บทความทั้งหมด

ฟิลเลอร์ร่องแก้มแก้ร่องลึกอยุ่ได้นานไหม

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ร่องแก้มลึกได้อย่างไร ? ใช้กี่ CC อยู่ได้นานไหม ควรรู้อะไรก่อนฉีด ?

Categories
filler
ฟิลเลอร์ร่องแก้มแก้ร่องลึกอยุ่ได้นานไหม

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม

ปัญหาร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก แก้ด้วยฟิลเลอร์ร่องแก้มดีไหม ?

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เป็นหัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาร่องแก้มลึก เนื่องจากการยุบตัวของกระดูกบริเวณร่องแก้มหรือกระดูกบริเวณใต้ตาได้อย่างตรงจุดครับ รวมถึงปัญหาคอลลจาเจน อีลาสติน ไขมันและเนื้อเยื่อต่าง ๆ ที่เริ่มเสื่อมสลาย ส่งผลให้ผิวหย่อนคล้อยและร่องแก้มลึกขึ้น ก็สามารถใช้การฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ช่วยได้ 

ในบทความนี้หมอจะมาเจาะลึกข้อมูลที่ควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เจ็บไหม อยู่ได้นานไหม ใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ราคาเท่าไหร่ ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ไหนดี ถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย

ร่องแก้มเกิดจากอะไร ฟิลเลอร์ร่องแก้มเหมาะกับใคร ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มช่วยอะไรบ้าง ?

สารบัญ ฟิลเลอร์ร่องแก้ม

  1. ฟิลเลอร์ร่องแก้ม คืออะไร ?
  2. สาเหตุที่ทำให้เกิดร่องแก้มลึก มาจากอะไรบ้าง ?
  3. ปัญหาร่องแก้มลึก สามารถแก้ได้ถาวรหรือไม่ ?
  4. การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเหมาะกับใคร ?
  5. การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เมื่อเทียบกับหัตถการอื่นที่เกี่ยวกับร่องแก้ม ให้ผลลัพธ์ที่เหมือนหรือต่างกันอย่างไร ?
  6. ถ้ามีปัญหาจากหัตถการอื่นที่เกี่ยวกับร่องแก้ม สามารถฉีดหรือแก้ไขด้วยฟิลเลอร์ร่องแก้มได้หรือไม่ ?
  7. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม vs ฉีดฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก ต่างกันอย่างไร ?
  8. การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เกี่ยวข้องกับโหงวเฮ้งหรือไม่ ?
  9. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มอันตรายไหม ?
  10. ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม มีความเสี่ยงอะไรบ้าง ?
  11. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเจ็บไหม ?
  12. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มยี่ห้อไหนดี ใช้กี่ CC ?
  13. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ไหนดี ?
  14. ฟิลเลอร์ร่องแก้มราคา โปรโมชั่น
  15. ก่อนฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ?
  16. ฟิลเลอร์ร่องแก้ม อยู่ได้นานไหม ?
  17. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มมีอาการบวมไหม กี่วันถึงจะเข้ารูป ?
  18. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร ?
  19. หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ควรดูแลตัวเองอย่างไร ?
  20. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม แล้วมีผลต่อการยิ้มหรือพฤติกรรมอื่นหรือไม่ ?
  21. รีวิวฟิลเลอร์ร่องแก้ม

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม คืออะไร ?

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม คือ การใช้สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid ซึ่งมีลักษณะเป็นเนื้อเจลที่มีความคงตัว ฉีดเข้าไปเติมเต็มบริเวณร่องแก้ม ทำให้ร่องแก้มเต็มขึ้น โดยใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1-2 CC ก็สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน ผิวกลับมาเรียบเนียน ไม่เป็นรอยลึก 

Vsquare tips

การมีร่องแก้มลึก เป็นจุดที่ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูมีอายุมากขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงที่จะสังเกตปัญหาร่องแก้มลึกได้ชัดกว่าผู้ชาย หากไม่แก้ไข ร่องแก้มจะลึกขึ้นเรื่อย ๆ เมื่ออายุประมาณ 25 ปี ขึ้นไป


สาเหตุที่ทำให้เกิดร่องแก้มลึก มาจากอะไรบ้าง ?

สาเหตุที่ทำให้เกิดร่องแก้มลึก

ปัญหาร่องแก้มลึกสามารถแบ่งออกเป็น 4 สาเหตุหลัก ได้แก่

  • ร่องแก้มลึก จากการยุบตัวของกระดูกบริเวณร่องแก้มโดยตรง

เมื่ออายุมากขึ้น โครงสร้างภายในร่างกายก็จะเริ่มเสื่อมสภาพเป็นเรื่องปกติครับ ในช่วงอายุประมาณ 20-30 ปี มักพบปัญหากระดูกร่องแก้มยุบตัว ทำให้เกิดร่องแก้มเป็นขีด ๆ แต่ยังไม่ลึกมาก สามารถแก้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ลงในชั้นกระดูกใต้กล้ามเนื้อ โดยฉีดในจุดที่ต่ำกว่าร่องแก้มเล็กน้อย (เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการดึงของกล้ามเนื้อที่ใช้ยิ้ม และทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อน)

  • ร่องแก้มลึก จากการยุบตัวของกระดูกบริเวณใต้ตา

อีกปัญหาที่พบได้บ่อย ๆ ในคนที่มีอายุประมาณ 30 ปีขึ้นไป คือการยุบตัวของกระดูกบริเวณใต้ตา ร่วมกับกระดูกบริเวณร่องแก้ม เนื้อแก้มด้านบนหย่อนจะลงมากองตรงเหนือร่องแก้ม และทำให้ร่องแก้มลึกขึ้น ต้องแก้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อยกโครงสร้างผิวโดยรวมทั้งหมดขึ้นไปด้านบน 

หากคิดว่าร่องแก้มลึก ต้องแก้ด้วยฟิลเลอร์ร่องแก้มเพียงอย่างเดียว เป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ถูกต้องครับ เพราะจะทำให้ยิ่งมีเนื้อกองอยู่เหนือร่องแก้ม ทำให้แก้มเป็นก้อน หน้าดูอูม ไม่เป็นธรรมชาติ ดังนั้นการฉีดร่องแก้มจึงควรทำกับหมอที่มีประสบการณ์ วิเคราะห์ปัญหาและแก้ไขได้อย่างตรงจุด

  • ร่องแก้มลึก จากการยิ้มบ่อย ทำให้กล้ามเนื้อที่ดึงร่องแก้มแข็งแรงเกินไป

นอกจากร่องแก้มลึกที่เกิดจากอายุ พฤติกรรมที่ทำบ่อย ๆ เช่น การยิ้ม การหัวเราะ ก็ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณร่องแก้มแข็งแรงขึ้น จนเกิดเป็นรอยร่องแก้มลึกได้ การแก้ไขก็จะใช้การฉีดฟิลเลอร์เพียงอย่างเดียวไม่ได้ เพราะเป็นปัญหาจากกล้ามเนื้อ จึงต้องแก้ไขด้วยโบท็อกเทคนิค Dermotoxin ช่วยคลายกล้ามเนื้อ และเติมฟิลเลอร์เทคนิค Myomodulation เสริมเข้าไป เพื่อให้ร่องแก้มตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

  • ร่องแก้มลึก จากผิวแห้ง หรือตากแดดบ่อย ทำให้ชั้นผิวบางลง

เนื่องจากผิวหน้าเป็นบริเวณที่มีความบางมากกว่าจุดอื่น ๆ เวลาที่ผิวแห้งมาก ๆ ตากแดดบ่อย จะทำให้ผิวยิ่งบางลง และเกิดริ้วรอยต่าง ๆ ได้ง่าย เช่นเดียวกับบริเวณร่องแก้มที่จะเป็นริ้ว ๆ ตื้น ๆ สามารถแก้ไขได้โดยใช้ฟิลเลอร์รุ่นที่มีโมเลกุลเล็ก ฉีดเข้าไปในจุดที่มีริ้วรอย จะช่วยให้ผิวกลับมาเรียบเนียน ดูชุ่มชื้นขึ้น


ปัญหาร่องแก้มลึก สามารถแก้ได้ถาวรหรือไม่ ?

ปัญหาร่องแก้มลึก แก้ไขได้ถาวรไหม

ปัญหาร่องแก้มลึก สามารถแก้ไขด้วยวิธีหลัก ๆ 2 วิธี คือ การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม และ การเสริมซิลิโคนร่องแก้ม

สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ จะใช้ไฮยาลูรอนิกที่มีความปลอดภัย ผ่าน อย. ฉีดแล้วจะสลายไปเองตามระยะเวลา อยู่ได้นานประมาณ 12-24 เดือน หลังจากนั้นหากต้องการรักษาผลลัพธ์ไว้สามารถกลับเข้ามาฉีดเพิ่มได้ โดยไม่มีผลข้างเคียง

เนื้อฟิลเลอร์ร่องแก้ม

อีกวิธีที่มีการพูดถึงกันมากขึ้นสำหรับคนที่ต้องการให้ผลลัพธ์อยู่ได้ถาวร คือการเสริมร่องแก้มด้วยซิลิโคน เป็นเทคนิคการผ่าตัดใส่ซิลิโคนเข้าไปบริเวณร่องแก้ม ทำให้ร่องแก้มเรียบเนียน แผลผ่าตัดจะอยู่ด้านในช่องปาก แต่ก็ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน และไม่ใช่หัตถการที่เหมาะกับทุกคนครับ 

ผ่าตัดซิลิโคนร่องแก้ม

การเสริมซิลิโคนร่องแก้ม ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์ เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาซิลิโคนพลิกไปมา ตำแหน่งซิลิโคนสองข้างไม่เท่ากัน วางซิลิโคนผิดตำแหน่งทำให้เนื้อแก้มถูกดันขึ้นมาชัดขึ้น หรือผลข้างเคียงจากการผ่าตัดที่ทำให้เส้นประสาทบริเวณใกล้เคียงได้รับความเสียหาย เช่น ปากชา 

หากต้องการแก้ปัญหาร่องแก้ม ควรปรึกษาหมอที่มีประสบการณ์ เพื่อให้ช่วยดูว่าปัญหาของเราเหมาะกับการแก้แบบไหน เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ จะได้เลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุด


การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเหมาะกับใคร ?

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาร่องแก้ม โดยไม่ต้องผ่าตัด ต้องการความปลอดภัย และความสะดวกในการทำหัตถการ โดยต้องฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มในคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ และตรวจสอบได้ว่าฟิลเลอร์ที่ฉีดเป็นฟิลเลอร์แท้ (HA) 

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เหมาะกับใคร by หมอแพร

หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม คนไข้จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันทีว่าร่องแก้มเต็มขึ้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยไม่ต้องพักฟื้น รวมถึงการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ก็ไม่ยุ่งยาก จึงถือว่าเป็นหัตถการที่สะดวก เห็นผลเร็ว ทำให้ได้รับความนิยมมากในปัจจุบันครับ


การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เมื่อเทียบกับหัตถการอื่นที่เกี่ยวกับร่องแก้ม ให้ผลลัพธ์ที่เหมือนหรือต่างกันอย่างไร ?

การแก้ปัญหาร่องแก้มที่เหมาะสมที่สุด คือการเลือกใช้หัตถการให้ตรงกับสาเหตุของปัญหาครับ 

ปัญหาร่องแก้มลึกส่วนใหญ่ สามารถแก้ไขได้อย่างตรงจุดโดยใช้ฟิลเลอร์ร่องแก้ม แต่ก็ยังมีหัตถการอื่น ๆ ที่ช่วยลดร่องแก้มได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของคนไข้แต่ละคน 

  • ร้อยไหม แก้ร่องแก้มลึก สำหรับคนที่เริ่มมีอายุ และมีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อยร่วมด้วย สามารถใช้การร้อยไหมดึงเนื้อแก้มที่กองขึ้นไปให้หน้ายกขึ้น หากทำร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม จะช่วยให้ใช้ปริมาณฟิลเลอร์ลดลง แต่บางกรณีอาจทำให้ดูโหนกแก้มใหญ่ขึ้น หน้าดูบวมจากแก้มที่กองรวมกันได้
  • Hifu แก้ร่องแก้มลึก เหมาะกับคนที่อายุไม่มาก เริ่มมีปัญหาร่องแก้มตื้น ๆ หากไม่อยากฉีดฟิลเลอร์ สามารถทำ Hifu เพื่อลดริ้วรอยร่องแก้ม กระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวยกกระชับและชุ่มชื้นมากขึ้น 
  • โบท็อกร่องแก้ม เหมาะกับปัญหาร่องแก้มลึก ที่เกิดจากการใช้งานกล้ามเนื้อร่องแก้มมากจนแข็งแรงเกินไป แต่การฉีดโบท็อกเพียงอย่างเดียวจะทำให้หน้าดูแข็ง ไม่เป็นธรรมชาติ ควรทำร่วมกับฟิลเลอร์ร่องแก้ม
  • ฉีดไขมันร่องแก้ม เป็นเทคนิคการเติมเต็มใบหน้าโดยใช้ไขมันของคนไข้ มาผ่านกระบวนการปั่นแยกและฉีดเข้าร่องแก้ม มีความเสี่ยงที่ฉีดไขมันแล้วจะไม่ติด 100% รวมถึงคาดเดาผลลัพธ์ได้ยาก อาจมีปัญหาร่องแก้มสองข้างไม่เท่ากัน ต้องฉีดหลายครั้งกว่าจะเห็นผล และไม่สามารถแก้ปัญหาร่องแก้มที่เกิดจากการทรุดตัวของกระดูกใบหน้าได้
  • ศัลยกรรมดึงหน้า ใช้วิธีการผ่าตัดเลาะผิวหนังและดึงเนื้อเยื่อชั้น SMAS มาขึงให้ตึงแล้วเย็บตรึงกับส่วนอื่นที่มีความแข็งแรง จากนั้นจะตัดผิวหนังชั้นบนและผิวหนังส่วนเกินออก ทำให้ใบหน้าเรียบเนียนขึ้น คนไข้ต้องรับความเสี่ยงจากการผ่าตัด รวมถึงต้องอาศัยเทคนิค ความเชี่ยวชาญของแพทย์เฉพาะทาง เหมาะกับคนที่มีอายุมาก ๆ ผิวเหี่ยว หนังหย่อนคล้อย

ถ้ามีปัญหาจากหัตถการอื่นที่เกี่ยวกับร่องแก้ม สามารถฉีดหรือแก้ไขด้วยฟิลเลอร์ร่องแก้มได้หรือไม่ ?

คนไข้ที่เคยแก้ปัญหาร่องแก้มด้วยหัตถการอื่น ๆ แล้วมีปัญหา ต้องการแก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม สามารถทำได้ แต่ต้องเข้ามาให้หมอประเมินก่อน เพื่อที่จะหาแนวทางการแก้ไขให้เหมาะกับแต่ละเคสครับ 

ข้อมูลที่คนไข้ควรแจ้ง คือข้อมูลของหัตถการที่ทำก่อนหน้า ทำมานานแค่ไหน ทำอะไรบ้าง เพราะหัตถการบางอย่างต้องใช้เวลานานในการพักฟื้นนาน เช่น 

  • การฉีดไขมันร่องแก้ม หากฉีดแล้วรู้สึกว่าไขมันไม่ติด ไม่เห็นผล อยากแก้ด้วยฟิลเลอร์ อาจต้องรอประมาณ 1 เดือน เพื่อให้ไขมันยุบตัวลงก่อน หมอจึงสามารถประเมินและฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มได้ครับ 
  • โบท็อกร่องแก้ม หากคนไข้เคยแก้ปัญหาร่องแก้มด้วยการฉีดโบท็อกอย่างเดียว แล้วทำให้หน้าดูแข็งเกินไป ก่อนฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มต้องรอให้ฤทธิ์ของโบท็อกคลายตัวลงก่อน ใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือน
  • ศัลยกรรมดึงหน้า ปกติจะใช้เวลาพักฟื้นนาน ระหว่างนั้นหากต้องการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม แนะนำให้รอเวลาเพื่อให้หน้าเข้าที่ก่อนครับ โดยจะเห็นผลใน 1-3 เดือน และต้องติดตามผลประมาณ 6 เดือน หากยังมีปัญหาร่องแก้มลึกอยู่ ก็สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อฉีดฟิลเลอร์เพิ่มได้
วิธีแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ร่องแก้มลึก ด้วย Hifu ร้อยไหม เมโสแฟต

นอกจากนี้ยังมีการลดร่องแก้มด้วยหัตถการอื่น ๆ ที่สามารถทำพร้อมกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มได้

  • ร้อยไหมร่องแก้ม จะเป็นการแก้ปัญหาแก้มย้อน แก้มหย่อน แต่จะไม่ใช่การแก้ปัญหาร่องแก้มลึกโดยตรง หากทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ อาจพิจารณาให้ทำสองหัตถการร่วมกันตั้งแต่แรก เพราะช่วยแก้ปัญหาร่องแก้มลึกได้อย่างเป็นธรรมชาติมากกว่า
  • Hifu ร่องแก้ม สามารถทำร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มได้ โดยเริ่มทำ Hifu ก่อน เมื่อทำร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ดีขึ้นทั้งเรื่องการเติมเต็มและยกกระชับ

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม vs ฉีดฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก ต่างกันอย่างไร ?

ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ต่างกันอย่างไร
 ร่องแก้มจะอยู่บริเวณข้างแก้ม เหนือปากขึ้นไป 
ส่วนร่องน้ำหมาก จะหมายถึงรอยที่อยู่ข้างปากลงมา

ร่องน้ำหมาก (Marionette lines) เกิดจากการเสื่อมของชั้นผิว กระดูกขากรรไกรยุบตัวลง ทำให้กล้ามเนื้อหย่อนคล้อยและมากองอยู่ที่มุมปาก หรือเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต การยิ้ม การหัวเราะ การเคี้ยวอาหาร สามารถเกิดก่อน หลัง หรือพร้อมกับปัญหาร่องแก้มลึก 

การมีร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก จะทำให้ใบหน้าดูมีอายุ ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก, ฟิลเลอร์มุมปาก จึงมักทำควบคู่ไปกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม แต่คนไข้ส่วนใหญ่จะโฟกัสที่ปัญหาร่องแก้มลึกมากกว่าเพราะรู้สึกว่าสังเกตได้ชัด แต่หากสามารถแก้ร่องแก้ม ร่องน้ำหมากไปด้วยกัน จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ดีขึ้น ใบหน้าดูเด็กลงกว่าเดิมได้ครับ 


การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เกี่ยวข้องกับโหงวเฮ้งหรือไม่ ?

การมีร่องแก้มลึก นอกจากทำให้ดูมีอายุ ยังทำให้ใบหน้าดูโทรม เหนื่อย ไม่สดใส การมีลักษณะใบหน้าแบบนี้จึงไม่ใช่ลักษณะโหงวเฮ้งที่ดีครับ

โหงวเฮ้งร่องแก้ม

ตามตำราโหงวเฮ้ง จะมีจุดที่เรียกว่า “โหนวป๊กเก็ง” เป็นโหงวเฮ้งที่เกี่ยวกับบริเวณแก้มทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นร่องแก้ม ร่องมุมปาก แก้มตอบ บ่งบอกถึงเรื่องบริวาร

ลักษณะเด่น : แก้มต้องอิ่มเอิบ ไม่ยุบ ไม่ตอบ เต็มสวยรับกับแนวกราม ไม่หย่อนคล้อย ไม่มีร่องแก้ม-ร่องมุมปากที่ลึกเกินไป บอกถึงการมีบริวารซื่อสัตย์รับใช้ บริวารดี พึ่งได้ ใช้ชีวิตยามชราอย่างสุขสบาย

ลักษณะด้อย : แก้มตอบ ยุบลง แก้มหย่อนคล้อย มีร่องแก้ม-ร่องมุมปากลึก บ่งบอกว่าจะพบกับปัญหาบริวารที่ไม่ซื่อตรง ไม่เชื่อฟังให้บุญเขาแต่โดนตอบแทนด้วยแค้น ด้วยโทษ ใช้ชีวิตยามชราเงียบเหงาเก็บตัว

นอกจากคนไข้ที่เข้ามาปรึกษาปัญหาร่องแก้มเพื่อความสวยงาม มีหลายคนที่เข้ามาฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเพื่อให้ช่วยเสริมโหงวเฮ้งครับ ด้วยคุณสมบัติการเติมเต็มของฟิลเลอร์ จึงสามารถแก้ปัญหาได้หลากหลาย เพื่อให้ใบหน้ามีลักษณะดีตรงตามโหงวเฮ้งมากขึ้น ทั้งการฉีดแก้มส้ม แก้แก้มตอบ, ฉีดแก้ร่องแก้มลึก และฉีดแก้ร่องมุมปาก 


ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มอันตรายไหม ?

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม อันตรายไหม ปัจจัยหลัก ๆ มี 2 อย่าง 

  • ประเภทฟิลเลอร์ที่ใช้ ต้องมั่นใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ Hyaluronic Acid ที่ผ่าน อย. มีการนำเข้าอย่างถูกต้องจากบริษัทยา ถูกเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม การฉีดร่องแก้มจะอันตราย หากฉีดด้วยสารเติมเต็มอื่น ๆ ที่ไม่ผ่านการรับรอง เช่น ซิลิโคนเหลว ที่จะทำปฏิกิริยาต่อเซลล์ผิวในร่างกาย ทำให้ผิวแข็งเป็นก้อน ห้อยย้อยผิดรูป และสามารถไหลไปจุดอื่น ๆ ได้ เกิดอาการอักเสบ บวมแดงและติดเชื้อ
  • แพทย์ฉีดฟิลเลอร์ ต้องฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์ และต้องมั่นใจว่าเป็นแพทย์ที่ผ่านการรับรองจากแพทยสภา โดยสามารถนำชื่อ–นามสกุล ตรวจสอบในเว็บไซต์ https://checkmd.tmc.or.th/ หากฉีดกับหมอกระเป๋า พยาบาล ผู้ช่วย อาจทำให้เกิดอันตรายร้ายแรง เช่น ฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด เนื้อตาย อักเสบ แพ้ บวมแดง จากการไม่มีความรู้เรื่องกายวิภาคและเส้นเลือดต่าง ๆ บนใบหน้าได้ดีพอ
ฉีดร่องแก้มกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ หมอแพร

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ไม่ใช่ว่าจะฉีดกับใครก็ได้ ควรเลือกฉีดในคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์ที่มีประสบการณ์ และใช้ฟิลเลอร์แท้ โดยปกติแล้วการสั่งซื้อตัวยาต่าง ๆ จากบริษัทต้องเป็นแพทย์เท่านั้นจึงสามารถซื้อได้ ดังนั้นหากเป็นหมอกระเป๋า หรือคนที่ไม่ใช่หมอ ก็จะไม่สามารถสั่งซื้อยาแท้จากบริษัทได้แน่นอน ห้ามฉีดด้วยเด็ดขาดครับ


ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม มีความเสี่ยงอะไรบ้าง ?

เส้นเลือดที่อยู่บริเวณร่องแก้ม

การฉีดฟิลเลอร์ทุกจุด สิ่งที่หมอจะต้องระวังเป็นอย่างมาก คือการฉีดฟิลเลอร์โดนเส้นเลือดแล้วเกิดการอุดตัน ทำให้เนื้อตาย ซึ่งหากหมอมีประสบการณ์มากพอก็จะช่วยลดความเสี่ยงในจุดนี้ได้มาก และในปัจจุบันหากเกิดกรณีที่ผิดพลาด ก็สามารถฉีดยาสลายฟิลเลอร์แก้ปัญหาได้ทันที 

อันตรายจากการฉีดร่องแก้มผิดวิธี

นอกจากเรื่องของความปลอดภัย การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ต้องอาศัยทักษะในการประเมินปัญหาและประเมินจุดฉีดที่ถูกต้อง อย่างที่หมอบอกไปว่าปัญหาร่องแก้มเกิดได้จากหลายสาเหตุ ถ้าแก้ไม่ตรงจุด นอกจากจะไม่ช่วยให้ร่องแก้มตื้นขึ้น อาจทำให้เห็นร่องแก้มชัดกว่าเดิม หน้าดูแข็ง และไม่เป็นธรรมชาติครับ


ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเจ็บไหม ?

ปกติแล้วการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มไม่เจ็บครับ ก่อนฉีดจะมีการแปะยาชาให้ก่อน ระหว่างฉีดก็ประคบน้ำแข็งไปด้วย หมอจะเดินยาช้า ๆ เพื่อให้เกิดแรงดันน้อยที่สุด และค่อย ๆ เพิ่มปริมาณฟิลเลอร์ไม่เกินจุดละ 0.1 cc คอยสังเกตการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ได้ปริมาณที่พอดี ไม่มากหรือน้อยเกินไป เพื่อให้ฉีดแล้วฟิลเลอร์เนียนเรียบไปกับผิวที่สุด


ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มยี่ห้อไหนดี ใช้กี่ CC ?

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อไหนดี

ฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการฉีดร่องแก้มชั้นตื้น คือฟิลเลอร์เนื้ออ่อน ฉีดแล้วทนต่อการขยับได้ดี ส่วนร่องแก้มชั้นลึก จะเหมาะกับฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัญหาและสภาพผิวของคนไข้ หมอจะประเมินและเลือกให้เหมาะกับแต่ละคนมากที่สุด

  • Juvederm Ultra Plus เนื้อนิ่มและฟูมาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องลึก
  • Juvederm Voluma เนื้อแข็งและฟูปานกลาง  มีความยืดหยุ่นสูง เติมเต็มร่องลึกได้อย่างเป็นธรรมชาติ
  • Juvederm Volift เนื้อนิ่ม ที่มีความละเอียดมาก เหมาะสำหรับคนผิวบาง
  • Juvederm Volux เนื้อแข็ง มีโมเลกุลขนาดใหญ่ มีความยืดหยุ่นสูง ปั้นทรงสวย และคงรูปได้ดีที่สุด เหมาะสำหรับฉีดร่องแก้มชั้นลึก
  • Restylane Volyme เนื้อนิ่มปานกลาง และความยืดหยุ่นสูงมาก เหมาะกับการฉีดร่องแก้ม
  • Belotero Intense เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นดี ช่วยฟื้นฟูและเพิ่ม volume ของชั้นผิว
  • Definisse Restore เนื้อนิ่ม มีความแข็งปานกลาง เหมาะกับการเติมริ้วรอยร่องลึก ริ้วรอยหย่อนคล้อยตามวัย เติมร่องแก้ม ร่องมุมปาก

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ใช้กี่ CC ? ขึ้นอยู่กับความลึกของปัญหาร่องแก้มแต่ละคนครับ หากอายุน้อย ๆ ร่องแก้มไม่ลึกมาก จะใช้ประมาณ 1-2 CC หากในเคสที่อายุเยอะ ๆ (ประมาณ 50 ปี ขึ้นไป) จะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 3-4 CC ครับ


ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ไหนดี ?

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ไหนดี
  • คลินิกเปิดอย่างถูกต้อง ได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข แสดงเลขที่ใบอนุญาต 11 หลักแสดงชัดเจน สามารถตรวจสอบได้
  • แพทย์ที่อยู่ประจำคลินิก สามารถนำรายชื่อไปตรวจสอบได้ว่าเป็นแพทย์จริง ๆ และมีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ สามารถให้คำปรึกษาอย่างละเอียด ตรงกับความต้องการแต่ละคน
  • ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นของแท้กับบริษัทนำเข้า ก่อนฉีดมีการแกะกล่องใหม่ให้ดูต่อหน้า
  • มีรีวิว จากผู้ใช้บริการจริง ในแหล่งที่เป็นกลาง น่าเชื่อถือ ทั้งรูปภาพและวิดีโอ หากมีเคสหลุดคลินิกไม่สามารถลบหรือแก้ไขได้ และควรดูความรับผิดชอบของคลินิกนั้น ๆ ด้วย
  • มีการนัดติดตามผลหลังทำทุกเคส มีช่องทางติดต่อที่สะดวก สามารถสอบถามหรือปรึกษากับแพทย์เจ้าของเคสได้โดยตรง

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ไหนดี


ฟิลเลอร์ร่องแก้มราคา โปรโมชั่น 

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ราคาขึ้นอยู่กับรุ่นฟิลเลอร์ที่ใช้ และปริมาณ CC ซึ่งจะไม่เท่ากันในแต่ละคน หรือในบางเคสอาจต้องใช้ฟิลเลอร์ 2 รุ่น ในการฉีดเพื่อแก้ปัญหาร่องแก้มชั้นลึกและชั้นตื้นร่วมกัน แพทย์จะประเมินให้เหมาะสมกับปัญหาและความต้องการครับ

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ราคา

โปรโมชั่นฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ V Square Clinic

Landingpage_โปรฟิลเลอร์ร่องแก้ม_ใส่ราคา_PC_16SEP24
Landingpage_โปรฟิลเลอร์ร่องแก้ม_ใส่ราคา_MO_16SEP24

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ?

  • หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำควรแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง
  • งดยาและวิตามินบางชนิดก่อนฉีดฟิลเลอร์ เช่น แอสไพริน, NSAIDs, วิตามิน St. Johns Wort, ginko biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E
  • งดยาผลัดเซลล์ผิว การดึงหรือโกนขนบริเวณร่องแก้ม
  • งดคอร์สเลเซอร์และนวดหน้าอย่างน้อย 3 วัน ก่อนฉีดร่องแก้ม
  • งดแอลกอฮอล์ และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด 24 ชั่วโมง
  • แพทย์จะพิจารณาให้กินยาห้ามเลือดหรือฉีดยาลดบวมในบางเคส เพื่อลดความเสี่ยงในการบวมช้ำ อักเสบติดเชื้อ

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม อยู่ได้นานไหม ?

ฟิลเลอร์ร่องแก้มจะอยู่ได้นานตามอายุของรุ่นฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ รวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ของแต่ละคนครับ ฟิลเลอร์แต่ละรุ่น อยู่ได้นานต่างกัน ดังนี้

  • Juvederm Ultra Plus อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Juvederm Voluma อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Juvederm Volift อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Juvederm Volux อยู่ได้นาน 18-24 เดือน
  • Restylane Volyme อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Teoxane RHA 2 อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Teoxane RHA 3 อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Belotero Intense อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Definisse Restore อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Definisse Touch อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
  • Flore Aqua-s อยู่ได้นาน 18 เดือน

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มมีอาการบวมไหม กี่วันถึงจะเข้ารูป ?

ฉีดร่องแก้มบวมไหม กี่วันเข้ารูป

หลังฉีดร่องแก้ม เห็นการเปลี่ยนแปลงทันที ร่องแก้มเต็มขึ้น หลังจากนั้นอาจมีอาการบวมเข็ม บวกกับเนื้อฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ดี แต่ก็ไม่ได้บวมมากจนสังเกตได้ครับ สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ฟิลเลอร์จะเข้าที่ใน 2 สัปดาห์

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ร่องแก้ม บวมกี่วัน


ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร ?

เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
หากฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง 
จะได้ผลลัพธ์สวยงาม เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน

สาเหตุที่ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อน แบ่งเป็น 2 กรณีครับ 

  • ฉีดด้วยฟิลเลอร์แท้กับแพทย์ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน แต่เป็นก้อน

กรณีนี้อาจเกิดจากการใช้เทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้องของแพทย์ ประเมินปัญหาและแก้ไขไม่ถูกจุด เช่น หากปัญหาร่องแก้มเกิดจากกระดูกบริเวณใต้ตายุบตัว ก็ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเพียงอย่างเดียว เพราะจะยิ่งทำให้เนื้อแก้มถูกดัน ทำให้แก้มอูม ๆ บวม หรือฉีดร่องแก้มตื้นเกินไปจนโดนกล้ามเนื้อร่องแก้ม เมื่อเวลาผ่านไปทำให้ฟิลเลอร์ถูกดึงมากองรวมกันเป็นก้อนครับ

  • ฉีดฟิลเลอร์ปลอมกับหมอกระเป๋า

กรณีนี้คือไม่ปลอดภัยอยู่แล้วครับ สารเติมเต็มที่ไม่สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้ ยาปลอม ยาหิ้ว ที่ไม่ได้ถูกเก็บรักษาในอุณหภูมิที่ถูกต้อง เมื่อฉีดไปแล้วเกิดปฏิกิริยากับผิว ทำให้แพ้ บวม แดง หากเป็นซิลิโคนเหลวก็จะเป็นก้อน ไหลย้อย ไม่สามารถฉีดสลายได้ วิธีแก้ไขต้องผ่าตัดขูดออกเท่านั้น

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อน


หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ควรดูแลตัวเองอย่างไร ?

  • หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกาและกดนวดในจุดที่ฉีด อาจมีอาการบวมแดงหรือเขียวช้ำเป็นปกติ จะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน (หากหลังจาก 3 วันไปแล้ว มีอาการบวมมากขึ้นให้ติดต่อกลับมาที่คลินิกเพื่อรับยากินเพิ่ม)
  • อย่าขยับผิวในจุดที่ทำมากโดยเฉพาะช่วง 3 วันแรก เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ได้
  • ควรอยู่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม. เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ตากแดดจัด ๆ
  • ให้งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิดอย่างน้อย 1 เดือน
  • ควรงดทานอาหารบางอย่างที่ส่งผลต่อการอักเสบ บวมและทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้า เช่น อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ หมูกระทะ ชาบู อาหารหมักดอง อาหารที่เผ็ดมาก ๆ จนหน้าแดง อาหารหวานจัดและอาหารดิบจากร้านที่ไม่สะอาด
  • งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 48 ชั่วโมง

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม แล้วมีผลต่อการยิ้มหรือพฤติกรรมอื่นหรือไม่ ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยิ้มได้ปกติไหม? หน้าจะแข็งไหม ?

หากฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง หรือเลือกหัตถการที่แก้ปัญหาร่องแก้มได้ตรงจุด ก็จะได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ พูด ยิ้ม หัวเราะ หรือใช้ชีวิตอื่น ๆ ได้ตามปกติครับ


รีวิวฟิลเลอร์ร่องแก้ม

รีวิว ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ก่อน-หลังทำ ที่ V Square Clinic จะเห็นว่าหลังฉีดทันที ร่องแก้มตื้นขึ้นทันที

รีวิว ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2 CC
รีวิว ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2 CC และ ฟิลเลอร์ใต้ตา 3 CC
รีวิว ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 1 CC
รีวิว ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 1 CC และ ฟิลเลอร์ใต้ตา 3 CC
รีวิว ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2 CC
รีวิว ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2 CC และ ฟิลเลอร์ใต้ตา 2 CC
รีวิว ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2 CC
รีวิว ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2 CC และ ฟิลเลอร์ใต้ตา 2 CC
รีวิว ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2 CC
รีวิว ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2 CC และ ฟิลเลอร์ใต้ตา 2 CC

*ผลลัพธ์แตกต่างกันในแต่ละบุคคล


สรุป

ร่องแก้ม เป็นอีกจุดสำหรับที่ทำให้ใบหน้าดูมีอายุ ดูเหนื่อย ไม่สดใส เมื่อแก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม นอกจากช่วยให้ร่องแก้มตื้นขึ้น ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้ สำหรับใครที่ยังมีข้อสงสัย หรืออยากปรึกษาเรื่องปัญหาร่องแก้ม สามารถปรึกษาหมอได้ทางออนไลน์ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
ฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน370x277

ฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ? แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ อยู่ได้นานกี่เดือน ?

Categories
filler

ฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน

ฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน1000x860

ฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ? อยู่ได้นานกี่เดือน กี่ปี ? ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดหรือไม่ ? 

ถ้าฉีดฟิลเลอร์แท้ Hyaluronic Acid หรือฟิลเลอร์ HA ที่ได้มาตรฐาน จะสลายได้เองตามธรรมชาติ อยู่ไม่ถาวรครับ ฟิลเลอร์แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ อยู่ได้นานแค่ไหน ? ทำไมฟิลเลอร์ถึงมีอายุต่างกัน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย การฉีด filler ให้ปลอดภัย ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามดูเป็นธรรมชาติ และคงผลลัพธ์ให้อยู่ได้นาน ขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง ? ศึกษาข้อมูลได้ในบทความนี้ครับ 

ยี่ห้อฟิลเลอร์

สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน

  1. ฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น อยู่ได้นานกี่เดือน ?
  2. ทำไมฟิลเลอร์ถึงมีอายุต่างกัน
  3. ฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง ?
  4. ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดหรือไม่ ? 
  5. ฟิลเลอร์สลายได้เองไหม ?
  6. หลังจากฟิลเลอร์สลายไป หน้าจะเป็นอย่างไร ?

ฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น อยู่ได้นานกี่เดือน ?

ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น มีอายุอยู่ได้นานไม่เท่ากันครับ หมอยกตัวอย่างฟิลเลอร์ 4 ยี่ห้อที่ได้มาตรฐาน ผ่าน อย. มีหลายรุ่นให้แพทย์เลือกใช้ เติมเต็มร่องลึก ลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าให้มีมิติ ดังนี้

ฟิลเลอร์ Restylane (สวีเดน) 

ฟิลเลอร์ Restylane
  • Restylane Perlane Lyft อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Restylane Vital Light อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
  • Restylane Vital อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Restylane Volyme อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Restylane Defyne อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Restylane Refyne อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Restylane Classic อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Restylane Kysse อยู่ได้นาน 12 เดือน

ฟิลเลอร์ Juvederm (อเมริกา) 

ฟิลเลอร์ Juvederm
  • Juvederm Ultra Plus อยู่ได้นาน 12 เดือน 
  • Juvederm Voluma อยู่ได้นาน 18 เดือน 
  • Juvederm Volbella อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Juvederm Volift  อยู่ได้นาน 12 เดือน 
  • Juvederm Volite   อยู่ได้นาน 8-12 เดือน 
  • Juvederm Volux  อยู่ได้นาน 18-24 เดือน 

ฟิลเลอร์ Belotero (สวิตเซอร์แลนด์)

Banner_Belotero_4-5_ไม่มีกล่องเหลือง(1)
  • Belotero Intense อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Belotero Volume อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Belotero Revive อยู่ได้นาน 6-9 เดือน

ฟิลเลอร์ Definisse (อิตาลี)

[ล่าสุด2024] ฟิลเลอร์ Definisse ดีไหม แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร ? l หมอ V Square แชร์หมดเปลือก
ฟิลเลอร์ Definisse
  • Definisse Restore อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Definisse Core อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Definisse Touch อยู่ได้นาน 8-12 เดือน

ทำไมฟิลเลอร์ถึงมีอายุต่างกัน

แม้ว่าจะเป็นสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid เหมือนกัน แต่อายุฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นอยู่ได้นานไม่เท่ากันครับ เพราะใช้เทคโนโลยีและขั้นตอนการผลิตต่างกัน คุณสมบัติของฟิลเลอร์ออกมาต่างกัน เช่น 

  • ความแข็ง (Elasticity) ฟิลเลอร์ที่มีค่าความแข็งสูง จะเหมาะกับการฉีดเพื่อปรับยกโครงหน้าในชั้นกระดูก เช่น คาง จมูก ฉีดเพื่อดึงหน้า ฉีดยกผิวชั้นลึกในชั้นกระดูก
  • ความยืดหยุ่น (Plasticity, Cohesiveness) ฟิลเลอร์ที่มีค่าความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับ จะเหมาะกับการฉีดเพื่อเติมเนื้อในบริเวณที่ผิวมีการขยับบ่อย ๆ เช่น ร่องแก้ม มุมปาก แก้มตอบ
  • การกระจายตัว (Tissue Integration) หรือความสามารถในการสมานกับผิวที่อยู่รอบ ๆ เหมาะกับคนที่ผิวบาง ผิวแห้ง เมื่อฉีดฟิลเลอร์แล้วจะไม่เห็นเป็นก้อน และเรียบเนียนไปกับผิว
  • ความอุ้มน้ำ (Water Holding) ฟิลเลอร์ที่มีค่าความอุ้มน้ำสูง ฉีด 1 CC ฟิลเลอร์จะสามารถฟูได้ถึง 1.5 CC แต่จะเหมาะกับบางจุด เช่น ร่องแก้ม ขมับ ไม่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพราะถ้าฟูมากจะดูตาบวม 
  • จำนวนการเชื่อมพันธะ (Crosslink) ฟิลเลอร์ที่มีจำนวนพันธะเยอะขึ้น จะอยู่ได้นานขึ้น สลายช้าลง และอุ้มน้ำได้น้อยลง ฟูน้อยลง ทนต่อแรงบิดได้ดี มีค่าการกระจายตัวปานกลาง เหมาะกับบริเวณที่ผิวขยับบ่อย ๆ  
  • ขนาดของเม็ดฟิลเลอร์ (Particle Size) ฟิลเลอร์ที่มีเม็ดใหญ่จะอยู่ได้นานขึ้น และมีค่าความแข็งสูง ค่าการกระจายตัวต่ำ เหมาะกับยกหน้าในผิวชั้นลึกได้ดีที่สุด  

คุณสมบัติเหล่านี้ ทำให้ฟิลเลอร์มีอายุต่างกัน สลายเร็ว-ช้าต่างกันครับ      


ฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง ?

ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ฟิลเลอร์อยู่ได้กี่เดือน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนี้ 

  • ประสบการณ์และเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ แพทย์ที่มีประสบการณ์จะสามารถประเมินปัญหาได้แม่นยำ ฉีดถูกตำแหน่ง ถูกชั้นผิว แก้ไขได้ตรงจุด คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 
  • เลือกยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ได้เหมาะสม ฟิลเลอร์มีความหนืด ความยืดหยุ่น ความคงตัวที่แตกต่างกัน ถ้าเลือกได้ไม่เหมาะสมกับปัญหา จะส่งผลต่อความคงตัวและระยะเวลาอยู่ได้นานของฟิลเลอร์
แนะนำยี่ห้อฟิลเลอร์ หมอกิ๊ป
  • ปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีด หากฉีดน้อยเกินไป เช่น ฟิลเลอร์ 1 ซี ซี ไม่เพียงพอที่จะแก้ปัญหาในตำแหน่งนั้น ๆ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วได้
  • การดูแลตัวเองตามข้อห้าม-ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ หลังฉีดฟิลเลอร์ จะมีการแนะนำข้อห้าม-ข้อปฏิบัติต่าง ๆ เพื่อช่วยยืดอายุฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นาน ควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดหรือไม่ ? 

ตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์ มีผลต่อระยะเวลาอยู่ได้นานของฟิลเลอร์ เช่น การฉีดฟิลเลอร์ปาก เพราะปากเป็นบริเวณที่ได้สัมผัสความร้อนบ่อย มีการขยับเยอะก็อาจทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วกว่าอายุจริงได้

ในช่วง 2 สัปดาห์หลังฉีดฟิลเลอร์ หมอจึงเน้นย้ำให้คนไข้ดูแลตัวเอง โดยในแต่ละตำแหน่งจะมีวิธีการปฏิบัติตัวที่คล้าย ๆ กัน เพื่อช่วยยืดอายุฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นาน ดังนี้ 

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ วันละ 1.5-2 ลิตร
  • หลีกเลี่ยงแสงแดดหรืออากาศร้อนจัด
  • ห้ามบีบ นวด แกะ เกา บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
  • งดออกกำลังกายหนัก ๆ หรือกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง 48 ชม.หลังทำ
  • งดเลเซอร์ร้อนลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เช่น RF Thermage 1 เดือนหลังทำ
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
หลังฉีดฟิลเลอร์

นอกจากนี้ในแต่ละตำแหน่งยังมีวิธีปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์เพิ่มเติม ดังนี้

  • ฟิลเลอร์ใต้ตา ห้ามขยี้ตา สามารถล้างหน้าได้ด้วยสบู่อ่อน ๆ โดนน้ำได้ไม่เกิน 15 นาที งดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน และควรอยู่ในที่อากาศเย็น จะช่วยลดอาการบวมได้เร็วขึ้น
  • ฟิลเลอร์คาง ห้ามนวด กด ปั้นทรงเองโดยเด็ดขาด หลีกเลี่ยงการเท้าคาง เลี่ยงการใส่หมวกกันน็อกที่รัดแน่น และไม่ควรนอนคว่ำ เพราะอาจกดทับ ทำให้คางเสียทรง 
  • ฟิลเลอร์ร่องแก้ม อย่าขยับใบหน้าเยอะโดยเฉพาะในช่วง 3 วันหลังทำ อาจจะทำให้ฟิลเลอร์ร่องแก้มเคลื่อนที่ได้
  • ฟิลเลอร์หน้าผาก 3-4 ชั่วโมง หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากห้ามนอนราบ นอนคว่ำ หรือมีการรัด กดบริเวณหน้าผาก และห้ามถูหน้าแรง ๆ กด หรือบีบสิวบริเวณหน้าผาก
  • ฟิลเลอร์ขมับ เลี่ยงการนอนที่กดทับบริเวณขมับ เพราะจะทำให้รู้สึกเจ็บ หรือปวดศีรษะ บริเวณขมับ เป็นจุดรวมเส้นประสาท จึงไวต่อความรู้สึกได้ง่าย
  • ฟิลเลอร์ปาก ห้ามดึงหรือลอกหนังริมฝีปาก เพราะเป็นการทำลายผิวริมฝีปาก ทำให้ผิวกักเก็บน้ำและความชุ่มชื้นได้น้อยลง และใน 12 ชั่วโมงแรก ควรงดใช้หลอดดูดน้ำ งดทาลิปสติก งดสูบบุหรี่
  • ฟิลเลอร์จมูก 2-3 ชั่วโมงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์จมูกห้ามนอนราบ จับ บีบ ปั้นทรงจมูกเอง หรือถูหน้าแรง ๆ 

ฟิลเลอร์สลายได้เองไหม ?

ฟิลเลอร์สลายได้เองตามธรรมชาติครับ ระยะเวลาขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น และการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ 

แต่ถ้าต้องการสลายฟิลเลอร์ทันที เช่น ในกรณีที่ฉีดแล้วได้ผลลัพธ์ไม่เป็นตามต้องการ ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์แท้ สามารถฉีดสลายได้ด้วยตัวยาไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidases) สลายฟิลเลอร์ได้หมด 100% จากนั้นผิวจะกลับคืนสภาพเดิมครับ 

ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับการฉีดสลายฟิลเลอร์

หลังจากฟิลเลอร์สลายไป หน้าจะเป็นอย่างไร ?

หลังฟิลเลอร์สลายหมด ผิวหนังบริเวณที่เคยมีฟิลเลอร์จะคืนสภาพเดิม แต่ดีกว่าเดิมครับ เนื่องจากฟิลเลอร์กระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน และมีน้ำมาหล่อเลี้ยงตลอดเวลา ทำให้ผิวชุ่มชื้น ดูสุขภาพดียิ่งขึ้น ช่วยชะลออายุผิวให้แก่ช้าลง เพราะฉะนั้นที่หลายคนเข้าใจผิดว่าหลังฟิลเลอร์สลายหมด หน้าจะเหี่ยว หน้าจะแก่ขึ้น จึงไม่เป็นความจริงครับ 

หยุดฉีดฟิลเลอร์

สรุป

ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น มีอายุอยู่ได้นานต่างกันครับ โดยปัจจัยที่ทำให้ฟิลเลอร์มีอายุต่างกัน ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีและขั้นตอนการผลิตที่ส่งผลต่อคุณสมบัติของฟิลเลอร์ในแต่ละรุ่น สลายเร็ว-ช้าต่างกัน 

ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ? ยังขึ้นอยู่กับประสบการณ์และเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ การเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ รุ่นฟิลเลอร์ ปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสม และการดูแลตัวเองหลังฉีด ฟิลเลอร์แท้จะสลายเองตามธรรมชาติ อยู่ไม่ถาวร แต่สามารถฉีดเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ เพื่อคงผลลัพธ์ครับ 


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน

Juvederm volite

Juvederm volite ดีอย่างไร เหมาะกับการฉีดตำแหน่งไหน? กี่วันเห็นผล?

Categories
filler
Juvederm volite

Juvederm volite

ฟิลเลอร์ Juvederm volite คือหนึ่งในรุ่นฟิลเลอร์สัญชาติอเมริกาแบรนด์ดังอย่าง Juvederm ที่หลาย ๆคนคุ้นชื่อ และมีฟิลเลอร์ Juvederm volite รีวิวตามแพลตฟอร์มต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก 

ในบทความนี้ หมอจะแนะนำให้รู้จัก Juvederm volite แบบเจาะลึก ว่าคืออะไร ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง นิยมฉีดจุดไหน ฉีด Juvederm volite ใต้ตาได้ไหม เหมาะกับใคร กี่วันเห็นผล และข้อมูลที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ครับ

Juvederm volite

สารบัญ Juvederm volite

  1. Juvederm volite คืออะไร ?
  2. Juvederm volite ดีอย่างไร ?
  3. Juvederm volite เหมาะกับใคร ?
  4. Juvederm volite ต่างจาก skin booster ทั่วไปอย่างไร ?
  5. Juvederm volite ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ?
    1. Juvederm volite ต่างจากฟิลเลอร์ Juvederm รุ่นอื่นอย่างไร ?
    2. Juvederm volite ต่างจากฟิลเลอร์ Restylane อย่างไร ?
    3. Juvederm volite ต่างจากฟิลเลอร์ Belotero อย่างไร ?
    4. Juvederm volite ต่างจากฟิลเลอร์ Definisse อย่างไร ?
    5. Juvederm volite ต่างจากฟิลเลอร์ Neuramis อย่างไร ?
  6. ใช้ Juvederm volite ร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม ?
  7. Juvederm volite ผ่านอย.ไหม ?
  8. Juvederm volite นิยมฉีดจุดไหน ใช้กี่ CC ?
  9. Juvederm volite มีผลข้างเคียงไหม ?
  10. Juvederm volite อยู่ได้นานกี่เดือน ?
  11. ฉีด Juvederm volite กี่วันเห็นผล ?
  12. Juvederm volite มีข้อเสียไหม ?
  13. Juvederm volite ของแท้ มีวิธีดูอย่างไร ?
  14. Juvederm volite ราคา

Juvederm volite คืออะไร ?

Juvederm volite คือสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic acid (HA) ผลิตโดยบริษัท Allergan จากประเทศสหรัฐอเมริกา ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก US-FDA รวมถึงอย.ไทย เป็นที่เรียบร้อยครับ

Juvederm volite ผลิตด้วยเทคโนโลยี Vycross ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีเฉพาะในฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm เนื้อเจลของ Juvederm volite เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด แต่มีการยึดเกาะของโมเลกุลสูง ทำให้ฉีดแล้วมีความเรียบเนียน ดูเป็นธรรมชาติ บวมน้อย หลังฉีดสามารถคงผลลัพธ์อยู่นานประมาณ 8-12 เดือนครับ

ด้วยความที่ Juvederm volite เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย ไม่เป็นก้อน จึงนิยมใช้ฉีดเพื่อบำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื้น เติมน้ำให้ผิว เพิ่มความยืดหยุ่น เต่งตึง เหมาะกับคนผิวบางแต่ไม่มากเกินไป และยังนิยมใช้ฉีดใต้ตาชั้นตื้น ช่วยลดรอยคล้ำใต้ตา ลดริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตาครับ


Juvederm volite ดีอย่างไร ?

  • ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เรียบเนียน ฉีดแล้วไม่เป็นก้อน
  • มีคุณสมบัติอุ้มน้ำ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ลดปัญหาผิวแห้งกร้าน เติมน้ำให้ผิว
  • ช่วยกระชับรูขุมขน ลดปัญหารูขุมขนกว้าง ผิวหน้าดูเนียนเรียบมากขึ้น
  • สามารถฉีดเพื่อเติมเต็มหลุมสิว ฉีดแล้วเรียบเนียนไปกับผิว
  • ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว ป้องกันการเกิดริ้วรอยในอนาคต
  • สามารถฉีดบริเวณลำคอ หลังมือ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ดูเรียบเนียนเต่งตึงขึ้นได้

Juvederm volite เหมาะกับใคร ?

  • เหมาะกับคนที่มีผิวแห้ง รูขุมขนกว้าง มีหลุมสิว
  • เหมาะกับคนที่ต้องการเพิ่มคุณภาพผิว ต้องการให้ผิวใสฉ่ำวาว อิ่มน้ำ
  • เหมาะกับคนที่ต้องการปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน
  • เหมาะกับคนที่ต้องการเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว ลดริ้วรอยเล็ก ๆ
  • เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวคอ หลังมือ เหี่ยวย่น

Juvederm volite ต่างจาก skin booster ทั่วไปอย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Skin booster หรือฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภท HA เข้าไปในผิวชั้นตื้น เพื่อเพิ่มช่วยเก็บกักน้ำให้ผิว เพิ่มความชุ่มชื้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดริ้วรอยเล็ก ๆ ผิวจึงดูฉ่ำวาว อิ่มฟูสวย ดูสุขภาพดีขึ้นได้ครับ

โดยคุณสมบัติของ Filler skin booster ควรเป็นฟิลเลอร์โมเลกุลเล็ก ที่มีเนื้อละเอียด บางเบา กลืนไปกับผิวได้ครับ ซึ่งฟิลเลอร์รุ่นที่มีคุณสมบัติดังที่กล่าวข้างต้นมีผลิตออกมาหลายยี่ห้อครับ ในการเลือกใช้แพทย์จะต้องประเมินจากสภาพผิว ชั้นผิวของคนไข้ รวมถึงงบประมาณด้วยครับ

ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว รุ่นที่นิยมใช้

  • Juvederm Volite ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด หนืดกว่ารุ่น Restylane Vital light เล็กน้อย เหมาะกับการให้ความชุ่มชื้นในผิว ในคนที่มีผิวบางไม่มากเกินไป อยู่ได้ 8-12 เดือน
  • Restylane Vital light ฟิลเลอร์เนื้อละเอียดที่สุด บางเบา เหมาะกับคนที่มีผิวบาง อยู่ได้ 6-12 เดือน
  • Belotero Revive ฟิลเลอร์ที่มีส่วนประกอบเป็น HA + Glycerol เน้นการเพิ่มความชุ่มชื้น ดูเงาเป็นผิวกระจก (Glass skin) นอกจากนี้ยังช่วยลดเม็ดสีผิว ทำให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสอีกด้วย อยู่ได้ 6-9 เดือน

Juvederm volite ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร

Juvederm volite ต่างจากฟิลเลอร์ Juvederm รุ่นอื่นอย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Juvederm volite เป็นหนึ่งในรุ่นของฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งฟิลเลอร์ Juvederm มีผลิตออกมาหลายรุ่น เนื้อฟิลเลอร์แต่ละรุ่นก็จะมีความแตกต่างกัน ตามเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตฟิลเลอร์และความเข้มข้นของโมเลกุล HA ครับ

จุดเด่นของฟิลเลอร์ Juvederm แต่ละรุ่น

  • Juvederm Volite มีส่วนผสมของยาชา เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น มีความเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา บำรุงผิวชุ่มชื้น (Skin booster) อยู่ได้ 8-12 เดือน
  • Juvederm Ultra Plus มีส่วนผสมของยาชา เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เก็บกักน้ำได้ดี จึงฉีดแล้วฟูมากทำให้เต็มสวย ทนต่อการขยับ เหมาะสำหรับฉีดขมับ ปาก ร่องแก้ม อยู่ได้ 12 เดือน
  • Juvederm Voluma  มีส่วนผสมของยาชา เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็งและฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับ เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา คาง ขมับ ปาก ร่องแก้ม อยู่ได้ 18 เดือน
  • Juvederm Volbella มีส่วนผสมของยาชา เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่มที่มีความละเอียดมากที่สุด เหมาะสำหรับฉีดหน้าผาก อยู่ได้ 12 เดือน
  • Juvederm Volift มีส่วนผสมของยาชา เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ที่มีความละเอียดมากกว่ารุ่น Ultra plus เหมาะกับคนผิวบางเหมาะสำหรับฉีดปาก แก้มตอบ มุมปาก ร่องแก้ม หว่างคิ้ว อยู่ได้ 12 เดือน
  • Juvederm Volux เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง คงรูปได้ดี อยู่ได้นานที่สุด เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา คาง ขมับ ร่องแก้มชั้นลึก อยู่ได้ 18-24 เดือน
เทคโนโลยีผลิต Juvederm

Juvederm volite ต่างจากฟิลเลอร์ Restylane อย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Restylane เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดน มีเทคโนโลยีการผลิตฟิลเลอร์ชื่อว่า NASHA™ และ OBT™ และมีให้เลือกใช้หลายรุ่น ทั้งฟิลเลอร์รุ่นที่มีความคงตัว ปรับทรงง่าย ใช้ฉีดเสริมกระดูกได้ดี และฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่น เรียบเนียนไม่เป็นก้อนครับ

จุดเด่นของฟิลเลอร์ Restylane แต่ละรุ่น

  • Restylane Perlane lyft  มีส่วนผสมของยาชา เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง ไม่ฟู และสามารถคงรูปได้ดีที่สุด เหมาะสำหรับฉีด ใต้ตา จมูก  คาง อยู่ได้ 12 เดือน
  • Restylane Volyme มีส่วนผสมของยาชา เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ใช้เติมชั้นผิวให้อิ่มฟูขึ้น เหมาะสำหรับฉีด ปาก แก้มตอบ มุมปาก  ร่องแก้ม อยู่ได้ 18 เดือน
  • Restylane Defyne มีส่วนผสมของยาชา เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง เนื้อเจลมีความนิ่มปานกลางและยืดหยุ่นสูง ใช้ฉีดกระดูกที่ยุบตัวในผิวชั้นลึก เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา ปาก อยู่ได้ 18 เดือน
  • Restylane Refyne มีส่วนผสมของยาชา เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีลักษณะยืดหยุ่น ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยลึกที่เกิดจากการยิ้ม เน้นการเติมเต็มริ้วรอยเล็ก ๆ เหมาะสำหรับฉีดปาก ร่องแก้ม มุมปาก อยู่ได้ 12 เดือน
  • Restylane vital light มีส่วนผสมของยาชา เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เจลอนุภาคเล็ก แก้ไขจุดที่มีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ เหมาะสำหรับฉีดเก็บรายละเอียดใต้ตาในผิวชั้นตื้น ปาก บำรุงผิวชุ่มชื้น (Skin booster) อยู่ได้ 6-12 เดือน
  • Restylane vital มีส่วนผสมของยาชา เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย มีคุณสมบัติในเรื่องของการปรับความชุ่มชื้นผิวได้เป็นอย่างดี ให้ผลเรียนเนียนเป็นธรรมชาติ อยู่ได้ 12 เดือน
  • Restylane classic  มีส่วนผสมของยาชา ออกแบบมาสำหรับแก้ปัญหาริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก ใช้เก็บรายละเอียดใต้ตาในผิวชั้นลึกสำหรับคนผิวบาง อยู่ได้ 12 เดือน
  • Restylane kysse มีส่วนผสมของยาชา ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด แต่มีความคงตัว สร้างขอบริมฝีปากที่ชัดเจนให้ความชุ่มชื้นและความอวบอิ่ม ออกแบบมาสำหรับใช้เติมเต็มริมฝีปากโดยเฉพาะ อยู่ได้ 12 เดือน

Juvederm volite ต่างจากฟิลเลอร์ Belotero อย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Belotero เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผลิตด้วยเทคโนโลยี CPM (Cohesive Polydensified Matrix) ที่ทำให้โมเลกุลของ HA มีการกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ มีความยืดหยุ่นสูง และยังมีรุ่นที่มีส่วนผสมของ Glycerol เพิ่มคุณสมบัติการอุ้มน้ำได้มากขึ้น

จุดเด่นของฟิลเลอร์ Belotero แต่ละรุ่น

  • Belotero intense มีส่วนผสมของยาชา มีความยืดหยุ่นสูง มีจุดเด่นในการใช้แก้ปัญหาร่องลึกมาก ๆ จากการยุบตัวของเนื้อเยื่อผิวหนังและจากการเสื่อมสภาพตามวัย เช่น ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เติมแก้มตอบ อยู่ได้ 18 เดือน
  • Belotero volume มีส่วนผสมของยาชา มีความยืดหยุ่นและคงตัว มีจุดเด่นคือสามารถใช้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ปัญหาใต้ตา แก้ปัญหาใบหน้าตอบ จากสาเหตุการทรุดตัวของกระดูก และสามารถฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก เพื่อให้โครงสร้างใบหน้าได้สัดส่วน ดูอ่อนเยาว์มากขึ้น นิยมใช้เพื่อปรับรูปหน้า คาง โหนกแก้ม อยู่ได้ 18 เดือน
  • Belotero Soft มีส่วนผสมของยาชา เนื้อละเอียด มีจุดเด่นคือมีโมเลกุลเล็ก สามารถเก็บรายละเอียดได้ดี เหมาะสำหรับแก้ไขริ้วรอยบนผิวชั้นนอก แก้ปัญหาใต้ตา อยู่ได้ 6-12 เดือน
  • Belotero Revive เป็นฟิลเลอร์ที่มี HA + Glycerol มีจุดเด่นในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ผิวจะดูฉ่ำวาว เนียนใส อยู่ได้ 6-9 เดือน

Juvederm volite ต่างจากฟิลเลอร์ Definisse อย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Definisse เป็นฟิลเลอร์จากอิตาลี ที่ใช้เทคโนโลยี XTR™ Technology (eXcellent Three-Dimensional Reticulation) เน้นการใช้ฉีดยกพยุงหน้าที่หย่อนคล้อยและปรับรูปหน้า ฟิลเลอร์กระจายตัวได้ดี บวมน้อยครับ

จุดเด่นของฟิลเลอร์ Definisse แต่ละรุ่น

  • Definisse Restore  ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม แต่มีความแข็งปานกลาง เหมาะกับการเติมริ้วรอยร่องลึก ริ้วรอยหย่อนคล้อยตามวัย สามารถใช้ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เติมร่องแก้ม ร่องมุมปากได้ อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Definisse Core  ฟิลเลอร์เนื้อแน่น เหมาะกับการเสริมกระดูก ปรับรูปหน้า เติม mid-face สามารถใช้ฉีดฟิลเลอร์คาง หรือกรอบหน้าได้ อยู่ได้ 18 เดือน
  • Definisse Touch  ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เนียนละเอียด ขึ้นรูปได้ดี เหมาะฉีดตำแหน่ง ใต้ตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ปาก อยู่ได้นาน 8-12 เดือน

Juvederm volite ต่างจากฟิลเลอร์ Neuramis อย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Neuramis เป็นฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลี ผลิตโดยใช้เทคโนโลยีที่ชื่อว่า SHAPE (Stabilized Hyaluronic Acid & Purification Enhacement) เนื้อฟิลเลอร์ที่ผลิตได้จะมีจุดเด่นเรื่องความคงตัว  หนืดปานกลาง เด่นเรื่องการฉีดปรับรูปหน้าและเติมร่องลึก ราคาถูกกว่าฟิลเลอร์ที่มาจากฝั่งยุโรปหรืออเมริกาครับ

  • Neuramis Deep ไม่มียาชาผสม เนื้อเจลหนืดปานกลาง อิ่มฟู ขึ้นรูปได้ง่าย สามารถนำมาใช้เติมเต็มร่องลึกบนใบหน้าได้หลายจุด 
  • Neuramis Deep Lidocaine มีส่วนผสมของยาชา เนื้อเจลหนืดปานกลาง อิ่มฟู เหมาะกับการฉีดคาง ร่องแก้ม ขมับ แก้มส้ม แก้มตอบ อยู่ได้ 6-9 เดือน
  • Neuramis Volume Lidocaine มีส่วนผสมของยาชา เนื้อเจลหนืดที่สุดในทุกรุ่นที่มี มีความยืดหยุ่น คงตัวได้ดี สามารถนำมาใช้เติมเต็มปัญหาริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก เหมาะกับการฉีดบริเวณคาง ร่องแก้ม ขมับ แก้มส้ม แก้มตอบ อยู่ได้ 6-8 เดือน
เนื้อฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ
ฟิลเลอร์แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ จะมีเนื้อเจลที่แตกต่างกัน

ใช้ Juvederm volite ร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม ?

ในการฉีดฟิลเลอร์ Juvederm volite สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นตามปัญหาและจุดที่คนไข้มีความกังวลได้ ไม่ว่าจะเป็นการร้อยไหม, ฉีดโบท็อก, ฉีดเมโส, ฉีด Collagen Biostimulators, Hifu, Ulthera และ Thermage ก็สามารถทำได้ครับ ซึ่งในการวางแผนทำหัตถการอะไรก่อน – หลัง ควรปรึกษาและเข้ารับการตรวจประเมินจากแพทย์ก่อน แพทย์จะเป็นผู้เรียงลำดับหัตถการตามความเหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีที่สุดครับ


Juvederm volite ผ่านอย.ไหม ?

ฟิลเลอร์ Juvederm Volite ผ่านการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.ไทย) เป็นที่เรียบร้อยครับ หากใช้ฟิลเลอร์ของแท้และฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ก็สามารถมั่นใจได้ว่าตัวยามีความปลอดภัย สามารถสลายได้เอง ไม่มีสารตกค้างครับ

นอกจากฟิลเลอร์ Juvederm Volite แล้ว ฟิลเลอร์ที่ผ่านอย. ในไทย อัปเดตปี 2024 มีดังต่อไปนี้

  • ฟิลเลอร์ Juvederm รุ่น Juvederm Ultra Plus, Juvederm Volite, Juvederm Voluma, Juvederm Volift, Juvederm Volbella, Juvederm Volux
  • ฟิลเลอร์ Belotero รุ่น Belotero Intense, Belotero Volume, Belotero Revive
  • ฟิลเลอร์ Restylane รุ่น Restylane Classic, Restylane Perlane Lyft, Restylane Vital, Restylane Vital Light, Restylane Refyne, Restylane Defyne, Restylane Volyme, Restylane Kysse
  • ฟิลเลอร์ Neuramis รุ่น Neuramis Deep Classic, Neuramis Deep Lidocaine, Neuramis Volume Lidocaine
  • ฟิลเลอร์ Definisse รุ่น Definisse touch, Definisse restore, Definisse core filler 
  • ฟิลเลอร์ Flore รุ่น Flore Full Aqua-S, Flore Full S, Flore Full N, Flore Full Max, Flore Full Max 1400
  • ฟิลเลอร์ Neobelle รุ่น Neobelle Contour
  • ฟิลเลอร์ Revanesse รุ่น Revanesse Ultra
  • ฟิลเลอร์ Yvoire รุ่น YVOIRE Classic Plus, YVOIRE Volume Plus, YVOIRE Contour
  • ฟิลเลอร์ e.p.t.q. รุ่น e.p.t.q. S100, e.p.t.q. S300, e.p.t.q. S500
ฟิเลอร์ผ่านอย. 2024

Juvederm volite นิยมฉีดจุดไหน ใช้กี่ CC ?

ฟิลเลอร์ Juvederm Volite เป็นฟิลเลอร์โมเลกุลเล็ก เนื้อละเอียด เหมาะกับการฉีดในจุดต่อไปนี้

  • ฟิลเลอร์ใต้ตา โดยทั่วไปใช้ 2-4 CC
  • ฟิลเลอร์งานผิว skin booster โดยทั่วไปใช้ 1-2 CC
  • ฟิลเลอร์ปาก โดยทั่วไปใช้ 1-2 CC
Juvederm volite ฉีดจุดไหน

Juvederm volite มีผลข้างเคียงไหม ?

ผลข้างเคียงหรืออาการแพ้ฟิลเลอร์สามารถเกิดขึ้นได้ มีโอกาสพบได้ในฟิลเลอร์ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ โดยส่วนใหญ่แล้วถ้าใช้ฟิลเลอร์ของแท้ มีการตรวจสอบอย่างถูกต้อง ทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ และทำในคลินิกที่ได้มาตรฐาน โอกาสเกิดผลข้างเคียงที่อันตรายมีน้อยมากครับ

  • หลังฉีดฟิลเลอร์อาจเกิดรอยแดง หรือรอยช้ำบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่ไม่อันตราย หายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์
  • เกิดเป็นรอยนูนหรือไม่เรียบ (beading) เกิดจากการฉีดในบริเวณที่ชั้นผิวตื้นเกินไป การฉีดฟิลเลอร์ปริมาณมากเกินไป หรือเลือกใช้ฟิลเลอร์รุ่นที่มีขนาดโมเลกุลไม่เหมาะสมกับสภาพผิว
  • ฟิลเลอร์มีการเคลื่อนออกออกจากตำแหน่งที่ต้องการ มักจะเกิดในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ใกล้กล้ามเนื้อที่มีการขยับบ่อย ๆ
  • อาการแพ้ฟิลเลอร์ ที่มีลักษณะเป็นก้อน นูน แดงอักเสบ เป็นเวลาหลายวันหลังฉีดฟิลเลอร์
  • ฟิลเลอร์เกิดการบวมขึ้นหลังผ่านการฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นเวลาหลาย ๆ เดือนหรือเป็นปี ซึ่งมักจะเกิดจากภูมิคุ้มกันของผู้ที่รับการฉีด
  • อาการแพ้ฟิลเลอร์ที่มีลักษณะเป็นผื่น ลมพิษแบบรุนแรง (angioedema) กรณีนี้พบได้น้อยมาก หากมีอาการต้องรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาครับ
  • การติดเชื้อหลังฉีดฟิลเลอร์ โดยจะมีอาการปวดบวม แดง ร้อน มีตุ่ม หรือก้อนหนองบริเวณที่ฉีด เกิดจากเทคนิควิธีการฉีดที่ไม่สะอาด คลินิกไม่ได้มาตรฐาน หรือฉีดกับหมอกระเป๋า
  • หากฉีดฟิลเลอร์ผิดตำแหน่งเข้าไปโดนบริเวณหลอดเลือด โดยเฉพาะหลอดเลือดแดงอาจทำให้เกิดการอุดตันของหลอดเลือดได้นำไปสู่อาการเนื้อตาย (necrosis) บริเวณที่เส้นเลือดนั้นมาเลี้ยง
  • ตาบอดภายหลังการฉีดฟิลเลอร์เนื่องมาจาก ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปอุดตัน บีบ หรือกดหลอดเลือดแดง (supratrochlear and supraorbital artery) ซึ่งมีแขนงต่อไปที่หลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงจอประสาทตา (ophthalmic artery) มีผลทำให้สูญเสียการมองเห็นได้ครับ

Juvederm volite อยู่ได้นานกี่เดือน ?

ฟิลเลอร์ Juvederm Volite จะอยู่ได้ประมาณ 8-12 เดือนหลังฉีด และจะค่อย ๆ สลายไปตามกระบวนการธรรมชาติ โดยไม่มีสารตกค้าง ในระหว่างนี้ หากรู้สึกว่าผิวเริ่มกลับสู่สภาพเดิมแล้วก็สามารถฉีดเพิ่มเติมได้เพื่อคงผลลัพธ์ให้ยาวนานมากขึ้นครับ


ฉีด Juvederm volite กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ Juvederm Volite จะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันทีครับ โดยผิวบริเวณที่ฉีดจะดูเต่งตึงและชุ่มชื้นขึ้น หลังจากนั้นในช่วง 1-2 สัปดาห์อาจมีอาการบวมตามรอยเข็มได้ และจะค่อย ๆ ยุบบวมลง จนเห็นผลชัดเจนเต็มที่ประเมิน 3-4 สัปดาห์ครับ


Juvederm volite มีข้อเสียไหม ?

  • ไม่สามารถคงผลลัพธ์ได้ถาวร โดยฟิลเลอร์ Juvederm Volite จะอยู่ได้นาน 8-12 เดือนและฟิลเลอร์จะค่อย ๆ สลายตามธรรมชาติจนหมด สามารถฉีดเพิ่มเพื่อคงผลลัพธ์ได้
  • อาจมีอาการบวมหรือมีรอยช้ำหลังฉีดได้เป็นปกติ แต่สามารถหายได้เองจนเป็นปกติภายใน 1-2 สัปดาห์ 

Juvederm volite ของแท้ มีวิธีดูอย่างไร ?

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Juvederm Volite

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Juvederm Volite

คนไข้สามารถตรวจสอบวิธีดูฟิลเลอร์ Juvederm Volite ของแท้ได้โดยสังเกตที่กล่องฟิลเลอร์ กล่องบรรจุภัณฑ์ต้องมีข้อมูล ดังนี้

  • มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
  • กล่องมี 2 cc และเลข lot ต้องตรงกัน 4 จุด คือ
    1. เลข lot ที่กล่อง
    2. เลข lot ที่ซอง
    3. เลข lot ที่สติกเกอร์
    4. เลข lot ที่หลอด
  • สามารถโทรเช็กเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัทผู้จัดส่ง Allergan Thailand (DKSH) โทร. 02 460 7717

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ปลอม มีวิธีดูอย่างไร ? วิธีแยกฟิลเลอร์ปลอมกับแท้


Juvederm volite ราคา

juvederm volite ราคาเท่าไหร่

ฟิลเลอร์ Juvederm Volite ราคาโปรโมชั่นที่ V square clinic

  • ราคา CC ละ 14,000 บาท สำหรับการฉีดบริเวณใต้ตา
  • ราคา CC ละ 14,000-16,000 บาท สำหรับการฉีดผิว ฟิลเลอร์ skin booster, ริมฝีปาก

สรุป

ฟิลเลอร์ Juvederm volite เป็นฟิลเลอร์เนื้อบางเบา โมเลกุลเล็ก เหมาะกับการฉีดเพื่อบำรุงฟื้นฟูผิว เพิ่มความชุ่มชื้นฉ่ำวาวให้ผิว ใช้เติมเต็มเก็บรายละเอียดเล็ก ๆ ใต้ตา ลดรอยคล้ำใต้ตา และยังสามารถใช้เติมเต็มริมฝีปาก ให้ปากดูชุ่มชื้น ลดร่องปากได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีฟิลเลอร์บางรุ่น บางยี่ห้อ เช่น Restylane vital light, Belotero revive ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน หากสงสัยว่าควรเลือกใช้รุ่นไหนดี หมอแนะนำเข้ามาปรึกษาและประเมินผิวกับแพทย์ที่คลินิกจะดีที่สุดครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
ฟิลเลอร์ by คุณต่าย

สาระน่ารู้เกี่ยวกับฟิลเลอร์ อยู่ได้นานไหม เลือกฉีดยี่ห้อไหน คุ้มค่าปลอดภัย

Categories
filler
ฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์ คืออะไร ?

การฉีดฟิลเลอร์ คงความอ่อนเยาว์ เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากครับ เพราะเห็นผลลัพธ์รวดเร็ว แก้ไขจุดบกพร่องบนใบหน้าได้หลายปัญหา ใครที่สนใจการฉีด Filler ปรับรูปหน้า หรือแก้ไขริ้วรอยร่องลึก หมอมีข้อมูลการฉีดฟิลเลอร์ เช่น ราคาเท่าไร, ยี่ห้อไหนดี, อยู่ได้นานไหม รวมถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับฟิลเลอร์อันตรายไหม ปลอดภัยจริงหรือไม่ พร้อมรู้วิธีการเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ถึงคุ้มค่า ปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม มาแนะนำในบทความนี้ครับ

สารบัญ ฟิลเลอร์

  1. ฟิลเลอร์คืออะไร ?
  2. ข้อดี-ข้อเสียการฉีดฟิลเลอร์  
  3. ฉีดฟิลเลอร์ตำแหน่งได้บ้าง ?
  4. ฉีดฟิลเลอร์ใช้กี่ cc ?
  5. ฟิลเลอร์อยู่ได้นานไหม กี่เดือน ?
  6. ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเห็นผล ?
  7. รีวิวการฉีดฟิลเลอร์
  8. ฟิลเลอร์แท้ ฟิลเลอร์ปลอม ดูอย่างไร ? 
  9. ข้อปฏิบัติก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์
  10. ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม ?
  11. ฟิลเลอร์ไหล เป็นก้อน ทำอย่างไร ?
  12. การขูดฟิลเลอร์ VS ฉีดสลายฟิลเลอร์
  13. ฉีดฟิลเลอร์บวมกี่วัน ?
  14. ฉีดฟิลเลอร์เจ็บไหม ?
  15. ฟิลเลอร์ราคา โปรโมชั่น
  16. ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ?

ฟิลเลอร์ คืออะไร ? 

ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด ( Hyaluronic Acid  หรือ HA ) ถูกผลิตขึ้นเพื่อนำมาใช้ทดแทนส่วนสำคัญของโครงสร้างผิว อย่างคอลลาเจนและไฮยาลูรอน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้ผิวมีความแข็งแรง ยืดหยุ่นและเต่งตึง แต่เมื่ออายุมากขึ้นส่วนสำคัญของโครงสร้างผิวเหล่านี้จะผลิตน้อยลง ทำให้เกิดริ้วรอย และความหย่อนคล้อยขึ้นได้ครับ

เมื่อฉีดฟิลเลอร์ (Hyaluronic Acid) ที่มีความคงตัว มีคุณสมบัติช่วยกักเก็บน้ำและความชุ่มชื้น (Hydration) จะสามารถเติมเต็มและเสริมในชั้นผิวหนัง เพิ่มความยืดหยุ่นใต้ผิวหนัง (Increase Elasticity) ในบริเวณที่เกิดริ้วรอย หรือมีความหย่อนคล้อย เช่น ร่องแก้ม ร่องใต้ตา ให้กลับมามีความยืดหยุ่น เต่งตึง ริ้วรอยตื้นขึ้น แก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึกต่าง ๆ อย่างได้ผลครับ  

ปัจจุบันฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จึงมีความปลอดสูง มีใช้แพร่หลายทั่วโลก สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ และยังฉีดเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ เพื่อคงผลลัพธ์ ทำให้ผิวเรียบเนียน เต่งตึง อ่อนเยาว์ ชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้

ฉีดฟิลเลอร์คืออะไร ฉีดจุดไหนได้บ้าง? ก่อนฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรกควรรู้อะไร l หมอ V Square แชร์หมดเปลือก

ข้อดี – ข้อเสียการฉีดฟิลเลอร์ 

  • ข้อดีการฉีดฟิลเลอร์  
    1. การฟิลเลอร์ช่วยชะลอวัย ช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอย และปรับโครงสร้างใบหน้าได้อย่างเห็นผล 
    2. หลังฉีดฟิลเลอร์เห็นผลทันที ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น เพราะไม่ใช่การผ่าตัด จึงไม่มีความเสี่ยงในการวางยาสลบ ไม่มีแผลเป็น จึงได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง 
    3. การฉีดฟิลเลอร์มีความปลอดภัยสูง ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้และไม่มีปัญหาเรื่องของสารตกค้างในร่างกาย สามารถสลายเองได้ตามธรรมชาติ
    4. หลังฉีดฟิลเลอร์ หากไม่ชอบ หรือรู้สึกไม่พอใจ สามารถฉีดสลายออกได้ 100%
    5. ฟิลเลอร์ให้ผลลัพธ์รวดเร็ว สวยงามดูเป็นธรรมชาติ
    6. การฟิลเลอร์สามารถใช้แก้ปัญหาในจุดที่ต้องการความละเอียดสูงได้ดี เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม
  • ข้อเสียการฉีดฟิลเลอร์ 
    1. ฟิลเลอร์ไม่สามารถอยู่ได้ถาวร แต่สามารถฉีดฟิลเลอร์เติมได้เรื่อย ๆ เพื่อคงผลลัพธ์
    2. การฉีดฟิลเลอร์ ไม่ใช่หมอทุกคนจะฉีดได้ จำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์และเทคนิคเฉพาะของแพทย์ เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย  

ฉีดฟิลเลอร์ตำแหน่งไหนบ้าง ? 

การฉีดฟิลเลอร์สามารถฉีดได้หลายตำแหน่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณที่มีปัญหาริ้วรอย ร่องลึก หรือต้องการเสริมเพื่อปรับโครงสร้างใบหน้า หลังฉีดสามารถจะเห็นการเปลี่ยนได้ชัดเจน หมอจะอธิบายพร้อมยกตัวอย่างเคสรีวิวในแต่ละตำแหน่งว่าฟิลเลอร์ช่วยอะไรบ้าง ดังนี้ 

1. ฟิลเลอร์ใต้ตา

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นตำแหน่งที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 เพราะหลังการเติมฟิลเลอร์จะเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน ช่วยให้หน้าดูเด็กลง ใต้ตาสดใสขึ้น สามารถแก้ปัญหาได้หลายสาเหตุ เช่น ปัญหาริ้วรอยใต้ตา ตาลึก ตาโหล ขอบตาดำ มีถุงใต้ตา รวมถึงปัญหากระดูกใต้ตายุบจากอายุที่มากขึ้น ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการเติมฟิลเลอร์ใต้ตาได้เช่นกันครับ 

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร แก้ปัญหาตาลึก ตาโหล กี่วันเห็นผล มีข้อควรรู้อะไรบ้าง ?

ใต้ตาดำ ใต้ตาลึก ทาครีมบำรุงยังไงก็ไม่หาย แก้ไขได้ด้วยฟิลเลอร์ | มั่นใจไปกับ V Square Clinic

2. ฟิลเลอร์ร่องแก้ม

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เป็นตำแหน่งที่หลังฉีดแล้วช่วยทำให้ดูอ่อนเยาว์ได้ชัดเจน เพราะการมีร่องแก้มลึกจะทำให้หน้าดูแก่กว่าวัยครับ การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด สามารถใช้เติมเต็มร่องแก้มลึก และส่วนที่มีการยุบตัวของกระดูกได้อย่างเห็นผล โดยจะมีหลายเทคนิค ขึ้นอยู่สาเหตุร่องแก้มของแต่ละคน 

รวมถึงมีเทคนิคฉีดฟิลเลอร์ไล่ตั้งแต่เส้นร่องแก้มบริเวณปากขึ้นมา ก็จะช่วยยกมุมปากขึ้นได้ด้วย หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเห็นผลทันที โดยหมอจะประเมินว่าคนไข้แต่ละคนเหมาะกับเทคนิคไหน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ร่องแก้มลึกได้อย่างไร ? ใช้กี่ CC อยู่ได้นานไหม ควรรู้อะไรก่อนฉีด ?

3. ฟิลเลอร์แก้มตอบ

สำหรับคนที่มีปัญหาแก้มตอบ แก้มเป็นแอ่งยุบ ทำให้ใบหน้าดูโทรม ไม่สดใส หรือคนที่มีโหนกแก้มสูง ใบหน้าโดยรวมดูแข็ง ไม่ละมุน การฉีดฟิลเลอร์สามารถช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ หากฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิคที่ถูกต้องก็จะได้ผลลัพธ์ออกมาดูดี เป็นธรรมชาติ แก้มไม่เป็นก้อน รวมถึงทำโหนกแก้มดูลดลง ใบหน้าอิ่มเอิ่บ ดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติครับ 

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์แก้มตอบ คืออะไร เหมาะกับใคร ช่วยแก้ปัญหาใดได้บ้าง อยู่ได้นานแค่ไหน ?

4. ฟิลเลอร์แก้มส้ม

การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม สามารถช่วยเติมเต็มใบหน้าให้ดูอวบอิ่ม ดูอ่อนเยาว์ เหมาะกับคนที่มีปัญหาใบหน้าแบน ไม่มีมิติ แก้มตอบ โทรม ไม่สดใส ดูแก่กว่าวัย มีโหนกแก้มสูงหรือโหนกแก้มเยอะ การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม จะช่วยเติมเต็มใบหน้าในบริเวณที่ไขมันเกิดการยุบตัวให้กลับมาดูอวบอิ่ม ได้สัดส่วน มีมิติและช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน ริ้วรอยบริเวณแก้มดูตื้นขึ้นได้ครับ

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์แก้มส้ม คืออะไร ? เติมแก้มส้ม ดีอย่างไร? เหมาะกับใคร ? กี่วันเห็นผล ?

5. ฟิลเลอร์ปาก

สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนทรงปาก ต้องการให้ริมฝีปากอิ่มเต็มขึ้น การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่หลังทำเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน ช่วยแก้ปัญหาในผู้ที่มีริมฝีปากบาง มีริ้วรอยบริเวณขอบปาก ปากแห้ง โดยการเติมฟิลเลอร์ปากเพียง 1 CC ก็เห็นผลการเปลี่ยนแปลงแล้วครับ 

นอกจากการเพิ่มความอวบอิ่ม ฟิลเลอร์ปากสามารถแก้ปัญหารูปปากคว่ำ ดูหน้าบึ้ง ให้กลับมาดูยิ้มแย้มสดใสขึ้น ด้วยเทคนิคฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปาก ปัจจุบันเป็นอีกหนึ่งในการฉีดฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ครับ

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ปาก สายเกา สายฝอ เลือกทรงอย่างไรให้เข้ากับใบหน้า อยู่ได้นานแค่ไหน ก่อนฉีดควรรู้อะไรบ้าง ?

6. ฟิลเลอร์คาง

ฟิลเลอร์คาง สามารถแก้ปัญหาคางสั้น คางตัด คางถอย คางเบี้ยว คางไม่เท่ากัน ช่วยปรับรูปหน้าให้สมมาตรหรือหน้าเรียววีเชฟ ได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ถ้าฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้องก็จะได้ผลดี เป็นธรรมชาติไม่แพ้การผ่าตัดศัลยกรรมเสริมคาง จึงเป็นหัตถการที่เหมาะกับคนที่ไม่อยากผ่าตัดเสริมคาง ไม่อยากมีแผล และไม่มีเวลาพักฟื้นครับ

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์คาง กับ ผ่าตัดเสริมคาง ข้อดี – ข้อเสีย ต่างกันอย่างไร ควรรู้อะไรบ้างก่อนเติมฟิลเลอร์คาง

ฟิลเลอร์คาง

7. ฟิลเลอร์จมูก

สำหรับคนที่อยากเสริมจมูกแต่กลัวการผ่าตัด ‘การฉีดฟิลเลอร์จมูก’ เป็นอีกทางเลือกที่หลายคนนึกถึงครับ เพราะไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น แต่ก็มีข้อจำกัดในการฉีด คือเหมาะกับผู้ที่มีฐานจมูกอยู่บ้างแล้ว ต้องการฉีดเพื่อให้สันจมูกหรือปลายจมูกคมขึ้นเพียงเล็กน้อย จะให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติครับ 

ที่สำคัญคือต้องเลือกฉีดกับหมอที่มีประสบการณ์ เพราะอยู่ในจุดที่มีความเสี่ยงว่าเมื่อฉีดไปแล้วฟิลเลอร์อาจจะเข้าเส้นเลือดหรือเข้าตาได้ครับ 

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์จมูก ช่วยเสริมจมูกโด่งได้อย่างไร อันตรายไหม ? รวมข้อควรรู้ก่อนตัดสิดใจฉีด

8.ฟิลเลอร์หน้าผาก

ในผู้ที่มีปัญหาหน้าผากแบน ทำให้หน้าดูโทรม ไม่สดใส การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ก็เป็นอีกส่วนที่ช่วยในการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนสวย เป็นที่นิยมในคนที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้งและไม่อยากผ่าตัด ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ เห็นผลทันทีหลังทำ สามารถปรับเพิ่มลดความโหนกนูนได้ตามต้องการและความชอบ แต่ก็ใช้ปริมาณฟิลเลอร์หลาย CC เพื่อให้เห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจน

อ่านบทความเพิ่มเติม : รู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เติมหน้าผากยุบ แบน ปรับรูปหน้า เสริมโหงวเฮ้ง

รีวิว ฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากยุบแบน เป็นแอ่ง

9. ฟิลเลอร์ขมับ

การเติมฟิลเลอร์ขมับ เป็นจุดสำคัญในการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนเข้ารูปมากขึ้น แก้ปัญหาขมับตอบ ขมับลึก ขมับเป็นแอ่ง ทำใบหน้าดูโทรม โหงวเฮ้งใบหน้าไม่ดีได้ โดยไม่ต้องผ่าตัด จึงเป็นที่นิยมสำหรับคนที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้ง ไม่ว่าด้านการค้าขายหรือธุรกิจ มีความเชื่อว่าจะทำให้รับทรัพย์มากขึ้น มีคนช่วยอุปถัมภ์  นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ขมับ ยังช่วยปัญหาแก้ริ้วรอยหางตาให้ตื้นขึ้น เพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวกลับมาเต่งตึง เปล่งปลั่ง ใบหน้าโดยรวมดูหวานขึ้น และเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติครับ

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ขมับครั้งแรก ควรรู้อะไรบ้าง? อันตรายไหม หลังฉีดขมับเต็มแค่ไหน ?

ฟิลเลอร์ขมับ ช่วยลดโหนกแก้ม เสริมโหงวเฮ้งรับทรัพย์ | By V Square Clinic

10 .ฟิลเลอร์หลุมสิว

ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว เป็นอีกหนึ่งในคุณสมบัติของฟิลเลอร์ที่ช่วยแก้ไขจุดบกพร่องบนใบหน้าได้ครับ โดยสามารถการรักษาหลุมสิวให้ดูตื้นขึ้น ใบหน้าเรียบเนียน ผิวอิ่มน้ำโดยไม่ทิ้งรอยแผล รอยดำ ไม่ตกสะเก็ด ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้หน้าได้เลย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการรักษาหลุมสิวแบบเห็นผลเร่งด่วน

Vsquare tips

การฉีดฟิลเลอร์ ไม่เหมาะกับบางตำแหน่งในร่างกาย เช่น หน้าอก สะโพก เพราะถ้าใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ปลอดภัย จะต้องใช้ฟิลเลอร์ปริมาณมาก หลายร้อย cc ราคาอาจจะสูงเกิน 1 ล้านบาท (บริเวณเหล่านี้ ใช้การผ่าตัดเสริมจะดีที่สุด


ฉีดฟิลเลอร์ใช้กี่ cc ? 

จำนวน CC ในการฉีดฟิลเลอร์ แต่ละตำแหน่ง จะใช้ปริมาณที่แตกต่างกันครับ รวมถึงในแต่ละเคสก็จะใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่ต่างกันด้วย ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาของคนไข้แต่ละราย หมอจะประเมินให้เป็นเคส ๆ ไป ซึ่งหลักการประเมินหมอจะดูที่ความลึกของผิว สาเหตุของปัญหานั้น ๆ รวมถึงความกังวลใจของตัวคนไข้เอง 

ตัวอย่างเช่น คนไข้มีปัญหาใต้ตาคล้ำ บางคนอาจเกิดผิวบริเวณรอบดวงตาบางลง เห็นเส้นเลือดดำชัดเจน จึงเห็นว่าใต้ตาคล้ำ กับอีกคนเกิดจากปัญหาการยุบตัวของกระดูกเนื่องจากอายุ ทำให้ใต้ตาลึก ใต้ตาจึงดูคล้ำลง ในลักษณะนี้ก็จะใช้จำนวน CC มากขึ้นตามความเหมาะสมครับ ส่วนใครต้องการข้อมูลการใช้ปริมาณฟิลเลอร์โดยประมาณ เพื่อประเมินงบประมาณตัวเอง หมออธิบายดังนี้

  • ฟิลเลอร์ขมับ 2-4 CC
  • ฟิลเลอร์แก้มส้ม  1-2 CC
  • ฟิลเลอร์แก้มตอบ 2-4 CC
  • ฟิลเลอร์ปาก 1-2 CC 
  • ฟิลเลอร์คาง 1-2 CC 
  • ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 1-3 CC
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา 2-4 CC
  • ฟิลเลอร์หน้าผาก 3-5 CC
  • ฟิลเลอร์ปาก 1-2 CC

การฉีดฟิลเลอร์สามารถทยอยฉีดได้เรื่อย ๆ ครับ จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม และพึงพอใจ คนไข้ไม่จำเป็นต้องรีบเติมทีเดียวครับ 


ฟิลเลอร์อยู่ได้นานไหม กี่เดือน ?

การคงผลลัพธ์หลังการฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่ตำแหน่งที่ฉีด และยี่ห้อ /รุ่น ฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ครับ เพราะฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ/รุ่น จะเหมาะกับการฉีดในตำแหน่งที่ต่างกัน เนื่องจากแต่ละรุ่นจะเนื้อฟิลเลอร์ความคงตัว ความยืดหยุ่น การอุ้มน้ำของฟิลเลอร์ ที่ต่างกัน หมอจะประเมินและแนะนำฟิลเลอร์ที่เหมาะกับแต่ละตำแหน่งที่ฉีดให้ ตัวอย่างรุ่นฟิลเลอร์ที่หมอจะอธิบายข้างต้น เป็นเพียงตัวอย่างรุ่นฟิลเลอร์ที่หมอมักจะเลือกใช้และนิยมมากที่สุดครับ 

  • หน้าผาก รุ่นที่แนะนำ Juvederm Volbella 12 เดือน
  • ใต้ตาชั้นลึก รุ่นที่แนะนำ Restylane Defyne 18 เดือน
  • ใต้ตาชั้นตื้น รุ่นที่แนะนำ Juvederm Vital Light 6-12 เดือน
  • ร่องแก้ม รุ่นที่แนะนำ Juvederm Ultra Plus 12 เดือน/ Juvederm Voluma 18 เดือน
  • คาง รุ่นที่แนะนำ Restylane Perlane Lyft 12 เดือน/ Juvederm Voluma 18 เดือน
  • ปาก ใช้ได้หลายรุ่น Restylane/ Juvederm 6 -18 เดือน
  • ขมับ รุ่นที่แนะนำ Juvederm Ultra Plus 12 เดือน/ Juvederm Voluma 18 เดือน
ฟิลเลอร์อยู่ได้นานกี่เดือน by คุณต่าย

ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเห็นผล ?

ที่หลายคนสงสัยว่า หลังการฉีดฟิลเลอร์กี่เห็นผล ? การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่เห็นผลเร็ว เห็นผลหลังฉีดประมาณ 70-80% คนไข้สามารถใช้หน้าได้ตามปกติครับ หลังจากนั้นจะมีอาการบวมเล็กน้อย ต้องรอให้ฟิลเลอร์ผสานเข้ากับผิวก่อน จะค่อย ๆ หายบวมไปเอง ประมาณ 4-5 วัน และเห็นผลลัพธ์ฟิลเลอร์เข้าที่ชัดเจน ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับจุดที่ฉีด สภาพผิว และการดูแลตัวเองของคนไข้ร่วมด้วย


รีวิวการฉีดฟิลเลอร์

ตัวอย่างรีวิวการฉีดฟิลเลอร์ปากพร้อมกับฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 

รีวิวฉีดฟิลเลอร์เห็นผลทันทีหลังทำ 1
รีวิวฉีดฟิลเลอร์เห็นผลทันทีหลังทำ

ตัวอย่างรีวิวการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา พร้อมกับฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม 

รีวิวการฉีดฟิลเลอร์ปากใต้ตา
รีวิวการฉีดฟิลเลอร์ปากใต้ตา

ตัวอย่างรีวิวการฉีดฟิลเลอร์คาง พร้อมกับฉีดฟิลเลอร์ขมับ

รีวิวการฉีดฟิลเลอร์คาง
รีวิวการฉีดฟิลเลอร์ขมับ

ฟิลเลอร์แท้ ฟิลเลอร์ปลอมดูอย่างไร ? 

ฟิลเลอร์แท้ในประเทศไทยจะหมายถึง ฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid (HA) เท่านั้นที่ผ่านการรับรองจากอย. สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ มีความปลอดภัยสูง 

ในปัจจุบัน มีฟิลเลอร์หลายแบรนด์ให้เลือก แต่ราคาค่อนข้างสูง จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้มีมิจฉาชีพฉวยโอกาสทำฟิลเลอร์ปลอมออกมาจำหน่ายในราคาถูกมาก ๆ ซึ่งหากพลาดฉีดฟิลเลอร์ปลอม ซิลิโคนเหลว หรือฟิลเลอร์หิ้ว จะทำให้หลังฉีดเกิดผลข้างเคียงได้ เช่น เกิดการอักเสบ อาการแพ้ หรือรุนแรงถึงขั้นเนื้อเน่า เนื้อตายได้ ดังนั้นก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ควรศึกษาวิธีดูฟิลเลอร์แท้ยี่ห้อต่าง ๆ ไว้ด้วยครับ  

แนะนำ ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี แตกต่างกันอย่างไร

วิธีการดูฟิลเลอร์แท้ ควรสังเกตดูที่กล่องฟิลเลอร์ จะมีฉลากภาษาไทยติดอยู่บนกล่อง พร้อมกับมีราคาระบุ และมีวันหมดอายุระบุอยู่ข้างกล่อง สามารถสังเกตได้อย่างชัดเจน โดยทุกครั้งที่คนไข้ได้ทำการฉีดฟิลเลอร์ที่ V Square Clinic  สามารถขอให้หมอแกะกล่องต่อหน้า และสามารถขอหลอดกลับบ้านได้ครับ 

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี

ยี่ห้อฟิลเลอร์แท้ที่ ผ่าน อย.

ฟิลเลอร์ในปัจจุบัน มีหลากหลายยี่ห้อ แต่ฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย. ที่ได้รับความนิยม 3 อันดับแรก ได้แก่   

1. ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane

ฟิลเลอร์ยี่ห้อRestylane

ตัวอย่างวิธีดูฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane ของแท้

  • กล่องต้องปิดผนึกเรียบร้อย ที่กล่องมีรอยปรุที่ต้องทำการฉีกออกก่อน จึงจะสามารถเปิดกล่องได้
  • มีราคาระบุ มีวันหมดอายุชัดเจน
  • มีป้ายภาษาไทยที่ข้างกล่อง และภายในกล่องจะมีเอกสารกำกับเป็นภาษาไทยบรรจุอยู่
  • มีสติกเกอร์ โมโนแกรม Restylane GALDERMA แปะอยู่บนตัวกล่อง
  • มีเลขล็อตสินค้า (lot number) ติดอยู่  โดยที่ระบุตรงกันทั้ง 2 จุด คือ
  • เลข lot. ที่ข้างกล่อง
  • เลข lot. ที่หลอด

2. ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm

ฟิลเลอร์ยี่ห้อJuvederm

ตัวอย่างวิธีดูฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm ของแท้

  • กล่องต้องปิดผนึกแน่นหนา ไม่ผ่านการโดนแกะมาก่อน
  • มีชื่อยี่ห้อและรุ่นระบุที่กล่องชัดเจน และสะกดถูกต้องทุกตัวอักษร
  • ต้องมีฉลากพิเศษ ระบุว่า ยาควบคุมพิเศษ ใช้เฉพาะสถานพยาบาลเท่านั้น
  • ชื่อบริษัทที่นำเข้า (Imported by) อย่างชัดเจน
  • มีเลขล็อตสินค้า (lot number) ติดอยู่ โดยที่ระบุตรงกันทั้ง 4 จุด คือ
    1. เลข lot ที่กล่อง
    2. เลข lot ที่หลอด
    3. เลข lot ที่สติกเกอร์
    4. เลข lot ที่ซอง

3. ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero

ฟิลเลอร์ยี่ห้อBelotero

ตัวอย่างวิธีดูฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero ของแท้

  • มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย
  • สามารถโทรเช็คเลข lot และคลินิกที่บริษัทMer Aesthetics โทร.02 026 1111
  • มีเลข Lot. ตรงกัน 3 จุด คือ
    1. เลข lot ที่กล่อง
    2. เลข lot ที่สติกเกอร์
    3. เลขlot ที่หลอด

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Definisse

[ล่าสุด2024] ฟิลเลอร์ Definisse ดีไหม แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร ? l หมอ V Square แชร์หมดเปลือก
ฟิลเลอร์แท้  Definisse
  • มีเลขทะเบียนอย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทย (อยู่นอกกล่อง) และภาษาอังกฤษ (อยู่ในกล่อง)
  • มีรอยประด้านข้างกล่องที่ปิดสนิท
  • Label Sticker จะสามารถลอกออกได้ เพื่อนำไปติดใน OPD Card
  • กล่องมี 1 cc และเลข lot ต้องตรงกัน 3 จุด คือ
    1. Label ด้านหลังกล่อง
    2. Label ด้านข้างกล่อง
    3. Label ที่หลอด
  • สามารถโทรสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท เอ.เมนารินี (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02 696 8500 กด 3

หมอจะยกตัวอย่าง วิธีดูฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อดังนี้ 

  1. ห้ามซื้อฟิลเลอร์เองจากอินเทอร์เน็ต แล้วนำมาให้แพทย์หรือบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ทำการฉีดให้เด็ดขาดครับ เพราะฟิลเลอร์ที่สามารถหาซื้อหาได้ง่ายจากอินเทอร์เน็ต ไม่มีการันตีความปลอดภัย เบื้องต้นให้สงสัยไว้ก่อนว่า อาจเป็นของปลอม 
  2. ฟิลเลอร์แท้ Hyaluronic Acid สามารถฉีดให้สลายด้วยเอ็นไซม์ไฮยาลูโรนิเดส(Hyaluronidase) ได้ 100% เมื่อคนไข้ได้รับการฉีดสลายแล้ว ฟิลเลอร์จะเกิดการยุบตัวลง และละลายเป็นน้ำซึมไปตามผิวหนังได้เองทันที โดยไม่ตกค้างและไม่มีอันตราย

เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นสารควบคุม ต้องเก็บรักษาอย่างเหมาะสมเพื่อรักษาคุณภาพ และโดยปกติแพทย์จะไม่ยอมฉีดสารที่คนไข้นำมาเองเด็ดขาดครับ เพื่อความปลอดภัยของคนไข้ และป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น


ข้อปฏิบัติก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์

ข้อควรปฏิบัติก่อนฉีดฟิลเลอร์

  1. ศึกษาข้อมูลที่จำเป็น ทั้งการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน การเลือกหมอ เทคนิคในการทำ รวมไปถึงวิธีการสังเกตฟิลเลอร์แท้แต่ละยี่ห้อ เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดี คุ้มค่า
  2. มียาและวิตามินบางชนิดที่ควรงดก่อนฉีดฟิลเลอร์ แอสไพริน, NSAIDs, วิตามิน St. Johns Wort, ginko biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E
  3. งดยาผลัดเซลล์ผิว การดึงหรือโกนขนบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์
  4. งดคอร์สเลเซอร์และนวดหน้าอย่างน้อย 3 วัน ก่อนฉีด
  5. หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำควรแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง
  6. แพทย์จะพิจารณาให้กินยาห้ามเลือดหรือฉีดยาลดบวมในบางเคส เพื่อลดความเสี่ยงในการบวมช้ำ อักเสบติดเชื้อ
  7. สามารถแจ้งเพื่อขอแปะยาชาก่อนฉีดฟิลเลอร์ได้ และหมอจะฉีดยาชาในจุดนั้น ๆ ให้ด้วย
ข้อควรปฏิบัติก่อนฉีดฟิลเลอร์(1)
ข้อควรปฏิบัติก่อนฉีดฟิลเลอร์

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์

  1. หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกาและกดนวดในจุดที่ฉีด อาจมีอาการบวมแดงหรือเขียวช้ำเป็นปกติ จะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน (หากหลังจาก 3 วันไปแล้ว มีอาการบวมมากขึ้นให้ติดต่อกลับมาที่คลินิกเพื่อรับยากินเพิ่มครับ)
  2. หากก่อนทำไม่ได้กินยาฆ่าเชื้อ หลังทำควรรีบกินยาฆ่าเชื้อทันที นอกจากนี้ยังมียาแก้ปวด ลดบวมกลับไปให้ทานด้วยครับ
  3. ควรอยู่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม. เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ตากแดด
  4. ให้งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิดอย่างน้อย 1 เดือน
  5. อย่าขยับผิวในจุดที่ทำมากโดยเฉพาะช่วง 3 วันแรก เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนได้ครับ
  6. ควรงดทานอาหารบางอย่างที่ส่งผลต่อการอักเสบ บวมและทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้า ดังนี้ครับ
  •  เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
  • อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ หมูกระทะ ชาบู
  •  อาหารหมักดอง อาหารที่เผ็ดมาก ๆ จนหน้าแดง อาหารหวานจัดและอาหารดิบจากร้านที่ไม่สะอาด
  •  งดสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้ยุบบวมช้าและส่งผลการรักษาอยู่ได้สั้นลงด้วยครับ

อ่านบทความเพิ่มเติม : หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง

หลังฉีดฟิลเลอร์ (1)
หลังฉีดฟิลเลอร์

ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม ?

การฉีดฟิลเลอร์ไม่อันตราย และมีความปลอดภัยสูงครับ เมื่อฉีดด้วยฟิลเลอร์แท้ ประเภท Hyaluronic Acid โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ส่วนสิ่งที่หลายคนกลัว กังวลเรื่องความอันตรายเพราะอาจจะเคยเห็นตามข่าว ฉีดแล้วเสียทรง หน้าเปลี่ยน เน่า เนื้อตาย สิ่งเหล่านี้ล้วนมาจากการใช้ฟิลเลอร์ปลอม ในกลุ่มซิลิโคนเหลว พาราฟิน  ซึ่งเป็นฟิลเลอร์ที่ไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ เมื่อถูกฉีดเข้าสู่ร่างกาย จะทำให้เกิดอาการแพ้และบวมเป็นก้อนรวมถึงอาการตามที่กล่าวมาครับ  หากศึกษาข่าวเหล่านี้ลึกขึ้น จะพบว่าผู้ฉีดไม่ใช่หมอครับ   

นอกจากฟิลเลอร์ปลอมแล้ว สิ่งที่น่ากลัวคือฟิลเลอร์หิ้วครับ ซึ่งปัจจุบันพบได้มาก ในคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานเพราะราคาต้นทุนต่ำ เมื่อนำมาฉีดสามารถทำกำไรได้มาก แต่ผลเสียจะมาตกที่คนไข้ครับ

แม้จะบอกว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ แต่การหิ้วโดยไม่ผ่านขบวนการจัดเก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสม  ก็ทำให้ตัวยาเสื่อมคุณภาพครับ เมื่อนำมาใช้อาจทำให้เกิดการติดเชื้อ อักเสบได้ เพื่อความปลอดภัยควรเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรอง และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ภายใต้คลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้นครับ

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม ?


ฟิลเลอร์ไหล เป็นก้อน ทำอย่างไร ?

ปัญหาฟิลเลอร์ไหล ฟิลเลอร์เป็นก้อนมักเกิดจากการคนไข้ไปฉีดฟิลเลอร์ปลอม เช่น ซิลิโคนเหลว เมื่อเวลาผ่านไปสารที่ฉีดมาจะไม่สลาย เกิดพังผืดใต้ผิว ทำให้เป็นคลื่น ไปจนถึงเนื้อเน่า เน่าตาย ซึ่งการแก้ไขต้องผ่าตัดขูดออกเท่านั้นครับ

ฟิลเลอร์ไหล
ตัวอย่างเคสที่ฟิลเลอร์ไหล เป็นก้อน เนื่องจากใช้ฟิลเลอร์ปลอม

การขูดฟิลเลอร์ VS ฉีดสลายฟิลเลอร์

หลังฉีดฟิลเลอร์แล้วเกิดอาการที่ไม่พึงประสงค์ และต้องการแก้ไข สามารถทำได้ 2 วิธีหลัก ๆ ซึ่งจะใช้วิธีไหนก็ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ครับ 

  • ขูดฟิลเลอร์

ในเคสที่มีอาการบวม แดง อักเสบ  หรือเกิดเป็นก้อนแข็ง ไหลย้อย จากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม วิธีแก้ไขคือต้องขูดฟิลเลอร์ หรือผ่าตัดเลาะฟิลเลอร์ออกเท่านั้นครับ เพราะเนื้อฟิลเลอร์ไม่สามารถสลายไปเองได้ และจะต้องทำโดยศัลยแพทย์ในโรงพยาบาลเท่านั้น ขณะเดียวกันหากฉีดมาเป็นเวลานานจนเป็นพังผืดเกาะ ก็อาจไม่สามารถเอาเนื้อฟิลเลอร์ปลอมออกได้ทั้งหมดภายในครั้งเดียวครับ 

  • ฉีดสลายฟิลเลอร์

การฉีดสลายฟิลเลอร์ คือ การใช้ตัวยาไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase : HYAL) ฉีดเพื่อสลายฟิลเลอร์ออก ซึ่งจะต้องเป็นฟิลเลอร์แท้ประเภท สารไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เท่านั้น ถึงจะสลายได้ครับ 

การฉีดสลายฟิลเลอร์มักมาจากความไม่พอใจในรูปทรง หรือฉีดกับหมอที่ไม่มีประสบการณ์ ฉีดฟิลเลอร์ตื้นเกินไป ทำให้เห็นเป็นก้อนไม่สวยงาม ก็สามารถฉีดสลายแล้วฉีดใหม่ได้ครับ

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดสลายฟิลเลอร์อันตรายไหม


ฉีดฟิลเลอร์บวมกี่วัน ? 

หลังฉีดฟิลเลอร์ สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงทันทีครับ หลังจากนั้นภายใน 1-3 วัน จะมีอาการบวมขึ้นเล็กน้อย และจะค่อย ๆ ยุบลงในช่วง 5-7 วัน และเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนเข้าที่ ประมาณ 2-3 สัปดาห์ครับ ในระหว่างนี้คนไข้สามารถใช้หน้าได้ตามปกติ ไม่ต้องลางานหรือเสียเวลาพักฟื้นครับ 

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ บวมกี่วัน ?


ฉีดฟิลเลอร์เจ็บไหม ? 

ในขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ความรู้สึกเจ็บจะมาจากการลงเข็มครับ ซึ่งเจ็บไม่มาก รวมถึงมีการแปะยาชาจึงช่วยบรรเทาความเจ็บในระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ลงได้ นอกจากนี้ฟิลเลอร์บางรุ่นจะมีส่วนผสมของยาชา (Lidocane) อยู่ด้วย จึงทำให้แทบไม่รู้สึกเจ็บเลยครับ 


ฟิลเลอร์ราคา โปรโมชั่น

ราคาฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละจุด จะแตกต่างกันไปตามยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ บางจุดอาจมีความยากและต้องใช้เทคนิคพิเศษในการฉีด

  • ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเริ่มต้น 9,900.-
  • ฟิลเลอร์คาง ราคาเริ่มต้น 11,000.-
  • ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ราคาเริ่มต้น 6,990.-
  • ฟิลเลอร์ปาก ราคาเริ่มต้น 14,900.-
  • ฟิลเลอร์ขมับ ราคาเริ่มต้น 6,990.-
  • ฟิลเลอร์หน้าผาก ราคาเริ่มต้น 16,900.-
  • ฟิลเลอร์จมูก ราคาเริ่มต้น 16,900.-

อ่านบทความเพิ่มเติม : โปรโมชั่นฟิลเลอร์สุดคุ้ม


ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ?

การฉีดฟิลเลอร์ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี คุ้มค่าและปลอดภัย ควรพิจารณาสิ่งเหล่านี้ก่อนตัดสินใจครับ 

  • เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข
  • แพทย์มีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้า สามารถวิเคราะห์ ประเมินใบหน้าและแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด
ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี by หมอแพน

เลือกคลินิกที่ใช้ฟิลเลอร์แท้ หมอแกะกล่องแกะหลอดฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า

  • ใช้ฟิลเลอร์แท้ในการฉีดเท่านั้น ศึกษาวิธีตรวจสอบ ฟิลเลอร์ ด้วยตัวเอง
  • ดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ในแหล่งที่เป็นกลาง คลินิกเข้าไปลบโพสต์ไม่ได้

สรุป

การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ช่วยปรับรูปหน้าที่เห็นผลลัพธ์เร็ว ไม่ต้องพักฟื้น มีความปลอดภัยสูง เมื่อฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน สำหรับใครสนใจฉีดฟิลเลอร์หมอแนะนำให้ควรศึกษาข้อมูลการฉีดฟิลเลอร์อย่างละเอียด และอย่าหลงเชื่อคำโฆษณาเกินจริง เพราะอาจได้ผลไม่คุ้มค่าครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
Restylane Vital Light

Restylane Vital light ดีอย่างไร ? เหมาะกับการฉีดใต้ตาอย่างไร ? เห็นผลแค่ไหน ?

Categories
filler
Restylane Vital Light

Restylane Vital Light

ใครที่กังวลปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา ใต้ตาคล้ำ Restylane Vital Light เป็นฟิลเลอร์อีกรุ่นที่น่าสนใจในการใช้แก้ปัญหาเหล่านี้ครับ เพราะออกแบบมาเพื่อฟื้นฟูคุณภาพผิว ช่วยแก้ปัญหาผิวบริเวณรอบดวงตาได้เป็นอย่างดี รวมถึงยังสามารถปรับสภาพผิว เพิ่มความชุ่มชื้นบริเวณอื่น ๆ ให้ดูอิ่มฟู ตามเทรนด์ผิวสวยที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน

ฉีด Restylane Vital light ใต้ตา ราคาเท่าไหร่ ? สามารถฉีดตำแหน่งไหนได้อีกบ้าง ? Restylane Vital Light ของแท้ มีวิธีตรวจสอบอย่างไร ? หลังฉีด Restylane Vital light รีวิวผลลัพธ์ที่ได้ เห็นผลแค่ไหน ? บทความนี้หมอมีคำตอบครบทุกประเด็นครับ

กล่อง-Restylane-Vital-Light

สารบัญ Restylane Vital Light

  1. Restylane Vital light คืออะไร ?
  2. Restylane Vital light มีคุณสมบัติอะไรที่ต่างจากรุ่นอื่น ?
  3. Restylane Vital light ดีอย่างไร ?
  4. Restylane Vital light เหมาะกับใคร ?
  5. Restylane Vital light เหมาะกับการฉีดตำแหน่งไหน ?
  6. Restylane Vital light ฉีดตำแหน่งอื่นนอกจากใต้ตาได้ไหม ?
  7. Restylane Vital light ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ?
  8. Restylane Vital light ผ่าน อย.ไหม ?
  9. Restylane Vital light แต่ละตำแหน่งใช้กี่ CC ?
  10. Restylane Vital light มีผลข้างเคียงหลังฉีด ที่ควรรู้ไหม ?
  11. Restylane Vital light อยู่ได้นานกี่เดือน ?
  12. ฉีด Restylane Vital light กี่วันเห็นผล ?
  13. Restylane Vital light มีข้อเสียไหม ?
  14. Restylane Vital light ของแท้ มีวิธีดูอย่างไร ?
  15. Restylane Vital light ราคา เท่าไหร่ ?
  16. Restylane Vital light รีวิว ผลลัพธ์ที่ได้หลังฉีดเป็นอย่างไร ?

Restylane Vital light คืออะไร ? 

Restylane Vital Light คือ หนึ่งในรุ่นของ Restylane แบรนด์ฟิลเลอร์คุณภาพที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกโดย Vital Light เป็นรุ่นที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อฟื้นฟูและปรับปรุงคุณภาพของผิว เช่น บริเวณใบหน้า ลำคอ มือ และบริเวณที่มีรอยย่นเล็กๆ หรือผิวที่ต้องการความชุ่มชื้น ทำให้เป็นฟิลเลอร์ Skin booster ที่ได้รับความนิยมมากอีกรุ่นเลยครับ

Vsquare tips

ข้อควรรู้ : ฟิลเลอร์ Skin booster หรือ ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว เป็นสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid (HA) ความเข้มข้นสูง โมเลกุลเล็ก เนื้อนิ่ม ละเอียด เมื่อฉีดเข้าใต้ผิวจะช่วยกักเก็บและเพิ่มความชุ่มชื้น ปรับสภาพผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ ให้ฉ่ำวาว อิ่มฟู


Restylane Vital light มีคุณสมบัติอะไรที่ต่างจากรุ่นอื่น ?

Restylane เป็นฟิลเลอร์แบรนด์แรกของโลกที่ได้รับการยอมได้รับรองจาก US FDA ครับ มี 2 เทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะที่โดดเด่นของแบรนด์ คือ OBT Technology และ NASHA Technology ทำให้คุณสมบัติของฟิลเลอร์มีเลือกใช้ได้หลากหลาย

เทคโนโลยีของฟิลเลอร์ Restylane
เทคโนโลยีของฟิลเลอร์ Restylane

ฟิลเลอร์ Restylane Vital light เป็นรุ่นที่ผลิตด้วย NASHA Technology ที่มีคุณสมบัติในการดึงโมเลกุลของน้ำเข้ามากักเก็บไว้ในตัวฟิลเลอร์ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว สามารถฉีดเข้าไปในชั้นผิวได้อย่างแม่นยำ กระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ ฟื้นฟูผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้สิ่งที่ทำให้ Restylane Vital light ต่างจากรุ่นอื่น ๆ คือ เป็นฟิลเลอร์เนื้อเจลอนุภาคเล็ก และมีความละเอียดที่สุด โดยกรดไฮยาลูโรนิก (HA) มีความเข้มข้นต่ำ 12mg/mL นับว่าน้อยที่สุดในบรรดารุ่นฟิลเลอร์ Restylane ครับ แต่ยังคงมีความคงตัว หลังฉีดไม่เป็นก้อนและให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติครับ

ลักษณะของเนื้อฟิลเลอร์ Restylane Vital Light
ลักษณะของเนื้อฟิลเลอร์ Restylane Vital Light

Restylane Vital light ดีอย่างไร ?

  • ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ร่องใต้ตา
  • ช่วยฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใสแบบเร่งด่วน
  • ช่วยให้ผิวอิ่มฟู รูขุมขนกระชับขึ้น
  • ช่วยคืนความชุ่มชื้นของผิวหนัง ผิวดูอิ่มน้ำและมีชีวิตชีวา
  • สามารถฉีดเก็บรายละเอียดเล็ก ๆ ได้ดี ให้ผลลัพธ์เรียบเนียน ดูเป็นธรรมชาติ
  • ผิวอิ่มน้ำ ทำให้ริ้วรอยจางลง ผิวดูกระชับเต่งตึง

Restylane Vital light เหมาะกับใคร ?

  • เหมาะกับคนที่มีปัญหาริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตา
  • เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น
  • เหมาะกับคนที่มีปัญหาหลุมสิวที่ไม่ลึกมาก
  • เหมาะกับคนที่ต้องการกระชับรูขุมขน
  • เหมาะกับคนที่มีผิวหน้าหมองคล้ำ มีริ้วรอย
  • เหมาะกับคนที่ต้องการเห็นผลลัพธ์หลังทำทันที ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น

Restylane Vital light เหมาะกับการฉีดตำแหน่งไหน ?

Restylane Vital light ฉีดได้หลายตำแหน่งครับ โดยจะเหมาะสำหรับฉีดบริเวณที่มีริ้วรอยเล็ก ๆ ในผิวชั้นตื้น  เช่น ใต้ตา ริมฝีปาก และปรับสภาพผิวทั่วใบหน้า

Restylane Vital light เหมาะกับฉีดตำแหน่งไหน

Restylane Vital light ฉีดตำแหน่งอื่นนอกจากใต้ตาได้ไหม ?

นอกจากจะนิยมฉีด Restylane Vital Light ใต้ตา เพื่อช่วยลดรอยดำคล้ำ ริ้วรอยรอบดวงตา ยังสามารถนำมาฉีดแก้ปัญหาผิวที่ตำแหน่งอื่นได้ครับ ได้แก่

  • ปาก – ช่วยลดร่องริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณริมฝีปากและมุมปาก ที่มักเห็นได้ชัดเมื่ออายุมากขึ้น
  • หลุมสิว – ช่วยเติมเต็มบริเวณหลุมสิวที่ไม่ลึกมาก ให้ผิวกลับมาเรียบเนียน
  • ลำคอ – ช่วยปรับสภาพผิวบริเวณลำคอ ลดเส้นริ้วรอยลำคอตื้น ๆ 
  • มือ – ช่วยปรับสภาพผิวหลังมือ ช่วยแก้ปัญหามือเหี่ยว มือแห้ง หรือมีเส้นเลือดปูด

Restylane Vital light ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ?

Restylane Vital light ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นในด้านเทคโนโลยีการผลิต คุณสมบัติฟิลเลอร์ การใช้งานและผลลัพธ์ ดังนี้ครับ

  • เทคโนโลยีการผลิต : Restylane Vital light ใช้เทคโนโลยี NASHA ลิขสิทธิ์เฉพาะของฟิลเลอร์ Restylane ทำฟิลเลอร์ให้เป็นเม็ดละเอียด และมีค่าความยืดหยุ่นสูง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว รูขุมขนเล็กลง ผิวฉ่ำวาวขึ้น
  • ความเข้มข้นและขนาดโมเลกุล : คุณสมบัติพิเศษของกรดไฮยาลูโรนิก (HA) ที่มีความเข้มข้นต่ำและมีขนาดโมเลกุลที่เล็ก ทำให้ฉีดเข้าไปในชั้นผิวได้อย่างแม่นยำ ส่วนฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอาจมีความเข้มข้นและขนาดโมเลกุลที่ต่างกัน เหมาะกับฉีดตำแหน่งอื่นต่างกันไป
  • การใช้งานและผลลัพธ์ : ฟื้นฟูผิวและเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และมีสุขภาพดี ในขณะที่ฟิลเลอร์รุ่นอื่น ยี่ห้ออื่นอาจถูกออกแบบมาเพื่อปรับโครงสร้างใบหน้า หรือเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก

เปรียบเทียบกับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมในไทย

ฟิลเลอร์ Juvederm

ฟิลเลอร์สัญชาติอเมริกา มี 2 เทคโนโลยีการผลิต คือ Hylacross และ Vycross เด่นเรื่องความยืดหยุ่น นำมาฉีดยกกระชับได้ดี 

Juvederm มีรุ่นฟิลเลอร์ที่คล้ายกันกับ Restylane Vital light ครับ คือ Juvederm Volite ใช้ Vycross Technology เป็นฟิลเลอร์เนื้อฉ่ำ มีความหนืดกว่า Viital Light เล็กน้อย สามารถฉีดบูสต์ผิวให้ชุ่มชื้น ดูอิ่มน้ำและเรียบเนียน ไม่เป็นก้อน

ฟิลเลอร์ Belotero Revive

ฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ ผลิตด้วยเทคโนโลยี มีจุดเด่นในเรื่องความคงตัวและยืดหยุ่น นิยมใช้ฉีดใต้ตาชั้นตื้นและชั้นลึก รวมไปถึงริมฝีปาก รวมถึงมีรุ่น Belotero Revive เป็นฟิลเลอร์งานผิวตัวแรกที่การผสมผสานระหว่าง HA+Glycerol ช่วยเพิ่มและกักเก็บความชุ่มชื้น บำรุงผิวอิ่มน้ำ ฉ่ำวาว และลดริ้วรอยเล็ก ๆ

ฟิลเลอร์ Teoxane

ฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ เนื้อฟิลเลอร์ใช้เทคโนโลยี PNT (Preserved Network Technology) ในการผลิต ช่วยเก็บกักน้ำและความชุ่มชื้นได้ดี จุดเด่นอยู่ที่เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่น ปรับเข้ากับการเคลื่อนไหวของใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ฟิลเลอร์ Definsse

ฟิลเลอร์จากอิตาลี ผลิตด้วย XTR Technology นิยมใช้ปรับรูปหน้า ฉีดยกพยุงผิว หลังฉีดแทบไม่มีอาการบวมน้ำ หรือบวมเล็กน้อย สามารถใช้หน้าได้ทันที ซึ่งเป็นจุดเด่นของฟิลเลอร์ตัวนี้ครับ

ฟิลเลอร์ Neuramis

ฟิลเลอร์เกาหลี เนื้อฟิลเลอร์มีความแน่น นิยมนำมาใช้ปรับโครงสร้างใบหน้า โดยเฉพาะปัญหาริ้วรอย ร่องตื้นที่เกิดจากการยุบตัวของกระดูกตามวัย จุดเด่นอยู่ที่ราคามีความย่อมเยา

ฟิลเลอร์ Flore

ฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลี ผลิตด้วยเทคโนโลยี PP process (Particle Plastic Process) และ HCCL Technology เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากเกาหลี เนื้อฟิลเลอร์ปั้นทรงได้ง่าย คงอยู่ได้นาน 

ฟิลเลอร์ Flore มีรุ่นฟิลเลอร์งานผิวที่คล้ายกันกับ Restylane Vital Light คือ Flore Aqua S เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด โมเลกุลขนาดเล็ก ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ปรับสภาพผิวทั่วหน้า ลดริ้วรอยเล็ก ๆ ที่ผิวชั้นตื้น 

เปรียบเทียบหัตถการงานผิว ฉีดหน้าใส Skin Booster ปี 2024 ต่างกันอย่างไร ?

Restylane Vital light ผ่าน อย.ไหม ?

ฟิลเลอร์ Restylane มีทั้งหมด 8 รุ่น โดยทุกรุ่นผ่าน อย.ไทย ทั้งหมดแล้วครับ (เมษา 67)

  • Restylane Perlane lyft
  • Restylane Vital
  • Restylane Vital Light 
  • Restylane Volyme
  • Restylane Defyne
  • Restylane Refyne
  • Restylane Classic
  • Restylane Kysse
Restylane Vital light ผ่านอย.ไหม
ตัวอย่างการตรวจสอบฟิลเลอร์ Restylane ที่ผ่าน อย.ไทย

Restylane Vital light แต่ละตำแหน่งใช้กี่ CC ?

  • ใต้ตา เก็บรายละเอียดใต้ตาชั้นตื้น ใช้ประมาณ 1-2 CC
  • ปาก แก้ไขปัญหาปากแห้ง เพิ่มความชุ่มชื้น ใช้ประมาณ 1-2 CC
  • มือ เพิ่มความชุ่มชื้น แก้ไขปัญหามือเหี่ยวแห้ง ใช้ประมาณ 1-2 CC
  • ปรับสภาพผิวหน้า แก้ปัญหาผิวขาดน้ำ ให้ดูอิ่มฟู ใช้ประมาณ 1-2 CC

ทั้งนี้ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ ขึ้นอยู่ระดับปัญหา สภาพผิวของคนไข้ โดยหมอจะประเมินปริมาณที่เหมาะสมเป็นรายเคสไปอีกครั้งก่อนฉีดครับ


Restylane Vital light มีผลข้างเคียงหลังฉีดที่ควรรู้ไหม ?

Restylane Vital Light เป็นฟิลเลอร์ที่มีความเข้มข้นต่ำ และมีความบริสุทธิ์สูง ช่วยลดความไวต่อการระคายเคือง ใช้ได้ในคนที่ผิวบาง มีความปลอดภัยและไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายหากใช้ฟิลเลอร์แท้และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ครับ 

แต่หลังฉีด Restylane Vital Light อาจพบอาการข้างเคียงเหล่านี้ประมาณ 4-5 วัน ได้เป็นปกติ ได้แก่

  • รอยเขียวช้ำจากเข็ม
  • อาการบวมจากตัวยา

หมอแนะนำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำหลังฉีดฟิลเลอร์ เพื่อช่วยให้อาการบวมยุบได้ไว ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว และผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานครับ


Restylane Vital light อยู่ได้นานกี่เดือน ?

ฉีดฟิลเลอร์ Restylane Vital Light 1 ครั้ง ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีด สภาพผิวเดิมและระดับริ้วรอยร่องลึก รวมถึงการดูแลตัวเองหลังทำครับ

Restylane Vital light อยู่ได้นานกี่เดือน

ฉีด Restylane Vital light กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ Restylane Vital Light เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีครับว่าผิวดูชุ่มชื้นขึ้น ริ้วรอยลดลง และจะเห็นผลได้ชัดเจนเมื่อฟิลเลอร์เข้าที่ประมาณ 7-14 วันหลังทำ


Restylane Vital light มีข้อเสียไหม ?

  • เป็นฟิลเลอร์ HA สลายเองตามธรรมชาติ ผลลัพธ์ไม่สามารถอยู่ได้ถาวร
  • เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์มีความเข้มข้นของ HA ต่ำ อาจไม่เหมาะกับการเติมเต็มริ้วรอยที่ลึกมากหรือรอยย่นขนาดใหญ่

Restylane Vital Light มีระยะเวลาการคงอยู่ของผลลัพธ์ที่ไม่ถาวร และมีข้อจำกัดในการนำมาใช้ในบางบริเวณ เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์ความเข้มข้นต่ำ แต่ก็ยังคงเหมาะสำหรับคนที่มีผิวบอบบาง ต้องการแก้ไขริ้วรอยขนาดเล็กอย่างเรียบเนียนและดูเป็นธรรมชาติครับ


Restylane Vital light ของแท้ มีวิธีดูอย่างไร ?

Restylane Vital light ของแท้ มีวิธีดูอย่างไร

Restylane Vital Light ของแท้ ตรวจสอบได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้

  • มีรอยปรุสำหรับเปิดกล่อง
  • มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
  • มีสติกเกอร์ โมโนแกรม คำว่า “VOID”
  • เลข lot. ตรงกัน 2 จุดคือ เลข lot. ที่ข้างกล่อง และเลข lot. ที่หลอด
  • สแกน QR CODE ด้วยแอปพลิเคชัน Eztracker เพื่อตรวจสอบยาแท้
  • สามารถสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 023 1800 ต่อ 402

Restylane Vital light ราคา เท่าไหร่ ?

ที่ V Square Clinic โปรโมชั่น Filler Restylane Vital Light ราคา 9,900-16,900.-/CC ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดและเทคนิคพิเศษที่ใช้

โปรฟิลเลอร์-Restylane
  • Restylane Vital light 1 CC 12,000.- ปกติ 14,000.-
    เก็บรายละเอียดใต้ตาผิวชั้นตื้น
  • Restylane Vital light 1CC 14,900.-
    แก้ไขริมฝีปากแห้ง เพิ่มความชุ่มชื้น โดยไม่ต้องการเพิ่มความอวบอิ่ม
  • Restylane Vital Light 1 CC 14,900.-
    ฉีดเก็บรายละเอียด ลดรอยเหี่ยวย่นที่มือ
  • Restylane Vital light 1CC 12,000.- ปกติ 14,000.-
    Skin booster ปรับสภาพผิว เพิ่มความชุ่มชื้น

Restylane Vital light รีวิว ผลลัพธ์ที่ได้หลังฉีดเป็นอย่างไร ?

ตัวอย่างฉีดฟิลเลอร์ Restylane Vital Light รีวิวจากเคสจริงของ V Square Clinic

  • รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 2 CC ร่องแก้ม 1 CC แก้ปัญหาแก้ปัญหาถุงใต้ตา ร่องแก้มลึก ริ้วรอยบนใบหน้า
Restylane Vital light รีวิว

หมอจะใช้ฟิลเลอร์ทั้งหมด 3 รุ่น สำหรับการแก้ไขปัญหาดังกล่าวครับ 

  • Juvederm Voluma ฉีดบริเวณหน้าแก้ม (Midface) เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับการฉีดซัพพอร์ตใต้ตา ร่องแก้ม 
  • Restylane Vital light ใช้ 1 cc เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ช่วยเสริมจุดที่มีปัญหาเล็ก ๆน้อย ๆ ในผิวชั้นตื้น
  • Juvederm Volift เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เหมาะสำหรับฉีดมุมปาก/ร่องแก้ม
แก้ปัญหาใต้ตา ร่องแก้มลึก เพิ่มความสดใส ให้กลับไปหน้าเด็กอีกครั้ง
  • รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 3 CC  ร่องแก้ม 1 CC แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ร่องใต้ตาจากกระดูกทรุดตัว
รีวิว ฟิลเลอร์ Restylane Vital light

ปัญหาใต้ตาข้างต้น หมอแก้ไขด้วยการเติมฟิลเลอร์ 3 CC ดังนี้ครับ

เติมฟิลเลอร์เนื้อแน่นเข้าไปในผิวชั้นลึก ทดแทนกระดูกที่ทรุดตัวลง ช่วยยกใบหน้าขึ้นมาให้เต็มขึ้น และใช้ Restylane Vital light ที่มีโมเลกุลเล็ก บางเบา เก็บรายละเอียดตื้น ๆ บริเวณใต้ตา ช่วยให้ใต้ตาดูสว่างขึ้น และมีความเรียบเนียน

เติมฟิลเลอร์แล้วหน้าเด็กลงอย่างเห็นได้ชัด จนหลายคนทักไปทำอะไรมา!
  • รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 3 CC + คาง 1 CC แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำทำให้หน้าดูโทรม มีหน้าแก้มและขมับตอบ คางสั้น ไม่ได้สัดส่วน
รีวิว Restylane Vital light

ปัญหาใต้ตาดังกล่าว หมอจะแก้ไขทั้งใต้ตาชั้นลึกและใต้ตาชั้นตื้น โดยใช้ฟิลเลอร์ใต้ตา 2 รุ่นครับ คือ

  • เติมฟิลเลอร์ Restylane Vital Light ใต้ตา 1 CC เพื่อเก็บร่องใต้ตาในผิวชั้นตื้น หลังฉีดใต้ตาจะดูเรียบเนียน ร่องใต้ตาตื้นขึ้น
  • เติมฟิลเลอร์ Restylane Defyne 2 CC ซึ่งเป็นฟิลเลอร์เนื้อแน่น ฉีดในผิวชั้นลึก เพื่อเสริมฐานกระดูกที่ยุบตัวให้ดูตื้นขึ้น ใต้ตาดูเต็ม
รีวิวแก้ไขใต้ตาคล้ำ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อยู่ได้นานแค่ไหน ?
Vsquare tips

ข้อควรรู้ : การฉีดฟิลเลอร์ไม่จำเป็นต้องใช้รุ่นเดียวกัน ยี่ห้อเดียวกันเสมอไปครับ ขึ้นอยู่กับระดับปัญหา และตำแหน่งที่ฉีด โดยเฉพาะบริเวณใต้ตาที่ต้องใช้เทคนิคการฉีดผิวชั้นลึก ผิวชั้นตื้น ซึ่งต้องใช้เนื้อฟิลเลอร์ที่คุณสมบัติต่างกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ หลังฉีดไม่เป็นก้อน


สรุป

Restylane Vital light เป็นอีกหนึ่งฟิลเลอร์คุณภาพจากแบรนด์ Restylane นิยมนำมาใช้ฉีดเพื่อปรับสภาพผิว ให้ดูสุขภาพดี อิ่มฟู และแก้ปัญหาริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้า โดยเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ ให้ผลลัพธ์นานถึง 6-12 เดือน มีความปลอดภัย เหมาะกับคนที่มีผิวบอบบาง ไม่ทำให้เกิดเป็นก้อนหลังฉีดครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
ฟิลเลอร์ Teoxane

Teoxane filler จากสวิตเซอร์แลนด์ เหมาะกับการฉีดตำแหน่งไหน ? มีกี่รุ่น?

Categories
filler
ฟิลเลอร์ Teoxane

ฟิลเลอร์ Teoxane

อัปเดต ! ฟิลเลอร์ Teoxane ตัวใหม่ล่าสุดจากสวิส มีกี่รุ่น ? ฉีดตำแหน่งไหนบ้าง ?

ฟิลเลอร์ Teoxane เป็นฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์อีกหนึ่งแบรนด์ที่เพิ่งเข้ามาในไทยครับ จุดเด่นที่น่าจับตามองของฟิลเลอร์ตัวนี้ คือ ออกแบบและพัฒนาให้เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่น ปรับเข้ากับผิวหน้าได้ดี ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเป็นก้อนหลังฉีดได้

ในบทความนี้หมอได้รวมคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับฟิลเลอร์ Teoxane มาให้แล้วครับว่า มีกี่รุ่น ? นิยมฉีดจุดไหน ? เหมาะกับใคร ? แตกต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร ? หลังฉีดกี่วันเห็นผล ? Teoxane Filler ราคาเท่าไหร่ ? แพงไหม ? เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจสำหรับใครที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้

Teoxane filler จากสวิตเซอร์แลนด์

สารบัญ ฟิลเลอร์ Teoxane


ทำความรู้จักกับ ฟิลเลอร์ Teoxane คืออะไร ?

ฟิลเลอร์ Teoxane เป็นยี่ห้อฟิลเลอร์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีสารประกอบหลักคือ สารเติมเต็ม Hyaluronic acid (HA) ที่สามารถสลายได้ตามธรรมชาติ มีความปลอดภัยในการนำมาฉีดเข้าสู่ผิว เพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึก และปรับรูปหน้าให้มีมิติ ได้สัดส่วน

โดยฟิลเลอร์ Teoxane พัฒนาและผลิตโดยบริษัท Teoxane Laboratories ส่วนในไทยนำเข้าอย่างถูกต้องโดยบริษัทคอสม่า เมดิคอล จำกัด ในเครือ JBC ครับ

ฟิลเลอร์ TEOXANE คืออะไร ? 
ดีไหม ? มีกี่รุ่น ? แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Teoxane ดีอย่างไร ?

  • ฟิลเลอร์ Teoxane ผลิตด้วยเทคโนโลยี PNT (Preserved Network Technology) ทำให้ได้ HA ที่ใกล้เคียงกับ HA ตามธรรมชาติในร่างกาย กลืนกับผิวได้ดี ให้ความเรียบเนียน และใช้ BDDE น้อย ลดโอกาสแพ้หลังการฉีดฟิลเลอร์ มีความปลอดภัยมากขึ้น
Preserved Network Technology
Preserved Network Technology
ทำให้ได้ HA สายยาวที่มีความ Dynamic สูง เหมือน HA ตามธรรมชาติ
  • ด้วยนวัตกรรม RHA (Resilient Hyaluronic Acid) ทำให้ได้เนื้อฟิลเลอร์ที่มีการผสมผสานระหว่างความยืดหยุ่นและคงตัว (Strech & Strength) สามารถปรับเข้ากับการเคลื่อนไหวของใบหน้าได้อย่างรวดเร็ว ทนต่อแรงขยับได้ดี คงรูป ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
คุณสมบัติของฟิลเลอร์ Teoxane
คุณสมบัติเด่นของ ฟิลเลอร์ Teoxane
  • เป็นฟิลเลอร์ที่มีการวิจัยและพัฒนามาอย่างยาวนาน ผ่านการทดสอบทางคลินิกแล้วว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ใช้กันอย่างแพร่หลายกว่า 94 ประเทศทั่วโลก
  • Teoxane filler มีหลายรุ่นให้เลือกใช้ ครอบคลุมเกือบทุกปัญหาบนใบหน้า

ฟิลเลอร์ Teoxane เหมาะกับใคร ?

  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้า
  • ผู้ที่ต้องการปรับโครงสร้างใบหน้าให้ดูมีมิติมากขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการเพิ่มวอลลุ่มให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มแบบเป็นธรรมชาติ
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องการผ่าตัด
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์หลังฉีดที่ดูเป็นธรรมชาติ
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว เห็นการเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำ
  • ผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้น ต้องการใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันที

ฟิลเลอร์ Teoxane มีผลข้างเคียงไหม ?

หากฉีด Teoxane filler ของแท้ ปลอดภัยครับ ไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายอย่างที่กังวลกัน แต่โดยทั่วไปอาจพบผลข้างเคียงเหล่านี้

  • รอยเขียวช้ำจากเข็มฟิลเลอร์
  • อาการบวมจากเข็ม หรือจากตัวยา

ทั้งสองล้วนเป็นผลข้างเคียงที่พบได้ตามปกติหลังฉีดฟิลเลอร์ครับ สามารถหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์


ฟิลเลอร์ Teoxane มีกี่รุ่น ? ผ่าน อย.ไหม ?

ฟิลเลอร์ teoxane มีกี่รุ่น

Teoxane Filler ปัจจุบันผลิตออกมาทั้งหมด 9 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ 

  1. ฟิลเลอร์ Teoxane รุ่น Redensity 1
  2. ฟิลเลอร์ Teoxane รุ่น Redensity 2 
  3. ฟิลเลอร์ Teoxane รุ่น Kiss 
  4. ฟิลเลอร์ Teoxane รุ่น Ultra Deep
  5. ฟิลเลอร์ Teoxane รุ่น RHA 1
  6. ฟิลเลอร์ Teoxane รุ่น RHA 2 
  7. ฟิลเลอร์ Teoxane รุ่น RHA 3
  8. ฟิลเลอร์ Teoxane รุ่น RHA 4 
  9. ฟิลเลอร์ Teoxane รุ่น RHA Kiss 

โดย Filler Teoxane ผ่านอย.ไทย ทั้งหมด 8 รุ่น ยกเว้นรุ่น Teoxane RHA Kiss ครับ (อัปเดต พฤษภาคม 24)

Vsquare tips

ข้อควรรู้ : ทางองค์การอาหารและยาจะมีการตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐานอยู่ตลอดครับ ฟิลเลอร์ยี่ห้อเดียวกัน อาจจะยังไม่ได้ผ่านรุ่น หรือบางรุ่นเคยผ่านแล้ว ปัจจุบันอาจถูกยกเลิก แนะนำให้คอยเช็กฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย. ก่อนฉีดอยู่เสมอเพื่อความปลอดภัยครับ


ฟิลเลอร์ Teoxane ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Teoxane มีจุดเด่นที่ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นดังนี้

  • ใช้เทคโนโลยี PNT (Preserved Network Technology) ได้ HA สายยาวที่มีความ Dynamic สูง มี Mobile bonds ที่เหมือนใน HA ตามธรรมชาติ 
  • เนื้อเจลมีความยืดหยุ่น สามารถเคลื่อนไหวไปตามการขยับของใบหน้า
  • มีทั้งหมด 8 รุ่น ที่ผ่าน อย.ไทย
  • ให้ผลลัพธ์นาน 12-18 เดือน
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 12,900.-/CC

เทียบกับฟิลเลอร์ยอดนิยมที่ผ่าน อย.ไทย อื่น ๆ

ฟิลเลอร์ Teoxane ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร

เทียบกับฟิลเลอร์ Juvederm

  • ฟิลเลอร์จากประเทศอเมริกา
  • ผลิตด้วยเทคโนโลยี Hylacross และ Vycross 
  • เนื้อฟิลเลอร์มีความหลากหลาย มีจุดเด่นในด้านความเรียบเนียน และอยู่ได้นาน
  • มีทั้งหมด 7 รุ่น ที่ผ่าน อย.ไทย
  • ให้ผลลัพธ์นาน 8-24 เดือน
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 6,990.-/CC ปกติ 14,000.-
ฟิลเลอร์ Juvederm ดีไหม ? มีกี่รุ่น ? แต่ละรุ่นเหมาะฉีดจุดไหนบ้าง ?

เทียบกับฟิลเลอร์ Restylane 

  • ฟิลเลอร์แบรนด์แรกของโลกจากสวีเดน
  • ผลิตด้วยเทคโนโลยี NASHA Technology และ OBT Technology
  • เด่นเรื่องการยกพยุงผิว มีความยืดหยุ่นได้ดี และมีหลายรุ่นให้เลือกใช้ ครอบคลุมเกือบทุกจุดบนใบหน้า
  • มีทั้งหมด 8 รุ่น ที่ผ่าน อย.ไทย
  • ให้ผลลัพธ์นาน 6-18 เดือน
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 9,900.-/CC ปกติ 14,000.-
ฟิลเลอร์ Restylane ดีไหม ? มีกี่รุ่น ? แต่ละรุ่นแตกต่างกันอย่างไร ?

เทียบกับฟิลเลอร์ Belotero

  • ฟิลเลอร์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์
  • ผลิตด้วย CPM Technology (Cohesive Polydensified Matrix)
  • เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง คงตัว เติมเต็มริ้วรอยร่องลึกจากการยุบตัวของกระดูกได้ดี
  • มีทั้งหมด 7 รุ่น ที่ผ่าน อย.ไทย
  • ให้ผลลัพธ์นาน 6-18 เดือน
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 9,900.-/CC
ฟิลเลอร์ Belotero ดีไหม ? มีกี่รุ่น ? แต่ละรุ่นเหมาะฉีดจุดไหนบ้าง ?

เทียบกับฟิลเลอร์ Definisse

  • ฟิลเลอร์จากประเทศอิตาลี
  • ผลิตด้วย XTR Technology (EXcellent Three-Dimensional Reticulation)
  • HA สานกันเป็นร่างแห ช่วยในการยกพยุง เด่นในเรื่องการยกกระชับ และปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ
  • มีทั้งหมด 3 รุ่น ที่ผ่าน อย.ไทย
  • ให้ผลลัพธ์นาน 8-18 เดือน
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 12,000.-/CC
ฟิลเลอร์ Definisse ดีไหม ? แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร ?

เทียบกับฟิลเลอร์ Flore

  • ฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลี 
  • ผลิตด้วย PP process (Particle Plastic Process) และ HHCL Technology
  • เนื้อฟิลเลอร์ปั้นทรงง่าย กลืนเข้ากันได้ดีกับผิวหนัง สลายตัวช้าลง
  • มีทั้งหมด 5 รุ่น ที่ผ่าน อย.ไทย
  • ให้ผลลัพธ์นาน 6-12 เดือน
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 7,900.-/CC

เทียบกับฟิลเลอร์ Neuramis

  • ฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลี 
  • ผลิตด้วย The SHAPE Technology (Stabilized Hyaluronic Acid & Purification Enhancement)
  • เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่น คงตัวสูง อยู่ได้นานขึ้น เหมาะสำหรับปรับโครงสร้างใบหน้า
  • มีทั้งหมด 3 รุ่น ที่ผ่าน อย.ไทย
  • ให้ผลลัพธ์นาน 6-9 เดือน
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 7,500.-/CC

สรุปแล้ว ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อเป็นสารเติมเต็มประเภท HA เหมือนกันครับ แต่มีกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ไม่เหมือนกัน ทำให้มีจุดเด่นต่างกันไปทั้งในเรื่องคุณสมบัติ ระยะเวลาของผลลัพธ์ ราคาครับ 

โดยถ้าเทียบฟิลเลอร์ Teoxane กับฟิลเลอร์ฝั่งยุโรป จะไม่ได้ต่างกันมากในเรื่องราคาและเวลาการคงอยู่ของผลลัพธ์ แต่ Teoxane Filler อาจยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักเมื่อเทียบกับฟิลเลอร์ตัวอื่น ๆ เพราะเพิ่งนำเข้าไทยมาได้ไม่นานครับ 

และ Teoxane มีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าฟิลเลอร์ฝั่งเอเชียครับ แต่ก็ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า ใครที่ไม่อยากกลับมาเติมฟิลเลอร์บ่อย ๆ ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ Teoxane filler ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจครับ

ทั้งนี้การฉีดฟิลเลอร์ไม่จำเป็นต้องใช้ยี่ห้อเดียวกันเสมอไป สามารถฉีดร่วมกันได้หลายยี่ห้อ ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้ ไม่ได้ทำเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายหากใช้ฟิลเลอร์ของแท้ และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ มีเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง และใช้ในปริมาณที่เหมาะสม


ฟิลเลอร์ Teoxane นิยมฉีดจุดไหน ? ใช้กี่ CC ?

ฟิลเลอร์ teoxane นิยมฉีดจุดไหน คุณต่าย

ฟิลเลอร์ Teoxane สามารถฉีดได้หลายตำแหน่งทั่วใบหน้า ส่วนจำนวน CC ที่ใช้จะขึ้นอยู่กับระดับปัญหาของแต่ละคน โดยหมอจะประเมินเป็นรายเคสไปครับ

  • ฟิลเลอร์หน้าผาก ปรับโหงวเฮ้ง เรียบเนียน ดูมีมิติ ใช้ 3-5 CC
  • ฟิลเลอร์แก้มส้ม ปรับรูปหน้าให้ดูมีมิติ ใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น ใช้ 1-2 CC
  • ฟิลเลอร์ขมับ เติมขมับตอบ ขมับยุบ ลดโหนกแก้มเด่น ให้ใบหน้าหวาน ได้สัดส่วน ใช้ 2-4 CC
  • ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ลดริ้วรอยร่องลึก ให้ร่องแก้มดูตื้นขึ้น ใช้ 2-4 CC
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ปัญหาใต้ตาดำคล้ำ ริ้วรอยใต้ตา ถุงใต้ตา ใช้ 2-4 CC
  • ฟิลเลอร์ปาก เพิ่มความชุ่มชื้นอวบอิ่ม ปรับทรงปากสวย ใช้ 1-2 CC
  • ฟิลเลอร์คาง เสริมคาง ปรับหน้าเรียว ใช้ 1-2 CC

ส่วนฟิลเลอร์ Teoxane แต่ละรุ่น นิยมฉีดจุดไหนบ้าง หมอขอยกตัวอย่างฟิลเลอร์ Teoxane ที่ V Square Clinic ใช้ด้วยกัน 3 รุ่น ดังนี้

  • Teoxane รุ่น RHA 2 เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ยืดหยุ่น ทนต่อแรงขยับได้ดี มีความเรียบเนียน เหมาะฉีดตำแหน่ง หน้าผาก ขมับ ใต้ตา ร่องแก้ม ปาก อยู่ได้นาน 18 เดือน
Teoxane RHA 2
  • Teoxane รุ่น RHA 3 ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม แต่ค่อนข้างแน่น ทนต่อแรงขยับได้ดี เรียบเนียน ไม่เป็นก้อน เหมาะกับการฉีดบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวบ่อย ๆ เช่น ขมับ ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ปาก อยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน
Teoxane RHA 3
  • Teoxane รุ่น Ultra Deep ฟิลเลอร์เนื้อทน ปั้นทรงง่าย มีความคงตัวสูง เคลื่อนที่ยาก ใช้ปรับโครงสร้างใบหน้าได้ดี เหมาะกับการฉีดขมับ แก้มส้ม กรอบหน้า และคาง อยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน
Teoxane Ultra Deep

ฟิลเลอร์ Teoxane มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?

หมอได้เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของฟิลเลอร์ Teoxane ให้ทุกคนได้ลองพิจารณา ดังนี้ครับ

ข้อดีของฟิลเลอร์ Teoxane

ข้อเสียของฟิลเลอร์ Teoxane

ด้วยเทคโนโลยีที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ ทำให้ได้เนื้อฟิลเลอร์ที่เข้ากับใบหน้าได้ดี เรียบเนียน ลดโอกาสบวมหรือแพ้ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่ถาวร ฟิลเลอร์จะสลายไปตามอายุการใช้งาน
มีหลายรุ่นให้เลือกใช้ ครอบคลุมเกือบทุกปัญหาผิวหน้าหากไม่ได้ใช้ฟิลเลอร์ของแท้ เป็นฟิลเลอร์หิ้ว ฟิลเลอร์ปลอม หรือฉีดโดยแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ อาจทำให้เกิดอันตรายได้ครับ
เห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น
มีความปลอดภัยสูง ได้รับรองจาก US FDA, TH FDA และ CE Marked
ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ลดความเสี่ยงที่จะฉีดฟิลเลอร์เป็นก้อน

ฟิลเลอร์ Teoxane ของแท้ ดูอย่างไร ?

ไม่ว่าจะฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนก็ตาม การตรวจสอบฟิลเลอร์แท้เป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรละเลย เพื่อความปลอดภัยของตัวคนไข้เองครับ ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อก็จะมีวิธีตรวจสอบต่างกันไป โดยฟิลเลอร์ Teoxane ของแท้ มีวิธีตรวจสอบดังนี้ 

  • เช็กเลขทะเบียนอย. และเอกสารกำกับภาษาไทย
  • มีสติกเกอร์ของกล่องปิดสนิท
  • ขูดและสแกน QR CODE บริเวณด้านหน้ากล่อง
  • เลขที่ Lot ตรงกัน 3 จุด
    1. Label ด้านล่างกล่อง
    2. ด้านหลัง Syringe 
    3. ที่ Syringe

หรือสามารถโทรสอบถามกับบริษัทนำเข้าโดยตรงได้ที่บริษัทคอสม่า เมดิคอล จำกัด โทร. 02-146-5445

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Teoxane Ultra Deep 

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Teoxane Ultra Deep

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Teoxane RHA 2

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Teoxane RHA 2

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Teoxane RHA 3

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Teoxane RHA 3

ฟิลเลอร์ Teoxane ราคาเท่าไร ?

ฟิลเลอร์ Teoxane ราคาขึ้นอยู่กับรุ่นที่ใช้ ตำแหน่งที่ฉีด และระดับปัญหาของแต่ละคน หากมีปัญหาริ้วรอยร่องลึกมาก ก็ต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่ มากขึ้น ราคาก็จะสูงขึ้นตามจำนวน CC ที่ใช้ครับ

ฟิลเลอร์ Teoxane ราคาโปรโมชั่น ที่ V Square Clinic

โปร-ฟิลเลอร์Teoxane_16SEP2024_2

TEOXANE

  • TEOXANE Ultra Deep 1.2 CC ราคา 16,000.-
  • TEOXANE RHA 2 1 CC ราคา 12,900.-
  • TEOXANE RHA 3 1 CC ราคา 14,000.-

*ราคาฟิลเลอร์ปาก จมูก ดอลลี่อาย skin booster และหน้าผาก เป็นฟิลเลอร์เทคนิคขั้นสูง ราคาขึ้นกับเทคนิคพิเศษที่ใช้ครับ


ฟิลเลอร์ Teoxane รีวิว ผลลัพธ์หลังทำ

ตัวอย่าง รีวิวฉีดฟิลเลอร์ Teoxane ขมับ ใต้ตา และปาก

ฟิลเลอร์ teoxane รีวิว

ตัวอย่าง รีวิวฉีดฟิลเลอร์ Teoxane ปรับรูปหน้าในเคสผู้ชาย

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ teoxane

Q&A เพิ่มเติมเกี่ยวกับฟิลเลอร์ Teoxane

รวมคำถามที่ควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ Teoxane

Q. ฟิลเลอร์ Teoxane อยู่ได้นานกี่เดือน ?

ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ Teoxane สามารถอยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือนครับ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวเดิม รุ่นฟิลเลอร์ที่ใช้ ตำแหน่งที่ฉีด รวมไปถึงและการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของแต่ละคนครับ

Q. ฉีดฟิลเลอร์ Teoxane กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีดฟิลเลอร์สามารถเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ และจะเห็นผลได้อย่างเต็มที่เมื่ออาการบวมยุบลง และฟิลเลอร์เข้าที่ดีแล้ว โดยใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ครับ

Q. ฉีดฟิลเลอร์ Teoxane ที่ไหนดี ?

ฉีดฟิลเลอร์ Teoxane ที่ไหนดี ควรเป็นคลินิกความงามที่เปิดให้บริการถูกกฎหมาย ดูแลการรักษาโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์การฉีดฟิลเลอร์ และที่สำคัญต้องใช้ฟิลเลอร์ Teoxane ของแท้ที่นำเข้าอย่างถูกต้อง

สำหรับใครที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ Teoxane ที่ V Square Clinic ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ ประเมินปัญหาโดยทีมแพทย์มีประสบการณ์ปรับรูปหน้ามาอย่างยาวนาน สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด หมอมือเบา บวมน้อย และมีศิลปะในการฉีดฟิลเลอร์ (Fine Art of Filler) ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ

ที่ V Square Clinic ใช้ฟิลเลอร์ Teoxane ของแท้ นำเข้าอย่างถูกต้อง มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่น ครอบคลุมเกือบทุกปัญหาผิวครับ โดยหมอจะแกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า คนไข้สามารถตรวจสอบและนำกล่องกลับได้ เชื่อมั่นได้ในความปลอดภัย

ฉีดฟิลเลอร์ Teoxane ที่ V Square Clinic คุณเจสซี่ โดยหมอโต้ง หมอแพน หมอเบิร์ด

สรุป

ฟิลเลอร์ Teoxane เป็นฟิลเลอร์พรีเมียมมาตรฐานยุโรปที่เข้าสู่ตลาดความงามในไทยไม่นานมานี้ มีหลายรุ่นให้เลือกใช้ แก้ปัญหาผิวได้อย่างหลากหลาย เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นตามการเคลื่อนไหวของผิว เรียบเนียนไปกับผิวได้ดี ตอบโจทย์คนที่ชอบผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติครับ

แต่นอกจากเรื่องยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาและความต้องการแล้ว ยังควรเลือกฉีดฟิลเลอร์โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ภายใต้คลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ที่ออกมาถูกใจและปลอดภัยครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี370x277

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ไหนดี ? หมอไหนดี ? น่าเชื่อถือ เติมใต้ตาเต็มสวย

Categories
filler

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี 

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ไหนดี ? เติมใต้ตาที่ไหนดี ? หมอไหนดี ? คนไข้ที่กำลังมีปัญหาใต้ตา เช่น ร่องใต้ตาลึก ขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตา ริ้วรอยใต้ตา มองหาคลินิกฟิลเลอร์ใต้ตา เดินทางสะดวก ในกรุงเทพฯ มีที่ไหนบ้าง ? 

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัย สวยงามและดูเป็นธรรมชาติ ฉีดใต้ตาดำที่ไหนดี ? ฉีดใต้ตาคล้ำที่ไหนดี ? ต้องมั่นใจครับว่าเป็นคลินิกฉีด filler ใต้ตาที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ ในบทความนี้หมอมีข้อมูลที่ควรรู้ เลือกคลินิกเติมฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ? ที่ไหนสวย ? ก่อนตัดสินใจครับ 

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาหมอไหนดี

สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี 

  1. เลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ? ได้มาตรฐานและน่าเชื่อถือ 
  2. ราคาฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นอย่างไร ?

เลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ? ได้มาตรฐานและน่าเชื่อถือ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี? วิธีเลือกคลินิกให้ปลอดภัย พิจารณาอะไรบ้าง? l หมอ V Square แชร์หมดเปลือก

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ? ต้องมั่นใจว่าเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐานและมีความน่าเชื่อถือ เปิดให้บริการถูกต้องตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข ไม่ใช่คลินิกเถื่อน ลักลอบเปิดผิดกฎหมาย ก่อนตัดสินใจเติมฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ? ในเบื้องต้น สามารถสังเกตได้ ดังนี้ 

  • ด้านหน้าคลินิก มีป้ายชื่อสถานพยาบาล และเลขที่ใบอนุญาต จำนวน 11 หลัก
  • ด้านในคลินิก มีใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล และใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล ติดไว้ในที่เปิดเผยและเห็นได้ง่าย คลินิกสะอาด สว่าง ห้องทำหัตถการกว้างขวาง ไม่อับทึบ เครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งาน 

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ควรนำมาพิจารณาในลำดับถัดไป หมอจะอธิบายหัวข้อต่อไปครับ

มาตรฐานและความน่าเชื่อถือของคลินิก

คลินิกมีรางวัลการันตี เป็นหนึ่งในปัจจัยที่บอกได้ครับว่าคลินิกนั้นได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ ได้รับการยอมรับจากคนไข้ที่มาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง เพราะการจะได้รับรางวัลใดรางวัลหนึ่งมีเกณฑ์ในการพิจารณา มีการคัดเลือก การแข่งขัน มีผู้ให้รางวัลเป็นหน่วยงานหรือองค์กรที่น่าเชื่อถือ 

V Square Clinic ได้รับรางวัลการันตีระดับประเทศ โดยในปี 2018 ได้รับการคัดเลือกจากบริษัท Allergan ว่าเป็น 1 ใน 6 คลินิกจากประเทศไทยที่ได้รับรางวัลคลินิกปรับรูปหน้า ที่ยอดเยี่ยมที่สุด 20 คลินิกในเอเชีย  

รางวัลคลินิกมาตรฐาน

มีการบริการที่ดี

การบริการที่ดี เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการปรึกษา เพื่อให้คนไข้ได้เข้าถึงการบริการที่ง่าย สะดวกและรวดเร็วขึ้น คลินิกควรมีบริการปรึกษาออนไลน์ สามารถส่งรูปหน้าให้แพทย์ประเมินปัญหาก่อนได้ในเบื้องต้น โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ก่อนนัดหมายคิวหรือ Walk-in เข้าไปที่สาขา 

เมื่อมาถึงที่คลินิก ควรได้รับการบริการที่ดีจากทั้งเจ้าหน้าที่และแพทย์ มีความพิถีพิถันและใส่ใจทุกรายละเอียด เพราะปัญหาของคนไข้แต่ละคนต่างกัน ดังนั้นต้องประเมินปัญหาได้อย่างแม่นยำ วางแผนร่วมกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หมอกวาง

หมอมีความเชี่ยวชาญ

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นตำแหน่งที่ต้องใช้เทคนิคขั้นสูงในการฉีด เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย ไม่ใช่ฉีดที่ไหนก็ได้ ฉีดกับใครก็ได้ 

หมอจะต้องมีความเชี่ยวชาญ มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม จากแพทยสภา ชื่อ-นามสกุลแพทย์ รูปถ่าย และเลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมของแพทย์ที่แสดงไว้ในคลินิกต้องตรงกัน สามารถนำชื่อ-นามสกุลแพทย์ และเลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ของคลินิกไปตรวจสอบได้ครับบนเว็บไซต์แพทยสภา คลิกที่นี่

ทีมแพทย์ V Square Clinic สั่งสมประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ มีความรู้เรื่องโครงสร้างกายวิภาคบนใบหน้า ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้อย่างแม่นยำ แก้ปัญหาตรงจุด ใช้เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่เป็นเทคนิคพิเศษเฉพาะ มุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ 

นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาศักยภาพและเทคนิคอย่างต่อเนื่อง มีการเทรนนิ่ง อัปเดตความรู้เพิ่มเติมทั้งในและต่างประเทศเป็นประจำทุกปี และได้รับรางวัลมากมาย 

https://youtu.be/DStPlxveuwc
V Square Clinic รับรางวัล The Iconic Award 2022 TOP 5 CHAIN CLINIC  ในงาน FIRST IMPRESSIONS AWARD NIGHT 2022

ฟิลเลอร์ของแท้ที่เลือกใช้

ฟิลเลอร์ใต้ตาที่เลือกใช้ต้องเป็นฟิลเลอร์แท้ มีข้อสังเกตฟิลเลอร์แท้ ฟิลเลอร์ปลอม ดังนี้ 

ฟิลเลอร์แท้ 

  • เป็นฟิลเลอร์แบรนด์ระดับโลก ที่ผ่าน อย.
  • มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย 
  • เลข Lot ทุกจุดตรงกัน ที่กล่อง หลอด สติกเกอร์ ซอง  
  • ตรวจสอบกับบริษัทนำเข้าได้ทุกกล่อง 

ฟิลเลอร์ปลอม

  • เป็นซิลิโคนเหลว พาราฟิน ไม่ใช่ฟิลเลอร์แท้ 
  • นำเข้าผิดกฎหมาย ไม่ผ่าน อย.
  • ไม่มีการเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม 
  • ราคาถูก พบได้ตามคลินิกเถื่อน หมอกระเป๋า 
  • ฉลากไม่ชัดเจน มีร่องรอยการแกะกล่อง 
ฟิลเลอร์แท้ ฟิลเลอร์ปลอมดูอย่างไร ? อันตรายจากฟิลเลอร์ปลอม

มียี่ห้อที่เหมาะสมกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตา หมอจะเลือกใช้อยู่ 3 ยี่ห้อ คือ ฟิลเลอร์ Juvederm (อเมริกา) ฟิลเลอร์ Restylane (สวีเดน) ฟิลเลอร์ Belotero (สวิตเซอร์แลนด์) 

เพราะทั้ง 3 ยี่ห้อนี้มีคุณสมบัติเด่น คือ ฉีดแล้วคงรูป ไม่ฟูเยอะ ไม่เป็นก้อน มีลักษณะโมเลกุลที่เหมาะสมกับบริเวณใต้ตา เนื่องจากผิวหนังใต้ตาจะค่อนข้างบาง หากฟิลเลอร์มีความฟูมากเกินไป จะทำให้ใต้ตาดูบวม ยิ้มแล้วเป็นก้อน ดูไม่เป็นธรรมชาติ แบ่งออกเป็นรุ่นย่อย ๆ ดังนี้ 

  • Juvederm Voluma เนื้อแข็ง ฟูปานกลาง ยืดหยุ่นสูง อุ้มน้ำและให้ความเป็นธรรมชาติ
  • Juvederm Volite เนื้อละเอียด ใช้เติมใต้ตาชั้นตื้น เหมาะกับคนผิวบางแต่ไม่มากเกินไป
  • Juvederm Volux เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นและคงตัว สำหรับฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก
  • Restylane Defyne เนื้อเจลแข็งปานกลาง มีความยืดหยุ่นและอุ้มน้ำได้ดี
  • Restylane Vital Light เนื้อละเอียดมากที่สุด ใช้สำหรับเคสที่ผิวบาง ๆ
  • Restylane Vital เนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย เหมาะสำหรับเก็บรายละเอียด ให้ผลเรียบเนียน เป็นธรรมชาติ
  • Restylane Perlane lyft เนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง ไม่ฟู และสามารถคงรูปได้ดีที่สุด
  • Restylane Classic เนื้อแข็ง เก็บรายละเอียดใต้ตาในผิวชั้นลึก สำหรับคนผิวบาง
  • Belotero Volume เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นและคงตัว เหมาะฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก
  • Belotero Revive เนื้อละเอียด เหมาะฉีดใต้ตา/ปรับสภาพผิวหน้า/ปาก/ลำคอ/หลังมือ
ยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตา

มีการรีวิวฟิลเลอร์ใต้ตาที่ชัดเจน

เติมฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ? ควรดูรีวิวที่น่าเชื่อถือจากผู้ใช้บริการจริง ต้องเป็นรีวิวที่เป็นปัจจุบัน ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะเห็นการเปลี่ยนแปลงทันที การที่ได้ดูคลิปรีวิวจะทำให้เข้าใจขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา และเห็นความชำนาญของแพทย์ขณะทำหัตถการครับ

รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา(2)
รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา 4 CC
รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา(1)
รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา 3 CC
รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา
รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา 2 CC
รีวิวฉีดใต้ตาดําที่ไหนดี แก้ไขใต้ตาดำ เพิ่มความมั่นใจมากขึ้น
รีวิวฉีดใต้ตาที่ไหนดี ฟื้นฟูใต้ตาคล้ำ ให้ใบหน้าสดใส 

นัดหมายติดตามผลทุกครั้งหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แพทย์จะต้องมีการให้คำแนะนำในการดูแลตัวเอง วิธีปฏิบัติตัวก่อน-หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ซึ่งจะช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่เ่ร็วและคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน นอกจากนี้ควรมีการนัดติดตามผลหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แสดงถึงความใส่ใจ และมี Line@ ที่สามารถสอบถามข้อสงสัยกับแพทย์ได้โดยตรง 


ราคาฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นอย่างไร ? 

ราคาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ต้องสมเหตุสมผล ไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป ราคาแต่ละยี่ห้อจะมีความแตกต่างกันครับ ขึ้นอยู่กับชนิด คุณสมบัติและอายุการใช้งาน ที่คลินิกควรมีฟิลเลอร์หลายราคาให้คนไข้เลือกได้ตามงบประมาณ และให้แพทย์เลือกใช้แก้ปัญหาให้เหมาะสมกับปัญหาของคนไข้แต่ละคนครับ 

Landingpage_โปรฟิลเลอร์ใต้ตา_ใส่ราคา_PC
Landingpage_โปรฟิลเลอร์ใต้ตา_ใส่ราคา_MO

สรุป

เลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ? สามารถพิจารณาได้จากมาตรฐานและความน่าเชื่อถือของคลินิก การบริการที่ดี แพทย์มีความเชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่าน อย. มีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับการนำมาฉีดใต้ตาเพื่อแก้ปัญหาได้อย่างแม่นยำตรงจุด รวมถึงมีราคาที่สมเหตุสมผล คนไข้สามารถเลือกได้ตามงบประมาณครับ 

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ V Square Clinic

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ไหนดี 370x277

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ไหนดี ? แนะนำเทคนิคตรวจสอบคลินิกเสริมความงาม ที่ได้มาตรฐาน

Categories
filler
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ไหนดี 1000x860

ปัญหาร่องแก้มลึก ริ้วรอยร่องแก้ม จะทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย ดูเหนื่อย ไม่สดใส ร่องแก้มลึกส่วนใหญ่เกิดจากอายุที่มากขึ้น ทำให้กระดูกมีการทรุดตัวและเป็นร่องลึกลงไป การแก้ร่องแก้มลึกจึงต้องใช้สารเติมเต็มฉีดเสริมเข้าไปในส่วนที่ทรุดตัว ช่วยถมร่องแก้มให้ตื้นขึ้น หรือที่เรียกว่าฉีด Filler เติมร่องแก้มนั่นเองครับ

แต่การฉีดร่องแก้ม ใช่ว่าจะฉีดที่ไหนก็ได้ เพราะต้องอาศัยเทคนิคและประสบการณ์ของแพทย์ จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดี เนียนสวย ดูเป็นธรรมชาติ ปลอดภัย หากเลือกคลินิกไม่ดี หรือเจอหมอกระเป๋า ใช้ฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้ว จะทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมา เช่น ฟิลเลอร์เป็นก้อน ฟิลเลอร์ไหล หรือเกิดการอักเสบ ติดเชื้อ

ในบทความนี้หมอจะมาแนะนำวิธีเลือกคลินิก ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ไหนดี ที่ไหนสวย ได้มาตรฐาน เดินทางสะดวก ต้องพิจารณาจากปัจจัยอะไรบ้าง ?

สารบัญ 

  1. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ไหนดี คลินิกที่แนะนำ
  2. เลือกฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ไหนดี จึงได้มาตรฐานและความปลอดภัย
  3. ราคาฟิลเลอร์ร่องแก้มที่เหมาะสมเป็นอย่างไร ?

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ไหนดี คลินิกที่แนะนำ

ตามกฎกระทรวง ได้กำหนดให้บริการเสริมความงามอยู่ในกลุ่มของคลินิกเวชกรรมและคลินิกเวชกรรมเฉพาะทาง จะต้องมีมาตรฐานครบ 4 ด้านครับ 

  1. สถานที่ต้องสะอาด มีห้องตรวจหรือห้องให้การรักษาเป็นสัดส่วน มิดชิด ปลอดภัยต่อผู้รับบริการ เครื่องมือในห้องได้มาตรฐาน
  2. ผู้ที่ยื่นคำขออนุญาตดำเนินการสถานพยาบาล ต้องเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม (หมอ) สามารถดูแลสถานพยาบาลได้อย่างใกล้ชิด และไม่เป็นผู้ดำเนินการหรือผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลเอกชน หรือหน่วยงานรัฐที่มีเวลาปฏิบัติงานซ้ำซ้อนกัน 
  3. ชนิดและจำนวนเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นประจำสถานพยาบาลตามกฎหมายต้องได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) 
  4. ชื่อสถานพยาบาลต้องไม่ขัดแย้งกับกฎกระทรวงว่าด้วยชื่อ และไม่ฝ่าฝืนการโฆษณา ต้องไม่ใช้คำที่มีลักษณะชักชวน เป็นเท็จ หรือโอ้อวดเกินความจริงทางสื่อทำให้ประชาชนเข้าใจผิด
คุณสมบัติคลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ดี

ปัจจุบัน V Square Clinic เปิดให้บริการ 30 สาขา ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพและปริมณฑล ดังนี้

1. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาสยามสแควร์วัน  

คลินิกเสริมความงาม V Square สาขาสยามสแควร์วัน ตั้งอยู่ในศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน ชั้น 6 ติด BTS สยาม

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. – 20.30 น.

093 110 9000

คลิกดูแผนที่

@VsqSQR

วีสแควร์สาขาสยาม

2. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเกตเวย์ เอกมัย

คลินิกเสริมความงาม V Square สาขาเกตเวย์ เอกมัย เดินเข้าจากทางเชื่อม BTS เอกมัย ขึ้นบันไดเลื่อน 1 ชั้น คลินิกอยู่ติดกับร้านทำฟัน

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. – 20.30 น.

099 005 9000 

คลิกดูแผนที่

@VSqGTW

วีสแควร์สาขาเกตเวย์เอกมัย

3. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว

V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว ตั้งอยู่ใกล้ประตู 3 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว  ใกล้ The One Park ฝั่งที่เดินไป MRT พหลโยธิน

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. – 20.30 น.

091 905 7000 

คลิกดูแผนที่

@VsqCLP

วีสแควร์สาขาเซ็นทรัล-ลาดพร้าว

4. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเมเจอร์ รัชโยธิน

V Square Clinic สาขาเมเจอร์ รัชโยธิน  ตั้งอยู่ชั้น3 ภายในห้างสรรพสินค้าเมเจอร์ รัชโยธิน

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. – 20.30 น.

093 001 9000

คลิกดูแผนที่

@VsqRCT

วีสแควร์สาขาเมเจอร์รัชโยธิน

5. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต 

V Square Clinic สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต คลินิกอยู่ชั้น 1โซนโรบินสัน ติดกับร้านแว่น  และร้าน Samsonite

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. – 20.30 น.

093 030 9000 

คลิกดูแผนที่

@VsqRST

วีสแควร์สาขาฟิวเจอร์พาร์ค-รังสิต

6. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล บางนา 

V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล บางนา ตั้งอยู่ ชั้น 14 โซนออฟฟิศ อาคารเซ็นทรัลซิตี้ทาวเวอร์

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. – 20.30 น.

099 105 9000 

คลิกดูแผนที่

@VsqBNA

วีสแควร์สาขาเซ็นทรัล บางนา

7. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาซีคอน ศรีนครินทร์  

V Square Clinic สาขาซีคอน ศรีนครินทร์  ตั้งอยู่ชั้น 3 ภายในศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. – 20.30 น.

091 916 9000 

คลิกดูแผนที่

@VsqSCN

7_วีสแควร์สาขาซีคอน-ศรีนครินทร์2

8. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า 

คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ชั้น 3 หน้าบันไดเลื่อน ติด Vitamin Club

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. – 20.30 น.

099 006 7000

คลิกดูแผนที่

@VsqPNK

วีสแควร์สาขาเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า

9. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเดอะวอล์ค ราชพฤกษ์

V Square Clinic สาขาเดอะวอล์ค ราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ชั้น 2 ภายในศูนย์การค้าเดอะวอล์ค ราชพฤกษ์

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. – 20.30 น.

099 005 7000 

คลิกดูแผนที่

@VsqRCP

วีสแควร์สาขาเดอะวอล์ค ราชพฤกษ์

10. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล พระราม 2  

V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล พระราม 2 ตั้งอยู่ชั้น 2 ภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พระราม 2

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. – 20.30 น.

091 914 9000 

คลิกดูแผนที่

@VsqCTR

วีสแควร์สาขาเซ็นทรัล พระราม 2

11. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเดอะ พรอมานาด   

V Square Clinic สาขาเดอะ พรอมานาด ตั้งอยู่ชั้น 4 โซนความงาม คิดบันไดเลื่อน ภายในศูนย์การค้าเดอะ พรอมานาด

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. – 20.30 น.

091 905 8000 

คลิกดูแผนที่

@VsqPRM

วีสแควร์สาขาเดอะ พรอมานาด

12. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล อีสวิลล์ 

V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล อีสวิลล์ ตั้งอยู่ชั้น 3 ภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล อีสวิลล์

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. – 20.30 น.

093 012 9000 

คลิกดูแผนที่

@VsqESV

วีสแควร์สาขาเซ็นทรัล อีสวิลล์

13. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ  

V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ  ตั้งอยู่ชั้น 3 ภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. – 20.30 น.

093 007 9000 

คลิกดูแผนที่

@VsqCWT

วีสแควร์สาขาเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ

14. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ 

V Square Clinic สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ ตั้งอยู่ชั้น 2 ในห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. – 20.30 น.

091 903 9000 

คลิกดูแผนที่

@VsqBKP

วีสแควร์สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ

15. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาพาซิโอ กาญจนาภิเษก  

คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเดอะพาซิโอ พาร์ค ตั้งอยู่ชั้น 1 โซนร้านอาหาร ถัดจากร้านบาบีคิวพลาซ่า เยื้องกับร้าน yayoi

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. – 20.30 น.

084 242 4000

คลิกดูแผนที่

@VsqPSO

วีสแควร์สาขาพาซิโอ

16. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล พระราม 3 

คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล พระราม 3 ตั้งอยู่ชั้น 4 บริเวณโถงลิฟท์แก้ว ภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัล

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. – 20.30 น.

092 236 2000 

คลิกดูแผนที่

@VsqCRM

วีสแควร์สาขาเซ็นทรัล พระราม 3

17. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล เวสต์เกต 

คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล เวสต์เกต ตั้งอยู่ชั้น 2 คลินิกอยู่ติดกับ Makalin คลินิก

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. – 20.30 น.

092 245 2000

คลิกดูแผนที่

@VsqMba

วีสแควร์สาขาเวสต์เกต

18. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเดอะมอลล์ บางแค

คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเดอะมอลล์ บางแค คลินิกตั้งอยู่ชั้น 1 หน้าบันไดเลื่อน ใกล้กับน้ำตกกลางห้าง ติดกับร้าน Pen The Style Salon

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. – 20.30 น.

084 404 0400

คลิกดูแผนที่

@VsqCwg

วีสแควร์สาขาเดอะมอลล์ บางแค

19. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเอ็มควอเทียร์

คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเอ็มควอเทียร์ เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท35 ตรงเข้ามาประมาณ 20 เมตร คลินิกอยู่ซ้ายมือ

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. – 20.30 น.

081 712 5000

คลิกดูแผนที่

@VsqEmq

วีสแควร์สาขาเอ็มควอเทียร์

20. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเดอะมอลล์ ท่าพระ

คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขา 20 เดอะมอลล์ ท่าพระ ชั้น 3 ตรงข้าม BANANA IT

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. – 20.30 น.

080 453 4000

คลิกดูแผนที่

@VsqMTA

วีสแควร์สาขาเดอะมอลล์ ท่าพระ

21. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเทอร์มินอล พระราม 3

คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขา เทอร์มินอล พระราม 3 ตั้งอยู่ชั้น 3 มาทางโถงใหญ่หน้าห้าง เลี้ยวขวา เดินตรงผ่านบันไดเลื่อน 2 จุด

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. – 20.30 น.

092 998 9000

คลิกดูแผนที่

@VsqMTA

วีสแควร์สาขาเทอร์มินอล พระราม 3

22. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล รามอินทรา

V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล รามอินทรา ตั้งอยู่ชั้น 3 หน้าลิฟท์ โซนธนาคาร

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. – 20.30 น.

092 628 9000

คลิกดูแผนที่

@VsqCRA

วีสแควร์สาขารามอินทรา

23. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเทอร์มินอล อโศก

คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขา เทอร์มินอล อโศก ตั้งอยู่ชั้น 6 โซนโรงหนัง ติดกับร้าน Huawei และร้าน Take Care Salon of Beauty

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. – 20.30 น.

092 879 9000

คลิกดูแผนที่

@VsqTMA

วีสแควร์สาขาเทอร์มินอล-อโศก

24. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล ศาลายา

คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขา เซ็นทรัล ศาลายา ตั้งอยู่ชั้น 2 โซนพลาซ่า ใกล้กลับ คาเฟ่อเมซอน ตรงข้ามเยื้อง Supersports

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. – 20.30 น.

064 939 9000

คลิกดูแผนที่

@VsqCSA

V Square Clinic เซ็นทรัล ศาลายา

25. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล นครปฐม

คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขา เซ็นทรัล นครปฐม ตั้งอยู่ชั้น 2 โซนลานกิจกรรม ติดกับร้าน KT OPTIC และ LUX OPTIC

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. – 20.30 น.

092 826 9000

คลิกดูแผนที่

@VsqCnk

25_วีสแควร์สาขาเซ็นทรัลนครปฐม.jpg

26. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเมกาบางนา

คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเมกาบางนา คลินิกตั้งอยู่ ชั้น 1 ตรงข้ามธนาคารกรุงศรี

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. – 20.30 น.

065 156 1000

คลิกดูแผนที่

@VsqMga

26_วีสแควร์สาขาเมกา-บางนา

27. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล พระราม 9

คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาพระราม 9 คลินิกตั้งอยู่ ชั้น 1 อาคารภคินท์ ตรงข้ามกับ เซ็นทรัล พระราม 9

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. – 20.30 น.

098 964 9000

คลิกดูแผนที่

@VsqCpn

27_วีสแควร์สาขาพระราม9

28. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล มหาชัย

V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล มหาชัย คลินิกตั้งอยู่ ชั้น 2 ข้างร้าน princess nail หน้าบันไดเลื่อน เยื่องๆฝั่งตรงข้ามซุปเปอร์สปอร์ต

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. – 20.30 น.

098 969 4000

คลิกดูแผนที่

@VsqCmc

28_วีสแควร์สาขาเซ็นทรัล-มหาชัย_1

29. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล เวิลด์

V Square Clinic สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ คลินิกตั้งอยู่ ชั้น 5 โซน Wellness ฝั่งลิฟต์แก้ว ข้างๆ ร้าน Lego

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. – 20.30 น.

085 599 6000

คลิกดูแผนที่

@VsqCtw

สาขาเซ็นทรัลเวิร์ลด์

30. คลินิกเสริมความงาม V Square Clinic สาขาวัน แบงค็อก

V Square Clinic สาขาวัน แบงค็อก คลินิกตั้งอยู่ ชั้น 4 โซน พาเหรด ติดกับ ร้าน Bigcamera

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. – 20.30 น.

082 252 5000

คลิกดูแผนที่

@VsqOne

สาขาวัน-แบงค็อก

เลือกฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ไหนดี จึงได้มาตรฐานและความปลอดภัย

มาตรฐานและความน่าเชื่อถือของคลินิก

อันดับแรกต้องเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานครับ เปิดอย่างถูกกฎหมาย ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะมีการตรวจมาตรฐาน 3 ด้าน ดังนี้

  • ด้านอาคารสถานที่ ต้องอยู่ในทำเลที่ปลอดภัย อาคารมั่นคง แข็งแรง สะอาด มีภาชนะในการกำจัดขยะติดเชื้ออย่างเหมาะสม
  • ด้านบุคลากรและการบริการ แพทย์ประจำคลินิก มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ มีการแสดงภาพถ่าย ชื่อ เลขที่ใบอนุญาต และอัตราค่าบริการไว้ในที่เปิดเผย 
  • ด้านเครื่องมือและเวชภัณฑ์ มีเครื่องมือ อุปกรณ์ ยา ที่จำเป็น และมีปริมาณเพียงพอ ไม่เสื่อมสภาพหรือหมดอายุ
เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ได้มาตรฐาน

มีการบริการที่ดี

คลินิกควรมีบริการที่ดี สามารถแนะนำและตอบคำถามของผู้ใช้บริการได้อย่างตรงไปตรงมา มีราคาบอกชัดเจน ก่อนทำหัตถการมีการซักประวัติโรคประจำตัว แจ้งข้อจำกัดต่าง ๆ และหลังทำหัตถการก็ควรมีการติดตามผล รวมถึงแนะนำขั้นตอนการดูแลตัวเอง เพื่อเพิ่มความมั่นใจและความสบายใจให้คนไข้

นอกจากนี้คลินิกควรมีช่องทางการติดต่อที่สะดวก หากมีคำถาม ปัญหา หรือข้อสงสัย สามารถติดต่อได้อย่างรวดเร็ว เช่น เบอร์โทร ,Line@

เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่มีบริการที่ดี

หมอมีความเชี่ยวชาญ

ร่องแก้มเป็นจุดที่ต้องใช้เทคนิคและความชำนาญของแพทย์ ทั้งในการประเมินสาเหตุของปัญหา และการเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่เหมาะสมครับ ปัญหาที่พบจากการฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ 

เช่น ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อน เพราะหมอฉีดฟิลเลอร์เข้าไปตรงร่องแก้มโดยตรง ไม่ได้ฉีดในชั้นที่ลึกมากพอ หรือการเลือกเนื้อฟิลเลอร์ไม่เหมาะสม ไม่มีความคงตัวมากพอ ทำให้ถูกกล้ามเนื้อบริเวณร่องแก้มดึงมากองเป็นก้อน และต้องแก้ไขในภายหลัง เสียเงิน เสียเวลา และทำให้คนไข้เสียความมั่นใจด้วยครับ

นอกจากนี้ยังพบปัญหาที่เกิดจากการฉีดกับหมอกระเป๋า ใช้ฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้ว ที่ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่อันตราย เช่น การอักเสบ ติดเชื้อ ใช้ฟิลเลอร์ปลอมแล้วไหลย้อย เป็นก้อนแข็ง ต้องผ่าตัดหรือขูดออก  

ทีมแพทย์ V Square Clinic ประสบการณ์ 15 ปี หมอเอก
ทีมแพทย์ V Square Clinic ประสบการณ์ 15 ปี
สามารถแนะนำฟิลเลอร์ที่เหมาะสม ช่วยแก้ปัญหาอย่างตรงจุด

เพื่อความมั่นใจ คนไข้สามารถนำชื่อ-นามสกุล ไปตรวจสอบได้ในเว็บไซต์ของแพทยสภาครับ https://checkmd.tmc.or.th/ และที่คลินิกจะต้องมีการแสดงภาพถ่ายและเลขที่ใบอนุญาตผู้ประกอบวิชาชีพติดไว้หน้าห้องตรวจ

ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคน สั่งสมประสบการณ์และเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์กว่า 15 ปี โดยมุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ สามารถปรับรูปหน้าให้เคสที่หลากหลาย ใส่ใจทุกรายละเอียด ประเมินปัญหาและให้คำแนะนำเป็นรายบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับแต่ละเคสครับ 

รางวัลของ V Square Clinic
การันตีคุณภาพด้วยรางวัลระดับประเทศตลอดระยะเวลาที่เปิดคลินิก

เลือกใช้เฉพาะฟิลเลอร์แท้คุณภาพสูง

ฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ต้องเป็นฟิลเลอร์แท้ (Hyaluronic Acid) เท่านั้น เพราะเป็นฟิลเลอร์ชนิดเดียวที่ผ่านการรับรองจาก อย. ฉีดแล้วสลายหมดไม่มีสารตกค้าง มีความปลอดภัยครับ

เลือกใช้เฉพาะฟิลเลอร์แท้คุณภาพสูง

ที่ V Square Clinic ใช้ฟิลเลอร์แท้ มาตรฐานระดับโลก สามารถตรวจสอบกับบริษัทนำเข้าได้ทุกกล่อง มั่นใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ 100% จากประเทศอเมริกา สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลีและเกาหลี การขนส่งและเก็บรักษามีการควบคุมอุณหภูมิอย่างเหมาะสม ฟิลเลอร์ไม่เสื่อมคุณภาพ ก่อนฉีดหมอจะแกะกล่องใหม่ให้ดูต่อหน้าทุกครั้ง

ยี่ห้อฟิลเลอร์เหมาะสมกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

การเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ร่องแก้ม ควรเลือกใช้ฟิลเลอร์เนื้ออ่อน ทนต่อการขยับได้ดี เพราะร่องแก้มเป็นจุดที่ขยับบ่อย และต้องเลือกให้เหมาะกับปัญหาร่องแก้มของคนไข้แต่ละคนด้วยครับ สำหรับยี่ห้อฟิลเลอร์ร่องแก้มที่แนะนำ ได้แก่

  • Juvederm Ultra Plus อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Juvederm Voluma อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Juvederm Volift อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Juvederm Volux อยู่ได้นาน 18-24 เดือน
  • Restylane Volyme อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Belotero Intense อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Definisse Restore อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Definisse Touch อยู่ได้นาน 8-12 เดือน

มีการรีวิวฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ชัดเจน

คลินิกควรมีรีวิวฟิลเลอร์ร่องแก้มจากผู้ใช้บริการจริง ทั้งรูปภาพและวิดีโอ (ตกแต่งได้ยากกว่า) เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ก่อน-หลังทำ อย่างชัดเจน

รีวิวฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2 CC(1)
รีวิวฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2 CC
รีวิวฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2 CC
รีวิวฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2 CC
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2cc
รีวิวฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2 CC
รีวิวฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2 CC
รีวิวฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2 CC
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ไขปัญหาใต้ตาลึก ร่องแก้มลึก

ราคาฟิลเลอร์ร่องแก้มที่เหมาะสมเป็นอย่างไร ?

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ราคาจะแตกต่างกันอยู่ที่ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ และจำนวน CC ที่ใช้ครับ โดยปกติราคาในคลินิกที่ได้มาตรฐานจะไม่ได้แตกต่างกันมาก ถ้าเจอราคาถูกมาก ๆ จากท้องตลาด อาจเป็นฟิลเลอร์ปลอมหรือฟิลเลอร์หิ้วได้ครับ

โปรโมชั่น ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ V Square Clinic

Landingpage_โปรฟิลเลอร์ร่องแก้ม_ใส่ราคา_PC_16SEP24
Landingpage_โปรฟิลเลอร์ร่องแก้ม_ใส่ราคา_MO_16SEP24

สรุป

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ปลอดภัย ช่วยแก้ปัญหาร่องแก้มลึกได้อย่างเห็นผล ก่อนฉีดคนไข้ต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ให้ถี่ถ้วน เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้คลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์แท้ และหมอที่มีประสบการณ์ พร้อมจะดูแลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด อย่าเห็นแก่ราคาถูกเป็นอันดับแรก ถ้าพลาดไปเจอคลินิกเถื่อน หมอปลอม ฟิลเลอร์ปลอม นอกจากจะไม่ช่วยแก้ปัญหาได้อย่างเห็นผล ยังทำให้เกิดผลข้างเคียงที่อันตรายด้วยครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
ก่อนฉีดฟิลเลอร์

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ? มีข้อห้ามไหม ? แต่ละตำแหน่งเหมือนกันไหม ?

Categories
filler
ก่อนฉีดฟิลเลอร์

ก่อนฉีดฟิลเลอร์

การหาข้อมูลก่อนฉีดฟิลเลอร์ หมอมองว่าเป็นเรื่องสำคัญและไม่ควรมองข้าม เพราะส่งผลต่อความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่จะออกมาได้เลยครับ

บทความนี้หมอจึงได้รวมข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรเตรียมตัวอย่างไร ? มีข้อห้ามอะไรไหม ? แต่ละตำแหน่งเหมือนกันไหม ? สำหรับใครที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ แนะนำว่าไม่ควรพลาดครับ

ประเมินปัญหา ก่อนฉีดฟิลเลอร์ โดย หมอย้งยี้
ประเมินปัญหา วางแผนการรักษาโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ก่อนฉีดฟิลเลอร์

สารบัญ ก่อนฉีดฟิลเลอร์ เตรียมตัวอย่างไร


ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรหาความรู้อะไรบ้าง ?

การศึกษาข้อมูลก่อนทำหัตถการเป็นสิ่งสำคัญ ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรรู้อะไรบ้าง หมอได้รวบรวมมาให้คนไข้ตามหัวข้อเหล่านี้

ฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร ?

ฟิลเลอร์ คืออะไร

ฟิลเลอร์ที่นิยมใช้ในการปรับรูปหน้าในปัจจุบัน คือ สารเติมเต็ม Hyaluronic Acid (HA) ผลิตขึ้นมาเลียนแบบสารธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกายของเรา มีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่น สามารถสลายได้ตามธรรมชาติ

ส่วนใครที่กังวลว่าฟิลเลอร์อันตรายไหม ? สารเติมเต็ม HA ได้รับรองจาก อย. อเมริกา (U.S. FDA) ในการใช้ฉีดเข้าสู่ผิว สามารถเติมริ้วรอยร่องลึก ปรับโครงสร้างใบหน้าได้อย่างปลอดภัย ไม่มีอันตรายครับ

ฉีดฟิลเลอร์ ตำแหน่งไหนได้บ้าง ? ใช้กี่ CC ?

ฉีดฟิลเลอร์ ตำแหน่งไหนได้บ้าง โดย คุณต่าย
ตำแหน่งช่วยแก้ปัญหาเรื่องจำนวน CC ที่ใช้
ฟิลเลอร์หน้าผากเติมเต็มหน้าผากให้เรียบเนียน ปรับโหงวเฮ้ง3-5 CC
ฟิลเลอร์ใต้ตาลดเลือนร่องลึกและรอยคล้ำใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูสดใสและไม่เหนื่อยล้า2-4 CC
ฟิลเลอร์ขมับเติมเต็มขมับตอบ ขมับลึก ทำให้ใบหน้าดูเต็มและสมดุลมากขึ้น ลดโหนกแก้มเด่น2-4 CC
ฟิลเลอร์ร่องแก้มช่วยลดเลือนริ้วรอยร่องแก้มลึกให้ดูเรียบเนียน ใบหน้าดูอ่อนเยาว์2-4 CC
ฟิลเลอร์ปากช่วยเพิ่มความอวบอิ่มและปรับรูปทรงริมฝีปากให้ดูสวยงามเป็นธรรมชาติ1-2 CC
ฟิลเลอร์แก้มส้มช่วยให้ใบหน้าดูสดใส อิ่มเอิบ มีชีวิตชีวา1-2 CC
ฟิลเลอร์คางปรับรูปทรงคางให้เรียวยาวขึ้น แก้ปัญหาคางสั้น คางตัด ทำให้ใบหน้าดูสมดุลและมีมิติ1-2 CC

ทั้งนี้ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ในแต่ละตำแหน่ง หมอจะประเมินตามระดับปัญหา และความต้องการเป็นรายเคสไปครับ

ฉีดฟิลเลอร์ เหมาะ-ไม่เหมาะกับใคร ?

ฟิลเลอร์เหมาะกับความต้องการของเราหรือไม่ และใครบ้างที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ หมอสรุปให้ดังนี้

ใครที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์เหมาะกับใคร โดย หมอแพร
  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้า ต้องการเติมเต็มให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้น
  • ผู้ที่มีใบหน้าไม่ได้สัดส่วน ต้องการปรับรูปหน้า ให้ดูสมดุลและดูมีมิติมากขึ้น
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง ผิวขาดน้ำต้องการเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการการเห็นการเปลี่ยนแปลงของผลลัพธ์หลังทำทันที
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า แต่ไม่ต้องการผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น

ใครที่ไม่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์

ใครที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรเช็กก่อนครับว่าอยู่ในกลุ่มที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์หรือควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเสี่ยงก่อน

  • ผู้ที่มีประวัติแพ้สาร Hyaluronic acid (HA)
  • ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชา
  • ผู้ที่มีภาวะเลือดไหลไม่หยุด
  • ผู้ที่ตั้งครรภ์และการให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์ก่อน เนื่องจากไม่มีการวิจัยที่เพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยในกลุ่มนี้
  • ผู้ที่โรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือโรคทางระบบภูมิคุ้มกัน

ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? หมอมีแนะนำ

คลิปนี้หมอพามาทำความรู้จักกับประเภทของฟิลเลอร์และวิธีการเลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี

ปัจจุบันมีฟิลเลอร์ออกมาหลายยี่ห้อจากหลายประเทศ โดยแต่ละรุ่นมีจุดเด่นที่ต่างกัน สามารถนำมาแก้ปัญหาบนใบหน้าได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น แต่ก็ต้องระวังฟิลเลอร์ของปลอมที่นำเข้าอย่างผิดกฎหมาย มีการเก็บรักษาที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ฟิลเลอร์เสื่อมคุณภาพ

ในบทความนี้ หมอแนะนำเป็นยี่ห้อฟิลเลอร์สาร Hyaluronic acid ผ่าน อย. ได้มาตรฐาน ทั้งยี่ห้อที่ได้รับความนิยม และยี่ห้อใหม่ ๆ ที่เพิ่งเข้ามาในไทย

  • ฟิลเลอร์ Restylane : ฟิลเลอร์จากสวีเดน โดดเด่นด้วย 2 เทคโนโลยีการผลิต NASHA และ OBT ทำให้มีความปลอดภัยสูงและมีความหนาแน่นที่หลากหลาย เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องลึกและเสริมโครงหน้า ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและยาวนาน มีหลายรุ่นให้เลือกใช้ครอบคลุมเกือบทุกจุดบนใบหน้า
  • ฟิลเลอร์ Juvederm : ฟิลเลอร์จากอเมริกา ใช้ 2 เทคโนโลยีในการผลิตคือ Hylacross และ Vycross ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความเนียนของเนื้อฟิลเลอร์ เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องลึกและเพิ่มปริมาตร
  • ฟิลเลอร์ Belotero : ฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ ใช้เทคโนโลยีการผลิต Cohesive Polydensified Matrix (CPM) ทำให้มีเนื้อเนียนละเอียด เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องตื้น ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและเรียบเนียน
  • ฟิลเลอร์ Definisse : ฟิลเลอร์จากอิตาลี ใช้เทคโนโลยี XTR™ Technology ทำให้มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการเสริมโครงหน้าและยกกระชับผิว หลังทำบวมน้อยหรือแทบไม่บวมเลย เห็นผลเร็ว และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
  • ฟิลเลอร์ Teoxane : ฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ ใช้เทคโนโลยีการผลิต Resilient Hyaluronic Acid (RHA) ทำให้เนื้อเจลมีความยืดหยุ่นและทนทานสูง เหมาะสำหรับการเติมเต็มและยกกระชับ ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและยาวนาน
  • ฟิลเลอร์ Flore : ฟิลเลอร์จากเกาหลี ใช้ 2 เทคโนโลยีในการผลิต คือ HCCL และ PP-Process ทำให้เนื้อเนียนละเอียดและมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องลึกและร่องตื้น ปรับโครงสร้างใบหน้า เช่น ขมับ คาง กรอบหน้า

วิธีเช็กฟิลเลอร์ของแท้ ไม่เสี่ยงเจอของปลอม

แนะนำ วิธีดูฟิลเลอร์แท้ ฟิลเลอร์ปลอมดูอย่างไร ?

เพื่อความปลอดภัย การเช็กฟิลเลอร์ของแท้ เป็นสิ่งที่ควรศึกษาไว้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ครับ โดยควรให้แพทย์แกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า และขอเช็กฟิลเลอร์ที่ฉีดว่าใช้ของแท้ได้ 3 จุดสังเกตดังนี้

  1. มีเลขทะเบียนที่กล่อง อย.
  2. มีเอกสารกำกับภาษาไทย
  3. เลข Lot. ที่กล่อง สติ๊กเกอร์ หลอด ต้องตรงกัน

อีกทั้งปัจจุบันฟิลเลอร์ยี่ห้อมีวิธีตรวจสอบที่ง่ายขึ้นแล้วครับ โดยสามารถสแกน QR Code ตรวจสอบผ่านทางแอปพลิเคชัน หรือโทรสอบถามเลข Lot. หรือชื่อคลินิกที่ใช้ฟิลเลอร์แท้กับบริษัทนำเข้าได้โดยตรง

ตัวอย่างวิธีเช็กฟิลเลอร์ของแท้แต่ละยี่ห้อ

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Defyne
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Defyne
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Juvederm Voluma
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Juvederm Voluma
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Definisse Restore
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Definisse Restore
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Belotero Intense
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Belotero Intense

ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเห็นผล ? ผลลัพธ์อยู่ได้นานกี่เดือน ?

ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเห็นผล

หลังฉีดฟิลเลอร์เห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำครับ และจะเห็นผลได้ชัดเจนเมื่ออาการบวมช้ำหายและฟิลเลอร์เข้าที่เรียบร้อยแล้ว

ส่วนผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานประมาณ 6-24 เดือนขึ้นอยู่กับรุ่น/ยี่ห้อฟิลเลอร์ ตำแหน่งที่ฉีด และการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ของแต่ละบุคคลครับ

5 วิธียืดอายุฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นาน

วิธียืดอายุฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นาน

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังฉีดฟิลเลอร์

หลังฉีดฟิลเลอร์อาจพบผลข้างเคียงเหล่านี้ได้เป็นปกติครับ สามารถหายได้เอง ไม่ได้เป็นอันตรายครับ

  • อาการบวม รอยเขียวช้ำจากเข็ม สามารถหายได้เอง 1 สัปดาห์
  • อาการบวมจากตัวฟิลเลอร์ ค่อย ๆ เข้าที่ใน 2 สัปดาห์

แต่ถ้าเกิดเป็นก้อนบวมมากขึ้นเรื่อย ๆ ผิวบริเวณที่ฉีดมีสีแดงหรือคล้ำผิดปกติ รู้สึกร้อน ๆ ผิว เป็นอาการบวมที่เกิดจากฟิลเลอร์อักเสบ หรือติดเชื้อ มีสาเหตุจากการคลินิกไม่ได้มาตรฐาน ความสะอาด ทำให้เกิดการติดเชื้อระหว่างทำ โดยถ้าพบอาการนี้ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาครับ


ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรเตรียมตัวอย่างไร ?

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรรู้อะไรบ้าง ? เตรียมตัวอย่างไรให้ปลอดภัย ?

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ หมอของแบ่งเป็น 2 ขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้ครับ

  1. ขั้นตอนแรกคือ การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์มีกี่ประเภท วิธีเช็กฟิลเลอร์แท้ วิธีปฏิบัติก่อนหลังฉีดฟิลเลอร์ และข้อควรพิจารณาเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญ เพราะสามารถส่งผลต่อผลลัพธ์ที่จะได้ และความปลอดภัยครับ

สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี หมอมีวิธีเช็กคลินิกที่ได้มาตรฐานดังนี้ครับ

  • คลินิกที่มีใบอนุญาต 11 หลัก ได้รับรองจากกระทรวงสาธารณสุข เดินทางสะดวก
  • มีแพทย์ Full Time ประจำคลินิก ต้องเป็นแพทย์จริงมีประกอบวิชาชีพ สามารถเช็กชื่อ-นามสกุลของแพทย์ได้ที่ https://checkmd.tmc.or.th/
  • แพทย์มีประสบการณ์ฉีดฟิลเลอร์ รู้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง
  • มีรีวิวที่น่าเชื่อถือจากผู้ใช้บริการจริง รูปถ่าย วิดีโอ และควรดูรีวิวจากแหล่งที่เป็นกลาง คลินิกไม่สามารถหลบได้
  • มีนัดติดตามผลหลังฉีดทุกเคส
คลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน โดย หมอกันต์
  1. ขั้นตอนที่สองคือ การเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อม หลังเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานเรียบร้อยแล้ว
    • หากมีคอร์สนวดหน้าหรือนัดทำเลเซอร์ ควรทำมาก่อนอย่างน้อย 3 วัน
    • หากมีโรคประจำตัว หรือยาที่รับประทานอยู่เป็นประจำ ควรเตรียมข้อมูลไว้เพื่อแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทำหัตถการ
    • ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการฉีดฟิลเลอร์

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ มีข้อห้ามอะไรไหม ?

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรงดกิจวัตรประจำวันเหล่านี้ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง ครับ

  • งดการใช้ยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว เช่น Retin A, Retinols, Retinoids, หรือครีมในกลุ่ม Anti aging เป็นเวลา 3 วัน
  • งดการแว็กซ์ผิว ผลัดเซลล์ผิว การดึงหรือการโกนขนบริเวณนั้น ๆ เป็นเวลา 3 วัน ก่อน
  • งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น เข้าซาวน่า ออกกำลังกายชนิด Cardio เป็นเวลา 24 ชั่วโมง

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรไหม ?

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ไม่ได้ห้ามกินอาหารอะไรเป็นพิเศษครับ มีเพียงให้งดรับประทานอาหาร ยา หรือวิตามินบางชนิดที่อาจส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด หรือส่งผลอาการบวมหลังฉีดให้หายช้าลง

  • งดการรับประทานยากลุ่ม (NSAIDs) เช่น ยาแอสไพริน ไอบูโพรเฟน พอนสแตน
  • งดอาหารเสริมและวิตามินบางชนิด เช่น วิตามิน St. John’s Wort, ginkgo biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E
  • เลี่ยงอาหารที่มีโซเดียมสูง อาหารรสจัดและเผ็ด อาจทำให้ร่างกายบวมน้ำและเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดอาการบวมหลังฉีด
  • งดการดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูง ทำให้เส้นเลือดขยายตัวและเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดฟกช้ำ
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไร

ก่อนฉีดฟิลเลอร์แต่ละตำแหน่ง มีข้อห้ามหรือการเตรียมตัวต่างกันไหม ?

วิธีเตรียมตัวหรือข้อห้ามก่อนฉีดฟิลเลอร์แต่ละตำแหน่งไม่ได้ต่างกันครับ ไม่ว่าจะเป็นก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ใต้ตา หรือในตำแหน่งอื่น ๆ ไม่เหมือนกับหลังฉีดที่จะมีข้อควรระวังในแต่ละจุดต่างกันไป

ใครที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ไม่ว่าจะตำแหน่งไหน ก่อนฉีดสามารถปฏิบัติตามข้อแนะนำ และข้อห้ามที่หมอกล่าวมาได้เลยครับ


สรุป

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ มีอยู่ 2 ขั้นตอนหลัก ๆ ที่ควรทำครับ คือ ศึกษาข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับหัตถการ และการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนมาฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้ฟิลเลอร์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และป้องกันการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์

โดยก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ ประเมินปัญหา วางแผนการรักษา เลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละบุคคล จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีความปลอดภัยครับ

สำหรับใครที่สนใจ สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาหมอก่อนฉีดฟิลเลอร์ได้ที่ V Square Clinic ทุกสาขา หรือส่งรูปใบหน้ามาให้หมอประเมินเบื้องต้นผ่านช่องทางออนไลน์ก่อนได้ครับ หมอตอบเอง ไม่มีค่าใช้จ่าย


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
ขูดฟิลเลอร์

ขูดฟิลเลอร์ เจ็บไหม ? อันตรายหรือไม่ ? กี่วันเห็นผล ?

Categories
filler
ขูดฟิลเลอร์

ขูดฟิลเลอร์

การขูดฟิลเลอร์ คือ กระบวนการที่หมอไม่อยากให้เกิดขึ้นครับ ถามว่าเพราะอะไร ?

คำตอบคือ หากต้องขูดฟิลเลอร์ออก นั่นหมายความว่า ฟิลเลอร์ที่คนไข้ฉีดมานั้นเป็นฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่สลาย เมื่อฉีดไปแล้วทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อน เกิดพังผืด ฟิลเลอร์ไหล ซึ่งหมอไม่อยากเกิดขึ้นกับคนไข้ทุกคนครับ

แต่ถ้าเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องแก้ไขด้วยการขูดฟิลเลอร์ออก คนไข้หลายคนจึงกังวลว่าขูดฟิลเลอร์ เจ็บไหม ? มีขั้นตอนอย่างไร ? ขูดฟิลเลอร์อันตรายไหม ? ขูดฟิลเลอร์กี่วันเห็นผล ? ขูดฟิลเลอร์ราคาเท่าไหร่ ? ขูดฟิลเลอร์ ต่างจาก ฉีดสลายฟิลเลอร์อย่างไร ? ในบทความนี้หมอจะมาให้คำตอบทุกข้อสงสัยครับ

สารบัญ ขูดฟิลเลอร์


ขูดฟิลเลอร์ คืออะไร ?

การขูดฟิลเลอร์ คือ การนำฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าสู่ผิวหนังออกโดยใช้เทคนิคพิเศษ และเครื่องมือทางการแพทย์ มักจะทำเมื่อเกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ฟิลเลอร์ไหล ฟิลเลอร์เน่า ซึ่งส่วนใหญ่จะพบได้บ่อยในคนที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอมไม่ผ่าน อย. มาครับ

แล้วทำไมต้องขูดฟิลเลอร์ออก ?

เหตุผลที่ต้องขูดฟิลเลอร์ออก เพราะฟิลเลอร์ปลอมจำพวกซิลิโคนเหลวจะไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ หลังฉีดแรก ๆ จะเห็นผลดี เป็นทรงสวยครับ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเนื้อเยื่อร่างกายจะมาเกาะรวมกับฟิลเลอร์ ทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อน หากไม่ขูดออก ฟิลเลอร์จะเกาะเป็นพังผืด ต้องทำการผ่าตัดออกแทน

Vsquare tips

ข้อควรรู้ : การขูดฟิลเลอร์ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ และต้องทำในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานเท่านั้น เพื่อให้มั่นใจว่าการขูดฟิลเลอร์จะไม่ทำให้เกิดอันตรายเพิ่มเติมหรือทำลายเนื้อเยื่อรอบ ๆ บริเวณที่ทำการขูดฟิลเลอร์ออก


ขูดฟิลเลอร์ ใช้ในการแก้ปัญหาใด ?

ขูดฟิลเลอร์ ใช้ในการแก้ปัญหาใด
  • แก้ปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อน ผิวไม่เรียบเนียน
  • แก้ปัญหาฉีดฟิลเลอร์แล้วเกิดการอักเสบ ติดเชื้อ
  • แก้ปัญหาฟิลเลอร์ไหลไปยังบริเวณอื่น
  • แก้ปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์ไปหลายปี แล้วฟิลเลอร์ไม่สลาย ทำให้แข็งเป็นก้อน เป็นไต

ขูดฟิลเลอร์ เหมาะกับใคร ?

  • คนที่ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนหรือแข็งตัว
  • คนที่ฟิลเลอร์ไหลไปยังบริเวณอื่น ทำให้เกิดการผิดรูปของใบหน้า
  • คนที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ผ่าน อย.

ขูดฟิลเลอร์ ต่างจาก ฉีดสลายฟิลเลอร์อย่างไร ?

การขูดฟิลเลอร์ และการฉีดสลายฟิลเลอร์ เป็นสองวิธีที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ แต่มีวิธีการ และความเหมาะสมในการใช้ที่แตกต่างกัน ดังนี้

การขูดฟิลเลอร์

  • วิธีการ : ใช้เครื่องมือทางการแพทย์เฉพาะทางเพื่อทำการขูด และนำฟิลเลอร์ออก
  • เหมาะสำหรับ : ฟิลเลอร์ที่เป็นก้อนหรือแข็งตัว ซึ่งเป็นฟิลเลอร์ปลอมซิลิโคนเหลวที่ไม่สามารถสลายได้เอง
  • การทำงาน : หมอจะใช้เครื่องมือทางการแพทย์ในการขูดฟิลเลอร์ออก โดยจะทำอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อรอบ ๆ ฟิลเลอร์
  • ผลลัพธ์ : สามารถขูดฟิลเลอร์ออกได้แค่ 60-70% เท่านั้น ไม่สามารถเอาออกได้ทั้งหมดครับ ในเคสที่ปล่อยไว้นานจนเป็นพังผืด กระทบกับเนื้อเยื่ออื่น ๆ จำเป็นต้องผ่าตัดออก

การฉีดสลายฟิลเลอร์

ทำความรู้จัก ฉีดสลายฟิลเลอร์ คืออะไร ? ฉบับเข้าใจง่ายใน 5 นาที
  • วิธีการ : ฉีดสารเอนไซม์ hyaluronidase ซึ่งเป็นสารที่สามารถสลายกรดไฮยาลูโรนิกในฟิลเลอร์ได้ตามธรรมชาติ
  • เหมาะสำหรับ : กรณีที่ฟิลเลอร์กระจายตัวไม่สม่ำเสมอ ฟิลเลอร์เป็นก้อน หรือฉีดฟิลเลอร์แล้วไม่พอใจในผลลัพธ์
  • การทำงาน : หมอจะฉีดสาร hyaluronidase เข้าไปในบริเวณที่ต้องการสลายฟิลเลอร์ สารนี้จะทำให้ฟิลเลอร์สลายไปเองภายในระยะเวลาที่กำหนด
  • ผลลัพธ์ : หลังฉีดสลายจะเห็นผลทันทีในบางส่วน และจะเห็นผลต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ใช้เวลา 1-3 วัน

การเลือกวิธีการที่เหมาะสม ควรปรึกษาหมอเพื่อประเมินปัญหา และเลือกวิธีการที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคนไข้แต่ละคนครับ


ขูดฟิลเลอร์ มีขั้นตอนการทำอย่างไร ?

ขั้นตอนขูดฟิลเลอร์

การขูดฟิลเลอร์เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญ และความระมัดระวัง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และปลอดภัย หมอจะอธิบายขั้นตอนการทำดังนี้ครับ

ขั้นตอนการปรึกษาแพทย์

ก่อนที่จะทำการขูดฟิลเลอร์ คนไข้ต้องเข้ามาปรึกษากับแพทย์เพื่อประเมินปัญหา และวางแผนการรักษา โดยมีขั้นตอนดังนี้

  • แพทย์จะทำการวิเคราะห์สภาพผิว เช่น ประวัติการฉีดฟิลเลอร์ที่ผ่านมาของคนไข้ ตำแหน่งและปริมาณของฟิลเลอร์ที่ฉีด สภาพผิวและโครงสร้างใบหน้าในปัจจุบัน
  • แพทย์จะแนะนำวิธีการขูดฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล อธิบายถึงขั้นตอน ความเสี่ยง และการเตรียมตัวก่อน และหลังการขูดฟิลเลอร์

ขั้นตอนการขูดฟิลเลอร์

  • ทำความสะอาดบริเวณที่จะทำการขูดฟิลเลอร์อย่างละเอียด
  • แปะยาชาเฉพาะที่เพื่อลดความเจ็บปวดในระหว่างการขูดฟิลเลอร์
  • แพทย์จะใช้เครื่องมือเฉพาะทาง เช่น เข็มปลายทู่หรือคานูลา เพื่อขูด และนำฟิลเลอร์ออกจากบริเวณที่ต้องการ
  • ในบางกรณี แพทย์อาจใช้เทคนิคการขูดฟิลเลอร์ร่วมกับการนวด เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์หลุดออกมาได้ง่ายขึ้น

สำหรับเวลาในการขูดฟิลเลอร์จะใช้เวลาแตกต่างกันไปตามแต่ละกรณี ขึ้นอยู่กับปริมาณฟิลเลอร์ที่เคยฉีดมา ตำแหน่งที่ขูดฟิลเลอร์ และความซับซ้อนของปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น ฟิลเลอร์ที่เป็นก้อนหรือแข็งตัวมากอาจใช้เวลานานกว่าการขูดฟิลเลอร์ที่ยังนิ่ม แต่ส่วนใหญ่ใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที แต่กรณีที่ซับซ้อนอาจใช้เวลานานขึ้นถึง 1-2 ชั่วโมงครับ


ก่อนขูดฟิลเลอร์ ต้องเตรียมตัวอย่างไร ?

  • นัดหมายปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหา และวางแผนการรักษา แพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการขูดฟิลเลอร์และเตรียมความพร้อม
  • หากคนไข้กำลังใช้ยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน ยาละลายลิ่มเลือด หรือยาต้านการอักเสบ ควรหยุดใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำการขูดฟิลเลอร์
  • ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงก่อนทำการขูดฟิลเลอร์ เพื่อป้องกันการแข็งตัวของเลือด และลดความเสี่ยงในการเกิดอาการบวม ช้ำ
  • ในวันที่จะทำการขูดฟิลเลอร์ ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าหรือใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่มีฤทธิ์ผลัดผิว
  • ควรแจ้งประวัติการแพ้ยาหรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ให้แพทย์ทราบ เพื่อป้องกันการเกิดอาการแพ้

การเตรียมตัวอย่างถูกต้องก่อนขูดฟิลเลอร์ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง และทำให้ขั้นการขูดฟิลเลอร์เป็นไปอย่างราบรื่น และปลอดภัยมากที่สุด คนไข้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ


วิธีการดูแลตัวเองหลังขูดฟิลเลอร์

  • ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก สามารถประคบเย็นบริเวณที่ขูดฟิลเลอร์เพื่อลดอาการบวมได้
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดบริเวณที่ขูดฟิลเลอร์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และลดอาการบวม
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  • งดสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์
  • ทานยาปฏิชีวนะตามคำสั่งแพทย์ ป้องกันการติดเชื้อ
  • การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น และช่วยลดอาการบวม
  • หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าบริเวณที่ขูดฟิลเลอร์ในช่วงแรก เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และการระคายเคือง
  • หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรง เพื่อป้องกันการเกิดรอยดำหรือการระคายเคืองผิว
  • ควรปฏิบัติตามคำแนะนำและมาตรวจตามนัดที่แพทย์กำหนด เพื่อให้แน่ใจว่าแผลหายดี ไม่มีปัญหาอื่น ๆ ตามมา

การดูแลตัวเองอย่างถูกต้องหลังการขูดฟิลเลอร์ จะช่วยให้ผลลัพธ์ที่ได้เป็นไปตามที่คาดหวัง และลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง คนไข้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ


ขูดฟิลเลอร์ มีผลข้างเคียงไหม ?

  • อาการบวมแดง : บริเวณที่ทำการขูดฟิลเลอร์อาจมีอาการบวมแดงในช่วงแรก ซึ่งเป็นอาการปกติ และจะหายไปเองในไม่กี่วัน
  • อาการช้ำ : อาจมีอาการช้ำบริเวณที่ขูดฟิลเลอร์ ซึ่งจะค่อย ๆ หายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์
  • การติดเชื้อ : แม้จะมีความเสี่ยงน้อย แต่ก็มีโอกาสเกิดการติดเชื้อหากไม่ดูแลแผลอย่างถูกวิธี ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
  • อาการปวด : อาจมีอาการปวดในบริเวณที่ขูดฟิลเลอร์ในช่วงแรก แต่สามารถบรรเทาได้ด้วยการใช้ยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่ง
  • ผิวหนังเป็นตุ่มหรือเป็นรอย : ในบางกรณีผิวหนังอาจเกิดตุ่มหรือรอยจากการขูดฟิลเลอร์ ซึ่งจะหายไปเองเมื่อผิวฟื้นตัวเต็มที่

ผลข้างเคียงเหล่านี้ เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป และมักจะหายไปเองภายในระยะเวลาสั้น ๆ หากมีอาการที่ไม่ปกติหรือรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อรับการดูแล และคำแนะนำเพิ่มเติมครับ


หลังขูดฟิลเลอร์ นานเท่าไรถึงจะฉีดได้อีกครั้ง ?

หลังขูดฟิลเลอร์ หากคนไข้ต้องการฉีดฟิลเลอร์ใหม่อีกครั้ง หมอแนะนำให้เว้นระยะ 1- 2 เดือนขึ้นไปครับ เพราะในช่วง 1-2 อาทิตย์แรก แผลอาจจะยังไม่สมานดีพอ และต้องมั่นใจว่าได้ขูดฟิลเลอร์ออกไปหมดแล้ว จึงสามารถฉีดฟิลเลอร์ใหม่ได้ครับ

การให้เวลาผิวหนังได้พักฟื้นเต็มที่หลังการขูดฟิลเลอร์ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหา และทำให้การฉีดฟิลเลอร์ใหม่มีประสิทธิภาพ และปลอดภัยมากขึ้น คนไข้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดครับ


ขูดฟิลเลอร์ เจ็บไหม ?

การขูดฟิลเลอร์เป็นกระบวนการที่อาจทำให้หลายคนกังวลเรื่องความเจ็บปวด ในความเป็นจริง ระดับความเจ็บขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย หมอจะอธิบายรายละเอียดดังนี้ครับ

  • การใช้ยาชา : ก่อนทำการขูดฟิลเลอร์ ทางคลินิกจะมีการแปะยาชา เพื่อลดความเจ็บปวดในระหว่างการขูดฟิลเลอร์ ทำให้คนไข้รู้สึกสบายขึ้น และลดความกังวล
  • ความเชี่ยวชาญของแพทย์ : การทำหัตถการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยลดความเจ็บปวด และความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง การใช้เทคนิคที่ถูกต้อง และอุปกรณ์ที่เหมาะสมจะทำให้ขั้นตอนการขูดฟิลเลอร์เป็นไปอย่างราบรื่น
  • อาการหลังทำ : หลังการขูดฟิลเลอร์ อาจมีอาการบวมแดงหรือช้ำ ซึ่งเป็นอาการปกติ และสามารถบรรเทาได้ด้วยการประคบเย็น และการใช้ยาตามที่แพทย์สั่ง

โดยสรุป การขูดฟิลเลอร์เจ็บครับ แต่จะมีการใช้ยาชา และความเชี่ยวชาญของแพทย์จะช่วยลดความเจ็บ และทำให้ขั้นตอนการขูดฟิลเลอร์เป็นไปอย่างปลอดภัย และสบายที่สุด


ขูดฟิลเลอร์ กี่วันเห็นผล ?

หลังขูดฟิลเลอร์ คนไข้สามารถเห็นผลลัพธ์เบื้องต้นได้ทันที เนื่องจากฟิลเลอร์ที่เป็นก้อนถูกนำออกไป แต่ยังอาจมีอาการบวม และแดงอยู่ ซึ่งจะลดลง และหายไปภายใน 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับปริมาณฟิลเลอร์ที่ขูดออก และความซับซ้อนของเคส

จากนั้นคนไข้จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนภายใน 2-4 สัปดาห์หลังการขูดฟิลเลอร์ แนะนำให้ติดตามผล และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด จะช่วยให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างราบรื่น และได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ


ขูดฟิลเลอร์ มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?

ขูดฟิลเลอร์ ข้อดี

  • ช่วยแก้ไขปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อนหรือฟิลเลอร์ไหลที่ทำให้ใบหน้าไม่เป็นธรรมชาติ
  • สามารถเห็นผลลัพธ์ทันที ฟิลเลอร์ที่มีปัญหาจะถูกนำออกไป ทำให้ใบหน้ากลับมาเป็นธรรมชาติ

ขูดฟิลเลอร์ ข้อเสีย

  • หลังการขูดฟิลเลอร์ คนไข้อาจมีอาการบวมและช้ำในบริเวณที่ทำการขูด ซึ่งจะหายไปภายใน 1-2 สัปดาห์
  • ความเสี่ยงในการติดเชื้อ แม้ว่าความเสี่ยงจะน้อย แต่ก็ยังมีโอกาสเกิดการติดเชื้อหากไม่ดูแลแผลอย่างถูกวิธี
  • อาจมีอาการปวดในบริเวณที่ขูดฟิลเลอร์ในช่วงแรก แต่สามารถบรรเทาได้ด้วยการใช้ยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่ง
  • หากทำโดยแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อรอบๆ บริเวณที่ขูดฟิลเลอร์
  • การขูดฟิลเลอร์มีค่าใช้จ่ายสูง ขึ้นอยู่กับปริมาณ และตำแหน่งของฟิลเลอร์ที่ต้องการขูดออก

ขูดฟิลเลอร์ สามารถทำบริเวณไหนได้บ้าง ?

ขูดฟิลเลอร์สามารถทำได้ในหลายบริเวณของใบหน้า และร่างกาย ซึ่งมักเป็นบริเวณที่เคยฉีดฟิลเลอร์มาก่อน ได้แก่

  • ขูดฟิลเลอร์คาง ทั้งปลายคาง และเส้นกรามด้านข้าง
  • ขูดฟิลเลอร์ปาก ทั้งริมฝีปากบน ล่าง และมุมปาก
  • ขูดฟิลเลอร์จมูก บริเวณสันจมูก และปลายจมูก
  • ขูดฟิลเลอร์ใต้ตา บริเวณร่องตาลึก
  • ขูดฟิลเลอร์ร่องแก้ม บริเวณโหนกแก้มหรือร่องแก้ม
  • ขูดฟิลเลอร์หน้าผาก ทั่วบริเวณหน้าผาก รวมเหนือคิ้ว
  • ขูดฟิลเลอร์ขมับ ร่องลึกบริเวณขมับ

ในการขูดฟิลเลอร์บริเวณปาก และจมูก อาจจำเป็นต้องใช้การผ่าตัดร่วมด้วย เพราะเป็นบริเวณที่มีความเสี่ยงสูง การผ่าตัดในบริเวณเหล่านี้จะช่วยให้สามารถนำฟิลเลอร์ออกได้อย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในกรณีที่ฟิลเลอร์ไหลย้อย ผิดรูปร่าง หรือเป็นก้อนแข็งจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม

นอกจากนี้ ในกรณีที่คนไข้ต้องการเปลี่ยนไปเสริมซิลิโคนแทน เช่น บริเวณจมูกหรือคาง การขูดฟิลเลอร์หรือผ่าตัดออกก่อนอาจต้องทำในบางเคสเพื่อให้สามารถทำการเสริมซิลิโคนได้อย่างถูกต้อง และปลอดภัยครับ


ขูดฟิลเลอร์ ที่ไหนดี ?

การขูดฟิลเลอร์เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญ และความระมัดระวังในการทำ การเลือกคลินิกที่เหมาะสม และมีมาตรฐานจึงเป็นสิ่งสำคัญ หมอแนะนำวิธีการเลือกสถานที่ดังนี้ครับ

  • เลือกขูดฟิลเลอร์กับโรงพยาบาล และคลินิกที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานสุขภาพ เช่น โรงพยาบาลชื่อดังหรือคลินิกที่มีชื่อเสียงด้านการเสริมความงาม และการศัลยกรรม
  • เลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการขูดฟิลเลอร์ ตรวจสอบประวัติการศึกษา และการฝึกอบรมของแพทย์ เพื่อให้มั่นใจว่าได้รับการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญ
  • ตรวจสอบรีวิว และผลงานของคลินิกหรือแพทย์ที่เลือก ผ่านทางเว็บไซต์หรือแหล่งข้อมูลอื่น ๆ เพื่อดูความคิดเห็น และประสบการณ์ของผู้ที่เคยรับบริการมาก่อน
  • คลินิกควรมีมาตรฐานความสะอาด และความปลอดภัยสูง รวมถึงการใช้อุปกรณ์ และเครื่องมือที่ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างถูกวิธี
  • คลินิกที่ดีควรให้คำปรึกษาอย่างละเอียด และตรงไปตรงมา รวมถึงการประเมินความเสี่ยง และการดูแลหลังการรักษา
  • มีบริการติดตามผล และการดูแลหลังการรักษา เพื่อให้มั่นใจว่าคนไข้ได้รับการดูแลที่ดี และผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ฉีดสลายฟิลเลอร์ ที่ไหนดี โดย หมอโต้ง

แต่ถ้าหากคนไข้ฉีดฟิลเลอร์แท้ประเภท Hyaluronic Acid (HA) มา สามารถเข้ามาฉีดสลายฟิลเลอร์ กับแพทย์ที่ V Square Clinic ได้ครับ ทีมแพทย์ทุกท่านมีประสบการณ์ ประเมิน และวิเคราะห์ปัญหาตรงจุด หมอมือเบา ช้ำน้อย

นอกจากนี้ คนไข้ยังสามารถรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการรักษาอื่น ๆ ที่เหมาะสมกับสภาพผิว และปัญหาของคนไข้ ทีมแพทย์ของ V Square Clinic จะช่วยดูแล และให้คำแนะนำในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวิเคราะห์ปัญหา การเลือกใช้เทคนิคและผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม จนถึงการติดตามผลหลังการรักษา เพื่อให้คนไข้ได้รับการดูแลอย่างครบวงจร และเห็นผลลัพธ์ที่พึงพอใจครับ


ขูดฟิลเลอร์ ราคาเท่าไหร่ ?

ขูดฟิลเลอร์ราคาเริ่มต้นที่หลักหมื่นขึ้นไปครับ ขึ้นอยู่กับความยากง่ายในแต่ละเคส และปัจจัยอื่น ๆ เช่น

  • ตำแหน่งที่ขูดฟิลเลอร์ : บริเวณที่ต้องการขูดฟิลเลอร์มีผลต่อราคา เช่น การขูดฟิลเลอร์บริเวณคาง และปากเป็นบริเวณที่ซับซ้อน และต้องระมัดระวังสูง ราคาจึงอาจสูงกว่าบริเวณอื่น
  • ปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องการนำออก : หากมีปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องการขูดออกมาก ราคาก็อาจสูงขึ้น เนื่องจากใช้ระยะเวลาในการทำนาน
  • ความซับซ้อนของเคส: เคสที่มีความซับซ้อนสูง เช่น ฟิลเลอร์ที่แข็งตัวหรือเคลื่อนที่ไปยังบริเวณที่ยากต่อการขูด อาจมีราคาสูงกว่าปกติ
  • ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของแพทย์: แพทย์ที่มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญสูงอาจมีค่าบริการที่สูงกว่า เพื่อให้มั่นใจในผลลัพธ์ และความปลอดภัย

ราคาการขูดฟิลเลอร์จะแตกต่างกันไปในแต่ละจุด และแต่ละเคส ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น คนไข้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม และการประเมินราคาที่ถูกต้องครับ


สรุป

การขูดฟิลเลอร์ เป็นผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม หมอแนะนำให้เลี่ยงจะดีที่สุดครับ คนไข้บางคนตัดสินใจเลือกฉีดฟิลเลอร์ราคาถูก ทำให้ฟิลเลอร์เน่า ฟิลเลอร์ไหล บางรายมีเนื้อตาย ผลที่ได้ไม่คุ้มเสีย

หากไม่อยากเผชิญกับปัญหาที่ต้องแก้ไขด้วยการขูดฟิลเลอร์ หมอแนะนำให้คนไข้เลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ที่มีคุณภาพ และฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์จะดีที่สุดครับ เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหา ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน มีสาเหตุมาจากอะไร ? อันตรายไหม ? มีวิธีแก้อย่างไร ?

Categories
filler
ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยครับ ไม่ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ? ตำแหน่งการฉีด ยี่ห้อ รุ่นฟิลเลอร์ มีผลไหม ? หมอแนะนำให้พิจารณาแต่ละปัจจัยตั้งแต่ก่อนฉีดฟิลเลอร์ครับ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาที่ต้องมาแก้ไขภายหลัง

ส่วนใครที่กำลังมีปัญหาฉีดfillerแล้วเป็นก้อน หรือไม่แน่ใจว่าอาการที่เป็นอยู่เรียกว่าเป็นก้อนหรือไม่ ? อันตรายไหม ? มีวิธีแก้อย่างไร ? เช็กอาการเสี่ยง ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนบวม และวิธีแก้ไขให้ผิวบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์กลับมาเรียบเนียนเหมือนเดิมได้ในบทความนี้ครับ

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนบวม

สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน


ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน มีสาเหตุมาจากอะไร ?

สาเหตุฉีดฟิลเลอร์เป็นก้อน
สาเหตุฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน เกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้

  • ฟิลเลอร์ที่ใช้ไม่ใช่สารไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid)

เป็นฟิลเลอร์ปลอม เช่น ซิลิโคนเหลว พาราฟิน จัดเป็นสารแปลกปลอม ไม่สามารถสลายเองตามธรรมชาติ เมื่อสลายเองไม่ได้ ก็จะจับตัวเป็นก้อนแข็ง ไหลย้อยมากองรวมกัน หรือถ้าร้ายแรงก็เกิดการอักเสบ ฟิลเลอร์เน่า ต้องขูดฟิลเลอร์ออกหรือผ่าตัดออก และฉีดสลายไม่ได้ด้วยครับ

  • แพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์ให้ขาดความรู้และประสบการณ์

การฉีดฟิลเลอร์ให้ออกมาสวย เรียบเนียน ดูเป็นธรรมชาติ แพทย์ผู้ฉีดจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับฟิลเลอร์ และโครงสร้างใบหน้า ถึงจะประเมินปัญหาและแก้ไขได้อย่างตรงจุด ในทางกลับกันถ้าแพทย์ขาดความรู้และประสบการณ์ ความเสี่ยงจากการฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนบวมก็อาจเกิดได้ ต้องมาฉีดสลายฟิลเลอร์ภายหลัง

  • รุ่นฟิลเลอร์ ไม่เหมาะกับตำแหน่งฉีด

ฟิลเลอร์เนื้อทน เนื้อแน่น ที่มีความแข็งและเหนียวค่อนข้างมาก ถ้านำมาฉีดในผิวชั้นตื้นจะทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อนบวมได้ เนื่องจากเนื้อฟิลเลอร์ประเภทนี้จะเหมาะกับการฉีดในผิวชั้นลึก เพื่อเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก มากกว่าเติมใต้ตาชั้นตื้น เพื่อเก็บรายละเอียดครับ

  • เทคนิคไม่ถูกต้อง ใช้ปริมาณฟิลเลอร์มากเกินไป

แต่ละตำแหน่งจะมีปริมาณ CC ฟิลเลอร์ที่เหมาะสมอยู่ครับ หากฉีดเกินพอดี อัดฟิลเลอร์เข้าไปเยอะ ๆ อาจเกิดภาวะหน้าล้นจากฟิลเลอร์ (Facial Overfilled Syndrom) หน้าแปลกดูไม่เป็นธรรมชาติ แนะนำให้เริ่มจาก CC น้อย ๆ ก่อน และเติมใหม่เรื่อย ๆ ดีกว่าครับ


ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน อันตรายไหม ?

อาการฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน มีทั้งที่เป็นอันตราย และไม่อันตราย ในเบื้องต้นต้องประเมินอาการก่อนครับถึงจะบอกได้ โดยหลัก ๆ จะแบ่งออกเป็น 2 กรณี

  • ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ที่เกิดจากการอักเสบ ติดเชื้อ
  • ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ

ถ้าหลังฉีดfillerแล้วเป็นก้อนไม่ได้ใหญ่มาก ให้รอดูผลหลังฉีดประมาณ 3 วัน เพราะบางทีอาจเป็นอาการบวมเฉย ๆ ยุบบวมได้เองใน 3-4 สัปดาห์ โดยฟิลเลอร์จะค่อย ๆ ผสานรวมตัวกันกับเนื้อเยื่อของเรา ห้ามกดหรือนวดคลึง ฟิลเลอร์ที่ดูเป็นก้อนจะค่อย ๆ หายไปเองครับ

ส่วนกรณีฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ที่เกิดจากการอักเสบ ติดเชื้อ จะมีอาการแสดงที่แตกต่างออกไปครับ หมออธิบายอาการและสาเหตุในหัวข้อถัดไป


ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน อาการเป็นอย่างไร ?

เช็ก 4 อาการเสี่ยงฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนบวม “ปวด บวม แดง ร้อน” ที่บ่งชี้ว่าอันตราย ดังนี้

  • ปวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์มากขึ้น มากกว่าปกติ
  • บวมขึ้นเรื่อย ๆ บริเวณผิวหนังที่ฉีดฟิลเลอร์
  • แดงหรือคล้ำที่ผิดปกติ บริเวณผิวหนังที่ฉีดฟิลเลอร์
  • ร้อนบริเวณผิวหนังที่ฉีดฟิลเลอร์ (ใช้หลังมือแตะ คล้ายวิธีวัดไข้ เพื่อเช็กอาการ)

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน มีวิธีแก้ไขอย่างไร ?

สลายฟิลเลอร์เป็นก้อน
วิธีแก้ไขฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน

การแก้ไขฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ทำได้ 3 วิธี คือ

  • ฉีดสลายฟิลเลอร์ (Dissolving Filler) ด้วยตัวยาเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidases : HYAL) เมื่อฉีดเข้าใต้ผิวหนัง เอนไซม์จะทำปฏิกิริยากับฟิลเลอร์ ลดการจับตัวกันของโมเลกุลฟิลเลอร์ให้ค่อย ๆ สลายตัวลง ผิวกลับมาคืนสภาพเดิมใกล้เคียงกับก่อนฉีดฟิลเลอร์ ใช้ในกรณีแก้ปัญหาจากการฉีดฟิลเลอร์แท้ เช่น
    • ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ไม่ชอบ ไม่สวย
    • ฉีดฟิลเลอร์แล้วหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติ
    • ฉีดฟิลเลอร์ ผิวเป็นก้อน ไม่เรียบเนียน
ดูคลิป ฉีดสลายฟิลเลอร์ ต้องฉีดกี่ครั้ง ฉีดซ้ำได้ไหม ?
  • ขูดฟิลเลอร์ เป็นวิธีการแก้ไขในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอมแล้วเกิดฟิลเลอร์เน่า ฟิลเลอร์ไหล บวม ย้อย เป็นก้อนแข็ง ผิวหนังบริเวณที่ฉีดผิดรูป เพราะฟิลเลอร์ปลอมไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ทำให้ต้องใช้เครื่องมือทางการแพทย์ขูดฟิลเลอร์หรือเลาะฟิลเลอร์ออก
  • ผ่าตัดฟิลเลอร์ออก ใช้แก้ไขในกรณีฉีดฟิลเลอร์ปลอม เช่น ซิลิโคนเหลวที่เป็นก้อนขนาดใหญ่และแข็งมาก หรืออยู่นานจนมีพังผืดมากเกาะเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องผ่าตัดออก

ตำแหน่งมีผลต่อการฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนไหม ?

ตำแหน่งฉีดฟิลเลอร์ มีผลต่อการเกิดก้อน และเกิดได้แทบทุกตำแหน่ง เช่น

  • ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ใต้ตาเป็นตำแหน่งที่พบฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนได้มากที่สุด เพราะผิวบริเวณใต้ตาค่อนข้างบาง หากแพทย์ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาตื้นเกินไป หรือเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไม่เหมาะสม จะทำให้ฟิลเลอร์นูนขึ้นเหนือชั้นกล้ามเนื้อ มองเห็นเป็นก้อนใต้ตา บวม ย้อย หรือเห็นเป็นถุงใต้ตาได้

  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

มักเกิดจากหมอฉีดฟิลเลอร์ผิดตำแหน่ง ฟิลเลอร์ร่องแก้มต้องฉีดลงในชั้นกระดูกใต้กล้ามเนื้อ และฉีดในจุดที่ต่ำกว่าร่องแก้มเล็กน้อย ไม่ได้ฉีดที่ร่องแก้มโดยตรง เพื่อป้องกันการดึงของกล้ามเนื้อที่ใช้ยิ้ม ถ้าฉีดในชั้นผิวที่ไม่ลึกพอ เนื้อฟิลเลอร์จะโดนดึงขึ้นไปกองเป็นเนื้อเหนือร่องแก้มทำให้เป็นก้อน ร่องแก้มลึกกว่าเดิม

ดูคลิป ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเป็นก้อนบวม แก้ไขอย่างไร ?
  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก

ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อนที่พบ โดยมากเกิดจากการใช้ปริมาณฟิลเลอร์ปากที่มากเกินไป หรือเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ปากที่ไม่เหมาะสม ทำให้ปากออกมาอวบอิ่มเกินพอดี ปากใหญ่ ปากเจ่อ คล้ายปากเป็ด ไม่สวย ดูไม่เป็นธรรมชาติครับ

  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

ตำแหน่งนี้ส่วนมากเกิดจากฉีดฟิลเลอร์หน้าผากในชั้นผิวที่ตื้นเกินไป ทำให้หน้าผากเป็นคลื่น ผิวไม่เรียบเนียน หรือนูนเกินไป คล้ายหัวปลาทอง ใบหน้าผิดรูปได้ครับ เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่ถูกวิธี คือ ต้องฉีดในชั้นเยื่อหุ้มกระดูกเท่านั้น ถึงจะดูเป็นธรรมชาติ

  • ฉีดฟิลเลอร์คาง

บริเวณคางมีกล้ามเนื้อ Mentalis ซึ่งเป็นจุดที่ต้องระวังครับ ถ้าฉีดผิดตำแหน่งหรือฉีดตื้นเกินไป เนื้อฟิลเลอร์จะถูกกล้ามเนื้อมัดนี้ดึงมารวมกัน ทำให้เป็นก้อนได้ รวมถึงยี่ห้อ รุ่นฟิลเลอร์ที่ใช้ ถ้าเลือกไม่เหมาะสม หรือใช้ปริมาณมากไป ก็อาจจะทำให้ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนได้เช่นกัน

ดูคลิป ฉีดฟิลเลอร์คางแล้วเป็นก้อน แก้ไขอย่างไร ?

ยี่ห้อหรือรุ่นของฟิลเลอร์ มีผลต่อการฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนไหม ?

ตามที่หมออธิบายไปข้างต้น ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน เกิดได้จากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม และฟิลเลอร์แท้ที่ต่อให้เป็นไฮยาลูโรนิก แอซิด แต่ถ้าเลือกยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์มาใช้ผิด ก็เสี่ยงเป็นก้อนได้

ปัจจุบันฟิลเลอร์มีหลายยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อก็แยกย่อยออกมาเป็นรุ่นต่าง ๆ ซึ่งมีคุณสมบัติและเหมาะกับการฉีดในตำแหน่งที่ต่างกัน ถ้าฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์ก็จะช่วยให้คำแนะนำได้ครับ

แนะนำฟิลเลอร์ที่ผ่านอย.
หมอแนะนำยี่ห้อ รุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสม

แต่ตัวคนไข้เองก็สามารถทำการบ้านด้วยการหาข้อมูลไปก่อนได้ว่า มีฟิลเลอร์ยี่ห้อไหน รุ่นไหนบ้างที่ผ่านอย. เช็กเลข Lot. วันเดือนปีที่ผลิต วันหมดอายุก่อนฉีด ซึ่งจะมีระบุไว้ที่กล่องฟิลเลอร์

ถ้าคลินิกเอาฟิลเลอร์หมดอายุ เป็นฟิลเลอร์เก่าเก็บค้างสต๊อกมาฉีดให้ ไม่ควรฉีดเด็ดขาดครับ เพราะฟิลเลอร์อาจจะเสื่อมสภาพ ฉีดแล้วไม่เห็นผลหรือเกิดผลข้างเคียงได้


ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนมีสิทธิ์เกิดได้ทุกคนไหม ?

ไม่ใช่ทุกคนที่จะฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนครับ แต่ทุกคนมีโอกาสเกิดขึ้นได้ หากไม่ได้มีการเตรียมตัวที่ดีมาก่อนฉีดฟิลเลอร์ ศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ทั้งการเลือกคลินิก เลือกหมอ ยี่ห้อ/รุ่นฟิลเลอร์ที่ผ่านอย. วิธีดูฟิลเลอร์ของแท้ ของปลอม ต้องแยกให้ออกครับ

การเตรียมความพร้อมเป็นสิ่งสำคัญ ควรให้เวลาในส่วนนี้เยอะ ๆ ครับ เพราะส่งผลต่อผลลัพธ์หลังฉีดที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน

ฉีดฟิลเลอร์ที่วีสแควร์
ฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ประสบการณ์สูง

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน มีวิธีป้องกันอย่างไร ?

  • เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง
  • ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า
  • มั่นใจว่าใช้ฟิลเลอร์แท้ ผ่านอย. สามารถตรวจสอบได้
  • ดูรีวิวจากผู้ใช้บริการที่เคยมาฉีดฟิลเลอร์ในคลินิกนั้น ๆ

วิธีป้องกันฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน จริง ๆ แล้วไม่ต่างจากวิธีเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ? เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและความปลอดภัยที่ต้องมาควบคู่กันครับ

ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี โดย หมอกันต์
ฉีดฟิลเลอร์ที่ V Square Clinic ปลอดภัย ไร้กังวล

สรุป

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ไม่ว่าจะจากฉีดฟิลเลอร์ปลอม หรือฉีดฟิลเลอร์แท้ จะไม่เกิดขึ้นครับ ถ้ามีการเตรียมตัวที่ดีก่อนฉีดฟิลเลอร์ เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ฉีดฟิลเลอร์แท้กับหมอที่มีประสบการณ์สูง รู้เทคนิคการฉีด เลือกยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ได้เหมาะสมกับตำแหน่งฉีด ประเมินปริมาณ CC ที่ใช้ได้อย่างถูกต้อง

ที่ V Square Clinic ทีมแพทย์มีประสบการณ์สูง ใช้ศิลปะการฉีดฟิลเลอร์ (Fine Art of Filler) ในการปรับรูปหน้า ผลลัพธ์หลังฉีดดูเป็นธรรมชาติ เรียบเนียน ไม่เป็นก้อน หรือเกิดภาวะหน้าล้น หน้าดูแปลก ไม่เป็นธรรมชาติ และยังมั่นใจได้ในความปลอดภัย ใช้ฟิลเลอร์แท้ แกะกล่องใหม่ให้ดูต่อหน้าก่อนฉีดทุกเคสครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
Radiesse filler

Radiesse filler กระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวและช่วยให้หน้าเด็กลงจริงไหม ? รู้ก่อนฉีด!

Categories
filler
Radiesse filler(1)

Radiesse filler

Radiesse เป็นสารเติมเต็มงานผิว Biostimulator นวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่โดดเด่นและมีความพิเศษไม่เหมือนใคร ในบทความนี้จะมาเจาะลึกว่า Radiesse filler คืออะไร ? เหมาะกับใคร ? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? ต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร ? ราคาเท่าไหร่ ? ทุกเรื่องที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีด Radiesse filler หมอรวมมาให้แล้วครับ

เจาะลึก Radiesse คืออะไร ช่วยอะไรบ้าง เหมาะกับปัญหาแบบไหน ? 

สารบัญ Radiesse filler


Radiesse filler คืออะไร ?

Radiesse filler คืออะไร

Radiesse filler คือ สารฉีดกระตุ้นการสร้างเส้นใยผิวใหม่ หรือ Regenerative Biostimulator ตัวใหม่ล่าสุด จัดอยู่ในกลุ่มสารเติมเต็มเหมือนกับการฉีดฟิลเลอร์ (Filler) แต่จะแตกต่างกันที่ส่วนประกอบหลัก โดยฟิลเลอร์จะมีส่วนประกอบหลักเป็นไฮยาลูรอนิคแอซิด (Hyaluronic Acid) ที่มีคุณสมบัติอุ้มน้ำ ช่วยเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว 

ส่วน Radiesse จะมีส่วนประกอบหลักเป็น CaHA (Calcium Hydroxyapatite) เข้าไปฟื้นฟู Fibroblast ทำให้เกิดการกระตุ้นสารสำคัญในร่างกาย 5 ชนิด ได้แก่ Collagen Type 1 และ Type 3, Elastin, Angiogenesis และ Proteoglycans ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวแน่นขึ้น เฟิร์มกระชับ ลดริ้วรอยเล็ก ๆ และฟื้นฟูผิวให้ผิวดูเด็กลง


CaHA คืออะไร ?

CaHA

CaHA (แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทด์) คือ สารที่สามารถพบได้ในเนื้อเยื่อกระดูกและฟัน แต่ CaHA ที่เป็นส่วนประกอบประกอบหลักของ Radiesse จะผลิตด้วยวิธีการสังเคราะห์ ทำให้ได้ CaHA microsphere (คา-ฮ่า ไมโครสเฟียร์) ที่เหมือนกับสารที่มีอยู่ในร่างกาย มีลักษณะเป็นทรงกลมขนาดอนุภาคสม่ำเสมอ 25-45 ไมครอน มีความปลอดภัยสูง และสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติครับ    

ในทางการแพทย์นิยมใช้ CaHA มาอย่างยาวนานกว่า 25 ปี รวมไปถึงยังมีการวิจัยในเรื่องของประสิทธิภาพและความปลอดภัยมาอย่างต่อเนื่องมากกว่า 250 ฉบับ 


Radiesse filler ผลิตจากประเทศอะไร ? 

Radiesse filler ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นจาก บริษัท Merz Pharmaceuticals ประเทศเยอรมนี และหลังจากนั้นในปี 2004 ก็ได้ถูกอนุมัติให้สามารถนำมาใช้ได้ในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศแรก ปัจจุบันมียอดการใช้กว่า 15 ล้านไซริงค์ จาก 85 แห่งทั่วโลก

Vsquare tips

ในประเทศไทย Radiesse filler ถูกนำเข้าและจัดจำหน่ายโดย Merz Aesthetics. Thailand บริษัทนวัตกรรมความงามระดับโลกที่นำเข้าโบท็อก Xeomin, ฟิลเลอร์ Belotero และเทคโนโลยีเครื่องยกกระชับ Ultherapy ที่ใช้อย่างแพร่หลายในคลินิกเสริมความงามชั้นนำครับ


Radiesse filler มีกระบวนการทำงานอย่างไร ? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? 

Radiesse จะไปกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ที่เป็นเซลล์ผลิตคอลลาเจนหลักในผิวหนังให้มีการผลิตคอลลาเจนมากขึ้น โดยอนุภาค CaHA จะสร้างโครงสร้าง และกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังผลิตคอลลาเจนรอบ ๆ เป็นเส้นใยตาข่าย 3 มิติ (3D Matrix) ทำให้ผิวหนังอิ่มฟู เต่งตึงทันทีหลังฉีด 

กระบวนการทำงานของ Radiesse filler
ภาพแสดงการสะสมของคอลลาเจนที่ถูกกระตุ้นขึ้นมาใหม่ในช่วง 4-78 อาทิตย์หลังฉีด

นอกจากนี้ CaHA ยังช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพจากการเพิ่มของอายุ กระตุ้นการสร้างอีลาสตินในชั้นผิวหนังได้ถึง 250% ช่วยลดความหย่อนคล้อย เติมเต็มร่องริ้วรอยใบหน้าและส่วนต่าง ๆ ให้กระชับ เรียบเนียน เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวมีความยืดหยุ่นและคืนตัวได้ดีขึ้น ซึ่งช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้ครับ

Radiesse filler ช่วยเรื่องอะไร

Radiesse filler มีกี่รุ่น ผ่านอย.ไหม ?

ปัจจุบันมี Radiesse filler มีอยู่ 2 รุ่น ได้แก่ Radiesse Filler ® และ Radiesse ® (+) โดยต่างกันที่ Radiesse Filler ® เป็นรุ่นที่ไม่มียาชา ส่วน Radiesse ® plus จะมีส่วนผสมของยาชา เพื่อลดความเจ็บขณะฉีด

Radiesse filler

ในปัจจุบัน Radiesse ได้รับรองและอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) ยุโรป (CE) และ THFDA รวมถึงผ่าน อย.ในด้านการฉีดมือโดยเฉพาะ จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัยครับ


Radiesse filler มีจุดเด่นอะไรบ้าง ?

จุดเด่นของ Radiesse filler

จุดเด่นของ Radiesse filler คือ การฟื้นฟูผิวแบบองค์รวม หรือที่เรียกว่า Regenerative Biostimulator ครับ เน้นฟื้นฟูถึงโครงสร้างผิวชั้นลึก ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเส้นใยตาข่ายผิวใหม่ได้ถึง 5 ประการ มอบ 3 ผลลัพธ์ที่เห็นผลทันทีและยาวนานกว่าที่เคย ดังนี้

  • Healthier ผิวเฟิร์ม แน่นกระชับ อิ่มฟูเด้ง ผิวมีคุณภาพดียิ่งขึ้น
  • Younger ริ้วรอยลดลง ยกกระชับขึ้น ผิวดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง
  • Longer ยืดอายุผิวคุณภาพดีได้ยาวนานขึ้น

Radiesse filler เหมาะกับใคร ?

Radiesse filler เหมาะกับใคร

Radiesse filler เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาต่าง ๆ ดังนี้

  • ผู้ที่มีริ้วรอยร่องลึก ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ใบหน้าขาดวอลลุ่ม
  • ผู้ที่ใบหน้าหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด ดูแก่กว่าวัย 
  • คนที่มีผิวแห้ง ผิวหมองคล้ำ ขาดความชุ่มชื้น มีรูขุมขนกว้าง 
  • ผู้ที่มีปัญหาความเหี่ยวย่น ผิวหน้าขาดคอลลาเจน ดูไม่เต่งตึง
  • ผู้ที่มีรอยสิว หรือมีหลุมสิวที่ไม่ลึกมาก หน้าโทรม ต้องการบำรุงผิวเร่งด่วน
  • เหมาะกับผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป หรือต้องการเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิวมากยิ่งขึ้น

Radiesse filler มีผลข้างเคียงไหม ?

หลังฉีด Radiesse อาจมีอาการบวมหรือแดง รวมถึงมีรอยช้ำจากเข็มที่ใช้ในการฉีด บางรายอาจมีอาการคันเล็กน้อย อาการเหล่านี้เป็นผลข้างเคียงที่ไม่อันตรายครับ มักจะหายไปเองภายในไม่กี่ชั่วโมง หรือ 2-3 วัน


Radiesse filler ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ?

Radiesse filler vs ฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น

หากเปรียบเทียบ Radiesse กับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มที่ช่วยเรื่องงานผิวอย่าง Sculptra, Gouri, Rejuran และ Exosome จะมีส่วนประกอบหลัก จุดเด่น และผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน เหมาะกับการแก้ไขปัญหาที่ต่างกัน ดังนี้

Radiesse filler

ส่วนประกอบหลัก : CaHA

จุดเด่น : เป็นนวัตกรรมกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวที่เน้นการเพิ่มวอลลุ่มของใบหน้า  ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเส้นใยตาข่ายผิวใหม่ได้ถึง 5 ประการ คือ Collagen Type I, Collagen Type III, Elastin,  Angiogenesis และ Proteoglycan

เหมาะกับ : คนที่ปัญหาชั้นกระดูก มีร่องแก้ม ร่องมุมปาก ต้องการยกกระชับผิวบริเวณกรอบหน้า แนวกราม คาง ลำคอ 

ระยะเวลาเห็นผล : หลังฉีดเห็นผลลัพธ์ทันที ใน 1 เดือนแรกจะเริ่มเห็นผลว่าผิวกระชับขึ้น มีความยืดหยุ่น ผิวแน่นฟู ร่องลึกต่าง ๆ ตื้นขึ้น ริ้วรอยจางลง และจะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ใน 3-6 เดือน

ระยะเวลาของการคงผลลัพธ์ : อยู่ได้นาน 2 ปี

Sculptra 

ส่วนประกอบหลัก :  PLLA (Poly-L-Lactic Acid) 

จุดเด่น : เป็นนวัตกรรมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวที่เน้นการฟื้นฟูโครงสร้างผิวเดิม กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Type I ทำให้ผิวมีความเต่งตึงดูกระชับ เต่งตึง ยืดหยุ่น ดูสุขภาพดี

เหมาะกับ : คนที่มีปัญหาชั้นไขมันและเนื้อเยื่อ ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ มีริ้วรอย 

ระยะเวลาเห็นผล :  หลังฉีดประมาณ 5 วัน PLLA จะเริ่มเข้าไปออกฤทธิ์ มีกระบวนการผลิตคอลลาเจน โดยต้องรอประมาณ 2-3 สัปดาห์ จึงจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง และจะเห็นผลชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือนครับ

ระยะเวลาของการคงผลลัพธ์ : อยู่ได้นาน 2 ปี

Gouri

ส่วนประกอบหลัก : PCL (Polycaprolactone)

จุดเด่น : ช่วยกระตุ้นให้เซลล์ Fibroblast ผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินมากขึ้น ทำให้ผิวที่เสื่อมโทรม แห้งกร้านกลับมาดูสุขภาพดีขึ้น อิ่มน้ำ รูขุมขนเล็กลง ริ้วรอยเล็ก ๆ ดูจางลง มีความแน่นฟู กระชับ และเรียบเนียน

เหมาะกับ : คนที่มีริ้วรอยแห่งวัย ใบหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ต้องการเพิ่มคอลลาเจนให้ผิว และป้องกันการเกิดริ้วรอยในอนาคต รวมถึงคนที่ต้องการเติมเต็มใบหน้า แต่ไม่อยากฉีดฟิลเลอร์

ระยะเวลาเห็นผล : หลังฉีด Gouri เริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ และจะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ใน 1 เดือน 

ระยะเวลาของการคงผลลัพธ์ : แนะนำทำ 3 ครั้ง ทุก 1 เดือน อยู่ได้นาน 6-12 เดือน

Rejuran

ส่วนประกอบหลัก : PN (Polyneucleotide)

จุดเด่น : กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอีลาสตินให้ผิวแข็งแรงลดรอยสิวและรอยแผลต่าง ๆ ได้ดี

เหมาะกับ : คนที่มีผิวแห้งกร้าน ผิวเสื่อมโทรม ขาดการบำรุง ต้องการปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้น ลดจุดด่างดำ ฝ้า กระ รอยสิว ฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง สุขภาพดีขึ้นแบบเร่งด่วน

ระยะเวลาเห็นผล : หลังฉีดจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ในช่วง 3-5 วัน และเริ่มเห็นผลชัดเจนประมาณ 4 สัปดาห์ 

ระยะเวลาของการคงผลลัพธ์ : แนะนำทำ 4 ครั้ง ติดต่อกัน 2-3 สัปดาห์ อยู่ได้นาน 3-6 เดือน ขึ้นกับการดูแลผิวของแต่ละคน

exosome

ส่วนประกอบหลัก : สารชีวโมเลกุลถึง 1,000 ชนิด

จุดเด่น : Skin Rejuvenation ฟื้นฟูและชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว แก้ไขภาวะ Anti-aging ทำให้ผิวเด็กลงและชราได้ช้าลง รวมถึงลดริ้วรอย รูขุมขนกว้าง รอยสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ

เหมาะกับ : คนที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน ผิวขาดน้ำ แห้งกร้าน ผิวแพ้ง่าย ปัญหาริ้วรอยแห่งวัย ไม่กระชับ มีฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยสิว ผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส

ระยะเวลาเห็นผล : หลังทำ exosome สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ใน 3-7 วัน

ระยะเวลาของการคงผลลัพธ์ : ทำ 3 ครั้งอยู่ได้นาน 3-6 เดือน ทำต่อเนื่อง 5 ครั้ง อยู่ได้นาน 1 ปี


Radiesse filler ราคาเท่าไร ?

Radiesse ราคาขึ้นอยู่กับปริมาณ CC ที่ใช้ และโปรโมชันของแต่ละคลินิกในช่วงนั้น ๆ ครับ  สำหรับที่ V Square Clinic จัดโปร Radiesse 2 กล่อง เริ่มต้นที่ 5x,xxx.- ก่อนฉีดคนไข้สามารถเข้ามาให้หมอประเมินปัญหาผิวหน้าก่อนได้ ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ 

โปร_Radiesse_26NOV24_TH

Radiesse filler นิยมฉีดจุดไหน ใช้กี่ CC

Radiesse filler นิยมใช้ฉีดแก้ไขรอยพับและร่องลึกบริเวณใบหน้า เช่น

  • บริเวณใบหน้า หน้าแก้ม
  • ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก
  • รอยเหี่ยวบริเวณคอ หลังมือ

แต่ตำแหน่งที่หมอไม่แนะนำให้ฉีด คือ บริเวณระหว่างคิ้ว จมูก รอบดวงตา และบริเวณปากครับ โดยจำนวน CC ที่ใช้นั้นจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดและสภาพผิวของคนไข้ ก่อนฉีดแพทย์จะช่วยประเมินและแนะนำปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ตรงตามความต้องการ สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดครับ


Radiesse filler มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?

ข้อดี 

  • ช่วยกระตุ้น Collagen Type 1 และ Type 3 เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว เติมความชุ่มชื้น ผิวอิ่มน้ำ ดูสุขภาพดี 
  • มีความปลอดภัยสูง สามารถเข้ากันได้ดีกับร่างกาย ไม่เกิดการกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ต่อต้าน
  • เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังฉีด ไม่ต้องพักฟื้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการบูสต์ผิวเร่งด่วน 

ข้อเสีย

  • ไม่ใช่หัตถการที่คงอยู่ถาวร หากต้องการคงสภาพผลลัพธ์ ควรฉีดต่อเนื่องประมาณ 1-3 ครั้งโดยขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละบุคคลและคำแนะนำของแพทย์ครับ

ข้อควรปฏิบัติก่อน-หลังฉีด Radiesse filler มีอะไรบ้าง ?

ข้อควรปฏิบัติก่อน Radiesse  filler 

  • ปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการแก้ไขปัญหาผิว และประเมินความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
  • ควรหลีกเลี่ยงยาต้านการอักเสบไม่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน และอาหารเสริมที่อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดรอยช้ำ เช่น วิตามิน E, กระเทียม, โอเมก้า 3 อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนฉีด
  • งดการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดรอยช้ำและบวม
  • งดทำหัตถการผิว เช่น เลเซอร์หน้า นวดหน้าอย่างน้อย 7-14 วันก่อนฉีด
  • แจ้งประวัติการแพ้ยาหรือสารเติมเต็มที่เคยใช้กับแพทย์ เพื่อป้องกันปฏิกิริยาแพ้
ข้อควรปฏิบัติก่อน-หลังฉีด Radiesse filler

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีด Radiesse filler 

  • หลีกเลี่ยงการจับ ลูบ แตะ บริเวณที่ฉีด
  • ลดกิจกรรมที่ต้องใช้กำลังหรือออกแรงมาก ๆ 
  • งดการแต่งหน้า 12 ชั่วโมง หรือจนกว่ารอยเข็มจะหายดี
  • หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อน 24 ชั่วโมง 
  • หลีกเลี่ยงหัตถการที่ใช้ความร้อนสูง เช่น ซาวน่า เลเซอร์ร้อน อย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ 

Radiesse filler ของแท้ ดูอย่างไร ?

วิธีดู Radiesse filler ของแท้
  • มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาอังกฤษ 
  • มี QR Code ติดไว้หน้ากล่อง เพื่อให้สแกนตรวจสอบว่าเป็น Radiesse ของแท้หรือไม่
  • เลข Lot. ที่กล่องและซองตรงกัน 
  • มีใบรับประกัน Skin Rejuvenation Card หรือ Radiesse Club Card 
  • โทรเช็กเลข Lot. กับบริษัทนำเข้า บริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์ จำกัด โทร.02 026 1111

Radiesse filler รีวิว

รีวิวผลลัพธ์ก่อน-หลังฉีด Radiesse filler 

Radiesse filler รีวิว
Radiesse filler รีวิว(1)

Q&A เกี่ยวกับ Radiesse filler

Radiesse filler อยู่ได้นานกี่เดือน ?

ระยะเวลาการคงผลลัพธ์หลังฉีด Radiesse สามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปีครับ ขึ้นอยู่กับความถี่ในการฉีด และการดูแลตัวเองหลังฉีดของแต่ละบุคคล

ฉีดRadiesse filler กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ Radiesse จะเห็นผลลัพธ์ทันทีครับ โดยจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ชัดขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากฉีดไปแล้วประมาณ 1 เดือน และจะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ประมาณ 3-6 เดือนขึ้นไป

Radiesse filler ควรฉีดกี่ครั้ง ?

หากต้องการเห็นผลเต็มที่และคงผลลัพธ์ให้อยู่ได้นาน หมอแนะนำให้ฉีด Radiesse ติดต่อกัน 1-3 ครั้ง โดยเว้นห่างกันอย่างน้อย 1 เดือน หรือตามคำแนะนำของแพทย์ครับ

ฉีดRadiesse filler ที่ไหนดี ?

เลือกฉีด Radiesse Filler ที่ไหนดี ? สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงคือความปลอดภัยครับ หมอแนะนำเช็กลิสต์ที่ควรพิจารณา ดังนี้

  • คลินิกได้มาตรฐาน มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก สะอาด ปลอดเชื้อ มีรีวิวที่น่าเชื่อถือจากผู้ใช้บริการ
  • แพทย์ผู้ฉีดมีประสบการณ์ สามารถประเมินปัญหาและแก้ไขอย่างตรงจุด ใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง
  • ฉีดด้วยตัวยาของแท้ ผ่านการรับรองจาก อย. สามารถตรวจสอบกับบริษัทนำเข้าได้ 
  • มีช่องทางการติดต่อที่สะดวก หากมีปัญหาหรือข้อสงสัยสามารถคุยกับแพทย์ได้ทันที
  • ราคาสมเหตุสมผล ไม่ถูกหรือแพงเกินไป

สรุป

Radiesse Filler เป็นนวัตกรรมงานผิว Regenerative Biostimulator กระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังตามธรรมชาติในร่างกาย ให้ผลิตคอลลาเจนได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดดเด่นในเรื่องของการฟื้นฟูผิวถึงระดับโครงสร้างผิวชั้นลึก ทำให้ผิวยืดหยุ่นและคืนตัวได้ดี ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคต ลดอายุให้หน้าดูเด็กลงได้อย่างเห็นผล หลังฉีดไม่ต้องพักฟื้น เหมาะกับคนที่ต้องการฟื้นบำรุงผิวเร่งด่วนครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน