ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ? มีข้อห้ามไหม ? แต่ละตำแหน่งเหมือนกันไหม ?

Categories
filler
ก่อนฉีดฟิลเลอร์

ก่อนฉีดฟิลเลอร์

การหาข้อมูลก่อนฉีดฟิลเลอร์ หมอมองว่าเป็นเรื่องสำคัญและไม่ควรมองข้าม เพราะส่งผลต่อความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่จะออกมาได้เลยครับ

บทความนี้หมอจึงได้รวมข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรเตรียมตัวอย่างไร ? มีข้อห้ามอะไรไหม ? แต่ละตำแหน่งเหมือนกันไหม ? สำหรับใครที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ แนะนำว่าไม่ควรพลาดครับ

ประเมินปัญหา ก่อนฉีดฟิลเลอร์ โดย หมอย้งยี้
ประเมินปัญหา วางแผนการรักษาโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ก่อนฉีดฟิลเลอร์

สารบัญ ก่อนฉีดฟิลเลอร์ เตรียมตัวอย่างไร


ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรหาความรู้อะไรบ้าง ?

การศึกษาข้อมูลก่อนทำหัตถการเป็นสิ่งสำคัญ ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรรู้อะไรบ้าง หมอได้รวบรวมมาให้คนไข้ตามหัวข้อเหล่านี้

ฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร ?

ฟิลเลอร์ คืออะไร

ฟิลเลอร์ที่นิยมใช้ในการปรับรูปหน้าในปัจจุบัน คือ สารเติมเต็ม Hyaluronic Acid (HA) ผลิตขึ้นมาเลียนแบบสารธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกายของเรา มีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่น สามารถสลายได้ตามธรรมชาติ

ส่วนใครที่กังวลว่าฟิลเลอร์อันตรายไหม ? สารเติมเต็ม HA ได้รับรองจาก อย. อเมริกา (U.S. FDA) ในการใช้ฉีดเข้าสู่ผิว สามารถเติมริ้วรอยร่องลึก ปรับโครงสร้างใบหน้าได้อย่างปลอดภัย ไม่มีอันตรายครับ

ฉีดฟิลเลอร์ ตำแหน่งไหนได้บ้าง ? ใช้กี่ CC ?

ฉีดฟิลเลอร์ ตำแหน่งไหนได้บ้าง โดย คุณต่าย
ตำแหน่งช่วยแก้ปัญหาเรื่องจำนวน CC ที่ใช้
ฟิลเลอร์หน้าผากเติมเต็มหน้าผากให้เรียบเนียน ปรับโหงวเฮ้ง3-5 CC
ฟิลเลอร์ใต้ตาลดเลือนร่องลึกและรอยคล้ำใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูสดใสและไม่เหนื่อยล้า2-4 CC
ฟิลเลอร์ขมับเติมเต็มขมับตอบ ขมับลึก ทำให้ใบหน้าดูเต็มและสมดุลมากขึ้น ลดโหนกแก้มเด่น2-4 CC
ฟิลเลอร์ร่องแก้มช่วยลดเลือนริ้วรอยร่องแก้มลึกให้ดูเรียบเนียน ใบหน้าดูอ่อนเยาว์2-4 CC
ฟิลเลอร์ปากช่วยเพิ่มความอวบอิ่มและปรับรูปทรงริมฝีปากให้ดูสวยงามเป็นธรรมชาติ1-2 CC
ฟิลเลอร์แก้มส้มช่วยให้ใบหน้าดูสดใส อิ่มเอิบ มีชีวิตชีวา1-2 CC
ฟิลเลอร์คางปรับรูปทรงคางให้เรียวยาวขึ้น แก้ปัญหาคางสั้น คางตัด ทำให้ใบหน้าดูสมดุลและมีมิติ1-2 CC

ทั้งนี้ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ในแต่ละตำแหน่ง หมอจะประเมินตามระดับปัญหา และความต้องการเป็นรายเคสไปครับ

ฉีดฟิลเลอร์ เหมาะ-ไม่เหมาะกับใคร ?

ฟิลเลอร์เหมาะกับความต้องการของเราหรือไม่ และใครบ้างที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ หมอสรุปให้ดังนี้

ใครที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์เหมาะกับใคร โดย หมอแพร
  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้า ต้องการเติมเต็มให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้น
  • ผู้ที่มีใบหน้าไม่ได้สัดส่วน ต้องการปรับรูปหน้า ให้ดูสมดุลและดูมีมิติมากขึ้น
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง ผิวขาดน้ำต้องการเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการการเห็นการเปลี่ยนแปลงของผลลัพธ์หลังทำทันที
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า แต่ไม่ต้องการผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น

ใครที่ไม่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์

ใครที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรเช็กก่อนครับว่าอยู่ในกลุ่มที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์หรือควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเสี่ยงก่อน

  • ผู้ที่มีประวัติแพ้สาร Hyaluronic acid (HA)
  • ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชา
  • ผู้ที่มีภาวะเลือดไหลไม่หยุด
  • ผู้ที่ตั้งครรภ์และการให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์ก่อน เนื่องจากไม่มีการวิจัยที่เพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยในกลุ่มนี้
  • ผู้ที่โรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือโรคทางระบบภูมิคุ้มกัน

ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? หมอมีแนะนำ

คลิปนี้หมอพามาทำความรู้จักกับประเภทของฟิลเลอร์และวิธีการเลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี

ปัจจุบันมีฟิลเลอร์ออกมาหลายยี่ห้อจากหลายประเทศ โดยแต่ละรุ่นมีจุดเด่นที่ต่างกัน สามารถนำมาแก้ปัญหาบนใบหน้าได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น แต่ก็ต้องระวังฟิลเลอร์ของปลอมที่นำเข้าอย่างผิดกฎหมาย มีการเก็บรักษาที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ฟิลเลอร์เสื่อมคุณภาพ

ในบทความนี้ หมอแนะนำเป็นยี่ห้อฟิลเลอร์สาร Hyaluronic acid ผ่าน อย. ได้มาตรฐาน ทั้งยี่ห้อที่ได้รับความนิยม และยี่ห้อใหม่ ๆ ที่เพิ่งเข้ามาในไทย

  • ฟิลเลอร์ Restylane : ฟิลเลอร์จากสวีเดน โดดเด่นด้วย 2 เทคโนโลยีการผลิต NASHA และ OBT ทำให้มีความปลอดภัยสูงและมีความหนาแน่นที่หลากหลาย เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องลึกและเสริมโครงหน้า ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและยาวนาน มีหลายรุ่นให้เลือกใช้ครอบคลุมเกือบทุกจุดบนใบหน้า
  • ฟิลเลอร์ Juvederm : ฟิลเลอร์จากอเมริกา ใช้ 2 เทคโนโลยีในการผลิตคือ Hylacross และ Vycross ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความเนียนของเนื้อฟิลเลอร์ เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องลึกและเพิ่มปริมาตร
  • ฟิลเลอร์ Belotero : ฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ ใช้เทคโนโลยีการผลิต Cohesive Polydensified Matrix (CPM) ทำให้มีเนื้อเนียนละเอียด เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องตื้น ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและเรียบเนียน
  • ฟิลเลอร์ Definisse : ฟิลเลอร์จากอิตาลี ใช้เทคโนโลยี XTR™ Technology ทำให้มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการเสริมโครงหน้าและยกกระชับผิว หลังทำบวมน้อยหรือแทบไม่บวมเลย เห็นผลเร็ว และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
  • ฟิลเลอร์ Teoxane : ฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ ใช้เทคโนโลยีการผลิต Resilient Hyaluronic Acid (RHA) ทำให้เนื้อเจลมีความยืดหยุ่นและทนทานสูง เหมาะสำหรับการเติมเต็มและยกกระชับ ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและยาวนาน
  • ฟิลเลอร์ Flore : ฟิลเลอร์จากเกาหลี ใช้ 2 เทคโนโลยีในการผลิต คือ HCCL และ PP-Process ทำให้เนื้อเนียนละเอียดและมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องลึกและร่องตื้น ปรับโครงสร้างใบหน้า เช่น ขมับ คาง กรอบหน้า

วิธีเช็กฟิลเลอร์ของแท้ ไม่เสี่ยงเจอของปลอม

แนะนำ วิธีดูฟิลเลอร์แท้ ฟิลเลอร์ปลอมดูอย่างไร ?

เพื่อความปลอดภัย การเช็กฟิลเลอร์ของแท้ เป็นสิ่งที่ควรศึกษาไว้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ครับ โดยควรให้แพทย์แกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า และขอเช็กฟิลเลอร์ที่ฉีดว่าใช้ของแท้ได้ 3 จุดสังเกตดังนี้

  1. มีเลขทะเบียนที่กล่อง อย.
  2. มีเอกสารกำกับภาษาไทย
  3. เลข Lot. ที่กล่อง สติ๊กเกอร์ หลอด ต้องตรงกัน

อีกทั้งปัจจุบันฟิลเลอร์ยี่ห้อมีวิธีตรวจสอบที่ง่ายขึ้นแล้วครับ โดยสามารถสแกน QR Code ตรวจสอบผ่านทางแอปพลิเคชัน หรือโทรสอบถามเลข Lot. หรือชื่อคลินิกที่ใช้ฟิลเลอร์แท้กับบริษัทนำเข้าได้โดยตรง

ตัวอย่างวิธีเช็กฟิลเลอร์ของแท้แต่ละยี่ห้อ

วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Defyne
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane Defyne
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Juvederm Voluma
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Juvederm Voluma
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Definisse Restore
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Definisse Restore
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Definisse Restore
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Belotero Intense

ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเห็นผล ? ผลลัพธ์อยู่ได้นานกี่เดือน ?

ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเห็นผล

หลังฉีดฟิลเลอร์เห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำครับ และจะเห็นผลได้ชัดเจนเมื่ออาการบวมช้ำหายและฟิลเลอร์เข้าที่เรียบร้อยแล้ว

ส่วนผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานประมาณ 6-24 เดือนขึ้นอยู่กับรุ่น/ยี่ห้อฟิลเลอร์ ตำแหน่งที่ฉีด และการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ของแต่ละบุคคลครับ

5 วิธียืดอายุฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นาน

วิธียืดอายุฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นาน

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังฉีดฟิลเลอร์

หลังฉีดฟิลเลอร์อาจพบผลข้างเคียงเหล่านี้ได้เป็นปกติครับ สามารถหายได้เอง ไม่ได้เป็นอันตรายครับ

  • อาการบวม รอยเขียวช้ำจากเข็ม สามารถหายได้เอง 1 สัปดาห์
  • อาการบวมจากตัวฟิลเลอร์ ค่อย ๆ เข้าที่ใน 2 สัปดาห์

แต่ถ้าเกิดเป็นก้อนบวมมากขึ้นเรื่อย ๆ ผิวบริเวณที่ฉีดมีสีแดงหรือคล้ำผิดปกติ รู้สึกร้อน ๆ ผิว เป็นอาการบวมที่เกิดจากฟิลเลอร์อักเสบ หรือติดเชื้อ มีสาเหตุจากการคลินิกไม่ได้มาตรฐาน ความสะอาด ทำให้เกิดการติดเชื้อระหว่างทำ โดยถ้าพบอาการนี้ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาครับ


ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรเตรียมตัวอย่างไร ?

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรรู้อะไรบ้าง ? เตรียมตัวอย่างไรให้ปลอดภัย ?

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ หมอของแบ่งเป็น 2 ขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้ครับ

  1. ขั้นตอนแรกคือ การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์มีกี่ประเภท วิธีเช็กฟิลเลอร์แท้ วิธีปฏิบัติก่อนหลังฉีดฟิลเลอร์ และข้อควรพิจารณาเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญ เพราะสามารถส่งผลต่อผลลัพธ์ที่จะได้ และความปลอดภัยครับ

สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี หมอมีวิธีเช็กคลินิกที่ได้มาตรฐานดังนี้ครับ

  • คลินิกที่มีใบอนุญาต 11 หลัก ได้รับรองจากกระทรวงสาธารณสุข เดินทางสะดวก
  • มีแพทย์ Full Time ประจำคลินิก ต้องเป็นแพทย์จริงมีประกอบวิชาชีพ สามารถเช็กชื่อ-นามสกุลของแพทย์ได้ที่ https://checkmd.tmc.or.th/
  • แพทย์มีประสบการณ์ฉีดฟิลเลอร์ รู้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง
  • มีรีวิวที่น่าเชื่อถือจากผู้ใช้บริการจริง รูปถ่าย วิดีโอ และควรดูรีวิวจากแหล่งที่เป็นกลาง คลินิกไม่สามารถหลบได้
  • มีนัดติดตามผลหลังฉีดทุกเคส
คลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน โดย หมอกันต์
  1. ขั้นตอนที่สองคือ การเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อม หลังเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานเรียบร้อยแล้ว
    • หากมีคอร์สนวดหน้าหรือนัดทำเลเซอร์ ควรทำมาก่อนอย่างน้อย 3 วัน
    • หากมีโรคประจำตัว หรือยาที่รับประทานอยู่เป็นประจำ ควรเตรียมข้อมูลไว้เพื่อแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทำหัตถการ
    • ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการฉีดฟิลเลอร์

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ มีข้อห้ามอะไรไหม ?

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรงดกิจวัตรประจำวันเหล่านี้ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง ครับ

  • งดการใช้ยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว เช่น Retin A, Retinols, Retinoids, หรือครีมในกลุ่ม Anti aging เป็นเวลา 3 วัน
  • งดการแว็กซ์ผิว ผลัดเซลล์ผิว การดึงหรือการโกนขนบริเวณนั้น ๆ เป็นเวลา 3 วัน ก่อน
  • งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น เข้าซาวน่า ออกกำลังกายชนิด Cardio เป็นเวลา 24 ชั่วโมง

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรไหม ?

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ไม่ได้ห้ามกินอาหารอะไรเป็นพิเศษครับ มีเพียงให้งดรับประทานอาหาร ยา หรือวิตามินบางชนิดที่อาจส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด หรือส่งผลอาการบวมหลังฉีดให้หายช้าลง

  • งดการรับประทานยากลุ่ม (NSAIDs) เช่น ยาแอสไพริน ไอบูโพรเฟน พอนสแตน
  • งดอาหารเสริมและวิตามินบางชนิด เช่น วิตามิน St. John’s Wort, ginkgo biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E
  • เลี่ยงอาหารที่มีโซเดียมสูง อาหารรสจัดและเผ็ด อาจทำให้ร่างกายบวมน้ำและเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดอาการบวมหลังฉีด
  • งดการดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูง ทำให้เส้นเลือดขยายตัวและเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดฟกช้ำ
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไร

ก่อนฉีดฟิลเลอร์แต่ละตำแหน่ง มีข้อห้ามหรือการเตรียมตัวต่างกันไหม ?

วิธีเตรียมตัวหรือข้อห้ามก่อนฉีดฟิลเลอร์แต่ละตำแหน่งไม่ได้ต่างกันครับ ไม่ว่าจะเป็นก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ใต้ตา หรือในตำแหน่งอื่น ๆ ไม่เหมือนกับหลังฉีดที่จะมีข้อควรระวังในแต่ละจุดต่างกันไป

ใครที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ไม่ว่าจะตำแหน่งไหน ก่อนฉีดสามารถปฏิบัติตามข้อแนะนำ และข้อห้ามที่หมอกล่าวมาได้เลยครับ


สรุป

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ มีอยู่ 2 ขั้นตอนหลัก ๆ ที่ควรทำครับ คือ ศึกษาข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับหัตถการ และการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนมาฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้ฟิลเลอร์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และป้องกันการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์

โดยก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ ประเมินปัญหา วางแผนการรักษา เลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละบุคคล จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีความปลอดภัยครับ

สำหรับใครที่สนใจ สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาหมอก่อนฉีดฟิลเลอร์ได้ที่ V Square Clinic ทุกสาขา หรือส่งรูปใบหน้ามาให้หมอประเมินเบื้องต้นผ่านช่องทางออนไลน์ก่อนได้ครับ หมอตอบเอง ไม่มีค่าใช้จ่าย


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน