรียว สามารถทำได้ทุกเพศครับ


โบท็อกซ์ลิฟท์กรอบหน้า อันตรายไหม ?

การฉีดโบท็อกซ์ลิฟหน้า เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย หากฉีดด้วยโบท็อกแท้ ผ่าน อย. จะสามารถสลายได้ 100% ไม่มีสารตกค้าง ไม่มีผลข้างเคียง

อันตรายส่วนใหญ่ที่คนไข้กังวลมักเกิดจากการฉีดโบท็อกปลอม หรือโบท็อกหิ้ว แอบลักลอบนำเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย ไม่มี อย. ไม่มีคุณภาพทั้งในด้านผลลัพธ์และการเก็บรักษา  ฉีดโบท็อกปลอมอันตรายอย่างไร ? หมอจะกล่าวถึงในหัวข้อถัดไปครับ

โบปลอม โบหิ้ว เสี่ยงอย่างไร ? ดูจบแล้วไม่โดนหลอก ฉีดหน้าครั้งแรกต้องเลือกให้ถูก!

อันตรายหากใช้โบท็อกซ์ปลอมลิฟท์กรอบหน้า

การใช้โบท็อกปลอมฉีดลิฟกรอบหน้า อาจส่งผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย ดังนี้

อันตรายจากโบท็อกปลอม
  • ความไม่บริสุทธิ์ของตัวยาจะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้
  • หากฉีดไปโดนกล้ามเนื้อมัดอื่น อาจทำให้หนังตาตก ปากเบี้ยวได้
  • ฉีดแล้วอาจไม่ได้ผล ฉีดแล้วหน้าไม่ตึง หรือหมดฤทธิ์ไว
  • หากฉีดแล้วหมดฤทธิ์ไว ทำให้ต้องฉีดบ่อยขึ้น และเสี่ยงต่อการดื้อยาในอนาคต
  • การดื้อโบท็อกในปัจจุบันยังเป็นภาวะที่ไม่มีทางรักษาหายได้
Vsquare tips

ข้อควรรู้ : โบท็อกปลอม อาจจะฉีดแล้วได้ผลดีในครั้งแรก ๆ แต่ด้วยตัวยาที่ไม่บริสุทธิ์ เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะกระตุ้นให้เกิดภูมิต้านทานต่อโบท็อก หรือที่เรียกว่า ดื้อโบท็อก เมื่อฉีดโบท็อกครั้งต่อไป แม้ว่าใช้โบท็อกแท้ ก็อาจจะไม่ได้ผลครับ  

วิธีดู โบท็อกซ์ปลอม โบท็อกหิ้ว? โบท็อกแต่ละยี่ห้อ มีข้อควรระวังอะไร? l หมอ V Square แชร์หมดเปลือก

ลิฟท์กรอบหน้า เจ็บไหม ?

การฉีดโบท็อกลิฟท์กรอบหน้า ไม่เจ็บครับ อาจจะรู้สึกตอนจิ้มเข็มและเดินยาเท่านั้น ก่อนฉีดจะมีการประคบน้ำแข็งก่อน เพื่อไม่ให้คนไข้รู้สึกเจ็บขณะทำ หรือถ้าใครที่กลัวเข็มมาก ๆ สามารถขอให้ทางคลินิกแปะยาชาให้ได้ครับ


ลิฟท์กรอบหน้า กี่วันเห็นผล ?

โบท็อกซ์ลิฟท์หน้า กี่วันเห็นผล ? จะเริ่มเห็นผลประมาณ 3-4 วันหลังฉีด และจะเห็นผลเต็มที่ใน 2 สัปดาห์ ผิวหน้าจะตึงกระชับ กรอบหน้าคมชัดมากขึ้น 


ลิฟท์กรอบหน้า ใช้กี่ยูนิต ?

ฉีดโบท็อกซ์ลิฟติ้งกรอบหน้า ปกติแล้วจะใช้โบท็อกประมาณ 30-50 ยูนิต ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้แต่ละคน และยี่ห้อของโบท็อกที่ใช้ โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินให้ตามความเหมาะสม 


ลิฟท์กรอบหน้า อยู่ได้นานไหม ?

ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกลิฟท์กรอบหน้า อยู่ได้นานไหม ? ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้ครับ หากฉีดด้วยเทคนิค Dermolift ผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 1-2 เดือน ถ้าฉีดด้วยเทคนิค Nefertiti lift ผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 3-4 เดือน


ลิฟท์กรอบหน้า ยี่ห้อไหนดี ราคาเท่าไร ?

ลิฟกรอบหน้า ใช้โบท็อกยี่ห้อไหนดี ? หมอจะเป็นผู้ประเมินใบหน้า วิเคราะห์ปัญหา พร้อมเลือกยี่ห้อโบท็อก ประเมินปริมาณโบท็อกที่ใช้ และจุดที่ฉีด ให้ตามความเหมาะสมและตรงกับความต้องการของคนไข้แต่ละคน 

โบท็อกยี่ห้อไหนดีที่สุด อเมริกา/เกาหลี/อังกฤษ/เยอรมัน ต่างกันอย่างไร ?

โบท็อกซ์ลิฟท์หน้า ราคาขึ้นอยู่กับยี่ห้อและปริมาณโบท็อกที่ใช้ ที่ V Square Clinic มีโบท็อกให้เลือกหลายยี่ห้อ หมอจะแนะนำโบท็อกยี่ห้อ Nabota หรือ Aestox จากเกาหลี ฉีดด้วยเทคนิค Nefertiti lift ใช้ปริมาณโบท็อก 50U ราคา 3,999.- ราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้


ข้อปฏิบัติก่อนทำลิฟท์กรอบหน้า

ก่อนฉีดโบท็อกลิฟท์กรอบหน้า คนไข้ควรเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด ดังนี้

  • ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโบท็อกแท้  และให้แพทย์แกะกล่อง เปิดขวด ผสมยาให้ดูต่อหน้าก่อนฉีด
  • หากมีคอร์สทำหน้า นวดหน้า หรือคอร์สเลเซอร์ที่ต้องทำเป็นประจำ ควรทำก่อนฉีดโบท็อก เพราะหลังฉีดโบท็อกต้องงด 2 สัปดาห์
  • งดยาในกลุ่มที่ลดการแข็งตัวของเลือด ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDS ได้แก่ ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen), นาพรอกเซน (Naproxen), แอสไพริน (Aspirin)
  • งดสครับหน้า 2-3 วันก่อนฉีด เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเขียวช้ำ
  • สามารถรับประทานอาหารที่มีธาตุสังกะสี (Zinc) ช่วยให้โบท็อกออกฤทธิ์ไวขึ้น แต่ไม่ควรทานเกิน 20 mg/วัน 
วิธีการเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อก

ข้อปฏิบัติหลังทำลิฟท์กรอบหน้า

หลังฉีดโบท็อกลิฟท์กรอบหน้าเรียว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและอยู่ได้นาน คนไข้สามารถปฏิบัติตามได้ ดังนี้

  • ไม่ควรประคบเย็น เพราะจะขัดขวางการดูดซึมโบท็อกเข้าสู่เซลล์ประสาท
  • งดนอนราบ นอนคว่ำ และก้มหัวลงต่ำกว่าระดับหัวใจ เป็นเวลา 3 ชม.
  • หลีกเลี่ยงความร้อน และกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง อย่างน้อย 48 ชม.
  • งดอาหารรสจัด และอาหารหมักดอง
  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ 
วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อก

ปัญหาที่อาจเกิดหลังทำลิฟท์กรอบหน้า

อย่างที่หมอได้บอกไปว่า การฉีดลิฟท์หน้าด้วยโบท็อกปลอม หรือฉีดกับหมอกระเป๋าในคลินิกเถื่อน หลังฉีดก็มีโอกาสที่จะดื้อโบท็อก และอาจส่งผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้ นอกจากผลลัพธ์จะไม่เป็นไปตามที่คาดหวังแล้ว ยังทำให้เสียเงินฟรีโดยเปล่าประโยชน์ ไม่คุ้มเสี่ยงครับ  


ลิฟท์กรอบหน้า ที่ไหนดี ?

ก่อนตัดสินใจโบท็อกซ์ลิฟท์หน้า ที่ไหนดี คนไข้ควรคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ควรหาข้อมูลอย่างละเอียด เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและหมอที่มีประสบการณ์ โดยพิจารณาได้จากองค์ประกอบ ดังนี้

  • คลินิกเปิดให้บริการอย่างถูกต้อง มีการจดทะเบียนและแสดงเลขที่ใบอนุญาตชัดเจน
  • มีแพทย์ประจำคลินิก ซึ่งต้องสามารถนำชื่อไปตรวจสอบได้และเป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการฉีดโบท็อกปรับรูปหน้า
  • ทำเลที่ตั้ง เดินทางไปใช้บริการสะดวก สะอาด มีพื้นที่สำหรับจอดรถ
  • มีความน่าเชื่อถือ มีรีวิวฉีดโบท็อกจากผู้ใช้งานจริงในช่องทางต่าง ๆ เช่น Facebook หรือ Pantip และควรดูรีวิวที่เป็นวิดีโอมากกว่าภาพนิ่ง จะทำให้เห็นผลลัพธ์ของเคสนั้นจริง ๆ 
  • มีการนัดติดตามผล มีแพทย์ให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวก่อน-หลังฉีดอย่างใกล้ชิด และควรมีการนัดติดตามผลทุกครั้งหลังฉีดโบท็อก
คลินิกฉีดโบท็อกซ์ลิฟท์กรอบหน้า

รีวิว ฉีดโบท็อกซ์ลิฟท์กรอบหน้า

ฉีดโบท็อกลิฟท์หน้า ที่ V Square Clinic แพทย์มีประสบการณ์สูง ตรวจประเมินใบหน้าอย่างละเอียด ก่อนฉีดหมอจะแกะกล่อง เปิดขวดใหม่ และผสมยาต่อหน้าทุกเคส มั่นใจได้ในผลลัพธ์และความปลอดภัย

รีวิวฉีดโบท็อกซ์ลิฟท์หน้า ที่ V Square Clinic

รีวิวโบท็อกซ์ลิฟท์หน้า
รีวิว ฉีดโบท็อก Nefertiti lift แก้ปัญหาผิวไม่กระชับ คอหย่อนคล้อย

สรุป

โบท็อกลิฟท์กรอบหน้า เป็นหัตถการที่ช่วยให้ใบหน้ากระชับ ลดปัญหาความหย่อนคล้อย โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลลัพธ์รวดเร็ว คุ้มค่าคุ้มราคา

สำหรับผู้ที่ต้องการฉีดโบท็อกลิฟท์กรอบหน้า สามารถเข้ามาปรึกษาหมอก่อนได้ครับ ที่ V Square Clinic หมอมีประสบการณ์ด้านการฉีดโบท็อกปรับรูปหน้า รู้เทคนิคและตำแหน่งที่ฉีดอย่างแม่นยำ ช่วยประเมินใบหน้า พร้อมแนะนำยี่ห้อโบท็อกที่เหมาะสมให้กับคนไข้ได้ครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
โบท็อกผู้ชาย

โบท็อกซ์ผู้ชาย ทำเยอะไหม นิยมฉีดจุดไหนบ้าง ต่างจากเพศอื่นอย่างไร ?

Categories
botox
โบท็อกผู้ชาย โดยหมอวา

ปัจจุบันการเสริมความงามเปิดกว้างสำหรับทุกเพศ ไม่ได้จำกัดแค่เพศใดเพศหนึ่ง ทำให้ผู้ชายหลายคนเริ่มหันมาทำหัตถการเพื่อดูแลตัวเองกันมากขึ้น โดยเฉพาะการฉีดโบท็อกซ์ผู้ชาย

ในบทความนี้หมอจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำโบท็อกซ์ผู้ชาย คนทำเยอะไหม ทำไมถึงเป็นที่นิยม ต่างจากเพศอื่นอย่างไร ? นิยมทำตำแหน่งไหนบ้าง ? ฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี ? กี่วันเห็นผล ? พร้อมแนะนำวิธีการเลือกคลินิกฉีดโบท็อกซ์ผู้ชายอย่างไร ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย   

สารบัญ โบท็อกซ์ผู้ชาย

  1. โบท็อกซ์ผู้ชาย คนทำเยอะไหม ? ทำไมถึงเป็นที่นิยม
  2. โบท็อกซ์ผู้ชาย ต่างจากเพศอื่นอย่างไร ?
  3. โบท็อกซ์ผู้ชาย ใช้ปริมาณต่างจากเพศอื่นไหม ?
  4. โบท็อกซ์ผู้ชาย นิยมทำตำแหน่งใด ?
  5. โบท็อกซ์ผู้ชาย เหมาะกับยี่ห้อไหน ? 
  6. ฉีดโบท็อกซ์ผู้ชาย กี่วันเห็นผล ? 
  7. โบท็อกซ์ผู้ชาย ฉีดที่ไหนดี ?
  8. รีวิว โบท็อกซ์ผู้ชาย
รีวิวฉีดโบท็อกซ์ กับคุณแอนดี้ เขมพิมุก หลังเปิดใจให้ V Square

โบท็อกซ์ผู้ชาย คนทำเยอะไหม ? ทำไมถึงเป็นที่นิยม

การฉีดโบท็อกซ์ผู้ชาย ได้รับความสนใจอย่างมากในปัจจุบัน เพราะใคร ๆ ก็อยากหล่อ อยากดูดีกันทั้งนั้น จึงไม่แปลกครับที่คนไข้เพศชายจำนวนมากเลือกที่จะเข้ามาฉีดโบท็อก เพื่อคงความอ่อนเยาว์ของใบหน้า ช่วยเพิ่มความมั่นใจและเสริมบุคลิกภาพให้น่ามอง

การฉีดโบท็อกซ์  หรือสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum Toxin A) มีคุณสมบัติในการคลายกล้ามเนื้อ มีผลทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานลดลงชั่วคราว ลดการขยับของกล้ามเนื้อ ช่วยลดริ้วรอย ลดกราม ปรับรูปหน้าเรียว เห็นผลลัพธ์รวดเร็ว ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการดูแลตัวเองเร่งด่วน


โบท็อกซ์ผู้ชาย ต่างจากเพศอื่นอย่างไร ?

ความจริงแล้วการฉีดโบท็อกซ์ผู้ชาย ไม่ต่างจากเพศอื่นเลยครับ ทั้งในด้านของขั้นตอนการฉีดและตัวยาที่ใช้  การฉีดโบท็อกซ์จะทำงานในลักษณะเดียวกันสำหรับทั้งผู้ชายและผู้หญิง เพียงแต่ปริมาณและตำแหน่งที่ฉีดอาจแตกต่างกันไปตามลักษณะทางกายวิภาคของใบหน้าและผลลัพธ์ที่ต้องการ 


โบท็อกซ์ผู้ชาย ใช้ปริมาณต่างจากเพศอื่นไหม ?

ปริมาณโบท็อกซ์

อย่างที่หมอได้บอกไปครับว่า การฉีดโบท็อกซ์ผู้ชาย ปริมาณโบท็อกซ์ที่ใช้อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับลักษณะทางกายวิภาคของใบหน้า ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ระดับความลึกของริ้วรอย และผลลัพธ์ที่ต้องการของแต่ละคน 

โดยผู้ชายส่วนใหญ่มักจะมีขนาดกล้ามเนื้อที่ใหญ่กว่าและผิวหนังที่หนากว่า ริ้วรอยลึกกว่าผู้หญิง ซึ่งอาจต้องใช้ปริมาณโบท็อกที่มากกว่าหรือเทคนิคการฉีดที่แตกต่างกัน เพื่อให้เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล


โบท็อกซ์ผู้ชาย นิยมทำตำแหน่งใด ?

การฉีดโบท็อกซ์ สำหรับผู้ชาย สามารถฉีดได้หลายตำแหน่ง ช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ดังนี้

  • ฉีดโบท็อกซ์กราม ช่วยลดขนาดกราม ทำให้กล้ามเนื้อกรามทำงานได้น้อยลงและมีขนาดเล็กลง ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น การฉีดโบท็อกซ์กรามผู้ชายสามารถแก้ปัญหาในคนที่หน้าบานหรือมีกรามใหญ่จากกล้ามเนื้อกรามได้อย่างเห็นผล นิยมทำคู่กับการฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า
ฉีดโบลดกรามผู้ชาย โดยคุณฟลุค
  • ฉีดโบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า ช่วยให้ใบหน้ายกกระชับขึ้น ด้วยการฉีดโบท็อกไปยังบริเวณกรอบหน้าและใต้คาง สำหรับผู้ชายจะเน้นลิฟหน้าเพื่อปรับให้เห็นโครงหน้าคมชัดขึ้น มี Jaw line ชัดเจน หากฉีดลิฟหน้าร่วมกับโบท็อกลดกราม จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นครับ
ฉีดโบลิฟท์กรอบหน้าผู้ชาย
  • ฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอย ช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณหน้าผาก หว่างคิ้ว หางตา และตีนกา หลังทำผิวจะตึงกระชับ ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ และยังป้องกันการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้อีกด้วย เหมาะสำหรับผู้ชายที่ผิวขาดการบำรุง ผิวแห้งกร้าน มีริ้วรอยจากการเสื่อมสภาพของผิวตามอายุที่เพิ่มขึ้น
ฉีดโบลดริ้วรอยผู้ชาย
  • ฉีดโบท็อกซ์ปีกจมูก ช่วยปรับรูปทรงจมูกที่ดูกว้างให้แคบลง เหมาะกับผู้ชายที่มีปีกจมูกใหญ่ จมูกบาน เวลาพูดหรือยิ้มปีกจมูกกางออก เมื่อฉีดโบท็อกเข้าไป กล้ามเนื้อบริเวณนั้นจะไม่ขยับ ทำให้ปีกจมูกดูเล็กลง สามารถแก้ไขปีกจมูกบานให้สมส่วนมากขึ้น ดูเป็นธรรมชาติ
ฉีดโบท็อกซ์ปีกจมูกผู้ชาย โดยคุณตุ้ย
  • ฉีดโบท็อกซ์รักแร้ ช่วยลดเหงื่อและกลิ่นตัวที่ไม่พึงประสงค์ โบท็อกจะเข้าไปยับยั้งการทำงานของต่อมเหงื่อและกลิ่นกายบริเวณใต้วงแขนให้ทำงานน้อยลง เมื่อเหงื่อออกน้อยลงก็จะทำให้กลิ่นตัวลดลงไปด้วยครับ
ฉีดโบท็อกซ์รักแร้ผู้ชาย
  • ฉีดโบท็อกซ์กระชับรูขุมขน ช่วยให้รูขุมขนเล็กลงได้ โดยการฉีดโบท็อกไปยังบริเวณกล้ามเนื้อและต่อมไขมันให้เกิดการหดตัว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น รูขุมขนจะค่อย ๆ หดเล็กลง ผิวหน้าเรียบเนียน

โบท็อกซ์ผู้ชาย เหมาะกับยี่ห้อไหน ? 

ฉีดโบท็อกซ์ผู้ชาย เหมาะกับยี่ห้อไหน ขึ้นอยู่กับปัญหาและตำแหน่งที่ฉีดของแต่ละคน ก่อนฉีดหมอจะเป็นผู้ประเมินและเลือกยี่ห้อโบท็อกที่เหมาะสมให้กับคนไข้ครับ

โบท็อกยี่ห้อไหนดีที่สุด อเมริกา/เกาหลี/อังกฤษ/เยอรมัน ต่างกันอย่างไร?

ที่ V Square Clinic มีโบท็อกซ์หลายยี่ห้อจากหลายประเทศ ทั้งโบท็อกอเมริกา Allergan, โบท็อกอังกฤษ Dysport, โบท็อกเกาหลี Nabota/Aestox และโบท็อกเยอรมัน Xeomin ให้เลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม ตรงความต้องการและงบประมาณ   


ฉีดโบท็อกซ์ผู้ชาย กี่วันเห็นผล ?

โบท็อกซ์ชายกี่วันเห็นผล โดยคุณฟลุค

หลังฉีดโบท็อกซ์ผู้ชาย กี่วันเห็นผล ? ขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกซ์ที่ใช้และตำแหน่งที่ฉีดครับ ถ้าเป็นการฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอย หน้าผาก ตีนกา หว่างคิ้ว และโบท็อกซ์ลิฟท์กรอบหน้า เหนียง คอ จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงว่าบริเวณที่ฉีดเริ่มตึงขึ้นใน 3-4 วัน และเห็นผลชัดเจนใน 1-2 สัปดาห์ 

ส่วนการฉีดโบลดกรามผู้ชาย จะใช้เวลาเห็นผลนานกว่าการฉีดริ้วรอย ขึ้นอยู่กับขนาดกรามของแต่ละคน โดยทั่วไปหลังฉีดโบท็อกซ์กรามประมาณ 14 วัน กล้ามเนื้อกรามจะนิ่มลง กัดฟันแล้วกล้ามเนื้อกรามไม่เด้ง และจะเห็นว่ากรามยุบลงเต็มที่ใน 2-3 เดือนครับ    

Vsquare tips

ข้อควรรู้ : สำหรับใครที่ฉีดโบท็อกซ์แล้วอยากเห็นผลเร็ว มีงานวิจัยระบุว่า การรับประทานแร่ธาตุสังกะสี หรือ Zinc 50 mg ก่อนและหลังการฉีดโบท็อกซ์ จะช่วยให้โบท็อกซ์ออกฤทธิ์ได้ไวขึ้นและอยู่ได้นานขึ้นประมาณ 30% ครับ


โบท็อกซ์ผู้ชาย ฉีดที่ไหนดี ?

ก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อก คนไข้ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ เพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัย หมอมีแนวทางการเลือกคลินิกฉีดโบท็อกซ์ผู้ชายมาแนะนำดังนี้

  • คลินิกได้มาตรฐานตามกระทรวงสาธารณสุข ดูได้จากป้ายชื่อสถานพยาบาล เลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก แสดงให้เห็นไว้ชัดเจน    
  • ใช้โบท็อกแท้ มีคุณภาพ ผ่านการรับรองจาก อย. ตรวจสอบกับบริษัทที่นำเข้าได้
  • แพทย์มีประสบการณ์ด้านการฉีดโบท็อกซ์ปรับรูปหน้า เข้าใจปัญหาของคนไข้ รู้เทคนิคและตำแหน่งฉีดอย่างถูกต้อง แม่นยำ 
  • มีการนัดติดตามผล และแนะนำวิธีการปฏิบัติตัวหลังฉีดโบท็อกอย่างใกล้ชิด มีช่องทางการติดต่อที่สะดวก รวดเร็ว เช่น Inbox หรือ Line@ ปรึกษาและสอบถามข้อสงสัยกับแพทย์ได้โดยตรง
  • ราคาสมเหตุสมผล ไม่ถูกหรือแพงเกินไป

รีวิว โบท็อกซ์ผู้ชาย

รีวิวโบท็อกซ์ผู้ชาย

สรุป

การฉีดโบท็อกซ์ผู้ชาย ถือเป็นวิธีการดูแลตัวเองรูปแบบหนึ่ง ใช้เวลาทำไม่นาน ไม่ยุ่งยาก เห็นผลลัพธ์รวดเร็ว สำหรับคนที่สนใจฉีดโบท็อกซ์ผู้ชาย สามารถเข้ามาให้หมอประเมินใบหน้าก่อนได้ครับ หมอจะวิเคราะห์ปัญหา คำนวณปริมาณตัวยา และเลือกยี่ห้อโบท็อกที่เหมาะสมให้กับคนไข้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและคุ้มค่าครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม

ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม แก้ไขใบหน้าให้ดูเรียวโฉบเฉี่ยว

Categories
botox
ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม

ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม

ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม เป็นหัตถการที่ช่วยแก้ปัญหากรามใหญ่ได้อย่างตรงจุด เห็นผลชัดเจนในคนที่มีกรามใหญ่จากกล้ามเนื้อกราม ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวสวย โดยไม่ต้องผ่าตัด คุ้มค่าเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้

ในบทความนี้หมอจะมาแนะนำเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกซ์กราม เหมาะกับใคร ? ใช้กี่ยูนิต ? ฉีดโบท็อกซ์ลดกรามกี่วันเห็นผล ? ฉีดโบลดกรามราคาเท่าไหร่ ? ฉีดกราม ที่ไหนดี ? พร้อมแนะนำวิธีการปฏิบัติตัวก่อน-หลังฉีดโบท็อกลดกราม และวิธีการดูโบท็อกซ์แท้ ให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและคุ้มค่าครับ  

สารบัญ โบท็อกซ์ลดกราม

  1. ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม คืออะไร ?
  2. การฉีดโบท็อกซ์ลดกรามเหมาะกับใคร ?
  3. กรามใหญ่มีสาเหตุมาจากอะไร ?
  4. ข้อดี ข้อเสีย ของการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม
  5. ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม อันตรายไหม ?
  6. ขั้นตอนการฉีดโบท็อกซ์ลดกรามเป็นอย่างไร ?
  7. วิธีดูโบท็อกซ์แท้ก่อนฉีดโบท็อกซ์ลดกราม
  8. ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม เจ็บไหม ?
  9. ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม กี่วันเห็นผล ?
  10. ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม ใช้กี่ยูนิต ?
  11. ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม อยู่ได้นานไหม ?
  12. ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม ที่ไหนดี ?
  13. ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม ยี่ห้อไหนดี ราคาเท่าไร ?
  14. ก่อนฉีดโบท็อกซ์ลดกรามควรเตรียมตัวอย่างไร ?
  15. คำแนะนำหลังฉีดโบท็อกซ์ลดกราม
  16. ปัญหาที่อาจเกิดหลังฉีดโบท็อกซ์ลดกราม
  17. วิธีทำให้หน้าเรียวแต่ละอย่าง มีข้อแตกต่างกันอย่างไร ?
  18. รีวิว ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม

ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม คืออะไร ?

ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม คือ การฉีดโบท็อก หรือสารโบทูลินั่มท็อกซิน (Botulinum toxin Type A) เข้าไปที่บริเวณกล้ามเนื้อกรามโดยเฉพาะ โดยหลักการทำงานของโบท็อกจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดอ่อนแรงลง และมีขนาดเล็กลง ใบหน้าเรียวขึ้นอย่างชัดเจน นิยมทำร่วมกับการฉีดโบท็อกซ์ลิฟท์หน้าครับ

โบท็อกซ์ลดกราม

การฉีดโบท็อกซ์ลดกรามเหมาะกับใคร ?

ฉีดโบลดกราม เหมาะกับผู้ที่มีปัญหากรามใหญ่ หน้าบานจากกล้ามเนื้อกราม ต้องการลดขนาดกราม ปรับรูปหน้าเรียวแบบเร่งด่วนโดยไม่ต้องผ่าตัด สามารถทำได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่ก็มีข้อจำกัดในเคสที่มีกรามใหญ่จากโครงสร้างกระดูกหรือมีไขมันสะสม การฉีดโบท็อกจะไม่สามารถช่วยได้ครับ


กรามใหญ่มีสาเหตุมาจากอะไร ?

ปัญหากรามใหญ่ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น เกิดจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่เหนียว หรือแข็งบ่อย ๆ ต้องออกแรงเคี้ยวยาก ทำให้กล้ามเนื้อกรามมีขนาดใหญ่ แข็งแรงมากขึ้น ใบหน้าจึงดูใหญ่และบานขึ้นตาม

สาเหตุกรามใหญ่
การเคี้ยวหมากฝรั่งบ่อย ๆ จะทำให้กรามใหญ่ขึ้นได้ครับ

นอกจากนี้ กรามใหญ่ ยังอาจเกิดจากพันธุกรรม การเจริญเติบโตของกระดูกผิดปกติ หรือมีไขมันสะสมบนใบหน้าจำนวนมาก ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูไม่สมส่วน หน้าบาน ดูแข็ง ไม่ละมุน 


ข้อดี ข้อเสีย ของการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม

ข้อดีของการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม

  • ช่วยลดขนาดกรามลง และปรับรูปหน้าให้เรียวสวย
  • มีขั้นตอนการฉีดไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องผ่าตัด  ไม่มีแผล
  • หลังทำไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

ข้อเสียของการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม

  • ผลลัพธ์อยู่ได้ 5-6 เดือน ต้องกลับมาฉีดซ้ำ เพื่อคงสภาพของผลลัพธ์

ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม อันตรายไหม ?

ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม เป็นหัตถการที่ปลอดภัย หากฉีดด้วยโบท็อกแท้กับแพทย์ที่มีประสบการณ์ รู้เทคนิคและตำแหน่งที่ฉีดอย่างแม่นยำ สามารถประเมินขนาดของกล้ามเนื้อ คำนวณปริมาณโบท็อกที่เหมาะสม ก็จะช่วยลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย เช่น ยิ้มแข็ง ยิ้มไม่สุด หรือปากเบี้ยวได้ครับ


ขั้นตอนการฉีดโบท็อกซ์ลดกรามเป็นอย่างไร ?

การฉีดโบท็อกซ์ลดกราม มีขั้นตอนไม่ยุ่งยากและใช้เวลาไม่นาน ที่ V Square Clinic มีขั้นตอนดังนี้

  1. คนไข้เข้าพบแพทย์ เพื่อตรวจวิเคราะห์หาสาเหตุ ประเมินรูปหน้าและสภาพผิว
  2. หมอเลือกยี่ห้อโบท็อกและประเมินปริมาณโบท็อกที่ใช้ตามความเหมาะสมกับแต่ละคน
  3. แกะกล่อง เปิดขวด และผสมยาให้ดูต่อหน้าคนไข้ทุกเคส ให้มั่นใจว่าเป็นโบท็อกแท้
  4. ก่อนฉีดจะมีการทายาชาหรือประคบน้ำแข็ง เพื่อไม่ให้คนไข้รู้สึกเจ็บระหว่างทำ
  5. ทำการฉีดโบท็อกด้วยเข็มขนาดเล็กไปยังบริเวณกล้ามเนื้อกราม
ขั้นตอนการฉีดโบลดกราม โดยหมอรวี

วิธีดูโบท็อกซ์แท้ก่อนฉีดโบท็อกซ์ลดกราม

ก่อนฉีดโบท็อกลดกราม คนไข้ควรศึกษาวิธีการดูโบท็อกซ์แท้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย หมอมีวิธีการดูโบท็อกซ์แท้ง่าย ๆ สามารถตรวจสอบด้วยตัวเองได้ ดังนี้

  • โบท็อกแท้ต้องมีฝาพลาสติกใสปิดทับอยู่ด้านบน
  • มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย
  • มีเลข Lot. วันที่ผลิตและวันหมดอายุที่กล่องกับขวดตรงกัน
  • มีข้อมูลระบุว่านำเข้าโดยบริษัทใด สามารถเช็กกับบริษัทที่นำเข้าได้
  • เป็นผลึกยาอยู่ที่ก้นขวด ไม่มีน้ำ ต้องใส่น้ำเกลือแล้วดูดยาออกมา
วิธีดู โบท็อกซ์ปลอม โบท็อกหิ้ว? โบท็อกแต่ละยี่ห้อ มีข้อควรระวังอะไร? l หมอ V Square แชร์หมดเปลือก
จุดสังเกต โบท็อกซ์แท้ ฟิลเลอร์แท้ ยี่ห้อต่าง ๆ

ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม เจ็บไหม ?

ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม ไม่เจ็บครับ แต่อาจจะมีความรู้สึกเล็กน้อยตอนกำลังเดินยา ถ้าคนไข้กลัวเข็มมาก ๆ ก็สามารถขอให้หมอแปะยาชาหรือประคบน้ำแข็งก่อนฉีดและระหว่างฉีด เพื่อบรรเทาอาการเจ็บขณะทำได้


ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม กี่วันเห็นผล ?

โบท็อกซ์กรามกี่วันเห็นผล ? หลังฉีดโบท็อกลดกราม จะเริ่มเห็นผลใน 14 วัน กล้ามเนื้อกรามจะนิ่มลง กัดแล้วกล้ามเนื้อกรามไม่เด้ง เริ่มเห็นว่ากรามยุบลงเมื่อครบ 1 เดือน และจะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ใน 2-3 เดือน


ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม ใช้กี่ยูนิต ?

ฉีดโบท็อกซ์กรามกี่ยูนิต ? โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 50-100 Unit แต่ละเคสอาจใช้ปริมาณโบท็อกมากน้อยแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับขนาดกล้ามเนื้อของคนไข้ ความต้องการ และการประเมินของแพทย์ เพื่อให้การฉีดโบท็อกคุ้มค่าคุ้มราคาที่สุดครับ   


ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม อยู่ได้นานไหม ?

ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกซ์กราม จะอยู่ได้นาน 5-6 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของโบท็อกที่ใช้และการดูแลตัวเองของคนไข้หลังฉีด

Vsquare tips

ข้อควรรู้ : โบท็อกซ์ลดกราม ไม่ควรฉีดถี่เกินไป อย่างต่ำควรเว้น 3 เดือน และไม่ควรเว้นนานเกิน 5-6 เดือน เพราะหากเว้นระยะเวลานาน ๆ จะทำให้กล้ามเนื้อกรามกลับมาทำงานได้ตามปกติ และอาจจะต้องใช้ปริมาณโบท็อกเยอะขึ้นในการฉีดครั้งต่อไปครับ 


ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม ที่ไหนดี ?

ฉีดโบลดกรามที่ไหนดี ? คนไข้ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน โดยสามารถพิจารณาได้จากปัจจัยต่อไปนี้

  • คลินิกน่าเชื่อถือ มีใบอนุญาตประกอบกิจการจากกระทรวงสาธารณสุขและเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก ห้องทำหัตถการกว้างขวาง สะอาด ปลอดเชื้อ และมีช่องทางการติดต่อที่หลากหลาย       
  • แพทย์มีประสบการณ์ หมอที่ให้บริการควรเป็นแพทย์ที่อยู่ประจำคลินิกและมีประสบการณ์ด้านการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม ปรับรูปหน้า
  • ใช้โบท็อกมีคุณภาพ ต้องเป็นโบท็อกแท้ ผ่านการรับรองจาก อย. มีตัวแทนจำหน่ายอย่างถูกต้อง สามารถตรวจสอบได้

ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม ยี่ห้อไหนดี ราคาเท่าไร ?

ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม ใช้โบท็อกยี่ห้อไหนดี หมอจะเป็นผู้ประเมินและแนะนำให้ตามความเหมาะสมกับแต่ละเคส ที่ V Square Clinic มีโบท็อกหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ ฉีดลดกรามราคา จะเริ่มต้นที่ 6,999.- คุ้มค่าคุ้มราคาเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ครับ 

โปรโบท็อกซ์-ลดกราม-หน้าเรียว
  • โบท็อกเกาหลี Nabota 100 unit 6,999.-
  • โบท็อกเกาหลี Aestox 100 unit 6,999.-
  • โบท็อกอเมริกา Allergan 100 unit 16,999.-
  • โบท็อกอังกฤษ Dysport 300 unit 16,999.-
  • โบท็อกเยอรมัน Xeomin 100 unit 15,999.-
  • โบท็อกเกาหลี Neuronox 100 unit 7,499.-

ก่อนฉีดโบท็อกซ์ลดกรามควรเตรียมตัวอย่างไร ?

  • คนไข้ควรศึกษาข้อมูลที่จำเป็น เช่น วิธีการดูโบท็อกแท้ การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน การเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ รู้ตำแหน่งที่ฉีดถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย
  • ควรแจ้งโรคประจำตัว รวมถึงประวัติการฉีดโบท็อก หรือการดื้อโบให้แพทย์ทราบก่อนฉีดทุกครั้ง
  • หยุดรับประทานอาหารเสริมหรือยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น วิตามินอี ใบแปะก๊วย ยากลุ่ม NSAIDs เพื่อลดอาการช้ำครับ
  • ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 3-7 วัน
ก่อนฉีดโบท็อกลดกรามห้ามกินอะไร

คำแนะนำหลังฉีดโบท็อกซ์ลดกราม

  • หลังฉีดโบท็อก 30 นาทีแรก ให้ขยับกล้ามเนื้อตรงจุดที่ฉีด เพื่อให้โบท็อกถูกปลายประสาทดูดซึมเข้าไปได้มากที่สุดและออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น
  • งดนวดหน้า 3-4 ชั่วโมงหลังฉีด ป้องกันโบท็อกเคลื่อนที่ไปในจุดที่ไม่ต้องการ ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่ตามมา เช่น บังคับกล้ามเนื้อบนใบหน้าไม่ได้ หางคิ้วกระดก ผิวช้ำ รู้สึกชา หน้าแข็ง
  • 3-4 ชั่วโมงหลังฉีดโบท็อกยกคิ้ว ไม่ควรนอนราบ และไม่ควรประคบเย็น เพราะจะไปขัดขวางการดูดซึมของโบท็อก
  • 6-8 ชั่วโมงหลังฉีด ไม่ควรกด บีบ นวด คลึงบริเวณที่ฉีด
  • งดการออกกำลังกายหรือกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด งดสัมผัสความร้อนทุกชนิด เช่น ซาวน่า กดสิว เลเซอร์ และงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นเวลา 2 สัปดาห์
การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกลดกราม

ปัญหาที่อาจเกิดหลังฉีดโบท็อกซ์ลดกราม

หากฉีดโบท็อกเพื่อลดกรามเพียงอย่างเดียว หลังจากกรามยุบลงแล้ว อาจจะทำให้ผิวหนังหย่อนลงได้ครับ ส่งผลให้หนังบริเวณลำคอเยอะขึ้น หมอจึงแนะนำให้ฉีดโบท็อกลิฟท์หน้าควบคู่กับการฉีดโบท็อกลดกราม จะช่วยให้ใบหน้าสวยเข้ารูป ตึงกระชับ ไม่หย่อนคล้อย


วิธีทำให้หน้าเรียวแต่ละอย่าง มีข้อแตกต่างกันอย่างไร ?

วิธีการทำให้หน้าเรียว นอกจากการฉีดโบท็อกซ์ลดกรามแล้ว ยังมีหัตถการอื่น ๆ ที่สามารถช่วยปรับรูปหน้าได้เหมือนกัน แต่จะใช้แก้ปัญหาที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • ร้อยไหมดึงแก้ม เน้นการยกกระชับผิว เหมาะกับผู้ที่แก้มแถว ๆ มุมปากหย่อนเยอะ
  • ฉีดฟิลเลอร์ ช่วยเติมคางให้ใบหน้าโดยรวมดูสมส่วน และเติมเต็มร่องลึก เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม
  • ฉีดเมโสแฟต ช่วยสลายไขมัน เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมบนใบหน้า ต้องการลดแก้มและเหนียง 
  • Hifu/Ulthera/Thermage เน้นกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิว ช่วยยกกระชับผิวหน้า ลดริ้วรอยเล็ก ๆ 

รีวิว ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม

รีวิวฉีด Botoxกราม ที่ V Square Clinic คนไข้ส่วนใหญ่มักจะฉีดลดกราม ร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์คาง หรือร้อยไหมยกกระชับ ช่วยให้เห็นผลลัพธ์หน้าเรียวสวยชัดเจน

รีวิวฉีดโบท็อกซ์ลดกราม
ผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกซ์กราม 100 U และ ฟิลเลอร์คาง 1 CC
รีวิวฉีดหน้าเรียว
ผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกซ์กราม 100 U ร้อยไหม 6 เส้น และฟิลเลอร์คาง 1 CC
โบท็อกลดกราม + ฟิลเลอร์คาง สวยมั่นใจ ก่อนรับปริญญา

สรุป

การฉีดโบท็อกซ์ลดกราม เป็นหัตถการที่ช่วยลดขนาดกราม แก้ปัญหากรามใหญ่ หน้าบานได้อย่างเห็นผลสามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ เช่น ร้อยไหม ฟิลเลอร์ เมโสแฟต หรือเครื่องมือยกกระชับ เพื่อเสริมประสิทธิภาพของผลลัพธ์ ช่วยให้ใบหน้าเรียวสวยได้รูปที่สุด

สำหรับผู้ที่ต้องการฉีดโบลดกราม เข้ามาให้หมอประเมินก่อนได้ครับ ที่ V Square Clinic หมอมีประสบการณ์ด้านการฉีดโบท็อกปรับรูปหน้า รู้เทคนิคและตำแหน่งการฉีดที่เหมาะสมกับใบหน้าของคนไข้ ใช้ตัวยาที่มีคุณภาพ ผ่าน อย. แกะกล่อง เปิดขวดใหม่ ผสมยาต่อหน้าทุกเคส มั่นใจได้ในผลลัพธ์และความปลอดภัย


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
ฉีดโบท็อกที่ไหนดี โดย หมอต้น

ฉีดโบท็อกที่ไหนดี ? ควรเลือกอย่างไร ไม่ให้ถูกหลอก ได้ยาแท้ ฉีดโดยแพทย์มืออาชีพ

Categories
botox
ฉีดโบท็อกที่ไหนดี โดย หมอต้น

ฉีดโบท็อกที่ไหนดี ?     

เมื่อการฉีดโบท็อกซ์ได้รับความนิยมสูง จึงมีคลินิกเสริมความงามใหม่ ๆ เปิดให้บริการฉีดโบท็อกมากขึ้น และยังทำราคาถูก ๆ เพื่อแย่งชิงลูกค้า แต่จะเลือกฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดี ?  หมอมีข้อมูลมาแนะนำ เพราะไม่ใช่ดูแค่ราคาเป็นหลัก แต่ควรให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรก ถึงจะได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ไม่เสี่ยงดื้อโบท็อก หรือหลังฉีดมีอาการตาแข็ง คิ้วตก ตาตก ยิ้มไม่ได้ ตามมาภายหลัง   

สารบัญ ฉีดโบท็อกที่ไหนดี

  1. เราควรเลือกฉีดโบท็อกที่ไหนดี ?
  2. ทำไมฉีดโบท็อกที่ไหนดี ต้องฉีดที่ V Square Clinic
  3. การดูรีวิวให้มีประสิทธิภาพ ควรทำอย่างไร ?
  4. การเลือกคลินิกไม่ดีมีผลเสียอะไรบ้าง ?
ฉีดโบท็อกซ์ คืออะไร ดีไหม ? ฉีดจุดไหนได้บ้าง ก่อนฉีดควรรู้อะไรบ้าง 

เราควรเลือกฉีดโบท็อกที่ไหนดี ?

ใครที่มีปัญหาริ้วรอย รอยย่น รอยพับ บริเวณหน้าผาก หว่างคิ้ว หางตา ตีนกา ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูมีอายุ หรือใครอยากปรับรูปหน้า ลดกรามให้หน้าเรียวขึ้น การฉีดโบท็อกเป็นหัตถการที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างตรงจุด เห็นผลดี และมีความปลอดภัยสูง หากคนไข้ได้รับการฉีดอย่างเหมาะสม 

แล้วจะเลือกคลินิกฉีดโบท็อกที่ไหนดี ? ก่อนฉีดต้องพิจารณาอะไรบ้าง หมอจะอธิบายเป็นข้อ ๆ ไป ดังนี้  

1. หมอดี หมอเก่ง : มีประสบการณ์การฉีดโบท็อก 

ฉีด botoxที่ไหนดี ? การฉีดโบท็อกทุกครั้งจะต้องฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้นครับ เพราะหากหมอไม่มีประสบการณ์ ไม่ใช่ชำนาญจริง ๆ  ผลลัพธ์ที่ได้อาจแย่กว่าเดิม เช่น ฉีดโบท็อกผิดตำแหน่ง แม้เพียงเล็กน้อยก็อาจได้ผลลัพธ์ที่ผิดพลาด เช่น ปากเบี้ยว ตาตก หรือทำให้ใบหน้าดูไม่สมมาตรได้ 

ฉีดโบท็อกหมอเก่ง หมอซี
ฉีดโบท็อกกับหมอมีประสบการณ์ หมอเป้

ควรฉีดโบท็อกกับแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง

หมอที่ฉีดโบท็อกต้องเข้าใจกายภาพบนใบหน้า และต้องรู้เทคนิคการฉีด ฉีดอย่างไร ? ฉีดตรงไหน ? ถึงจะสวยงาม สามารถออกแบบและดีไซน์รูปหน้าได้ ซึ่งต้องอาศัยการสะสมประสบการณ์ ถือเป็นงานศิลปะและวิทยาศาสตร์ที่มีความสัมพันธ์กัน ตัวหมอต้องเข้าใจอย่างลึกซึ้ง และไม่ใช่หมอทุกคนจะฉีดสวยและเป็นธรรมชาติได้ครับ

Vsquare tips

ปัจจุบันมีคลินิกจำนวนไม่น้อย รับฉีดโบท็อกราคาถูก ๆ แต่ฉีดโดยหมอกระเป๋า พยาบาลผู้ช่วยที่เคยช่วยงานหมอในคลินิก หรือหมอที่ขาดประสบการณ์ จึงทำให้ผลการฉีดโบท็อกออกมาดูไม่เป็นธรรมชาติ หรือเกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ตามมา แนะนำควรตรวจสอบรายชื่อแพทย์จากแพทยสภา เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นหมอจริง มีประสบการณ์

2. ยาดี : โบท็อกแท้ นำเข้า-จัดเก็บอย่างเหมาะสม 

ปัจจุบันมีโบท็อกปลอม โบท็อกหิ้ว เข้ามาในวงการคลินิกเสริมความงามจำนวนมากครับ เพราะราคาถูก หาซื้อง่ายตามอินเทอร์เน็ต ทำให้สามารถทำโปรโมชันฉีดโบท็อกได้ราคาถูก ๆ และยังทำกำไรได้มาก โดยผลเสียทั้งหมดจะตกที่ตัวคนไข้โดยตรงครับ 

เมื่อเป็นโบท็อกปลอม โบท็อกหิ้ว ตัวยาจะไม่บริสุทธิ์ หรือเสื่อมคุณภาพลง หลังฉีดโอกาสเสี่ยงต่อการดื้อยามีสูง รวมถึงการกระจายตัวของตัวยาก็ไม่คงที่ บางครั้งกระจายกว้าง บางครั้งกระจายแคบ ทำให้ไม่สามารถคาดคะเนการกระจายของโบท็อกที่ฉีดได้อย่างแม่นยำ จึงมีโอกาสเกิดปัญหาตามมาได้ง่าย เช่น หน้าแข็ง ปากเบี้ยว ยิ้มไม่สุด คิ้วกระดก ตาตกได้ครับ 

โบท็อกแท้ยาดี

ยาดี โบท็อกแท้ คืออะไร ? โบท็อกที่นำมาฉีดเพื่อลดริ้วรอย หรือปรับรูปหน้า จะต้องเป็นโบท็อกแท้ ที่ถูกนำเข้าและจัดเก็บอย่างถูกต้องเหมาะสม ตัวยาโบท็อกจะต้องเก็บรักษาในอุณหภูมิ 2-8 °C ตลอดเวลา เย็นเกินก็สลาย ร้อนเกินก็สลาย เพราะเป็นโปรตีน 

ดังนั้นโบท็อกหิ้ว ที่ลักลอบเอาเข้ามาจะไม่สามารถรักษาตามอุณหภูมิที่สมควรได้ครับ ทำให้คุณสมบัติของตัวยาเสื่อมลง ฉีดแล้วจะอยู่ได้สั้นลงและดื้อยาง่ายขึ้นครับ 

วิธีดูโบท็อกซ์แท้แต่ละยี่ห้อ ก่อนพลาดฉีดโบท็อกปลอมต้องเสี่ยงอะไรบ้าง ? 

เพื่อความมั่นใจและสบายใจก่อนฉีด คนไข้สามารถให้หมอเปิดขวดใหม่ ผสมยา ดูดยาต่อหน้าจนหมด ขอกล่องและขวดกลับบ้าน เพื่อให้สามารถโทรตรวจสอบเลข Lot. กับบริษัทนำเข้าได้ ซึ่งถ้าเป็นคลินิกที่บริสุทธิ์ใจ ไม่มีอะไรปิดบัง ก็จะยินดีทำตามคำขอของคนไข้ครับ

3. คลินิกดี : ได้มาตรฐาน มีสาขารองรับ 

คลินิกเสริมความงามที่เปิดให้บริการฉีดโบท็อก จะต้องเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง โดยมีวิธีสังเกตดังนี้ 

  • มีป้ายชื่อสถานพยาบาลและเลขที่ใบอนุญาตจำนวน 11 หลัก ติดไว้ที่หน้าคลินิก ใช้แผ่นป้ายพื้นสีขาว และตัวอักษรในป้าย แสดงชื่อโดยใช้สีเขียว (คลินิกเวชกรรม)  
  • มีการแสดงใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล และแสดงใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล
  • ชื่อ-นามสกุล แพทย์ที่ทำการฉีดโบท็อกในคลินิก ต้องตรงตามรูปถ่าย และมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่แสดงไว้ในคลินิก
  • คลินิกควรอยู่ในทำเลที่ปลอดภัย เดินทางง่าย สะดวก หรือมีหลายสาขารองรับ 
คลินิกฉีดโบท็อกที่ได้มาตรฐาน

คลินิกที่มีหลายสาขารองรับดีอย่างไร ?  ข้อดีของการเลือกใช้บริการคลินิกที่มีหลายสาขา คือ 

  1. คลินิกเสริมความงามที่มีหลายสาขา หรือมีการขยายสาขาอยู่เรื่อย ๆ นอกจากแสดงถึงการเติบโตของธุรกิจแล้ว ยังบ่งบอกถึงความสำเร็จ และความไว้วางใจจากผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  2. คลินิกที่มีหลายสาขา มักมีสาขาในทำเลที่เป็นศูนย์กลาง ที่การเดินทางสะดวก มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ เช่น ร้านอาหาร ที่จอดรถ ซึ่งมักอยู่ในห้างสรรพสินค้า หรือใกล้ห้างสรรพสินค้า 
  3. มีตัวเลือกสาขาใกล้บ้าน มากขึ้น ทำให้สะดวกสบายในการเข้ารับการบริการ 

4. บริการดี : ติดตามผล ติดต่อได้ ให้ข้อมูลดี 

การบริการที่ดี  มีการให้ข้อมูลอย่างครบถ้วน รวมถึงมีการติดตามผล ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ควรนำมาใช้ในการตัดสินใจฉีดโบท็อกที่ไหนดีครับ เพราะคลินิกที่ให้ข้อมูลอย่างละเอียดจะช่วยให้คนไข้สามารถดูแลตัวเองก่อนหลังฉีดโบท็อกได้อย่างเหมาะสม หรือหากมีข้อกังวลสงสัย ก็สามารถสอบถามได้โดยไม่อึดอัด  


ทำไมฉีดโบท็อกที่ไหนดี ต้องฉีดที่ V Square Clinic

V Square Clinic เป็น คลินิกเสริมความงามที่เปิดให้บริการฉีดโบท็อกและหัตถการอื่น ๆ ในการปรับรูปหน้า มากว่า 8 ปี มีรีวิวจากผู้ใช้บริการกว่า 200,000 เคส ได้รับความไว้วางใจจากคนไข้อย่างต่อเนื่อง เพราะให้ความสำคัญกับปลอดภัย และซื่อสัตย์กับคนไข้ โดยคนไข้ทุกคนจะได้รับ  

1. ฉีดโบท็อกโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์

  • ทีมแพทย์ทุกคนในคลินิกมีใบประกอบวิชาชีพ โดยสามารถตรวจสอบได้จากชื่อ-นามสกุลจริงของแพทย์ บนเว็บไซต์ของแพทยสภา และมีป้ายรายชื่อผู้ประกอบวิชาชีพในคลินิกติดไว้ในที่เปิดเผย 
รางวัลV Square Clinic
  • ทีมแพทย์มีประสบการณ์ในการฉีดโบท็อกลดริ้วรอย – ปรับรูปหน้ากว่า 15 ปี และยังไม่หยุดพัฒนาฝีมือ มีการ Training อัปเดตความรู้ เทคนิคการทำหัตถการ และการใช้เครื่องมือนวัตกรรมต่าง ๆ ที่ช่วยให้การปรับรูปหน้าได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น มีความทันสมัยอยู่ตลอด 

2. ผลิตภัณฑ์โบท็อกทุกยี่ห้อที่ใช้เป็นของแท้ ตรวจสอบได้ มีความปลอดภัยสูง 

V square Clinic  ใช้โบท็อกแท้และได้มาตรฐาน มีตัวแทนจำหน่ายอย่างถูกต้องครับ ทุกยี่ห้อที่เลือกใช้ มีเลข อย. สามารถตรวจสอบได้ ได้แก่ โบท็อก Allergan (อเมริกา) โบท็อก Dysport (อังกฤษ) โบท็อก Neuronox , Nabota, Aestox (เกาหลี) และ โบท็อก Xeomin (เยอรมัน) โดยทุกยี่ห้อ และทุกตำแหน่งฉีดจะแจ้งราคาและปริมาณตัวยาที่ฉีดอย่างโปร่งใส ชัดเจน 

Landingpage-botox-ลดกรามหน้าเรียว_2024
Landingpage-botox-ลดริ้วรอยหน้าเรียว_ทั่วหน้า_2024
Landingpage-botox_เฉพาะจุด_2024

นอกจากนี้ก่อนฉีดแพทย์จะเปิดขวดใหม่ ผสมยา ดูดยาต่อหน้าจนหมด ให้กล่องและขวดกลับบ้าน สามารถโทรเช็กเลข Lot สินค้ากับบริษัทนำเข้าได้ เพื่อให้แน่ใจครับว่าเป็นโบท็อกแท้ ปลอดภัย

3. มีการติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่องโดยแพทย์ 

หากคนไข้มีข้อซักถาม สามารถปรึกษาแพทย์โดยตรงผ่านช่องทางการติดต่อที่ง่ายและรวดเร็ว โดยแพทย์ผู้รักษาเป็นผู้ตอบคำถามเอง 

คลินิกปรึกษาฟรี โดย หมอโต้ง หมอแพน หมอเบิร์ด และคุณเจสซี่

ปัจจุบัน วี สแควร์ คลินิก ได้มีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการ โดยในปัจจุบันมีทั้งหมด 24 สาขา และจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต เพื่อครอบคลุมในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยมุ่งเน้นในการรักษามาตรฐานทุกสาขา ด้วยทีมแพทย์มากประสบการณ์ที่ประจำอยู่ในสาขาต่าง ๆ ที่มีจุดเด่นเรื่องการอยู่ในทำเลที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย เดินทางสะดวก สามารถปรึกษาหมอได้โดยตรง

1. V Square Clinic สาขาสยามสแควร์วัน  

คลินิกเสริมความงาม V Square สาขาสยามสแควร์วัน ตั้งอยู่ในศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน ชั้น 6 ติด BTS สยาม เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

093 110 9000

คลิกดูแผนที่

@VsqSQR

วีสแควร์สาขาสยาม

2. V Square Clinic สาขาเกตเวย์ เอกมัย

คลินิกเสริมความงาม V Square สาขาเกตเวย์ เอกมัย เดินเข้าจากทางเชื่อม BTS เอกมัย ขึ้นบันไดเลื่อน 1 ชั้น คลินิกอยู่ติดกับร้านทำฟัน เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

099 005 9000 

คลิกดูแผนที่

@VSqGTW

วีสแควร์สาขาเกตเวย์เอกมัย

3. V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว

V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว ตั้งอยู่ใกล้ประตู 3 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว  ใกล้ The One Park ฝั่งที่เดินไป MRT พหลโยธิน เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

091 905 7000 

คลิกดูแผนที่

@VsqCLP

วีสแควร์สาขาเซ็นทรัล-ลาดพร้าว

4. V Square Clinic สาขาเมเจอร์ รัชโยธิน

V Square Clinic สาขาเมเจอร์ รัชโยธิน  ตั้งอยู่ชั้น3 ภายในห้างสรรพสินค้าเมเจอร์ รัชโยธิน เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

093 001 9000

คลิกดูแผนที่

@VsqRCT

วีสแควร์สาขาเมเจอร์รัชโยธิน

5. V Square Clinic สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต 

V Square Clinic สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต คลินิกอยู่ชั้น 1โซนโรบินสัน ติดกับร้านแว่น  และร้าน Samsonite เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น. 

093 030 9000 

คลิกดูแผนที่

@VsqRST

วีสแควร์สาขาฟิวเจอร์พาร์ค-รังสิต

6. V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล บางนา 

V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล บางนา ตั้งอยู่ ชั้น 14 โซนออฟฟิศ อาคารเซ็นทรัลซิตี้ทาวเวอร์  เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

099 105 9000 

คลิกดูแผนที่

@VsqBNA

วีสแควร์สาขาเซ็นทรัล บางนา

7. V Square Clinic สาขาซีคอน ศรีนครินทร์  

V Square Clinic สาขาซีคอน ศรีนครินทร์  ตั้งอยู่ชั้น 3 ภายในศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์  เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

091 916 9000 

คลิกดูแผนที่

@VsqSCN

วีสแควร์สาขาซีคอน ศรีนครินทร์

8. V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า 

V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

099 006 7000

คลิกดูแผนที่

@VsqPNK

วีสแควร์สาขาเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า

9. V Square Clinic สาขาเดอะวอล์ค ราชพฤกษ์

V Square Clinic สาขาเดอะวอล์ค ราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ชั้น 2 ภายในศูนย์การค้าเดอะวอล์ค ราชพฤกษ์ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

099 005 7000 

คลิกดูแผนที่

@VsqRCP

วีสแควร์สาขาเดอะวอล์ค ราชพฤกษ์

10. V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล พระราม 2  

V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล พระราม 2 ตั้งอยู่ชั้น 2 ภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พระราม 2 เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

091 914 9000 

คลิกดูแผนที่

@VsqCTR

วีสแควร์สาขาเซ็นทรัล พระราม 2

11. V Square Clinic สาขาเดอะ พรอมานาด   

V Square Clinic สาขาเดอะ พรอมานาด ตั้งอยู่ชั้น 4 โซนความงาม คิดบันไดเลื่อน ภายในศูนย์การค้าเดอะ พรอมานาด เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

091 905 8000 

คลิกดูแผนที่

@VsqPRM

วีสแควร์สาขาเดอะ พรอมานาด

12. V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล อีสวิลล์ 

V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล อีสวิลล์ ตั้งอยู่ชั้น 3 ภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล อีสวิลล์ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

093 012 9000 

คลิกดูแผนที่

@VsqESV

วีสแควร์สาขาเซ็นทรัล อีสวิลล์

13. V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ  

V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ  ตั้งอยู่ชั้น 3 ภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ  เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

093 007 9000 

คลิกดูแผนที่

@VsqCWT

วีสแควร์สาขาเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ

14. V Square Clinic สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ 

V Square Clinic สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ ตั้งอยู่ชั้น 2 ในห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

091 903 9000 

คลิกดูแผนที่

@VsqBKP

วีสแควร์สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ

15. V Square Clinic สาขาพาซิโอ กาญจนาภิเษก  

V Square Clinic สาขาพาซิโอ กาญจนาภิเษก ตั้งอยู่ชั้น 1 โซนร้านอาหาร เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

084 242 4000

คลิกดูแผนที่

@VsqPSO

วีสแควร์สาขาพาซิโอ

16. V square clinic สาขาเซ็นทรัล พระราม 3 

V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล พระราม 3  ตั้งอยู่ชั้น 4 บริเวณโถงลิฟท์แก้ว เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

092 236 2000 

คลิกดูแผนที่

@VsqCRM

วีสแควร์สาขาเซ็นทรัล พระราม 3

17. V square clinic สาขาเซ็นทรัล เวสต์เกต 

V Square Clinic สาขาเดอะมอลล์ บางแค คลินิกตั้งอยู่ที่ชั้น 2 เยื้องกับ Trust คลินิกทันตกรรม ตรงข้ามจะเป็น Makalin คลินิก เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

092 245 2000

คลิกดูแผนที่

@VsqMba

วีสแควร์สาขาเวสต์เกต

18. V square clinic สาขาเดอะมอลล์ บางแค

V Square Clinic สาขา เซ็นทรัล เวสต์เกต    คลินิกตั้งอยู่ชั้น 2 อยู่ติดกับ Makalin คลินิก เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

084 404 0400

คลิกดูแผนที่

@VsqCwg

วีสแควร์สาขาเดอะมอลล์ บางแค

19. V square clinic เอ็มควอเทียร์

V Square Clinic สาขา เอ็มควอเทียร์ เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 35 ตรงเข้ามาประมาณ 20 เมตร คลินิกอยู่ซ้ายมือเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

081 712 5000

คลิกดูแผนที่

@VsqEmq

วีสแควร์สาขาเอ็มควอเทียร์

20. V square clinic เดอะมอลล์ ท่าพระ

V Square Clinic สาขา เดอะมอลล์ ท่าพระ คลินิกตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ตรงข้าม BANANA IT เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

080 453 4000

คลิกดูแผนที่

@VsqMTA

วีสแควร์สาขาเดอะมอลล์ ท่าพระ

21. V square clinic เทอร์มินอล พระราม 3

V Square Clinic สาขา เดอะมอลล์ ท่าพระ คลินิกตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ตรงข้าม BANANA IT เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

092 998 9000

คลิกดูแผนที่

@VsqMTA

วีสแควร์สาขาเทอร์มินอล พระราม 3

22. V square clinic เซ็นทรัล รามอินทรา

V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล รามอินทรา ตั้งอยู่ชั้น 3
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. – 19.30 น.

092 628 9000

คลิกดูแผนที่

@VsqCRA

วีสแควร์สาขารามอินทรา

23. V square clinic เทอร์มินอล อโศก

V Square Clinic สาขา เทอร์มินอล อโศก ตั้งอยู่ชั้น 6 เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

092 879 9000

คลิกดูแผนที่

@VsqTMA

วีสแควร์สาขาเทอร์มินอล-อโศก

24. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic เซ็นทรัล ศาลายา

V Square Clinic สาขา เซ็นทรัล ศาลายา ตั้งอยู่ชั้น 2 โซนพลาซ่า ใกล้กับ คาเฟ่อเมซอน ตรงข้ามเยื้อง Supersports
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

064 939 9000

คลิกดูแผนที่

@VsqCSA

V Square Clinic เซ็นทรัล ศาลายา

25. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic เซ็นทรัล นครปฐม

V Square Clinic สาขา เซ็นทรัล นครปฐม
ตั้งอยู่ชั้น 2 โซนลานกิจกรรม ติดกับร้านKT OPTIC และ LUX OPTIC
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

092 826 9000

คลิกดูแผนที่

@VsqCnk

25_วีสแควร์สาขาเซ็นทรัลนครปฐม.jpg

26. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic เมกาบางนา

V Square Clinic สาขา เมกาบางนา คลินิกตั้งอยู่ ชั้น 1 ตรงข้ามธนาคารกรุงศรี
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00-20.30 น

065 156 1000

คลิกดูแผนที่

@VsqMga

26_วีสแควร์สาขาเมกา-บางนา

27. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic เซ็นทรัล พระราม 9

V Square Clinic สาขา พระราม 9 คลินิกตั้งอยู่ ชั้น 1 อาคารภคินท์ ตรงข้ามกับ เซ็นทรัล พระราม9
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-20.30 น.

098 964 9000

คลิกดูแผนที่

@VsqCpn

27_วีสแควร์สาขาพระราม9

การดูรีวิวให้มีประสิทธิภาพ ควรทำอย่างไร ?

ฉีดโบท็อกคลินิกไหนดี ? การดูรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการ สามารถช่วยเพิ่มข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้ครับ  วิธีการดูรีวิวง่าย ๆ ให้ดูที่ โพสต์ feedback ของคลินิกนั้น ๆ ซึ่งคลินิกส่วนใหญ่จะมี facebook page เป็นของตัวเอง เพื่อโปรโมทโปรโมชัน และลงรูปตัวอย่างรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการของคลินิก

แนะนำให้ดูที่ รีวิวติดดาวใน facebook ร่วมด้วยครับ เพราะจะเห็น feedback จริง ๆ จากคนไข้ ว่ามีประสบการณ์จากการรับบริการเป็นอย่างไร พบปัญหาหรือไม่ คลินิกมีแนวทางแก้ไขอย่างไร ครับ ซึ่งคลินิกที่ได้รับความไว้วางใจ ให้บริการด้วยความใส่ใจ มักจะเปิดให้รีวิวครับ

รีวิวฉีดโบที่ไหนดี

นอกจากนี้ สามารถดูรีวิวติดดาวใน google map รีวิวตาม website ต่าง ๆ เช่น wongnai pantip เป็นต้น 

รีวิวฉีดโบท็อก
รีวิวฉีดโบท็อก

การเลือกคลินิกไม่ดีมีผลเสียอะไรบ้าง ?

ในทางกลับกัน หากเลือกคลินิกฉีดโบท็อกจากราคาถูก ๆ ฉีดแบบเหมา ๆ ราคาหลักร้อย หลักพันต้น ๆ คลินิกไม่ได้มาตรฐาน หรือฉีดจากหมอกระเป๋า ที่มักนัดมาฉีดตามคอนโด ร้านเสริมสวย แบบนี้ต้องระวังครับ เพราะสิ่งคนไข้จะได้คือ 

  1. โบท็อกปลอม โบท็อกหิ้ว ตัวยาเสื่อมคุณภาพ 
  2. หลังฉีดเสี่ยงดื้อโบท็อก อาจเกิดการอักเสบ ติดเชื้อ เนื่องจากความสะอาดไม่มากพอ 
  3. หลังฉีดเกิดปัญหาคิ้วตก ตาตก ตาแข็ง ปากเบี้ยว หน้าผิดรูป ยิ้มไม่ได้ เพราะฉีดผิดตำแหน่ง หรือปริมาณการฉีดไม่เหมาะสม ทำให้สูญเสียความมั่นใจได้ครับ
  4. ผลลัพธ์ที่ได้ไม่คุ้มเสีย    

เพื่อความมั่นใจ สบายใจ และปลอดภัยสูงสุด ก่อนตัดสินใจฉีดโบที่ไหนดี ? ควรศึกษาข้อมูลการฉีดโบท็อกและคลินิกฉีดโบท็อกอย่างละเอียดครับ โดยเริ่มจากสังเกตจากข้อมูลที่หมอแนะนำ หากไม่มั่นใจ แนะนำอย่ารีบด่วนตัดสินใจครับ ให้เข้ามาปรึกษาแพทย์ และสอบถามข้อสงสัยเพิ่มเติมจากแพทย์โดยตรง เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจอีกครั้งครับ


สรุป

ฉีดโบท็อกที่ไหนดี ? ความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับ 1 ครับ ก่อนฉีดต้องมั่นใจว่าจะได้ยาแท้ หมอตัวจริง หมอมีฝีมือประสบการณ์สูง เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาริ้วรอย หรือช่วยปรับรูปหน้าให้สวยงาม ดูอ่อนเยาว์ และเป็นที่พึงพอใจ  ส่วนราคาให้ดูความสมเหตุสมผล อย่าเห็นแก่ของถูก ปัจจุบันคลินิกที่ได้มาตรฐานมีโปรโมชัน ผ่อน 0% ออกมาเยอะครับ ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้คนไข้ได้รับการบริการที่ดี และมีความปลอดภัยสูงครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
โบท็อกซ์รักแร้

โบท็อกซ์รักแร้ ลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัวให้น้อยลง กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานไหม ?

Categories
botox
โบท็อกซ์รักแร้

โบท็อกซ์รักแร้

โบท็อกซ์รักแร้ เป็นการฉีดโบท็อกเพื่อช่วยลดเหงื่อใต้วงแขน ลดกลิ่นตัวที่เกิดจากเหงื่อ ถือเป็นวิธีลดเหงื่อได้เห็นผลชัดเจน รวดเร็ว และอยู่ได้นาน โดยสามารถลดเหงื่อได้ถึง 80% หลังทำ ช่วยให้คนไข้มีความมั่นใจมากขึ้น

การฉีดโบท็อกรักแร้ โดยหมอต้น
รีวิว โบท็อกรักแร้ ลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว ได้กว่า 80%

เพื่อให้เข้าใจเกี่ยวกับการฉีด Botox รักแร้มากขึ้น ว่าช่วยอะไรได้บ้าง กลิ่นตัวแรงช่วยลดกลิ่นได้ไหม ต้องฉีดกี่ครั้ง ฉีดโบท็อกซ์รักแร้ใช้โบท็อกยี่ห้อไหนดี หมอมีข้อแนะนำและสรุปให้ในบทความนี้ครับ

สารบัญ โบท็อกซ์รักแร้

  1. เหงื่อเยอะ รักแร้เปียก กลิ่นตัวแรง เกิดจากอะไร ?
  2. โบท็อกซ์รักแร้ ช่วยลดเหงื่อลดกลิ่นได้อย่างไร ?
  3. ฉีดโบท็อกซ์รักแร้กี่วันเห็นผล ?
  4. โบท็อกซ์รักแร้ มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร เมื่อเทียบกับการลดเหงื่อด้วยวิธีอื่น
  5. โบท็อกซ์รักแร้เหมาะกับใคร ?
  6. ข้อควรระวังในการฉีดโบท็อกซ์รักแร้
  7. ฉีดโบท็อกรักแร้เจ็บไหม ?
  8. ฉีดโบรักแร้ มีผลกับการออกกำลังกายไหม ?
  9. ฉีดโบท็อกซ์รักแร้ ยี่ห้อไหนดี ?
  10. ฉีดโบท็อกซ์รักแร้ ราคาเท่าไร ใช้กี่ยูนิต ?
  11. ฉีดโบท็อกซ์รักแร้ อยู่ได้นานไหม ?
  12. ฉีดโบท็อกซ์รักแร้ ที่ไหนดี ?
  13. วิธีปฏิบัติตัวก่อนและหลังฉีดโบท็อกซ์รักแร้
  14. วิธีปฏิบัติตัวหลังฉีดโบท็อกซ์รักแร้
  15. รีวิว โบท็อกซ์รักแร้

เหงื่อเยอะ รักแร้เปียก กลิ่นตัวแรง เกิดจากอะไร ?

เหงื่อ เป็นกลไกที่ต่อมเหงื่อ (Eccrine Sweat Glands) ขับน้ำออกมาเพื่อรักษาสมดุลของอุณหภูมิในร่างกาย (Thermoregulation) ทำให้ร่างกายเย็นลงเมื่อมีความร้อนเกิดขึ้น ปัจจัยที่ทำให้เกิดเหงื่อ ได้แก่

  • อุณหภูมิ จากสภาพแวดล้อมและอุณหภูมิภายในร่างกาย เช่น อากาศร้อน หรือป่วยมีไข้สูง
  • การรับประทานอาหาร เช่น เครื่องดื่มคาเฟอีน ชา กาแฟ แอลกอฮอล์ อาหารที่เผ็ดมาก ๆ
  • สภาวะทางอารมณ์ ก็สามารถกระตุ้นให้เหงื่อออกได้ เช่น กลัว โกรธ เครียด วิตกกังวล
  • การใช้ยาบางชนิด ส่งผลให้มีเหงื่อออกมาก เช่น  ยาลดไข้ ยาแก้ปวดหรือมอร์ฟีน
  • ฮอร์โมน ทำให้เหงื่อออกง่าย โดยเฉพาะในวัยทองซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนมาก ๆ 
เหงื่อออกที่รักแร้
เหงื่อออกที่รักแร้ทำให้เสียความมั่นใจ

นอกจากนี้ยังมีโรคที่สัมพันธ์กับเหงื่อ เช่น ภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ (Hyperhidrosis), กลุ่มอาการซีอาร์พีเอส (Complex Regional Pain Syndrome) หรือโรคไทรอยด์เป็นพิษ ร่างกายมีการเผาผลาญสูง ทำให้ร่างกายขับเหงื่อออกมามากแม้จะอยู่ในอุณหภูมิปกติ 

หากต้องการลดเหงื่อ ไม่ให้เหงื่อออกเยอะ ลดเหงื่อรักแร้ ต้องลดการทำงานของต่อมเหงื่อ (Eccrine Sweat Glands) ใต้ผิวหนัง จะเป็นวิธีที่ทำแล้วเห็นผลชัดเจนกว่าการใช้ครีมหรือผลิตภัณฑ์ลดเหงื่อทั่วไป


โบท็อกซ์รักแร้ ช่วยลดเหงื่อลดกลิ่นได้อย่างไร ?

ฉีดโบท็อกรักแร้  คือ การฉีดสาร Botulinum Toxin Type A เข้าไปบริเวณรักแร้ที่เป็นต่อมเหงื่อ ตัวยาโบท็อกจะออกฤทธิ์กับระบบประสาท ช่วยยับยั้งการทำงานของต่อมเหงื่อ ทำให้เหงื่อออกน้อยลง สามารถลดเหงื่อได้ประมาณ 80% ต่อการฉีด 1 ครั้ง

ขั้นตอนการฉีดโบท็อกรักแร้
ขั้นตอนการฉีดโบท็อกรักแร้

สำหรับเรื่องกลิ่นตัว จริง ๆ แล้วก็มีความสัมพันธ์กับเหงื่อครับโดยกลิ่นตัวเกิดจากต่อม Apocrine Sweat Glands จะพบบางที่ในร่างกาย เช่น รักแร้ ขาหนีบ ก้น แผ่นหลัง เมื่อร่างกายมีเหงื่อออกบนผิวหนังในจุดที่มีความชื้นและอุณหภูมิสูง จะถูกเชื้อแบคทีเรียย่อยสลายเปลี่ยนให้เป็นแอมโมเนียและกรดไขมัน ทำให้มีกลิ่นฉุนหรือเปรี้ยวออกมาเป็นกลิ่นตัว เมื่อฉีดโบท็อกก็จะเห็นผลว่าทั้งเหงื่อและกลิ่นตัวลดลง ส่วนใหญ่คนไข้ที่เคยฉีดโบท็อกรักแร้ก็มักจะกลับมาฉีดซ้ำ เพราะเห็นผลดีครับ


ฉีดโบท็อกซ์รักแร้กี่วันเห็นผล ?

หลังจากฉีดโบท็อกรักแร้ใช้เวลาประมาณ 1-3 วัน ก็เริ่มเห็นผลแล้วครับ จากนั้น 3-7 วัน เหงื่อจะค่อย ๆ ลดลง จนเห็นผลเต็มที่ รักแร้จะแห้ง ๆ ครับ ใส่เสื้อผ้าก็จะรู้สึกสบายตัวขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องเหงื่อใต้วงแขน


โบท็อกซ์รักแร้ มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร เมื่อเทียบกับการลดเหงื่อด้วยวิธีอื่น

วิธีลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว นอกจากโบท็อกรักแร้ก็มีอีกหลายวิธีที่นิยมกันครับ หมอจะเปรียบเทียบแต่ละแบบให้เห็นดังนี้

  • โรลออนลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว 
โรลออนลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว

ในส่วนประกอบของโรลออนระงับกลิ่นกาย จะมีส่วนผสมที่เป็นสารลดการหลั่งของเหงื่อ (Antiperspirants)  เช่น อะลูมิเนียมคลอโรไฮเดรต อะลูมิเนียมไดคลอโรไฮเดรตสารส้ม อะลูมินัมเซอร์โคเนียมเททระคลอโรไฮเดรต โดยสารเคมีเหล่านี้จะทําปฏิกิริยากับรูขุมขน ช่วยระงับการทํางานของต่อมเหงื่อจากภายนอก ช่วยให้ใต้วงแขนแห้งได้ชั่วคราว เห็นผลน้อยกว่าและสั้นกว่าการฉีดโบท็อกรักแร้ครับ

  • เลเซอร์ลดต่อมเหงื่อ
เลเซอร์ลดต่อมเหงื่อ

เลเซอร์รักแร้ เป็นการเลเซอร์ลดต่อมเหงื่อให้ลดลง โดยใช้คลื่นความร้อนที่เฉพาะเจาะจง ยิงเข้าไปในผิวบริเวณรักแร้ แล้วปล่อยพลังงานออกไปในชั้นหนังแท้ถึงชั้นไขมัน เมื่อจำนวนต่อมเหงื่อลดลง เหงื่อก็ออกน้อยลง การเลเซอร์ลดต่อมเหงื่อมีหลายรูปแบบครับ เช่น miraDry, Ultra Dry

  • ผ่าตัดต่อมเหงื่อ
ผ่าตัดต่อมเหงื่อ

การผ่าตัดต่อมเหงื่อ ทำเพื่อเลาะต่อมเหงื่อออกไปครับ หรือผ่าตัดเส้นประสาทที่มาเลี้ยงต่อมเหงื่อเพื่อทำให้สั่งงานลดลง หลังผ่าตัดแพทย์จะปิดแผลตามแนวรอยพับของรักแร้ ช่วยลดเหงื่อได้ประมาณ 95% แต่ก็จะมีเรื่องแผลเป็นและการดูแลหลังผ่าตัด ถ้าไม่ได้เหงื่อออกมากจนสร้างปัญหาหรือส่งผลกับสุขภาพ การฉีดโบท็อกรักแร้ก็เพียงพอครับ 


โบท็อกซ์รักแร้เหมาะกับใคร ?

  • มีเหงื่อออกมากเกินไป รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
  • มีปัญหากลิ่นตัวจากเหงื่อ ทำให้ขาดความมั่นใจ
  • มีโรคประจำตัวที่ทำให้เหงื่อออกมากกว่าปกติ
  • แพ้ผลิตภัณฑ์สำหรับลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว เช่น โรลออน สเปรย์ ครีม
  • ต้องการความมั่นใจเวลาใส่เสื้อผ้า ไม่อยากให้มีเหงื่อออกใต้วงแขน
  • ต้องการผลลัพธ์การลดเหงื่อรักแร้ที่รวดเร็ว ชัดเจน
  • ไม่ต้องการลดเหงื่อด้วยการผ่าตัด มีแผลเป็น

ข้อควรระวังในการฉีดโบท็อกซ์รักแร้

หลายคนคิดว่าฉีดโบท็อกรักแร้แล้วอยู่ได้ตลอดไป แต่จริง ๆ การฉีดโบท็อกรักแร้ไม่ได้ช่วยลดเหงื่อถาวรครับ จะอยู่ได้ตามอายุการออกฤทธิ์ของโบท็อก คือประมาณ 3-4 เดือน หลังจากนั้นต้องกลับมาฉีดเพิ่ม

ก่อนฉีดโบท็อกรักแร้ โดยหมอแอม
ก่อนฉีดโบท็อกแพทย์ต้องผสมน้ำเกลือและดึงยาออกจากขวดต่อหน้าคนไข้ทุกครั้ง

อีกข้อที่สำคัญคือการเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ก็เป็นสิ่งสำคัญครับ เพราะการฉีดโบท็อกรักแร้ต้องใช้ปริมาณโบท็อกค่อนข้างมาก แพทย์ต้องมีความแม่นยำในการฉีด และฉีดในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้มีผลข้างเคียงกับกล้ามเนื้อบริเวณข้างเคียงครับ

ข้อห้ามการฉีดโบท็อก ที่อันตรายถึงชีวิต

นอกจากนี้ยังมีข้อห้ามฉีดโบท็อกในคนที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ, เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงชนิดต่าง ๆ หรือมีประวัติเคยแพ้ส่วนผสมของโบท็อก

  • คนที่มีปัญหาเรื่อง โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด โรคถุงลมโป่งพอง อาจจะอันตรายถึงชีวิต
  • คนที่มีปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อในการกลืน
  • คนที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงต่าง ๆ เช่น
    • amyotrophic lateral sclerosis (ALS)
    • Lou Gehrig’s disease
    • myasthenia gravis
    • Lambert-Eaton syndrome
  • มีอาการติดเชื้อที่ผิวหนังในจุดที่จะฉีดโบท็อก
  • มีอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ หรือ มีภาวะติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ

ก่อนฉีดจึงต้องแจ้งประวัติโรคกับยาที่ทานประจำให้แพทย์ทราบทุกครั้ง เพื่อประเมินว่าฉีดได้หรือไม่ได้ตามความเหมาะสม


ฉีดโบท็อกรักแร้เจ็บไหม ?

โดยปกติก่อนฉีดทางคลินิกจะมีการแปะยาชาให้ครับ คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บ ระหว่างฉีดคนไข้อาจจะรู้สึกเวลาเข็มจิ้มหรือตอนเดินยาบ้างเล็กน้อย แต่บางคนก็ไม่รู้สึกเลยก็มีครับ 


ฉีดโบรักแร้ มีผลกับการออกกำลังกายไหม ?

ถ้าหลังฉีดโบรักแร้ไป หมอจะยังไม่แนะนำให้ออกกำลังกายทันทีครับ จะส่งผลต่อการกระจายตัวของโบท็อก ดังนั้นควรเว้นการออกกำลังกายหนัก ๆ สัก 1 วัน หลังจากนั้นก็ออกกำลังกายเบา ๆ ได้ 


ฉีดโบท็อกซ์รักแร้ ยี่ห้อไหนดี ?

การฉีดโบท็อกรักแร้ สามารถใช้ได้ทุกยี่ห้อครับ ทั้ง Nabota, Aestox, Xeomin และ Dysport ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีจุดเด่นแตกต่างกัน เช่น การกระจายตัวยา ระยะเวลาที่ออกฤทธิ์ ระยะเวลาเห็นผล ราคาแต่ละยี่ห้อก็จะต่างกันด้วยครับ สำหรับรักแร้ที่นิยมจะเป็นโบท็อก Dysport ของอังกฤษ ยากระจายตัวกว้าง เหมาะกับฉีดกล้ามเนื้อมัดใหญ่อย่างรักแร้ กล้ามแขน น่อง 

ฉีดโบท็อกซ์รักแร้ ยี่ห้อ Dysport
วิธีดู โบท็อกซ์ปลอม โบท็อกหิ้ว? โบท็อกแต่ละยี่ห้อ มีข้อควรระวังอะไร? l หมอ V Square แชร์หมดเปลือก

ฉีดโบท็อกซ์รักแร้ ราคาเท่าไร ใช้กี่ยูนิต ?

โบท็อกซ์รักแร้ราคาขึ้นอยู่กับยี่ห้อและปริมาณยูนิตที่ใช้ ในการฉีดโบท็อกรักแร้ หมอจะฉีดเป็นจุด ๆ เรียงกันให้ทั่วใต้วงแขน โดยใช้โบท็อกข้างละประมาณ 50-100 ยูนิต (ประมาณ 20-30 จุด) ครับ

Landingpage-botox_เฉพาะจุด_2024

ราคาโบท็อกซ์รักแร้ 

โบท็อก Nabota / Aestox

  • 100 U ราคา 9,000.-
  • 150 U ราคา 12,000.-
  • 200 U ราคา 16,000.-

โบท็อก Dysport

  • 300 U ราคา 18,999.-
  • 600 U ราคา 34,000.-

โบท็อก Xeomin

  • 200 U ราคา 28,000.-

ฉีดโบท็อกซ์รักแร้ อยู่ได้นานไหม ?

โบท็อกรักแร้ จะอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือนครับ ขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อก เทคนิคการฉีด และการดูแลตัวเองของคนไข้ร่วมด้วย แต่ถ้าโบท็อกหมดฤทธิ์แล้วและต้องการรักษาผลลัพธ์ไว้ต่อเนื่องสามารถกลับมาฉีดรักแร้ซ้ำได้


ฉีดโบท็อกซ์รักแร้ ที่ไหนดี ?

ก่อนเลือกฉีดโบท็อกซ์รักแร้ที่ไหนดี ควรพิจารณาจากข้อแนะนำต่อไปนี้ครับ

  1. เลือกคลินิกฉีดโบท็อกที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตถูกต้อง ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ตั้งอยู่ในทำเลที่ปลอดภัย เช่น ห้างสรรพสินค้า อาคารพาณิชย์
  2. ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ สามารถนำชื่อ-นามสกุลเข้าไปตรวจสอบในเว็บไซต์ของแพทยสภา (http://www.tmc.or.th/check_md/) เพื่อดูว่าเป็นแพทย์จริง มีใบรับรอง
  3. ใช้โบท็อกแท้เท่านั้น คนไข้ควรศึกษาวิธีดูโบท็อกแท้เบื้องต้น ก่อนฉีดหมอต้องแกะกล่อง เปิดขวด ผสมยาให้ดูต่อหน้า
  4. ดูรีวิวฉีดโบท็อกรักแร้จากเคสที่เคยใช้บริการจริง ในแหล่งที่เป็นกลาง น่าเชื่อถือ คลินิกไม่สามารถลบหรือแก้ไขได้
  5. คลินิกมีการติดตามผลหลังทำ มีช่องทางการติดต่อที่สะดวก เช่น เบอร์โทรศัพท์, Line@, Facebook Messenger

วิธีปฏิบัติตัวก่อนและหลังฉีดโบท็อกซ์รักแร้

วิธีปฏิบัติตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์รักแร้

  • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกรักแร้ การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน การเลือกหมอ ดูรีวิว
  • งดยา วิตามิน อาหารเสริมบางชนิดก่อนฉีด เช่น แอสไพริน, NSAIDs, วิตามิน St. John’s Wort, ginkgo biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E 
  • ต้องไม่มีผิวหนังอักเสบ ผิวหนังติดเชื้อ หรือมีแผลบริเวณที่จะฉีดโบท็อกรักแร้
  • งดยาผลัดเซลล์ผิว การดึงหรือโกนขนบริเวณที่จะฉีดโบท็อก
  • หากกลัวเจ็บ สามารถแจ้งขอแปะยาชาก่อนฉีดโบท็อกได้ 
  • หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำควรแจ้งแพทย์ก่อนฉีดโบท็อกทุกครั้ง
การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกรักแร้

วิธีปฏิบัติตัวหลังฉีดโบท็อกซ์รักแร้

  • หลังฉีดโบท็อกรักแร้ 1 วัน ให้งดใช้ผลิตภัณฑ์ลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว 
  • งดทำทรีทเมนต์บริเวณรักแร้ เลเซอร์รักแร้ 2 สัปดาห์
  • งดอบซาวน่า อบไอน้ำ อบตัว 2 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง มะม่วงดอง 2 สัปดาห์
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ น้ำหมัก 2 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เช่น เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด เค็มจัด จะเร่งการขับเหงื่อและทำให้กลิ่นตัวแรง
  • ควรฉีดโบท็อกต่อเนื่องในระยะที่เหมาะสม ไม่ฉีดถี่เกินไป (ควรเว้น 3 เดือน) และไม่เว้นระยะห่างเกินไป (เว้นเกิน 5-6 เดือน)
Vsquare tips

มีงานวิจัยระบุว่า การทาน Zinc 50 mg ก่อนและหลังการฉีดโบท็อก จะช่วยให้โบท็อกออกฤทธิ์ไวขึ้น และช่วยให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้น ในคนไทยส่วนใหญ่จะพบปัญหาร่างกายขาด Zinc ให้สังเกตตัวเองว่ามีอาการ ผมร่วงแตกปลาย, ผิวแห้งลอก, เป็นแผลเรื้อรัง, เป็นผื่นง่าย หรือเล็บแห้งเปราะหัก แนะนำให้กินก่อนหรือหลังฉีดโบท็อกครับ


รีวิว โบท็อกซ์รักแร้

โบท็อกซ์รักแร้ รีวิว ขั้นตอนการฉีดที่ V Square Clinic 


สรุป

สำหรับผู้ที่มีปัญหาเหงื่อออกมาก รักแร้เปียก ไม่มั่นใจ การฉีดโบท็อกรักแร้ถือว่าช่วยได้มากครับ เห็นผลค่อนข้างเร็ว ชัดเจน อยู่ได้นาน ไม่ต้องกังวลกับการใช้โรลออนหรือผลิตภัณฑ์ลดเหงื่อ และยังเป็นวิธีลดกลิ่นตัวที่ได้ผลดีด้วย หากเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้การฉีด Botox รักแร้ราคาไม่แพง หากสนใจฉีดหรือมีข้อสงสัยอื่น ๆ สามารถปรึกษาหมอได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน