
ฉีดฟิลเลอร์ปาก เลือกยี่ห้อไหนดี
การเลือกฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ได้ทรงปากสวยตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นปากเกาหลี ปากสายฝอ ปากกระจับ หรือเติมปากชุ่มชื้น ยี่ห้อฟิลเลอร์มีผลอย่างมากต่อผลลัพธ์ที่ได้
ในปีนี้ฟิลเลอร์ปากมีหลายยี่ห้อและหลายรุ่นให้เลือก แม้ว่าเมื่อมาถึงคลินิก หมอจะเป็นผู้ประเมินและแนะนำฟิลเลอร์ที่เหมาะสมให้ แต่คนไข้ก็สามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ปากไปก่อนได้ในเบื้องต้นครับ ฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนก็ดีเหมือนกันจริงไหม ? จะรู้ได้อย่างไร ? ว่าควรฉีดฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี ? รวมถึงหากมีข้อสงสัยอื่น ๆ ก็จะได้ถามกับหมอโดยตรง
สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี
ฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนก็ดีเหมือนกันจริงไหม ?
ถึงแม้ว่าฟิลเลอร์ปากจะมีคุณสมบัติในการเติมเต็มและปรับรูปทรงเหมือนกัน แต่การบอกว่าฉีดยี่ห้อไหนก็ดีเหมือนกันนั้นไม่ถูกต้องครับ เพราะการจะตอบว่า “ดี” หรือ “ไม่ดี” ต้องพิจารณาหลายอย่างประกอบกัน ซึ่งมีรายละเอียดที่ต้องอธิบายค่อนข้างมาก
ถ้าเอาแบบรวบรัด ฟิลเลอร์ปากแต่ละยี่ห้อ ผลิตด้วยเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน มีคุณสมบัติเฉพาะตัวเช่น ความแข็ง ความยืดหยุ่น การกระจายตัว การอุ้มน้ำ การ Crosslink รวมถึงขนาดของเม็ดฟิลเลอร์ใหญ่เล็กแตกต่างกัน บางยี่ห้อทำอันนี้ได้ดีกว่า แต่บางยี่ห้อก็อาจจะทำอันนี้ได้ดีกว่า เป็นเหตุผลว่าทำไมถึงต้องมีฟิลเลอร์ปากหลายยี่ห้อให้เลือกใช้

ฉีดฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี ? แต่ละรุ่นมีจุดเด่นอย่างไร ?
ฟิลเลอร์ปากที่หมอเลือกใช้มีหลายยี่ห้อที่นิยม เช่น Juvederm, Restylane, Belotero, Definisse, Teoxane ก่อนฉีดฟิลเลอร์ มาดูจุดเด่นของฟิลเลอร์ปากแต่ละยี่ห้อกันครับ
ฟิลเลอร์ปาก Juvederm
ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ Juvederm ของอเมริกา มีหลายรุ่นให้เลือก ใช้ 2 เทคโนโลยีในการผลิต คือ Hylacross Technology เป็นเทคโนโลยีดั้งเดิมของแบรนด์ มีจุดเด่นในเรื่องอุ้มน้ำได้ดี ทำให้ฉีดแล้วฟู ยืดหยุ่นสูง โดยรุ่นฟิลเลอร์ที่ใช้เทคโนโลยีนี้จะมีรุ่นเดียวครับ คือ
- Juvederm Ultra Plus ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ฟูมาก เหมาะกับคนที่ต้องการปากอวบอิ่มแบบฝรั่ง
ส่วนรุ่นฟิลเลอร์ปากอื่น ๆ ของ Juvederm จะใช้เทคโนโลยีล่าสุดที่ชื่อว่า Vycross Technology มีจุดเด่นในเรื่องความเรียบเนียน ไม่เป็นก้อน และดูเป็นธรรมชาติ โดยมีรุ่นต่าง ๆ ดังนี้
- Juvederm Voluma ฟิลเลอร์เนื้อทน ฟูปานกลาง เหมาะกับคนที่ต้องการปากอวบอิ่มและอยู่ได้นาน
- Juvederm Volift ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความละเอียด และยืดหยุ่นสูง ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน เหมาะฉีดร่องมุมปากที่ไม่ลึกมาก
- Juvederm Volite ฟิลเลอร์เนื้อฉ่ำ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะกับคนที่ต้องการให้ผิวปากชุ่มชื้น อวบอิ่มขึ้นเล็กน้อย
ฟิลเลอร์ปาก Restylane
ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ Restylane ของสวีเดน โดดเด่นด้วย 2 เทคโนโลยีการผลิต คือ Nasha Technology มีจุดเด่นเรื่องความคงตัวและการเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดี โดยรุ่นฟิลเลอร์ปากที่ใช้เทคโนโลยีนี้มีรุ่นเดียว คือ
- Restylane Vital Light ฟิลเลอร์เนื้อฉ่ำ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะกับคนที่ต้องการแก้ไขริมฝีปากแห้ง โดยไม่ต้องการเพิ่มความอวบอิ่ม
อีกเทคโนโลยีที่พัฒนามาทีหลัง คือ OBT Technology มีจุดเด่นเรื่องความยืดหยุ่น หลังฉีดสามารถปรับรูปทรงได้หลากหลาย เช่น
- Restylane Volyme ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง อุ้มน้ำ ดูเป็นธรรมชาติไม่เป็นก้อน เหมาะฉีดมุมปาก ฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปาก
- Restylane Refyne ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เนื้อเจลมีลักษณะยืดหยุ่น สามารถเติมเต็มให้ปากอวบอิ่มเป็นธรรมชาติ
- Restylane Kysse ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด แต่มีความคงตัว ออกแบบมาเพื่อริมฝีปากโดยเฉพาะ สร้างขอบริมฝีปากได้ชัดเจน ให้ความชุ่มชื้นและความอวบอิ่ม
ฟิลเลอร์ปาก Belotero
ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ Belotero ของสวิตเซอร์แลนด์ ทุกรุ่นฟิลเลอร์จะผลิตด้วยเทคโนโลยีเดียวกัน คือ CPM Technology ทำให้ได้ฟิลเลอร์ปากที่มีจุดเด่นในเรื่องความยืดหยุ่นสูง คงตัว และปั้นทรงสวย
- Belotero Volume ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม อยู่ทรง ช่วยเพิ่ม volume ปากได้ดี เหมาะกับทรงปากสายฝอ
- Belotero Revive ฟิลเลอร์เนื้อฉ่ำ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก
ฟิลเลอร์ปาก Definisse
ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ Definisse ของอิตาลี ใช้เทคโนโลยีการผลิต ที่มีชื่อว่า XTR™ Technology มีจุดเด่นในเรื่องการ Crosslink โครงสร้างสานกันเป็นร่างแห ทำให้เมื่อนำมาฉีดปรับรูปหน้า จะสามารถช่วยในการยกพยุงผิวได้ดี นอกจากนี้ยังฉีดปรับทรงปากได้ดูเป็นธรรมชาติ
- Definisse Touch ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เหมาะกับคนที่ต้องการแก้ไขริมฝีปากแห้ง เพิ่มวอลลุ่มให้ปากอย่างเป็นธรรมชาติ
ฟิลเลอร์ปาก Teoxane
ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ Teoxane ของสวิตเซอร์แลนด์ ใช้เทคโนโลยี Ground breaking Preserved Network หรือ PNT ซึ่งทำให้ฟิลเลอร์มีจุดเด่นในเรื่องความยืดหยุ่นตามการขยับ ผลลัพธ์ที่ได้เรียบเนียน ไม่เป็นก้อน และดูเป็นธรรมชาติ โดยรุ่นที่นิยมนำมาฉีดปาก ได้แก่
- Teoxane RHA2 ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ค่อนข้างยืดหยุ่น ทนต่อแรงขยับได้ดี ช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มแบบเป็นธรรมชาติ
- Teoxane RHA3 ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม แต่ค่อนข้างแน่น ทนต่อแรงขยับได้ดี สามารถเติมเต็มริมฝีปาก สร้างขอบปากคมชัด
ฟิลเลอร์ฉีดปากแต่ละยี่ห้อ อยู่ได้นานแค่ไหน ?
- Juvederm Ultra Plus (12 เดือน)
- Juvederm Voluma (18 เดือน)
- Juvederm Volift (12 เดือน)
- Juvederm Volite (8-12 เดือน)
- Restylane Vital Light (6-12 เดือน)
- Restylane Volyme (18 เดือน)
- Restylane Refyne (12 เดือน)
- Restylane Kysse (12 เดือน)
- Belotero Volume (12-18 เดือน)
- Belotero Revive (6-9 เดือน)
- Definisse Touch (8-12 เดือน)
- Teoxane RHA2 (18 เดือน)
- Teoxane RHA3 (12-18 เดือน)
จะรู้ได้อย่างไร ? ว่าควรฉีดฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี ?
รู้ข้อมูลคร่าว ๆ ของฟิลเลอร์ปากแต่ยี่ห้อกันไปแล้ว จะเห็นได้ว่าคุณสมบัติของแต่ละรุ่นไม่เหมือนกัน และ เหมาะกับการนำมาใช้แก้ปัญหาแตกต่างกัน การเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสม จึงขึ้นอยู่กับประสบการณ์และเทคนิคของแพทย์ด้วยครับ

ฉีดฟิลเลอร์ปาก ที่ไหนดี ? ที่ V Square Clinic หมอมีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ทุกเคสจะต้องผ่านการประเมินใบหน้า ออกแบบทรงปากร่วมกัน
โดยส่วนมากคนไข้จะมีเรฟเฟอร์เรนซ์ทรงปากที่อยากได้ หรือมีทรงปากดารามาให้หมอดูว่าแบบนี้ได้ไหม หมอก็จะช่วยดีไซน์เพื่อให้สวยเหมาะกับใบหน้า พร้อมแนะนำฟิลเลอร์รุ่นที่เหมาะสม ตรงกับงบประมาณให้ครับ
ราคาฉีดฟิลเลอร์ปากแต่ละยี่ห้อ ที่ V Square Clinic
ราคาฟิลเลอร์ปาก จะอยู่ที่ประมาณ 14,xxx-/1 CC ขึ้นไป โดยจะขึ้นอยู่กับจำนวน CC ฟิลเลอร์ที่ใช้ เทคนิคในการฉีด รวมถึงโปรโมชันในช่วงนั้น ๆ ครับ


ฟิลเลอร์ปากแต่ละยี่ห้อ ใช้จำนวน CC ฉีดเท่ากันไหม ?
จำนวน CC ที่ใช้ในการฉีดฟิลเลอร์ไม่จำเป็นต้องเท่ากันทุกคนครับ จะขึ้นอยู่กับทรงปากที่ต้องการ
นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดอื่น ๆ ที่หมอจะต้องประเมิน เช่น ลักษณะเนื้อปาก ทรงปากเดิมของคนไข้ บางคนอาจแค่ต้องการเติมให้ดูอวบอิ่มขึ้น หรือแก้ไขริมฝีปากแห้ง ซึ่ง 1 CC ก็สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลง
ถ้าต้องการเพิ่มวอลลุ่มมาก ๆ อย่างทรงปากสายฝอ ก็อาจจะต้องใช้ 2 CC ขึ้นไป เพื่อให้ได้ทรงปากสวยอวบอิ่ม อวบหนา เต็มสวย
หมอมีตัวอย่างรีวิวฟิลเลอร์ปาก มาให้ดูครับ



อ่านบทความเพิ่มเติม : หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก บวมกี่วัน ? ได้ปากทรงสวยชัดเหมือนรีวิว

ข้อควรรู้ : ถ้าใช้ฟิลเลอร์มากเกินไป ก็อาจทำให้ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อน ผลลัพธ์ไม่สวยงาม ปากใหญ่เกินพอดี หน้าบานออก คล้ายทำปากเป็ดอยู่ตลอดเวลา หรือปากเจ่อมากไป ทรงปากไม่เป็นธรรมชาติครับ
วิธีเช็กฟิลเลอร์แท้ ดูอย่างไร ?
ผลลัพธ์ที่สวยงามต้องมาควบคู่กับความปลอดภัย นอกจากจะรู้ว่าฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดีแล้ว ต้องแยกให้ออกด้วยครับว่าฟิลเลอร์ปากกล่องไหนแท้ กล่องไหนปลอม ดูอย่างไร โดยจุดหลัก ๆ ที่ต้องเช็ก คือ
- กล่องฟิลเลอร์ กล่องต้องอยู่ในสภาพดี ไม่ผ่านการแกะใช้งานมาก่อน
- เลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย ซึ่งจะอยู่ภายในกล่อง
- เลข lot. เช่น เลข lot. ที่กล่อง, ซอง, หลอด, สติกเกอร์ จะต้องตรงกัน
- ชื่อบริษัทนำเข้า และเบอร์โทรศัพท์ ให้สามารถโทรเช็กเลข lot. และคลินิกที่ให้บริการ
- QR Code ฟิลเลอร์บางยี่ห้อมี QR Code ให้สามารถสแกนเช็กได้
สามารถดูตัวอย่างวิธีเช็กฟิลเลอร์เลอร์แท้ ฟิลเลอร์ปากทุกยี่ห้อ ด้านล่างนี้เพิ่มเติมครับ





สรุปเรื่องเลือกฉีดฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดีสุด
ฟิลเลอร์ปากมีหลายยี่ห้อ จุดเด่นแตกต่างกัน ตามที่หมอได้อธิบายไปข้างต้น ถ้าถามหมอว่ายี่ห้อไหนดีที่สุด ต้องบอกว่าไม่มีฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนที่ดีที่สุด และดีที่สุดของแต่ละคนไม่เท่ากัน แต่สามารถเลือกให้เหมาะสมที่สุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดได้ครับ
ถ้าเลือกฉีดฟิลเลอร์ปากกับหมอที่มีประสบการณ์ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้คลายความสงสัยว่าฉีดฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดีแล้ว ยังช่วยให้คำแนะนำได้ครับว่าฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดีที่สุดสำหรับแต่ละบุคคลครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ
