Radiesse filler
Radiesse เป็นสารเติมเต็มงานผิว Biostimulator นวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่โดดเด่นและมีความพิเศษไม่เหมือนใคร ในบทความนี้จะมาเจาะลึกว่า Radiesse filler คืออะไร ? เหมาะกับใคร ? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? ต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร ? ราคาเท่าไหร่ ? ทุกเรื่องที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีด Radiesse filler หมอรวมมาให้แล้วครับ
สารบัญ Radiesse filler
Radiesse filler คืออะไร ?
Radiesse filler คือ สารฉีดกระตุ้นการสร้างเส้นใยผิวใหม่ หรือ Regenerative Biostimulator ตัวใหม่ล่าสุด จัดอยู่ในกลุ่มสารเติมเต็มเหมือนกับการฉีดฟิลเลอร์ (Filler) แต่จะแตกต่างกันที่ส่วนประกอบหลัก โดยฟิลเลอร์จะมีส่วนประกอบหลักเป็นไฮยาลูรอนิคแอซิด (Hyaluronic Acid) ที่มีคุณสมบัติอุ้มน้ำ ช่วยเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
ส่วน Radiesse จะมีส่วนประกอบหลักเป็น CaHA (Calcium Hydroxyapatite) เข้าไปฟื้นฟู Fibroblast ทำให้เกิดการกระตุ้นสารสำคัญในร่างกาย 5 ชนิด ได้แก่ Collagen Type 1 และ Type 3, Elastin, Angiogenesis และ Proteoglycans ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวแน่นขึ้น เฟิร์มกระชับ ลดริ้วรอยเล็ก ๆ และฟื้นฟูผิวให้ผิวดูเด็กลง
CaHA คืออะไร ?
CaHA (แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทด์) คือ สารที่สามารถพบได้ในเนื้อเยื่อกระดูกและฟัน แต่ CaHA ที่เป็นส่วนประกอบประกอบหลักของ Radiesse จะผลิตด้วยวิธีการสังเคราะห์ ทำให้ได้ CaHA microsphere (คา-ฮ่า ไมโครสเฟียร์) ที่เหมือนกับสารที่มีอยู่ในร่างกาย มีลักษณะเป็นทรงกลมขนาดอนุภาคสม่ำเสมอ 25-45 ไมครอน มีความปลอดภัยสูง และสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติครับ
ในทางการแพทย์นิยมใช้ CaHA มาอย่างยาวนานกว่า 25 ปี รวมไปถึงยังมีการวิจัยในเรื่องของประสิทธิภาพและความปลอดภัยมาอย่างต่อเนื่องมากกว่า 250 ฉบับ
Radiesse filler ผลิตจากประเทศอะไร ?
Radiesse filler ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นจาก บริษัท Merz Pharmaceuticals ประเทศเยอรมนี และหลังจากนั้นในปี 2004 ก็ได้ถูกอนุมัติให้สามารถนำมาใช้ได้ในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศแรก ปัจจุบันมียอดการใช้กว่า 15 ล้านไซริงค์ จาก 85 แห่งทั่วโลก
ในประเทศไทย Radiesse filler ถูกนำเข้าและจัดจำหน่ายโดย Merz Aesthetics. Thailand บริษัทนวัตกรรมความงามระดับโลกที่นำเข้าโบท็อก Xeomin, ฟิลเลอร์ Belotero และเทคโนโลยีเครื่องยกกระชับ Ultherapy ที่ใช้อย่างแพร่หลายในคลินิกเสริมความงามชั้นนำครับ
Radiesse filler มีกระบวนการทำงานอย่างไร ? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
Radiesse จะไปกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ที่เป็นเซลล์ผลิตคอลลาเจนหลักในผิวหนังให้มีการผลิตคอลลาเจนมากขึ้น โดยอนุภาค CaHA จะสร้างโครงสร้าง และกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังผลิตคอลลาเจนรอบ ๆ เป็นเส้นใยตาข่าย 3 มิติ (3D Matrix) ทำให้ผิวหนังอิ่มฟู เต่งตึงทันทีหลังฉีด
นอกจากนี้ CaHA ยังช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพจากการเพิ่มของอายุ กระตุ้นการสร้างอีลาสตินในชั้นผิวหนังได้ถึง 250% ช่วยลดความหย่อนคล้อย เติมเต็มร่องริ้วรอยใบหน้าและส่วนต่าง ๆ ให้กระชับ เรียบเนียน เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวมีความยืดหยุ่นและคืนตัวได้ดีขึ้น ซึ่งช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้ครับ
Radiesse filler มีกี่รุ่น ผ่านอย.ไหม ?
ปัจจุบันมี Radiesse filler มีอยู่ 2 รุ่น ได้แก่ Radiesse Filler ® และ Radiesse ® (+) โดยต่างกันที่ Radiesse Filler ® เป็นรุ่นที่ไม่มียาชา ส่วน Radiesse ® plus จะมีส่วนผสมของยาชา เพื่อลดความเจ็บขณะฉีด
ในปัจจุบัน Radiesse ได้รับรองและอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) ยุโรป (CE) และ THFDA รวมถึงผ่าน อย.ในด้านการฉีดมือโดยเฉพาะ จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัยครับ
Radiesse filler มีจุดเด่นอะไรบ้าง ?
จุดเด่นของ Radiesse filler คือ การฟื้นฟูผิวแบบองค์รวม หรือที่เรียกว่า Regenerative Biostimulator ครับ เน้นฟื้นฟูถึงโครงสร้างผิวชั้นลึก ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเส้นใยตาข่ายผิวใหม่ได้ถึง 5 ประการ มอบ 3 ผลลัพธ์ที่เห็นผลทันทีและยาวนานกว่าที่เคย ดังนี้
- Healthier ผิวเฟิร์ม แน่นกระชับ อิ่มฟูเด้ง ผิวมีคุณภาพดียิ่งขึ้น
- Younger ริ้วรอยลดลง ยกกระชับขึ้น ผิวดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง
- Longer ยืดอายุผิวคุณภาพดีได้ยาวนานขึ้น
Radiesse filler เหมาะกับใคร ?
Radiesse filler เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาต่าง ๆ ดังนี้
- ผู้ที่มีริ้วรอยร่องลึก ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ใบหน้าขาดวอลลุ่ม
- ผู้ที่ใบหน้าหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด ดูแก่กว่าวัย
- คนที่มีผิวแห้ง ผิวหมองคล้ำ ขาดความชุ่มชื้น มีรูขุมขนกว้าง
- ผู้ที่มีปัญหาความเหี่ยวย่น ผิวหน้าขาดคอลลาเจน ดูไม่เต่งตึง
- ผู้ที่มีรอยสิว หรือมีหลุมสิวที่ไม่ลึกมาก หน้าโทรม ต้องการบำรุงผิวเร่งด่วน
- เหมาะกับผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป หรือต้องการเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิวมากยิ่งขึ้น
Radiesse filler มีผลข้างเคียงไหม ?
หลังฉีด Radiesse อาจมีอาการบวมหรือแดง รวมถึงมีรอยช้ำจากเข็มที่ใช้ในการฉีด บางรายอาจมีอาการคันเล็กน้อย อาการเหล่านี้เป็นผลข้างเคียงที่ไม่อันตรายครับ มักจะหายไปเองภายในไม่กี่ชั่วโมง หรือ 2-3 วัน
Radiesse filler ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ?
หากเปรียบเทียบ Radiesse กับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มที่ช่วยเรื่องงานผิวอย่าง Sculptra, Gouri, Rejuran และ Exosome จะมีส่วนประกอบหลัก จุดเด่น และผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน เหมาะกับการแก้ไขปัญหาที่ต่างกัน ดังนี้
Radiesse filler
ส่วนประกอบหลัก : CaHA
จุดเด่น : เป็นนวัตกรรมกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวที่เน้นการเพิ่มวอลลุ่มของใบหน้า ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเส้นใยตาข่ายผิวใหม่ได้ถึง 5 ประการ คือ Collagen Type I, Collagen Type III, Elastin, Angiogenesis และ Proteoglycan
เหมาะกับ : คนที่ปัญหาชั้นกระดูก มีร่องแก้ม ร่องมุมปาก ต้องการยกกระชับผิวบริเวณกรอบหน้า แนวกราม คาง ลำคอ
ระยะเวลาเห็นผล : หลังฉีดเห็นผลลัพธ์ทันที ใน 1 เดือนแรกจะเริ่มเห็นผลว่าผิวกระชับขึ้น มีความยืดหยุ่น ผิวแน่นฟู ร่องลึกต่าง ๆ ตื้นขึ้น ริ้วรอยจางลง และจะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ใน 3-6 เดือน
ระยะเวลาของการคงผลลัพธ์ : อยู่ได้นาน 2 ปี
Sculptra
ส่วนประกอบหลัก : PLLA (Poly-L-Lactic Acid)
จุดเด่น : เป็นนวัตกรรมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวที่เน้นการฟื้นฟูโครงสร้างผิวเดิม กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Type I ทำให้ผิวมีความเต่งตึงดูกระชับ เต่งตึง ยืดหยุ่น ดูสุขภาพดี
เหมาะกับ : คนที่มีปัญหาชั้นไขมันและเนื้อเยื่อ ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ มีริ้วรอย
ระยะเวลาเห็นผล : หลังฉีดประมาณ 5 วัน PLLA จะเริ่มเข้าไปออกฤทธิ์ มีกระบวนการผลิตคอลลาเจน โดยต้องรอประมาณ 2-3 สัปดาห์ จึงจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง และจะเห็นผลชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือนครับ
ระยะเวลาของการคงผลลัพธ์ : อยู่ได้นาน 2 ปี
Gouri
ส่วนประกอบหลัก : PCL (Polycaprolactone)
จุดเด่น : ช่วยกระตุ้นให้เซลล์ Fibroblast ผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินมากขึ้น ทำให้ผิวที่เสื่อมโทรม แห้งกร้านกลับมาดูสุขภาพดีขึ้น อิ่มน้ำ รูขุมขนเล็กลง ริ้วรอยเล็ก ๆ ดูจางลง มีความแน่นฟู กระชับ และเรียบเนียน
เหมาะกับ : คนที่มีริ้วรอยแห่งวัย ใบหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ต้องการเพิ่มคอลลาเจนให้ผิว และป้องกันการเกิดริ้วรอยในอนาคต รวมถึงคนที่ต้องการเติมเต็มใบหน้า แต่ไม่อยากฉีดฟิลเลอร์
ระยะเวลาเห็นผล : หลังฉีด Gouri เริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ และจะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ใน 1 เดือน
ระยะเวลาของการคงผลลัพธ์ : แนะนำทำ 3 ครั้ง ทุก 1 เดือน อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
Rejuran
ส่วนประกอบหลัก : PN (Polyneucleotide)
จุดเด่น : กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอีลาสตินให้ผิวแข็งแรงลดรอยสิวและรอยแผลต่าง ๆ ได้ดี
เหมาะกับ : คนที่มีผิวแห้งกร้าน ผิวเสื่อมโทรม ขาดการบำรุง ต้องการปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้น ลดจุดด่างดำ ฝ้า กระ รอยสิว ฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง สุขภาพดีขึ้นแบบเร่งด่วน
ระยะเวลาเห็นผล : หลังฉีดจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ในช่วง 3-5 วัน และเริ่มเห็นผลชัดเจนประมาณ 4 สัปดาห์
ระยะเวลาของการคงผลลัพธ์ : แนะนำทำ 4 ครั้ง ติดต่อกัน 2-3 สัปดาห์ อยู่ได้นาน 3-6 เดือน ขึ้นกับการดูแลผิวของแต่ละคน
exosome
ส่วนประกอบหลัก : สารชีวโมเลกุลถึง 1,000 ชนิด
จุดเด่น : Skin Rejuvenation ฟื้นฟูและชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว แก้ไขภาวะ Anti-aging ทำให้ผิวเด็กลงและชราได้ช้าลง รวมถึงลดริ้วรอย รูขุมขนกว้าง รอยสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ
เหมาะกับ : คนที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน ผิวขาดน้ำ แห้งกร้าน ผิวแพ้ง่าย ปัญหาริ้วรอยแห่งวัย ไม่กระชับ มีฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยสิว ผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส
ระยะเวลาเห็นผล : หลังทำ exosome สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ใน 3-7 วัน
ระยะเวลาของการคงผลลัพธ์ : ทำ 3 ครั้งอยู่ได้นาน 3-6 เดือน ทำต่อเนื่อง 5 ครั้ง อยู่ได้นาน 1 ปี
Radiesse filler ราคาเท่าไร ?
Radiesse ราคาขึ้นอยู่กับปริมาณ CC ที่ใช้ และโปรโมชันของแต่ละคลินิกในช่วงนั้น ๆ ครับ สำหรับที่ V Square Clinic จัดโปร Radiesse 2 กล่อง เริ่มต้นที่ 5x,xxx.- ก่อนฉีดคนไข้สามารถเข้ามาให้หมอประเมินปัญหาผิวหน้าก่อนได้ ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ
Radiesse filler นิยมฉีดจุดไหน ใช้กี่ CC
Radiesse filler นิยมใช้ฉีดแก้ไขรอยพับและร่องลึกบริเวณใบหน้า เช่น
- บริเวณใบหน้า หน้าแก้ม
- ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก
- รอยเหี่ยวบริเวณคอ หลังมือ
แต่ตำแหน่งที่หมอไม่แนะนำให้ฉีด คือ บริเวณระหว่างคิ้ว จมูก รอบดวงตา และบริเวณปากครับ โดยจำนวน CC ที่ใช้นั้นจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดและสภาพผิวของคนไข้ ก่อนฉีดแพทย์จะช่วยประเมินและแนะนำปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ตรงตามความต้องการ สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดครับ
Radiesse filler มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?
ข้อดี
- ช่วยกระตุ้น Collagen Type 1 และ Type 3 เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว เติมความชุ่มชื้น ผิวอิ่มน้ำ ดูสุขภาพดี
- มีความปลอดภัยสูง สามารถเข้ากันได้ดีกับร่างกาย ไม่เกิดการกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ต่อต้าน
- เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังฉีด ไม่ต้องพักฟื้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการบูสต์ผิวเร่งด่วน
ข้อเสีย
- ไม่ใช่หัตถการที่คงอยู่ถาวร หากต้องการคงสภาพผลลัพธ์ ควรฉีดต่อเนื่องประมาณ 1-3 ครั้งโดยขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละบุคคลและคำแนะนำของแพทย์ครับ
ข้อควรปฏิบัติก่อน-หลังฉีด Radiesse filler มีอะไรบ้าง ?
ข้อควรปฏิบัติก่อน Radiesse filler
- ปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการแก้ไขปัญหาผิว และประเมินความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- ควรหลีกเลี่ยงยาต้านการอักเสบไม่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน และอาหารเสริมที่อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดรอยช้ำ เช่น วิตามิน E, กระเทียม, โอเมก้า 3 อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนฉีด
- งดการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดรอยช้ำและบวม
- งดทำหัตถการผิว เช่น เลเซอร์หน้า นวดหน้าอย่างน้อย 7-14 วันก่อนฉีด
- แจ้งประวัติการแพ้ยาหรือสารเติมเต็มที่เคยใช้กับแพทย์ เพื่อป้องกันปฏิกิริยาแพ้
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีด Radiesse filler
- หลีกเลี่ยงการจับ ลูบ แตะ บริเวณที่ฉีด
- ลดกิจกรรมที่ต้องใช้กำลังหรือออกแรงมาก ๆ
- งดการแต่งหน้า 12 ชั่วโมง หรือจนกว่ารอยเข็มจะหายดี
- หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อน 24 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงหัตถการที่ใช้ความร้อนสูง เช่น ซาวน่า เลเซอร์ร้อน อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ อย่างน้อย 2 สัปดาห์
Radiesse filler ของแท้ ดูอย่างไร ?
- มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาอังกฤษ
- มี QR Code ติดไว้หน้ากล่อง เพื่อให้สแกนตรวจสอบว่าเป็น Radiesse ของแท้หรือไม่
- เลข Lot. ที่กล่องและซองตรงกัน
- มีใบรับประกัน Skin Rejuvenation Card หรือ Radiesse Club Card
- โทรเช็กเลข Lot. กับบริษัทนำเข้า บริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์ จำกัด โทร.02 026 1111
Radiesse filler รีวิว
รีวิวผลลัพธ์ก่อน-หลังฉีด Radiesse filler
Q&A เกี่ยวกับ Radiesse filler
Radiesse filler อยู่ได้นานกี่เดือน ?
ระยะเวลาการคงผลลัพธ์หลังฉีด Radiesse สามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปีครับ ขึ้นอยู่กับความถี่ในการฉีด และการดูแลตัวเองหลังฉีดของแต่ละบุคคล
ฉีดRadiesse filler กี่วันเห็นผล ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ Radiesse จะเห็นผลลัพธ์ทันทีครับ โดยจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ชัดขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากฉีดไปแล้วประมาณ 1 เดือน และจะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ประมาณ 3-6 เดือนขึ้นไป
Radiesse filler ควรฉีดกี่ครั้ง ?
หากต้องการเห็นผลเต็มที่และคงผลลัพธ์ให้อยู่ได้นาน หมอแนะนำให้ฉีด Radiesse ติดต่อกัน 1-3 ครั้ง โดยเว้นห่างกันอย่างน้อย 1 เดือน หรือตามคำแนะนำของแพทย์ครับ
ฉีดRadiesse filler ที่ไหนดี ?
เลือกฉีด Radiesse Filler ที่ไหนดี ? สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงคือความปลอดภัยครับ หมอแนะนำเช็กลิสต์ที่ควรพิจารณา ดังนี้
- คลินิกได้มาตรฐาน มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก สะอาด ปลอดเชื้อ มีรีวิวที่น่าเชื่อถือจากผู้ใช้บริการ
- แพทย์ผู้ฉีดมีประสบการณ์ สามารถประเมินปัญหาและแก้ไขอย่างตรงจุด ใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง
- ฉีดด้วยตัวยาของแท้ ผ่านการรับรองจาก อย. สามารถตรวจสอบกับบริษัทนำเข้าได้
- มีช่องทางการติดต่อที่สะดวก หากมีปัญหาหรือข้อสงสัยสามารถคุยกับแพทย์ได้ทันที
- ราคาสมเหตุสมผล ไม่ถูกหรือแพงเกินไป
สรุป
Radiesse Filler เป็นนวัตกรรมงานผิว Regenerative Biostimulator กระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังตามธรรมชาติในร่างกาย ให้ผลิตคอลลาเจนได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดดเด่นในเรื่องของการฟื้นฟูผิวถึงระดับโครงสร้างผิวชั้นลึก ทำให้ผิวยืดหยุ่นและคืนตัวได้ดี ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคต ลดอายุให้หน้าดูเด็กลงได้อย่างเห็นผล หลังฉีดไม่ต้องพักฟื้น เหมาะกับคนที่ต้องการฟื้นบำรุงผิวเร่งด่วนครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ