วิธีดูฟิลเลอร์แท้ 

แม้ในปัจจุบันจะมีฟิลเลอร์ปลอมลดน้อยลง แต่ใช่ว่าจะไม่มีเลยครับ จากข่าวสารจากตามสื่อต่าง ๆ จะพบว่าคลินิกบางแห่งยังมีการแอบใช้ filler ปลอม ฟิลเลอร์หิ้ว หรือมีหมอเถื่อน หมอปลอมมาแอบฉีดกันอยู่บ้าง เหตุผลเพราะวงการเสริมความงามในไทยนั้นสามารถเข้าถึงง่าย มีราคาไม่แพง จึงทำให้หลายคนชะล่าใจฉีดฟิลเลอร์ราคาถูก โดยไม่คิดว่าสารที่ฉีดนั้นคือ ฟิลเลอร์ปลอม

สำหรับใครที่ไม่อยากเสี่ยงฉีดฟิลเลอร์ปลอม ในบทความนี้หมอมีวิธีดูฟิลเลอร์แท้ยี่ห้อต่าง ๆ มาฝากครับ ฟิลเลอร์ของแท้ ฉีดแล้วสลายหมดไหม ? ฉีดฟิลเลอร์ปลอม อันตรายไหม ? คนไข้สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ได้ครับ

สารบัญ วิธีดูฟิลเลอร์แท้

1. วิธีดูฟิลเลอร์แท้ VS ฟิลเลอร์ปลอม
2. วิธีดูฟิลเลอร์แท้ ที่ V Square Clinic เลือกใช้
   • วิธีดูฟิลเลอร์แท้ ยี่ห้อ Juvederm อเมริกา
   • วิธีดูฟิลเลอร์แท้ ยี่ห้อ Restylane สวีเดน
   • วิธีดูฟิลเลอร์แท้ ยี่ห้อ Belotero สวิตเซอร์แลนด์
   • วิธีดูฟิลเลอร์แท้ ยี่ห้อ Definisse อิตาลี
   • วิธีดูฟิลเลอร์แท้ ยี่ห้อ Flore Max เกาหลี
3. ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่าน อย. ไทย มียี่ห้ออะไรบ้าง ?
4. ผลข้างเคียงหากไม่ใช้ฟิลเลอร์แท้
5. ข้อดีของการใช้ฟิลเลอร์แท้

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ VS ฟิลเลอร์ปลอม

ฟิลเลอร์ปลอม สังเกตอย่างไร ?

• เป็นซิลิโคนเหลว พาราฟิน ฉีดแล้วแข็งเป็นก้อน ฟิลเลอร์ไหล หรือกลายเป็นพังผืด ต้องผ่าหรือขูดออกเท่านั้น เพราะไม่สามารถสลายได้
• เป็นฟิลเลอร์หิ้ว นำเข้าแบบผิดกฎหมาย ไม่ผ่าน อย.
• ไม่มีการเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม 
• ราคาถูก พบได้ตามคลินิกเถื่อน มักฉีดโดยหมอกระเป๋า
• กล่องฟิลเลอร์มีฉลากไม่ชัดเจน ผ่านการแกะกล่องมาแล้ว

ฟิลเลอร์แท้ สังเกตอย่างไร ?

• เป็นฟิลเลอร์แท้ประเภท Hyaluronic Acid ฉีดแล้วสามารถสลายได้ 100% ไม่มีสารตกค้าง ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ  ปัจจุบันฟิลเลอร์แท้ แบรนด์ระดับโลกมีหลายยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อฟิลเลอร์จะมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป ยี่ห้อที่นิยม เช่น  ฟิลเลอร์ Juvederm (อเมริกา), ฟิลเลอร์ Restylane (สวีเดน), ฟิลเลอร์ Belotero (สวิตเซอร์แลนด์), ฟิลเลอร์ Definisse (อิตาลี) เป็นต้น
• มีเลขทะเบียน อย. เอกสารกำกับภาษาไทย เลข lot ที่กล่องตรงกันทุกจุด
• หมอแกะกล่อง แกะหลอดใหม่ให้ดูต่อหน้า คนไข้สามารถนำกล่องกลับบ้านได้เพื่อนำไปตรวจสอบกับบริษัทนำเข้า
• คลินิกได้มาตรฐาน ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข
• แพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์ควรมีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้า และมีเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่ถูกต้อง เพื่อลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียง

ที่ V Square Clinic ใช้ฟิลเลอร์แท้ ยี่ห้อได้มาตรฐาน ก่อนฉีดแพทย์แกะกล่อง แกะหลอดใหม่ให้ดูต่อหน้าทุกครั้ง คนไข้สามารถนำกล่องและหลอดกลับบ้าน เพื่อไปตรวจสอบกับบริษัทนำเข้าได้ ให้บริการโดยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงด้านปรับรูปหน้า รับประกันผลทุกเคส มั่นใจได้ว่าปลอดภัยครับ

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ ที่ V Square Clinic เลือกใช้

ที่ V Square Clinic จะเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ทั้งหมด 5 ยี่ห้อครับ ทุกยี่ห้อเป็นแบรนด์ระดับโลก ได้รับการนิยมอย่างกว้างขวาง ผ่านการรับรองว่าปลอดภัยจาก US FDA และ Thai FDA  ได้แก่ 

• ฟิลเลอร์ Juvederm อเมริกา
• ฟิลเลอร์ Restylane สวีเดน
• ฟิลเลอร์ Belotero สวิตเซอร์แลนด์
• ฟิลเลอร์ Definisse อิตาลี 
• ฟิลเลอร์ Flore Max เกาหลี

วิธีดูฟิลเลอร์ของแท้ ที่ V Square Clinic เลือกใช้ มีจุดสังเกตดังนี้ครับ

1. วิธีดูฟิลเลอร์แท้ ยี่ห้อ Juvederm อเมริกา

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Juvederm Ultra Plus XC

• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• กล่องมี 2 cc และเลข lot ต้องตรงกัน 4 จุด คือ
  1. เลข lot ที่กล่อง
  2. เลข lot ที่ซอง
  3. เลข lot ที่สติกเกอร์
  4. เลข lot ที่หลอด
• สามารถโทรเช็คเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัทผู้จัดส่ง Allergan Thailand (DSKH) โทร. 02 460 7717

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Juvederm Voluma

• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• กล่องมี 2 cc และเลข lot ต้องตรงกัน 4 จุด คือ
  1. เลข lot ที่กล่อง
  2. เลข lot ที่ซอง
  3. เลข lot ที่สติกเกอร์
  4. เลข lot ที่หลอด
• สามารถโทรเช็คเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัทผู้จัดส่ง Allergan Thailand (DSKH) โทร. 02 460 7717

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Juvederm Volbella

• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• กล่องมี 2 cc และเลข lot ต้องตรงกัน 4 จุด คือ
  1. เลข lot ที่กล่อง
  2. เลข lot ที่ซอง
  3. เลข lot ที่สติกเกอร์
  4. เลข lot ที่หลอด
• สามารถโทรเช็คเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัทผู้จัดส่ง Allergan Thailand (DSKH) โทร. 02 460 7717

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Juvederm Volift

• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• กล่องมี 2 cc และเลข lot ต้องตรงกัน 4 จุด คือ
  1. เลข lot ที่กล่อง
  2. เลข lot ที่ซอง
  3. เลข lot ที่สติกเกอร์
  4. เลข lot ที่หลอด
• สามารถโทรเช็คเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัทผู้จัดส่ง Allergan Thailand (DSKH) โทร. 02 460 7717

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Juvederm Volite

• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• กล่องมี 2 cc และเลข lot ต้องตรงกัน 4 จุด คือ
  1. เลข lot ที่กล่อง
  2. เลข lot ที่ซอง
  3. เลข lot ที่สติกเกอร์
  4. เลข lot ที่หลอด
• สามารถโทรเช็คเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัทผู้จัดส่ง Allergan Thailand (DSKH) โทร. 02 460 7717

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Juvederm Volux

• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• กล่องมี 2 cc และเลข lot ต้องตรงกัน 4 จุด คือ
  1. เลข lot ที่กล่อง
  2. เลข lot ที่ซอง
  3. เลข lot ที่สติกเกอร์
  4. เลข lot ที่หลอด
• สามารถโทรเช็คเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัทผู้จัดส่ง Allergan Thailand (DSKH) โทร. 02 460 7717

2. วิธีดูฟิลเลอร์แท้ ยี่ห้อ Restylane สวีเดน

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Vital Light

• มีรอยปรุสำหรับเปิดกล่อง
• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• มีสติกเกอร์ โมโนแกรม คำว่า “VOID”
• เลข lot. ตรงกัน 2 จุดคือ
  • เลข lot. ที่ข้างกล่อง
  • เลข lot. ที่หลอด
• สแกน QR CODE ด้วยแอปพลิเคชัน Eztracker เพื่อตรวจสอบยาแท้
• สามารถสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 023 1800 ต่อ 402

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Perlane Lyft

• มีรอยปรุสำหรับเปิดกล่อง
• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• มีสติกเกอร์ โมโนแกรม คำว่า “VOID”
• เลข lot. ตรงกัน 2 จุดคือ
  • เลข lot. ที่ข้างกล่อง
  • เลข lot. ที่หลอด
• สแกน QR CODE ด้วยแอปพลิเคชัน Eztracker เพื่อตรวจสอบยาแท้
• สามารถสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 023 1800 ต่อ 402

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Classic

• มีรอยปรุสำหรับเปิดกล่อง
• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• มีสติกเกอร์ โมโนแกรม คำว่า “VOID”
• เลข lot. ตรงกัน 2 จุดคือ
  • เลข lot. ที่ข้างกล่อง
  • เลข lot. ที่หลอด
• สแกน QR CODE ด้วยแอปพลิเคชัน Eztracker เพื่อตรวจสอบยาแท้
• สามารถสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 023 1800 ต่อ 402

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Defyne

• มีรอยปรุสำหรับเปิดกล่อง
• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• มีสติกเกอร์ โมโนแกรม คำว่า “VOID”
• เลข lot. ตรงกัน 2 จุดคือ
  • เลข lot. ที่ข้างกล่อง
  • เลข lot. ที่หลอด
• สแกน QR CODE ด้วยแอปพลิเคชัน Eztracker เพื่อตรวจสอบยาแท้
• สามารถสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 023 1800 ต่อ 402

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Refyne

• มีรอยปรุสำหรับเปิดกล่อง
• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• มีสติกเกอร์ โมโนแกรม คำว่า “VOID”
• เลข lot. ตรงกัน 2 จุดคือ
  • เลข lot. ที่ข้างกล่อง
  • เลข lot. ที่หลอด
• สแกน QR CODE ด้วยแอปพลิเคชัน Eztracker เพื่อตรวจสอบยาแท้
• สามารถสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 023 1800 ต่อ 402

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Vital

• มีรอยปรุสำหรับเปิดกล่อง
• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• มีสติกเกอร์ โมโนแกรม คำว่า “VOID”
• เลข lot. ตรงกัน 2 จุดคือ
  • เลข lot. ที่ข้างกล่อง
  • เลข lot. ที่หลอด
• สแกน QR CODE ด้วยแอปพลิเคชัน Eztracker เพื่อตรวจสอบยาแท้
• สามารถสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 023 1800 ต่อ 402

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Volyme

• มีรอยปรุสำหรับเปิดกล่อง
• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• มีสติกเกอร์ โมโนแกรม คำว่า “VOID”
• เลข lot. ตรงกัน 2 จุดคือ
  • เลข lot. ที่ข้างกล่อง
  • เลข lot. ที่หลอด
• สแกน QR CODE ด้วยแอปพลิเคชัน Eztracker เพื่อตรวจสอบยาแท้
• สามารถสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 023 1800 ต่อ 402

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Kysse

• มีรอยปรุสำหรับเปิดกล่อง
• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• มีสติกเกอร์ โมโนแกรม คำว่า “VOID”
• เลข lot. ตรงกัน 2 จุดคือ
  • เลข lot. ที่ข้างกล่อง
  • เลข lot. ที่หลอด
• สแกน QR CODE ด้วยแอปพลิเคชัน Eztracker เพื่อตรวจสอบยาแท้
• สามารถสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 023 1800 ต่อ 402

3. วิธีดูฟิลเลอร์แท้ ยี่ห้อ Belotero สวิตเซอร์แลนด์

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Belotero Intense 

• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• กล่องมี 1 cc และเลข lot ต้องตรงกัน 3 จุด คือ
  1. เลข lot. ที่กล่อง
  2. เลข lot. ที่สติกเกอร์
  3. เลข lot. ที่หลอด
• สามารถโทรสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์ โทร.02 026 1111

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Belotero Soft 

• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• กล่องมี 1 cc และเลข lot ต้องตรงกัน 3 จุด คือ
  1. เลข lot. ที่กล่อง
  2. เลข lot. ที่สติกเกอร์
  3. เลข lot. ที่หลอด
• สามารถโทรสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์ โทร.02 026 1111

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Belotero Volume 

• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• กล่องมี 1 cc และเลข lot ต้องตรงกัน 3 จุด คือ
  1. เลข lot. ที่กล่อง
  2. เลข lot. ที่สติกเกอร์
  3. เลข lot. ที่หลอด
• สามารถโทรสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์ โทร.02 026 1111

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Belotero Revive

• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• กล่องมี 1 cc และเลข lot ต้องตรงกัน 3 จุด คือ
  1. เลข lot. ที่กล่อง
  2. เลข lot. ที่สติกเกอร์
  3. เลข lot. ที่หลอด
• สามารถโทรสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์ โทร.02 026 1111

4. วิธีดูฟิลเลอร์แท้ ยี่ห้อ Definisse อิตาลี

วิธีดูฟิลเลอร์แท้  Definisse Core

• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทย (อยู่นอกกล่อง) และภาษาอังกฤษ (อยู่ในกล่อง)
• มีรอยประด้านข้างกล่องที่ปิดสนิท
• Label Sticker จะสามารถลอกออกได้ เพื่อนำไปติดใน OPD Card
• กล่องมี 1 cc และเลข lot ต้องตรงกัน 3 จุด คือ
  1. Label ด้านหลังกล่อง
  2. Label ด้านข้างกล่อง
  3. Label ที่หลอด
• สามารถโทรสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท เอ.เมนารินี (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02 696 8500 กด 3

วิธีดูฟิลเลอร์แท้  Definisse Restore

• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทย (อยู่นอกกล่อง) และภาษาอังกฤษ (อยู่ในกล่อง)
• มีรอยประด้านข้างกล่องที่ปิดสนิท
• Label Sticker จะสามารถลอกออกได้ เพื่อนำไปติดใน OPD Card
• กล่องมี 1 cc และเลข lot ต้องตรงกัน 3 จุด คือ
  1. Label ด้านหลังกล่อง
  2. Label ด้านข้างกล่อง
  3. Label ที่หลอด
• สามารถโทรสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท เอ.เมนารินี (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02 696 8500 กด 3

5. วิธีดูฟิลเลอร์แท้ ยี่ห้อ Flore Max เกาหลี

วิธีดูฟิลเลอร์แท้  Flore Max

• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทย (อยู่นอกกล่อง) และภาษาอังกฤษ (อยู่ในกล่อง)
• มีสติกเกอร์ที่ปิดสนิท ไม่ผ่านการแกะมาก่อน
• มีเลข lot ตรงกัน 3 จุด คือ
  1. Label ด้านหลังกล่อง
  2. Label ด้านข้างกล่อง
  3. Label ที่หลอด
• สามารถโทรสอบถามเลข lot. ได้ที่บริษัท บอน-ซอง จำกัด โทร. 081 291 5555 

ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่าน อย. ไทย มียี่ห้ออะไรบ้าง ?

ปัจจุบันมียี่ห้อฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ไทย อัปเดตล่าสุด 2023  ทั้งหมด 10 ยี่ห้อครับ ได้แก่

• ฟิลเลอร์ Juvederm อเมริกา ทั้งหมด 6 รุ่น ได้แก่ Juvederm Ultra Plus, Juvederm, Voluma, Juvederm Volbella, Juvederm Volift, Juvederm Volite และ Juvederm Volux
• ฟิลเลอร์ Restylane สวีเดน ทั้งหมด 8 รุ่น ได้แก่ Restylane Perlane lyft, Restylane Vital Light, Restylane Vital, Restylane Volyme, Restylane Defyne, Restylane Refyne, Restylane Classic และ Restylane Kysse
• ฟิลเลอร์ Belotero สวิตเซอร์แลนด์ ทั้งหมด 5 รุ่น ได้แก่ Belotero Intense, Belotero Volume, Belotero Soft, Belotero Balance และ Belotero Revive
• ฟิลเลอร์ Perfectha ฝรั่งเศส ทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ Perfectha Subskin , Perfectha Derm, Perfectha Fine Lines และ Perfectha Complement 
• ฟิลเลอร์ Revanesse แคนนาดา ได้แก่ Revanesse Ultra
• ฟิลเลอร์ Neuramis เกาหลี ทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ Neuramis  Deep Classic  ,Neuramis Deep Lidocaine และ Neuramis Volume Lidocaine
• ฟิลเลอร์ E.P.T.Q. เกาหลี ทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ e.p.t.q. S100, e.p.t.q. S300 และ  e.p.t.q. S500
• ฟิลเลอร์ Yvoire เกาหลี ทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ YVOIRE Classic Plus, YVOIRE Volume Plus และ YVOIRE Contour
• ฟิลเลอร์ Definisse อิตาลี ทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ Definisse Restore, Definisse Core และ Definisse Touch
• ฟิลเลอร์ Flore เกาหลี ทั้งหมด 5 รุ่น ได้แก่ Full Aqua-S, Full max 1400, Full max, Full N และ Full S 

ผลข้างเคียงหากไม่ใช้ฟิลเลอร์แท้

• เกิดอาการเน่า มีพังผืดเกาะ
• หลังฉีดผ่านไป 3 – 5 ปี ซิลิโคนเหลวจะเริ่มไหลกองลงมาเป็นก้อน 
• บวม แดง อักเสบติดเชื้อ
• ใบหน้าผิดรูป
• เป็นก้อนแข็ง ไม่สลายไปตามธรรมชาติ
• เส้นประสาทถูกทำลาย 
• เนื้อตาย หรือตาบอด 

ในคนไข้บางรายอาจเกิดอาการหลายอย่างร่วมกันได้ครับ ส่วนในกรณีที่มีการบวม แดง ช้ำ หรือเป็นหนอง ส่วนใหญ่จะเกิดจากการติดเชื้อระหว่างทำหัตถการ คลินิกหรืออุปกรณ์ไม่สะอาด มักจะเกิดขึ้นใน 3-7 วันหลังฉีด วิธีแก้ไข คือควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจอาการและทำการรักษาครับ

ข้อดีของการใช้ฟิลเลอร์แท้

• หลังฉีดเห็นผลทันที ไม่ต้องพักฟื้น ฟิลเลอร์จะทำให้ริ้วรอยตื้นขึ้น ผิวเต่งตึง การฉีดฟิลเลอร์จึงสัมพันธ์กับการแก้ปัญหาริ้วรอยต่าง ๆ อย่างได้ผล และช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้
• ไม่ต้องผ่าตัด หลังทำไม่มีแผล ไม่เสี่ยงเป็นแผลเป็นหรือคีลอยด์
• ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ฟิลเลอร์เรียบเนียนไปกับผิว 
• filler ประเภท Hyaluronic Acid เป็นสารเติมเต็มชนิดเดียวที่ปลอดภัยที่สุด ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) และ อย.ไทย นิยมใช้ในวงการแพทย์และด้านความงามอย่างแพร่หลาย
• ฟิลเลอร์สลายหมด 100% ไม่มีสารตกค้าง สามารถฉีดใหม่ได้เรื่อย ๆ โดยไม่เป็นอันตราย
• ช่วยลดริ้วรอย เติมเต็มร่องลึก และปรับรูปหน้า หรือฉีดเพื่อปรับรูปปากกระจับ ปากสายฝอ ปากสายเกา และทรงอื่น ๆ ตามต้องการได้

สรุป

วิธีดูฟิลเลอร์แท้แต่ละยี่ห้อ สังเกตได้ไม่ยากครับ ก่อนฉีดฟิลเลอร์หมอจึงอยากให้คนไข้ตรวจสอบก่อนทุกครั้ง เพราะผลที่ได้ไม่คุ้มเสีย เสี่ยงฟิลเลอร์ไหล ฟิลเลอร์เน่า ใบหน้าผิดรูป ยิ่งหากฉีดฟิลเลอร์ปลอมกับหมอเถื่อน บางรายอาจถึงขั้นเนื้อตาย ตาบอดได้ครับ

สำหรับคนไข้สนใจฉีดฟิลเลอร์ สามารถส่งรูปใบหน้ามาให้หมอประเมินในเบื้องต้นก่อนได้ครับ ที่ V Square Clinic ใช้ฟิลเลอร์แท้ ยี่ห้อได้มาตรฐาน คนไข้สามารถนำกล่องไปตรวจสอบกับบริษัทนำเข้าได้ หลังฉีดมีการรับประกันผลทุกเคส มั่นใจได้ในความปลอดภัยครับ

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

อาการแพ้ฟิลเลอร์

มีหลายคนครับที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ แต่กลัวและกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงหลังฉีด เช่น อาการบวม ฟิลเลอร์เป็นก้อน ฟิลเลอร์ไหล หรืออาการแพ้ฟิลเลอร์ที่ได้เห็นกันตามข่าวบ่อย ๆ 

ในบทความนี้หมอจะมาให้คำตอบครับว่า filler แท้ที่เป็นสารไฮยาลูรอนิกแอซิด (HA) ฉีดแล้วแพ้จริงไหม ? อาการแพ้ฟิลเลอร์เป็นอย่างไร ? ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ กับอาการแพ้ฟิลเลอร์ ต่างกันอย่างไร ? การฉีดฟิลเลอร์ ไม่เหมาะกับใครบ้าง ? รวมถึงแนวทางการรักษาหากมีอาการแพ้ฟิลเลอร์ 

สารบัญ อาการแพ้ฟิลเลอร์

1. อาการแพ้ฟิลเลอร์เป็นอย่างไร ?
2. ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ กับอาการแพ้ฟิลเลอร์ ต่างกันอย่างไร ?
3. การฉีดฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับใครบ้าง ?
4. แนวทางการรักษาหากมีอาการแพ้ฟิลเลอร์
5. ฟิลเลอร์อักเสบคืออะไร รักษาอย่างไร ?
6. ก่อนฉีด-หลังฉีดควรปฏิบัติตัวอย่างไร เพื่อหลีกเลี่ยงอาการแพ้ฟิลเลอร์
   • ข้อปฏิบัติตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์
   • ข้อปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์
7. หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ?

อาการแพ้ฟิลเลอร์เป็นอย่างไร ?

อาการแพ้ฟิลเลอร์ เป็นภาวะที่ร่างกายมีการต่อต้านสารบางตัวที่อยู่ในเนื้อฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไป ซึ่งอาการนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมากครับ เพราะฟิลเลอร์เป็นสารไฮยาลูรอนิกแอซิด (HA) ที่ผลิตขึ้นมาเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติของมนุษย์อยู่แล้ว แต่จะมีน้อยลงเมื่ออายุมากขึ้น เราจึงสร้างไฮยาลูรอนิกแอซิดสังเคราะห์ขึ้นมาทดแทน และสิ่งนั้นเรียกว่าฟิลเลอร์นั่นเองครับ

ลักษณะอาการแพ้ฟิลเลอร์จะมีอยู่ 2 แบบ คือ Immediate Hypersensitivity และ  Delayed Hypersensitivity 

อาการแพ้ฟิลเลอร์แบบ Immediate Hypersensitivity

อาการแพ้ฟิลเลอร์แบบ Immediate Hypersensitivity เป็นอาการแบบภาวะภูมิไวเกิน มักเกิดขึ้นในเวลาเป็นนาที-ชั่วโมง พบว่าเกิดจากการแพ้ยาชาที่ผสมอยู่ในเนื้อฟิลเลอร์ คนไข้จะรู้สึกคันเล็กน้อย มีผื่นแดง ในรายที่มีอาการแพ้รุนแรง อาจมีอาการหน้าบวม หายใจติดขัด ไปจนถึงภาวะชักหรือหัวใจหยุดเต้น ดังนั้นในคนที่มีประวัติแพ้ยาชา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ หรือเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์แบบมียาชาครับ

อาการแพ้ฟิลเลอร์แบบ Delayed Hypersensitivity

อาการแพ้ฟิลเลอร์แบบ Delayed Hypersensitivity เป็นอาการที่ไม่ได้เกิดขึ้นทันทีหลังการฉีด แต่จะพบได้หลังจากฉีดฟิลเลอร์ผ่านไป 6 เดือนหรือเป็นปีครับ โดยจะพบว่าฟิลเลอร์เป็นก้อน นูน มีอาการอักเสบ มีหนองหน้าบวม สัมผัสแล้วรู้สึกเจ็บ หรือมีผื่นขึ้นคล้ายลมพิษ 

การแพ้ฟิลเลอร์ที่เป็นสารไฮยาลูรอนิกแอซิด (HA) 
พบได้น้อยกว่า 0.01% ของผู้ฉีดฟิลเลอร์ทั้งหมด

ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ กับอาการแพ้ฟิลเลอร์ ต่างกันอย่างไร ?

ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ กับอาการแพ้ฟิลเลอร์ จะมีลักษณะอาการที่ต่างกันครับ หมอมีวิธีสังเกตง่าย ๆ ดังนี้

ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ 

ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ หมอจะแบ่งอาการออกเป็น 2 แบบ คือ ผลข้างเคียงปกติที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน และผลข้างเคียงผิดปกติที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน

• ผลข้างเคียงปกติ ที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน หลังฉีด 3 วันแรก คนไข้จะมีรอยแดงจากเข็ม ในคนที่ผิวบอบบางอาจมีรอยช้ำ รอยเขียวจากเข็ม หรือมีอาการบวมในจุดที่ฉีดได้เป็นปกติ เรียกว่าการบวมเข็ม หลังจาก 5-7 วัน จะไม่มีอาการบวมขึ้นอีก และค่อย ๆ ดีขึ้น ยุบบวมเข้าที่ใน 14 วัน แนะนำให้เลี่ยงการกด นวด หรือถูบริเวณที่ฉีด เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์ และทำให้ยุบบวมช้า
• ผลข้างเคียงผิดปกติ ที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน อาการที่พบ เช่น 
  • บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ มีสีคล้ำขึ้นเรื่อย ๆ เกิดจากแพทย์ฉีดฟิลเลอร์ผิดตำแหน่ง โดยฉีดเข้าหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดอุดตัน นำไปสู่อาการเนื้อตาย (necrosis) เพราะเลือดไม่ไหลเวียนไปเลี้ยงผิวหนัง 
  • ฟิลเลอร์เป็นก้อน มีรอยนูน หรือผิวไม่เรียบ (Beading) เกิดจากแพทย์ฉีดฟิลเลอร์ผิดชั้นผิว หรือเลือกใช้เนื้อฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งที่ฉีด ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์แท้ สามารถฉีดสลายออกได้ แต่หากฉีดฟิลเลอร์ปลอม จะต้องขูดหรือผ่าตัดเอาฟิลเลอร์ออก
  • บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์บวม แดง หรือมีก้อนหนอง เกิดจากขั้นตอนการฉีดที่ไม่สะอาด อุปกรณ์ที่ใช้ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ ไม่ถูกสุขลักษณะ คลินิกไม่ได้มาตรฐาน

ผลข้างเคียงผิดปกติ เช่น ฟิลเลอร์เป็นก้อน เป็นหนอง หรือผิวหนังมีสีคล้ำขึ้น อาการดังกล่าวหากปล่อยไว้จะอันตรายมากครับ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและทำการรักษา

อาการแพ้ฟิลเลอร์ 

อาการแพ้ฟิลเลอร์ จะมีลักษณะเป็นก้อน นูน มีอาการอักเสบร่วมด้วย สัมผัสแล้วรู้สึกเจ็บ หรือในบางรายมีผื่นขึ้นคล้ายลมพิษ (Angioedema) หนังตาบวม อาการแพ้ลักษณะนี้ หลังฉีดจะไม่แสดงอาการทันทีครับ พบได้หลังจากฉีดฟิลเลอร์ผ่านไป 6 เดือนหรือเป็นปี ขึ้นกับอายุใช้งานของฟิลเลอร์ชนิดนั้น ๆ และภูมิคุ้มกันของคนไข้

การฉีดฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับใครบ้าง ?

• คนที่มีผิวติดเชื้อ ผิวอักเสบในบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์
• ผู้ที่มีประวัติแพ้ฟิลเลอร์ หรือแพ้สารไฮยาลูรอนิกแอซิด รวมถึงผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชา ควรแจ้งแพทย์ก่อนทุกครั้ง
• สตรีมีครรภ์ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ สำหรับผู้ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนฉีด
• ผู้ที่มีปัญหาเลือดออกแล้วหยุดยาก มีแผลฟกช้ำง่าย โดยเฉพาะผู้ที่กำลังรับประทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน (ASA), ยาแก้อักเสบปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ (NSAIDS), ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด (Warfarin), วิตามินอี (Vitamin E), สารสกัดจากใบแปะก๊วย (Ginkgo biloba) เป็นต้น แต่สามารถฉีดได้ในบางกรณี จึงจำเป็นต้องหยุดยาก่อนฉีด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการหยุดยา
• กรณีที่เป็นเริม หรืองูสวัดอยู่ ควรหลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์ เพราะอาจทำให้อาการกำเริบมากขึ้นได้ครับ

แนวทางการรักษาหากมีอาการแพ้ฟิลเลอร์

แนวทางการรักษาหากมีอาการแพ้ฟิลเลอร์ หมอแนะนำวิธีดังนี้ครับ 

• ทานยา : หากคนไข้มีอาการเล็กน้อย สามารถทานยาฆ่าเชื้อ ยาลดการอักเสบ เพื่อลดบวม ลดผื่นลมพิษได้ครับ แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลและจ่ายยาโดยแพทย์เท่านั้น
• ฉีดสลายฟิลเลอร์ : จะเป็นการใช้เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส ( Hyaluronidase : HYAL) ซึ่งเอนไซม์นี้จะช่วยย่อยสลาย filler ในกลุ่มสารไฮยาลูรอนิกแอซิด (HA) จึงช่วยรักษาอาการแพ้ฟิลเลอร์ได้ (เฉพาะในเคสที่ฉีดฟิลเลอร์แท้เท่านั้น)
• ขูดฟิลเลอร์ : จะใช้ในกรณีที่คนไข้ฉีดสารเติมเต็มประเภทซิลิโคน หรือ พาราฟิน เพราะสารเติมเต็มจำพวกนี้จะไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ และไม่มีสารตัวใดสลายฟิลเลอร์ชนิดนี้ได้ หากต้องการเอาออก ต้องทำการขูดออกเท่านั้นครับ
• ผ่าตัดเอาฟิลเลอร์ออก : กรณีนี้จะคล้ายกับการขูดฟิลเลอร์ครับ คือแก้ไขในคนที่ฉีดฟิลเลอร์ประเภทซิลิโคนเหลวมาแล้วเกิดอักเสบ ฟิลเลอร์เป็นก้อนขนาดใหญ่และแข็งมาก ซึ่งการผ่าตัดส่วนใหญ่จะไม่สามารถเอาฟิลเลอร์ออกได้ทั้งหมด ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดมา ต้องระวังทั้งเรื่องของเส้นประสาท เส้นเลือดสำคัญต่าง ๆ ควรปรึกษาแพทย์ศัลยกรรมในโรงพยาบาลครับ

ฟิลเลอร์อักเสบคืออะไร รักษาอย่างไร ?

ฟิลเลอร์อักเสบ คือ เกิดการติดเชื้อหลังฉีดฟิลเลอร์ มักเกิดขึ้นใน 3-7 วันหลังฉีด อาการที่พบ เช่น ฟิลเลอร์เป็นก้อน นูน แดง ปวด บวม ร้อน มีตุ่ม หรือมีหนองตรงบริเวณที่ฉีด มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อระหว่างทำหัตถการ คลินิกไม่ได้มาตรฐาน อุปกรณ์ทางการแพทย์ไม่สะอาด  

วิธีรักษาเมื่อฟิลเลอร์อักเสบ คือต้องรีบมาพบแพทย์เพื่อทำการรักษา ทานยาฆ่าเชื้อ ยาลดการอักเสบ ลดบวม ลดผื่นลมพิษ หรือถ้าฟิลเลอร์อักเสบรุนแรง ต้องทำการฉีดสลายฟิลเลอร์ ซึ่งจะใช้ได้เฉพาะคนที่ฉีดฟิลเลอร์แท้เท่านั้น หากคนไข้ฉีดฟิลเลอร์ปลอมมาจะต้องแก้ไขด้วยการขูดหรือผ่าตัดเอาฟิลเลอร์ออกครับ

ก่อนฉีด-หลังฉีดควรปฏิบัติตัวอย่างไร เพื่อหลีกเลี่ยงอาการแพ้ฟิลเลอร์

ข้อปฏิบัติตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ 1 อาทิตย์

• งดยาก่อนฉีดฟิลเลอร์ เช่น แอสไพริน, NSAIDs, ibuprofen, diclofenac, ponstan เนื่องจากขณะฉีดอาจโดนเส้นเลือดได้ ส่งผลให้เลือดหยุดไหลช้าหรือช้ำง่ายกว่าปกติ 
• งดวิตามิน St. John’s Wort, ginkgo biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E 
• งดการใช้ยาที่มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิว เช่น tretinoin, (เรตินเอ), retinols(เรตินอล), retinoids (เรตินอยด์) BHA, AHA ก่อนฉีดฟิลเลอร์ 3 วัน
• งดดึงขน โกนขน หรือแวกซ์ขนในบริเวณดังกล่าวก่อนฉีด filler อย่างน้อย 3 วัน  
• งดเลเซอร์หน้า นวดหน้า อย่างน้อย 3 วัน
• หากมีโรคประจำตัว หรือมียาที่รับประทานเป็นประจำ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนฉีดฟิลเลอร์

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ 24 ชั่วโมง

• งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ 
• งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น ออกกำลังกายหนัก ๆ อบซาวน่า
• ในกรณีที่คนไข้มียาที่ต้องกินประจำ แพทย์จะพิจารณาให้ทานยาห้ามเลือดหรือยาลดบวมตามความเหมาะสมในแต่ละเคส เพื่อลดการบวมช้ำจากรอยเข็ม 
• สามารถแต่งหน้า ทาครีมบำรุงได้ตามปกติ 
• ก่อนฉีดฟิลเลอร์จะมีการคลีนหน้า เพื่อแปะยาชา และรอยาชาออกฤทธิ์ประมาณ 30-45 นาที

ข้อปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์

• หลังฉีดฟิลเลอร์ทันที สามารถยิ้มได้ปกติครับ แต่ควรงดสัมผัสบริเวณที่ฉีด เช่น กด นวด บีบ หรือขยับผิวในจุดนั้นมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้ตัวฟิลเลอร์เกิดการเคลื่อนไปยังจุดอื่นได้
• ในช่วง 1 เดือนแรก ควรงดการทำเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด และหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งอย่างน้อย 48 ชั่วโมง เช่น การทำซาวน่า ตากแดด ออกกำลังกายหนัก
• งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ เพราะอาจทำให้เกิดการยุบบวมช้าหรืออักเสบได้
• 2-3 คืนแรก ควรนอนหมอนสูงกว่าระดับหน้าอก งดนอนตะแคง
• งดการทานอาหารที่ส่งผลต่อการยุบบวมของฟิลเลอร์ เป็นเวลา 14 วัน

หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ?

• หลังฉีดฟิลเลอร์ในช่วง 2 สัปดาห์แรก ควรงดอาหารหมักดอง อาหารแปรรูป เช่น ผลไม้ดอง ผักดอง ปลาร้า กุ้งดอง
• อาหารที่มีรสเค็ม หรืออาหารที่มีโซเดียมสูงจะดูดน้ำจากร่างกาย อาจทำให้ฟิลเลอร์ยุบบวมช้าลง ตัวบวมน้ำได้ง่ายขึ้น รวมถึงอาหารที่มีรสหวาน รสเผ็ดมาก ๆ ที่ทำให้หน้าแดง
• อาหารร้อน ที่ต้องนั่งหน้าเตาเป็นเวลานาน เช่น หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู  รวมไปถึงเครื่องดื่มร้อน ๆ
• อาหารดิบที่ไม่ผ่านการปรุงสุก หรืออาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เช่น อาหารทะเล แซลมอน ซาซิมิ หอยสด ไข่ลวก เนื้อที่ปรุงไม่สุก
• เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้หลอดเลือดขยายตัว มีเลือดมาสูบฉีดมากขึ้น อาจส่งผลให้เกิดอาการบวมจากรอยเข็มหายช้าลง และทำให้ฟิลเลอร์สลายไวขึ้นครับ  หมอแนะนำให้งดไปก่อน 14 วัน หรือถ้าหากใครที่เลี่ยงไม่ได้ก็ควรเว้นระยะ 2-3 วันครับ

ข้อควรรู้ : อาหารบางประเภทจะส่งผลต่ออายุของฟิลเลอร์ การเห็นผล หรืออาจทำให้เกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ ตามมาได้ ดังนั้นหากคนไข้ต้องการเห็นผลลัพธ์ไว อยากให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว และอยู่ได้นานขึ้น ควรเลี่ยงอาหาร 5 ประเภทที่หมอได้แนะนำไปครับ 

สรุป

อาการแพ้ฟิลเลอร์ หากเป็นฟิลเลอร์แท้ที่เป็นสารไฮยาลูรอนิกแอซิด (HA) จะมีโอกาสแพ้ได้น้อยมาก ๆ ครับ เปอร์เซ็นการแพ้ฟิลเลอร์ จะเกิดขึ้นกับคนที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอมมากกว่า ซึ่งถ้าพลาดฉีดฟิลเลอร์ปลอมแล้ว การแก้ไขก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องผ่าตัดหรือขูดออกเท่านั้นครับ ไม่มียาสำหรับฉีดสลาย

เพื่อระวังฟิลเลอร์ปลอม ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ ควรศึกษาวิธีดูฟิลเลอร์แท้ยี่ห้อต่าง ๆ ไว้ครับ อันดับแรกควรดูเลข Lot ที่กล่อง สติ๊กเกอร์ หลอด ต้องตรงกัน และควรให้แพทย์แกะกล่องใหม่ให้ดูต่อหน้า เพื่อความมั่นใจว่าเป็นของแท้ครับ

อ้างอิง :
Hypersensitivity | http://110.164.51.230/manage/Research_pic/20121111035242.pdf

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ฉีดฟิลเลอร์จมูกที่ไหนดี ?

ใครที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับ ฉีดฟิลเลอร์เสริมจมูก รวมถึงแนวทางการเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์จมูกที่ไหนดี ? ที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดี สวยงาม ปลอดภัย เป็นธรรมชาติ มั่นใจได้ว่าเป็น Filler แท้ 100 % มีการติดตามผล บริการดี ให้คำปรึกษาดี เดินทางสะดวก หมอมีแนวทางการเลือกคลินิกเสริมความงาม ที่มีความน่าเชื่อถือมาแนะนำครับ

สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์จมูกที่ไหนดี 

1. ฉีดฟิลเลอร์จมูกที่ไหนดี ? ถึงจะปลอดภัย
2. ทำไมต้องเลือกฉีดฟิลเลอร์จมูกที่ V Square Clinic
3. วิธีดูฟิลเลอร์แท้
4. ราคาฟิลเลอร์แท้แต่ละยี่ห้อ
5. วิธีการดูรีวิวให้เป็น ไม่ถูกหลอก
6. การนัดหมายติดตาม Follow ผล 

ฉีดฟิลเลอร์จมูกที่ไหนดี ? ถึงจะปลอดภัย

การฉีดฟิลเลอร์จมูก เป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยปรับทรงจมูกให้สวยงามขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัดครับ หลังทำสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น เหมาะกับคนที่กลัวการผ่าตัด และมีฐานจมูกพอสมควร แต่ใช่ว่าจะฉีดฟิลเลอร์จมูกกับใครที่ไหนก็ได้ หากต้องการผลลัพธ์ที่สวยงาม ปลอดภัย ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์จมูกที่ไหนดี ควรพิจารณาสิ่งเหล่านี้ 

• คลินิกต้องได้มาตรฐาน : ปัจจุบันคลินิกเสริมความงาม มีเยอะครับ ที่เปิดให้บริการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า รวมถึงการฉีดฟิลเลอร์จมูก แต่ใช่ว่าคลินิกทุกแห่งที่เปิดให้บริการ จะได้มาตรฐาน ทั้งความสะอาดปลอดเชื้อ เครื่องมือ ตัวยาที่มีคุณภาพ เพื่อความมั่นใจและสบายใจก่อนเข้ารับการฉีด ควรตรวจสอบว่าคลินิกนั้น ๆ เปิดให้บริการอย่างถูกต้องหรือไม่ สังเกตได้จากการมีป้ายชื่อสถานพยาบาล เลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก และแสดงใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลชัดเจน

• นอกจากนี้ ควรเลือกคลินิกที่สถานที่ตั้งของคลินิกที่สังเกตเห็นได้ง่ายและมีบรรยากาศไม่ทึบ อับ แคบ หรืออยู่โซนที่ลับตา สามารถเดินทางไปใช้บริการได้สะดวก ภายในคลินิกต้องสะอาด ไม่อยู่ในสภาพชำรุด มีอุปกรณ์เครื่องมือครบครัน เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์หากไม่มีความสะอาดมากพอ อาจเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อน อักเสบหรือติดเชื้อได้ครับ

• แพทย์ผู้ฉีดต้องมีประสบการณ์ : การฉีดฟิลเลอร์จมูกต้องอาศัยความชำนาญในการฉีดสูง ดังนั้นก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์จมูกที่ไหนดี นอกจากภาพรวมของคลินิกมีความน่าเชื่อแล้ว ก็ควรเลือกหมอที่มีประสบการณ์ด้วยครับ เพราะหมอจะมีเทคนิคในการฉีดที่ช่วยลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง และได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน จมูกโด่งสวยเป็นธรรมชาติได้ 

• ในทางกลับกัน หากฉีดฟิลเลอร์จมูกกับหมอที่ไม่มีประสบการณ์มากพอ หรือฉีดกับหมอกระเป๋า อาจเกิดปัญหาตามมาทีหลังได้ครับ เนื่องจากจมูกเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดอยู่มาก โดยเฉพาะเส้นเลือดชื่อ Dorsal nasal artery ที่เชื่อมต่อเข้ากับลูกตา หากหมอผู้ฉีดไม่ชำนาญ อาจฉีดฟิลเลอร์ไม่ถูกชั้นผิว ฉีดผิดจุด ทำให้ฟิลเลอร์เกาะรวมกันเป็นก้อน หรือเกิดการอุดตันเส้นเลือดได้ เสี่ยงตาบอดได้ครับ

• ต้องใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น : ก่อนจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ (filler) จมูกที่ไหนดี คนไข้ต้องมั่นใจว่าฉีดฟิลเลอร์แท้เท่านั้นครับ ฟิลเลอร์แท้ (Hyaluronic Acid) จะมีความปลอดภัยสูง สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่มีสารตกค้าง หากฉีดไปแล้วไม่พอใจ ก็สามารถใช้เอนไชม์ Hyaluronidase สลายออกได้ครับ 

ทำไมต้องเลือกฉีดฟิลเลอร์จมูก ที่ V Square Clinic

ที่  V Square Clinic ทีมแพทย์ทุกคนมีประสบการณ์ในการปรับรูปหน้า และมีความชำนาญในการฉีดฟิลเลอร์ ครับ การันตีด้วยรางวัลระดับประเทศใน (ปี 2018 V Square Clinic ได้รับการคัดเลือกโดยบริษัท Allergan

ว่าเป็น 1 ใน 6 คลินิกจากประเทศไทยที่ได้รับรางวัลคลินิกปรับรูปหน้าที่ยอดเยี่ยมที่สุด 20 คลินิกในเอเชีย )จึงมั่นใจในประสบการณ์และความสามารถของแพทย์ได้ครับ

นอกจากนี้  V Square Clinic ยังเลือกใช้เฉพาะฟิลเลอร์แท้ แบรนด์ดังที่ได้รับการยอมรับจากแพทย์ทั่วโลกเท่านั้น รวมถึงมีเทคนิคเฉพาะที่ช่วยปรับองศาความโด่งของจมูกให้รับกับใบหน้า เพิ่มความโด่งของจมูกประมาณ 30-60 องศา เพื่อให้มองจากด้านข้างก็ยังได้รูป และทำองศาประมาณ 45 องศา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องอาศัยประสบการณ์ของแพทย์ครับ โดยก่อนทำหัตถการทุกครั้ง หมอจะมีการประเมินปัญหา พูดคุยกับคนไข้ เพื่อวางแผนการรักษาร่วมกัน จึงแก้ปัญหาได้ตรงจุด คุ้มค่าและเหมาะสมกับคนไข้แต่ละเคส  

ปัจจุบัน  V Square Clinic มีสาขาใกล้บ้าน ให้เลือกหลายสาขาครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล  โดยมีแพทย์ที่มีประสบการณ์ประจำทุกสาขาครับ

วิธีดูฟิลเลอร์แท้

อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ต้นว่า ก่อนฉีดฟิลเลอร์จมูก ต้องมั่นใจว่าฉีดด้วยฟิลเลอร์แท้ ที่นำเข้าอย่างถูกต้อง ไม่ใช่ฟิลเลอร์หิว ที่ลักลอบนำมาใช้โดยที่ไม่ผ่านการควบคุมอุณหภูมิตัวยา ทำให้ตัวยาเสื่อม และมีความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงหลังฉีดได้ เพื่อให้ผลการรักษาเป็นที่น่าพอใจและมีความปลอดภัย คนไข้ควรรู้วิธีดูฟิลเลอร์แท้ ที่ได้มาตรฐานร่วมด้วย 

ตัวอย่างวิธีดูฟิลเลอร์แท้แต่ละจุด

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane (สวีเดน)

• มีรอยปรุสำหรับเปิดกล่อง
• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• มีสติกเกอร์ โมโนแกรม คำว่า “VOID”
• เลข lot. ตรงกัน 2 จุดคือ
  1. เลข lot. ที่ข้างกล่อง
  2. เลข lot. ที่หลอด
• สแกน QR CODE ด้วยแอปพลิเคชัน Eztracker เพื่อตรวจสอบยาแท้
• สามารถสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท Galderma โทร. 02-0231800 ต่อ 402

ฉีดจมูกฟิลเลอร์แท้ ราคาโปรโมชัน (2023)

ฟิลเลอร์ที่เหมาะสมที่สุดในการฉีดจมูกคือ ยี่ห้อ Restylane รุ่น Perlane Lyft เพราะมีความคงตัวสูง ไม่ฟู และสามารถคงรูปได้ดีที่สุด  ราคา 16,900.- / 1 CC 

วิธีการดูรีวิวให้เป็น ไม่ถูกหลอก

• ไม่ควรดูรีวิวที่เป็นภาพถ่าย Before-After เคสสวย ๆ เพียงอย่างเดียว เพราะภาพถ่ายสามารถแต่งภาพได้ง่ายมาก ควรสังเกตด้วยว่า Before-After มีการแต่งหน้าที่แตกต่างกันหรือไม่ เพราะรีวิวส่วนใหญ่ รูป Before จะเป็นหน้าสด แต่รูป After จะแต่งหน้าแบบจัดเต็ม ทำให้คนที่ดูรีวิวคาดหวังผลการรักษาที่เกินจริง และเกิดความผิดหวังได้ครับ 
• ไม่ควรดูแต่รีวิวที่คลินิกเป็นผู้โพสเพียงอย่างเดียว เพราะจะเห็นแต่เคสสวย ๆ ที่ได้ผลลัพธ์ดีที่ทางคลินิกนำออกมาโชว์ เพื่อเรียกลูกค้า จึงควรจะดูรีวิวในแหล่งที่เป็นกลางควบคู่กันไปด้วย เช่น แถบคำวิจารณ์ในเฟสบุ้ค คำวิจารณ์ใน Google Map หรือ รีวิวใน Pantip ครับ

นอกจากนี้ยังควรดูในส่วนของคำวิจารณ์เฟสบุ๊กร่วมด้วย ถ้าคลินิกไหนไม่เปิดให้คนไข้แสดง Feedback ก็อาจเป็นไปได้ว่าถูกโจมตีบ่อยหรือมีเคสหลุดที่เข้ามา Complain เยอะครับ หรืออาจจะโฆษณาเกินจริงจนคนไข้เข้ามา Complain บ่อย ๆ ซึ่งกรณีนี้ควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจทำนะครับ

ตัวอย่างรีวิวฉีดฟิลเลอร์จมูก  V Square Clinic

การนัดหมายติดตาม Follow ผล

หลังฉีดฟิลเลอร์จมูก รวมไปถึงฉีดฟิลเลอร์จุดอื่น ๆ ควรมีนัดติดตามผลครับ ไม่ใช่ทำแล้วจบ คลินิกไม่ดูแลคนไข้ต่อ ดังนั้นควรเลือกคลินิกที่มีการนัดหมายเพื่อติดตามผลคนไข้ในภายหลังด้วยครับ ทั้งการให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวทั้ง ก่อน – หลังฉีดฟิลเลอร์ ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เพื่อให้คนไข้เข้าใจเป็นอย่างดีก่อน 

นอกจากนี้ คลินิกต้องมีช่องทางสำหรับติดต่อที่สะดวก โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ เช่น Facebook หรือ Line@ คนไข้สามารถสอบถามข้อสงสัยกับหมอที่ทำเคสของตนเองได้โดยตรงทันที

สรุป

ฉีดฟิลเลอร์จมูกที่ไหนดี ? ควรดูจากองค์ประกอบหลาย ๆ อย่าง และควรศึกษาข้อมูลการฉีดฟิลเลอร์จมูกอย่างละเอียดครับ ก่อนฉีดต้องมั่นใจว่าฉีดด้วยฟิลเลอร์แท้ โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ภายใต้คลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น เพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัย สวยงาม

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ฟิลเลอร์เน่า

ฟิลเลอร์เน่า เป็นปัญหาที่ไม่มีใครอยากเจอครับ หลายครั้งที่เราเห็นข่าวฟิลเลอร์เน่า จมูกเน่า ตาเน่า ปากเน่า ที่เกิดจากการฉีดสารเติมเต็มที่ไม่ผ่าน อย. ฉีดกับหมอกระเป๋า คลินิกเถื่อน ก็สร้างความกลัวให้กับคนไข้ในการจะเข้ามาฉีด Filler ซึ่งหากฉีดฟิลเลอร์แท้ ในคลินิกที่ได้มาตรฐานและหมอมีประสบการณ์ จะมีความปลอดภัย และไม่เจอปัญหาฟิลเลอร์เน่าแน่นอน

ในบทความนี้หมอจะมาอธิบายว่าทำไมฟิลเลอร์เน่า เกิดจากอะไร อันตรายแค่ไหน รักษาหรือแก้ไขได้ไหม พร้อมแนะนำวิธีเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ปลอดภัยครับ

สารบัญ ฟิลเลอร์เน่า

1. ฟิลเลอร์เน่า คืออะไร ?
2. ฟิลเลอร์เน่า อันตรายไหม ?
3. ฟิลเลอร์เน่า เกิดจากสาเหตุอะไร ?
4. ฟิลเลอร์เน่า อาการเป็นอย่างไร ?
5. ฟิลเลอร์เน่า มีวิธีแก้ไขอย่างไร ?
6. ฟิลเลอร์เน่า มีวิธีป้องกันอย่างไร ?
7. ฟิลเลอร์เน่า มีวิธีการดูแลตัวเองอย่างไร ?
8. ฟิลเลอร์เน่า หน้าจะกลับมาเหมือนเดิมได้ไหม ?

ฟิลเลอร์เน่า คืออะไร ?

ฟิลเลอร์เน่า คือ ผลข้างเคียงจากการฉีดสารเติมเต็มที่ไม่ได้มาตรฐาน ฟิลเลอร์ปลอม ซิลิโคนเหลว พาราฟิน หรือสารอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ Hyaluronic Acid (HA) ทำให้ร่างกายมีปฏิกิริยาต่อต้าน เกิดการอักเสบติดเชื้อ (Infection) บวม แดง ทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดมีการผิดรูป 

ฟิลเลอร์เน่า อันตรายไหม ?

ฟิลเลอร์เน่า อันตรายครับ ยิ่งถ้าฉีดกับหมอกระเป๋า หมอเถื่อน แล้วมีการฉีดโดนเส้นเลือด ทำให้สารเติมเต็มหลุดเข้าไปอุดตันหลอดเลือด เลือดจะไม่ไหลเวียนไปบริเวณนั้น ทำให้เนื้อตายและเน่าได้ แต่ละเคสก็จะมีระดับความรุนแรงต่างกันไป แต่ยิ่งรู้ตัวเร็วก็ยิ่งรักษาได้เร็ว ลดความรุนแรงของอาการและลดความเสียหายของเนื้อเยื่อต่าง ๆ ได้ครับ

ฟิลเลอร์เน่า เกิดจากสาเหตุอะไร ?

1.ฟิลเลอร์เน่าเพราะใช้ฟิลเลอร์ปลอม 

ถ้าพูดถึง Filler แบบสากลจะมีความหมายรวม ๆ ถึงการฉีดสารเติมเต็มทุกชนิด ทั้งซิลิโคนเหลว คอลลาเจนจากสัตว์ การฉีดไขมัน แต่ถ้าในประเทศไทย ฟิลเลอร์จะหมายถึงสารประเภท Hyaluronic Acid (HA) ที่ผ่าน อย. เท่านั้น (เป็นสารที่ถูกสร้างขึ้นมาเลียนแบบ HA ที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ)  ฉีดแล้วไม่มีผลข้างเคียง อยู่ได้นาน สลายไปเองตามธรรมชาติ 

สารอื่น ๆ ที่อยู่ได้ถาวรหรือกึ่งถาวร จะไม่ผ่าน อย. ในการฉีดเข้าสู่ร่างกายครับ ฉีดแล้วจะมีอาการแพ้ บวมแดง ไหลย้อยเป็นก้อนแข็ง (Migration) เน่า เนื้อตาย (necrosis) ทำให้เนื้อผิดรูปได้

2.ฟิลเลอร์เน่าเพราะอุปกรณ์หรือสถานที่ฉีดไม่สะอาด 

เรื่องความสะอาดเป็นอีกปัจจัยที่อาจทำให้เกิดปัญหาฟิลเลอร์เน่าได้ คลินิกต้องได้มาตรฐาน อุปกรณ์ต่าง ๆ ต้องผ่านการทำให้ปราศจากเชื้อ (Sterile) ทุกขั้นตอนการฉีดต้องสะอาด ปลอดภัย แม้จะใช้ฟิลเลอร์แท้ ฉีดโดยแพทย์จริง ๆ แต่ถ้าฉีดในสถานที่ที่ไม่สะอาด (บ้าน/คอนโด ที่ไม่ใช่ห้องทำหัตถการ) ก็อาจทำให้เกิดการปนเปื้อนและทำให้คนไข้ติดเชื้อได้ เมื่อมีการอับเสบ ก็จะเริ่มเป็นหนอง ปวด บวม ฟิลเลอร์เป็นก้อนแข็ง ต้องสลายหรือเอาออกก่อนที่จะลุกลามไปเป็นการเน่าครับ

3.ฉีดฟิลเลอร์เน่าเพราะแพทย์ขาดประสบการณ์

ในกรณีที่ใช้ฟิลเลอร์แท้ ฉีดกับหมอจริง ๆ ไม่ใช่หมอกระเป๋า แต่เป็นแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์หรือความรู้ในการฉีดฟิลเลอร์มากพอ อาจฉีดฟิลเลอร์เข้าไปอุดตันเส้นเลือด ทำให้เนื้อตายได้ ถ้าโดนเส้นเลือดสำคัญที่ต้องไหลไปยังลูกตาก็ทำให้ตาบอดได้ครับ 

ปัจจุบันการฉีดฟิลเลอร์แท้ HA สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ทันทีหากพบว่าเกิดข้อผิดพลาด โดยแพทย์สามารถสังเกตได้จากสีของผิวหนังที่มีการซีดลงเนื่องจากหลอดเลือดถูกอุดตัน ทำให้เลือดไม่ไหลไปหล่อเลี้ยง ก็สามารถฉีดเอนไซม์ Hyaluronidase สลายออกได้ 100% จึงถือว่าฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูงครับ

ฟิลเลอร์เน่า อาการเป็นอย่างไร ?

อาการเริ่มต้นของฟิลเลอร์เน่าแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน หรือมีหลายอาการพร้อม ๆ กันได้ครับ ส่วนใหญ่จะเป็นอาการผิดปกติที่คนไข้สังเกตตัวเองได้

• รู้สึกคันบริเวณผิวที่ฉีดฟิลเลอร์ 
• เจ็บ บวม ช้ำเป็นจ้ำเลือด
• ผิวเปลี่ยนสี เนื่องจากเกิดการอุดตันของหลอดเลือดดำ
• เกิดก้อนแข็งบริเวณที่ฉีด
• ฟิลเลอร์ไหลย้อย เคลื่อนย้าย ผิดตำแหน่ง
• ผิวไม่เรียบ เป็นคลื่น ขรุขระ

แต่บางคนในช่วงแรก ๆ อาจจะไม่มีอาการเลย เมื่อเวลาผ่านไปจะเริ่มแสดงอาการผิดปกติออกมา ถ้ารู้ตัวช้าก็จะแก้ไขหรือรักษาได้ยากกว่าครับ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ต้องมั่นใจว่าฉีดฟิลเลอร์แท้ ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน และแพทย์มีประสบการณ์ครับ

ฟิลเลอร์เน่า มีวิธีแก้ไขอย่างไร ?

เมื่อมีอาการฟิลเลอร์เน่า สามารถแก้ไขได้วิธีเดียวคือการผ่าตัดหรือขูดสารเติมเต็มออกครับ ซึ่งแม้จะเอาตัวสารที่มีปัญหาออกมาหมด แต่ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าผิวจะกลับมาเรียบเนียนสวยเหมือนเดิม โดยเฉพาะในเคสที่สารรวมกับเนื้อเยื่อไปมากแล้ว มีพังผืดเกาะ การเอาออกต้องอาศัยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญสูง ต้องระวังทั้งเรื่องของเส้นประสาท เส้นเลือดสำคัญต่าง ๆ เป็นอย่างมาก และการมีผลข้างเคียง เช่น บริเวณที่ขูดฟิลเลอร์ออกจะชา ไม่รู้สึก 

ฟิลเลอร์เน่า มีวิธีป้องกันอย่างไร ?

• ฉีดฟิลเลอร์ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข สะอาด ปลอดเชื้อ
• ต้องมั่นใจว่าฉีดฟิลเลอร์แท้เท่านั้น และศึกษาวิธีสังเกตฟิลเลอร์แท้ในเบื้องต้น ก่อนฉีดหมอต้องแกะกล่องใหม่ให้ดูต่อหน้า สามารถนำกล่องฟิลเลอร์กลับบ้านได้
• แพทย์ประจำคลินิก มีการแสดงใบประกอบวิชาชีพ โดยแสดงภาพถ่าย ชื่อ และเลขที่ใบอนุญาต ตรงกับผู้ให้การรักษา
• ดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงในคลินิกนั้น ๆ ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ โดยควรดูในแหล่งที่เป็นกลาง คลินิกไม่สามารถลบหรือแก้ไขเองได้
• เครื่องมือและเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ มีคุณภาพ ผ่านการทำให้ปราศจากเชื้อ 

ฟิลเลอร์เน่า มีวิธีการดูแลตัวเองอย่างไร ?

ในเบื้องต้นหากพบว่ามีปัญหาฟิลเลอร์เน่า ต้องรีบพบแพทย์เพื่อเอาส่วนที่มีปัญหาออกครับ จากนั้นก็ต้องดูแลรักษาตามอาการ ซึ่งในแต่ละเคสก็จะแตกต่างกันไป ที่สำคัญคือต้องดูแลสุขภาพจิตใจ เพราะคนไข้หลาย ๆ คนเสี่ยงเสียโฉม ทำให้เป็นโรคเครียดหรือซึมเศร้าตามมาได้

หากแก้ไขนำส่วนที่เป็นฟิลเลอร์เน่าออกได้แล้ว ให้งดเว้นการทำศัลยกรรมต่าง ๆ ไปก่อนครับ เพื่อให้เนื้อเยื่อและผิวหนังได้ฟื้นตัวเต็มที่ และติดตามผลกับแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ

ฟิลเลอร์เน่า หน้าจะกลับมาเหมือนเดิมได้ไหม ?

การรักษาฟิลเลอร์เน่า กี่วันหาย ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละเคส ว่าฉีดมานานแค่ไหน และใช้สารอะไรฉีด โดยส่วนใหญ่หมอจะไม่รับประกันว่าผิวจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม 100% เหมือนก่อนฉีด ยิ่งฉีดมานาน สารมีการรวมกับเนื้อเยื่อหรือเกิดพังผืดมาก ๆ ก็ยากที่จะทำให้ผิวกลับมาเหมือนเดิมครับ

สรุป

ฟิลเลอร์เน่าเป็นปัญหาที่หมอไม่อยากให้เกิดขึ้นไม่ว่าจะกับใครก็ตามครับ อยากให้คนไข้ใส่ใจเรื่องการฉีดฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน และยึดความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก มากกว่าเลือกจากราคาหรือโปรโมชั่นที่ถูกมาก ๆ เพราะก็มีความเสี่ยงที่จะถูกหลอกใช้ฟิลเลอร์ปลอม หรือฉีดกับหมอกระเป๋า คลินิกเถื่อน แล้วเกิดปัญหาต้องมาแก้ไขทีหลัง หรืออันตรายกว่านั้นคือทำให้เสียโฉมไปเลยได้ครับ

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตา

ฟิลเลอร์ใต้ตา คือจุดที่ถ้าฉีด Filler แล้วมีข้อผิดพลาด เป็นก้อน ไหล ไม่เรียบเนียน เป็นตุ่มหรือเป็นจุด จะถูกสังเกตเห็นได้ง่าย และทำให้คนไข้เกิดความไม่มั่นใจ แต่ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตา โดยใช้เอนไซม์ Hyaluronidase (ได้ผลเฉพาะฟิลเลอร์แท้ Hyaluronic Acid เท่านั้น) หลังฉีดสลายผิวจะกลับมาเรียบเนียนเหมือนเดิมครับ

สารบัญ ฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตา

1. ฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตา สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ
2. ฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม ?
3. ยาฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตา คือ ?
4. ก่อนฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตาควรเตรียมตัวอย่างไร ?
5. ปัญหาที่ต้องแก้ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตามีอะไรบ้าง ?
6. การฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถทำให้ฟิลเลอร์สลายหมดไหม ?
7. ฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตากี่วันเห็นผล ?
8. ฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตาราคาเท่าไหร่ ปริมาณเท่าไหร่ ?
9. ฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ?
10. การสลายฟิลเลอร์ใต้ตามีกี่แบบ ?
11. สลายฟิลเลอร์ใต้ตาด้วยตัวเองได้ไหม ?
12. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาปลอมสามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตาได้ไหม ?
13. ข้อควรปฏิบัติหลังการฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตา
14. หลังฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตามีผลข้างเคียงหรือไม่ ?
15. ฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตามีอาการบวมไหม เจ็บหรือไม่ ?
16. ฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตาควรฉีดกี่ครั้ง ?
17. หลังฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตากี่วันถึงจะสามารถฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้อีกครั้ง ?

ฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตา สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ

เรื่องที่คนไข้ควรเข้าใจก่อนฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตา คึอฟิลเลอร์ใต้ตาจะฉีดสลายได้ก็ต่อเมื่อฉีดโดยใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้นครับ ฟิลเลอร์ (Filler) ในทางการแพทย์ จะหมายถึงการฉีดสารเติมเต็ม (Injectible Filler) ทุกชนิดครับ ทั้งการฉีดไขมัน ฉีดคอลลาเจนจากสัตว์ หรือการฉีดสารในกลุ่มซิลิโคนเหลว 

แต่ถ้าในประเทศไทยเมื่อพูดถึงฟิลเลอร์ จะหมายถึงฟิลเลอร์ที่เป็นสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) เป็นสารที่สร้างเลียนแบบสร้างที่มีอยู่ในธรรมชาติ มีความปลอดภัย เมื่อเวลาผ่านไปจะสลายไปเองตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้างครับ

ดังนั้นหากคนไข้ฉีดสารอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ Hyaluronic Acid จะใช้ยาฉีดสลายฟิลเลอร์ไม่ได้นะครับ

ฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม ?

การฉีดสลายฟิลเลอร์ ไม่อันตรายครับ ตัวยาจะช่วยสลายฟิลเลอร์ที่อยู่ใต้ชั้นผิวออก และทำให้ผิวกลับมาเรียบเนียนเหมือนเดิม 

แต่ก็มีข้อควรระวังในการฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตาครับ ไม่ใช่ว่าฉีดได้เลย หรือยิ่งฉีดเยอะยิ่งดี ช่วยให้สลายเร็ว แพทย์ต้องประมาณปริมาณตัวยาให้พอเหมาะ หากฉีดมากเกินไป ตัวยาสลายฟิลเลอร์จะไปสลาย HA และ คอลลาเจนที่มีอยู่ในผิวได้ครับ

ยาฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตา คือ ?

ยาฉีดสลายฟิลเลอร์ คือ เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) เป็นเอนไซม์ที่มีคุณสมบัติลดการกักเก็บน้ำ ไขมัน และสามารถทำลายการยึดเกาะของฟิลเลอร์ (Hyaluronic Acid) ได้ ช่วยสลายฟิลเลอร์และปรับสมดุลให้ผิวกลับมาเหมือนเดิม หรือใกล้เคียงเดิมมากที่สุด

ก่อนฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตาควรเตรียมตัวอย่างไร ?

หากต้องการฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตา ไม่มีการเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษครับ เข้ามาพบแพทย์ได้เลย แต่ควรเตรียมข้อมูลก่อนมาพบแพทย์ ได้แก่

1. ตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อให้หมอฉีดสลายได้อย่างแม่นยำ
2. ปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีดมา กี่ CC ฉีดมานานเท่าไร ปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีดจะมีผลต่อการคำนวณปริมาณยาฉีดสลายฟิลเลอร์ที่ต้องใช้ 
3. ยี่ห้อ รุ่น Serial No. ของฟิลเลอร์ เพื่อตรวจสอบและยืนยันว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ จึงสามารถฉีดสลายได้(เป็นเหตุผลที่หลังฉีดฟิลเลอร์ควรขอกล่องจากคลินิกกลับบ้านด้วยครับ) 

ปัญหาที่ต้องแก้ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตามีอะไรบ้าง ?

• ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามาแล้วไม่พอใจกับผลลัพธ์ ไม่สวย ไม่เป็นธรรมชาติ ต้องการแก้ไข
• เกิดปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์ เช่น บวม เป็นก้อน เป็นลำ ไม่เรียบเนียน
• ฉีดฟิลเลอร์แพทย์ขาดประสบการณ์ ฉีดบนผิวที่ตื้นเกินไป หรือ ประเมินปริมาณการใช้ฟิลเลอร์ไม่เหมาะสม ทำให้ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน
• ฉีดฟิลเลอร์ปลอมมา ในกรณีนี้หมอจะแนะนำให้ผ่าตัดหรือขูดออก เพราะไม่สามารถฉีดสลายได้

การฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถทำให้ฟิลเลอร์สลายหมดไหม ?

เอนไซม์ Hyaluronidase ที่ใช้ฉีดสลายฟิลเลอร์ สามารถสลายฟิลเลอร์ได้หมด ไม่มีสารตกค้าง และสามารถฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาใหม่ได้โดยไม่มีผลข้างเคียงครับ

ฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตากี่วันเห็นผล ?

หลังฉีดเอนไซม์ Hyaluronidase ในบริเวณที่ต้องการสลายฟิลเลอร์ จะออกฤทธิ์ทันทีหลังฉีดไปจนถึง 48 ชั่วโมง จะเริ่มเห็นผลบางส่วนภายใน 15-20 นาทีแรก จะสลายไปประมาณ 60-70% จุดที่เป็นก้อนยุบลงทันทีครับ 

ฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตาราคาเท่าไหร่ ปริมาณเท่าไหร่ ?

การฉีดสลายฟิลเลอร์ จะต้องใช้ปริมาณ Hyaluronidase มากกว่าปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปประมาณ 3-5 เท่า หากครั้งแรกฉีดฟิลเลอร์สลายไม่หมด สามารถฉีดเพิ่มได้ โดยหมอจะประเมินปริมาณยาเป็นรายบุคคลครับ

ฉีดสลายฟิลเลอร์ราคาจุดละ 2,500 บาท แต่ต้องพิจารณาราคาตามปริมาณยาอีกครั้งครับ

• ใต้ตา 2 ข้าง นับเป็น 1 จุด
• ร่องแก้ม 2 ข้าง นับเป็น 1 จุด
• หน้าผาก นับเป็น 1 จุด 
• คาง นับเป็น 1 จุด

*หากฉีดฟิลเลอร์กับ V Square Clinic และต้องการฉีดสลาย สามารถฉีดสลายได้ฟรีครับ

ฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ?

หากต้องการฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตา ควรฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ตัวยา Hyaluronidase ถูกต้อง ไม่ได้หลอกฉีดสารอื่น ๆ ครับ ที่สำคัญการฉีดแก้ไขควรฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ โดยเฉพาะการฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ถือว่าเป็นจุดที่ต้องการความละเอียดอ่อน การใช้ปริมาณยาสลายฟิลเลอร์ที่เหมาะสม เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดี ผิวเรียบเนียนเหมือนเดิม

การสลายฟิลเลอร์ใต้ตามีกี่แบบ ?

ถ้าพูดถึงการสลายฟิลเลอร์ใต้ตา มีอยู่ 3 อย่างครับ 

1. รอให้ฟิลเลอร์สลายไปเองตามอายุ 
2. ฉีดยาสลายฟิลเลอร์
3. ผ่าตัดหรือขูดออก (ถ้าใช้ฟิลเลอร์แท้ก็ไม่จำเป็นครับ นอกจากต้องการศัลยกรรม เสริมซิลิโคนบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์มา) 

สลายฟิลเลอร์ใต้ตาด้วยตัวเองได้ไหม ?

หลายคนก็เข้าใจผิดว่ามีวิธีสลายฟิลเลอร์ด้วยตัวเอง โดยการใช้ความร้อนในจุดที่ฉีดฟิลเลอร์มา เช่น ประคบร้อน กดบีบ นวด ดื่มแอลกอฮอล์เยอะ ๆ ออกกำลังกายหนัก ๆ ถามว่าเหล่านี้ส่งผลต่อการสลายฟิลเลอร์ไหม ต้องบอกว่าส่งผลเล็กน้อยครับ โดยเฉพาะช่วงหลัง 2 สัปดาห์ไปแล้ว ฟิลเลอร์เข้าที่ดีแล้ว หากอยากสลายเร็ว ๆ แนะนำให้ฉีดยาสลายฟิลเลอร์จะได้ผลตรงตามที่คาดหวังมากกว่าครับ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาปลอมสามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตาได้ไหม ?

อย่างที่หมอบอกว่าไปว่ายาสลายฟิลเลอร์คือเอนไซม์ Hyaluronidase ที่จะออกฤทธิ์กับฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid เท่านั้น หากคนไข้ฉีดสารเติมเต็มประเภทอื่นมา จะไม่สามารถฉีดสลายได้ ต้องใช้การผ่าตัดครับ

ข้อควรปฏิบัติหลังการฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตา

• หลังฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตา ควรเว้นระยะการฉีดฟิลเลอร์ไปก่อน ไม่ควรฉีดใหม่ทันที
• งดดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ งดการทานอาการที่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบและบวมเข็ม
• งดทาครีมบริเวณรอยเข็มที่ฉีดสลายฟิลเลอร์ 1 คืน
• หากต้องการฉีดฟิลเลอร์เพิ่มในจุดเดิม ควรปรึกษาแพทย์ก่อน

หลังฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตามีผลข้างเคียงหรือไม่ ?

โดยปกติจะไม่ค่อยพบผลข้างเคียงหลังฉีดที่อันตรายครับ จะพบผลข้างเคียงเล็กน้อยในบางเคสเท่านั้น เช่น

• มีอาการแพ้ยาฉีดสลายฟิลเลอร์ (ในแต่ละคลินิกอาจใช้ตัวยาฉีดสลายฟิลเลอร์ต่างยี่ห้อกัน)
• มีอาการคัน หรือบวมแดง (โดยปกติหลังฉีดเสร็จจะไม่ได้ให้กลับบ้านทันทีครับ แพทย์จะดูอาการก่อน หากในช่วงหลังฉีด ถึง 30 นาที ไม่มีอาการแพ้ก็กลับบ้านได้ครับ)
• ฉีดยาสลายฟิลเลอร์ใต้ตามากเกินไป ทำอันตรายต่อชั้นผิวหรือสลายคอลลาเจนที่มีอยู่เดิม ส่งผลต่อคุณภาพผิวบริเวณนั้นในอนาคต 

ฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตามีอาการบวมไหม เจ็บหรือไม่ ?

หลังฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตา ผิวจะกลับมาเรียบเนียนเป็นปกติครับ ถ้ากลัวเจ็บสามารถแปะยาชาได้ บางคนที่ผิวบาง อาจมีอาการบวมเข็มได้ จะค่อย ๆ ยุบหายไปเอง ไม่อันตรายครับ

ฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตาควรฉีดกี่ครั้ง ?

โดยปกติฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตา 1 ครั้ง ก็เห็นผลแล้วครับ หลังจากนั้นหมอจะมีการนัดดูผลว่าฟิลเลอร์สลายไปหมดไหม สามารถฉีดเพิ่มได้ แต่จะไม่ได้ฉีดเยอะ ๆ ไปทีเดียว เพื่อไม่ให้ทำร้ายส่วนประกอบอื่น ๆ ในชั้นผิวครับ

หลังฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตากี่วันถึงจะสามารถฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้อีกครั้ง ?

การฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตาใช้เวลาเห็นผลเต็มที่ 2 วัน แต่คนไข้ควรพักหน้าประมาณ 7 วัน แล้วค่อยกลับมาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาใหม่ได้ครับ

สรุป

แม้ว่าการฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตา จะช่วยสลายฟิลเลอร์ได้หมด และทำให้ผิวกลับมาเรียบเนียนเหมือนเดิม แต่ถ้าไม่ต้องแก้ไขเลยจะดีกว่าครับ ก่อนฉีดคนไข้ควรเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าใช้ฟิลเลอร์แท้ จะได้ผลลัพธ์ที่ดี ไม่ต้องมีปัญหาที่ต้องแก้ไขทีหลังครับ

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ฉีดฟิลเลอร์ปากบวมกี่วัน ?

เนื่องจากปากเป็นจุดที่เนื้อเยื่อมีความบอบบางมาก หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก (Filler) จึงมีอาการริมฝีปากบวมได้เป็นปกติครับ แต่ไม่อันตราย เมื่อเวลาผ่านไปจะค่อย ๆ ยุบบวมไปเอง ใช้เวลาประมาณ 5-7 วัน

ฉีดฟิลเลอร์ปากบวมกี่วัน ปากบวมกี่วันหาย ปากบวมทำไงดี อาการบวมแบบไหนผิดปกติ เกิดจากอะไร หมอสรุปให้ในบทความนี้ พร้อมวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว และได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ปลอดภัยครับ

สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์ปาก บวมกี่วัน

1. ฉีดฟิลเลอร์ปากบวมกี่วัน การบวมเกิดจากอะไร ?
2. ฉีดฟิลเลอร์ปากบวมกี่วันถึงจะเข้าที่ ?
3. ฉีดฟิลเลอร์ปากแต่ละทรงบวมกี่วัน เท่ากันไหม ?
4. วิธีลดอาการหลังฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วบวม
5. ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
6. รีวิวการฉีดฟิลเลอร์ปาก

ฉีดฟิลเลอร์ปากบวมกี่วัน การบวมเกิดจากอะไร ?

ไม่ว่าจะฉีดฟิลเลอร์จุดไหน ก็มีอาการบวมได้เป็นผลข้างเคียงปกติครับ แต่จะไม่ได้บวมมากจนสังเกตได้ชัด ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าฉีดฟิลเลอร์ปากบวมกี่วัน ต้องหยุดพักฟื้นนาน หรือใช้หน้าไม่ได้ เพียงแต่ฟิลเลอร์ปากอาจจะสังเกตเห็นอาการบวมหรือรู้สึกตุ่ย ๆ ได้ชัดกว่าจุดอื่น เพราะเนื้อริมฝีปากมีความบอบบางมาก  

สาเหตุที่ทำให้ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วบวม

• ฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่กลืนไปกับผิว 100% 
• มีอาการบวมเข็ม เพราะเวลาจิ้มเข็มลงไปทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง
• เนื้อฟิลเลอร์มีคุณสมบัติอุ้มน้ำ ทำให้ดูดน้ำจากผิวรอบ ๆ เข้ามากักเก็บไว้และฟูขึ้น

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากจะยังไม่ได้มีอาการบวมทันทีครับ ทำให้สามารถประเมินผลลัพธ์ที่ชัดเจนได้เลย แต่หลังจากนั้นในช่วง 3 วัน จะมีอาการบวมมากขึ้น ก่อนจะค่อย ๆ ยุบบวมไปเองในช่วง 5-7 วัน หากดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์ จะไม่มีอาการบวมมากขึ้น และฟิลเลอร์จะเข้าที่เร็วขึ้นครับ

ฉีดฟิลเลอร์ปากบวมกี่วันถึงจะเข้าที่ ?

โดยปกติหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก จะเห็นผลเต็มที่ 100% ใน 2-4 สัปดาห์ แต่ต้องฉีดฟิลเลอร์แท้ Hyaluronic Acid ที่ผ่านอย. ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ในคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น   

ฉีดฟิลเลอร์ปากบวมกี่วัน ปวดไหม อาการเป็นอย่างไร แบบไหนผิดปกติ ?

หลังฉีดฟิลเลอร์เสร็จทันที อาจจะมีอาการบวม รอยแดง รอยเขียวช้ำ หรือรู้สึกคัน เป็นเรื่องปกติครับ อาการต่าง ๆ จะค่อย ๆ ดีขึ้นเองภายใน 2-3 วัน แต่หากหลังจาก 3 วัน อาการดังกล่าวยังเป็นมากขึ้น ให้ติดต่อกลับมาที่คลินิกเพื่อรับยากินเพิ่ม

อีกกรณีคือฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วบวมจากการที่แพทย์ฉีดด้วยเทคนิคที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ริมฝีปากบวม ผิวเป็นก้อน ไม่เรียบเนียน เกิดจาก

1. เลือกใช้ชนิดฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะกับตำแหน่งที่ฉีด
2. ฉีดฟิลเลอร์ไม่ตรงกับตำแหน่งที่มีปัญหา
3. แพทย์ที่ฉีดไม่มีประสบการณ์ทางด้านการฉีดฟิลเลอร์มากพอ

หากใช้ฟิลเลอร์แท้ Hyaluronic Acid สามารถแก้ไขได้โดยการฉีดสลายฟิลเลอร์ โดยใช้ตัวยา Hyaluronidase ครับ สามารถสลายฟิลเลอร์ ทำให้ผิวกลับมาเรียบเนียนเหมือนเดิม และฉีดฟิลเลอร์ใหม่ได้โดยไม่มีผลข้างเคียง

ส่วนอาการปากบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ปากที่ไม่ปกติ สังเกตจาก

• ปวดริมฝีปากบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์มากขึ้น
• ริมฝีปากบวมขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ยุบลง 
• มีรอยแดงหรือรอยคล้ำที่ผิดปกติ
• รู้สึกร้อน ๆ บริเวณผิวหนังที่ฉีดฟิลเลอร์

อาการเหล่านี้อาจเกิดจากการอักเสบ ติดเชื้อ สาเหตุมักมาจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้ว หรือฉีดกับหมอกระเป๋า คลินิกเถื่อน ซึ่งหากปล่อยไว้อาจเกิดอันตรายได้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาทันที 

ฉีดฟิลเลอร์ปากแต่ละทรงบวมกี่วัน เท่ากันไหม ?

ปัจจุบันฟิลเลอร์ปาก สามารถฉีดปรับทรงปากได้หลายทรงครับ คนไข้หลายคนสงสัยว่าฉีดปากกระจับบวมกี่วัน ฉีดทรงสายฝอ. บวมนานกว่าไหม ? 

ความจริงแล้วปัจจัยที่ทำให้ปากบวมมากบวมน้อย แตกต่างกันไปในแต่ละคนด้วยครับ บางคนผิวบาง แพ้ง่าย ก็อาจจะยุบบวมช้ากว่า หรือฉีดฟิลเลอร์ปากในปริมาณ CC มากกว่า ก็จะดูบวมมากกว่าคนที่ฉีดแค่ 1 CC รวมถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก หากดูแลดี เลี่ยงปัจจัยที่จะทำให้เกิดการบวม อักเสบ ฟิลเลอร์ก็จะเข้าที่ได้เร็วขึ้น ไม่ได้เกี่ยวกับทรงปากเป็นหลักครับ 

วิธีลดอาการหลังฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วบวม

• หากมีอาการบวมมาก สามารถประคบเย็นได้ (ต้องประคบตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น)
• รับประทานและเครื่องดื่มอุณหภูมิปกติ เลี่ยงของร้อน ๆ เพราะอาจทำให้ปากเกิดอาการบวมมากขึ้นได้
• ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อเพิ่มการอุ้มน้ำของฟิลเลอร์ และช่วยให้ฟิลเลอร์ฟู อยู่ได้นานขึ้น

ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก 

• ใน 12 ชั่วโมงแรกควรงดใช้หลอดดูดน้ำ งดทาลิปสติกและงดสูบบุหรี่
• หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด ไม่จับ บีบ นวดบริเวณริมฝีปาก
• ไม่ควรดึงหรือลอกหนังริมฝีปาก เพราะจะเป็นการทำลายผิวริมฝีปาก
• หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เผ็ด หวานมาก ๆ เพราะอาจทำให้ปากเกิดอาการอักเสบได้ง่าย

รีวิวการฉีดฟิลเลอร์ปาก

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ปากแต่ละทรง ที่ V Square Clinic จะออกแบบทรงปากให้เหมาะกับใบหน้าโดยรวมของแต่ละคนโดยเฉพาะ เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ เข้ากับใบหน้ามากที่สุด

สรุป

สำหรับใครที่ยังกังวลว่าฉีดฟิลเลอร์ปากกี่วันหายบวม ปากจะบวมนานไหม จริง ๆ แล้วอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ ไม่ได้บวมมากจนน่าเกลียด เพียงแต่คนไข้จะรู้สึกไม่ชินกับปากใหม่ รู้สึกตุ่ย ๆ เลยทำให้ไม่มั่นใจ แต่หากฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์แท้ หมอมีประสบการณ์ ก็ไม่ต้องกังวลหาวิธีรักษาปากบวมครับ เพราะไม่ได้เป็นอันตราย เมื่อฟิลเลอร์ยุบบวมเข้าที่ จะกลืนเรียบเนียนกับผิว ดูเป็นธรรมชาติไปเอง

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ปัญหาใต้ตาสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ วิธีแก้ไขจึงมีหลายทางเลือกให้นำมาปรับใช้ตามความเหมาะสม การฉีด Cytocare ใต้ตา ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ ลดริ้วรอยใต้ตาได้ครับ

ไซโตแคร์ใต้ตา คืออะไร ? หลังฉีดอยู่ได้นานไหม ? ฉีดไซโตแคร์ใต้ตา ดีไหม เทียบกับฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แบบไหนดีกว่ากัน ? ราคาต่อ CC เท่าไร่ ? คุ้มค่าหรือไม่ คนไข้สามารถศึกษาบทความนี้ก่อนตัดสินใจฉีด Cytocare ใต้ตาได้ครับ

สารบัญ Cytocare ใต้ตา

1. Cytocare ใต้ตา คืออะไร ?
2. Cytocare มีกี่รุ่น ต่างกันอย่างไร ?
   • Cytocare 532
   • Cytocare 516
   • Cytocare 502
3. Cytocare ใต้ตา ช่วยแก้ปัญหาอะไร ?
4. Cytocare ใต้ตา ดีไหม ?
5. Cytocare ใต้ตา อันตรายไหม  ?
6. Cytocare ใต้ตา เหมาะกับใคร ?
7. Cytocare ใต้ตา ไม่เหมาะกับใคร ?
8. Cytocare ใต้ตา กับฟิลเลอร์ใต้ตา แบบไหนดีกว่ากัน ?
9. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามาแล้วสามารถฉีด Cytocare ใต้ตา ได้ไหม ?
10. ฉีด Cytocare ใต้ตา เจ็บไหม ?
11. หลังฉีด Cytocare ใต้ตา กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานกี่เดือน ?
12. Cytocare 1 ขวด มีกี่ CC ? 
13. ฉีด Cytocare ใต้ตาที่ไหนดี ?
14. Cytocare ใต้ตา ราคาเท่าไหร่ ? 
15. ข้อปฏิบัติก่อนฉีด Cytocare ใต้ตา
16. ขั้นตอนการทำ Cytocare ใต้ตา
17. ข้อปฏิบัติหลังฉีด Cytocare ใต้ตา
18. ผลข้างเคียงหลังฉีด Cytocare ใต้ตา

Cytocare ใต้ตา คืออะไร ?

Cytocare ใต้ตา คือการนำตัวยาที่มี Hyaluronic acid แบบโมเลกุลเดี่ยว (Non Cross-Linked) และ Rejuvenating Complex เป็นส่วนประกอบหลัก มาฉีดบริเวณใต้ตาเพื่อแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ เบ้าตาลึก คืนความสดใสให้ใต้ตา หลังฉีดตัวยาจะเข้าไปบำรุงผิวรอบดวงตาและซ่อมแซมผิวที่เสื่อมสภาพของผิวให้กลับมาแข็งแรง ทำให้การไหลเวียนของเลือดบริเวณรอบดวงตาทำงานได้ดีขึ้น ใต้ตาจึงคล้ำน้อยลง ดูสดใสขึ้น 

นอกจากนี้ไซโตแคร์ยังนิยมนำมาฉีดปรับสภาพผิวทั่วหน้า เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วยเร่งผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ และกระตุ้นกระบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่ให้ดูกระจ่างใส แข็งแรงขึ้น แก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ และลดริ้วรอยแห่งวัยครับ

Cytocare มีกี่รุ่น ต่างกันอย่างไร ?

Cytocare ที่ใช้สำหรับฉีดบำรุงผิวหน้าจะมีด้วยกัน 3 สูตรครับ ได้แก่ Cytocare 532, Cytocare 516 และ Cytocare 502 แต่ละสูตรจะมีความเข้มข้นของ HA ที่ต่างกัน เพื่อให้เหมาะสำหรับการแก้ไขปัญหาในทุกสภาพผิว

1. Cytocare 532

Cytocare 532 เป็นสูตรที่มีความเข้มข้นของ HA มากที่สุด ประกอบด้วย Hyaluronic acid แบบโมเลกุลเดี่ยว (Non Cross-Linked) และ Rejuvenating Complex CT50 ที่มีความเข้มข้น 32 mg/ml. เป็นสูตรที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในไทยครับ 

Cytocare 532 นิยมนำมาฉีดใต้ตา เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวค่อนข้างมาก หรือคนที่มีอายุ ต้องการปรับสภาพผิวให้มีความชุ่มชื้น เติมเต็มผิวใต้ตาให้เรียบเนียน ดูตื้นขึ้น แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ เบ้าตาลึก ลดริ้วรอยใต้ตาเล็ก ๆ รวมถึงคนที่มีหลุมสิวที่ไม่ได้ลึกมาก 

2. Cytocare 516

Cytocare 516 เป็นสูตรที่มีความเข้มข้นของ HA ระดับปานกลาง ประกอบด้วย  Hyaluronic acid แบบโมเลกุลเดี่ยว (Non Cross-Linked) และ Rejuvenating Complex CT50 ความเข้มข้น 16 mg/ml. 

Cytocare 516 นิยมฉีดปรับสภาพผิวทั่วหน้า เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวเล็กน้อย-ปานกลาง ช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ เติมความชุ่มชื้นให้ผิว เพิ่มความกระจ่างใส ผิวดูเปล่งปลั่งและผิวนุ่มขึ้น 

3. Cytocare 502

Cytocare 502 เป็นสูตรที่มีความเข้มข้นของ HA น้อยที่สุด ประกอบด้วย Hyaluronic acid แบบโมเลกุลเดี่ยว (Non Cross-Linked) และ Rejuvenating Complex CT50 ที่มีความเข้มข้น 2 mg/ml. 

Cytocare 502 นิยมนำมาฉีดเพื่อปรับสภาพผิวทั่วหน้าหรือบริเวณลำคอ เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวไม่มาก ช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ เพิ่มความชุ่มชื้น ผิวดูเรียบเนียน อิ่มฟู กระจ่างใสขึ้น 

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เห็นผลดี ก่อนฉีดไซโตแคร์ใต้ตาหมอแนะนำให้คนไข้เข้ารับคำแนะนำจากแพทย์ครับ เพื่อที่แพทย์จะได้ประเมินปัญหาผิวหน้าและเลือกสูตรไซโตแคร์ที่เหมาะสมสำหรับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

Cytocare ใต้ตา ช่วยแก้ปัญหาอะไร ?

• แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำที่เกิดจากการพักผ่อนน้อย ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง หรือเกิดจากโรคภูมิแพ้ที่มีการไหลเวียนเลือดติดขัดทำให้ขอบตาดำ หน้าดูโทรม ไม่สดใส 
• แก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตาขนาดเล็ก ที่เกิดจากผิวขาดน้ำ ไม่มีความยืดหยุ่น หรือริ้วรอยที่เกิดจากการขยี้ตาเป็นประจำ
• แก้ปัญหาเบ้าตาลึก ตาโหล ที่เกิดจากจำนวนคอลลาเจนในชั้นผิวลดน้อยลง ทำให้ผิวใต้ตาดูหย่อนคล้อย ไม่กระชับ

Cytocare ใต้ตา ดีไหม ?

ฉีด cytocare ใต้ตา เห็นผลดีในคนที่มีปัญหาใต้ตาจากสภาพผิวเสื่อมโทรม ผิวหนังใต้ตามีความแห้งกร้าน ผิวขาดน้ำ ขาดการบำรุง พักผ่อนน้อยครับ หลังฉีด cytocare ใต้ตาจะตื้นขึ้น ดูสดใส สามารถกู้ผิวโทรมได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว เห็นผลไวกว่าการทาครีมบำรุงใต้ตา จึงทำให้ได้รับความนิยม 

แต่ในกรณีที่คนไข้มีปัญหาใต้ตาที่เกิดจากการทรุดตัวของกระดูกหรือชั้นไขมัน การฉีดไซโตแคร์จะไม่สามารถช่วยได้ครับ จะต้องแก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดและเห็นผลมากกว่า

Cytocare ใต้ตา อันตรายไหม  ?

Cytocare เป็นยี่ห้อเมโสหน้าใสที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO 13485 ในยุโรป แต่ปัจจุบันยังไม่ผ่าน อย.ไทยครับ ที่ต้องระวัง คือ Cytocare ใต้ตาปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน ฉีดกับหมอเถื่อนที่รับฉีดตามบ้าน หรือซื้อ Cytocare ทางออนไลน์มาฉีดเอง ในกรณีดังกล่าวหมอไม่แนะนำให้ทำเด็ดขาดครับ เพราะเป็นตัวยาที่ไม่ได้มาตรฐาน หลังฉีดอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ เป็นผื่น ใต้ตาอักเสบ ใต้ตาบวมเป็นก้อนได้ คนไข้สามารถตรวจสอบ Cytocare ของแท้ ได้ที่ revitacare 

Cytocare ใต้ตา เหมาะกับใคร ?

• คนที่มีปัญหาขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำ ต้องการบำรุงผิวใต้ตาให้กลับมาสดใสแบบเร่งด่วน 
• คนที่พักผ่อนน้อย ไม่มีเวลาตัวเอง หรือทาครีมบำรุงใต้ตาแล้วไม่เห็นผล
• คนที่มีผิวใต้ตาแห้ง มีริ้วรอยใต้ตา แต่งหน้าแล้วเครื่องสำอางตกร่อง 

Cytocare ใต้ตา ไม่เหมาะกับใคร ?

• หญิงตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
• คนที่เคยมีประวัติแพ้ และสารที่เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ เช่น Hyaluronic acid, กรดอะมิโนเปปไทด์ Co-Q19 กรดนิวคลิอิก
• คนที่มีภาวะเลือดไหลไม่หยุด ต้องใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน หรือโรคหลอดเลือดผิดปกติ
• คนที่มีผิวหนังอักเสบ หรือมีการติดเชื้อใกล้กับบริเวณที่ฉีด

Cytocare ใต้ตา กับฟิลเลอร์ใต้ตา แบบไหนดีกว่ากัน ?

Cytocare กับฟิลเลอร์ เป็นตัวยาที่มีไฮยาลูรอนิกแอซิดเป็นส่วนประกอบหลักเหมือนกัน แต่จะมีความแตกต่างกันทางกายภาพ และขนาดโมเลกุลของ HA หมอจะสรุปให้เข้าใจง่าย ๆ ดังนี้ครับ

Cytocare ใต้ตา

Cytocare จะเป็น HA แบบโมเลกุลเดี่ยว (Non Cross-Linked) ที่ไม่มีการเชื่อมเกาะกัน เมื่อฉีดแล้วตัวยาจะกระจายตัวใต้ผิวได้ง่าย รวมถึงมีส่วนผวมจากวิตามินอื่น ๆ อย่างกรดอะมิโนเปปไทด์ Co-Q19 กรดนิวคลิอิกที่ช่วยปรับสีผิวให้ดูกระจ่างใส เหมาะสำหรับการฉีดบำรุงผิวใต้ตาให้มีความเรียบเนียน ดูสดใสขึ้น แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำได้ และช่วยปรับสภาพผิวให้มีความชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ดูสุขภาพดี

ฟิลเลอร์ใต้ตา

ฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเต็มที่ผลิตขึ้นเพื่อเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ ใช้ทดแทนส่วนสำคัญของโครงสร้างผิว คอลลาเจนและไฮยาลูรอน ที่ร่างกายจะสูญเสียไปเมื่ออายุมากขึ้น สำหรับฟิลเลอร์ที่นำมาฉีดปรับรูปหน้า หรือฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเป็น HA ล้วน ๆ ไม่มีสารอื่นมาผสมครับ ฟิลเลอร์จึงมีค่าความอุ้มน้ำ ความยืดหยุ่น การกระจายตัว และจำนวนการเชื่อมพันธะที่หนาแน่นกว่า Cytocare 

คุณสมบัติของฟิลเลอร์ คือจะช่วยกักเก็บน้ำและความชุ่มชื้น (Hydration) เติมเต็มหรือเสริมในชั้นผิวหนัง รวมถึงฉีดซัพพอร์ตโครงสร้างกระดูกที่เกิดการทรุดตัว และเพิ่มความยืดหยุ่นใต้ผิวหนัง (Increase Elasticity) เมื่อฉีดฟิลเลอร์เข้าไปบริเวณที่ต้องการแก้ไข ริ้วรอยบริเวณนั้นจะตื้นขึ้น ผิวเต่งตึงขึ้น และจากการวิจัยล่าสุดพบว่าฟิลเลอร์มีคุณสมบัติที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ทำหน้าที่เหมือนเกราะป้องกันอนุมูลอิสระที่เราไม่สามารถควบคุมได้ เช่น มลภาวะ ช่วยชะลอริ้วรอยในอนาคตได้ การฉีดฟิลเลอร์จึงสัมพันธ์กับการแก้ปัญหาริ้วรอยต่าง ๆ อย่างได้ผลครับ

สรุปฉีด Cytocare ใต้ตาดีไหม ? ในแง่ของผลลัพธ์ ฟิลเลอร์จะมีประสิทธิภาพดีกว่า Cytocare ถึง 10 เท่าครับ เช่น เห็นผลไวกว่า อยู่ได้นานกว่า (อยู่ได้ 6 – 24 เดือน) มีรายงานวิจัยทางการแพทย์สนับสนุนมากกว่า และได้รับความนิยมมากกว่า

Cytocare ใต้ตากับฟิลเลอร์ใต้ตา แบบไหนดีกว่ากัน ? หากคนไข้มีปัญหาใต้ตาเล็กน้อย ต้องการปรับสภาพผิวให้มีความชุ่มชื้นขึ้น สามารถฉีด cytocare ใต้ตาได้ครับ เหมือนเป็นการนำสกินแคร์มาฉีดเข้าสู่ชั้นผิวแทนการทา แต่ในคนที่ต้องการแก้ไขปัญหาใต้ตาที่เห็นผลลัพธ์ชัดเจน ตรงจุด และอยู่ได้นาน มีปัญหาใต้ตาจากโครงสร้างกระดูกทรุดตัว หมอแนะนำฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพราะจะคุ้มค่ากว่าครับ  

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามาแล้วสามารถฉีด Cytocare ใต้ตา ได้ไหม ?

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามาแล้วสามารถฉีด Cytocare ใต้ตาได้ครับ แต่ควรเว้นระยะห่างประมาณ 1-2 เดือน เพื่อรอให้ฟิลเลอร์เรียบเนียนไปกับผิว แต่คนไข้ส่วนใหญ่รู้สึกพึงพอใจในผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาตั้งแต่ครั้งแรกอยู่แล้ว เพราะเห็นผลที่ชัดเจน และอยู่ได้นานถึง 6-24 เดือน เลยรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องฉีด cytocare ใต้ตาเพิ่มเติม แต่หากคนไข้สนใจฉีดไซโตแคร์ใต้ตา แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวในเบื้องต้นก่อนครับ

ฉีด Cytocare ใต้ตา เจ็บไหม ?

ฉีด Cytocare ใต้ตาไม่เจ็บครับ ก่อนฉีดจะมีการแปะยาชา และระหว่างฉีดจะมีการประคบน้ำแข็งเพื่อบรรเทาความเจ็บ ดังนั้นไม่ต้องกังวลครับ 

หลังฉีด Cytocare ใต้ตา กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานกี่เดือน ?

หลังฉีด Cytocare ใต้ตาจะเริ่มเห็นผลประมาณ 3 วันหลังฉีด และเห็นผลเต็มที่ประมาณ 7-14 วัน เห็นผลลัพธ์นาน 1-2 เดือน หากต้องการเห็นผลที่ดีขึ้น แนะนำให้ฉีดสัปดาห์ละครั้ง ในช่วง 1 เดือนแรก และหลังจากนั้นสามารถฉีดซ้ำทุก ๆ 2-3 สัปดาห์เพื่อคงสภาพผิว

Cytocare 1 ขวด มีกี่ CC ? 

Cytocare 1 ขวด มี 5 CC ครับ คนที่ต้องการฉีด cytocare ใต้ตา หรือฉีดปรับสภาพผิวทั่วหน้า ใช้ Cytocare เพียง 5 CC ก็เพียงต่อการแก้ปัญหาผิวหน้าครับ 

ฉีด Cytocare ใต้ตาที่ไหนดี ?

• คลินิกได้มาตรฐาน  มีใบอนุญาตประกอบการจากกระทรวงสาธารณสุข ติดแบบแสดงรูปถ่ายและรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพในคลินิก สะอาด ปลอดภัย
• แพทย์มีประสบการณ์ จะสามารถประเมินปัญหาใบหน้าได้ตรงจุด ฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้องเพื่อลดการบวมช้ำ ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
• ใช้ cytocare แท้ มีคุณภาพ ก่อนฉีดควรให้แพทย์แกะกล่องให้ดูต่อหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าเป็น cytocare ของแท้ครับ
• มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ควรตรวจสอบรีวิว พิจารณาผลการรักษาที่ผ่านมาของคลินิกนั้น ๆ จากแหล่งที่เป็นกลางเชื่อถือได้ ควรดูรีวิวผลลัพธ์ในรูปแบบคลิปวิดีโอ เพื่อให้เห็นการรักษาที่เป็นจริงโดยไม่ใช้รูปถ่ายสวย ๆ ที่อาจถูกปรับแต่งได้ 

Cytocare ใต้ตา ราคาเท่าไหร่ ? 

Cytocare ใต้ตา ราคาเริ่มต้นที่ 2,500.-/ครั้ง/ขวด ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละคลินิกครับ

ข้อปฏิบัติก่อนฉีด Cytocare ใต้ตา

• ก่อนฉีด Cytocare ใต้ตา คนไข้ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ก่อน เพื่อวิเคราะห์ปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข และแจ้งประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว ให้แพทย์ทราบ 
• ควรงดยา แอสไพริน, NSAIDs งดวิตามิน ที่ส่งผลต่อการไหลเวียนเลือด
• งดยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว รวมถึง งดการแว็กขนบริเวณที่ฉีด
• งดแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง สูบบุหรี่ หรือกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด

ขั้นตอนการทำ Cytocare ใต้ตา

• สามารถแต่งหน้ามาได้ แต่จะมีการทำความสะอาดบริเวณใต้ตาในจุดที่จะฉีด
• พนักงานจะแปะยาชา และรอยาชาออกฤทธิ์ประมาณ 30-45 นาที
• หมอทำการฉีด Cytocare ใต้ตา โดยจะฉีดในผิวชั้นตื้นบริเวณใต้ตาทั้ง 2 ข้าง

ข้อปฏิบัติหลังฉีด Cytocare ใต้ตา

• หลังฉีด Cytocare ใต้ตาไม่ควรกด นวดผิวบริเวณรอยเข็มในช่วง 1-2 คืนแรก
• งดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 24 ชั่วโมง เพื่อเลี่ยงการอักเสบ
• ดื่มน้ำอย่างน้อย2-3 ลิตร/วัน เพื่อเติมความชุ่มชื่นให้ผิว
• เลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ควรทาครีมกันแดดที่มี SPF 50 ขึ้นไป เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวโดนทำร้ายจากแสงแดดและมลภาวะ
• เลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ รวมถึงอาหารที่มีไขมันสูง ของมัน ของทอด ของหวาน เพื่อลดการบวมช้ำจากรอยเข็ม
• หากมีอาการปวด สามารถทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้ 

ผลข้างเคียงหลังฉีด Cytocare ใต้ตา

ปัญหาที่อาจเกิดหลังฉีด Cytocare ใต้ตา อาจมีอาการบวมหรือรอยแดงจากเข็ม ซึ่งจะหายได้เองใน 3 วัน (หากหลังจาก 3 วันไปแล้ว มีอาการบวมมากขึ้นให้ติดต่อกลับมาที่คลินิกเพื่อรับยากินเพิ่มครับ)

สรุป

cytocare ใต้ตา เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่สามารถฟื้นฟูผิวรอบดวงตาให้ดูสดใสขึ้น แก้ปัญหาขอบตาดำ ลดริ้วรอยใต้ตาได้ รวมถึงนำมาฉีดปรับสภาพผิวให้ชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ดูสุขภาพดีขึ้นได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง มีผิวหน้าโทรม ขี้เกียจทาครีม หรือทาครีมบำรุงรอบดวงตาแล้วไม่เห็นผล 

แต่ทั้งนี้ cytocare ใต้ตา เป็นยี่ห้อเมโสหน้าใสที่ยังไม่ผ่าน อย.ไทย ดังนั้นก่อนฉีดหมอแนะนำให้คนไข้ตรวจสอบก่อนครับว่าคลินิกนั้นนำเข้าตัวยามาอย่างถูกต้องหรือไม่ ? เป็นของแท้หรือของปลอม เพราะหากเสี่ยงฉีดไปโดยไม่มีการตรวจสอบ ผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่คุ้มค่า เสี่ยงเกิดผลข้างเคียงได้ครับ

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ฉีดฟิลเลอร์ช่วง COVID 

ปัจจุบัน COVID ในไทย กลายเป็นโรคประจำถิ่นเหมือนกับไข้หวัดใหญ่ แต่ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ในขณะนั้นและยังไม่มีวิธีการรักษา การฉีดวัคซีนถือเป็นวิธีการป้องกันที่ดีที่สุด แต่ด้วยอาการข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนที่แตกต่างกัน รับวัคซีน COVID มาแล้ว ฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม ? แพ้วัคซีน COVID ฉีดฟิลเลอร์ได้หรือไม่ ?

ฉีดฟิลเลอร์ช่วง COVID ควรต้องรู้อะไรก่อนบ้าง ? ใครที่กำลังวางแผนฉีดฟิลเลอร์ช่วงโควิด จำเป็นต้องรู้ข้อมูลเหล่านี้ก่อนครับ เพื่อจะได้มั่นใจในผลลัพธ์และความปลอดภัย ไม่เกิดผลข้างเคียงหลังฉีด filler

สารบัญ ฉีดวัคซีนช่วง COVID 

1. ฉีดฟิลเลอร์ช่วง COVID ควรต้องรู้อะไรก่อนบ้าง ?
2. วิธีการเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ช่วง COVID
3. ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์ช่วง COVID กับ V Square Clinic
4. รับวัคซีน COVID มาแล้วฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม ?
5. ฉีดฟิลเลอร์มาแล้วรับวัคซีน COVID ได้ไหม ?
6. แพ้ฟิลเลอร์มาแล้วรับวัคซีน COVID ได้ไหม ? 
7. แพ้วัคซีน COVID มาแล้วฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม ? 
8. เป็น COVID มาแล้วฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม ? 

ฉีดฟิลเลอร์ช่วง COVID ควรต้องรู้อะไรก่อนบ้าง ?

ฉีดฟิลเลอร์ช่วง COVID สำหรับคนที่ถึงกำหนดเวลาที่จะต้องกลับมาฉีดฟิลเลอร์เพื่อคงผลลัพธ์ไว้ หรือคนที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรก การฉีด filler ปรับรูปหน้า เติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก มีหลายเรื่องที่ควรรู้ก่อน เช่น   

• ผลลัพธ์และความปลอดภัย ปัจจุบันยังไม่มีข้อห้ามฉีดฟิลเลอร์ก่อนหรือหลังฉีดวัคซีนโควิด ดังนั้นสามารถฉีดได้ครับ แต่หมอจะมีการประเมินระยะเวลาที่เหมาะสม เช่น ถ้าฉีดฟิลเลอร์ก่อนฉีดวัคซีน COVID จะต้องมีระยะเวลาดูอาการหลังฉีด filler กี่วัน ? เช่นเดียวกับฉีดวัคซีน COVID ก่อนฉีดฟิลเลอร์ เพราะบางเคสอาจมีอาการแพ้วัคซีนหลังฉีด
• คลินิกฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะฉีดฟิลเลอร์ช่วง COVID หรือช่วงไหน ก็ต้องให้ความสำคัญกับการเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ นอกจากจะเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน เปิดให้บริการถูกต้องแล้ว ยังต้องให้ความสำคัญกับเรื่องของความสะอาด ปลอดเชื้อ เพื่อป้องกันเชื้อโควิด รวมถึงเชื้อโรคอื่น ๆ ด้วยครับ 
• ประสบการณ์แพทย์ ใคร ๆ ก็อยากสวย ดูดี ดูเด็กในทุกสถานการณ์ การเลือกหมอนอกจากจะต้องเป็นหมอที่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมจากแพทยสภา ตรวจสอบว่าเป็นหมอจริง ๆ แล้ว ยังต้องเป็นหมอฝีมือดี มีประสบการณ์สูงด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ประเมินปัญหาและแก้ไขได้ตรงจุด  

• ฟิลเลอร์แท้ ฟิลเลอร์ปลอม นอกจากฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี ? มีกี่รุ่น ? สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับฟิลเลอร์คือต้องแยกให้ออกครับว่าอันไหนฟิลเลอร์แท้ ฟิลเลอร์ปลอม จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ หลงเชื่อหรือถูกหลอกได้ง่าย ๆ  
• โปรโมชั่นฉีดฟิลเลอร์ช่วง COVID ก่อนหน้านี้แต่ละคลินิกมักจะมีโปรโมชั่นพิเศษออกมาตามสถานการณ์ในเวลานั้น ๆ เช่น โปรโมชั่นฉีดฟิลเลอร์ช่วง COVID แต่ใช่ว่าหมดโควิดแล้วจะหมดโปร แต่ละคลินิกยังมีโปรโมชั่นน่าสนใจ ให้คนไข้สามารถเลือกได้ตรงตามงบประมาณ เปรียบเทียบราคา เพื่อความคุ้มค่า คุ้มราคาครับ 

วิธีการเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ช่วง COVID

ฉีดฟิลเลอร์ช่วง COVID หรือช่วงปกติ ขั้นตอนการเตรียมตัวเองให้พร้อมมีความสำคัญครับ สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ดังนี้  

1 อาทิตย์ก่อนทำ

• หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง ไม่เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงต่อการรับเชื้อ สถานที่แออัดที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก
• งดยา แอสไพริน, NSAIDs เช่น ibuprofen, diclofenac, ponstan 
• ควรงดวิตามิน St. John’s Wort, ginkgo biloba, primrose oil, garlic, ginseng, Vitamin E 
• งดยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว เช่น Tretinoin (Retin-A), Retinols, Retinoids, Glycolic Acid, หรือครีมในกลุ่ม Anti-Aging ทุกชนิด 3 วัน ก่อนฉีด 
• งดแว็กผิว ผลัดเซลล์ผิว การดึงขนหรือโกนขนบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์ 3 วัน ก่อนฉีด  
• งดคอร์สเลเซอร์และนวดหน้า 3 วัน ก่อนฉีด 
• หากมีโรคประจำตัว หรือยาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง

1-2 วันก่อนทำ

• นัดหมายแพทย์ล่วงหน้า ก่อนฉีดฟิลเลอร์ช่วง COVID 
• แจ้งแพทย์ล่วงหน้าหากได้รับวัคซีน COVID มาแล้ว หรือมีกำหนดเข้ารับวัคซีน COVID

24 ชม.ก่อนทำ

• งดดื่มแอลกอฮอล์ 
• งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายชนิด cardio

มาถึงคลินิก

• สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่ออยู่ภายในคลินิก 
• สามารถแต่งหน้ามาได้ ทางคลินิกจะลบเครื่องสำอางในจุดที่จำเป็นออกให้ 
• คลินิกมีจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ   

ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์ช่วง COVID กับ V Square Clinic

ฉีดฟิลเลอร์ช่วง COVID ที่ V Square Clinic นอกจากคลินิกจะได้มาตรฐาน เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานด้านต่าง ๆ ทั้งอาคารสถานที่ เครื่องมือและเวชภัณฑ์ บุคลากรและการบริการแล้ว ยังให้ความสำคัญกับมาตรการความปลอดภัยจาก COVID ดังนี้ 

• แพทย์และพนักงานทุกคนได้รับการฉีดวัคซีน COVID  
• สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในคลินิก 
• ทำความสะอาดมือด้วยแอลกอฮอล์หรือเจลล้างมือก่อนทำหัตถการ
• สามารถปรึกษาออนไลน์ นัดหมายจองคิวล่วงหน้า เพื่ออำนวยความสะดวกและลดความแออัด 
• คลินิกติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ ระบบ Plasmacluster Ion Shower สามารถฆ่าเชื้อโรคในอากาศและ COVID
• ทำความสะอาดอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้ ด้วยน้ำยาชนิดพิเศษตามมาตรฐานโรงพยาบาล
• อุปกรณ์การฉีด เช่น เข็ม หลอดฉีดยา ใช้ครั้งเดียวทิ้งเท่านั้น
• น้ำดื่มที่เตรียมไว้รับรอง เป็นแก้ว/ขวดสำเร็จรูป เพื่อป้องกันการใช้ซ้ำ

รับวัคซีน COVID มาแล้วฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม ?

ผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีน COVID แล้วสามารถฉีดฟิลเลอร์ รวมถึงหัตถการเพื่อความงามอื่น ๆ ได้ตามปกติ เพื่อความมั่นใจในผลลัพธ์และความปลอดภัย สามารถสังเกตอาการของตนเองก่อนได้ในเบื้องต้นครับ โดยแบ่งออกเป็น 4 ช่วง คือ 

• 30 นาที หลังฉีดวัคซีน COVID
• 24 ชั่วโมง หลังฉีดวัคซีน COVID
• 7 วัน หลังฉีดวัคซีน COVID
• 30 วัน หลังฉีดวัคซีน COVID

เนื่องจากวัคซีนเป็นสารที่มีความปลอดภัยสูง ผลข้างเคียงมีน้อย ส่วนใหญ่อาการจะไม่รุนแรงและหายได้เองใน 1-2 วัน เช่น ปวดบริเวณที่ฉีด มีไข้ มีผื่นขึ้น ฯลฯ แต่ถ้าหากมีอาการแพ้วัคซีน ส่วนใหญ่จะแสดงอาการตั้งแต่ 5-10 นาทีแรกหลังได้รับวัคซีน เป็นเหตุผลให้คนไข้ต้องอยู่สังเกตอาการหลังฉีดอย่างน้อย 30 นาที 

ผู้ที่รับวัคซีน COVID มาแล้ว จึงควรเว้นระยะห่างก่อน-หลังจากการฉีดวัคซีนแต่ละเข็ม 2 วันขึ้นไป แนะนำให้นัดคิวล่วงหน้า พร้อมแจ้งข้อมูลวันที่ฉีดวัคซีนโควิดกับทางสาขาครับ

ฉีดฟิลเลอร์มาแล้วรับวัคซีน COVID ได้ไหม ?

ฉีดฟิลเลอร์มาแล้วก็สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดในภายหลังได้เช่นกัน โดยระยะเวลาที่เหมาะสม ประมาณ 2-3 วันหลังฉีดฟิลเลอร์ เนื่องจากหลังฉีดฟิลเลอร์เสร็จทันที อาจจะมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคันได้ในจุดที่ทำเป็นปกติ โดยอาการต่าง ๆ จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วันครับ    

แพ้ฟิลเลอร์มาแล้วรับวัคซีน COVID ได้ไหม ? 

อาการแพ้ฟิลเลอร์ มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมากครับ หากใช้ฟิลเลอร์ HA ซึ่งเป็นสารเติมเต็มไฮยาลูรอนิก แอซิด (HA) ที่มีความปลอดภัยสูง ก่อนฉีดจึงไม่จำเป็นต้องทำการทดสอบอาการแพ้ แต่ถ้าเคยมีประวัติแพ้ฟิลเลอร์ เช่น 

• เป็นผื่นแดง คัน เป็นเวลานานกว่าปกติ หากมีอาการเหล่านี้สามารถรับประทานยาแก้แพ้เพื่อบรรเทาอาการ ตามคำแนะนำของแพทย์
• เป็นก้อน นูน แดงอักเสบ ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังการฉีดฟิลเลอร์ผ่านพ้นไปแล้วเป็นเวลาหลาย ๆ เดือนหรือนานเป็นปี ขึ้นกับภูมิคุ้มกันของผู้ที่รับการฉีด และอายุใช้งานของฟิลเลอร์แต่ละชนิด
• เป็นผื่น ลมพิษแบบรุนแรง (Angioedema) จะมีอาการบวมและมีผื่นคันใต้ชั้นผิวหนัง รู้สึกแสบร้อนและเจ็บบริเวณที่บวม หากมีอาการต้องรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาทันที

ในเบื้องต้นหากเคยมีประวัติแพ้ฟิลเลอร์ มีอาการแพ้ฟิลเลอร์ มีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำ  ก่อนฉีดวัคซีน COVID ควรเเจ้งประวัติกับเเพทย์ก่อนครับ เพื่อดูระยะเวลาที่เหมาะสม หรือมีความจำเป็นต้องใช้อิพิเนฟริน (Epinephrine) หรืออะดรีนาลีน (Adrenaline) / อีพิเพ็น (Epipen) เป็นยาที่ใช้รักษาภาวะเเพ้อย่างรุนเเรงหรือไม่ โดยแพทย์จะประเมินเป็นเคสบายเคสครับ

แพ้วัคซีน COVID มาแล้วฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม ? 

มีข้อมูลงานวิจัยเกี่ยวกับอาการแพ้วัคซีน เกิดผื่นผิวหนังหลังฉีดวัคซีน COVID โดยเฉพาะวัคซีนแบบ mRNA อย่าง Pfizer และ Moderna ซึ่งได้รายงานไว้ในวารสาร American Academy of Dermatology พบได้ในคนส่วนน้อยเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น ผื่นแดงที่ปรากฏบนแขนข้างที่ฉีด (COVID arm) ใบหน้าบวม หรือผื่นอื่น ๆ ที่ไม่รุนแรง ส่วนใหญ่หายได้เองและเป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้น 

เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัย แนะนำให้รอหลังฉีดวัคซีน COVID ประมาณ 2 สัปดาห์ หรือปรึกษาหมอเป็นรายเคสครับ เนื่องจากอาการแพ้วัคซีน COVID ของแต่ละคนมีอาการแสดงและระดับความรุนแรงต่างกัน หมอจะประเมินเป็นรายเคสอีกทีครับ  

เป็น COVID มาแล้วฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม ? 

ถ้าเป็น COVID มาแล้ว แต่หายแล้ว หรือตรวจไม่พบเชื้อแล้ว สามารถฉีดฟิลเลอร์ได้ครับ ทั้งนี้ ต้องไม่อยู่ในกลุ่มที่มีข้อจำกัดในการฉีด filler ซึ่งต้องหลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์ ได้แก่

• อักเสบติดเชื้อที่ผิวหนัง บริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์  
• มีประวัติแพ้ฟิลเลอร์ หรือแพ้สารไฮยาลูรอนิก แอซิด 
• มีประวัติแพ้ยาชา
• สตรีมีครรภ์ หรืออยู่ในระหว่างให้นมบุตร
• มีปัญหาเลือดออกแล้วหยุดยาก มีแผลฟกช้ำง่าย 
• มีโรคประจำตัว หรือรับประทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน (ASA), ยาแก้อักเสบปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ (NSAIDS), ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด (Warfarin), วิตามินอี (Vitamin E), สารสกัดจากใบแปะก๊วย (Gingko biloba) 
• เป็นโรคผิวหนัง เช่น เริม หรืองูสวัด   

ส่วนในเคสที่สงสัยว่ามีภาวะลองโควิด (Long Covid) มีอาการเหล่านี้ เช่น 

• ไอ เจ็บแน่นหน้าอก
• อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
• ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ
• ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ
• ผมร่วง
• จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส
• สมองล้า ความจำแย่ลง สมาธิสั้น
• นอนไม่หลับ
• หายใจลำบาก หายใจผิดปกติ
• ภาวะซึมเศร้า
• เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

อาจมีอาการใดอาการหนึ่ง หรือมีอาการได้ยาวนานกว่า 4 สัปดาห์ แม้จะหายจากการโควิดแล้วก็ตาม ส่งผลต่อระบบหายใจ ระบบประสาท ระบบทางเดินอาหาร ระบบหัวใจและหลอดเลือด โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีภาวะอ้วน ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด โรคเบาหวาน ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันต่ำ ดังนั้น ก่อนฉีดฟิลเลอร์จึงควรแจ้งอาการให้แพทย์ทราบก่อนครับ  

สรุป

การฉีดฟิลเลอร์ช่วง COVID สามารถทำได้ครับ หากมีการเตรียมตัวที่ถูกต้อง ทั้งการเตรียมความพร้อมในเรื่องของข้อมูล เพื่อให้มั่นใจในผลลัพธ์และความปลอดภัย รวมทั้งการเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกาย หากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม V Square Clinic มีบริการปรึกษาออนไลน์ สอบถามข้อสงสัยเพิ่มเติมได้ ไม่เสียค่าใช้จ่าย หมอตอบเองครับ  

อ้างอิง : 

• https://www.fda.gov/emergency-preparedness-and-response/coronavirus-disease-2019-covid-19/pfizer-biontech-covid-19-vaccines 
• https://www.fda.gov/emergency-preparedness-and-response/coronavirus-disease-2019-covid-19/moderna-covid-19-vaccines 
• https://www.aad.org/public/diseases/coronavirus/covid-arm

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ฉีดฟิลเลอร์จมูก ราคา

ฉีดฟิลเลอร์จมูกราคาเท่าไหร่ ? ใครที่สนฉีดฟิลเลอร์จมูก เพื่อปรับทรงจมูกโด่ง พุ่ง การฉีดฟิลเลอร์เสริมจมูกราคาไม่แพงครับ เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้ทรงจมูกสวยงาม ดูมีมิติมากขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น เพราะไม่ใช่การผ่าตัด  และเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ 

เพื่อให้สามารถเลือกฉีด Filler จมูกได้อย่างปลอดภัย เลือกยี่ห้อเหมาะสม ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ  การเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือได้มาตรฐาน หมอเก่ง ใช้ฟิลเลอร์ของแท้ ถือเป็นหัวใจสำคัญในการตัดสินใจ  ในบทความนี้หมอมีข้อมูลเหล่านี้มาแนะนำ พร้อมราคาโปรโมชั่นที่คุ้มค่า และตัวอย่างรีวิวก่อนและหลังทำครับ 

สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์จมูกราคา 

1. การฉีดฟิลเลอร์จมูกราคาคุ้มมั้ยถ้าเทียบกับผ่าตัด
2. ฟิลเลอร์จมูก ใช้กี่ CC ?
3. ฉีดฟิลเลอร์จมูกแต่ละยี่ห้อ ราคาและผลลัพธ์ต่างกันอย่างไร ?
4. ฉีดฟิลเลอร์จมูกกับ V Square Clinic ดีอย่างไร ?
5. รีวิว ฉีดฟิลเลอร์จมูก

การฉีดฟิลเลอร์จมูกราคาคุ้มมั้ยถ้าเทียบกับผ่าตัด

การฉีดฟิลเลอร์จมูก เป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยปรับทรงจมูก ให้สวยงาม เพิ่มความคมชัดของสันจมูก และยกปลายจมูกให้สูงขึ้นได้ นอกจากนี้ในเคสที่มีจมูกเบี้ยวผิดรูป สามารถฉีดฟิลเลอร์จมูกเติมเต็มเนื้อเยื่อบริเวณจมูกที่ขาดหายไปให้ได้สัดส่วนขึ้นได้ครับ

หากเทียบการฉีดฟิลเลอร์จมูกกับการผ่าตัดเสริมจมูก ทั้ง 2 หัตถการมีข้อดี ข้อเสียต่างกันครับ ซึ่งขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของคนไข้ร่วมด้วย เช่น 

• คนไข้ ไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากเจ็บตัว ไม่อยากมีแผล ไม่ต้องการเสียเวลาพักฟื้น ไม่ต้องการมีสิ่งแปลกปลอม เช่น ซิลิโคน อยู่ในร่างกาย หรือต้องยุ่งยากกับการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด มีฐานจมูก มีสันจมูก หรือปลายจมูกอยู่บ้างแล้ว การฉีดฟิลเลอร์จมูกถือว่าเป็นหัตถการที่คุ้มค่า และตอบโจทย์ความต้องการของคนไข้ได้ครับ 
• คนไข้ที่ไม่มีฐานจมูกเลย อยากปรับทรงจมูกให้โด่ง พุ่งมาก ๆ ไม่กลัวการผ่าตัด มีความพร้อมในการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด ที่อาจจะต้องระมัดระวังแผลผ่าตัด เสียเวลาพักฟื้น มีเวลาพักหน้า ลางานได้ ต้องการความถาวร การผ่าตัดเสริมจมูกด้วยซิลิโคนก็อาจจะตอบโจทย์มากกว่าครับ  

ฟิลเลอร์จมูก ใช้กี่ CC ?

อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า การฉีดฟิลเลอร์จมูกราคาไม่แพง เพราะใช้ปริมาณฟิลเลอร์น้อย โดยทั่วไปใช้ฟิลเลอร์ไม่เกิน 1 CC ครับ ในเคสที่หมอประเมินว่าควรใช้มากกว่า 1 CC แสดงว่าเคสนั้นไม่มีฐานจมูก ต่อให้ฉีดฟิลเลอร์จมูก เลือกยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง ไม่ฟู และสามารถคงรูปได้ดีที่สุด ฟิลเลอร์ก็ไม่สามารถตั้งเป็นสันคมได้สูงเท่ากับแท่งซิลิโคนครับ   

ฉีดฟิลเลอร์จมูกแต่ละยี่ห้อ ราคาและผลลัพธ์ต่างกันอย่างไร ? 

การฉีดฟิลเลอร์จมูกเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ปรับทรงสวยจะต้องใช้ Filler ที่มีความคงตัวสูง ไม่ฟูและสามารถคงรูปได้ดี ซึ่งยี่ห้อที่หมอแนะนำคือ ยี่ห้อ Restylane รุ่น Perlane Lyft จากประเทศสวีเดน เป็นตัวท็อปที่ได้รับความนิยมจากแพทย์ทั่วโลก ผ่านการรับรองว่าปลอดภัยจาก US FDA และ Thai FDA เรียบร้อยแล้ว

• Restylane รุ่น  Perlane Lyft : เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่มีส่วนผสมของยาชา ขณะทำการฉีดคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บ สามารถฉีดจมูก ปรับทรงได้อย่างเป็นธรรมชาติ เพราะมีความคงตัวสูง เนื้อฟิลเลอร์ไม่ฟูมาก สามารถคงรูปได้ดีที่สุด ย่อยสลายได้เองและสามารถฉีดใหม่ได้เรื่อย ๆ หลังฉีดสามารถคงผลลัพธ์ได้นาน 12 เดือน ราคาอยู่ที่ 14,000.-/ 1 CC

ฉีดฟิลเลอร์จมูกกับ V Square Clinic ดีอย่างไร ?

ที่  V Square Clinic ทีมแพทย์ทุกคนมีประสบการณ์ในการปรับรูปหน้า และมีความชำนาญในการฉีดฟิลเลอร์ ครับ และก่อนทำหัตถการทุกครั้ง จะมีการประเมินปัญหา พูดคุยกับคนไข้ เพื่อวางแผนการรักษาร่วมกัน เพื่อแก้ปัญหาได้ตรงจุด คุ้มค่าและเหมาะสมกับคนไข้แต่ละเคส  

นอกจากนี้  V Square Clinic  จะเลือกใช้เเฉพาะฟิลเลอร์แท้ แบรนด์ดังที่ได้รับการยอมรับจากแพทย์ทั่วโลกเท่านั้น รวมถึงมีเทคนิคเฉพาะที่ช่วยปรับองศาความโด่งของจมูกให้รับกับใบหน้า ความโด่งของจมูกจะอยู่ที่ประมาณ 30-60 องศา เพื่อให้มองจากด้านข้างก็ยังได้รูป และทำองศาประมาณ 45 องศา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องอาศัยประสบการณ์ของแพทย์ครับ

หลังฉีดฟิลเลอร์จมูกจะมีการดูแลติดตามผลตลอดการรักษา ปัจจุบันมีสาขาใกล้บ้าน ให้เลือกหลายสาขาครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีแพทย์ที่มีประสบการณ์ประจำทุกสาขาครับ

การฉีดฟิลเลอร์จมูก หมอผู้ฉีดต้องมีความชำนาญมาก ๆ มีความรู้ด้านโครงสร้างผิว รู้ตำแหน่งเส้นเลือดสำคัญ เพราะจมูกถือเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดอยู่มาก โดยเฉพาะด้านข้างของสันจมูกจะมีเส้นเลือด Dorsal nasal artery ที่เชื่อมต่อเข้ากับลูกตา หากไม่ชำนาญมากพอ อาจเกิดข้อผิดพลาด ทำให้จมูกเบี้ยว ฉีดฟิลเลอร์ไม่ถูกชั้นผิวอาจจะเกิดผลข้างเคียง เช่น ฟิลเลอร์เกาะรวมกันเป็นก้อน หรือเกิดการอุดตันเส้นเลือดได้ครับ

รีวิว ฉีดฟิลเลอร์จมูก

สรุป

การฉีดฟิลเลอร์จมูก สามารถช่วยเสริมฉีดจมูกโด่ง เป็นทรงขึ้นได้ครับ หากใครกลัวการผ่าตัด อยากปรับทรงให้คม หรือโด่งพุ่งเล็กน้อย ถือเป็นหัตถการที่คุ้มค่า คุ้มราคาครับ โดยการฉีดฟิลเลอร์จมูก ราคาอยู่ที่ 14,000.-/ 1 CC หลังทำสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที แต่ทั้งหมดนี้ต้องทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้นครับ 

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ปัญหาหน้าตอบ แก้มตอบ หน้าโทรม เป็นต้นเหตุหลักที่ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย ซึ่งเป็นหนึ่งปัญหาที่หลายคนพยายามหาทางแก้ไข โดยปัจจุบันการฉีด Filler ได้รับความสนใจมากขึ้นครับ เพราะเห็นผลเร็ว ปลอดภัย และช่วยให้ใบหน้าอิ่มเต็มสดชื่นขึ้นได้ 

การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบดีไหม เหมาะกับใครบ้าง อยู่ได้นานไหม ราคาเท่าไร  เจ็บไหม รวมถึงหลังฉีดแก้มต้องดูแลตัวเองอย่างไร หมอมีข้อมูลเหล่านี้มาแนะนำ พร้อมวิธีเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ถึงเชื่อถือได้ คลินิกได้มาตรฐานดูอย่างไร เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยสูงสุดครับ  

สารบัญ ฟิลเลอร์แก้มตอบคืออะไร 

1. ฟิลเลอร์แก้มตอบคืออะไร ?
2. สาเหตุที่ทำให้แก้มตอบเกิดมาจากอะไรบ้าง ?
3. ปัญหาแก้มตอบ วิธีแก้ต้องทำไงดี ?
4. ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบช่วยอะไรบ้าง ?
5. การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบเหมาะกับใคร ?
6. การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบเทียบกับหัตถการอื่นต่างกันอย่างไร ?
7. การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบเกี่ยวข้องกับโหงวเฮ้งหรือไม่ ?
8. ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบอันตรายไหม ?
9. ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบมีความเสี่ยงอะไรบ้าง ?
10. ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบยี่ห้อไหนดี ใช้กี่ CC
11. ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบที่ไหนดี ?
12. ฟิลเลอร์แก้มตอบ ราคาโปรโมชั่น
13. ก่อนฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ?
14. หลังฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบควรดูแลตัวเองอย่างไร ?
15. ถาม-ตอบ การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ
    • ฟิลเลอร์แก้มตอบอยู่ได้นานไหม ? 
    • ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบเจ็บไหม ?
    • ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบมีอาการบวมไหม กี่วันถึงจะเข้ารูป  
    • ฉีดฟิลเลอร์แก้มแก้มตอบ แก้ปัญหาจากหัตถการอื่นได้ไหม ?
    • ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบแล้วมีผลต่อการยิ้มหรือพฤติกรรมอื่นหรือไม่ ?
16. รีวิวฟิลเลอร์แก้มตอบ

ฟิลเลอร์แก้มตอบคืออะไร ?

การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภท ไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ที่มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากถูกผลิตมาเพื่อเลียนแบบสารที่มีอยู่ร่างกายตามธรรมชาติ มีความคงตัว สามารถใช้ทดแทนโครงสร้างผิว เนื้อแก้มและไขมันที่หายไปให้ดูเต็มขึ้นได้

เมื่อนำมาใช้ฉีดเพิ่มแก้มที่ตอบ ก็จะช่วยให้ใบหน้าเต็มอิ่ม แก้มเต็มขึ้น โดยที่หลังฉีดสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที ไม่มีรอยแผลเป็น และไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นครับ  

สาเหตุที่ทำให้แก้มตอบเกิดมาจากอะไรบ้าง ?

เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาแก้มตอบได้อย่างตรงจุด เห็นผลลัพธ์ชัดเจน คนไข้ควรรู้สาเหตุที่แท้จริงของปัญหาแก้มตอบว่า เกิดจากสาเหตุใด ซึ่งในแต่ละสาเหตุอาจใช้เทคนิคการฉีดที่แตกต่างกัน โดยหมอที่ทำการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ จะต้องรู้และเข้าใจปัญหาที่แท้จริงด้วย ถึงเลือกยี่ห้อ รุ่น ปริมาณ และใช้เทคนิคที่เหมาะสมได้ โดยสาเหตุของปัญหาแก้มตอบ มีดังนี้

• พันธุกรรม
  ปัญหาแก้มตอบที่เกิดจากพันธุกรรม พบอยู่บ่อย ๆ ครับ ในหลายเคสที่เข้ามาปรึกษาก็มาด้วยสาเหตุจากลักษณะโครงหน้าเดิมของคนไข้เองที่กระดูกส่วนกลางบริเวณแก้มยุบตัวลงมากเกินไป จึงทำให้เนื้อแก้มยุบตามลงไปด้วย
  
  อีกหนึ่งลักษณะคือมีโหนกแก้มสูง ก็จะทำให้แก้มดูตอบลงได้เช่นกัน หากคนไข้ต้องการแก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์ หมอก็จะต้องฉีดด้วยเทคนิคการฉีดหนุนที่บริเวณกระดูกร่องแก้ม เพื่อเสริมให้ร่องแก้มที่ลึกดูตื้นขึ้นครับ ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญของหมอ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามเป็นธรรมชาติ 

• อายุมากขึ้น

เมื่ออายุมากขึ้น จะส่งผลให้ผิวสูญเสียคอลลาเจนและไขมัน ที่มีส่วนสำคัญในการช่วยยกพยุงใบหน้าไว้ บริเวณแก้มที่เคยมีเนื้อก็จะซูบตอบลงตามกาลเวลา ในบางคนพบว่า ใบหน้าเป็นแอ่งยุบลงไป สามารถฉีดฟิลเลอร์เข้าไปช่วยพยุง ที่ทดแทนคอลลาเจนและไขมันได้ทำให้หน้าเต็มอิ่มขึ้น   

• น้ำหนักลดลงเร็วเกินไป
  ในผู้ที่พยายามลดน้ำหนักตัวให้ผอมลงเร็ว เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้หน้าตอบได้ เนื่องจากไขมันลดลงทั้งตัวครับ ไม่เว้นแม้แต่ใบหน้า กรณีนี้สามารถเติมฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปหน้าให้สมส่วน เต็มอิ่มขึ้น เพื่อรับกับรูปร่างที่ผอมลง ดูสุภาพดีครับ เพราะถ้าหุ่นดีแล้วแก้มตอบ ก็จะทำให้ดูโทรมไม่สดชื่น สดใส  

•  การถอนฟันหรือจัดฟัน
  เชื่อว่าหลายคน ๆ อาจนึกไม่ถึงว่า การจัดฟันจะทำให้หน้าตอบ หน้าโทรมลงได้ ที่เป็นเช่นนี้เพราะเมื่อฟันถูกจัดให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง เนื้อริมฝีปากจะยุบไปตามตำแหน่งของฟัน ทำให้ส่วนอื่น ๆ ของใบหน้า เช่น โหนกแก้มดูเด่นขึ้น หน้าตอบลงเองครับ 

• โรคบางชนิด 
  สาเหตุของปัญหาแก้มตอบ ที่มีจากโรคและภาวะผิดปกติทางร่างกาย มีหลายโรคด้วยกัน เช่น โรคหนังยืดผิดปกติ (Vascular EDS) ไขมันฝ่อ (Lipotrophy)  วัณโรค (Tuberculosis)  รวมถึงโรคคลั่งผอม Anorexia) 

ปัญหาแก้มตอบ วิธีแก้ต้องทำอย่างไร ?

ปัญหาแก้มตอบ ปัจจุบันสามารถทำได้หลายวิธี โดยมีทั้งพึ่งหัตถการทางการแพทย์ และวิธีรักษาแก้มตอบที่ทำได้ด้วยตัวเอง ดังนี้ 

• แก้ปัญหาแก้มตอบด้วยหัตถการทางการแพทย์  

การแก้ปัญหาแก้มตอบด้วยหัตถการทางแพทย์ มีหลายวิธี ขึ้นอยู่ลักษณะปัญหาและความต้องการของคนไข้ ในการแก้ไข เช่น

• การฉีดฟิลเลอร์
• การฉีดไขมัน 
• การผ่าตัดเสริมซิลิโคน 
• การผ่าตัดลดโหนกแก้ม 

ปัจจุบันการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ถือว่าได้รับความนิยมมากครับ เพราะสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้เร็ว ในผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาแก้มตอบ ควรมาให้หมอประเมินปัญหาเพื่อแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสมให้ในแต่ละบุคคลครับ  

• แก้ปัญหาแก้มตอบด้วยตัวเอง วิธีธรรมชาติ 

ในกรณีที่มีปัญหาแก้มตอบจากรูปร่าง และน้ำหนักตัวที่น้อยกว่าปกติ วิธีเพิ่มแก้มที่ทำได้เองตามธรรมชาติ คือ การดูแลตัวเอง เพิ่มน้ำหนักตัว เพื่อให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง มีน้ำมีนวล เช่น รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมถึงรับประทานอาหารเสริมเพื่อบำรุงร่างกาย ดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมต่อวัน ช่วยฟื้นฟู ผิวพรรณ ลดการทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ทำร้ายเซลล์ผิว 

ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบช่วยอะไรบ้าง ?

การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ เป็นวิธีการปรับรูปหน้าที่ช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดครับ โดยที่คนไข้ไม่ต้องเจ็บตัว เพราะไม่ต้องผ่าตัด จึงไม่มีแผลครับ  

• ช่วยให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ ดูละมุนมากขึ้น  
• ช่วยแก้ปัญหาหน้าโทรม ให้สดชื่นสดใสมากขึ้น 
• ช่วยปรับโหงวเฮ้ง ตามหลักความเชื่อชาวจีน
• ช่วยทำให้ผิวเรียบเนียน แก้มเป็นแอ่งยุบ ตื้นขึ้น

การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบเหมาะกับใคร ?

• เหมาะกับผู้ที่ไม่อยากเจ็บตัว ไม่อยากมีแผล และต้องการเห็นผลลัพธ์เร็ว
• ผู้ที่มีความกังวลเรื่องรูปหน้า เช่น คนที่แก้มไม่เท่ากัน เมื่อมองใบหน้าด้านข้างแล้วเห็นเป็นเส้นลงมาจากใต้โหนกแก้ม
• คนที่มีปัญหาแก้มตอบ แก้มเป็นแอ่งยุบ ใบหน้าดูโทรม ไม่สดใส ดูแก่กว่าวัย 
• ผู้ที่อยากเสริมโหงวเฮ้ง ฉีดแก้มเพื่อเติมเต็มใบหน้า

ทั้งนี้ การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ จะเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาแก้มตอบไม่มากครับ เมื่อเต็มฟิลเลอร์เข้าไปทดแทนบริเวณที่ต้องการในปริมาณที่เหมาะสม ผลลัพธ์ที่ได้จึงจะดูเป็นธรรมชาติ 

การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบเทียบกับหัตถการอื่นต่างกันอย่างไร ?

1.ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ

การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ หรือการฉีดสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid (HA) เข้าไปทดแทนในส่วนของเนื้อ ไขมัน บริเวณแก้มที่ยุบตัวลง ตามที่หมอได้อธิบายไว้ข้างต้น ถือเป็นวิธีการแก้ปัญหาแก้มตอบได้ดีครับ และเป็นวิธีที่หมอแนะนำ เพราะหลังฉีดทันที ร่องแก้มที่ตอบจะตื้นขึ้นอย่างชัดเจน  และยังสามารถแก้ไขปัญหาแก้มตอบทั้งจากพันธุกรรม อายุหรือพฤติกรรมต่าง ๆได้อย่างเห็นผล  

การฉีดแก้มตอบด้วยฟิลเลอร์เป็นวิธีที่เร็ว สะดวก และมีความปลอดภัย หากเข้ารับการฉีดอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ยังทำให้ผิวไม่หย่อนคล้อย ใบหน้าได้สัดส่วน สามารถลดความเด่นในผู้ที่มี โหนกแก้มสูง โหนกแก้มใหญ่ ให้ละมุนหวานขึ้น  ดูสดใสดูเด็ก อย่างเป็นธรรมชาติครับ 

2. ฉีดไขมันแก้มตอบ

ฉีดไขมันแก้มตอบ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ได้รับความสนใจครับ วิธีการคือใช้ไขมันของตัวคนไข้เอง มาฉีดเติมบริเวณแก้มที่ตอบให้เต็มขึ้น โดยขึ้นตอนการรักษา หมอจะทำโดยการดูดไขมันจากบริเวณอื่น ๆ ในร่างกายของตัวคนไข้  เช่น สะโพก ต้นแขนต้นขา นำมาปั่นแยกเป็นของเหลวเพื่อมาเติมแก้มตอบให้ดูตื้นขึ้น ซึ่งกระบวนการนี้ คนไข้จะต้องเจ็บตัว 2 รอบครับ คือขั้นตอนการดูดไขมัน และขั้นตอนการฉีดไขมันกลับเข้าไปที่แก้ม ข้อดีคือลดความเสี่ยงอาการแพ้ เพราะใช้ไขมันของคนไข้เอง 

วิธีการนี้ไม่สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีครับ เพราะบางครั้งฉีดไขมันไปแล้วไม่ติด เนื่องจากร่างกายดึงไขมันไปใช้ ในบางเคสต้องฉีดซ้ำหลายครั้งใช้ระยะเวลาในการเห็นผลประมาณ 3 เดือน ถึงเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน หากประเมินปริมาณไขมันที่นำมาฉีดไม่เหมาะสม ประกอบกับร่างกายมีการดึงไขมันไปใช้ ในบางเคส อาจเกิดปัญหาผิวไม่เรียบ เห็นเป็นคลื่น วิธีการนี้ต้องอาศัยความชำนาญและประสบการณ์ของแพทย์เป็นอย่างมาก  

3. การผ่าตัดศัลยกรรม 

การแก้ปัญหาแก้มตอบ ด้วยการศัลยกรรม มีหลายเทคนิค เช่น การเสริมด้วยซิลิโคน โดยเสริมบริเวณหน้าแก้มที่ตอบ หรือเป็นแอ่ง โดยจะใช่แผ่นซิลิโคนในขนาดที่พอดีรับกับใบหน้า เป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ยาวนาน แต่ในระยะยาวอาจเสี่ยงต่อการเคลื่อนตัวของซิลิโคนได้ 

อีกเทคนิคคือการผ่าตัดลดโหนกแก้มลง ในเคสทีที่มีโหนกแก้มสูง โหนกแก้มใหญ่ จนทำให้หน้าดูตอบ  การผ่าตัดลดโหนกแก้มด้วยการ ตัด เหลา กรอ ก็จะช่วยให้ใบหน้าโดยรวมดูละมุนขึ้นได้ แต่วิธีนี้มีความเสี่ยงสูง ต้องทำศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์และชำนาญเท่านั้น รวมถึงต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นนาน อย่างน้อย 1 เดือนขึ้นไป 

การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบเกี่ยวข้องกับโหงวเฮ้งหรือไม่ ?

 ในทางศาสตร์โหงวเฮ้งของจีน เชื่อว่ารูปลักษณ์ภายนอกของรูปร่างหน้าตามีผลต่อโชคชะตา ทั้งเรื่องของชีวิต การงาน การเงิน และคู่ครอง โดยในทางศาสตร์โหงวเฮ้ง บริเวณแก้ม หรือ “โหนวป๊กเก็ง” เป็นโหงวเฮ้งบริเวณแก้มทั้งหมด 

โดยลักษณะแก้มที่ดี คือ ต้องมีแก้มที่อิ่มเอิบ รับกับแนวกราม แก้มไม่ตอบมาก ไม่มีร่องแก้ม ร่องมุมปากและผิวไม่หย่อนคล้อย จะช่วยเรื่องการมีบริวารดี ซื่อสัตย์ และชีวิตยามชราจะสุขสบาย  ในขณะเดียวกันผู้ที่มีลักษณะแก้มตอบ หน้าตอบ เป็นลักษณะที่ไม่ดี อาภัพทั้งคู่ครอบ  และคนสนับสนุน ดังนั้นหลาย ๆ คนจึงพยายามหาทางแก้ไข เพื่อปรับโหงวเฮ้งให้ดีขึ้น  

ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบอันตรายไหม ?

เมื่อการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ เป็นที่นิยม และคนให้ความสนใจ หลายคนอาจมีความกังวลว่าฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ อันตรายไหม ? โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยฉีดฟิลเลอร์มาก่อน กลัวผลข้างเคียงระยะยาว หรือความไม่เป็นธรรมชาติ แต่จริง ๆ แล้ว คือการฉีดฟิลเลอร์ด้วยฟิลเลอร์แท้ สาร Hyaluronic Acid ปลอดภัยสูง ตัวฟิลเลอร์ผ่านการรับรองจาก อย. ว่ามีความปลอดภัย 100% ครับ

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ปลอดภัย การฉีดฟิลเลอร์นอกจากจะใช้ฟิลเลอร์แท้แล้ว ต้องฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ภายใต้คลินิกได้มาตรฐานเท่านั้นครับ  

ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ มีความเสี่ยงอะไรบ้าง ?

เพื่อความปลอดภัย และมั่นใจว่าใช้ฟิลเลอร์แท้ ควรรู้จุดสังเกตฟิลเลอร์แท้ไว้ด้วย โดยมีวิธีสังเกตดังนี้ 

1. มีเลขทะเบียน อย. ที่กล่อง
2. มีเอกสารกำกับภาษาไทย
3. เลข lot ที่กล่อง ซอง สติกเกอร์หรือหลอด ตรงกัน
4. สามารถนำเลข lot โทรเช็กกับบริษัทนำเข้าได้

แต่ละยี่ห้อจะมีจุดสังเกตต่างกันไปเล็กน้อยครับ สามารถดูคลิปที่หมออธิบายเพิ่มเติมได้ 

ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบยี่ห้อไหนดี ใช้กี่ CC ?

ในการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ให้ได้ผลลัพธ์ออกมาดูดี เป็นธรรมชาติ  ต้องฉีดในปริมาณที่พอเหมาะ โดยส่วนมากจะใช้ตั้งแต่ 2 CC ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคนครับ ส่วนจะใช้ยี่ห้อไหน หมอจะประเมินให้เป็นรายบุคคล ซึ่งคนที่แก้มตอบมักจะมีผิวบางและมีชั้นไขมันน้อย ฟิลเลอร์ที่กระจายตัวได้ดี ช่วยให้ผิวเรียบเนียนเป็นธรรมชาติมากที่สุด หมอแนะนำ  Restylane volyme ของสวีเดน  และ Juvederm volift ของอเมริกา ครับ 

ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบที่ไหนดี ? 

การตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบที่ไหนดี ? ควรให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับ 1 ครับ โดยพิจารณาเลือกคลินิกเสริมความงามที่มีคุณสมบัติดังนี้ 

1. คลินิกที่ได้มาตรฐาน มีป้ายชื่อสถานพยาบาล และเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก บริเวณคลินิกสะอาด กว้างขวาง ไม่อยู่ในทำเลที่อับ มองเห็นได้ง่ายและเดินทางสะดวก 

2. แพทย์ประจำคลินิก มีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้า ใช้เทคนิคที่ถูกต้องและให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมา

3. ใช้ฟิลเลอร์แท้ มีการรับรองจาก อย. และตรวจสอบบริษัทนำเข้าได้ ก่อนฉีดควรให้หมอแกะกล่องใหม่ให้เห็นทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัย

4. มีรีวิว มากพอสมควรและ ต้องเป็นรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง และควรดูรีวิวที่เป็นคลิปวิดีโอประกอบ เช่น รีวิว ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ในเว็บที่เป็นกลางเช่น pantip, facebook review

ฟิลเลอร์แก้มตอบราคาโปรโมชั่น

ฟิลเลอร์แก้มตอบ ราคา ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์และปริมาณที่ใช้ในแต่ละเคสครับ สำหรับรุ่นที่ V Square Clinic แนะนำ ได้แก่

• Juvederm Volift อเมริกา
  อยู่ได้ 12 เดือน ราคา 12,900.-/ 1 CC
• Restylane Volyme สวีเดน
  อยู่ได้ 18 เดือน ราคา 13,900.-/ 1 CC

ก่อนฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ?

1. ก่อนฉีดฟิลเลอร์แก้มควรงดยาและวิตามินบางชนิด เช่น แอสไพริน, NSAIDs, วิตามิน St. Johns Wort, ginko biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E
2. งดยาผลัดเซลล์ผิว การดึง หรือโกนขนบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์
3. งดคอร์สเลเซอร์และนวดหน้าอย่างน้อย 3 วัน ก่อนฉีด
4. หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำควรแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง
5. แพทย์จะพิจารณาให้กินยาห้ามเลือดหรือฉีดยาลดบวมในบางเคส เพื่อลดความเสี่ยงในการบวมช้ำ อักเสบติดเชื้อ
6. สามารถแจ้งเพื่อขอแปะยาชาก่อนฉีดฟิลเลอร์ได้ และหมอจะฉีดยาชาในจุดนั้น ๆ ให้ด้วย

หลังฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบควรดูแลตัวเองอย่างไร ? 

1. หลังฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ในบางเคสอาจมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ จากเข็มได้ ถือเป็นเรื่องปกติครับ ควรหลีกเลี่ยงการแกะ เกา กดนวด ในจุดที่ฉีดฟิลเลอร์ อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน 
2. ทางคลินิกจะมีการจ่ายยาแก้ปวด ลดบวม ให้กลับไปรับประทาน
3. หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด เช่น ซาวน่า การเลเซอร์ ออกกำลังกายหนักๆ และควรอยู่ในที่อากาศเย็น
4. อย่าขยับใบหน้าเยอะ โดยเฉพาะในช่วง 3 วันหลังทำ และไม่ควรกดทับบริเวณแก้มที่เพิ่งฉีดฟิลเลอร์มา เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่งได้
5. การประคบเย็นอย่างผิดวิธีอาจทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดมาไม่เกาะผิว ควรประคบเย็นตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
6. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่หรือการรับประทานอาการที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อนๆ 
7. ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย วันละ 1.5 – 2 ลิตร เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น

ถาม-ตอบ การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ

1.ฟิลเลอร์แก้มตอบอยู่ได้นานไหม ? 

หลังฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ จะสามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันทีครับ และจะคงผลลัพธ์ได้นานประมาณ 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่ใช้ 

2.ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบเจ็บไหม ?

ในขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ จะมีการประคบเย็น และการแปะยาชาเพื่อบรรเทาอาการ ทำให้ในขณะฉีดไม่รู้สึกเจ็บมากครับ ขณะเดียวกันฟิลเลอร์บางรุ่นก็มีส่วนประกอบของยาชาร่วมด้วย ทำให้ขณะฉีดไม่รู้สึกเจ็บครับ 

3. ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบมีอาการบวมไหม กี่วันถึงจะเข้ารูป

หลังการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบอาการบวมสามารถเกิดขึ้นได้ โดยจะหายได้เองตามธรรมชาติ ประมาณ 2-3 วันอาการบวมก็จะลดลง ทั้งนี้หลังฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบจะเห็นผลลัพธ์ทันทีครับ และจะเข้าที่มากขึ้นในช่วย 14 วันครับ 

4. ถ้ามีปัญหาจากหัตถการอื่นที่เกี่ยวกับแก้มตอบหรือทำให้แก้มตอบ สามารถฉีดหรือแก้ไขด้วยฟิลเลอร์แก้มตอบได้หรือไม่ ?

ได้ครับ แต่ต้องให้แพทย์พิจารณาเป็นเคส ๆ ไปว่าสามารถฉีดแก้ไขได้ทันทีหรือไม่ หรือต้องแก้ไขปัญหาอื่น ๆ จากที่เคยรักษามา เช่น ในเคสที่เคยผ่าตัดเสริมซิลิโคนมา ต้องดูว่ามีพังผืด หรือผลข้างเคียงอื่น ๆ ร่วมด้วยหรือไม่ครับ  

5. ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบแล้วมีผลต่อการยิ้มหรือพฤติกรรมอื่นหรือไม่ ?

หากฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบด้วยฟิลเลอร์แท้ และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ สามารถเลือกยี่ห้อ รุ่น และปริมาณการใช้ฟิลเลอร์อย่างเหมาะสม หลังฉีดจะเห็นผลลัพธ์ที่สวยงามเป็นธรรมชาติ ไม่มีผลต่อการยิ้ม หรือพฤติกรรมอื่น ๆ ครับ  

รีวิวฟิลเลอร์แก้มตอบ

สรุป

การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ถือเป็นทางเลือกที่ดี ปลอดภัย และเห็นผลลัพธ์เร็ว สามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด สำหรับใครที่สนใจการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ หมอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์โดยตรง โดยเลือกปรึกษากับคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือเท่านั้น

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ