ข้อปฏิบัติหลังฉีด Filler ร่องแก้ม ที่ควรรู้ ใน 2 สัปดาห์แรก ดูแลอย่างไร ?

Categories
filler
ข้อปฏิบัติหลังฉีด filler ร่องแก้ม

ข้อปฏิบัติหลังฉีด Filler ร่องแก้ม

หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ได้ผลลัพธ์สวยงามและอยู่ได้นานขึ้นครับ ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มตามคำแนะนำของแพทย์ ไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงจากอาการบวม ช้ำ หรือผลข้างเคียงต่าง ๆ แต่ยังช่วยให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัวได้ดี ดูเป็นธรรมชาติ

ส่วนหนึ่งในคำถามที่พบบ่อยคือ หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ห้ามกินอะไรบ้าง ? การหลีกเลี่ยงอาหารบางประเภท เช่น อาหารรสจัด เค็ม หรือแอลกอฮอล์ จะช่วยลดอาการบวมและการอักเสบได้จริงไหม ? รวมถึงปัจจัยอะไรบ้างที่ช่วยให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ หมอจะอธิบายให้ครับ

หากละเลยการดูแลตัวเอง ผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่ตรงตามที่คาดหวังและอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ ดังนั้น อย่ามองข้ามความสำคัญของการดูแลหลังฉีดเพื่อผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย

สารบัญ ข้อปฏิบัติหลังฉีด Filler ร่องแก้ม


การทำตามข้อปฏิบัติหลังฉีด Filler ร่องแก้ม สำคัญอย่างไร ?

การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม จะช่วยลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงได้ครับ เช่น อาการบวม ช้ำ หรือฟิลเลอร์เคลื่อนตัว อีกทั้งยังช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดูดีและอยู่ได้นานมากยิ่งขึ้น

โดยเฉพาะในช่วง 2 สัปดาห์แรกที่ฟิลเลอร์ยังไม่เซ็ตตัวเกาะกับผิว 100% หากไม่ดูแลตัวเองอย่างถูกต้อง อาจทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็ว หรือเกิดปัญหาภาวะแทรกซ้อน เช่น การอักเสบหรือติดเชื้อ​

ข้อปฏิบัติหลังฉีด filler ร่องแก้ม
ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย

ข้อปฏิบัติหลังฉีด Filler ร่องแก้ม ตามช่วงระยะเวลา

ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มในแต่ละช่วงเวลา อาจมีการดูแลที่แตกต่างกันไปเล็กน้อย หมอแบ่งให้ตามนี้ครับ

หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มทันที

หลังฉีดควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด เช่น การกด นวด หรือเกา เพื่อลดความเสี่ยงที่ฟิลเลอร์จะเคลื่อนตัว หรือเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งที่ไม่ต้องการ หากมีรอยช้ำจากเข็มมาก ๆ สามารถประคบเย็นเบา ๆ เพื่อลดอาการบวมและช้ำ และควรหลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำร้อนในวันแรก​

หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มช่วง 3 – 38 ชั่วโมง

ในช่วงนี้ อาจมีอาการบวมแดงหรือช้ำที่เห็นชัดเจนขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติครับ ให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้หน้าโดนความร้อน เช่น การออกกำลังกายหนัก การใช้ซาวน่า และการออกแดดจ้า ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ เพื่อป้องกันการบวมและการอักเสบร่วมด้วย

หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มช่วง 3 – 14 วัน

ฟิลเลอร์ร่องแก้มจะเริ่มเข้าที่และเซ็ตตัวสูงสุดในช่วงนี้ครับ ควรหลีกเลี่ยงการนวดหรือทำทรีตเมนต์ที่กดแรง ๆ เช่น เลเซอร์ร้อน รวมถึงพวกเครื่องยกกระชับต่าง ๆ และควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยน หากมีอาการผิดปกติ ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน หรืออาการบวมไม่ลดลง ควรปรึกษาแพทย์ทันที

หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มช่วง 1 เดือน

หลังผ่านไป 1 เดือน สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติแล้วครับ ไม่มีอะไรต้องระวังเป็นพิเศษ รวมถึงการออกกำลังกายหนักหรือการทำทรีตเมนต์ผิว อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์หากต้องการเติมฟิลเลอร์เพิ่ม หรือทำการรักษาอื่น ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ส่งผลกับจุดที่เพิ่งฉีดฟิลเลอร์ไป

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

การดูแลตัวเองช่วงกลางคืน ตามข้อปฏิบัติหลังฉีด Filler ร่องแก้ม

ข้อปฏิบัติหลังฉีด Filler ร่องแก้มในช่วงกลางคืน ควรนอนหงายและยกศีรษะให้สูงกว่าระดับหัวใจเพื่อช่วยลดอาการบวม และหลีกเลี่ยงการนอนตะแคงหรือกดใบหน้ากับหมอน หากมีอาการบวมแดงสามารถประคบเย็นก่อนนอนได้ แต่ไม่ควรใช้แรงกดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มมาครับ


วิธีดูแลตัวเองหลังฉีด Filler ร่องแก้ม ให้เข้าที่ไวขึ้น

ดูแลตัวเองหลังฉีด Filler ร่องแก้ม ให้เข้าที่ไวขึ้น
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มอย่างดี จะช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็วขึ้น

หลังฉีด Filler ร่องแก้ม การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็วขึ้น ฟูสวย (ถ้าดื่มมากเกินไปก็อาจจะทำให้ฟิลเลอร์ฟูเกินกว่าที่ต้องการได้ครับ แต่ไม่เป็นอันตราย)

นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มจัดเพื่อลดการบวมน้ำ ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงเมื่อออกแดด และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ก็จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่สวยงาม อยู่ได้นาน


หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ห้ามอะไรบ้าง ?

เรื่องข้อห้ามหลังฉีด Filler ร่องแก้ม จะเน้นที่ช่วงแรก ๆ ประมาณ 2 สัปดาห์หลังฉีดเท่านั้นครับ เมื่อฟิลเลอร์เข้าที่ดีแล้วก็สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

  • ห้ามสัมผัส กด หรือบีบบริเวณที่ฉีด
  • ห้ามทำกิจกรรมที่ทำให้หน้าโดนความร้อน เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ
  • ห้ามดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้การฟื้นตัวช้าลง
  • ห้ามทำทรีตเมนต์ผิวหน้าที่มีแรงกดหรือใช้ความร้อน เช่น เลเซอร์

หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ห้ามกินอะไรบ้าง ? อาหารมีผลต่อฟิลเลอร์มากแค่ไหน ?

หลังจาก ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม การเลือกรับประทานอาหารก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อการฟื้นตัวและผลลัพธ์ของฟิลเลอร์ เพราะอาหารบางประเภทอาจกระตุ้นให้เกิดอาการบวม อักเสบ หรือทำให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัวช้าลง โดยอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่

  • อาหารรสเค็ม เช่น อาหารแปรรูปและของดอง เพราะโซเดียมจะทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำ ส่งผลให้ใบหน้าบวมมากขึ้น
  • แอลกอฮอล์ ซึ่งมีผลทำให้หลอดเลือดขยายตัว เพิ่มความเสี่ยงต่อการบวมและช้ำ
  • อาหารรสจัด หรือเผ็ดมาก ๆ ที่อาจกระตุ้นให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานหนักขึ้น ส่งผลต่อการฟื้นตัวของผิว
อาหารห้ามกิน หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
ควรเลี่ยงอาหารหมักดอง รสจัดมาก ๆ เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการบวมและช้ำ

ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ในเรื่องการรับประทานอาหารที่เหมาะสม เช่น ผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง และดื่มน้ำเพียงพอ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของฟิลเลอร์ และทำให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัวได้อย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้นครับ


หลังฉีดฟิลเลอร์เติมร่องแก้ม กี่วันเห็นผล ?

โดยทั่วไปหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มจะเห็นผลลัพธ์ทันทีครับ แต่เนื่องจากหลังฉีดอาจจะมีอาการบวมหรือรอยช้ำต่าง ๆ (ขึ้นอยู่กับแต่ละคน) หมอจึงจะมีการนัดมาดูผลหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มอีก 2 สัปดาห์ ช่วงนั้นก็จะเห็นผลชัดเจน 100% ครับ

ฟิลเลอร์จะเข้าที่สมบูรณ์และดูเป็นธรรมชาติภายใน 7-14 วัน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และการดูแลหลังฉีด หากดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์ อาการบวมหรือรอยช้ำต่าง ๆ ก็จะหายเร็ว ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานและดูดีขึ้นเรื่อย ๆ​

หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มกี่วันเห็นผล ? บวมเป็นก้อนแก้ไขอย่างไร ?

เพื่อให้การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มได้ผลลัพธ์ที่ดี ปลอดภัย อีกสิ่งสำคัญคือการเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม และการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ และใช้ฟิลเลอร์แท้ครับ หมอเขียนแนะนำวิธีการเลือกคลินิกไว้ในบทความ ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ไหนดี ? แนะนำเทคนิคตรวจสอบคลินิกเสริมความงาม ที่ได้มาตรฐาน


สรุปเรื่องข้อปฏิบัติหลังฉีด Filler ร่องแก้ม

การดูแลตัวเองตาม ข้อปฏิบัติหลังฉีด Filler ร่องแก้ม เป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะส่งผลโดยตรงต่อความคงทน และความสวยงามของผลลัพธ์ครับ

การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัว การดื่มน้ำมาก ๆ หรือการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสม จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และมั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัย


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน