Juvederm voluma
Juvederm voluma ฟิลเลอร์สัญชาติอเมริกา เป็นหนึ่งในรุ่นฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งในไทยและต่างประเทศ ด้วยเทคโนโลยีการผลิตพิเศษเฉพาะของแบรนด์ ทำให้ Juvederm voluma มีความโดดเด่นและเป็นที่ยอมรับจากแพทย์ความงามทั่วโลก
ในบทความนี้หมอจะมาเจาะลึกฟิลเลอร์ Juvederm voluma ว่าดีอย่างไร ? เหมาะกับใคร ? juvederm voluma ราคาเท่าไหร่ ? ฉีดจุดไหน ? ใช้กี่ CC พร้อมแนะนำวิธีดูฟิลเลอร์แท้ และเปรียบเทียบ Filler voluma กับแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ ให้เห็นความแตกต่าง เพื่อเป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจของคนไข้ครับ
สารบัญ Juvederm voluma
Juvederm voluma คืออะไร ?
ฟิลเลอร์ Juvederm voluma คือ สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ HA ที่ถูกผลิตโดยบริษัท Allergan ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจาก US.FDA และอย.ไทย นำเข้าโดยบริษัท Allergan Thailand
Juvederm voluma มีจุดเด่นอย่างไร ?
จุดเด่น Juvederm voluma คือ เป็นฟิลเลอร์คุณภาพสูง โดดเด่นในเรื่องของการฉีดแล้วผิวยกกระชับขึ้น ด้วยการใช้เทคโนโลยี Vycross Technology ที่ถูกพัฒนาขึ้นให้มีคุณสมบัติในการยกกระชับได้ดี มีโมเลกุลยึดเกาะที่หนาแน่น มีความยืดหยุ่นสูง และมีอัตราการบวมน้ำหรืออุ้มน้ำน้อยกว่า เมื่อเทียบกับ Hyaluronic Acid ตัวอื่น จึงช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีด มีความเรียบเนียน ไม่เป็นก้อน และดูเป็นธรรมชาติครับ
Juvederm voluma เหมาะกับใคร ?
- ผู้ที่มีปัญหาร่องใต้ตาจากการยุบตัวของกระดูกในผิวชั้นลึก
- ผู้ที่มีปัญหาแก้มหย่อนคล้อย มีริ้วรอย ร่องแก้มลึก แก้มตอบ
- ผู้ที่ขมับตอบจากเนื้อขมับและเนื้อแก้มตอบที่ยุบตัวลง
- ผู้ที่ต้องการเพิ่มความอวบอิ่มให้ปาก ปรับรูปทรงปาก
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า เติมคาง เพิ่มวอลลุ่มให้ใบหน้า
Juvederm voluma เหมาะกับการฉีดตำแหน่งไหน ? ใช้กี่ CC
Filler Voluma เหมาะกับการฉีดขมับ ใต้ตา ร่องแก้ม ปาก และคาง โดยแต่ละตำแหน่งจะใช้ปริมาณฟิลเลอร์ไม่เท่ากันครับ ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้แต่ละคน หากมีร่องลึกหรือกระดูกยุบตัวลงมาก ๆ เช่น ขมับ ใต้ตา แพทย์ก็จะประเมินให้ใช้ปริมาณ CC ฟิลเลอร์เยอะกว่าจุดอื่น ๆ
สำหรับปริมาณฟิลเลอร์ Juvederm Voluma ที่ใช้ในแต่ละจุด หมอประเมินปริมาณคร่าว ๆ ดังนี้
- ฟิลเลอร์ขมับ 2-4 CC
- ฟิลเลอร์ใต้ตา 2-4 CC
- ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 1-3 CC
- ฟิลเลอร์ปาก 1-2 CC
- ฟิลเลอร์คาง 1-2 CC
Juvederm voluma ไม่เหมาะกับการฉีดตำแหน่งใด ?
สำหรับบางเคส การใช้ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma อย่างเดียวอาจแก้ปัญหาได้ไม่ครอบคลุม ไม่เพียงพอต่อการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนครับ หมอจะแนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์ 1-2 รุ่นในการแก้ปัญหา เช่น เคสที่ร่องใต้ตาลึก สาเหตุจากการยุบตัวของกระดูกใต้ตา หมอจะใช้ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma เพื่อยกผิวในชั้นกระดูก และใช้ฟิลเลอร์รุ่นที่มีเนื้อละเอียด เพื่อเก็บรายละเอียดใต้ตา ก็จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามขึ้นครับ
Juvederm voluma ต่างจากรุ่นอื่นอย่างไร ?
Juvederm Voluma เมื่อเทียบกับฟิลเลอร์ Juvederm แต่ละรุ่น จะพบความแตกต่างทางด้านคุณสมบัติ ตำแหน่งที่ฉีด และระยะเวลาการคงผลลัพธ์ ดังนี้ครับ
- Juvederm Ultra Plus เป็นรุ่นที่มีลักษณะเนื้อนิ่ม ฉีดแล้วฟูมาก เต็มสวย เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องลึกจากการเปลี่ยนแปลงตามวัย เช่น ขมับ ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก หรือปาก คงผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 12 เดือน
- Juvederm Volift เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่มีลักษณะเนื้อนิ่ม เหมาะกับคนผิวบาง นิยมใช้ฉีดบริเวณใต้ตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ร่องริ้วรอยที่ไม่ลึกมาก หลังฉีดคงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
- Juvederm Volbella เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด มีโมเลกุลขนาดเล็กที่มีความละเอียดมากที่สุด เหมาะสำหรับฉีดเติมบริเวณหน้าผาก ซึ่งเป็นจุดที่ต้องการความเรียบเนียน เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน หลังฉีดคงผลลัพธ์อยู่นานประมาณ 12 เดือน
- Juvederm Volite เป็นฟิลเลอร์รุ่นเนื้อฉ่ำ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น มีความเป็นธรรมชาติ นิยมใช้ฉีดบริเวณใต้ตา หรือเก็บรายละเอียดในผิวชั้นตื้น เหมาะกับคนผิวบาง หลังฉีดคงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 8-12 เดือน
- Juvederm Volux เป็นฟิลเลอร์เนื้อทน มีโมเลกุลขนาดใหญ่ จึงมีความยืดหยุ่นสูง ปั้นทรงสวย และคงรูปได้ดีที่สุดครับ เหมาะสำหรับฉีดคาง ใต้ตา ขมับ และร่องแก้มชั้นลึก หลังฉีดคงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 18-24 เดือน
Juvederm voluma ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร ?
หากเปรียบเทียบ Juvederm voluma กับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ที่จัดอยู่ในกลุ่มฟิลเลอร์ “เนื้อทน” เช่นเดียวกัน จะพบความแตกต่างดังนี้
Juvederm voluma อยู่ได้นานกี่เดือน ?
ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma อยู่ได้นาน 18 เดือน สลายได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย ทั้งนี้ระยะเวลาการคงผลลัพธ์ยังขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดของแต่ละคนด้วยครับ เพราะหากไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ก็อาจส่งผลให้ฟิลเลอร์สลายหายไปก่อนเวลาที่เหมาะสมได้
ฉีด Juvederm voluma กี่วันเห็นผล ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ Juvederm Voluma สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันที อาจมีอาการบวมเข็มประมาณ 2-3 วันแรก สามารถหายได้เอง คนไข้ไม่ต้องกังวลครับ โดยจะเห็นผลได้ชัดเจนเมื่อฟิลเลอร์เข้าที่และอาการบวมยุบลงแล้วประมาณ 7-14 วันหลังทำ
Juvederm voluma มีข้อเสียไหม ?
- Juvederm Voluma ราคาจะสูงกว่าเมื่อเทียบกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ฝั่งเอเชีย เช่น ฟิลเลอร์เกาหลี ฟิลเลอร์จีน แต่ถ้าเทียบประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ที่ได้ และระยะเวลาอยู่ได้นาน ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคา
- ให้ผลลัพธ์แบบชั่วคราว ไม่ถาวร หากคนไข้ต้องการคงสภาพผลลัพธ์ก็สามารถกลับมาฉีดซ้ำตามคำแนะนำของแพทย์ได้ครับ
Juvederm voluma ของแท้ มีวิธีดูอย่างไร ?
- มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
- กล่องมี 2 cc และเลข lot ต้องตรงกัน 4 จุด คือ
- เลข lot ที่กล่อง
- เลข lot ที่ซอง
- เลข lot ที่สติกเกอร์
- เลข lot ที่หลอด
- สามารถโทรเช็กเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัทจัดส่ง Allergan Thailand โทร. 062 460 7717
Juvederm voluma ราคา
Filler juvederm voluma ราคาแต่ละคลินิกจะไม่แตกต่างกันมาก เริ่มต้นที่ 1x,xxx.-/CC ขึ้นไป สำหรับที่ V Square Clinic โปรโมชันฉีด Filler voluma ราคาอยู่ที่ 12,500.-/ CC นอกจากนี้เรายังมีฟิลเลอร์ juvederm หลากหลายรุ่น ให้แพทย์เลือกใช้แก้ปัญหาของคนไข้แต่ละบุคคลได้อย่างเหมาะสมและตรงจุดครับ
Juvederm voluma รีวิว
สรุป
Juvederm voluma เป็นฟิลเลอร์แบรนด์อเมริกาที่คุณภาพดี มีลักษณะเนื้อแข็งและฟูปานกลาง ยืดหยุ่นสูง โมเลกุลขนาดใหญ่ เหมาะกับการฉีดในหลายบริเวณ เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม คาง ขมับ ให้ผลลัพธ์หลังฉีดที่ดูเป็นธรรมชาติ ปลอดภัย ถือเป็นฟิลเลอร์อีกรุ่นหนึ่งที่หมอมองว่าคุ้มค่าคุ้มราคาเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้
ใครที่กำลังมองหาคลินิกฉีดฟิลเลอร์ Juvederm Voluma ที่ไหนดี ที่ V Square Clinic ทีมแพทย์มากประสบการณ์กว่า 15 ปี ใช้ฟิลเลอร์แท้ แกะกล่อง เปิดหลอดต่อหน้าทุกเคส ฉีดด้วยเทคนิคพิเศษ มั่นใจได้ในผลลัพธ์และความปลอดภัยครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ