ปัญหาผิวหมองคล้ำ แห้งกร้าน ขาดน้ำ สูญเสียความชุ่มชื้น แต่งหน้าไม่ติดทน บำรุงผิวด้วยการทาครีมแล้วไม่เห็นผล สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว เติมไฮยาลูโรนิคแอซิดเข้าสู่ผิวโดยตรง ช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก ตรงจุด เห็นผลไว ทำให้ผิวนิ่มฟู ดูสุขภาพดี 

สำหรับใครที่สนใจและต้องการเติมน้ำให้ผิว บูสต์ผิวชุ่มชื้นอย่างเร่งด่วน ในบทความนี้หมอมีข้อมูลและข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีดมาแนะนำครับ    

สารบัญ ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว

1. ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว คืออะไร ?
2. ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ?
3. ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว เหมาะกับใคร ?
4. ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว มีข้อดีอย่างไร ?
5. ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
6. ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว
7. ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว อันตรายไหม ?
8. ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว เจ็บไหม ?
9. ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว กี่วันเห็นผล ?
10. ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว ยี่ห้อไหนดี ใช้กี่ CC ?
11. ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว อยู่ได้นานไหม ?
12. ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว ที่ไหนดี ?
13. ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว ราคา
14. ข้อปฏิบัติก่อนฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว
15. ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว
16. ปัญหาที่อาจเกิดหลังฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว

ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว คืออะไร ?

ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว (Skin Booster) คือ สารเติมเต็ม Hyaluronic Acid หรือ HA ความเข้มข้นสูง โมเลกุลเล็ก เนื้อนิ่ม ละเอียด บางเบา เมื่อฉีดเข้าสู่ใต้ผิวหนังแล้วจะกระจายตัวและแทรกซึมเข้าสู่ผิวอย่างรวดเร็ว ช่วยกักเก็บและเพิ่มความชุ่มชื้น ฟื้นฟูผิว กระตุ้นคอลลาเจน ปรับสภาพผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ ให้ฉ่ำวาว อิ่มฟู

ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ?

ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว สามารถฉีดได้ทั้งบริเวณทั่วใบหน้า หลุมสิว และหลังมือ หรือหากมีจุดไหนที่ต้องการเน้นพิเศษ ก็สามารถฉีดได้เช่นกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละคนและการประเมินของหมอครับ

6 จุดฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว

• ปรับสภาพผิวทั่วใบหน้า เพิ่มความชุ่มชื้น แก้ผิวแห้งกร้าน
• ปรับสภาพผิวรอบดวงตา ลดริ้วรอยตีนกา แก้ขอบตาดำ
• ปรับสภาพผิวหน้าผาก ลดริ้วรอยเส้นเล็ก ๆ บนหน้าผาก  
• ปรับสภาพผิวรอบปาก ลดริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณริมฝีปาก
• ปรับสภาพผิวที่เป็นหลุมสิว เติมเต็มหลุมสิวตื้นให้เรียบเนียน  
• ปรับสภาพผิวบริเวณหลังมือ แก้ปัญหามือเหี่ยว แห้ง ให้เต่งตึง   

ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว เหมาะกับใคร ?

การฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว เหมาะกับคนที่ผิวขาดความชุ่มชื้น ไม่กระชับ มีริ้วรอย รูขุมขนกว้าง หน้าดูโทรม ไม่สดใส ต้องการเติมน้ำให้ผิว เติมเต็มหลุมสิว ฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพ สามารถทำได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายครับ 

ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว มีข้อดีอย่างไร ?

ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว จะเด่นในเรื่องของงานผิว ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้น ฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก เน้นเพิ่ม Skin Quality ให้ผิวดีจากภายในสู่ภายนอก แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ เห็นผลลัพธ์เร่งด่วน     

ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?

• ช่วยฟื้นฟูผิวแห้งกร้าน คล้ำเสีย
• เติมความชุ่มชื้นให้ผิวเด้ง อิ่มน้ำ
• เติมเต็มหลุมสิว กระชับรูขุมขน
• ลดเลือนริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย
• ปรับผิวเนียนใส Glow ผิวกระจก

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว เหมือนกับขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ในจุดอื่น ๆ ครับ สำหรับที่ V Square Clinic มีขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว ดังนี้

1. ปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินสภาพผิวและปัญหาที่ต้องการแก้ไข
2. แพทย์แนะนำยี่ห้อฟิลเลอร์ และปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวของคนไข้และจุดที่ฉีด
3. ทำความสะอาดใบหน้า หากคนไข้แต่งหน้ามา ก่อนฉีดจะมีเช็ดเครื่องสำอางในจุดที่จะฉีดออก
4. ก่อนฉีดฟิลเลอร์ แพทย์จะต้องแกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า เพื่อตรวจสอบได้ว่าเป็นฟิลเลอร์แท้
5. แพทย์ที่มีประสบการณ์ฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว ในท่านั่งหรือนอนเอียงที่ระดับหัวอยู่สูงกว่าหัวใจ
6. ประคบน้ำแข็ง เพื่อลดความเจ็บจากเข็ม ซึ่งในเนื้อฟิลเลอร์ส่วนใหญ่มียาชาผสมอยู่แล้ว 
7. เมื่อฉีดฟิลเลอร์เสร็จแล้ว แพทย์จะแนะนำวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดอย่างใกล้ชิด
8. แพทย์ทำการนัดหมาย เพื่อติดตามผลการฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิวหลังทำทุกเคส

ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว อันตรายไหม ?

ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว ไม่อันตรายหากฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ รู้ตำแหน่งและเทคนิคการฉีด และที่สำคัญคือต้องใช้ฟิลเลอร์แท้ ยี่ห้อได้มาตรฐาน ผ่าน อย. จะสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ปลอดภัย ไม่มีผลเสียต่อผิวและร่างกายครับ

ข้อควรรู้ : ฟิลเลอร์ชนิดที่ปลอดภัยที่สุด ซึ่งนิยมใช้ในวงการแพทย์และด้านความงามอย่างแพร่หลาย คือ Hyaluronic Acid ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (U.S. FDA) ฉีดแล้วสลายหมด 100% ไม่มีสารตกค้าง สามารถฉีดใหม่ได้เรื่อย ๆ โดยไม่เป็นอันตราย       

ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว เจ็บไหม ?

ขณะฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว คนไข้อาจรู้สึกถึงรอยเข็มบ้างเล็กน้อยครับ ก่อนทำจะมีการแปะยาชาให้ทุกครั้ง รวมทั้งในเนื้อฟิลเลอร์เองก็มียาชาผสมอยู่แล้ว และในขั้นตอนการฉีดหมอจะใช้เข็มขนาดเล็กมาก สามารถเข้าถึงชั้นหนังแท้ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เจ็บน้อย บวมช้ำน้อย ไม่ทิ้งรอยแผลเป็นหลังฉีดครับ

ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว กี่วันเห็นผล ?

ฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว Skin Booster สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำครับ โดยผิวจะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 1-2 สัปดาห์ครับ

ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว ยี่ห้อไหนดี ใช้กี่ CC ?

ฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดปรับสภาพผิวต้องมีลักษณะเนื้อละเอียด บางเบา สามารถฉีดเก็บรายละเอียดผิวชั้นตื้นได้ดี ซึ่งยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมและ V Square Clinic เลือกใช้ มี 3 ยี่ห้อ ได้แก่

1. Juvederm Volite ใช้ครั้งละ 1-2 CC เหมาะสำหรับฉีดบำรุงผิวชุ่มชื้น มีความเป็นธรรมชาติ

2. Restylane Vital Light ใช้ครั้งละ 1-2 CC มีความยืดหยุ่นสูง ฉีดแล้วเรียบเนียนกลืนกับผิว

3. Belotero Revive ใช้ครั้งละประมาณ 2 CC ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น บำรุงผิวอิ่มน้ำ ฉ่ำวาว

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว หมอจะประเมินปัญหาและความต้องการของคนไข้เป็นรายเคส เพื่อแนะนำฟิลเลอร์ยี่ห้อที่เหมาะสมให้ แก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดครับ

ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว อยู่ได้นานไหม ?

ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว จะอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้ เทคนิคการฉีดของแพทย์ และการดูแลหลังฉีดของแต่ละบุคคล หากคนไข้ต้องการคงสภาพของผิวที่ดีอย่างต่อเนื่อง ก็สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ตามคำแนะนำของแพทย์ครับ

ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว ที่ไหนดี ?

ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว คนไข้ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก เลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ เปิดให้บริการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำหัตถการโดยแพทย์ที่มีใบรับรองและมีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ ใช้ฟิลเลอร์แท้ สามารถตรวจสอบกับบริษัทนำเข้าได้

ใครที่ยังเลือกไม่ได้ว่าจะฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว ที่ไหนดี ที่ V Square Clinic ใช้ฟิลเลอร์แท้แบรนด์ดังระดับโลก แกะกล่องใหม่ให้ดูต่อหน้าทุกเคส ทีมแพทย์มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ ตรวจประเมินสภาพผิวอย่างละเอียด พิถีพิถันใส่ใจทุกขั้นตอน เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัยครับ         

ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว ราคา

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว Skin Booster ที่ V Square Clinic ราคาเริ่มต้นที่ 14,000-16,000 บาท ต่อ 1 CC คุ้มค่าคุ้มราคาเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้

ข้อปฏิบัติก่อนฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว คนไข้ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เลือกฉีดในคลินิกที่ได้มาตรฐาน ดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงในแหล่งที่น่าเชื่อถือ ควรงดยาและอาหารเสริมที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, NSAIDs, Vitamin E  งดยาทาผลัดเซลล์ผิว รวมถึงงดดื่มแอลกอฮอล์และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด ทั้งนี้หากมีโรคประจำตัวหรือประวัติการแพ้ยา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทุกครั้งก่อนฉีด     

ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว

หลังฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว ใน 3 ชั่วโมงแรกรอยเข็มจะโดนน้ำได้ไม่เกิน 15 นาที สามารถล้างหน้าด้วยสบู่อ่อน ๆ ได้ ควรเลี่ยงแสงแดดและความร้อนทุกชนิดอย่างน้อย 48 ชม. งดเลเซอร์ร้อนลงผิวชั้นลึกเป็นเวลา 1 เดือน และดื่มน้ำให้เพียงพอ หากคนไข้ดูแลตัวเองดี หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายผิว ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ก็จะช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็วขึ้น บวมช้ำน้อย สลายช้าลง และคงอยู่ได้นานครับ 

ปัญหาที่อาจเกิดหลังฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว

หลังฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว อาจมีรอยแดงจากเข็ม หายไปเองได้ใน 2-3 วัน และจะอาการบวมหลังฉีด เป็นปกติครับ สามารถหายบวมไปเองได้ ประมาณ 7-14 วัน ฟิลเลอร์จะเข้าที่ และเห็นผลลัพธ์ชัดเจน

สรุป

ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว เป็นวิธีการบูสต์ผิว เติมความชุ่มชื้น ฟื้นฟูผิวขาดน้ำ แก้ปัญหาผิวแห้ง บำรุงผิวแข็งแรง มีความยืดหยุ่น เด้ง กระชับ เห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว สำหรับคนไข้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์งานผิว สามารถปรึกษาหมอผ่านช่องทางออนไลน์ หรือเข้ามาให้หมอประเมินสภาพผิวก่อนได้ครับ ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ราคาเท่าไหร่ ? คุ้มค่าไหม ? เป็นคำถามที่พบบ่อยในคนไข้ที่มีปัญหาหน้าผากยุบ แบน แคบ ต้องการเสริมหน้าผากให้มีสัดส่วนสมดุลโดยที่ยังดูเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องการผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น

สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก และกำลังหาข้อมูล ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ราคาเท่าไหร่ ? ราคาแตกต่างกับหัตถการอื่นไหม ? หมอมีคำตอบมาฝาก พร้อมแนะนำโปรโมชันราคาพิเศษให้ในบทความนี้

สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ราคา

1. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ราคาเป็นอย่างไร ?
2. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากราคาโปรโมชัน
3. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ราคาแตกต่างกับหัตถการอื่นไหม ?
4. ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์หน้าผากกับ V Square Clinic
5. รีวิวฟิลเลอร์หน้าผาก

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ราคาเป็นอย่างไร ?

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ราคาประมาณ 16,900 บาท ต่อ 1 CC โดยทั่วไปราคาฉีดฟิลเลอร์หน้าผากในท้องตลาดจะไม่แตกต่างกันมากครับ ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ รุ่นฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ ความยากง่ายของแต่ละเคส เทคนิคการฉีดของแพทย์ และโปรโมชันของคลินิกนั้น ๆ 

ข้อควรรู้ : หากพบฟิลเลอร์ราคาถูกมาก ๆ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจเป็นฟิลเลอร์ปลอม ฉีดแล้วไม่เห็นผลหรืออาจมีผลข้างเคียงได้ ก่อนฉีดแนะนำว่าไม่ควรดูแค่ราคาอย่างเดียวครับ ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และศึกษา วิธีดูฟิลเลอร์แท้ แต่ละยี่ห้อ เพื่อความมั่นใจว่าเป็นฟิลเลอร์ของแท้ ให้ผลลัพธ์ที่ดี ปลอดภัย คุ้มค่า

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากราคาโปรโมชัน

โปรโมชันฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ราคาพิเศษ ที่ V Square Clinic เริ่มต้นที่ 16,900.-/1 CC หมอเลือกใช้ฟิลเลอร์เนื้อเนียนละเอียด ช่วยให้หลังฉีดไม่เป็นก้อน และในเนื้อ Filler มียาชาผสมอยู่ด้วย 

• Juvederm Volbella (อเมริกา) อยู่ได้ 12 เดือน
• Restylane Vital (สวีเดน) อยู่ได้ 12 เดือน

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ราคาแตกต่างกับหัตถการอื่นไหม ?

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ผ่าตัดเสริมหน้าผาก และฉีดไขมันหน้าผาก แม้จะเป็นหัตถการที่ช่วยเติมเต็มและปรับแต่งทรงหน้าผากให้ได้รูปเหมือนกัน แต่ราคาแตกต่างกันครับ เพื่อให้เห็นภาพชัด ๆ หมอจะเปรียบเทียบข้อแตกต่างของทั้ง 3 หัตถการเป็นตาราง เพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจของคนไข้ ดังนี้

จากตารางจะเห็นว่าการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ผ่าตัดเสริมหน้าผาก และฉีดไขมันหน้าผาก ราคาจะแตกต่างกันไปตามวัสดุที่ใช้ และกระบวนการทำ สำหรับใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกวิธีไหนดี แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินปัญหาและความต้องการ วางแผนการแก้ไขอย่างเหมาะสม ทั้งนี้คนไข้สามารถพิจารณาและศึกษาข้อมูลในเบื้องต้นได้จากวิดีโอข้างล่างนี้ครับ 

ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์หน้าผากกับ V Square clinic

• ปรึกษาปัญหากับหมอโดยตรง ตรวจประเมินใบหน้าอย่างละเอียดทุกเคส แก้ปัญหาตรงจุด
• ทีมแพทย์มีประสบการณ์และความชำนาญด้านศิลปะการฉีดฟิลเลอร์ (Fine Art Of Filler)  
• ฉีดด้วยเทคนิคพิเศษ หมอมือเบา ช้ำน้อย ไม่เป็นคลื่น ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ    
• ใช้ฟิลเลอร์แท้ มีคุณภาพ การันตีด้วยมาตรฐานสากลและได้รับความนิยมจากแพทย์ทั่วโลก
• ก่อนฉีดหมอแกะกล่องฟิลเลอร์ใหม่ให้ดูต่อหน้า และให้กล่องกลับบ้าน นำไปตรวจสอบได้
• หลังทำแพทย์แนะนำวิธีการปฏิบัติตัวอย่างใกล้ชิด และนัดติดตามผลหลังทำอย่างต่อเนื่อง

รีวิวฟิลเลอร์หน้าผาก

สรุป

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ราคาไม่แพง คุ้มค่าคุ้มราคาเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ ช่วยปรับแต่งทรงหน้าผากให้อิ่มเอิบ โหนกนูน มีมิติ ก่อนฉีดควรเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ ทำหัตถการโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ และที่สำคัญคือต้องใช้ฟิลเลอร์แท้ ยี่ห้อมาตรฐาน ผ่าน อย. ราคาสมเหตุสมผล เพื่อผลลัพธ์ที่ดี คุ้มค่า และปลอดภัยครับ 

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ฉีดฟิลเลอร์คางบวมกี่วัน 

การฉีดฟิลเลอร์คาง เป็นหัตถการที่ช่วยเสริมให้คางยาวขึ้น ปรับหน้าเรียววีเชฟได้อย่างเห็นผล โดยหลังฉีดจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันที แต่คนไข้บางรายสังเกตว่าหลังฉีด Filler คาง จะมีอาการบวมบริเวณที่ฉีด บางคนปวดคาง จับแล้วเจ็บ อาการเหล่านี้ปกติหรือไม่ อาการบวมใต้คาง เกิดจากอะไร ?  ฉีดฟิลเลอร์คาง บวมกี่วัน ? อาการบวมแบบไหนเป็นปกติ แบบไหนต้องไปพบแพทย์ มีวิธีลดบวมจากการฉีดฟิลเลอร์คาง อย่างไรบ้าง ? ในบทความนี้หมอจะมาให้คำตอบครับ

สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์คางบวมกี่วัน 

1. ฉีดฟิลเลอร์คางบวมกี่วัน เกิดจากอะไร ?
2. ฉีดฟิลเลอร์คางแล้วบวม ปวดไหม อาการเป็นอย่างไร ปกติไหม ?
3. วิธีลดบวมจากการฉีดฟิลเลอร์คางแล้วบวม
4. รีวิวการฉีดฟิลเลอร์คาง

ฉีดฟิลเลอร์คางบวมกี่วัน เกิดจากอะไร ?

หลังจากฉีดฟิลเลอร์คางจะมีอาการบวมประมาณ 3-7 วัน และจะค่อย ๆ ยุบบวม ฟิลเลอร์จะเข้าที่ใน 2 สัปดาห์ครับ ส่วนสาเหตุที่หลังฉีดฟิลเลอร์คางแล้วบวมหมอจะแยกเป็นกรณีดังนี้

• อาการบวมจากเข็ม ในคนไข้ที่มีผิวบอบบางอาจมีอาการเขียวช้ำ หรือจุดแดงบริเวณรอยเข็ม เป็นอาการบวมที่เกิดขึ้นได้เป็นอาการปกติ ไม่เป็นอันตรายครับ
• บวมจากใช้การใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่มากเกินไป เป็นอาการบวมใต้คางที่พบได้จากแพทย์ที่ฉีดไม่มีประสบการณ์ ฉีดผิดตำแหน่ง/ฉีดผิดชั้นผิว และใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่มากเกินไปครับ ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์คางส่วนใหญ่จะใช้ฟิลเลอร์เพียง 1 CC ก็สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ 

ฉีดฟิลเลอร์คางแล้วบวม ปวดไหม อาการเป็นอย่างไร ปกติไหม ?

หลังฉีดฟิลเลอร์คาง จะมีอาการบวมจากเข็ม หรือปวดบริเวณที่ฟิลเลอร์เล็กน้อยได้เป็นปกติครับ จะค่อย ๆ หายบวมใน 3-7 วัน แต่ถ้าหลัง 1 อาทิตย์มีอาการบวมมากขึ้น จับแล้วเจ็บ ปวดคาง รู้สึกแสบร้อนบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์มากกว่าบริเวณอื่น หรือผิวบริเวณนั้นมีสีแดง คล้ำผิดปกติ หากมีอาการดังกล่าวควรไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุดเพื่อสาเหตุว่าอาการคางบวมจากอักเสบติดเชื้อ หรือแพ้ฟิลเลอร์ ต้องรักษาด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์ครับ

วิธีลดบวมจากการฉีดฟิลเลอร์คางแล้วบวม

• ห้ามนวด กด ปั้นทรงเองโดยเด็ดขาดครับ โดยเฉพาะในช่วง 2 สัปดาห์แรก ที่ฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ดี เพราะจะทำให้คางเสียทรงได้
• หลีกเลี่ยงการเท้าคาง
• หลีกเลี่ยงการใส่หมวกกันน็อคที่รัดแน่น
• หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ เพราะอาจทำให้เกิดการกดทับตรงบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์คาง

รีวิวการฉีดฟิลเลอร์คาง

รีวิว ฉีดฟิลเลอร์คาง ที่ V Square Clinic ทีมแพทย์จะใช้เทคนิคฉีดฟิลเลอร์คางแบบเดียวกับการผ่าตัดเสริมคาง เมื่อฉีดไปแล้วเรียบเนียน ไม่มีปัญหาไหลย้อยหรือเป็นก้อนในภายหลังครับ

สรุป

หลังฉีดฟิลเลอร์คางจะมีอาการบวมได้เป็นปกติครับ จะบวมประมาณ 3-7 วัน และจะค่อย ๆ ยุบบวม ฟิลเลอร์เข้าที เห็นผลลัพธ์ชัดเจน คางสวยได้รูปใน 14 วัน ซึ่งถ้าเทียบกับวิธีเสริมคางแบบอื่นอย่างการผ่าตัดหรือฉีดไขมัน การฉีดฟิลเลอร์คางจะเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว เมื่อฟิลเลอร์สลายสามารถฉีดซ้ำได้โดยไม่ทำให้คางผิดรูป ไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกาย ปลอดภัย หลังฉีดไม่ต้องพักฟื้น มีการดูแลตัวเองที่ไม่ยุ่งยาก และให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติที่สุดครับ

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หลังฉีดฟิลเลอร์คาง 

ใครที่มีข้อสงสัยว่าหลังฉีดฟิลเลอร์คาง บวมกี่วัน ? ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์คาง มีอะไรบ้าง ?   

หลังฉีดฟิลเลอร์คาง หมอจะมีการแนะนำวิธีปฏิบัติตัวและวิธีดูแลตัวเองที่ถูกวิธี ป้องกันผลข้างเคียง ช่วยให้ filler เข้าที่เร็วแล้ว ยังช่วยยืดอายุฟิลเลอร์คางให้อยู่ได้นานขึ้น

สารบัญ หลังฉีดฟิลเลอร์คาง 

1. ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์คาง มีอะไรบ้าง ?
2. ปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์คาง แก้ไขอย่างไร ?
3. หลังฉีดฟิลเลอร์คาง บวมกี่วันถึงจะหาย
4. วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์คาง
5. ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์คาง
6. รีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์คาง

ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์คาง มีอะไรบ้าง ?

หากฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้เทคนิคการฉีด filler ที่ถูกต้อง ฉีดด้วยฟิลเลอร์แท้ คนไข้ไม่ต้องกังวลเรื่องผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย ส่วนเรื่องอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์คาง ถือเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้จากการบวมเข็มและจากฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไป สามารถหายบวมได้เอง  

• หลังฉีดฟิลเลอร์คาง 24 ชั่วโมง มีอาการบวมเป็นเรื่องปกติ  
• อาการบวมจะเพิ่มขึ้น  ในช่วง 1-3 วัน  
• ค่อย ๆ หายยุบบวมใน 5-7 วัน  
• เห็นผลเต็มที่ใน 14 วัน (2 สัปดาห์) 

เช่นเดียวกับผื่นหรือจุดแดงบริเวณรอยเข็ม ที่สามารถหายได้เอง หรือถ้าหากมีอาการปวด สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ตามอาการ 

ปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์คาง แก้ไขอย่างไร ?

หลังฉีดฟิลเลอร์คาง เมื่อฟิลเลอร์เข้าที่แล้วจะเนียนกลืนไปกับผิวครับ ไม่เปลี่ยนรูป ไม่เสียทรง ผลลัพธ์หลังเติม filler จะช่วยเติมคางให้ยาวขึ้น สมส่วนรับกับใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ถ้าผลลัพธ์ไม่ได้เป็นไปตามที่คนไข้คาดหวัง ฉีดฟิลเลอร์คางจากคลินิกอื่นแล้วเกิดปัญหา มีอาการหลังฉีดฟิลเลอร์คาง เช่น

• คางยาว คางแหลมเหมือนแม่มด หรือคางย้อย ผิดรูป 
• ฟิลเลอร์คางบวมเป็นก้อน มองเห็นชัดเวลาพูดหรือยิ้ม ดูไม่เป็นเป็นธรรมชาติ  
• หลังฉีดฟิลเลอร์คางแล้วคนไข้ไม่ชอบ ไม่พอใจผลลัพธ์

วิธีแก้ไข คือ ฉีดสลายฟิลเลอร์ออกด้วยเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) ซึ่งจะฉีดสลายได้เฉพาะ HA Filler หรือฟิลเลอร์ในกลุ่มไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ถ้าฉีดฟิลเลอร์ปลอมมาจะไม่สามารถฉีดสลายได้ ต้องขูดฟิลเลอร์ออกหรือผ่าตัดออกเท่านั้น 

ดังนั้น เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น การฉีดฟิลเลอร์คางต้องฉีดกับหมอที่มีประสบการณ์ รู้เทคนิค รู้ตำแหน่ง เลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ รุ่นฟิลเลอร์ และปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสม ฟิลเลอร์ 1 CC พอไหม ? แต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร ?

ข้อควรรู้ : บริเวณคางจะมีกล้ามเนื้อ Mentalis เป็นตำแหน่งที่ต้องระวัง หากฉีดตื้น ๆ จะโดนกล้ามเนื้อมัดนี้ และดึงฟิลเลอร์ให้มากองรวมกันเป็นก้อน ทำให้เวลาพูด เวลายิ้ม จะเห็นคางย้อยผิดรูป ที่ V Square Clinic การฉีดฟิลเลอร์คางจะฉีดลึกลงไปถึงชั้นใต้เยื่อหุ้มกระดูก ได้ผลลัพธ์ออกมาสวยครับ    

หลังฉีดฟิลเลอร์คาง บวมกี่วันถึงจะหาย

หลังฉีดฟิลเลอร์คาง บวมกี่วัน ? อาการบวมจะค่อย ๆ ยุบลง หายบวมใน 5-7 วัน จะไม่มีอาการบวมขึ้นแล้ว การจะดูว่าฟิลเลอร์เข้าที่หรือยังจึงควรดูผลหลัง 14 วันไปแล้วครับ 

วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์คาง

หากมีการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์คางที่ถูกต้อง จะส่งผลต่อการเข้าที่เร็วของฟิลเลอร์ และช่วยคงผลลัพธ์ให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น โดยวิธีการปฏิบัติตัวที่คนไข้ควรให้ความสำคัญ มีดังนี้  

• ดื่มน้ำให้เพียงพอ 1.5-2 ลิตร/วัน จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูขึ้นและเข้าที่เร็ว
• หลีกเลี่ยงแสงแดดหรืออากาศร้อนจัด
• ห้ามบีบ นวด แกะ เกา บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์คาง
• งดออกกำลังกายหนัก ๆ อย่างน้อย 48 ชั่วโมง
• งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ อย่างน้อย 48 ชั่วโมง 
• งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เช่น เลเซอร์, RF, Thermage อย่างน้อย 1 เดือน

ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์คาง

ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์คางที่เน้นย้ำ คือ ห้ามนวด กด ปั้นทรงเองโดยเด็ดขาดครับ โดยเฉพาะในช่วง 2 สัปดาห์แรก ที่ฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ดี เพราะจะทำให้คางเสียทรงได้ 

ในส่วนของคำถามหรือข้อสงสัยอื่น ๆ ที่คนไข้สอบถามกันเข้ามา เช่น 

หลังฉีดฟิลเลอร์คาง เท้าคางได้ไหม ? 

• ควรหลีกเลี่ยงการเท้าคาง โดยเฉพาะในช่วงแรก ๆ เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนไปผิดตำแหน่ง 

หลังฉีดฟิลเลอร์คาง สวมหมวกกันน็อกได้ไหม ?

• ควรหลีกเลี่ยงการใส่หมวกกันน็อกที่สายรัดแน่นจนเกินไป เพราะจะทำให้คางที่เพิ่งฉีดมาถูกกดทับ 

หลังฉีดฟิลเลอร์คาง นอนตะแคงได้ไหม ? 

• ไม่ควรนอนตะแคง นอนคว่ำหน้า เพราะอาจทำให้เกิดการกดทับตรงบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์คาง ท่านอนที่หมอแนะนำ ควรนอนหนุนหมอนสองใบให้หัวสูงกว่าอก 

หลังฉีดฟิลเลอร์คาง ห้ามกินอะไร ? 

มีข้อห้ามหลังฉีด filler คาง หรืออาหารที่ควรเลี่ยงหลังฉีดฟิลเลอร์ เพราะจะทำให้เส้นเลือดขยายตัวหรือกระตุ้นการอักเสบ เช่น 

• เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 
• อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ 
• อาหารเผ็ดมาก ๆ 
• อาหารหมักดอง 
• อาหารหวานจัด 
• อาหารดิบ 

รีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์คาง

สรุป

หลังฉีดฟิลเลอร์คาง เป็นขั้นตอนที่คนไข้ควรให้ความสำคัญ เช่นเดียวกับก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง เพื่อป้องกันปัญหา เช่น คางผิดรูปหรือคางเสียทรงในช่วงที่ฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ ต้องให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษครับ สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำของหมอตามที่ได้อธิบายไปข้างต้น เพื่อผลลัพธ์ที่ดี ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว คางยาว หน้าเรียวสวยครับ

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเข้าที่ ?

ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเข้าที่ ? เป็นคำถามที่พบได้บ่อย ๆ เพราะคนไข้ต้องการทราบข้อมูลก่อนตัดสินใจวางแผนฉีด Filler เพื่อไม่ให้กระทบกับการทำงาน ใครที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ หรือ กำลังวางแผนฉีดฟิลเลอร์ หมอมีข้อมูลมาแนะนำ หลังฉีดฟิลเลอร์กี่วันเข้าที่ ? กี่วันเห็นผล ? หลังทำบวมไหม ? เห็นผลชัดเจนเมื่อไหร่ ? หลังฉีดดูแลตัวเองอย่างไร ? ทุกข้อสงสัยเหล่านี้ ในบทความนี้มีคำตอบทั้งหมดครับ 

สารบัญ ฉีดฟิลเลอรกี่วันเข้าที่

1. ฉีดฟิลเลอร์กี่วันถึงจะเข้าที่ เห็นผลชัดเจน
2. ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์มีหรือไม่ ?
3. ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรเตรียมตัวอย่างไร ?
4. ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้เห็นผลเร็วขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์กี่วันถึงจะเข้าที่ เห็นผลชัดเจน

หลังการฉีดฟิลเลอร์สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที 70-80% ครับ แต่จะต้องใช้เวลาสักระยะเพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่สวยงาม เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ถือเป็นหัตถการที่สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น หลังฉีดฟิลเลอร์คนไข้สามารถกลับไปทำงาน ไปเรียน หรือใช้ชีวิตประจำได้ตามปกติ 

สำหรับคนที่กังวลว่าหลังฉีดจะมีอาการบวมหรือไม่ ? อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์สามารถเกิดขึ้นได้ครับ เป็นอาการบวมจากรอยลงเข็ม และบวมจากเนื้อฟิลเลอร์ที่แทรกเข้าไปในผิว เป็นเรื่องปกติ คนไข้ไม่ต้องกังวลใจ เพราะบวมเล็กน้อยเท่านั้น และยุบบวมได้เองครับ   

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์มีหรือไม่ ?

ฟิลเลอร์แท้ ที่เป็นสารเติมเต็มผิวประเภท ไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ “HA” สามารถช่วยเติมเต็มร่องลึกหรือเสริมชั้นผิวหนังในตำแหน่งต่าง ๆ ได้อย่างปลอดภัย แต่ก็อาจเกิดผลข้างเคียงได้เช่นกัน หากฉีดโดยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ หรือฉีดกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยผลข้างเคียงที่พบ เช่น 

• อาการบวม แดง อักเสบติดเชื้อ : เกิดจากความสะอาดในขณะฉีดฟิลเลอร์ หรือมีการกด จับ บีบ บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์หลังฉีด 
• บวมเป็นก้อน : เกิดจากความไม่ชำนาญของแพทย์ เลือกใช้ชนิดฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งที่ฉีด รวมถึงประเมินปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ไม่เหมาะสม 

ดังนั้นก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ ต้องมั่นใจว่าฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นฟิลเลอร์แท้ ได้มาตรฐาน และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ คลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ปลอดภัยที่สุดครับ 

ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรเตรียมตัวอย่างไร ?

สำหรับคนที่วางแผนฉีดฟิลเลอร์ ก่อนฉีดควรเตรียมตัวเองให้พร้อม ทั้งข้อมูลความรู้ และความพร้อมร่างกายครับ 

1. ควรศึกษาข้อมูลที่จำเป็น ทั้งการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้า รวมถึงวิธีการสังเกตฟิลเลอร์แท้ยี่ห้อต่าง ๆ 
2. เมื่อเลือกคลินิกได้แล้ว ควรเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์เพื่อประเมินปัญหาของใบหน้าที่ต้องการแก้ไข แพทย์จะประเมินปัญหา และแนะนำฟิลเลอร์ที่เหมาะสมให้กับแต่ละบุคคล เนื่องจากปัญหาของใบหน้าแต่ละบุคคลจะมีปัญหาที่แตกต่างกันออกไป จึงไม่สามารถแก้ไขด้วยวิธีการเดียวกันได้
3. หากมีโรคประจำตัวและจำเป็นต้องทานยาเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทำหัตถการทุกครั้ง
4. ก่อนฉีดจำเป็นต้องงดวิตามินบางชนิดที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น Vitamin E, Garlic, Primrose Oil, Ginkgo Biloba, Ginseng 
5. งดทาครีมที่มีส่วนช่วยในการผลัดเซลล์ผิว เพื่อลดการระคายเคืองของผิวบริเวณที่ฉีด
6. งดคอร์สเลเซอร์และนวดหน้าอย่างน้อย 3 วันก่อนฉีดฟิลเลอร์
7. ในคนไข้ที่กลัวเจ็บ สามารถแจ้งเพื่อขอแปะยาชาก่อนฉีดฟิลเลอร์ได้ 
8. ควรให้แพทย์แกะกล่องฟิลเลอร์ใหม่ให้ดูต่อหน้า เพื่อตรวจสอบว่าเป็นของแท้ได้มาตรฐาน และยินดีให้นำกล่องกลับบ้านไปตรวจสอบได้ 

ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้เห็นผลเร็วขึ้น

เพื่อให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปเติมเต็มผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและอยู่ได้นาน มีข้อควรปฏิบัติดังนี้

1. ให้เลี่ยงการสัมผัสผิวบริเวณที่ฉีด ไม่ควรกดหรือนวดบริเวณที่ฉีด หากมีอาการบวมแดงหรือเขียวช้ำถือเป็นอาการปกติครับ จะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายได้เองตามธรรมชาติใน 2-3 วัน (หากหลัง 3 วันไปแล้วอาการไม่ดีขึ้นให้กลับมาที่คลินิกเพื่อรับยาเพิ่มเติม)
2. หลังฉีดฟิลเลอร์แพทย์จะสั่งยาแก้ปวดลดบวม ยาฆ่าเชื้อ ให้คนไข้รีบทานทันทีครับ และทานต่อเนื่องตามแพทย์สั่ง
3. งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิดอย่างน้อย 1 เดือน
4. พยายามอย่าขยับผิวบริเวณที่ฉีดอย่างน้อยในช่วง 3 วันแรกหลังฉีด เพื่อลดการเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์
5. ควรอยู่ในสภาพอากาศที่เย็น เลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เช่น ออกกำลังกายหนัก ซาวน่า อย่างน้อย 48 ชม. 

6. งดทานอาหารที่ส่งผลต่อการอักเสบ บวม เพราะจะส่งผลให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้า เช่น
   • อาหารหน้าเตาร้อน ๆ หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู
   • อาหารรสเค็มที่ส่งผลต่ออาการบวมน้ำ 
   • อาหารหมักดอง อาหารกึ่งสุก กึ่งดิบ จากร้านที่ไม่สะอาด
   • อาหารรสเผ็ด เพราะเหงื่อที่ออกจะทำให้ต้องเช็ดหน้าบ่อย อาจส่งผลต่อรอยเข็มที่ยังหายไม่สนิททำให้อักเสบหรือติดเชื้อได้
   • งดสูบบุหรี่ เพราะสารนิโคตินจะทำให้ยุบบวมช้าและทำให้ผลการรักษาอยู่ได้สั้นลง

7. ไม่ควรนอนในท่าที่กดทับบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เช่น นอนตะแคงหรือนอนคว่ำ เพื่อป้องกันฟิลเลอร์เคลื่อนที่
8. เลี่ยงการทาครีมบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพื่อลดการระคายเคืองจากรอยเข็มในตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์

ข้อควรรู้ : มีงานวิจัยระบุว่า สาร Bromelain ที่อยู่ในแกนสับปะรด สามารถทานเพื่อช่วยให้อาการปวดบวมช้ำหายได้เร็วขึ้น และควรดื่มน้ำสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เพื่อให้ฟิลเลอร์คงผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้นครับ 

สรุป

การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ย่างรวดเร็ว จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการคืนความอ่อนเยาว์แบบไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นครับ จากข้อมูลที่หมออธิบายไว้ข้างต้น ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเข้าที่ กี่วันเห็นผลลัพธ์ชัดเจน เป็นเพียงข้อมูลส่วนหนึ่งที่คนไข้ควรรู้ไว้ เพื่อเตรียมความพร้อมตนเอง หากต้องการศึกษาข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับฟิลเลอร์สามารถติดตามอ่านได้บนเว็บไซต์  V Square Clinic ครับ หมอได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดไว้ให้แล้ว

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก บวมกี่วัน ? เกิดจากอะไร ? มีวิธีลดอาการบวมอย่างไร ?  เพื่อให้ Filler เข้าที่เร็ว ในบทความนี้หมอจะมาอธิบายเรื่องนี้ในทุก ๆ มุมครับ หากใครสนใจการฉีด Filler บริเวณหน้าผาก สามารถศึกษาข้อมูล เพื่อเตรียมความพร้อมให้ตัวเองได้เลยครับ     

สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก บวมกี่วัน 

1. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก บวมกี่วัน ?
2. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแล้วบวม เกิดจากอะไร ?
3. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแล้วบวม เป็นอาการปกติไหม ?
4. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก มีวิธีการลดบวมไหม ?
5. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแล้วบวมกับเป็นคลื่น ต่างกันไหม ?
6. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแล้วบวมมีข้อห้ามอะไรบ้าง ?
7.  รีวิวการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก บวมกี่วัน ?

อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้หลังฉีดทันที ไปจนถึง 3 วัน จากนั้นจะค่อย ๆ จะยุบบวมลงได้เองตามธรรมชาติในช่วง 5-7 วัน และจะไม่บวมขึ้นอีกครับ สามารถเห็นผลลัพธ์ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ และฟิลเลอร์จะเข้าที่ใน 14 วันครับ  

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแล้วบวม เกิดจากอะไร ?

อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เกิดได้จาก 2 สาเหตุหลัก ๆ ได้แก่

1. อาการบวมเข็ม จากการใช้เข็มที่มีส่วนแหลมคมแทงเข้าชั้นผิวและโดนกับเส้นเลือดฝอย ทำให้เกิดการบวมและรอยช้ำได้ จะค่อย ๆ หายดีขึ้นจนเป็นปกติใน 2-3 สัปดาห์
2. เกิดจากคุณสมบัติของตัวฟิลเลอร์เองครับ โดยฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดปรับรูปทรงหน้าผากให้สวยงาม คือ สารเติมเต็มประเภทไฮยารูลอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) ที่มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องการเก็บกักน้ำ และอุ้มน้ำไว้กับตัว ทำให้หลังฉีดจะมีอาการบวมขึ้น ซึ่งอาการบวมจากการอุ้มน้ำจะเกิดขึ้นได้เฉพาะช่วงแรก ๆ เท่านั้น (2-3 วันแรกหลังทำ) จากนั้นเนื้อฟิลเลอร์จะค่อย ๆ กลืนเข้ากับผิว และจะไม่มีอาการบวมขึ้นอีก ทำให้ผลลัพธ์หลังฉีดดูเป็นธรรมชาติ ได้ทรงหน้าผากที่สวยงามมากขึ้นครับ    

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแล้วบวม เป็นอาการปกติไหม ?

อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เป็นได้ทั้งอาการปกติ และไม่ปกติครับ อาการปกติจะเป็นแบบที่หมออธิบายไว้ในข้อข้างต้น เมื่อฟิลเลอร์เข้าที่ ก็ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง คนไข้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ส่วนในกรณีอาการที่ไม่ปกติ มีทั้งอาการบวม แดง เป็นก้อน สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น 

• ฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นฟิลเลอร์ปลอม 

มักพบในเคสที่ฉีดฟิลเลอร์ราคาถูก ไม่ได้ฉีดในคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ยาปลอม ฉีดกับหมอเถื่อน หากพลาดฉีดจะทำให้เกิดอาการบวม แดง อักเสบ เจ็บ เป็นก้อน เพราะตัวยาไม่ได้มาตรฐาน 

• ฟิลเลอร์แท้ แต่เลือกยี่ห้อ/รุ่นไม่เหมาะสม 

ปัจจุบันฟิลเลอร์มีหลายยี่ห้อ หลายรุ่นครับ มีลักษณะเนื้อฟิลเลอร์ต่างกันเพื่อนำมาใช้ในการฉีดในจุดที่ต่างกัน โดยบริเวณหน้าผาก ควรเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีลักษณะเนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย เพื่อให้ผลลัพธ์หลังฉีดหน้าผากโหนกนูน เนียนสวย แต่หากเลือกผิดรุ่น เช่น ฟิลเลอร์ที่ขนาดของโมเลกุลมีความหนาแน่นสูง เมื่อนำมาฉีดอาจเป็นก้อนได้ครับ

• แพทย์ขาดประสบการณ์ ฉีดไม่ตรงตำแหน่ง  

การฉีดฟิลเลอร์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดี สวยงาม ปลอดภัย หัวใจสำคัญอยู่ที่ประสบการณ์และความชำนาญในการฉีดฟิลเลอร์ของแพทย์ครับ แพทย์ผู้ฉีดจะต้องมีความรู้เรื่องกายวิภาคบนใบหน้าเป็นอย่างดี ในกรณีที่ตัดสินใจพลาด ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากกับแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ อาจฉีดฟิลเลอร์ได้ไม่ตรงจุด ทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปจับกันเป็นก้อน และบวมขึ้นได้ครับ 

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก มีวิธีการลดบวมไหม ?

หากเป็นอาการบวมแบบปกติ ไม่จำเป็นต้องหาวิธีมาลดบวมครับ เพราะสามารถหายได้เอง และไม่ใช่อาการบวมที่ผิดสังเกตจนต้องกังวลใจ ที่สำคัญสามารถยุบบวมได้เอง หรือหากต้องการให้ยุบบวมเร็ว ๆ อาจใช้วิธีลดอาการบวมด้วยการประคบเย็นบริเวณที่บวมได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนครับ เนื่องจากจะต้องประคบอย่างถูกวิธี ไม่ออกแรงกดหรือลงน้ำหนักมากเกินไป เพราะอาจกระทบต่อเนื้อฟิลเลอร์ที่ฉีดไป 

แต่ในกรณีที่คนไข้รู้สึกมีอาการบวมผิดปกติ บวมนานหลายสัปดาห์ แนะนำให้กลับมาปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงครับ 

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแล้วบวมกับเป็นคลื่น ต่างกันไหม ?

หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแล้วบวม (แบบปกติ) จะต่างจากอาการหลังฉีดแล้วเป็นคลื่นครับ ในกรณีที่เป็นคลื่นมักพบในช่วงหลัง 5-7 วัน หลังจากที่ฟิลเลอร์เริ่มยุบบวมจากอาการตามปกติ โดยสาเหตุมาจากเทคนิคการฉีดของแพทย์ครับ เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากต้องฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้องในชั้นเยื่อหุ้มกระดูกเท่านั้น จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดี เนียนเรียบ เป็นธรรมชาติและไม่เป็นคลื่น ในทางกลับกันหากเทคนิคการฉีดไม่เหมาะก็อาจทำให้เป็นคลื่นได้ครับ

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแล้วบวมมีข้อห้ามอะไรบ้าง ? 

เพื่อลดอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก และทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็วขึ้น หมอแนะนำให้ปฏิบัติตัว ดังนี้ครับ

• หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกา กดนวดในบริเวณที่ฉีด อาการต่างๆ จะดีขึ้นใน 2-3 วัน
• หากก่อนทำไม่ได้กินยาฆ่าเชื้อ หลังทำควรรีบกินยาฆ่าเชื้อทันที
• คลินิกจะจ่ายยาแก้ปวด, ลดบวม ควรรับประทานให้ครบ
• หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ การดื่มแอลกอฮอล์ ความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 3 วันหลังทำ
• อย่าขยับใบหน้าเยอะโดยเฉพาะในช่วง 3 วันหลังทำ จะทำให้ฟิลเลอร์ที่ทำไว้เคลื่อนผิดตำแหน่งได้
• ให้งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เช่น RF thermage อย่างน้อย 1 เดือน

รีวิวการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

(ในเคสนี้คนไข้มีลักษณะหน้าผากที่เป็นแอ่งตรงกลางครับ ทำให้มิติของใบหน้าไม่สมดุล หลังเติมฟิลเลอร์หน้าผาก 5 CC  หน้าผากจึงดูเต็มขึ้น สัดส่วนใบหน้าสวยงาม) 

  (คนไข้มีลักษณะหน้าผากบุ๋มลง หลังเติมฟิลเลอร์หน้าผาก  หน้าผากจึงดูเต็มขึ้น) 

(เคสนี้คนไข้มีลักษณะหน้าผากเดิม ไม่เรียบเนียน มีบางจุดที่ยุบลง โดยเฉพาะบริเวณเหนือคิ้ว ทำให้หน้าดูแข็ง ดูมีอายุ เมื่อเติมฟิลเลอร์หน้าผากให้เต็มสวย ก็จะช่วยให้ภาพรวมใบหน้าดูละมุนขึ้นครับ)

(ในเคสนี้คนไข้อยากปรับทรงหน้าผาก ให้โหนกนูน เสริมโหงวเฮ้ง โดยหน้าผากเดิมมีอยู่บ้างครับแต่ไม่โค้งสวย จึงใช้ฟิลเลอร์หน้าผากเติมปรับทรงให้โหนกขึ้น เนียนขึ้น สัดส่วนใบหน้าสวยงาม และมีลักษณะตามโหงวเฮ้งหน้าผากที่ดีครับ)

สรุป

ใครที่สนใจฉีดฟิลเลอร์หน้าผากและกังวลอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก บวมกี่วัน คำตอบคือประมาณ 5-7 วันครับ ซึ่งบวมไม่มาก สามารถออกงานได้ และส่วนใหญ่เป็นอาการบวมเข็มและเป็นอาการบวมจากการอุ้มน้ำของ HA ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่สามารถหายได้เองครับ

ฟิลเลอร์หน้าผากจะเข้ารูปสวยงามชัดเจนใน 14 วัน ถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน แก้ปัญหาหน้าผากแบน ยุบ แคบ เป็นแอ่ง หรือต้องการเสริมโหงวเฮ้งหน้าผากครับ

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ฟิลเลอร์ neuramis

ฟิลเลอร์ Neuramis เป็นยี่ห้อฟิลเลอร์เกาหลีที่มีใช้กันในคลินิกเสริมความงามทั่วไป จุดเด่นหลัก ๆ ที่ทำให้ฟิลเลอร์นี้ได้รับการพูดถึงคือเรื่องของราคาที่ถูกกว่าเมื่อเทียบกับฟิลเลอร์ฝั่งยุโรปครับ แต่การจะฉีดฟิลเลอร์ให้ปลอดภัย รีวิวผลลัพธ์สวยงาม ไม่เป็นก้อน จะดูเรื่องของราคาอย่างเดียวไม่ได้ครับ 

ก่อนตัดสินใจฉีด Filler นิวรามิส ดีไหม ? อยู่ได้กี่เดือน ? ต้องเช็กก่อนครับว่าเป็นฟิลเลอร์ ของแท้หรือไม่ ? ต่างจากฟิลเลอร์ปลอมอย่างไร ? นอกจาก Neuramis Deep Classic รุ่นแรกที่เข้ามาในไทย มีรุ่นไหนอีกบ้าง ? ที่ผ่าน อย. ซื้อฟิลเลอร์นิวรามิส ราคาส่ง จากอินเทอร์เน็ต หรือแอปพลิเคชันขายของออนไลน์ มาฉีดได้ไหม ? หมอตอบทุกข้อสงสัยในบทความนี้  

สารบัญ ฟิลเลอร์ neuramis

• ฟิลเลอร์ Neuramis คืออะไร ? 
• ฟิลเลอร์ Neuramis อันตรายไหม ? 
• ฟิลเลอร์ Neuramis มีอาการข้างเคียงหรือไม่ ?
• ฟิลเลอร์ Neuramis ต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร ?
• ฟิลเลอร์ Neuramis มีกี่รุ่น ?
• ฟิลเลอร์ Neuramis แต่ละรุ่นราคาเท่าไหร่ ?
• ฟิลเลอร์ Neuramis แต่ละรุ่นอยู่ได้นานไหม ?
• ฟิลเลอร์ Neuramis ดีอย่างไร ?  
• ฟิลเลอร์ Neuramis ของแท้ ดูอย่างไร ผ่าน อย. ไหม ?
• ฟิลเลอร์ Neuramis สามารถฉีดต่อจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นได้ไหม ?
• ฟิลเลอร์ Neuramis เหมาะกับการฉีดตำแหน่งไหน ?
• ฟิลเลอร์ Neuramis มีผลข้างเคียงกับหัตถการอื่นไหม ?

ฟิลเลอร์ Neuramis คืออะไร ? 

ฟิลเลอร์ Neuramis คือ ยี่ห้อฟิลเลอร์ของเกาหลีครับ ผลิตโดยบริษัท Medytox นำเข้าโดยบริษัท Medyceles ประเทศไทย ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่เรียกว่า SHAPE Technology ย่อมาจาก Stabilized Hyaluronic Acid & Purification Enhancement

Filler Neuramis เป็นสารเติมเต็มไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) ที่สามารถนำมาฉีดเติมเต็มปรับรูปหน้าได้หลายตำแหน่งครับ สลายได้เองตามธรรมชาติ ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (USFDA) และคณะกรรมการยุโรปสำหรับคุณภาพของยาและการดูแลสุขภาพ (EDQM) ว่ามีความปลอดภัย  

ฟิลเลอร์ Neuramis อันตรายไหม ? 

ถ้าฉีดฟิลเลอร์ Neuramis ของแท้ เป็น HA Filler ก็มั่นใจได้ในความปลอดภัยครับ แต่ไม่ใช่ทุกรุ่นของฟิลเลอร์นิวรามิสที่ผ่าน อย. ก่อนฉีดจึงต้องตรวจสอบให้แน่ใจเสียก่อน ถ้ามีคลินิกไหนนำรุ่นที่ไม่ผ่าน อย.มาฉีด แสดงว่าเป็นฟิลเลอร์หิ้ว นำเข้าผิดกฎหมาย ไม่มีการควบคุมมาตรฐานคุณภาพยา ไม่ได้จัดเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม แบบนี้ฟิลเลอร์เสื่อมสภาพแน่นอนครับ ฉีดแล้วไม่ได้ผล หรือเห็นผลแต่อยู่ได้ไม่นาน หรือที่แย่กว่าคืออาจเกิดอาการข้างเคียงตามมา

ฟิลเลอร์ Neuramis มีอาการข้างเคียงหรือไม่ ? 

อาการข้างเคียงที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ ในกรณีที่ใช้ฟิลเลอร์นิวรามิสที่ไม่ผ่าน อย. ฟิลเลอร์หิ้ว หรือฟิลเลอร์ปลอม จำพวกซิลิโคนเหลว พาราฟิน สาร PMMA (Polymethyl-methacrylate microspheres) ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มฟิลเลอร์แบบถาวร (Permanent Filler) หลังฉีดผิวจะไม่สามารถดูดซึมฟิลเลอร์ชนิดนี้ได้ ทำให้คงค้างอยู่ในชั้นผิว ไม่สลายไปตามธรรมชาติ ก่อให้เกิดผลข้างเคียงในระยะยาว เช่น 

• แพ้ฟิลเลอร์ ปวด บวม แดง
• ฟิลเลอร์เน่า อักเสบติดเชื้อ เป็นหนอง  
• ฟิลเลอร์เป็นก้อนแข็ง  
• ฟิลเลอร์ไหลย้อยผิดทิศทาง 
• ใบหน้าผิดรูป 

ฟิลเลอร์ Neuramis ต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร ?

ถ้าลองหาข้อมูลยี่ห้อฟิลเลอร์ จะพบว่ามีฟิลเลอร์หลายยี่ห้อ จากหลายประเทศครับ ทั้งฝั่งยุโรปและฝั่งเอเชีย หมอเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างฟิลเลอร์ยี่ห้อ Neuramis กับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจ       

• ฟิลเลอร์ Neuramis (เกาหลี) ผลิตด้วย SHAPE Technology ช่วยเติมเต็มแก้ปัญหาบริเวณต่าง ๆ บนใบหน้า แต่จุดเด่นที่ทำให้นิวรามิสถูกพูดถึงมาก คือ มีราคาที่ย่อมเยา เมื่อเทียบกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ แต่ถ้าบางคลินิกมีราคาฟิลเลอร์ที่ถูกมากเกินไป ก็อาจมีความเสี่ยงเป็นฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้วที่ไม่ได้มาตรฐานได้
• ฟิลเลอร์ Juvederm (อเมริกา) ผลิตด้วย Hylacross และ Vycross Technology ถูกออกแบบมาให้มีส่วนผสมของยาชา มีจุดเด่นที่ความเรียบเนียน มีหลายรุ่นเพื่อครอบคลุมปัญหาทุกส่วนของใบหน้า เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม ปาก คาง ขมับ ร่องแก้ม ได้รับความนิยมทั่วโลก
• ฟิลเลอร์ Restylane (สวีเดน) ผลิตด้วย NASHA และ OBT Technology โดดเด่นเรื่องขนาดโมเลกุลฟิลเลอร์มีเม็ดใหญ่ ช่วยให้อยู่ได้นานขึ้น และมีค่าความแข็งสูง จึงนิยมนำมาฉีดยกพยุงผิว มีความยืดหยุ่นดี และมีหลายรุ่นให้เลือกใช้เพื่อแก้ปัญหาในแต่ละตำแหน่ง
• ฟิลเลอร์ Belotero (สวิตเซอร์แลนด์) ผลิตด้วย CPM Technology (Cohesive Polydensified Matrix) มีหลายรุ่นให้เลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม ทั้งฉีดเสริมกระดูกและเนื้อเยื่อผิวหนังที่ยุบตัวลงตามวัย และยังมีรุ่นที่ช่วยบำรุงผิวชุ่มชื้นฉ่ำวาว ฟื้นฟูผิวแข็งแรง
• ฟิลเลอร์ Definisse (อิตาลี) ผลิตด้วย XTR™ Technology (eXcellent Three-Dimensional Reticulation) ทำให้ Hyaluronic Acid สานกันเป็นร่างแห ช่วยในการยกพยุง และปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ
• ฟิลเลอร์ Flore Max (เกาหลี) ผลิตด้วย HCCL™ Technology เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากเกาหลี ใช้ตัวเชื่อม Cross-linked น้อยที่สุด แต่สามารถเชื่อมกับ HA ได้ทุกตำแหน่งแบบ 3 มิติ ทำให้มีความคงรูปและปั้นทรงได้ดี ไม่ไหล ไม่เป็นก้อน และมีความละมุน ดูเป็นธรรมชาติ   

ก่อนฉีดหมอจะต้องประเมินปัญหา สภาพผิวของคนไข้ และแนะนำยี่ห้อฟิลเลอร์ว่าควรใช้ยี่ห้อไหน รุ่นไหนจะเหมาะสมครับ 

ฟิลเลอร์ Neuramis มีกี่รุ่น ? 

ฟิลเลอร์นิวรามิส มีทั้งหมด 5 รุ่น แต่รุ่นที่ผ่าน อย.ไทย จะมีอยู่ 3 รุ่น ได้แก่ 

• Neuramis Deep Classic เป็นรุ่นแรกที่เข้ามาในไทย ฟิลเลอร์เนื้อเจลหนืดปานกลาง ไม่มีส่วนผสมของยาชา 
• Neuramis Deep Lidocaine ฟิลเลอร์เนื้อเจลหนืดปานกลาง มีส่วนผสมของยาชา
• Neuramis Volume Lidocaine ฟิลเลอร์เนื้อเจลหนืด มีความคงรูป คงตัวสูง มีส่วนผสมของยาชา

ส่วนอีก 2 รุ่น คือ Neuramis Light Lidocaine และ Neuramis Lidocaine ถ้าคลินิกไหนนำมาใช้ ถือว่าลักลอบเข้ามาหรือที่เรียกว่า ฟิลเลอร์หิ้ว ซึ่งไม่ผ่าน อย. ไม่ได้เก็บรักษาอย่างถูกต้อง ไม่ควรฉีดเด็ดขาดครับ เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย 

ฟิลเลอร์ Neuramis แต่ละรุ่นราคาเท่าไหร่ ? 

จากการสำรวจราคาฟิลเลอร์ Neuramis ทั้ง 3 รุ่น แต่ละรุ่นราคาต่อ 1 CC ไม่แตกต่างกันมากครับ 

• Neuramis Deep Classic ราคาเริ่มต้นประมาณ 5,000-8,000 บาท 
• Neuramis Deep Lidocaine ราคาเริ่มต้นประมาณ 5,000-8,000 บาท
• Neuramis Volume Lidocaine ราคาเริ่มต้นประมาณ 5,000-8,000 บาท

ที่ต้องระวังคือมีบางคลินิกจัดโปรโมชันฉีดฟิลเลอร์ Neuramis เริ่มต้น 2-3 พันบาท ก็มีครับ ซึ่งไม่ควรฉีด เพราะเสี่ยงเป็นฟิลเลอร์หิ้ว เหมือนกับฟิลเลอร์นิวรามิส ราคาส่ง ที่ซื้อจากอินเทอร์เน็ต หรือแอปพลิเคชันขายของออนไลน์ครับ 

ฟิลเลอร์ Neuramis แต่ละรุ่นอยู่ได้นานไหม ? 

• Neuramis Deep Classic อยู่ได้นานสูงสุด 12 เดือน
• Neuramis Deep Lidocaine อยู่ได้นานสูงสุด 12 เดือน
• Neuramis Volume Lidocaine อยู่ได้นานสูงสุด 24 เดือน

* ระยะเวลาอยู่ได้นานของฟิลเลอร์ ขึ้นอยู่กับการดูแลของแต่ละบุคคล 

ฟิลเลอร์ Neuramis ดีอย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Neuramis ช่วยเติมเต็ม ยกกระชับ และปรับรูปหน้าได้หลากหลาย และมีราคาย่อมเยาครับ เหมาะกับคนที่มีงบประมาณจำกัด แต่อยากแก้ไขปัญหาต่าง ๆ บนใบหน้า โดยแต่ละรุ่นจะมีข้อดีแตกต่างกัน ดังนี้    

• Neuramis Deep Classic เหมาะกับการแก้ไขข้อบกพร่องทุกจุดบนใบหน้า สามารถขึ้นรูปได้ง่ายและหลากหลาย นิยมเติมริ้วรอยร่องแก้ม แก้มตอบ ขมับตอบ     
• Neuramis Deep Lidocaine ข้อดีจะเหมือนกับ Neuramis Deep Classic แต่เป็นรุ่นที่มีส่วนผสมของยาชา 0.3% ช่วยลดความเจ็บขณะฉีด   
• Neuramis Volume Lidocaine มีความคงรูปและคงตัวสูง ช่วยยกกระชับ ปรับรูปหน้า นิยมเติมขมับ คาง กรอบหน้า  

ด้วยความที่ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Neuramis มีรุ่นฟิลเลอร์ให้เลือกได้ไม่หลากหลายเท่าฟิลเลอร์ฝั่งยุโรป คลินิกเสริมความงามชั้นนำส่วนใหญ่จึงนิยมเลือกใช้ฟิลเลอร์ฝั่งยุโรป ซึ่งมีหลายรุ่นให้เลือกใช้มากกว่าครับ เพราะการฉีดฟิลเลอร์แต่ละตำแหน่ง ก็จำเป็นต้องใช้เนื้อฟิลเลอร์ที่แตกต่างกันในแต่ละปัญหาครับ 

ที่ V Square Clinic มีฟิลเลอร์หลากหลายยี่ห้อให้แพทย์เลือกใช้ แต่ละยี่ห้อก็จะมีรุ่นย่อย ๆ ที่มีคุณสมบัติต่างกัน ประสบการณ์และเทคนิคของแพทย์ มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการเลือกเนื้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละบุคคล เพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัย สวยงาม และเป็นธรรมชาติ   

ฟิลเลอร์ Neuramis ของแท้ ดูอย่างไร ผ่าน อย. ไหม ?

มีวิธีสังเกตและตรวจสอบครับว่าฟิลเลอร์ Neuramis ที่ฉีดเป็นของแท้หรือของปลอม โดยทั้ง 3 รุ่นที่ผ่าน อย. จะใช้วิธีการตรวจสอบที่เหมือนกัน ดังนี้ 

• สภาพกล่องซีลปิดผนึกเรียบร้อย มี Security Sticker ซึ่งเป็น Sticker Hologram พิเศษที่ออกแบบมาสำหรับ Neuramis ของแท้เท่านั้น สติกเกอร์จะติดอยู่บนกล่องฟิลเลอร์ เมื่อแกะออกจะทิ้งรอย Void ไว้ ทำให้มั่นใจได้ว่าฟิลเลอร์กล่องนี้ถูกเปิดใช้งานเป็นครั้งแรก 
• มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยข้างกล่อง
• มีฉลากแสดงรุ่นที่ผลิต วันที่ผลิต วันหมดอายุ ภาษาไทยข้างกล่อง 
• สแกน QR CODE ด้านข้างกล่อง
• สอบถามเลข Lot. กับ MedyCeles ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายในประเทศไทย โทร. 0-2117-9151 

โดยปกติคลินิกที่ได้มาตรฐาน ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหน รุ่นไหน แพทย์จะต้องแกะกล่องให้ดูต่อหน้า ให้กล่องกลับบ้าน โดยไม่ต้องรอให้คนไข้แจ้งครับ 

แต่ถ้าคลินิกไหนไม่แกะกล่องให้ดูต่อหน้า คนไข้สามารถบอกได้เลยครับเพราะถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ที่จะต้องมั่นใจในความปลอดภัยก่อนเลือกใช้บริการ รวมทั้งให้กล่องกลับบ้านไว้ตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อความสบายใจ แต่ถ้าคลินิกไม่ให้ ด้วยเหตุผลว่าต้องเก็บไว้เช็กสต็อก หรือด้วยเหตุผลอื่น ๆ ถือว่าฟังไม่ขึ้นครับ    

ฟิลเลอร์ Neuramis สามารถฉีดต่อจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นได้ไหม ?

ถ้าฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นมาก่อนหน้า เช่น คนไข้เคยฉีดฟิลเลอร์ Juvederm และมาเติมฟิลเลอร์ Neuramis เพราะตรงกับงบประมาณที่มีในช่วงนั้น ๆ ก็สามารถทำได้ครับ  แต่ต้องให้แพทย์ประเมินก่อน เพราะฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ มีขนาดโมเลกุลที่ต่างกัน เหมาะกับการแก้ปัญหาที่ต่างกันในแต่ละตำแหน่ง และต้องดูด้วยครับว่าคลินิกนั้นใช้ฟิลเลอร์นิวรามิสหรือไม่  

ฟิลเลอร์ Neuramis เหมาะกับการฉีดตำแหน่งไหน ?

ฟิลเลอร์ Neuramis Deep, Neuramis Deep Lidocaine, Neuramis Volume Lidocaine สามารถฉีดเติมเต็ม ปรับรูปหน้าได้หลายตำแหน่ง เช่น  

• ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก 
• ฉีดฟิลเลอร์ขมับ
• ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 
• ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ 
• ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม  
• ฉีดฟิลเลอร์คาง
• ฉีดฟิลเลอร์ปาก

แพทย์ที่มีประสบการณ์จะช่วยประเมินปัญหา สภาพผิว เลือกรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะกับตำแหน่งนั้น ๆ และจำนวน CC ที่เหมาะสมครับ 

ฟิลเลอร์ Neuramis มีผลข้างเคียงกับหัตถการอื่นไหม ?

ถ้าฉีดฟิลเลอร์ Neuramis ของแท้ และฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ ก็มั่นใจได้ในผลลัพธ์และความปลอดภัย ไร้ผลข้างเคียง 

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น แพทย์อาจจะแนะนำให้คนไข้ทำ 1-2 หัตถการร่วมกัน โดยการฉีดฟิลเลอร์สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น เช่น ฉีดฟิลเลอร์กับร้อยไหม คนไข้ที่มีปัญหาร่องใต้ตาลึก สามารถแก้ไขด้วยฟิลเลอร์ควบคู่ไปกับการร้อยไหมยกกระชับหน้าได้ครับ การทำทั้งสองหัตถการจะช่วยให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

สามารถทำร่วมกับเครื่องยกกระชับ เช่น Hifu Ultraformer lll, Ulthera SPT, Thermage FLX แต่การจะเลือกทำอะไรก่อนหลัง แพทย์จะเป็นผู้ประเมินปัญหาผิวของแต่ละคน และเลือกวิธีที่เหมาะสม เพื่อผลลัพธ์ที่ดี ดูเป็นธรรมชาติ และตรงกับความต้องการครับ 

สรุป

สำหรับใครที่ฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรก หรืออยากเปลี่ยนยี่ห้อฟิลเลอร์จากฝั่งยุโรปมาเป็นฝั่งเกาหลี ฉีด Neuramis filler ดีไหม ? ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ฟิลเลอร์นิวรามิสเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัด แต่ถ้าเทียบกับรุ่นอื่น ๆ ก็มีข้อด้อยในเรื่องของรุ่นฟิลเลอร์ ที่มีให้แพทย์เลือกใช้ในการแก้ปัญหาน้อยกว่าฟิลเลอร์ฝั่งยุโรปครับ

ในขั้นตอนการเตรียมตัวฉีดฟิลเลอร์ นอกจากรู้จักยี่ห้อฟิลเลอร์นั้น ๆ รู้วิธีดูฟิลเลอร์แท้ และฟิลเลอร์ที่นำมาฉีดต้องเป็นของแท้แล้ว ยังขึ้นอยู่กับคลินิกที่ฉีดด้วย การเลือกคลินิก เลือกหมอ ก็สำคัญไม่แพ้กัน ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ถึงจะปลอดภัย ดูธรรมชาติ อ่านเพิ่มเติมได้ครับ
 

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ฟิลเลอร์ปลอม

ฟิลเลอร์ปลอม ยังมีให้เห็นกันอยู่ครับ หลายคนหลงเชื่อคำโฆษณาที่บอกว่าฉีดฟิลเลอร์แล้วอยู่ได้คงทน ถาวร หรือเห็นแก่ฟิลเลอร์ราคาถูก ฟิลเลอร์หิ้ว ก็มีโอกาสเสี่ยงเจอฟิลเลอร์ปลอม ซึ่งผลลัพธ์นั้นได้ไม่คุ้มเสียครับ ก่อนตัดสินใจฉีด filler ควรศึกษาข้อมูลฟิลเลอร์ปลอม อันตรายไหม ? วิธีแยกฟิลเลอร์ปลอมกับแท้ เพื่อความปลอดภัยครับ   

สารบัญ ฟิลเลอร์ปลอม 

1. ฟิลเลอร์ปลอม คืออะไร ? 
2. วิธีแยกฟิลเลอร์ปลอมกับแท้ 
3. อาการหลังฉีดฟิลเลอร์ปลอมเป็นอย่างไร ? 
4. อันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม 
5. ฉีดฟิลเลอร์ปลอมแล้วมีปัญหา ควรแก้อย่างไร ?
6. ฟิลเลอร์ปลอมสลายได้ไหม ?
7. ฟิลเลอร์ปลอมควรหลีกเลี่ยงอย่างไร ?

ฟิลเลอร์ปลอม คืออะไร ? 

• ฟิลเลอร์ที่นำเข้าผิดกฎหมาย ไม่ผ่านการรับรองจาก อย.  
• ฟิลเลอร์ปลอม ซิลิโคนเหลว พาราฟิน ไบโอพลาสติก 
• ฟิลเลอร์เสื่อมคุณภาพ ไม่มีการเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม 
• ฟิลเลอร์ราคาถูก พบได้ตามคลินิกเถื่อน ฉีดกับหมอกระเป๋า 
• ฟิลเลอร์ที่มีฉลากไม่ชัดเจน มีร่องรอยการแกะกล่อง 

ในทางการแพทย์ ฟิลเลอร์แท้ที่ปลอดภัยจะหมายถึงการฉีดสารเติมเต็ม (Injectable Filler) ประเภทไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) สลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย จัดอยู่ในกลุ่ม Temporary Fillers หรือฟิลเลอร์แบบชั่วคราวครับ 

แต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่นจะมีระยะเวลาอยู่ได้นานที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ 6-24 เดือน หลังฟิลเลอร์สลาย สามารถฉีดเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ 

ปัจจุบันฟิลเลอร์มีหลายยี่ห้อ นำเข้าจากหลายประเทศ เช่น อเมริกา, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์, อิตาลี แต่ไม่ว่าจะฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี สิ่งสำคัญคือต้องเป็นฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองจาก U.S.FDA และ อย.ไทย 

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ คนไข้สามารถนำชื่อยี่ห้อฟิลเลอร์ไปตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ ตรวจสอบการอนุญาตของ อย. สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข

วิธีแยกฟิลเลอร์ปลอมกับแท้

ฟิลเลอร์แท้ ฟิลเลอร์ปลอม ถ้ามองเผิน ๆ อาจจะแยกไม่ออกครับ เพราะทำเลียนแบบออกมาจนแทบแยกไม่ออก แต่จะมีจุดสังเกตให้คนไข้ตรวจสอบครับ เพื่อความปลอดภัย ฟิลเลอร์แท้จะต้องมีรายละเอียดเหล่านี้ครบถ้วน ได้แก่  

• มีเลขทะเบียน อย.
• มีเอกสารกำกับภาษาไทย 
• เลข Lot. ตรงกันทุกจุด เช่น ที่กล่อง สติกเกอร์ และหลอด 
• โทรสอบถามเลข Lot. กับบริษัทนำเข้าฟิลเลอร์ยี่ห้อนั้น ๆ ได้   

ตัวอย่างวิธีดูฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านอย.

ฉีดฟิลเลอร์ที่ V Square Clinic มั่นใจได้ในความปลอดภัย ใช้ฟิลเลอร์แท้ แบรนด์ระดับโลก Restylane / Juvederm / Belotero / Definisse หมอแกะกล่องใหม่ให้ดูต่อหน้า ให้กล่องกลับบ้าน ตรวจสอบกับบริษัทนำเข้าได้ทุกกล่อง 

อาการหลังจากฉีดฟิลเลอร์ปลอมเป็นอย่างไร ?

ในระยะแรก ๆ จะยังรู้สึกเหมือนปกติครับ แต่เมื่อเวลาผ่านไปจะเริ่มเกิดความผิดปกติ เป็นก้อน ไหลย้อย เช่น ถ้าฉีดจมูกก็จะบวมและไหลกองลงมาข้าง ๆ ทำให้ไม่เป็นสัน หรือถ้าฉีดโหนกแก้ม ก็จะย้อยลงมาที่แก้มทำให้ผิวห้อย หรืออาการรุนแรงมากขึ้น บวมแดง อักเสบมากขึ้นเรื่อย ๆ 

ยกตัวอย่างสมัยก่อนที่นิยมฉีดสารเติมเต็มประเภทซิลิโคนเหลว หรือพาราฟิน เพราะหลงเชื่อคำโฆษณาว่าฉีดแล้วอยู่ได้ถาวร และราคาไม่แพง แต่ผลลัพธ์ได้ไม่คุ้มเสียครับ เพราะไม่สามารถสลายได้เอง โดยจัดอยู่ในกลุ่ม Permanent Filler หรือฟิลเลอร์แบบถาวร ซึ่งจะก่อให้เกิดผลข้างเคียงในระยะยาว ไม่ควรฉีดเด็ดขาด 

• 3-5 ปี จะเริ่มไหลกองลงมาเป็นก้อน
• บวม ห้อยย้อย เป็นก้อนแข็ง
• ทำให้ผิวหนังบริเวณที่ฉีดผิดรูป
• เนื้อตาย เกิดพังผืด
• บวม แดง อักเสบติดเชื้อ

อันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม

• บวมเป็นก้อน เป็นลำ ไหลย้อยผิดรูป 
• จับตัวเป็นก้อนและกลายเป็นพังผืด 
• เน่า อักเสบ ติดเชื้อ 
• เส้นประสาทถูกทำลาย 
• อุดตันในเส้นเลือด เนื้อตายเสี่ยงตาบอด 
• ไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ

อันตรายจากฟิลเลอร์ปลอม มีให้เห็นกันตามสื่อโซเชียล นอกจากจะใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานแล้ว ยังมีที่ฉีดกับหมอเถื่อน หมอกระเป๋า ผู้ที่ฉีดไม่ใช่แพทย์ ทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมา เช่น ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน บวม อักเสบ รุนแรงถึงฟิลเลอร์เน่า ใบหน้าเสียโฉมเลยก็มีครับ 

ฉีดฟิลเลอร์ปลอมแล้วมีปัญหา ควรแก้อย่างไร ?

ฉีดฟิลเลอร์ปลอมมาแล้วมีปัญหา ทางแก้ในปัจจุบันจะมีอยู่ 2 วิธี คือ  

• ขูดฟิลเลอร์ โดยแพทย์จะเปิดผิว และใช้เครื่องมือทางการแพทย์เข้าไปขูดฟิลเลอร์ออก แต่ขูดออกได้เพียง 60-70% เท่านั้น ไม่สามารถขูดออกได้ทั้งหมด เสี่ยงโดนเส้นเลือดและเส้นประสาท 
• ผ่าตัด ถ้าเป็นซิลิโคนเหลวที่ก้อนใหญ่และแข็งมาก หรือฉีดฟิลเลอร์ปลอมมานานจนเป็นพังผืดเกาะ จำเป็นต้องผ่าตัดครับ แต่อาจผ่าตัดออกได้ไม่หมด และการผ่าตัดทำต้องทำโดยศัลยแพทย์ที่โรงพยาบาล เพราะมีความเสี่ยงต่อเส้นประสาทและเส้นเลือดสำคัญ  

ฟิลเลอร์ปลอมสลายได้ไหม ? 

• ฟิลเลอร์ปลอม ไม่สามารถฉีดสลายได้ 
• ต้องขูดฟิลเลอร์ออกหรือผ่าตัดออกเท่านั้น

กรณีฉีดฟิลเลอร์ปลอมมา จะไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ หรือฉีดสลายด้วยตัวยาไฮยาโลรูนิเดส (Hyaluronidase) เหมือนฉีดสลาย HA Filler ต้องขูดฟิลเลอร์ออกหรือผ่าตัดออก ตามที่หมอได้อธิบายไปข้างต้นครับ 

ฟิลเลอร์ปลอมควรหลีกเลี่ยงอย่างไร ? 

ฟิลเลอร์ปลอมหลีกเลี่ยงได้ครับ วิธีที่ดีที่สุด คือ การเช็กให้ชัวร์ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ตั้งแต่มาตรฐานของคลินิก ประสบการณ์ของแพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ รวมทั้งรีวิวจากผู้จากใช้บริการ เพื่อให้มั่นใจในผลลัพธ์และความปลอดภัย  

• คลินิกต้องได้มาตรฐาน ก่อนฉีดฟิลเลอร์ การเลือกคลินิกเป็นเรื่องสำคัญครับ ต้องมั่นใจว่าเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก ติดไว้หน้าคลินิก และใบอนุญาตประกอบกิจการ ติดไว้ในที่เปิดเผยและเห็นได้ง่าย  
• ฉีดโดยแพทย์มากประสบการณ์ การฉีดฟิลเลอร์ให้ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดี ต้องฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ครับ รู้เทคนิคการฉีด พิถีพิถันในทุกขั้นตอน เลือกยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสม 
• ใช้ฟิลเลอร์แท้ ฟิลเลอร์ที่คลินิกเลือกใช้ จะต้องเป็นสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid (HA) ที่ผ่านการรับรองจาก อย. สลายหมด ไม่มีสารตกค้าง สามารถตรวจสอบได้ทุกกล่องก่อนฉีด 
• มีรีวิวที่น่าเชื่อถือ รีวิวต้องเป็นรีวิวที่เป็นปัจจุบัน มีทั้งภาพนิ่งและคลิปวิดีโอ เพื่อจะได้เห็นทุกขั้นตอน ตั้งแต่ก่อนฉีดฟิลเลอร์ว่าหมอมีการแกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้าก่อนฉีดไหม รวมถึงระหว่างฉีดฟิลเลอร์ และหลังฉีดฟิลเลอร์  

สรุป

ฟิลเลอร์ปลอมอันตรายครับ ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นมีตั้งแต่บวมเป็นก้อนแข็ง ไปจนถึงเน่า อักเสบ อุดตัน เสียโฉม ซึ่งคงไม่มีใครอยากได้ผลลัพธ์เช่นนั้น คนที่มาฉีดฟิลเลอร์ต่างก็คาดหวังผลลัพธ์ที่สวยงาม ฉีดแล้วดูดี

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ