ฟิลเลอร์ Juvederm

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ juvederm ของอเมริกา เป็นหนึ่งในยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากแพทย์ทั่วโลกว่ามีความปลอดภัยสูง จึงนิยมนำมาใช้ในหลาย ๆ คลินิกชั้นนำครับ เนื่องจากเนื้อฟิลเลอร์มีคุณสมบัติที่หลากหลาย เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว ฉีดได้หลายตำแหน่งบนใบหน้า ช่วยปรับรูปหน้าให้สวย ดูสมส่วน และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ

ฟิลเลอร์ juvederm ดีอย่างไร มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นเหมาะกับฉีดตำแหน่งไหนบ้าง ? ฟิลเลอร์ juvederm ต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร มีข้อดีอะไรบ้าง ? ราคาเท่าไหร่ ? filler  juvederm ของแท้ ได้มาตรฐาน สังเกตอย่างไร ? คนไข้สามารถ ศึกษาข้อมูลทั้งหมดได้ในบทความนี้ครับ

สารบัญ ฟิลเลอร์ Juvederm

1. ฟิลเลอร์ juvederm คืออะไร ?
2. ฟิลเลอร์ juvederm ต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร มีข้อดีอะไรบ้าง ?
3. ฟิลเลอร์ juvederm มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นอยู่ได้กี่เดือน ?
4. ฟิลเลอร์ juvederm ของแท้แต่ละรุ่น ดูอย่างไร
5. ฟิลเลอร์ juvederm แพงกว่ายี่ห้ออื่นไหม ?
6. ฟิลเลอร์ juvederm แต่ละรุ่น เหมาะกับการฉีดตำแหน่งไหน ?
7. โปรโมชั่นฟิลเลอร์ juvederm

ฟิลเลอร์ juvederm คืออะไร ?

ฟิลเลอร์ juvederm คือฟิลเลอร์ของประเทศอเมริกา ผลิตโดยบริษัท Allergan ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับที่ผลิต Botox Allergan ครับ เป็นยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากแพทย์ทั่วโลก และได้รับรองการนำเข้าอย่างถูกต้องจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา  (อย.) 

ฟิลเลอร์ juvederm จะผลิตโดยใช้เทคโนโลยีเฉพาะของ Allergan ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีคุณสมบัติที่หลากหลาย เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว สามารถเลือกนำมาใช้ให้เหมาะสมกับปัญหาและบริเวณที่ฉีดได้หลายตำแหน่งบนใบหน้า เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม ปาก คาง ขมับ และแก้มตอบ

ฟิลเลอร์ juvederm ต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร มีจุดเด่นอะไรบ้าง ?

จุดเด่นของฟิลเลอร์ Juvederm คือจะผลิตโดยใช้ 2 เทคโนโลยีเป็นเทคโนโลยีเฉพาะ คือ Hylacross Technology และ Vycross Technology เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์แต่ละรุ่นมีความแตกต่างกันทางกายภาพ เช่น ความคงตัว ความยืดหยุ่น การกระจายตัว ค่าความอุ้มน้ำ และขนาดของเม็ดฟิลเลอร์ นอกจากนี้เนื้อฟิลเลอร์ Juvederm ยังมีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) ในทุกรุ่น จึงช่วยให้ขณะฉีดไม่รู้สึกเจ็บครับ

• Hylacross Technology เป็นเทคโนโลยีตัวดั้งเดิมของฟิลเลอร์ Juvederm เด่นในเรื่องค่าความอุ้มน้ำ ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความละเอียด ฉีดแล้วฟู เหมาะสำหรับฉีดบริเวณที่ผิวมีการขยับบ่อย ๆ เช่น ร่องแก้ม แก้ปัญหาแก้มตอบ
• Vycross Technology เป็นเทคโนโลยีตัวใหม่ล่าสุด ลิขสิทธิ์เฉพาะของ Allergan ที่ถูกพัฒนาให้มีคุณสมบัติเด่นในการช่วยยกกระชับ เพราะมีโมเลกุลหนาแน่น และมีอัตราการบวมน้ำหรืออุ้มน้ำน้อย ช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีดเรียบเนียน ไม่เป็นก้อน มีความเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นาน เหมาะสำหรับฉีดเพื่อเพิ่มความอวบอิ่มของริมฝีปาก หรือฉีดเติมเต็มร่องแก้ม

นอกจากนี้ยังมีฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ที่ได้รับความนิยมและมีจุดเด่นที่ต่างกันออกไป เช่น ฟิลเลอร์ Restylane, ฟิลเลอร์ Belotero และ ฟิลเลอร์ Definisse แต่ละยี่ห้อมีจุดเด่น ดังนี้ครับ

• ฟิลเลอร์ Restylane ฟิลเลอร์สวีเดน มีความโดดเด่นในเรื่องขนาดโมเลกุลฟิลเลอร์ มีเม็ดใหญ่ช่วยให้อยู่ได้นานขึ้น และมีค่าความแข็งสูง เด่นเรื่องการยกพยุงผิว มีความยืดหยุ่นได้ดี มีให้เลือกหลายรุ่น สามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับปัญหาและบริเวณที่ต้องการฉีด 
• ฟิลเลอร์ Belotero ฟิลเลอร์สวิตเซอร์แลนด์มีหลายรุ่นให้เลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม มีจุดเด่นที่เนื้อเจลที่มีความคงตัวมาก สามารถใช้ฉีดเสริมกระดูกและเนื้อเยื่อผิวหนังที่ยุบตัวลงตามวัย
• ฟิลเลอร์ Definisse ฟิลเลอร์อิตาลี มีจุดเด่นในเรื่องการยกกระชับ ช่วยยกพยุงผิวชั้นลึก และปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ฟิลเลอร์ juvederm มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นอยู่ได้กี่เดือน ?

ฟิลเลอร์ juvederm มีด้วยกันทั้งหมด 6 รุ่น ครับ แต่ละรุ่นจะมีคุณสมบัติและผลลัพธ์อยู่ได้นาน ดังนี้

1. ฟิลเลอร์ Juvederm Ultra plus

Juvederm Ultra XC เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่มและฟูมาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องลึกต่าง ๆ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงตามวัย ต้องการปรับรูปหน้า นิยมใช้เติมร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก สามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน  

2. ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma

Juvederm Voluma เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็งและฟูปานกลาง โมเลกุลขนาดใหญ่ มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการเติมใต้ตา ร่องแก้ม และสามารถเติมคางและขมับได้อย่างเป็นธรรมชาติ หรือส่วนอื่นได้ตามเทคนิคของแพทย์ สามารถคงผลลัพธ์อยู่นานประมาณ 18 เดือน 

3. ฟิลเลอร์ Juvederm Volift

Juvederm Volift เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ที่มีความละเอียดมากกว่ารุ่น Ultraplus เหมาะสำหรับคนผิวบาง ฉีดบริเวณใต้ตา ร่องแก้ม ร่องมุมปากไม่ลึกมากและเก็บรายละเอียดร่องแก้มชั้นตื้นได้ สามารถคงผลลัพธ์อยู่นานประมาณ 12 เดือน

4. ฟิลเลอร์ Juvederm Volbella

Juvederm Volbella เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีโมเลกุลขนาดเล็กที่มีความละเอียดมากที่สุด เหมาะสำหรับการเติมหน้าผาก มีความเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน สามารถคงผลลัพธ์อยู่นานประมาณ 12 เดือน

5. ฟิลเลอร์ Juvederm Volite

Juvederm Volite เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียดใช้ฉีดใต้ตา ผิวชั้นตื้น บำรุงผิวให้ชุ่มชื้น เหมาะกับคนผิวบางแต่ไม่มากเกินไป สามารถคงผลลัพธ์อยู่นานประมาณ 8-12 เดือน

6. ฟิลเลอร์ Juvederm Volux

ฟิลเลอร์ Juvederm Volux เป็นรุ่นที่มีการพัฒนาออกมาล่าสุด เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีโมเลกุลขนาดใหญ่ จึงมีความยืดหยุ่นสูง ปั้นทรงสวย และคงรูปได้ดีที่สุดครับ จึงเหมาะสำหรับฉีดคาง ใต้ตา ขมับ และร่องแก้มชั้นลึก สามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 18-24 เดือน

ฟิลเลอร์ juvederm ของแท้แต่ละรุ่น ดูอย่างไร ?

เพื่อความปลอดภัย และป้องกันตัวเองจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม มีวิธีสังเกตฟิลเลอร์ juvederm ของแท้แต่ละรุ่น ดูอย่างไรมาฝากครับ โดยสามารถสังเกตได้ดังนี้

• มีเลขทะเบียนอย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• กล่องมี 2 cc และเลข lot ต้องตรงกัน 4 จุด คือ
  • เลข lot ที่กล่อง
  • เลข lot ที่ซอง
  • เลข lot ที่สติกเกอร์
  • เลข lot ที่หลอด
• สามารถโทรเช็คเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัทผู้จัดส่ง Allergan Thailand (DSKH) โทร. 02 460 7717

วิธีดูฟิลเลอร์ Juvederm Ultra Plus  แท้

• มีเลขทะเบียนอย. และเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• กล่องมี 2 cc และเลข lot ต้องตรงกัน 4 จุด คือ
  1. เลข lot. ที่กล่อง
  2. เลข lot. ที่ซอง
  3. เลข lot. ที่สติกเกอร์
  4. เลข lot. ที่หลอด
• สามารถโทรสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท แอลเลอร์แกน (ประเทศไทย) จำกัด 02 460 7717

วิธีดูฟิลเลอร์ Juvederm Voluma  แท้

• มีเลขทะเบียนอย. และเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• กล่องมี 2 cc และเลข lot ต้องตรงกัน 4 จุด คือ
  1. เลข lot. ที่กล่อง
  2. เลข lot. ที่ซอง
  3. เลข lot. ที่สติกเกอร์
  4. เลข lot. ที่หลอด
• สามารถโทรสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท แอลเลอร์แกน (ประเทศไทย) จำกัด 02 460 7717

วิธีดูฟิลเลอร์ Juvederm Volift แท้

• มีเลขทะเบียนอย. และเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• กล่องมี 2 cc และเลข lot ต้องตรงกัน 4 จุด คือ
  1. เลข lot. ที่กล่อง
  2. เลข lot. ที่ซอง
  3. เลข lot. ที่สติกเกอร์
  4. เลข lot. ที่หลอด
• สามารถโทรสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท แอลเลอร์แกน (ประเทศไทย) จำกัด 02 460 7717

วิธีดูฟิลเลอร์ Juvederm Volbella  แท้

• มีเลขทะเบียนอย. และเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• กล่องมี 2 cc และเลข lot ต้องตรงกัน 4 จุด คือ
  1. เลข lot. ที่กล่อง
  2. เลข lot. ที่ซอง
  3. เลข lot. ที่สติกเกอร์
  4. เลข lot. ที่หลอด
• สามารถโทรสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท แอลเลอร์แกน (ประเทศไทย) จำกัด 02 460 7717

วิธีดูฟิลเลอร์ Juvederm Volite  แท้

• มีเลขทะเบียนอย. และเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• กล่องมี 2 cc และเลข lot ต้องตรงกัน 4 จุด คือ
  1. เลข lot. ที่กล่อง
  2. เลข lot. ที่ซอง
  3. เลข lot. ที่สติกเกอร์
  4. เลข lot. ที่หลอด
• สามารถโทรสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท แอลเลอร์แกน (ประเทศไทย) จำกัด 02 460 7717

วิธีดูฟิลเลอร์ Juvederm Volux แท้

• มีเลขทะเบียนอย. และเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• กล่องมี 2 cc และเลข lot ต้องตรงกัน 4 จุด คือ
  1. เลข lot. ที่กล่อง
  2. เลข lot. ที่ซอง
  3. เลข lot. ที่สติกเกอร์
  4. เลข lot. ที่หลอด
• สามารถโทรสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท แอลเลอร์แกน (ประเทศไทย) จำกัด 02 460 7717

ฟิลเลอร์ juvederm แพงกว่ายี่ห้ออื่นไหม ?

หากถามว่าฟิลเลอร์ juvederm แพงกว่ายี่ห้ออื่นไหม ? เมื่อเทียบจากราคาฟิลเลอร์ยี่ห้อ juvederm ในแต่ละคลินิกแล้ว ฟิลเลอร์ juvederm ไม่ได้มีราคาแพงกว่ายี่ห้ออื่น ๆ ครับ ที่ฟิลเลอร์ juvederm มีราคาต่างกันขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละคลินิก รวมไปถึงค่าฝีมือแพทย์ หากแพทย์ที่ฉีดมีประสบการณ์สูงและมีความชำนาญ ราคาฉีดฟิลเลอร์อาจจะสูงขึ้นตามไปด้วย

หากในกรณีที่คนไข้พบราคาฟิลเลอร์ juvederm ที่ถูกมาก ๆ เป็นไปได้ว่าคลินิกนั้นอาจนำฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์ราคาถูกที่ไม่ได้มาตรฐาน นำเข้าอย่างถูกมาขายให้ หากคนไข้ฉีด ผลที่ตามมาคือฟิลเลอร์สลายเร็วจากเดิม หรือบางเคสที่ร้ายแรง บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์เกิดการบิดเบี้ยว เอียง ยุบตัวได้ หากต้องการแก้ไขต้องผ่าตัดหรือขูดออกเท่านั้นครับ เพราะฟิลเลอร์ปลอมไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ 

ดังนั้น ก่อนฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้งควรคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก ต้องฉีดฟิลเลอร์แท้และสามารถตรวจสอบได้ครับ

ฟิลเลอร์ juvederm แต่ละรุ่น เหมาะกับการฉีดตำแหน่งไหน ?

ฟิลเลอร์ Juvederm Ultra Plus

ฟิลเลอร์ Juvederm Ultra Plus เหมาะสำหรับฉีด

• ขมับ
• ปาก
• ร่องแก้ม

ฟิลเลอร์ Juvederm Volbella

ฟิลเลอร์ Juvederm Volbella เหมาะสำหรับฉีด

• หน้าผาก

ฟิลเลอร์ Juvederm Volift

ฟิลเลอร์ Juvederm Volift เหมาะสำหรับฉีด

• ระหว่างคิ้ว
• แก้มตอบ
• ร่องแก้ม
• ปาก
• ร่องมุมปาก/ร่องน้ำหมาก

ฟิลเลอร์ Juvederm Volite

ฟิลเลอร์ Juvederm Volite เหมาะสำหรับฉีด

• ใต้ตา
• บำรุงผิวชุ่มชื้น (Skin Booster)

ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma

ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma เหมาะสำหรับฉีด

• ขมับ
• ใต้ตา
• ร่องแก้ม
• ปาก
• คาง

ฟิลเลอร์ Juvederm Volux

ฟิลเลอร์ Juvederm Volux เหมาะสำหรับฉีด

• ขมับ
• ใต้ตา
• ร่องแก้มชั้นลึก
• คาง 

ฟิลเลอร์ Juvederm แต่ละรุ่นจะมีความต่างกันที่เนื้อฟิลเลอร์ มีทั้งเนื้อแข็ง เนื้อนิ่มและเนื้อละเอียด จึงทำให้แต่ละรุ่นเหมาะกับการฉีดในตำแหน่งที่ต่างกัน อาจกล่าวได้ว่าไม่มีฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนที่ดีที่สุด หรือใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อเดียว รุ่นเดียว มาฉีดเพื่อแก้ไขทุกปัญหาได้ หมอจะพิจารณาจากปัญหาใบหน้า สภาพผิวของคนไข้ และแนะนำข้อดีของฟิลเลอร์ Juvederm รุ่นนั้น ๆ ให้คนไข้เลือกได้ตามความเหมาะสม รวมไปถึงงบประมาณครับ

โปรโมชั่นฟิลเลอร์ juvederm

ฟิลเลอร์ juvederm ราคาที่ V Square Clinic มี 4 รุ่น ให้เลือกใช้ แพทย์จะเป็นผู้ประเมินตามความเหมาะสมในแต่ละสภาพปัญหาของคนไข้ครับ 

• Juvederm Ultra Plus 1 CC ราคา 7,490.- 
• Juvederm Voluma 1 CC ราคา 12,900.- 
• Juvederm Volift 1 CC ราคา 12,900.- 
• Juvederm Volux 1 CC ราคา 17,900.-

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ juvederm

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ juvederm ก่อน-หลังทำ ที่ V Square Clinic โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้า ใช้เทคนิคพิเศษ หมอมือเบา ช้ำน้อย มั่นใจได้ในความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่สวยงาม

สรุป

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ  juvederm เป็นยี่ห้อที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ถูกนำมาใช้ในคลินิกชั้นนำหลายแห่ง เนื่องจากจุดเด่นของ ฟิลเลอร์ juvederm คือเนื้อฟิลเลอร์มีคุณสมบัติที่หลากหลาย เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว สามารถฉีดเพื่อแก้ไขปัญหาบนใบหน้าได้หลายตำแหน่ง เช่น ฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตา ถุงใต้ตาหย่อนคล้อย ฟิลเลอร์รองแก้ม แก้ปัญหาร่องแก้มลึก หรือฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์ขมับ ที่ช่วยปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนที่สวยงาม 

แต่ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด และก่อนฉีดควรให้หมอช่วยแกะกล่อง แกะหลอดฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า เพื่อมั่นใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐานครับ

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ฉีดฟิลเลอร์ปาก เลือกยี่ห้อไหนดี

การเลือกฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ได้ทรงปากสวยตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นปากเกาหลี ปากสายฝอ ปากกระจับ หรือเติมปากชุ่มชื้น ยี่ห้อฟิลเลอร์มีผลอย่างมากต่อผลลัพธ์ที่ได้

ในปีนี้ฟิลเลอร์ปากมีหลายยี่ห้อและหลายรุ่นให้เลือก แม้ว่าเมื่อมาถึงคลินิก หมอจะเป็นผู้ประเมินและแนะนำฟิลเลอร์ที่เหมาะสมให้ แต่คนไข้ก็สามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ปากไปก่อนได้ในเบื้องต้นครับ ฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนก็ดีเหมือนกันจริงไหม ? จะรู้ได้อย่างไร ? ว่าควรฉีดฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี ? รวมถึงหากมีข้อสงสัยอื่น ๆ ก็จะได้ถามกับหมอโดยตรง

สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี

• ฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนก็ดีเหมือนกันจริงไหม ?
• ฉีดฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี ? แต่ละรุ่นมีจุดเด่นอย่างไร ?
  • Juvederm
  • Restylane
  • Belotero
  • Definisse
  • Teoxane
• ฟิลเลอร์ฉีดปากแต่ละยี่ห้อ อยู่ได้นานแค่ไหน ?
• จะรู้ได้อย่างไร ? ว่าควรฉีดฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี ?
• ราคาฉีดฟิลเลอร์ปากแต่ละยี่ห้อ ที่ V Square Clinic
• ฟิลเลอร์ปากแต่ละยี่ห้อ ใช้จำนวน CC ฉีดเท่ากันไหม ?
• วิธีเช็กฟิลเลอร์แท้ ดูอย่างไร ?
• สรุปเรื่องเลือกฉีดฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดีสุด

ฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนก็ดีเหมือนกันจริงไหม ?

ถึงแม้ว่าฟิลเลอร์ปากจะมีคุณสมบัติในการเติมเต็มและปรับรูปทรงเหมือนกัน แต่การบอกว่าฉีดยี่ห้อไหนก็ดีเหมือนกันนั้นไม่ถูกต้องครับ เพราะการจะตอบว่า “ดี” หรือ “ไม่ดี” ต้องพิจารณาหลายอย่างประกอบกัน ซึ่งมีรายละเอียดที่ต้องอธิบายค่อนข้างมาก

ถ้าเอาแบบรวบรัด ฟิลเลอร์ปากแต่ละยี่ห้อ ผลิตด้วยเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน มีคุณสมบัติเฉพาะตัวเช่น ความแข็ง ความยืดหยุ่น การกระจายตัว การอุ้มน้ำ การ Crosslink รวมถึงขนาดของเม็ดฟิลเลอร์ใหญ่เล็กแตกต่างกัน บางยี่ห้อทำอันนี้ได้ดีกว่า แต่บางยี่ห้อก็อาจจะทำอันนี้ได้ดีกว่า เป็นเหตุผลว่าทำไมถึงต้องมีฟิลเลอร์ปากหลายยี่ห้อให้เลือกใช้

ฉีดฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี ? แต่ละรุ่นมีจุดเด่นอย่างไร ?

ฟิลเลอร์ปากที่หมอเลือกใช้มีหลายยี่ห้อที่นิยม เช่น Juvederm, Restylane, Belotero, Definisse, Teoxane ก่อนฉีดฟิลเลอร์ มาดูจุดเด่นของฟิลเลอร์ปากแต่ละยี่ห้อกันครับ

ฟิลเลอร์ปาก Juvederm

ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ Juvederm ของอเมริกา มีหลายรุ่นให้เลือก ใช้ 2 เทคโนโลยีในการผลิต คือ Hylacross Technology เป็นเทคโนโลยีดั้งเดิมของแบรนด์ มีจุดเด่นในเรื่องอุ้มน้ำได้ดี ทำให้ฉีดแล้วฟู ยืดหยุ่นสูง โดยรุ่นฟิลเลอร์ที่ใช้เทคโนโลยีนี้จะมีรุ่นเดียวครับ คือ

• Juvederm Ultra Plus ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ฟูมาก เหมาะกับคนที่ต้องการปากอวบอิ่มแบบฝรั่ง

ส่วนรุ่นฟิลเลอร์ปากอื่น ๆ ของ Juvederm จะใช้เทคโนโลยีล่าสุดที่ชื่อว่า Vycross Technology มีจุดเด่นในเรื่องความเรียบเนียน ไม่เป็นก้อน และดูเป็นธรรมชาติ โดยมีรุ่นต่าง ๆ ดังนี้

• Juvederm Voluma ฟิลเลอร์เนื้อทน ฟูปานกลาง เหมาะกับคนที่ต้องการปากอวบอิ่มและอยู่ได้นาน
• Juvederm Volift ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความละเอียด และยืดหยุ่นสูง ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน เหมาะฉีดร่องมุมปากที่ไม่ลึกมาก
• Juvederm Volite ฟิลเลอร์เนื้อฉ่ำ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะกับคนที่ต้องการให้ผิวปากชุ่มชื้น อวบอิ่มขึ้นเล็กน้อย

ฟิลเลอร์ปาก Restylane

ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ Restylane ของสวีเดน โดดเด่นด้วย 2 เทคโนโลยีการผลิต คือ Nasha Technology มีจุดเด่นเรื่องความคงตัวและการเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดี โดยรุ่นฟิลเลอร์ปากที่ใช้เทคโนโลยีนี้มีรุ่นเดียว คือ

• Restylane Vital Light ฟิลเลอร์เนื้อฉ่ำ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะกับคนที่ต้องการแก้ไขริมฝีปากแห้ง โดยไม่ต้องการเพิ่มความอวบอิ่ม

อีกเทคโนโลยีที่พัฒนามาทีหลัง คือ OBT Technology มีจุดเด่นเรื่องความยืดหยุ่น หลังฉีดสามารถปรับรูปทรงได้หลากหลาย เช่น

• Restylane Volyme ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง อุ้มน้ำ ดูเป็นธรรมชาติไม่เป็นก้อน เหมาะฉีดมุมปาก ฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปาก
• Restylane Refyne ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เนื้อเจลมีลักษณะยืดหยุ่น สามารถเติมเต็มให้ปากอวบอิ่มเป็นธรรมชาติ
• Restylane Kysse ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด แต่มีความคงตัว ออกแบบมาเพื่อริมฝีปากโดยเฉพาะ สร้างขอบริมฝีปากได้ชัดเจน ให้ความชุ่มชื้นและความอวบอิ่ม

ฟิลเลอร์ปาก Belotero

ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ Belotero ของสวิตเซอร์แลนด์ ทุกรุ่นฟิลเลอร์จะผลิตด้วยเทคโนโลยีเดียวกัน คือ CPM Technology ทำให้ได้ฟิลเลอร์ปากที่มีจุดเด่นในเรื่องความยืดหยุ่นสูง คงตัว และปั้นทรงสวย

• Belotero Volume ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม อยู่ทรง ช่วยเพิ่ม volume ปากได้ดี เหมาะกับทรงปากสายฝอ
• Belotero Revive ฟิลเลอร์เนื้อฉ่ำ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก

ฟิลเลอร์ปาก Definisse

ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ Definisse ของอิตาลี ใช้เทคโนโลยีการผลิต ที่มีชื่อว่า XTR™ Technology มีจุดเด่นในเรื่องการ Crosslink โครงสร้างสานกันเป็นร่างแห ทำให้เมื่อนำมาฉีดปรับรูปหน้า จะสามารถช่วยในการยกพยุงผิวได้ดี นอกจากนี้ยังฉีดปรับทรงปากได้ดูเป็นธรรมชาติ

• Definisse Touch ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เหมาะกับคนที่ต้องการแก้ไขริมฝีปากแห้ง เพิ่มวอลลุ่มให้ปากอย่างเป็นธรรมชาติ

ฟิลเลอร์ปาก Teoxane

ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ Teoxane ของสวิตเซอร์แลนด์ ใช้เทคโนโลยี Ground breaking Preserved Network หรือ PNT ซึ่งทำให้ฟิลเลอร์มีจุดเด่นในเรื่องความยืดหยุ่นตามการขยับ ผลลัพธ์ที่ได้เรียบเนียน ไม่เป็นก้อน และดูเป็นธรรมชาติ โดยรุ่นที่นิยมนำมาฉีดปาก ได้แก่

• Teoxane RHA2 ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ค่อนข้างยืดหยุ่น ทนต่อแรงขยับได้ดี ช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มแบบเป็นธรรมชาติ
• Teoxane RHA3 ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม แต่ค่อนข้างแน่น ทนต่อแรงขยับได้ดี สามารถเติมเต็มริมฝีปาก สร้างขอบปากคมชัด

ฟิลเลอร์ฉีดปากแต่ละยี่ห้อ อยู่ได้นานแค่ไหน ?

• Juvederm Ultra Plus (12 เดือน)
• Juvederm Voluma (18 เดือน)
• Juvederm Volift (12 เดือน)
• Juvederm Volite (8-12 เดือน)
• Restylane Vital Light (6-12 เดือน)
• Restylane Volyme (18 เดือน)
• Restylane Refyne (12 เดือน)
• Restylane Kysse (12 เดือน)
• Belotero Volume (12-18 เดือน)
• Belotero Revive (6-9 เดือน)
• Definisse Touch (8-12 เดือน)
• Teoxane RHA2 (18 เดือน)
• Teoxane RHA3 (12-18 เดือน)

จะรู้ได้อย่างไร ? ว่าควรฉีดฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี ?

รู้ข้อมูลคร่าว ๆ ของฟิลเลอร์ปากแต่ยี่ห้อกันไปแล้ว จะเห็นได้ว่าคุณสมบัติของแต่ละรุ่นไม่เหมือนกัน และ เหมาะกับการนำมาใช้แก้ปัญหาแตกต่างกัน การเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสม จึงขึ้นอยู่กับประสบการณ์และเทคนิคของแพทย์ด้วยครับ

ฉีดฟิลเลอร์ปาก ที่ไหนดี ? ที่ V Square Clinic หมอมีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ทุกเคสจะต้องผ่านการประเมินใบหน้า ออกแบบทรงปากร่วมกัน

โดยส่วนมากคนไข้จะมีเรฟเฟอร์เรนซ์ทรงปากที่อยากได้ หรือมีทรงปากดารามาให้หมอดูว่าแบบนี้ได้ไหม หมอก็จะช่วยดีไซน์เพื่อให้สวยเหมาะกับใบหน้า พร้อมแนะนำฟิลเลอร์รุ่นที่เหมาะสม ตรงกับงบประมาณให้ครับ

ราคาฉีดฟิลเลอร์ปากแต่ละยี่ห้อ ที่ V Square Clinic

ราคาฟิลเลอร์ปาก จะอยู่ที่ประมาณ 12,xxx-/1 CC ขึ้นไป โดยจะขึ้นอยู่กับจำนวน CC ฟิลเลอร์ที่ใช้ เทคนิคในการฉีด รวมถึงโปรโมชันในช่วงนั้น ๆ ครับ

ฟิลเลอร์ปากแต่ละยี่ห้อ ใช้จำนวน CC ฉีดเท่ากันไหม ?

จำนวน CC ที่ใช้ในการฉีดฟิลเลอร์ไม่จำเป็นต้องเท่ากันทุกคนครับ จะขึ้นอยู่กับทรงปากที่ต้องการ

นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดอื่น ๆ ที่หมอจะต้องประเมิน เช่น ลักษณะเนื้อปาก ทรงปากเดิมของคนไข้ บางคนอาจแค่ต้องการเติมให้ดูอวบอิ่มขึ้น หรือแก้ไขริมฝีปากแห้ง ซึ่ง 1 CC ก็สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลง

ถ้าต้องการเพิ่มวอลลุ่มมาก ๆ อย่างทรงปากสายฝอ ก็อาจจะต้องใช้ 2 CC ขึ้นไป เพื่อให้ได้ทรงปากสวยอวบอิ่ม อวบหนา เต็มสวย

หมอมีตัวอย่างรีวิวฟิลเลอร์ปาก มาให้ดูครับ

อ่านบทความเพิ่มเติม : หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก บวมกี่วัน ? ได้ปากทรงสวยชัดเหมือนรีวิว

ข้อควรรู้ : ถ้าใช้ฟิลเลอร์มากเกินไป ก็อาจทำให้ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อน ผลลัพธ์ไม่สวยงาม ปากใหญ่เกินพอดี หน้าบานออก คล้ายทำปากเป็ดอยู่ตลอดเวลา หรือปากเจ่อมากไป ทรงปากไม่เป็นธรรมชาติครับ

วิธีเช็กฟิลเลอร์แท้ ดูอย่างไร ?

ผลลัพธ์ที่สวยงามต้องมาควบคู่กับความปลอดภัย นอกจากจะรู้ว่าฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดีแล้ว ต้องแยกให้ออกด้วยครับว่าฟิลเลอร์ปากกล่องไหนแท้ กล่องไหนปลอม ดูอย่างไร โดยจุดหลัก ๆ ที่ต้องเช็ก คือ

• กล่องฟิลเลอร์ กล่องต้องอยู่ในสภาพดี ไม่ผ่านการแกะใช้งานมาก่อน
• เลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย ซึ่งจะอยู่ภายในกล่อง
• เลข lot. เช่น เลข lot. ที่กล่อง, ซอง, หลอด, สติกเกอร์ จะต้องตรงกัน
• ชื่อบริษัทนำเข้า และเบอร์โทรศัพท์ ให้สามารถโทรเช็กเลข lot. และคลินิกที่ให้บริการ
• QR Code ฟิลเลอร์บางยี่ห้อมี QR Code ให้สามารถสแกนเช็กได้

สามารถดูตัวอย่างวิธีเช็กฟิลเลอร์เลอร์แท้ ฟิลเลอร์ปากทุกยี่ห้อ ด้านล่างนี้เพิ่มเติมครับ

สรุปเรื่องเลือกฉีดฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดีสุด

ฟิลเลอร์ปากมีหลายยี่ห้อ จุดเด่นแตกต่างกัน ตามที่หมอได้อธิบายไปข้างต้น ถ้าถามหมอว่ายี่ห้อไหนดีที่สุด ต้องบอกว่าไม่มีฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนที่ดีที่สุด และดีที่สุดของแต่ละคนไม่เท่ากัน แต่สามารถเลือกให้เหมาะสมที่สุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดได้ครับ

ถ้าเลือกฉีดฟิลเลอร์ปากกับหมอที่มีประสบการณ์ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้คลายความสงสัยว่าฉีดฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดีแล้ว ยังช่วยให้คำแนะนำได้ครับว่าฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดีที่สุดสำหรับแต่ละบุคคลครับ

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ฟิลเลอร์คางอยู่ได้นานแค่ไหน

การฉีดฟิลเลอร์คางเป็นวิธีเสริมคางให้ยาวขึ้น หรือได้รูปทรงมากขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด โดยใช้สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งไม่ได้เป็นสารที่อยู่ได้ถาวร จะสลายไปเองตามธรรมชาติ 

ตัวอย่างเคสรีวิว ก่อน-หลัง ฉีดฟิลเลอร์คาง
ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียว มีมิติมากขึ้น

ฟิลเลอร์คาง อยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ/รุ่น ของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ เทคนิคการฉีดของแพทย์ และการดูแลตัวเองของคนไข้ครับ ในบทความนี้หมอมีข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์คาง ฉีดคางที่ไหนดี ต้องดูแลตัวเองอย่างไรให้ฟิลเลอร์คางอยู่ได้นาน มาแนะนำ

สารบัญ ฟิลเลอร์คางอยู่ได้นานแค่ไหน

1. ฟิลเลอร์คางอยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง ?
   • ยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์คาง
   • เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์คาง
   • การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์คาง
2. ฟิลเลอร์คางจะอยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับข้อห้ามและข้อปฏิบัติดังนี้
3. ฟิลเลอร์คางสลายเองได้ไหม ?
4. หลังจากฟิลเลอร์คางสลายไป มีผลกับรูปหน้าไหม ?
5. รีวิวฟิลเลอร์คาง

ฟิลเลอร์คางอยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง ?

ยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์คาง

ฟิลเลอร์มีหลายรุ่นครับ แต่ละรุ่นจะมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป มีทั้งเนื้อแข็ง เนื้อนิ่ม เนื้อละเอียด สำหรับการฉีดคางควรเป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง แน่น ไม่ฟู ฉีดแล้วอยู่ทรง ปั้นทรงได้ และอยู่ได้นานครับ ปกติแล้วอายุของฟิลเลอร์คางจะอยู่ได้นาน 12-24 เดือน สำหรับฟิลเลอร์คางที่หมอแนะนำ มีดังนี้ครับ

1. ฟิลเลอร์คาง Restylane Perlane Lyft อยู่ได้นาน  12 เดือน 

เนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง ไม่ฟู ใช้สำหรับเสริมทดแทนกระดูก มีความเป็นธรรมชาติ สามารถคงรูปได้ดี

2. ฟิลเลอร์คาง Juvederm Voluma อยู่ได้นาน 18 เดือน 

เนื้อแข็งและฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเห็นความโค้งมนของคาง สามารถเติมคางได้อย่างเป็นธรรมชาติ 

3. ฟิลเลอร์คาง Juvederm Volux อยู่ได้นาน  18-24 เดือน

เนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง ขึ้นรูปได้ง่าย ปั้นทรงสวย ช่วยปรับโครงสร้างใบหน้าได้ดีที่สุด

4. ฟิลเลอร์คาง Belotero Intense อยู่ได้นาน  18 เดือน 

เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นสูง มีจุดเด่นในการใช้แก้ปัญหาร่องลึกมาก ๆ จากการยุบตัวของเนื้อเยื่อผิวหนัง

5. ฟิลเลอร์คาง Definisse Core อยู่ได้นาน  18 เดือน 

ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง คงรูปได้ดี เหมาะกับการเสริมกระดูก ปรับรูปหน้า เติม mid-face คาง กรอบหน้า

6. ฟิลเลอร์คาง Flore Max อยู่ได้นาน 9-12  เดือน

ฟิลเลอร์เนื้อแน่น ขึ้นรูปได้ดี มีความละมุน ดูเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับฉีดแก้ปัญหาในไขมันชั้นลึก คาง/ขมับ

7. ฟิลเลอร์คาง Teoxane Ultra Deep อยู่ได้นาน  18 เดือน

ฟิลเลอร์เนื้อแน่น สามารถปั้นขึ้นรูปได้ดี เคลื่อนที่ยาก มีความคงตัวสูงเหมาะสำหรับฉีดปรับแต่งรูปหน้า ยกใบหน้า เช่น ขมับ แก้มส้ม คาง และกรอบหน้า

เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์คาง

อีกปัจจัยที่จะทำให้หลังฉีดฟิลเลอร์คางอยู่ได้นานขึ้น คือเทคนิคการฉีดของแพทย์ครับ การฉีดฟิลเลอร์คางควรฉีดด้วยเทคนิคการเสริมกระดูก โดยจะฉีดฟิลเลอร์เสริมในชั้นใต้เยื่อหุ้มกระดูก ไม่ใช่เสริมที่เนื้อคาง ข้อดีคือจะช่วยให้ได้คางทรงสวย ไม่ไหล ไม่ผิดรูป ฟิลเลอร์สลายช้า อยู่ได้นานขึ้น

หากแพทย์มีประสบการณ์ไม่มากพอ ฉีดฟิลเลอร์ในชั้นเนื้อคาง เมื่อฟิลเลอร์คางสลายไป เนื้อคางที่เคยเติมไว้จะเหมือนลูกโป่งที่ถูกขยายครับ ทรงคางที่ได้ก็จะผิดเพี้ยน ไม่สวย และมีปัญหาไหลย้อยผิดรูปตามมาได้

มีงานวิจัยรองรับว่า การฉีดฟิลเลอร์คางลงในชั้นใต้เยื่อหุ้มกระดูก จะช่วยชะลอการยุบตัวของกระดูกคาง และทำให้กระดูกคางยาวขึ้นได้ในบางเคสด้วยครับ

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์คาง

ข้อสุดท้ายที่จะช่วยยืดอายุของฟิลเลอร์คางให้อยู่ได้นานขึ้น คือการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ของคนไข้ครับ โดยปกติหลังฉีดหมอจะแนะนำข้อห้าม ข้อควรปฏิบัติ ที่จะส่งผลต่อการสลายของฟิลเลอร์ จะช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น และลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้

ฟิลเลอร์คางจะอยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับข้อห้ามและข้อปฏิบัติดังนี้

ข้อปฏิบัติ

• หลังฉีดฟิลเลอร์ 1 ชม. สามารถแกะพลาสเตอร์ออกได้ หากต้องการแต่งหน้าควรเว้นบริเวณรูเข็มที่ฉีด
• ในคืนแรกหลังจากฉีดฟิลเลอร์ ยาชาที่ฉีดไว้หมดฤทธิ์ใน 3 ชม.หลังทำ อาจเริ่มปวดระบม สามารถทานยาแก้ปวด paracetamol ได้
• สามารถออกกำลังกาย หรือรับประทานอาหารได้ตามปกติ แต่พยายามหลีกเลี่ยงความร้อน
• ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ วันละ 1.5-2 ลิตร จะช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น

ข้อห้าม

• ห้ามนวด กด หรือพยายามปั้นทรงเองโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะในช่วง 2 สัปดาห์แรก ที่ฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ดี อาจทำให้คางเสียทรงได้
• หลีกเลี่ยงการใส่หมวกกันน็อคที่รัดแน่น ๆ
• ไม่ควรนอนคว่ำ เพราะจะทำให้เกิดการกดทับบริเวณคางได้
• หลีกเลี่ยงการเท้าคาง
• งดการทำทรีตเมนท์ เลเซอร์ร้อน ที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด อย่างน้อย 1 เดือนหลังทำ
• ในช่วง 2 สัปดาห์แรก ควรงดทานอาหารบางอย่างที่ส่งผลต่อการอักเสบ บวมและทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้า เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหล้า เบียร์ ไวน์ น้ำหมัก อาหารที่อยู่หน้าเตานาน ๆ อาหารที่เผ็ดมาก ๆ อาหารหมักดอง อาหารที่หวานจัด และงดสูบบุหรี่

ฟิลเลอร์คางสลายเองได้ไหม ?

ฟิลเลอร์คางที่เป็นฟิลเลอร์แท้ (HA) สามารถสลายไปเองได้ตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้าง ไม่เป็นอันตรายครับ แต่ถ้าใครอยากแก้ไขรูปทรงคางหลังฉีดฟิลเลอร์ไปแล้ว ก็สามารถเร่งกระบวนการสลายได้ โดยการฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase:HYAL) ผิวก็จะกลับมาเป็นปกติครับ

หลังจากฟิลเลอร์คางสลายไป มีผลกับรูปหน้าไหม ?

ส่วนใหญ่คนไข้ที่มาฉีดฟิลเลอร์คาง ความต้องการคือเพื่อปรับรูปหน้าให้มีการเปลี่ยนแปลงไป อาจจะมีปัญหาคางสั้น คางตัด คางหยัก หลังฉีดฟิลเลอร์คางก็จะช่วยเปลี่ยนโครงหน้า ทำให้คางยาวขึ้น ดูมีมิติขึ้น ดังนั้นหากฟิลเลอร์สลายหมดแล้ว รูปหน้าก็จะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องปกติครับ แต่สามารถเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ เพื่อรักษาผลลัพธ์ไว้ให้อยู่เหมือนเดิม

รีวิวฟิลเลอร์คาง

รีวิว ฟิลเลอร์คาง ที่ V Square Clinic ก่อน-หลังฉีดทันที จะเห็นว่าคางมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน

สรุป

ฟิลเลอร์คาง อยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยประกอบกันครับ ดังนั้นถ้าสนใจฉีดฟิลเลอร์คาง แต่อยากให้อยู่ได้นาน ควรพิถีพิถันตั้งแต่การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์แท้ เลือกฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง และดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์ ก็จะช่วยรักษาให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์คางอยู่ได้นานขึ้นครับ

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ฉีดฟิลเลอร์ปาก ราคา

ฉีดฟิลเลอร์ปากราคาโปรโมชั่นสุดคุ้ม ที่ V Square Clinic เริ่มต้น 12,900.-/CC ออกแบบทรงปากโดยทีมแพทย์มากประสบการณ์กว่า 15 ปี พิถีพิถันทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้ทรงปากสวยรับกับใบหน้าของแต่ละเคสโดยเฉพาะ เห็นผลทันทีหลังฉีด ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ใช้ filler แท้ ได้มาตรฐาน แบรนด์ระดับโลก 

สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์ปาก ราคา

1. ฉีดฟิลเลอร์ปาก ราคาโปรโมชั่น ที่ V Square clinic 
2. ฉีดฟิลเลอร์ปากแต่ละทรง ราคาเท่าไหร่ ?
   • ฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับราคา
   • ฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอราคา
   • ฉีดฟิลเลอร์ปากทรงธรรมชาติ ราคา 
3. ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์ปากกับ V Square clinic
4. รีวิวฉีดฟิลเลอร์ปาก

ฉีดฟิลเลอร์ปาก ราคาโปรโมชั่น ที่ V Square clinic 

ฉีดปาก 1 cc ราคาเริ่มต้นที่ 12,900.-/CC ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ รุ่นฟิลเลอร์ ความยากง่ายของแต่ละเคส และเทคนิคการฉีดของแพทย์ครับ สำหรับยี่ห้อฟิลเลอร์ปากหมอจะเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีเนื้ออ่อน ทนต่อการขยับได้ดี เพราะปากเป็นจุดที่มีการขยับบ่อย ซึ่งจะมีรุ่นฟิลเลอร์ที่นิยมทั้งหมด 9 รุ่น ได้แก่ 

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm 

• Juvederm Ultra Plus ราคาเริ่มต้น 12,900.-/CC
• Juvederm Voluma ราคาเริ่มต้น 12,900.-/CC
• Juvederm Volift ราคาเริ่มต้น 12,900.-/CC

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane

• Restylane Vital Light ราคาเริ่มต้น 12,900.-/CC
• Restylane Volyme ราคาเริ่มต้น 13,900.-/CC
• Restylane Refyne ราคาเริ่มต้น 12,900.-/CC
• Restylane Kysse ราคา 12,900.-/CC

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero

• Belotero Volume ราคาเริ่มต้น 12,900.-/CC
• Belotero Revive ราคาเริ่มต้น 12,900.-/CC

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Teoxane 

• Teoxane RHA 2 ราคาเริ่มต้น 15,900.-/CC
• Teoxane RHA 3 ราคาเริ่มต้น 13,900.-/CC

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Definisse

• Definisse Touch ราคาเริ่มต้น 12,900.-/CC

ฉีดฟิลเลอร์ปากแต่ละทรง ราคาเท่าไหร่ ?

ฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับราคา

ฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับราคา ที่ V Square clinic เริ่มต้นที่ 12,900.-/ CC  โดยทั่วไปทรงปากกระจับจะใช้ฟิลเลอร์เพียง 1-2 CC ก็สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนได้

ทรงปากกระจับ เป็นทรงที่เหมาะกับคนที่มีริมฝีบาง ต้องการเพิ่มวอลลุ่มให้ริมฝีปาก มีขอบปากชัด ไม่อยากให้ปากบางหรือแบนเรียบจนเกินไป หลังฉีดหน้าจะดูหวานขึ้น ปากอวบอิ่มเป็นทรงกระจับ
ทาลิปสติกสวยขึ้น และยังช่วยให้ใบหน้าโดยรวมอ่อนเยาว์ 

ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสำหรับ ฉีดปากกระจับ

• ฟิลเลอร์ Juvederm volift  เนื้อนิ่ม มีความละเอียด และยืดหยุ่นสูง ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน อยู่ได้นาน 12 เดือน ราคาเริ่มต้น 12,900.-/CC
• ฟิลเลอร์ Restylane volyme เนื้อนิ่มปานกลาง และมีความยืดหยุ่นสูง อุ้มน้ำ ดูเป็นธรรมชาติไม่เป็นก้อน เหมาะฉีดมุมปาก อยู่ได้นาน 18 เดือน ราคา เริ่มต้น 13,900.-/CC
• ฟิลเลอร์ Restylane Refyne เนื้อเจลมีลักษณะยืดหยุ่น สามารถเติมเต็มให้ปากอวบอิ่ม เป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 12 เดือน ราคาเริ่มต้น 12,900.-/CC

ฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอราคา

ฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอราคา ที่ V Square clinic เริ่มต้นที่ 12,900 – 16,000.-/ CC  โดยทั่วไปทรงปากสายจะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 2-3 CC  คนที่ต้องการเพิ่มอวบอิ่มมาก อยากมีริมฝีปากหนา หมอจะพิจารณาใช้ ปริมาณฟิลเลอร์เพิ่มขึ้นตามความเหมาะสมครับ

ทรงปากสายฝอ เป็นทรงที่ช่วยเพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปากทั้งบนและล่าง มีขอบปากชัด เหมาะกับคนที่มีรูปปากอยู่บ้างแล้วแต่ต้องการเพิ่มความอวบอิ่ม หรือคนที่ชอบการแต่งหน้าสไตล์สายฝอ เน้นดวงตาให้รับกับริมฝีปาก เสริมให้ใบหน้าดูเซ็กซี่มากขึ้น

ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสำหรับ ฉีดปากสายฝอ

• ฟิลเลอร์ Juvederm ultra plus จะฟูเยอะ จึงเหมาะกับคนที่ต้องการปากอวบอิ่มแบบฝรั่ง อยู่ได้นาน 12 เดือน ราคาเริ่มต้น 12,900.-/CC
• ฟิลเลอร์ Juvederm voluma เนื้อจะค่อนข้างแน่น อยู่ได้นานที่สุด 18 เดือน ราคาเริ่มต้น 12,900.-/CC
• ฟิลเลอร์ Restylane Kysse เนื้อละเอียดแต่มีความคงตัว สร้างขอบริมฝีปากที่ชัดเจน ให้ความชุ่มชื้น อวบอิ่ม ออกแบบมาสำหรับใช้เติมเต็มริมฝีปากโดยเฉพาะ อยู่ได้นานที่สุด 12 เดือน ราคา 12,900.-/CC 
• ฟิลเลอร์ Belotero Volume เนื้อแน่น อยู่ทรง ช่วยเพิ่ม Volume ให้ปากได้ดี เหมาะสำหรับทรงปากสายฝอ อยู่ได้นาน 12-18 เดือน ราคาเริ่มต้น 12,900.-/CC

ฉีดฟิลเลอร์ปากทรงธรรมชาติ ราคา 

ราคาฉีดฟิลเลอร์ปากทรงธรรมชาติ ที่ V Square clinic เริ่มต้นที่ 12,900.-/ CC ใช้ฟิลเลอร์เพียง 1 CC ก็สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน ปากเป็นทรง มีความชุ่มชื้นขึ้น

ปากทรงธรรมชาติ เป็นทรงที่ไม่ได้เน้นความอวบอิ่มมาก เหมาะกับคนที่ต้องการทรงปากธรรมชาติ หรือมีปัญหาปากแห้ง ปากแตก ทาลิปแล้วตกร่อง ต้องการเติมความชุ่มชื้นให้ปาก ดูสุขภาพดีขึ้น

ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสำหรับ ฉีดปากธรรมชาติ

• ฟิลเลอร์ Restylane vital light เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ไขริมฝีปากแห้งให้ชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น แต่ไม่ได้ต้องการเติมปากให้อวบอิ่มมากนัก  อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
• ฟิลเลอร์ Juvederm volite เนื้อละเอียด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้ผิวปากชุ่มชื้น อวบอิ่มขึ้นเล็กน้อย อยู่ได้นาน 8-12 เดือน

ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์ปากกับ V Square clinic

• ฉีดฟิลเลอร์โดยทีมแพทย์มากประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้า มีใบประกอบวิชาชีพจากแพทยสภา อัปเดตความรู้ทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง  
• ปรึกษาปัญหากับแพทย์โดยตรง ไม่ผ่านเซลล์
• แก้ไขปัญหาตรงจุด ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ
• ใช้ฟิลเลอร์แท้ แบรนด์ระดับโลก หมอแกะกล่องให้ดูต่อหน้า ให้กล่องกลับบ้าน ตรวจสอบกับผู้นำเข้าได้ทุกกล่อง 

• ฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิคเฉพาะของ V Square Clinic มือเบา ช้ำน้อย บวมน้อย 
• ฉีดปากกระจับราคาถูก สมเหตุสมผล คุ้มค่ากับผลลัพธ์ที่ได้ 

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ปาก

รีวิวการฉีดฟิลเลอร์ปากที่  V Square Clinic แพทย์จะฉีดด้วยเทคนิคพิเศษ หลังฉีดบวมช้ำน้อย เห็นผลทันที ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ใช้ฟิลเลอร์ของแท้ ได้มาตรฐาน แบรนด์ระดับโลก ให้บริการโดยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้าโดยเฉพาะ

ฉีดฟิลเลอร์ปากทรงไหนดี? สายฝอVsสายเกา ใช้กี่ CC มีคำตอบ | V Square Clinic

สรุป

ฉีดฟิลเลอร์ปากราคาที่ V Square Clinic เริ่มต้นที่  12,900.- 15,900.-/CC ดูแลเคสโดยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้าโดยเฉพาะ ฉีดฟิลเลอร์ปากด้วยเทคนิคพิเศษ มือเบา ช้ำน้อย เห็นผลทันหลังฉีด ไม่มีปัญหาปากเป็นก้อนในภายหลัง ใช้ฟิลเลอร์แท้ แบรนด์ระดับโลก มั่นใจได้ในความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติครับ

หากคนไข้สนใจฉีดฟิลเลอร์ปาก เบื้องต้นแนะนำให้เข้ามาปรึกษาแพทย์ว่าต้องการรูปทรงปากแบบใด เพื่อที่แพทย์จะได้ประเมินจากรูปทรงปากเดิม และแนะนำยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสม เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาตรงความต้องการมากที่สุดครับ

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี 

เนื่องจากปัจจุบันมีคลินิกเสริมความงามเปิดให้บริการจำนวนมาก จะรู้ได้อย่างไรว่าควรเลือกคลินิกไหนดี ?

หนึ่งในขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ที่สำคัญ คือการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย ฉีดฟิลเลอร์แล้วได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ วิธีเลือกคลินิกฉีด filler ใช้ฟิลเลอร์แท้ บริการดี เดินทางสะดวก การดูรีวิว ต้องดูอะไรบ้าง ควรศึกษาข้อมูลไว้ป้องกันการถูกหลอกครับ  

สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี 

1. ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ถึงจะปลอดภัยและดูธรรมชาติ
2. ทำไมต้องเลือก V Square Clinic
3. วิธีการดูรีวิวให้เป็น ไม่ถูกหลอก
4. การนัดหมายติดตาม Follow ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์
5. ฉีดฟิลเลอร์แต่ละจุดใช้กี่ CC ? 
6. ราคาฟิลเลอร์แท้แต่ละยี่ห้อ

ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ถึงจะปลอดภัยและดูเป็นธรรมชาติ

ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ? ต้องเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง ถึงจะมั่นใจได้ในผลลัพธ์และความปลอดภัย สามารถตรวจสอบได้ในเบื้องต้นครับว่าคลินิกมีใบอนุญาตหรือไม่ แพทย์ประจำคลินิกเป็นมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม เป็นหมอจริง ๆ ไม่ใช่หมอปลอม หมอเถื่อน หรือหมอกระเป๋า  

การฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ฉีดฟิลเลอร์ได้ถูกตำแหน่ง ถูกชั้นผิว เลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ รุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสม จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ และไม่เป็นก้อน

สำหรับใครที่มีปัญหาผิว เช่น ร่องลึก ริ้วรอย หรือต้องการปรับรูปหน้า สามารถใช้ฟิลเลอร์ (Fillers) ซึ่งเป็นสารเติมเต็มไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) ช่วยเติมเต็มได้ครับ ฟิลเลอร์สามารถฉีดได้หลายจุดบนใบหน้า โดยตำแหน่งที่นิยม หลังฉีดเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน ได้แก่ 

• ฟิลเลอร์ใต้ตา
• ฟิลเลอร์หน้าผาก
• ฟิลเลอร์ขมับ
• ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
• ฟิลเลอร์แก้มส้ม
• ฟิลเลอร์ปาก
• ฟิลเลอร์คาง

ทำไมต้องเลือก V Square Clinic

• V Square Clinic เป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน เปิดให้บริการถูกต้อง มีป้ายชื่อคลินิก และมีเลขที่ใบอนุญาต จำนวน 11 หลัก ติดไว้ด้านหน้าคลินิก แสดงใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล และใบอนุญาตดำเนินกิจการสถานพยาบาล ติดไว้ในที่เปิดเผยและมองเห็นได้ง่าย   

• แพทย์มีประสบการณ์สูงด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า สามารถประเมินใบหน้า วิเคราะห์ปัญหาได้ตรงจุด มีใบประกอบวิชาชีพจากแพทยสภา มีการเทรนนิ่ง อัปเดตความรู้ทั้งในและต่างประเทศเป็นประจำทุกปี 

• มีฟิลเลอร์แท้หลายยี่ห้อ หลายรุ่น ให้แพทย์เลือกใช้แก้ปัญหาเฉพาะบุคคล เป็นฟิลเลอร์แบรนด์ระดับโลกจากอเมริกา สวีเดน และสวิตเซอร์แลนด์ ผ่านการรับรองจาก อย.  

• ก่อนฉีดฟิลเลอร์ หมอจะแกะกล่องให้ดูต่อหน้า ให้กล่องกลับบ้าน สามารถตรวจสอบกับผู้นำเข้าได้ทุกกล่อง เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้  

• เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ของ V Square Clinic เป็นเทคนิคเฉพาะ หมอมือเบา บวมช้ำน้อย มุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ   

• V Square Clinic สาขาครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯ สังเกตเห็นได้ง่าย ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในห้างและใกล้ห้าง มีที่จอดรถ เดินทางสะดวกได้ทั้งรถส่วนตัวและรถสาธารณะ    
• บรรยากาศภายในคลินิก สว่าง สะอาด โปร่งโล่ง พนักงานประจำสาขาพร้อมให้บริการ ทั้งคนไข้ที่นัดคิว หรือ Walk-in เข้ามาสอบถามก่อนใช้บริการ 

• มีรีวิวที่น่าเชื่อถือจากผู้ใช้บริการจริง ดารา & Celebrity มั่นใจได้ในผลลัพธ์และความปลอดภัย รีวิวมีทั้งภาพนิ่งและวิดีโอให้ดูประกอบการตัดสินใจ เพื่อให้เห็นความชำนาญของแพทย์ขณะทำหัตถการ 

รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา

รีวิวฟิลเลอร์หน้าผาก

รีวิวฟิลเลอร์ขมับ

รีวิวฟิลเลอร์ร่องแก้ม

รีวิวฟิลเลอร์แก้มส้ม

รีวิวฟิลเลอร์ปาก

รีวิวฟิลเลอร์คาง

วิธีการดูรีวิวให้เป็น ไม่ถูกหลอก

• อย่าเพิ่งใจร้อน ด่วนตัดสินใจ ควรหาข้อมูลคลินิก ตรวจสอบแพทย์ ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้ ป้องกันพลาดเจอคลินิกเถื่อน ฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้ว 
• ดูรีวิวจากผู้มาใช้บริการ ต้องเป็นรีวิวที่อัปเดตเป็นปัจจุบัน ซึ่งแสดงถึงความเป็นที่นิยมของคลินิกนั้น ๆ จากการที่มีคนไข้ไว้วางใจ เข้ามาใช้บริการต่อเนื่อง
• รีวิวควรมีทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว หรือคลิปวิดีโอ เพื่อที่คนไข้จะได้เห็นขั้นตอนระหว่างฉีดฟิลเลอร์ เทคนิคที่แพทย์ใช้ซึ่งแพทย์มักจะอธิบายอยู่ในคลิป ช่วยตอบข้อสงสัยหลาย ๆ ข้อได้ สำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลก่อนฉีดฟิลเลอร์ 
• คลินิกที่มีรีวิวแค่ภาพนิ่ง เปรียบเทียบให้เห็นแค่ Before-After หลังฉีดฟิลเลอร์ อาจไม่เพียงพอ เพราะมีการใช้โปรแกรมตัดต่อ ตัดแต่งภาพ ปรับสี ให้ได้ผลลัพธ์ออกมาสวยงาม ซึ่งคนไข้บางคนไม่รู้ หลงเชื่อไปทำกับคลินิกนั้น ๆ และได้ผลลัพธ์ออกมาไม่เป็นอย่างที่ต้องการ ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ผิวไม่เรียบเนียน ต้องแก้ไขภายหลัง 
• คลินิกที่มีดาราและเซเลบริตี้เข้าไปใช้บริการ ก็ช่วยประกอบการตัดสินใจ ไม่ให้ถูกหลอกได้ ด้วยความที่เป็นคนมีชื่อเสียง ต้องใช้หน้าตาในการประกอบอาชีพ การจะเลือกใช้บริการฉีดฟิลเลอร์คลินิกไหน ก็ต้องคิดมารอบคอบดีแล้วส่วนหนึ่งว่าปลอดภัย ผลลัพธ์สวยงาม ฉีดแล้วดูเป็นธรรมชาติ
• นอกจากดูรีวิวแล้ว ควรฟังรีวิวแบบปากต่อปาก เช่นบอกต่อจากญาติ จากเพื่อน ที่เคยไปใช้บริการคลินิกที่กำลังสนใจอยากไปฉีดฟิลเลอร์ แล้วมาแนะนำต่อ เช่น หมอบริการดี มือเบา ใช้ฟิลเลอร์แท้ 
• รีวิวมักมาพร้อมราคา เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดและเป็นการโฆษณาชวนเชื่อที่อาจหลงเชื่อได้ ไม่ควรเห็นแก่ราคาถูกมากเกินไปครับ คลินิกเสริมความงามส่วนใหญ่มีการจัดโปรโมชั่น แต่ก็ต้องดูยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้ และรีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์ประกอบด้วยครับ  

การนัดหมายติดตาม Follow ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์

คลินิกต้องมีการนัดติดตามผล Follow ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งแสดงถึงความใส่ใจและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ โดยส่วนใหญ่แพทย์จะนัดติดตามผลหลังฉีดฟิลเลอร์ใน 1 เดือน เพื่อรอให้ฟิลเลอร์กระจายตัวได้ดี เข้าที่ หรือได้รูปก่อนครับ 

ในระหว่างนั้นจะมีเจ้าหน้าที่สาขาของคลินิก โทรศัพท์หรือไลน์พูดคุยสอบถามอาการหลังฉีดฟิลเลอร์กับคนไข้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าหลังฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วไม่มีอาการผิดปกติ หรือผลข้างเคียงใด ๆ หรือหากมีความกังวลใจ ก็สามารถสอบถามข้อมูลได้โดยตรง ก่อนมาพบแพทย์ตามวันนัด 

ฉีดฟิลเลอร์แต่ละจุดใช้กี่ CC ?

ฉีดฟิลเลอร์ แต่ละจุด ใช้กี่ CC ? หมอจะประเมินใบหน้า วิเคราะห์ปัญหาก่อนครับ โดยดูจากความลึกของผิว และความต้องการของคนไข้ หากปัญหาเกิดจากการยุบตัวของกระดูกเนื่องจากอายุ อาจจะต้องใช้จำนวน CC มากขึ้น สามารถทยอยฉีดได้เรื่อย ๆ ครับ ไม่จำเป็นต้องฉีดทั้งหมดในทีเดียว 

• ฟิลเลอร์ขมับ 2-4 CC
• ฟิลเลอร์แก้มส้ม 1-2 CC
• ฟิลเลอร์ปาก 1-2 CC 
• ฟิลเลอร์คาง 1-2 CC 
• ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 1-3 CC
• ฟิลเลอร์ใต้ตา 2-4 CC
• ฟิลเลอร์หน้าผาก 3-5 CC

ราคาฟิลเลอร์แท้แต่ละยี่ห้อ

ราคาฟิลเลอร์แท้ แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น ของแต่ละคลินิกอาจแตกต่างกันได้ครับ ที่ V Square Clinic ใช้ฟิลเลอร์แท้ แบรนด์ระดับโลก ผ่านการรับรองจาก อย. ได้แก่ 

• ฟิลเลอร์ Restylane (สวีเดน) ราคาเริ่มต้น 11,900.-/CC
• ฟิลเลอร์ Juvederm (อเมริกา) ราคาเริ่มต้น 7,490.-/CC
• ฟิลเลอร์ Belotero (สวิตเซอร์แลนด์) ราคาเริ่มต้น 11,900.-/CC
• ฟิลเลอร์ Teoxane (สวิตเซอร์แลนด์) ราคาเริ่มต้น 13,900.-/CC
• ฟิลเลอร์ Definisse (อิตาลี) ราคาเริ่มต้น 11,900.-/CC

สรุป

ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ? ถึงจะปลอดภัยและดูเป็นธรรมชาติ มีหลายข้อให้พิจารณาครับ ไม่ว่าจะฉีดฟิลเลอร์จุดไหน เช่น ใต้ตา หน้าผาก ขมับ ร่องแก้ม แก้มส้ม ปาก คาง ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกคลินิกไหน ต้องเลือกคลินิกให้ถูก ดูรีวิวให้เป็น จะได้ไม่ถูกหลอก 

ฉีดฟิลเลอร์ที่ V Square Clinic นอกจากจะเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ ใช้ฟิลเลอร์แท้แล้ว ยังให้ความใส่ใจแก่คนไข้ หลังฉีดฟิลเลอร์ยังมีการนัดหมายติดตาม Follow ผลลัพธ์ เพื่อให้มั่นใจได้ครับว่าผลลัพธ์ออกมาสวยงามและปลอดภัย    

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ยี่ห้อไหนดี รุ่นไหนตอบโจทย์ที่สุดเช็กเลย

ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ยี่ห้อไหนดี ? ขมับ เป็นตำแหน่งที่มีฟิลเลอร์ให้เลือกใช้หลายรุ่นครับ ซึ่งการเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการเติมขมับ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดี แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ เช่น ฟิลเลอร์เป็นก้อนไม่เรียบเนียน ดูไม่สวยงามได้อีกด้วยครับ

หมอจะมาอัปเดตยี่ห้อฟิลเลอร์ขมับล่าสุด มียี่ห้อไหนที่น่าสนใจบ้าง ? แต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นต่างกันอย่างไร ? ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนก็ดีเหมือนกันหมดจริงไหม ? ติดตามอ่านได้ในบทความนี้

สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ยี่ห้อไหนดี

• จะรู้ได้อย่างไรว่าควรฉีดฟิลเลอร์ขมับ ยี่ห้อไหนดี ?
• ฉีดฟิลเลอร์ขมับยี่ห้อไหน ดีเหมือนกันจริงไหม ?
• ฟิลเลอร์ขมับ ยี่ห้อไหนดี รุ่นไหนเหมาะกับการฉีดขมับ ?
  • ฟิลเลอร์ขมับ ยี่ห้อ Juvederm
  • ฟิลเลอร์ขมับ ยี่ห้อ Restylane
  • ฟิลเลอร์ขมับ ยี่ห้อ Teoxane
• Filler ฉีดขมับ แต่ละยี่ห้อ / รุ่น อยู่ได้นานแค่ไหน ?
• ราคาฉีดฟิลเลอร์ขมับ ที่ V Square Clinic
• ฟิลเลอร์ฉีดขมับแต่ละยี่ห้อ ต้องใช้กี่ CC ?
• สรุปเรื่องฉีดฟิลเลอร์ขมับ ยี่ห้อไหนดีสุด ?

จะรู้ได้อย่างไรว่าควรฉีดฟิลเลอร์ขมับ ยี่ห้อไหนดี ?

สำหรับใครที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ขมับ เบื้องต้นควรพิจารณาเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน ผ่าน อย.ไทยครับ แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าควรฉีดขมับ ยี่ห้อไหนดี ? รุ่นไหนดี ?

วิธีที่ดีที่สุดคือควรปรึกษาแพทย์ เพื่อให้แพทย์แนะนำยี่ห้อฟิลเลอร์ขมับที่เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาครับ เพราะปัจจุบันมีฟิลเลอร์ออกมาหลายยี่ห้อหลายรุ่น แต่ละรุ่นเหมาะกับตำแหน่ง และสภาพผิวที่ต่างกัน

การให้แพทย์ที่มีประสบการณ์แนะนำยี่ห้อฟิลเลอร์ขมับที่เหมาะสมกับปัญหา จะช่วยให้คนไข้เห็นผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างชัดเจน และมีความปลอดภัยครับ

ฉีดฟิลเลอร์ขมับยี่ห้อไหน ดีเหมือนกันจริงไหม ?

ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? ยี่ห้อไหนก็ดีเหมือนกันหมดจริงไหม ? ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อแม้จะเป็นสารไฮยาลูรอนเหมือนกัน แต่มีเทคโนโลยีการผลิตต่างกัน ส่งผลต่อคุณสมบัติ ขนาดโมเลกุล ระยะเวลาการคงอยู่ของผลลัพธ์ ไปจนถึงราคาฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ

ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพสูง เช่น ฟิลเลอร์จากอเมริกา ยุโรป สามารถอยู่ได้นาน และได้รับรองมาตรฐานจากหลายหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ มักมีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่เชื่อมั่นได้ในคุณภาพและความปลอดภัย ผลลัพธ์ที่ได้คุ้มค่ากับราคาครับ

และนอกจากการเลือกฉีด Filler ขมับ ยี่ห้อไหนดี อีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อผลลัพธ์คือแพทย์ผู้ฉีดฟิลเลอร์ครับ ไม่ว่าจะฉีดฟิลเลอร์ขมับยี่ห้อไหน เลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อราคาสูงที่สุด แต่ถ้าฉีดโดยแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ เป็นหมอกระเป๋า หรือหมอเถื่อนที่รับฉีดตามบ้าน ไม่มีเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง เลือกรุ่น/ยี่ห้อไม่เหมาะสมกับปัญหา อาจทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เป็นตามที่คาดหวัง

เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์ตำแหน่งนี้ต้องฉีดลงลึกถึงชั้นกระดูก อาศัยความชำนาญและเทคนิคในการฉีด เพื่อให้หลังฉีดขมับเต็มอิ่ม เรียบเนียน ดูเป็นธรรมชาติ และไม่เป็นก้อน

ฟิลเลอร์ขมับ ยี่ห้อไหนดี รุ่นไหนเหมาะกับการฉีดขมับ ?

การฉีดฟิลเลอร์ขมับ ควรเป็นฟิลเลอร์ที่เนื้อเจลยืดหยุ่น เติมเต็มขมับยุบได้อย่างเรียบเนียน ทนต่อการขยับได้ดี และอยู่ได้นาน หมอแนะนำเป็น 3 ยี่ห้อฟิลเลอร์แบรนด์ระดับโลก ได้แก่ Juvederm, Restylane และ Teoxane ได้รับรองจาก U.S. FDA และผ่าน อย.ไทย คงผลลัพธ์ได้นาน ไม่ต้องฉีดเติมบ่อยครับ

ฟิลเลอร์ขมับ ยี่ห้อ Juvederm

ฉีดฟิลเลอร์ขมับยี่ห้อ Juvederm จากอเมริกา ใช้ 2 เทคโนโลยีการผลิตเฉพาะ Hylacross และ Vycross เด่นในเรื่องเนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง ช่วยเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงตามวัยได้ดี อยู่ได้นาน และมีหลายรุ่นให้เลือกใช้

รุ่นที่เหมาะกับการฉีดขมับ

• Juvederm Ultra Plus เนื้อนิ่มและฟูมาก ฉีดแล้วขมับดูเต็มสวย
• Juvederm Voluma เนื้อทน ฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง ดูเป็นธรรมชาติ
• Juvederm Volux เนื้อทน มีความคงตัว และทนต่อแรงขยับได้ดี

ฟิลเลอร์ขมับ ยี่ห้อ Restylane

เมื่อต้องการฉีดฟิลเลอร์ขมับ หลายคนจะนึกถึงยี่ห้อนี้เป็นอันดับแรก ๆ ครับ โดย Restylane เป็นฟิลเลอร์แบรนด์แรกของโลกจากสวีเดนที่แพทย์ให้การยอมรับอย่างกว้างขวาง ใช้เทคโนโลยี OBT Technology และ NASHA Technology ในการผลิต เด่นในเรื่องเนื้อโมเลกุลที่มีขนาดหลากหลาย ครอบคลุมทุกปัญหาผิว

รุ่นที่เหมาะกับการฉีดขมับ

• Restylane Volyme เนื้อนิ่มปานกลาง เหมาะฉีดขมับยุบ ขมับตอบในคนที่มีผิวบาง

ฟิลเลอร์ขมับ ยี่ห้อ Teoxane

ฉีด Filler ขมับยี่ห้อ Teoxane เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เนื้อฟิลเลอร์มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับสารไฮยาลูรอนที่อยู่ในร่างกายของเรา ลดโอกาสเกิดการแพ้ และมีโครงสร้างที่ยืดหยุ่นสูง สามารถปรับตัวตามการเคลื่อนไหวของใบหน้าได้ดี ช่วยให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติครับ

รุ่นที่เหมาะกับการฉีดขมับ

• Teoxane RHA 2 เนื้อละเอียด ยืดหยุ่น ทนต่อแรงขยับได้ดี
• Teoxane RHA 3 เนื้อนิ่มแต่ค่อนข้างแน่น ทนต่อแรงขยับได้ดี
• Teoxane RHA Ultra Deep เนื้อทน ปั้นทรงง่าย มีความคงตัวสูง ไม่ไหลไปจุดอื่น

คลิกอ่านเพิ่มเติม : ไฮยาลูรอน คืออะไร ? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? อันตรายไหม ?

Filler ฉีดขมับ แต่ละยี่ห้อ / รุ่น อยู่ได้นานแค่ไหน ?

ขมับเป็นตำแหน่งฉีดฟิลเลอร์ที่ผลลัพธ์อยู่ได้ค่อนข้างนาน เนื่องจากเป็นจุดที่ไม่ได้มีการขยับบ่อยร่วมกับใช้ฟิลเลอร์ที่มีระยะเวลาการคงอยู่ได้นาน โดยทั่วไปผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์ขมับอยู่ได้นานเฉลี่ย 12-24 เดือนครับ

• Juvederm Ultra Plus อยู่ได้นาน 12 เดือน
• Juvederm Voluma อยู่ได้นาน 18 เดือน
• Juvederm Volux อยู่ได้นาน 18-24 เดือน
• Restylane Volyme อยู่ได้นาน 18 เดือน
• Teoxane RHA 2 อยู่ได้นาน 18 เดือน
• Teoxane RHA 3 อยู่ได้นาน 12-18 เดือน
• Teoxane RHA Ultra Deep อยู่ได้นาน 18 เดือน

นอกจากรุ่นและยี่ห้อฟิลเลอร์แล้ว อายุการใช้งานของฟิลเลอร์ยังขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดของแต่ละคนด้วยนะครับ หากปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เลี่ยงการโดนความร้อนในช่วงแรก ดื่มน้ำเยอะ ๆ ก็จะช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานครับ

คลิกอ่านเพิ่มเติม : หลังฉีดฟิลเลอร์ควรปฏิบัติตัวอย่างไร ? อะไรบ้างที่ต้องระวังในแต่ละตำแหน่ง

ราคาฉีดฟิลเลอร์ขมับ ที่ V Square Clinic

ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ราคา ขึ้นอยู่กับรุ่น/ยี่ห้อฟิลเลอร์ จำนวน CC ที่ใช้ สำหรับที่ V Square Clinic ฉีดฟิลเลอร์ขมับราคาโปรโมชัน มีดังนี้

ฟิลเลอร์ฉีดขมับแต่ละยี่ห้อ ต้องใช้กี่ CC ?

ฉีดฟิลเลอร์ขมับแต่ละยี่ห้อใช้กี่ CC โดยทั่วไปใช้อยู่ที่ประมาณข้างละ 1-2 CC ขึ้นอยู่กับแพทย์ประเมินตามระดับความลึกของขมับของแต่ละบุคคล ทำให้ในแต่ละเคสอาจใช้ปริมาณฟิลเลอร์ไม่เท่ากันครับ

สรุปเรื่องฉีดฟิลเลอร์ขมับ ยี่ห้อไหนดีสุด ?

ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ยี่ห้อไหนดีที่สุด ควรเลือกฟิลเลอร์ที่เนื้อเจลมีความยืดหยุ่น อยู่ได้นาน ที่สำคัญควรเป็นฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน นำเข้าถูกต้อง หลัก ๆ จะแนะนำเป็นฟิลเลอร์แบรนด์พรีเมียมที่คลินิกชั้นนำหลายแห่งเลือกใช้ เช่น Restylane Juvederm และ Teoxane ได้รับรองจาก U.S. FDA และ อย.ไทย มีความปลอดภัยสูง

นอกจากนี้ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับหัตถการ วิธีดูฟิลเลอร์ของแท้ รวมถึงเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีแพทย์ที่มีประสบการณ์ แนะนำรุ่นฟิลเลอร์ขมับที่เหมาะกับปัญหา และความต้องการของคนไข้ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ออกมาดีที่สุดครับ

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ราคาโปรโมชั่น

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม สามารถแก้ปัญหาร่องแก้มลึกได้อย่างเห็นผล และช่วยเติมแก้มตอบให้เต็มขึ้น ใบหน้ากลับมาดูอ่อนกว่าวัย เพราะการมีร่องแก้มทำให้ใบหน้าดูมีอายุ ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายคนกังวลครับ

ใครที่สงสัยว่า Filler ร่องแก้มราคาเท่าไหร่ ต้องใช้กี่ซีซี ? จริง ๆ ราคาฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม จะแตกต่างกันไปตามยี่ห้อฟิลเลอร์และปริมาณที่ใช้ครับ เพื่อคลายข้อสงสัย หมอมีข้อมูลการฉีดร่องแก้มมาแนะนำ พร้อมโปรโมชัน ปี 2025 ที่ V Square Clinic

สารบัญ ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ราคา

• ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ราคาแต่ละยี่ห้อเป็นอย่างไร ?
• โปรโมชั่นราคาฟิลเลอร์ร่องแก้ม V Square Clinic
• ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ราคาคุ้มหรือไม่ ? เมื่อเทียบกับหัตถการอื่น ๆ
  • ร้อยไหมดึงร่องแก้ม
  • Hifu ร่องแก้ม
  • โบท็อกร่องแก้ม
  • ฉีดไขมันร่องแก้ม
  • ศัลยกรรมดึงร่องแก้ม
• ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มกับ V Square Clinic
• สรุปฟิลเลอร์ร่องแก้ม ราคาคุ้มค่า

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ราคาแต่ละยี่ห้อเป็นอย่างไร ?

ฉีดร่องแก้มราคาจะขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่ใช้ครับ

ซึ่งปัญหาร่องแก้มของแต่ละคนอาจเหมาะกับเนื้อฟิลเลอร์ต่างรุ่นต่างยี่ห้อกัน (ฟิลเลอร์แต่ละรุ่น/ยี่ห้อจะมีขนาดโมเลกุล ความคงตัวและอายุการใช้งานที่ต่างกัน)

เป็นเพราะปัญหาร่องแก้มมีหลายสาเหตุครับ เช่น เกิดจากการยุบตัวของกระดูกบริเวณใต้ตา, เกิดจากการยุบตัวของกระดูกบริเวณร่องแก้ม, ร่องแก้มที่เกิดจากการแสดงสีหน้า ยิ้มบ่อย ๆ จนกล้ามเนื้อดึงร่องแก้ม หรือเกิดจากผิวแห้งมาก จึงมีรอยพับบริเวณร่องแก้ม เป็นต้น

ดังนั้นก่อนฉีดฟิลเลอร์จึงต้องรู้สาเหตุที่แท้จริงก่อน โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและแนะนำรุ่น/ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสมให้ ซึ่งยี่ห้อ/รุ่น หลัก ๆ ที่หมอแนะนำคือ

• Juvederm Ultra Plus (12 เดือน) เป็นรุ่นที่มีลักษณะเนื้อนิ่มและฟูมาก เมื่อฉีดไปแล้วจะเต็มสวย เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มลึก ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงตามวัย
• Juvederm Voluma (18 เดือน) เป็นรุ่นที่มีลักษณะเนื้อแข็งและฟูปานกลาง โมเลกุลขนาดใหญ่ มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการเติมร่องแก้ม

นอกจากนี้การเติมฟิลเลอร์ร่องแก้มราคายังขึ้นกับปริมาณที่ใช้ร่วมด้วย เช่น ในเคสที่อายุเยอะ ๆ (50 ปีขึ้นไป) อาจต้องใช้ฟิลเลอร์มากกว่าคนทั่วไปครับ เฉลี่ย 3-4 CC เพื่อให้ผิวกลับมาตึงกระชับอีกครั้ง ซึ่งคนที่มีปัญหาไม่มากก็จะใช้ฟิลเลอร์ 1-2 CC ก็เพียงพอแล้วครับ

โปรโมชั่นราคาฟิลเลอร์ร่องแก้ม V Square Clinic

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ V Square Clinic มีฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มให้เลือกหลายรุ่น หลายยี่ห้อ ซึ่งล้วนเป็นฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานและได้รับความนิยมจากแพทย์ทั่วโลก ก่อนฉีดหมอจะประเมินปัญหาและแนะนำยี่ห้อที่เหมาะสมให้ครับ

เติมเต็มร่องแก้มราคาโปรโมชั่น ที่ V Square Clinic

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ราคาคุ้มหรือไม่ ? เมื่อเทียบกับหัตถการอื่น ๆ

การฉีดเติมร่องแก้มราคาคุ้มค่าครับ เพราะเป็นวิธีแก้ปัญหาริ้วรอยร่องแก้มได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงจุด สามารถแก้ได้ทุกปัญหา ขึ้นอยู่กับเทคนิคการฉีดของแพทย์ หลังฉีดสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที และได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ

เป็นหัตถการที่หมอแนะนำในอันดับต้น ๆ เมื่อเทียบกับหัตถการอื่นที่ราคาโดยรวมแล้วไม่ต่างกันมาก ตัวอย่างเช่น

ร้อยไหมดึงร่องแก้ม

การแก้ปัญหาร่องแก้ม ด้วยการร้อยไหม จะเหมาะกับในเคสที่แก้มตอบบางคน สามารถใช้ไหมดึงไขมันขึ้นมาเติมแก้มได้ แต่ต้องมีเนื้อแก้มส่วนล่างให้ดึงด้วยครับ

ถ้าไม่มีเนื้อก็ต้องใช้ฟิลเลอร์ การร้อยไหมดึงร่องแก้ม อาจช่วยเสริมเล็กน้อยในผิวชั้นตื้นเท่านั้น ถ้าร้อยไหมเงี่ยงก้างปลาดึงร่องแก้มโดยตรงจะทำให้เนื้อขึ้นไปกองที่โหนกแก้มบวมไม่สวย ดูไม่เป็นธรรมชาติ

Hifu ร่องแก้ม

Hifu ใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ที่มีความปลอดภัยสูง ยิงลงในชั้นผิว ช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน วิธีนี้แนะนำสำหรับคนที่ร่องแก้มไม่ลึกมากและกลัวการฉีดฟิลเลอร์ครับ ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง แต่ระยะเวลาเห็นผลจะไม่รวดเร็วเท่าการฉีดฟิลเลอร์ครับ

โบท็อกร่องแก้ม

ในกรณีร่องแก้มลึกที่เกิดจากการยิ้มบ่อย ๆ จนกล้ามเนื้อที่ดึงร่องแก้มแข็งแรงเกินไป สามารถใช้โบท็อกเทคนิค Dermotoxin แก้ไขได้ แต่ไม่ควรแก้ด้วยโบท็อกทั้ง 100% เพราะจะทำให้การยิ้มดูแข็ง ไม่เป็นธรรมชาติ

ควรแก้ด้วยโบท็อกแค่ 50% และที่เหลือแก้ด้วยการเติมฟิลเลอร์เทคนิค Myomodulation ฉีดหนุน หรือฉีดกดกล้ามเนื้อ จะสามารถควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อได้บางส่วน และช่วยให้ร่องแก้มตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติครับ

ฉีดไขมันร่องแก้ม

ในผู้ที่ไม่ต้องการให้มีสารอื่น ๆ เข้ามาในร่างกาย หรือกลัวมีอาการแพ้ การฉีดไขมันร่องแก้ม เป็นอีกทางเลือกครับ แต่ต้องแลกมาด้วยการเจ็บตัว 2 ครั้ง จากการดึงไขมันส่วนเกินในร่างกายคนไข้ นำมาปั่นแยกเป็นของเหลว ก่อนนำมาใช้ฉีดร่องแก้ม ซึ่งไม่สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีเหมือนกับการฉีดฟิลเลอร์

และในการทำครั้งแรกมักเห็นผลลัพธ์ไม่ชัดเจนครับ เพราะโดยธรรมชาติของร่างกาย ไขมันเป็นสารที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ ดังนั้นหลังฉีดอาจเกิดผิวไม่เรียบเพราะไขมันที่ฉีดไปถูกร่างกายนำไปใช้

ศัลยกรรมดึงร่องแก้ม

การผ่าศัลยกรรมดึงหน้า ดึงร่องแก้ม สามารถช่วยทำให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ ผิวดูตึงกระชับขึ้นได้ แต่ต้องแลกมากับความเจ็บ เสี่ยงมีรอยแผลเป็น และต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นนานครับ

ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มกับ V Square Clinic

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ V Square Clinic จะเน้นผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ทำหัตถการโดยหมอที่มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า สามารถประเมินสาเหตุของการเกิดร่องแก้มในแต่ละเคสและแก้ไขได้อย่างตรงจุด พร้อมแนะนำยี่ห้อ/รุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

เพราะถ้าแก้ผิดวิธี หรือเลือกรุ่นฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสม อาจจะยิ่งทำให้ร่องแก้มลึกกว่าเดิม เป็นก้อนและดูไม่เป็นธรรมชาติครับ

• แพทย์ประสบการณ์สูงและมีการอัปเดตความรู้อยู่เสมอ : หมอที่ V Square Clinic ทุกคนจะมีการศึกษาเพิ่มเติม อัปเดตความรู้ใหม่อยู่เสมอ การฟิลเลอร์ร่องแก้มต้องอาศัยความถนัดและใช้ฝีมือ ต้องมีศิลปะการฉีดฟิลเลอร์ (Fine Art of Filer) ในการปรับแก้ไข ออกแบบใบหน้าให้กับคนไข้ ให้ผลลัพธ์สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด

• ใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน : ใครที่สนใจฉีดฟิลเลอร์แนะนำให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ (Hyaluronic Acid) ผ่าน อย. เพื่อความปลอดภัยครับ โดยที่ V Square Clinic จะแกะกล่องให้ดูต่อหน้า พร้อมให้กล่องกลับบ้านเพื่อตรวจสอบได้อีกครั้ง
• มีการติดตามผล : ไม่เฉพาะการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเท่านั้น ทุกการทำหัตถการ จะมีการติดตามผลหลังทำทุกครั้ง มีการนัดดูผล ติดตามผลการรักษาว่าหลังจากฉีดไปแล้วมีอาการข้างเคียงหรือไม่

พร้อมแนะนำวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์อย่างถูกต้องและมีช่องทางให้สอบถามข้อมูลได้อย่างสะดวก เช่น เบอร์โทร Line@ หรือ Inbox Facebook เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่ขอคำปรึกษาหรือทำการนัดหมายล่วงหน้า ก่อนเข้าใช้บริการได้ครับ

สรุปฟิลเลอร์ร่องแก้ม ราคาคุ้มค่า

ปัจจุบัน ฉีด Filler ร่องแก้มราคา มีให้เลือกหลากหลาย มีฟิลเลอร์ร่องแก้มหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายรุ่นให้แพทย์เลือกใช้แก้ปัญหาร่องแก้มลึกได้อย่างตรงจุด สามารถปรับรูปหน้าคนไข้ให้ดูอ่อนวัยลงได้ ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้ฟิลเลอร์แท้ยี่ห้อเหมาะสมกับคนไข้ เพื่อผลลัพธ์ที่คุ้มค่า คุ้มราคา ดูเป็นธรรมชาติและมีความปลอดภัยสูงครับ

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ฟิลเลอร์ร่องแก้มใช้กี่ CC

อยากฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เพื่อแก้ปัญหาร่องแก้มลึก ใบหน้าดูแก่ ให้กลับมาอ่อนเยาว์ ดูสดใส ต้องใช้ฟิลเลอร์ปริมาณเท่าไร ? ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มใช้กี่ CC ? ถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ดี สามารถคืนความอ่อนเยาว์ได้อย่างชัดเจน หมอมีคำแนะนำ พร้อมข้อควรรู้ต่าง ๆ มาฝากครับ

สารบัญ ฟิลเลอร์ร่องแก้มใช้กี่ CC

• ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มใช้กี่ CC เห็นผลการเปลี่ยนแปลง ?
• ทำไมการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มในแต่ละคน ถึงใช้จำนวนซีซีไม่เท่ากัน ?
• ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ใช้ยี่ห้อไหน / รุ่นไหนได้บ้าง ?
• ฉีด Filler ร่องแก้ม ด้วยจำนวน CC ไม่เหมาะสม ส่งผลอย่างไร ?
• จะรู้ได้อย่างไรว่าควรฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มกี่ CC ?
• สรุปเรื่องฟิลเลอร์ร่องแก้มใช้กี่ CC เห็นผลชัดเจน

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มใช้กี่ CC เห็นผลการเปลี่ยนแปลง ?

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม หรือการฉีดฟิลเลอร์ ประเภทสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid (ไฮยารูรอน) เข้าไปแก้ไขริ้วรอยร่องลึกข้างแก้ม โดยทั่วไปแล้ว ถ้ามีปัญหาไม่มากใช้ฟิลเลอร์ 1-2 CC ก็เพียงพอแล้วครับ

ส่วนในเคสที่อายุเยอะ ๆ และมีหลาย ๆ ปัญหาประกอบกัน ทั้งร่องแก้ม ร่องใต้ตา รวมถึงร่องน้ำหมาก หากอยากเติมเต็ม ให้ใบหน้าดูละมุนสวยงาม ทุกสัดส่วนรับกันอย่างเหมาะสม อาจจะต้องใช้ฟิลเลอร์หลายซีซี ในการแก้ไขครับ เฉลี่ยอยู่ที่ 3-4 CC และหมออาจแนะนำให้ทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ เช่น การใช้เครื่องยกกระชับ อย่าง Hifu, Ulthera และการร้อยไหม เพื่อให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ทำไมการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มในแต่ละคน ถึงใช้จำนวนซีซีไม่เท่ากัน ?

การแก้ไขร่องแก้มลึก ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ ในแต่ละคนจะมีความรุนแรงของปัญหาต่างกันครับ รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ทั้งเรื่องของอายุที่ต่างกัน สภาพผิวและโครงหน้าของแต่ละบุคคล สามารถอธิบายความแตกต่างเป็น 4 ปัจจัยหลัก ๆ ได้ดังนี้

• ปัญหาร่องแก้ม ที่มาจากการยุบตัวของกระดูกบริเวณใต้ตา

ในเคสลักษณะนี้ มักจะใช้ปริมาณการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มมากกว่า 1 CC ครับ เพราะริ้วรอยร่องแก้มที่เกิดขึ้นมีผลมาจากการยุบตัวของกระดูกบริเวณใต้ตาร่วมด้วย

ทำให้เนื้อแก้มด้านบนหย่อนลงมากองที่เหนือร่องแก้ม ส่งผลให้ร่องแก้มดูลึก (มักพบในคนที่อายุ 30 ปีขึ้นไป) สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มร่วมกับฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตา โดยฉีดยกผิวในชั้นกระดูกเพื่อดึงโครงสร้างผิวโดยรวมทั้งหมด

ตัวอย่างรีวิวฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

*ผลจากการเข้ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย

• ปัญหาร่องแก้ม จากการยุบตัวของกระดูกบริเวณร่องแก้มโดยตรง

มักพบในคนที่อายุ 20-30 ปี ซึ่งร่องแก้มยังไม่ลึกมาก และกระดูกใต้ตายังยุบตัวลงไม่มาก สามารถแก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเพียงอย่างเดียว

โดยฉีดลงในชั้นกระดูกใต้กล้ามเนื้อและฉีดในจุดที่ต่ำกว่าร่องแก้มเล็กน้อย ไม่ใช่ฉีดที่ร่องแก้มโดยตรง เพื่อป้องกันการดึงของกล้ามเนื้อที่ใช้ยิ้มครับ ในเคสลักษณะนี้ใช้ปริมาณฟิลเลอร์ไม่มาก 1-2 CC ก็เพียงพอครับ

• ปัญหาร่องแก้มจากการยิ้ม การแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ

ในคนที่แสดงสีหน้าบ่อย ๆ ยิ้มบ่อย ๆ ทำให้เกิดรอยพับบริเวณร่องแก้ม เพราะกล้ามเนื้อที่ดึงร่องแก้มแข็งแรงเกินไป ปัญหาลักษณะนี้ สามารถฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ไขได้เช่นกัน

โดยหมอจะฉีดเติมฟิลเลอร์ด้วยเทคนิค Myomodulation การฉีดหนุน หรือฉีดกดกล้ามเนื้อ เพื่อควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อบางส่วน สามารถช่วยให้ร่องแก้มตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ในเคสลักษณะนี้จะให้ปริมาณฟิลเลอร์ร่องแก้มไม่มาก 1-2 CC ครับ

• ปัญหาร่องแก้มจากมลภาวะ แสงแดด ฝุ่นควัน

ในเคสที่มีริ้วรอยร่องแก้ม จากสภาพผิวที่แห้งเสีย ซึ่งเกิดจากผิวแห้ง ตากแดดบ่อย เจอ ควัน หรือมลพิษต่าง ๆ ที่เข้าไปทำร้ายผิวให้เสื่อมโทรมเร็ว ชั้นผิวบางลง จึงเกิดรอยพับได้ง่าย

ในเคสแบบนี้ หมอแนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์แบบ skinbooster ฉีดเติมความชุ่มชื้นลงในชั้นผิวหนัง เพื่อให้ผิวอิ่มฟู มีความยืดหยุ่น และผิวมีความชุ่มชื้นมากขึ้น หากฉีดทั่วหน้า จะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 2 CC ครับ

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ใช้ยี่ห้อไหน / รุ่นไหนได้บ้าง ?

จาก 4 ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดปัญหาร่องแก้ม ในหัวข้อข้างต้น จะเห็นว่าวิธีการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มใช้เทคนิคต่างกัน ร่วมถึงยี่ห้อ/รุ่น ฟิลเลอร์ที่ทำมาแก้ไข ก็จะต่างกันออกไปครับ

แล้วจะฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อไหนดี ? เพื่อให้เหมาะกับปัญหาของเรา ในเบื้องต้นจะต้องให้หมอประเมินปัญหาและสภาพผิวของคนไข้เสียก่อนครับ ถึงจะแนะนำยี่ห้อ/รุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสมให้ได้ ปัจจุบันมีหลายยี่ห้อให้เลือกตามความเหมาะสม ดังนี้

• Juvederm Ultra Plus ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มและฟูมาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มลึกจากการเปลี่ยนแปลงตามวัย
• Juvederm Voluma ฟิลเลอร์เนื้อทน ฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง เติมเต็มร่องลึกได้อย่างเป็นธรรมชาติ
• Juvederm Volift ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ที่มีความละเอียดมาก เหมาะสำหรับเติมร่องแก้มในคนผิวบาง
• Juvederm Volux ฟิลเลอร์เนื้อทน มีโมเลกุลขนาดใหญ่ มีความยืดหยุ่นสูง คงรูปได้ดีที่สุด เหมาะสำหรับฉีดร่องแก้มชั้นลึก
• Restylane Volyme ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มปานกลาง และความยืดหยุ่นสูงมาก เรียบเนียนไปกับผิวได้ดี ไม่เป็นก้อน
• Belotero Intense ฟิลเลอร์เนื้อทน มีความยืดหยุ่นดี ช่วยฟื้นฟูและเพิ่ม volume ของชั้นผิว เหมาะเติมร่องแก้มจากการยุบตัวของเนื้อเยื่อผิวหนัง
• Definisse Restore ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความแน่นปานกลาง เหมาะกับการเติมริ้วรอยหย่อนคล้อยตามวัย
• Definisse Touch ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เนียนละเอียด กลืนกับชั้นผิวได้ดี เหมาะกับการลดริ้วรอยตื้น ๆ บริเวณร่องแก้ม
• Flore AQUA-S ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด มีความยืดหยุ่น ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดริ้วรอยบริเวณร่องแก้ม
• Teoxane RHA 2 ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ค่อนข้างยืดหยุ่น เหมาะกับการเติมริ้วรอยร่องแก้มระดับปานกลาง หลังฉีดไม่เป็นก้อน
• Teoxane RHA 3 ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม แต่ค่อนข้างแน่น ทนต่อแรงขยับได้ดี เหมาะเติมริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก
• Neuramis Deep ฟิลเลอร์เนื้อแน่น อิ่มฟู ปั้นทรงง่าย เหมาะสำหรับเติมริ้วรอยร่องลึกบริเวณร่องแก้ม

จะเห็นได้ว่าแต่ละยี่ห้อที่กล่าวมา มีคุณสมบัติและความเหมาะในการใช้ต่างกัน รวมถึงราคาก็ต่างกันด้วยครับ ในเบื้องต้นสามารถศึกษารายละเอียดฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ราคาโปรโมชัน ของทาง V Square Clinic เพิ่มเติมได้ครับ

ฉีด Filler ร่องแก้ม ด้วยจำนวน CC ไม่เหมาะสม ส่งผลอย่างไร ?

การฉีด Filler ด้วยปริมาณที่มากเกินไปหรือไม่เหมาะสม อาจส่งผลให้เกิดความไม่สมมาตรของใบหน้า ผลลัพธ์ดูไม่เป็นธรรมชาติ เกิดการบวมหรือนูนผิดรูปได้ครับ ดังนั้นการเลือกฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ จึงเป็นสิ่งสำคัญ

สำหรับคนที่กังวลว่าหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อนเพราะเคยเห็นรีวิวจากหลาย ๆ คน ที่จริงแล้ว หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม การบวมเล็ก ๆ น้อย ๆ สามารถเกิดขึ้นได้ครับ สาเหตุจากจากลงเข็ม รวมถึงมีเนื้อฟิลเลอร์แทรกอยู่ใต้ผิว แต่ก็สามารถหายได้เองเมื่อฟิลเลอร์เข้าที่

ส่วน ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มบวมกี่วัน ? โดยทั่วไปจะอาการบวมจะดีขึ้น ในช่วง 2-3 วันครับ ในระหว่างนี้ ให้หลีกเลี่ยงการแตะ การเกา การกดนวดในจุดนั้น ๆ อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นเอง

จะรู้ได้อย่างไรว่าควรฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มกี่ CC ?

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ต้องใช้กี่ซีซี ถึงเหมาะสม จะต้องให้แพทย์ประเมินใบหน้า ดูปัญหา สภาพผิว รวมถึงงบประมาณของคนไข้ ถึงจะแนะนำยี่ห้อที่เหมาะสมกับคนไข้มากที่สุดให้ได้ครับ

ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ไหนดี ควรเช็ก รีวิวฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ของแต่ละคลินิก

สรุปเรื่องฟิลเลอร์ร่องแก้มใช้กี่ CC เห็นผลชัดเจน

สรุปฟิลเลอร์ร่องแก้มใช้กี่ CC? โดยปกติแล้ว การฉีดร่องแก้มด้วยฟิลเลอร์จะใช้ปริมาณอยู่ที่ประมาณ 1-2 CC แต่หากเป็นผู้ที่มีปัญหาผิว และร่องลึกมาก รวมไปถึงผู้ที่มีอายุเยอะ อาจใช้อยู่ที่ปริมาณ 3-4 CC ก็เป็นได้

เพื่อให้การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ปัญหาร่องแก้มลึกได้อย่างตรงจุด สามารถปรับรูปหน้าคนไข้ให้ดูอ่อนวัยลงได้นั้น ต้องอาศัยประสบการณ์ของแพทย์ผู้ฉีด สามารถวิเคราะห์ได้ว่าสาเหตุการเกิดร่องลึกแก้มว่ามาจากสาเหตุใด และเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ยี่ห้อไหนถึงเหมาะสมกับคนไข้ เพื่อให้หลังฉีดได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและมีความปลอดภัย

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับผลลัพธ์จริงจากเคสผู้ใช้บริการ

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผู้ที่สนใจฉีด Filler ขมับตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ ที่ V Square Clinic เราได้ดูแลผู้เข้ารับบริการหลากหลายเคส ช่วยแก้ปัญหาขมับตอบ ขมับยุบ ปรับรูปหน้าให้สมดุล รวมถึงเสริมโหงวเฮ้ง หมอได้รวบรวมตัวอย่างเคสรีวิวการฉีดขมับจากผู้ใช้บริการจริงเพื่อให้เห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนมาให้ดูกันครับ

สารบัญ รีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับ

• เปรียบเทียบรีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับ ผลลัพธ์ก่อน-หลังทำเป็นอย่างไร ?
  • รีวิวฉีดขมับแก้ขมับตอบ
  • รีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับแก้ขมับลึก
  • รีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับแก้ขมับเว้าเป็นแอ่ง
  • รีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับปรับใบหน้าละมุน
  • รีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับแก้ปัญหาขมับยุบ
  • รีวิวฉีดขมับเสริมโหงวเฮ้งดีมีวาสนา
  • รีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับยกกระชับใบหน้าช่วงบน
• ปัจจัยใดบ้างส่งผลต่อผลลัพธ์การฉีดฟิลเลอร์ขมับ ?
• รีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับ ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร?
• สรุปรีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับ ตัวช่วยเติมมิติให้ใบหน้า

เปรียบเทียบรีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับ ผลลัพธ์ก่อน-หลังทำเป็นอย่างไร ?

การฉีดฟิลเลอร์ขมับ คือ การเติมเต็มบริเวณขมับด้วยสาร ไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ ไฮยาลูรอน เพื่อแก้ปัญหาขมับตอบ ยุบ หรือเป็นแอ่ง ช่วยเติมเต็มขมับให้อิ่มเต็ม ลดโหนกแก้มเด่น ปรับใบหน้าให้ดูละมุน อ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ และยังช่วยเสริมโหงวเฮ้งได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาขมับและปรับรูปหน้าให้สมส่วน

แต่ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ขมับ หมอแนะนำให้ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด โดยเฉพาะการดูรีวิวการฉีดฟิลเลอร์ขมับจากเคสจริง เพื่อให้เข้าใจถึงผลลัพธ์และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ซึ่งหมอได้รวบรวมตัวอย่างเคสรีวิวฟิลเลอร์ขมับโดยเปรียบเทียบก่อน-หลังฉีดไว้ให้ด้านล่างครับ

รีวิวฉีดขมับแก้ขมับตอบ

ก่อนทำ เคสนี้สังเกตเห็นได้ว่าบริเวณขมับค่อนข้างยุบและตอบ ทำให้โครงหน้าดูแข็ง ไม่มีมิติครับ

หลังทำ บริเวณขมับตอบ ขมับยุบดูเต็มขึ้น ใบหน้าดูมีมิติ และรูปหน้าโดยรวมได้สัดส่วนรูปไข่ ดูละมุนมากขึ้น

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับแก้ขมับลึก

ก่อนทำ เคสนี้มีบริเวณขมับที่ลึก ขมับตอบ ทำให้ใบหน้าไม่ได้สัดส่วน โหนกแก้มดูชัด และยังส่งผลให้ใบหน้าดูโทรมดูแก่กว่าวัยครับ

หลังทำ หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับจะทำให้บริเวณขมับดูอิ่มเต็มขึ้น ใบหน้าดูสดใสและสมส่วนมากขึ้น ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และเพิ่มความมั่นใจได้ทันทีหลังทำ

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับแก้ขมับเว้าเป็นแอ่ง

ก่อนทำ เคสนี้บริเวณขมับมีลักษณะเว้าเป็นแอ่ง ทำให้ใบหน้าดูตอบและขาดความสมดุลอย่างชัดเจน ส่งผลให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า ขาดความละมุน ดูมีอายุก่อนวัย

หลังทำ จากรีวิวเติมขมับด้วยฟิลเลอร์เคสนี้ จะเห็นว่าขมับที่เว้าเป็นแอ่งลึก ดูเต็มขึ้น ทำให้ใบหน้าดูละมุน มีมิติ และมีความสมดุลขึ้นครับ

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับปรับใบหน้าละมุน

ก่อนทำ เคสนี้จะเห็นว่าบริเวณขมับตอบเล็กน้อย ทำให้ใบหน้าดูไม่มีมิติ อีกทั้งโครงหน้าดูแคบลงจากมุมมองด้านหน้าครับ ซึ่งส่งผลให้ภาพรวมของใบหน้าดูแข็งเล็กน้อย

หลังทำ หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับใบหน้าจะดูสมส่วน ขมับดูเต็ม ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูหวานละมุนมากขึ้น

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับแก้ปัญหาขมับยุบ

ก่อนทำ เคสนี้จะเห็นได้ชัดว่าบริเวณขมับมีลักษณะยุบ ทำให้โครงหน้าดูไม่สมดุล ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและดูโทรมไม่สดใส

หลังทำ หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับร่วมกับการปรับบริเวณอื่น ๆ ผลลัพธ์ที่ได้คือใบหน้าดูเต็มอิ่มขึ้นครับ ขมับที่ยุบได้รับการเติมเต็ม ทำให้โครงหน้าดูสมดุล มีมิติ ใบหน้าดูสดใส และอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ

รีวิวฉีดขมับเสริมโหงวเฮ้งดีมีวาสนา

ก่อนทำ เคสนี้บริเวณขมับดูตอบลึกและยุบ ส่งผลให้โครงหน้าดูแข็ง ขาดความละมุน เห็นโหนกแก้มเด่นชัด ทำให้ใบหน้าดูไม่ได้สัดส่วนและภาพรวมดูมีอายุครับ ลักษณะขมับที่ตอบลึกเชื่อว่าอาจส่งผลให้อาภัพรัก ความรักไม่ค่อยราบรื่น ต้องเผชิญความยากลำบาก และต้องหาเลี้ยงตัวเองเป็นส่วนใหญ่

หลังทำ หลังฉีดฟิลเลอร์บริเวณขมับที่เคยตอบให้ดูตื้นขึ้น มีความอิ่มเต็มไม่ยุบไม่บุ๋ม ช่วยลดความเด่นของโหนกแก้ม ทำให้ใบหน้าดูสมส่วนมากขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้ช่วยเสริมโหงวเฮ้งให้ดีขึ้นตามความเชื่อ มีคู่ครองดี มีคนอุปถัมภ์ การค้าขายและธุรกิจเจริญรุ่งเรือง

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับยกกระชับใบหน้าช่วงบน

ก่อนทำ เคสนี้จะเห็นว่าบริเวณขมับดูตอบ ทำให้ใบหน้าไม่สมดุล โดยเฉพาะขมับที่ยุบทำให้ภาพรวมของใบหน้าดูไม่สดใสและมีอายุ ถ้ามองใบหน้าในมุมตรงหน้าจะดูแข็งเกินไปครับ

หลังทำ บริเวณขมับดูเต็มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ช่วยยกหางคิ้ว หางตา ทำให้โครงหน้าช่วงบนดูสมส่วน มีมิติและสมดุลมากขึ้น ช่วยเสริมให้ภาพรวมของใบหน้าดูสดใสและยกขึ้นทันทีหลังฉีด

ตัวอย่างภาพรีวิว Filler ขมับ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้คนไข้ตัดสินใจเลือกฉีดฟิลเลอร์ขมับ ที่ไหนดี ? เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการและมาพร้อมความปลอดภัย เบื้องต้นหมอแนะนำว่าไม่ควรดูเฉพาะภาพถ่าย Before-After เคสที่ดูสวยงามเท่านั้น เพราะอาจถูกปรับแต่งได้ง่าย แต่ควรดูรีวิวจากคลิป VDO Before-After ร่วมด้วย เพื่อความน่าเชื่อถือและมั่นใจในผลลัพธ์ที่แท้จริงด้วยครับ

ปัจจัยใดบ้างส่งผลต่อผลลัพธ์การฉีดฟิลเลอร์ขมับ ?

นอกจากการดูรีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับเพื่อเห็นผลลัพธ์หลังทำแล้ว การที่จะได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและสวยงามนั้น ยังขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยสำคัญที่ส่งผลโดยตรง จากประสบการณ์ของผู้ที่เคยทำและรีวิวเติมขมับในเคสต่าง ๆ พบว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อผลลัพธ์ ได้แก่

• สภาพผิวและปัญหาเฉพาะบุคคล : ระดับความยุบ ความตอบของขมับ โครงสร้างกระดูก และปริมาณไขมันใต้ผิวหนังที่แตกต่างกันครับ ส่งผลต่อการวางแผนฉีดฟิลเลอร์ แพทย์จำเป็นต้องประเมินอย่างละเอียดเพื่อวางแผนการรักษาและกำหนดปริมาณฟิลเลอร์ให้เหมาะสม
• ประสบการณ์ของแพทย์ : การฉีดฟิลเลอร์ขมับต้องอาศัยความชำนาญสูง เนื่องจากบริเวณขมับมีเส้นเลือดและเส้นประสาทสำคัญมากมาย จากการดูรีวิวเติมขมับพบว่า หากแพทย์มีความรู้ทางกายวิภาคที่ดี จะสามารถประเมินปริมาณการฉีดที่เหมาะสม และวางตำแหน่งการฉีดได้แม่นยำ เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย
• คลินิกที่ใช้บริการ : คลินิกต้องได้มาตรฐาน มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย และใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ ทั้งนี้สามารถดูรีวิวฉีดขมับของคลินิกเพื่อประกอบการตัดสินใจได้
• เนื้อฟิลเลอร์ที่ใช้ : เนื้อฟิลเลอร์มีหลายแบบซึ่งให้ผลลัพธ์ต่างกัน เช่น ฟิลเลอร์เนื้อแน่นเหมาะสำหรับฉีดในผิวชั้นลึกเพื่อทดแทนกระดูกหรือไขมันที่หายไป ส่วนฟิลเลอร์เนื้อนิ่มเหมาะสำหรับฉีดในผิวชั้นตื้นหรือคนที่มีผิวบาง การเลือกเนื้อฟิลเลอร์ให้เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัญหาและการพิจารณาของแพทย์
• ปริมาณ CC ที่ใช้ : ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นสิ่งสำคัญต่อผลลัพธ์ที่ได้ หากใช้ในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้เกิดการบวมเป็นก้อนหลังฉีด แต่หากใช้น้อยเกินไป ผลลัพธ์อาจไม่ชัดเจนหรือไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างเต็มที่
• การดูแลตัวเอง : การดูแลตัวเองหลังการฉีดฟิลเลอร์ขมับมีผลโดยตรงต่อผลลัพธ์ที่ได้ครับ การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม จะช่วยลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงหลังทำ ช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว และยืดอายุฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นานขึ้น

การเข้าใจปัจจัยเหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้การฉีดฟิลเลอร์ขมับมีความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม แต่ยังช่วยเสริมความมั่นใจได้อีกด้วย นอกจากนี้การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เข้าปรึกษาแพทย์ที่มากประสบการณ์เพื่อประเมินใบหน้า รวมถึงสอบถามเกี่ยวกับฟิลเลอร์ขมับ ยี่ห้อไหนดี ? ถือเป็นอีกขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดครับ

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับ ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่ V Square Clinic ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้บริการจำนวนมาก จากรีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับจะเห็นได้ว่า หลังฉีดผลลัพธ์ออกมาสวยละมุนดูเป็นธรรมชาติและมีความปลอดภัย

• ฉีดโดยแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม : ทุกขั้นตอนดำเนินการโดยแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการปรับรูปหน้าโดยเฉพาะ
• ปรึกษาปัญหาและวางแผนการรักษากับแพทย์โดยตรง : ไม่มีการใช้เซลล์หรือพนักงานขาย เพื่อให้การรักษาเหมาะสมกับแต่ละบุคคล
• ใช้ฟิลเลอร์คุณภาพสูง : ใช้ฟิลเลอร์คุณภาพสูงที่ผ่านการรับรองจาก อย. และสามารถตรวจสอบได้ทุกกล่องครับ
• แก้ปัญหาอย่างตรงจุด : ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ใบหน้ามีความสมดุล และดูละมุนมากขึ้น
• เทคนิคพิเศษเฉพาะของ V Square Clinic : ช่วยเพิ่มความแม่นยำและลดความเสี่ยง ทำให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามและอยู่ได้นาน

จะเห็นได้จากรีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับที่นี่ไม่เพียงช่วยปรับรูปหน้าให้สมดุล แต่ยังมอบความมั่นใจด้วยแพทย์ผู้ชำนาญการ พร้อมดูแลใส่ใจในทุกรายละเอียดครับ

สรุปรีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับ ตัวช่วยเติมมิติให้ใบหน้า

การฉีดฟิลเลอร์ขมับเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่มีปัญหาขมับยุบ ขมับตอบ เนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว และเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาบริเวณขมับ ปรับรูปหน้าให้ดูสมดุล รวมถึงช่วยปรับโหงวเฮ้งตามความเชื่อ ตามตัวอย่างเคสรีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับที่หมอนำมาให้ดูข้างต้นครับ

สำหรับผู้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ขมับ แนะนำให้เข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพปัญหาและวางแผนการรักษา เกี่ยวกับปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสม ค่าใช้จ่ายเบื้องต้น รวมถึงข้อมูลสำคัญอื่น ๆ เพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจครับ

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ

หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ การดูแลตัวเองที่เหมาะสมเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้ผลลัพธ์หลังเติมขมับสวย ดูเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นานขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติตัวอย่างถูกวิธี หรือหลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจส่งผลให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้า

สำหรับใครที่กำลังสนใจฉีด Filler ขมับ หรืออยากรู้วิธีดูแลหลังฉีดขมับ บทความนี้หมอได้รวบรวมข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ตั้งแต่ 3 ชั่วโมงแรก ไปจนถึง 1 เดือน รวมถึงคำถามที่พบบ่อยหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับไว้ให้แล้วครับ

สารบัญ หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ

• ข้อปฏิบัติหลังฉีด Filler ขมับตามช่วงเวลา
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับทันที
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ 3 ชั่วโมง – 2 วัน
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ 3 วัน – 14 วัน
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ 1 เดือน
• หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ นอนอย่างไร ?
• วิธีดูแลตัวเองเพิ่มเติมหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ
• หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ ห้ามทำอะไร ?
• อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหลังฉีดขมับ ?
• คำถามที่พบบ่อยหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ มีอาการบวมกี่วัน ?
  • ผลลัพธ์หลังเติมฉีดฟิลเลอร์ขมับ อยู่ได้นานไหม ?
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ กี่วันเห็นผล ?
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับทำไมปวดหัว ?
• สรุปเรื่องการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ

ข้อปฏิบัติหลังฉีด Filler ขมับตามช่วงเวลา

หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีในแต่ละช่วงเวลาเป็นสิ่งสำคัญครับ เพราะไม่เพียงช่วยให้ผลลัพธ์ดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ยังลดความเสี่ยงการเกิดผลข้างเคียงอีกด้วยครับ

มาดูกันว่าหลังฉีดตั้งแต่ช่วงเวลา 3 ชั่วโมงแรก ไปจนถึงหลัง 1 เดือน ควรดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง เพื่อให้ฟิลเลอร์ขมับที่ฉีดมาอยู่ได้นานและคุ้มค่าครับ

หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับทันที

หลังเติมฟิลเลอร์ขมับ อาจเกิดอาการบวมแดงเล็กน้อยจากการลงเข็ม หรือมีรอยเขียวช้ำ บางคนอาจรู้สึกคันตรงที่ฉีด ซึ่งเป็นอาการปกติครับ สามารถหายได้เอง ช่วงใน 2-3 วัน จึงไม่ต้องกังวลใจไป

ในระหว่างนี้ควรระมัดระวังไม่จับ เกา หรือกดนวดบริเวณขมับ เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์ขมับเคลื่อนตัวออกจากตำแหน่งที่ฉีด

จากนั้นหลังฉีดประมาณ 1 ชั่วโมง สามารถแกะพลาสเตอร์ออกได้ หากต้องการแต่งหน้า ควรหลีกเลี่ยงบริเวณรูเข็มเพื่อป้องกันการติดเชื้อ สำหรับผู้ที่ไม่ได้รับประทานยาฆ่าเชื้อก่อนทำ ควรรับประทานทันทีหลังฉีด พร้อมทั้งทานยาแก้ปวดและยาลดบวม ตามที่คลินิกจัดให้

กรณีมีอาการบวมแดงหรือรอยช้ำไม่ดีขึ้นภายใน 3 วัน หรือมีอาการผิดปกติ สามารถติดต่อคลินิกเพื่อรับคำปรึกษา รวมถึงขอรับยาที่จำเป็นมาทานเพิ่มได้ครับ

หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ 3 ชั่วโมง – 2 วัน

• 3 ชั่วโมงแรก หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ

หลังการฉีดฟิลเลอร์ขมับ 3 ชั่วโมงแรก ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้รอยเข็มโดนน้ำนานเกิน 15 นาที เพราะเสี่ยงเกิดการอักเสบได้ครับ หากต้องการล้างหน้าสามารถล้างหน้าด้วยสบู่อ่อน ๆ ได้ และควรล้างแบบเบามือ

หากรู้สึกปวดต้องการประคบเย็น ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้นครับ เพราะหากทำไม่ถูกวิธี อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัว หรือรู้สึกเจ็บบริเวณฉีดได้

• 6 ชั่วโมง หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ

ในช่วงนี้อาการบวมจากยาชาจะเริ่มลดลง แต่หากมีบริเวณใดที่ยังบวมอยู่มาก สามารถประคบเย็นตามที่แพทย์แนะนำ โดยทำอย่างเบามือ หลีกเลี่ยงการกดแรง เพื่อไม่ให้เกิดการช้ำ และฟิลเลอร์ขมับเคลื่อนที่

• 24 ชั่วโมง หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ

หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับครบ 1 วัน อาจสังเกตเห็นอาการบวมจากรอยเข็มที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นอาการปกติที่ไม่ต้องกังวล อาการบวมนี้อาจทำให้บางคนเข้าใจผิดว่าฟิลเลอร์ฟูมากขึ้น แต่เมื่อผ่านไป 7-14 วัน อาการบวมจะค่อย ๆ ลดลง และฟิลเลอร์จะเข้าที่มากขึ้น ฟิลเลอร์ไม่ได้หายไปนะครับ

• 48 ชั่วโมง หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ

ในช่วง 2 วันแรก ควรหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด เช่น งดเข้าซาวน่า งดออกกำลังกายหนัก การตากแดด และการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะกิจกรรมเหล่านี้อาจทำให้เลือดสูบฉีด ใบหน้าแดง และอาจส่งผลต่อฟิลเลอร์ที่ฉีดได้ การอยู่ในที่อากาศเย็นจะช่วยให้ฟิลเลอร์เซตตัวได้ดียิ่งขึ้นครับ

หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ 3 วัน – 14 วัน

• 3 วัน หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ

อาการบวมและรอยช้ำจะเริ่มดีขึ้นครับ แต่ถ้าแย่ลง เช่น บวมมากขึ้นหรือเจ็บผิดปกติ ควรรีบติดต่อคลินิกทันทีเพื่อขอยาเพิ่ม ช่วงนี้สามารถขยับหน้าได้ปกติ แต่ก็ไม่ควรขยับมากเกินไป เช่น ยิ้มแรง ๆ หรือเคี้ยวอาหารเหนียว ๆ เพราะฟิลเลอร์อาจเคลื่อนที่ผิดตำแหน่งได้ ซึ่งตอนนี้ฟิลเลอร์จะเข้าที่แล้วประมาณ 90% ครับ

• 7-10 วัน หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ

รอยเข็มและรอยช้ำจะค่อย ๆ จางลงครับ ในบางคนอาจคลำเจอก้อนฟิลเลอร์ได้ ไม่ต้องตกใจครับ เพราะเป็นเรื่องปกติจากอาการบวมบริเวณเข็มที่ฉีด ฟิลเลอร์จะค่อย ๆ นิ่มลงเองภายใน 2-3 สัปดาห์

• 14 วัน หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ

อาการบวมต่าง ๆ จะหายไปเกือบหมดครับ ฟิลเลอร์จะนิ่มและกลืนไปกับผิว ยกเว้นฟิลเลอร์ในรุ่นที่ฉีดในผิวชั้นลึกเพื่อยกพยุงหน้า เช่น Restylane Volyme หรือ Juvederm Voluma อาจคลำเจอเนื้อฟิลเลอร์ได้ในผิวชั้นลึก แต่จะมองไม่เห็นจากภายนอก ซึ่งจะค่อย ๆ กลืนไปเอง แต่อาจใช้เวลานานกว่าปกติครับ

หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ 1 เดือน

ในช่วง 1 เดือนหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ ควรงดการทำทรีตเมนต์หรือเลเซอร์ที่ใช้ความร้อนและลงลึกถึงผิวชั้นล่าง เช่น RF หรือ Thermage เพื่อป้องกันการกระทบต่อฟิลเลอร์ที่ฉีดไว้

นอกจากนี้ ควรดื่มน้ำมาก ๆ อย่างต่อเนื่อง เพราะฟิลเลอร์เป็นสารไฮยาลูรอนที่มีคุณสมบัติอุ้มน้ำ กักเก็บความชุ่มชื้น การดื่มน้ำช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูตัว ดูสวยเนียน และช่วยยืดอายุของฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นานขึ้นครับ

หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ นอนอย่างไร ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ ควรนอนหงายในช่วง 1-2 คืนแรก เพื่อไม่ให้เกิดการกดทับบริเวณที่ฉีด ซึ่งจะทำให้รู้สึกเจ็บมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องกังวลว่าการนอนผิดท่าจะทำให้ฟิลเลอร์เสียทรงหรือไหลไปที่อื่นครับ เพราะเมื่อฟิลเลอร์เข้าที่แล้วจะกลมกลืนไปกับผิว สามารถนอนได้ตามปกติครับ

วิธีดูแลตัวเองเพิ่มเติมหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ

หลังฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์ขมับ หรือฟิลเลอร์ในตำแหน่งอื่น ๆ การดูแลตัวเองเพิ่มเติมเล็ก ๆ น้อย ๆ สามารถช่วยให้ฟิลเลอร์ขมับเข้าที่เร็วขึ้นและผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้นครับ

หมอแนะนำให้ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ 1.5-2 ลิตร ต่อวัน พักผ่อนให้เต็มที่ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น โปรตีน ผักใบเขียว (ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ไก่ ถั่ว เต้าหู้ คะน้า บรอกโคลี แครอท มะเขือเทศ ฟักทอง) เพื่อช่วยบำรุงผิว ลดการอักเสบและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ เพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็วขึ้น

นอกจากนี้ ไม่ควรสวมใส่แว่นหรือหมวกที่ไม่รัดแน่นเกินไป เพื่อป้องกันการกดทับ การดูแลเหล่านี้จะช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับไม่เกิดปัญหา และสามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้นครับ

หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ ห้ามทำอะไร ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ สิ่งที่ห้ามทำมีความสำคัญมากครับ เพราะจะช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง และยืดอายุผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้น โดยมีข้อห้ามทำ ดังนี้

• ห้ามกด นวด หรือสัมผัสแรง ๆ บริเวณขมับ เพื่อป้องกันฟิลเลอร์เคลื่อนตัวและลดอาการเจ็บ
• ห้ามนอนกดทับบริเวณขมับ โดยเฉพาะในช่วง 1-2 วันแรก
• ควรงดทาครีม แต่งหน้า ใน 1 คืนแรก แต่สามารถล้างหน้าได้ โดยใช้โฟมทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยน
• ห้ามดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่ เพราะหลอดเลือดจะขยายตัวและยุบบวมช้า ทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้าลง
• ห้ามออกกำลังกายหนัก หรือทำกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากในช่วง 48 ชั่วโมงแรก
• ห้ามตากแดดจัด หรืออยู่ในที่ร้อน เช่น การเข้าซาวน่า หรืออบไอน้ำในช่วง 2-3 วันแรก
• ห้ามทำทรีตเมนต์หรือเลเซอร์ร้อน เช่น RF, Thermage หรือการใช้ความร้อนที่ลงลึกถึงชั้นผิว เป็นเวลา 1 เดือน

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหลังฉีดขมับ ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ ควรใส่ใจเรื่องอาหารที่รับประทานด้วยครับ เพราะอาหารบางประเภทอาจกระทบต่อผลลัพธ์หลังฉีดขมับ ดังนั้น เพื่อป้องกันอาการบวมอักเสบและช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่ได้เร็วขึ้น ควรหลีกเลี่ยงอาหารดังต่อไปนี้

• อาหารหมักดอง
  เช่น ผลไม้ดอง ผักดอง ปลาร้า กุ้งดอง เนื่องจากอาจมีสารปนเปื้อนที่กระตุ้นการอักเสบของรอยเข็ม ควรงดในช่วง 2 สัปดาห์แรก
• อาหารรสจัด
  อาหารเค็มจัด หวานจัด หรือเผ็ดจัด อาจทำให้ตัวบวมน้ำหรือหน้าแดง ส่งผลให้ฟิลเลอร์ยุบบวมช้าลง
• อาหารร้อน ปิ้งย่าง ชาบู
  อาหารที่ต้องรับประทานใกล้เตาร้อน เช่น หมูกระทะ หรือชาบู ควรหลีกเลี่ยงในช่วง 48 ชั่วโมงแรก เพราะความร้อนอาจทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้าลง
• อาหารดิบหรือกึ่งสุกกึ่งดิบ
  เช่น แซลมอน ซาซิมิ หอยสด หรือไข่ลวก เพราะอาจมีพยาธิหรือเชื้อโรคที่ทำให้รอยเข็มติดเชื้อหรือหายช้าลง
• เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  ควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2-3 วัน หรือดีที่สุดคือ 14 วัน เพราะแอลกอฮอล์ทำให้หลอดเลือดขยายตัว ส่งผลให้รอยเข็มบวมนานและฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น

การหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก จะช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีดขมับมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากต้องการอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกอ่านต่อที่นี่ได้เลยครับ : หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง หากกินไปแล้ว ควรปฏิบัติตัวอย่างไร ?

คำถามที่พบบ่อยหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ

หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ มีอาการบวมกี่วัน ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ อาจมีอาการบวมประมาณ 3-4 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลตัวเองของแต่ละคน โดยอาการบวมจะค่อย ๆ ลดลง และผลลัพธ์จะเข้าที่ชัดเจนประมาณ 2 สัปดาห์ครับ

บางคนอาจมีรอยแดงหรือจุดเล็ก ๆ จากเข็ม แต่จะหายเองได้ หากมีอาการปวด สามารถกินยาแก้ปวดได้ตามอาการ ไม่ต้องกังวลครับ

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์บวมกี่วัน ? บวมแบบไหนอันตราย มีวิธีการดูแลอย่างไร ?

ผลลัพธ์หลังเติมฟิลเลอร์ขมับ อยู่ได้นานไหม ?

ผลลัพธ์หลังเติมขมับ จะอยู่ได้นานประมาณ 9-24 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ที่ใช้ ส่วนการจะเลือกฟิลเลอร์ขมับ ยี่ห้อไหนดีนั้น แพทย์จะเป็นผู้ประเมินแล้วเลือกยี่ห้อ/รุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวและความต้องการของคนไข้แต่ละเคสครับ

ระยะเวลาของฟิลเลอร์ขมับ แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น

• Juvederm Ultra Plus : อยู่ได้นาน 12 เดือน
• Juvederm Voluma : อยู่ได้นาน 18 เดือน
• Juvederm Volux : อยู่ได้นาน 18-24 เดือน
• Restylane Volyme : อยู่ได้นาน 18 เดือน
• Flore Max : อยู่ได้นาน 9-12 เดือน
• Teoxane Ultra Deep : อยู่ได้นาน 18 เดือน
• Teoxane RHA 2 : อยู่ได้นาน 18 เดือน
• Teoxane RHA 3 : อยู่ได้นาน 12-18 เดือน

หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีครับ แต่หากถามว่า ฉีดฟิลเลอร์ กี่วันเข้าที่ ? คำตอบคือ ต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ครับ ถึงจะเห็นผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับอย่างชัดเจน

เพราะในช่วงแรกอาจมีอาการบวม ทำให้บริเวณที่ฉีดดูฟูมากกว่าปกติ หมอแนะนำให้ปฏิบัติตามวิธีดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้อาการบวมยุบเร็ว ฟิลเลอร์เข้าที่ไวขึ้นครับ

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับที่ V Square Clinic

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับ รีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับ
*ผลจากการเข้ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับ รีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับ
*ผลจากการเข้ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย

หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับทำไมปวดหัว ?

ฉีดฟิลเลอร์ขมับแล้วปวดหัว เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ครับ เพราะขมับมีเส้นประสาทที่ไวต่อความรู้สึกอยู่มาก เมื่อฉีดฟิลเลอร์เข้าไป บวกกับการบวมจากเข็ม อาจทำให้รู้สึกปวดได้ครับ แต่ไม่ต้องกังวลครับ เพราะอาการจะดีขึ้นเองใน 1-2 วัน

หากรู้สึกปวดมาก สามารถทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล รวมถึงควรหลีกเลี่ยงการกด นวด หรือทับบริเวณขมับ เพราะอาจทำให้ปวดหัวมากขึ้น

สรุปเรื่องการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ

จะเห็นว่า การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ ไม่ยุ่งยากมากครับ คนไข้สามารถปฏิบัติตามได้ง่าย ๆ ซึ่งข้อดีของการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับอย่างเหมาะสม จะช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีดมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้

อย่างไรก็ตาม การเตรียมตัวก่อนฉีดก็สำคัญไม่แพ้กันครับ คนไข้ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ขมับกับแพทย์และคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ ใช้ตัวยาฟิลเลอร์แท้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และปลอดภัยมากที่สุด

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ