โบท็อกซ์แล้วหนังตาตก
หลายคนอาจจะเคยเห็นเคสที่ฉีดโบท็อกซ์แล้วหนังตาตก จนทำให้ไม่กล้าฉีดโบท็อก แต่จริง ๆ แล้ว ฉีดโบท็อกซ์แล้วหนังตาตก ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกเคส และเป็นผลข้างเคียงหลังฉีดโบท็อกที่สามารถป้องกันได้ครับ หากคนไข้มีการเตรียมตัวที่ดีตั้งแต่ขั้นตอนก่อนฉีดโบท็อก ส่วนเคสที่ฉีด Botox มาแล้วหนังตาตก อันตรายไหม ? แก้หนังตาตก มีวิธีไหนบ้าง ? ควรทำอย่างไร ? บทความนี้หมอจะมาอธิบายให้ฟังกันครับ
สารบัญ ฉีดโบท็อกแล้วหนังตาตก
โบท็อกซ์แล้วหนังตาตก เกิดจากสาเหตุอะไร ?
ฉีดโบท็อกซ์แล้วหนังตาตก (Droopy Eyelid After Botox) เกิดได้จากสาเหตุ และหลายตำแหน่งครับ เพราะกล้ามเนื้อบนใบหน้าเชื่อมโยงถึงกัน และตัวยาโบท็อกบางยี่ห้อก็สามารถกระจายตัวได้กว้าง ไม่ได้อยู่เฉพาะตำแหน่งที่ฉีดเท่านั้น แต่อย่างที่หมอเกริ่นในตอนต้นว่า ฉีดโบท็อกซ์แล้วหนังตาตก สามารถป้องกันได้ แต่ต้องรู้สาเหตุที่ทำให้ฉีดโบท็อกซ์แล้วหนังตาตกกันก่อนครับ ซึ่งเกิดได้จากสาเหตุ ดังนี้
- อาการปกติที่เกิดขึ้นได้หลังฉีดโบท็อก ช่วงแรกของการฉีดโบท็อก โดยเฉพาะการฉีดบริเวณหน้าผาก โบท็อกจะเริ่มออกฤทธิ์และกล้ามเนื้อเริ่มปรับตัว ทำให้รู้สึกหนักบริเวณหนังตาเล็กน้อย บางรายอาจมีอาการบวมเข็มร่วมด้วย สาเหตุนี้ไม่น่ากังวลครับ อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3 สัปดาห์
- ฉีดโบท็อกซ์ผิดตำแหน่ง ฉีดโบท็อกไปโดนกล้ามเนื้อมัดอื่น หรือฉีดใกล้กล้ามเนื้อที่ควบคุมการยกของเปลือกตามากเกินไป ทำให้หลังฉีดโบแล้วตาตก
- เลือกยี่ห้อโบท็อกซ์ไม่เหมาะสม โบท็อกมีหลายยี่ห้อ หลายสัญชาติ ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่แตกต่างกัน บางยี่ห้อกระจายตัวกว้าง บางยี่ห้อกระจายตัวแคบ ซึ่งแพทย์จะต้องประเมินให้ดี
- ใช้ปริมาณโบท็อกซ์เยอะเกินไป โบท็อกจะมาเป็นผลึกแห้ง ๆ อยู่ที่ก้นขวด ก่อนฉีดหมอจะต้องผสมน้ำเกลือลงไปถึงจะละลายเป็นตัวยาโบท็อกออกมาฉีด ถ้าผสมน้ำเกลือมากเกินไป ดันยาแรงเกินไป หรือฉีดในปริมาณที่เยอะเกินไป อาจส่งผลให้ตัวยากระจายตัวกว้างไปโดนกล้ามเนื้อมัดอื่น
ที่ V Square Clinic ผสมโบท็อก 100 U : น้ำเกลือ 2.6 CC โบท็อก 50 U : น้ำเกลือ 1.3 CC ใช้น้ำเกลือมากหรือน้อยกว่านี้ได้ครับ ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นที่แพทย์ต้องการใช้
- ฉีดโบท็อกซ์ที่ไม่ได้คุณภาพ ปัญหาในหลาย ๆ เคส เกิดจากใช้โบท็อกปลอม โบท็อกหิ้ว ตัวยามีการปนเปื้อน ทำให้โบท็อกไม่บริสุทธิ์ ฉีดแล้วเกิดผลข้างเคียงตามมา
- ปฏิบัติตัวหลังฉีดโบท็อกไม่ถูกวิธี หลังฉีดโบท็อกซ์หมอจะมีการแนะนำวิธีการปฏิบัติตัว วิธีการดูแลตัวเองซึ่งคนไข้ไม่ควรละเลย เช่น ห้ามนวดคลึงบริเวณที่ฉีด Botox เพราะจะทำให้โบท็อกที่ฉีดไปกระจายไปยังจุดอื่น
ตำแหน่งฉีดโบท็อกซ์ที่มักพบปัญหา ส่วนมากเป็นตำแหน่งที่อยู่บริเวณส่วนบนของใบหน้า ใกล้กับเปลือกตาบน เช่น
- ฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก
- ฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว
- ฉีดโบท็อกซ์ยกคิ้ว
- ฉีดโบท็อกซ์ยกหางตา
- ฉีดโบท็อกซ์หางตา (ตีนกา)
การฉีดโบท็อกซ์ในตำแหน่งเหล่านี้ หากแพทย์ไม่มีประสบการณ์ อาจฉีดไปโดนกล้ามเนื้อมัดที่ใช้เปิดเปลือกตาบน ที่มีชื่อว่า Levator palpebrae superioris muscle ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง เปลือกตาไม่มีแรงยก คนไข้จะรู้สึกหนัก ๆ บริเวณชั้นตา ตาปรือ ๆ อาการลักษณะนี้เป็นผลข้างเคียงของการฉีดโบท็อกซ์แล้วหนังตาตกครับ
ฉีดโบท็อกซ์แล้วหนังตาตก อันตรายไหม ?
ฉีด Botox หนังตาตก แม้ว่าจะไม่เป็นอันตราย โบท็อกแท้ ซึ่งเป็นโบทูลินั่ม ท็อกซิน ชนิดเอ (Botulinum toxin Type A) สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยระยะเวลาอยู่ได้นาน ประมาณ 4-6 เดือน เมื่อโบท็อกค่อย ๆ สลาย หนังตาที่ตกก็จะค่อย ๆ กลับมาเป็นปกติ
แต่ระหว่างที่รอโบท็อกสลายไปเอง อาจทำให้คนไข้รู้สึกไม่มั่นใจ กระทบต่อชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะคนที่ชอบถ่ายรูป ชอบเซลฟี่ หรือทำงานที่ต้องใช้หน้าตา เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่ผู้อื่นมองเห็น อยากเร่งแก้ไขให้หนังตาที่ตกกลับมาเป็นเหมือนเดิม
ฉีดโบท็อกซ์หนังตาตก ควรทำอย่างไร ?
หมอแบ่งออกเป็น 2 กรณี ถ้าคนไข้ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นปัญหามาก สามารถรอให้โบท็อกสลายไปเอง หรือถ้าอยากเร่งให้โบท็อกสลายเร็ว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อแนะนำวิธีแก้ไขที่เหมาะสม
ฉีดโบท็อกซ์หนังตาตก แก้ไขอย่างไร ?
การแก้ไขฉีดโบท็อกหนังตาตก หรือหนังตาตกหลังฉีดโบท็อกซ์ แนะนำให้ทำในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังฉีด เพราะโบท็อกยังไม่จับตัวกับกล้ามเนื้อมากนัก สามารถใช้ความร้อนในการทำให้โบท็อกสลายได้ ดังนั้นถ้าหลังฉีดโบท็อกแล้วมีอาการผิดปกติ ควรรีบพบหมอเพื่อประเมินปัญหา จะได้แก้ไขได้ทันท่วงทีครับ
โดยปกติหลังฉีดโบท็อก หมอจะแนะนำให้คนไข้หลีกเลี่ยงความร้อน เพราะอาจทำให้โบท็อกสลายเร็ว แต่ในกรณีฉีดโบท็อกแล้วหนังตาตก ต้องใช้ความร้อนมาเป็นตัวเร่งการสลาย หรือใช้เครื่องมือและทำหัตถการทางการแพทย์
- ประคบร้อน อบซาวน่า อบไอน้ำบ่อย ๆ
- ทำทรีตเมนต์ เลเซอร์ด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ เช่น เครื่องเลเซอร์ RF (Radio Frequency)
- ใช้เครื่องมือยกกระชับ ยิงพลังงานความร้อนลงชั้นผิว เช่น Hifu Ultraformer III, Ulthera SPT, Thermage FLX
- ร้อยไหม Foxy Eyes แก้ปัญหาตาตก ยกหางตา ยกคิ้ว
- ฝังเข็มกระตุ้นกล้ามเนื้อตาที่อ่อนแรง
วิธีป้องกันไม่ให้ฉีดโบท็อกซ์แล้วหนังตาตก
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบท็อก วิธีดูโบท็อกแท้ โบท็อกปลอม
- เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง ใช้โบท็อกแท้ ที่ผ่าน อย.
- ฉีดโบท็อกกับแพทย์มีประสบการณ์ รู้ตำแหน่งกล้ามเนื้อ รู้เทคนิคการฉีด การดันยา ฉีดได้แม่นยำ ตรงจุด เลือกยี่ห้อโบท็อกที่กระจายตัวยาได้เหมาะสม
- ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์หลังฉีดโบท็อกซ์
หากฉีดโบท็อกซ์แล้วหนังตาตก ควรดูแลตัวเองอย่างไร ?
อาการหนังตาตกจะค่อย ๆ ดีขึ้น เมื่อโบท็อกซ์เสื่อมฤทธิ์ลง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรง และยี่ห้อโบท็อกซ์ที่ใช้ แต่การฉีดโบท็อกซ์แล้วหนังตาตก สามารถแก้ไขได้ครับ นอกจากใช้หัตถการและเครื่องมือทางการแพทย์แล้ว แพทย์อาจแนะนำวิธีดูแลตัวเองเพิ่มเติม เช่น
- ใช้ยาหยอดตาที่มีส่วนช่วยเพิ่มการทำงานของเปลือกตา
- บริหารกล้ามเนื้อตาอย่างสม่ำเสมอ
สรุป
การฉีดโบท็อกซ์ เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ในคลินิกเสริมความงาม โดยเฉพาะการฉีดโบท็อกลดริ้วรอยในตำแหน่งที่มักเกิดริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า เช่น หน้าผาก ระหว่างคิ้ว หางตา ซึ่งเป็นตำแหน่งที่อยู่ใกล้กับกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ควบคุมการเปิดของเปลือกตา หากแพทย์ที่ฉีดไม่มีประสบการณ์มากพอ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง ฉีดโบท็อกซ์ตาตก ต้องมาแก้ไขในภายหลัง
การป้องกันไว้ก่อนจึงดีกว่าครับ ด้วยการศึกษาข้อมูลก่อนฉีดโบท็อกซ์ เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ฉีด Botox กับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้โบท็อกแท้ที่ผ่าน อย. เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย ไม่เกิดผลข้างเคียงครับ
อ้างอิง :
- https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC8960886/
- https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK536921/
- https://en.wikipedia.org/wiki/Levator_palpebrae_superioris_muscle
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ