บทความทั้งหมด

โบท็อกไมเกรน370X277

โบท็อกซ์ไมเกรน ช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้จริงไหม ? มีวิธีการอย่างไร ?

Categories
botox
โบท็อกไมเกรน1000X860

โบท็อกซ์ไมเกรน

โบท็อกซ์ คนส่วนใหญ่มักจะคุ้นชินกับการฉีดเพื่อเสริมความงาม แต่ในช่วงแรกโบท็อกถูกนำมาฉีดเพื่อรักษาโรคกล้ามเนื้อเกร็งผิดปกติมาก่อนครับ อย่างการฉีดโบท็อกซ์รักษาไมเกรน ที่มีหลายงานวิจัยยืนยันว่าเป็นวิธีแก้ปวดหัว บรรเทาอาการปวดหัวท้ายทอย ปวดหัวข้างเดียวได้จริง และในอีกทางหนึ่งยังช่วยลดโอกาสการสะสมของสารพิษตกค้างในตับจากการรับประทานยาแก้ปวดมากเกินความจำเป็นได้

สำหรับคนไข้ที่มีปัญหาปวดหัวไมเกรนเรื้อรัง ไม่อยากเพิ่มความเสี่ยงจากการใช้ยา สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อกซ์รักษาไมเกรนได้ครับ โบท็อกซ์ ช่วยบรรเทาอาการปวดไมเกรนได้อย่างไร ? โบท็อกซ์ไมเกรน ฉีดจุดไหน ? อันตรายไหม ? อยู่ได้นานไหม กี่ครั้งเห็นผล ? วิธีแก้ปวดหัวไมเกรนโดยไม่ใช้ยา มีวิธีไหนบ้าง ?

โบท็อกซ์ไมเกรน

สารบัญ โบท็อกซ์ไมเกรน

  1. โบท็อกซ์ไมเกรน คืออะไร ?
  2. โบท็อกซ์ไมเกรน อันตรายไหม ?
  3. โบท็อกซ์ ช่วยบรรเทาอาการปวดไมเกรนได้อย่างไร ?
  4. ปวดหัวไมเกรน มีสาเหตุมาจากอะไร อาการเป็นอย่างไร ?
  5. โบท็อกซ์ไมเกรน เหมาะกับใคร ?
  6. โบท็อกซ์ไมเกรน ฉีดจุดไหน ?
  7. โบท็อกซ์ไมเกรน ใช้ยี่ห้อไหนดี ใช้กี่ยูนิต ?
  8. โบท็อกซ์ไมเกรน ราคาเท่าไร ?
  9. โบท็อกซ์ไมเกรน อยู่ได้นานไหม กี่ครั้งเห็นผล ?
  10. วิธีรักษาไมเกรนโดยไม่ใช้ยา
  11. ฉีดโบท็อกซ์ไมเกรน ที่ไหนดี ?
  12. วิธีดูแลตัวเองก่อน- หลังฉีดโบท็อกซ์ไมเกรน

โบท็อกซ์ไมเกรน คืออะไร ?

โบท็อกซ์ไมเกรน คือ การนำสารสกัดจากโปรตีนที่ชื่อว่า โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin Type A) มาฉีดเข้าบริเวณระหว่างคิ้ว หน้าผาก ท้ายทอย ต้นคอ และบ่า โดยจะประเมินตามอาการในแต่ละราย เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน (Migraine)  ปวดหัวท้ายทอย ปวดศีรษะจากความเครียด (Tension headache) หรือใช้ในคนไข้ที่ปวดศีรษะอย่างน้อย 14 วันต่อเดือนขึ้นไปครับ

ในงานวิจัยจะระบุว่าโบท็อกช่วยลดอาการปวดลงได้ แม้จะไม่ใช่วิธีรักษาให้หายขาด แต่ก็สามารถบรรเทาและลดความถี่ของจำนวนวันของอาการไมเกรนลงได้ครับ 


โบท็อกซ์ไมเกรน อันตรายไหม ?

โบท็อกซ์ไมเกรน ไม่อันตรายครับ เป็นหัตถการที่ได้รับการรับรอง US.FDA องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี 2010 ว่าสามารถช่วยลดอาการปวดหัวไมเกรนได้จริง ไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรงจากการใช้ Botox ในผู้ป่วยไมเกรน จึงเป็นวิธีรักษาไมเกรนที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก

ทั้งนี้กระบวนการฉีดโบท็อกไมเกรนจะต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้นครับ ไม่ใช่แพทย์ทุกคนที่สามารถฉีดโบท็อกไมเกรนได้ เพราะแพทย์จำเป็นต้องผ่านการอบรม หรือศึกษาเรื่องการฉีดไมเกรนโดยเฉพาะ เพื่อให้ฉีดได้ถูกตำแหน่ง และต้องใช้โบท็อกแท้เท่านั้น เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและมีความปลอดภัย


โบท็อกซ์ ช่วยบรรเทาอาการปวดไมเกรนได้อย่างไร ?

เมื่อมีอาการไมเกรน ร่างกายจะปล่อยสารสื่อประสาทที่เกี่ยวข้องกับการรับรู้ความเจ็บปวดออกมา เมื่อฉีดโบท็อกซ์เข้าไป โบท็อกจะไปยับยั้งการทำงานของปลายประสาท Acetyl Choline ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการส่งสัญญาณความเจ็บปวดไปยังสมอง หลังฉีดคนไข้จึงรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น อาการปวดหัวไมเกรนลดน้อยลงครับ

จากงานวิจัยของ New York Times กล่าวถึงผลการศึกษาเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกไมเกรนว่า สามารถลดอาการปวดหัวไมเกรนได้ถึง 60-70% โดยจะเป็นการลดจำนวนวันที่จะเป็นไมเกรนต่อเดือนให้น้อยลง แต่ไม่ได้ช่วยลดความถี่ในการเกิดอาการครับ และข้อดีที่เป็นผลพลอยได้อีกหนึ่งข้อคือ ช่วยลดริ้วรอย และชะลอวัยผิว


ปวดหัวไมเกรน มีสาเหตุมาจากอะไร อาการเป็นอย่างไร ?

ปวดหัวไมเกรน มีสาเหตุมาจากอะไร

ปวดหัวไมเกรน (Migraine headache) เป็นอาการปวดศีรษะเรื้อรังชนิดหนึ่ง ส่วนใหญ่มักจะปวดหัวข้างเดียว ในบางรายอาจปวดทั้งสองข้างต่างกันไปตามความรุนแรง โดยจะปวดหัวอย่างน้อย 14 วัน/เดือน ขึ้นไป ตามสถิติจะพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะหญิงในวัยเจริญพันธุ์

สาเหตุของการเกิดไมเกรน

ปัจจุบันยังไม่ได้มีการระบุที่แน่ชัดครับว่าอาการปวดหัวไมเกรนเกิดจากสาเหตุใดเป็นหลัก เนื่องจากมีปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดการปวดหัวไมเกรนจากหลายสาเหตุ เช่น

  • การเปลี่ยนของฮอร์โมน โดยเฉพาะในเพศหญิง ทั้งในวัยมีประจำเดือนและวัยทอง
  • ความผิดปกติชั่วคราวของระดับสารเคมีในสมอง หลอดเลือดในเยื่อหุ้มสมองเกิดการบีบ และคลายตัวมากกว่าปกติ
  • ออฟฟิศซินโดรม ไหล่ตึง จากพังผืดเกาะกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะบริเวณกล้ามเนื้อคอ ที่สามารถกระตุ้นให้ปวดหัวไมเกรนได้
  • ความเครียดสะสมทางจิตใจและร่างกาย มีภาวะวิตกกังวลใจเป็นประจำ
  • การพักผ่อนไม่เพียงพอหรือนอนหลับมากเกินไป  มีอาการเหนื่อยล้า เพลียจากการออกกำลังกายที่ต้องใช้แรงเยอะ
  • การใช้ยาบางชนิดที่ไปกระตุ้นการหลั่งสารเคมีในสมอง
  • การรับประทานอาหารที่มีสาร Tyramine (ไทรามีน) หรือ Sodium Nitrite (โซเดียมไนไตรท์) มากเกินไป เช่น อาหารแปรรูป ไส้กรอก อาหารแช่แข็ง อาหารกระป๋อง เนย ถั่วเปลือกแข็ง อาหารหมักดอง
  • การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากเกินไป
  • สภาพแวดล้อม อากาศอบอ้าว ฝุ่น และมลภาวะ รวมถึงที่ ๆ มีแสงสว่างจ้า 
  • ภาวะหลังการคลอดบุตร หรืออาการซึมเศร้าหลังคลอดบุตร เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายลดลงฉับพลัน

ปวดหัวไมเกรน

อาการปวดหัวไมเกรนที่พบได้ทั่วไปจะมีอาการปวดหัวตุบ ๆ ปวดหัวข้างเดียวหรือทั้งสองข้างสลับกัน ในบางรายอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดกระบอกตา ปวดท้ายทอย หรือรู้สึกตาไวต่อแสงมากขึ้น ตาสู้แสงไม่ได้ 

ตามหลักการแพทย์จะแบ่งอาการปวดหัวไมเกรนออกเป็น 4 ระยะครับ ได้แก่

  • ระยะอาการบอกเหตุ (Prodrome) : เป็นอาการที่จะเกิดในช่วง 1-2 วัน ก่อนปวดหัวไมเกรน ลักษณะอาการที่บ่งบอก เช่น ปวดตึงต้นคอ, ปวดหัวท้ายทอย, กระหายน้ำหรือปัสสาวะบ่อยขึ้น, ท้องผูก, ง่วงนอน หาวบ่อยผิดปกติ, อารมณ์แปรปรวน มีอาการซึมเศร้า
  • ระยะอาการเตือนนำ (Aura) : เป็นระยะอาการก่อนนำไปสู่การปวดหัวไมเกรน ลักษณะอาการที่บ่งบอก เช่น ชาที่มือที่เท้า, สายตาพร่ามัว มองเห็นรูปทรงต่าง ๆ ผิดขนาด, กล้ามเนื้อเริ่มอ่อนแรง ร่างกายเคลื่อนไหวช้าลง 
  • ระยะปวดศีรษะ (Headache) : คนไข้จะรู้สึกปวดหัวตุบ ๆ โดยจะปวดหัวข้างเดียว หรือปวดสองข้างพร้อมกัน บางรายอาจปวดกระบอกตาจนไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ หากมีอาการที่รุนแรงขึ้น อาจพบว่าตาไวต่อแสง ตาสู้แสงไม่ได้  มีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย
  • ระยะอาการเข้าสู่ภาวะปกติ (Postdrome) : อาการปวดหัวเริ่มทุเลาลง เข้าสู่ภาวะร่างกายอ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ ในบางรายอาจยังรู้สึกไวต่อสิ่งเร้าภายนอก เช่น แสง สี เสียง กลิ่น

โบท็อกซ์ไมเกรน เหมาะกับใคร ?

  • คนที่มีอาการปวดหัวไมเกรนเรื้อรัง ปวดหัวข้างเดียว หรือปวดหัวทั้งสองข้างที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
  • คนที่ไม่อยากรับประทานยาแก้ปวดมากเกินความจำเป็น กังวลความผิดปกติของค่าตับและไต
  • คนที่มีภาวะเสี่ยงเป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ แผลในกระเพาะอาหารจากการใช้ยาแก้ปวด 
  • คนที่รับประทานยาแก้ปวดแล้วอาการไม่ทุเลาลง

โบท็อกซ์ไมเกรน ฉีดจุดไหน ?

Source_โบท็อกซ์ไมเกรน-ฉีดจุดไหน

ตำแหน่งฉีดโบท็อกซ์รักษาไมเกรน หมอจะฉีดโบท็อกตามตำแหน่งดังนี้ครับ

ตำแหน่งฉีดโบท็อกซ์รักษาไมเกรน เป็นตำแหน่งที่ฉีดเพื่อบรรเทาอาการปวดหัวจากไมเกรนโดยเฉพาะ ดังนั้นควรฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ รู้กายวิภาคของร่างกายเป็นอย่างดีเท่านั้นครับ 


โบท็อกซ์ไมเกรน ใช้ยี่ห้อไหนดี ใช้กี่ยูนิต ?

โบท็อกซ์ไมเกรน ใช้ยี่ห้อไหนดี

โบท็อกซ์ไมเกรน สามารถใช้ได้หลายยี่ห้อครับ หมอแนะนำให้ฉีดโบท็อกยี่ห้อที่ผ่าน อย.ไทยแล้วเท่านั้น ซึ่งได้แก่ โบท็อก Allergan (อเมริกา), โบท็อก Dysport (อังกฤษ), โบท็อก Xeomin (เยอรมัน), โบท็อก Nabota/Aestox (เกาหลี)

ยี่ห้อที่ได้รับความนิยมในไทย คือ โบท็อกเกาหลีครับ โดยจะใช้โบท็อกประมาณ 100 ยูนิต ทั้งนี้หมอจะแนะนำยี่ห้อที่เหมาะสมกับปัญหาและความต้องการของแต่ละเคส

วิธีดู โบท็อกซ์ปลอม โบท็อกหิ้ว? โบท็อกแต่ละยี่ห้อ มีข้อควรระวังอะไร? l หมอ V Square แชร์หมดเปลือก

โบท็อกซ์ไมเกรน ราคาเท่าไร ?

โบท็อกซ์ไมเกรน ราคาเท่าไร คุณต่าย

โบท็อกซ์ไมเกรน  ราคาเริ่มต้น 9,000.-/100 U หมอแนะนำโบท็อกเกาหลี ยี่ห้อ Nabota/Aestox โดยฉีดทุก ๆ 3 เดือนครับ


โบท็อกซ์ไมเกรน อยู่ได้นานไหม กี่ครั้งเห็นผล ?

โบท็อกซ์ไมเกรน อยู่ได้นานประมาณ 3-4 เดือน จากนั้นโบท็อกจะค่อย ๆ หมดฤทธิ์ลงครับ หากใครที่ต้องการบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนอย่างต่อเนื่อง สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ตามคำแนะนำของแพทย์ 

การฉีดโบท็อกซ์ไมเกรนสามารถเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกครับ จะเห็นผลเต็มที่ใน 2 สัปดาห์หลังฉีด ความถี่ในการฉีดอย่างต่ำควรเว้นระยะห่าง 3 เดือน ไม่ควรฉีดโบท็อกถี่เกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการดื้อโบท็อกได้ ซึ่งในปัจจุบันอาการดังกล่าวยังไม่มีวิธีรักษาครับ


วิธีรักษาไมเกรนโดยไม่ใช้ยา

นอกจากการฉีดโบท็อกซ์รักษาไมเกรนแล้วยังมีวิธีแก้ปวดหัวไมเกรนโดยไม่ต้องใช้ยาอีกหลายวิธีครับ ได้แก่

Source_6-วิธีบรรเทาอาการไมเกรน-โดยไม่ใช้ยา

1. การฝังเข็ม

การฝังเข็มรักษาไมเกรน เป็นวิธีการรักษาทางการแพทย์แผนจีนโดยจะฝังเข็มตามตำแหน่งบนเส้นลมปราณทั่วร่างกาย เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดหัวจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น และช่วยปรับระบบการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายให้สมดุลครับ แต่จะไม่สามารถระงับหรือบรรเทาอาการปวดได้ทันที จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดขั้นรุนแรง

ข้อควรระวังของการฝังเข็มรักษาไมเกรน คือต้องทำกับแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์เท่านั้น และที่สำคัญควรเลือกทำในสถานพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือ มีห้องปลอดเชื้อ เข็มที่ใช้จะต้องเป็นแบบใช้แล้วทิ้งเท่านั้น เพื่อป้องกันการติดเชื้อครับ

2. การนวดกดจุด

การนวดกดจุด เป็นวิธีการรักษาทางการแพทย์แผนไทย โดยจะนวดบริเวณขมับ ศีรษะ ท้ายทอย คอ บ่า ไหล่ เพื่อช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายและทำการหลั่งสารอะดรีนาลีนออกมาเพื่อระงับอาการปวดหัวไมเกรน และช่วยระบบการหมุนเวียนของเลือด ต่อมน้ำเหลืองในร่างกายให้ทำงานดีขึ้น 

ข้อควรระวังของนวดกดจุด คือหลังทำร่างกายอาจมีอาการปวด แดง บวม หรือเส้นอักเสบได้ และไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคความดันสูง ผู้ป่วยเบาหวาน อัมพาต เพราะอาจทำให้หลอดเลือดดำอักเสบ หรือความดันสูงขึ้น รวมถึงคนที่มีปัญหากระดูกเปราะ กระดูกบาง ข้อต่อหลวม 

3. การทำกายภาพบำบัด

การทำกายภาพบำบัดรักษาไมเกรน  (Biofeedback)  จะเป็นการให้คนไข้เรียนรู้และควบคุมการทำงานของร่างกายตัวเอง เช่น การฝึกหายใจ การกำหนดจิต เพื่อให้คนไข้รู้สึกผ่อนคลาย หายใจถูกจังหวะ นอกจากนี้การทำกายภาพบำบัดรักษาไมเกรน ยังรวมถึงการนวดคอ บ่า ไหล่ เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพของร่างกาย คลายกล้ามเนื้อคอ ลดอาการปวดหัวท้ายทอยได้ครับ 

4. ชา สมุนไพร

มีงานวิจัยระบุว่าการดื่มชา สามารถบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนลงได้ครับ เช่น ชาขิง, ชาเปปเปอร์มินต์, ชาคาโมมายล์, ชากานพลู เป็นต้น การดื่มชาจะทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์ดีขึ้น และชาหรือสมุนไพรบางชนิดจะมีฤทธิ์ช่วยลดอาการปวดต่าง ๆ ได้ 

ทั้งนี้ชาหรือสมุนไพรบางชนิดไม่ควรดื่มต่อกันหลายวันหรือเป็นระยะเวลานานครับ โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากสารประกอบบางอย่างในชาอาจเป็นอันตรายต่อเด็กในครรภ์ได้

5. การใช้วิตามินหรือเกลือแร่

การใช้วิตามินหรือเกลือแร่ เป็นวิธีรักษาไมเกรนด้วยตัวเอง วิธีนี้จะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวและลดความถี่ของการเกิดอาการได้ครับ สำหรับวิตามินที่ช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนที่แนะนำ เช่น แมกนีเซียม (Magnesium), วิตามินบี 2 (Riboflavin),  โคเอนไซม์คิวเทน (Coenzyme Q10)

วิตามินที่หมอส่วนใหญ่แนะนำจะเป็นการเสริมแมกนีเซียมครับ เพราะถ้าขาดแมกนีเซียม ร่างกายจะเข้าสู่ภาวะ Aura (ระยะอาการเตือนนำ) โดยจะมีอาการวูบแสง สายตาพร่ามัวซึ่งจะเป็นสัญญาณเตือนก่อนเริ่มปวดหัวไมเกรน โดยรับประทานประมาณ 400-600 mg/วัน

ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาไมเกรนให้หายขาดครับ มีแต่ช่วยให้อาการทุเลาลง คนไข้สามารถนำวิธีรักษาไมเกรนโดยไม่ใช้ยาที่หมอได้แนะนำไปปรับใช้ตามความสะดวก แต่หากใครที่ต้องการลดอาการปวดหัวไมเกรนแบบเห็นผลเร็ว หมอแนะนำฉีดโบท็อกซ์ไมเกรนครับ เห็นผลใน 3-4 วัน และจะออกฤทธิ์สูงสุดในสัปดาห์ที่ 2 ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน


ฉีดโบท็อกซ์ไมเกรน ที่ไหนดี ?

ฉีดโบท็อกซ์ไมเกรน ที่ไหนดี
  • เลือกคลินิกฉีดโบท็อกซ์ไมเกรนที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตถูกต้อง มีอุปกรณ์ และเครื่องมือในการช่วยเหลือยามฉุกเฉิน มีพื้นที่และห้องการทำหัตถการที่กว้างขวาง มีความสะอาด ไม่ทึบหรือแออัด 
  • ใช้โบท็อกแท้ที่ผ่าน อย.ไทย มีตัวแทนจำหน่ายอย่างถูกต้อง ซึ่งบริษัทยาจะต้องขายให้กับคุณหมอที่มีใบอนุญาตเท่านั้น
  • แพทย์ต้องมีประสบการณ์ สามารถเอาชื่อ-นามสกุลเข้าไปตรวจในเว็บไซต์ของแพทยสภาได้ที่ http://www.tmc.or.th/check_md/ เพื่อดูว่าเป็นหมอจริงหรือไม่
  • มีช่องทางการติดต่อที่สะดวกหรือควรมีการ follow up  ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัว ก่อนทำ-หลังทำอย่างใกล้ชิด และมีช่องทางติดต่อสอบถามเกี่ยวกับปัญหากับหมอโดยตรง
  • มีรีวิวที่น่าเชื่อถือ ตรวจสอบแหล่งที่มาได้ เช่น จาก Feedback ที่คนไข้มารีวิว เพราะถ้าหากคนไข้มารีวิวแล้วทางคลินิกจะไม่สามารถลบออกได้

วิธีดูแลตัวเองก่อน- หลังฉีดโบท็อกซ์ไมเกรน

วิธีดูแลตัวเองก่อนฉีดโบท็อกซ์ไมเกรน

  • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกซ์ไมเกรน รวมถึงวิธีการสังเกตโบท็อกแท้แต่ละยี่ห้อ เพื่อความปลอดภัย
  • ก่อนฉีดควรให้แพทย์เปิดขวดใหม่ ผสมโบท็อกให้ดูต่อหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้เจือจางน้ำเกลือมากเกินไป และควรขอกล่องและขวดกลับบ้านไว้ตรวจสอบ เพื่อมั่นใจว่าเป็นของแท้
  • งดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, NSAIDs, Ponstan
  • งดสครับผิว คอร์สเลเซอร์ แว็กผิวบริเวณที่ฉีด 2-3 วัน เพื่อลดอาการเขียวช้ำ 
  • หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำ ควรปรึกษาหรือแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง

วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์ไมเกรน

  • หลังฉีดโบท็อก 48 ชั่วโมง ควรหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด เช่น อบซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ ตากแดด เลเซอร์ผิว
  • งดอาหารที่ส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของโบท็อก เช่น อาหารรสจัด อาหารหมักดอง อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาเป็นเวลานาน
  • งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด  เนื่องจากจะส่งผลต่อการอักเสบ ยุบบวมช้า และผลการรักษาอยู่ได้สั้นลง
Vsquare tips

มีงานวิจัยระบุว่าการกิน Zinc 50 mg/วัน ก่อนและหลังฉีดโบท็อก จะช่วยให้โบท็อกออกฤทธิ์ไวและอยู่ได้นานขึ้น  วัยผู้ใหญ่ควรได้รับแร่ธาตุสังกะสี 12-15 มิลลิกรัม/วัน โดยพบได้มากในอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ตับ อาหารทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่งหอยนางรม และธัญพืช


สรุป

การฉีดโบท็อกไมเกรน แม้ไม่ได้เป็นวิธีการรักษาไมเกรนแบบถาวร แต่ช่วยบรรเทาอาการปวดได้มากครับ หลังฉีดจะช่วยให้คนไข้ปวดศีรษะไมเกรน ปวดหัวท้ายทอยน้อยลง เป็นวิธีที่มีความปลอดภัย ให้ผลลัพธ์ที่ดี และยังมีผลพลอยได้ในการช่วยลดรอยหน้าผากลดน้อยลง 

แต่หากคนไข้ปวดหัวไมเกรนเรื้อรัง จัดอยู่ในระดับรุนแรง  ควรไปพบหมอเฉพาะทางเพื่อหาสาเหตุ และรักษาอย่างถูกวิธีจะเหมาะสมกว่าครับ


อ้างอิง

1.Critical analysis of the use of onabotulinumtoxinA (botulinum toxin type A) in migraine
https://pdfs.semanticscholar.org/68b1/131fec0dfc227ddf5a291384059b7e517502.pdf?_ga=2.221469912.1910126796.1615368643-1089673905.1608626583
2.Botulinum Toxin Injectables for Migraines | Sashank Reddy, M.D., Ph.D.
https://www.hopkinsmedicine.org/health/treatment-tests-and-therapies/botulinum-toxin-injectables-for-migraines
3.Caffeine and Migraine
https://americanmigrainefoundation.org/resource-library/caffeine-and-migraine
4.Foods High in Tyramine | Mahammad Juber, MD on November 29, 2022 
https://www.webmd.com/diet/foods-high-in-tyramine
5.Sodium Nitrite Toxicity | Melinda Ratini, MS, DO
https://www.webmd.com/first-aid/sodium-nitrite-toxicity


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน