บทความทั้งหมด

ฟิลเลอร์-Restylane

ฟิลเลอร์ Restylane ดีไหม ? มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นเหมาะกับการฉีดตำแหน่งไหน ?

Categories
filler
ฟิลเลอร์-Restylane-ดีไหม-?

ฟิลเลอร์ restylane ดีไหม

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane ถือเป็นฟิลเลอร์ตัวท็อปที่ไม่ใช่แค่คลินิกในไทย แต่หลายประเทศทั่วโลกเลือกใช้ครับ  เพราะฟิลเลอร์เรสเทอเรน เป็นฟิลเลอร์ยี่ห้อแรกของโลกที่ได้มีการนำ Hyaluronic Acid (ไฮยารูลอนิกแอซิด) มาใช้ในการเสริมความงาม แก้ไขปัญหารูปหน้า ลดริ้วรอย เติมเต็มร่องลึก ฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น

สำหรับใครที่ต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ฟิลเลอร์ restylane ดีไหม ? มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นเหมาะกับฉีดตำแหน่งไหน ? ต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร ? ฟิลเลอร์ restylane ของแท้ มีวิธีดูอย่างไร ? ฟิลเลอร์เรสเทอเรน ราคาเท่าไหร่ ? ทุกข้อสงสัยที่อยากรู้ หมอได้รวบรวมข้อมูลเพื่อเป็นข้อพิจารณาก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ครับ

ฟิลเลอร์ Restylane

สารบัญ ฟิลเลอร์ restylane ดีไหม

  1. ฟิลเลอร์ restylane ดีไหม คืออะไร ?
  2. ฟิลเลอร์ restylane ต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร ?
  3. ฟิลเลอร์ restylane มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นอยู่ได้นานไหม ?
  4. ฟิลเลอร์ restylane แต่ละรุ่นราคาเท่าไหร่ ?
  5. ฟิลเลอร์ restylane มีข้อดีอย่างไร ?
  6. ฟิลเลอร์ restylane ของแท้แต่ละรุ่น ดูอย่างไร ?
  7. ฟิลเลอร์ restylane แต่ละรุ่น เหมาะกับการฉีดตำแหน่งไหน ?
  8. ข้อห้าม และข้อปฏิบัติในการฉีดฟิลเลอร์ restylane
  9. ฟิลเลอร์ restylane ไม่เหมาะกับใคร ?
  10. ฉีดฟิลเลอร์ restylane ที่ไหนดี ?

ฟิลเลอร์ restylane ดีไหม คืออะไร ?

ฟิลเลอร์-Restylane

ฟิลเลอร์ Restylane สวีเดน เป็นฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid (ไฮยารูลอนิกแอซิด) ยี่ห้อแรกของโลกที่ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับเสริมความงาม ผลิตโดยบริษัท Galderma บริษัทยาเจ้าใหญ่ ที่มีชื่อเสียงมานานกว่า 24 ปี ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากแพทย์ทั่วโลก ผ่านการรับรองว่าปลอดภัยจาก US FDA และ Thai FDA

ปัจจุบันฟิลเลอร์เรสเทอเรนมีด้วยทั้งหมด 8 รุ่นครับ แต่ละรุ่นจะมีเนื้อฟิลเลอร์ที่ต่างกันตามลักษณะของโมเลกุล มีทั้งฟิลเลอร์เนื้อแน่น ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม และฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ทำให้เหมาะสำหรับการแก้ปัญหาผิวหน้าได้ตรงจุด เหมาะกับทุกสภาพผิว

ทำไมฟิลเลอร์แต่ละรุ่นถึงมีเนื้อที่ต่างกัน ? แต่ละรุ่นอยู่ได้นานไหม ? ฉีดตำแหน่งไหน ? หมอจะอธิบายรายละเอียดในหัวข้อถัดไปครับ


ฟิลเลอร์ restylane ต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร ?

ฟิลเลอร์-restylane-ต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร

ฟิลเลอร์  Restylane ผลิตโดยใช้เทคโนโลยี NASHA Technology และ OBT Technology ที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ ทำให้ฟิลเลอร์แต่ละรุ่นมีเนื้อและคุณสมบัติที่หลากหลาย สามารถนำมาฉีดได้หลายตำแหน่งบนใบหน้า โดยเฉพาะฟิลเลอร์ restylane ใต้ตา ที่เป็นตำแหน่งยอดนิยม แก้ได้ทั้งปัญหาร่องลึกใต้ตาที่เกิดจากกระดูกทรุดตัวตามวัย ไปจนถึงริ้วรอยตื้น ๆ จากสภาพผิวแห้งกร้าน ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ผลลัพธ์เรียบเนียน ไม่เป็นก้อน

  • NASHA Techology เป็นไฮยาลูรอนที่มีความคงตัว ปลอดภัย ป้องกันการแพ้ หลังฉีดจึงไม่ก่อให้เกิดการไหลไปตามบริเวณต่าง ๆ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว คงผลลัพธ์ได้นานประมาณ 6-18 เดือน รุ่นฟิลเลอร์ในกลุ่มนี้ เช่น Restylane perlane lyft, Restylane classic, Restylane vital light
  • OBT Technology เป็นเทคโนโลยีที่ผลิตมาภายหลัง NASHA โดยจะเน้นในเรื่องของความยืดหยุ่น เนื้อเจลมีความคงตัว สามารถปรับรูปทรงได้หลากหลาย เหมาะสำหรับแก้ไขปัญหา และเติมเต็มในแต่ละจุดที่ต้องการอย่างเป็นธรรมชาติ รุ่นฟิลเลอร์ในกลุ่มนี้ เช่น Restylane volyme, Restylane defyne, Restylane refyne, Restylane kysse

ฟิลเลอร์ restylane มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นอยู่ได้นานไหม ?

ฟิลเลอร์ Restylane ที่ได้รับอนุญาตจาก อย. ไทย ปัจจุบันมีทั้งหมด 8 รุ่น และที่ V Square Clinic เลือกใช้ทั้งหมด 8 รุ่นครับ 

ฟิลเลอร์-restylane-มีกี่รุ่น
ฟิลเลอร์-restylane-มีกี่รุ่น
ฟิลเลอร์-restylane-มีกี่รุ่น
  • Restylane Classic เนื้อแข็ง ออกแบบมาสำหรับแก้ปัญหาริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก เหมาะสำหรับคนผิวบาง ใช้เก็บรายละเอียดใต้ตาในผิวชั้นลึก อยู่ได้ 12 เดือน
  • Restylane Perlane Lyft เนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง ไม่ฟู และสามารถคงรูปได้ดีที่สุด เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา จมูก คาง อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Restylane Vital เนื้อละเอียด เจลอนุภาคเล็ก ให้ผลเรียบเนียน เป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา หน้าผาก อยู่ได้ 12 เดือน
  • Restylane Vital Light เนื้อละเอียด เจลอนุภาคเล็ก เหมาะสำหรับฉีดเก็บรายละเอียดใต้ตาในผิวชั้นตื้น ปาก บำรุงผิวชุ่มชื้น (Skin booster) อยู่ได้ 6-12 เดือน  
  • Restylane Refyne เนื้อนิ่ม มีลักษณะยืดหยุ่น ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยลึกที่เกิดจากการยิ้ม เน้นการเติมเต็มริ้วรอยเล็ก ๆ เหมาะสำหรับฉีดปาก ร่องแก้ม มุมปาก อยู่ได้ 12 เดือน
  • Restylane Defyne เนื้อแข็ง เนื้อเจลมีความนิ่มปานกลางและยืดหยุ่นสูง ใช้ฉีดกระดูกที่ยุบตัวในผิวชั้นลึก เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา ปาก อยู่ได้ 18 เดือน
  • Restylane Volyme เนื้อนิ่ม ใช้เติมชั้นผิวให้อิ่มฟูขึ้น เหมาะสำหรับฉีดปาก แก้มตอบ มุมปาก ร่องแก้ม อยู่ได้ 18 เดือน 
  • Restylane Kysse เนื้อละเอียด แต่มีความคงตัว สร้างขอบริมฝีปากที่ชัดเจนให้ความชุ่มชื้นและความอวบอิ่ม ออกแบบมาสำหรับใช้เติมเต็มริมฝีปากโดยเฉพาะ อยู่ได้ 12 เดือน

ฟิลเลอร์ restylane แต่ละรุ่นราคาเท่าไหร่ ?

ฟิลเลอร์ Restylane ราคา ที่ V Square  Clinic จะต่างกันตามรุ่นที่เลือกใช้ โดยจะมีราคาดังนี้ครับ

โปรฟิลเลอร์-Restylane
  • Restylane Perlane lyft 1 CC 12,900.-
  • Restylane Vital light 1 CC 12,900.-
  • Restylane Volyme 1 CC 13,900.-
  • Restylane Defyne 1 CC 12,900.-
  • Restylane Refyne 1 CC 12,900.-
  • Restylane Vital 1 CC 15,900.-
  • Restylane Classic 1 CC 11,900.-
  • Restylane Kysse 1 CC 12,900.-

ฟิลเลอร์ restylane มีข้อดีอย่างไร ?

  • เป็นฟิลเลอร์ที่นิยมใช้มากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก ได้รับมาตรฐานความปลอดภัย FDA จากสหรัฐอเมริกา CE marks จากยุโรป และ อย. ไทย
  • มีหลายรุ่นให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมในแต่ละปัญหาผิว 
  • ในเนื้อฟิลเลอร์ Restylane ทุกรุ่นจะมีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) เพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บขณะฉีด  
  • เนื้อฟิลเลอร์มีหลายขนาดโมเลกุล ทั้งเล็ก ปานกลาง ใหญ่ ทำให้สามารถนำมาฉีดได้หลายตำแหน่งบนใบหน้า ฉีดปรับสภาพผิว เติมเต็มหลุมสิว รวมถึงฉีดแก้ปัญหามือเหี่ยว ลดรอยย่นบริเวณลำคอ
  • เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่น และคงตัวสูง สามารถปรับรูปทรงได้หลากหลาย ฟิลเลอร์ไม่ไหลไปในบริเวณที่ไม่ต้องการ
  • ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว คงสภาพอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน

ฟิลเลอร์ restylane ของแท้แต่ละรุ่น ดูอย่างไร ?

วิธีดูฟิลเลอร์ restylane ของแท้แต่ละรุ่น มีจุดสังเกตดังนี้ครับ

[🔍จุดสังเกต❗] ฟิลเลอร์แท้ ยี่ห้อต่างๆ | V Square Clinic

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Vital Light

วิธีดูฟิลเลอร์แท้-Restylane-Vital-Light
  • มีรอยปรุสำหรับเปิดกล่อง
  • มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
  • มีสติกเกอร์ โมโนแกรม คำว่า “VOID”
  • เลข lot. ตรงกัน 2 จุดคือ
    • เลข lot. ที่ข้างกล่อง
    • เลข lot. ที่หลอด
  • สแกน QR CODE ด้วยแอปพลิเคชัน Eztracker เพื่อตรวจสอบยาแท้
  • สามารถสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 023 1800 ต่อ 402

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Perlane Lyft

วิธีดูฟิลเลอร์แท้-Restylane-Perlane-Lyft
  • มีรอยปรุสำหรับเปิดกล่อง
  • มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
  • มีสติกเกอร์ โมโนแกรม คำว่า “VOID”
  • เลข lot. ตรงกัน 2 จุดคือ
    • เลข lot. ที่ข้างกล่อง
    • เลข lot. ที่หลอด
  • สแกน QR CODE ด้วยแอปพลิเคชัน Eztracker เพื่อตรวจสอบยาแท้
  • สามารถสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 023 1800 ต่อ 402

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Classic

วิธีดูฟิลเลอร์แท้-Restylane-Classic
  • มีรอยปรุสำหรับเปิดกล่อง
  • มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
  • มีสติกเกอร์ โมโนแกรม คำว่า “VOID”
  • เลข lot. ตรงกัน 2 จุดคือ
    • เลข lot. ที่ข้างกล่อง
    • เลข lot. ที่หลอด
  • สแกน QR CODE ด้วยแอปพลิเคชัน Eztracker เพื่อตรวจสอบยาแท้
  • สามารถสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 023 1800 ต่อ 402

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Defyne

วิธีดูฟิลเลอร์แท้-Restylane-Defyne
  • มีรอยปรุสำหรับเปิดกล่อง
  • มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
  • มีสติกเกอร์ โมโนแกรม คำว่า “VOID”
  • เลข lot. ตรงกัน 2 จุดคือ
    • เลข lot. ที่ข้างกล่อง
    • เลข lot. ที่หลอด
  • สแกน QR CODE ด้วยแอปพลิเคชัน Eztracker เพื่อตรวจสอบยาแท้
  • สามารถสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 023 1800 ต่อ 402

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Refyne

วิธีดูฟิลเลอร์แท้-Restylane-Refyne
  • มีรอยปรุสำหรับเปิดกล่อง
  • มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
  • มีสติกเกอร์ โมโนแกรม คำว่า “VOID”
  • เลข lot. ตรงกัน 2 จุดคือ
    • เลข lot. ที่ข้างกล่อง
    • เลข lot. ที่หลอด
  • สแกน QR CODE ด้วยแอปพลิเคชัน Eztracker เพื่อตรวจสอบยาแท้
  • สามารถสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 023 1800 ต่อ 402

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Vital

วิธีดูฟิลเลอร์แท้-Restylane-Vital
  • มีรอยปรุสำหรับเปิดกล่อง
  • มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
  • มีสติกเกอร์ โมโนแกรม คำว่า “VOID”
  • เลข lot. ตรงกัน 2 จุดคือ
    • เลข lot. ที่ข้างกล่อง
    • เลข lot. ที่หลอด
  • สแกน QR CODE ด้วยแอปพลิเคชัน Eztracker เพื่อตรวจสอบยาแท้
  • สามารถสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 023 1800 ต่อ 402

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Volyme

วิธีดูฟิลเลอร์แท้-Restylane-Volyme
  • มีรอยปรุสำหรับเปิดกล่อง
  • มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
  • มีสติกเกอร์ โมโนแกรม คำว่า “VOID”
  • เลข lot. ตรงกัน 2 จุดคือ
    • เลข lot. ที่ข้างกล่อง
    • เลข lot. ที่หลอด
  • สแกน QR CODE ด้วยแอปพลิเคชัน Eztracker เพื่อตรวจสอบยาแท้
  • สามารถสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 023 1800 ต่อ 402

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Kysse

วิธีดูฟิลเลอร์แท้-Restylane-Kysse
  • มีรอยปรุสำหรับเปิดกล่อง
  • มีเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
  • มีสติกเกอร์ โมโนแกรม คำว่า “VOID”
  • เลข lot. ตรงกัน 2 จุดคือ
    • เลข lot. ที่ข้างกล่อง
    • เลข lot. ที่หลอด
  • สแกน QR CODE ด้วยแอปพลิเคชัน Eztracker เพื่อตรวจสอบยาแท้
  • สามารถสอบถามเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 023 1800 ต่อ 402

ฟิลเลอร์ restylane แต่ละรุ่น เหมาะกับการฉีดตำแหน่งไหน ?

ฟิลเลอร์ Restylane Volyme

Restylane Volyme

ฟิลเลอร์ Restylane Volyme  เหมาะสำหรับฉีด

ฟิลเลอร์ Restylane Vital Light

Restylane-Vital-Light

ฟิลเลอร์ Restylane Vital Light  เหมาะสำหรับฉีด

  • ใต้ตา
  • บำรุงผิวชุ่มชื่น (Skin Booster)
  • ปาก

ฟิลเลอร์ Restylane Vital

Restylane-Vital

ฟิลเลอร์ Restylane Vital เหมาะสำหรับฉีด

ฟิลเลอร์ Restylane Refyne

Restylane-Refyne

ฟิลเลอร์ Restylane Refyne เหมาะสำหรับฉีด

ฟิลเลอร์ Restylane Perlane lyft

Restylane-Perlane-lyft

ฟิลเลอร์ Restylane Perlane lyft เหมาะสำหรับฉีด

ฟิลเลอร์ Restylane Kysse

Restylane-Kysse

ฟิลเลอร์ Restylane Kysse เหมาะสำหรับฉีด

ฟิลเลอร์ Restylane Defyne

Restylane-Defyne

ฟิลเลอร์ Restylane Defyne เหมาะสำหรับฉีด

  • ใต้ตา
  • ปาก

ฟิลเลอร์ Restylane Classic

Restylane-Classic

ฟิลเลอร์ Restylane Classic เหมาะสำหรับฉีด

  • ใต้ตา
  • ปาก

ข้อห้าม และข้อปฏิบัติในการฉีดฟิลเลอร์ restylane

ข้อปฏิบัติตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ 1 อาทิตย์

ข้อปฏิบัติตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์
  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์ restylane ควรงดยาและวิตามินที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, NSAIDs, ibuprofen, diclofenac, ponstan งดวิตามิน St. John’s Wort, ginkgo biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E 
  • งดการใช้ยาที่มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิว เช่น tretinoin, (เรตินเอ), retinols(เรตินอล), retinoids (เรตินอยด์) BHA, AHA ก่อนฉีดฟิลเลอร์ 3 วัน
  • งดดึงขน โกนขน หรือแวกซ์ขนในบริเวณดังกล่าวก่อนฉีด filler อย่างน้อย 3 วัน  
  • งดเลเซอร์หน้า นวดหน้า อย่างน้อย 3 วัน
  • หากมีโรคประจำตัว หรือมียาที่รับประทานเป็นประจำ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนฉีดฟิลเลอร์

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ 24 ชั่วโมง

ข้อปฏิบัติตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์
  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ 
  • งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น ออกกำลังกายหนัก ๆ อบซาวน่า
  • ในกรณีที่คนไข้มียาที่ต้องกินประจำ แพทย์จะพิจารณาให้ทานยาห้ามเลือดหรือยาลดบวมตามความเหมาะสมในแต่ละเคส เพื่อลดการบวมช้ำจากรอยเข็ม 
  • สามารถแต่งหน้า ทาครีมบำรุงได้ตามปกติ 
  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์จะมีการคลีนหน้า เพื่อแปะยาชา และรอยาชาออกฤทธิ์ประมาณ 30-45 นาที

ข้อปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์

ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ restylane ทันที ควรงดสัมผัสบริเวณที่ฉีด เช่น กด นวด บีบ หรือขยับผิวในจุดนั้นมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้ตัวฟิลเลอร์เกิดการเคลื่อนไปยังจุดอื่นได้
  • ในช่วง 1 เดือนแรก ควรงดการทำเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด และหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งอย่างน้อย 48 ชั่วโมง เช่น การทำซาวน่า ตากแดด ออกกำลังกายหนัก
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ เพราะอาจทำให้เกิดการยุบบวมช้าหรืออักเสบได้
  • 2-3 คืนแรก ควรนอนหมอนสูงกว่าระดับหน้าอก งดนอนตะแคง
  • งดการทานอาหารที่ส่งผลต่อการยุบบวมของฟิลเลอร์ เป็นเวลา 14 วัน

หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ?

หลังฉีดฟิลเลอร์-ห้ามกินอะไรบ้าง
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ในช่วง 2 สัปดาห์แรก ควรงดอาหารหมักดอง อาหารแปรรูป เช่น ผลไม้ดอง ผักดอง ปลาร้า กุ้งดอง
  • อาหารที่มีรสเค็ม หรืออาหารที่มีโซเดียมสูงจะดูดน้ำจากร่างกาย อาจทำให้ฟิลเลอร์ยุบบวมช้าลง ตัวบวมน้ำได้ง่ายขึ้น รวมถึงอาหารที่มีรสหวาน รสเผ็ดมาก ๆ ที่ทำให้หน้าแดง
  • อาหารร้อน ที่ต้องนั่งหน้าเตาเป็นเวลานาน เช่น หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู  รวมไปถึงเครื่องดื่มร้อน ๆ
  • อาหารดิบที่ไม่ผ่านการปรุงสุก หรืออาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เช่น อาหารทะเล แซลมอน ซาซิมิ หอยสด ไข่ลวก เนื้อที่ปรุงไม่สุก
  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้หลอดเลือดขยายตัว มีเลือดมาสูบฉีดมากขึ้น อาจส่งผลให้เกิดอาการบวมจากรอยเข็มหายช้าลง และทำให้ฟิลเลอร์สลายไวขึ้นครับ  หมอแนะนำให้งดไปก่อน 14 วัน หรือถ้าหากใครที่เลี่ยงไม่ได้ก็ควรเว้นระยะ 2-3 วันครับ

ฟิลเลอร์ restylane ไม่เหมาะกับใคร ?

การฉีดฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับใครบ้าง
  • คนที่มีผิวติดเชื้อ ผิวอักเสบในบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์
  • ผู้ที่มีประวัติแพ้ฟิลเลอร์ หรือแพ้สารไฮยาลูรอนิกแอซิด รวมถึงผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชา ควรแจ้งแพทย์ก่อนทุกครั้ง
  • สตรีมีครรภ์ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ สำหรับผู้ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนฉีด
  • ผู้ที่มีปัญหาเลือดออกแล้วหยุดยาก มีแผลฟกช้ำง่าย โดยเฉพาะผู้ที่กำลังรับประทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน (ASA), ยาแก้อักเสบปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ (NSAIDS), ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด (Warfarin), วิตามินอี (Vitamin E), สารสกัดจากใบแปะก๊วย (Ginkgo biloba) เป็นต้น แต่สามารถฉีดได้ในบางกรณี จึงจำเป็นต้องหยุดยาก่อนฉีด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการหยุดยา
  • กรณีที่เป็นเริม หรืองูสวัดอยู่ ควรหลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์ เพราะอาจทำให้อาการกำเริบมากขึ้นได้ครับ

ฉีดฟิลเลอร์ restylane ที่ไหนดี ?

ฉีดฟิลเลอร์-restylane-ที่ไหนดี
  • เลือกคลินิกได้มาตรฐาน ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง มีใบอนุญาตประกอบการจากกระทรวงสาธารณสุข ติดแบบแสดงรูปถ่ายและรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพในคลินิก สะอาด ปลอดภัย
  • แพทย์ที่ทำหัตถการจะต้องมีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์และปรับรูปหน้า และต้องเป็นแพทย์จริง โดยสามารถตรวจสอบจากชื่อ-นามสกุลของแพทย์ท่านนั้น คนไข้สามารถตรวจสอบข้อมูลบนเว็บไซต์ของแพทยสภาได้ ที่นี่
  • ใช้ฟิลเลอร์ Restylane แท้ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจาก อย. ปลอดภัย นำเข้าและเก็บรักษาอย่างถูกต้อง สามารถตรวจสอบเลข Lot. ได้ โดยก่อนฉีดควรให้แพทย์แกะกล่อง และหลอดฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า และหลังฉีดฟิลเลอร์ ควรเก็บกล่องและหลอดฟิลเลอร์กลับบ้าน เพื่อตรวจสอบว่าเป็นฟิลเลอร์แท้จริง ๆ ครับ 
  • มีรีวิวจากแหล่งที่เป็นกลาง เชื่อถือได้ และไม่สามารถลบออกได้ เช่น รีวิวติดดาวบน Facebook Fanpage, Pantip Review, Google Maps และต้องเป็นรีวิวที่อัปเดตเป็นปัจจุบัน ซึ่งจะแสดงถึงความนิยม มีผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

สรุป

ฟิลเลอร์ Restylane ดีไหม ? ฟิลเลอร์เรสเทอเรน เป็นฟิลเลอร์อีกหนึ่งยี่ห้อที่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างครอบคลุม ตรงจุด ช่วยลดริ้วรอย และเติมเต็มร่องลึกที่แก้ได้ยาก ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ

หากคนไข้ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ดี ก่อนฉีดควรให้แพทย์ที่มีประสบการณ์ประเมินปัญหาใบหน้า สภาพผิว เพื่อเลือกรุ่นที่เหมาะกับคนไข้แต่ละเคสมากที่สุดครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
Juvederm voluma

Juvederm voluma มีจุดเด่นอย่างไร ? เหมาะกับการฉีดตำแหน่งไหน ?

Categories
filler
Juvederm voluma

Juvederm voluma

Juvederm voluma ฟิลเลอร์สัญชาติอเมริกา เป็นหนึ่งในรุ่นฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งในไทยและต่างประเทศ ด้วยเทคโนโลยีการผลิตพิเศษเฉพาะของแบรนด์ ทำให้ Juvederm voluma มีความโดดเด่นและเป็นที่ยอมรับจากแพทย์ความงามทั่วโลก 

ในบทความนี้หมอจะมาเจาะลึกฟิลเลอร์ Juvederm voluma ว่าดีอย่างไร ? เหมาะกับใคร ? juvederm voluma ราคาเท่าไหร่ ? ฉีดจุดไหน ? ใช้กี่ CC พร้อมแนะนำวิธีดูฟิลเลอร์แท้ และเปรียบเทียบ Filler voluma กับแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ ให้เห็นความแตกต่าง เพื่อเป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจของคนไข้ครับ

สารบัญ Juvederm voluma 

  1. Juvederm voluma คืออะไร ?
  2. Juvederm voluma มีจุดเด่นอย่างไร ?
  3. Juvederm voluma เหมาะกับใคร ?
  4. Juvederm voluma เหมาะกับการฉีดตำแหน่งไหน ? ใช้กี่ CC 
  5. Juvederm voluma ไม่เหมาะกับการฉีดตำแหน่งใด ?
  6. Juvederm voluma ต่างจากรุ่นอื่นอย่างไร ?
  7. Juvederm voluma ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ?
  8. Juvederm voluma อยู่ได้นานกี่เดือน ?
  9. ฉีด Juvederm voluma กี่วันเห็นผล ?
  10. Juvederm voluma มีข้อเสียไหม ?
  11. Juvederm voluma ของแท้ มีวิธีดูอย่างไร ?
  12. Juvederm voluma ราคา
  13. Juvederm voluma รีวิว

Juvederm voluma คืออะไร ?

ฟิลเลอร์ Juvederm voluma

ฟิลเลอร์ Juvederm voluma คือ สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ HA ที่ถูกผลิตโดยบริษัท Allergan ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจาก US.FDA และอย.ไทย นำเข้าโดยบริษัท Allergan Thailand 


Juvederm voluma มีจุดเด่นอย่างไร ?

จุดเด่น Juvederm voluma คือ เป็นฟิลเลอร์คุณภาพสูง โดดเด่นในเรื่องของการฉีดแล้วผิวยกกระชับขึ้น ด้วยการใช้เทคโนโลยี Vycross Technology ที่ถูกพัฒนาขึ้นให้มีคุณสมบัติในการยกกระชับได้ดี มีโมเลกุลยึดเกาะที่หนาแน่น มีความยืดหยุ่นสูง และมีอัตราการบวมน้ำหรืออุ้มน้ำน้อยกว่า เมื่อเทียบกับ Hyaluronic Acid ตัวอื่น จึงช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีด มีความเรียบเนียน ไม่เป็นก้อน และดูเป็นธรรมชาติครับ


Juvederm voluma เหมาะกับใคร ?

  • ผู้ที่มีปัญหาร่องใต้ตาจากการยุบตัวของกระดูกในผิวชั้นลึก
  • ผู้ที่มีปัญหาแก้มหย่อนคล้อย มีริ้วรอย ร่องแก้มลึก แก้มตอบ
  • ผู้ที่ขมับตอบจากเนื้อขมับและเนื้อแก้มตอบที่ยุบตัวลง
  • ผู้ที่ต้องการเพิ่มความอวบอิ่มให้ปาก ปรับรูปทรงปาก
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า เติมคาง เพิ่มวอลลุ่มให้ใบหน้า

Juvederm voluma เหมาะกับการฉีดตำแหน่งไหน ? ใช้กี่ CC 

จุดฉีด Filler Voluma

Filler Voluma เหมาะกับการฉีดขมับ ใต้ตา ร่องแก้ม ปาก และคาง โดยแต่ละตำแหน่งจะใช้ปริมาณฟิลเลอร์ไม่เท่ากันครับ ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้แต่ละคน หากมีร่องลึกหรือกระดูกยุบตัวลงมาก ๆ เช่น ขมับ ใต้ตา แพทย์ก็จะประเมินให้ใช้ปริมาณ CC ฟิลเลอร์เยอะกว่าจุดอื่น ๆ 

สำหรับปริมาณฟิลเลอร์ Juvederm Voluma ที่ใช้ในแต่ละจุด หมอประเมินปริมาณคร่าว ๆ ดังนี้ 

  • ฟิลเลอร์ขมับ 2-4 CC
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา 2-4 CC 
  • ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 1-3 CC 
  • ฟิลเลอร์ปาก 1-2 CC 
  • ฟิลเลอร์คาง 1-2 CC

Juvederm voluma ไม่เหมาะกับการฉีดตำแหน่งใด ?

สำหรับบางเคส การใช้ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma อย่างเดียวอาจแก้ปัญหาได้ไม่ครอบคลุม ไม่เพียงพอต่อการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนครับ หมอจะแนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์ 1-2 รุ่นในการแก้ปัญหา เช่น เคสที่ร่องใต้ตาลึก สาเหตุจากการยุบตัวของกระดูกใต้ตา หมอจะใช้ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma เพื่อยกผิวในชั้นกระดูก และใช้ฟิลเลอร์รุ่นที่มีเนื้อละเอียด เพื่อเก็บรายละเอียดใต้ตา ก็จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามขึ้นครับ 


Juvederm voluma ต่างจากรุ่นอื่นอย่างไร ?

Juvederm Voluma เมื่อเทียบกับฟิลเลอร์ Juvederm แต่ละรุ่น จะพบความแตกต่างทางด้านคุณสมบัติ ตำแหน่งที่ฉีด และระยะเวลาการคงผลลัพธ์ ดังนี้ครับ

Juvederm Ultra Plus
  • Juvederm Ultra Plus เป็นรุ่นที่มีลักษณะเนื้อนิ่ม ฉีดแล้วฟูมาก เต็มสวย เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องลึกจากการเปลี่ยนแปลงตามวัย เช่น ขมับ ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก หรือปาก คงผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 12 เดือน
Juvederm Volift
  • Juvederm Volift เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่มีลักษณะเนื้อนิ่ม เหมาะกับคนผิวบาง นิยมใช้ฉีดบริเวณใต้ตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ร่องริ้วรอยที่ไม่ลึกมาก หลังฉีดคงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
Juvederm Volbella
  • Juvederm Volbella เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด มีโมเลกุลขนาดเล็กที่มีความละเอียดมากที่สุด เหมาะสำหรับฉีดเติมบริเวณหน้าผาก ซึ่งเป็นจุดที่ต้องการความเรียบเนียน เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน หลังฉีดคงผลลัพธ์อยู่นานประมาณ 12 เดือน
Juvederm Volite
  • Juvederm Volite เป็นฟิลเลอร์รุ่นเนื้อฉ่ำ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น มีความเป็นธรรมชาติ นิยมใช้ฉีดบริเวณใต้ตา หรือเก็บรายละเอียดในผิวชั้นตื้น เหมาะกับคนผิวบาง หลังฉีดคงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 8-12 เดือน
Juvederm Volux
  • Juvederm Volux เป็นฟิลเลอร์เนื้อทน มีโมเลกุลขนาดใหญ่ จึงมีความยืดหยุ่นสูง ปั้นทรงสวย และคงรูปได้ดีที่สุดครับ เหมาะสำหรับฉีดคาง ใต้ตา ขมับ และร่องแก้มชั้นลึก หลังฉีดคงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 18-24 เดือน

Juvederm voluma ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ?

หากเปรียบเทียบ Juvederm voluma กับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ที่จัดอยู่ในกลุ่มฟิลเลอร์ “เนื้อทน” เช่นเดียวกัน จะพบความแตกต่างดังนี้

Juvederm Voluma vs. ฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น

Juvederm voluma อยู่ได้นานกี่เดือน ?

ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma อยู่ได้นาน 18 เดือน สลายได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย ทั้งนี้ระยะเวลาการคงผลลัพธ์ยังขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดของแต่ละคนด้วยครับ เพราะหากไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ก็อาจส่งผลให้ฟิลเลอร์สลายหายไปก่อนเวลาที่เหมาะสมได้


ฉีด Juvederm voluma กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ Juvederm Voluma สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันที อาจมีอาการบวมเข็มประมาณ 2-3 วันแรก สามารถหายได้เอง คนไข้ไม่ต้องกังวลครับ โดยจะเห็นผลได้ชัดเจนเมื่อฟิลเลอร์เข้าที่และอาการบวมยุบลงแล้วประมาณ 7-14 วันหลังทำ


Juvederm voluma มีข้อเสียไหม ?

  • Juvederm Voluma ราคาจะสูงกว่าเมื่อเทียบกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ฝั่งเอเชีย เช่น ฟิลเลอร์เกาหลี ฟิลเลอร์จีน แต่ถ้าเทียบประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ที่ได้ และระยะเวลาอยู่ได้นาน ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคา 
  • ให้ผลลัพธ์แบบชั่วคราว ไม่ถาวร หากคนไข้ต้องการคงสภาพผลลัพธ์ก็สามารถกลับมาฉีดซ้ำตามคำแนะนำของแพทย์ได้ครับ 

Juvederm voluma ของแท้ มีวิธีดูอย่างไร ?

ยี่ห้อแท้ของ Juvederm Voluma
  • มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
  • กล่องมี 2 cc และเลข lot ต้องตรงกัน 4 จุด คือ
    1. เลข lot ที่กล่อง
    2. เลข lot ที่ซอง
    3. เลข lot ที่สติกเกอร์
    4. เลข lot ที่หลอด
  • สามารถโทรเช็กเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัทจัดส่ง Allergan Thailand โทร. 062 460 7717

Juvederm voluma ราคา

Filler juvederm voluma ราคาแต่ละคลินิกจะไม่แตกต่างกันมาก เริ่มต้นที่ 1x,xxx.-/CC ขึ้นไป สำหรับที่ V Square Clinic โปรโมชันฉีด Filler voluma ราคาอยู่ที่ 12,900.-/ CC นอกจากนี้เรายังมีฟิลเลอร์ juvederm หลากหลายรุ่น ให้แพทย์เลือกใช้แก้ปัญหาของคนไข้แต่ละบุคคลได้อย่างเหมาะสมและตรงจุดครับ 

โปรฟิลเลอร์-Juvederm_03-OCT-2025

Juvederm voluma รีวิว

ฉีดฟิลเลอร์คาง แก้ปัญหาคางสั้น คางถอย ช่วยให้หน้าเรียวเป๊ะ
แก้ปัญหาใต้ตา ร่องแก้มลึก เพิ่มความสดใส ให้กลับไปหน้าเด็กอีกครั้ง
แก้ไขใต้ตาคล้ำ จากภูมิแพ้ ลดเหนียง สร้างกรอบหน้าด้วยฟิลเลอร์

สรุป

Juvederm voluma เป็นฟิลเลอร์แบรนด์อเมริกาที่คุณภาพดี มีลักษณะเนื้อแข็งและฟูปานกลาง ยืดหยุ่นสูง โมเลกุลขนาดใหญ่ เหมาะกับการฉีดในหลายบริเวณ เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม คาง ขมับ ให้ผลลัพธ์หลังฉีดที่ดูเป็นธรรมชาติ ปลอดภัย ถือเป็นฟิลเลอร์อีกรุ่นหนึ่งที่หมอมองว่าคุ้มค่าคุ้มราคาเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้

ใครที่กำลังมองหาคลินิกฉีดฟิลเลอร์ Juvederm Voluma ที่ไหนดี ที่ V Square Clinic ทีมแพทย์มากประสบการณ์กว่า 15 ปี ใช้ฟิลเลอร์แท้ แกะกล่อง เปิดหลอดต่อหน้าทุกเคส ฉีดด้วยเทคนิคพิเศษ มั่นใจได้ในผลลัพธ์และความปลอดภัยครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
ฟิลเลอร์คาง

ฉีดฟิลเลอร์คาง ราคาพร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้ม เฉพาะที่ V Square Clinic

Categories
filler
ฟิลเลอร์คาง

ฉีดฟิลเลอร์คาง ราคา

ฉีดฟิลเลอร์คาง ราคาโปรโมชั่นสุดคุ้ม ที่ V Square Clinic เริ่มต้น 11,900.- แก้ปัญหาคางสั้น คางตัด คางถอย ช่วยให้คางยาวขึ้น ใบหน้ามีมิติ ปรับหน้าเรียว วีเชฟ เห็นผลทันทีหลังฉีด ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ใช้ฟิลเลอร์ของแท้ ได้มาตรฐาน แบรนด์ระดับโลก ให้บริการโดยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้าโดยเฉพาะ

ฉีดฟิลเลอร์คาง by หมอเบส

สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์คาง ราคา

  1. ฉีดฟิลเลอร์คาง ราคาโปรโมชั่น
  2. ฉีดฟิลเลอร์คางแต่ละยี่ห้อ ต่างกันอย่างไร ?
  3. ฉีดฟิลเลอร์คางกับ V Square Clinic ดีอย่างไร ?
  4. รีวิว ฉีดฟิลเลอร์คาง

ฉีดฟิลเลอร์คาง ราคาโปรโมชั่น

ฉีดฟิลเลอร์คาง ราคาโปรโมชั่น ที่ V Square Clinic

Landingpage_โปรฟิลเลอร์คาง_ใส่ราคา_PC
Landingpage_โปรฟิลเลอร์คาง_ใส่ราคา_MO
  • Juvederm Voluma 12,900.- / 1 CC
  • Juvederm Volux 17,900.- / 1 CC
  • Restylane Perlane Lyft 12,900.- / 1 CC
  • Belotero Intense 11,900.- / 1 CC
  • Definisse Core 17,900.-/ 1 CC
  • Teoxane Ultra Deep ราคา 15,900.-/ 1.2 CC

ฉีดฟิลเลอร์คางแต่ละยี่ห้อ ต่างกันอย่างไร ?

การฉีดฟิลเลอร์คางด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง จะต้องฉีดเสริมที่กระดูก ไม่ใช่เสริมที่เนื้อคาง ดังนั้นควรเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่มีเนื้อแน่น มีความคงตัวสูง เพื่อให้ปั้นเป็นทรงสวย ขึ้นรูปได้ง่าย ที่ V Square Clinic เลือกใช้ฟิลเลอร์ 5 รุ่น ดังนี้ครับ

ฟิลเลอร์คาง ยี่ห้อ Restylane (สวีเดน) 

ฟิลเลอร์คาง ยี่ห้อ Restylane (สวีเดน)

ฟิลเลอร์ Restylane Perlane Lyft เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง ไม่ฟู และสามารถคงรูปได้ดีที่สุด อยู่ได้นาน 12 เดือน 

ฟิลเลอร์คาง ยี่ห้อ Juvederm voluma  (อเมริกา) 

ฟิลเลอร์คาง ยี่ห้อ Juvederm voluma (อเมริกา)

ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็งและฟูปานกลาง อุ้มน้ำได้มาก มีโมเลกุลขนาดใหญ่ มีความยืดหยุ่นสูง ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 18 เดือน

ฟิลเลอร์คาง ยี่ห้อ Juvederm Volux (อเมริกา) 

ฟิลเลอร์คาง ยี่ห้อ Juvederm Volux (อเมริกา)

ฟิลเลอร์ Juvederm Volux เป็นรุ่นที่มีการพัฒนาออกมาล่าสุด เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีโมเลกุลขนาดใหญ่ จึงมีความยืดหยุ่นสูง ปั้นทรงสวย และคงรูปได้ดีที่สุด อยู่ได้นาน 18-24 เดือน

ฟิลเลอร์คาง ยี่ห้อ Belotero Intense (สวิตเซอร์แลนด์)

ฟิลเลอร์คาง ยี่ห้อ Belotero Intense (สวิตเซอร์แลนด์)

ฟิลเลอร์ Belotero Intense เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นสูง มีจุดเด่นในการใช้แก้ปัญหาร่องลึกมาก ๆ จากการยุบตัวของเนื้อเยื่อผิวหนัง อยู่ได้นาน 18 เดือน

ฟิลเลอร์คาง ยี่ห้อ Definisse Core (อิตาลี)

ฟิลเลอร์คาง ยี่ห้อ Definisse Core (อิตาลี)

ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Definisse Core เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง เหมาะกับการเสริมกระดูก ปรับรูปหน้า เติม mid-face คาง กรอบหน้า อยู่ได้นาน 18 เดือน 


ฉีดฟิลเลอร์คางกับ V Square Clinic ดีอย่างไร ?

ฉีดฟิลเลอร์คางกับ V Square Clinic ดีอย่างไร by หมอโต้ง หมอเอก หมอแพร หมอบาส คุณเจสซี่
  • ฉีดฟิลเลอร์โดยทีมแพทย์มากประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้า มีใบประกอบวิชาชีพจากแพทยสภา อัปเดตความรู้ทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง  
  • ปรึกษาปัญหากับแพทย์โดยตรง ไม่ผ่านเซลล์
  • แก้ไขปัญหาตรงจุด พิถีพิถันในการเลือกรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะกับปัญหาผิวของแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ
  • ใช้ฟิลเลอร์แท้ แบรนด์ระดับโลก หมอแกะกล่องให้ดูต่อหน้า ให้กล่องกลับบ้าน ตรวจสอบกับผู้นำเข้าได้ทุกกล่อง 
  • ฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิคเฉพาะของ V Square Clinic มือเบา ช้ำน้อย บวมน้อย 
  • หลังฉีดมีการนัดติดตามผลหลังทำทุกเคส

รีวิว ฉีดฟิลเลอร์คาง

รีวิว ฉีดฟิลเลอร์คาง ที่ V Square Clinic ทีมแพทย์จะใช้เทคนิคฉีดฟิลเลอร์คางแบบเดียวกับการผ่าตัดเสริมคาง เมื่อฉีดไปแล้วเรียบเนียน ไม่มีปัญหาไหลย้อยหรือเป็นก้อน

รีวิว ฉีดฟิลเลอร์คาง(3)
รีวิว ฉีดฟิลเลอร์คาง(4)
รีวิว ฉีดฟิลเลอร์คาง(1)
รีวิว ฉีดฟิลเลอร์คาง
รีวิว ฉีดฟิลเลอร์คาง(5)
รีวิว ฉีดฟิลเลอร์คาง(2)
รีวิว ฉีดฟิลเลอร์คาง(7)
รีวิว ฉีดฟิลเลอร์คาง(6)

การฉีดคางใช้ filler เพียง 1 cc ก็สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน และควรเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง เพื่อคงสภาพให้อยู่ทรงได้นาน ก่อนฉีดควรปรึกษาแพทย์ เพื่อช่วยประเมินปริมาณฟิลเลอร์และยี่ห้อที่เหมาะสมของแต่ละคน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ


สรุป

การฉีดฟิลเลอร์คางราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ครับ สามารถช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียว คางยาวขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด ใช้เวลาในการทำไม่นาน หลังฉีดเห็นผลทันที เมื่อฟิลเลอร์สลายสามารถฉีดซ้ำได้โดยไม่ทำให้คางผิดรูป ไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกาย

ราคาฉีดฟิลเลอร์คาง ที่ V Square Clinic เริ่มต้นที่ 9,900 บาท ฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้า ใช้ฟิลเลอร์แท้ แบรนด์ระดับโลก มั่นใจได้ในความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่สวยงาม ก่อนฉีดจะแกะกล่องใหม่ต่อหน้าทุกครั้ง สามารถตรวจสอบกับบริษัทที่นำเข้าได้ หากยังไม่แน่ใจหรือมีข้อสงสัย ก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง สามารถเข้ามาปรึกษาหมอโดยตรง ไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อให้หมอประเมินรูปหน้า ให้คำแนะนำที่ถูกต้องและดีที่สุดครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
โปรโมชั่นฟิลเลอร์ V Square Clinic

โปรโมชั่นฟิลเลอร์สุดคุ้ม ที่ V Square Clinic

Categories
filler
โปรโมชั่นฟิลเลอร์ V Square Clinic

โปรโมชั่นฟิลเลอร์

โปรโมชั่นฉีดฟิลเลอร์ ที่ V Square Clinic ราคาเริ่มต้น 7,490.-/1 CC คลินิกใช้ฟิลเลอร์แบรนด์ระดับโลก ผ่านอย. ได้แก่ Juvederm (อเมริกา), Restylane (สวีเดน), Belotero (สวิตเซอร์แลนด์) และ Definisse (อิตาลี) มั่นใจได้ในความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ

รวมโปรโมชั่นฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ร่องแก้ม คาง ปาก หน้าผาก ขมับ จมูก โปรโมชั่น filler แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น ราคาเท่าไหร่ ? ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? แก้ปัญหาได้ตรงจุดและคุ้มค่ากับงบประมาณครับ

Landingpage_โปรฟิลเลอร์รวม_ใส่ราคา_PC_01OCT25
Landingpage_โปรฟิลเลอร์รวม_ใส่ราคา_MO_01OCT25

สารบัญ โปรโมชั่นฟิลเลอร์

  1. โปรโมชั่นฟิลเลอร์ แต่ละตำแหน่ง
  2. โปรโมชั่นฟิลเลอร์ แต่ละยี่ห้อ
  3. โปรโมชั่นฟิลเลอร์ของ V Square Clinic ดูได้จากช่องทางใดบ้าง ?
  4. ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์กับ V Square Clinic
  5. รีวิวฟิลเลอร์

โปรโมชั่นฟิลเลอร์ แต่ละตำแหน่ง

ตำแหน่งฉีดฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์สามารถเติมเต็มได้หลายจุดบนใบหน้า ตำแหน่งที่ฉีดแล้วสามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ดีที่สุด ได้แก่ ฟิลเลอร์ใต้ตา ร่องแก้ม คาง ปาก หน้าผาก ขมับ จมูก ที่ V Square Clinic โปรโมชั่นฟิลเลอร์ แต่ละตำแหน่ง เริ่มต้นดังนี้

ฟิลเลอร์ราคาเท่าไหร่
  • โปรโมชั่นฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเริ่มต้น 11,900.-/1 CC
  • โปรโมชั่นฟิลเลอร์ร่องแก้ม ราคาเริ่มต้น 7,490.-/1 CC
  • โปรโมชั่นฟิลเลอร์คาง ราคาเริ่มต้น 11,900.-/1 CC
  • โปรโมชั่นฟิลเลอร์ปาก ราคาเริ่มต้น 12,900.-/1 CC
  • โปรโมชั่นฟิลเลอร์หน้าผาก ราคาเริ่มต้น 16,900.-/1 CC
  • โปรโมชั่นฟิลเลอร์ขมับ ราคาเริ่มต้น 7,490.-/1 CC
  • โปรโมชั่นฟิลเลอร์จมูก ราคาเริ่มต้น 16,900.-/1 CC

โปรโมชั่นฟิลเลอร์ แต่ละยี่ห้อ

V Square Clinic ใช้ฟิลเลอร์แท้ แบรนด์ชั้นนำ ได้รับความไว้วางใจจากแพทย์ทั่วโลก มีความปลอดภัย ให้ผลลัพธ์ดีในการเติมเต็มปรับรูปหน้าและลดริ้วรอย ได้แก่

  • ฟิลเลอร์ Juvederm (อเมริกา) มีจุดเด่นที่ความเรียบเนียน เหมาะกับการนำมาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ร่องแก้ม ปาก คาง ขมับ และแก้มตอบ
  • ฟิลเลอร์ Restylane (สวีเดน) มีจุดเด่นในเรื่องขนาดโมเลกุลฟิลเลอร์ มีเม็ดใหญ่ช่วยให้อยู่ได้นานขึ้น และมีค่าความแข็งสูง เด่นเรื่องการยกพยุงผิว มีความยืดหยุ่นได้ดี  
  • ฟิลเลอร์ Belotero (สวิตเซอร์แลนด์) มีจุดเด่นที่เนื้อเจลที่มีความคงตัวมาก สามารถใช้ฉีดเสริมกระดูกและเนื้อเยื่อผิวหนังที่ยุบตัวลงตามวัย 
  • ฟิลเลอร์ Definisse (อิตาลี) มีจุดเด่นในการยกพยุง เห็นผลยกกระชับทันที ปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ 

แต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน มีหลายรุ่นให้แพทย์เลือกใช้ให้เหมาะกับปัญหาและสภาพผิวของคนไข้

ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? เลือกใช้รุ่นไหนดี ?

โปรโมชั่นฟิลเลอร์ Juvederm (อเมริกา) 

โปรฟิลเลอร์-Juvederm_03-OCT-2025
  • Juvederm Ultra Plus ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ฉีดแล้วฟูมาก ทำให้เต็มสวย เหมาะสำหรับฉีดขมับ ปากร่องแก้ม อยู่ได้นาน 12 เดือน ราคา 7,490.-/1 CC
  • Juvederm Voluma ฟิลเลอร์เนื้อแข็งและฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา คาง ขมับ ปาก ร่องแก้ม อยู่ได้นาน 18 เดือน ราคา 12,900.-/1 CC
  • Juvederm Volift ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความละเอียดมากกว่ารุ่น Ultra Plus เหมาะกับคนผิวบาง เหมาะสำหรับฉีดปาก แก้มตอบ มุมปาก ร่องแก้ม หว่างคิ้ว อยู่ได้นาน 12 เดือน ราคา 12,900.-/1 CC
  • Juvederm Volux ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีโมเลกุลขนาดใหญ่ จึงมีความยืดหยุ่นสูง ปั้นทรงสวย และคงรูปได้ดีที่สุด เหมาะสำหรับฉีดคาง ใต้ตา ขมับ ร่องแก้มชั้นลึก อยู่ได้นาน 18-24 เดือน ราคา 17,900.-/1 CC

โปรโมชั่นฟิลเลอร์ Restylane (สวีเดน) 

โปรฟิลเลอร์-Restylane_24-OCT-2025.1
  • Restylane Perlane Lyft ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง ไม่ฟู และสามารถคงรูปได้ดีที่สุด เหมาะฉีดใต้ตา จมูก คาง อยู่ได้นาน 12 เดือน ราคา 12,900.-/1 CC 
  • Restylane Vital Light ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เจลอนุภาคเล็ก แก้ไขจุดที่มีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ เหมาะฉีดเก็บรายละเอียดใต้ตา ผิวชั้นตื้น ปาก อยู่ได้นาน 6-12 เดือน ราคา 12,900.-/1 CC 
  • Restylane Vital ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา หน้าผาก ให้ผลเรียบเนียน เป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 12 เดือน ราคา 15,900.-/1 CC    
  • Restylane Volyme ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ใช้เติมชั้นผิวให้อิ่มฟูขึ้น เหมาะฉีดปาก แก้มตอบ มุมปาก ร่องแก้ม อยู่ได้นาน 18 เดือน ราคา 13,900.-/1 CC 
  • Restylane Defyne ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง เนื้อเจลมีความนิ่มปานกลางและยืดหยุ่นสูง ใช้ฉีดกระดูกที่ยุบตัวในผิวชั้นลึก เหมาะฉีดใต้ตา อยู่ได้นาน 18 เดือน ราคา 12,900.-/1 CC  
  • Restylane Refyne ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีลักษณะยืดหยุ่น ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยลึกที่เกิดจากการยิ้ม เน้นการเติมเต็มริ้วรอยเล็ก ๆ เหมาะสำหรับฉีดปาก ร่องแก้ม มุมปาก อยู่ได้นาน 12 เดือน ราคา 12,900.-/1 CC  
  • Restylane Classic ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ออกแบบมาสำหรับแก้ปัญหาริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก ใช้เก็บรายละเอียดใต้ตาในผิวชั้นลึก สำหรับคนผิวบาง เหมาะฉีดใต้ตา ปาก อยู่ได้นาน 12 เดือน ราคา 11,900.-/1 CC
  • Restylane Kysse ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด แต่มีความคงตัว สร้างขอบริมฝีปากที่ชัดเจนให้ความชุ่มชื้นและความอวบอิ่ม ออกแบบมาสำหรับใช้เติมเต็มริมฝีปากโดยเฉพาะ อยู่ได้นาน 12 เดือน ราคา 12,900.-/1 CC

โปรโมชั่นฟิลเลอร์ Belotero (สวิตเซอร์แลนด์) 

โปรฟิลเลอร์-Belotero_03-OCT-2025
  • Belotero Intense ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นสูง มีจุดเด่นในการใช้แก้ปัญหาร่องลึกมากๆ จากการยุบตัวของเนื้อเยื่อผิวหนัง เหมาะสำหรับฉีด ร่องแก้ม/เติมแก้มตอบ คาง อยู่ได้นาน 18 เดือน ราคา 11,900.-/1 CC
  • Belotero Soft ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา only อยู่ได้นาน 8-12 เดือน ราคา 11,900.-/1 CC
  • Belotero Volume ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นและคงตัวสูง เหมาะสำหรับฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก อยู่ได้นาน 18 เดือน ราคา 11,900.-/1 CC
  • Belotero Revive เนื้อละเอียด มีส่วนประกอบของกลีเซอรอล ช่วยเพิ่มและกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว เหมาะฉีดใต้ตา/ปรับสภาพผิวหน้า/ปาก/ลำคอ/หลังมือ อยู่ได้นาน 6-9 เดือน ราคา 12,900.-/1 CC 

ฟิลเลอร์  Definisse (อิตาลี)

[ล่าสุด2024] ฟิลเลอร์ Definisse ดีไหม แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร ? l หมอ V Square แชร์หมดเปลือก
โปรฟิลเลอร์-Definisse_03-OCT-2025.1
  • Definisse Restore ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความแข็งปานกลาง เหมาะกับการเติมริ้วรอยร่องลึก ริ้วรอยหย่อนคล้อยตามวัย เติมร่องแก้ม ร่องมุมปาก อยู่ได้นาน 12 เดือน ราคา 11,900.-/1 CC
  • Definisse Core ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง เหมาะกับการเสริมกระดูก ปรับรูปหน้า เติม mid-face คาง กรอบหน้า อยู่ได้นาน 18 เดือน ราคา ราคา 17,900.-/1 CC
  • Definisse Touch ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เนียนละเอียด ขึ้นรูปได้ดี เหมาะฉีด ใต้ตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ปาก อยู่ได้ 8-12 เดือน ราคา 11,900.-/1 CC
โปร-ฟิลเลอร์Teoxane_30-OCT-2025
  • Teoxane Ultra Deep  ฟิลเลอร์เนื้อแน่น สามารถปั้นขึ้นรูปได้ดี เคลื่อนที่ยาก มีความคงตัวสูง อยู่ได้ 18 เดือน ราคา 15,900.-/1.2 CC
  • Teoxane RHA 2 ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ยืดหยุ่น ทนต่อแรงขยับได้ดี อยู่ได้นาน 18 เดือน ราคา 15,900.-/1 CC
  • Teoxane RHA 3 ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ค่อนไปทางแน่นปานกลาง ทนต่อแรงขยับได้ดี เรียบเนียน ไม่เป็นก้อน ราคา 13,900.-/1 CC
  • Teoxane RHA 1 ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด มีความบาง เบา และมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับผิวที่บาง อยู่ได้นาน 12 เดือน ราคา 13,900.-/1 CC
  • Teoxane RHA 4 ฟิลเลอร์เนื้อแน่น ฟูเพิ่ม เหมาะสำหรับการให้วอลลุ่มในชั้นลึก มีความยืดหยุ่นดีเยี่ยม อยู่ได้นาน 15–18 เดือน ราคา 15,900.-/1 CC
  • Teoxane Redensity1 ฟิลเลอร์เนื้อฉ่ำ เจลเนื้อบางเบา ลื่นไหลดี กระจายตัวได้สม่ำเสมอ ไม่เป็นก้อน ให้ความชุ่มชื้นลึกโดยไม่เพิ่ม Volume อยู่ได้นาน 3 เดือน ราคา 17,900.-/1 CC
  • Teoxane Redensity2 ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ลดความหมองคล้ำและเติมเต็มร่องลึกใต้ตาได้อย่างเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 12 เดือน  ราคา 15,900.-/1 CC

โปรโมชั่นฟิลเลอร์ของ V Square Clinic ดูได้จากช่องทางใดบ้าง ?

คนไข้สามารถติดตามโปรโมชั่นฟิลเลอร์ล่าสุด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือปรึกษาหมอออนไลน์ (หมอตอบเอง) รวมทั้งอัปเดตสารน่ารู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับฟิลเลอร์ได้หลากหลายช่องทาง ดังนี้    

LOGO_VSQ

ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์กับ V Square Clinic

  • V Square Clinic เป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง 
  • บรรยากาศภายในคลินิก สะอาด กว้างขวาง มีพื้นที่รับรอง ห้องหัตถการที่เพียงพอ 
  • ฉีดฟิลเลอร์โดยทีมแพทย์ประสบการณ์สูงด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า 
  • ใช้เทคนิคพิเศษของ V Square มุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ 
  • ใช้ฟิลเลอร์แท้ หมอแกะกล่องใหม่ให้ดูต่อหน้า ตรวจสอบกับบริษัทนำเข้าได้ทุกกล่อง 
  • ปรึกษาปัญหา ปรับรูปหน้ากับหมอโดยตรง ไม่ผ่านเซลล์ 
  • มีรีวิวจากคนไข้ ได้รับความไว้วางใจจากดารา & Celebrity แถวหน้าของไทย
  • หลังฉีดฟิลเลอร์มีการติดตามผลหลังทำทุกเคส  
ฉีดฟิลเลอร์ที่ V Square Clinic

รีวิวฟิลเลอร์

การดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการตัดสินใจครับ เพื่อให้เห็นความเปลี่ยนแปลงก่อนทำ-หลังทำ ควรดูทั้งรีวิวที่เป็นภาพนิ่งและวิดีโอ เพื่อให้เห็นปัญหาของคนไข้แต่ละเคสที่หลากหลาย ขั้นตอนการทำ เทคนิคที่ฉีด ฟิลเลอร์ที่ใช้ รวมถึงผลลัพธ์หลังฉีด เพราะหากมองในเรื่องความคุ้มค่า นอกจากราคาแล้ว ผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ ต้องมาควบคู่กันครับ  

  • รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา
รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา
รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา(1)
ฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ
  • รีวิวฟิลเลอร์ร่องแก้ม
รีวิวฟิลเลอร์ร่องแก้ม(1)
รีวิวฟิลเลอร์ร่องแก้ม
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม เติมเต็มร่องแก้มลึก
  • รีวิวฟิลเลอร์จมูก
รีวิวฟิลเลอร์จมูก(1)
รีวิวฟิลเลอร์จมูก
  • รีวิวฟิลเลอร์หน้าผาก 
รีวิวฟิลเลอร์หน้าผาก(1)
รีวิวฟิลเลอร์หน้าผาก by คุณพีช
เติมเต็มหน้าผากยุบ ด้วยฟิลเลอร์หน้าผาก
  • รีวิวฟิลเลอร์ขมับ 
รีวิวฟิลเลอร์ขมับ(1)
รีวิวฟิลเลอร์ขมับ
ฟิลเลอร์ขมับ ปรับรูปหน้าสมส่วน
  • รีวิวฟิลเลอร์ปาก 
รีวิวฟิลเลอร์ปาก
รีวิวฟิลเลอร์ปาก
ฟิลเลอร์ปาก ปรับทรงปากสวย อวบอิ่ม
  • รีวิวฟิลเลอร์คาง 
รีวิวฟิลเลอร์คาง(1)
รีวิวฟิลเลอร์คาง
ฟิลเลอร์คาง แก้ปัญหาคางสั้น

สรุป

โปรโมชั่นฟิลเลอร์ที่ V Square Clinic ราคาเริ่มต้น 9,900.-/1 CC ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ รุ่นฟิลเลอร์ ปริมาณ CC ที่ใช้ในการแก้ปัญหาครับ ที่คลินิกมีฟิลเลอร์ให้หลายยี่ห้อ ให้แพทย์เลือกใช้แก้ปัญหาอย่างเหมาะสม ตรงตามงบประมาณและความต้องการของคนไข้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและคุ้มค่าคุ้มราคา

การฉีดฟิลเลอร์สามารถค่อย ๆ ทยอยทำได้ครับ ไม่จำเป็นต้องแก้ไขทุกปัญหาในครั้งเดียว หมอจะวางแผนร่วมกับคนไข้ โดยเริ่มแก้ไขที่ปัญหาหลัก ๆ ก่อน ตามงบประมาณและความต้องการของคนไข้เป็นหลักครับ

หมอประเมินออนไลน์ by หมอโต้ง หมอแพน หมอเบิร์ด

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อไหนดี 370X277

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อไหนดี ? มีกี่รุ่น ต่างกันอย่างไร ? เลือกแบบไหนไม่เป็นก้อน

Categories
filler
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อไหนดี โดยหมอเป้

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อไหนดี

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อไหนดี เป็นคำถามที่หลายคนอยากรู้เมื่อคิดจะแก้ปัญหาร่องแก้มลึกครับ แต่พอเจอแบรนด์ดัง ๆ อย่าง Juvederm, Restylane, Belotero และอีกหลายตัว ก็อาจจะลังเลว่าจะเลือกตัวไหนดี

บทความนี้หมอจะอธิบายให้ครับ ว่าแต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นอะไร ราคาเท่าไร ยี่ห้อไหนอยู่ได้นาน เพื่อช่วยตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

สารบัญ ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อไหนดี


ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อไหนดีเหมือนกันจริงไหม ?

หลายคนอาจสงสัยว่า ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อไหนดี และฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างกันหรือไม่ ?

ในการฉีดฟิลเลอร์แม้ว่าทั้งหมดจะเป็นสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid เหมือนกัน แต่ความจริงแล้ว ฟิลเลอร์แต่ละแบรนด์มีเทคโนโลยีการผลิตที่แตกต่างกัน ส่งผลให้เนื้อสัมผัส การคงรูป และระยะเวลาการเห็นผลลัพธ์แตกต่างกันไปด้วยครับ

เลือกฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อไหนดี
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม มีหลายยี่ห้อ หมอจะเลือกให้เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละคน
และใน 1 เคส ไม่จำเป็นต้องใช้รุ่นใดรุ่นหนึ่งเพียงรุ่นเดียวเสมอไปครับ

ฟิลเลอร์บางรุ่น เช่น Juvederm Volux หรือ Belotero Intense ออกแบบมาให้มีเนื้อแข็ง ทนทาน เหมาะสำหรับเติมร่องลึกและการยกกระชับ ในขณะที่ Restylane Volyme หรือ Neuramis Deep จะมีเนื้อแน่น ทนต่อการขยับได้ดี

ด้วยเหตุนี้หมอจึงต้องประเมินปัญหาของคนไข้ก่อนว่า ร่องแก้มลึกของแต่ละคนเกิดจากอะไร แล้วจึงคิดว่าควรเลือกใช้ Filler ร่องแก้ม ยี่ห้อไหนดี ให้เหมาะสม เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดและได้ผลลัพธ์ที่สวยงามครับ


ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อไหนดี แต่ละรุ่นมีจุดเด่นอย่างไร ?

ฟิลเลอร์ร่องแก้มมีหลายยี่ห้อ หลายรุ่น คนไข้อาจจะไม่แน่ใจว่าควรเลือกแบบไหนดี หมอสรุปจุดเด่นของแต่ละรุ่นมาให้ครับ

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อ Juvederm

Juvederm เป็นแบรนด์อเมริกาที่ได้รับความนิยมสูงด้วยคุณภาพระดับพรีเมียม จุดเด่นของ Juvederm คือเนื้อฟิลเลอร์ที่เนียนละเอียด ยืดหยุ่นสูง คงทนอยู่ได้นาน

  • Juvederm Ultra Plus ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มและฟูมาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มลึกจากการเปลี่ยนแปลงตามวัย
  • Juvederm Voluma ฟิลเลอร์เนื้อทน ฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง เติมเต็มร่องลึกได้อย่างเป็นธรรมชาติ
  • Juvederm Volift ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความละเอียดสูง เติมเต็มร่องแก้มได้อย่างเรียบเนียน
  • Juvederm Volux เนื้อแข็งที่สุดในกลุ่ม มีโมเลกุลขนาดใหญ่ มีความยืดหยุ่นสูง คงรูปได้ดีเหมาะสำหรับฉีดร่องแก้มชั้นลึก

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อ Restylane

Restylane เป็นฟิลเลอร์จากสวีเดนที่เน้นความยืดหยุ่นและคงรูปได้ดี จุดเด่นคือความเป็นธรรมชาติและเหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องลึก

  • Restylane Volyme ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มปานกลาง และความยืดหยุ่นสูงมาก เรียบเนียนไปกับผิวได้ดี ไม่เป็นก้อน

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อ Belotero

Belotero เป็นแบรนด์จากสวิตเซอร์แลนด์ เด่นในเรื่องการเข้ากับเนื้อผิวได้อย่างกลมกลืน ลดโอกาสการเกิดก้อน

  • Belotero Intense ฟิลเลอร์เนื้อทน มีความยืดหยุ่น ช่วยฟื้นฟูและเพิ่ม Volume ของชั้นผิว เหมาะเติมร่องแก้มจากการยุบตัวของเนื้อเยื่อผิวหนัง

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อ Definisse

Definisse Filler เป็นฟิลเลอร์จากอิตาลีที่ได้รับความนิยมในยุโรป โดดเด่นเรื่องการคงรูปและฟื้นฟูผิว

  • Definisse Restore ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความแน่นปานกลาง เหมาะกับการเติมริ้วรอยหย่อนคล้อยตามวัย
  • Definisse Touch ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เนียนละเอียด กลืนกับชั้นผิวได้ดี เหมาะกับการลดริ้วรอยตื้น ๆ บริเวณร่องแก้ม

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อ Teoxane

Teoxane เป็นฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ เนื้อมีความยืดหยุ่น สามารถกลมกลืนเข้ากับการเคลื่อนไหวของผิวได้ดี

  • Teoxane RHA 2 ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ค่อนข้างยืดหยุ่น เหมาะกับการเติมริ้วรอยร่องแก้มระดับปานกลาง หลังฉีดไม่เป็นก้อน
  • Teoxane RHA 3 ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม แต่ค่อนข้างแน่น ทนต่อแรงขยับได้ดี เหมาะเติมริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก

นอกจากนี้ยังมีฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อ Flore AQUA-S ที่เน้นเรื่องความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิว เหมาะกับผิวชั้นตื้น หรือ Neuramis Deep ของเกาหลี เนื้อแน่น อิ่มฟู ปั้นทรงง่าย ซึ่งจะมีราคาถูกลงมาจากแบรนด์ยุโรป สามารถใช้ฉีดร่องแก้มได้เช่นกันครับ ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ตามความเหมาะสม

ฉีดร่องแก้ม ยี่ห้อไหนดี ? | V Square Clinic

Filler ร่องแก้ม แต่ละยี่ห้อ / รุ่น อยู่ได้นานแค่ไหน ?

Filler ร่องแก้ม แต่ละยี่ห้อ อยู่ได้นานประมาณ 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นที่ใช้ครับ

  • Juvederm Ultra Plus อยู่ได้ 12 เดือน
  • Juvederm Voluma อยู่ได้ 18 เดือน
  • Juvederm Volift อยู่ได้ 12 เดือน
  • Juvederm Volux อยู่ได้ 18-24 เดือน
  • Restylane Volyme อยู่ได้ 18 เดือน
  • Belotero Intense อยู่ได้ 18 เดือน
  • Definisse Restore อยู่ได้ 12 เดือน
  • Definisse Touch อยู่ได้ 8-12 เดือน
  • Teoxane RHA 2 อยู่ได้ 18 เดือน
  • Teoxane RHA 3 อยู่ได้ 12-18 เดือน
Vsquare tips

ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ จะมีความแตกต่างกันตามเทคโนโลยีการผลิต ซึ่งส่งผลต่อลักษณะเนื้อฟิลเลอร์รวมถึงอายุการใช้งาน เพื่อเลือกแบรนด์ที่เหมาะกับความต้องการ สามารถอ่านรายละเอียดของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อเพิ่มเติมได้ที่ ฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี เพื่อให้เข้าใจและตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ


จะรู้ได้อย่างไรว่าควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อไหนดี ?

ปัญหาการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ส่วนใหญ่ที่พบคือฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อน เพราะร่องแก้มเป็นจุดที่มีการขยับบ่อย ทั้งเวลาพูด ยิ้ม หรือทานอาหาร ทำให้ผิวบริเวณนั้นพับได้ง่าย ถ้าใช้เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ถูกต้อง หรือเลือกรุ่นที่ไม่เหมาะสม จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นดึงฟิลเลอร์มากองรวมกันได้ครับ

เลือกฟิลเลอร์ร่องแก้มยี่ห้อไหนดี ให้เหมาะสม ได้ผลลัพธ์สวย เป็นธรรมชาติ ไม่ใช่แค่ดูจากยี่ห้อหรือราคาเพียงอย่างเดียว แต่ควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อประเมินลักษณะใบหน้า สภาพผิว และความลึกของร่องแก้มในแต่ละบุคคล แล้วจึงเลือกยี่ห้อที่ตอบโจทย์ปัญหา

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อไหนดี ปรึกษาหมอก่อน โดยหมอเบิร์ด

สิ่งที่แพทย์จะพิจารณา

  • ระดับความลึกของร่องแก้ม ร่องแก้มลึกมากอาจต้องใช้ฟิลเลอร์ที่มีเนื้อแข็ง เช่น Juvederm Volux หรือ Neuramis Deep
  • สภาพผิว ผิวบางหรือบอบบางอาจเหมาะกับฟิลเลอร์ที่มีเนื้อขึ้นมาหน่อยครับ เช่น Juvederm Volift หรือ Definisse Touch
  • ผลลัพธ์ที่คนไข้ต้องการ เช่น ต้องการให้ร่องแก้มหายไปเลย หรือต้องการเติมเต็มแบบธรรมชาติ

หลังประเมินแล้วหมอจะแนะนำฟิลเลอร์รุ่นที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคนได้อย่างถูกต้องและแม่นยำครับ ดังนั้นการเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์และคลินิกที่ได้มาตรฐานจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก หมอเขียนรายละเอียดไว้ในบทความ ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ไหนดี ? แนะนำเทคนิคตรวจสอบคลินิกเสริมความงาม ที่ได้มาตรฐาน


ราคาฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม แต่ละยี่ห้อ รุ่น ที่ V Square Clinic

สำหรับผู้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ราคา ที่ V Square Clinic มีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับฟิลเลอร์หลากหลายรุ่นและยี่ห้อที่ได้รับความนิยมทั่วโลกครับ โดยราคาจะแตกต่างกันไปตามคุณสมบัติและจุดเด่นของฟิลเลอร์ในแต่ละรุ่น

Landingpage_โปรฟิลเลอร์ร่องแก้ม_ใส่ราคา_PC
Landingpage_โปรฟิลเลอร์ร่องแก้ม_ใส่ราคา_MO

ควรฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแต่ละยี่ห้อกี่ CC จึงจะเห็นผล ?

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและเป็นธรรมชาติ ขึ้นอยู่กับระดับความลึกของร่องแก้มและรุ่นฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ โดยปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องใช้ในแต่ละคนอาจแตกต่างกันครับ

  • ร่องแก้มตื้น (Fine Lines) ใช้ประมาณ 1 CC ต่อข้าง
  • ร่องแก้มลึกปานกลาง ใช้ประมาณ 1-2 CC ต่อข้าง ขึ้นอยู่กับความลึกของร่องแก้ม
  • ร่องแก้มลึกมาก ใช้ประมาณ 2-3 CC ต่อข้าง เพื่อเติมเต็มและยกกระชับให้ได้ผลชัดเจน

ตัวอย่างรีวิว ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

สรุปเรื่องฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อไหนดีที่สุด

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อไหนดีที่สุด ขึ้นอยู่กับปัญหาร่องแก้มของแต่ละคนและผลลัพธ์ที่ต้องการครับ ไม่มีฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนที่ใช้รุ่นเดียวแล้วฉีดได้ทุกจุด ทุกชั้นผิว ดังนั้นการเลือกฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ สามารถประเมินปัญหาและแนะนำฟิลเลอร์รุ่นที่เหมาะสมได้อย่างแม่นยำ จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม เป็นธรรมชาติ ลดความเสี่ยงในการเกิดก้อนหลังฉีดฟิลเลอร์ครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน

ฉีดฟิลเลอร์ บวมกี่วัน โดยหมอปุุ๊ก 370X277

ฉีดฟิลเลอร์บวมกี่วัน ? บวมแบบไหนอันตราย มีวิธีการดูแลอย่างไร ?

Categories
filler
ฉีดฟิลเลอร์ บวมกี่วัน โดยหมอปุุ๊ก

ฉีดฟิลเลอร์ บวมกี่วัน ? 

อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ เป็นอาการปกติที่พบได้ปกติ ฉีดฟิลเลอร์ บวมกี่วัน ทั่วไปสามารถหายได้เองใน 7-14 วันครับ แต่เนื่องจากอาการบวมมีหลายประเภท ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมแบบไหนที่เป็นอันตราย หลังฉีด filler คนไข้จึงควรสังเกตอาการของตนเอง ในกรณีที่เกิดผลข้างเคียงจะได้แยกได้ออกครับว่าเป็นอาการบวมที่เป็นปกติหรืออันตราย จะได้แก้ไขอย่างทันท่วงที 

อาการบวมจากฟิลเลอร์ โดยหมอกอล์ฟ
อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์

สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์ บวมกี่วัน ? 

  1. ฉีดฟิลเลอร์ บวมกี่วัน ?
  2. ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวม มีกี่ประเภท
  3. จุดที่มักพบอาการบวมจากการฉีดฟิลเลอร์
  4. ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวม อันตรายไหม ?
  5. ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวม มีวิธีการปฏิบัติตัวอย่างไร ?

ฉีดฟิลเลอร์ บวมกี่วัน ? 

  • ฉีดฟิลเลอร์ บวมกี่วัน ? หลังฉีดฟิลเลอร์ จะมีอาการบวมอยู่ประมาณ 4-5 วันครับ ฟิลเลอร์ยุบบวมเข้าที่ใน 7-14 วัน 

อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์สามารถเกิดขึ้นได้เป็นปกติ หายบวมได้เองครับ เพราะเป็นอาการบวมจากยาชา และบวมจากเนื้อฟิลเลอร์ เมื่อยาชาหมดฤทธิ์และเนื้อฟิลเลอร์ค่อย ๆ ผสานรวมเป็นเนื้อเดียวกันกับเนื้อเยื่อผิวของเรา ผิวก็เรียบเนียน ดูเป็นธรรมชาติ 

หลังฉีดฟิลเลอร์ 1 สัปดาห์
รีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์ 1 สัปดาห์
หลังฉีดฟิลเลอร์ 14 วัน
รีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์ 14 วัน

ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวม มีกี่ประเภท

ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวม มี 2 ประเภท เกิดได้จากหลายปัจจัย ดังนี้   

1. อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ที่เป็นปกติ ไม่เป็นอันตราย 

  • บวมจากการฉีดยาชา เช่น อาการบวม แดง คัน 
  • บวมจากเข็ม เช่น ฉีดฟิลเลอร์ไปถูกเส้นเลือดฝอย  
  • บวมจากเนื้อฟิลเลอร์  

นอกจากนี้ยังมีอาการบวมที่เกิดจากแพทย์ที่ฉีดขาดความรู้และประสบการณ์ เลือกใช้ชนิดฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับตำแหน่งที่ฉีด ใช้ปริมาณ CC ฟิลเลอร์ไม่เหมาะสม ฉีดฟิลเลอร์ไม่ตรงกับตำแหน่งที่มีปัญหา ทำให้หลังฉีดฟิลเลอร์บวมเป็นก้อน ผลลัพธ์ออกมาไม่สวยงาม หากฉีดด้วยฟิลเลอร์แท้ที่เป็นไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้  

ฉีดฟิลเลอร์ที่ V Square Clinic แพทย์มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ใส่ใจรายละเอียดทุกขั้นตอน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ    

ฉีดฟิลเลอร์ที่ V Square Clinic

2. อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ที่ผิดปกติ เป็นอันตราย 

  • ปวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์มากขึ้น มากกว่าปกติ 
  • บวมขึ้นเรื่อย ๆ กดเจ็บบริเวณผิวหนังที่ฉีดฟิลเลอร์
  • แดงหรือคล้ำที่ผิดปกติ บริเวณผิวหนังที่ฉีดฟิลเลอร์
  • ร้อนบริเวณผิวหนังที่ฉีดฟิลเลอร์ (ลองใช้หลังมือแตะ คล้ายวิธีวัดไข้)

ตามที่หมออธิบายไปครับว่าฟิลเลอร์จะหายบวมเข้าที่ใน 7-14 วัน หากเลย 14 วันไปแล้วอาการบวมยังไม่ลดลง และมีอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ที่ผิดปกติ เป็นอันตราย ตามลักษณะอาการข้างต้น อาจเกิดจากการอักเสบ ติดเชื้อ ซึ่งมีสาเหตุหลัก ๆ จากฟิลเลอร์ที่ฉีด ดังนี้  

  • ฉีดฟิลเลอร์ปลอม เป็นฟิลเลอร์ที่ไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ผลิตมาจากซิลิโคนเหลว พาราฟิน เมื่อถูกฉีดเข้าสู่ร่างกาย อาจเกิดการแพ้ บวมเป็นก้อน อักเสบ ติดเชื้อ ไม่สามารถฉีดสลายได้ ต้องผ่าตัดหรือขูดออกเท่านั้น   
  • ฉีดฟิลเลอร์หิ้ว แม้จะเป็นฟิลเลอร์ที่มีการลักลอบนำเข้ามา ไม่ได้มีการเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม ทำให้ฟิลเลอร์เสื่อมสภาพ ฉีดแล้วไม่เห็นผล อายุการใช้งานสั้นลง หรือเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย 
  • ฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ผ่านอย. ฟิลเลอร์มีหลายยี่ห้อครับ แต่ไม่ใช่ทุกยี่ห้อจะผ่านการรับรองจากอย.ไทย ฉีดแล้วอาจเกิดผลข้างเคียง เช่น ฉีดฟิลเลอร์เป็นก้อนบวม อักเสบ ติดเชื้อ ก่อนฉีดฟิลเลอร์จึงควรรู้ครับว่าฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนบ้างที่ผ่านอย. (ตรวจสอบยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ผ่านอย. คลิกที่นี่)  
คลิปอธิบายการดูฟิลเลอร์แท้ ฟิลเลอร์ปลอม

จุดที่มักพบอาการบวมจากการฉีดฟิลเลอร์

อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ พบได้แทบทุกจุดของการฉีดฟิลเลอร์ โดยจุดหลัก ๆ ที่พบได้บ่อยและคนไข้เป็นกังวล ได้แก่ 

  • ฟิลเลอร์ใต้ตา เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ที่ชั้นผิวหรือตื้นเกินไป ทำให้ฟิลเลอร์นูนขึ้นเหนือชั้นกล้ามเนื้อ มองเห็นเป็นก้อน บวม ย้อย หรือเห็นเป็นถุงใต้ตา 
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบวม
  • ฟิลเลอร์หน้าผาก เกิดจากฉีดฟิลเลอร์ในชั้นผิวที่ตื้นเกินไป เมื่อเกิดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อจะทำให้หน้าผากเป็นคลื่น ผิวไม่เรียบเนียน หรือบวมนูนเกินไป ดูไม่เป็นธรรมชาติ 
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
  • ฟิลเลอร์ร่องแก้ม เกิดจากการฉีดผิดตำแหน่ง เช่น คนไข้มีร่องแก้มลึกมาจากการยุบตัวของกระดูกใต้ตา ไม่ควรแก้ปัญหาด้วยการฉีดฟิลเลอร์บริเวณร่องแก้ม จะทำให้หน้าดูบวม เนื้อมากองบริเวณเหนือร่องแก้ม ดูอูมผิดธรรมชาติ 
    เทคนิคคือควรเติมฟิลเลอร์ใต้ตา โดยฉีดยกผิวในชั้นกระดูกเพื่อดึงโครงสร้างผิวโดยรวมทั้งหมดขึ้นไปด้านบน จะทำให้เนื้อแก้มที่กองเหนือร่องแก้มเป็นก้อนน้อยลง ร่องแก้มตื้นขึ้น ดูเป็นธรรมชาติ
ฉีดฟิลเลอร์แก้ไขปัญหาใต้ตาลึก ร่องแก้มลึก
  • ฟิลเลอร์ปาก เกิดจากการใช้ปริมาณ CC ฟิลเลอร์มากเกินไป ทำให้ปากออกมาอวบอิ่มเกินพอดี ปากใหญ่ ปากเจ่อ คล้ายปากเป็ด และดูไม่เป็นธรรมชาติ
ฉีดฟิลเลอร์ปาก
  • ฟิลเลอร์คาง เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ในชั้นผิวที่ตื้นเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อดึงฟิลเลอร์คางมารวมกันเป็นก้อน เวลาพูดหรือยิ้ม จะเห็นคางย้อย คางยาวแหลมคล้ายคางแม่มด ดูผิดรูปได้
ฉีดฟิลเลอร์คาง

ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวม อันตรายไหม ? 

ถ้าไม่ใช่การบวมจากการอักเสบ ติดเชื้อ เป็นอาการข้างเคียงที่พบได้ปกติครับ ไม่อันตรายครับ สามารถหายบวมเอง ไม่ทำให้เกิดฟิลเลอร์ไหล บวม ย้อย หรือใบหน้าผิดรูปครับ แต่ถ้าฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมจากการติดเชื้อ อันนี้เป็นอันตราย ต้องพบแพทย์เพื่อวิเคราะห์สาเหตุว่าฉีดฟิลเลอร์แล้วบวม เกิดจากอะไร โดยหลัก ๆ แล้วจะใช้ 2 วิธีในการรักษา ดังนี้ครับ

  • รับประทานยาฆ่าเชื้อ ยาแก้ปวด ลดบวมเพิ่ม เพื่อบรรเทาอาการ
  • ฉีดสลายฟิลเลอร์ ด้วยเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase)

หากใช้ฟิลเลอร์ปลอมจะไม่สามารถฉีดสลายได้ต้องแก้ไขด้วยการผ่าตัดหรือขูดออกเท่านั้น

ฉีดสลายฟิลเลอร์คืออะไร ? อันตรายไหม ? กี่วันหาย

ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวม มีวิธีการปฏิบัติตัวอย่างไร ? 

หลังฉีดฟิลเลอร์ หากมีอาการบวม ในเบื้องต้นไม่ควรไปสัมผัส บีบ นวด แกะ หรือเกาบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ครับ เพราะหากเป็นอาการบวมที่เป็นปกติ จะหายบวมได้เองในช่วง 4-5 วัน เข้าที่ใน 7-14 วัน นอกจากนี้ยังมีข้อควรปฏิบัติเพิ่มเติม ดังนี้  

  • ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ 1.5-2 ลิตร/วัน 
  • หลีกเลี่ยงแสงแดดหรืออากาศร้อนจัด
  • งดออกกำลังกายหนัก ๆ 48 ชม.หลังฉีดฟิลเลอร์ 
  • งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึก เช่น Thermage / RF / Pico 1 เดือน 
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด 
ฉีดฟิลเลอร์บวมกี่วัน

สรุป

หลังฉีดฟิลเลอร์จะมีอาการบวมเป็นปกติครับ อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ จะหายได้เองใน 7-14 เห็นผลลัพธ์ชัดเจนเนื้อฟิลเลอร์เข้าที่ใน 7-14 วันครับ หากครบกำหนดระยะเวลาแล้ว อาการบวมยังมีอาการบวมอยู่ ควรกลับไปที่คลินิกเพื่อให้แพทย์ประเมินอีกครั้ง  

เพื่อป้องกันอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ที่เป็นอันตราย คนไข้ควรมีการเตรียมตัวก่อนฉีดครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเลือกฉีดฟิลเลอร์กับคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ใช้ฟิลเลอร์ที่ผ่านอย. รวมถึงหลังฉีดฟิลเลอร์ที่ควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้ฟิลเลอร์ยุบบวมไว เข้าที่เร็วครับ 


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
ฟิลเลอร์ไหล-คืออะไร370x277

ฟิลเลอร์ไหล อาการเป็นอย่างไร ? เป็นเพราะอะไร ? แก้ไขอย่างไร ?

Categories
filler
ฟิลเลอร์ไหล

ข่าวการฉีดฟิลเลอร์ปลอม ฉีดฟิลเลอร์กับคลินิกเถื่อน หมอกระเป๋าแล้วเกิดผลข้างเคียง เช่น ฟิลเลอร์ไหลเข้าตา ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไหลย้อย เป็นก้อน ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ยังคงมีให้เห็นครับ ฟิลเลอร์ไหลได้ไหม ? เกิดจากสาเหตุอะไร ? มีวิธีสังเกตอย่างไร ? เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงหรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น หมอรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ไหลมาให้ในบทความนี้ครับ 

ฉีดฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้ว

สารบัญ ฟิลเลอร์ไหล 

  1. ฟิลเลอร์ไหล คืออะไร ?
  2. ฟิลเลอร์ไหล มีวิธีสังเกตอย่างไร ?
  3. ฟิลเลอร์ไหล เกิดจากสาเหตุอะไร ?
  4. ฟิลเลอร์ไหล อันตรายไหม ?
  5. ฟิลเลอร์ไหล มักพบที่จุดไหนเป็นพิเศษ
  6. ฟิลเลอร์ไหล แก้ไขอย่างไร ?
  7. ฟิลเลอร์ไหล มีวิธีป้องกันไหม ?

ฟิลเลอร์ไหล คืออะไร ? 

ฟิลเลอร์ไหล คือ ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้วที่ไม่ได้มาตรฐาน ฟิลเลอร์ที่ไม่ผ่านอย. หลังฉีดอาจเห็นผลดีในช่วงแรกครับ แต่เมื่อผ่านไปสักระยะจะเกิดผลข้างเคียง เนื่องจากเป็นสารที่ไม่สามารถสลายเองตามธรรมชาติ นานวันเข้าจึงเกิดการไหลย้อย หรือที่เรียกว่า ฟิลเลอร์ไหล หรือทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อ บวมแดง ใบหน้าผิดรูป    

ปัจจุบันฟิลเลอร์ที่นำมาใช้ในคลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐาน ต้องเป็นสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) เท่านั้น ฉีดแล้วสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้าง เป็นฟิลเลอร์ที่ผ่านอย. มีความปลอดภัย   

ถ้าเป็นฟิลเลอร์ประเภทอื่น หมอไม่แนะนำ เช่น 

  • Collagen จากสัตว์ ปัจจุบันไม่นิยมใช้ เนื่องจากทำให้มีอาการแพ้ฟิลเลอร์ บวมแดงได้ง่าย
  • Transplanted Fat หรือเติมไขมัน เหมาะกับคนที่ต้องการฉีดครั้งละมาก ๆ 10-20 CC
  • Biosynthetic Polymers เช่น Calcium Hydroxylapatite, Polymethylmethacrylate, ซิลิโคนเหลว เป็นฟิลเลอร์ชนิดที่ไม่สลาย ไม่ปลอดภัย และไม่ผ่าน อย.

ฟิลเลอร์ไหล มีวิธีสังเกตอย่างไร ? 

  • มองเห็นเป็นผิวเนื้อที่ผิดรูป ปูดบวม ไหลมากองเป็นก้อน 
  • ฟิลเลอร์ไหลไปบริเวณอื่นนอกเหนือจากจุดที่ฉีดมา ทำให้ใบหน้าผิดรูป 
  • อาการรุนแรงขึ้น เกิดการบวมแดง อักเสบติดเชื้อ 
วิธีสังเกตฟิลเลอร์ไหล

ฟิลเลอร์ไหล เกิดจากสาเหตุอะไร ? 

  • ฉีดฟิลเลอร์ปลอม จำพวกซิลิโคนเหลว พาราฟิน ซึ่งมักจะชวนเชื่อด้วยผลลัพธ์ว่าฉีดแล้วอยู่ได้คงทนถาวร ไม่ต้องเติมบ่อย ๆ ซึ่งไม่เป็นความจริงและเป็นอันตรายครับ เพราะเมื่อไม่สลายเองตามธรรมชาติ นานวันเข้าจะเริ่มปรากฏผลข้างเคียง เช่น ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไหลย้อยเห็นเป็นถุงใต้ตา หรือฉีดฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์ไหลมากองรวมกันดูคางย้อย 
  • ฉีดฟิลเลอร์หิ้ว เป็นฟิลเลอร์ที่ลักลอบนำเข้ามา ไม่ได้เก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อคงคุณสมบัติของตัวยาเอาไว้ ทำให้เนื้อฟิลเลอร์เสื่อมคุณภาพ ฉีดแล้วไม่เห็นผล ผลลัพธ์อยู่ได้สั้นลง หรือฉีดแล้วเกิดผลข้างเคียง ฟิลเลอร์ไหลกองลงมาเป็นก้อนได้ครับ 
  • ฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ผ่านอย. ไม่ใช่ฟิลเลอร์ทุกยี่ห้อ ทุกรุ่นครับที่ผ่านอย. เพื่อให้มั่นใจในผลลัพธ์และความปลอดภัย คนไข้ควรตรวจสอบว่าคลินิกใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้ออะไร ? เป็นฟิลเลอร์ที่ผ่านอย. หรือไม่ ? เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาฟิลเลอร์ไหล บวมเป็นก้อนแข็ง หรืออักเสบติดเชื้อให้ต้องแก้ไข  
ฟิลเลอร์ปลอม
  • ฉีดฟิลเลอร์แท้ แม้จะฉีดฟิลเลอร์แท้ที่เป็นสารเติมเต็มไฮยาลูโรนิก แอซิด Hyaluronic Acid (HA) ที่ผ่านอย. สลายได้เองตามธรรมชาติ แต่ถ้าฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ ใช้เทคนิคการฉีดไม่ถูกต้อง ใช้ฟิลเลอร์รุ่นที่ไม่เหมาะกับตำแหน่งที่ฉีด หรือวางตำแหน่งฟิลเลอร์ในชั้นผิวไม่ถูกต้อง ก็อาจทำให้ฟิลเลอร์ไหลได้เช่นกันครับ

ฟิลเลอร์ไหล อันตรายไหม ? 

อันตรายจากฟิลเลอร์ไหล ต้องตรวจสอบก่อนครับว่าคนไข้ฉีดฟิลเลอร์อะไรมา ถ้าฉีดฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้ว ฟิลเลอร์ที่ไม่ผ่านอย. แล้วมีอาการฟิลเลอร์เป็นก้อนแข็ง ไหลย้อย ผิดรูป ควรรีบปรึกษาแพทย์ ให้แพทย์ประเมินปัญหาและวิธีการแก้ไขโดยเร็วที่สุด  

หากปล่อยไว้อาจเป็นอันตราย มีอาการรุนแรงขึ้น เช่น บวมแดง อักเสบติดเชื้อ หรือผสานเข้าไปในเนื้อเยื่อ จะแก้ไขได้ยากขึ้น หรือหากแก้ไขได้ไม่ทันท่วงที อาจทำให้เนื้อตาย หรือเกิดอันตรายอื่น ๆ ตามมา แต่ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์แท้ HA สามารถแก้ไขอย่างทันท่วงทีด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์ครับ 


ฟิลเลอร์ไหล มักพบที่จุดไหนเป็นพิเศษ

  • ฟิลเลอร์หน้าผาก หน้าผากเป็นคลื่น ไหลย้อย ผิวไม่เรียบเนียน หรือนูนเกินไปคล้ายหัวปลาทอง
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา ใต้ตาเป็นก้อน ใต้ตาบวม ฟิลเลอร์ไหลย้อย หรือเห็นเป็นถุงใต้ตา 
  • ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์ไหลมากองบริเวณเหนือร่องแก้ม หน้าดูบวม ดูอูมผิดธรรมชาติ   
  • ฟิลเลอร์จมูก จมูกเสียทรง ฟิลเลอร์ไหลย้อย หรือมีการอักเสบติดเชื้อ 
  • ฟิลเลอร์ปาก ปากอวบอิ่มเกินพอดี ปากใหญ่ ปากเจ่อคล้ายปากเป็ด ฟิลเลอร์ไหลย้อย ปากผิดรูป 
  • ฟิลเลอร์คาง คางผิดรูป ดูยาว คางแหลมเป็นแม่มด หรือย้อยลงไม่ธรรมชาติ 
ฟิลเลอร์ไหลย้อย
ฉีดฟิลเลอร์ไหลย้อยมากองรวมกัน

ฟิลเลอร์ไหล แก้ไขอย่างไร ? 

วิธีแก้ไขฟิลเลอร์ไหลย้อยหมอจะประเมินจากสาเหตุ แบ่งออกได้เป็น 2 กรณี  

  1. ผ่าตัดและขูดออก ใช้ในกรณีฉีดฟิลเลอร์ปลอม เช่น ซิลิโคนเหลว พาราฟิน ซึ่งไม่สามารถสลายได้เอง และไม่มีตัวยาสำหรับฉีดสลายครับ ต้องผ่าตัดและขูดออกเท่านั้น ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานจนเป็นพังผืดเกาะ ไม่สามารถเอาออกได้หมด จะเอาออกได้เพียง 60-70% เท่านั้น   
ผ่าตัดฟิลเลอร์ปลอม
  1. ฉีดสลายฟิลเลอร์ กรณีฉีดฟิลเลอร์แท้ HA สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยตัวยา (Hyaluronidase : HYAL) โดยแพทย์จะคำนวณปริมาณตัวยาที่จะใช้ฉีดสลาย จากปริมาณฟิลเลอร์ว่าฉีดมากี่ CC เพื่อให้ได้ปริมาณยาสลายที่เหมาะสม เมื่อฉีดสลายแล้วผิวจะกลับมาเรียบเสมอกัน โดยไม่มีผลข้างเคียง
ตัวยาฉีดสลายฟิลเลอร์
ฉีดสลายฟิลเลอร์ HA

ฟิลเลอร์ไหล มีวิธีป้องกันไหม ? 

วิธีป้องกันฟิลเลอร์ไหลที่ดีที่สุด ต้องเริ่มตั้งแต่การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ คนไข้ควรศึกษาข้อมูลที่จำเป็น ทั้งการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ประเภทของฟิลเลอร์ที่ใช้ ต้องเป็นฟิลเลอร์แท้ ฟิลเลอร์ที่ผ่านอย. สลายได้เองตามธรรมชาติ รวมทั้งดูรีวิวจากคนไข้ที่มาใช้บริการ เพื่อให้มั่นใจได้ในความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติครับ  

ก่อนฉีดฟิลเลอร์

สรุป

ฟิลเลอร์ไหล เป็นผลข้างเคียงที่คนไข้ไม่อยากให้เกิดขึ้น หลังฉีดฟิลเลอร์จึงควรสังเกตตนเองครับว่ามีอาการผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่ เช่น มองเห็นเป็นผิวเนื้อที่ผิดรูป ปูดบวม ไหลมากองเป็นก้อน ฟิลเลอร์ไหลไปจุดอื่นนอกเหนือจากจุดที่ฉีดมา ทำให้ใบหน้าผิดรูป หรือเกิดการบวมแดง อักเสบติดเชื้อ หากมีความปกติเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์

ฉีดฟิลเลอร์ที่ V Square Clinic ทีมแพทย์มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า รู้เทคนิคการฉีด ตำแหน่ง ปริมาณ CC ที่ใช้เพื่อแก้ปัญหาให้กับคนไข้ได้อย่างแม่นยำ ตรงจุด ใช้ฟิลเลอร์แท้ หมอแกะกล่องใหม่ต่อหน้า ตรวจสอบกับบริษัทนำเข้าได้ทุกกล่องครับ หลังฉีดมีการนัดติดตามผลหลังฉีดทุกเคสครับ    

ฉีดฟิลเลอร์ที่ V Square Clinic

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
ฟิลเลอร์ 1 CC

ฟิลเลอร์ 1 CC พอไหม ? ฉีดจุดไหนได้บ้าง แต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร ?

Categories
filler
ฟิลเลอร์ 1 CC

ฟิลเลอร์ 1 CC 

ฟิลเลอร์ 1 CC เป็นปริมาณฟิลเลอร์เริ่มต้นของ Filler ใน 1 ไซริงค์ครับ จริง ๆ แล้วถ้าไม่ได้มีปัญหาร่องลึกมาก ๆ ฟิลเลอร์ 1 CC ก็สามารถแบ่งฉีดได้ ไม่จำเป็นต้องฉีดจุดเดียวครบ 1 CC เช่น ใต้ตา 2 ข้าง จะฉีดข้างละ 0.5 ซีซี ก็ทำได้ ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้ และการประเมินของแพทย์

ในบทความนี้หมอจะสรุปให้ว่าฉีดฟิลเลอร์แต่ละจุด ใช้กี่ CC ฟิลเลอร์ 1 CC เพียงพอไหม ราคาเท่าไหร่ แต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร ?

สารบัญ ฟิลเลอร์ 1 CC

  1. ฟิลเลอร์ 1 CC เยอะไหม ?
  2. ฟิลเลอร์ 1 CC เท่ากับกี่ ml ?
  3. ฟิลเลอร์ 1 CC แต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร ?
  4. ฟิลเลอร์ 1 CC เหมาะกับการฉีดตำแหน่งไหน ?
  5. ฟิลเลอร์ 1 CC ราคาเท่าไหร่ อยู่ได้นานไหม ?

ฟิลเลอร์ 1 CC เยอะไหม ?

ฟิลเลอร์ 1 CC ถ้าเป็นการฉีดในจุดเล็ก ๆ ก็ถือว่ามีปริมาณเยอะพอสมควรครับ เนื่องจากชั้นผิวของคนเราไม่ได้หนามาก การฉีดฟิลเลอร์ 1 CC มักจะช่วยให้เห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนแล้ว แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้แต่ละคนด้วย ถ้าเป็นจุดที่มีร่องลึก ต้องแก้ปัญหาหลายชั้นผิว ก็อาจต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่มากขึ้น

ฟิลเลอร์ 1 CC เยอะไหม

คนไข้ที่มาปรึกษาหมอ หากไม่อยากฉีดฟิลเลอร์ครั้งละหลายซีซี ก็สามารถค่อย ๆ ทยอยฉีดได้ ตามความเหมาะสมกับปัญหาและงบประมาณครับ


ฟิลเลอร์ 1 CC เท่ากับกี่ ml ?

บางคนที่ได้ยินว่าฟิลเลอร์ใช้หน่วยเป็น ml แล้วสงสัยว่าเท่ากับ CC ไหม ? จริงๆ แล้ว ฟิลเลอร์ 1 CC = 1 ml ครับ มีปริมาณเท่ากัน แต่คลินิกและหมอโดยทั่วไปจะนิยมใช้หน่วยเป็น CC กันมากกว่า

ฟิลเลอร์ 1 CC เท่ากับกี่ ml

ฟิลเลอร์ 1 CC แต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร ?

เนื่องจากผิวของคนเราแต่ละจุดไม่เหมือนกัน เวลาฉีดฟิลเลอร์เพื่อแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอย ร่องลึก หรือปรับโครงสร้างใบหน้า ก็ต้องใช้ฟิลเลอร์ที่มีลักษณะเนื้อและคุณสมบัติที่เหมาะกับบริเวณนั้น ๆ ในปัจจุบันฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย. ไทย มีหลายยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อก็จะมีจุดเด่นต่างกันไป หมอจะประเมินปัญหาของคนไข้และเลือกใช้ฟิลเลอร์รุ่นที่เหมาะสมที่สุดครับ

ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี แต่ละจุดบนใบหน้าใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหน ?
ยี่ห้อคุณสมบัติ
Juvederm Ultra Plusฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ฉีดแล้วฟูมาก ทำให้เต็มสวย เหมาะสำหรับฉีด ขมับ/ปาก/ร่องแก้ม
Juvederm Volumaฟิลเลอร์เนื้อแข็งและฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับฉีด ใต้ตา/คาง/ขมับ/ปาก/ร่องแก้ม
Juvederm Volbellaฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความละเอียดมาก เหมาะสำหรับฉีด หน้าผาก
Juvederm Voliftฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความละเอียด เหมาะสำหรับฉีด ปาก/แก้มตอบ/มุมปาก/ร่องแก้ม/หว่างคิ้ว
Juvederm Voliteฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น มีความเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับฉีด ใต้ตา/บำรุงผิวชุ่มชื้น
Juvederm Voluxฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีโมเลกุลขนาดใหญ่ จึงมีความยืดหยุ่นสูง ปั้นทรงสวย คงรูปได้ดีที่สุด เหมาะสำหรับฉีดคาง/ใต้ตา/ขมับ/ร่องแก้มชั้นลึก
Restylane Perlane lyftฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง ไม่ฟู และสามารถคงรูปได้ดีที่สุด เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา/จมูก/คาง
Restylane Vital Lightฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เจลอนุภาคเล็ก แก้ไขจุดที่มีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ เหมาะสำหรับฉีดเก็บรายละเอียด ใต้ตา/ผิวชั้นตื้น/ปาก
Restylane Vitalฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย ให้ผลเรียบเนียน เป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา/หน้าผาก 
Restylane Volymeฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ใช้เติมชั้นผิวให้อิ่มฟูขึ้น เหมาะสำหรับฉีด ปาก/แก้มตอบ/มุมปาก/ร่องแก้ม
Restylane Defyneฟิลเลอร์เนื้อแข็ง เนื้อเจลมีความนิ่มปานกลางและยืดหยุ่นสูง ใช้ฉีดกระดูกที่ยุบตัวในผิวชั้นลึก เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา
Restylane Refyneฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีลักษณะยืดหยุ่น ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยลึกที่เกิดจากการยิ้ม เน้นการเติมเต็มริ้วรอยเล็ก ๆ เหมาะสำหรับฉีดปาก/ร่องแก้ม/มุมปาก
Restylane Classicฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ออกแบบมาสำหรับแก้ปัญหาริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก ใช้เก็บรายละเอียดใต้ตาในผิวชั้นลึกสำหรับคนผิวบาง ใต้ตา/ร่องแก้ม
Restylane Kysseฟิลเลอร์เนื้อละเอียด แต่มีความคงตัว สร้างขอบริมฝีปากที่ชัดเจนให้ความชุ่มชื้นและความอวบอิ่ม ออกแบบมาสำหรับใช้เติมเต็มริมฝีปากโดยเฉพาะ
Belotero Intenseฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นสูง มีจุดเด่นในการใช้แก้ปัญหาร่องลึกมาก ๆ จากการยุบตัวของเนื้อเยื่อผิวหนัง เหมาะสำหรับฉีด ร่องแก้ม/เติมแก้มตอบ/คาง
Belotero Volumeฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นและคงตัวสูง เหมาะสำหรับฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก
Belotero Softฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ให้ผลลัพธ์เรียบเนียน เป็นธรรมชาติ หมาะสำหรับฉีดใต้ตา
Definisse Restoreฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความแข็งปานกลาง เหมาะกับการเติมริ้วรอยร่องลึก ริ้วรอยหย่อนคล้อยตามวัย เติมร่องแก้ม ร่องมุมปาก
Definisse Coreฟิลเลอร์เนื้อแข็ง เหมาะกับการเสริมกระดูก ปรับรูปหน้า เติม mid-face คาง กรอบหน้า

ฟิลเลอร์ 1 CC เหมาะกับการฉีดตำแหน่งไหน ?

ส่วนใหญ่จุดที่ใช้ฟิลเลอร์ 1 CC จะเป็นจุดที่ไม่ลึกมาก ไม่กว้างมาก สำหรับปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ในแต่ละจุด หมอสรุปมาให้ในรูปด้านล่างนี้ครับ เป็นปริมาณคร่าว ๆ โดยส่วนใหญ่ที่ใช้สำหรับแต่ละจุด ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัญหาแต่ละคนด้วย อย่างที่อธิบายไปในตอนต้น

ฟิลเลอร์ 1 CC ฉีดจุดไหนได้บ้าง คุณต่าย

ฟิลเลอร์ใต้ตา 1 CC

ตัวอย่างรีวิว ฟิลเลอร์ใต้ตา 1 CC ยี่ห้อ Restylane Volyme 

ฟิลเลอร์ใต้ตา 1 CC ยี่ห้อ Restylane Volyme

ฟิลเลอร์ปาก 1 CC

ตัวอย่างรีวิว ฟิลเลอร์ปากกระจับ 1 CC ยี่ห้อ Juvederm Volift

ฟิลเลอร์ปากกระจับ 1 CC ยี่ห้อ Juvederm Volift(1)
ฟิลเลอร์ปากกระจับ 1 CC ยี่ห้อ Juvederm Volift

ฟิลเลอร์คาง 1 CC

ตัวอย่างรีวิว ฟิลเลอร์คาง 1 CC ยี่ห้อ Restylane Perlane Lyft

ฟิลเลอร์คาง 1 CC ยี่ห้อ Restylane Perlane Lyft

ฟิลเลอร์หน้าผาก 1 CC

ตัวอย่างรีวิว ฟิลเลอร์หน้าผาก 2 CC ยี่ห้อ Juvederm Volbella

ฟิลเลอร์หน้าผาก 2 CC ยี่ห้อ Juvederm Volbella

ฟิลเลอร์ขมับ 1 CC

ตัวอย่างรีวิว ฟิลเลอร์ขมับ 1 CC ยี่ห้อ Juvederm Ultra Plus 

ฟิลเลอร์ขมับ 1 CC ยี่ห้อ Juvederm Ultra Plus

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 1 CC

ตัวอย่างรีวิว ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 1 CC ยี่ห้อ Juvederm Voluma

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 1 CC ยี่ห้อ Juvederm Voluma

ฟิลเลอร์แก้มส้ม 1 CC

ตัวอย่างรีวิว ฟิลเลอร์แก้มส้มข้างละ 1 CC ยี่ห้อ Restylane Perlane Lyft

ฟิลเลอร์แก้มส้มข้างละ 1 CC ยี่ห้อ Restylane Perlane Lyft

ฟิลเลอร์จมูก 1 CC

ตัวอย่างรีวิว ฟิลเลอร์จมูก 1 CC ยี่ห้อ Restylane Perlane Lyft

ฟิลเลอร์จมูก 1 CC ยี่ห้อ Restylane Perlane Lyft

ฟิลเลอร์ 1 CC ราคาเท่าไหร่ อยู่ได้นานไหม ?

ฟิลเลอร์ราคาเท่าไหร่
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา 1 CC ราคาเริ่ม 11,900 อยู่ได้นาน 6-24 เดือน
  • ฟิลเลอร์ปาก 1 CC ราคาเริ่ม 12,900 อยู่ได้นาน 6-18 เดือน
  • ฟิลเลอร์คาง 1 CC ราคาเริ่ม 11,900 อยู่ได้นาน 18-24 เดือน
  • ฟิลเลอร์หน้าผาก 1 CC ราคาเริ่ม 16,900 อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • ฟิลเลอร์ขมับ 1 CC ราคาเริ่ม 7,490 อยู่ได้นาน 12-24 เดือน
  • ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 1 CC ราคาเริ่ม 7,490 อยู่ได้นาน 12-24 เดือน
  • ฟิลเลอร์จมูก 1 CC ราคาเริ่ม 16,900 อยู่ได้นาน 12 เดือน

สรุป

ฟิลเลอร์ 1 CC เพียงพอไหม ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคน ถ้าประเมินแล้วคนไข้ไม่ได้มีปัญหาร่องลึกมาก ต้องการฉีดปรับทรงปาก คาง ส่วนใหญ่ใช้ฟิลเลอร์ 1 CC ก็เพียงพอที่จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงครับ หรือประเมินแล้วต้องฉีดมากกว่า 1 CC ก็สามารถค่อย ๆ ทยอยฉีดได้ ไม่จำเป็นต้องฉีดทีเดียวทั้งหมด สามารถปรับได้ตามความเหมาะสมครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน มีสาเหตุมาจากอะไร ? อันตรายไหม ? มีวิธีแก้อย่างไร ?

Categories
filler
ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยครับ ไม่ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ? ตำแหน่งการฉีด ยี่ห้อ รุ่นฟิลเลอร์ มีผลไหม ? หมอแนะนำให้พิจารณาแต่ละปัจจัยตั้งแต่ก่อนฉีดฟิลเลอร์ครับ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาที่ต้องมาแก้ไขภายหลัง

ส่วนใครที่กำลังมีปัญหาฉีดfillerแล้วเป็นก้อน หรือไม่แน่ใจว่าอาการที่เป็นอยู่เรียกว่าเป็นก้อนหรือไม่ ? อันตรายไหม ? มีวิธีแก้อย่างไร ? เช็กอาการเสี่ยง ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนบวม และวิธีแก้ไขให้ผิวบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์กลับมาเรียบเนียนเหมือนเดิมได้ในบทความนี้ครับ

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนบวม

สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน


ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน มีสาเหตุมาจากอะไร ?

สาเหตุฉีดฟิลเลอร์เป็นก้อน
สาเหตุฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน เกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้

  • ฟิลเลอร์ที่ใช้ไม่ใช่สารไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid)

เป็นฟิลเลอร์ปลอม เช่น ซิลิโคนเหลว พาราฟิน จัดเป็นสารแปลกปลอม ไม่สามารถสลายเองตามธรรมชาติ เมื่อสลายเองไม่ได้ ก็จะจับตัวเป็นก้อนแข็ง ไหลย้อยมากองรวมกัน หรือถ้าร้ายแรงก็เกิดการอักเสบ ฟิลเลอร์เน่า ต้องขูดฟิลเลอร์ออกหรือผ่าตัดออก และฉีดสลายไม่ได้ด้วยครับ

  • แพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์ให้ขาดความรู้และประสบการณ์

การฉีดฟิลเลอร์ให้ออกมาสวย เรียบเนียน ดูเป็นธรรมชาติ แพทย์ผู้ฉีดจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับฟิลเลอร์ และโครงสร้างใบหน้า ถึงจะประเมินปัญหาและแก้ไขได้อย่างตรงจุด ในทางกลับกันถ้าแพทย์ขาดความรู้และประสบการณ์ ความเสี่ยงจากการฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนบวมก็อาจเกิดได้ ต้องมาฉีดสลายฟิลเลอร์ภายหลัง

  • รุ่นฟิลเลอร์ ไม่เหมาะกับตำแหน่งฉีด

ฟิลเลอร์เนื้อทน เนื้อแน่น ที่มีความแข็งและเหนียวค่อนข้างมาก ถ้านำมาฉีดในผิวชั้นตื้นจะทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อนบวมได้ เนื่องจากเนื้อฟิลเลอร์ประเภทนี้จะเหมาะกับการฉีดในผิวชั้นลึก เพื่อเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก มากกว่าเติมใต้ตาชั้นตื้น เพื่อเก็บรายละเอียดครับ

  • เทคนิคไม่ถูกต้อง ใช้ปริมาณฟิลเลอร์มากเกินไป

แต่ละตำแหน่งจะมีปริมาณ CC ฟิลเลอร์ที่เหมาะสมอยู่ครับ หากฉีดเกินพอดี อัดฟิลเลอร์เข้าไปเยอะ ๆ อาจเกิดภาวะหน้าล้นจากฟิลเลอร์ (Facial Overfilled Syndrom) หน้าแปลกดูไม่เป็นธรรมชาติ แนะนำให้เริ่มจาก CC น้อย ๆ ก่อน และเติมใหม่เรื่อย ๆ ดีกว่าครับ


ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน อันตรายไหม ?

อาการฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน มีทั้งที่เป็นอันตราย และไม่อันตราย ในเบื้องต้นต้องประเมินอาการก่อนครับถึงจะบอกได้ โดยหลัก ๆ จะแบ่งออกเป็น 2 กรณี

  • ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ที่เกิดจากการอักเสบ ติดเชื้อ
  • ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ

ถ้าหลังฉีดfillerแล้วเป็นก้อนไม่ได้ใหญ่มาก ให้รอดูผลหลังฉีดประมาณ 3 วัน เพราะบางทีอาจเป็นอาการบวมเฉย ๆ ยุบบวมได้เองใน 3-4 สัปดาห์ โดยฟิลเลอร์จะค่อย ๆ ผสานรวมตัวกันกับเนื้อเยื่อของเรา ห้ามกดหรือนวดคลึง ฟิลเลอร์ที่ดูเป็นก้อนจะค่อย ๆ หายไปเองครับ

ส่วนกรณีฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ที่เกิดจากการอักเสบ ติดเชื้อ จะมีอาการแสดงที่แตกต่างออกไปครับ หมออธิบายอาการและสาเหตุในหัวข้อถัดไป


ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน อาการเป็นอย่างไร ?

เช็ก 4 อาการเสี่ยงฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนบวม “ปวด บวม แดง ร้อน” ที่บ่งชี้ว่าอันตราย ดังนี้

  • ปวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์มากขึ้น มากกว่าปกติ
  • บวมขึ้นเรื่อย ๆ บริเวณผิวหนังที่ฉีดฟิลเลอร์
  • แดงหรือคล้ำที่ผิดปกติ บริเวณผิวหนังที่ฉีดฟิลเลอร์
  • ร้อนบริเวณผิวหนังที่ฉีดฟิลเลอร์ (ใช้หลังมือแตะ คล้ายวิธีวัดไข้ เพื่อเช็กอาการ)

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน มีวิธีแก้ไขอย่างไร ?

สลายฟิลเลอร์เป็นก้อน
วิธีแก้ไขฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน

การแก้ไขฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ทำได้ 3 วิธี คือ

  • ฉีดสลายฟิลเลอร์ (Dissolving Filler) ด้วยตัวยาเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidases : HYAL) เมื่อฉีดเข้าใต้ผิวหนัง เอนไซม์จะทำปฏิกิริยากับฟิลเลอร์ ลดการจับตัวกันของโมเลกุลฟิลเลอร์ให้ค่อย ๆ สลายตัวลง ผิวกลับมาคืนสภาพเดิมใกล้เคียงกับก่อนฉีดฟิลเลอร์ ใช้ในกรณีแก้ปัญหาจากการฉีดฟิลเลอร์แท้ เช่น
    • ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ไม่ชอบ ไม่สวย
    • ฉีดฟิลเลอร์แล้วหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติ
    • ฉีดฟิลเลอร์ ผิวเป็นก้อน ไม่เรียบเนียน
ดูคลิป ฉีดสลายฟิลเลอร์ ต้องฉีดกี่ครั้ง ฉีดซ้ำได้ไหม ?
  • ขูดฟิลเลอร์ เป็นวิธีการแก้ไขในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอมแล้วเกิดฟิลเลอร์เน่า ฟิลเลอร์ไหล บวม ย้อย เป็นก้อนแข็ง ผิวหนังบริเวณที่ฉีดผิดรูป เพราะฟิลเลอร์ปลอมไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ทำให้ต้องใช้เครื่องมือทางการแพทย์ขูดฟิลเลอร์หรือเลาะฟิลเลอร์ออก
  • ผ่าตัดฟิลเลอร์ออก ใช้แก้ไขในกรณีฉีดฟิลเลอร์ปลอม เช่น ซิลิโคนเหลวที่เป็นก้อนขนาดใหญ่และแข็งมาก หรืออยู่นานจนมีพังผืดมากเกาะเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องผ่าตัดออก

ตำแหน่งมีผลต่อการฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนไหม ?

ตำแหน่งฉีดฟิลเลอร์ มีผลต่อการเกิดก้อน และเกิดได้แทบทุกตำแหน่ง เช่น

  • ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ใต้ตาเป็นตำแหน่งที่พบฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนได้มากที่สุด เพราะผิวบริเวณใต้ตาค่อนข้างบาง หากแพทย์ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาตื้นเกินไป หรือเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไม่เหมาะสม จะทำให้ฟิลเลอร์นูนขึ้นเหนือชั้นกล้ามเนื้อ มองเห็นเป็นก้อนใต้ตา บวม ย้อย หรือเห็นเป็นถุงใต้ตาได้

  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

มักเกิดจากหมอฉีดฟิลเลอร์ผิดตำแหน่ง ฟิลเลอร์ร่องแก้มต้องฉีดลงในชั้นกระดูกใต้กล้ามเนื้อ และฉีดในจุดที่ต่ำกว่าร่องแก้มเล็กน้อย ไม่ได้ฉีดที่ร่องแก้มโดยตรง เพื่อป้องกันการดึงของกล้ามเนื้อที่ใช้ยิ้ม ถ้าฉีดในชั้นผิวที่ไม่ลึกพอ เนื้อฟิลเลอร์จะโดนดึงขึ้นไปกองเป็นเนื้อเหนือร่องแก้มทำให้เป็นก้อน ร่องแก้มลึกกว่าเดิม

ดูคลิป ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเป็นก้อนบวม แก้ไขอย่างไร ?
  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก

ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อนที่พบ โดยมากเกิดจากการใช้ปริมาณฟิลเลอร์ปากที่มากเกินไป หรือเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ปากที่ไม่เหมาะสม ทำให้ปากออกมาอวบอิ่มเกินพอดี ปากใหญ่ ปากเจ่อ คล้ายปากเป็ด ไม่สวย ดูไม่เป็นธรรมชาติครับ

  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

ตำแหน่งนี้ส่วนมากเกิดจากฉีดฟิลเลอร์หน้าผากในชั้นผิวที่ตื้นเกินไป ทำให้หน้าผากเป็นคลื่น ผิวไม่เรียบเนียน หรือนูนเกินไป คล้ายหัวปลาทอง ใบหน้าผิดรูปได้ครับ เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่ถูกวิธี คือ ต้องฉีดในชั้นเยื่อหุ้มกระดูกเท่านั้น ถึงจะดูเป็นธรรมชาติ

  • ฉีดฟิลเลอร์คาง

บริเวณคางมีกล้ามเนื้อ Mentalis ซึ่งเป็นจุดที่ต้องระวังครับ ถ้าฉีดผิดตำแหน่งหรือฉีดตื้นเกินไป เนื้อฟิลเลอร์จะถูกกล้ามเนื้อมัดนี้ดึงมารวมกัน ทำให้เป็นก้อนได้ รวมถึงยี่ห้อ รุ่นฟิลเลอร์ที่ใช้ ถ้าเลือกไม่เหมาะสม หรือใช้ปริมาณมากไป ก็อาจจะทำให้ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนได้เช่นกัน

ดูคลิป ฉีดฟิลเลอร์คางแล้วเป็นก้อน แก้ไขอย่างไร ?

ยี่ห้อหรือรุ่นของฟิลเลอร์ มีผลต่อการฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนไหม ?

ตามที่หมออธิบายไปข้างต้น ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน เกิดได้จากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม และฟิลเลอร์แท้ที่ต่อให้เป็นไฮยาลูโรนิก แอซิด แต่ถ้าเลือกยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์มาใช้ผิด ก็เสี่ยงเป็นก้อนได้

ปัจจุบันฟิลเลอร์มีหลายยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อก็แยกย่อยออกมาเป็นรุ่นต่าง ๆ ซึ่งมีคุณสมบัติและเหมาะกับการฉีดในตำแหน่งที่ต่างกัน ถ้าฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์ก็จะช่วยให้คำแนะนำได้ครับ

แนะนำฟิลเลอร์ที่ผ่านอย.
หมอแนะนำยี่ห้อ รุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสม

แต่ตัวคนไข้เองก็สามารถทำการบ้านด้วยการหาข้อมูลไปก่อนได้ว่า มีฟิลเลอร์ยี่ห้อไหน รุ่นไหนบ้างที่ผ่านอย. เช็กเลข Lot. วันเดือนปีที่ผลิต วันหมดอายุก่อนฉีด ซึ่งจะมีระบุไว้ที่กล่องฟิลเลอร์

ถ้าคลินิกเอาฟิลเลอร์หมดอายุ เป็นฟิลเลอร์เก่าเก็บค้างสต๊อกมาฉีดให้ ไม่ควรฉีดเด็ดขาดครับ เพราะฟิลเลอร์อาจจะเสื่อมสภาพ ฉีดแล้วไม่เห็นผลหรือเกิดผลข้างเคียงได้


ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนมีสิทธิ์เกิดได้ทุกคนไหม ?

ไม่ใช่ทุกคนที่จะฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนครับ แต่ทุกคนมีโอกาสเกิดขึ้นได้ หากไม่ได้มีการเตรียมตัวที่ดีมาก่อนฉีดฟิลเลอร์ ศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ทั้งการเลือกคลินิก เลือกหมอ ยี่ห้อ/รุ่นฟิลเลอร์ที่ผ่านอย. วิธีดูฟิลเลอร์ของแท้ ของปลอม ต้องแยกให้ออกครับ

การเตรียมความพร้อมเป็นสิ่งสำคัญ ควรให้เวลาในส่วนนี้เยอะ ๆ ครับ เพราะส่งผลต่อผลลัพธ์หลังฉีดที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน

ฉีดฟิลเลอร์ที่วีสแควร์
ฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ประสบการณ์สูง

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน มีวิธีป้องกันอย่างไร ?

  • เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง
  • ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า
  • มั่นใจว่าใช้ฟิลเลอร์แท้ ผ่านอย. สามารถตรวจสอบได้
  • ดูรีวิวจากผู้ใช้บริการที่เคยมาฉีดฟิลเลอร์ในคลินิกนั้น ๆ

วิธีป้องกันฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน จริง ๆ แล้วไม่ต่างจากวิธีเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ? เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและความปลอดภัยที่ต้องมาควบคู่กันครับ

ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี โดย หมอกันต์
ฉีดฟิลเลอร์ที่ V Square Clinic ปลอดภัย ไร้กังวล

สรุป

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ไม่ว่าจะจากฉีดฟิลเลอร์ปลอม หรือฉีดฟิลเลอร์แท้ จะไม่เกิดขึ้นครับ ถ้ามีการเตรียมตัวที่ดีก่อนฉีดฟิลเลอร์ เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ฉีดฟิลเลอร์แท้กับหมอที่มีประสบการณ์สูง รู้เทคนิคการฉีด เลือกยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ได้เหมาะสมกับตำแหน่งฉีด ประเมินปริมาณ CC ที่ใช้ได้อย่างถูกต้อง

ที่ V Square Clinic ทีมแพทย์มีประสบการณ์สูง ใช้ศิลปะการฉีดฟิลเลอร์ (Fine Art of Filler) ในการปรับรูปหน้า ผลลัพธ์หลังฉีดดูเป็นธรรมชาติ เรียบเนียน ไม่เป็นก้อน หรือเกิดภาวะหน้าล้น หน้าดูแปลก ไม่เป็นธรรมชาติ และยังมั่นใจได้ในความปลอดภัย ใช้ฟิลเลอร์แท้ แกะกล่องใหม่ให้ดูต่อหน้าก่อนฉีดทุกเคสครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
ฉีดฟิลเลอร์ อันตรายไหม

ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม ? ก่อนฉีดกับหลังฉีดควรปฏิบัติตัวอย่างไร ?

Categories
filler
ฉีดฟิลเลอร์ อันตรายไหม

ฉีดฟิลเลอร์ อันตรายไหม ?

ฉีดฟิลเลอร์ อันตรายไหม การฉีดฟิลเลอร์ที่มีความปลอดภัย ต้องเป็นฟิลเลอร์ (Filler) หรือสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) ที่ผ่านการรับรองจาก U.S.FDA และอย.ไทยเท่านั้น ถึงจะมั่นใจได้ครับ 

แต่นอกจากผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ประสบการณ์ของแพทย์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ที่สามารถประเมินปัญหาและสภาพผิวของคนไข้ วางแผนการรักษาได้แม่นยำ ตรงจุด รู้เทคนิคและตำแหน่งฉีดฟิลเลอร์ที่ถูกต้อง และการเลือกใช้ปริมาณ CC ฟิลเลอร์ที่เหมาะสม ก็ถือเป็นหัวใจสำคัญ ที่ทำให้ได้ผลลัพธ์สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ ควบคู่มากับความปลอดภัย

อาการหลังฉีดฟิลเลอร์ by หมอแพร
หลังฉีดฟิลเลอร์ เห็นการเปลี่ยนแปลงทันที

สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม 

  1. ข้อควรรู้เกี่ยวกับฟิลเลอร์ 
  2. อันตรายที่เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ 
  3. วิธีปฏิบัติก่อนฉีดฟิลเลอร์ที่ช่วยลดความอันตรายลง 
  4. วิธีปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ 

ข้อควรรู้เกี่ยวกับฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์ เป็นสาร Hyaluronic Acid ที่สร้างเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ ใช้ทดแทนคอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรง ยืดหยุ่นและเต่งตึง แต่เมื่ออายุมากขึ้น คอลลาเจนและอิลาสตินจะผลิตได้น้อยลง ทำให้ผิวที่เคยเต่งตึง เรียบเนียน เกิดริ้วรอยร่องลึกที่ทำให้ดูแก่กว่าวัย 

ด้วยคุณสมบัติเด่นของ filler ที่สามารถเติมเต็มร่องลึก ลดริ้วรอย ผิวเต่งตึง เรียบเนียน ปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ปลอดภัย เห็นการเปลี่ยนแแปลงได้ทันทีหลังทำ จึงทำให้ปัจจุบันการฉีดฟิลเลอร์ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในคลินิกความงาม 

ฉีดฟิลเลอร์ช่วยอะไรบ้าง

ปัจจุบันมีฟิลเลอร์ที่ผ่านอย. ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา มีหลายยี่ห้อครับ แต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน เพื่อให้แพทย์เลือกนำมาใช้แก้ปัญหาผิวที่เหมาะกับแต่ละบุคคล  

การฉีด filler สามารถฉีดได้หลายตำแหน่งครับ บนใบหน้ามี 7 จุด ที่ฉีดฟิลเลอร์แล้วเห็นผลการเปลี่ยนแปลงชัดเจนที่สุด

  • ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ ตาลึก ตาโหล ถุงใต้ตา   
  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ปัญหาร่องแก้มลึก เติมเต็มร่องริ้วรอยร่องแก้ม   
  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากยุบ หน้าผากแบน เสริมโหงวเฮ้ง
  • ฉีดฟิลเลอร์ขมับ แก้ปัญหาขมับลึก ขมับตอบ ปรับรูปหน้าได้สัดส่วน 
  • ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม แก้ปัญหาแก้มแบน แก้มตอบ แก้มยุบ ปรับรูปหน้าอิ่มเอิบ มีมิติ  
  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก ปรับทรงปากสายเกา ปากสายฝอ ปากกระจับ เติมความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก
  • ฉีดฟิลเลอร์คาง ปรับรูปหน้าเรียว V-Shape แก้คางสั้น คางตัด คางถอย
ฉีดฟิลเลอร์คืออะไร ? ก่อนฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรกควรรู้อะไร ?

อันตรายที่อาจเกิดจากการฉีดฟิลเลอร์

แม้ฟิลเลอร์ HA จะมีความปลอดภัย สลายหมด 100% ไม่มีสารตกค้าง แต่ก็ยังมีอันตรายจากฟิลเลอร์ให้เห็นตามข่าวอยู่เป็นระยะ ๆ เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์กับหมอเถื่อน หมอกระเป๋า ที่รับฉีดสารที่ไม่ใช่ฟิลเลอร์ เช่น ซิลิโคนเหลว พาราฟิน ฟิลเลอร์ปลอมเข้าสู่ร่างกาย บางคนเป็นผู้ช่วยแพทย์ เห็นแพทย์ฉีดคิดว่าง่าย ก็ออกไปทําเอง รับฉีดตามบ้าน/คอนโด   

ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นอันตรายมากครับ นอกจากจะไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ฉีดแล้วยังเสี่ยงอันตรายมากกว่าที่คิด เช่น 

  • ฟิลเลอร์ไหลย้อย บวมเป็นก้อน ใบหน้าผิดรูป 
  • จับตัวเป็นก้อน กลายเป็นพังผืด 
  • อักเสบ ติดเชื้อ ฟิลเลอร์เน่า
  • เส้นประสาทถูกทำลาย 
  • อุดตันในเส้นเลือด เสี่ยงตาบอด 
  • ไม่สามารถฉีดสลายได้ ต้องผ่าตัดหรือขูดออก 

รวมไปถึงฟิลเลอร์หิ้ว ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ฟิลเลอร์ที่ไม่ผ่านอย. ไม่ได้มีการเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม ตัวยาเสื่อมคุณภาพ ฉีดแล้วไม่เห็นผล อายุการใช้งานสั้นลง ทำให้เกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ เป็นอันตรายหากนำมาใช้ได้เช่นเดียวกันครับ 

อันตรายฉีดฟิลเลอร์ปลอม

วิธีปฏิบัติก่อนฉีดฟิลเลอร์ที่ช่วยลดความอันตรายลง

ก่อนฉีดฟิลเลอร์เพื่อให้มั่นใจในผลลัพธ์และความปลอดภัย ลดอันตรายลง ข้อควรรู้ที่สำคัญคือ วิธีการดูฟิลเลอร์แท้ ฟิลเลอร์ปลอม ต้องแยกให้ออกครับ สามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเองในเบื้องต้น ดังนี้

  • กล่องฟิลเลอร์อยู่ในสภาพดี ไม่ผ่านการแกะมาก่อน
  • มีเลขทะเบียน อย. เอกสารกำกับภาษาไทย เลข Lot ตรงกันทุกจุด 
  • โทรเช็กเลข Lot กับบริษัทนำเข้าได้ตามเบอร์โทร.ข้างกล่อง 

สามารถตรวจสอบยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจาก อย. คลิกที่นี่ หรือดูคลิปให้ความรู้ หมอมีวิธีดูฟิลเลอร์แท้ยี่ห้อต่าง ๆ มาแนะนำครับ 

ฟิลเลอร์แท้ ฟิลเลอร์ปลอมดูอย่างไร ? อันตรายจากฟิลเลอร์ปลอม

ฉีดฟิลเลอร์ที่ V Square Clinic คลินิกได้มาตรฐาน มั่นใจได้ในความปลอดภัย ผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ ทีมแพทย์มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ใช้ฟิลเลอร์แท้ แบรนด์ระดับโลก Restylane / Juvederm / Belotero / Definisse ผ่าน อย. แกะกล่องใหม่ให้ดูต่อหน้าทุกครั้ง สามารถตรวจสอบกับบริษัทที่นำเข้าได้ 

ก่อนฉีดฟิลเลอร์

วิธีปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์

การปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็วและอยู่ได้นาน มีวิธีปฏิบัติ ดังนี้ 

  • ดื่มน้ำวันละ 1.5-2 ลิตร/วัน ฟิลเลอร์เป็นสารที่อุ้มน้ำ การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูได้รูป 
  • หลีกเลี่ยงแสงแดด หรืออากาศร้อนจัด  
  • ห้ามบีบ นวด แกะ เกาบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
  • หลีกเลี่ยงความร้อน กิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก อย่างน้อย 48 ชม.  
  • งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิดเช่น RF thermage อย่างน้อย 1 เดือน 
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด 
หลังฉีดฟิลเลอร์

สรุป

ฉีดฟิลเลอร์ อันตรายไหม ก่อนฉีดฟิลเลอร์ให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย มีวิธีปฏิบัติง่าย ๆ คือ การเช็กให้ชัวร์ก่อนฉีดฟิลเลอร์ครับ 

ฉีดฟิลเลอร์ที่ V Square Clinic ใช้ฟิลเลอร์แท้ ที่ผ่านอย. ฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้ว ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หลังฉีดฟิลเลอร์ หากอยากให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็วและอยู่ได้นาน ไม่ควรละเลยวิธีปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ที่แพทย์แนะนำครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง

หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง หากกินไปแล้ว ควรปฏิบัติตัวอย่างไร ?

Categories
filler
หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง

หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ ถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษครับ รวมถึงการเลือกรับประทานอาหาร เพราะอาหารบางประเภทจะส่งผลโดยตรงต่อผลลัพธ์หลังฉีดที่อาจทำให้ฟิลเลอร์สลายไวขึ้น และเห็นผลน้อยลง 

สำหรับใครที่อยากให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็วและอยู่ได้นานขึ้น ในบทความนี้หมอจะมาแนะนำวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ? มีข้อห้ามอะไรที่ต้องระวังเป็นพิเศษ ? หากกินอาหารที่ห้ามกินหลังฉีด filler ควรทำอย่างไร ? คนไข้สามารถนำไปปฏิบัติตามได้ครับ

หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

สารบัญ หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง

  1. อาหารที่ห้ามกินหลังฉีดฟิลเลอร์
  2. หลังฉีดฟิลเลอร์ กินวิตามินได้ไหม ?
  3. หลังฉีดฟิลเลอร์ กินยาพาราได้ไหม ?
  4. อาหารที่ห้ามกินหลังฉีดฟิลเลอร์แต่ละตำแหน่ง
  5. หากกินอาหารที่ห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ ควรทำอย่างไร ?

อาหารที่ห้ามกินหลังฉีดฟิลเลอร์

อาหารที่ห้ามกินหลังฉีดฟิลเลอร์  เพื่อป้องกันการเกิดผลข้างเคียง และยืดอายุของฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นานขึ้น หมอแนะนำให้เลี่ยงอาหารดังนี้ครับ

1. อาหารหมักดอง 

หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอาหารหมักดอง

ใน 2 อาทิตย์แรกหลังฉีดฟิลเลอร์ ควรงดอาหารหมักดอง อาหารแปรรูป เช่น ผลไม้ดอง ผักดอง ปลาร้า กุ้งดอง เนื่องจากอาหารที่มีกรรมวิธีในการดองจะมีสิ่งปนเปื้อนที่มากับอาหารอย่างสารกันบูด สารฟอกสี เชื้อราบางชนิดที่อาจจะไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของรอยเข็มได้

2.  อาหารรสจัด

หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอาหารรสจัด

อาหารที่มีรสเค็ม หรืออาหารที่มีโซเดียมสูงจะดูดน้ำจากร่างกาย อาจทำให้ฟิลเลอร์ยุบบวมช้าลง ตัวบวมน้ำได้ง่ายขึ้น รวมถึงอาหารที่มีรสหวาน รสเผ็ดมาก ๆ ที่ทำให้หน้าแดง อาจไปกระตุ้นการอักเสบ ทำให้รอยเข็มบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์หายได้ช้า

3.  อาหารร้อน ปิ้งย่าง ชาบู

หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอาหารร้อน

หลังฉีดฟิลเลอร์ 48 ชั่วโมง ควรเลี่ยงอาหารร้อน ที่ต้องนั่งหน้าเตาเป็นเวลานาน เช่น หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู  รวมไปถึงเครื่องดื่มร้อน ๆ เพราะความร้อนจะส่งผลให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้า และทำให้เลือดหมุนเวียนบนใบหน้ามากขึ้น อาจเกิดการอักเสบมากขึ้นได้ครับ

4. อาหารดิบ 

หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอาหารดิบ

อาหารดิบที่ไม่ผ่านการปรุงสุก หรืออาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เช่น อาหารทะเล แซลมอน ซาซิมิ หอยสด ไข่ลวก เนื้อที่ปรุงไม่สุก มักมีสิ่งปนเปื้อนอย่างพยาธิหรือเชื้อโรคที่จะเข้าไปขัดขวางการซ่อมแซมแผลของร่างกาย ส่งผลให้แผลจากรอยเข็มหายช้าลง หรือทำให้แผลติดเชื้ออักเสบได้

5. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด

หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้หลอดเลือดขยายตัว มีเลือดมาสูบฉีดมากขึ้น อาจส่งผลให้เกิดอาการบวมจากรอยเข็มหายช้าลง และทำให้ฟิลเลอร์สลายไวขึ้นครับ  หมอแนะนำให้งดไปก่อน 14 วัน หรือถ้าหากใครที่เลี่ยงไม่ได้ก็ควรเว้นระยะ 2-3 วันครับ

อาหารบางประเภทจะส่งผลต่ออายุของฟิลเลอร์ การเห็นผล หรืออาจทำให้เกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ ตามมาได้ ดังนั้นหากใครที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ไว อยากให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว และอยู่ได้นานขึ้น ควรเลี่ยงอาหาร 5 ประเภทที่หมอได้แนะนำไปครับ 


หลังฉีดฟิลเลอร์ กินวิตามินได้ไหม ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ สามารถกินวิตามินได้ครับ ที่แนะนำจะเป็นวิตามินซี วิตามินเอ เพราะจะไปกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการสร้างคอลลาเจน ช่วยซ่อมแซมแผลจากรอยเข็ม รวมถึงเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ที่จะช่วยบำรุงผิวพรรณ ชะลอการเสื่อมของเซลล์ ชะลอวัย ลดการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้ครับ ทั้งนี้ควรทานวิตามินในปริมาณที่พอเหมาะ หากทานมากเกินไปจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ครับ  

  • การทานวิตามินซี (Vitamin C) ที่พอเหมาะในแต่วันจะอยู่ที่ 1,000 มิลลิกรัม/วัน เพื่อช่วยบำรุงผิวพรรณ เสริมภูมิคุ้มกัน และ 2,000 มิลลิกรัม/วัน สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคหวัดหรือภูมิแพ้
  • การทานวิตามินเอ (Vitamin A) ที่เหมาะสมในแต่ละวันอยู่ที่ไม่เกิน 50,000 IU ( หากมีการรับประทานยาอย่างอื่นร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชก่อนใช้ยา) 

หลังฉีดฟิลเลอร์ กินยาพาราได้ไหม ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ หากคนไข้มีอาการปวดบริเวณรอยเข็ม สามารถทานยาพาราแก้ปวดตามอาการได้ครับ ยาพาราไม่มีผลต่อการออกฤทธิ์ของฟิลเลอร์ หรือมีผลข้างเคียงใด ๆ


อาหารที่ห้ามกินหลังฉีดฟิลเลอร์แต่ละตำแหน่ง

จริง ๆ แล้วอาหารที่ห้ามกินหลังฉีดฟิลเลอร์แต่ละตำแหน่งไม่ได้มีความแตกต่างกันมากครับ คนไข้สามารถศึกษาได้จากหัวข้อที่หมอได้เขียนไปในข้างต้น แต่ตำแหน่งที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ คือการฉีดฟิลเลอร์ปาก เพราะปากจะสัมผัสกับความร้อนจากอาหารโดยตรง เนื่องจากความร้อนจะส่งผลต่อการเซ็ตตัวของฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น และความร้อนจะทำให้ริมฝีปากสูญเสียความชุ่มชื้น ทำให้ปากแห้ง เกิดการอักเสบบริเวณริมฝีปากได้ หมอจึงแนะนำให้พยายามหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่ร้อนจัดอย่างน้อย 48 ชั่วโมงครับ


หากกินอาหารที่ห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ ควรทำอย่างไร ?

หากกินอาหารที่ห้ามกินหลังฉีดฟิลเลอร์ เช่น อาหารรสจัด อาหารหมักดอง อาหารดิบ ควรดื่มน้ำสะอาดเยอะ ๆ เพื่อให้ร่างกายขับของเสียออกมาครับ น้ำจะไปเป็นตัวเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ฟิลเลอร์มีความอุ้มน้ำ ฟูมากขึ้น และช่วยให้แผลจากรอยเข็มหายไว เพราะร่างกายมีการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน 


สรุป

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์อย่างการเลือกรับประทานอาหาร เป็นสิ่งที่คนไข้ไม่ควรละเลยครับ เพราะอาจทำให้ผลลัพธ์ไม่เห็นผลดีเท่าที่ควร เสียเงิน เสียเวลา ไม่คุ้มค่า และอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ตามมาได้ เพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว และอยู่ได้นาน ไม่มีผลข้างเคียง ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เพราะจะทำให้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจมากที่สุดครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์370x277

หลังฉีดฟิลเลอร์ควรปฏิบัติตัวอย่างไร ? อะไรบ้างที่ต้องระวังในแต่ละตำแหน่ง

Categories
filler

หลังฉีดฟิลเลอร์ 

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์

หลังฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพ ไม่เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ก็มีส่วนสำคัญครับ 

ในบทความนี้หมอรวบรวมวิธีดูแลตัวเองหลังฉีด Filler ในแต่ละตำแหน่งมาแนะนำ พร้อมวิธีปฏิบัติ และข้อห้ามที่ไม่ควรละเลย เพื่อให้คนไข้สามารถดูแลตัวเองได้อย่างถูกต้อง ช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว อยู่ได้นาน มาให้ศึกษาข้อมูลเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนฉีดครับ

สารบัญ หลังฉีดฟิลเลอร์ 

  1. อาการหลังฉีดฟิลเลอร์เป็นอย่างไร ? 
  2. ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์
  3. ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์
  4. ฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไร ?
  5. หลังฉีดฟิลเลอร์นอนตะแคงได้ไหม ?
  6. หลังฉีดฟิลเลอร์ออกกำลังกายได้ไหม ? 
  7. หลังฉีดฟิลเลอร์กี่วันกินเหล้าได้ ?
  8. วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ 1 เดือน
  9. รีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์
  10. ปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์
  11. หลังฉีดฟิลเลอร์ มีอาการบวมต้องทำอย่าไร ?
  12. หลังฉีดฟิลเลอร์ เป็นก้อน ควรทำอย่างไร ?
  13. หลังฉีดฟิลเลอร์แล้วเขียวช้ำ ต้องทำอย่างไร ? 

อาการหลังฉีดฟิลเลอร์เป็นอย่างไร ?  

อาการหลังฉีด filler ที่พบได้บ่อย ๆ คือ บวม ช้ำ ตึง หรือ เจ็บ ๆ คัน ๆ บริเวณรอยเข็มที่ฉีด อาการเหล่านี้ถือเป็นเรื่องปกติครับ โดยเฉพาะในเคสที่ผิวช้ำง่าย ผิวบาง หรือผิวขาว อาจจะเห็นรอยช้ำได้ชัดเจน แต่ไม่ต้องกังวลใจไปครับ เพราะอาการเหล่านี้สามารถหายได้เองตามธรรมชาติ ซึ่งในแต่ละตำแหน่งที่ฉีดอาจจะเกิดอาการต่างกันดังนี้  

  • หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา : อาการที่พบได้บ่อย ๆ หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ อาการบวมหลังฉีด เกิดจากการที่เข็มเข้าไปในผิว และเนื้อฟิลเลอร์ที่ยังไม่เข้าที่ดี ประมาณ 4-5 วันจะค่อย ๆ เข้าที่และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนใน 2 สัปดาห์ครับ
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ดูแลตัวเองอย่างไร ? กี่วันเห็นผล ? 
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก : อาการหลังฉีดฟิลเลอร์ปากเสร็จใหม่ ๆ คนไข้จะรู้สึกตึง และริมฝีปากบวม เกิดจากการใช้เข็ม หรือบวมจากเนื้อฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไป รวมถึงบวมจากยาชาครับ ซึ่งเป็นอาการปกติ ในระหว่างนี้อาจจะบังคับริมฝีปากได้ไม่เหมือนปกติ เพราะวอลลุ่มปากที่มีมากขึ้น ปรับตัวสักระยะก็จะเริ่มชินครับ และประมาณ 4-5 วัน ก็จะค่อย ๆ เข้าที่ครับ  
8 คำถามยอดฮิต ฉีดฟิลเลอร์ปาก ครั้งแรก ต้องรู้อะไรบ้าง?
  • หลังฉีดฟิลเลอร์คาง : อาการหลังฉีดฟิลเลอร์คางที่พบได้บ่อย ๆ คือบวม และ มีรอยช้ำครับ เพราะหลังฉีดหมอจะต้องจับปั้นทรง จึงอาจเกิดรอยช้ำได้ อาการบวมจะเกิดจากบวมเข็ม และอิ่มฟูขึ้นจากฟิลเลอร์ โดยหลังฉีดคาง 24 ชม.แรกจะมีอาการบวมมากขึ้น แต่เมื่อเมื่อผ่านไป 7-14 วันก็จะเข้าที่ รวมถึงรอยช้ำ ก็จะหายไปครับ  
ฟิลเลอร์คาง ช่วยอะไรบ้าง อันตรายไหม? ก่อน – หลังฉีดควรรู้อะไรบ้าง 
  • หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก : อาการหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะมีอาการบวมเล็กน้อยเป็นปกติอีกเช่นกันครับ โดยทั่วไปจะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน และหายบวมเข้าที่ใน 14 วันครับ 
ฟิลเลอร์หน้าผาก ปรับโหงวเฮ้ง แก้ไขปัญหา หน้าผากยุบ หน้าผากแบน
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม : อาการหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มอาจจะมีอาการบวม รอยแดง รอยเขียวช้ำ หรือคันได้ในจุดที่ทำ ให้หลีกเลี่ยงการแตะ การเกา การกดนวดในจุดนั้น ๆ อาการต่าง ๆ จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน
  • หลังฉีดฟิลเลอร์จมูก : อาการหลังฉีดฟิลเลอร์จมูกในช่วงแรกจะรู้สึกตึง ๆ บวมเล็กน้อย และอาจเห็นรอยเข็มเพราะผิวบริเวณจมูกค่อนข้างบาง โดยทั้ง 2 อาการสามารถหายได้เอง และรูปทรงจมูกจะเข้าที่ประมาณ 14 วันครับ

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์

ในแต่ละตำแหน่งหลังฉีดฟิลเลอร์จะมีข้อควรปฏิบัติที่เหมือนและแตกต่างกันอยู่บ้าง หมอจะอธิบายเป็นข้อ ๆ ในแต่ละตำแหน่งฉีดดังนี้  

1.ฟิลเลอร์ใต้ตา 

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเสร็จทันที คือ ไม่กด หรือจับบริเวณที่ฉีด โดยหมอจะติดพลาสเตอร์ตามรอยเข็มไว้ให้ หลัง 1 ชม.ไปแล้วถึงจะสามารถแกะออกได้ ซึ่งคนไข้สามารถใช้หน้าได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นครับ 

ส่วนในบางเคสที่อาจมีอาการปวดระบมตามรอยเข็มในคืนแรกหลังทำ สามารถรับประทานยาแก้ปวดที่ทางคลินิกให้ไปทุก ๆ 4 ชม.นอกจากนี้ควรนอนหัวสูงกว่าหน้าอก โดยการหนุนหมอนที่ศีรษะอย่างน้อย 2 ใบ ไม่ควรนอนตะแคง ให้หาหมอนข้างมากันไว้ทั้งซ้ายและขวาใน 2-3 คืนแรกหลังทำ เพื่อป้องกันการกดทับใบหน้า

ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

นอกจากนี้แนะนำให้อยู่ในที่อากาศเย็น ๆ หลีกเลี่ยงอากาศร้อน ๆ เพราะเหงื่อ รวมถึงฝุ่นควันอาจทำให้รู้สึกระคายเคืองผิว และคันตามรอยเข็มได้ รวมถึงควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้ฟิลเลอร์อุ้มน้ำได้เต็มที่ ช่วยให้ผลลัพธ์เข้าที่เร็วและอยู่ได้นานขึ้นครับ  

2.หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อให้ปากอวบอิ่มเข้าที่เร็ว สิ่งที่ควรปฏิบัติ หลัก ๆ คือ เลี่ยงการรับประทานอาหารที่ร้อนจัด เพราะจะทำให้ปากบวมนาน หรือเกิดการอักเสบได้ ควรรับประทานอาหารและเครื่องดื่มอุณหภูมิปกติ และในช่วง 12 ชั่วโมงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่ควรดื่มน้ำโดยใช้หลอดดูดน้ำ  

หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

ในส่วนของการทาลิปสติก ใน 24 ชม.แรกหลังฉีด ควรเลี่ยงครับ โดยเฉพาะลิปสี นอกจากนี้ควรงดการสูบบุหรี่ร่วมด้วย อย่างน้อย 24 ชม.หลังฉีดครับ 

3.หลังฉีดฟิลเลอร์คาง

สิ่งที่ควรทำหลังฉีดฟิลเลอร์คาง ไม่ต่างไปจากการฉีดในตำแหน่งอื่น ๆ ครับ เช่น 

  1. หลังฉีดฟิลเลอร์คาง ควรอยู่ในที่อากาศเย็น ๆ เพื่อช่วยลดอาการบวม อย่างน้อย 48 ชม.
  2. หลังฉีดฟิลเลอร์คางเสร็จทันที หมอจะติดพลาสเตอร์ให้ตามรอยเข็ม สามารถแกะออกได้ เมื่อครบ 1 ชม. 
  3. ควรนอนหัวสูงกว่าหน้าอก โดยการหนุนหมอนที่ศีรษะอย่างน้อย 2 ใบ ไม่ควรนอนตะแคง และหาหมอนข้างมากันไว้ทั้งซ้ายและขวาใน 2-3 คืนแรกหลังทำเพื่อป้องกันการกดทับหน้า 
  4. สามารถล้างหน้าด้วยสบู่อ่อน ๆ และโดนน้ำได้ไม่เกิน 15 นาที อย่าแช่น้ำจนผิวเปื่อยเพราะยังมีรอยเข็มอยู่ในวันแรก
  5. ควรดื่มน้ำมาก ๆ ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยเฉพาะในช่วง 4-5 วันแรก เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นสารอุ้มน้ำ จึงถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น
  6. ควรทานยาที่แพทย์จ่ายให้หลังทำต่อเนื่องจนครบ เพื่อช่วยลดอาการบวม และป้องกันการติดเชื้อ
  7. ในบางเคสอาจปวดระบมตามรอยเข็มในคืนแรกหลังทำ สามารถกินยาแก้ปวดได้ตามอาการ

4.หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากตามที่กล่าวไว้ในหัวข้อข้างต้นว่า อาจมีอาการบวมเล็กน้อย จากรอยเข็ม และตัวฟิลเลอร์ ซึ่งเป็นเรื่องปกติครับ 

หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก บวมกี่วัน ? ต้องดูแลตัวเองอย่างไร 

โดยหลังฉีดในช่วง 2-3 วัน อาการจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ต้องกังวลครับ ควรดูแลตัวเอง โดยมีข้อปฏิบัติดังนี้   

  1. ควรอยู่ในที่อากาศเย็น และหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
  2. ทางคลินิกจะมีการจ่ายยาแก้ปวด ลดบวมให้
  3. ควรงดการทำเลเซอร์ร้อนลงชั้นผิว ประมาณ 1 เดือน
  4. ควรดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูสวย และอยู่ได้นานขึ้น

5.หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ควรปฏิบัติเพื่อช่วยให้ใบหน้ากลับมาดูอ่อนกว่าวัย มีดังนี้ 

  1. อย่าบีบ นวด แกะเกาบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ หากมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคันในจุดที่ทำ อาการต่าง ๆ จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วันครับ 
  2. หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม.หลังทำ แนะนำให้อยู่ในที่อากาศเย็น ๆ ครับ 
  3. ให้งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด (ควรเว้นอย่างน้อย 1 เดือนหลังทำ)
  4. อย่าขยับใบหน้าเยอะโดยเฉพาะในช่วง 3 วันหลังทำ อาจจะทำให้ฟิลเลอร์ที่ทำไว้เคลื่อนที่ผิดตำแหน่งได้ครับ
  5. การดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอตามปกติคือวันละ 1.5-2 ลิตร เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้
 หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มกี่วันเห็นผล อันตรายไหม บวมเป็นก้อนแก้ไขอย่างไร 

6.หลังฉีดฟิลเลอร์จมูก

หลังฉีดฟิลเลอร์จมูก คนไข้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติครับ ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์จมูกเพื่อให้ฟิลเลอร์จมูกได้ผลลัพธ์ที่ดี เข้าที่เร็ว และอยู่ได้นานมีดังนี้ 

  • ในช่วง 2-3  ชั่วโมงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์จมูก ไม่ควรนอนราบ
  • ไม่ควรจับ บีบ กด ปั้นทรงจมูกเอง หรือถูหน้าแรง ๆ 
  • งดการออกกำลังกายในช่วง 48 ชั่วโมงแรก 
  • งดการสัมผัสความร้อนด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น เลเซอร์ผิว อย่างน้อย 2 อาทิตย์
ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์

ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์

นอกจากวิธีการปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์แล้ว ยังมีข้อห้ามที่ไม่ควรละเลยในแต่ละตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์ร่วมด้วย เช่น 

  • หลังฟิลเลอร์ใต้ตา ห้ามขยี้ตา ห้ามกดนวด เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ อักเสบจากมือที่สกปรก รวมถึงมีผลต่อการเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์ครับ
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามกินของร้อน ของเผ็ด รวมถึงอาหารรสจัด ในช่วง 3 วันแรก เนื่องจากความร้อนจะส่งผลต่อการยืด-หด ของผิว และกระทบต่อการเซ็ตตัวของฟิลเลอร์ นอกจากนี้ยังห้ามดึง แกะ ลอกหนังริมฝีปากเด็ดขาด เพราะจะเป็นการทำร้ายผิวริมฝีปาก ทำให้ผิวเก็บกักน้ำและความชุ่มชื้นไว้ได้น้อยลง ส่งผลให้ปากเสียรูปทรง ปากแห้งแตกครับ 
  • หลังฉีดฟิลเลอร์คาง ห้ามเท้าคางเด็ดขาดครับ เพราะจะทำให้เจ็บ เสี่ยงเกิดรอยช้ำ รวมถึงอาจทำให้เสียทรงได้ นอกจากนี้ยังห้ามใส่หมวกกันน็อคที่รัดแน่น ๆ หรือปั้นทรงเองโดยเด็ดขาดครับ 
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม  อย่าขยับใบหน้าเยอะโดยเฉพาะในช่วง 3 วันหลังทำ อาจจะทำให้ฟิลเลอร์ร่องแก้มเคลื่อนที่ได้ครับ
  • หลังฉีดฟิลเลอร์จมูก ห้ามดึงหรือปรับทรงจมูกเอง ห้ามบีบจมูก กดจมูก จนกว่าฟิลเลอร์จะเข้าที่ หรือประมาณ 14 วันครับ 
  • หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ห้ามนอนคว่ำ หรือมีการรัด กดบริเวณหน้าผาก ห้ามกดสิว หรือถูหน้าผากแรง ๆ 

ฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไร ? 

 หลังฉีดฟิลเลอร์เพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว และไม่เกิดอาการแทรกซ้อนที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การอักเสบ บวม  การเลือกและเลี่ยงอาหารบางกลุ่มก็มีความสำคัญไม่แพ้กันครับ 

อาหารต้องห้าม 

  • ควรงดรับประทานอาหารเหล่านี้ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ น้ำหมัก
  • เลี่ยงมื้ออาหารที่อยู่หน้าเตานาน ๆ เช่น หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู ที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ ครับ
  • อาหารที่เผ็ดมาก ๆ แสบร้อนจนหน้าแดง
  • อาหารหมักดอง เพราะมีสารที่ทำให้เส้นเลือดขยายตัว เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง มะม่วงดอง
  • หลีกเลี่ยงการกินอาหารดิบจากร้านอาหารที่ไม่สะอาด เนื่องจากพยาธิบางชนิดจะทำปฏิกิริยากับฟิลเลอร์แล้วเกิดการอักเสบได้
  • เลี่ยงอาหารที่หวานจัด ๆ นมวัว เพราะสามารถกระตุ้นกระบวนการอักเสบได้
  • ควรงดสูบบุหรี่ ในบุหรี่มีสารหลายชนิดที่ขยายหลอดเลือด จะทำให้ยุบบวมช้า และผลการรักษาอยู่ได้สั้นลง
ฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไร

อ่านบทความเพิ่มเติม : หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง

อาหารแนะนำ 

  • ควรรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ผิว เช่นไก่ ปลา ไข่ขาว ธัญพืช 
  • ควรเสริมด้วยผลไม้ ผักใบเขียว แครอท ฟักทอง 
  • ควรดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อย 1.5-2 ลิตรต่อวัน 

อาหารเหล่านี้จะไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน และช่วยฟื้นฟูให้แผลจากเข็มหายเร็วขึ้น 

หลังฉีดฟิลเลอร์นอนตะแคงได้ไหม ? 

หลังฉีดฟิลเลอร์ ในบางตำแหน่งหมอจะแนะนำว่าไม่ควรนอนตะแคง ใน 2-3 วันแรกหลังฉีดครับ เช่น ฟิลเลอร์ใต้ตา, ฟิลเลอร์คาง,ฟิลเลอร์ขมับ และ ฟิลเลอร์ร่องแก้ม เพราะการนอนตะแคง หรือนอนในท่าที่จะกดทับตำแหน่งที่ฉีดอาจจะทำให้เจ็บมากยิ่งขึ้น การเซ็ตตัวของฟิลเลอร์อาจผิดรูปทรงจากที่หมอฉีด แนะนำให้นอนหนุนหมอนสองใบให้หัวสูงกว่าอก เพราะจะช่วยลดอาการบวมได้ครับ 

หลังฉีดฟิลเลอร์ออกกำลังกายได้ไหม ?

ในช่วง 3 วันแรก หมอไม่แนะนำครับ เพราะการออกกำลังกายหนัก ๆ  จะทำให้หน้าแดง และเลือดสูบฉีด รวมถึงมีเหงื่อออกมาก อาจส่งผลต่อการระคายเคือง อักเสบ บวมแดงมากกว่าปกติครับ 

หลังฉีดฟิลเลอร์กี่วันกินเหล้าได้ ?

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดการกระตุ้นการอักเสบ อาการบวมแดงหายช้า โดยทั่วไปหมอจะแนะนำให้เลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ 14 วัน แต่หากหลีกเลี่ยงได้ยาก ควรเว้นอย่างน้อย 3 วันหลังฉีดครับ 


วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ 1 เดือน

  • งดการทำทรีตเมนท์ เลเซอร์ร้อน ที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เช่น RF thermage ควรเว้นอย่างน้อย 1 เดือนหลังทำ
  • แนะนำดื่มน้ำมาก ๆ  เพราะน้ำเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นาน เพราะฟิลเลอร์เป็นสารที่อุ้มน้ำ การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูได้รูป โดยควรดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอตามปกติคือวันละ 1.5-2 ลิตร 

รีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์

ตัวอย่างรีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา-ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 

รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา-ฟิลเลอร์ร่องแก้ม(1)
รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา-ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
รีวิวแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ หน้าไม่เท่ากันด้วยฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์คาง และ Hifu 

ตัวอย่างรีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์คาง 

รีวิวฟิลเลอร์คาง
รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา-ฟิลเลอร์คาง
รีวิวฟิลเลอร์ปาก คาง ขมับ ใส่ใจทุกรายละเอียด ในการออกแบบใบหน้า

ตัวอย่างรีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์จมูก

รีวิวฟิลเลอร์จมูก
รีวิวฟิลเลอร์จมูก(1)
รีวิวฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหา หน้าผากแบน หน้าผากยุบ เห็นผลหลังฉีดทันที

ตัวอย่างรีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ

รีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ
รีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ(1)

ตัวอย่างรีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

รีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก(1)
รีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

ปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์

ปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์ในกรณีที่ใช้ฟิลเลอร์แท้ และฉีดโดยแพทย์ มักไม่มีปัญหาอะไรที่ต้องกังวลใจครับ ปัญหาที่เกิดส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้หลังฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติครับ ตัวอย่างเช่น  

1. หลังฉีดฟิลเลอร์ มีอาการบวม ต้องทำอย่างไร  ?

โดยปกติหลังฉีดฟิลเลอร์จะมีอาการบวมเกิดขึ้น แต่ค่อย ๆ หายบวมประมาณ 4-5 วัน และเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนเข้าที่ ประมาณ 2-3 สัปดาห์ครับ หากต้องการลดบวม สามารถประคบเย็นได้ โดยขอคำแนะนำจากแพทย์ เพื่อแนะนำวิธีประคบเย็นอย่างถูกวิธี เพราะหากประคบผิดอาจทำให้เกิดการเสียทรงของฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปได้ครับ รวมถึงถ้ามีอาการปวด ก็สามารถทานยาแก้ปวดได้ตามอาการครับ

2.หลังฉีดฟิลเลอร์ เป็นก้อน ควรทำอย่างไร ? 

การฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน บวม ผิวไม่เรียบเนียน สามารถเกิดขึ้นได้ หากแพทย์ใช้เทคนิคที่ไม่เหมาะสม เพื่อลดปัญหานี้ ควรฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้เทคนิคและเลือกชนิดของฟิลเลอร์ รวมถึง ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ ต้องเหมาะสมกับบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ครับ 

กรณีที่ฟิลเลอร์เป็นก้อนแล้วต้องการแก้ไข ฟิลเลอร์แท้สามารถฉีดสลายออกได้ครับ สามารถฉีดสลายออกแล้วกลับมาฉีดใหม่กับแพทย์ที่มีประสบการณ์ เข้าใจโครงสร้างสรีรวิทยาของร่างกายมนุษย์ ศิลปะด้านการปรับรูปหน้าเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นที่พึงพอใจและคุ้มค่าที่สุด

3.หลังฉีดฟิลเลอร์แล้ว เขียวช้ำ ต้องทำอย่างไร  ? 

หลังการทำหัตถการไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์ โบท็อก หรือการฉีดเมโสหน้าใส ก็สามารถเกิดรอยเขียวช้ำได้ครับ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากเวลาฉีดฟิลเลอร์หรือสารต่าง ๆ เข้าผิว ตัวเข็มจะต้องมีการเสียดสีกับบริเวณใต้ผิวหนัง จึงเกิดอาการบวม รวมถึงรอยเขียวช้ำได้ วิธีดูแลตัวเองในกรณีนี้คือ ควรหลีกเลี่ยงความร้อน ทั้งจากแสงแดด รวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ไดร์เป่าผม เลี่ยงการกดทับ เพื่อให้รอยหายได้เร็ว โดยทั่วไปรอยเขียวช้ำจะหายได้เองประมาณ 1 สัปดาห์ครับ 


สรุป

ใครที่สนใจการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามคุ้มค่า ไม่เพียงแต่ต้องใส่ใจตั้งแต่การเลือกคลินิก เลือกหมอ เลือกฟิลเลอร์รุ่นที่เหมาะสมเท่านั้น แต่การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน  

เพราะการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ รู้ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ และวิธีปฏิบัติตัวอย่างถูกต้อง ก็จะช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้นด้วยครับ 


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน